Pmk internal assessor 3

Preview:

DESCRIPTION

TQA Criteria 2014 -2015 Category 1,2,4

Citation preview

การน าองคก์รเชิงกลยทุธ์ ผลลพัธข์ององคก์ร การปฏิบติัการท่ีเป็นเลิศ

4.1 การวดั การวิเคราะห ์และการปรบัปรงุผลการด าเนินการขององคก์ร

3.1 เสียงของลูกค้า

2.2 การน า

กลยทุธไ์ปปฏิบติั

2.1 การจดัท า

กลยทุธ ์

1.2 การก ากบัดแูลองคก์รและความรบัผิดชอบต่อสงัคมในวงกว้าง

1.1 การน าองคก์รโดยผู้น าระดบัสงู

4.2 การจดัการสารสนเทศ ความรู้ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

5.2 ความผกูพนัของบุคลากร

6.2 กระบวนการท างาน

5.1 สภาพแวดล้อมของบุคลากร

6.1 ระบบงาน

7.2 ผลลพัธด้์านการมุ่งเน้นลกูค้า

7.1 ผลลพัธด้์านผลิตภณัฑ์และกระบวนการ

7.5 ผลลพัธ์ด้านการเงินและตลาด

7.3 ผลลพัธด้์านทรพัยากรบคุคล

7.4 ผลลพัธด้์านการน าองคก์รและการก ากบัดแูลองคก์ร

3.2 ความผกูพนัของลูกค้า

INPUT PROCESS OUTCOME

FEED BACK

Criteria Response Guidelines

ในการตอบหวัขอ้ในหมวด 1-6 ที่มีค าถาม “อยา่งไร” องคก์ร

ควรตอบค าถามดงักลา่วดว้ยการน าเสนอสารสนเทศของ

กระบวนการท่ีส าคญัท่ีแสดงถึง

แนวทาง (Approach)

การถ่ายทอดสูก่ารปฏิบตักิาร (Deployment)

เรยีนรู ้(Learning)

การบูรณาการ (Integration)

วิธีการทีใ่ชเ้พื่อใหบ้รรลผุลตามกระบวนการ

ความเหมาะสมของวิธีการที่ใชต้อบขอ้ก าหนดของหวัขอ้ตา่งๆ

ของเกณฑ ์และสภาพแวดลอ้มการด าเนินงานขององคก์ร

ความมีประสิทธิผลของการใชวิ้ธีการตา่งๆ ขององคก์ร

ระดบัของการท่ีแนวทางนั้นน าไปใชซ้ ้าได ้และอยูบ่นพ้ืนฐานของ

ขอ้มูลและสารสนเทศที่เช่ือถือได ้(ซ่ึงหมายถึง การด าเนินการ

อยา่งเป็นระบบ)

ความครอบคลมุและทัว่ถึงของ

การใชแ้นวทางเพื่อตอบสนองขอ้ก าหนดของหวัขอ้ทีมี่ความ

เก่ียวขอ้งและส าคญัตอ่องคก์ร

การใชแ้นวทางอยา่งคงเสน้คงวา

การน าแนวทางไปใช ้(สูก่ารปฏิบตัิ) ในทุกหน่วยงานท่ี

เหมาะสม

การปรบัปรุงแนวทางใหด้ข้ึีน โดยใชว้งจรการประเมินและการ

ปรบัปรุง

การกระตุน้ใหเ้กิดการเปลี่ยนแปลงอยา่งกา้วกระโดดของ

แนวทาง ผ่านการสรา้งนวตักรรม

การแบ่งปันความรูท้ี่ไดจ้ากการปรบัปรุงและการสรา้งนวตักรรม

กบัหน่วยงานและกระบวนการอื่นทีเ่ก่ียวขอ้งภายในองคก์ร

หมายถึง ความครอบคลมุและทัว่ถึง ของ

แนวทางที่ใชส้อดคลอ้งไปในแนวทางเดียวกนักบัความตอ้งการของ

องคก์รตามทีร่ะบุไวใ้นโครงรา่งองคก์ร และขอ้ก าหนดของหวัขอ้

ตา่งๆ ในเกณฑ ์(หมวด 1 ถึง หมวด 6)

การใชต้วัวดั สารสนเทศ และระบบการปรบัปรุง ท่ีช่วยเสริมซ่ึงกนั

และกนั ทั้งระหว่างกระบวนการและระหว่างหน่วยงานทัว่ทั้งองคก์ร

แผนงาน กระบวนการ ผลลพัธ ์การวิเคราะห ์การเรียนรู ้และการ

ปฏิบตักิาร มีความสอดคลอ้งกลมกลืนกนัในทุกกระบวนการและ

หน่วยงาน เพื่อสนบัสนุนเป้าประสงคร์ะดบัองคก์ร

ค าถาม “อะไร” อยู ่2 แบบ

1. เป็นการถามถึงสารสนเทศพ้ืนฐานเก่ียวกบักระบวนการท่ี

ส าคญัและขั้นตอนการด าเนินการ การตอบแตเ่พียงว่า “ใคร”

เป็นผูร้บัผิดชอบอาจมีประโยชนบ์า้ง แตไ่ม่เพียงพอส าหรบัการ

วินิจฉยัหรอืใหข้อ้มูลป้อนกลบัได ้

2. เป็นการถามถึงสารสนเทศที่เก่ียวขอ้งกบั ผล แผน

วตัถุประสงค ์เป้าประสงค ์หรือตวัวดัที่ส าคญัขององคก์ร ว่าคือ

“อะไร”

1. Systematic Approach

Repeatable

Reliable data and information

Appropriate

Embedded ใน Organizational Profile

2. Deployment

All appropriate work units

Different parts of the organization

Compactly by using table

3. Evaluation and improvement & organizational

learning and sharing Fact-based management

Revision of plan or process (innovation)

Current with business needs and directions

Lead to doing the right thing”

4. Alignment and integration

Related org. profile (alignment)

Criteria items, areas to address, and sub areas

(integration)

support key organization - wide goals.

Fully interconnected units

5. Respond fully to item requirements

Missing information = GAP

Degree of responsiveness : none, basic, overall,

multiple, and full

Respond type Areas to address Sub-areas

None - -

Basic 50 % 25 %

Overall 100 % 50 %

Multiple 100 % 75 %

Fully 100 % 100 %

Criteria for Performance Excellence—Item Listing

(110 คะแนน)

ในหมวดการน าองคก์รน้ี เป็นการตรวจประเมินว่า

การกระท าของผูน้ าระดบัสูงขององคก์รไดช้ี้น าและ

ท าใหอ้งคก์รมีความยัง่ยนือยา่งไร รวมทั้งตรวจ

ประเมินระบบการก ากบัดแูลองคก์ร และวิธีการท่ี

องคก์รใชเ้พ่ือบรรลผุลดา้นกฎหมาย จริยธรรม และ

ความรบัผิดชอบตอ่สงัคมในวงกวา้งรวมทั้งการ

สนบัสนุนชุมชนท่ีส าคญั

1.1 การน าองคก์รโดย

ผูน้ าระดบัสูง:

(60 คะแนน)

1.2 การก ากบัดแูล

องคก์รและความ

รบัผิดชอบตอ่สงัคมใน

วงกวา้ง:

(50 คะแนน)

หมวด 1 การน าองคก์ร

1.1 Senior Leadership (60 pts.)

ผูน้ าระดบัสูงน าองคก์รอยา่งไร (60 คะแนน)

ก. วิสยัทศัน ์ค่านิยม และพนัธกิจ

(1) วิสยัทศันแ์ละค่านิยม การก าหนดและ

ถ่ายทอดวสิยัทศัน์และค่านิยม

(2) การสง่เสริมการประพฤตปิฏิบตัติาม

กฎหมายและมีจริยธรรม ความมุ่งมัน่

และบรรยากาศต่อการประพฤติปฏิบติัตาม

กฎหมายและมีจริยธรรม

(3) การสรา้งองคก์รที่ยัง่ยืน การท าให้

องคก์รมีความยัง่ยืน

ข. การสื่อสารและผลการด าเนินการขององคก์ร

(1) การสื่อสาร การส่ือสารสองทิศทาง และ

การสรา้งความผูกพนักบับุคลากรและลูกคา้ท่ี

ส าคญั

(2) การท าใหเ้กิดการปฏิบตักิารอยา่ง

จริงจงั เพื่อใหบ้รรลุวตัถุประสงค ์ปรบัปรุงผล

การด าเนินการ บรรลุวสิยัทศัน์ขององคก์ร

สรา้งนวตักรรม และกลา้เส่ียงอยา่งชาญ

ฉลาด

1.2 Governance and Societal Responsibilities

องคก์รด าเนินการอยา่งไรในการก ากบัดแูลองคก์ร และท าใหบ้รรลผุล

ดา้นความรบัผิดชอบตอ่สงัคมในวงกวา้ง (50 คะแนน)

ก. การก ากบัดแูลองคก์ร

(1) ระบบการก ากบัดแูลองคก์ร การ

ทบทวนและท าใหอ้งคก์รประสบ

ความส าเร็จในเร่ืองต่างๆ ท่ีส าคญัในระบบ

การก ากบัดูแลองคก์ร

(2) การประเมินผลการด าเนินการ การ

ประเมินผลการด าเนินการของผูน้ า

ระดบัสูง ซ่ึงรวมถึงผูน้ าสูงสุดดว้ย

ข. การประพฤตปิฏิบตัิตามกฎหมายและมี

จริยธรรม

(1) การประพฤตปิฏิบตัติามกฎหมายและ

กฎระเบียบ ในกรณีท่ีผลิตภณัฑแ์ละการ

ปฏิบติัการมีผลกระทบในเชิงลบต่อสงัคม

(2) การประพฤตปิฏิบตัอิยา่งมีจริยธรรม

การส่งเสริมและสรา้งความมัน่ใจวา่

ปฏิสมัพนัธทุ์กดา้นขององคก์รมีการประพฤติ

ปฏิบติัอยา่งมีจริยธรรม

ค. ความรบัผิดชอบตอ่สงัคมในวงกวา้งและการสนับสนุนชุมชนที่ส าคญั

(1) ความผาสุกของสงัคมในวงกวา้ง เป็นส่วนหน่ึงในกลยุทธแ์ละการปฏิบติัการประจ าวนั

(2) การสนบัสนุนชุมชน การสนับสนุนและสรา้งความเขม้แข็งใหแ้กชุ่มชนท่ีส าคญัอยา่งจริงจงั

(95 คะแนน)

ในหมวดการวางแผนเชิงกลยุทธ ์เป็นการตรวจ

ประเมินว่าองคก์รจดัท าวตัถุประสงคเ์ชิงกลยุทธ ์

และแผนปฏิบตักิารขององคก์รอยา่งไร รวมทั้ง

ตรวจประเมินการน าวตัถุประสงคเ์ชิงกลยุทธแ์ละ

แผนปฏิบตักิารท่ีเลือกไวไ้ปปฏิบตั ิการปรบัเปลี่ยน

เม่ือสถานการณเ์ปลี่ยนไป ตลอดจนวิธีการวดัผล

ความกา้วหนา้

2.1 การจดัท ากลยุทธ:์

(45 คะแนน)

2.2 การน ากลยุทธไ์ป

ปฏิบตั ิ:

(50 คะแนน)

หมวด 2 การวางแผนเชิงกลยุทธ ์

2.1 Strategy Development

องคก์รมีวิธีการอยา่งไรในการจดัท ากลยุทธ ์(45 คะแนน)

ก. การจดัท ากลยุทธ ์

(1) กระบวนการวางแผนกลยุทธ ์วธีิการ

วางแผนเชิงกลยุทธ ์ขั้นตอนท่ีส าคญัของ

กระบวนการจดัท ากลยุทธ ์

(2) การสรา้งนวัตกรรม การสรา้ง

ส่ิงแวดลอ้มท่ีช่วยเหลือการสรา้งนวตักรรม

(3) การวิเคราะหแ์ละก าหนดกลยุทธ ์ไดน้ า

องคป์ระกอบท่ีส าคญั การรวบรวมและ

วเิคราะหข์อ้มลูและสารสนเทศท่ีเก่ียวขอ้ง

มาประกอบการวางแผนเชิงกลยุทธ ์

(4) ระบบงานและสมรรถนะหลกัของ

องคก์ร ระบบงานท่ีส าคญัขององคก์ร และ

วธีิการในการตดัสินใจเร่ืองระบบงาน

ข.วตัถุประสงคเ์ชิงกลยุทธ ์

(1) วตัถุประสงคเ์ชิงกลยุทธท์ี่ส าคญั มี

อะไรบา้ง ระบุตารางเวลาท่ีจะบรรลุ

วตัถุประสงคเ์หล่าน้ัน

(2) การพิจารณาวตัถุประสงคเ์ชิงกลยุทธ ์ท่ี

ท าใหอ้งคก์รประสบความส าเร็จ

2.2 Strategy Implementation

องคก์รน ากลยุทธไ์ปปฏิบตัอิยา่งไร (50 คะแนน)

ก. การจดัท าแผนปฏิบตัิการและการถา่ยทอดสูก่าร

ปฏิบตั ิ

(1) การจดัท าแผนปฏิบตักิาร ทั้งระยะสั้นและระยะ

ยาวท่ีส าคญัขององคก์ร

(2) การน าแผนปฏิบตักิารไปปฏิบตั ิการถ่ายทอด

แผนปฏิบติัการสู่การปฏิบติัทัว่ทั้งองคก์ร

(3) การจดัสรรทรพัยากร ดา้นการเงินและดา้น

อ่ืนๆ พรอ้มใชใ้นการสนับสนุนแผนปฏิบติัการ

(4) แผนดา้นบุคลากร แผนปฏิบติัการทั้งระยะสั้น

และระยะยาว

(5) ตวัวดัผลการด าเนินการ ท่ีใชติ้ดตามผลลพัธ ์

(6) การปรบัเปลี่ยนแผนปฏิบตักิาร ในกรณีท่ี

สถานการณบ์งัคบั

ข. การคาดการณผ์ลการด าเนินการ

การคาดการณผ์ลการด าเนินการตามกรอบ

เวลาของการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะ

ยาวขององคก์ร การเปรียบเทียบกบัผลของ

คูแ่ขง่หรือขององคก์รในระดบัท่ีเทียบเคียงกนั

ได ้

(100 คะแนน)

ในหมวดการวดั การวิเคราะห ์และการจดัการ

ความรู ้เป็นการตรวจประเมินว่าองคก์รเลือก

รวบรวม วิเคราะห ์จดัการ และปรบัปรุงขอ้มูล

สารสนเทศ และสินทรพัยท์างความรูอ้ยา่งไร และ

องคก์รมีการบริหารจดัการเทคโนโลยีสารสนเทศ

อยา่งไร นอกจากน้ี ยงัตรวจประเมินว่าองคก์รใชผ้ล

การทบทวนเพ่ือปรบัปรุงผลการด าเนินการอยา่งไร

4.1การวดั การ

วิเคราะห ์และการ

ปรบัปรุงผลการ

ด าเนินการขององคก์ร:

(55 คะแนน)

4.2 การจดัการความรู ้

สารสนเทศ และ

เทคโนโลยสีารสนเทศ:

(45 คะแนน)

หมวด 4 การวดั การวิเคราะห ์

และการจดัการความรู ้

4.1 Measurement, Analysis, and Improvement of Organizational

Performance

องคก์รมีวิธีการอยา่งไรในการวดั วิเคราะห ์และน ามาปรบัปรุงผลการ

ด าเนินการขององคก์ร (55 คะแนน)

ก. การวดัผลการด าเนินการ

(1) ตวัวดัผลการด าเนินการ เพื่อติดตามการ

ปฏิบติัการประจ าวนั และผลการด าเนินการ

โดยรวมขององคก์ร

(2) ขอ้มูลเชิงเปรียบเทียบ เพื่อสนับสนุนการ

ตดัสินใจในระดบัปฏิบติัการและระดบักลยุทธ ์

(3) ขอ้มูลลกูคา้ เพื่อสนับสนุนการตดัสินใจใน

ระดบัปฏิบติัการและระดบักลยุทธ์

(4) ความคลอ่งตวัของการวดัผล เพื่อ

ตอบสนองความเปล่ียนแปลงทั้งภายในหรือ

ภายนอกองคก์รท่ีเกิดขึ้ นอยา่งรวดเร็วหรือท่ี

ไมไ่ดค้าดคิด

ข. การวิเคราะหแ์ละทบทวนผลการด าเนินการ

การทบทวนผลการด าเนินการและขีด

ความสามารถขององคก์ร

ค. การปรบัปรุงผลการด าเนินการ

(1) การแลกเปลี่ยนเรียนรูวิ้ธีปฏิบตัทิี่เป็นเลิศ

ขา้มหน่วยงานและกระบวนการท างาน

(2) ผลการด าเนินการในอนาคต เพื่อคาดการณ์

ผลการด าเนินการในอนาคต

(3) การปรบัปรุงอยา่งตอ่เน่ืองและนวตักรรม

เพื่อใชจ้ดัล าดบัความส าคญัและสรา้งนวตักรรม

4.2 Knowledge Management, Information, and Information

Technology

องคก์รมีวิธีการอยา่งไรในการจดัการความรูข้ององคก์ร สารสนเทศ และเทคโนโลยสีารสนเทศ (45 คะแนน)

ก. ความรูข้ององคก์ร

(1) การจดัการความรู ้การรวบรวม

และถ่ายทอดความรู ้

(2) การเรียนรูข้ององคก์ร ใชค้วามรู ้

และทรพัยากรเพื่อใหก้ารเรียนรูฝั้ง

รากลึกอยูใ่นแนวทางการ

ปฏิบติัการขององคก์ร

ข. ขอ้มูล สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

(1) คณุลกัษณะ แมน่ย า ถูกตอ้งและเช่ือถือได ้

ทนักาล ปลอดภยัและเป็นความลบั

(2) ขอ้มูลและสารสนเทศพรอ้มใชง้าน ส าหรบั

บุคลากร ผูส้่งมอบ พนัธมิตร ผูใ้หค้วามร่วมมือ

รวมทั้งลูกคา้

(3) คณุลกัษณะของฮารด์แวรแ์ละซอฟตแ์วร ์มี

ความเช่ือถือได ้ปลอดภยั และใชง้านง่าย

(4) ความพรอ้มใชง้านในภาวะฉุกเฉิน มีความ

พรอ้มใชง้านอยา่งต่อเน่ือง เพื่อตอบสนองลูกคา้

และความตอ้งการทางธุรกิจ/กิจการอยา่งมี

ประสิทธิผล

Abraham Lincoln