28
กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 1 นายเกิดลงทุน 50,000 บาท นายไกลงทุน 50,000 บาท นายกวางลงทุน 40,000 บาท เขาหุนสวนทําอูซอมรถยนต สิ้นปแรกหางฯ เปนหนี้คาอะไหลบริษัทสมพรอะไหลยนต เปนเงิน 50,000 บาท นายไกขอลาออกจากหุนสวน ดังนี้นายไกตองรับผิดในหนี้ของหางฯ หรือไม นายเกิดและนายกวางก็ยังดําเนินการอูซอมรถยนตตอ พรอมทั้งไปจดทะเบียนเปนหางหุสวนสามัญนิติบุคคล นายเกิดไดซื้ออะไหลจากบริษัทสมพรฯ และคางชําระหนี้อีก 20,000 บาท บริษัทสมพรฯ ไดฟอง นายเกิด นายกวาง ใหรับผิดชําระหนีจงอธิบายวาบุคคลทั้งสองตองรับผิดชําระหนี้ของหาง อยางไร หรือไม เฉลย ตาม ปพพ. มาตรา 1051 บัญญัติไววา ตามปญหานายไกตองรับผิดในหนี้ของหางฯ ที่เกิด ขึ้นกอนที่ตนจะออกจากหางหุนสวนและตองรับผิดไมจํากัดจํานวนจนกวาจะหมดอายุความของ หนีตามหลักกฎหมายที่วา ผูเปนหุนสวนซึ่งออกจากหุนสวนไปแลวยังคงตองรับผิดในหนี้ซึ่งหาง หุนสวนไดกอใหเกิดขึ้นกอนที่ตนไดออกจากหุนสวนไป” (มาตรา 1051) แตเมื่อหางหุนสวนไดจดทะเบียนเปนนิติบุคคลและคางชําระหนี20,000 บาท เจาหนี้ของ หางฯ จะฟองใหนายเกิดและนายกวางรวมกันรับผิดชําระหนี้ได เพราะการซื้ออะไหลเปนกิจการทีเปนธรรมดาของการคาของหางฯ แตเนื่องจากหางฯเปนนิติบุคคลมีตัวตนตางหากจากหางหุนสวน เจาหนี้ของหาง จะฟองผูเปนหุนสวนใหชําระหนี้ไดตามหลีกกฎหมายที่วา เมื่อใดหางหุนสวนซึ่ง จดทะเบียนผิดนัดชําระหนี้เมื่อนั้นเจาหนี้ของหางหุนสวนชอบที่จะเรียกชําระหนี้เอาแตผูเปนหุสวนคนใดคนหนึ่งก็ไดดังนั้นบริษัท สมพรฯ จึงเรียกใหเกิดแลกวางชําระหนี

แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4 หุ้นส่วน บริษัท

  • Upload
    -

  • View
    742

  • Download
    99

Embed Size (px)

DESCRIPTION

ข้อสอบเก่าอัตนัยวิชากม.พาณิชย์ ๔ ไฟล์นี้ได้มาจากคุณต้อยมสธ.ครับhttp://stou45.thaiparagliding.com/download/khuntoii/41324_qa.pdf

Citation preview

Page 1: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 1

นายเกิดลงทุน 50,000 บาท นายไกลงทุน 50,000 บาท นายกวางลงทุน 40,000 บาท เขาหุนสวนทําอูซอมรถยนต ส้ินปแรกหางฯ เปนหนี้คาอะไหลบริษัทสมพรอะไหลยนต เปนเงิน 50,000 บาท นายไกขอลาออกจากหุนสวน ดังนี้นายไกตองรับผิดในหนี้ของหางฯ หรือไม

นายเกิดและนายกวางก็ยังดําเนินการอูซอมรถยนตตอ พรอมทั้งไปจดทะเบียนเปนหางหุนสวนสามัญนิติบุคคล นายเกิดไดซื้ออะไหลจากบริษัทสมพรฯ และคางชําระหนี้อีก 20,000 บาท บริษัทสมพรฯ ไดฟอง นายเกิด นายกวาง ใหรับผิดชําระหนี้

จงอธิบายวาบุคคลทั้งสองตองรับผิดชําระหนี้ของหาง ฯ อยางไร หรือไม

เฉลย ตาม ปพพ. มาตรา 1051 บัญญัติไววา ตามปญหานายไกตองรับผิดในหนี้ของหางฯ ที่เกิดข้ึนกอนที่ตนจะออกจากหางหุนสวนและตองรับผิดไมจํากัดจํานวนจนกวาจะหมดอายุความของหนี้ ตามหลักกฎหมายที่วา “ผูเปนหุนสวนซึ่งออกจากหุนสวนไปแลวยังคงตองรับผิดในหนี้ซึ่งหางหุนสวนไดกอใหเกิดขึ้นกอนที่ตนไดออกจากหุนสวนไป” (มาตรา 1051) แตเมื่อหางหุนสวนไดจดทะเบียนเปนนิติบุคคลและคางชําระหนี้ 20,000 บาท เจาหนี้ของหางฯ จะฟองใหนายเกิดและนายกวางรวมกันรับผิดชําระหนี้ได เพราะการซื้ออะไหลเปนกิจการที่เปนธรรมดาของการคาของหางฯ แตเนื่องจากหางฯเปนนิติบุคคลมีตัวตนตางหากจากหางหุนสวน เจาหนี้ของหาง ฯ จะฟองผูเปนหุนสวนใหชําระหนี้ไดตามหลีกกฎหมายที่วา “เมื่อใดหางหุนสวนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชําระหนี้เมื่อนั้นเจาหนี้ของหางหุนสวนชอบที่จะเรียกชําระหนี้เอาแตผูเปนหุนสวนคนใดคนหนึ่งก็ได” ดังนั้นบริษัท สมพรฯ จึงเรียกใหเกิดแลกวางชําระหนี้

Page 2: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 2 นายดํามีหุนซึ่งออกใหแกผูถือจํานวน 200 หุน และหุนระบุชื่อจํานวน 100 หุน นายดําไดโอนขายหุนของนายดําจํานวน 100 หุน ใหแกนายแดง เปนหุนผูถือ 70 หุน และหุนระบุชื่อ 30 หุน นายดําสงมอบใบหุนทั้ง 2 ชนิด ใหแกนายแดงไป การโอนหุนของนายดําที่โอนใหนายแดงถูกตองหรือไม เพียงใด ถาไมถูกตอง นายดําจะตองทําอยางไร เฉลย ปพพ.มาตรา 1129 ปพพ.มาตรา 1135 ตามปญหา นายดํามีหุนออกใหแกผูถือจํานวน 200 หุน หุนระบุชื่อจํานวน 100 หุน นายดําโอนหุนผูถือ 70 หุน ใหแกนายแดง ตามหลักกฎหมายที่กําหนดในเรื่องการโอนหุนผูถือตามมาตรา 1135 นั้นสามารถโอนกันไดเพียงการสงมอบเทานั้น ดังนี้ผูถือหุน 70 หุน ของนายดําที่โอนใหแกนายแดงนั้น สมบูรณ สําหรับกรณีหุนระบุชื่อจํานวนอีก 30 หุน นั้นการโอนดังกลาวไมมีผล เพราะการโอนหุนระบุชื่อ ตามหลักกฎหมายมาตรา 1129 กําหนดใหทําเปนหนังสือมีพยานอยางนอยหนึ่งคนลงลายมือชื่อ และลงลายมือชื่อผูโอนและผูรับโอน หากไมทําการโอนตามที่กฎหมายกําหนด การโอนตกเปนโมฆะ ดังนั้นการโอนหุน 30 หุน ของนายดําใหกับนายแดงนั้นตกเปนโมฆะ นายดําจะตองทําหนังสือตามที่กฎหมายกําหนด พรอมทั้งระบุหมายเลขหุนไวทายหนังสือดวย ดังนั้น การโอนหุน 70 หุน นั้น มีผลสมบูรณ สวนการโอนหุนระบุชื่อ 30 หุน นั้น ตกเปนโมฆะ

Page 3: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 3 นายใหญมีความประสงคจะทําการคา จึงไดรวบรวมสมาชิกได 7 คน มีนายเล็ก นายกลาง นายจิ๋ว ซึ่งเปนนองชายของนายใหญ และนายเสือ นายสิงห และนางแมว ซึ่งเปนเพื่อนของนายใหญ จึงไดจัดตั้งบริษัทใหญยิ่ง จํากัด ข้ึน มีทุนจดทะเบียน 1 ลานบาท และมีผูถือหุนอีกประมาณ 20 คน บริษัทไดดําเนินการมา 1 ป ไดกําไรดีมาก นายใหญพยายามบีบผูถือหุนจากทุกคนขายหุนใหนายใหญบาง ใหนายเล็ก นายกลาง และนายจิ๋วบาง ยังเหลือผูถือหุนคือ นายเสือ นายสิงห และนางแมว เทานั้นที่ยังเปนผูถือหุนอยู ตอมาในปที่สอง บริษัททํากําไรมากกวาปแรก 3 เทา นายใหญจึงพยายามที่จะบีบใหนายเสือ นายสิงห และนางแมวขายหุนของบริษัทใหนายใหญ นายสิงหทนแรงบีบไมไหว จึงถอนตัวออกไป โดยโอนขายหุนใหกับนายใหญ สวยนายเสือกับนางแมวไมยอมขายหุนใหนายใหญ จึงคิดที่จะเลิกบริษัทใหญยิ่ง จํากัด แตทั้งสองคนไมแนใจวาจะทําไดหรือไม นายเสือกับนางแมว จึงมาปรึกษาทานวา หากจะเลิกบริษัทจะสามารถฟองศาลขอใหเลิกบริษัทไดหรือไม ขอใหทานใหคําแนะนํากับคนทั้งสอง เฉลย ปพพ.มาตรา 1237(4) นอกจากนี้ศาลอาจสั่งใหเลิกบริษัทดวยเหตุตอไปนี้ คือ (4) ถาจํานวนผูถือหุนลดนอยลงจนเหลือไมถึงเจ็ดคน จากปญหา บริษัทใหญยิ่ง ไดจัดขึ้นโดยมีนายใหญ เล็ก กลาง จิ๋ว เสือ สิงห และแมว เปนผูเร่ิมกอการและเปนผูถือหุนรายใหญของบริษัท บริษัทดําเนินการมามีผูถือหุนอื่นอีกมาก แตหลังจากบริษัทไดกําไร ถูกบีบใหขายหุนใหพี่นอง จึงเหลือผูถือหุน จํานวน 7 คนเทานั้น

Page 4: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

ตอมาในปที่สอง นายสิงหขายหุนใหกับนายใหญอีก จึงทําใหผูถือหุนของบริษัทเหลืออยูเพียง 6 คน ตามหลักกฎหมายมาตรา 1237 (4) ไดกําหนดไววาหากผูถือหุนลดนอยลงเหลือไมถึง 7 คน ศาลอาจสั่งใหเลิกบริษัทได บริษัทใหญยิ่งเหลือผูถือหุนอยู คือ ใหญ เล็ก กลาง จิ๋ว เสือ และแมว จํานวน 6 คน จึงเปนเหตุหนึ่งที่จะฟองศาลใหส่ังยกเลิกบริษัทได นายเสือ และนางแมว จึงสามารถฟองศาลขอใหเลิกบริษัทได

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 4 นิด หนอย และนอยเขาหุนสวนประกอบกิจการคาเสื้อผาสําเร็จรูป และไดจดทะเบียนจัดต้ังเปนหางหุนสวนสามัญนิติบุคคล ตอมานอยตองการออกจากหางหุนสวน นอยตองปฏิบัติอยางไร และเมื่อนอยออกจากหางหุนสวนไปแลว นอยยังตองรับผิดใชหนี้สินของหางหุนสวนอยางไร หรือไม เฉลย ตามปญหาหางหุนสวนนี้เปนหางหุนสวนสามัญจดทะเบียน และไมไดกําหนดเวลาเลิกหางฯ ไวการที่นายนอยตองการออกจากหางหุนสวน ก็เทากับตองการที่จะเลิกหางฯดวย ซึ่งนายนอยตองบอกกลาวการเลิกหาง โดยบอกกลาวลวงหนาไมนอยกวาหกเดือน กอนสิ้นรอบปทางบัญชี (1056) ตามหลักกฎหมายที่วา “ถาหางหุนสวนนั้นตั้งขึ้นโดยไมมีกําหนดกาลอยางหนึ่งอยางใดเปนยุติ ทานวาจะเลิกไดตอเมื่อผูเปนหุนสวนคนใดคนหนึ่งบอกเลิก เมื่อส้ินรอบปทางบัญชีเงินของหางหุนสวนนั้น และผูเปนหุนสวนนั้นตองบอกกลาว ความจํานงเลิกลวงหนาไมนอยกวาหกเดือน” สําหรับความรับผิดในหนี้ของหางฯ นั้น นอยตองรับผิดในหนี้ของหางฯ ที่เกิดขึ้น ขณะที่ตนเปนหุนสวนอยู และรับผิดไมเกินสองป นับแตวันที่ออกจากหางฯ ( 1058 )

Page 5: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

ตามหลักกฎหมายที่วา “ความรับผิดของผูเปนหุนสวนในหางหุนสวนจดทะเบียน อันเกี่ยวแกหนี้ซึ่งหางหุนสวนไดกอใหเกิดขึ้นกอนที่ตนออกจากหางหุนสวนนั้น ยอมมีจํากัดเพียง 2 ป นับแตเมื่อออกจากหางหุนสวน

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 5 นายสิงหโอนหุนชนิดออกใหแกผูถือใหแกนายเมน จํานวน 150 หุน โดยทําเปนหนังสือมีลายมือชื่อ นายสิงห นายเมน และพยาน 1 คน ระบุหมายเลขหุนครบถวนทุกประการ เม่ือนายเมนถือหุน 150 หุนนั้นอยูประมาณ 3 เดือน นายเมนประสงคที่จะเปลี่ยนหุนที่ถืออยูนั้นเปนหุนระบุชื่อ เนื่องจากกิจการบริษัทกําไรดี จึงอยากที่จะมีชื่อในใบหุน นายเมนพบใครก็ถามวาเปลี่ยนไดหรือไม บางคนก็บอกวาเปล่ียนได บางคนบอกไมได และบางคนยังบอกวาการโอนหุนที่นายสิงหโอนใหแกนายเมนไมถูกตอง เพราะหุนออกใหแกผูถือ ไมตองทําเปนหนังสือแตอยางใด จะทําเฉพาะหุนระบุชื่อเทานั้น นายเมนจึงสับสน ไดมาปรึกษาทานวา

1. การโอนหุนที่นายเมนไดมานั้นถูกตองหรือไม 2. การขอเปลี่ยนหุนออกใหแกผูถือเปนหุนระบุชื่อทําไดหรือไม

ใหทานใหคําแนะนําแกนายเมน เฉลย ตามปพพ.มาตรา 1135 บัญญัติไววา “หุนชนิดที่มีใบหุนออกใหแกผูถือนั้น ยอมโอนกันไดเพียงการสงมอบใบหุนแกกัน

Page 6: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

จากคําถามในประเด็นแรกที่วาการที่นายสิงหโอนหุนใหแกนายเมนนั้นถูกตองหรือไม จากการที่กฎหมายกําหนดในเรื่องการโอนหุนชนิดที่เปนหุนผูถือนั้น เนื่องจากเปนหุนที่ไดชําระเงินครบแลว จึงสามารถที่จะโอนกันไดโดยการสงมอบใบหุนใหก็ถือวาเปนการถูกตองแลว ตามหลักกฎหมายมาตรา 1135 ดังนั้นการที่นายสิงหโอนหุนชนิดผูถือใหนายเมนนั้นเปนเรื่องที่ทําไดไมขัดตอกฎหมายแตอยางใด เพราะความถูกตองอยูที่การสงมอบใหนั่นเอง ดังนั้นการโอนหุนที่นายเมนไดมาจึงเปนการถูกตองแลว ตามปพพ.มาตรา 1136 บัญญัติไววา “ผูทรงใบหุนชนิดออกใหแกผูถือ ยอมมีสิทธิจะมาขอเปลี่ยนเอาใบหุนชนิดระบุชื่อได เมื่อเวนคืนใบหุนชนิดฉบับออกใหแกผูถือนั้นใหขีดฆาเสีย” จากคําถามในประเด็นที่สอง ที่นายเมนจะขอเปลี่ยนหุนชนิดผูถือเปนหุนชนิดระบุชื่อนั้น สามารถที่จะทําได เพราะกฎหมายอนุญาตใหผูทรงใบหุนชนิดถือนั้นใชสิทธิในการขอเปลี่ยนประเภทใบหุนได เมื่อนายเมนเปนผูทรงใบหุน ดังกลาวจึงเปนผูมีสิทธิที่จะขอเปลี่ยนใบหุนเปนใบหุนระบุชื่อได ตามหลักกฎหมายมาตรา 1136 ที่กลาวมาขางตน ดังนั้นนายเมนสามารถที่จะขอเปลี่ยนใบหุนที่ไดรับการโอนมาโดยถูกตองจากนายสิงหไดตามที่กฎหมายใหสิทธิไว

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 6 นายสินไดรวบรวมเพื่อนจํานวน 8 คน ดําเนินการจัดตั้งบริษัทสินสหาย จํากัด ข้ึนมา หลังจากที่ไดจดทะเบียนบริษัทเปนที่เรียบรอย ไดใหนายสินเปนกรรมการผูจัดการ ยังไมทันที่นายสินจะเร่ิมลงมือบริหารงานของบริษัทสินสหายจํากัดแตอยางใด นายสินถูกบริษัทแสนสี่จํากัด ซื้อตัวไปเปนผูจัดการดวยเงินเดือนที่สูงมาก นายสินจึงมิไดดําเนินกิจการของบริษัทสินสหายแตอยางใดเลย ทําใหเพื่อนในทีมผูกอต้ัง ซึ่งเปนผูถือหุนกลุมใจมาก พบนายสินเมื่อใดก็เรงรัดใหนายสินดําเนินการ นายสินก็รับปากแลวก็ไมทําอะไร เวลาผานไปหนึ่งปคร่ึง เพื่อนทั้ง 8 คน ซึ่งมีนายแกวเปนแกนนํา จึงปรึกษากันวา จะทําอยางไรกับบริษัทสินสหายจํากัด ซึ่งนายแกวและเพื่อน ๆไดชําระคาหุนกันไปบางแลว นายแกวก็เสนอขอคิดกับเพื่อนผูถือหุนวา ถาเปนเชนนั้นเลิกบริษัทไปเลยดีกวา ซึ่งเพื่อนก็เห็นดวย แตนายกิ่งคานวาบริษัทตั้งมาแลว จะเลิกไดอยางไร กฎหมายจะยอมใหเลิกหรือ

Page 7: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

นายแกวจึงมาปรึกษาทานวา จะสามารถเลิกบริษัทไดหรือไม และถาเลิกจะตองทําอยางไร เฉลย ตามปพพ.มาตรา 1237 (2) บัญญัติไววา “นอกจากนี้ศาลอาจสั่งใหเลิกบริษัทจํากัดดวยเหตุตอไปนี้ (1) ……….. (2) ถาบริษัทไมเร่ิมทําการภายในหนึ่งปนับแตวันจดทะเบียน หรือหยุดทําการถึงหนึ่งปเต็ม……. จากคําถามนายสินและเพื่อนไดรวมกันจัดตั้งบริษัทขึ้นเปนที่เรียบรอยแลว โดยตั้งใหนายสินเปนกรรมการผูจัดการ แตดวยเหตุที่บริษัทแสนสี่ไดมาซื้อตัวนายสินไปนั้น ทําใหนายสินไมคิดท่ีจะมาเริ่มดําเนินกิจการของบริษัทสินสหายแตอยางใด ไมวานายแกวและเพื่อน ๆ จะทวงถามอยางไรก็ตาม นายสินก็ไมเขามาดําเนินกิจการของบริษัทสินสหาย จนเวลาลวงเลยมาเปนเวลา ปกวา นายแกวจึงเสนอแนวทางแกปญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทสินสหาย โดยขอใหเลิกบริษัท แตมีผูคัดคานวา จดทะเบียนบริษัทแลวจะเลิกไมได ในหลักการเรื่องการยกเลิกบริษัทนั้นกฎหมายกําหนดวาถากําหนดกันไวเขาเกณฑตามมาตรา 1236 ก็ใหเปนไปตามนั้น แตหากมีเหตุที่บริษัทไมสามารถดําเนินการไดตามที่กฎหมายกําหนดไวตามมาตรา 1236 แลวก็สามารที่จะปฏิบัติตามมาตรา 1237 ไดโดยสามารถที่จะรองขอใหศาลสั่งใหเลิกบริษัทไดตามเหตุที่กําหนดไว ซึ่งตามปญหาขางตนนั้นเปนเรื่องที่บริษัทไดจดทะเบียนเปนที่เรียบรอยแตบริษัทไมเร่ิมทําการ กฎหมายกําหนดใหเปนเหตุที่สามารถที่จะรองขอใหเลิกบริษัทได การที่นายแกวเสนอใหมีการเลิกบริษัทนั้นเปนสิ่งที่ทําได โดยการรองขอตอศาลเพื่อใหศาลมีคําสั่งใหเลิกบริษัท เพราะบริษัทสินสหายไมมีการเริ่มทําการภายในเวลาหนึ่งป นับต้ังแตเร่ิมจดทะเบียนมา ดังนั้นตามที่นายแกวและเพื่อนไดเสนอใหเลิกบริษัทนั้น สามารถเลิกบริษัทไดดวยเหตุที่ไมเร่ิมดําเนินกิจการภายในหนึ่งปนับแตเมื่อไดจดทะเบียนบริษัท โดยการรองขอตอศาลใหศาลมีคําส่ังใหเลิกบริษัทสินสหายไดตามที่กลาวมาขางตน

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 7 นายเจริญ และนายสุข เปนหุนสวนกัน ในหางหุนสวนสามัญไมจดทะเบียน ซึ่งมีวัตถุประสงคในการคาไม นายเจริญขายไมของหุนสวนใหนายศิริ เปนเงินเชื่อ 100,000 บาท ตอมานายเจริญเดินทางไปดูงานตางประเทศเปนเวลานาน นายสุขจึงทําหนาที่หุนสวนผูจัดการหางฯแทน และไดเรียกใหนายศิริ ชําระคาไม แตนายศิริไมยอมชําระ

Page 8: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

นายสุขจะฟองศาลบังคับใหนายศิริชําระหนี้ดังกลาวไดหรือไม เฉลย ตามปพพ.มาตรา 1049 วา ผูเปนหุนสวนจะถือเอาสิทธิใด ๆ แกบุคคลภายนอกในกิจการคาขาย ซึ่งไมปรากฏชื่อของตนหาไดไม ตามปญหา หางหุนสวนสามัญไมจดทะเบียน ซึ่งมีนายเจริญและนายสุขเปนหุนสวนกันนั้น นายเจริญเปนผูขายไมของหางฯแตผูเดียวใหแกนายศิริ นายสุขหุนสวนอีกคนหาไดเกี่ยวของเปนผูขายดวยไม ฉะนั้นแมนายเจริญไปตางประเทศ และมีนายสุขเปนผูจัดการหางฯในขณะที่นายเจริญไปตางประเทศก็ตาม นายสุขจะถือเอาสิทธิใด ๆ แกนายศิริซึ่งเปนบุคคลภายนอกในกิจการคาขายของหางฯซึ่งไมปรากฏชื่อของตนไมได ฉะนั้นศาลยอมพิพากษาใหยกฟองคดีที่นายสุขเปนโจทกฟองนายศิริ แตนายสุขก็มีทางแกไขโดยใหนายเจริญลงชื่อในคําฟองพรอมมอบอํานาจใหนายสุขฟองแทน

( ฉะนั้น นายสุขไมมีอํานาจฟองนายศิริใหชําระหนี้ใหแกตนได แตหางหุนสวนมีอํานาจที่จะเรียกชําระหนี้จากนายศิริได โดยนายสุขใหนายเจริญลงชื่อในคําฟอง หรือมอบอํานาจใหนายสุขฟองแทนได )

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 8 นายเล็กทําธุรกิจในดานการสงเสื้อผาสําเร็จรูป ออกไปขายในตางประเทศจนประสบความสําเร็จเปนอยางดีจึงไดคิดขยับขยายกิจการ พรอมทั้งจะใหลูก ๆ ของตนเขามามีสวนรวมและชวย

Page 9: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

บริหารกิจการดวย นายเล็กจึงไดดําริที่จะจัดตั้งบริษัทขึ้นเพื่อดําเนินกิจการ โดยจะใหลูก ๆ ของตนเขารวมเปนผูถือหุนและกรรมการ และเพื่อที่จะรักษาบริษัทนี้ไวใหเปนกิจการเฉพาะของสมาชิกในครอบครัว นายเล็กจึงมีความประสงคจะตั้งเงื่อนไขในการถือหุนวา หุนของบริษัทนี้ผูที่ถือหุนจะนําไปโอนใหแกบุคคลอื่นไมได เวนแตจะไดรับความยินยอมจากผูถือหุนคนอื่น เชนนี้นายเล็กอยากทราบวา ตามกฎหมายแลวจะสามารถทําไดหรือไม ถาทําไดจะตองทําอยางไร เฉลย ตามปกติ หุนในบริษัทนั้นตองถือวาสามารถโอนกันไดเสมอ แตกฎหมายยินยอมใหบริษัทมีขอจํากัดในการโอนไดบางกรณี ทั้งนี้เพราะบริษัทอาจมีความจําเปนหรือเหตุผลบางประการที่จะตองสงวนสิทธิในการโอนหุนของผูถือหุนไว เชน ในกรณีที่ผูถือหุนของบริษัทเปนบุคคลกลุมใดกลุมหนึ่ง ก็อาจมีขอจํากัดการโอนเพื่อปองกันมิใหการโอนหุนใหแกบุคคลนอกกลุม อยางในกรณีของนายเล็กที่ตองการสงวนหุนไวเฉพาะสมาชิกในครอบครัว ดังนี้เปนตน บริษัทที่นายเล็กจะกอต้ังขึ้นนี้มีผูถือหุนเปนจํานวนนอย คงจะตั้งในรูปของบริษัทเอกชนตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย สําหรับวิธีการนั้นก็คือ จะตองกําหนดขอจํากัดการโอนนั้นไวในขอบังคับของบริษัทวา การโอนหุนใหแก บุคคลใด จะตองได รับความยินยอมจากผูถือหุนที่ เหลืออยู เสียกอน (ปพพ.มาตรา1129) สวนในกรณีของบริษัทมหาชนจะตั้งขอกําหนดการโอนหุนไมได เวนแตเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายเฉพาะ ( พรบ.มหาชน มาตรา 70)

Page 10: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 9

บริษัทสีสวยจํากัด ประกอบธุรกิจดานการทําปายโฆษณา มีนายสีและนายสวยเปนผูถือหุนใหญและเปนกรรมการของบริษัท ซึ่งปรากฏวา นับต้ังแตเปดกิจการมา บริษัทตองประสบภาวะขาดทุนมาโดยตลอด เพราะนายสีกับนายสวยยังไมมีความชํานาญดานนี้พอ อีกทั้งยังไมระมัดระวังในการทํางาน ทําใหปายที่ทําขึ้นสําหรับลูกคาบกพรอง ไมไดอยางที่ลูกคาตองการ จึงตองทําขึ้นใหมเพื่อเปล่ียนใหลูกคาอยูเสมอ ซึ่งเปนการเสียคาใชจายเพิ่มข้ึน ทําใหบริษัทไมมีกําไร ขณะนี้บริษัทสีสวยจํากัด ขาดทุนไปแลวกวา 200,000 บาท แตนายสีและนายสวย ก็ดูเหมือนวาจะไมเดือดรอนอะไร เชนนี้อยากทราบวา

ก) นายสด ซึ่งเปนผูถือหุนรายหนึ่งของบริษัท แตมิไดเปนกรรมการ จะฟองรองนายสีและนายสวย ใหชดใชคาเสียหายแกบริษัทไดหรือไม

ข) ธนาคารสุโขทัย ซึ่งเปนเจาหนี้เงินกูของบริษัท สีสวยจํากัด อยู 100,000 บาท จะมีสิทธิฟองรองนายสีและนายสวยดวยไดหรือไมอยางไร เฉลย ในการประกอบกิจการของบริษัท กรรมการตองใชความเอื้อเฟอ สอดสองอยางบุคคลคาขาย ผูประกอบดวยความระมัดระวัง (มาตรา 1168) โดยตองเอาใจใสในการจัดการงานของบริษัทยิ่งกวาวิญูชนธรรมดา ถากรรมการทําความเสียหายใหแกบริษัท บริษัทจะฟองเรียกเอาคาสินไหมจากกรรมการได ถาบริษัทไมฟอง ผูถือหุนคนใดคนหนึ่งก็สามารถฟองได หรือแมแตเจาหนี้ของบริษัท ก็มีสิทธิฟองบังคับใหกรรมการที่ทําใหเกิดความเสียหาย ขอใหชดใชคาสินไหมทดแทนได โดยเจาหนี้จะใชสิทธิเรียกรองใหชําระหนี้ไดเพียงเทาจํานวนหนี้ที่ตนมีอยูตอบริษัทเทานั้น (มาตรา 1169)

ตามปญหา นายสีและนายสวยไมไดใชความระมัดระวัง ทําใหบริษัทไดรับความเสียหาย บริษัทจึงมีสิทธิฟองนายสีและนายสวยได แตเมื่อบริษัทไมฟอง ดังนั้น

ก) นายสดซึ่งเปนผูถือหุนของบริษัทก็สามารถฟองได (มาตรา 1169) ข) ธนาคารสุโขทัยก็สามารถฟองนายสีและนายสวยไดเชนกันในฐานะเจาหนี้ แตจะ

ฟองไดเฉพาะเทาจํานวนที่บริษัทเปนหนี้อยูคือ 100,000 บาท เทานั้น

Page 11: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 10 นายเอก นายโท และนายตรี เขาหุนกันตั้งหางหุนสวนสามัญเจริญดี โดยดําเนินกิจการโรงฆาสัตว มีวัตถุประสงคเพื่อเก็บเงินจากผูนําสุกรเขาไปฆาในโรงฆาสัตว ทั้งนี้หางหุนสวนดังกลาวไดต้ังใหนายเอกเปนผูจัดการ นายเอกไดไปซื้อเชื่อสุกรของนายจัตวามา 1 ตัว แลวนําสุกรมาฆาเสียเอง ทั้งยังไมชําระหนี้คาสุกรใหนายจัตวา นายจัตวาไดทวงถามใหนายเอกชําระหนี้ นายเอกก็เพิกเฉย ดังนี้นายจัตวาจะฟองใหนายเอก นายโท นายตรี รับผิดในหนี้ดังกลาวรวมกันไดหรือไม เฉลย ตามปพพ.มาตรา 1050 บัญญัติไววาการใด ๆ อันหุนสวนคนใดคนหนึ่ง ไดจัดทําไปในทางที่เปนธรรมดาการคาขายของหางหุนสวน นั้น ทานวาผูเปนหุนสวนทุกคน ยอมมีความผูกพันในการนั้น ๆ ดวย และตองรวมกันรับผิดโดยไมจํากัดจํานวน ในการชําระหนี้อันไดกอใหเกิดขึ้น เพราะจัดการไปเชนนั้น ตามปญหาการที่นายเอก นายโท นายตรี เขาหุนสวนกันตั้งโรงฆาสุกร โดยมีวัตถุประสงคเพื่อเก็บเงินจากผูนําเขาสุกรไปฆานั้น การที่นายเอกหุนสวนผูจัดการไปซื้อเชื่อสุกรของนายจัตวา มาฆาเสียเองนั้นเปนการกระทําการคาขายนอกวัตถุประสงคของหาง และตามปญหาไมปรากฏวานายเอกไดทําไปในฐานะตัวแทนของนายโท และนายตรี ผูเปนหุนสวนอื่น และไมปรากฏวานายโทและนายตรีเขาไปมีสวนไดสวนเสียในกิจการนั้น ดังนั้นนายโทและนายตรีจึงไมตองรับผิดตอนายจัตวา ซึ่งเปนบุคคลภายนอก นายเอกจึงตองรับผิดเปนสวนตัวในการชําระหนี้ใหนายจัตวา ขอ 11 บริษัทสวัสด์ิจํากัด มีทุนจดทะเบียน 1 ลานบาท มีนายสวัสด์ิกับพวกเปนผูถือหุนราว 80 % ของทุนจดทะเบียน ทางบริษัทมีความประสงคจะเพิ่มทุนอีก 1 ลานบาท แตทั้งนายสวัสด์ิกับพวกมีความคิดวา ตองการที่จะเพิ่มอัตราสวนการถือหุนของกลุมตนใหมากยิ่งขึ้นในบริษัท และตองการลดอํานาจของกลุมผูถือหุนขางนอยลง จึงตกลงกันวาจะเสนอขายหุนเพิ่มทุนใหแกกลุมของตน ในอัตราสวน 1:1 คือผูถือหุนเดิม 1 หุน ซื้อหุนใหมได 1 หุน สวนกลุมผูถือหุนขางนอยนั้น จะเสนอขาย

Page 12: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

หุนเพิ่มทุนในอัตราสวน 1:2 คือถือหุนเดิม 2หุนซื้อใหมได 1 หุน เชนนี้ นายสวัสด์ิตองการทราบวาจะทําไดหรือไมอยางไร เมื่อนายสวัสด์ิมาปรึกษาทาน ทานจะใหคําตอบแกนายสวัสด์ิอยางไร เฉลย ในการเพิ่มทุนของบริษัทนั้น กฎหมายกําหนดวาบรรดาหุนออกใหมตองเสนอขายแกผูถือหุนเดิม ตามอัตราสวนจํานวนหุนที่เขาถืออยู(มาตรา 1222) ทั้งนี้เพื่อใหอัตราสวนการถือหุนในบริษัทภายหลังการเพิ่มนั้นเปนไปเชนเดียวกันกอนการเพิ่มทุน เชนบริษัท ก มีหุนจดทะเบียน 1000 หุน นาย ข ถือหุนอยู 100 หุน ซึ่งเทากับ 10 % ของทุนจดทะเบียน ถาบริษัทเพิ่มทุนออกหุนใหม 500 หุน นาย ข ยอมมีสิทธิได 50 หุน เปนตน ดังนั้นการที่นายสวัสด์ิจะเสนอขายหุนแกกลุมผูถือหุนขางนอย ในอัตรา 2 :1 ซึ่งจะทําใหผูถือหุนกลุมขางนอยมีสิทธิซื้อหุนเพียงคร่ึงหนึ่งของจํานวนหุนเพิ่มทุนที่มีสิทธิซื้อ จึงไมสามารถกระทําไดเพราะขัดตอบทบัญญัติของกฎหมาย ขอ 12 บริษัทสีสันประกอบธุรกิจดานการทําปายโฆษณา มีนายสี และ นายสันเปนผูถือหุน และเปนกรรมการของบริษัทในการประกอบกิจการปแรก บริษัทก็ประสบกับการขาดทุน ในปที่สองบริษัทไมขาดทุนแตก็ไมกําไร สวนในปที่สามนั้น บริษัทประสบกับการขาดทุนอีก นายสีเห็นวาตนไมเคยไดรับประโยชนจากการตั้งบริษัทนี้เลย ก็ประสงคจะเลิกบริษัทเสีย แตนายสันไมยอม เชนนี้นายสี อยากทราบวาตนจะฟองศาลขอใหเลิกบริษัทเสียไดหรือไม เฉลย ตามปพพ. มาตรา 1237 กําหนดไวในเรื่องการเลิกบริษัทโดยคําสั่งศาล จะกระทําไดในกรณีดังตอไปนี้

1. มีการกระทําผิดในรายงานการประชุมต้ังบริษัท หรือทําผิดในการประชุมต้ังบริษัท 2. บริษัทไมเร่ิมทําการภายใน 1 ป นับแตวันจดทะเบียน หรือหยุดทําการถึงหนึ่งปเต็ม 3. การคาของบริษัททําไปก็มีแตขาดทุนอยางเดียวและไมมีหวังจะกลับฟนตัวได 4. จํานวนผูถือหุนลดนอยลงเหลือไมถึงเจ็ดคน การที่ศาลจะสั่งเลิกบริษัทเพราะเหตุที่บริษัทขาดทุนนั้น จะตองปรากฏวาบริษัทขาดทุน

อยางเดียว คือขาดทุนหลาย ๆ ปติดตอกัน และจะตองไมมีหวังที่จะกลับฟนคืนกําไรไดดวย จึงเปนเหตุที่ศาลจะสั่งใหเลิกบริษัทได เพราะเพียงแตบริษัทระสบการขาดทุนยังไมเปนเหตุที่ศาลจะสั่งใหเลิกบริษัท เพราะในการคายอมมีกําไรและขาดทุนคละกันไป

Page 13: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

กรณีของบริษัทสีสันนั้นนายสีจะขอใหศาลสั่งเลิกบริษัทไมได เพราะการขาดทุนของบริษัท

ยังไมมีลักษณะเปนการติดตอกันอันจะถือไดวาบริษัทไมมีหวังจะกลับมาฟนตัวไดอีก อีกทั้งในปที่สองบริษัทก็ไมขาดทุน ดังนั้นบริษัทอาจจะสามารถทํากําไรในอนาคตได จึงไมถือวาเปนกรณีขาดทุนแตอยางเดียวและไมมีหวังจะกลับฟนตัวได

ดังนั้น นายสีจึงไมมีสิทธิที่จะฟองศาลขอใหศาลสั่งเลิกบริษัทได

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 13 นายเกงและนายกลาไดตกลงกันดวยวาจาวา จะประกอบธุรกิจรับขนสงคนโดยสารรวมกัน โดยนายเกงเปนผูออกเงินซื้อรถยนตโดยสาร สวนนายกลาเปนผูขับรถโดยสารคันดังกลาว และเมื่อมีรายไดหรือผลกําไร ก็จะแบงกันคนละครึ่ง วันหนึ่งขณะที่นายกลาไดขับรถยนตคันดังกลาวเพื่อรับจางขนสงคนโดยสารตามปกติ นายกลาไดขับรถยนตโดยประมาทชนรถยนตนางเดือนเสียหาย ดังนี้นางเดือนจะฟองนายเกงและนายกลา ใหรวมกันรับผิดชดใชคาทดแทนหรือไม เฉลย ตามปพพ.มาตรา 1012 อันวาสัญญาจัดตั้งหางหุนสวนหรือบริษัทนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลต้ังแตสองคนขึ้นไปตกลงเขากันเพื่อกระทํากิจการรวมกัน ดวยประสงคจะแบงปนกําไรอันจะพึงไดแตกิจการที่ทํานั้น มาตรา 1025 อันวาหางหุนสวนสามัญนั้น คือหางหุนสวนประเภทซึ่งผูเปนหุนสวนหมดทุกคนตองรับผิดรวมกันเพื่อหนี้ทั้งปวงของหุนสวนโดยไมจํากัด มาตรา 1050 การใด การใดอันผูเปนหุนสวนคนใดคนหนึ่งไดจัดทําไปในทางที่เปนธรรมดาการคาขายของหางหุนสวนนั้น ทานวาผูเปนหุนสวนหมดทุกคนยอมมีความผูกพันในการนั้น ๆ ดวย และจะตองรับผิดรวมกันโดยไมจํากัดจํานวนในการชําระหนี้ อันไดกอใหเกิดขึ้นเพราะจัดการไปเชนนั้น

Page 14: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

ตามปญหา นายเกงและนายกลาไดตกลงที่จะประกอบธุรกิจรับสงคนโดยสารรวมกัน โดยตกลงกันดวยวาจา ซึ่งตามปพพ.มาตรา 1012 ไมไดกําหนดรูปแบบของการทําสัญญาไววาจะตองทําเปนหนังสือหรือแบบใด ดังนั้นการที่ตกลงกันดวยวาจาก็สามารถที่จะกระทําได ดังนั้นการที่นายเกงและนายกลาตกลงกันนั้นจึงเปนสัญญาเขาหางหุนสวนที่ถูกตอง การเขาหางหุนสวนกันนั้นเปนการเขาหางหุนสวนสามัญ ซึ่งผูเปนหุนสวนตองรวมรับผิดในหนี้รวมกัน โดยไมจํากัดจํานวน ในกิจการที่เปนกิจการคาของหาง ตามปพพ.มาตรา 1025 การที่นายกลาขับรถยนตเพื่อรับจางขนสงคนโดยสาร โดยประมาทชนรถยนตของนางเดือนนั้นถือเปนการกระทําที่เปนธรรมดาการคาของหาง ตามปพพ.มาตรา 1050 การกระทําดังกลาวจึงผูกพันหุนสวนทุกคนและหางหุนสวน ดังนั้นนางเดือนจึงสามารถที่จะฟองนายเกงและนายกลาใหรวมรับผิดชดใชคาสินไหมทดแทนได

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 14 นายมีนไดรวมกับเพื่อนเพื่อจัดตั้งบริษัทมีนาจํากัด ในการออกหุนนั้นไดกําหนดมูลคาหุนไวหุนละ 100 บาท และไดกําหนดไวใสหนังสือบริคณหสนธิวาอาจจะขายหุนในราคาที่มากกวามูลคาที่กําหนดไวนั้น บริษัทจึงไดกําหนดราคาหุนไวเปนมูลคาหุนละ 140 บาท เมื่อประชุมจัดตั้งบริษัทเสร็จ ปรากฏวานายมีน นายเมษ และนายกันย ไดเปนกรรมการผูจัดการของบริษัททั้งสามคน กรรมการทั้งสามคนจึงไดเรียกเก็บคาหุนครั้งแรกเปนจํานวนรอยละ 30 เชนนี้ อยากทราบวาการดําเนินการเรียกเก็บคาหุนดังกลาวถูกตองหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย ตามปพพ. มาตรา 1105 วรรค 3 อนึ่งเงินสงใชคาหุนคราวแรกนั้น ตองมิไดนอยกวารอยละยี่สิบหาแหงมูลคาของหุนที่ต้ังไว จากปญหา การที่บริษัทมีนาไดกําหนดมูลคาหุนไวนั้นในราคา 100 บาท นั่นคือมูลคาหุนที่กําหนดไว สําหรับการที่กําหนดในหนังสือบริคณหสนธิวาใหจําหนายในราคาที่มากกวามูลคาไดนั้นเปนสิ่งที่ทําได แตราคาที่เปนมูลคาในหุนก็คือ 100 บาท ดังนั้นเมื่อกรรมการ คือนายมีน นาย

Page 15: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

เมษ และนายกันย เรียกเก็บคาหุนคราวแรกนั้นกฎหมายกําหนดใหเรียกเก็บอยางนอยรอยละ 25 จากมูลคาหุนที่ต้ังไว นั่นหมายถึงการเรียกเก็บคร้ังแรกตองไมนอยกวารอยละ 25 การที่กรรมการเรียกเก็บรอยละ 30 จึงสามารถที่จะกระทําได เพราะเงินที่เรียกเก็บคร้ังแรกนั้นเพื่อนําไปใชหมุนเวียนในธุรกิจ จึงอยูในวิสัยที่กรรมการจะใชดุลพินิจในการเรียกเก็บ โดยกฎหมายกําหนดวาไมใหตํ่ากวารอยละ 25 เทานั้น ดังนั้นการที่กรรมการเรียกชําระคาหุนครั้งแรกรอยละ 30 นั้นเปนการกระทําที่ถูกตอง

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 15 นายแดง นายดํา และนายเหลือง เขาหุนกันทําการคา โดยมีนายแดงเปนผูจัดการ นายเหลืองและนายดําสงสัยวานายแดงทุจริตเบียดบังเงินของหางฯ จึงตองการใหนายฟานักบัญชีและเปนผูที่นายเหลืองและนายดําไววางใจเขามาเปนหุนสวนดวย เพื่อที่นายฟาจะไดเขามาควบคุมทางดานการเงินของหางฯ นายเหลืองและนายดําจึงบอกนายแดงวา จะใหนายฟามาเขาหุนสวนดวย แตนายแดงไมยินยอม เมื่อเปนเชนนี้จึงถามวา ก. ถานายแดงไมยินยอมใหนายฟาเขามาเปนหุนสวน นายฟาจะเขามาเปนหุนสวนไดหรือไม เพราะเหตุใด ข. นายเหลืองและนายดําจะใหนายแดงออกจากตําแหนงผูจัดการไปโดยไมตองเลิกหางไดหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย

Page 16: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

ขอ ก ตามหลักกฎหมายในเรื่องการชักนําบุคคลอ่ืนเขามาเปนหุนสวนดวยไดบัญญัติไวในมาตรา 1040 ที่วา “หามมิใหชักนําบุคคลอื่นเขามาเปนหุนสวนในหางหุนสวนโดยมิไดรับความยินยอมของผูเปนหุนสวนหมดดวยกันทุกคน เวนแตจะไดตกลงกันไวเปนอยางอื่น” ตามปญหาการที่นายดําและนายเหลืองจะใหนายฟาเขามาเปนหุนสวน แตเมื่อไมไดรับความยินยอมจากนายแดงผูเปนหุนสวนคนหนึ่งนั้น เทากับวาหุนสวนทุกคนไมยินยอมใหนายฟาเขามาเปนหุนสวนดวย ดังนั้นนายฟาจึงไมสามารถเขามาเปนหุนสวนไดแตอยางใด

ขอ ข ตามหลักกฎหมายในเรื่องการใหผูจัดการออกจากตําแหนงนั้น ไดบัญญัติไวในมาตรา 1036 วา “อันหุนสวนผูจัดการจะเอาออกจากตําแหนงไดก็ตอเมื่อ ผูเปนหุนสวนทั้งหลายอ่ืนยินยอมพรอมกัน เวนแตจะตกลงกันไวเปนอยางอื่น”

ตามปญหา ถานายดําและนายเหลืองตองการเอานายแดงออกจากตําแหนงผูจัดการก็

สามารถที่จะกระทําไดโดยที่นายดําและนายเหลือง ยินยอมพรอมใจกันใหนายแดงออกจากตําแหนงผูจัดการ

ดังนั้น นายดําและนายเหลือง สามารถเอานายแดงออกจากตําแหนงผูจัดการของหางฯนั้น

ได หากทั้งสองคนนั้นมีความเห็นเปนเชนเดียวกัน กฎหมายพาณิชย 4

ขอ 16 บริษัททิพยรุงเรืองจํากัด มีทุนจดทะเบียนสี่ลานบาท แบงออกเปน 40,000 หุน ๆ ละ 100 บาท ตอมาบริษัทมีทุนเหลือ เพราะไดยกเลิกโครงการบางโครงการไป กรรมการของบริษัทเห็นวาสมควรที่จะตองลดทุนของบริษัทลงใหเหลือเพียงหนึ่งลานหาแสนบาท จึงมาปรึกษาทาน ก. การลดทุนของบริษัทใชมติเสียงขางมากจากที่ประชุมใหญผูถือหุนไดหรือไม อยางไร ข. จะลดทุนลงใหเหลือเพียงหนึ่งลานหาแสนบาทไดหรือไม กฎหมายมีขอจํากัดในเรื่องการลดทุนไวอยางไร เฉลย จากปญหา มีหลักกฎหมายที่เกี่ยวของอยูดังนี้

Page 17: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

มาตรา 1224 วา บริษัทจํากัดจะลดทุนของบริษัทลงดวยลดมูลคาแตละหุน ๆ ใหตํ่าลง หรือลดจํานวนหุนใหนอยลง โดยมติพิเศษของที่ประชุมผูถือหุนก็ได การลดทุนจะทําไดก็ตอเมื่อที่ประชุมผูถือหุนมีมติใหลดทุนได แตการลดทุนนั้นตองเปนมติพิเศษ จากที่ประชุมผูถือหุนเทานั้น จะเปนมติธรรมดาที่ถือเสียงขางมากเทานั้นไมได

ดังนั้นการลดทุนนั้นกรรมการบริษัทจะตองจัดใหมีการประชุม 2 คร้ัง คือประชุมคร้ังแรกที่ประชุมเห็นชอบกับมติลดทุนไมนอยกวา 3 ใน 4 และตอมาใหมีการประชุมคร้ังที่สองโดยที่ประชุมเห็นชอบดวยไมนอยกวา 2 ใน 3 และนํามติพิเศษไปจดทะเบียนดวยเหตุนี้จึงจะใชมติเสียงขางมากเทานั้นไมได

ขอ ข จากปญหามีหลักกฎหมายที่เกี่ยวของ อยูดังนี้ มาตรา 1225 อันทุนของบริษัทนั้นจะลดลงไปใหถึงต่ํากวาจํานวนหนึ่งในสี่ของทุนทั้งหมด

หาไดไม การที่บริษัททิพยรุงเรืองจํากัดจะลดทุนลงเหลือ 1,500,000 บาทนั้น สามารถที่จะกระทํา

ได เพราะกฎหมายมีขอจํากัดในเรื่องการลดทุนวาจะลดทุนลงไปใหตํ่ากวาหนึ่งในสี่ของทุนทั้งหมดไมได คือเมื่อบริษัทลดทุนแลว ทุนที่เหลือจะมีตํ่ากวาหนึ่งในสี่ของทุนเดิมไมได ซึ่งจากการที่บริษัททิพยรุงเรืองมีทุนจดทะเบียน 4,000,000 บาทนั้น จึงสามารถลดทุนลงไดเหลือตํ่าสุด คือไมตํ่ากวา 1,000,000 บาท

ดังนั้น การที่บริษัททิพยรุงเรืองตองการที่จะลดลงเหลือ 1,500,000 บาทนั้นจึงสามารถที่

จะกระทําได เพราะยังเหลือทุนมากกวาหนึ่งในสี่ของทุนจดทะเบียน

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 17

บริษัทน้ําใสจํากัด ตองการที่ควบบริษัทเขากับบริษัทน้ําดื่มไทยจํากัด เพื่อใหการดําเนินการควบบริษัทเปนไปดวยความถูกตอง บริษัทน้ําใสจึงไดแจงความการควบบริษัทไปยังเจาหนี้ตาง ๆ ของบริษัท เมื่อบริษัทเครื่องกรองไทยจํากัด ซึ่งเปนเจาหนี้ของบริษัทน้ําใสจํากัด ไดรับแจง ก็เกรงวาตนจะไมไดรับชําระหนี้ เมื่อบริษัททั้งสองควบเขาดวยกัน จึงไดใชสิทธิของเจาหนี้คัดคานการควบบริษัทดังกลาว ภายใน 7 วัน นับแตวันที่ไดรับแจง

เมื่อเปนเชนนี้การควบบริษัททั้งสองจะดําเนินการตอไปไดหรือไม เพียงใด

Page 18: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

เฉลย ตามปพพ.มาตรา 1240 ไดกําหนดวิธีการการควบบริษัทวา “บริษัทตองโฆษณาในหนังสือ

พิมพทองที่เจ็ดครั้งเปนอยางนอย และสงคําบอกกลาวไปยังบรรดาผูซึ่งบริษัทรูวาเปนเจาหนี้ของบริษัทดวยจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย บอกใหทราบรายการที่ประสงคจะควบบริษัทเขากัน และขอใหเจาหนี้ผูมีขอคัดคานอยางหนึ่งอยางใด ในการควบบริษัทเขากันนั้นสงคําคัดคานไปภายในหกเดือนนับแตวันที่บอกกลาว

ถาไมมีใครคัดคานภายในกําหนดเชนวานั้น ก็ใหถือวาไมมีคําคัดคาน ถาหากมีเจาหนี้คัดคาน บริษัทจะจัดการควบเขากันมิได จนกวาจะไดใชหนี้หรือไดให

ประกันเพื่อหนี้รายนั้น” จากปญหาการที่บริษัทน้ําใสจะควบเขากับบริษัทน้ําดื่มไทย เปนบริษัทน้ําดื่มไทยจํากัด

นั้นไดแจงความการควบบริษัทใหบริษัทเครื่องกรองไทยจํากัดซึ่งเปนเจาหนี้ของบริษัทน้ําใสทราบและบริษัทเครื่องกรองไทยไดทําการคัดคานการควบบริษัทดังกลาวภายใน 7 วัน ซึ่งมีผลทําใหการคัดคานเปนผล เพราะกฎหมายกําหนดใหทําการคัดคานไดภายในเวลาหกเดือน นับแตวันที่ไดรับคําบอกกลาวตามมาตรา 1240 วรรคแรก

เมื่อการคัดคานเปนผลจึงทําใหบริษัททั้งสองยังไมสามารถที่จะทําการควบกันได จนกวา

บริษัทน้ําใสจะชําระหนี้ใหกับบริษัทเครื่องกรองไทยเปนที่เรียบรอย หรือไมก็ตองจัดใหมีการประกันเพื่อหนี้นั้นกอนจึงจะสามารถทําการควบบริษัทดังกลาวได มาตรา 1240 วรรค 3

ดังนั้นบริษัททั้งสองยังควบกันไมไดจนกวาบริษัทน้ําใสจะชําระหนี้หรืจัดใหมีการประกัน

เพื่อหนี้ดังกลาวกอนจึงจะสามารถควบบริษัททั้งสองเขากันได

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 18

นายแดง นายเหลือง และนายเขียว ไดรวมหุนกันจัดตั้งหางหุนสวนสามสหายยานยนต ประกอบกิจการซอมรถยนต โดยแตละคนลงหุนเทากัน คนละ 200,000 บาท ประกอบกิจการได 2 ป กิจการไมดีมีแตขาดทุนมาโดยตลอด จนทายสุดเงินลงทุนเหลือเพียง 500,000 บาท และหางฯ

Page 19: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

ยังเปนหนี้คาซื้ออะไหลจากบริษัทรวมยนต จํานวน 100,000 บาท อีกทั้งยังคางคืนเงินคาใชจายที่นายแดงออกไปเพื่อชําระหนี้หาง ฯ อีก 70,000 บาท

ผูเปนหุนสวนเห็นพองตองกันวาควรจะเลิกหางฯ และชําระบัญชีตอไป นายแดงจึงมาปรึกษาทานวากรณีนี้ตามกฎหมาย เมื่อเลิกหางฯและชําระบัญชีแลว นายแดงจะไดรับเงินที่ลงทุนไปนั้นคืนหรือไม และถาไดรับคืนจะไดรับคืนเปนจํานวนเทาไร

เฉลย

ตามกฎหมายในเรื่องการชําระบัญชีของหางฯ ไดบัญญัติไวในมาตรา 1062 ที่วา “การชําระบัญชีใหทําโดยลําดับดังนี้ คือ

(1) ใหชําระหนี้ทั้งหลายซึ่งคางแกบุคคลภายนอก (2) ใหชดใชเงินทดลองและคาใชจายซึ่งผูเปนหุนสวนไดออกของตนไป เพื่อจัดการคา

ของหางฯ (3) ใหคืนทุนทรัพยซึ่งผูเปนหุนสวนไดลงเปนหุน ตามปญหา เมื่อหางหุนสวนเลิกกันก็ตองดําเนินการชําระบัญชีตามกฎหมายขางตน คือ

เมื่อเลิกหาง ฯ หางมีเงินเหลืออยู 500,000 บาท ตองชําระบัญชี ดังนี้ (1) ชําระหนี้ทั้งหลายซึ่งคางชําระแกบุคคลภายนอก กรณีนี้ตองชําระหนี้คาซื้ออะไหลรถ

ยนตใหกับบริษัทรวมยนต เปนเงิน 100,000 บาท ดังนั้น คงเหลือเงินหลังจากชําระหนี้ 500,000 – 100,000 = 400,000 บาท (2) ใหชดใชเงินทดรองและคาใชจายซึ่งผูเปนหุนสวนไดออกของตนไปเพื่อจัดการงานของ

หางฯ กรณีนายแดงไดออกเงินคาใชจายไปทั้งสิ้น 70,000 บาท ดังนั้น คงเหลือเงินหลังจากหักเงินทดรองจายของนายแดง 400,000– 70,000 = 330,000

บาท (3) ใหคืนทุนทรัพยซึ่งผูเปนหุนสวนไดลงหุน กรณีนี้ผูเปนหุนสวนลงหุนเทากัน การคิด

ทุนทรัพยก็ตองเฉลี่ยไปสามสวน ดังนั้น การคืนทุนทรัพยของผูเปนหุนสวนแตละคน 330,000 / 3 = 110,000 บาท กรณีตามปญหา นายแดงและผูเปนหุนสวนทั้ง3 คน จะไดเฉลี่ยคืนเปนเงินคนละ 110,000 บาท

กฎหมายพาณิชย 4

Page 20: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

ขอ 19 บริษัททิพยสามัคคี จํากัด มีทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท แบงออกเปน 50,000 หุน ๆ ละ 100 บาท ตอมาบริษัทตองการขยายกิจการใหใหญข้ึน ประธานกรรมการจึงเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อขอมติในการเพิ่มทุน ในที่สุดที่ประชุมคณะกรรมการมีมติเปนเอกฉันทใหเพิ่มทุนของบริษัทได โดยใหเพิ่มทุนดวยวิธีการเพิ่มมูลคาหุนเปนหุนละ 150 บาท ดังนี้ใหทานวินิจฉัยวา ก. การเพิ่มทุนของบริษัททิพยสามัคคีจํากัด โดยอาศัยมติเอกฉันทของคณะกรรมการของบริษัทจะกระทําไดเพียงใด หรือไม ข. การเพิ่มทุนดวยการเพิ่มมูลคาหุนจาก 100 บาท เปน 150 บาท ของบริษัททิพยสามัคคีจํากัด ดังกลาวชอบดวยกฎหมายหรือไม อยางไร เฉลย มาตรา 1220 บริษัทจํากัดอาจเพิ่มทุนของบริษัทขึ้นไดดวยออกหุนใหม โดยมติพิเศษของที่ประชุมผูถือหุน 1) จะเห็นไดวาการเพิ่มทุนของบริษัทจํากัดนั้นจะทําขึ้นไดโดยมติพิเศษของที่ระชุมผูถือหุนเทานั้น กรรมการของบริษัทจะประชุมกันเองระหวางกรรมการดวยกัน แลวลงมติใหเพิ่มทุนของบริษัทจํากัดไมได แมจะมีมติเปนเอกฉันทก็ตาม ตองมีการเรียกประชุมใหญผูถือหุน และมติที่ไดตองเปนมติพิเศษพิเศษดวย จึงจะเปนมติการเพิ่มทุนที่ชอบดวยกฎหมาย ดังนั้น มติการเพิ่มทุนของบริษัททิพยสามัคคีจํากัด ดังกลาวจึงมิใชมติที่ไดมาโดยชอบดวยกฎหมาย 2) การเพิ่มทุนในบริษัทจํากัดทําไดเพียงวิธีเดียว คือการออกหุนใหมโดยมติพิเศษของที่ประชุมผูถือหุน จากโจทกขางตน บริษัททิพยสามัคคีจํากัดเดิมมีทุนจดทะเบียนอยู 5,000,000 บาท แบงเปน 50,000 หุน ๆ ละ 100 บาท หากตองการเพิ่มทุนอีก 2,500,000 บาท บริษัทตองออกหุนใหมอีก 25,000 หุน มูลคาหุนละ 100 บาทเทาเดิม แลวเสนอขายใหแกผูถือหุนทั้งหลายในบริษัทกอนตามสวนจํานวนที่เขาถือหุนอยู จึงเปนการเพิ่มทุนที่ชอบดวยกฎหมาย การเพิ่มทุนโดยการเพิ่มมูลคาหุนจาก 100 บาท เปน 150 บาท จึงเปนวิธีการที่ไมถูกตอง ไมชอบดวยกฎหมาย

Page 21: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

กฎหมายพาณิชย 4

ขอ 20 บริษัทครัวไทย จํากัด ไดทําการควบบริษัทครัวอินเตอร จํากัด เปนที่เรียบรอยแลว บริษัทไมยางไทย จํากัด ผูคาสงกับบริษัทครัวไทย จํากัด ผูเปนเจาหนี้ของบริษัทครัวไทย จํากัด อยูจํานวน 200,000 บาท ไดใชสิทธิทําการคัดคานการควบบริษัทครัวไทย จํากัด แตทําการคัดคานเกินระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด คําคัดคานจึงไมมีผล บริษัททั้งสองจึงควบเขากันโดยดําเนินการในนามของบริษัทครัวอินเตอร จํากัด เมื่อเปนเชนนี้บริษัทไมยางไทย จํากัด จึงเรียกใหบริษัทครัวอินเตอร จํากัด ชําระหนี้ใหกับตน ตามจํานวนที่บริษัทครัวไทย จํากัด เปนหนี้ตนอยู จํานวน 200,000 บาท บริษัทครัวอินเตอร จํากัด ไดปฏิเสธการชําระหนี้ใหแกบริษัทไมยางไทย จํากัด วาเปนหนี้เดิมของบริษัทครัวไทย จํากัด บริษัทครัวอินเตอร จํากัด ไมจําเปนตองรับผิดชอบในหนี้เดิมแตอยางใด ถามวาบริษัทครัวอินเตอร จํากัด จะปฏิเสธการชําระหนี้ใหแกบริษัทไมยางไทย จํากัด ดังกลาวไดหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย ตามปพพ. มาตรา 1243 วางหลักไววา บริษัทใหมนี้ยอมไดไปทั้งสิทธิและความรับผิดบรรดามีอยูแกบริษัทเดิมอันไดมาควบเขากันนั้นทั้งสิ้น จากปญหา บริษัทครัวไทยจํากัด ไดควบเขากับบริษัทครัวอินเตอร จํากัด เปนที่เรียบรอยแลว นั่นหมายถึงการดําเนินกิจการในบริษัทครัวอินเตอรซึ่งใชชื่อเดิมของบริษัทครัวอินเตอรจํากัดนั้น ไดรวมกิจการของบริษัทครัวไทยเขามาดวยทั้งหมด ซึ่งการที่บริษัทครัวไทยมีหนี้อยูกับบริษัทไมยางไทยจํากัด จํานวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถวน) นั้น จะตกมาเปนของบริษัทครัวอินเตอรจํากัดดวย ตามหลักกฎหมายมาตรา 1243 ที่กลาวมาขางตน บริษัทครัวอินเตอรจึงไมอาจปฏิเสธการชําระหนี้ใหแกบริษัทไมยางไทยได ดังนั้น บริษัทครัวอินเตอรจํากัด ไมสามารถปฏิเสธการชําระหนี้ใหแกบริษัทไมยางไทยจํากัดได แตอยางใด

Page 22: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 21 หางหุนสวนสามัญนิติบุคคลไทยเจริญคาวัสดุกอสราง มีผูเปนหุนสวน 2 คน คือ นายไทยและนายเจริญ โดยมีนายไทยเปนผูจัดการ หางหุนสวนประกอบกิจการดวยดีตลอดมาจนถึงยุคเศรษฐกิจตกต่ํา การคาทรุดลง หางฯเปนหนี้บริษัทปูนซีเมนตเปนเงิน 300,000 บาท นายไทยจึงไปกูเงินจากธนาคารเปนเงิน 500,000 บาท ไปชําระหนี้ใหกับบริษัทปูนซีเมนต และที่เหลือนํามาใชเปนทุนหมุนเวียน แตการดําเนินกิจการไมดีข้ึน หางหุนสวนไมมีเงินใชหนี้ธนาคาร ธนาคารจึงเรียกใหนายไทยชําระหนี้ นายไทยปฏิเสธการชําระหนี้โดยใหธนาคารเรียกจากหางหุนสวน เพราะนายไทยกูเงินมาใชในกิจการของหางฯ ทานเห็นวาขออางของนายไทยที่ปฏิเสธการชําระหนี้และใหไปเรียกจากหางหุนสวน เปนขออางที่รับฟงไดหรือไม อยางไร เฉลย ตามปญหานายไทยจะปฏิเสธการชําระหนี้ไมได เพราะหนี้ที่เกิดขึ้นเปนหนี้ของหางหุนสวน อันเปนกิจการที่เปนธรรมดาการคาของหาง และเปนกิจการที่อยูในขอบวัตถุประสงคของหาง เพราะหางประกอบกิจการคาวัสดุกอสราง หางเปนหนี้ในทางการคา คือเปนหนี้บริษัทปูนซีเมนต เปนเงิน 300,000 บาท และเปนหนี้เงินกูธนาคารซึ่งนายไทยไดกูมาใชในกิจการคาที่เปนธรรมดาของหาง ผูเปนหุนสวนทุกคนจึงตองรวมกันรับผิดในหนี้ของหาง ตามที่บัญญัติไวใน ปพพ.มาตรา 1050 วา “การใด ๆ อันผูเปนหุนสวนคนใดคนหนึ่งไดจัดทําไปในทางที่เปนธรรมดาการคาของหางหุนสวน ผูเปนหุนสวนหมดทุกคน ยอมมีความผูกพันในการนั้น ๆ ดวย และจะตองรับผิดชอบรวมกันโดยไมจํากัดจํานวนในการชําระหนี้อันไดกอใหเกิดขึ้นเพราะจัดการไปเชนนั้น” และมาตรา 1070 วา “เมื่อใดซึ่งหางหุนสวนจดทะเบียนผิดนัดชําระหนี้ เมื่อนั้นเจาหนี้ของหางหุนสวนนั้นชอบที่จะเรียกใหชําระหนี้เอาแตผูเปนหุนสวนคนใดคนหนึ่งก็ได” มาตรา 1071 วา “ในกรณีดังกลาวในมาตรา 1070 นั้น ถาผูเปนหุนสวนนําพิสูจนไดวา

1. สินทรัพยของหางหุนสวนยังมีพอที่จะชําระหนี้ไดทั้งหมดหรือบางสวน และ 2. การที่จะบังคับเอาแกหางหุนสวนนั้นไมเปนการยากฉะนี้ไซร

Page 23: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

ศาลจะบังคับใหเอาสินทรัพย ของหางหุนสวนนั้น ชําระหนี้กอนก็ได สุดแตศาลจะเห็นสมควร”

การที่นายไทยจะปฏิเสธการชําระหนี้นั้นไมสามารถทําได แมวาจะเปนการกูเงินมาใชในกิจการของหางอยางถูกตองก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากหางเปนหางหุนสวนสามัญนิติบุคคล ซึ่งมีหลักกฎหมายกําหนดไววา หุนสวนจะตองรับผิดเมื่อหางผิดนัดชําระหนี้ การที่ธนาคารฟองเรียกใหนายไทยชําระหนี้นั้น นายไทยจะปฏิเสธการชําระหนี้จากธนาคารไมไดเพราะกฎหมายใหเจาหนี้มีสิทธิท่ีจะเรียกชําระหนี้แกผูเปนหุนสวนคนใดคนหนึ่งก็ได เวนเสียแตวานายไทยจะนําพิสูจน ไดวา สินทรัพยของหางหุนสวนยังมีพอจะนําชําระหนี้ไดทั้งหมดหรือบางสวนและการจะบังคับเอาไมเปนการยาก เชนนี้ศาลอาจบังคับเอาสินทรัพยของหางชําระหนี้กอนก็ได ดังนั้นนายไทยจะปฏิเสธการชําระหนี้จากธนาคารไมได

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 22 คาวีและนาวินชักชวนสมัครพรรคพวกอีก 5 คน ลงทุนตั้งบริษัทสวรรคเบี่ยงจํากัดขึ้น มีวัตถุประสงคทําฟารมเลี้ยงกุงและสงกุงออกจําหนายยังตางประเทศ หลังจากบริษัทดําเนินการได 5 ป ปรากฏวาขาดทุนมาโดยตลอด นอกจากเพราะขาดความรูความชํานาญในเรื่องการเพาะเลี้ยงและดูแลกุงแลว ตอมารัฐบาลในตางประเทศซึ่งถือวาเปนตลาดใหญในการสงออกกุงของไทยไดมีขอกําหนดออกมากีดกันการนําเขากุงจากประเทศไทยดวย และในปนี้บริษัทตองมามีปญหากับรัฐบาลไทยอีก ในเรื่องผลกระทบของการทํานากุงตอส่ิงแวดลอม คาวี นาวิน และพรรคพวกทุกคนจึงไดปรึกษากันวา เห็นทีบริษัทจะไมมีหวังที่จะกลับฟนตัวได หากฝนทําตอไปจะยิ่งมีหวังถลําลึกเสียหายมากกวานี้ ผูถือหุนทุกคนมีความเห็นตองตรงกันวาตองเลิกบริษัท คาวีแจงตอผูถือหุนทุกคนวาในกรณีเชนนี้ การที่จะเลิกบริษัทไดตองรองขอตอศาลใหศาลสั่งเลิกกอนจึงจะเลิกได แตนายนาวินแยงวา ในเมื่อไมมีผูถือหุนคนใดคัดคาน ก็นาจะเลิกไดโดยไมตองใหศาลสั่ง ทุกคนจึงมาปรึกษาทาน ในกรณีดังกลาวนี้ สามารถเลิกบริษัทดวยวิธีอ่ืนโดยไมตองรองขอตอศาลไดหรือไม อยางไร เฉลย ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 1236 บัญญัติไววา “อันบริษัทจํากัดยอมเลิกกัน ดวยเหตุดังจะกลาวตอไปนี้คือ

1 ถาในบังคับของบริษัทมีกําหนดกรณีอันใดเปนเหตุที่จะเลิกกันเมื่อมีกรณีนั้น 2 ถาบริษัทไดต้ังขึ้นไวเฉพาะกําหนดการใด เมื่อส้ินกําหนดการนั้น 3 ถาบริษัทไดต้ังขึ้นเฉพาะเพื่อทํากิจการอยางหนึ่งอยางใดแตอยางเดียว เมื่อเสร็จการ

นั้น 4 เมื่อมีมติพิเศษใหเลิก

Page 24: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

5 เมื่อบริษัทลมละลาย ตามปญหา กรณีดังกลาวตามโจทยนั้นแมการคาของบริษัททําไปมีแตขาดทุนอยางเดียว

และไมมีหวังจะฟนคืนไดอีกก็ตาม แตเมื่อคาวีและนาวินรวมทั้งผูถือหุนทุกคนมีความเห็นตองตรงกันวา จะเลิกบริษัทโดยไมตองฟองศาล ก็สามารที่จะเลิกได โดยมีมติพิเศษใหเลิก ซึ่งตองไดรับอนุมัติจากที่ประชุมผูถือหุน

สําหรับมติพิเศษใหเลิกบริษัทนั้น ตองกระทําตามที่กฎหมายบัญญัติ คือ มาตรา 1194 โดยจัดใหมีการประชุมผูถือหุนสองครั้ง ในการประชุมคร้ังแรก ที่ประชุมตองมีมติเห็นชอบใหเลิกบริษัทดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในสี่ของผูถือหุนที่เขาประชุม และการประชุมคร้ังที่สอง ที่ประชุมตองมีมติเห็นชอบยืนยันตามมติเดิม ใหเลิกบริษัท ดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสองในสาม และนํามติพิเศษนี้ไปจดทะเบียนก็สามารถเลิกบริษัทได โดยไมตองใหศาลสั่งเลิก

ดังนั้นหากบริษัทสวรรคเบี่ยงตองการเลิกบริษัทโดยไมตองการที่จะไปฟองศาลสั่งใหเลิกโดยตองมีการเรียกประชุมผูถือหุนและขอมติพิเศษจากที่ประชุมตามที่กฎหมายกําหนดไว หากที่ประชุมผูถือหุนมีมติพิเศษใหเลิกบริษัท ก็สามารถที่จะเลิกบริษัทได

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 23 นายฟา นายใส และนายสด ไดรวมหุนกันจัดตั้งหางหุนสวนจํากัดฟาใส เพ่ือประกอบธุรกิจเสื้อผาสําเร็จรูป โดยนายฟา และนายใส ไดลงทุนเปนเงินคนละ 300,000 บาท สวนนายสดเปนหุนสวนจํากัดความรับผิด ลงทุน 200,000 บาท ผูเปนหุนสวนไดต้ังใหนายฟาเปนผูจัดการ หางหุนสวนดําเนินกิจการคาดวยดีตลอดมาจนถึงยุคเศรษฐกิจตกต่ํา การคาฝดเคือง หางหุนสวนเปนหนี้บริษัททอผาเปนเงิน 300,000 บาท บริษัทจึงเรียกใหนายฟาชําระหนี้ นายฟาจึงนําเงินไปชําระหนี้ใหกับบริษัททอผา เมื่อชําระหนี้แลวจึงเรียกใหนายสดชําระชําระหนี้ที่นายฟาจายไป นายสดปฏิเสธการชําระหนี้ โดยอางวาตนเปนหุนสวนจํากัดความรับผิด จะรับผิดในหนี้ที่เกิดขึ้นตอเมื่อหางหุนสวนเลิกจากกันแลวเทานั้น นายฟาจึงมาปรึกษาทานวาขออางของนายสดที่ไมชําระหนี้ดังกลาว ชอบดวยกฎหมายหรือไม เฉลย

ปพพ.มาตรา 1095 วรรคแรก บัญญัติวา “ตราบใดหางหุนสวนจํากัดยังมิไดเลิกกัน ตราบนั้นเจาหนี้ของหางยอมไมมีสิทธิจะฟองรองผูเปนหุนสวนจําพวกจํากัดความรับผิดได

แตเมื่อหางหุนสวนนั้นไดเลิกแลว เจาหนี้ของหางมีสิทธิฟองรองผูเปนหุนสวนจําพวกจํากัดความรับผิดไดเพียงจํานวนดังนี้คือ

Page 25: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

(1) จํานวนลงหุนของผูเปนหุนสวนเทาที่ยังคางสงแกหางหุนสวน (2) จํานวนลงหุนเทาที่ผูเปนหุนสวนไดถอนไปจากสินทรัพยของหางหุนสวน (3) จํานวนเงินปนผลและดอกเบี้ยซึ่งผูเปนหุนสวนไดรับไปแลวโดยทุจริตและฝาฝนตอ

บทมาตรา 1084” และปพพ.มาตรา 1050 “การใดๆอันผูเปนหุนสวนคนไดคนหนึ่งไดจัดทําไปในทางที่เปน

ธรรมดาการคาขายของหางหุนสวนนั้น ทานวาผูเปนหุนสวนหมดทุกคน ยอมมีความผูกพันในการนั้น ๆ ดวยและจะตองรับผิดรวมกันโดยไมจํากัดจํานวนในการชําระหนี้อันไดกอใหเกิดขึ้น เพราะจัดการไปเชนนั้น”

ตามปญหา ฟา ใส และสด ไดเขาหุนกันจัดตั้งเปนหางหุนสวนจํากัดฟาใสขึ้น ดําเนิน

ธุรกิจคาเสื่อผาสําเร็จรูปโดยมีฟาและใสเขาหุนคนละ 3 แสนบาทและเปนหุนสวนประเภทไมจํากัดความรับผิด สวนสดนั้นลงหุนดวย 2 แสนบาทและเปนหุนสวนประเภทจํากัดความรับผิด โดยมีฟาเปนหุนสวนผูจัดการ ฟาก็ดําเนินกิจการของหางหุนสวนมาดวยดี จนเศรษฐกิจฝดเคืองปรากฏวาหางหุนสวนเปนหนี้บริษัททอผาเปนเงิน 3 แสนบาท ตามหลักกฎหมายที่กําหนดไวนั้นการใดที่ทําเปนธรรมดาการคาของหางนั้นหุนสวนทุกคนตองรวมรับผิด ดังนั้นการที่ฟาซึ่งเปนหุนสวนผูจัดการนั้นไดดําเนินกิจการที่เปนธรรมดาการคาของหาง จึงผูกพันผูเปนหุนสวนทุกคนและเมื่อบริษัทมาเรียกใหฟาชําระหนี้ 3 แสนนั้น ฟาก็ไดชําระหนี้ดังกลาวใหบริษัททอผาเปนการถูกตองแลว

สําหรับฟาเมื่อชําระหนี้แลวมาเรียกใหสดรวมชําระหนี้ที่ตนไดชําระไปแลว ปรากฏวาสดไดปฏิเสธการชําระหนี้ที่ฟาไดชําระไปแลว โดยอางวาผูเปนหุนสวนที่จํากัดความรับผิดจะรับผิดตอเมื่อหางแลวนั้น ตามหลักกฎหมายเปนเรื่องที่จะปฏิเสธตอเจาหนี้ที่จะมาเรียกชําระหนี้กับหุนสวนที่จํากัดความรับผิด แตกรณีนี้เปนเรื่องที่มิใชเปนเรื่องการที่ปฏิเสธการชําระหนี้จากเจาหนี้แตอยางใด แตเปนเรื่องที่หุนสวนเรียกใหหุนสวนชําระหนี้ที่ไดชําระไปแลว คือรวมกันรับผิดในกิจการของหางนั่นเอง

ดังนั้นสดจะปฏิเสธการเรียกชําระหนี้จากฟาไมได ถือวาตองมีสวนรวมรับผิดในหนี้ที่หาง

หุนสวนไดดําเนินการไป โดยรับผิดเทาที่ตนเองยังคางชําระหุนตามที่ตนไดแสดงเจตนาลงทุนไวคือ 2 แสนบาท หากสดไดนําเงินมาลงทุนกับหางไวครบ 2 แสนบาทแลว เชนนี้ สดก็ไมตองรับผิดอีกแตอยางใด เพราะสดเปนหุนสวนที่จํากัดความรับผิด

Page 26: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

ขอ 24 เกา ชิน เคน ชาติ แครี่ สมิง และโมนิการ ลงทุนตั้งบริษัทประเทืองจํากัดขึ้น มีวัตถุประสงคทําฟารมเลี้ยงกุง และสงกุงออกจําหนายยังตางประเทศ หลังจากดําเนินการมาได 6 ป ปรากฏวาขาดทุนมาโดยตลอด นอกจากไมมีความรูและความชํานาญในเรื่องการเพาะเลี้ยงและดูแลกุงเพียงพอแลว ตอมารัฐบาลในบางประเทศซึ่งถือวาเปนตลาดใหญในการสงออกกุงของไทย ไดมีขอกําหนดออกมากีดกันการนําเขากุงของไทยดวย และในปนี้บริษัทก็มามีปญหากับรัฐบาลไทยอีกเกี่ยวกับการทําลายสิ่งแวดลอมอันเนื่องมาจากการทํานากุง แครี่ สมิง และโมริการเห็นวาในภาวะที่เกิดวิกฤตการณทางเศรษฐกิจเชนนี้หากฝนดําเนินกิจการของบริษัทตอไปก็ไมมีทางฟนตัวได ยิ่งถลําลึกลงไปในอนาคตก็ยิ่งมืดมน และอาจถูกรัฐดําเนินคดีเพราะปญหาทําลายสิ่งแวดลอมดวย จึงเห็นสมควรจะเลิกบริษัทในตอนนี้กอนที่จะตองฆาตัวตายตามแฟชั่น แตเกา ชิน เคนและชาติไมเห็นดวย และเชื่อวาปาฏิหาริยยอมเกิดขึ้นไดเสมอ หากดิ้นรนทนสูตอไปอาจโชคดีก็ได ทั้งสองฝายตางถกเถียงโตแยงกันจนถึงขั้นทะเลาะวิวาท แตฝายแครี่สูไมไดเพราะมีเพียง 3 เสียง สวนฝายเกามีถึง 4 เสียง แครี่ สมิง และโมนิการ จึงมาปรึกษาและขอความรูจากทานวา การที่จะเลิกบริษัทโดยขอใหศาลสั่งนั้นมีกรณีใดบาง และหากพรรคพวกของตนตองการที่จะเลิกกิจการของบริษัทประเทืองจํากัดโดยรองขอตอศาลนั้นจะสามารกระทําไดหรือไม เฉลย ตามปพพ.มาตรา 1237 บัญญัติไววา “นอกจากนี้ศาลอาจสั่งใหเลิกบริษัทจํากัดดวยเหตุตอไปนี้ คือ

(1) ถาทําผิดในการยื่นรายงานประชุมต้ังบริษัท หรือทําผิดในการประชุมต้ังบริษัท (2) ถาบริษัทไมเร่ิมทําการภายในปหนึ่งนับแตวันจดทะเบียนหรือหยุดทําการถึงหนึ่งปเต็ม (3) ถาการคาของบริษัททําไปก็มีแตขาดทุนอยางเดียวและไมมีทางหวังจะกลับฟนตัวได (4) ถาจํานวนผูถือหุนลดนอยลงจนเหลือไมถึงเจ็ดคน

…………………” ตามปญหา

Page 27: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

เกา ชิน เคน ชาติ แครี่ สมิง และโมนิการ ไดจัดตั้งบริษัทประเทืองจํากัด ทําฟารมกุงและสงกุงจําหนายยังตางประเทศ ปรากฏวาบริษัทดําเนินการขาดทุนมาโดยตลอด ยิ่งมาเจอสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทําใหผูถือหุนกลุมหนึ่งคิดวานาจะเลิกบริษัทจะดีกวาคือกลุมของ แครี่ สมิง และโมนิการ สําหรับอีกกลุมเห็นวานาจะยังสูตอไป อาจจะมีปาฏิหารยก็ไดก็คือกลุมของ เกา ชิน เคน และชาติ ทั้งสองฝายหาขอยุติไมได ฝายของแครี่ซึ่งมีเพียง 3 เสียง จึงมาปรึกษาวาจะเลิกบริษัทโดยการรองขอตอศาลนั้นสามารถทําไดหรือไม จากกรณีดังกลาว เมื่อวิเคราะหสถานการณจากสภาพของการดําเนินการของบริษัทแลวจะเห็นไดวาบริษัทขาดทุนมาโดยตลอดและโอกาสฟนตัวนั้นไมมีหวังจะกลับฟนได จะฟนไดก็โดยปาฏิหารยเทานั้น จากหลักกฎหมายมาตรา 1237 (3) นั้นใหใชสิทธิในการที่หุนสวนจะรองขอตอศาลใหศาลสั่งยกเลิกบริษัทได เพราะบริษัทประเทืองจํากัดขาดทุนมาโดยตลอดและไมมีหวังที่จะฟนได จึงเปนสาเหตุที่จะเลิกบริษัทได ดังนั้น แครี่ สมิง และโมนิการ สามารถที่จะรองขอตอศาลใหศาลสั่งเลิกบริษัทประเทืองจํากัดไดโดยพิสูจนใหศาลเห็นถึงการที่บริษัทขาดทุนมาโดยตลอด อีกทั้งยังไมมีโอกาสที่จะกลับฟนข้ึนมาไดแตอยางใด ตามมาตรา 1237 (3)

กฎหมายพาณิชย 4 ขอ 25 ดิเรก ธงชัย และเพื่อนรวม 7 คน ไดกอต้ังบริษัทน้ําใสจํากัดเพื่อผลิตและจําหนายน้ําดื่ม เมื่อจดทะเบียนหนังสือบริคณหสนธิแลว จึงจําหนายหุน กอนจําหนายหุน ดิเรก ธงชัย และเพื่อน ไดมาปรึกษาหารือกันวาน้ําดื่มกําลังเจาะตลาดไดดีมาก จึงนาจะจําหนายหุนในราคา หุนละ 120 บาท จากราคามูลคาหุนที่จดทะเบียนไวในราคา 100 บาท เมื่อจําหนายหุนไดครบหมดแลว ปรากฏวานายสมบูรณผูเขาชื่อซื้อหุนที่จําหนายจํานวน 1,000 หุน ไดทราบความจริงวาจําหนายในราคาที่สูงกวามูลคาหุนที่กําหนดไว จึงมาทวงติงดิเรกวาการจําหนายหุนในราคา 120 บาท จากที่

Page 28: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายพาณิชย์ 4  หุ้นส่วน บริษัท

จดทะเบียนไวในราคามูลคาเพียง 100 บาทนั้นเปนการกระทําที่ไมถูกตอง ขอใหดําเนินการแกไขใหถูกตอง อยากทราบวาการที่ดิเรก ธงชัย และเพื่อน ที่จําหนายหุนในราคา 120 บาทเปนการกระทําที่สามารถกระทําไดหรือไม อยางไร เฉลย ต า ม ป พ พ .ม า ต ร า 1105 ว ร ร ค ส อ ง บั ญ ญั ติ ไ ว ว า “………………………………………………. การออกหุนในราคาที่สูงกวามูลคาหุนที่ต้ังไวนั้น หากวาหนังสือบริคณหสนธิใหอํานาจไวก็ใหออกได และในกรณีเชนนั้นตองสงใชจํานวนที่ลํ้ามูลคาพรอมกันไปกับการสงใชเงินคราวแรก …………………………………………………”