16
ปีท่ 9 ฉบับที่ 144 FREE COPY 2549 2/1 1 . . . 80000 ประจำเดือนมีนาคม 2556 ว่า...ฉอฉิ่ง ตีดัง... ช.ช้าง วิ่งหนี... RADIO COMMUNITY 93 MHz. ช.ช้าง วิ่งหนี ช.ช้าง วิ่งหนี (คุยกับ กอง บก. น. 3) (คุยกับ กอง บก. น. 3)

นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

Embed Size (px)

DESCRIPTION

หนังสือพิมพ์นครโพสต์ ฉบับที่ ๑๔๔ ปีที่ ๙ ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

Citation preview

Page 1: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPY เดือนมีนาคม 2556 �ปีท

ี่ 9 ฉ

บับที่

144

FREE COPY

2549 2/1 1 .. . 80000

ประจำเดือนมีนาคม 2556

ว่า...ฉอฉิ่งตีดัง...

ช.ช้า

ง วิ่ง

หนี...

RAD

IO C

OMM

UNIT

Y

9

3 M

Hz.

ช.ช้าง วิ่งหนีช.ช้าง วิ่งหนี(คุยกับ กอง บก. น. 3)(คุยกับ กอง บก. น. 3)

Page 2: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPYเดือนมีนาคม 2556�

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 25 ก.พ. 2556 ที่มลฑลพิธีศาลาประดู่หก ริมถนนราชดำเนิน ตรงข้ามสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ จิวะ-รังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิดขบวน “แห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร” ประจำปี 2556 โดยมีนายพิชัย บุณย-เกียรติ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตัวแทนพระภิกษุสงฆ์ และประชาชนจากทุกภูมิภาคของประเทศไทยและจาก 11 ชาติในเอเชีย เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง ในขณะที่ริ้วขบวนแห่ผ้าพระบฏในปีนี้มากเป็นประวัติการณ์กว่า 50 ริ้วขบวน รวมทั้งผ้าพระบฎพระราชทาน 3 ผืนประกอบด้วยผ้าพระบฎพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีการจัดริ้วขบวนผ้าพระบฎพระราชทานไว้หลังสุด ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช กล่าวรายงานว่า ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เป็นประเพณีสำคัญของชาวนครศรีธรรมราช ซึ่งเกิดขึ้นและสืบเนื่องมาอย่างยาวนาน 783 ปี โดยตามตำนานระบุว่า ในปี พ.ศ. 1773 ขณะที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช กษัตริย์ของนครศรีธรรมราช กำลังสมโภชพระบรมธาตุเจดีย์อยู่นั้น ชาวเมืองอินทรปัตย์ ซึ่งกำลังเดินทางไปนมัสการพระธาตุที่ศรีลังกา ได้ถูกพายุพัดจนเรือแตก มีผู้รอดชีวิตราว 10 คน มาขึ้น

พระมหาธาตุวรมหาวิหาร แต่ท้ายขบวนยังอยู่ที่สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราชอีกจำนวนมาก ในขณะที่สองข้างทางมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติรอชมขบวนแห่ผ้าขึ้นธาตุอย่างเนืองแน่น และต่างตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของขบวนแห่ผ้าขึ้นธาตุ ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชม.ริ้วขบวนแห่ผ้าขึ้นธาตุจะแห่ไปถึงมลฑลพิธีวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จากนั้นนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ได้เป็นประธานประกอบพิธีถวายผ้าพระบฎเป็นพุทธบูชา โดยมีพระเทพวินยาพร เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานสงฆ์ หลังเสร็จสิ้นพิธีถวายผ้าพระบฎเป็นพุทธบูชา นายวิโรจน์ และหัวหน้าส่วนราชการเป็นตัวแทนและนำผ้าพระบฎพระ-ราชทาน ขึ้นไปโอบห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จากนั้นจะมีพีธีเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในค่ำคืนวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2556 มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและกราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ร่วมแสนคน โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 24 ก.พ. 2556 ถนน

ทุกสายในตัวเมืองนครศรีธรรมราชกลายเป็นอัมพาตไปโดยปริยาย โดยเฉพาะภายในบริเวณวัดพระมหา-

ธาตุวรมหาวิหาร วัดหน้าพระบรมธาตุ รวมทั้งวัดในบริเวณใกล้เคียง

คลาคล่ำไปด้วยฝูงชน จนในที่สุด พล.ต.ต.

รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นคร ศรีธรรมราช ได้ สั่งระดมตำรวจ

จาก สภ.ใกล้เคียงมาอำนวยความสะดวก

ด้านการจราจรและรักษา

พุทธศาสนิกชนร่วมแสนแห่ร่วมประเพณี

“แห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร”

พุทธศาสนิกชนร่วมแสนแห่ร่วมประเพณี

“แห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร”

ฝั่งที่เมืองปากพนัง พร้อมด้วยผ้าขาวผืนยาวมีภาพพุทธประวัติเขียนไว้ เรียกกันว่า “ผ้าพระบฏ” ชาวเมืองปากพนังจึงนำมาถวายพระเจ้าศรี-ธรรมาโศกราช และพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้โปรดให้นำผ้าดังกล่าวขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวัน “วิสาขบูชา” ตั้งแต่นั้นมาจึงทำต่อเนื่องกันจนกลายเป็นประเพณีสืบมาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงหลังการจัดงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ประสบปัญหาเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน การสัญจรเดินทางมาร่วมกิจกรรมของประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก จังหวัดนครศรีธรรมราชจึงหันมาเน้นจัดประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือ “วันมาฆบูชา”แทน แต่ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันวิสาขบูชาก็ยังมีการจัดกิจกรรมแห่ผ้าขึ้นธาตุอยู่เช่นกัน โดยในปี 2553 นายสุเทพ เกื้อสังข์ ผอ.ททท.นครศรีธรรมราชได้ยกระดับประเพณี “แห่ผ้าขึ้นธาตุเมืองนคร”เป็นประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร” มาจนถึงปัจจุบัน ทางด้านนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ กล่าวว่า คลื่นมหาชนชาวพุทธจากทั่วโลกนับหมื่นนับแสนคนที่หลั่งไหลมาร่วมประเพณี “มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร” และได้สัมผัสกับความอัศจรรย์ด้วยตัวเอง โดยฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2556 แต่เมื่อถึงช่วงประกอบพิธีเปิดฝนหยุดตกขาดเม็ด ท้องฟ้าแจ่มใสได้ อย่างไม่น่าเชื่อ นี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่า “พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชเป็นโบรานสถานที่สำคัญของพุทธศาสนา ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วโลกอย่างแท้จริง หลังจากนั้นนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ได้ลั่นฆ้องเปิดริ้วขบวน “แห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร” โดยริ้วขบวนทยอยเดินแห่ผ้าพระบฎไว้เหนือศีรษะต่อเนื่องยาวเหยียดไปตามถนนราชดำเนิน มุ่งสู่วัดพระมหา-ธาตุวรมหาวิหาร สถานที่ประดิษฐานองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ระยะทางยาวกว่า 3 กม. แม้หัวขบวนจะแห่ผ้าพระบฎไปถึงยังมลฑลพิธีภายในวัด

ความสงบเรียบร้อย ในขณะที่ได้เกิด ฝนตกกระหน่ำอย่างหนักมาตั้งแต่เวลา ประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 24 ก.พ.

2556 และตกหนักติดต่อกันกว่า 24 ชั่วโมง ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าจะไม่

สามารถจัดกิจกรรมขบวน “แห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร”ได้โดยสะดวก แต่ก่อนจะ

ถึงเวลากำหนดพิธีเปิดขบวนแห่ผ้าขึ้นธาตุ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เริ่มเบาบางลงเหลือตกโปรยปราย ขบวนแห่ทั้งหมดจึงเดินทางไปรวมตัวกันในสนามหน้าเมืองและศาลาประดู่หกเพื่อจัดริ้วขบวน จนกระทั้งในเวลา 15.30 น. นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เดินออกจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับศาลาประดู่หก ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องหยุดตกขาดเม็ด ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างน่าอัศจรรย์ และตลอดเวลากว่า 3 ชั่วโมงของขบวนแห่ผ้าพระขึ้นธาตุ รวมทั้งการประกอบพิธีถวายผ้าพระบฎเป็นพุทธบูชา การนำผ้าพระบฎขึ้นโอบห่มองค์พระบรมธาตุ ไม่มีฝนตกลงมาแม้แต่น้อย ทำให้ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนครศรีธรรมราช ในปีนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และเมื่อพุทธศาสนิกชนร่วมกันเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเสร็จสิ้น ฝนเริ่มตกโปรยปรายลงมาและตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมกิจกรรมและสัมผัสกับเหตุการณ์ด้วยตัวเองพากันยกมือไหว้ท่วมหัวและวิพากวิจารณ์ว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้เพราะบารมีของพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ที่กำลังจะได้รับการพิจารณาประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน.

Page 3: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPY เดือนมีนาคม 2556 �

เขียนที่ ริมคลองเขาหลวง ถึง พี่ช้างป่างาเดียว ถึงพี่ช้างป่างาเดียว เมื่อวันก่อนผมถูกบังคับให้ไป ลากไม้ยางพาราริมเขาหลวง ได้ยินเจ้านายพูดกันว่า มีช้างป่ามาจากกรุงชิง มีลักษณะงาเดียว และมีประมาณสิบตัว กำลัง ลงมาหากินอยู่แถวบ้านวังลุง และที่ผมกลัวมากก็คือเจ้านาย พูดว่าช้างฝูงนี้มีงาสวยหลายตัว และมีลูกช้างกำลังดีน่าจับมา ฝึกหัด เพื่อเอาไว้ลากไม้ ผมยังนึกถึงวันที่ผมหากินอยู่กับพี่ที่ป่ากรุงชิงเมื่อสามสิบปีก่อน ตอนนั้นผมอายุห้าปี ส่วนพี่อายุแปดปี ขณะนั้นมี พวกเจ้านายเข้ามาใช้กระบอกเหล็กยิงใส่ผม ทำให้ผมหมดแรงล้มพับสลบไป ก่อนผมสลบยังมองเห็นพี่เข้ามา พยายามช่วยเหลือผม แต่ในที่สุดพี่ต้องเสียงาข้างหนึ่งไป ถึงเวลาผ่านมาสามสิบปี ผมยังจำพี่ได้ แต่ผมยังคำนึงถึงพี่น้องเราอยู่เสมอ สามสิบปีที่ผมอยู่กับเจ้านายที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์ มีแต่ความลำบาก โหดร้าย ต้องทำงานเกือบทุกวัน และผมยัง เจอพี่น้องเราที่ถูกจับมาจากป่าเขาหลวงเป็นประจำ และได้ยิน เจ้านายพูดกัน ว่าต้องเอาไปสวมตั๋วหรือขึ้นทะเบียนก่อน หลัง จากนั้นค่อยฝึกให้ทำงาน ผมอยากเตือนพี่ให้พาพี่น้องเราหลบ หนีเข้าป่าลึกไปให้ไกลจากพวกมนุษย์ เพราะพวกมนุษย์มีวิธีการ มีอาวุธมากมายที่จะจัดการกับพวกเรา และผมยังเห็น พวกเราล้มลงทุกปีตัวแล้วตัวเล่า เพราะถูกบังคับให้ทำงานหนัก บางครั้งพวกมนุษย์เอายาชนิดหนึ่ง เรียกว่า ยาบ้า มากิน และหลายครั้งยังบังคับให้พวกเรากินด้วย หลังจากกินแล้ว บังคับให้พวกเราทำงานทั้งกลางวันกลางคืน และผมยัง ได้ยินเจ้านายพูดว่า ไอ้งาเดียวมีงาสวยงาม ถ้าสามารถเอางา มันมาได้ คงขายได้ราคาหลายแสน ผมอยากพบพี่... อยากกลับไปอยู่กับพี่น้อง แต่หมดโอกาส ถ้าพี่ได้อ่านจดหมายนี้ก็ขอให้พี่เชื่อผม ให้พาพี่น้อง กลับเข้าป่าลึกไปให้ไกล อย่าเข้ามาใกล้พวกมนุษย์ ถ้ามี โอกาสผมจะพยายามหาหนทางกลับไปอยู่กับพวกพี่ให้จงได้

จาก...น้องช้างบ้าน

จดหมาย...

เกียรติยศและศักดิ์ศรีของท้องถิ่น

เจ้าของ : สหกรณ์ผู้สื่อข่าวจังหวัด นครศรีธรรมราชประธานที่ปรึกษา : ดร.เพ็ญพร เกตุชาติคณะที่ปรึกษา : ดร.กณพ เกตุชาติ, ภาวินทร์ ณ พัทลุง มานะ นวลหวาน, อครพล หนูทวี, สุทัศน์ เดชเดโช, ฉัตรชัย อรุณสุวรรณกร, ด.ต.นิรภัฏ วัฒนประเสริฐกุล, ดร.ณัฐวุฒิ ภารพบผู้อำนวยการ : สุรโรจน์ นวลมังสอที่ปรึกษากฎหมาย : สมชาย ฝั่งชลจิตรบรรณาธิการที่ปรึกษา : เลิศ อักษรนิตย์ สาธิต รักกมลบรรณาธิการอาวุโส : จำลอง ฝั่งชลจิตร

เกียรติยศและศักดิ์ศรีของท้องถิ่น

บรรณาธิการบริหาร : สุรโรจน์ นวลมังสอบรรณาธิการ : ณรงค์ ธีระกุลหัวหน้ากองบรรณาธิการ : ไพฑูรย์ อินทศิลากองบรรณาธิการ : กฤษณะ จุติแสวง จอม กิจวิบูลย์ ณัฏฐ์ ธีระกุล ณัฐชนา ฤทธิผลรูปเล่ม/จัดหน้า : เมาลิด จิตต์ประไพยหัวหน้าฝ่ายโฆษณา : จรินท์พร บุญชักฝ่ายโฆษณา : ปราณี กาญจนโรจน์การเงิน/ธุรการ : ปราณี กาญจนโรจน์แยกสี-พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์เม็ดทราย ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โทร. 0-7534-1475, 08-1892-5960สำนักงานหนังสือพิมพ์นครโพสต์ : เลขที่ 2/1 ซ.อัศวรักษ์ 1 ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 80000 โทร. 0-7532-0227 email : [email protected]

จดหมาย...จากน้องช้างบ้าน ถึงพี่ช้างป่างาเดียว

ชว่งเดือนที่ผ่านมามีปรากฏการณ์เกี่ยวกับช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมืองประเทศไทย เกิดขึ้นมากมาย ทั้งกรณีการล่าช้างเอางา จับลูกช้างป่าเพื่อนำมาสวมทะเบียนเป็นช้างบ้าน การไล่ล่าโขลงช้างจากฝั่งลาวจนต้องกระเซอะกระเซิงว่ายน้ำหนีตายข้ามเข้ามาในฝั่งไทย ไล่ไปจนกระทั่งองค์กรระดับโลกตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธ์ หรือ ไซเตส (CITES) เคลื่อนไหวกดดันให้ประเทศไทยใส่ใจและจริงจังในทางปฏิบัติ เพื่อหยุดยั้งการลักลอบค้างาช้าง ในฐานะที่ปี ๒๕๕๖ นี้ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมไซเตส

บ้านเรานครศรีธรรมราช ก็มีเรื่องช้างป่า และช้างบ้านเกิดขึ้นเช่นกัน และทางสำนักข่าวนครโพสต์เชื่อมั่นว่า เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งชุมชน ท้องถิ่น และหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้ามาช่วยกันทำงานทั้งแก้ปัญหาและอนุรักษ์ไว้ซึ่งเพื่อนร่วมโลก ที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์

นับย้อนไปประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ชาวชุมชนย่านเขาหลวง นบพิตำ กรุงชิง ในเขียว วังลุง พรหมคีรี ได้ประสบพบเจอกับโขลงช้างป่าประมาณมีต่ำกว่า ๑๐ ตัว ที่ตระเวนลงมาหากินในพื้นที่สวนยาง สวนผลไม้ ของชาวบ้านในย่านนั้น และเริ่มส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพวกเขา เพราะนอกจากผลหมากรากไม้อันเป็นอานิสงค์จากอาชีพจะถูกบุกรุกทำลายแล้ว ความหวาดหวั่นต่ออันตรายต่อชีวิตก็เป็นประเด็นสำคัญ

เมื่อเหตุเกิดขึ้น ก็จำเป็นที่ชาวชุมชนในพื้นที่จะต้องหาทางแก้ปัญหา แต่การฆ่าช้าง สัตว์คู่บ้านคู่เมือง เพียงเพื่อป้องกันไม่ให้ก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะฉะนั้น คำถามสำคัญที่ต้องช่วยกันตอบคือ จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้คนกับช้างแห่งเทือกเขาหลวงโขลงนี้ ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ในบรรยากาศเฉพาะหน้า การรวมตัวกันของชาวบ้านวังลุง พรหมคีรี และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เพื่อขับไล่โขลงช้าง ให้กลับไปสู่ถิ่นหากินบนเทือกเขาหลวง ด้วยหลากหลายวิธีการ ก็ได้ผลเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ให้หลังเพียงไม่กี่เดือน โขลงช้างป่าก็กลับลงมาหาอาหารในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านในย่านเขาหลวงอีกครั้ง และทำท่าว่าจะยึดเป็นพื้นที่หากินโดยถาวร

สมมุติฐานที่มีน้ำหนักและน่าจะ เป็นทางออกของการแก้ไขปัญหาพร้อมๆ ไปกับการอนุรักษ์โขลงช้างแห่งเทือก เขาหลวงโขลงนี้ก็คือ ถ้าหากพื้นที่ หากินเดิมของโขลงช้างบนเทือกเขา หลวงมีอันต้องหดแคบลงหรือแหล่ง อาหารเดิมไม่ อุดมสมบูรณ์เหมือนที่ เคยเป็น โขลงช้างก็ต้องดิ้นรนหาแหล่ง อาหารเพิ่ม พื้นที่ทำกินของชาวบ้านย่าน เขาหลวงก็คือเป้าหมาย ในทางกลับกัน ถ้าจะอนุรักษ์โขลงช้างนี้ไว้ ก็ต้องเพิ่มแหล่งอาหารในพื้นที่ป่าบนเทือกเขาหลวงให้อุดมสมบูรณ์เพียงพอ

ตลอดระยะเวลาที่เกิดปัญหาโขลงช้างแห่งเทือกเขาหลวง ลงมาหากินในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านย่านเขาหลวง มีความพยายามจากผู้เกี่ยวข้องทั้ง ชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน ฯลฯ เพื่อหาทางออกร่วมกันทั้งการแก้ปัญหาและการอนุรักษ์โขลงช้างไว้ให้อยู่คู่กับพื้นที่ให้ได้โดยไม่ก่อความเดือดร้อนแก่กันและกัน ซึ่งเป็นที่มาของการเพิ่มพื้นที่แหล่งอาหารให้โขลงช้าง ด้วยการปลูกหญ้าเนเปียร์ยักษ์ในพื้นที่ราบบนหุบเขา บริเวณต้นแม่น้ำตาปี เขตรอยต่อ อ.พรหมคีรี และ อ.พิปูน เนื้อที่กว่า ๑,๐๐๐ ไร่ โดยจะเริ่มลงมือปลูกให้เร็วที่สุด และต้องให้เสร็จทันก่อนฝนจะมาในช่วงเดือนแปด เพื่อตัดเงื่อนไขอุปสรรคเรื่องการเดินทาง...

สำนักข่าวนครโพสต์ ขอเป็นสื่อกลางในการบอกกล่าว และเชิญชวนประชาชนฅนคอน ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับภารกิจอนุรักษ์โขลงช้างป่าแห่งเทือกเขาหลวง ด้วยการปลูกหญ้าเนเปียร์ยักษ์ เพื่อให้คนรุ่นต่อไปได้เห็นและเข้าใจ ยามเมื่อท่องจำพยัญชนะไทย ช.ช้างวิ่งหนี...

ช.ช้าง ...วิ่งหนี...

“...ถ้าจะอนุรักษ์โขลงช้างนี้ไว้ ก็ต้องเพิ่มแหล่งอาหาร

ในพื้นที่ป่าบนเทือกเขาหลวงให้อุดมสมบูรณ์เพียงพอ...”

Page 4: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPYเดือนมีนาคม 2556�

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2556 นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานโครงการจัดสร้างราชรถเพื่อใช้ในการประกอบพิธีสำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมคณะสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการจัดสร้างราชรถ ที่บ้านของนายไพโรจน์ มาทยาวุฒิ หรือ “ช่างแก้ว เมืองคอน” ภายในซอยคลองห้วย 2 ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบนายไพโรจน์กำลังเร่งแกะสลักในส่วนของพญานาคโดยต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เพราะในขั้นตอนนี้จะต้องทำการแกะจากไม้ทั้งแผ่น โดยไม้ที่นำมาสร้างพญานาคเป็นไม้จำปา และเป็น

ขั้นตอนที่ล่าช้ามากเพราะนายไพโรจน์ ต้องนั่งแกะสลักด้วยมืออย่างละเอียด ประณีตทุกขั้นตอน นายไพโรจน์ มาทยาวุฒิ กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากแนวคิดของนายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้เริ่มต้นโครงการพระบรมธาตุสู่มรดกโลก ที่มาพบตนจัดสร้างราชรถให้กับจังหวัดตราดเมื่อปี 2555 ซึ่งนายไพฑูรย์ เห็นว่าจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ โดยมีการจัดงานประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาตลอดทั้งปี อาทิ วิ่งข้ามปีบูชาพระบรมธาตุเจดีย์

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 9 มี.ค.56 นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในขณะนี้จังหวัดนครศรี-ธรรมราชมีนโยบายที่สำคัญที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยใช้พลังจากคนในหมู่บ้าน/ชุมชน ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องพร้อมๆ กันทั้งจังหวัดมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหายาเพสติดอย่างยั่งยืน “เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมาตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี นายอำเภอพรหมคีรี นายสันติ ศรีเมือง นายก อบต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรีพ.ต.อ.บุญมี ศริปาลกะ ผกก.สภ.พรหมคีรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด อำเภอ ได้เดินทางไปร่วม กิจกรรมสรุปถอดบทเรียน“เดินเท้า 800 กม. จากเขาหลวงสู่เมือง” ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้การนำของนายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ “ข้าราชการไทยใจสีขาว” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ศาลากลางหมู่บ้านเก้ากอ หมู่ที่ 1 ตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่ารา ชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมกันถอดบทเรียนและสรุปผลการขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยการจัดกิจกรรมเดินเท้า 800 กม. จากเขาหลวงสู่เมืองหลวง”ระหว่างวันที่ 20 ม.ค. -13 ก.พ. 2556 ที่ผ่านมา เพื่อรณรงค์จุดกระแสคนในสังคมให้ร่วมกันต่อสู้เอาชนะยาเสพติด และสานต่อนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม “ซึ่งการจัดกิจกรรมถอดบทเรียน “เดินเท้า 800 กม. จากเขาหลวงสู่เมืองหลวง” ครั้งนี้เพื่อนำปัญหา อุปสรรค และความสำเร็จจากการจัดกิจกรรมมาขยายผล สร้างแนวร่วม และขยายเครือข่ายในทุกพื้นที่ทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราช และขยายผลไปทั่วประเทศต่อไป ตนมองว่าพื้นฐานการปฏิบัติงานที่ดีและประสบผลสำเร็จนั้นชุมชน/สังคมจะต้อง

มีปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ 1.ต้องมีกองกำลัง หมายถึงกำลังพลหรือทีมงานสนับสนุนที่ดี และ 2.ต้องมีใจ คือมีกำลังพลร่วมปฏิบัติงานที่มีอุดมการณ์เข้มแข็ง และมีปัจจัยสนับสนุน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดต้นแบบในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยใช้พลังชุมชน โดยมีหมู่บ้านประชาธิปไตยต้านภัยยาเสพติด เป็นตัวขับเคลื่อนจุดกระแสคนในสังคมให้มีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และเพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด ตนจึงได้มีคำสั่งให้มีการจัดตั้ง “สมัชชาหมู่บ้าน/ชุมชน ต้านยาเสพติดขึ้นทั่วจังหวัด และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่โดยรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 14.3 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานสมัชชาหมู่บ้านในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวของประเทศที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว” นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ กล่าวในที่สุด.

รัฐบาลทุ่มงบประมาณ 14.3 ล้านตั้ง“สมัชชาต้านยาเสพติด”เมืองคอน

มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติ มหาสงกรานต์แห่นางดานเมืองนคร สัปดาห์วิสาขบูชา แห่เทียนพรรษาเข้าพรรษา เทศกลางบุญสารเดือนสิบ อาสาฬหบูชาออกพรรษา ชักพระ และประเพณีให้ทานไฟ โดยแต่ละกิจกรรมมีการนำสิ่งของที่สำคัญ เช่น พระพุทธสิหิงค์ ผ้าพระบฎพระราชทาน หฺมฺรับพระราชทาน เทียนพรรษาพระราชทาน เป็นต้น มาประกอบในพิธี ซึ่งที่ผ่านมามักจะใช้รถยนต์เป็นที่ประดิษฐานสิ่งของที่สำคัญดังกล่าว ซึ่งชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชเห็นว่าไม่เหมาะสมไม่สมเกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นเมืองนครศรีธรรมราช “จึงได้ร่วมกับชมรมอนุรักษ์ประเพณีคลองห้วย-โพธิ์เสด็จ จัดทำโครงการจัดสร้างราชรถเพื่อไว้ในพิธีสำคัญดังกล่าวขึ้น โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการจัดสร้าง 400,000 บาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายพิชัย บุณยเกียรติ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช จัดงบประมาณประจำปี 2556 ให้จำนวน 300,000 บาท จึงต้องจัดหางบประมาณเพื่อการนี้อีก 100,000 บาท และเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้จัดกิจกรรมแข่งขันนกกรงหัวจุกการกุศลขึ้นเพื่อหารายได้สมทบทุนจัดสร้างราชรถ ได้รายได้มา 20,000 บาท สำหรับประชาชนทั่วไปที่อยากจะร่วมสมทบทุนในการจัดสร้างราชรถ ในครั้งนี้ติดต่อบริจาคได้ที่นายไพฑูรย์ อินทศิลา โทร. 081-6761299 หรือ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชีนายไพฑูรย์ อินทศิลา เลขบัญชี 553-255868-4”. นายไพโรจน์ มาทยาวุฒิ กล่าวอีก การจัดสร้างราชรถจะล่าช้าในขั้นตอนแรกที่ต้องทำมือด้วยตัวเองทั้งหมด แต่เมื่อผ่านขั้นตอนนี้ไปแล้วการจัดสร้างจะรวดเร็วขึ้น เพราะช่างคนอื่นๆ ที่เป็นลูกมือจะเข้ามาช่วยในขั้นตอนต่างๆ โดยจะเร่งให้เสร็จทันการจัดงานเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2556 ซึ่งจะนำราชรถไปใช้ในการประดิษฐาน “หฺมฺรับพระราชทาน” ร่วมขบวนแห่หฺมฺรับเดือนสิบต่อไป.

เร่งมือแกะสลักพญานาค“ราชรถเมืองคอน”คาดเสร็จทันประดิษฐาน“หฺมฺรับพระราชทาน”

Page 5: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPY เดือนมีนาคม 2556 �

2 ระดับ คือ ระดับผู้บริหาร/ระดับผู้ช่วย ในระดับนี้แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 จำนวน 21 คน เรียนทุกวันจันทร์และวันพุธ เวลา 16.30 -18.30 น. เริ่มเรียนวันที่ 4 มีนาคม ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 และกลุ่มที่ 2 จำนวน 33 คน เรียนทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 16.30-18.30 น. เริ่มวันที่ 5 มีนาคม 2556 ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 ณ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช “และระดับเจ้าหน้าที่ มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 32 คน เรียนทุกวันศุกร์เวลา 08.30-16.30 น. เริ่ม วันที่ 22 มีนาคม - วันที่ 26 เมษายน2556 ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยโครงการดังกล่าว ทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้จัดวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษจากคณะศิลปะศาสตร์ มาให้ความรู้กับผู้เรียนทุกคน” นายวิโรจน์ กล่าว.

เมื่อเร็วๆ นี้ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน จำนวน 10 ประเทศ ได้มีการกำหนดในกฎบัตรอาเซียนให้ประชากรจำนวนกว่า 600 ล้านคน ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน และในปี ค.ศ.2015 หรือ ปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดังกล่าว จึงเห็นว่าการเตรียมความพร้อมบุคลากรภาครัฐด้านภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญ จึงให้สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดทำโครงการพัฒนาภาษาอังกฤษ หลักสูตรสำหรับผู้บริหารขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ซึ่งมีเป้าประสงค์สำคัญ 2 ประการ คือ เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ช่วยหัวหน้าส่วนราชการสังกัดราชการส่วนภูมิภาค ได้เรียนรู้และใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง โดยวิทยากรที่เป็นเจ้าของภาษา และเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี และเพื่อให้ข้าราชการสามารถนำทักษะด้านภาษาอังกฤษไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการทำงานในหน่วยงานรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน “โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ช่วยหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมโครงการในกลุ่มที่ 1 จำนวน 21 คน และกลุ่มที่ 2 จำนวน 33 คน และระดับเจ้าหน้าที่ จำนวน 32 คน รวมทั้งผู้เข้าร่วมพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษตามโครงการนี้จำนวน 86 คน ซึ่งเริ่มเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม-17 พฤษภาคม 2556” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า โครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 แบ่งเป็น

ผู้ว่า ฯ จัดพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมสู่อาเซียน

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 2 มี.ค. 2556 พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้าน หรือ อส.ตร. สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมี พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.ป. นำอาสาสมัครตำรวจบ้านที่ผ่านการฝึกอบรมในระหว่างวันที่ 1-2 มี.ค. 2556 จำนวน 531 คนร่วมดื่มน้ำสาบานที่แช่คมหอกคมดาบและกระสุนปืน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและการกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง โดยมีการนิมนต์พระอาจารย์ เกษม เขมจิตโต เจ้าอาวาสวัดชะเมา เกจิอาจารย์ชื่อดังที่รวมในพิธีมหาพุทธภิเษกวัตถุมงคลจตุคาม-รามเทพ “ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” เมื่อปี 2530 และโต๊ะอีหม่ามมาประกอบพิธีทางศาสนาทั้งพุทธและอิสลาม รวมทั้งเป็นสักขีพยานในการดื่มน้ำสาบานอีกด้วย พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล เปิดเผยว่า อาสาสมัครภาคประชาชนมีบทบาทในการเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ที่ผ่านมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุก สภ.ของจังหวัดนครศรีธรรมราชขาดแคลนจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ สภ.เมือง ที่คนอาศัยอยู่มากกว่าพื้นที่อำเภอรอบนอก จึงมีปัญหามากมายตามไปด้วย การฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้านหรือ อส.ตร.ในครั้งนี้จะทำให้ตำรวจมีผู้ช่วยเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น 531 คน เชื่อว่าจะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ทั้งด้านการบริการประชาชนและการดูรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น “นอกจากนี้อาสาสมัครภาคตำรวจบ้าน หรือ อส.ตร.ที่ผ่านการฝึกทั้งหมดยังมีบทบาทสำคัญในการแจ้งข้อมูลเบาะแสการเสพ การค้ายาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเป้าหมายในการตรวจค้น จับกุมได้อย่างถูกต้องตรงเป้าหมายมากขึ้น” ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการในอบรมในครั้งนี้ ได้มีการเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาบรรยาย ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง อาทิ เรื่องนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อำนาจหน้าที่ของผู้ช่วยเจ้าพนักงานการแจ้งเหตุและการรักษาสถานที่เกิดเหตุ ความรู้ด้านการจราจร ยุทธวิธีการตรวจค้นจับกุม ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.พลเมืองดี รวมทั้งการฝึกภาคปฏิบัติ ระเบียบแถว การสวนสนาม ท่าบุคคลมือเปล่า ท่าบุคคลประกอบอาวุธ เป็นต้น

หลังจากนั้นจึงมีการประกอบพิธีทางศาสนา ปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์เพื่อใช้ประกอบในพีดื่มน้ำสาบาน การมอบประกาศนียบัตร การดื่มน้ำสาบานตน และพิธีปิดตามลำดับ ซึ่งถือเป็นการเสร็จสิ้นการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจ หรือ อส.ตร.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในรุ่นนี้.

นิมนต์เกจิดังทำพิธี อส.ตร.ดื่มน้ำสาบานตนประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย

Page 6: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPYเดือนมีนาคม 2556�

อดีตที่เคยปฎิบัติกันทุกรอบปี ปลูกหญ้านีเปียร์ยักษ์ ปีนี้คาดการณ์กันว่าน่าจะต้องเร็วขึ้นกว่าทุกปี เพราะบรรดาช้างน้อยช้างใหญ่แห่กันลงมาหา บอกกับผู้ใหญ่เฉลิมว่า ลูกไม่มีอะไรกินแล้ว ทางแถวบ้านลูก ช้าง สภาพเปลี่ยนแปลงไปมาก ระหว่างทางเดินมาหาผู้ใหญ่ก็เห็นไม้ใหญ่ล้มระเกะระกะตลอดเส้นทาง เป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยที่เหล่าบรรดาสัตว์ป่าได้ออกมาแสดงให้รู้ว่าต้องดำเนินการอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม จังหวะสอดคล้องกับกิจกรรมที่ทางหมู่บ้านเก้ากอได้เสนอขอไปยังภาคส่วนต่างๆ มูลนิธิ สมาคมหรือชมรม ทั้งเอกชนและราชการ มีนัยสำคัญผูกโยงกิจกรรมสองกิจกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัวนั่นคือ เรื่องปลูกหญ้าอาหารสัตว์ หญ้านีเปียร์สำหรับสมเสร็จ ช้าง เป็นต้นกับโครงการเยาวชน(จิตอาสา) ต้านภัยยาเสพติด โดยชมรมต้านภัยยาเสพติดนครศรีธรรมราช ซึ่งอย่างที่บอกเบื้องต้นว่ากิจกรรมเหล่านี้ ทีมงานจะแสวงหาโอกาสในการบรรจุกิจกรรมปลูกหญ้าอาหารสัตว์เข้าแทรกไปด้วยเสมอๆ ไม่ว่าโอกาสใดก็ตาม หากแต่ในปีนี้เข้าใจว่า จะต้องระดมทุกภาคส่วนเข้าช่วยเหลืออย่างจริงจัง เนื่องจากน้องช้างแม่ช้าง เพื่อนโขลง กำลังอดอยาก ถึงกับเดินลงมาหากินริมแนวสวนผลไม้บ้าง สวนยางพาราบ้าง สร้างความวิตก ให้กับพี่น้องชาวป่า ด้วยเกรงจะตกใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย หากอยู่ๆ เกิดไปจ๊ะเอ๋กันโดยบังเอิญ ทำให้ต่างคนต่างทำร้ายซึ่งกันและกันได้ จึงเกิดโครงการโครงการอบรมเยาวชน พัฒนาจิต(อาสา) ต้านภัยยาเสพติด จึงอยากแนะนำโครงการกันสักเล็กน้อย ว่าเขาจะทำอะไรกัน หรือจะนำพาไปทางไหนอย่างไรครับ โดยหลักการและเหตุผลของโครงการที่ว่า สภาพปัญหายาเสพติดที่มีความรุนแรงในรูปแบบวิธีการที่หลากหลาย ปัญหาเหล่านี้ ได้ส่งผลสะเทือนจากระดับครอบครัว ชุมชน สังคม และ เศรษฐกิจชาติ โครงการอบรมเยาวชน พัฒนาจิต(อาสา) ต้านภัยยาเสพติด เป็นโครงการอบรมเข้าค่ายที่จะใช้เนื้อหา และองค์ ความรู้ที่มีอยู่ในชุมชน สังคม ประเพณี การอยู่ร่วมกัน การเอื้ออาทรต่อกัน และใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวงเป็นแหล่งเรียนรู้ โดยการรวบรวมสิ่งที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ของคนในชุมชน ประเพณี การอยู่ร่วมกันของคน สัตว์ และป่าเพื่อนำไปสู่การพัฒนาและลดความรุนแรงในจิตใจ สร้างสำนึกร่วม ปลุกจิตสาธารณะ การมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและเพื่อนร่วมโลก สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบ และสันติ และสุดท้ายของกระบวนการอบรม คือ การสร้างกลุ่มเยาวชน ที่มีความเข้มแข็งมีจิตอาสาที่ร่วมรับใช้สังคม และชุมชนมีความปลอดภัย จากยาเสพติด ทั้งนี้โครงการเหล่านี้ผู้เสนอคือ ชมรมต้านภัยยาเสพติดนครศรีธรรมราช ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของคนในชุมชน ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีความมุ่งมั่นและมีความเชื่อว่าการแก้ปัญหายาเสพติด ที่สำคัญที่ผ่านมาได้มีกิจกรรมในการ ต่อต้านยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 15 ปี ที่ได้ขับเคลื่อนผ่าน ความเข้มแข็งของชุมชน และผู้นำชุมชน โดยเฉพาะนายเฉลิม กาญจนาพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน

เก้ากอ ที่เป็นผู้นำและริเริ่มเอาจริงเอาจัง จนได้รับการยอมรับจากทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน คือ การลดจำนวนกลุ่มเสี่ยงในการจะเข้ามาสู่ผู้เสพ โดยการสร้างเกราะกำบังทางจิตวิญญาณที่เข้มแข็งการเอาใจใส่ของครอบครัวความเข้าใจชุมชนเพื่อลดความเสี่ยงในการเข้ามาสู่ผู้เสพยาในอนาคต สำหรับโครงการปลูกหญ้า ครั้งนี้ก็มีความหวังเพื่อลดจำนวน

พัฒนาจิต(อาสา)ต้านภัยยาเสพติด

กลุ่มเสี่ยง รวมถึงผู้ที่ต้องการออกจากการตกเป็นทาสยาเสพติด เพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชนต้านยาเสพติดในพื้นที่เป้าหมายเพื่อสร้างจิตสำนึกรักษ์ป่ารู้จักคุณค่าต้นน้ำแหล่งกำเนิดให้ ชีวิตแด่สรรพสิ่งทั้งหลายร่วมปกป้อง และอนุรักษ์ป่าผืนสุดท้ายเพื่อลูกหลาน สร้างภูมิคุ้มกันให้จิตใจเข้มแข็ง โดยป้องกันไม่ให้เกิดผู้เสพ หน้าใหม่ และลดผู้ที่เสพติดอยู่แล้วเป็นการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ลักษณะกิจกรรม โครงการ อบรมเยาวชน พัฒนาจิต(อาสา) ต้านภัยยาเสพติด อาจเป็นมาตราการเครื่องมือที่ดีอีกเครื่องมือหนึ่ง คือ สำหรับการนำเหล่าลูกหลานเยาวชนกลุ่มเสี่ยง นักเสพหน้าใหม่ เดินทางขึ้นเขาหลวง ทำกิจกรรมต่างๆ ตามหลักสูตรที่วางไว้ ภายหลังกลับจากการร่วมกิจกรรมแล้วเหล่าผู้เข้าร่วมกิจกรรม ก็จะมีผู้ที่คอยติดตามให้ความรักและคำปรึกษาได้ตลอดเวลา เนื่องจากกลุ่มที่มาเป็นวิทยากร พี่เลี้ยงตลอดเส้นทางของการเดินทาง คือ บุคคลในชุมชนที่ได้รับความเคารพนับถือ ซึ่งมีแหล่งที่มาที่เดียวกับผู้เข้ารับการอบรม ใช้ความรัก ความเข้าใจสร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนกลุ่มเสี่ยง พร้อมทั้งได้สร้างเครือข่ายในการทำกิจกรรมร่วมกันในอนาคตต่อไป

ต้านภัยยาเสพติด

Page 7: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPY เดือนมีนาคม 2556 �

บริษัทนานาวัสดุภัณฑ์(1993) จำกัด

จำหน่ายวัสดุก่อสร้างทุกชนิด,

สี, สุขภัณฑ์85 ถนนพัฒนาการคูขวาง

(ข้างห้างสรรพสินค้าโรบินสันโอเชี่ยน)

โทรศัพท์ 075-317831โทรสาร 075-344791

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (10 มี.ค.) พ.ต.ต.สุเมศ เส็นหล๊ะ สว.สส.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดที่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 2 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่าเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 6 คนกำลังมั่วสุมเสพยาบ้าและยาไอซ์อย่างเมามัน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างพยายามวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมเอาไว้ได้ทั้ง 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า 152เม็ด ยาไอซ์จำนวน 6 ถุงเล็ก หนักประมาณ 1.2 กรัม อุปกรณ์การเสพยาไอซ์และอุปกรณ์การเสพยาบ้าจำนวน 2 ชุด และถุงพลาสติกใส สำหรับแบ่งขายยาไอซ์จำนวนกว่า 100ใบ สอบสวนทราบผู้ต้องหาทั้ง 6 คนชื่อนายราเชนทร์ รัตนประทุม 40 ปี หรือ “เชน บางจาก” เจ้าของบ้านและเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ นายสายธาร วรรณพันธ์ 19 ปี นายสุรศักดิ์ คงปาน 25 ปี นายพีระยุทธ ศุภบางนบ 18 ปี นายอนุชิต ศุภบางนบ 17 ปี และนายดินทร์ พจน์จำเนียรอายุ 21 ปี ทั้งหมดบ้านอยู่ ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังตรวจค้นบ้านของนายราเชนทร์ รัตนประทุม และสอบสวนปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นอยู่นั้น ได้มีโทรศัพท์จากพระประวุฒิ ปภสฺสโร(เกิดขำ ) อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดบางสะพาน หมู่ 7 ต.บางจาก อ.เมืองจ.นครศรีธรรมราช เข้ามือถือของนายราเชนทร์ รัตนประทุม ว่าขอสั่งซื้อยาไอซ์จำนวน 1 ถุงน้ำหนัก 0.10 กรัม ราคา 1,000 บาท โดยขอให้ลูกน้องของนายราเชนทร์ นำยาไอซ์มาส่งให้กับพระประวุฒิ ที่กุฏิเจ้าอาวาสภายในวัดบางสะพาน ทางด้านพ.ต.ท.สุเมศ เส็นหล๊ะ จึงวางแผนให้สายของตำรวจนำยาไอซ์ไปส่งให้กับพระประวุฒิ ที่กุฏิเจ้าอาวาสวัดบางสะพาน โดย พ.ต.ต.สุเมศ กำลังตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถยนต์เข้าไปแอบซุ่มดูอยู่ในบริเวณวัด จนเมื่อมีการส่งมอบยาไอซ์และเงินล่อซื้อแล้ว พ.ต.ต.สุเมศ และกำลังตำรวจ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมตัวพระประวุฒิ เอาไว้คาหนังคาเขาภายในกุฏิเจ้าอาวาส พร้อมของกลางยาไอซ์ที่สั่งซื้อ เงินสด 1,000 บาท และจากการตรวจค้นภายในกุฏิเจ้าอาวาสพบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์จำนวน 1 ชุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะควบคุมตัวพระประวุฒิ และผู้ต้องหาที่จับกุมครั้งแรกอีก 6 คนไปตรวจปัสสาวะและพบว่าทั้งหมดมีปัสสาวะสีม่วง พระประวุฒิ เจ้าอาวาส ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างอารมณ์ดีและไม่สะทกสะท้านว่า อาตมาบวชเป็นพระมา 16 ปีแล้วและเป็นเจ้าอาวาสวัดบางสะพานมา 6 ปี ตั้งแต่เจ้าอาวาสรูปเก่ามรณภาพลงเมื่อปี 2549 ระยะในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ตนได้แอบเสพยาบ้าจนติดงอมแงม จนกระทั้งในปัจจุบันมียาไอซ์แพร่ระบาดเข้ามาในพื้นที่อย่างรุนแรง จึงอยากจะทดลองเสพยาไอซ์ดูบ้างว่าจะมีอาการมึนเมาเหมือนกับยาบ้าหรือไม่ จึงสั่งซื้อยาไอซ์จากนายราเชนทร์ มาเสพเป็นประจำ และเพื่อหารายได้

ไปในตัว จึงชักชวนพระลูกวัดและวัยรุ่นข้างวัดมาร่วมเสพยาไอซ์ โดยอาตมาจะแบ่งขายยาไอซ์ให้กับพระลูกวัดและวัยรุ่นในพื้นที่ จนกระทั่งมาพลาดถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว ต่อมาในเวลา 16.00 น. พ.ต.ต.สุเมศ เส็นหล๊ะ สว.สส.สภ.เมือง ได้ควบคุมตัวนำพระประวุฒิไปให้พระครูปริยัติคุณาสัยเจ้าอาวาสวัดประดู่พัฒนาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ทำการสึก ก่อนคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราชดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดซึ่งมีพระประวุฒิหรือ “ท่านวุฒิ” เจ้าอาวาสวัดบางสะพานรวมอยู่ด้วย เป็นที่วิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากแก๊งนี้มีเครือข่ายอย่างกว้างขวาง โดยนายราเชนทร์ เอเยนต์ใหญ่จะเปิดบ้านให้ลูกค้าจัดปาร์ตี้หรือเสพยาเสพติดทั้งยาบ้า ยาไอซ์ และกัญชา รวมทั้งน้ำต้มพืชกระท่อมอย่างเปิดเผยมานานแล้ว จนเด็กวัยรุ่นทั้งที่กำลังเรียนอยู่ตามสถานศึกษาต่างๆ และอยู่นอกระบบการศึกษาติดยาเสพติดกันงอมแงม ในขณะที่พระประวุฒิ หรือท่านวุฒิ จัดเป็นพระเกจิรุ่นใหม่ที่มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากและมีพุทธศาส-นิกชนให้ความเคารพศรัทธาอย่างกว้างขวาง..

จับเจ้าอาวาสวัดดังเสพยาพร้อมเครือข่ายแก๊งค้ายานรก

Page 8: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPYเดือนมีนาคม 2556�

ประกาศ

บริษัท ภูฟ้าดิสทริบิวเตอร์ จำกัด

73/14-15 ม.1 ตำบลนาพรุ อำเภอเมือง

จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท ภูฟ้าดิสทริบิวเตอร์ จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ

ครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่

73/14-15 ม.1 ตำบลนาพรุ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระเบียบวาระการ

ประชุม ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

สมนึก หวานเส้ง

(นายสมนึก หวานเส้ง)

กรรมการผู้จัดการ

ประกาศ

บริษัท ทีพีเอส เน็ตเวิร์ค จำกัด

30/313-314 ม.4 ตำบลปากนคร

อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท ทีพีเอส เน็ตเวิร์ค จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ

ครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ

เลขที่ 30/313-314 ม.4 ตำบลปากนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี

ระเบียบวาระการประชุม ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

สุจดี เพ็งจันทร์

(นางสุจดี เพ็งจันทร์)

กรรมการผู้จัดการ

บริการห้องพัก ห้องอาหาร ห้องประชุมสัมมนา งานเลี้ยงมงคลสมรส

ตามที่ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งยาดานา(TOTAL) สาธารณ-รัฐแห่งสหภาพพม่า ได้ตรวจพบการทรุดตัวของแท่นผลิต ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยทางด้านวิศวกรรม จึงได้แจ้งให้ประเทศไทยทราบถึงแผนการหยุดและจ่ายก๊าซฯ เพื่อทำการซ่อมบำรุง ในระหว่างวันที่ 5 –14 เมษายน 2556 ทำให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้ก๊าซโดยเฉพาะภาคการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าฝั่งตะวันตกของประเทศไทย รวมกำลังการผลิต 6,000 เมกะ-วัตต์(MW) และจากการคาดการณ์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คาดว่า หากอุณหภูมิของอากาศในเดือนเมษายนสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา มีโอกาสที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีนี้จะอยู่ในระดับ 27,000 เมกะวัตต์ ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองอยู่ในระดับที่ต่ำมาก อาจส่งผลให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ รวมทั้งพื้นที่บางส่วนของกรุงเทพฯ ถึงแม้ว่ากระทรวงพลังงานได้จัดเตรียมความพร้อมและมาตรการรองรับเพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงปิดซ่อมบำรุงแท่นผลิตด้วยการจัดหาและใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลแทน

ก๊าซธรรมชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว อย่างไรก็ตาม การขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดพลังงานในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วง 14.00 – 15.00 น. ซึ่งเป็นชั่วโมง

ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดของวัน หรือช่วง Peak เพื่อลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ “กระทรวงพลังงาน จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ได้แก่ ประชาชนทั่วไป หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ผู้ใช้ไฟฟ้าในอาคารสำนักงาน และกลุ่มอุตสาหกรรม ช่วยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงปิดซ่อมบำรุงแท่นผลิตก๊าซ ระหว่างวันที่ 5 – 14 เมษายน 2556 โดยเฉพาะในวันที่ 5 เมษายน 2556 เวลา 14.00 น. หรือบ่าย 2 ที่จะร่วมปฏิบัติตามมาตรการประหยัดพลังงาน “รวมใจคนไทย สู้วิกฤตไฟฟ้า” ในปฏิบัติการ 3 ป. ช่วยชาติประหยัดพลังงาน โดยการ ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก พร้อมกันทั่วประเทศ คาดว่าจะช่วยลด Peakได้ประมาณ 710 เมกะวัตต์หรือลดการใช้ไฟฟ้าได้รวม 0.50 ล้านหน่วยต่อวัน และช่วยลดปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าได้ 4.40 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน”

5 เมษา บ่าย 2“รวมใจคนไทย สู้วิกฤตไฟฟ้า”

Page 9: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPY เดือนมีนาคม 2556 �

ประกาศหจก.ลิ้มจี่เซ้งย้ายร้านชั่วคราว

ไปอยู่ที่ซูซุกิแสงฟ้า(เก่า)**ติดวัดมเหยงคณ์ เยื้อง ว.อาชีวศึกษา**

(ย้ายร้านประมาณ 1 ปี)

รับสมัครพนักงาน- พนักงานขายหน้าร้าน(ชาย) 3 คน- พนักงานขายหน้าร้าน(หญิง) 3 คน- พนักงานขับรถพ่วงข้าง(ชาย) 1 คน- พนักงานขับรถยนต์-สี่ล้อใหญ่ 2 คน- แม่บ้าน 1 คน- พนักงานขายนอกสถานที่(ชาย) 1 คน

หจก.ลิ้มจี่เซ้ง

**ติดต่อสอบถามข้อมูลและสมัครได้ที่ร้านโทร.075-340632 075-314052

ประกาศ

บริษัท เพชรไทยมอเตอร์เซลล์ จำกัด

56 ถนนนคร-ปากพนัง ตำบลในเมือง

อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท เพชรไทยมอเตอร์เซลล์ จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้น

สามัญ ครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ

เลขที่ 56 ถนนนคร-ปากพนัง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี

ระเบียบวาระการประชุม ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

นพรินทร์ อุยานนทรักษ์

(นางนพรินทร์ อุยานนทรักษ์)

กรรมการผู้จัดการ

ประกาศ

บริษัท พีวี เน็ทเวิร์ค จำกัด

216/36 ม.2 ตำบลปากนคร อำเภอเมือง

จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท พีวี เน็ทเวิร์ค จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่

1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 216/36

ม.2 ตำบลปากนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระเบียบวาระการประชุม

ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

พยอม ทองประสาท

(นางพยอม ทองประสาท)

กรรมการผู้จัดการ

ประกาศ

บริษัท ธนาพุทธิรักษ์ กรุ๊ป จำกัด

9/1 ถนนปากแพรก ตำบลปากแพรก

อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท ธนาพุทธิรักษ์ กรุ๊ป จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ

ครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ

เลขที่ 9/1 ถนนปากแพรก ตำบลปากแพรก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี

ระเบียบวาระการประชุม ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

ธันตกฤษณ์ ธนาพุทธิรักษ์

(นายธันตกฤษณ์ ธนาพุทธิรักษ์)

กรรมการผู้จัดการ

Page 10: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPYเดือนมีนาคม 2556�0

87.6 MHz.

FMคลื่นวิทยุกระจายเสียงชุมชน

คิดดี ทำดี ที่นี่เมืองนคร

ประกาศ

บริษัท ศิริภัณฑ์คอนกรีต จำกัด

160 ม.1 ตำบลขนอม

อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท ศิริภัณฑ์คอนกรีต จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ

ครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ

เลขที่ 160 ม.1 ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระเบียบวาระการ

ประชุม ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

ศิวาภรณ์ ทรัพย์เกตโสภา

(นางศิวาภรณ์ ทรัพย์เกตโสภา)

กรรมการผู้จัดการ

สถานีความคิด

ประกาศ

บริษัท พรหมพิชิต จำกัด

17 ม.2 ตำบลขนอม

อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท พรหมพิชิต จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่

1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 17

ม.2 ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระเบียบวาระการประชุม

ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

นันทวัน พรหมพิชิต

(นางสาวนันทวัน พรหมพิชิต)

กรรมการผู้จัดการ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 7 มี.ค. 2556 ที่ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์-รถจักรยานยนต์ สภ.เมือง นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภา-กุล ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.สมชาย มวยดี และ พ.ต.ต.ปองภพ ประสบพิชัย สวป.สภ.เมืองได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีร่วมกันโจรกรรมรถจักรยาน-ยนต์ จำนวน 4 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางรถ จยย. ของกลางจำนวน 3 คันพร้อมชิ้นส่วนอะไหล่รถ จยย.อีกจำนวนหนึ่งมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองเปิดเผยว่า จากการที่มีคนร้ายออกโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย จนกระทั้งเมื่อเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ปองภพ ประสบพิชัย สวป.นำกำลังตำรวจและ อส.ตร.ดักด่านตรวจบริเวณทางโค้งวัดศรีทวี ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จนกระทั้งมีวัยรุ่นเป็นผู้ชาย3 คน ผู้หญิง 1 คนขับรถ จยย.ซ้อนท้ายกันมา เมื่อ

เห็นตำรวจตั้งด่านตรวจจึงเลี้ยวรถกลับหลบหนีไปอย่างรวดเร็วและมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถ จยย.ไล่ติดตามไปจนพบว่าวัยรุ่นต้องสงสัยได้ขับรถเข้าไปจอดไว้ในบ้านเช่าหลังหนึ่งใกล้กับโรงเหล็กโกหวัด ถนนศรีทวี-มะขามชุม จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่ารถ จยย.จอดอยู่ในบ้านจำนวน 2 คัน โดยทั้ง 2 คัน มีการแจ้งความหายไว้ที่ สภ.เมือง จึงควบคุมตัวชายวัยรุ่นที่อยู่ในบ้านจำวน 4 คนมาสอบสวนที่โรงพัก จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ต้องหาประกอบด้วยนายปิยะพงศ์ หรือเอก สุขสวัสดิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1263/3 ถนนยมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายจิรวัฒน์ หรือโจ แจ่มจรัส อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/15 ซอยบุญพาสันติ หมู่ 9 ต.โพธิ์เสด็จอ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายเหน่ง และนายโหน่ง(นามสมมุติ) ทั้งสองอายุ 17 ปี และจากการตรวจสอบรถ จยย.ของกลางคันแรกยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว-เทาเป็นของ น.ส.พุธกร พรหมเดชะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/2 ซอยพัฒนา 2 ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง

อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อีกคันเป็นรถยี่ห้อยามาฮ่ามีโอ สีเขียว เป็นของอาจารย์ต่างชาติคนหนึ่ง จึงแจ้งให้ผู้เสียหายทราบและเดินทางมาตรวจสอบรถ จยย.ชองกลางต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนขยายผลและติดตามยึดรถ จยย.ของกลางได้เพิ่มเติมอีก 1 คัน ในขณะที่ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าติดยาเสพติดงอมแงม โดยเฉพาะนายปิยะพงศ์ หรือเอก เพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดจากเรือนจำกลางนครศรีธรรม-

ราชเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา และได้มาเช่าบ้านที่ห้องแถวข้างโรงเหล็กโกหวัด พร้อมรวบรวมพรรคพวก ตั้งแก๊งโจรกรรมรถ จยย.เพื่อนำไปแลกกับยาบ้า,ยาไอซ์ โดยรถ จยย. 1 คันจะแลกยาบ้าได้ 15-20 เม็ด แลกยาไอซ์ได้ 1 จีครึ่ง จนกระทั้งถูกจับกุมตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาทั้งหมดพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันโจรกรรมรถจักรยานยนต์ และร่วมกันเสพยาเสพติดให้โทษ(ยาบ้า) ต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายปิยะพงศ์ หัวหน้าแก๊งมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการก่อคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม “เอก ทางโค้ง” ตามร่างกายมีรอยสักจนลายพร้อย และมีเมียเป็นนักร้องสาวของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในปัจจุบันเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งในกระดูกระยะสุดท้ายที่ยากในการรักษาให้หายเป็นปกติมีอาการ ซีด อ่อนเพลีย เจ็บปวดบริเวณข้อ ไม่มีเรี่ยวแรงกระดูกเปราะผุและหักง่าย จึงเหมือนกับการรอวันตาย แต่ยังออกอาละวาดก่อเหตุโจรกรรมรถ จยย. อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลในคดีนี้ต่อไป.

ตำรวจรวบยกแก๊ง“เอก ทางโค้ง”โจรกรรมรถ จยย.แลกยาเสพติด

Page 11: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPY เดือนมีนาคม 2556 ��

ตรวจสอบพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว เพราะสงสัยว่าจะเป็นของวัดน้ำรอบที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไปเมื่อหลายปีก่อน แต่พบว่าไม่ใช่พระพุทธรูปของวัดน้ำรอบที่หายไป ทางด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองนครศรี-ธรรมราช กล่าวว่า ตนรับทราบเรื่องแล้ว ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก.ป. เดินทางไปตรวจสอบและทำบันทึกรายละเอียด เพื่อแจ้งให้วัดต่างๆ ที่มาแจ้งความลงบันทึกประจำวัดไว้ที่ สภ.เมือง รวมทั้งสภ.อื่นๆ ได้รับทราบ และนำหลักฐานเดินทางมาตรวจสอบว่าเป็นพระพุทธรูปที่หายไปจากวัดหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงระหว่างปี 2550-2554 ได้มีแก๊งโจรกรรมพระพุทธรูปออกอาละวาดโจรกรรมพระพุทธรูปสำคัญตามวัดต่างๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชกว่า 10 วัด โดยเชื่อว่าเป็นการโจรกรรมตามใบสั่งของนายทุน แต่อาจจะมีพระพุทธรูปที่โจรกรรมบางองค์เมื่อนายทุนตรวจสอบแล้ว เป็นพระพุทธรูปที่จัดสร้างขึ้นมาใหม่ๆ อายุยังไม่ถึงตามที่ต้องการ จึงมีการนำไปทิ้งไว้ในจุดต่างๆ หรือในขณะที่โจรกรรมออกจากวัดและหลบหนี เกิดพบเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนร้ายเกรงจะถูกจับกุม จึงโยนพระพุทธรูปทิ้ง จนกระทั้งในช่วงต้นปี 2554 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ พระพุทธรูปหรือ ”พระลาก” จึงถูกกระแสน้ำพัดพามาติดอยู่ในบริเวณดังกล่าวก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวันประชาชนที่ทราบข่าวแห่เดินทางมาจุดธูปเทียนกราบไหว้ และถวายเงินทำบุญกับพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมบนบานสาปแช่งคนที่โจรกรรมพระพุทธรูปให้มีอันเป็นไป อย่าได้ผุดได้เกิด.

เมืองคอนฮือพบพระพุทธรูปแกะสลักด้วยไม้สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เผย “พระลาก” ซุกใต้รากไม้ในลำห้วย-คาดอาจถูกคนร้ายโจรกรรมมาทิ้ง ผอ.ศิลปากรที่ 14 รุดตรวจชี้อายุกว่า 100 ปี - วอนทุกวัดจัดทำทะเบียนพระพุทธรูป

เมื่อวันที่11 มีนาคม 2556 นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งชาวบ้านพบพระบริเวณริมคลองห้วย ชุมชนต้นหว้า ต.โพธิ์เสด็จ เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบพบชาวบ้านกำลังช่วยกันตัดรากต้นสาคูที่ขึ้นปกคลุมองค์พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรอย่างยากลำบาก จากนั้นจึงนำไปล้างทำความสะอาด และพบว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่งดงามมาก โดยแกะสลักด้วยเนื้อไม้ ปางอุ้มบาตร มีความสูงจากยอดเศียรถึงปลายเท้า 132 เซนติเมตร กว้าง 28 เซนติเมตร องค์พระทาสีทองทั้งองค์ ห่มจีวรซึ่งเก่ามากจนกลายเป็นสีคล้ำ และฉีกขาดเปื่อยยุ่ย ซึ่งพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะดังกล่าวชาวนครศรีธรรมราชและภาคใต้นิยมนำขึ้นประดิษฐานในเรือพนมพระ ในงานประเพณีชักพระ ชาวบ้านจึงเรียกกระพุทธรูปในลักษณะดังกล่าวว่า “พระลาก” โดยทุกวัดจะต้องมีพระลากประจำวัด นายอนุรักษ์ สุทธิศักดิ์ ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้กับลำคลองที่พบพระพุทธรูปและเป็นผู้พบพระพุทธรูปหรือ “พระลาก”องค์ดังกล่าวเป็นคนแรก เปิดเผยว่าเมื่อเย็นวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ตนเดินมาตักน้ำ

ในลำห้วยเพื่อไปรดแปลงผักที่ปลูกข้างบ้าน ในขณะที่ตนเองกำลังก้มตักน้ำอยู่นั้น ได้ยินเสียงกุกกักๆ เหมือนใครเอาผ้ามาขึงและตีด้วยไม้ ตนจึงหันไปดู เห็นงูไม่ทราบชนิดตัวเขื่อง 2 ตัว ตนตกใจมากทำท่าจะวิ่งหนี แต่เมื่อเพ่งสายตามองอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่างูที่เห็นครั้งแรกเป็นเพียงคราบงูที่มาลอกคราบทิ้งไว้เท่านั้น ตนจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พบห่อผ้าอยู่ใกล้กับคราบงูดังกล่าว ในห่อผ้ามีปลายเท้าและฝ่ามือของพระพุทธรูปโผล่ออกมาเล็กน้อย โดยองค์พระพุทธรูปอยู่ในลักษณะนอนหงาย มีรากต้นสาคูและรากต้นไม้ต่างขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด ตนจึงกลับบ้าน และเล่าเรื่องที่พบพระพุทธรูปให้นายธงชัย ใจเรือง อายุ 30 ปี ลูกพี่ลูกน้องฟัง ทางด้านนายธงชัย ใจเรือง เปิดเผยว่า หลังจากที่นายอนุรักษ์ นำเรื่องมาเล่าให้ฟังก็คิดว่าจะเดินทางไปตรวจสอบแต่เนื่องจากมืดค่ำเสียก่อน จึงคิดว่าค่อยไปตรวจสอบในวันรุ่งขึ้น จนกระทั้งตนเข้านอนในคืนที่ผ่านมา เกิดฝันว่าตัวเองติดคุก แต่มีพระพุทธรูปหรือพระลากองค์ดังกล่าวมาช่วยจนตนเองหลุดออกมาจากคุกได้ จากนั้นตนก็นอนไม่หลับรอจนกระทั่งรุ่งเช้าวันนี้ จึงชวนนายอนุรักษ์ เดินทางไปตรวจสอบและช่วยกันงัดและตัดรากต้นสาคูออก นำพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวไปล้างทำความสะอาด จนชาวบ้านทราบข่าวแห่เดินทางมากราบไหว้พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นคร-ศรีธรรมราช กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยแก่นไม้ องค์พระมีสีดำทั้งองค์ แต่มีการทาสีทองปิดทับเนื้อไม้เอาไว้ สภาพครบสมบูรณ์ คาดว่าอายุประมาณ 100 ปีขึ้นไป สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยฝีมือช่างแกะสลักในท้องถิ่นนครศรีธรรมราช ตรวจสอบในเบื้องต้นพระพุทธรูปดังกล่าวอาจจะลอยมากับน้ำในช่วงน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 พระพุทธรูปองค์นี้อาจลอยมากับน้ำและมาติดอยู่ในบริเวณดังกล่าว หรืออาจมีคนนำมาวางซ่อนเอาไว้เพื่อเตรียมการขนย้ายก็เป็นได้ “ในเบื้องต้นทางศิลปากรที่ 14 ได้นำมาไว้ที่สำนักงานศิลปากรที่ 14 ก่อน จากนั้นจะทำพิธีมอบให้กับทางราชการอย่างเป็นทางการในที่ประชุมจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดนครศรีธรรมราช และทำการประชาสัมพันธ์ให้ทราบอย่างกว้างขวางว่ามีวัดใดที่พระพุทธรูปหายไปจากวัดบ้าง เพื่อจะได้นำหลักฐานมาตรวจตรวจสอบและขอรับกลับวัดไป” นายอาณัติ กล่าวอีกว่า อยากให้แต่ละวัดทำทะเบียนให้ชัดเจนว่า มีพระพุทธรูปกี่องค์ มีขนาดเท่าไหร่ พุทธลักษณะเป็นเช่นไร เพื่อจะได้ทำการตรวจสอบง่าย ประการสำคัญตนอยากจะแจ้งให้คนที่ชอบโจรกรรมพระพุทธรูป ทราบว่า เรื่องกรรมเวรมีจริงพระพุทธรูปที่ชาวบ้านก่อสร้างไว้ล้วนมาจากศรัทธาและยกมือท่วมหัว ดังนั้นคนที่ไม่สำนึกทำการโจรกรรมไป ขอระวังกรรมเวรจะตามทัน ต่อมาได้มีพระบัณฑิต ธฺมมชัย เจ้าอาวาสวัดน้ำรอบ ต.ไชยมนตรีอ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมา

พบ“พระลาก”แกะสลักด้วยไม้สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

มอบขีดหมวก - สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ จัดพิธีมอบขีดหมวก-เข็มสถาบัน พยาบาลวลัยลักษณ์ ให้แก่นักศึกษาว่าที่บัณฑิตของสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ รุ่นที่ 12 ซึ่งจะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2555 จำนวน 63 คน โดยมีนักศึกษาชั้นปีที่ 1-3 คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ศิษย์เก่าสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ ตลอดจนผู้ปกครองของว่าที่บัณฑิต รวมทั้งสิ้นกว่า 800 คนเข้าร่วมแสดงความยินดี ณ หอประชุมใหญ่ อาคารไทยบุรี ม.วลัยลักษณ์ เมื่อเร็วๆ นี้

Page 12: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPYเดือนมีนาคม 2556��

ประกาศ

บริษัท อุดมกิจโฮมเซ็นเตอร์ จำกัด

94 หมู่ 6 ตำบลป่าพะยอม

อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท อุดมกิจโฮมเซ็นเตอร์ จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ

ครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ

เลขที่ 94 หมู่ 6 ตำบลป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง โดยมีระเบียบวาระการ

ประชุม ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

เอกชัย โฆษิตกุลพร

(นายเอกชัย โฆษิตกุลพร)

กรรมการผู้จัดการ

ประกาศ

บริษัท โรโตแพค จำกัด

100/1 ถนนพานิชสัมพันธ์ ตำบลปากพนัง

อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท โรโตแพค จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่

1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 100/1

ถนนพานิชสัมพันธ์ ตำบลปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระเบียบ

วาระการประชุม ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

วิชาญ ต้นฤดี

(นายวิชาญ ต้นฤดี)

กรรมการผู้จัดการ

ประกาศ

บริษัท เรียวเชน จำกัด

177/58 หมู่ 4 ตำบลท่าซัก

อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท เรียวเชน จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่

1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 177/58

หมู่ 4 ตำบลท่าซัก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระเบียบวาระการประชุม

ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

พลลภัตม์ เสถียร

(นายพลลภัตม์ เสถียร)

กรรมการผู้จัดการ

ประกาศ

บริษัท หยกซีแพค จำกัด

22/8 ม.12 ตำบลขนอม

อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท หยกซีแพค จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่

1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 22/8

ม.12 ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระเบียบวาระการประชุม

ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

นันทวัน พรหมพิชิต

(นางสาวนันทวัน พรหมพิชิต)

กรรมการผู้จัดการ

Page 13: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPY เดือนมีนาคม 2556 ��

ประกาศ

บริษัท โรงสี 1 จำกัด

137/3 ตำบลปากพนัง

อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท โรงสี 1 จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 137/3 ตำบล

ปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระเบียบวาระการประชุม

ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

รุจาธิตย์ สุชาโต

(นายรุจาธิตย์ สุชาโต)

กรรมการผู้จัดการ

ประกาศ

บริษัท เปา-รงค์ ออยล์ปาล์ม จำกัด

229 หมู่ 7 ถนนทุ่งสง-นครศรีฯ ตำบลร่อนพิบูลย์

อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 มีนาคม 2556

เรื่อง เชิญประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ครั้งที่ 1/2556

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เนื่องจาก บริษัท เปา-รงค์ ออยล์ปาล์ม จำกัด ได้ลงมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ

ครั้งที่ 1/2556 ในวันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่

229 หมู่ 7 ถนนทุ่งสง-นครศรีฯ ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยมีระเบียบวาระการประชุม ดังต่อไปนี้ คือ

วาระที่ 1 พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าสินจ้าง

วาระที่ 2 พิจารณาพิจารณาสินทรัพย์ หนี้สิน และทุนส่วนของผู้ถือหุ้นในงบดุล

ของบริษัท

วาระที่ 3 พิจารณางบกำไรขาดทุนของบริษัท

วาระที่ 4 พิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นไปประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน หากท่านไม่สามารถไปประชุมด้วยตนเองได้ โปรดทำ

หนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปประชุมแทน จะขอบคุณมาก

ขอแสดงความนับถือ

ณรงค์ เลติกุล

(นายณรงค์ เลติกุล)

กรรมการผู้จัดการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 10 มี.ค. 2556เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมือง นครศรีธรรมราช นำโดย ร.ต.อ.บุศรินคีรีเพ็ชร รอง สว.จร.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย ด.ต.ชยาภัศอมรวัชร์ เจ้าหน้าตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 7 จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจและอาสาสมัครตำรวจ หรือ อส.ตร. ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์บนถนนกะโรม ฝั่งขาออก บริเวณหน้าตลาดทวดทอง ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างเข้มงวดกวดขัน นอกจากการตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้ว เจ้าหน้าที่ยังทำการตรวจค้นยาเสพติด รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ อีกด้วย สร้างความอุ่นใจให้กับพ่อค้า แม่ค้าและสุจริตชนที่ออกไปค้าขายในย่านตลาดหัวอิฐเป็นอย่างมาก และส่งผลกระทบต่อบรรดานักเที่ยวนักดื่มยามราตรี รวมทั้งแก๊งวัยรุ่นที่มั่วสุมยาเสพติดและออกอาละวาดก่อเหตุ

ตำรวจจัดเต็ม“เมาขับจับส่งศาล”

ประทุษร้ายต่อทรัพย์ ไม่สามารถออกมาก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับสุจริตชนได้โดยสะดวก และพบผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

จำนวนหลายราย จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ร.ต.อ.บุษริน คีรีเพ็ชร กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับรถยนต์รถจักรยานยนต์ เกิดขึ้นสูงมาก ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตปีละหลายร้อยราย นับเป็นความสูญเสียอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ยังสูญเสียทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมากอีกด้วย ทาง พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จึงมีนโยบายลดอุบัติเหตุและความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทั้งการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ตามนโยบาย “เมาไม่ขับ” การสวมหมวกนิรภัย โดยเฉพาะการตรวจวัดแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็จะควบคุมตัวดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น หรือ

“เมาขับจับส่งศาล” โดยจะส่งฟ้องศาลให้พิจารณาโทษตามกฎหมายต่อไป ซึ่งในแต่ละคืนจะเริ่มตั้งด่านระหว่างเวลาประมาณเที่ยงคืน ถึง02.30 น. ทางด้าน ด.ต.ชยาภัศ อมรวัชร์ เปิดเผยว่า ตนมีบ้านพักอยู่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และยังปฏิบัติหน้าที่ตามโครงการตำรวจผู้รับใช้ชุมชน ตามนโยบายของ พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ซึ่งประจำอยู่ชุมชนหลังตลาดหัวอิฐ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แต่เนื่องจากตนมีบ้านพักอยู่ย่านตลาดหัวอิฐ จึงใช้เวลาว่างนอกเวลาปฏิบัติราชการปกติโดยเฉพาะในช่วงกลางคืนออกมาช่วยตำรวจจราจร สภ.เมือง ในการตั้งด่านตรวจเมาไม่ขับ ซึ่งในระยะ 7-8 ปีที่ผ่านมา หากตำรวจ สภ.เมือง นครศรีธรรมราช มีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ตนจะออกมาร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วยเกือบทุกครั้ง.

นายอำเภอต้นแบบนักรณรงค์ : เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมานายทินกร มุสิกวัตร นายอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้ารับรางวัลเชิดชูเกียรตินายอำเภอต้นแบบนักรณรงค์ จากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่จัดพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่นายอำเภอที่มีผลงานในการสนับสนุนการรณรงค์งดเหล้า ที่โดดเด่น และต่อเนื่อง จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ 72 อำเภอจากทั่วประเทศ โดยมีนายชวน ศิรินันท์พร อธิบดีกรมการปกครองเป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ ณ โรงแรมริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี

EDiTERPROJECT

อิดิเตอร์ โปรเจ็ก

รับออกแบบ-จัดหน้าหนังสือทุกชนิด

089-

4108

464

Page 14: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPYเดือนมีนาคม 2556��. .255414

2 . .

*** -

.075-366218

2

.075-345342

(1993)1. 4 2. 1

- .075-341911, 075-356494 , 075-321538-9

*** .- . 18 *** ( )

สาขา 1 : ตรงข้ามสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช โทร. 075-340642สาขา 2 : ถนนอ้อมค่ายนครศรีธรรมราช โทร. 075-358405 แฟ็กซ์ 075-358406

ร้านแบงค์ แอนด์ บอย**ศูนย์รวมของเด็กเล่นทุกชนิด

ทั้งในและต่างประเทศ**

สัญญา แพรกทอง (เจ้าของ/ผู้จัดการ)โทร. 089-7288878

วันวิสา แพรกทอง โทร. 081-5354244

รับสมัคร พนักงานทั่วไป

วุฒิ ม.3 (เพศหญิง)

จำนวน 2 คน

Page 15: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPY เดือนมีนาคม 2556 ��

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2556 นี้ ว่าได้มีกลุ่มนักท่องโลกอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลก เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากวิจารณ์กรณีการนำคลิปการบรรยายในเวลาสรุปถอดบทเรียนการ“เดินเท้า 800 กม.จากเขาหลวงสู่เมืองหลวง” ของนายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ หรือ “ผู้ใหญ่เหลิม” ข้าราชการไทยหัวใจสีขาว ผู้ใหญ่บ้านเก้ากอ หมู่ 1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจัดขึ้น ณ.ศาลากลางหมู่บ้านประชาธิป-ไตย ต้านภัยยาเสพติด บ้านเก้ากอ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2556 ที่ผ่านมา โดยมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต. รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี นายอำเภอพรหมคีรี พ.ต.อ.บุญมี ศิริปาลกะ ผกก.สภ.พรหมคีรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนเครือข่ายต้านยาเสพติดกว่า 300 คนเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ในคลิปวีดีโอที่นำมาเผยแพร่ในเฟสบุ๊ค “เขาหลวงผู้กล้า ต้านยาเสพติด” และอื่นๆ ที่มีการแชร์ต่อๆ กันออกไปอย่างกว้างขวาง ในตอนหนึ่งที่นายเฉลิม กล่าวต่อหน้าผู้คนที่มาร่วมในกิจกรรมว่า ถึงวันที่เราจะต้องสร้างสำนึกร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติด เพราะไม่มีใครจะแก้ปัญหานี้ให้เราได้ นอกจากเรามาร่วมจับมือเพื่อแก้ไขปัญหากันเอง มันไม่ใช่เป็นเรื่องของนายอำเภอ ผู้กำกับ ผู้บังคับการ หรือผู้ว่าฯ พวกท่านเหล่านี้เขาทำตามหน้าที่ แต่พวกเขามาอยู่กี่วันเขาก็ต้องจากไปเพราะเขาไม่ได้เกิดตรงนี้ ไม่ได้ฝังรกที่นี้ แต่พวกเราเกิดตรงนี้ ฝังรกตรงนี้ ทำไมเราไม่ร่วมกันปกป้องบ้านเกิด รักษาบ้านเกิด แผ่นดินเกิด ในแต่ละหมู่บ้านมีผู้ค้ายาเสพติดไม่กี่คน บางหมู่บ้านมีแค่คนเดียวหรือสองคน แต่ชาวบ้านที่ไม่ค้ายา ไม่เกี่ยวข้องมีจำนวนนับร้อยนับพันคน แต่ทำไมจึงไม่สู้กับพวกค้ายาเพียง 2- 3 คน และกลับไปยกย่องบูชาคน2-3 คนที่มีฐานะร่ำรวย ยอมรับว่าเขาเป็นคนดี เพราะมีเงิน ยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ถูกต้องของสังคมเพราะเขาร่ำรวย มันเป็นค่านิยมที่ผิดๆ “ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว มีเครือข่ายต้านยาเสพติดคนหนึ่งบอกผมว่าในขณะนี้เหมือนกับหนังเรื่อง “แม่นาค” พระบอก ผู้ใหญ่บ้านบอก ที่ชาวบ้านพยายามบอกกับ “ทิดมาก”ว่าแม่นาคตายแล้ว แม่นาคเป็นผี แต่ทิดมากไม่เชื่อ ต้องอาศัยอยู่กับผีแม่นาค เปรียบได้กับยาบ้า ยาเสพติด วันนี้แพร่ระบาดอย่างหนักในทุกหมู่บ้าน เราพยายามประกาศ

บอกว่ายาบ้าเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่เชื่อ คนลาว คนเขมร พม่า เขามองลอดหว่างขาตัวเอง เขาเห็นและหัวเราะว่า”คนไทยติดยาบ้า ยาเสพติดกันทั้งประเทศแล้ว” แต่คนไทยเองกลับมองไม่เห็น ตนมองว่าเราเห็นแต่เราแกล้งทำไม่เห็น เราไม่ยอมรับความจริงว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ของเยาวชนลูกหลานพวกเราติดยา” ข้าราชการไทยใจสีขาว กล่าวต่อไปอีกว่า ความพยายามของชาวตำบลทอนหงส์ ในการร่วมกันต่อสู้เอาชนะยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยได้รับการสนับสนุนจากตำรวจ จังหวัด อำเภอ แต่พอเราหยุดมันก็กลับมาอีก เราจะต้องกลับมาร่วมกันต่อสู้กันอีกครั้งและหารูปแบบวิธีการต่อสู้ไปเรื่อยๆ เราน้อยใจที่มีความขัดแย้งทางการเมืองและไม่ได้มีการหยิบยกปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมาร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งน่าจะ

เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปัญหายาเสพติดยากลำบากมากยิ่งขึ้น การแก้ปัญหาในรูปแบบของทางราชการก็ทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น” “ การแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ยั่งยืน มั่นคงจริงๆ มันอยู่ที่หมู่บ้าน อยู่ที่ชุมชน และหมู่บ้าน/ชุมชนยอมรับหรือไม่ว่าลูกหลานตัวเองติดยา ซึ่งในความเป็นจริงการยอมรับว่าลูกหลานติดยาไม่ใช่เสียหายอะไร ไม่ได้เป็นสิ่งอุบาทว์เลย แม้แต่ลูกของผมนายภาณุวัฒน์ กาญจนพิทักษ์ ผมก็ตรวจพบว่ามีการใช้สารเสพติดปัสสาวะสีม่วง ผมขึ้นป้ายแดงตัวโตๆ

ผู้ใหญ่เฉลิมจับลูกชายเข้าคุกพร้อมขึ้นป้ายแดงประจานหลังตรวจพบปัสสาวะสีม่วง

ผู้ใหญ่เฉลิมจับลูกชายเข้าคุกพร้อมขึ้นป้ายแดงประจานหลังตรวจพบปัสสาวะสีม่วง

ประกาศประจานไว้กลางหมู่บ้าน มันเป็นความจริงที่เราไม่สามารถโกหกตัวเองได้ ความจริงลูกของผมตรวจในตอนกลางคืนไม่ใช่มีใครรู้ ใครเห็น ผมไม่รอให้ตำรวจมาตรวจ ผมตรวจเอง และผมไม่สามารถโกหกตัวเองได้ ซึ่งลูกผมก็ยอมรับสารภาพ และผมบอกกับลูกผมว่านี่คือกติกา พ่อนอนไม่หลับถ้าโกหกว่าลูกตรวจไม่พบสารเสพติด พ่อจำเป็นต้องนำปัสสาวะมึงไปโรงพัก ให้เขาส่งไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาล และออกหมายเรียกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป และลูกจะต้องรับโทษติดคุกเหมือนคนอื่นๆ ที่ทำผิด ทั้งนี้เพราะในกฎข้อ 7 ของหมู่บ้านระบุชัดเจนว่าลูกผู้ใหญ่บ้าน ลูกคณะกรรมการหมู่บ้าน หรือเป็นญาติของผู้ใหญ่บ้าน ญาติของคณะกรรมการหมู่บ้าน จะต้องได้รับโทษหนักกว่าลูกชาวบ้านทั่วๆ ไป นั่นคือศรัทธาที่เราจะต้องร่วมกันสร้างให้มันเกิดขึ้น ถ้าลูกเรา ญาติพี่น้องเรา ญาติพี่น้องเมียเรา เราปกปิดปกป้อง แล้วเราจะเอาศรัทธามาจากไหน ในส่วนของลูกผมนำปัสสาวะไปแจ้งกับตำรวจ ทางตำรวจเขาคงจะแกล้งใจผม เขาบอกว่าลายเซ็นต์รับรองผลของคณะกรรมการผู้ตรวจก็ไม่มี ผมจึงยืนยันว่าผมในฐานะผู้ใหญ่บ้านรับรองเอง รับรองในฐานะผู้ใหญ่บ้านและที่สำคัญในฐานะพ่อ ทางตำรวจจึงทำให้จนมีการออกหมายจับหลังจากนั้นประมาณ 10 กว่าวัน และถูกศาลตัดสินจำคุกเพื่อบำบัดรักษา 45 วันอยู่ในขณะนี้” ผู้ใหญ่เหลิม กล่าวต่อไปอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่ใช่เอาลูกมาหากิน เรียกศรัทธา แต่มันเป็นความจริงที่เราจะต้องทำเพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่านี่คือกติกาที่ทุกคนในสังคมต้องยอมรับ ต้องเคารพ และปฏิบัติเหมือนๆ กัน และที่ทำทำเพื่อปกป้องชุมชน ปกป้องลูกตัวเราเอง หากผมปกป้องปกปิดคนในสังคมต่อไป หากลูกผมเสียสติหรือเป็นบ้าเพราะพิษของยาเสพติดผมจะต้องรับผิดชอบดูแลลูกผมตลอดชีวิต ตอนนี้ลูกผมไม่ได้บ้า ผมไม่ได้ทำให้ลูกผมตาย แต่พยายามช่วยเขา ทำให้เขาหายจากติดยา และเมื่อถึงวันที่ลูกผมพ้นโทษออกมา จิตวิญญาณของความเป็นพ่อลูกก็ค่อยพูดคุยกันแก้ปัญหา ดูแลช่วยเหลือต่อไป ทางด้านนายสุรชัย วรชาญชัย แกนนำเครือข่ายเตือนภัยพิบัติกรุงชิง กล่าวว่า คลิปดังกล่าวมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น วิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ที่ตรวจปัสสาวะลูกตัวเองและพบสารเสพติดจึงจับลูกตัวเองติดคุก โดยส่วนตัวผมได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับนายเฉลิม เป็นครั้งที่ 3 ผมยืนยันได้เลยว่าผู้ใหญ่เหลิมเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นทำให้หมู่บ้านที่ตนเองปกครองเป็นหมู่บ้านน่าอยู่ชุมชนสีขาว ทำหน้าที่ฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างมีความชัดเจนอย่างมากในการก้าวเดินอย่างมีทิศทางที่มีความเป็นไปได้อย่างสู้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อเอาลูกเอาหลานกลับสู่บ้านอยู่ในสังคมปกติสุข ถ้าชาวบ้านในชุมชนเป็นแกนกลางร่วมมือกันอย่างเต็มแรงร่วมกับหน่วยงานที่เป็นกลไกของรัฐ “การจับลูกเข้าคุกในครั้งนี้ผมมองว่าผู้ใหญ่เฉลิมทำถูกที่ไม่ปกปิดและปล่อยให้ปัญหามันลุกลามรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดลูกติดยางอมแงม แก้ปัญหาได้ยาก เขาทำเพราะรักลูกอย่างถูกทาง แต่คนส่วนใหญ่อาจจะมีความคิดเห็นต่าง โดยในหมู่บ้านเก้ากอพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ ปกปิด ปกป้อง ลูกหลานที่ติดยาเสพติด อ้าวว่าปกป้อง ปกปิดเพราะรักลูก ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดเป็นอย่างมาก ทำให้ลูกหลานเสียผู้เสียคน เสียสติ เป็นบ้ามากถึง 16 คน หากรวมทั่วประเทศเด็กและเยาวชนลูกหลานไทยสูญเสียอนาคต เสียสติ เป็นบ้า เพราะพิษภัยยาเสพติดกี่หมื่นกี่แสนคน มันเป็นความสูญเสียอย่างมากมายมหาศาล การยอมรับความจริงและออกมาทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือลูกหลานของเราเองอย่างนายเฉลิม เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ผมยอมรับและยกย่องชื่นชมว่าเขาจิตวิญญาณความเป็นผู้นำและความเป็นพ่อของนายเฉลิม อย่างแท้จริง” นายสุรชัย กล่าวในที่สุด.

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2556 นางวณี จิวะรังสรรค์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช และกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้การช่วยเหลือ แก่เด็กชายธีรภัทร คีรีวงศ์ อายุ 11 เดือน หรือ”น้องกัณ” ที่ป่วยเป็นโรคประหลาดที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 7 ตำบลนาหลวงเสน อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

Page 16: นครโพสต์ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

FREE COPYเดือนมีนาคม 2556��