23
ปฏ บัต การ Microsoft Excel ครั งที 3

ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

  • Upload
    others

  • View
    8

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

ปฏิบตัิการ Microsoft Excel ครั �งที� 3

Page 2: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

2

IF() = ให้ค่าผลลพัธต์ามเงื�อนไขว่าเป็นจริง

หรือเทจ็

COUNTIF() = การนับค่าเมื�อเป็นไปตามเงื�อนไขที�

กาํหนด

ฟังกช์ั �นทางตรรกศาสตร ์

Page 3: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

3

ตวัอย่างการใช้งานฟังกช์ั �น

Page 4: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

4

ฟังกช์ั �น IF

ให้ค่าผลลพัธต์ามเงื�อนไขว่าเป็นจริง หรือเทจ็รปูแบบ

IF(เงื�อนไข,ผลลพัธท์ี�ได้ถ้าเป็นจริง,ผลลพัธท์ี�ได้ถ้าเป็นเทจ็) ตวัอย่าง

=IF(b5=10, “TRUE”, “FALSE”)

=IF(A1>A3, “0”, “1”)=IF(A1>A3, 0, 1)

Page 5: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

5

ฟังกช์ั �น IF แบบ Nested if

ในการทดสอบเงื�อนไขนั�นสามารถทดสอบเงื�อนไขได้มากกว่า 1 เงื�อนไขได้ ซึ�งเรียกวิธีการนี�ว่า Nested ifรปูแบบ IF(เงื�อนไข,ผลลพัธท์ี�ได้ถ้าเป็นจริง, IF (เงื�อนไข, ผลลพัธ์ที�ได้ถ้าเป็นจริง, IF(เงื�อนไข , ผลลพัธท์ี�ได้ถ้าเป็นจริง, ผลลพัธท์ี�ได้ถ้าเป็นเทจ็)))

Page 6: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

6

ฟังกช์ั �น IF แบบ Nested ifตวัอย่างเช่น =IF(OR((A2="m"),( A2= "M")), "ชาย",( IF(OR((A2="f" ),( A2="F")) , "หญิง", "ไม่ระบ"ุ)))ผลลพัธก์ารทาํงาน

Page 7: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

7

ฟังกช์ั �น IF แบบ Nested ifตวัอย่างเช่น =IF(E3="m","ชาย",IF(E3="f","หญิง"," ไม่ระบ"ุ))ผลลพัธก์ารทาํงาน

Page 8: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

8

ฟังกช์ั �น IF แบบ Nested ifจากตวัอย่าง สตูรที� 1 =IF(OR((A2="m"),( A2= "M")), "ชาย",( IF(OR((A2="f" ),( A2="F")) , "หญิง", "ไม่ระบ"ุ))) สตูรที� 2 =IF(E3="m","ชาย",IF(E3="f","หญิง"," ไม่ระบ"ุ))

ผลลพัธก์ารทาํงาน ของสตูรที� 1 และสตูรที� 2 จะให้ผลลพัธท์ี�เหมือนกนัเนื�องจาก Excel 2010 ได้มีการพฒันาความสามารถเพิ�มขึ�นมา

Page 9: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

9

ตวัอย่างฟังกช์ั �น IF แบบ Nested ifตวัอย่างการคาํนวณอตัราดอกเบี�ย

ถ้าต้องการคาํนวณดอกเบี�ยแบบอตัราก้าวหน้า ตามระยะเวลาในอตัราดงัที�กาํหนด ระยะเวลา น้อยกว่าหรือเท่ากบั 3 เดือน คิดอตัรา 1%

น้อยกว่าหรือเท่ากบั 6 เดือน คิดอตัรา 1.5 %มากกว่า 6 คิดอตัรา 1.85 %

Page 10: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

10

ตวัอย่างฟังกช์ั �น IF แบบ Nested ifสตูรการคาํนวณอตัราดอกเบี�ย คือ =IF(F12<=3,G12*0.01,IF(F12<=6,G12*0.015,G12*0.0185))

Page 11: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

11

ตวัอย่างการใช้ฟังกช์ั �น SUM รว่มกบั IF แบบ Nested if

รวมเงินพิเศษตามเงื�อนไข=SUM(IF(A2=“f”,1000,500),IF(B2>=65,600,IF(B2>=60,500,0)))

Page 12: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

12

ฟังกช์ั �น COUNTIF

นับจาํนวนเซลลท์ี�มีข้อมลูตรงกบัเงื�อนไขที�กาํหนดรปูแบบ

COUNTIF(ช่วงของข้อมลู, “เงื�อนไขตรวจสอบ”)ตวัอย่าง

=COUNTIF(A1:A5, “>=25”)

=COUNTIF(A1:A3, “สุทธิสาร”)

Page 13: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

13

ฟังกช์ั �น COUNTIF

ตวัอย่างการใช้ฟังกช์นั COUNTIF ถ้าต้องการนับจาํนวนผูช้ายทั �งหมด เราสามารถเขียนสตูรใน cell F8 ได้ดงันี�

=COUNTIF(E$3:E$7,"m")

Page 14: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

14

ฟังกช์ั �น COUNTIF

ตวัอย่างการใช้ฟังกช์นั COUNTIF =COUNTIF(E$3:E$7,"m")

=COUNTIF(E$3:E$7,“f")

Page 15: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

15

ฟังกช์ั �น COUNTIF

ตวัอย่างที� 2 ฟังกช์นั COUNTIF ถ้าต้องการนับจาํนวนคนที�ได้ดอกเบี�ยตามอตัราต่างๆ สามารถเขียนสตูรคาํนวณได้ดงันี�

Page 16: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

16

ฟังกช์ั �น COUNTIFตวัอย่างที� 2 ฟังกช์นั COUNTIF

Page 17: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

17

ฟังกช์ั �น COUNTIF

ตวัอย่างที� 2 ฟังกช์นั COUNTIF

Page 18: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

18

ฟังกช์ั �น COUNTIF

ตวัอย่างที� 2 ฟังกช์นั COUNTIF

Page 19: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

19

ฟังกช์ั �น SUMIF

รวมค่าเมื�อเซลลท์ี�ระบมุีข้อมลูตรงกบัเงื�อนไขที�กาํหนดรปูแบบSUMIF(ช่วงข้อมลูตรวจสอบ, “เงื�อนไขตรวจสอบ”,[ช่วงข้อมลูที�นํามารวม])ตวัอย่าง

=SUMIF(A1:A5, “>=1000”)

=SUMIF(C1:C5, “=f”,A1:A5)

Page 20: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

20

ตวัอย่างการใช้ฟังกช์ั �น SUMIF

รวมเงินพิเศษที�ได้มากกว่า 500=SUMIF(E2:E5, “>500”)

Page 21: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

21

ตวัอย่างการใช้ฟังกช์ั �น SUMIF

รวมอายขุองพนง.ผูห้ญิง=SUMIF(A2:A5, “=f”,B2:B5)

Page 22: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

22

ตวัอย่างการใช้ฟังกช์ั �น SUMIF

หาอายเุฉลี�ยของพนง.ผูห้ญิง=SUMIF(A2:A5, “=f”,B2:B5)/COUNTIF(A2:A5, “=f”)

Page 23: ปฏิบัติการ MicrosoftExcel ครั˘งที 3

ASSIGNMENT

• Download ไดท้ี$ ftp://172.25.1.5/sectionxx/disk1/Lab8-Instructions.pdf

เมื$อ xx เป็นหมายเลข section เช่น 03 เป็นตน้