1022
พระวินัยปฎก ปริวาร เลม - หนาที1 พระวินัยปฎก เลม ปริวาร ขอนอบนอมแดพระผูมีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น มหาวิภังค ๑๖ มหาวาร กัตถปญญัติวาร ที[] พระผูมีพระภาคเจา ผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ เจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบททีที่ไหน ทรงปรารภใคร เพราะเรื่องอะไร ในปาราชิกสิกขาบททีนั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุ- ปนนบัญญัติ สัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ สาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ เอกโตบัญญัติ อุภโตบัญญัติ หรือ บรรดาปาติโมกขุทเทศ ปาราชิกสิกขาบท ทีนั้น จัดเขาในอุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน มาสูอุเทศโดยอุเทศทีเทาไร บรรดาวิบัติ เปนวิบัติอยางไหน บรรดาอาบัติ กอง เปนอาบัติ กองไหน บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ อยาง เกิดขึ้นดวยสมุฏฐานเทาไร บรรดาอธิกรณ เปนอธิกรณอยางไหน บรรดาสมถะ ยอมระงับดวยสมถะ เทาไร ในปาราชิกสิกขาบททีนั้น อะไรเปนวินัย ในปาราชิกสิกขาบททีนั้น อะไรเปนอภิวินัย ในปาราชิกสิกขาบททีนั้น อะไรเปนปาติโมกข ในปาราชิกสิกขาบททีนั้น อะไรเปนอธิปาติโมกข อะไรเปนวิบัติ อะไร

นั้น · พระบัญญัติ นวินัยเปําแนกเป การจ นอภิวินัย ถ. ในปาราชิิกสกขาบทท๑

  • Upload
    others

  • View
    5

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 1

    พระวินัยปฎก เลม ๘ ปริวาร ขอนอบนอมแดพระผูมีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจาพระองคนัน้ มหาวิภังค ๑๖ มหาวาร กตัถปญญัติวาร ที ่๑ [๑] พระผูมีพระภาคเจา ผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ เจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ ณ ที่ไหน ทรงปรารภใคร เพราะเรื่องอะไร ในปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุ- ปนนบัญญัติ สัพพัตถบญัญัติ ปเทสบัญญัติ สาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ เอกโตบัญญติั อุภโตบัญญัติ หรือ บรรดาปาติโมกขุทเทศ ๕ ปาราชิกสิกขาบท ที่ ๑ นั้น จัดเขาในอุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ี เทาไร บรรดาวิบัติ ๔ เปนวิบัติอยางไหน บรรดาอาบัติ ๗ กอง เปนอาบัติ กองไหน บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ อยาง เกิดข้ึนดวยสมุฏฐานเทาไร บรรดาอธิกรณ ๔ เปนอธิกรณอยางไหน บรรดาสมถะ ๗ ยอมระงับดวยสมถะ เทาไร ในปาราชิกสิกขาบทที่ ๑ นั้น อะไรเปนวินัย ในปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนอภิวินัย ในปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนปาติโมกข ในปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนอธิปาติโมกข อะไรเปนวิบัติ อะไร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 2

    เปนสมบัติ อะไรเปนขอปฏิบัติ พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบท ที่ ๑ เพราะทรงอาศัยอํานาจประโยชนเทาไร พวกไหนศึกษา พวกไหนมีสิกขา อันศึกษาแลว ปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น ต้ังอยูในใคร พวกไหนยอมทรงไว เปนถอยคําของใคร ใครนํามา. ปาราชิกกัณฑ คําถามและคําตอบปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ [๒] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมา- สัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครเวสาลี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภพระสุทิน กลันทบุตร ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่พระสุทิน กลนัทบุตร เสพเมถุนธรรมในปุราณ- ทุติยิกา ถ. ในปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น มีบัญญติั อนุบัญญติั อนุปนน- บัญญัติ หรอื ต. มบีัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๒ อนุปนนบัญญัติ ไมมี ในปาราชิก- สิกขาบทท่ี ๑ นั้น ถ. มสีัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ หรือ ต. มแีตสัพพัตถบัญญัติ ถ. มสีาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ หรือ

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 3

    ต. มแีตสาธารณบัญญัติ ถ. มีเอกโตบัญญติั อุภโตบัญญัติ หรือ ต. มแีตอุภโตบัญญัติ ถ. บรรดาปาติโมกขุทเทศ ๕ ปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น จัดเขาใน อุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน ต. จัดเขาในนิทาน นับเนื่องในนิทาน ถ. มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ีเทาไร ต. มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ี ๒ ถ. บรรดาวิบัติ ๔ เปนวิบัติอยางไหน ต. เปนศีลวิบัติ ถ. บรรดาอาบัติ ๗ กอง เปนอาบัติกองไหน ต. เปนอาบัติกองปาราชิก ถ. บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ อยาง ปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น เกิดดวยสมุฏฐานเทาไร ต. เกดิดวยสมุฏฐานอันหน่ึง คือ เกิดแตกายกับจิต มิใชวาจา ถ. บรรดาอธิกรณ ๔ เปนอธิกรณอะไร ต. เปนอาปตตาธิกรณ ถ. บรรดาสมถะ ๗ ระงับดวยสมถะเทาไร ต. ระงับดวยสมถะ ๒ อยาง คือ สัมมุขาวินัย ๑ ปฏญิญาตกรณะ ๑ ถ. ในปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนวินัย ในปาราชิกสิกขาบท ที่ ๑ นั้น อะไรเปนอภิวินัย

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 4

    ต. พระบัญญัติเปนวินัย การจําแนกเปนอภิวินัย ถ. ในปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนปาติโมกข ในปาราชกิ- สิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนอธิปาติโมกข ต. พระบัญญัติเปนปาติโมกข การจําแนกเปนอธิปาติโมกข ถ. อะไรเปนวิบัติ ต. ความไมสังวรเปนวิบัติ ถ. อะไรเปนสมบัติ ต. ความสังวรเปนสมบัติ ถ. อะไรเปนขอปฏิบัติ ต. ขอท่ีภิกษุสมาทานอาปาณโกฏิกศีลตลอดชีวิตวา จักไมทํากรรม เห็นปานน้ี แลวศึกษาอยูในสิกขาบทท้ังหลาย เปนขอปฏิบัติ ถ. พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ เพราะทรง อาศัยอํานาจประโยชนเทาไร ต. พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทท่ี ๑ เพราะทรง อาศัยอํานาจประโยชน ๑๐ ประการ คือ เพ่ือความรับวาดีแหงสงฆ ๑ เพ่ือ ความสําราญแหงสงฆ ๑ เพ่ือขมบุคคลผูเกอยาก ๑ เพ่ือยูสําราญแหงภิกษุผูมี ศีลเปนที่รัก ๑ เพ่ือปองกันอาสวะอันจะบังเกิดในปจจุบัน ๑ เพ่ือกําจัดอาสวะ อันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพ่ือความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไมเลื่อมใส เพ่ือ ความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแลว ๑ เพ่ือความดํารงม่ันแหงพระสัทธรรม ๑ เพ่ืออนุเคราะหพระวินัย ๑ ถ. พวกไหนศึกษา

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 5

    ต. พระเสกขะและกัลยาณปุถุชนศึกษา ถ. พวกไหนมีสิกขาอันศึกษาแลว ต. พระอรหันตมีสิกขาอันศึกษาแลว ถ. ปาราชิกสิกขาบทที่ ๑ นั้น ต้ังอยูในใคร ต. ต้ังอยูในสิกขากามบุคคล ถ. พวกไหนยอมทรงไว ต. ปาราชิกสิกขาบทที่ ๑ ยอมเปนไปแกพระเถระพวกใด พระเถระ พวกน้ันยอมทรงไว ถ. เปนถอยคําของใคร ต. เปนพระดํารัสของพระผูมีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจา ถ. ใครนํามา ต. พระเถระทั้งหลายนําสืบ ๆ กันมา.

    รายนามพระเถระ [๓] พระเถระเหลาน้ี คือ พระอุบาลี พระทาสกะ พระโสณถะ พระสิคควะ รวม เปนหาท้ังพระโมคคัลลีบุตร นําพระวินัยมา ในทวีปชื่อวาชมพู อันมีสริิ แตนั้น พระ- เถระผูประเสริฐมีปญญามากเหลาน้ี คือ พระ มหินทะ ๑ พระอิฏฏิยะ ๑ พระอุตติยะ ๑ พระสัมพละ ๑ พระเถระชื่อภัททะผูเปน บัณฑิต ๑ มาในเกาะสิงหฬนี้ แตชมพูทวีป

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 6

    พวกทานสอน พระวินัยปฎกในเกาะตาม- พปณณิ สอนนิกาย ๕ และปกรณ ๗ แลว ภายหลังพระอริฏฐะผูมปีญญา พระติสสทัต- ตะผูฉลาด พระกาฬสุมนะผูองอาจ พระ- เถระมีชื่อวาทีฆะ พระทฆีสุมนะผูบณัฑิต ตอมาอีก พระกาฬสุมนะ พระนาคเถระ พระพุทธรักขิต พระติสสเถระผูมีปญญา พระเทวเถระผูฉลาด ตอมาอีก พระสุมนะ ผูมีปญญาและเช่ียวชาญในพระวินัย พระ- จูฬนาค ผูพหูสูต ดุจชางซับมัน พระเถระ ชื่อธัมมปาลติะ อันสาธุชนบูชาแลวในโรหน ชนบท ศษิยของพระธรรมปาลิตะนั้น ม ี ปญญามาก ชื่อพระเขมะ ทรงจําพระไตร- ปฎกรุงเรืองอยูในเกาะ ดวยปญญา ดุจ พระจันทร พระอุปติสสะผูมีปญญา พระ- ปุสสะเทวะผูมหากถึก ตอมาอีก พระสุมนะ ผูมีปญญา พระเถระชื่อบปุผะ ผูพหูสูต พระ มหาสีวะผูมหากถึก ฉลาดในพระปฎกท้ัง- ปวง ตอมาอกี พระอบุาล ี ผูมีปญญา เชี่ยว ชาญในพระวินัย พระมหานาค ผูมปีญญา มาก ฉลาดในวงศพระสัทธรรม ตอมาอีก

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 7

    พระอภยะ ผูมีปญญา ฉลาดในพระปฎก ทั้งปวง พระติสส เถระ ผูมีปญญาเช่ียวชาญ ในพระวินัย ศิษยของพระติสสเถระน้ัน ม ี ปญญามาก ชื่อปุสสะ เปนพหูสูต ตามรักษา พระศาสนา อยูในชมพูทวีป พระจูฬาภยะ ผูมีปญญาและเช่ียวชาญในพระวินัย พระ- ติสสเถระ ผูมีปญญา ฉลาดในวงศพระ สัทธรรม พระจูฬาเทวะ ผูมีปญญาและ เชี่ยวชาญในพระวินัย และพระสิวเถระ ผู มีปญญา ฉลาดในพระวินัยท้ังมวล พระเถระ ผูประเสริฐมปีญญามากเหลาน้ี รูพระวินัย ฉลาดในมรรคา ไดประกาศพระวินัยปฎกไว ในเกาะตามพปณณิ. คําถามและคําตอบปาราชิกสิกขาบทที่ ๒ [๔] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมา- สัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติปาราชิกสิกขาบทที่ ๒ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภพระธนียะ กุมภการบุตร ถ. เพราะเรื่องอะไร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 8

    ต. เพราะเรื่องที่พระธนิยะ กุมภการบุตร ถอืเอาไมของหลวง ซึ่ง ไมไดรับพระราชทาน. มีบัญญัติ ๑ อนุบญัญัติ ๑ อนุปนนบัญญัติไมมี บรรดาสมุฏฐาน แหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวยสมุฏฐาน ๓ คือ บางทีเกิดแตกายกับจิตมิ ใชวาจา บางทีเกิดแตวาจากับจิต มิใชกาย บางทีเกิดแตกาย วาจา และจิต . . . คําถามและคําตอบปาราชิกสิกขาบทท่ี ๓ [๕] ถามวา ปาราชิกสิกขาบทท่ี ๓ ทรงบญัญัติ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครเวสาลี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภภิกษุมากรูปดวยกัน ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุมากรูปดวยกัน ปลงชีวิตกันและกัน. มีบัญญัติ ๑ อนุบญัญัติ ๑ อนุปนนบัญญัติไมมี บรรดาสมุฏฐานแหง อาบัติ ๖ สิกขาบทน้ีเกิดดวยสมุฏฐาน ๓ คือ บางทีเกิดแตกายกับจิต มิใชวาจา บางทีเกิดแตวาจากับจิต มิใชกาย บางทีเกิดแตกาย วาจา และจิต . . . คําถามและคําตอบปาราชิกสิกขาบทท่ี ๔ [๖] ถามวา ปาราชิกสิกขาบทท่ี ๔ ทรงบญัญัติ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครเวสาลี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภภิกษุพวกฝงแมน้ําวัคคุมุทา

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 9

    ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุพวกฝงแมน้ําวัคคุมุทา กลาวสรรเสริญ อุตร-ิ มนุสธรรมของกันและกัน แกพวกคฤหัสถ. มีบัญญัติ ๑ อนุบญัญัติ ๑ อนุปนนบัญญัติไมมี บรรดาสมุฏฐานแหง อาบัติ ๖ สิกขาบทน้ีเกิดดวยสมุฏฐาน ๓ คือ บางทีเกิดแตกายกับจิต ไมใชวาจา บางทีเกิดแตวาจากับจิต มิใชกาย บางทีเกิดแตกาย วาจา และจิต . . . ปาราชกิ ๔ สิกขาบท จบ หัวขอประจํากัณฑ [๗] ปาราชิก ๔ คือ เมถุนธรรม ๑ อทินนาทาน ๑ มนสุสวิคคหะ ๑ อุตริมนุสธรรม ๑ เปนวัตถุแหงมูลเฉท หาความสงสัยมิได ดังน้ีแล. กตัถปญญัติวาร [๘] พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจา พระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส แกภิกษุผูพยายามปลอยอสุจิ ณ ที่ไหน ทรงปรารภใคร เพราะเรื่องอะไร ในสังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุปนนบัญญัติ สัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ สาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ เอกโตบัญญัติ อุภโตบัญญัติ หรือ บรรดาปาติโมกขุทเทศ ๕ สังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น หยัง่ลงในอุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ีเทาไร บรรดาวิบัติ ๔ เปนวิบัติอยางไหน บรรดาอาบัติ ๗ กอง เปนอาบัติกองไหน บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ อยาง ยอมเกิดข้ึน ดวยสมุฏฐานเทาไร บรรดาอธิกรณ ๔ เปนอธิกรณอยางไหน บรรดาสมถะ ๗

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 10

    ยอมระงับดวยสมถะเทาไร ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้น อะไรเปนวินัย ในสังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนอภิวินัย ในสังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนปาติโมกข ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้น อะไรเปนอธิ- ปาติโมกข อะไรเปนวิบัติ อะไรเปนสมบัติ อะไรเปนขอปฏิบัติ พระผูมี พระภาคเจาทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูพยายามปลอยอสุจิ เพราะทรง อาศัยอํานาจประโยชนเทาไร พวกไหนศึกษา พวกไหนมีสิกขาอันศึกษาแลว สังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น ต้ังอยูในใคร พวกไหนยอมทรงไว เปนถอยคํา ของใคร ใครนํามา. สังฆาทิเสสกัณฑ คําถามและตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ [๙] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูพยายามปลอยอสุจิ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระเสยยสกะ ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระเสยยสกะพยายามปลอยอสุจิดวยมือ ถ. ในสังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น มีบญัญัติ อนุบัญญัติ อนุปนน- บัญญัติ หรอื

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 11

    ต. มบีัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ อนุปนนบัญญัติไมมี ในสังฆาทิเสส สิกขาบทท่ี ๑ นั้น ถ. มสีัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ หรือ ต. มแีตสัพพัตถบัญญัติ ถ. มสีาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ หรือ ต. มแีตอสาธารณบัญญัติ ถ. มีเอกโตบัญญติั อุภโตบญัญัติ หรือ ต. มแีตเอกโตบัญญัติ ถ. บรรดาปาติโมกขุทเทศ ๕ สังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น หยั่งลง ในอุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน ต. หยั่งลงในนิทาน นับเนื่องในนิทาน ถ. มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ีเทาไร ต. มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ี ๓ ถ. บรรดาวิบัติ ๔ เปนวิบัติอยางไหน ต. เปนศีลวิบัติ ถ. บรรดาอาบัติ ๗ กอง เปนอาบัติกองไหน ต. เปนอาบัติกองสังฆาทิเสส ถ. บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ อยาง สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้น ยอมเกิดดวยสมุฏฐานเทาไร ต. ยอมเกิดดวยสมุฏฐานอันหน่ึง คือ เกดิแตกายกับจิตมิใชวาจา ถ. บรรดาอธิกรณ ๔ เปนอธิกรณอะไร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 12

    ต. เปนอาปตตาธิกรณ ถ. บรรดาสมถะ ๗ ระงับดวยสมถะเทาไร ต. ระงับดวยสมถะ ๒ อยาง คือ สัมมุขาวินัย ๑ ปฏญิญาตกรณะ ๑ ถ. ในสังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนวินัย ในสังฆาทิเสส สิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนอภิวินัย ต. พระบัญญัติเปนวินัย การจําแนกเปนอภิวินัย ถ. ในสังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนปาติโมกข ใน สังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนอธิปาติโมกข ต. พระบัญญัติเปนปาติโมกข การจําแนกเปนอธิปาติโมกข ถ. อะไรเปนวิบัติ ต. ความไมสังวรเปนวิบัติ ถ. อะไรเปนสมบัติ ต. ความสังวรเปนสมบัติ ถ. อะไรเปนขอปฏิบัติ ต. ขอท่ีภิกษุสมาทานอาปาณโกฏิกศีลตลอดชีวิตวา จักไมทํากรรม เห็นปานน้ี แลวศึกษาอยูในสิกขาบทท้ังหลาย เปนขอปฏิบัติ ถ. พระผูมีพระภาคเจา ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูพยายาม ปลอยอสุจิ เพราะทรงอาศัยอํานาจประโยชนเทาไร ต. พระผูมีพระภาคเจา ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูพยายาม ปลอยอสุจิ เพราะทรงอาศัยอํานาจประโยชน ๑๐ ประการ คือ เพ่ือความรับ วาดีแหงสงฆ ๑ เพ่ือความสําราญแหงสงฆ ๑ เพ่ือขมบุคคลผูเกอยาก ๑ เพ่ือ

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 13

    อยูสําราญแหงภิกษุผูมีศีลเปนที่รัก ๑ เพ่ือปองกันอาสวะอันจะบังเกิดใน ปจจุบัน ๑ เพ่ือกําจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพ่ือความเลื่อมใสของ ชุมชนที่ยังไมเลื่อมใส ๑ เพ่ือความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแลว ๑ เพ่ือ ความดํารงมั่นแหงพระสัทธรรม ๑ เพ่ืออนุเคราะหพระวินัย ๑ ถ. พวกไหนศึกษา ต. พระเสกขะและกัลยาณปุถุชนศึกษา ถ. พวกไหนมีสิกขาอันศึกษาแลว ต. พระอรหันตมีสิกขาอันศึกษาแลว ถ. ต้ังอยูในใคร ต. ต้ังอยูในสิกขากามบุคคล ถ. พวกไหนยอมทรงไว ต. สงัฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑ ยอมเปนไปแกพระเถระพวกใด พระเถระ พวกน้ันยอมทรงไว ถ. เปนถอยคําของใคร ต. เปนพระดํารัสของพระผูมีพระภาคอรหันสัมมาสัมพุทธเจา ถ. ใครนํามา ต. พระเถระทั้งหลายนําสืบ ๆ กันมา.

    รายนามพระเถระ พระเถระเหลาน้ี คือ พระอบุาลี พระทาสกะ พระโสณกะ พระสิคควะ รวม

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 14

    เปนหาท้ังพระโมคัลลีบุตร นําพระวินัยมา ในทวีปชื่อวา ชมพู อันมีสิริ แตนั้น พระเถระผูประเสริฐ มปีญญามากเหลาน้ี คือ พระมหนิทะ ๑ พระอิฏฏิยะ ๑ พระ- อุตติยะ ๑ พระสัมพละ ๑ ...พระเถระผู ประเสริฐมีปญญามากเหลาน้ี รูพระวินัย ฉลาดในมรรคา ไดประกาศพระวินัยปฎก ไวในเกาะตามพปณณิ. คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒ [๑๐] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูถึงความเคลาคลึง ดวยกายกับมาตุคาม ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุทายี ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องท่ีทานพระอุทายีถึงความเคลาคลึงดวยกายกับมาตุคาม. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ีเกิดดวยสมุฏฐาน อันหน่ึง คือ เกิดแตกายกับจิต มิใชวาจา. . .

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 15

    คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๓ [๑๑] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบญัญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูพูดเคาะมาตุคาม ดวยวาจาชั่วหยาบ ณ ทีไ่หน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุทายี ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุทายีพูดเคาะมาตุคาม ดวยวาจาชั่วหยาบ. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สกิขาบทน้ีเกิดดวย สมุฏฐาน ๓ คือ บางทีเกิดแตกายกับจิต มิใชวาจา บางทีเกิดแตวาจากับจิต มิใชกาย บางทีเกิดแตกาย วาจา และจิต . . . คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๔ [๑๒] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมา- สัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญติัสังฆาทิเสสแกภิกษุผูกลาวคุณแหงการ บําเรอตนดวยกาม ในสาํนักมาตุคาม ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุทายี ถ. เพราะเรื่องอะไร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 16

    ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุทายี กลาวคุณแหงการบําเรอตนดวยกาม ในสํานักมาตุคาม. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๓ . . . คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๕ [๑๓] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมา- สัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูถึงความเปนผูเที่ยวชัก สื่อ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุทายี ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุทายีถึงความเปนผูเที่ยวชักสื่อ. มีบัญญัติ ๑ อนุบญัญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวยสมุฏฐาน ๖ คือ บางทีเกิดแตกาย มใิชวาจา มิใชจิต บางทีเกิดแต วาจา มิใชกาย มิใชจิต บางทีเกิดแตกายกับวาจา มิใชจิต บางทีเกิดแตกาย กับจิต มิใชวาจา บางทีเกิดแตวาจากับจิต มิใชกาย บางทีเกิดแตกาย วาจา และจิต . . . คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๖ [๑๔] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูใหทํากุฎีดวยอาการขอ เอาเอง ณ ที่ไหน

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 17

    ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ เมืองอาฬวี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภภิกษุชาวเมืองอาฬวี ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุพวกเมืองอาฬวีใหทํากุฎีดวยอาการขอเอาเอง. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๖... คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๗ [๑๕] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญติัสังฆาทิเสสแกภิกษุผูใหทําวิหารใหญ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระฉันนะ ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระฉันนะแผวถางพื้นท่ีวิหาร ไดสั่งใหตัดตนไม ที่เขาสมมติวาเปนเจดียตนหนึ่ง. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สกิขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๖ ...

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 18

    คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๘ [๑๖] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูตามกําจัดภิกษุ ดวยธรรมมีโทษถึงปาราชิกอันหามูลมิได ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบญัญัติ ณ พระนครราชคฤห ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภพระเมตติยะและพระภุมมชกะ ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่พระเมตติยะ และพระภุมมชกะตามกําจัดทานพระ ทัพพมัลลบุตร ดวยธรรมมีโทษถึงปาราชิกอันหามูลมิได. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๓ . . . คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๙ [๑๗] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูถือเอาเอกเทศ บางอยางแหงอธิกรณอันเปนเรื่องอ่ืน ใหเปนเพียงเลศ ตามกําจัดภิกษุดวย ธรรมอันมีโทษถึงปาราชิก ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภพระเมตติยะและพระภุมมชกะ ถ. เพราะเรื่องอะไร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 19

    ต. เพราะเรื่องที่พระเมตติยะและพระภุมมชกะ ถือเอาเอกเทศบาง อยางแหงอธิกรณอันเปนเรื่องอ่ืน ใหเปนเพียงเลศ ตามกําจัดทานพระทัพพ- มัลลบุตร ดวยธรรมอันมีโทษถึงปาราชิก. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๓ ... คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๐ [๑๘] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูทําลายสงฆ ผู ไมสละกรรม เพราะสวดสมนุภาสนกวาจะครบ ๓ จบ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภพระเทวทัต ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่พระเทวทัต ตะเกียกตะกายเพ่ือทําลายสงฆผูพรอม เพรียง. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ีเกิดดวยสมุฏฐาน อันหน่ึง คือ เกิดแตกาย วาจา กับ จิต . . . คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๑ [๑๙] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกพวกภิกษุผูประพฤติ

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 20

    ตามภิกษุผูทําลายสงฆ ผูไมสละกรรมเพราะสวดสมนุภาสนกวาจะครบ ๓ จบ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูป ไดประพฤติตามพระเทวทัตผูตะเกียก ตะกายเพ่ือทําลายสงฆ. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ีเกิดดวยสมุฏฐาน อันหน่ึง คือ เกิดแตกาย วาจา กับ จิต . . . คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทท่ี ๑๒ [๒๐] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูวายาก ไมสละ กรรมเพราะสวดสมนุภาสนกวาจะครบ ๓ จบ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระฉันนะ ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระฉันนะ อันภิกษุทั้งหลายวากลาวอยูโดย ชอบธรรม ไดทําตนใหเปนผูอันใคร ๆ วากลาวไมได. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ีเกิดดวยสมุฏฐาน อันหน่ึง คือ เกิดแตกาย วาจา กับจิต ...

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 21

    คําถามและคําตอบสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓ [๒๑] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแกภิกษุผูประทุษรายสกุล ไมสละกรรมเพราะสวดสมนุภาสนกวาจะครบ ๓ จบ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภภิกษุพวกพระอัสสชิ และพระปุนัพพสุกะ ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุพวกพระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะถูกสงฆลง ปพพาชนียกรรม แลวกลบัหาวา ภิกษุทั้งหลายถึงความพอใจ ถึงความขัดเคือง ถึงความหลง ถึงความกลัว. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ีเกิดดวยสมุฏฐาน อันหน่ึง คือ เกิดแตกาย วาจา กับจิต ... สังฆาทิเสส ๑๓ สกิขาบท จบ หัวขอประจาํกัณฑ [๒๒] สังฆาทิเสส ๑๓ สกิขาบท คือ ปลอยนํ้าสุกกะ ๑ เคลาคลึง กาย ๑ วาจาชั่วหยาบ ๑ บําเรอตนดวยกาม ๑ เที่ยวชักสื่อ ๑ สรางกุฎี ๑ สรางวิหาร ๑ ปาราชิกาบัติไมมีมูล ๑ อางเลศบางอยาง ๑ ทําลายสงฆ ๑ ประพฤติตามภิกษุผูทําลายสงฆ ๑ วายาก ๑ ประทุษรายสกุล ๑.

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 22

    กตัถปญญัติวาร [๒๓] พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันตสัมมาสัม- พุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติอนิยตสิกขาบทท่ี ๑ ณ ที่ไหน ทรงปรารภใคร เพราะเรื่องอะไร ในอนิยตสิกขาบทท่ี ๑ นั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุปนน บัญญัติ สัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญติั สาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ เอกโตบัญญติั อุภโตบญัญัติ หรือบรรดาปาติโมกขุทเทศ ๕ อนิยตสิกขาบท ที่ ๑ นั้น หยั่งลงในอุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ี เทาไร บรรดาวิบัติ ๔ เปนวิบัติอยางไหน บรรดาอาบัติ ๗ กองเปนอาบัติ กองไหน บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ อยาง เกิดดวยสมุฏฐานเทาไร บรรดา อธิกรณ ๔ เปนอธิกรณอยางไหน บรรดาสมถะ ๗ ยอมระงับดวยสมถะเทาไร ในอนิยตสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนวินัย ในอนยิตสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไร เปนอภิวินัย ในอนิยตสิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนปาติโมกข ในอนิยต สิกขาบทท่ี ๑ นั้น อะไรเปนอธิปาติโมกข อะไรเปนวิบัติ อะไรเปนสมบัติ อะไรเปนขอปฏิบัติ พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติ อนิยตสิกขาบทท่ี ๑ เพราะ ทรงอาศัยอํานาจประโยชนเทาไร พวกไหนศึกษา พวกไหนมีสิกขาอันศึกษา แลว อนิยตสิกขาบทท่ี ๑ นั้น ต้ังอยูในใคร พวกไหนยอมทรงไว เปนถอยคํา ของใคร ใครนํามา. อนิยตกัณฑ คําถามและคําตอบ อนิยตสิกขาบทที่ ๑ [๒๔] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัติอนิยตสิกขาบทท่ี ๑ ณ ที่ไหน

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 23

    ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุทายี ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุทายีผูเดียว สําเร็จการน่ังในท่ีลับคือใน อาสนะกําบัง พอจะทําการได กับมาตุคามผูเดียว ถ. ในอนิยตสิกขาบทที่ ๑ นั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุปนนบัญญติั หรือ ต. มบีัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ อนุปนนบัญญติั ไมมีในอนิยตสิกขาบท ที่ ๑ นั้น ถ. มสีัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ หรือ ต. มแีตสัพพัตถบัญญัติ ถ. มสีาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ หรือ ต. มแีตอสาธารณบัญญัติ ถ. มีเอกโตบัญญติั อุภโตบัญญัติ หรือ ค. มแีตเอกโตบัญญัติ ถ. บรรดาปาติโมกขุทเทศ ๕ อนิยตสิกขาบทที่ ๑ นั้น หยั่งลงใน อุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน ต. หยั่งลงในนิทาน นับเนื่องในนิทาน ถ. มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ีเทาไร ต. มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ี ๔

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 24

    ถ. บรรดาวิบัติ ๔ เปนวิบัติอยางไหน ต. บางทีเปนศีลวิบัติ บางทีเปนอาจารวิบัติ. ถ. บรรดาอาบัติ ๗ กอง เปนอาบัติกองไหน ต. บางทีเปนอาบัติกองปาราชิก บางทีเปนอาบัติกองสังฆาทิเสส บางทีเปนอาบัติกองปาจิตตีย ถ. บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ อยาง อนิยตสิกขาบทที่ ๑ นั้น เกิดดวยสมุฏฐานเทาไร ต. เกดิดวยสมุฏฐานอันหน่ึง คือ เกิดแตกายกับจิต มิใชวาจา ถ. บรรดาอธิกรณ ๔ เปนอธิกรณอะไร ต. เปนอาปตตาธิกรณ ถ. บรรดาสมถะ ๗ ระงับดวยสมถะเทาไร ต. ระงับดวยสมถะ ๓ อยาง คือ บางทีระงับดวยสัมมุขาวินัยกับ ปฏิญญาตกรณะ บางทีระงับดวยสัมมุขาวินัย บางทีระงับดวยติณวัตถารกะ ถ. ในอนิยตสิกขาบทที่ ๑ นัน้ อะไรเปนวินัย ในอนิยตสิกขาบทที่ ๑ นั้น อะไรเปนอภิวินัย ต. พระบัญญัติเปนวินัย การจําแนกเปนอภิวินัย ถ. ในอนิยตสิกขาบทที่ ๑ นั้น อะไรเปนปาติโมกข ในอนิยตสิกขาบท ที่ ๑ นั้น อะไรเปนอธิปาติโมกข ต. พระบัญญัติเปนปาติโมกข การจําแนกเปนอธิปาติโมกข ถ. อะไรเปนวิบัติ ต. ความไมสังวรเปนวิบัติ

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 25

    ถ. อะไรเปนสมบัติ ต. ความสังวรเปนสมบัติ ถ. อะไรเปนขอปฏิบัติ ต. ขอท่ีภิกษุสมาทานอาปาณโกฏิกศีลตลอดชีวิตวา จักไมทํากรรม เห็นปานน้ี แลวศึกษาอยูในสิกขาบทท้ังหลาย เปนขอปฏิบัติ ถ. พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติอนิยตสิกขาบทท่ี ๑ เพราะทรง อาศัยอํานาจประโยชนเทาไร ต. พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติอนิยตสิกขาบทท่ี ๑ เพราะทรง อาศัยอํานาจประโยชน ๑๐ ประการ คือ เพ่ือความรับวาดีแหงสงฆ ๑ เพ่ือ ความสําราญแหงสงฆ ๑ เพ่ือขมบุคคลผูเกอยาก ๑ เพ่ืออยูสําราญแหงภิกษุ ผูมีศีลเปนที่รัก ๑ เพ่ือปองกันอาสวะอันจะบังเกิดในปจจุบัน ๑ เพ่ือกําจัด อาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพ่ือความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไมเลื่อมใส ๑ เพ่ือความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแลว ๑ เพ่ือความดํารงมั่นแหงพระ สัทธรรม ๑ เพ่ืออนุเคราะหพระวินัย ๑ ถ. พวกไหนศึกษา ต. พระเสกขะและกัลยาณปุถุชนศึกษา ถ. พวกไหนมีสิกขาอันศึกษาแลว ต. พระอรหันตมีสิกขาอันศึกษาแลว ถ. อนิยตสิกขาบทที่ ๑ นั้น ต้ังอยูในใคร ต. ต้ังอยูในสิกขากามบุคคล ถ. พวกไหนยอมทรงไว

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 26

    ต. อนิยตสิกขาบทที่ ๑ ยอมเปนไปแกพระเถระพวกใด พระเถระ พวกน้ัน ยอมทรงไว ถ. เปนถอยคําของใคร ต. เปนพระดํารัสของพระผูมีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจา ถ. ใครนํามา ต. พระเถระทั้งหลายนําสืบ ๆ กันมา.

    รายนามพระเถระ พระเถระเหลาน้ี คือ พระอบุาลี พระทาสกะ พระโสณกะ พระสิคควะ รวม เปนหาท้ังพระโมคคัลลีบุตร นําพระวินัยมา ในทวีปชื่อวา ชมพูอันมีสริิ แตนั้นพระเถระ ผูประเสริฐ มีปญญามาก เหลาน้ี คือ พระมหินทะ ๑ พระอฏิฏยิะ ๑ พระอตุติยะ ๑ พระสัมพละ ๑... พระเถระผูประเสริฐ ม ี ปญญามากเหลาน้ีรูพระวินัยฉลาดในมรรคา ไดประกาศพระวินัยปฎกไวในเกาะตาม- พปณณิ. คําถามและคําตอบอนิยตสิกขาบทที่ ๒ [๒๕] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบญัญัติอนิยตสิกขาบทท่ี ๒ ณ ที่ไหน

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 27

    ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุทายี ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุทายีผูเดียว สําเร็จการน่ังในท่ีลับกับ มาตุคามผูเดียว ถ. ในอนิยตสิกขาบทที่ ๒ นั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุปนนบัญญติั หรือ ต. มแีตบญัญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ อนุปนนบัญญัติ ไมมีในอนิยต สิกขาบทท่ี ๒ นั้น ถ. มสีัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ หรือ ต. มแีตสัพพัตถบัญญัติ ถ. มสีาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ หรือ ต. มแีตอสาธารณบัญญัติ ถ. มีเอกโตบัญญติั อุภโตบญัญัติ หรือ ต. มแีตเอกโตบัญญัติ ถ. บรรดาปาติโมกขุทเทศ ๕ อนิยตสิกขาบทที่ ๒ นั้น หยั่งลงใน อุเทศไหน นับเนื่องในอุเทศไหน ต. หยั่งลงในนิทาน นับเนื่องในนิทาน ถ. มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ีเทาไร ต. มาสูอุเทศโดยอุเทศท่ี ๔

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 28

    ถ. บรรดาวิบัติ ๔ เปนวิบัติอยางไหน ต. บางทีเปนศีลวิบัติ บางทีเปนอาจารวิบัติ ถ. บรรดาอาบัติ ๗ กอง เปนอาบัติกองไหน ต. บางทีเปนอาบัติกองสังฆาทิเสส บางทีเปนอาบัติกองปาจิตตีย ถ. บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ อยาง อนิยตสิกขาบทที่ ๒ นั้น เกิดดวยสมุฏฐานเทาไร ต. เกดิข้ึนดวยสมุฏฐาน ๓ คือ บางทีเกิดแตกายกับจิต มิใชวาจา บางทีเกิดแตวาจากับจิต มิใชกาย บางทีเกิดแตกาย วาจา กับจิต ถ. บรรดาอธิกรณ ๔ เปนอธิกรณอะไร ต. เปนอาปตตาธิกรณ ถ. บรรดาสมถะ ๗ ระงับดวยสมถะเทาไร ต. ระงับดวยสมถะ ๓ อยาง คือ บางทีระงับดวยสัมมุขาวินัยกับ ปฏิญญาตกรณะ บางทีระงับดวยสัมมุขาวินัย บางทีระงับดวยติณวัตถารกะ. อนิยต ๒ สกิขาบท จบ หัวขอประจาํกัณฑ [๒๖] อนิยต ๒ สกิขาบท คือ สิกขาบทวาดวยอาสนะกําบังพอจะทํา การได ๑ อาสนะกําบังไมถึงขนาดน้ัน ๑ อันพระพุทธเจาผูประเสริฐ ผูคงที่ ทรงบัญญัติไวดีแลวแล.

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 29

    นิสสัคคิยกัณฑ คําถามและคําตอบกฐินวรรคที่ ๑ [๒๗] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัตินิสสคัคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูเก็บ อดิเรกจีวรลวง ๑๐ วัน ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครเวสาลี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคียเก็บอดิเรกจีวร. มีบัญญัติ ๑ อนุบญัญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวยสมุฏฐาน ๒ คือ บางทีเกิดแตกายกับวาจา มิใชจิต บางทีเกิดแตกาย วาจา กับจิต... [๒๘] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัดินิสสัคคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูอยู ปราศจากไตรจีวรสิ้นราตรีหน่ึง ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป ถ. เพราะเรื่องอะไร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 30

    ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปฝากจีวร ไวในมือของภิกษุทั้งหลาย แลว มีแตผาอุตราสงคกับผาอันตรวาสก หลีกไปสูจาริกในชนบท. มีบัญญัติ ๑ อนุบญัญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวยสมุฏฐาน ๒ คือ บางทีเกิดแตกายกับวาจา มิใชจิต บางทีเกิดแตกาย วาจา กับจิต . . . [๒๙] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูรับอกาล จีวรแลวเก็บไวเกินเดือนหนึ่ง ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปรับอกาลจีวร แลวเก็บไวเกินเดือนหนึ่ง. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๒ คือ บางทีเกิดแตกายกับวาจา มิใชจิต บางทีเกิดแตกาย วาจา กับจิต. . . [๓๐] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัตินิสสคัคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูใช ภิกษุณีมิใชญาติใหซักจีวรเกา ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 31

    ต. ทรงปรารภทานพระอุทายี ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุทายี ใชภิกษุณีผูมิใชญาติใหซักจีวรเกา. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๖... [๓๑] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบญัญัตินิสสัคคิยปาจิตีย แกภิกษุผูรับจีวร จากมือภิกษุณีผูมิใชญาติ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุทายี ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุทายี รับจีวรจากมือภิกษุณีผูมิใชญาติ. มีบัญญัติ ๑ อนุบญัญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวยสมุฏฐาน ๖... [๓๒] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบญัญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูขอจีวร กะพอเจาเรือนก็ดี กะแมเจาเรือนก็ดี ผูมิใชญาติ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุปนันทศากยบุตร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 32

    ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุปนันทศากยบุตร ขอจีวร กะเศรษฐีบุตรผู มิใชญาติ. มีบัญญัติ ๑ อนุบญัญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวยสมุฏฐาน ๖. . . [๓๓] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบญัญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูขอจีวร ยิ่งกวานั้น กะพอเจาเรือนก็ดี กะแมเจาเรือนก็ดี ผูมิใชญาติ ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย ไมรูประมาณแลวขอจีวรเปนอันมาก. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๖. . . [๓๔] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัตินิสสคัคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูอันเขา ไมไดปวารณาไวกอน เขาไปหาพอเจาเรือนผูมิใชญาติแลวถงึการกําหนดในจีวร ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 33

    ต. ทรงปรารภทานพระอุปนันทศากยบุตร ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องทานพระอุปนันทศากยบุตร เขาไมไดปวารณาไวกอน เขาไปหาพอเจาเรือนผูมิใชญาติ แลวถึงการกําหนดในจีวร. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๖. . . [๓๕] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบญัญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูอันเขา ไมไดปวารณาไวกอน เขาไปหาพอเจาเรือนท้ังหลายผูมิใชญาติแลวถึงการ กําหนดในจีวร ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ น พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุปนันทศากยบุตร ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุปนันทศากยบุตร อันเขาไมไดปวารณาไว กอน เขาไปหาพอเจาเรือนทั้งหลายผูมิใชญาติ แลวถึงการกําหนดในจีวร. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๖. . . [๓๖] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบญัญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูยังจีวร ใหสําเร็จดวยการทวงเกิน ๓ ครั้ง ยนืเกิน ๖ ครั้ง ณ ที่ไหน

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 34

    ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภทานพระอุปนันทศากยบุตร ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่ทานพระอุปนันทศากยบุตร อันอุบายสกกราบเรียนวา ขอพระคุณเจาจงรอสักวัน หน่ึง ก็มิไดรอ. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุฏฐาน ๖. . . กฐินวรรค ที ่๑ จบ หัวขอประจําวรรค [๓๗] อดิเรกจีวร ๑ ราตรีเดียว ๑ อกาลจีวร ๑ ซักจีวรเกา ๑ รับ จีวรเปนขอท่ี ๕ ขอจีวร ๑ ขอเกินกําหนด ๑ เขามิไดปวารณา ๒ สิกขาบทกับ ทวง ๓ ครั้ง. คําถามและคําตอบโกสิยวรรคที่ ๒ [๓๘] ถามวา พระผูมีพระภาคเจาผูทรงรูเห็น เปนพระอรหันต- สัมมาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทรงบัญญัตินิสสคัคิยปาจิตตีย แกภิกษุผูใหทํา สันถัตเจือดวยไหม ณ ที่ไหน ตอบวา ทรงบัญญัติ ณ เมืองอาฬวี ถ. ทรงปรารภใคร ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย

  • พระวนิัยปฎก ปริวาร เลม ๘ - หนาท่ี 35

    ถ. เพราะเรื่องอะไร ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคียเขาไปหาพวกชางไหน แลวพูดอยางนี้ วาทานท้ังหลาย ขอจงตมตัวไหมใหมาก จงใหแกพวกฉันบาง แมพวกฉัน ก็ปรารถนาจะใหทําสันถัตเจือดวยไหม. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแหงอาบัติ ๖ สิกขาบทน้ี เกิดดวย สมุ�