Upload
others
View
5
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
บทท่ี 3
กระบวนการข้ึนรูปแบบเป�า (Blow Molding)
3.1 หลักการของกระบวนการข้ึนรูปแบบเป�า
กระบวนการข้ึนรูปแบบเป�าเป�นเทคนิคท่ีใช�ในการผลิตขวดและบรรจุภัณฑ$อ่ืนๆท่ีมีลักษณะ
กลวง เทคนิคนี้จะแบ+งได�เป�น 2 ประเภทใหญ+ ๆ คือ
1) Extrusion blow molding
2) Injection blow molding และ Injection stretch blow molding
ในปFจจุบันเทคนิคท่ีนิยมใช�ในการผลิตบรรจุภัณฑ$ท่ีมีลักษณะกลวงภายใน ได�แก+ extrusion
blow molding และ injection stretch blow molding โดย extrusion blow molding เป�น
เทคนิคท่ีนิยมในการผลิตขวดหรือแกลลอนท่ีมีลักษณะขุ+น ส+วน injection stretch blow molding
จะนิยมใช�ในการผลิตขวดบรรจุน้ําอัดลมโดยเฉพาะท่ีผลิตจากพอลีเอทธีลีนเทอเรอพทาเลท หรือ พีอีที
(poly (ethylene terephalate), PET)
รูปท่ี 3.1 ผลิตภัณฑ$ท่ีได�จากกระบวนการ extrusion blow molding
49
รูปท่ี 3.2 ผลิตภัณฑ$ท่ีได�จากกระบวนการ injection stretch blow molding
หลักการพ้ืนฐานของกระบวนการข้ึนรูปแบบเป�าใช�มาหลายร�อยปVแล�วโดยการเป�าแก�วท่ีซ่ึงท+อ
ซ่ึงมีลักษณะก่ึงหลอมก่ึงแข็ง (semimolten) ถูกยึดระหว+างแม+พิมพ$ท่ีแยกส+วนกัน 2 ข�างและถูกเป�า
ออกโดยอากาศท่ีให�เข�าไปในแม+พิมพ$ พ้ืนผิวของแม+พิมพ$จะถูกทําให�เย็นตังลงเพ่ือให�ผลิตภัณฑ$แข็งตัว
เป�นรูปร+างขณะท่ีให�ความดันอยู+ หลังจากนั้นแม+พิมพ$ก็จะเป[ดออกเพ่ือให�ผลิตภัณฑ$ออกมา
ประวัติการพัฒนากระบวนการข้ึนรูปแบบเป�า
ค.ศ. 1880 Celluloid Manufacture Company of New York ได�รับสิทธิบัตรใบแรกใน
การผลิต ท+อเซลลูโลสไนเตรตก+อนการให�ความร�อนแล�วเป�า (heat/blowing) ในเวลาต+อมา ท+อนี้ถูก
เรียกว+า "parison"
ช+วงปVทศวรรษ 1920-1930 มีการพัฒนาท่ีสําคัญในกระบวนการข้ึนรูปแบบเป�าของเซลลูโลส-
อะซีเตทท่ีอัดรีดได� (extrudable cellulose acetate) เอทธิลเซลลูโลส (ethyl cellulose) พอลีสไต
รีน (polystrene, PS) อ ะค ริ ลิ ค (acrylic) แ ล ะ ท่ี สํ า คัญ คื อ พ อลี ไวนิ ล คล อ ไรด$ ห รื อ พี วี ซี
(Polyvinylchloride, PVC) ท่ีใช�เป�นขวดน้ํามันพืช
50
ปลายช+วงทศวรรษ 1930 มีการพัฒนาท่ีสําคัญเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพของกระบวนการข้ึน
รูปแบบเป�าโดยการใช�การควบคุมอัตราการทําให�อ+อนตัวลงของ parison (controlled parison
softening rate) และอุณหภูมิท่ีสัมพันธ$กัน (related temperature profile)
ช+วงปV 1950 มีการใช�พอลีเอททีลีนหรือพีอี (Polyethylene, PE) ชนิดความหนาแน+นตํ่า
หรือเรียกว+า LDPE ผลิตขวดท่ีบีบเวลาใช� (squeeze bottle)
ช+วงปVทศวรรษ 1960 มีการใช�พอลีเอททีลีนชนิดชนิดความหนาแน+นสูงหรือเรียกว+า HDPE
ผลิตขวดนมจากกระบวนการ extrusion blow molding (extruded blow-molded milk bottle)
ช+ ว งปV ทศวรรษ 1970 มี การใช� stretch-blow molding ผลิ ตขวดบรรจุน้ํ า อั ดลม
(carbonated drinking bottle)
ในปF จจุ บัน เริ่ม มีความพยายามนํ าพลาสติก ท่ี มีความสามารถในการย+อยสลาย
(biodegradable plastic) ได�มาผลิตเป�นขวดน้ําด่ืม เพ่ือช+วยการแก�ปFญหาสภาวะโลกร�อน
รูปท่ี 3.3 ตัวอย+างขวดท่ีผลิตจากพลาสติกท่ีย+อยสลายได�ทางชีวภาพโดยใช�กระบวนการ extrusion
blow molding (ซ�าย) และ injection stretch blow molding (ขวา)
ใน extrusion blow molding ท+อกลวงก่ึงหลอมก่ึงแข็ง ซ่ึงถูกเรียกว+า “parison” จะข้ึน
รูปโดยตรงจากเครื่องอัดรีด ซ่ึงจะมีลักษณะร�อนและอ+อนตัว และตัวของแม+พิมพ$จะมี cavity กลวง
(hollow cavity) ท่ีมีรูปร+างเดียวกับผลิตภัณฑ$ จากนั้นจะมีการให�อากาศเข�าไปเป�า parison ใน
แม+พิมพ$ท่ีมี cavity กลวง โดยไม+มี male part หรือ "core pin" ท่ีจะต�องถูกดึงกลับจากบรรจุภัณฑ$
หลังจากการเป�า
51
ในขณะท่ีกระบวนการ injection blow molding เราจะเรียกท+อกลวงนั้นว+า preform
และจะข้ึนรูปด�วยเครื่องฉีด โดย injection blow molding จะต�องมี male ("core pin") และ
female mold ในการทําให�เกิดรูปร+างกลวงและพลาสติกจะถูกฉีดภายใต�ความดันท่ีสูง โดยมี male
part หรือ "core pin" เป�นตัวช+วยรองรับ หลังจากนั้นก็จะถูกให�ความร�อนให�ถึงอุณหภูมิท่ีใช�ในการ
เป�า (blowing temperature) แล�วในข้ันตอนสุดท�าย male part หรือ "core pin" จะต�องถูกดึง
กลับหลังจากการเป�า
กระบวนการ Blow molding นี้มีความคล�ายคลึงกันคือ
1. ต�องใช�ความดันจากอากาศในการทําให�พลาสติกร�อนแผ+ออกติดผนังแม+พิมพ$ตัวเมียเพ่ือให�เกิดเป�น
รูปร+างตามนั้น
2. ความสามารถในการทําชิ้นงานให�มีผนังบางมากโดยมีความเค�นตํ่ามาก
ข�อดีและข�อเสียของกระบวนการท้ังสองมีดังต+อไปนี้
Extrusion blow molding
ข4อดี
1. อัตราการผลิตสูง
2. ราคาเครื่องมือตํ่า
3. มีผู�ผลิตให�เลือกจํานวนมาก
ข4อเสีย
1. มีเศษชิ้นงานเหลือมาก
2. ต�องมีการนําเศษชิ้นงานเหลือ กลับมาใช�ใหม+ (recycling of scrap)
3. การควบคุมความหนาของผนังทําได�จํากัด ( limited wall thickness control)
Injection blow molding
ข4อดี
1. ไม+มีเศษชิ้นงานเหลือ
2. การควบคุมความหนาของผนังทําได�ดี
3. การตกแต+งผิว ( surface finish )ทําได�ดี
4. ปริมาณการผลิตต+อปริมาตรตํ่า (low volume production quantity)
ข4อเสีย
1. ราคาเครื่องมือสูง ขนาดผลิตภัณฑ$ท่ีผลิตจึงมักมีขนาดเล็ก
52
3.2 Extrusion blow molding
การจัดวางเครื่องมือท่ีเห็นกันท่ัวไปจะมีลักษณะเป�นการอัดรีดในทิศทางลงด�านล+าง
(downward extrusion) หลังจากพอลิเมอร$หลอมท่ีอุณหภูมิต่ําเพ่ือรักษาความแข็งแรงท่ีสูงของพอลิ
เมอร$หลอม (high melt strength) เพ่ือท่ีจะให�ท+อท่ีอัดรีด (extruded tube) สามารถรองรับตัวมัน
เองได� ดังแสดงในรูปท่ี 3.4
รูปท่ี 3.4 ภาพวาดแสดงเครื่อง Extrusion blow molding ท่ัวไป
รูปถ+ายแสดง parison ท่ีได�จากเครื่อง extrusion blow molding และขวดท่ีเป�าได� แสดงในรูปท่ี
3.5
รูปท่ี 3.5 ภาพถ+ายแสดง parison ท่ีออกมาจากกระบวนการ extrusion blow molding
53
จากรูปท่ี 3.5 จะเห็นว+า parison ท่ีออกมาจากหัวอัดรีดจะมีลักษณะขุ+นขาว ท้ังนี้ เนื่องจาก
พอลิเมอร$ท่ีใช� โดยท่ัวไปจะเป�นพอลิเมอร$ก่ึงผลึก เช+น HDPE LDPE PP ซ่ึงจะเกิดผลึกในข้ันตอนการ
เย็นตัวเม่ือออกจากหัวอัดรีดจึงทําให� parison มีลักษณะขุ+น ซ่ึงเกิดจากผลึกท่ีมีขนาดใหญ+พอท่ีจะ
ขัดขวางทางเดินของแสง ดังนั้น ผลิตภัณฑ$ท่ีได�จากกระบวนการนี้ จึงมีลักษณะขุ+น
หลักการของกระบวนการ extrusion blow molding แสดงในรูป 3.6 กระบวนการอัดรีด
อาจเป�นกระบวนการต+อเนื่องโดยการท่ี parison จะถูกตัดและถูกย�ายต+อไปยังแม+พิมพ$หรือเม่ือ
แม+พิมพ$ย�ายมารับ parisonไป หรืออาจเป�นกระบวนการไม+ต+อเนื่องคือแม+พิมพ$อยู+ในตําแหน+งภายใต�
จุดท่ีจะอัดรีด parison ออกมาตลอดเวลา โดยกระบวนท่ีต+อเนื่องจะเป�นท่ีนิยมใช�กันท่ัวไปมากกว+า
เนื่องจากให�อัตราการผลิตท่ีสูงกว+า
รูปท่ี 3. 6 วงจรการเป�าขวด
54
ในอุตสาหกรรมมีการเพ่ิมอัตราการผลิตโดยการใช�เครื่องมือการเป�าแบบต+อเนื่อง ดังแสดงในรูปท่ี 3.7
รูปท่ี 3.7 เครื่องมือการเป�าขวดแบบต+อเนื่อง
รูปร+างของผลิตภัณฑ$ท่ีได�จากกระบวนการ blow molding จะกําหนดโดยรูปร+างของแม+พิมพ$ท่ีใช�ใน
ข้ันตอนการเป�า ตัวอย+างแม+พิมพ$ท่ีใช�ในการเป�าข้ึนรูปสดงในรูปท่ี 3.8
55
รูปท่ี 3.8 ภาพถ+ายแม+พิมพ$ข้ึนรูปแกลลอนพลาสติกท่ีผลิตโดยกระบวนการ extrusion blow
molding
ผลกระทบท่ีสําคัญ 2 ประการจากการข้ึนรูปด�วยเครื่องมือนี้คือ
1) การห�อยย�อยของ parison (parison sag)
2) การบวมหรือพองตัว (die swell)
การห�อยย�อยของ parison จะเกิดจากการท่ีแรงโน�มถ+วงกระทําบนท+อก่ึงหลอมก่ึงแข็งท่ีถูก
อัดรีดออกมาซ่ึงผลกระทบท้ัง 2 ประการนี้มักจะให�ผลตรงข�ามกัน แต+โดยรวมกันแล�วมันจะทําให�
เกิด parison ซ่ึงมีลักษณะผนังท่ีก�นหนาและท่ีปากจะบาง โดยในตอนแรก parison จะเกิดการ
บวมตัวทําให�ผนังหนาข้ึนและในตอนต+อมาการท่ีน้ําหนักเพ่ิมข้ึนจะทําให� parison ยืดออกทําให�ผนัง
บางข้ึน
เครื่องมือท่ีช+วยขจัดปFญหาท้ังสองนี้คือ parison variator หรือ programmable mandrel
ซ่ึงเคลื่อนท่ีข้ึน-ลงได�สําหรับ parison programming ซ่ึงจะเป�นส+วนประกอบใน extruder head
แสดงในรูปท่ี 3.9
56
รูปท่ี 3. 9 Parison Variator
Mandrel และ die bushing ท่ีใช�มี 2 ชนิด คือ
1. Convergent type
2. Divergent type
รูปท่ี 3.10 Convergent type
57
รูปท่ี 3. 11 Divergent type
การเลือกใช�ข้ึนกับขนาดของ parison ท่ีต�องการ Convergent tooling จะควบคุมได�ง+าย
ท่ีสุด และใช�ได�ท่ัวไป
Divergent จะใช�ในกรณีท่ีต�องการ parison ขนาดใหญ+ เนื่องจาก divergent จะทําให�
parison บานออกเม่ือมันถูกอัดรีด
ท้ัง Convergent และ divergent mandrel จะถูกติดเข�ากับ programming mandrel
โดยตรง และจะถูกควบคุมให�ข้ึนลง เพ่ือจะเป[ด-ป[ด ช+องว+าง ระหว+าง pin และ bushing
เพราะฉะนั้นความหนาของผนังชิ้นงานจะสามารถปรับเพ่ือให�มีวัสดุในปริมาณมากกว+าท่ีจุดเฉพาะจุด
ของ parison สําหรับขวดท่ีต�องการเป�าให�มีปริมาณวัสดุท่ีจุดใดจุดหนึ่งมากกว+า
การควบคุมปริมาณของวัสดุท่ีจุดแต+ละจุดนั้นเรียก "Parison programming" ซ่ึงจะควบคุม
โดยทางอิเลกทรอนิกส$ผ+านระบบไมโครโพรเซสเซอร$ในปFจจุบัน สามารถควบคุมได�มากกว+า 100 จุดใน
ขวดท่ีมีความสูง 12" ทําให�มีการควบคุมท่ีแม+นยําสูงในเรื่องความหนาของขวดและช+วยลดปริมาณ
พลาสติกในขวดได�
ใน Extruder heads ทุกอันจะมีช+องให�อากาศผ+าน (air path) เพ่ือให�อากาศถูกเป�าไปใน
parison เม่ือมันถูกอัดรีดออกมา
อากาศ ท่ีใช�สําหรับการเป�ามีหน�าท่ี 3 อย+างได�แก+
1) ทําให� parison ขยายติดกับผนังแม+พิมพ$
2) ทําให�เกิดความดันข้ึนบน parison ท่ีแผ+ขยายออกเพ่ือให�เกิดรายละเอียดท่ีพ้ืนผิว
3) ช+วยในการหล+อเย็น parison
Blow molding pin สามารถต้ังอยู+ตามตําแหน+งต+าง ๆ ได�
58
ระหว+างเฟสของการขยายตัวของการเป�า เราต�องการใช�ปริมาณอากาศให�มากท่ีสุดท่ีจะทําได�
เพ่ือท่ีจะให�การขยายตัวของ parison ต+อ ผนังแม+พิมพ$เสร็จสิ้นภายในเวลาท่ีน�อยท่ีสุด
อัตราการไหลโดยปริมาตรสูงสุดของอากาศท่ีเข�าไปโดยมีความเร็วเชิงเส�นตํ่าทําได�โดยการให�ปากทางท่ี
อากาศเข�า (air inlet orifice) ใหญ+เท+าท่ีจะเป�นไปได� ซ่ึงสําหรับการเป�าภายในคอขวดอาจทําได�ยาก
อัตราการไหลโดยปริมาตรจะควบคุมโดยความดัน (Line pressure) และ เส�นผ+านศูนย$กลาง
ของปลายเป[ด (orifice diameter)
ความเร็วเชิงเส�นจะควบคุมโดยวาล$วควบคุมการไหล (Flow control valve) ซ่ึงจะอยู+ใกล�กับ
ปลายเป[ด
วิธีการปรับให4ได4 parison ท่ีเหมาะสมมี 2 วิธีคือ
1) การปรับ die bolt ดังรูปท่ี 6 ทําให�มีผนังสมํ่าเสมอ (uniform wall) รอบ parison และ ทําให�ได�
parison ตรง
2) การย�ายแมนเดรลข้ึน-ลง ทางตรง (vertically) เป�นการปรับความหนาผนัง parison เป�นผลให�
สามารถปรับน้ําหนักผลิตภัณฑ$
การปรับนี้ทําได�โดยการหมุน mandrel adjusting nut หรือ การปรับลูกสูบไฮโดรลิก ซ่ึง
ควบคุมโดย parison programmer
รูปท่ี 3. 12 การปรับ die bolt
59
ถ�าพิจารณาถึงการตอบสนองของวัสดุระหว+างการอัดรีด จะพบว+าเม่ือ parison ถูกอัดรีด
ออกมาในทิศลงด�านล+างมันจะอยู+ภายใต�แรงดึงมากกว+าแรงเฉือน เวลาในกระบวนการนี้จะอยู+ในช+วง
1-5 วินาที และ relaxation time ของพอลิเมอร$ส+วนใหญ+จะยาวนานกว+านี้ดังนั้นกระบวนการนี้
โดยธรรมชาติแล�วจะเป�น elastic
โดยส+วนใหญ+ tensile elastic modulus จะมีค+าประมาณ 104 Nm-2 และ tensile
stress จะมีค+าประมาณ 103-104 Nm-2 ดังนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปร+าง (deformation)
เกิดข้ึนได�มาก
อย+างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงนี้ก็สามารถควบคุมได�โดย parison variator ในรูปท่ี 3 จะ
แสดงการจัดวางแบบเป�าจากด�านล+าง(bottom blow arrangement) โดย parison จะห�อยลงบน
blow pin (หรือท่ีเรียกว+า spigot หรือ blowing mandrel)
ประโยชน$ของวิธีนี้คือ ไม+ต�องเสียเวลาช+วงระหว+างท่ีแม+พิมพ$ป[ดกับการเป�า แต+ข�อเสียคือท่ี
ตรงคอขวดจะมีรอยแผลเนื่องจาก parison จะต�องมีขนาดใหญ+พอท่ีจะตกลงมาคล+อม pin นี้ได�
และจะต�องมีการตัดขอบส+วนท่ีเกินนี้
สําหรับผลิตภัณฑ$ท่ีต�องการคอขวดแบบ “flash-free” เช+น สําหรับฝาป[ดเราอาจใช�การ
เป�า จากด�านบน (top blowing) แทน แต+วิธีนี้จะต�องใช�เวลาในการสอดใส+ pin เข�าไป
แต+ไม+ว+าจะโดยวิธีใดก็ตามตรงก�นขวดก็จะก+อตัวเป�นรูปร+างโดยการ “Pinch-off” โดยแม+พิมพ$
ดังนั้นจะสังเกตุได�ว+าผลิตภัณฑ$ท่ีได�จากกรรมวิธินี้ทุกข้ันจะมีลักษณะเป�นแผลท่ีก�นซ่ึงเกิด
โดยรอยเชื่อมของการป[ดของแม+พิมพ$ (Mold closure weld)
Pinch-off นี้มักจะเป�นปFญหาของการเป�า การใช�ใบมีดท่ีแหลมคมจะทําให�เกิดรอยเชื่อม
ประสานท่ีสวยงามแต+มันจะทํางานได�ดีเม่ือแม+พิมพ$เคลื่อนท่ีช�า เนื่องจากท่ีอัตราเร็วสูงการตอบสนอง
ต+อส+วนยืดหยุ+นของพอลิเมอร$ก่ึงหลอมจะสูง แต+ในการผลิตท่ีดีต�องให�ได�อัตราการผลิตสูง ซ่ึงจะต�อง
ทําให�แม+พิมพ$ป[ดเร็ว ทําให�มีดตัดได�ไม+คม และเป�นผลให�เกิดรอยเชื่อมประสานท่ีไม+ดี
ในปFจจุบันมีการปรับปรุงเครื่องมือเพ่ือให�เอาชนะปFญหาการเกิดรอยเชื่อมประสานนี้ เช+น
โดยการเพ่ิมปริมาณวัสดุเข�าไปในรอยเชื่อมประสานแต+ปFญหานี้ก็ยังไม+สามารถกําจัดหมดไป
3.2.1 การเป�า
ผลิตภัณฑ$ท่ีมีลักษณะกลวงดังท่ีกล+าวมาแล�วจะทําจาก parison โดยการขยายตัวของ
อากาศท่ีเป�าเข�าไป ซ่ึงกระบวนการนี้จะคล�ายกระบวนการการเป�าฟ[ล$ม (film blowing) และความ
60
สมํ่าเสมอของความหนาของผลิตภัณฑ$ก็ข้ึนกับปFจจัยเหมือน ๆ กัน โดยสิ่งท่ีสําคัญคือ การตอบสนอง
ต+อส+วนยืดหยุ+น โดยเราจะใช�หลักการของ Deborah Number คือ
process of timescale
condition prevailingunder material of timerelaxationNdeb =
สําหรับกระบวนการซ่ึงเป�นสภาวะยืดหยุ+น โดยส+วนใหญ+และทําให�เสถียร (stabilize) โดย tension
stiffening
Ndeb ควรมีค+ามากกว+า 1 ซ่ึงจะทําให�สําเร็จได�ดังนี้
1) ท่ีอุณหภูมิต่ํา relaxation time ควรจะยาวนานข้ึน
2) ลด process time scale เช+น การเป�าอย+างรวดเร็ว
ซ่ึงโดยท่ัวไปจะใช�การเป�าอย+างเร็ว แต+อย+างไรก็ตามการเป�าเร็วเกินไปจะทําให�เกิดการแตก
(Rupture) ข้ึนได�ถ�าเกินค+า tensile strength ของ parison นั้น ซ่ึงจะสามารถคํานวณได�จากตัวอย+าง
ข�างล+างนี้ หรือ อากาศท่ีจับตัวอยู+ระหว+างผิวของแม+พิมพ$และชิ้นงานอาจจะทําให�เกิดตําหนิบน
ผลิตภัณฑ$ได�
ในกระบวนการผลิตท่ัวไปเราจะต�องใช�วิธีท่ีเหมาะสมเพ่ือให�ได�ผลท่ีดี ซ่ึงโดยท่ัวไปเราสามารถ
หาค+าความหนาของผนังของขวดได�ไม+ยากถ�าทราบขนาดของหัวฉีดและปริมาณการเกิดการบวมตัว
ดังตัวอย+างในรูปท่ี 3. 13 รวมท้ังสามารถหาความดันในการเป�า (blowing pressure) ท่ีสูงสุดท่ีจะใช�
ในการเป�าโดยไม+ทําให�ขวดแตกได�
รูปท่ี 3. 13 ความหนาของผนัง blow molding
61
จากรูปท่ี 3.13 จะเห็นภาพหน�าตัดขวางของ parison ท่ีออกมาจากหัวฉีดรูปทรงกระบอก
(tubular die) ซ่ึงจะถูกเป�าให�เป�นขวดโดย
Dd = เส�นผ+านศูนย$กลางของหัวฉีด (die diameter)
Dp = เส�นผ+านศูนย$กลางของ parison (parison diameter)
Dm = เส�นผ+านศูนย$กลางของแม+พิมพ$ (mold diameter)
hd = ความกว�างของหัวฉีด (die emulous width)
hm = ความหนาของผนังชิ้นงาน (moulding wall thickness)
ในการหา hm
เราจะได�ว+า
d
pt h
hB =
Bt = การบวมตัวของความหนาของผนังชิ้นงาน (Swelling of thickness of parison)
d
pp D
DB =
Bp= การบวมตัวของเส�นผ+านศูนย$กลางของ parison (Swelling of parison diameter)
เพราะฉะนั้น dpp DBD =
เราสามารถแสดงได�ว+า
2pt BB =
ดังนั้น
2
=
d
p
d
p
D
D
h
h หรือ ( )2pdp Bhh =
ในการเป�าขยายให�เท+ากับเส�นผ+านศูนย$กลางของแม+พิมพ$ Dm และสมมติว+าวัสดุมีปริมาณท่ี
คงท่ีและไม+มีการดึงยืดออกจะได�ว+า
mmpp hDhD π=π
62
( ) ( )
m
dd3p
m
m
2pddp
m
2pdp
m
ppm
D
DhBh
D
BhDB
D
BhD
D
hDh
=
===
เพราะฉะนั้นถ�าทราบขนาดของหัวฉีด เส�นผ+านศูนย$กลางแม+พิมพ$ และ อัตราการบวมตัวของ
เส�นผ+านศูนย$กลางของ parison เราก็สามารถหาค+าความหนาของผนังผลิตภัณฑ$ได� ซ่ึง Bp สามารถ
หาได�จากการวัดโดยตรงหรือจาก Bt โดย
tp BB =
การบวมตัวของความหนาของผนังขวดสามารถหาได�ง+ายจากการวัด
ตัวอยKางการคํานวณ
หาความหนาของผนังของภาชนะท่ีได�จากการเป�าซ่ึงทําโดยการใช�หัวฉีดท่ีมีเส�นผ+านศูนย$กลาง
ภายใน (inner diameter) เท+ากับ 40 mm. และ เส�นผ+านศูนย$กลางภายนอก (outer diameter)
เท+ากับ 44 mm. ถ�ามีค+าอัตราการบวมตัวของความหนาของผนัง parison เท+ากับ 2.3 และ
แม+พิมพ$ของบรรจุภัณฑ$นี้มีเส�นผ+านศูนย$กลางเท+ากับ 100 mm.
วิธีการคํานวณ
( )
( )
( ) mm93.2100
422517.1h
mm4240442
1D
517.13.2B
mm240442
1h
3m
d
p
d
=××=
=+=
==
=−=
เราสามารถหาค+าความดันสูงสุด (maximum pressure) ท่ีจะเป�นไปได�ในการหลีกเลี่ยงการฉีกขาด
ของ parison โดยใช�ข�อมูลดังต+อไปนี้
ค+าความทนต+อแรงดึง (Tensile strength) ของ parison ก่ึงหลอม = 107 Nm-2
สูตรบาร$โล (Barlow formula) ซ่ึงจะสัมพันธ$กับความเค�นฮูป (hoop stress) ขนาด
(dimension) และ ความดันภายใน (internal pressure) ของท+อจะเขียนได�ว+า
63
D
h2P
h2
PD
σ=
=σ
เม่ือ σ คือ ความเค�นฮูป ( hoop stress)
P คือ ความดันภายใน (internal pressure)
D คือ เส�นผ+านศูนย$กลางของท+อ (diameter of pipe)
h คือ ความหนาของผนัง (wall thickness)
และจากตัวอย+างนี้
h = hm = 2.93 mm
และ
D = Dm = 100 mm
ค+าความเค�นสูงสุดท่ีจะเป�นไปได�ในการหลีกเลี่ยงการฉีกขาดของ parison คือ ค+าความทนต+อแรงดึง
ของวัสดุซ่ึงมีค+าเท+ากับ 107 Nm-2 หรือ 10 MPa
ดังนั้น ค+าความดันสูงสุด (P) จะมีค+าดังนี้
MPa59.0100
93.2210P =
××=
3.2.2 สมบัติของผลิตภัณฑQ
ผลกระทบของการมีสัมประสิทธิ์ของการแผ+ขยายตัวทางความร�อน (coefficients of
thermal expansion) ของพอลิเมอร$ท่ีสูงคือการมีความหดตัวท่ีสูงข้ึนเม่ือชิ้นงานเย็นตัวลงและ
ผลกระทบนี้จะเพ่ิมปริมาณข้ึนเม่ือชิ้นงานเป�นพอลิเมอร$ก่ึงผลึกเพราะจะเกิดการเปลี่ยนแปลงความ
หนาแน+นเม่ือชิ้นงานนั้นเกิดการตกผลึก
ถ�าพิจารณาทางเศรษฐศาสตร$คือความต�องการวงจรการทํางาน (Cycle time) ท่ีสั้นนั่นก็คือ
การนําชิ้นงานออกจากแม+พิมพ$ด�วยเวลาท่ีเร็วท่ีสุดและอุณหภูมิสูงท่ีสุดเท+าท่ีจะเป�นไปได� แต+การ
กระทําดังกล+าวจะทําให�เกิดการหดตัวต+อไปในชิ้นงาน ในทางกลับกัน การมีเวลาในแม+พิมพ$นานข้ึนจะ
ทําให�ชิ้นงานเย็นตัวลงอย+างสมบูรณ$มากข้ึนและอาจจะให�พ้ืนผิวและรูปร+างผลิตภัณฑ$ดีข้ึนแต+ก็จะทํา
ให�ราคาต�นทุนการผลิตสูง
64
ลักษณะพ้ืนผิวท่ีดีสุดมักจะเป�นผิวมัน (glossy finish) ซ่ึงจะได�จากพ้ืนผิวแม+พิมพ$ท่ีค+อนข�าง
ขรุขระเล็กน�อย โดยลักษณะภายในของแม+พิมพ$จะเป�นคล�ายทราย (sand blasted surface) ดังนั้น
พ้ืนผิวจริงของแม+พิมพ$จึงไม+ใช+พ้ืนผิวผลิตภัณฑ$ ความมันจะมาจากการอัดรีดเดิมซ่ึงขยายด�วยอากาศ
ถ�าต�องการให�ผิวผลิตภัณฑ$ขรุขระในบางกรณีอาจใช�การให�ความร�อนท่ีผิวแม+พิมพ$เป�นเวลาหนึ่งเพ่ือให�
พอลิเมอร$ไหลก+อนท่ีจะแข็งตัว
สมบัติท่ีสําคัญในขวดท่ีเป�าจะข้ึนกับความแข็ง (stiffness) ของผนังโดยความแข็งนี้จะข้ึนกับ
ความหนาของผนัง
ความแข็งของส+วนประกอบใดๆ จะสัมพันธ$กับความหนาโดยกฎยกกําลังสาม (cube law)
และยังข้ึนกับค+า flexural modulus ของวัสดุ ซ่ึงสําหรับพอลิเมอร$ ค+านี้จะมีความสัมพันธ$กับ
ปริมาณผลึก โดยเม่ือความหนาแน+นของพอลิเมอร$เพ่ิมข้ึน ปริมาณผลึกก็จะเพ่ิมข้ึน
ค+าความแข็งและความหนาแน+นของขวดท่ีทําจากพอลีเอทธีลีนจะเปลี่ยนไปไม+เฉพาะระหว+าง
พอลิเอทธีลีนแต+ละเกรดแต+ยังภายใน Batch ถ�าปFจจัยท่ีใช�ในการข้ึนรูป (processing conditions)
ไม+คงท่ี
ขวดซ่ึงเอาออกมาจากแม+พิมพ$ท่ีอุ+นและใช�อากาศเป�าให�เย็นก+อนการบรรจุกล+องจะแข็งแรง
น�อยกว+าขวดซ่ึงบรรจุลงในกล+องขณะท่ียังอุ+นอยู+ แต+ก็ยังแข็งกว+าขวดซ่ึงทําให�เย็นลงในแม+พิมพ$เลย
โดยเฉพาะถ�าใช�น้ําเย็นหล+อในแม+พิมพ$ให�เย็น เหตุผลนั้นก็คือการทําให�เย็นตัวลงอย+างช�า ๆ จะทําให�
ผลึกเกิดข้ึนมากกว+าเดิมและได�ผลึกขนาดใหญ+
การนําผลิตภัณฑ$ออกจากแม+พิมพ$และการบรรจุผลิตภัณฑ$ลงในหีบห+อในขณะท่ีค+อนข�างอุ+น
อาจเป�นวิธีการท่ีประหยัดดีท่ีสุดไม+เพียงแต+วงจรการผลิตจะสั้นเท+านั้นแต+ยังสามารถผลิตขวดท่ีบาง
กว+าได�โดยได�ความแข็งแรงท่ีกําหนด
ในทางเดียวกัน บางครั้งเรายังสามารถข้ึนรูปขวดได�โดยใช� HDPE ซ่ึงถึงแม�จะมีราคาแพง
กว+า LDPE เพราะมีปริมาณผลึกท่ีมากกว+าและทําให�ผลิตขวดท่ีบางกว+าได�โดยได�ความแข็งท่ีต�องการ
3.3 Injection Blow Molding
3.3.1. หลักการพ้ืนฐาน
Injection blow molding กลายเป�นกระบวนการข้ึนรูปท่ีสําคัญในระยะหลังจนกระท่ังถึง
ปFจจุบันด�วยเป�นกระบวนการท่ีใช�ในการผลิตขวดน้ําอัดลม สิ่งท่ีแตกต+างจาก extrusion blow
molding ท่ีกล+าวในหัวข�อก+อนหน�านี้ คือ การใช� preform ซ่ึงข้ึนรูปโดยการฉีด แทนการใช� parison
65
ซ่ึงได�จากการอัดรีดโดยตรง preform จะถูกข้ึนรูปในแม+พิมพ$ท่ีเย็นมาก เพ่ือป�องกันไม+ให�พอลิเมอร$
สามารถตกผลึกได�ทันจึงทําให� preform มีสถานะเป�น amorphous และมีลักษณะใส หลังจากข้ึนรูป
preform ด�วยกระบวนการฉีดแล�ว จึงนํา preform ไปอบให�ความร�อนแล�วนําไปเข�าแม+พิมพ$เป�าเป�น
บรรจุภัณฑ$
วงจรการทํางานของ Injection blow molding แสดงในรูปท่ี 3.14
รูปท่ี 3. 14 วงจรการทํางานของ injection blow molding
ในปFจจุบัน Injection blow molding ท่ีมีบทบาทสําคัญและจะกล+าวถึงต+อไปนี้จะเป�น
injection stretch blow molding ซ่ึงจะเพ่ิมกระบวนการยืด (stretch) พร�อมการเป�า
โดยท่ัวไปจะใช�สารหล+อเย็นท่ีมีอุณหภูมิต่ําเพ่ือทําให� preform เย็นลงอย+างรวดเร็ว
(quench) ให�อยู+ในสถานะอสัณฐาน จากนั้น preform จะถูกให�ความร�อน (reheat) อีกครั้งให�เกิน Tg
และจากนั้นจะถูกยืดและเป�า (stretch blown)
Stretch blowing จะทําโดยการผลัก blow pin เข�าไปเพ่ือให� preform ยืดลงไปพร�อมกับ
เป�าให�ได�การขยายตัวในแนวรัศมี (radial expansion) กระบวนการนี้จึงถือได�ว+าเป�นการจัดเรียงตัว 2
ทิศทาง (biaxial orientation)
วงจรการทํางานของ Injection stretch blow molding แสดงในรูปท่ี 3. 15
66
รูปท่ี 3. 15 วงจรการทํางานของ injection stretch blow molding
ลักษณะการยืดพร�อมเป�าในกระบวนการ Injection stretch blow molding แสดงในรูปท่ี 3.16
รูปท่ี 3.16 ลักษณะการยืดพร�อมเป�าในกระบวนการ injection stretch blow molding
67
ดังท่ีได�กล+าวมาแล�วในข�างต�นว+า preform จะเตรียมได�จากกระบวนการฉีด สิ่งท่ีสําคัญในการ
ฉีด preform คือการควบคุมไม+ให�เกิดผลึกในระหว+างกระบวนการฉีด เพ่ือให� preform มีความใสเม่ือ
นําไปยืดและเป�า ขวดท่ีได�จะยังคงมีความใสอยู+ ถ�า preform เกิดผลึกในข้ันตอนการฉีด จะสามารถ
สังเกตเห็นความขุ+นของ preform โดยเฉพาะท่ีบริเวณก�นท่ีเป�นตําแหน+งของ gate ซ่ึงนับเป�นจุดท่ี
ร�อนท่ีสุดของ preform เพราะเป�นปากทางท่ีพอลิเมอร$หลอมฉีดเข�ามาในแม+พิมพ$ ภาพถ+ายแสดง
รูปแบบและขนาดต+างๆของ preform แสดงในรูปท่ี 3.18
รูปท่ี 3.17 ภาพถ+ายแสดงรูปแบบและขนาดต+างๆของ preform
ในการผลิต preform นิยมใช�แม+พิมพ$ท่ีมีจํานวน cavity มาก ซ่ึงอาจสูงถึง 96 cavity เพ่ือให�
การฉีดครั้งหนึ่งได�ปริมาณการผลิตสูง ภาพถ+ายแสดงแม+พิมพ$ท่ีใช�ในการผลิต preform แสดงในรูปท่ี
3.19 จะเห็นว+า ด�านซ�ายจะมีแกนยื่นออกมาท่ีเรียกว+า core pin เม่ือประกบ plate ท้ังซ�ายและขวา
เนื้อท่ีว+างท่ีเหลือคือบริเวณท่ีพอลิเมอร$หลอมจะถูกฉีดเข�ามาทําให�เกิดรูปร+างของ preform ข้ึน
รูปท่ี 3.18 ภาพถ+ายแสดงแม+พิมพ$ 32 cavity ท่ีใช�ในการผลิต preform
68
พอลิเมอร$ท่ีสําคัญท่ีใช�กันมากท่ีสุดในการข้ึนรูปแบบ injection stretch blow molding คือ
พีอีที (PET) โดยใช�ในการผลิตขวดบรรจุน้ําอัดลม ซ่ึงเข�ามาแทนท่ีขวดท่ีทําด�วยแก�วเนื่องจากขวดแก�ว
จะมีน้ําหนักมากและแตกง+าย
สิ่งท่ีน+าสนใจอีกประการหนึ่งคือ อิทธิพลของวิกฤติการณ$น้ํามันราคาแพงจะส+งผลต+อการผลิต
แก�วและอะลูมิเนียม เนื่องจากพลังงานท่ีใช�ในการผลิตวัสดุท้ังสองจะราคาแพงกว+าพลาสติกเนื่องจาก
ในการผลิตแก�วจะต�องใช�อุณหภูมิสูงมาก พอลิเมอร$ท่ีนํามาใช�ในการทําขวด เช+น พีวีซี แซน
(Styrene-Acrylonitride, SAN) และพีอีที และนอกจากนั้นยังมีการใช� พีวีซีสําหรับบรรจุภัณฑ$ท่ี
ต�องการลดการแพร+ผ+านของอากาศ
3.3.2 ข4อจํากัดของขวดใหมK
สิ่งท่ีต�องการในขวดใหม+มาจากสิ่งท่ีบรรจุอยู+ในขวดเช+น โค�ก ซ่ึงเป�นสารท่ีมีคาร$บอนไดออกไซด$ สูงถึง
4 ต+อ 1 ของปริมาตรของเหลวท่ีบรรจุความดันท่ีบริเวณส+วนหัวอาจเกิน 5 atm ในท่ีท่ีมีอุณหภูมิสูง
เช+น ภายในรถ สิ่งท่ีต�องการหลักเพ่ือท่ีจะให�สามารถรับความดันนี้ได� ได�แก+
1) ต�องไม+สูญเสียก�าซ
2) ไม+แตก
3) ไม+เปลี่ยนรูปร+าง
โดยการทดสอบท่ีตรวจสอบหลังจากเก็บไว� 120 วัน ท่ี 23°C ควรจะพบว+า
1) มีการสูญเสีย CO2 น�อยกว+า 15%
2) รสชาติไม+เปลี่ยน
3) ไม+มีการเปลี่ยนรูปร+าง
4) ปริมาณของเหลวในขวดไม+ลดลง
5) ขวดท่ีบรรจุน้ําอัดลมเต็มควรตกไม+แตกในระยะความสูง 2 เมตร
3.3.3 เกณฑQการผลิต
ดังท่ีได�กล+าวมาแล�ว ขวดผลิตได�โดยการเป�า preform ท่ีได�มาจากการข้ึนรูปแบบฉีดหลังจาก
การให�ความร�อนอีกครั้งระหว+างการฉีด ความเร็วในการฉีดจะถูกจํากัดโดยการควบคุมความดันท่ีใช�ใน
การฉีดเพ่ือป�องกันการเกิดผลึก spherulite ในพอลิเมอร$โดยการเกิดผลึกจากการเหนี่ยวนําจากแรง
เฉือนซ่ึงผลึก spherulite ท่ีเกิดข้ึนจะทําให�เกิดความขุ+นมัวข้ึนในขวดซ่ึงไม+เป�นท่ียอมรับ
69
สิ่งสําคัญอีกประการ คือ การควบคุมอุณหภูมิพอลิเมอร$หลอมในเครื่องฉีดเพ่ือทําให�แน+ใจได�
ว+าบริเวณท่ีเป�นผลึก (Crystalline domain) ได�หลอมละลายหมดแล�ว แต+ก็จะต�องหลีกเลี่ยงการ
เกิดอะซี-ตอลดีไฮด$ (acetaldehyde) จากกระบวนการเสื่อมสภาพของพอลิเมอร$ท่ีอุณหภูมิสูง ดังนั้น
อุณหภูมิท่ีเหมาะสมจะอยู+ประมาณ 250°C อะซีตอลดีไฮด$จะทําให�รสชาติของน้ําท่ีบรรจุอยู+ในขวด
เสียไปท่ีความเข�มข�นตํ่ามาก ๆ
ความหนาของผนัง preform จะจํากัดอยู+ท่ี 4.2 mm โดยอัตราการหล+อเย็นในเครื่องฉีด
(cooling rate) และอัตราการให�ความร�อนอีกครั้ง (reheat rate) ก+อนการเป�า
จากนั้น preform จะถูกทําให�เย็นลงอย+างรวดเร็วเพ่ือให�คงสถานะอสัณฐาน กระบวนการให�
ความร�อนอีกครั้งมักทําโดยการใช�เครื่องให�กําเนิดความร�อนอินฟาเรดท่ีอุณหภูมิเกินTg(ประมาณ
95°C) และ stretch-blow ratio จะประมาณ 3.5x3.5หรือประมาณ 10 เท+า โดยส+วนรวม ซ่ึงจะให�
ค+าความหนาของผนังเท+ากับ 0.4 mm.
3.3.4 ทําไมจึงเลือกใช4 PET และเลือกกระบวนการ stretch blow
ปFญหาท่ีเกิดข้ึนกับพอลิเมอร$ท่ีจะเลือกมาบรรจุน้ําอัดลมนั่นคือ ความสามารถในการรักษา
ความดันจากคาร$บอนไดออกไซด$ ซ่ึงสิ่งนี้จะข้ึนกับความสามารถในการยอมให�ก�าซผ+านเข�าออก (gas
permeability) ข อ งพ อลิ เม อ ร$ ซ่ึ ง พี อี ที ถื อ ได� ว+ า เป� น พ วก ท่ี ไม+ ย อ ม ให� ก� าซ ผ+ าน เข� าออ ก
(impermeable) ดังแสดงในตารางท่ี 3.1
ตารางท่ี 3.1 Relative permeability to gases ของพอลิเมอร$ชนิดต+างๆ
พอลิเมอร$ Relative permeability
PET
PVC
HDPE
PP ( orientated )
LDPE
1
2
52
57
114
แต+อย+างไรก็ตาม การจะใช�งานพอลิเมอร$ท่ีเป�นผลึกท้ังหลายเช+น พีอีทีจะต�องพิจารณาถึง
โครงสร�างผลึก
70
พีอีทีเป�นตัวอย+างหนึ่งของพอลิเมอร$ท่ีปริมาณผลึกของมันสามารถควบคุมได�ด�วยกระบวนการ
ตกผลึก คล�ายกับในพีวีซีหรือพีพี แต+ถ�าเป�น อะซีตอล หรือไนลอน ซ่ึงตกผลึกรวดเร็วในเวลาเดียวกัน
จะไม+สามารถนํามาข้ึนรูปโดยวิธีนี้ได�
ถ�าเราเริ่มต�นหลอมพีอีทีท่ีช+วงอุณหภูมิ 250-280°C และทําให�เย็นตัวอย+างรวดเร็ว เราจะได�
ของแข็งอสัณฐาน ซ่ึงมี Tg ประมาณ 80°C และจะอ+อนตัวท่ีเหนืออุณหภูมินี้
ถ�าพอลิเมอร$หลอมนี้ ถูกทําให�เย็นตัวลงอย+างช�า ๆ จะเกิดผลึก spherulite ขนาดใหญ+ ให�
วัสดุ ซ่ึงมีความแข็งและทึบแสดงโดยมีจุดหลอมของผลึก (crystalline melting point) ท่ี 265°C
ถ�าของแข็งอสัณฐานนี้ถูกให�ความร�อนอีกครั้งท่ีอุณหภูมิเกิน Tg (95-100°C) และถูกดึงยืด
ออกจะเกิดผลึกท่ีเกิดจากการเหนียวนําจากแรงเฉือน (stress-induced crystal) ข้ึน ซ่ึงผลึกเหล+านี้
จะมีขนาดเล็กและผลิตภัณฑ$ท่ีได�ก็จะโปร+งใส วัตถุนี้จะมีความเหนียวและแข็งกว+าสสารในรูปท่ีเป�น
อสัณฐาน
ถ�าชิ้นงานท่ีมีผลึกท่ีจัดเรียงตัวอย+างเป�นระเบียบนี้ถูกให�ความร�อนต+อไปถึง 150°C ปริมาณ
ผลึกก็จะเพ่ิมข้ึนและสมบัติทางกายภาพก็จะดีข้ึนด�วย นอกจากนี้ความทนต+ออุณหภูมิก็จะดีข้ึนด�วย
กระบวนการท่ีกล+าวมานี้เรียกว+า heat setting stage ซ่ึงใช�ในการผลิตไฟเบอร$และฟ[ล$ม
ระยะต+าง ๆ ของการผลิตพีอีทีแสดงในตารางท่ี 3.2
ตารางท่ี 3.2 ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงปริมาณผลึกในพีอีที
Process Tensile strength ( MPa )
Quench
Cool slowly
Stretcch
Linear
Biaxially
Heat set
Amorphous, Tg 80 0C
Spherulites , brittle, Tg 250 0C
Fiber
Film, bottles
Fiber, film 40% crystalline
55
170
350
ขวดท่ีไม+ได�ผ+านกระบวนการ Heat set จะมีความเสถียรท่ีอุณหภูมิไม+เกิน 60°C สําหรับ
heat set film จะใช�สําหรับบรรจุอาหารพวก boil-in-the-bag ซ่ึงจะเสถียรถึง อุณหภูมิ 100°C
สิ่งสําคัญท่ีเราต�องตระหนักไว�คือ พอลิเมอร$ท่ีตกผลึก เช+น พีอีทีและพีพี เม่ือจะใช�ใน
กระบวนการ Stretch-blow จะต�องทําให�เย็นตัวอย+างรวดเร็วเพ่ือให�ได�ของแข็งอสัณฐานก+อนท่ีจะ
} 25% crystallline
71
นําไปให�ความร�อนท่ีอุณหภูมิเกิน Tg เพ่ือให�เกิดการตกผลึกโดยการเหนี่ยวนําจากแรงเฉือน แต+พวกพอ
ลิเมอร$ท่ีไม+สามารถตกผลึกได� ก็อาจผลิตได�โดยกระบวนการ stretch-blow ซ่ึงการจัดเรียงตัวใน
ทิศทางเดียวของสายโซ+พอลิเมอร$ก็อาจมีส+วนช+วยปรับปรุงสมบัติได� แต+พอลิเมอร$เหล+านี้ก็จะข้ึนรูปจาก
การทําให�พอลิเมอร$หลอมเย็น
ถ�าใช�ในวิธีการเดียวกันนี้กับพีอีที เช+น ทําให�เย็นลงไปถึง 160°C ก็จะเกิด spherulitic
nuclei ข้ึนระหว+างการหล+อเย็นและการพยายามทํา stretch-blow ก็ไม+สามารถทําให�เกิดสมบัติท่ีดี
ข้ึนได� และขนาดของ spherulite ท่ีใหญ+ก็ยังทําให�ผลิตภัณฑ$ทึบแสงอีกด�วย
3.3.5 พีอีทีกับอนาคตของขวดบรรจุน้ําอัดลม
เนื่องจากความต่ืนตัวในด�านการลดสภาวะโลกร�อนโดยการออกกฎหมายควบคุมการใช�
ปริมาณพลาสติกท่ีย+อยสลายไม+ได�ทําให�บริษัทผู�ผลิตขวดบรรจุน้ําอัดลมท่ีใช�พีอีทีซ่ึงเป�นพอลิเอสเตอร$
ท่ีได�จากการสังเคราะห$จากอุตสาหกรรมป[โตรเคมีเป�นวัตถุดิบ เริ่มใช�พลาสติกท่ีได�จากธรรมชาติ โดย
บริษัท PepsiCo ประกาศจะใช�ขวดบรรจุน้ําอัดลมท่ีผลิตจากพลาสติกท่ีได�จากพืชธรรมชาติ 100 %
แทนท่ีขวดพีอีที ซ่ึงจะเริ่มทดสอบการใช�งานในปVค.ศ. 2012
รูปท่ี 3.19 ขวดบรรจุน้ําอัดลมของ PepsiCo ท่ีผลิตจากพืช 100 %
อนาคตของพลาสติกชีวภาพท่ีย+อยสลายได�ทางชีวภาพในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ$กําลังเป�นท่ีจับตา
มอง โดยปริมาณพลาสติกท่ีย+อยสลายได�ทางชีวภาพท่ีใช�ในวงการบรรจุภัณฑ$ในปV คศ. 2010 แสดงใน
รูปท่ี 3.20
72
รูปท่ี 3.20 ตลาดบรรจุภัณฑ$พลาสติกชีวภาพท่ัวโลกแยกตามชนิดของวัสดุในปV คศ.2010
(http://pakbec.blogspot.com)
73
คําถามท4ายบท
1. จงบอกลักษณะของผลิตภัณฑ$ท่ีได�จากกระบวนการ extrusion blow molding และ injection
stretch blow molding
2. เพราะเหตุใดผลิตภัณฑ$ท่ีได�จากกระบวนการ extrusion blow molding และ injection stretch
blow molding จึงมีความแตกต+างกัน
3. ผลิตภัณฑ$ท่ีแสดงในรูปด�านล+างนี้ได�จากกระบวนการใด เพราะเหตุใด