Upload
others
View
3
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
ต้นน้ำ
อนุภาคนาโนซิลเวอร์ ในช่วงที่นาโนเทคโนโลยีกำลังมาแรง หลายท่านต้องเคยได้ยินคำโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากมายที่ใช้นาโนซิลเวอร์ เช่น ภาชนะบรรจุอาหารเสื้อผ้าที่ปราศจากกลิ่น อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น โดยผู้ผลิตจะกล่าวถึงสมบัติเด่นของนาโนซิลเวอร์ที่สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ดีด้วยเหตุนี้จึงทำให้ยอดปริมาณการใช้อนุภาคนาโนซิลเวอร์ตั้งแต่ปีค.ศ.2006สูงขึ้นถึงร้อยละ 380 และเป็นส่วนประกอบอยู่ในผลิตภัณฑ์ถงึ 259 ผลติภณัฑ์ อยา่งไรกด็ี อาจมคีำถามวา่หากอนุภาคนาโนซิลเวอร์ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมจะมีผลกระทบอะไรบ้าง? รู้จักซิลเวอร์ ซิลเวอร์หรือเงินเป็นโลหะมีค่าชนิดหนึ่งที่มนุษย์ใช้ประโยชน์กันอย่างกว้างขวางมาหลายพันปีแล้ว การใช้งานส่วนใหญ่นิยมนำไปทำเครื่องประดับเครื่องใช้ในครัวเรือน เงินตรา การล้างรูป และวัตถุระเบิด เป็นต้น นอกจากนี้ ซิลเวอร์ยังมีสมบัติที่ใช้เป็นสารฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย ทำให้มีการใช้งานด้านการแพทย์และสุขอนามัย เช่น ในสมัยโบราณใช้
ทความ
ภาชนะเครื่องเงินในการเก็บรักษาน้ำและไวน์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มีการใช้สารประกอบซิลเวอร์มาทำเป็นยารักษาแผลติดเชื้อ และในปี ค.ศ.1884สูติแพทย์ชาวเยอรมันได้ใช้ซิลเวอร์ไนเตรต 1% มาทำเป็นยาหยอดตาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเป็นต้น แม้จะมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง แต่ความรุ่งโรจน์นี้ดูเหมือนจะไม่ยั่งยืน เนื่องจากมีผลกระทบในด้านลบต่อผู้ที่ได้รับซิลเวอร์ และสารประกอบของซิลเวอร์เข้าไปในร่างกายเป็นเวลานานโดยจะทำให้สีผิวและสีลูกตาเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเทาประจวบกับในช่วงเวลานั้นเริ่มมีการใช้ยาปฏิชีวนะจึงทำให้การใช้ซิลเวอร์เริ่มลดน้อยลง ในปัจจุบัน ด้ วยความก้ าวหน้ าทางวิทยาศาสตร์ทำให้ซิลเวอร์ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้มาในรูปแบบเดิม แต่กลับมีขนาดเล็กลงมากอยู่ในระดับน้อยกว่า 100 นาโนเมตร โดยถ้าเปรียบเทียบกับเซลล์เม็ดเลือดของมนุษย์และเชื้อไวรัส HIVซึ่งมีขนาด8,000นาโนเมตรและ130นาโนเมตรตามลำดบั จงึเรยีกซลิเวอรโ์ฉมใหมน่ีว้า่ “อนภุาคนาโนซิลเวอร์” การที่มีขนาดเล็กลงมากจึงทำให้มีพื้นที่ผิวต่อปริมาตรสูงขึ้นและมีสมบัติที่แตกต่างจากเดิม
บ บ
มุมกลับของ
นาโนซิลเวอร์
ตุลาคม - ธันวาคม 2553 M T E C 9
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อนุภาคนาโนซิลเวอร์เติบโตเร็วมาก โดยทิศทางหลักมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ต้านจุลชีพเช่น ผ้าปิดแผล อุปกรณ์ผ่าตัด และอวัยวะเทียมหรือเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประจำทุกวันเช่น สเปรย์ฉีดภายในห้อง น้ำยาทำความสะอาดเสื้อผ้า อุปกรณ์ที่ทำให้น้ำสะอาด สีทาผนัง เสื้อผ้าถุงเท้า ชุดชั้นใน และเครื่องซักผ้า เป็นต้น แม้ว่ากลไกการทำลายแบคทีเรียของอนุภาคนาโนซิลเวอร์ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์บางท่านได้เสนอแนวคิดว่าอนุภาคนาโนซิลเวอร์อาจไปทำลายเอนไซม์ที่ส่งผ่านสารอาหารไปยังเซลล์และทำให้เซลล์เมมเบรนหรือผนังเซลล์อ่อนแอ หรือไปทำลายดีเอนเอ(DNA)ที่ใช้ในการเพิ่มจำนวน ความกังวลเกี่ยวกับนาโนซิลเวอร์ ในขณะที่ปริมาณการใช้อนุภาคนาโนซิลเวอร์มีแนวโน้มเติบโตสูงมาก แต่ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด จึงทำให้หลายคนเกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในเชิงลบของอนุภาคนาโนซิลเวอร์ เนื่องจากอนุภาคนาโนซิลเวอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กจิ๋วจึงส่งผลให้มีพื้นที่ผิวสูงมากเมื่อเทียบกับปริมาตร และการที่มีพื้นที่ผิวสูงนี้ เองทำให้ ไวต่อปฏิกิริยาจึงสามารถทำลายแบคทีเรียและจุลชีพทั้งชนิดที่เป็นประโยชน์และโทษได้ดี ตั วอย่ างจุ ลชีพที่ เป็นประโยชน์ ได้แก่แบคทีเรียในดินมีบทบาทสำคัญในการตรึงไนโตรเจนและการสลายสารอินทรีย์ต่างๆ ส่วนแบคทีเรียดีไน-ตริฟิเคชัน (Denitrification bacteria) มีบทบาทสำคัญในการทำความสะอาดน้ำโดยการดึงไนเตรตออกจากน้ำที่ปนเปื้อนจากการใช้ปุ๋ย แบคทีเรียบางชนิดที่อาศัยในสัตว์มีบทบาทหน้าที่ช่วยเจ้าบ้านในการย่อยอาหาร หรือแบคทีเรียชนิดที่อาศัยในตัวต่อ(Europeanbeewolf)จะผลิตสารปฏิชีวนะเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ และแบคทีเรียที่ผลิตแสงได้ก็จะช่วยปลาหมึกฮาวาย (Hawaiian squid) ในการพรางตัว เป็นต้น ถ้าหากแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ถูกทำลายย่อมมีผลกระทบต่อวงจรชีวิตของมนุษย์และสัตว์อย่างแน่นอน นอกจากนาโนซิลเวอร์จะคุกคามแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ตามธรรมชาติแล้ว ยังเป็นภัยต่อการควบคุมแบคทีเรียที่เป็นอันตรายอีกด้วย เพราะไม่
เพยีงแบคทเีรยีทีเ่ปน็อนัตรายจะสามารถตา้นทานนาโนซิลเวอร์ได้แล้วยังสามารถต้านทานสารปฏิชีวนะที่ใช้ในปัจจุบันได้อีกด้วย
หนทางสู่สิ่งแวดล้อม การประเมินความเสี่ยงของสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้อนุภาคนาโนซิลเวอร์นับว่าเป็นสิ่งที่พึงกระทำ ทั้งนี้เพื่อสังคมจะได้รับทราบและเตรียมตัวรับมืออีกทั้งเป็นการสร้างความตระหนักในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อีกด้วย มาร์ทิน เชรินเจอร์ (Martin Scheringer)และคณะวิจัย จากสถาบันวิศวกรรมเคมีและชีวภาพ(Institute for Chemical and Bioengineering)ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้แสดงแผนภาพเส้นทางการปนเปื้อนของซิลเวอร์จากผลิตภัณฑ์พลาสติกและสิ่งทอสู่สิ่งแวดล้อม แผนภาพนี้อธิบายว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคจะปลดปล่อยซิลเวอร์ไอออนสู่น้ำเสีย โดยน้ำเสียนี้อาจไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติโดยตรง หรือได้รับการบำบัดจากโรงงาน (SewageTreatment Plant, STP) ซึ่งก็อาจมีซิลเวอร์หลงเหลือบ้างแต่เพียงปริมาณเล็กน้อย (STP effluent)ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม ส่วนกากตะกอนที่เหลือบางส่วนถูกใช้ในการเกษตร บางส่วนก็ทิ้งบนดิน และบางส่วนนำไปเผาในโรงงาน (Thermal WasteTreatment, TWT) ในกรณีที่ทิ้งบนดินซิลเวอร์ก็ยังคงอยู่ที่หน้าดิน แต่เมื่อถูกชะก็จะไปสะสมในดินชั้นล่าง (subsoil) และน้ำใต้ดิน ส่วนในกรณีเผาซิลเวอร์จะอยู่ในเถ้า(slag)เถ้าปลิว(flyash)ซึ่งก็จะอยู่บนพื้นดิน และอีกส่วนจะฟุ้งในอากาศ (airemission)
ตัวต่อ ปลาหมึก
ตุลาคม - ธันวาคม 2553 M T E C 10
พอล เวสเตอร์ฮอฟฟ์ (Paul Westerhoff)วิศวกรสิ่งแวดล้อมแห่งมหาวิทยาลัยแอริโซนา(ArizonaStateUniversity)สนใจวงจรชวีติของนาโน ซิลเวอร์โดยศึกษาจากผลิตภัณฑ์ถุงเท้าขจัดกลิ่นที่มีอนุภาคนาโนซิลเวอร์เป็นองค์ประกอบ เขาต้องการทราบปริมาณของอนุภาคนาโนซิลเวอร์ที่หลุดมากับน้ำซักล้าง และปนเปื้อนสู่ระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าระบบการบำบัดน้ำไม่มีประสิทธิภาพดีพอที่จะกำจัดอนุภาคนาโน อนุภาคนาโนเหล่านี้จะไปไหน ถ้าไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือนำกลับมาทำเป็นน้ำดื่มอะไรจะเกิดขึ้นกับระบบนิเวศสัตว์น้ำและมนุษย์ที่ดื่มน้ำนั้นซึ่งทีมวิจัยของเขากำลังหาคำตอบ ในการทดสอบถุงเท้าขจัดกลิ่นซึ่งเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ของทรอย เบนน์ (Troy Benn) และมีเวสเตอร์ฮอฟฟ์เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาได้เลือกถุงเท้าขจัดกลิ่นที่วางขายตามท้องตลาดมาทดสอบจำนวน6ยี่ห้อพวกเขาทำการตรวจวัดปริมาณนาโนซิลเวอร์ด้วยวิธีการย่อยด้วยกรดและวัดด้วยเทคนิค ICP-OES (Inductively Coupled Plasma OpticalEmission Spectroscopy) และตรวจสอบให้มั่นใจอีกครั้งว่ามีอนุภาคนาโนซิลเวอร์ในถุงเท้าและในน้ำซักล้างด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกนนิง-
ทรานสมิชชัน (scanning transmission electronmicroscope) จากนั้นจึงทำการซักถุงเท้าโดยแช่ในน้ำกลั่นเป็นระยะเวลานาน 1 ชั่วโมงสำหรับเป็นตัวแทนในการซักจริงด้วยเครื่องซักผ้า หรือ 24ชั่วโมงเพื่อให้นานเพียงพอที่จะชะซิลเวอร์ให้หลุดออกโดยจะซักเป็นรอบๆ ตามเวลาอย่างน้อย 3 รอบต่อเนื่องกัน ส่วนอีกการทดลองแช่ในน้ำประปาเพื่อความสมจริง พวกเขาพบว่าถุงเท้าแต่ละยี่ห้อมีอัตราการหลุดของซิลเวอร์ที่แตกต่างกันทั้งนี้น่าจะขึ้นกับกระบวนการผลิต ถุงเท้าบางยี่ห้อนาโนซิลเวอร์หลุดเกือบหมดเมื่อซักเพียง 4 ครั้ง เท่านั้น และการซักในน้ำกลั่นจะเป็นการสมมุติสภาวะที่เกินจริงเนื่องจากอนุภาคนาโนซิลเวอร์จะหลุดได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับน้ำประปา นอกจากนี้ เบนน์ และเวสเตอร์ฮอฟฟ์ยังศึกษาปริมาณซิลเวอร์ที่ถูกดูดซับมายังกากชีวภาพของโรงงานบำบัดน้ำเสีย เพื่อจะใช้ไปพัฒนาโมเดลโรงงานบำบัดน้ำเสียตัวอย่าง ซึ่งคาดว่าจะใช้บำบัดน้ำที่มีซิลเวอร์ปนเปื้อนในปริมาณสูงได้ ผลกระทบ ในช่วงที่ผลกระทบของอนุภาคนาโนซิลเวอร์ต่อสิ่งแวดล้อมยังไม่ทราบแน่ชัด นักวิทยาศาสตร์หลายท่านจึงได้ทดลองเพื่อหาข้อพิสูจน์ตัวอย่างเช่น
แผนผังแสดงเส้นทางที่ซิลเวอร์ในผลิตภัณฑ์พลาสติกและสิ่งทอปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม
ตุลาคม - ธันวาคม 2553 M T E C 11
งานของ Zhiqiang Hu และคณะที่ตีพิมพ์ในวารสาร Water Reaearch ฉบับที่ 42 (2008)เป็นการศึกษาผลกระทบของอนุภาคนาโนซิลเวอร์คอลลอยด์ซิลเวอร์คลอไรด์ และซิลเวอร์ไอออนในการยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลชีพที่อยู่ในระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบว่าซิลเวอร์ไอออนเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะต่อแบคทีเรียที่ผนังเซลล์มีประจุเป็นลบ เพราะซิลเวอร์ไอออนจะไปดูดซับบนผนังเซลล์ ยับยั้งเอนไซม์ และรบกวนสภาพการซึมผ่านได้ของเมมเบรนจนในที่สุดทำให้เซลล์ตาย แม้จะอันตรายแต่ทว่าความเข้มข้นของซิลเวอร์ไอออนที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำจะค่อนข้างต่ำ เนื่องจากมันสามารถเกิดปฏิกิริยากับคลอไรด์ซัลไฟด์ ไทโอซัลเฟต และสารคาร์บอนอินทรีย์ได้ดีดังนั้นจึงไม่ค่อยมีผลกระทบเด่นชัดนัก ในขณะที่อนุภาคนาโนซิลเวอร์เป็นสิ่งที่ค้นพบใหม่ อีกทั้งอยู่ในรูปที่ไวต่อปฏิกิริยา โดยความเป็นพิษจะขึ้นกับขนาดและรูปร่างของอนุภาค ขนาดของอนุภาคที่มีขนาดเล็กประมาณ 10 นาโนเมตรสามารถที่จะทะลุผ่านเซลล์เมมเบรนและทำให้เซลล์ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จากผลการทดลองปรากฏว่าไนตริ ไฟอิ งแบคทีเรีย(nitrifyingbacteria)1ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่บ่งชี้สภาวะสิ่งแวดล้อมและจำเป็นต่อระบบบำบัดน้ำเสียจะได้รับผลกระทบจากอนุภาคนาโนซิลเวอร์มากที่สุด รองลงไปคือคอลลอยด์ซิลเวอร์คลอไรด์ และซิลเวอร์ไอออน ตามลำดับ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเข้มงวดในการควบคุมปริมาณของซิลเวอร์ที่เข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย
ปลาม้าลาย(Daniorerio)
อนุภาคนาโนซิล เวอร์ที่ เ กิ ดขึ้ นกับปลาม้ าลาย(Zebrafish) ซึ่งเป็นปลาที่มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์เช่น มีตับ ไต และหัวใจถึงแม้จะมีเพียง 2 ห้องก็ตามนอกจากนี้ยังมีผนังเส้นเลือดที่กั้นสมองอีกด้วย(blood brain barrier) จากการทดลองพบว่าปลาบางส่วนตาย และบางส่วนที่รอดชีวิตก็มีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไป โดยลำตัวจะมีลักษณะเป็นเลขเก้าหรือตัวลูกน้ำ (,)อนุภาคนาโนซิลเวอร์มีผลให้ตาถุงลม หางทำงานผิดปกติ และตัวอ่อนบางตัวมีของเหลวรอบหัวใจซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ในการประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวอ่อนของปลาม้าลายจะนำไปสู่แนวทางในการคิดออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในระดับนาโนอย่างมีหลักเหตุผลเพื่อให้เกิดผลกระทบในด้านลบน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย
ตัวอ่อนปลาม้าลายที่ใช้ทดสอบความเป็นพิษของอนุภาคนาโน(เครดิตภาพ:StaceyL.Harper)
กระแสต่อต้าน เครื่องซักผ้านาโนซิลเวอร์ ในปี ค.ศ. 2005 บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้านาโนซิลเวอร์ในประเทศสวีเดนซึ่งก่อนหน้านี้เคยเปิดตัวที่ประเทศอื่นๆ รวมทั้งออสเตรเลีย โดยบริษัทนี้อ้างว่าแม้จะซักผ้าที่อุณหภูมิต่ำ อนุภาคนาโนซิลเวอร์ก็สามารถทำหน้าที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในเสื้อผ้าได้มากกว่า 650 ชนิดทำให้ เสื้ อผ้าที่ซักสะอาดเป็นเวลานาน อีกทั้ งเทคโนโลยีที่ใช้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่น่าแปลกที่ว่าไม่มีผลงานตีพิมพ์ที่ได้รับการตรวจสอบออกมารับรอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หน่วยงานด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมสวีเดน (Swedish EnvironmentalProtection Agency) สมาคมน้ำและน้ำเสียสวีเดน(Swed ish Wate r and Waste Wate r
งานของดาริน เฟอร์จีสัน (Dar in Y. Furgeson) และคณะ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Smallฉบับที่5เล่มที่16(2009)ได้ศึกษาผลกระทบจาก
1ไนตริไฟอิงแบคทีเรีย(nitrifyingbacteria)แบคทีเรียที่เติบโตโดยการใช้สารประกอบอนินทรีย์ที่มีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ
ตุลาคม - ธันวาคม 2553 M T E C 12
ข้อมูลอ้างอิง 1. TroyM.BennandPaulWesterhoffNanoparticlesilverreleasedintowaterfromcommerciallyavailable sockfabrics.EnvironmentalScience&Technology,2008,42,4133-4139.2. SabineA.Blaser,MartinScheringer,MatthewMacLeod,KonradHungerbuhlerEstimationofcumulative aquaticexposureandriskduetosilver:contributionofnano-functionalizedplasticsandtextiles. ScienceoftheTotalEnvironment,2008,390,396-409.3. OkkyoungChoi,KathyKanjunDeng,Nam-JungKim,LouisRossJr.,RaoY.Surampalli,ZhiqiangHu Theinhibitoryeffectsofsilvernanoparticles,silverions,andsilverchloridecolloidsonmicrobial growthWaterResearch,2008,42,3066-3074.4. X.Chen,H.J.SchluesenerNanosilver:Ananoproductinmedicalapplication.ToxicologyLetters,2008, 176,1-12.5. OfekBar-Ilan,RalphM.Albrecht,ValerieE.Fako,DarinY.FurgesonToxicityAssessmentsof MultisizedGoldandSilverNanoparticlesinZebrafishEmbryos.Small,2009,5(16),1897-1910)6. NaomiLubickSilversockshavecloudylining.EnvironmentalScienceandTechnology,2008,42(11), 3910.7. http://www.scientificamerican.com/article.cfm?id=nanotechnology-silver-nanoparticles-fish-malformation8. http://www.foeeurope.org/activities/nanotechnology/Documents/FoE_Nanosilver_report.pdf9. http://en.wikipedia.org/wiki/Silver_Nano10.http://www.physorg.com/news126755663.html11.http://researchstories.asu.edu/2008/06/too_small_to_see_the_environme.html12.http://www.sciencedaily.com/releases/2008/04/080429135502.htm13.http://www.sciencedaily.com/releases/2008/04/080406175050.htm14.http://www.sciencedaily.com/releases/2009/10/091028114025.htm15.http://www.sciencedaily.com/releases/2007/05/070514171756.htm16.http://tracingresistance.blogspot.com/2009_11_01_archive.html17.http://www.environmentalhealthnews.org/ehs/news/nanosilver
อนุภาคนาโนซิลเวอร์เลยเสียทีเดียว ผู้ใช้ควรชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์และโทษที่อาจเกิดขึ้น โดยตระหนักถึงความจำเป็นในการนำมาใช้ การนำมาทำเครื่องซักผ้าหรือเสื้อผ้าจะเกิดผลกระทบที่เด่นชัดคือการปนเปื้อนในระบบบำบัดน้ำเสีย และทำให้แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในระบบถูกทำลายไป หรือหากปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติสิ่งมีชีวิตในน้ำอาจได้รับผลกระทบโดยตรง แม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นเลวร้ายจนเกินจะเยียวยา แต่ควรมีการศึกษาคุณและโทษให้แน่ชัดกว่านี้ หรือมีมาตรการควบคุมการใช้ก่อนที่จะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเช่นเดียวกับการใช้ดีดีที และแร่ใยหินที่ใช้กันมาก แต่หารู้ไม่ว่าสุดท้ายมันกลับมาทำร้ายเราในภายหลัง
Assoc ia t ion ) และการประปาสตอกโฮล์ม(StockholmWaterAuthority)ออกมาแสดงความไม่พอใจทำให้บริษัทนี้ต้องถอนผลิตภัณฑ์นี้ออกไปชั่วคราว แต่แล้วก็กลับมาใหม่ส่งผลให้ภาครัฐของสวีเดน (Swedish Government Authorities)ต้องออกมาแสดงความเป็นห่วงว่านาโนซิลเวอร์อาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ และทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียงบประมาณที่สูงขึ้นในการกำจัดอนุภาคนาโนซิลเวอร์ออกจากกากของเสียหรือน้ำเสียนอกจากนี้สมาพันธ์เกษตรกรแห่งสวีเดนยังต่อต้านการใช้น้ำเสียที่มีซิลเวอร์ปนเปื้อนเนื่องจากไม่แน่ใจเรื่องผลกระทบต่อดิน บทส่งท้าย แม้จะมีกระแสต่อต้านการใช้อนุภาคนาโนซิลเวอร์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าต้องหยุดการใช้