Upload
others
View
6
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
แบบสอบถาม ผลโปรแกรมใหสุขศึกษาเรื่องการปองกัน ควบคุมโรคไขเลือดออกในแกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน อําเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ คําชี้แจง 1. แบบสอบถามแบงออกเปน 3 สวน สวนที่ 1 แบบสอบถามขอมูลทั่วไป สวนที่ 2 แบบสอบถามความรูเกี่ยวกับการปองกัน ควบคุมโรคโรคไขเลือดออก สวนที่ 3 แบบสอบถามการปฏิบัติเกี่ยวกับการปองกัน ควบคุมโรคไขเลือดออก
83
สวนท่ี 1 แบบสอบถามขอมูลท่ัวไป ใหทําเครื่องหมาย / ลงใน ( ) ตามขอมูลดวยตามความเปนจริง 1. เพศ ( ) 1.ชาย
( ) 2.หญิง
2. อายุ……………ป 3. ระดับการศึกษา
( ) 1.ประถมศึกษา ( ) 2.มัธยมศึกษาตอนตน ( ) 3.มัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวชหรือเทียบเทา ( ) 4.อนุปริญญา/ปวส.หรือเทียบเทา ( ) 5.ปริญญาตรีหรือเทียบเทา ( ) 6.สูงกวาปริญญาตรี
4. อาชีพ ( ) 1.เกษตรกรรม ( ) 2.รับจาง ( ) 3.รับราชการ ( ) 4.คาขาย ( ) 5.นักศึกษา ( ) 6.อ่ืนๆ…….
84
สวนท่ี 2 แบบสอบถามความรูเก่ียวกับการปอง ควบคุมโรคไขเลือดออกของแกนนาํสุขภาพประจํา ครัวเรือน อําเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ ใหทําเครื่องหมาย ลงในชอง ( ) ของคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว 1. ทําอยางไรจงึจะไมปวยเปนโรคไขเลือดออก
( ) 1.กินอาหารปรุงสุกใหมๆ ( ) 2.ฉีดวัคซีนปองกันโรคไขเลือดออก ( ) 3.ไมใหยงุกัด ( ) 4.ออกกําลังกายทุกๆวัน
2. ยุงพาหะนําโรคไขเลือดออกมีลักษณะอยางไร ( ) 1.ตัวลายดําสลับขาว ขนาดใหญ กัดเจ็บ ( ) 2.ตัวสีน้ําตาล เทา ขนาดใหญ ( ) 3.ขาและตัวลายดําสลับขาว ขนาดปานกลาง ( ) 4.ตัวสีดํา ขนาดปานกลาง
3. ยุงพาหะนําโรคไขเลือดออกชอบออกหากินเวลาใด ( ) 1.กลางวัน ( ) 2.กลางคืน ( ) 3.พลบค่ํา ( ) 4.ทั้งกลางวนัและกลางคนื
4. ยุงพาหะนําโรคไขเลือดออกเกาะอาศัยที่ใดมากที่สุด ( ) 1.ในปารกลําคลอง ( ) 2.บริเวณมมุมืด และอับชืน้ในบาน ( ) 3.บริเวณแสงสวางเพียงพอ มีลมพัด ( ) 4.ในทอ คลองระบายน้ํา ทอสวม
85
5. ยุงพาหะนําโรคไขเลือดออกชอบวางไขที่ไหนมากที่สุด ( ) 1.น้ําในทุงนา ลําคลอง ( ) 2.น้ําในภาชนะน้ําขังในบานและบริเวณบาน ( ) 3.น้ําขังในปา ( ) 4.น้ําในทอ คลองระบายน้าํ
6. ยุงพาหะนําโรคไขเลือดออกตัวโตเต็มวยัมีอายุเฉลี่ยประมาณกีว่ัน ( ) 1.อายุเฉลี่ยประมาณ7-14 วัน ( ) 2.อายุเฉลี่ยประมาณ15-20 วัน ( ) 3.อายุเฉลี่ยประมาณ 24-28 วัน ( ) 4.อายุเฉลี่ยประมาณ30-45วัน
7. โรคไขเลือดออกมักเกิดกบัคนวัยใดมากที่สุด
( ) 1.เด็กแรกเกิด ( ) 2.วัยผูใหญ ( ) 3.เด็กวยัเรียน ( ) 4.ทุกวัยมีโอกาสพบเทากนั
8. พบผูปวยโรคไขเลือดออกในฤดูใดมากทีสุ่ด ( ) 1.ฤดูรอน ( ) 2.ฤดูฝน ( ) 3.ฤดูหนาว ( ) 4.ทุกฤดู
9. ขอใดไมใชการปองกันโรคไขเลือดออก ( ) 1.ทําลายแหลงเพาะพนัธุยุง ( ) 2.นอนในมุงลวดหรือนอนกางมุง ( ) 3.ปดฝาโองน้ําใหมดิชิด ( ) 4.ใสทรายอะเบทในมุมอบัในบานและปารกบริเวณบาน
86
10. การกําจัดยงุพาหะนําโรคไขเลือดออก ควรกําจัดพาหะนําโรคในระยะใดงาย และสะดวกที่สุด ( ) 1.ระยะเปนลูกน้ํา ( ) 2.ระยะเปนตัวโมง ( ) 3.ระยะฝกหัดบิน ( ) 4.ระยะตวัโตเต็มวยั
11. การสํารวจ ทําลายแหลงเพาะพันธุพาหะนําโรคไขเลือดออกควรทําบอยเทาใด ( ) 1.สัปดาหละ 1 คร้ัง ( ) 2.สองสัปดาห 1 คร้ัง ( ) 3.เดือนละ 1 คร้ัง ( ) 4.สองเดือน 1 คร้ัง
12. การควบคมุพาหะนําโรคไขเลือดออกขอใดไมเหมาะสม ( ) 1.ปดภาชนะเก็บน้ําดื่มน้ําใชใหมดิชิดหรือคว่ําภาชนะไมใหน้ําขัง ( ) 2.ปลอยปลากินลูกน้ําลงในภาชนะกกัเกบ็น้ํา เชน โองน้ํา ( ) 3.ใสทรายอะเบทเพื่อฆาลูกน้ําในภาชนะเก็บน้ํา ( ) 4.พนยาฆายุงทุกวัน
13. ขอใดถูกตองในการใชยาฆายุงพนภายในบาน ( ) 1.ฉีดพนบริเวณตามซอกมมุ ใตตู โตะ พอประมาณ จากนั้นใหฉีดพนฟุงกระจายทัว่หอง ( ) 2.หลังจากพนใหเปดประตู หนาตางทิง้ไว 15 – 30 นาที เพื่อไลยุงและใหอากาศถายเท ( ) 3.ฉีดพนขณะยุงบินใกลคนในบานเพือ่ใหโดนตวัยุง ( ) 4.ควรฉีดพนทุกสัปดาหเพื่อกําจัดยุงที่เกิดใหม
14. การปองกนัไมใหยุงวางไขในโองน้ําดืม่วิธีใดเหมาะสมที่สุด ( ) 1.ใสทรายกาํจัดลูกน้ํา ( ) 2.ใสปลาหางนกยุง ( ) 3.ใสผิวมะกรูดในน้ํา ( ) 4.หาภาชนะปดฝาโองใหมิดชิด
15. การใสทรายกําจดัลูกน้ําในขอใดถูกตองที่สุด ( ) 1.ใสในภาชนะที่มีน้ําขัง ขางบานหรือในบานที่ไมสามารถปด หรือทําลายได ( ) 2.วางไวตามมุมอับในบานและปารกบริเวณบาน ( ) 3.ใสในทอ รองระบายน้ํา ( ) 4.ใสในโองน้ําหรือภาชนะเก็บน้ําแลวปดฝาใหมิดชดิ
87
16. ใสทรายกําจัดลูกน้ํา 1 คร้ังออกฤทธิ์นานที่สุดเทาใด ( ) 1. 1 เดือน ( ) 2. 2 เดือน ( ) 3. 3 เดือน ( ) 4. 4 เดือน
17. การปองกนัไมใหพาหะนําโรคไขเลือดออกวางไขในภาชนะที่ไมใช เชน ไหแตก กะลา ควรทําอยางไรจึงจะเหมาะสมและดีที่สุด
( ) 1.ใสทรายอะเบท ( ) 2. เก็บไปกองรวมกัน ( ) 3. หาภาชนะมาคลุมไมใหเปยกฝน หรือถูกน้ํา ( ) 4. ทําลายโดยเก็บไปเผาหรือฝง
18. ขอใดผิดเกี่ยวกับการปองกันโรคไขเลือดออก ( ) 1.การจัดบานเรือนใหสะอาดสามารถลดพาหนะนําโรคไขเลือดออกได ( ) 2.หากไมมทีรายอะเบทสามารถใสเกลือแกงลงในน้ํารองขาตูเพื่อปองกันยุงวางไขได ( ) 3.การเปลี่ยนน้ําหรือลางโองควรขัดผิวภาชนะโองใหสะอาดเพื่อทําลายไขยุง ( ) 4.เก็บเสื้อผาไวในตู ไมแขวนตากนอกตู ทุก7 วัน เพือ่ไมใหยุงเกาะอาศัย
19. การปองกนัควบคุมโรคไขเลือดออกในชุมชนเปนหนาที่ใคร ( ) 1.เจาหนาทีส่าธารณสุข ( ) 2.อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมูบาน ( ) 3.ผูใหญบาน ผูนําชุมชน ( ) 4.ประชาชนทุกคนในชุมชน
20. เมื่อมีผูปวยสงสัยเปนโรคไขเลือดออกในชุมชนทานควรปฏิบัติอยางไร ( ) 1.เฝาดูสถานการณฟงขาวจะใชผูปวยโรคไขเลือดออกรึเปลา ( ) 2.แจง อสม.หรือเจาหนาทีส่าธารณสุขใหทราบ ( ) 3.อยูเฉยๆ อสม.นาจะทราบแลว เจาหนาที่จะดําเนินการเอง ( ) 4.แจงใหประชาชนทุกคนในชุมชนไดทราบเพื่อเตรียมตัวปองกันโรค
88
สวนท่ี 3 การปฏิบัติในการปองกันและควบคุมโรคไขเลือดออก คําชี้แจง ใหทานพิจารณาขอความในแตละขอตอไปนี้ และโปรดทําเครื่องหมาย ลงในชอง ที่ตรงกับความจริงของทานมากที่สุด โดยมีขอพิจารณาดังนี ้
ขอ ขอมูล ปฏิบตัิเปนประจํา
ปฏิบตัิบอยคร้ัง
ปฏิบตัิบางครัง้
ไมปฏิบตัิเลย
1 นอนในหองทีม่ีมุงลวดหรือนอนกางมุง
2 สองตรวจหาลกูน้ํายุงลายเมื่อพบภาชนะที่น้าํขังในบานหรือบริเวณบาน
3 กําจัดเศษวัสด-ุภาชนะที่จะเปนแหลงเพาะพนัธุยุงลายบริเวณบานเมื่อพบเห็น
4 ปรับปรุงบริเวณบานเพื่อกําจดัแหลงน้ําขังที่อาจเปนแหลงเพาะพันธุหรือที่อาศัยของยุง
5 ตักหรือทําลายลูกน้ําเมื่อพบเห็น
6 ปดฝาโองน้ําหรือภาชนะใสน้ําดื่มน้ําใชทนัทีเมื่อไมไดใชน้าํ เพื่อปองกันยงุลงวางไข
7 ขัดทําความสะอาดผิวดานในโองน้ํา หรือภาชนะเก็บน้ําในบานทกุครั้ง เมื่อเปลี่ยนน้าํ
8 ปองกันยุงกัดโดยไล ตบ ตี หรือใชเครื่องไฟฟาช็อตยุง เมื่อยุงบินเขาใกล
9 ใสเกลือ ผงซักฟอก น้ําสมสายชูหรือส่ิงของอ่ืนๆที่ไมสามารถใหยุงลงวางไขในภาชนะที่มีน้ําขังภายในบาน เชน ขาตูกับขาว แจกันดอกไม
10 เปดประตูบาน หนาตาง ผามาน ใหลมพดั แสงแดดสอง เพื่อระบายอากาศไมใหมดือบัชื้น ปองกันยุงอาศัยอยูในบาน
89
ขอ ขอมูล ปฏิบตัิเปนประจํา
ปฏิบตัิบอยคร้ัง
ปฏิบตัิบางครัง้
ไมปฏิบตัิเลย
11 ดัดแปลงภาชนะที่ไมมีประโยชนนํามาใชเพื่อลดแหลงเพาะพันธุยุง เชน ทํากระถางตนไมจากยางรถยนตเกา
12 แยกขยะ เก็บขวดแกว/พลาสติกขาย กะลาทําเชื้อเพลิงเพื่อลดแหลงเพาะพนัธุลูกน้ํายุงลาย
13 เก็บเสื้อผาในตู ไมแขวนตากนอกตู เพื่อไมใหยุงเกาะอาศัย
14 อยูในบานบริเวณที่มแีสงสวางเพียงพอ มีลมพัด เพื่อปองกนัยุงกดั
15 แนะนําคนในครอบครัวใหปองกันตนเองไมใหยุงกดัและแนะนําวิธีปองกันโรคไขเลือดออก เชนการใสทรายกําจดัลูกน้ํา เผาหรือฝงขวดแกว/พลาสตกิ กะลา
16 แนะนําเพื่อนบานเกีย่วกับวธีิการควบคุมกําจัดลูกน้ําเชนการใสทรายกําจัดลูกน้ํา เผาหรือฝงขวดแกว/พลาสติก กะลา
17 ใหความรวมมอืในการสํารวจลูกน้ําภายในบานและบริเวณบานโดย อสม.หรือเจาหนาที่สาธารณสุข
18 ขอรับทรายกําจัดลูกน้ําจาก อสม./เจาหนาที่สาธารณสุข
19 ติดตามขาวสาร สอบถาม อสม./ผูนําชุมชน/เจาหนาที่สาธารณสุข เกี่ยวกบัสถานการณโรคไขเลือดออกในหมูบาน/ชุมชน
20 ใชภูมิปญญาทองถ่ิน หรือวัสดุภายในชุมชน ในการปองกนั กําจัด ลูกน้ําหรือยุง และปองกันโรคไขเลือดออก เชน ใชสมุนไพรไลยุง ผิวมะกรูดปองกันยุงวางไข
90
ภาคผนวก ข โปรแกรมใหสุขศึกษาเกี่ยวกับการปองกันควบคุมโรคไขเลือดออก
91 โปรแกรมใหสุขศึกษา เรือ่งการปองกัน ควบคุมโรคไขเลือดออก
เวลาที่ใช 1 ชั่วโมง (09.00 น.- 10.00 น.) วิทยากร นางสรอยศรี วรสาร พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ กลุมเปาหมาย แกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน จํานวน 30 คน
วัตถุประสงค หัวขอหลักในการใหสุขศึกษา วิธีการสอน สื่อการสอน การประเมินผล 1.แกนนําสุขภาพครัวเรือนมีความรูเกีย่วกับโรคไขเลือดออกในเรื่องดังนี ้- สาเหตุและการติดตอของการเกิดโรคไขเลือดออก - อาการและอาการแสดงของโรคไขเลือดออก
1. พาหะและสาเหตุการเกิดโรคไขเลือดออก 2. การติดตอของโรคไขเลือดออก 3. อาการและอาการแสดงของโรคไขเลือดออก 4. การปฏิบัติตัวเบื้องตนเมื่อเปนโรคไขเลือดออก
1. ผูวิจัยกลาวถึงอันตรายโรคไขเลือดออก กลาวนํา เขาสูกิจกรรมสุขศึกษา 2. แนะนํา วิทยากรที่มาบรรยาย 3. วิทยากรซักถามแกนนําสขุภาพประจําครัวเรือน ถึงประสบการณการเจ็บปวยเปนโรคไขเลือดออก ของตนเองหรอืบุตรหลานและใหออกมาเลาประสบการณ 4. วิทยากรบรรยายเรื่องโรคไข เลือดออก เกีย่วกับ สาเหต ุการติดตออาการและอาการแสดง การปฏิบัติตัวเมื่อเปนโรค
1.วิดิทัศนสารคดีสั้น ตอนทําอยางไรเมื่อสงสัยวาเปนไขเลือดออก ความยาว 3 นาที ตอนรูจักไขเลือดออก 3 นาที โดยมีเนื้อหาสวนใหญ คือ - สาเหตุและอาการ โรคไขเลือดออกเปนโรคติดตออันตรายอาจทาํใหเสียชีวิตได เกิดจากการการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ ที่มียุงลายเปนพาหะนําโรค มักมีการระบาดในฤดูฝนแบงได 3 ระยะ คือ ระยะไข ระยะวกิฤต / ช็อก และระยะฟนตัว ระยะที่
1. สังเกตความสนใจและการซักถามของแกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน 2. สังเกตการมสีวนรวมในกิจกรรม 3. สังเกตการเสนอความคิดเห็นและตอบคํา ถาม
92 ไขเลือดออก ประกอบกับการฉายวิดิทัศนสารคดีโรค ไขเลือดออกและบรรยายประกอบPower point 5. ตอบขอซักถามของแกนนําสุขภาพประจําครัวเรือนสลับกับการซักถาม 6.ผูวิจัยสรุปเนือ้หา
อันตรายที่สุดคือระยะวิกฤต ผูปวยมีอาการไขสูงลอย 2 –7 วัน มีอาการเลือดออกสวนใหญจะพบที่ผิวหนงั ตับโต กดเจบ็ มีภาวะการไหลเวียนลมเหลว ขณะนีย้ังไมมยีาตานไวรัสเดงกี่ใช การรักษาเปนแบบตามอาการและประคับประคอง - วงจรการเกิดโรคไขเลือดออก -การดูแลเบื้องตน 2.แผนพับเรื่องอยาใหคนที่คณุรักจากไปเพราะไขเลือดออก เนื้อหาประกอบดวย อาการของโรคไขเลือดออก - ผูปวยจะมีอาการไขสูง2-7 วัน ซึม ปวดทอง อาเจียน - ปวดเมื่อยกลามเนื้อ ตามขอ - เปนผื่นแดงตามรางกาย - มีเลือดออกตามอวัยวะตาง ๆ
93 มีจุดเลือดออกใตผิวหนัง แขน ขา หรืออาจมีเลือดกําเดาออก - ถาไมรีบรับการรักษา หรือรักษาลาชาจะมีอาการถายอุจจาระมีสีดํา ตัวเยน็เหงื่อออก กระสับกระสาย ช็อค และ เสียชีวิตในที่สุด การดูแลเบื้องตน ใหเช็ดตัวเพื่อลดไข หามรับประทานยาลดไขแอสไพรินใหผูปวยดื่มน้าํมาก ๆ เชน สารละลายน้ําเกลื่อแร ORS น้ําตมสุก น้ําผลไม ถาไขลดลงทันที และผูปวยมีอาการ มือเย็น เทาเย็น ใหรีบนําผูปวยไปพบแพทยโดยดวน เพราะผูปวยกําลังจะเกิดอาการช็อค 3.คอมพิวเตอร /Power point 4.เครื่องฉายโปรเจคเตอร
94 โปรแกรมใหสุขศึกษา เรือ่งการปองกัน ควบคุมโรคไขเลือดออก
ชั่วโมงที่ 2 เวลาที่ใช 1 ชั่วโมง 30 นาที (10.15 น.- 11.45 น.) วิทยากร นางนิรมล จันทะลา นักวิชาการสาธารณสุขชํานาญการ กลุมเปาหมาย แกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน จํานวน 30 คน
วัตถุประสงค หัวขอหลักในการใหสุขศึกษา กิจกรรม/รูปแบบ สื่อการสอน การประเมินผล แกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน มีความรูเกี่ยวกับโรคไขเลือดออกในเรื่องตอไปนี ้- วงจรชวีิตยุงลาย - การควบคุมกําจัดยุง - การปองกันไมใหยุงกดั - การปฏิบัติเมื่อมีคนในบาน/ขางบานเปน
ไขเลือดออก
การปองกันโรคไขเลือดออก - วงจรชีวิตยุงลาย - การควบคุมกําจัดยุง - การปองกันไมใหยุงกดั - การปฏิบัติเมื่อมีคนในบาน/ขางบานเปนไขเลือดออก
1. ผูวิจัย กลาวนํา เขาสูกิจกรรมสุขศึกษา 2. แนะนํา วิทยากรที่มาบรรยาย 3. วิทยากรซักถามแกนนําสขุภาพประจําครัวเรือน ถึงประสบการณการปองกันโรคไขเลือดออก โดยวิธีการกําจดัยงุลาย ของตนเองที่เคยปฏิบัติมาและใหออกมาเลาประสบการณ 4. วิทยากรบรรยายเรื่องโรคไข เลือดออก เกีย่วกับ วงจรชีวติยุงลาย การปองกันโรคไขเลือดออกโดยวิธีการกําจดัยงุลาย ประกอบกับการ
1.วิดิทัศนสารคดีสั้น การกําจัดแหลงเพาะพันธุยุงลายและการปองกนัโรคไขเลือดออก 2.แผนพับเรื่องโรคไขเลือดออก เนื้อหา การปองกันไมใหยุงกัด - นอนกางมุงปองกันยุงกัด หรือนอนในหองที่ไมมีมุงลวด - หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนในมุมอับ หรือที่ลมไมพัดผาน
1. สังเกตความสนใจและการซักถามของแกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน 2. สังเกตการมสีวนรวมในกิจกรรม 3. สังเกตการเสนอความคิดเห็นและตอบคํา ถาม
95 ฉายวิดิทัศนสารคดีโรค ไขเลือดออกและบรรยายประกอบPower point 5.วิทยากรสาธิต และยกตัวอยางวัสดุกําจัดยุงลาย เชน ยาพนกันยงุ สมุนไพรพื้นบาน 6. ตอบขอซักถามของแกนนําสุขภาพประจําครัวเรือนสลับกับการซักถาม 6.ผูวิจัยสรุปเนือ้หา
- เปดพดัลมเวลานอนเพื่อชวยไลยุง - จุดยากันยุงไลยุงเวลานอนพักผอน - ทายาหรือครีมกันยุง การปองกันและการกําจัดลูกน้ํายุงลาย - ปกปดภาชนะเก็บกักน้ําดื่มน้ําใชดวยฝาปดอยางมิดชดิ - ภาชนะที่ไมมีฝาปดใหใสทรายอะเบท 1กรัม/ น้ํา 1ลิตร - เปลี่ยนถายน้าํในถังหรือโองทึ่ใชเก็บกกัน้ําทุก ๆ 7 วนั - ใสปลากินลูกน้ําเชน ปลาหางนกยูง ปลาสอด ในภาชนะกักเก็บน้ํา - เผาทําลาย หรือฝงกลบเศษวัสดุเหลือทิ้งทีอ่าจจะเกิดมนี้าํขังได - ใสเกลือแกงครึ่งชอนชา
96 หรือน้ําสมสายชู 2 ชอนชา หรือใสผงซักฟอกในจานรองขาตูกับขาวเพือ่ปองกันยุงวางไขหรือเทน้ําเปลี่ยนใหม ทุก ๆ 7 วัน - หมั่นเปลีย่นน้ําในแจกนัทกุ 7 วัน และตองขัดลางทุกครั้งที่ทําการเปลี่ยนน้ํา 3.คอมพิวเตอร 4.เครื่องฉายโปรเจคเตอร 5.Power point 6.ยาพนสเปรยฆายุง
97 แผนใหสุขศกึษา เรื่องการปองกัน ควบคุมโรคไขเลือดออก
เวลาที่ใช 2 ชั่วโมง (13.00 น.- 16.0 น.) วิทยากร นายชาญชัย คําไสว นางนิรมล จันทะลา นางสรอยศรี วรสาร นายจรูญ มูลเจริญ นายธนพัฒน ละราคี กลุมเปาหมาย แกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน จํานวน 30 คน
วัตถุประสงค หัวขอหลักในการใหสุขศึกษา กิจกรรม/รูปแบบ สื่อการสอน การประเมินผล แกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน มีความรูเกี่ยวกับโรคไขเลือดออกในเรื่อง วิธีการควบคุมและกําจดัลูกน้ํายุงลาย พื่อใหแกนนําสุขภาพประจําครัวเรือน ไดฝกปฏิบัติในการสํารวจลูกน้ํายุงลาย การกําจัดแหลงเพาะพันธุยุงลายและฝกใหคําแนะนําวิธีการปองกันโรคไขเลือดออกกับบุคคลอื่น
วิธีการควบคุมและกําจัดลูกน้ํายุงลาย ไดแก 1. วิธีทางกายภาพ 2. วิธีทางชีวะภาพ 3.วิธีทางเคมี การสํารวจลูกน้ํายงุลายและฝกปฏิบตั ิ
1. ผูวิจัยกลาวนําเขาสูกิจกรรมสุขศึกษา 2. แนะนําวิทยากรที่มาบรรยาย 3. วิทยากรซักถามแกนนําสขุภาพประจําครัวเรือนถึงประสบการณการปองกันโรคไขเลือดออก โดยวิธีการ วิธีกําจัดแหลงเพาะพนัธุยุงลาย การกําจัดลูกน้ําของตนเองที่เคยปฏิบัติมาและใหออกมาเลาประสบการณ 4. วิทยากรบรรยายเรื่องโรคไข เลือดออก เกีย่วกับ การปองกันโรคไขเลือดออกโดยวิธีกําจัดแหลงเพาะพนัธุยุงลาย การกําจัดลูกน้ํา
-ทรายกําจัดลูกน้ํา -ตะไครหอม -มะกรูด -เกลือแกง -แบบสํารวจลกูน้ํายุงลาย -ไฟฉาย -คอมพิวเตอร -เครื่องฉายโปรเจคเตอร -Power point
-ผลการสํารวจลูกน้ําของกลุม -การนําเสนอผลการฝกปฏิบัติ - สังเกตการเสนอความคิดเห็นและตอบคําถาม
98 ประกอบประกอบกับการฉายวิดทิัศน
สารคดีโรค ไขเลือดออกและบรรยายประกอบPower point 5.วิทยากรสาธิต และยกตัวอยางวัสดุในการกําจัดลูกน้ํา เชน ทรายจัดลูกน้ํา สมุนไพรพื้นบาน 6. ทีมวิทยากรสาธิตการสํารวจลูกนํ้ายุงลายและการใหคําแนะนําในการปองกันโรคไขเลือดออก 7. ฝกปฏิบัติในการสํารวจลูกน้ํายุงลายและฝกใหคําแนะนําวิธีการปองกันโรคไขเลือดออกกับบุคคลอื่นโดยใหแบงกลุมออกเปน 5 กลุม ใหแตละกลุมออกสํารวจลูกน้ําและใหคําแนะนําในหลังคาเรือนในหมูบานที่วิทยากรกําหนดไว 8.ใหตวัแทนกลุมแตละกลุมนําเสนอผลการฝกปฏิบัติและแกนนาํคนอื่นๆรวมแสดงความคิดเห็น 9.ทีมวิทยากรสรุปผลการฝกปฏิบัติ
99 และใหขอคิดเห็น 10.ทําแบบสอบถามหลังโปรแกรมใหสุขศึกษา 11.ผูวิจัยกลาวสรุป กลาวขอบคุณ สําหรับความรวมมือในกิจกรรมสุขศึกษาและกลาวปดกจิกรรมสุขศึกษา
ภาคผนวก ค เอกสารประกอบกิจกรรมโปรแกรมใหสุขศึกษา
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117