Upload
others
View
0
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
เป็นการเปล่ียนแปลงที่ส าคัญในระบบและวิธีการผลิต คือ เปลี่ยนจากการใช้แรงงานคนและสัตว์มาเป็นเครื่องจักรกลที่สลับซับซ้อน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น การปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปเริ่มขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 21 เกิดในประเทศอังกฤษเป็นประเทศแรก โดยในระยะแรกเรียกว่า สมัยแห่งพลังไอน้ า ซึ่งต่อมาจึงได้เกิดเครื่องจักรไอน้ าของเจมส์ วัตต์ขึ้นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป
การปฏิวัติอุตสาหกรรมในระยะที่สองประมาณ พ.ศ.2403-2457 เริ่มมีการใช้แก๊ส น้ ามันปิโตรเลยีม และไฟฟ้า แทนถ่านหินและไอน้ า ซึ่งการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานหลักของอุตสาหกรรม ส่วนการผลิตด้านการเกษตรกรรมก็เปลี่ยนมาเป็นการผลิตสินค้าเฉพาะอย่างเพื่อการค้า
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระยะแรก
การปฏิวัติอุตสาหกรรระยะแรก ประมาณ ค.ศ.1760 เรียกว่า สมัยแห่งพลังไอน้ า” เนื่องจากมีการค้นพบพลังไอน้ าและน าเครื่องจักรไอน้ ามาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทอผ้า เพราะอังกฤษมีแหล่งถ่านหินและเหล็ก ซึ่งเป็นเชือ้เพลิงและวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์รวมทั้งมีการประดิษฐ์เครื่องจักรกลใหม่ ๆ ซึ่งน ามาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระยะแรก เป็นอย่างไร ?
(1) อุตสาหกรรมทอผ้า สิ่งประดิษฐ์ในระยะแรก ๆ เป็นเครื่องจักรกลที่น ามาใช้ใน อุตสาหกรรมทอผ้า เช่น - เครื่องทอผ้า ที่เรียกว่า “กี่กระตุก” ของ จอห์น เคย์ (John Kay)
- เครื่องปั่นด้าย “สปินนิง มูล” (Spinning Mule) ของแซมมวล ครอมป์ตัน - เครื่องทอผ้า ที่เรียกว่า หูกทอผ้า “พาเวอร ์ลูม”
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระยะแรก
(2) เครื่องจักรไอน้ า เป็นผลงานของ เจมส์ วัตต์ (James
Watt) นักประดิษฐ์ชาวสก็อต ในป ีค.ศ.1786 เป็นผลให้อุตสาหกรรมทอผ้าฝ้ายของอังกฤษประสบความส าเร็จ
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระยะแรก
(3) อุตสาหกรรมเหล็ก ตัวอย่างเช่น ท ารางรถไฟ ตู้รถสินค้าของถไฟ จึงมีผู้เรียกการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงแรกว่า “การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคเหล็ก” (Age of Iron)
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระยะแรก
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระยะที่สอง
การปฏิวัติอุตสาหกรรมในระยะที่สอง เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ.1860-1914 มีการน าความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการผลิตภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง เป็นยุคที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากกา๊ซธรรมชาติ น้ ามันปิโตรเลยีม และไฟฟ้า (ส่วนถ่านหินและเครื่องจักรไอน้ าลดความส าคัญลง)
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระยะที่สอง เป็นอย่างไร ?
อุตสาหกรรมทีส่ าคัญ คือ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรกลที่ท าด้วยเหล็กกล้า และอุตสาหกรรมเคม ี จึงมีผู้เรียกการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงที่สองนี้ว่า“การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคเหล็กกล้า" (Age of Steel )
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระยะแรก
(1) การค้นพบวิธีการผลิตเหล็กกล้า ในป ี ค.ศ.1856 และการใช้พลังงานใหม่ ๆ แทนที ่ ถ่านหิน ได้แก่ พลังงานจากก๊าซ น้ ามันปิโตรเลียม และไฟฟ้า เป็นผลให้อุตสาหกรรมของทวีปยุโรปขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเมื่อเหล็กกล้ามีราคาถูกลงท าให้อุตสาหกรรมหนัก เชน่ การต่อเรือ การคมนาคม และการผลิตเครื่องจักรกลต่าง ๆ พัฒนาก้าวหนา้มากยิ่งขึ้น
ความก้าวหน้าและการขยายตัวของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(2) การขยายตัวของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในทวีปยุโรป ในตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีประเทศในภาคพื้นยโุรปหลายประเทศประสบผลส าเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเยอรมนีกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้าและเป็นคู่แข่งที่ส าคัญของอังกฤษ
ความก้าวหน้าและการขยายตัวของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(3) การเกิดประเทศผู้น าด้านอุตสาหกรรมของโลก ก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 1(ค.ศ.1914-1918) อังกฤษยังคงมีฐานะเป็นประเทศผู้น าทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมชั้นน าของโลก โดยเยอรมนีเป็นประเทศที่มีระดับการพัฒนาใกล้เคียงมากที่สุด จนกระทั้งในปี ค.ศ.1920 จึงเกิดประเทศคู่แข่งส าคัญเพิ่มขึ้น ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต และญี่ปุ่น
ความก้าวหน้าและการขยายตัวของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(4) การเกดิระบบการบริหารและการจัดการทางอุตสาหกรรม การปฏิวัติอุตสาหกรรมท าให้เกิดการบริหารงานในระบบโรงงานที่มีประสิทธิภาพ เช่น มีการแบ่งงานกันท าเป็นฝ่ายหรือแผนก
ความก้าวหน้าและการขยายตัวของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
สาเหตุของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(1) ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ จึงเกิดความสนใจที่จะประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เพือ่ใช้ในการอุตสาหกรรม
(2) การส ารวจทางทะเลและการแสวงหาอาณานิคม ท าให้มีแหล่งวัตถุดิบและตลาดระบายสินค้า เป็นการกระตุ้นให้การค้าขยายตัว จึงสนับสนุนให้คดิประดิษฐ์เครือ่งจักร
สาเหตุของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(3) ความมั่นคงและเสรีภาพทางการเมืองในยุโรป ท าให้พ่อค้า นายทุน และนักอุตสาหกรรม มีสิทธิมีเสียงในการปกครองประเทศ การอุตสาหกรรมจึงได้รับการสนับสนุนใหเ้จริญก้าวหน้า
สาเหตุของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ผลของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(1) การเพิ่มของจ านวนประชากร โดยเฉพาะประเทศอังกฤษและเยอรมนีมีอัตราการเพิ่มของประชากรสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากการเปล่ียนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจจากเกษตรกรรมมาเป็นอุตสาหกรรม เกิดการขยายตัวของชุมชนเมือง และความเจริญก้าวหน้าด้านการแพทย์และสาธารณสุข
(2) การขยายตัวของสังคมเมือง เกิดเมืองใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการอพยพของผู้คนในชนบทเข้ามาท างานในเมือง ท าให้เกิดปัญหาสงัคมตามมา โดยเฉพาะปัญหาชุมชนแออัด และเกิดอาชีพใหม่ ๆ หลากหลาย
ผลของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(3) การแสวงหาอาณานิคมและลัทธิจักรวรรดินิยม ประเทศยุโรปที่มีการปฏิวัติการผลิตด้านอุตสาหกรรมีความจ าเป็นต้องแสวงหาแหล่งวัตถุดิบป้อนโรงงานอุตสาหกรรม และขยายตลาดระบายสินค้าที่ผลิตจึงเกิดการแข่งขันกันแสวงหาอาณานิคมในทวีปแอฟริกาและเอเชีย
ผลของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
(4) ความเจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมในคริสต์ศตวรรษที่ 20 การปฏิวัติอุตสาหกรรมท าให้โลกมีการพัฒนาการผลติภาคอุตสาหกรรมก้าวหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง เช่น มีการน าวัสดุอ่ืน ๆ มาใช้ผลิตแทนวัสดุธรรมชาติ เช่น พลาสติก และโลหะที่มีน้ าหนักเบา ระบบใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการท างาน เป็นต้น
ผลของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ผลดีของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
เกิดระบบโรงงานเพื่อผลติสินค้าเพิ่มจ านวนขึ้น เกิดแรงงานเพิ่มขึน้และมาอยู่รวมกันในเมืองใหญ่ มีรายได้เพิม่สูงขึ้น คุณภาพสินค้าและบริการมีคุณภาพขึ้น และมีการน าวิทยาการเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนาใช้เพื่อความก้าวหน้าของประเทศเพิม่ขึ้น
ผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ในยุโรปต่อสังคมไทย
ผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ในยุโรปต่อสังคมไทย
ผลดีของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่พัฒนาและก าลังพัฒนา เป็นบ่อเกิดของลัทธิจักรวรรดินิยมตะวันตก เนื่องจากต้องการแหล่งวัตถุดิบและขยายการค้า และมีการแบ่งชนชั้นคือนายทุนที่มัง่คั่งกับลูกจ้างผู้ยากไร้ภายในประเทศ
เหตุการณ์ส าคัญกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม.(ออนไลน)์. เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki/
ผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปต่อสังคมไทย.(ออนไลน)์. เข้าถึงได้จาก http://www.lks.ac.th/kukiat/student/
betterroyal/social/39.html
การปฏิวัติอุตสาหกรรม.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก http://www.lks.ac.th/
kukiat/student/betterroyal/social/39.html
เอกสารอ้างอิง
จัดท าโดย
นายธีรพันธุ์ ใจกล้า เลขที ่ 4นายพลวัชร์ ยงยืน เลขที่ 8นางสาวฑิฆัมพร ตาเต เลขที่ 18
นางสาวณัฐชา ปัญญาชนกุล เลขที่ 19
นางสาวพัชรี พงษ์สาริกรรณ์ เลขที่ 24
นางสาวพิชชาพร คูสินทรัพย์ เลขที่ 33
นักเรียนชัน้มัธยมศึกษาปีที่ 6/4