รายงานผลการดําเนินงานตาม ... · 2019. 4. 9. · อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน

1

รายงานผลการดําเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและการสั่งการของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

กระทรวงการคลัง ระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม 2554 ถึง 23 กันยายน 2555

ลําดับ นโยบายรัฐบาล/การสั่งการของ

นายกรัฐมนตรี ความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

มติคณะรัฐมนตรี การดําเนินการ การใช้จ่ายงบประมาณ

ผู้รับผิดชอบ วันที่ สาระสําคัญ แผนงาน/โครงการ/ผลการดําเนินการ รวมถึงปัญหา

อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ 1 1.4 ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการ

น้ําอย่างบูรณาการ และเร่งรัดขยายพื้นที่ชลประทาน

พระราชกําหนด ให้อํานาจกระทรวง การคลังกู้เงนิเพื่อ ลงทุนวางระบบบริหารจัดการ น้ําและสร้างอนาคตของประเทศ พ.ศ.2555 (พ.ร.ก.ฯ)

28 มิ.ย. 55

14 ส.ค. 55

เห็นชอบเรื่องการให้ผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศที่มีความพร้อมและชํานาญด้านการบริหารจัดการน้ําเข้ามาดําเนินการจัดทําแนวคิดเชิงนโยบายการบริหารจัดการน้ํา (Conceptual Plan : CP) อนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติผู้ยื่น

แผนการลงทุนด้านน้ํา (การให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย) การกลั่นกรองแผนงาน/โครงการช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยผ่านคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองแผนงาน/โครงการและงบประมาณ ในการช่วยเหลือฟื้นฟู เยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน และนําเสนอคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน (กศอ.) พื้นที่รับน้ํานอง 11 จังหวัด ประกอบด้วย (1) พื้นที่รับน้ํานองตอนบน 7 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณโุลก พิจิตร นครสวรรค์ และอุทัยธานี (2) พื้นที่รับน้ํานองตอนล่าง 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา (3) ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วน จํานวน 96 รายการ โดยขอรับสนับสนุนงบประมาณภายใต้ พ.ร.ก. ให้อํานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ําและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 วงเงิน 614.1362 ลบ. - 10 ส.ค. 55 ผอ.สบน. ในฐานะคณะกรรมการบริหารจัดการน้ําและอุทกภัย (กบอ.) ได้มอบหมายให้ ผอ.สรน. เข้าร่วม

- สํานักงานบริหารหนี้สาธารณะ

2

ลําดับ นโยบายรัฐบาล/การสั่งการของนายกรัฐมนตรี

ความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย



อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ เสนอเพื่อพิจารณาคัดเลือกกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ําอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ครั้งที่ 1/2555

ประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ําอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย (คณะกรรมการฯ) ครั้งที่ 1/2555ประกอบด้วยเรื่องสําคัญดังนี้ 1) แต่งตั้งคณะกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการฯ 2) เกณฑ์การให้คะแนน 3) เกณฑ์ผลงานของผู้เสนอและกรอบระยะเวลาการทํางาน รวม 90 วัน

2 1.5 เร่งนําสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควบคู่ไปกับการขจัดความยากจน ยาเสพติด และอิทธิพลอํานาจมืด โดยน้อมนํากระแสพระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นหลักปฏิบัติในแนวทางสันติวิธี โดยเน้นการส่งเสริมความร่วมมือในทุกภาคส่วนกับประชาชนในพื้นที่ อํานวยความยุติธรรมอย่างทั่วถงึ เพิ่มโอกาสทางการศึกษาและคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสและความเสมอภาค พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ เคารพอัตลกัษณ์ ขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น ส่งเสริมการกระจายอํานาจ การ

- - - สินเชื่อเพื่อพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในประเทศไทยที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม จํานวน 61.24 ล้านบาท จํานวนบัญชี 14 บัญชี สามารถเข้าสู่กลุ่มธุรกิจที่เป็นมุสลิมได้โดยตรง ซึ่งเป็นการพัฒนาคณุภาพชีวิตด้านการศึกษาให้กับชาวมุสลิมเป็นการขยายฐานลูกค้าและส่วนแบ่งตลาดไปยังกลุ่มผู้ประกอบการโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่มีอยู่เกือบทุกพื้นที่ ทุกอําเภอ และขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ครูและนักเรียนเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับธนาคาร และมีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้

- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศ

ไทย

3





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ปกครองสว่นท้องถิ่นในรูปแบบที่สอดคล้องกบัลักษณะพื้นที่โดยไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ จะมีการบรูณาการการบริหารจดัการทุกภาคส่วนให้มีเอกภาพทัง้ในระดบันโยบายและระดับปฏิบัติ รวมทั้งปรบัปรงุ พัฒนากฎหมายและระเบยีบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้อง ทันสมยั กับสภาพความเป็นจริงของปญัหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบอย่างเป็นธรรม

3 - - - สินเชื่อสนับสนุนการจ้างงานในเขตพัฒนาพิเศษในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม จํานวน 58.64 ล้านบาท จํานวนบัญชี 723 บัญชี หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว

ไม่มี ธนาคารอิสลามแห่งประเทศ

ไทย

4 1.6 เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ

มาตรา 8๔ (๓) วรรคสอง

3 พ.ค.54 ให้กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานหลักในการดํ า เนิ นการจั ด ตั้ ง National Single Window โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการนําเข้า ส่งออก ให้ความร่วมมือเพื่อร่วมผลักดัน ให้ National Single Window จัดตั้งได้สําเร็จตามเปา้หมาย

การจัดตั้งการให้บริการระบบ National Single Window - ระบบ NSW พร้อมให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภายในประเทศและระหว่างประเทศแล้ว - อยู่ระหว่างเตรียมการจัดสัมมนาการให้บริการระบบ NSW สําหรับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและหน่วยงานออกใบอนุญาตฯ ซึ่งที่จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ ณ โรงแรมวนิเซอร์ กรุงเทพฯ

งบประมาณที่เบิกจ่ายแล้ว จํานวน 370,851,30๐ บาท คิดเป็น 100 % หมายเหตุ : วงเงินงบประมาณ

กรมศุลกากร

4





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ รวม 370,851,300 บาท ปี ๒๕๕๒ = 189,400,000 บาท ปี ๒๕53 = 34,092,000 บาท ปี ๒๕54 = ไม่มี ปี ๒๕55 = 147,359,300 บาท

5

มาตรา ๘๔ (๓) วรรคสอง

24 ก.พ. 52

คณะรัฐมนตรีอนุ มั ติหลักการ ร่ างกฎกระทรวงกําหนดที่ ทางอนุมัติ ด่านพรมแดนและ ด่านศุลกากรบ้านประกอบ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

ก่อสร้างด่านพรมแดนบ้านประกอบ บริษัทผู้รับจ้างได้ขอขยายระยะเวลาสัญญาเนื่องจากมีปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอันเกิดจากการแก้ไขรูปแบบรายงานบางส่วนเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ในการใช้งานและยังได้ขอขยายระยะเวลาสัญญาจ้าง เนื่องจากเหตุอุทกภัย ซึ่งกรมศุลกากรได้อนุมัติให้ขยายเวลาตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๕ โดยมีกําหนดแล้วเสร็จวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๕ (ขยายระยะเวลาจ้างครัง้ที่ ๓ (๑๘๐ วัน) อนุมัติเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๕) คณะกรรมการตรวจการจ้างได้มีการประชุม ครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และได้ทําการตรวจรับงานจ้าง ครั้งที่ ๑๖ จํานวน ๙ งวดงาน ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ทําการตรวจรับการจ้างไปแล้วทั้งสิ้น จํานวน ๑๐๒ งวดงาน (จากทั้งหมด ๑๕๐ งวดงาน) - ผลงานการก่อสร้าง ณ วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ คิดเป็นร้อยละ ๙๐.๖๓ ซึ่งต้องเร่งรัดการก่อสร้างให้เป็นไป

งบประมาณที่เบิกจ่ายแล้ว จํานวน ๓๐๖,๒๐๐,๔๕๕ บาท อยู่ระหว่างเบิกจ่ายเงินจํานวน ๒๐,๐๕๖,๔๒๙ บาท


5





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ตามแบบและระยะเวลาที่กําหนด และขณะนี้อยู่ระหว่างดําเนินการก่อสร้างรั้วถาวรล้อมรอบพื้นที่โครงการฯ - โครงการก่อสร้างและขยายถนนเชื่อมระหว่าง อ.นาทวี-ด่านศุลกากรบ้านประกอบ ซึ่งประกอบด้วยถนน ๒ โครงการ ได้แก่ (๑) ถนนเชื่อมจาก อ.นาทวี-ต.ประกอบ ระยะทางประมาณ ๔0 กิโลเมตร (๒) ถนนเชื่อมจาก ต.ประกอบ-ด่านศุลกากรบ้านประกอบ อยู่ระหว่างการดําเนินการของแขวงการทางสงขลา - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังไม่อนุญาตให้ใช้ที่ดิน ในส่วนที่เป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ จํานวน ๑ แปลง ซึ่งหากศาลมีคําสั่งให้ออกเอกสารสิทธิได้ จะต้องจัดหางบประมาณเป็นค่าที่ดินเพิ่มเติม (ประมาณ ๖๖๐,๐๐๐ บาท

6 มาตรา ๘๔ (๓) วรรคสอง

- - ก่อสร้างด่านศุลกากรบูเก๊ะตา ระยะที่ ๓ คณะกรรมการตรวจการจ้างได้มีการประชุม ครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และได้ทําการตรวจรับงานจ้างครั้งที่ ๙ จํานวน ๒ งวดงาน ซึ่งคณะกรรมการได้ทําการตรวจรับไปแล้วทั้งสิ้นจํานวน ๓๒ งวดงาน (จากทั้งหมด ๑๐๐ งวดงาน) ความก้าวหน้า งานก่อสร้า งรวมทั ้งสิ ้น ณ วันที่ ๓๑ สิงหาคม 2555 คิดเป็นร้อยละ ๓๔.๔๐ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ๑. บริษัทฯ ผู้รับจ้างมีการก่อสร้างโครงหลังคาคลุมช่องตรวจรถทั้งขาเข้า-ขาออก ได้เสา คสล. จํานวน ๓๒ ต้น ได้งานติดตั้ง ๒ ด้าน งานโครงหลังคาส่วนรับ-ส่งผู้โดยสารขาออก ๑ ด้าน คิดเป็นร้อยละ ๓0

งบประมาณที่เบิกจ่ายแล้ว จํานวน ๕๗,๗๗๑,๑๐๐ บาท


6





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ๒ . งานโครงหลังคาส่วนรับ-ส่งผู้ โดยสารด้านหน้า-ด้านหลังอาคาร CIQ ได้งานเสา คสล. จํานวน ๑๒ ต้น คิดเป็นร้อยละ ๑๕ 3. งานโครงหลังคาจอดรถ ผูกเหล็กได้ ๑๒ ต้น งานเทลานคอนกรีตพื้นที่ใหม่ได้ปริมาณ ๑๔,๙๐๐ ตารางเมตร งานเทลานคอนกรีตพื้นที่เดิมได้ปริมาณ 10,583 ตารางเมตร 4. งานอาคารพักอาศัยหลังที่ ๑ ได้ปริมาณงานร้อยละ ๑๗ งานอาคารพักอาศัยหลังที่ ๒ ได้ปริมาณงานร้อยละ ๒๕ 5. งานท่อระบายน้ําพื้นที่ใหม่ได้งานร้อยละ ๙๐ งานวางท่อระบายน้ําขนาด ๑๒0 เซนติเมตร ได้งานร้อยละ ๙๖


- - พัฒนาเพิ่มศักยภาพการค้าและการท่องเที่ยวด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง ด่านศุลกากรท่าลี่ คณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการพัฒนาเพิ่มศักยภาพการค้าและการท่องเที่ยวด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง ด่านศุลกากรท่าลี่ มีมติตรวจรับงานจ้างงวดงานที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕ กรมศุลกากรได้มีหนังสือข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมต่อท้ายสัญญาจ้าง ลงวันที ่๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ขยายเวลาทํางานให้อีก ๑๘๐ วัน (งานเสร็จเป็น ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๖) ตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๕ - ความก้าวหน้างานก่อสร้างรวมทั้ งสิ้น ณ วันที่ 3๑ สิงหาคม 2555 คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๓๔ - ด่านศุลกากรท่าลี่และผู้ควบคุมงานได้ติดตามเร่งรัดอยู่โดยตลอด

งบประมาณที่เบกิจ่ายแล้ว จํานวน ๒๔,๔๕๙,๗๐๐ บาท



- - ก่อสร้างท่าเทียบเรือศุลกากรเกาะสีชัง กรมศุลกากรดําเนินการจัดจ้างโดยวิธีประกวดราคาตาม

งบประมาณที่เบิกจ่ายแล้ว


7





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ สัญญาจ้างเลขที่ ๘๑/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ และหนังสือ

ข้อตกลงฯ รวม ๔ ฉบับ ผู้รับจ้าง ได้แก่ บริษัท อินเทนซีฟ แมคคานิคส์ จํากัด ค่าจ้างรวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๙๔,๙๙๙,๔๔๔ บาท กําหนดส่งมอบงาน ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๕ (จํานวน ๒๓ งวดงาน) คณะกรรมการตรวจการจ้าง ตรวจรับงานไปแล้ว ๒๐ งวดงาน (จากทั้งหมด ๒๓ งวดงาน) ได้แก่ งวดที่ ๑ ถึง ๒๐ (งวดที่ ๒๐ ยังไม่ได้ มีการเบิกจ่ายเงินให้บริษัทฯ เนื่องจากอยู่ระหว่างเสนอกรมฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติ) - ความก้าวหน้างานก่อสร้างรวมทั้งสิ้น ณ วันที่ 3๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ คิดเป็นร้อยละ ๙๔ .๐๙ ตามหนังสือรายงานก่อสร้างของหน่วยงานควบคุมการก่อสร้าง ท่าเทียบเรือศุลกากรเกาะสีชัง ประจําสัปดาห์ที่ ๓๑/๒๕๕๕ - บริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้งส่งมอบงานงวดที่ ๒๒-๒๓ รวมทั้งขอขยายเวลาก่อสร้างอีก ๖๐ วัน (เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕) - คณะกรรมการฯ มีมติให้ขยายเวลาอีก ๔๕ วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขสัญญาจ้าง

จํานวน ๑๕๔,๖๕๕,๙๑๖.๑๐ บาท


- - ปรับปรุงด่านพรมแดนสะเดา คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติเห็นชอบในหลักการให้จ่ายค่าชดเชยสิ่งปลูกสร้างและผลอาสินในที่ดินแล้ว เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ - สํานักบริหารกลาง กรมศุลกากร ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๕๐๑/๙๓๐๖ ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๕ ถึงสํานักงบประมาณ ขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ อยู่ระหว่าง รอผลการพิจารณาจากสํานักงบประมาณ - สํานักงบประมาณ แจ้งให้กรมฯ ทราบตามหนังสือที่

- กรมศุลกากร

8





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ นร ๐๗๐๘/๑๙๒๗๒ ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ และแก้ไขตามหนังสือที นร ๐๗๐๘/๒๐๒๔๘ ลงวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๕ อนุมัติให้โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ภายใต้แผนงาน ผลผลิต และงบรายจ่ายดังกล่าว จากรายการค่าชดเชยผลอาสินและสิ่งก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ไปเป็นค่าชดเชยสิ่งปลูกสร้างและผลอาสินด่านศุลกากรสะเดาเดิม สําหรับที่ดิน จํานวน ๓๖ แปลง เนื้อที่รวม ๑๘-๑-๑๓ .๕ ไร่ จํานวน ๓๙,๘๙๕,๐๖๙.๖๓ บาท ทั้งนี้ ขอให้กรมศุลกากรดําเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยคํานึงถึงประโยชน์สูงสุด ของทางราชการเป็นสําคัญ อนึ่ง สําหรับรายการค่าก่อสร้าง ด่านศุลกากรสะเดาเดิม จํานวน ๖๐,๔๓๐,๕๓๐.๓๗ บาท นั้น ขอให้กรมศุลกากรจัดทํารายละเอียดประมาณการก่อสร้าง เพื่อประกอบการพิจารณาให้ครบถ้วนในโอกาสแรกก่อน แล้วจึงขอทําความตกลงกับสํานักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง


- -

ก่อสร้างด่านศุลกากรท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ ๒ - เรื่องจัดซื้อครุภัณฑ์สํานักงานและบ้านพัก ด่านศุลกากรเชียงแสน ได้ขออนุมัติใช้เงินค่าใช้จ่ายเก็บภาษีท้องถิ่น เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์สํานักงานและบ้านพัก ณ ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน กรมศุลกากรได้อนุมัติ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นจํานวนเงิน 1,940,100 บาท บริษัทฯ ได้ทําการส่งมอบครุภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างขออนุมัติการเบิก-จ่ายเงินงบประมาณ - เรื่องขออนุมั ติ เงินค่าใช้จ่ายจากเงินสนับสนุนภารกิจของกรมฯ เพื่อมอบให้สํานักงานโยธาธิการและผังเมือง ดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างในการออกแบบฯ โดยเมื่อวันที่


9





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ

๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕ และเมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ด่านฯ ได้มีหนังสือสอบถามกรมศุลกากรขอทราบผลการพิจารณาอนุมัติในหลักการกรณีขออนุมัติเงินสนับสนุนภารกิจของกรมศุลกากร จํานวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ขณะนี้ยังรอผลการพิจารณาจากกรมศุลกากร - เรื่องขออนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจําปี พ.ศ. ๒๕๕๕ สําหรับก่อสร้างอาคารสํานักงานและอาคารประกอบอื่น ๆด่านฯ ได้มีหนังสือที่ กค ๐๕๐๒(๒๒)/๕๘๑ ลงวนัที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ถึงสํานักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย เพื่อสอบถามความคืบหน้า กรณีขอให้ออกแบบอาคารสํานักงานและอาคารประกอบอื่นๆ พร้อมจัดทํารูปแบบรายละเอียดการก่อสร้างและออกแบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง - ด่านศุลกากรเชียงแสน ยังไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ - กรมเจ้าท่ายังไม่ได้สง่มอบที่ดินให้ - สํานักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย ยังไม่ได้ออกแบบอาคารสํานักงานด่านศุลกากรเชียงแสนและอาคารประกอบอื่นๆ - กรมศุลกากรยังไม่อนุมัติเงินสนับสนุนภารกิจของกรมฯ จํานวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อมอบให้สํานักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย ดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างในการออกแบบอาคารสํานักงานด่านศลุกากรเชียงแสน ณ ท่าเรือพาณิชย์ (ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ ๒) และอาคารประกอบอื่นๆ ตามที่สํานักงานโยธาธิการและผังเมืองแจ้งให้ทราบ


- - ก่อสร้างด่านศุลกากรเชียงของแห่งใหม่ กรมศุลกากรโดยสํานักบริหารกลาง ได้มีหนังสือที่ กค


10





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ๐๕๐๑(๔)/๕๒๘ ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕ แจ้งให้ด่าน

ศุลกากรเชียงของทราบว่าโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรเชียงของแห่งใหม่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างประกอบ ได้รับการพิจารณาจัดสรรวงเงินงบประมาณจากสํานักงบประมาณในส่วนของงบลงทุนแล้ว โดยได้รับวงเงินงบประมาณทั้ งสิ้น จํานวน ๓๗๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณการก่อสร้างในปี ๒๕๕๖-๒๕๕๘ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณร่ายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ในวาระที่ ๒-๓ เมื่อวันที่ ๑๕-๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๕

12 1.7.2 จัดให้มีบัตรเครดิตพลังงานสําหรับผู้ประกอบอาชีพรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารสาธารณะในวงเงินที่เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใช้จริงต่อเดือน

- - - บัตรอุดหนุนผู้มีรายได้น้อยด้านพลังงาน 1. บัตรเครดิตพลังงาน NGV เป็นบัตรเพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารสาธารณะชําระค่ากา๊ซ NGV ณ สถานีบริการก๊าซNGV ปตท. ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งธนาคารดําเนินโครงการให้บริการบตัรเครดิตพลังงาน NGV ร่วมกับกระทรวงพลังงานและ ปตท. แล้วเสร็จ และออกบัตรแล้วตั้งแต่ 1 ธ.ค. 54 โดย ณ 30 ก.ย. 55 ธนาคารผลิตบัตรเครดิตพลังงาน NGV แล้ว จํานวน 34,779 บัตร และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวมทั้งสิ้น 42.67 ลบ. 2. ธนาคารและ ปตท. อยู่ระหว่างดําเนินโครงการบัตรเครดิตพลังงาน (รถจักรยานยนต์สาธารณะ) ที่ใช้แก๊สโซฮอล์เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะเริ่มให้บรกิารตั้งแต่ 15 ต.ค. 55 เป็นต้นไป

- บมจ.ธนาคารกรุงไทย

13 1.7.3 ดูแลราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค และราคาบริการให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคและผู้ผลิต

มาตรา 84 (3) (10)

- - การให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ (Public Service Obligation) 3 แห่ง ได้แก่ รฟท. ขสมก. และ กปภ. ก.ย. ๕๕ คณะอนุกรรมการฯ สาขาขนส่งและสาขาประปาได้จัดการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕

งบประมาณ ๖.๐๐ ล้านบาท

ยังไม่มีการเบิกจ่าย

สํานักนโยบายรัฐวสิาหกิจ

11





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ เพื่อพิจารณาข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะและรายงานผลการให้บริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจตามมติของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจและกระทรวงเจ้าสังกัด ในการเร่งนําเสนอข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ หมายเหตุ : เนื่องจากเป็นการดําเนินการตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๔ (ฉบับใหม่) จึงต้องมีกระบวนการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒชิุดใหม่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนาม เพิ่มเติมจากกระบวนการปกติทําให้การดําเนินงานแตกต่างจากช่วงปีปกติ

14 1.8 นโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเพิ่มกําลังซื้อภายในประเทศ สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค

มาตรา 84 (6) 4 ต.ค. 54 1. เห็นชอบในหลักการโครงการบ้าน ธอส.เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก และการขอชดเชยภาระค่าใช้จ่ายในการดําเนินการโครงการฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2. ให้กระทรวงการคลังปรับปรงุเงื่อนไขการให้กู้ให้ชัดเจน จาก “ไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท” เป็น “ราคาที่ดินและสิ่งปลกูสร้างไม่เกิน 1 ล้านบาท” และให้กระทรวงการคลัง (สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง) รับไปประสานงานกับธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงให้เหมาะสมและเป็นการลดภาระการชดเชยจากภาครัฐด้วย

บ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก (0% 3 ปี) รับเรื่องยื่นกู้ จํานวน 10,933 บัญชี จํานวนเงิน 7,005.83 ล้านบาท อนุมัติ จํานวน 9,498 บัญชี จํานวนเงิน 5,906.34 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2555) หมายเหตุ: เปิดให้บริการสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2554 ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย ทําให้เกิดการชะลอตัวในตลาดที่อยู่อาศัย รวมถึงโครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยไม่ครอบคลุมถึงบ้านมือสอง ประกอบกับจํานวนหน่วยของอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาขายต่ํากว่า 1 ล้านบาทจํานวนจํากัด ทําให้จํานวนเงินปล่อยสินเชื่อของโครงการนี้ค่อนข้างต่ํา

ใชจ้่ายงบประมาณจากงบประมาณธนาคารโดยไม่ได้ขอรับการชดเชยจากงบประมาณแผ่นดิน แต่เป็นการขอลดจํานวนเงินรายได้นําส่งกระทรวงการคลัง ในปีบัญชี 2554-2557 เพื่อเป็นการชดเชยดอกเบี้ยจ่ายของต้นทุนเงิน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์

12





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ในการปล่อย

สินเชื่อโครงการนี้ ซึ่งมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.0 ต่อ

15 มาตรา 84 (6) 25 ต.ค.54

เห็นชอบมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบ การที่ได้รับผลการะทบจากอุทกภัย ในวง เ งิ นรวม 325 ,000 ล้ านบาท ประกอบด้วย 1) สินเชื่อรายย่อยสําหรับผู้ประสบอุทกภัย จากธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วงเงิน 80,000 ล้านบาท - สินเชื่อสําหรับกลุ่มรายย่อย วงเงิน 20,000 ล้านบาท ดําเนินการโดยธนาคารออมสิน - สินเชื่ อเพื่ อการเคหะ วงเงิน 30,000 ล้านบาท ดําเนินการโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน - สินเชื่อสําหรับกลุ่มเกษตรกร วงเงิน 30,000 ล้านบาท ดําเนินการโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2) สินเชื่อรายย่อยสําหรับผู้ประสบ

เงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 มาตรการที่ 1 สําหรับลูกค้าเดิมของธนาคาร กรณีหลักประกัน และ/หรือ รายได้ได้รับผลกระทบ ธนาคารจะผ่อนปรนการผ่อนชําระเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน (คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี) กรณีได้รับผลกระทบรุนแรง จะผ่อนปรนการผ่อนชําระเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน 6 เดือน (คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี) มาตรการที่ 2 กรณีลูกค้าเดิมได้รับอุบัติเหตุจากเหตุการณ์น้ําท่วมจนทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงหรือเสียชีวิต ธนาคารจะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 0.01% ต่อปีตลอดระยะเวลากู้ที่เหลืออยู่ มาตรการที่ 3 กรณีลูกค้าเดิม ที่อาคารที่อยู่อาศัยพังเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จะได้รับการปลดภาระหนี้ตามยอดหนี้คงเหลือในส่วนของอาคาร โดยผู้กู้ผ่อนชําระหนี้ในส่วนของที่ดินที่คงเหลือ มาตรการที่ 4 สําหรับลูกค้าเดิมของ ธอส. และลูกค้าใหม่ ที่อาคารได้รับความเสียหาย สามารถขอกู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิม (มีหลักประกัน) คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ 2% ต่อปี นาน 5 ปี หลังจากนั้น คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-0.50%ต่อปี สําหรับรายย่อย และคิดอัตราดอกเบี้ย =MRR-1.00% ต่อปี สําหรับลูกค้าสวัสดิการ

- ธนาคารอาคารสงเคราะห์

13





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ อุทกภัยจากโครงการประกันสังคม วงเงิน 10,000 ล้านบาท 3) ก า ร ค้ํ า ป ร ะ กั น สิ น เ ชื่ อ ข อ งอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม

มาตรการที่ 5 กรณีกู้ซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย ให้กู้รายละไม่เกิน 1 แสนบาท (ไม่มีหลักประกัน) ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4% ต่อปี นาน 5 ปี (100% ของราคาประเมินค่าซ่อมแซม และภายในวงเงินต่อรายไม่เกิน1 แสนบาท โดยต้องมีบุคคลผู้มีรายได้ไม่ต่ํากว่า 15% ของวงเงินกู้ ค้ําประกันและตรวจสอบเครดิตบูโรผู้ค้ํา) มาตรการที่ 1: มีลูกค้าใช้มาตรการทั้งสิ้น 93,625 ราย วงเงิน 70,467.79 ล้านบาท ปัจจุบันสิ้นสุดการยื่นขอใช้มาตรการที่ 1 แล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2554 มาตรการที่ 4 และ 5 : มีลูกค้าติดต่อขอใช้มาตรการ จํานวน 981 ราย วงเงิน 213.20 ล้านบาท โดยธนาคารอนุมัติแล้ว 908 ราย วงเงิน 187.92 ล้านบาท ปัจจุบันสิน้สุดการยื่นขอใช้มาตรการ 4,5 แล้วเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555

16 มาตรา 84 (6) 29 พ.ค.55

อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้ เงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนําไปให้กู้ยืมแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี ๒๕๕๔ วงเงินไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดการกู้เงินดังกล่าวเป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

บ้าน ธอส.-ธปท. เพื่อผู้ประสบภัย (Soft Loan) โดยมีวงเงินที่สามารถปล่อยสินเชื่อตามโครงการจํานวน 9,000 ล้านบาท ยื่นขอใช้สิทธิ์ จํานวน 6,636 บัญชี จํานวนเงิน 8,999.28 ล้านบาท อนุมัติ จํานวน 7,530 บัญชี จํานวนเงิน 6,437.84 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2555) หมายเหตุ: ระยะเวลายื่นกู้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556


มาตรา 84 (6) 14 ส.ค. 2555

อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้ เงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนําไปให้กู้ยืมแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554เพิ่มเติม จํานวน 14,000 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขและ

โครงการบ้าน ธอส.-ธปท. เพื่อผู้ประสบภัย (Soft Loan) โดยมีวงเงินที่สามารถปล่อยสินเชื่อตามโครงการจํานวน 20,000 ล้านบาท ยื่นกู้ จํานวน 18,416 บัญชี จํานวนเงิน 19,043.44 ล้านบาท อนุมัติ จํานวน 14,854 บัญชี จํานวนเงิน


14





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ รายละเอียดการกู้เงินดังกล่าวเป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

14,332.27 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2555) หมายเหตุ: ระยะเวลายื่นกู้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 มีจํานวนผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ปี 2554 ยื่นความประสงค์ขอสินเชื่อในโครงการจํานวนมากเกินกว่าเงินทุนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนธนาคารในรูปเงินกู้ยืม

17 - - ตามที่กระทรวงการคลังมีนโยบายแบ่งเบาภาระหนี้ภาคประชาชน ให้สํานักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่สังกัดสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ดําเนินการเพื่อหาแนวทางในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินที่เป็นธรรม และลดภาระจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินไปให้กับประชาชนระดับรากหญ้า จึงได้ขอความร่วมมือกับสถาบันการเงินของรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยวงเงิน 4,500 ล้านบาท ธนาคารออมสินวงเงิน 4,500 ล้านบาท และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยวงเงิน 1,000 ล้านบาท

ลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิต เพี่อจัดทําโครงการลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิต ที่ต้องจ่ายในอัตราดอกเบี้ยสูง โดยลูกค้าที่เข้าร่วมในโครงการฯสามารถผ่อนชําระหนี้ในอัตรากําไรที่ต่ําลงและไม่มีหลักประกัน 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม จํานวน 54.51 ล้านบาท จํานวนบัญชี 547 บัญชี - ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาติดต่อมีประวัติการค้างชําระ และมีภาระหนี้ที่เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล - วงเงินสินเชื่อของลูกค้าไม่เพียงพอกับยอดหนี้บัตรเครดิต ระยะเวลาการผ่อนชําระน้อย คือ 3 ปี - แนะนําผลิตภัณฑ์อื่นของธนาคารที่มีอัตราใกล้เคียงกัน - เพิ่มระยะเวลาการผ่อนชําระ และ ขยายวงเงินสินเชื่อให้เพียงพอกับความต้องการ หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว


ไทย

18 - - - ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนบุคคล ไม่มี ธนาคารอิสลาม

15





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยออกโครงการรีไฟแนนซ์สินเชื่อส่วนบุคคลกับผู้ประกอบการธุรกิจสินเชื่อบุคคลภายใต้การกํากับที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติและเบิกใช้ จํานวน 525 ราย วงเงินสินเชื่อ 37.38 ล้าน บาท - วงเงินสินเชื่อของลูกค้าไม่เพียงพอกับการชําระหนี้บัตรเครดิต

- ระยะเวลาการผ่อนชําระน้อยไป

แนะนําผลิตภัณฑ์อื่นของธนาคารที่มีอัตราใกล้เคยีงกัน เพิ่มระยะเวลาการผ่อนชําระ และ ขยายวงเงินสินเชื่อให้เพียงพอกับความต้องการ หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว

แห่งประเทศไทย

19 1.8.1 พักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ํากว่า 500,000 บาท อย่างน้อย 3 ปี

มาตรา 84(6) 15 พ.ย. 54

มติ ครม. วันที่ 24 เม.ย. 55 ลูกหนี้ของ ธ.ก.ส. ธ.ออมสิน ธพว. และ ธอท. ที่มีสถานะหนี้ปกติ ซึ่งมีหนี้คงค้างกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจนั้น ไม่เกิน 500,000 บาท และไม่เป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อ/ลิสซิ่ง และสินเชื่อสําหรับผู้มีรายได้ประจํา และสินเชื่อที่ได้รับ การลดอัตราดอกเบี้ยอยู่แล้ว โดยลูกหนี้สามารถเลือก 1) พักเงินต้นและลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อ

พักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชําระ ณ 15 เม.ย. 55 (วันปิดรับลงทะเบียน) มีผู้สนใจมาลงทะเบียนทั้งสิ้น 661,533 ราย มูลหนี้ประมาณ 82,403.7 ล้านบาท ได้รับอนุมัติ เข้าโครงการ 428,415 ราย มูลหนี้ 52,304.19 ล้านบาท ลูกหนี้ที่มีสถานะหนี้ปกติ

ประมาณการ งบประมาณตลอด 3 ปี 1. โครงการพักหนี้ฯ ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชําระ จํานวน 12,406.03 ล้านบาท 2. โครงการพัก

1. ธ.ก.ส. 2.ธนาคารออม สิน 3. ธพว. 4. ธอส. 5. ธอท. 6. บตท.

16





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ที่มีอยู่เดิมในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี หรือ 2) ลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่มีอยู่เดิมในอัตราร้อยละ 3 ต่อปีโดยไม่พักเงินต้น รวมเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 55 ถึงวันที่ 31 ส.ค. 58 นอกจากนี้ ลูกหนี้จะมีสิทธิขอกู้เงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ขอพักชําระหนี้ในอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน อย่างไรก็ดี หากลูกหนี้ผิดนัดชําระหนี้ตามเงื่อนไขใหม่ของโครงการภายหลังจากเข้าโครงการจะต้องถูกตัดสิทธิออกจากโครงการ

ณ 27 ส.ค. 55 มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 2,467,193 ราย มูลหนี้ 281,041.28 ล้านบาท

หนี้ฯ ลูกหนี้ที่มีสถานะหนี้ปกติ จํานวน 22,851.82 ล้านบาท

21 - - - ความร่วมมือกับสถาบันการเงินพันธมิตร ในการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยคงที่ โครงการความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเกียรตินาคินและธนาคารกสิกรไทย ในการจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงที่ ในปี 2554 บตท. จัดซื้อสินเชื่อได้จํานวน 395.34 ลบ. นอกจากนี้ได้ดําเนินการเพิ่มพันธมิตรอีก 2 ราย ได้แก่ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ (LH Bank) และธนาคารทิสโก้ ทั้งนี้ได้มีการลงนาม MOU กับธนาคารทิสโก้ เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 12 ก.ย.55 ทั้งนี้ในช่วง ม.ค.55-ก.ย.55 บตท. จัดซื้อสินเชื่อได้จํานวน 122.87 ลบ.

- บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่

อาศัย

22

- - - จัดซื้อตรงจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจและธนาคารพาณิชย์ การจัดซื้อสินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทย มูลค่า 3,000-5,000 ลบ. ภายในปี 2554 ซึ่งได้มีการลงนามใน MOU และ


อาศัย

17





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ สัญญาซื้อขายร่วมกันในเดือนพฤศจิกายน 2554 ได้ทยอยจัดซื้อสินเชื่อได้จํานวนเพียงเล็กน้อย เนื่องจากกองสินเชื่อที่คัดเลือกไว้ประสบปัญหาอุทกภัย ทําให้ไม่สามารถจัดซื้อสินเชื่อได้ไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้ในปี 2555 มีการพิจารณาขยายวงเงินอีกประมาณ 1,850 ลบ. โดยได้ดําเนินการทบทวนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขบางประการให้เหมาะสม ทั้งนี้ได้มีการลงนามใน MOU เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.55 และได้ดําเนินการจดัซื้อสินเชื่อได้แล้วบางส่วน นอกจากนี้ได้มีการลงนาม MOU ในการจัดซื้อกองสินเชื่อจากธนาคารเกียรตินาคิน วงเงิน 1,000 ลบ. เมื่อวันที่ 28 ส.ค.55 และได้ดําเนินการจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัย จํานวน 886.83 ลบ. เมื่อวันที่ 25 ก.ย.55 เรียบร้อยแล้ว

23 - - - โครงการความร่วมมือกับบริษัทผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ (Developer) บตท. ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์นําเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3-5 ปี และแบบ Revolving ที่มีการทบทวนเป็นช่วง ๆ ทุก 3-5 ปี ระยะเวลากู้ 30 ปี ให้แก่ลูกค้าของโครงการ


อาศัย

24 - - - โครงการความร่วมมือกับ Mortgage Company เฉพาะที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ความร่วมมือระหว่าง บตท. กับ MC-D ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการจัดตั้งบริษัทที่ทําหน้าที่เป็นผู้ประเมินสินเชื่อ (Underwriter) โดยได้เข้าหารือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และสมาคมผู้ประเมินหลักประกัน เพื่อพิจารณากําหนดแนวทางร่วมกัน การจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากบริษัทประกันชีวิต ได้มีการลงนาม MOU กับบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จํากัด


อาศัย

18





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ (บสส.) ในการรับซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบคละคุณภาพ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้แก่ บตท. และ บสส. ปัจจุบันไดม้ีการติดต่อกับบริษัท เอ ไอ เอ ประกันชีวิต จํากัด ซึ่งอยู่ระหว่างดําเนินการหาแนวทางร่วมกัน รวมทั้งรับซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยและบริการสินเชื่อในรูปแบบต่าง ๆ แก่ลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์สินรอการขายผ่านทาง บสส. ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเงื่อนไขการซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยอยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ในการซื้อและขายที่มีเงื่อนไขที่เหมาะสมและไม่ขัดกับกฎหมายของทั้ง 2 ฝ่าย

25 1.8.2 ดําเนินการให้แรงงาน มีรายได้เป็นวันละไม่น้อยกว่า 300 บาท และผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมีรายได้เดือนละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท อย่างสอดคล้องกับผลิตภาพและประสิทธิภาพของบุคลากร รวมทั้งมีมาตรการเพื่อลดภาระแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้แรงงานและบุคลากรสามารถดํารงชีพได้อย่างมีศักดิ์ศรีและคุณภาพชีวิตที่ดี

มาตรา 84 (7) - - ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจําของส่วนราชการ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2555 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็น ต้นไป และกรมบัญชีกลางได้ทําการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราชการทราบแล้ว

- กรมบัญชีกลาง

26 1.8.4 ให้มีมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสําหรับสิ่งจําเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ได้แก่ บ้านหลังแรก และรถยนต์คันแรก

-

13 ก.ย.54

- - เพื่อเป็นการลดภาระการลงทุนในสิ่งที่จําเป็นในการดํารงชีวิต กระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ที่ซื้อรถยนต์ใหม่ ซึ่งผู้ซื้อนั้นยังไม่เคยครอบครองรถยนต์มาก่อน(รถยนต์คันแรก) - เป็นรถยนต์นั่งขนาดความจุ

นโยบายรถยนต์คนัแรก เปิดช่องทางการรับรู้แก่ผู้ซื้อรถยนต์ใหม่คันแรกสามารถสอบถามหรือตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการรถยนต์คันแรกผ่านทางสายด่วนของกรมสรรพสามิต (๑๗๑๓) ทางเว็บไซด์ของกรมสรรพสามิต (www.excise.go.th) หรือสํานักงานสรรพสามิตพื้นที่และสํานักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาทั่วประเทศ

-

กรมสรรพสามิต กรมบัญชีกลาง กรมการขนส่ง-

ทางบก

19





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ กระบอกสูบไม่เกิน ๑,๕๐๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถยนต์กระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (Double Cab) จ่ายเงินตามสิทธิ์โดยถือจํานวนตามค่าภาษีสรรพสามิตตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท - ผู้ขอใช้สิทธิ์ฯ สําหรับรถยนต์ใหม่คันแรกตามนโยบายรัฐบาลต้องสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันแรกภายใน ๕ ปีนับแต่วันครอบครอง เว้นแต่จะปรากฏหลักฐานเป็นหนังสือว่าผู้ขอใช้สิทธิ์ฯ สําหรับรถยนต์ใหม่คันแรกตามนโยบายรัฐบาลได้ส่งคืนเงินที่ได้รับไว้ให้แก่กรมบัญชีกลางครบถ้วนแล้ว หรือเป็นการตกทอดมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือทายาทโดยพินัยกรรรม หรือเป็นการโอนจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ และยินยอมให้กรมการขนส่งทางบกบันทึกและแสดงรายการลงในระบบคอมพิวเตอร์และบันทึกในคู่มือการจดทะเบียน

จัดงาน “มหกรรมรถคันแรก” ณ ศูนย์การแสดงสินค้าไบเทค บางนา เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ (ผลการดําเนินงานจากการจัดงาน“มหกรรมรถคันแรก” ได้มียอดจองรถภายในงานจํานวนทั้งสิ้น ๕๙๖ คัน) ผลการดําเนินงานรถยนต์คันแรกตามนโยบายรัฐบาลนับตั้งแต่เริ่มโครงการ ถึงวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕ มีจํานวนผู้ขอใช้สิทธิ์ฯทั้งหมด ๑๙๐,๑๙๔ คัน เป็นเงินชดเชยจํานวน ๑๓,๗๑๒,๐๓๗,๙๖๐ บาท

27 - ๔ ม.ค. ๕๕

- เพื่อเป็นการบรรเทาภาระของผู้ครอบครองรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย (รถยนต์น้ําท่วม) - เป็นรถยนต์ใหม่ที่มีราคาขายปลีกไม่เกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท - เป็นรถยนต์นั่งขนาดความจุ

นโยบายรถยนต์น้ําท่วม ผู้ประสบภัยน้ําท่วมต้องใช้สิทธิลงทะเบียนขอรับสิทธิในการซื้อรถยนต์ใหม่ที่กรมสรรพสามิตหรือสํานักงานสรรพสามิตพื้นที่ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ โดยใช้สิทธิซื้อรถยนต์ใหม่ก่อนวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ผลการดําเนินงานรถยนต์น้ําท่วมตามนโยบายรัฐบาล

- กรมสรรพสามิต กรมบัญชีกลาง กรมการขนส่ง- ทางบก

20





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ กระบอกสูบไม่เกิน ๑,๕๐๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถยนต์กระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (Double Cab) - จ่ายเงินตามสิทธิ์โดยถือจํานวนตามค่าภาษีสรรพสามิตตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท - ผู้ขอใช้สิทธิ์ฯ สําหรับรถยนต์น้ําท่วมตามนโยบายรัฐบาลต้องสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันใหม่ภายใน ๕ ปีนับแต่วันครอบครอง เว้นแต่จะปรากฏหลักฐานเป็นหนังสอืว่าผู้ขอใช้สิทธิ์ฯ สําหรับรถยนต์ใหม่ตามนโยบาย รัฐบาลได้ส่งคืนเงินที่ได้รับไว้ให้แก่กรมบัญชีกลางครบถ้วนแล้ว หรือเป็นการตกทอดมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือทายาทโดยพินัยกรรรม หรือเป็นการโอนจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ และยินยอมให้กรมการขนส่งทางบกบันทึกและแสดงรายการลงในระบบคอมพิวเตอร์และบันทึกในคู่มือการจดทะเบียน

นับตั้งแต่เริ่มโครงการ ถึงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕ มีจํานวนผู้ขอใช้สิทธิ์ฯทั้งหมด ๕๐ คัน

28 มาตรา 187 27 ก.ย.54

นโยบายบ้านหลังแรกเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยจะทําให้ผู้มีเงินได้ที่ได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ที่มีมูลค่าไม่

มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มี ที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรือนโยบายบ้านหลังแรก ตราเป็น พระราชกฤษฎีกา 528 (พ.ศ. 2554) ลง ร.จ. วันที่ 18 พ.ย. 54

- กรมสรรพากร

21





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ เกิน 5 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 21 กันยายน 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นให้แล้วเสร็จภายในช่วงเวลาดังกล่าว ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นจํานวนเท่ากับภาษีที่พึงชําระในแต่ละปีภาษี ให้ใช้สิทธิยกเว้นภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้โอนกรรมสิทธิ์ โดยใช้สิทธิยกเว้นเป็นจํานวนเท่าๆ กันเป็นเวลา 5 ปี แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์

29 1.9 ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือร้อยละ 23 ในปี พ.ศ. 2555 และลดลงเหลือร้อยละ 20 ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน ขยายฐานภาษี และรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558

มาตรา 187 11 ต.ค.54

ปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล สําหรับกําไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล บริษัทหรือห้างหุ้นสว่นนิติบุคคลที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เคยนําหลักทรัพย์มาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในวนัที่ 31 ธันวาคม 2552 และบริษัทที่ได้รบัการจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ดังนี้ (1) ร้อยละ 23 ของกําไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสําหรับ 1 รอบระยะเวลาบัญชีแรกที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค. 55

มาตรการภาษีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตราเป็น พระราชกฤษฎีกา 530 (พ.ศ. 2554) ลง ร.จ. วันที่ 21 ธ.ค. 54


22





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ (2) ร้อยละ 20 ของกําไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสําหรับ 2 รอบระยะเวลาบัญชีถัดไป

30 1.10 ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน สนับสนุนสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ ให้แก่ ประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงเพิ่มสวัสดิการของรัฐเพื่อเป็นการดูแลสังคมในชุมชน จัดหาแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชน

8 พ.ย. 54

ขยายระยะเวลารับคําขอสินเชื่อโครงการถึง 30 มิ.ย. 55

สินเชื่อส่งเสริมผู้ประกอบอาชีพรถสาธารณะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 31 สงิหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 2,338 รายวงเงินอนุมัติ 2,098.39 ล้านบาท ภัยธรรมชาติที่เกิดต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2553 ถึงปลายปี 2554 ที่เกิดทั้งในประเทศและต่างประเทศกระทบถึงประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วน อะไหล่รถยนต์และการส่งมอบรถตามต้องการ

ปี 2555 ตั้งงบประมาณ 115.8036 ล้านบาท

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศ

ไทย

31 - - - - สินเชื่อรากหญ้า I BANK (Islamic Micro Finance) ธนาคารดําเนินโครงการ Islamic Micro Finance ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา สําหรับกลุ่มอาชีพอิสระที่ต้องการเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตชนบท ในระยะสั้นธนาคารมุ่งหวังที่จะเข้าถึงกิจการขนาดเล็กและประชาชนในระดับรากหญ้าที่ไม่สามารถได้รับการบริการจากระบบการเงินปกติ ในระยะยาวธนาคารมุ่งหวังที่จะขยายสินเชื่อ เพื่อสนับสนุนผู้ใช้สินเชื่อขนาดเล็กให้กลายเป็นลูกค้าที่มีมาตรฐานของธนาคาร และสามารถพฒันาคุณภาพชีวิตของผู้ขอสินเชื่อระดับเล็ก สนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน การประกอบอาชีพอิสระ เรียนรู้การจัดทําบัญชี รวมถึงการบริหารจัดการสินเชื่อได้ด้วยตนเอง 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม จํานวน 117.57 ล้านบาท จํานวนบัญชี 4,987 บัญชี หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว

ตั้งงบประมาณ ปี 2556


ไทย

23





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ 32 - - - - โครงการสินเชื่อซับน้ําตา ( ปิดรับคําขอสินเชื่อ )

ธนาคารดําเนินโครงการสินเชื่อซับน้ําตา เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระหนี้ให้แก่บุคคลทั่วไป รวมถึงพนักงานธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยในภาวะเศรษฐกิจตกต่ํา ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ 3 ประเภท คือ สินเชื่อเพื่อไถ่ถอนที่อยู่อาศัย, สินเชื่อเพื่อซื้อที่ดิน และสินเชื่อเพื่อไถ่ถอนหนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อบุคคลจากสถาบันการเงินอื่น 31 สงิหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม จํานวน 4,248.90 ล้านบาท จํานวนบัญชี 8,584 บัญชี หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว


ไทย

33 - - - - แก้ไขหนี้สินภาคประชาชน ( หนี้นอกระบบ ) 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม จํานวน 113.06 ล้านบาท จํานวนบัญชี 945 บัญชี หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว


ไทย

34 - - - - สินเชื่อเพื่อพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาในเขตพิเศษ 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม จํานวน 12.58 ล้านบาท จํานวนบัญชี 163 บัญชี หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว


ไทย

35 - - 29 พ.ย.54

อนุมัติโครงการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนและชุมชนในพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2555-2559 จํานวน 12 โครงการ

สินเชื่อเพื่อชําระหนี้นอกระบบ สินเชื่อเพื่อธุรกิจสหกรณ์ สินเชื่อเพื่อพัฒนาสถานศึกษา 31 สิงหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 10 ราย วงเงินอนุมัติ 5.54 ล้านบาท



ไทย

36 - - 29 พ.ย. อนุมัติโครงการยกระดับความเป็นอยู่ สินเชื่อรากหญ้า ตั้งงบประมาณ ธนาคารอิสลาม

24





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ 54

ของประชาชนและชุมชนในพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2555-2559 จํานวน 12 โครงการ

31 สิงหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 671 ราย วงเงินอนุมัติ 19.85 ล้านบาท

ปี 2556 แห่งประเทศไทย

37 - - 29 พ.ย.54


สินเชื่อหาบเร่ แผงลอย และอาชีพอิสระ 31 สิงหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 15,760 รายวงเงินอนุมัติ 829.44 ล้านบาท



ไทย

38 - - 29 พ.ย.54


สินเชื่อบุคลากรทางการศึกษา 31 สิงหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 193 ราย วงเงินอนุมัติ 12.89 ล้านบาท



ไทย

39 - - 29 พ.ย.54


สินเชื่อเพื่อโครงการพัฒนาอาชีพของรัฐ 31 สิงหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 11 ราย วงเงินอนุมัติ 0.79 ล้านบาท



ไทย

40 - -

29 พ.ย.54


สินเชื่อแรงงานไทยในมาเลเซีย 31 สิงหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 18 ราย วงเงินอนุมัติ 7.90 ล้านบาท



ไทย

41 - - 29 พ.ย. อนุมัติโครงการยกระดับความเป็นอยู่ รีไฟแนนซ์หนี้นอกระบบในการประกอบอาชีพ ตั้งงบประมาณ ธนาคารอิสลาม

25





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ 54 ของประชาชนและชุมชนในพื้นที่

พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2555-2559 จํานวน 12 โครงการ


ปี 2556 แห่งประเทศไทย

42 - - - บันทึกความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร โครงการสินเชื่อเพื่อสร้างอาชีพ (หาบเร่และแผงลอยใน กทม.) (โครงการ Non-PSA) เพื่อให้การช่วยเหลือและสนบัสนุนทางด้านเงินทุนแก่ผู้ประกอบอาชพีค้าขายสุจริตที่มีรายได้น้อยเพื่อเป็นทุนในการดําเนินธุรกิจหรือขยายกิจการขนาดเล็กที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ ์อยู่ระหว่างเริ่มดําเนินโครงการ และได้ประชาสัมพันธ์โครงการแล้ว มีผู้ให้ความสนใจกว่า 5,000 ราย ยื่นขอสินเชื่อประมาณ 3,797 ราย คิดเป็นเงิน 190 ล้านบาท 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อ รวมจํานวน 4.01 ล้านบาท จํานวนบัญชี 156 บัญชี 1. ผู้ขอสินเชื่อมีหลักฐานเอกสารไม่สมบูรณ์ เช่นไม่มีประวัติการเดินบัญชี 2. ความสามารถในการชําระคืนไม่ผ่านเกณฑ์คือไม่มีหลักฐานเพียงพอที่เชื่อถือได้ว่ามีรายได้ตามที่ให้ข้อมูล 3. ไม่สามารถหาบุคคลค้ําประกันได้ หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสนิเชื่อแล้ว



ไทย

43 - - - - Fast Track สินเชื่อภายใต้กรอบการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้สังกัดกระทรวงการคลังในการอํานวยสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ


ไทย

26





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ไทยในปี 2552 โดยให้สินเชื่อครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลัก 3 ประเภท เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระหนี้ให้แก่ประชาชนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ําที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ ได้แก่ 1. สินเชื่อเพื่อไถ่ถอนที่อยู่อาศัย เพื่อไถ่ถอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากสถาบันการเงินอื่น 2. สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 3. สินเชื่อรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต/สินเชื่อบุคคล เพื่อไถ่ถอนหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคล 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวมจํานวน 1,167.75 ล้านบาท จํานวนบัญชี 1,310 บัญชี • ผู้ขอสินเชื่อมีหลักฐานเอกสารไม่สมบูรณ์ • ความสามารถในการชําระคืนไม่ผ่านเกณฑ์ • ไม่สามารถหาบุคคลค้ําประกันได้ ลดภาระคา่ครองชีพของประชาชน โดยสนับสนุนสินเชื่อพิเศษทั้งในสินเชื่อระยะยาวและสินเชื่อระยะสั้นเนื่องจากอัตราที่ชําระคืนเดิมมีอัตราที่สูงถึง 20 – 28% ต่อปี ในขณะที่อัตรากําไรพิเศษของธนาคารคือ 14.50% ต่อปี ทําให้ลดภาระไปมากกว่า 50% และส่งผลให้เป็นหนี้ NPL ลดลงมาก หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว

44 - - 14 ธ.ค.53

ตามที่เกิดอุทกภัยและวาตภัยมีน้ําท่วมฉับพลันในประเทศเป็นบริเวณกว้างในปี โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัด ประชาชนได้รับความเสียหาย ทั้งบ้านเรือนร้านค้าและผู้ประกอบ

สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยที่รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยปี 2553 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวมจํานวน 1,300.04 ลา้นบาท จํานวนบัญชี 28,976 บัญชี • ผู้ขอสินเชื่อมีหลักฐานเอกสารไม่สมบูรณ์ • ความสามารถในการชําระคืนไม่ผ่านเกณฑ์


ไทย

27





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ อาชีพ ประชากรส่วนหนึ่งเป็นมุสลิมและอยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จึงจัดทําโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยที่รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยปี 2553 โดยโครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบให้ดําเนินโครงการได้ตามมติ ครม. 14 ธันวาคม 2553 ทั้งนี้ สามารถขอรับการชดเชยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากรัฐบาล

ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยธนาคารสนับสนุนสินเชื่ออัตราพิเศษทั้งในส่วนของสินเชื่อระยะยาวและสินเชื่อระยะสั้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ชําระคืนเดิมมีอัตราที่สูงถึง 3% - 10%ต่อเดือน ในขณะที่อัตรากําไรพิเศษของธนาคารคือคงที่ 6% ต่อปี ทําให้ลดภาระดอกเบี้ยไปมากกว่า 50% หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว

45 - - 2 มิ.ย. 53

ให้ธนาคารออมสินดําเนินโครงการการให้ความช่วยเหลือทางการเงนิแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แทนธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะรัฐมนตรีอนมุัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลงัเสนอ ดังนี ้•ธนาคารออมสินดําเนินโครงการการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกจิการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระยะเวลาโครงการ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2556 ในวงเงิน 25,000 ล้านบาท แทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่านสถาบนัการเงินทุกแห่งที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ

ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft Loan) ที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวมจํานวน 552.44 ล้านบาท จํานวน 271 ราย - นอกเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

- ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยธนาคารสนับสนุนสินเชื่ออัตราพิเศษในส่วนสินเชื่อระยะสั้น ทําให้ลดภาระไปมากกว่า 50% - ผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ 3 จงัหวัดชายแดนภาคใต้เป็น ผู้นับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ ไม่ชอบมีหนี้ ดังนั้นเมื่อสามารถหาเงินมาชําระหนี้ได้จะรีบปิดสินเชื่อทันที จึงมีการเคลื่อนไหวของบัญชีสินเชื่อทุกเดือน


ไทย

28





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ 46 - - 2 มิ.ย.

53 เป็นโครงการสินเชื่อเพื่อสอดรับกับโครงการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล ซึ่งมีแนวนโยบายในการแก้ปัญหาความยากจนและการศึกษา ควบคู่กับมาตรการทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่ออัดฉีดสินเชื่อเข้าสู่ระบบอย่างเป็นธรรมภายใต้ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ วิถีอิสลามซึ่งมีสถาบันการเงินของรัฐ ประกอบด้วยธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.),ธนาคารออมสิน (ธอส.), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณก์ารเกษตร (ธกส.), บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บยส.) ลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อเข้าสู่กระบวนการให้สินเชื่อในส่วนที่เกี่ยวกับประชาชน เช่น สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่/ไถ่ถอนที่อยู่อาศัย, หนี้นอกระบบ/หนี้สินเชื่อบุคคล/สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต, สินเชื่อเพื่อสําหรับผู้ประกอบอาชีพรายย่อยที่ขาดเงินทุนหมุนเวียน, สินเชื่อธุรกิจ SMEs และสนิเชื่อธุรกิจฮาลาล ซึ่งมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม

สินเชื่อ I – Bank ยิ้มสู้ กู้วิกฤตภายใต้เศรษฐกิจพอเพียงที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ - ประกอบด้วย 1. สินเชื่อเพื่อไถ่ถอนที่อยู่อาศัย เพื่อไถ่ถอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง(บ้าน ทาวน์เฮาส์ห้องชุด อาคารพาณิชย์) ของตนเองและครอบครัว จากสถาบันการเงินอื่น 2. สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (บ้าน ทาวเฮ้าส์ ห้องชุด อาคารพาณิชย์) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของตนเองและครอบครัว 3. สินเชื่อรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคล เพื่อไถ่ถอนหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคลจากสถาบันการเงินอื่น 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม จํานวน 129.42 ล้านบาท จํานวนบัญชี 1,239 บัญชี หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสนิเชื่อแล้ว


ไทย

29





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ (บสย.) ให้การสนับสนุนด้านการค้ําประกันการชําระหนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงอีกด้วยเป็นโครงการสินเชื่อเพื่อสอดรับกับโครงการสรา้งงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล ซึ่งมีนโยบายในการแก้ปัญหาความยากจนและการศึกษาควบคู่กันกบัมาตรการทางด้านเศรษฐกิจนําการเมืองและความมั่นคงระหว่างวันที่ 23 -29 กรกฎาคม 2552 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะมีสถาบันการเงินของรัฐที่เป็นตัวหลักในการร่วมโครงการนี ้

47 - - - - สินเชื่อธนาคารชุมชน 31 สิงหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 11 รายวงเงินอนุมัติ 0.79 ล้านบาท



ไทย 48 - - - - สินเชื่อเครื่องแต่งกายมุสลิม




ไทย 49 - - - - สินเชื่ออาหารฮาลาลรายย่อย - PSA

31 สิงหาคม 2555 จํานวนผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ 1,368 ราย วงเงินอนุมัติ 69.52 ล้านบาท



ไทย 50 - - - - โครงการสินเชื่อธนาคารชุมชน (โครงการสินเชื่อวิสาหกิจ

ชุมชน)ที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อรวมจํานวน 211.12 ล้านบาท จํานวนบัญชี 2,107 บัญชี


ไทย

30





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ โครงการสนิเชื่อธนาคารชุมชน สามารถช่วยเหลือและสนับสนุนเงินทุนแก่กลุ่มผู้ประกอบอาชีพสุจริตที่มีรายได้น้อยในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบอาชีพที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์โดยสามารถดําเนินธุรกิจ ขยายกิจการขนาดเล็กให้มีประสิทธิภาพและความมั่นคงในอาชีพมากยิ่งขึ้น หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว

51 - - - - ประกันสังคมเคียงข้างผู้ประกันตนต้านอุทกภัย ที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ ด้วยสํานักงานประกันสังคมได้จัดให้มีโครงการ “โครงการประกันสังคมเคียงข้างผู้ประกันตนต้านอุทกภัย” เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนในการซ่อมแซม ปรับปรุงที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์น้ําท่วมที่อยู่อาศัยของผู้ประกันตนหรือของบิดา มารดาของผู้ประกันตนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทกภัย และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมกับผู้ประกอบการเพื่อนําไปฟื้นฟูสถานประกอบการ ลงทุนในทรัพย์สิน และหมุนเวียนในธุรกิจเพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยของผู้ประกันตนหรือ บิดามารดา ญาติ ของผู้ประกันตน และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมกับผู้ประกอบการเพื่อนําไปฟื้นฟูสถานประกอบการ ลงทุนในทรัพย์สิน และหมุนเวียนในธุรกิจ 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อ รวมจํานวน 16.04 ล้านบาท จํานวนบัญชี 329 บัญชี มีผู้ขอสนับสนุนสินเชื่อไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อโดยมีสาเหตุของการไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้ ลูกค้ายกเลิก , เป็นหนี้ NPL , ความสามารถในการชําระหนี้น้อยกว่าเกณฑ์ธนาคารอายุงานไม่ถงึ 1 ปี ผู้ค้ําประกันขาด


ไทย

31





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ คุณสมบัติที่เหมาะสม

52 - - - - สนับสนุนทางการเงินโดยนําสิทธิในบําเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ประกันการสนับสนุนทางการเงินที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป จากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจหลายอย่าง จนส่งผลกระทบต่อการครองชีพของข้าราชการผู้รับบาํนาญเป็นอย่างมาก นั้น รัฐบาลจึงได้แก้ไขกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ โดยออกเป็นพระราชบัญญัติบําเหน็จบํานาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2553 (บาํเหน็จค้ําประกัน) ซึ่งกําหนดให้สิทธิแก่ผู้รับบํานาญให้สามารถนําสิทธิในบําเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการขอสินเชื่อจากสถาบนัการเงินของรัฐได้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2553 และมีประกาศที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติบําเหน็จบํานาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2553 (บําเหน็จค้ําประกัน) เพื่อช่วยเหลือผู้รับบํานาญที่มีความจําเป็นในการดํารงชีพ 31 สิงหาคม 2555 ยอดอนุมัติสินเชื่อ รวมจํานวน 14.55 ล้านบาท จํานวนบัญชี 34 บัญชี


ไทย

53 - - - - ปฏิบัติ การประชาวิวัฒน์ –คิดนอกกฎบริหารนอกกรอบ โครงการเร่งรัฐปฏิบัติการด่วน (เพื่อคนไทย) - ประกอบด้วย 1. โครงการสินเชื่อหาบเร่แผงลอยประชาวิวัฒน์ 2. โครงการสินเชื่อเช่าซื้อแท็กซี่ประชาวิวัฒน์ 3. โครงการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ - รัฐบาลได้เล็งเห็นปัญหาสําคัญทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจาก


ไทย

32





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ การขาดแหล่งเงินทุน และความสําคัญของการยกระดับและการขยายระบบเศรษฐกิจสู่ประชาชนในวงกว้าง จงึได้จัดตั้งวาระเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการปฏิรูปประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีขอบเขตการดําเนินงานดังนี ้1.มาตรการเร่งด่วนการเปิดกว้างช่องทางแหล่งเงนิทุน มุ่งเน้นเป้าหมายสําหรับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพนอกระบบที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ได้แก่ ผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ คนขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง กลุ่มผู้ประกอบอาชีพนอกระบบอื่นๆ รวมไม่น้อยกว่า 37,000 คน 2.โครงการต่อเนื่อง ด้านการขยายองค์ความรู้ จะดําเนินการกับบุคคลและกลุม่ที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อ โครงการขยายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสําหรับผู้ประกอบอาชีพนอกระบบนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเร่งรัฐปฎิบัติการด่วน (เพื่อคนไทย) ในแผนปฏิรูปประเทศไทย 31 สิงหาคม 2555 1. สินเชื่อผู้ค้าเข็มแข็ง (หาบเร่แผงลอย) - เบิกใช้สินเชื่อ 209 ราย วงเงิน 6.63 ล้านบาท 2. สินเชื่อแทก็ซี่เข็มแข็ง(แท็กซี่ ) - อนุมัติสินเชื่อ 179 ราย เบิกใช้สินเชื่อ 179 ราย วงเงินที่เบิกใช้ 132.28 ล้านบาท - ปัญหาข้อจํากัดของคุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อโครงการ ต้องขึ้นทะเบียนกับทางกรุงเทพมหานคร - ธนาคารออมสินมีสินเชื่อประเภทนี้อยู่ก่อนแล้ว - Supplier รถ ไม่มีรถส่งมอบ หมายเหตุ เป็นโครงการที่หยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว

33





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ 54 - - - เนื่องจากฤดูกาลผลิตในปี 2553

ผลผลิตไม้ลองกองของเกษตรกรในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะออกสู่ตลาดเป็นจํานวนมากจนเกินความต้องการของตลาดและผู้บริโภคในพื้นที่ ศอ.บต.ในฐานะหน่วยงานที่กํากับดูแลและช่วยเหลือเกษตรกรในท้องถิ่น ซึ่งได้รับนโยบายจากรัฐบาลให้เข้ามาช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาของเกษตรกรชาวสวนผลไม้ลองกองเพื่อให้มีราคาขายผลผลิตไม้ผลลองกองที่เหมาะสมทําให้เกิดรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจําเป็นต้องมีเงินทุนในการรับซื้อผลผลิตไม้ผลลองกอง ของเกษตรกรที่มีปริมาณมากและต้องซื้อเป็นเงินสด ศอ.บต. จึงประสานมายังธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยเพื่อขอความอนุเคราะห์รับการสนับสนุนเงินทุนครั้งนี ้

สนับสนุนให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเกษตรกรจากสภาพผลผลิตไม้ผล (ลองกอง)-ศอ.บต. ( ศอ.บต. ชดเชยค่าเสียหายจากโครงการ ) ที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ 31 สิงหาคม 2555 ผลประกอบการ 3,852,970.08 บาท และ ศอบต. นําเงินเข้าชําระคืนเรียบร้อยแล้ว โครงการฯช่วยระบายผลผลิตลองกองที่ล้นตลาด และจากผลการดําเนนิโครงการทําให้ราคาขายลองกองคละหน้าฟาร์มของเกษตรกรได้ในราคาไม่ต่ํากว่ากิโลกรัมละ 14 บาทซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรมีความพอใจ มีจํานวนเกษตรกรทั้งสิ้น 1,695 ครัวเรือน


ไทย

55 1.10.1 เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอีกแห่งละ 1 ลบ.

- - - ต่อยอดโครงการขยายวงเงินกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างต่อเนื่อง เพิ่มวงเงินสินเชื่อให้กับลูกค้ากองทุนหมู่บ้านฯ รายเดิมที่มีประวัติการชําระหนี้ดี โดยให้กู้เพิ่มอีกจํานวน 1.0 ล้านบาท เมื่อรวมกับวงเงินกู้เดิมแล้วไม่เกิน 2.0 ลบ. ณ 31 ส.ค. 55 มีลูกหนี้กองทุนหมู่บ้านทั้งหมด 680 ราย วงเงนิรวม 637.75 ลบ. ยอดหนี้ 507.25 ลบ.


34





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ กรรมการกองทุนไม่ต้องการกู้เงินหรือเข้ามาค้ําประกันเงินกู้ให้กับกองทุนฯ เพราะเมื่อหนี้เสียแล้วต้องร่วมรับผิดชอบ

56 1.10.4 จัดสรรงบประมาณเข้ากองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

- - - พัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ธนาคารรับเปิดบัญชีเงินฝากให้กับลูกค้าหมู่บ้านหรือชุมชนในโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) เพื่อรอการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลผา่นสํานักกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) โดยเมื่อ 24 พ.ค. 55 เริ่มทยอยโอนเงินงบประมาณเข้าบัญชีหมู่บ้านหรือชุมชนแล้ว ณ 30 ก.ย. 55 มีหมู่บ้าน/ชุมชนใช้บริการเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อรองรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลประมาณ 2,800 หมู่บ้าน/ชุมชน และมีการโอนเงินไปแล้ว 1,453 หมู่บ้าน/ชุมชน วงเงิน 575.6 ลบ. มีหมู่บ้าน/ ชุมชนบางแห่งเปิดบัญชีซ้ําซ้อนโดยมีการเปิดบัญชีไว้แล้วกับธนาคารออมสิน หรือ ธกส. ทําให้ไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้


57 1.11 ยกระดับราคาสินค้า เกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึง แหล่งเงินทุน

- 29 มี.ค. 2555

อนุมัติการกู้เงินโครงการแทรกแซงตลาดมันสาํปะหลังปี 2554/55 โครงการพัฒนาศกัยภาพสถาบนัเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการรับจํานาํข้าวเปลอืกนาปรงัปี 2555 โดยใช้กรอบวงเงนิที่ ครม. ได้อนุมัติให้ ธกส. ดําเนินโครงการรับจาํนาํข้าวเปลือกนาปีปกีารผลิต 2554/55

ยกระดับสินค้าเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน สบน. ได้ดําเนินการกู้เงินเพื่อโครงการจํานําผลผลิตทางการเกษตรเมื่อวันที่ 24ส.ค. 2555 จํานวน 22,500 ลบ.

- สํานักจัดการหนี้ 2

35





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ 58 - มาตรา 84 (6) - ระยะที่ 1 (วันที่ 15 กุมภาพันธ์

– 31 มีนาคม 2555 (45 วัน)) ต้องดําเนินการ (1) ออกบัตรสินเชื่อเกษตรกรได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ใบ (2) ติดตั้งเครื่องรดูบัตรที่ร้านคา้เครือข่ายของ ธ.ก.ส. จํานวนไม่น้อยกว่า 10 เครื่อง และ (3) ใช้งานระบบบัตรใน 5 สาขา ของ ธ.ก.ส. ให้แลว้เสร็จ ระยะที่ 2 (วันที่ 1 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2555 (45 วัน)) ขยายพื้นที่ดําเนินงานจํานวน 40 จังหวัด (1) ออกบัตรสินเชื่อเกษตรกรรวมได้ไม่น้อยกว่า 1,000,000 ใบ (2) ติดตั้งเครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าเครือข่ายของ ธ.ก.ส. จํานวนรวม 2,000 เครื่อง ระยะที่ 3 (วันที่ 16 พฤษภาคม – 13 มิถุนายน 2555 (30 วัน)) ขยายพื้นที่ดําเนินงานครบ 77 จังหวัด (1) ออกบัตรสินเชื่อเกษตรรวมได้ไม่น้อยกว่า 2,000,000 ใบ (2) ติดตั้งเครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าเครือข่ายของ ธ.ก.ส จํานวนรวม 3,000 เครื่อง (เปิดรับร้านค้าเครือข่ายเพิ่มอีก 1,000 แห่ง)

บัตรเครดิตสําหรับเกษตรกร ณ 30 กันยายน 55 ธ.ก.ส. ได้จัดทําบัตรสินเชื่อเกษตรกรไปแล้ว 926,333 บัตร คิดเป็นวงเงินอนุมัติ 1,480,40 ล้านบาท

1. ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2555 จํานวน 500 ล้านบาท 2. ธ.ก.ส. รับภาระการ ยกเว้นดอกเบี้ยในปีแรกเอง

ธนาคารเพื่อการเกษตรและ

สหกรณ์การเกษตร

59 - มาตรา 84 (8) 13 ก.ย.54

1. รับทราบกรอบชนิด ราคาปริมาณ ระยะเวลา วิธีการ หลักเกณฑ์และ

การรับจํานําผลิตผลการเกษตร ดําเนินการรับจํานําปีการผลิต 54/55

เบิกจ่ายเงินงบประมาณ

ธนาคารเพื่อการเกษตรและ

36





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ เงื่อนไขการรับจํานําข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 2. อนุมัติในหลักการเงินจ่ายขาดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการดําเนินการตามโครงการรับจํานาํข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ของหน่วยปฏิบัติหลัก ในวงเงินเท่าที่จ่ายจริงในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2555 ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ไปพลางก่อน และให้หน่วยปฏิบัติขอตกลงในรายละเอียดกับสาํนักงบประมาณก่อนดําเนินการต่อไป 3. มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับไปบริหารจัดการและระดมเงินทุนจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุน เวียนในการรับจํานําตามโครงการดังกล่าวให้เหมาะสมเพียงพอต่อไป

ในพืชหลัก ดังนี้ ข้าวเปลือกนาปรัง ข้าวเปลือกนาปี และมันสําปะหลังจ่ายเงินกู้ให้เกษตรกร 2,371,402 ราย ปริมาณผลิตผลการเกษตร 29.20 ล้านตัน จํานวนเงิน 345,882.79 ล้านบาท

6,925.00 ล้านบาท

สหกรณ์การเกษตร

60 - มาตรา 84 (8) - - การประกันภัยข้าวนาปี ปี 2555-2558 คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบในหลักการ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2555 ดังนี้ - กําหนดอัตราเบี้ยประกันภัย 120 บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) อัตราเบี้ยประกันภัยสุทธิเท่ากับ 129.47 บาทต่อไร่ เท่ากับการดําเนินโครงการฯ ในปีที่

ธ.ก.ส. ได้รับงบประมาณสําหรับสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรใน

สํานักงานเศรษฐกิจ การคลัง ธ.ก.ส.

สํานักงาน

37





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ผ่านมาวงเงินความคุ้มครอง 1,111 บาทต่อไร่ ตลอดช่วงการเพาะปลูก สําหรับภัยธรรมชาติทั้งหมด 6 ภัย ได้แก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และอัคคีภัย และขยายเพิ่มเติมความคุ้มครอง รวมถึงภัยศัตรูพืชและโรคระบาด โดยมีวงเงินความคุ้มครอง 555 บาท ต่อไร่ - เกษตรกรผู้เอาประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับค่าสินไหมทดแทน เมื่อพื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหายเพิ่มเติมจากรัฐบาล (ระเบียบกระทรวงการคลัง) - กําหนดจํานวนไร่ที่เอาประกันภัยสูงสุดไม่เกิน 8 ล้านไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งหมดของประเทศ (เฉลี่ยปี 2547 – 2554) จัดสัมมนาโครงการสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องการประกันภัยพืชผลให้กับ ธ.ก.ส. เกษตรกร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน 2 ครั้ง 1.วันที่ 19 กันยายน 2555 ณ จังหวัดอุบลราชธานี มีผู้เข้าร่วมสัมมนา จํานวน 120 คน 2. วันที่ 24 กันยายน 2555 ณ จังหวัดมหาสารคาม มีผู้เข้าร่วมสัมมนา จํานวน 100 คน - สิ้นสุดโครงการประชาสัมพันธ์โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2555 ในเดือนกันยายน 2555

โครงการประกันภัยพืชผล จํานวน 3.8 ล้านบาท และ จะเริ่มดําเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจในปี 2555 รัฐบาลจะมีภาระงบประมาณสูงสุดไม่เกิน 555,760,000 บาท หากกําหนดจํานวนไร่เอาประกันภัยสูงสุด ไม่เกิน 8 ล้านไร่ ธ.ก.ส. ทดรองจ่ายเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแทนรัฐบาล และเบิกเงินชดเชยตามจํานวนที่จ่ายจริงพร้อมด้วย

คณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการ

ประกอบธุรกิจประกันภัย

(คปภ.)

38





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจําเดือน 6 เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาของ 4 ธนาคารพาณิชย์ ขนาดใหญ่ (FDR) + 1% ในปีงบประมาณถัดไป

61 1.13.2 บริหารจัดการโครงการหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพ ด้วยการสนับสนุนให้ชุมชน วิสาหกิจชุมชนใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นผนวกกับองค์ความรู้สมัยใหม่เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าและบริการ การเข้าถึงแหล่งทุนและการตลาดเชิงรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยส่งเสริมให้มีศูนย์กระจายและแสดงสินค้าถาวรในภูมิภาคและเมืองท่องเที่ยวหลักที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและการส่งออก

- - - ผลักดันโครงการสนับสนุนสินเชื่อ OTOP เริ่มดําเนินโครงการในปี 2547 มีลูกค้าขอสินเชื่อประมาณ 80 ราย วงเงินประมาณ 30.0 ลบ. ณ 31 ส.ค. 55 มีลูกหนี้ 5 ราย วงเงิน 1.35 ลบ. ยอดหนี้ 0.68 ลบ. มีสถาบันการเงินอื่นๆ รวมทั้งองค์กรการเงินชุมชนในพื้นที่ที่ให้การสนับสนุนสินเชื่อร่วมด้วยอยู่หลายแห่ง ทําให้เกิดการแข่งขันสูง


62 1.14 พัฒนาระบบประกันสุขภาพ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบ

มาตรา 80 (2) - - การบูรณาการระบบการให้บริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน 1. การให้ผู้ป่วยฉุกเฉินตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาล

กรมบัญชีกลาง

39





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการอย่างมีคณุภาพ สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม รวมทั้ง บูรณาการสิทธิของผู้ป่วยที่พึงได้รับจากระบบประกันสุขภาพต่าง ๆ บูรณาการแผนงานของหน่วยงาน

ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน ตลอดจนส่งเสริมการนําเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยและคุ้มค่าต่อการให้บริการมาใช้ให้แพร่หลาย รวมทั้งจัดให้มีมาตรการลดปจัจัยเสี่ยงที่มีผลต่อสุขภาพและภาวะทุพโภชนาการ ที่นําไปสู่การเจ็บป่วยเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคมะเร็ง รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่ และมาตรการป้องกันอุบัติเหตุการจราจร

ข้าราชการสามารถไปรับบริการในสถานพยาบาลได้ ทั้งรัฐและเอกชน ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ ตามนโยบายการบูรณาการระบบการให้บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีการรวมกองทุน 2. กรมบัญชีกลาง สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสํานักงานประกันสังคม ได้หารือร่วมกันเพื่อดําเนินการตามนโยบายนายกฯ ที่ต้องการสร้างความเป็นเอกภาพของระบบการให้บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินสําหรับประชาชนทุกสิทธิ เมื่อเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤตหรือระดับเร่งด่วน (ตามประกาศคณะกรรมการ การแพทย์ฉุกเฉิน) ประชาชนสามารถไปรับบริการที่ใด ก็ได้ที่ใกล้ที่สุดตามความจําเป็น โดยไม่ต้องถูกถามสิทธิและไม่ต้องสํารองจ่ายเงิน ซึ่งสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะเป็นหน่วยงานที่ทําหน้าที่เป็น clearing house รับข้อมูลและจ่ายเงินให้สถานพยาบาลก่อน 3. คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 เพื่อให้ผู้มีสิทธิสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉินวิกฤต และฉุกเฉินเร่งด่วนที่โรงพยาบาลเอกชนแล้วตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ขณะนี้สํานักงานเลขาธกิารคณะรัฐมนตรี ได้ส่งร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าวไปยังสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาเพื่อดําเนินการต่อไป และผู้แทนกรมบัญชีกลางได้เข้าชี้แจงความเป็นมา เหตุผลของการเสนอและรายละเอียดต่าง ๆ ต่อคณะทํางานของสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว

40





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555 และได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 3 และ 5 กรกฎาคม 2555 ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ดําเนินการตรวจร่างเสร็จแล้ว 4. เป้าหมายของรัฐบาลที่ขยายระบบบริการสุขภาพ ไปสู่โรคอื่น ๆ ให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน โดยจะเริ่มดําเนินการในส่วนของโรคเรื้อรังที่ต้องให้การรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคไต โรคเอดส์ โดยการประชุมร่วมกันของ 3 กองทุน ควรกําหนดเงื่อนไขและการบริหารจัดการระบบในการได้รบับริการของผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ป่วยโรคไต รวมถึงการได้รับยากระตุ้นเม็ดเลือด และบริการอื่นให้เป็นไปตาม National Guide line เหมือนกัน

การสั่งการของนายกรัฐมนตรี 1 การให้การช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้

ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย

มาตรา 84 (3) 31 ม.ค. 55

๑. ยกเว้นอากรขาเข้าสําหรับสินค้าของโรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ๕ รายการ ได้แก่

๑) เม็ดพลาสติกพีวีซี ๒) กระป๋องอะลูมิเนียมเปล่า ๓) ฝากระป๋องอะลูมิเนียม ๔) ตู้เย็น ๕) เครื่องซักผ้า ๒. ระยะเวลาการให้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ จนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕

มาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและฟื้นฟูอุตสาหกรรม 1 . ชี ้แ จ ง ร ่า ง ป ร ะ ก า ศ ก ร ะ ท ร ว ง ก า ร ค ล ัง ต ่อคณะกร รมกา รตร วจสอบร ่า ง กฎหมายและร ่า ง อนุบ ัญ ญ ัต ิที ่เ ส น อ ค ณ ะ ร ัฐ ม น ต ร ีแ ล ้ว เ มื ่อ ว ัน ที ่ 1 6 กุมภาพันธ์ 2555 2 . ขณะนี ้อ ยู ่ระหว่างรอหนังสือจากสํานัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามในประกาศกระทรวงการคลัง


2 มาตรา 187 11 ต.ค. กําหนดให้การบริจาคเงินหรือ ตราเป็น พระราชกฤษฎีกา 529 (พ.ศ. 2554) ลง ร.จ. - กรมสรรพากร

41





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ 54 ทรัพย์สินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบ

อุทกภัยผ่านส่วนราชการ องค์การสาธารณกุศล หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่เป็นตัวแทนรับบริจาค เพื่อนําเงินหรือทรัพย์สินไปให้ผู้ประสบอุทกภัยในระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2554 สามารถนําเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคมาหักเป็นค่าลดหย่อนหรือค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 1.5 เท่า

วันที่ 21 ธ.ค. 54

3 มาตรา 187 4 เม.ย.54

1.ยกเว้นภาษีเงินได้ให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้ประสบอุทกภัยสําหรับเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับบริจาคหรือช่วยเหลือเพื่อชดเชยความเสียหายจากส่วนราชการหรือภาคเอกชนทั้งนี้ไม่เกินมูลค่าความเสียหายที่ได้รับ 2.กรณีผู้ประกอบการเป็นบุคคลธรรมดาให้ยกเว้นภาษีสําหรับเงินได้ที่ได้รับจากการประกอบการตามประเภทเงินได้ที่ 5,6,7 และ 8 เฉพาะส่วนที่เท่ากับจํานวนค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นตามที่ได้ลงทะเบียนไว้กับหน่วยงานให้ความช่วยเหลือของทางราชการ 3.กรณีผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มี

1.พระราชกฤษฎีกา 527 (พ.ศ.2554) ลง ร.จ. วันที่ 9 มิ.ย. 54 2.กฎกระทรวง 282 (พ.ศ.2554) ลง ร.จ. วันที่ 14 ก.ย. 54 3.ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร 206 ประกาศวันที่ 3 ต.ค. 54 4.ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร 207 ประกาศวันที่ 12 ต.ค. 54 5.ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร กําหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไข ประกาศวันที่ 3 ต.ค. 54 6.คําชี้แจงกรมสรรพากร การขยายกําหนดเวลายื่นแบบฯ ประกาศวันที่ 20 ธ.ค. 54


42






11 ต.ค.54

ทรัพย์สินเสียหายหรือสูญหายหากไม่มีการทําประกันภัยไว้สามารถตัดเป็นรายจ่ายได้ทันทีแต่หากมีการทําประกันภัยและได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายให้ยกเว้นภาษีสําหรับค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนที่เกินมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลือจากการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาแล้ว 4.การขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีอากร (1) ปัจจุบันกระทรวงการคลังได้อนมุัติให้มีการขยายกําหนดเวลาการยื่นแบบและชําระภาษีอากร ให้กับผู้เสียภาษีที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในเขตท้องที่ต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย (2) สําหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดอื่นที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมให้ขยายระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีสําหรับเดือนกันยายนเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน 2554 ออกไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2554 เช่นกันยกเว้นเฉพาะการชําระภาษเีงินได้นิติบุคคลที่จะครบกําหนด

43





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ยื่นแบบฯภายในเดือนกันยายน-ธันวาคม 2554 ขยายเวลาการยื่นแบบฯได้จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 (3) กรณีผู้ประกอบการที่มีสํานักงานใหญ่หรือสาขาอยู่ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยและมีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะรวมกันให้ยื่นรายการเฉพาะในส่วนของสํานักงานใหญ่หรือสาขาที่ไม่ได้รับผลกระทบไปก่อนส่วนสํานักงานใหญ่หรือสาขาซึ่งอยู่ในเขตที่ได้รับผลกระทบจะขยายเวลาให้ยื่นแบบเพิ่มเติมได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2554 โดยไม่ต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม (4) กรณีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้เก็บเอกสารนอกสถานประกอบการและสถานที่ที่เก็บเอกสารอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถคํานวณภาษีได้ให้ขยายระยะเวลาการยื่นแบบได้เช่นเดียวกัน (5) กรณีผู้ประกอบการรายใดที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขข้างต้นให้ทําคําร้องชี้แจงเหตุผลเสนอผ่านสํานักงานสรรพากรพื้นที่และสํานักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ที่

44





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ รับผิดชอบเพื่อส่งให้กรมสรรพากรพิจารณาต่อไป

4 - 1 พ.ย. 54

1. เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยให้สามารถฟื้นฟูกิจการและเริ่มประกอบธุรกิจได้ใหม่โดยเร็ว โดยผ่านกลไกการค้ําประกันในลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme ของ บสย. 2. เป็นการช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่ SMEs ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อมจากอุทกภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้สามารถฟี้นฟูกิจการได้โดยเร็ว โดยกําหนดกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ SMEs ที่ประกอบธุรกิจทุกประเภทที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือเป็น SMEs ที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อมโดยจะต้องมียอดการสั่งซื้อหรือยอดขายกับ SMEs ในพื้นที่ประสบอุทกภัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 โดยธนาคารจะต้องเป็นผู้รับรองและยืนยัน

โครงการค้ําประกันสินเชื่อในลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme (PGS) ตามมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจาก อุทกภัยปี 2554 บสย. ได้มีการลงนามในบันทึข้อตกลง (MOU) ร่วมกบัธนาคารพาณิชย์ จํานวน 15 แห่ง ในการดําเนินการโครงการนี้เมื่อ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 1. ให้การค้ําประกันสินเชื่อในวงเงินค้ําประกันรวม 100,000 ล้านบาท โดย บสย. ขอรับการชดเชยจากรัฐบาลเป็นจํานวนไม่เกิน 23,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) การชดเชยค่าธรรมเนียมค้ําประกันในอัตราร้อยละ 1.75 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี (คิดเป็นจํานวนเงิน 5,250 ล้านบาท) 2) การชดเชยส่วนต่างค่าประกันชดเชยตามที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกิน 17,750 ล้านบาท

2.กําหนดระยะเวลาการค้ําประกัน 7 ปี คิดค่าธรรมเนียมค้ําประกันร้อยละ 1.75 ต่อปี ของวงเงินค้ําประกันสินเชื่อ โดยรัฐบาลจะชดเชยค่าธรรมเนียมให้ใน 3 ปีแรก ทั้งนี้ สินเชื่อที่ได้รับจากสถาบันการเงินต้องเป็นสินเชื่อใหม่และต้องไม่นําไปชําระหนี้กับสถาบันผู้ให้กู้ โดยกําหนดวงเงินค้ําประกันสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบัน แต่หากสินเชื่อเป็นเงินทนุหมุนเวียนเพืยงอย่างเดียว บสย. จะค้ําประกันในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบัน โดยธนาคารพาณิชย์จะคิดดอกเบี้ยจากลูกค้าในอัตราร้อยละ 3

- ใช้งบประมาณ - บสย.จะดําเนิน การขอชดเชยค่าธรรมเนียม ค้ําประกันและส่วนต่างค่า ประกันชดเชยตามที่เกิดขึ้นจริง ตั้งแต่ปี งบประมาณ 2556 เป็นต้นไปจนครบกําหนด ระยะเวลาโครงการ

บรรษัทประกันสินเชื่อ

อุตสาหกรรมขนาดย่อม

45





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามอัตราปกติของแต่ละธนาคาร นอกจากนี้ผู้ประกอบการ SMEs จะต้องไม่เป็นหนี้ NPL ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2554 โดยกําหนดรับใบคําขอค้ําประกันสินเชื่อภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2555

ทั้งนี้ บสย. ได้ขยายระยะเวลารับใบคําขอและเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโครงการให้สามารถตอบสนองผู้ที่ได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้นตามมติ ครม. ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2555 โดยขยายระยะเวลารับคําใบขอจากภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2555 เป็น 30 ธันวาคม 2555 และเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขวงเงินค้ําประกันเพิ่มขึ้นเป็นสูงสุด 30 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวปรับใช้ตั้งแต่วันที่บสย. ลงนามข้อตกลงร่วม (MOU) กับสถาบันการเงินต่างๆ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 ผลการค้ําประกันสินเชื่อ ณ วันที่ 30 ก.ย. 2555 มีใบคําขอให้ บสย. ค้ําประกันสินเชื่อตามโครงการนี้แล้ว 5,436 ราย วงเงิน 20,256.62 ล้านบาท ทําให้ SMEs ได้รับสินเชื่อจากธนาคารจํานวน 29,282.74 ล้านบาท ช่วยรักษาสภาพการจ้างงาน 157,512 คน และทําให้มีการจ้างงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 25,608 คน

5 - - - แผนการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบอุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูลูกค้าผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยภายหลังน้ําลด พิจารณาพักชําระหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน

**ทั้งนี้ บตท.จะพิจารณาโดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความ


อาศัย

46





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ เสียหายที่ลูกค้าได้รับต่อที่อยู่อาศัย,หลักประกัน,รายได้รวมทั้งชีวิตและร่ายกาย - ปรับลดเงินงวดผ่อนชําระ - ขยายระยะเวลาการผ่อนชําระหนี้ออกไปรวมไม่เกิน 30 ปี - เข้าโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามเหลักเกณฑ์ของ บตท. - ในกรณีที่ลูกค้ามีความประสงค์จะขอกู้เพิ่ม เพื่อนําเงินไปซ่อมแซมบ้ านที่ ไ ด้ รั บความ เสี ยหาย บตท . จะ เป็นผู้ประสานงานกับสถาบันการเงินอื่น ๆ เพื่อให้เงินกู้เพิ่มต่อไป - หากลูกค้ามีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูอาชีพ บตท. จะประสานขอความร่วมมือไปยังสถาบันการเงิน เฉพาะกิจของรัฐแห่งอื่นต่อไป กลุ่มลูกหนี้ของ บตท. ที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัยมีจํานวน 1,075 ราย ภาระหนี้เงินต้น 1,440.38 ลบ. (ณ 29 ก.พ. 55) มีลูกหนี้ที่ได้รับความเสียหายและติดต่อขอความช่วยเหลือแล้ว จํานวน 235 ราย ภาระหนี้เงินต้น 386.60 ลบ. โดยมีลูกหนี้ขอพักชําระหนี้ 3 เดือน จํานวน 163 ราย ภาระหนี้เงินต้น 270.28 ลบ. ลูกหนี้ขอลดดอกเบี้ย 25% จํานวน 37 ราย ภาระหนี้เงินต้น 69.05 ลบ. ทั้งนี้มีลูกหนี้ที่สละสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ จํานวน 35 ราย ภาระหนี้ เงินต้น 47.27 ลบ. ปัจจุบันได้สิ้นสุดโครงการฯ แล้ว

6 ขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสําหรับน้ํามันดีเซล

- ๒๔ เม.ย. ๕๕

ให้คงอัตราภาษีสรรพสามิตน้ํามันดีเซลที่ ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร จนถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อต้นทุนของภาคการขนส่ง ภาคการผลิต และเพื่อลด

ขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสําหรับน้ํามันดีเซล ออกประกาศกระทรวงการคลังปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๔ วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๔

- กรมสรรพสามิต

47






ค่าใช้จ่ายของประชาชน

วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๕ วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๕ วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๕ ผลการดําเนินงาน ๑๒ เดือน (กันยายน ๕๔ – กันยายน ๕๕) สามารถช่วยเหลือประชาชน ภาคธุรกิจเป็นเงินประมาณ ๑๐๘,๐๐๐ ล้านบาท

7 ขยายกําหนดเวลาชําระ ภาษีสรรพสามิต สําหรับสินค้าและบริการทุกประเภทตามพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ท้ายพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527

- ๒๘ ธ.ค. ๕๔

- เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยใน ๑๐ จังหวัดรวมถึงกรุงเทพมหานคร กรมสรรพสามิตขยายกําหนดเวลาชําระภาษีสรรพสามิตสําหรับสินค้าและบริการทุกประเภทตามพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต กรณีความรับผดิในอันจะต้องเสียภาษีเกิดขึ้นระหว่างวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ โดยให้ยื่นแบบรายการภาษีพร้อมกับชําระภาษีภายในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๔

ขยายกําหนดเวลาชําระ ภาษีสรรพสามิต สําหรับสินค้าและบริการทุกประเภทตามพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ท้ายพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ออกประกาศกระทรวงการคลัง ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ ให้ผู้จดทะเบียนภาษีสรรพสามิตเลื่อนระยะเวลาชําระภาษีกรณีความรับผิดในอันจะต้องเสียภาษีเกิดขึ้นระหว่างวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

-

กรมสรรพสามิต

8 หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีสรรพสามิตสําหรับน้ํามันดีเซลที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเรือเดินทางไป

- ๒๓ ม.ค. ๕๕

- ยกเว้นภาษีสรรพสามิตสําหรับน้ํามันดีเซลที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเรือเดินทางไป-กลับในเขตพื้นที่ JDA

หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีสรรพสามิตสําหรับน้ํามันดีเซลที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเรือเดินทางไปกลับ ในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย

-

กรมสรรพสามิต

48





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ กลับ ในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย

(ประเภท ๐๑.๐๕) ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกําหนด (เดิมเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ ๓๔ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตพ.ศ. ๒๕๒๗) - เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยมีฐานสนับสนุนการผลิตและสํารวจปิโตรเลียมในฝั่งไทย และส่งผลให้เกิดธุรกิจที่เกี่ยวข้องจํานวนมาก เช่น ธุรกจิการซ่อมบํารุงเรือ ธุรกิจการบริหารเรือ และเพิ่มทางเลือกในการประกอบอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น

ออกประกาศกรมสรรพสามิต ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๕

9 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกําหนดระยะเวลา ๕ ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ําท่วม

- ๔ ม.ค. ๕๕

- คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงกําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกําหนดระยะ เวลา ๕ ปี - การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกําหนดระยะเวลา ๕ ปี ในกรณีผู้ได้รับสิทธิต้องการออกจากโครงการฯ และคืนเงินครบตามจํานวน - ผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาก่อนครบกําหนดระยะเวลา ๕ ปี โดยผู้ให้เช่าซื้อนําออกขายทอดตลาด ผู้ให้เช่าซื้อ

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกําหนดระยะเวลา ๕ ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ําท่วม - ออกประกาศกระทรวงการคลัง ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๕ - ออกประกาศกระทรวงการคลัง ประกาศ ณ วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ (ยกเลิกประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๕)


49





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ยึดรถกรณีผู้เช่าซื้อผิดสัญญาและนําออกขายทอดตลาดรถยนต์เกิดอุบัติเหตุหรือประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ และผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อไม่ประสงค์จะใช้รถยนต์นั้นต่อไป รถยนต์ที่ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์ที่ซื้อหรือเช่าซื้อสูญหายและบริษัทผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้ว ต่อมาผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อได้รถยนต์กลับคืนมาและต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้กับบริษัทผู้รับประกันภัย ผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อต้องนําเงินที่ได้รับไปตามมาตรการดังกล่าวคืนแก่หน่วยงานที่เบิกจ่าย ตามระเบียบที่กรมบัญชีกลางกาํหนด - ผู้ได้รับสิทธิถึงแก่กรรม ผู้ให้เช่าซื้อโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้เช่าซื้อ ผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อซึ่งได้รับโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ต่อมาได้ทําสัญญาเช่าซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ให้เช่าซื้อ โดยผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อยังคงเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้ออันเนื่องมาจากการขอสินเชื่อ

10 ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงกําหนดชนิดของสุราและอัตราภาษีสุรา และกฎกระทรวงกําหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติ

- - ปรับปรุงอัตราภาษีของสุรากลั่น ชนิดสุราขาว ชนิดสุราผสม และชนิดสุราพิเศษประเภทบรั่นดีให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้แก่ประเทศและ

ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงกําหนดชนิดของสุราและอัตราภาษีสุรา และกฎกระทรวงกําหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ - ออกกฎกระทรวงกําหนดอัตราค่าธรรมเนียมสุรา พ.ศ.


50





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ สุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ รักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

ประกอบสนับสนุนมาตรการควบคุมการบริโภคสุรา (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ของประชาชนเพื่อสังคม - ชนิดสุราขาว ปรับเพิ่มอัตราภาษีสุราตามปริมาณจากอัตราภาษี ๑๒๐ บาท ต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นอัตราภาษี ๑๕๐ บาทต่อลิตร แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ - ชนิดสุราผสม ปรับเพิ่มอัตราภาษีสุราตามปริมาณจากอัตราภาษี ๓๐๐ บาท ต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บรสิุทธิ์ เป็นอัตราภาษี ๓๕๐ บาทต่อลิตร แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ - ชนิดสุราพิเศษประเภทบรั่นดี ปรับเพิ่มอัตราภาษีสุราตามมูลค่า จากตามมูลค่าร้อยละ ๔๘ เป็นอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๕๐

๒๕๕๕ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ - ออกกฎกระทรวงกําหนดชนิดของสุราและอัตราภาษีสุรา (ฉบับที่ ๕) ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ สงิหาคม ๒๕๕๕

11 ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวง กําหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ และกฎกระทรวง กําหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ

- - - ปรับอัตราค่าแสตมป์ยาเส้น จากอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๐.๑ อัตราภาษีตามปริมาณ ๐.๐๑ บาทต่อสิบกรัม เศษของสิบกรัมให้นับเป็นสิบกรัม เป็น อัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๑๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๐.๐๑ บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่ง

ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวง กําหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ และกฎกระทรวง กําหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ - ออกกฎกระทรวงกําหนดอัตราค่า ธรรมเนียมยาสูบ พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ - ออกกฎกระทรวงกําหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ พ.ศ.๒๕๕๕ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๕


51





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ กรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม - ปรับอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ บุหรี่ซิกาแรต จากเดิมอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๘๕ เป็นอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๘๗ และกําหนดให้มีอัตราภาษีตามปริมาณ ๑ บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ไม่มีการกําหนดอัตราตามปริมาณ - ปรับอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ บุหรี่ซิการ์ จากเดิมอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๑๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๐.๕ บาทต่อกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม เป็นอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๒๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๑ บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม -ปรับอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ บุหรี่อื่น จากเดิมอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๐.๑๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๐.๐๒ บาทต่อห้ากรัม เศษของห้ากรัมให้นับเป็นห้ากรัม เป็น อัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๑๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๐.๐๑ บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม - ปรับอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ ยาเส้นปรุง จากเดิมอัตราภาษีตามมูลค่า

- ออกประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง กําหนดราคายาสูบที่ทําในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๕ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๕

52





อุปสรรคในการดําเนินงานที่สําคัญ ร้อยละ ๑๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๐.๕ บาทต่อกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม เป็นอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๒๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๑ บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม - ปรับอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ ยาเคี้ยว จากเดิมอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๐.๑๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๐.๐๙ บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม เป็นอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ ๑๐ อัตราภาษีตามปริมาณ ๐.๑๐ บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม

Documents

รายงานผลการดําเนินงานตาม ... · 2019. 4. 9. · อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน