ภาคผนวก

29

ภาคผนวก ก

แบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน (พร้อมเฉลย)

30

แบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน (พร้อมเฉลย)

จงเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุด 1.ข้อใด คือ Non-Material Culture ก. รถยนต์ ข. ภาพวาด ค. ความเชื่อ ง. บ้าน 2. ข้อใด คือ สหธรรม ก. ศาสนา ข. กฎหมาย ค. มารยาท ง. ปัจจัยสี่ 3. บรรทัดฐานข้อใดที่สมาชกิฝ่าฝืนจะไดร้ับโทษตามระดับความผดิ ก. Folkways ข. Laws ค. Value ง. Mores 4. ข้อใดไม่ใช่บรรทดัฐาน ก. วิถีประชา ข. จารตี ค. ลัทธ ิ ง. กฎหมาย 5.ข้อใด คือวิธีการทีจ่ะรกัษาเอกลักษณ์ของสังคมไทยไว้คู่ชาติตลอดไปได้ดทีี่สุด ก. ก าหนดเป็นกฎหมายให้ประชาชนถือปฏิบัติ ข. ปลูกฝังประชาชนให้เห็นคุณค่า ความส าคัญ และมีส่วนร่วมในการรักษา ค. บุคคลที่เป็นผู้น าในสังคมต้องปฏิบัติตามเอกลักษณ์เพื่อเป็นแบบอย่าง ง. ถูกทุกข้อ

6. ข้อใดไม่ถูกต้อง ก. เอกลักษณ์ คือลักษณะเด่นของสังคม ข. เอกลักษณ์เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นสังคมนั้นๆ ค. เอกลักษณ์เป็นสิ่งที่ท าให้แต่ละสังคมมีความแตกต่างกัน ง. เอกลักษณ์ของสังคมเปลี่ยนแปลงในเวลาที่รวดเร็วเสมอตามค่านิยมของสังคม 7. ข้อใดคือประเพณ ี ก. การบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ าท่วม ข. การท าบุญตักบาตรและการสวดมนต์ไหวพ้ระ ค. การรับประทานอาหารพร้อมกันในครอบครวั ง. การเข้ารว่มกิจกรรมส าคญัทุกชนิดทุกครั้ง

31

8. บรรทัดฐานข้อใดที่ผู้ไม่ปฏิบัติจะได้รับโทษทางสังคมหนักที่สุด ก. จารีตประเพณี ข. ขนบประเพณี ค. ธรรมเนียมประเพณ ี ง. ศีลธรรมประเพณ ี9. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ส าคัญของการบวชในสังคมไทย ก. ตอบแทนบุญคุณพ่อ-แม ่ ข. ฝึกฝนตนเองให้มีสติปัญญาและคุณธรรม ค. สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ ง. ช าระบาปและสะเดาะเคราะห์ที่มีให้หมดไป

10. ข้อใดคือค่านิยมที่บ่งบอกถึงความเป็นไทยได้ชัดเจนที่สุด ก. นับถือกันที่วัตถ ุ ข. นับญาติ และเคารพผู้อาวุโส ค. กตัญญูรู้คุณ ง. ชอบเล่นการพนัน 11. ข้อใดต่อไปน้ี มีหน้าที่อบรมขัดเกลาสมาชกิของสังคม

ก. ครอบครัว ข. เพื่อน ค. สื่อมวลชน ง. ถูกทุกข้อ

12. ข้อใดคือความหมายของค่านิยม ก. แนวทางความประพฤติของบุคคลในสังคม ข. พื้นฐานทางความคดิของบุคคล ค. แบบแผนของการตัดสิน หรือประเมินค่าของสิ่งต่างๆ ง. ทุกข้อที่กล่าวมา 13. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. ค่านิยม คือ ความน าสมยัในสังคม ข. ค่านิยม เป็นสิ่งที่ท าให้รู้และเข้าใจพฤติกรรมในแต่ละสังคม ค. ค่านิยม มีแต่สิ่งทีด่ีที่ควรปฏิบัติเท่านั้น ง. ค่านิยมเกิดจากการเลียนแบบซึ่งกันและกัน 14. ค่านิยมในเรื่องใดทีค่วรปลูกฝังแก่เยาวชนไทยมากที่สุด ก. ความเกรงใจ ข. สุภาพเรียบร้อย ค. ระเบียบวินัย ง. รักพวกพ้อง 15. ค่านิยมข้อใดที่บ่งบอกถึงความอบอุ่นในสังคมไทย ก. รักพวกพ้อง ข. ชอบนับญาติ ค. เอื้อเฟื้อ ง. รักอิสระ

32

16. “เป็นการเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม” ข้อความนี้ คือการเปลี่ยนแปลงเรื่องใด

ก. การเปลี่ยนแปลงสังคม ข. การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม ค. การเปลี่ยนแปลงทางวัตถุ ง. การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี 17. สถาบันใดที่เกิดขึ้นเพราะความกลวัของมนุษย์ ก. ศาสนา ข. ครอบครัว ค. การปกครอง ง. การศกึษา 18. สถาบันใดที่ช่วยสรา้งค่านิยมและบรรทัดฐานของสังคม ก. ศาสนา ข. ครอบครัว ค. การปกครอง ง. การศึกษา 19. ข้อใดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวไทย ก. ครอบครัว ชุมชน สังคม ข. การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ค. ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย ์ ง. กองทัพ กฎหมาย นโยบาย 20. ข้อใดถูกต้อง

ก. การเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมดูได้จากสถานภาพทางสังคม ข. การปรับตวัเองตลอดเวลาของสมาชิกจะท าให้สังคมล่มสลาย ค. ครอบครัวเป็นสถาบันแรกในการอบรมขัดเกลามนุษย์ ง. พลเมืองที่ดีของสังคม คอื ผู้ที่ไดร้ับการศกึษาในระดับสูง

33

ภาคผนวก ข

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

34

ในการศกึษาค้นควา้ครั้งนี้ผู้รายงานไดท้ าการวิเคราะห์ข้อมูลและได้ใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้

1. ค่าคะแนนเฉลี่ย โดยใช้สูตรดังนี ้

คะแนนเฉลี่ย = N

x

เมื่อ x แทน ผลรวมของคะแนนทุกตัว

N แทน จ านวนนักเรียนที่น ามาวเิคราะห์

ก่อนเรียน 10

93 = 9.3

หลังเรียน 10

159 = 15.9

2. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้สูตรดังนี้

S.D. = )1(

)( 22

NN

XXN

เมื่อ S.D. แทน ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน

x แทน ผลรวมของคะแนนทุกตัว

2x แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวยกก าลังสอง

N แทน จ านวนนักเรียนที่น ามาวเิคราะห์

ก่อนเรียน =)110(10

93)917(10 2

=90

86499170

= 90

521

= 2.41

35

หลังเรียน =)110(10

159)2545(10 2

=90

258125450

= 90

169

= 1.89

3. ค่า T-Test ใช้สูตรดังต่อไปน้ี

t =

1

)( 22

n

DDn

D เมื่อ df = n-1

เมื่อ t แทน ค่าสถิติที่ใช้เปรียบเทียบกับค่าวิกฤต เพื่อทราบความมี

นัยส าคัญ

D แทน ผลรวมของผลต่างระหวา่งคู่คะแนน

2D แทน ผลรวมของผลต่างระหวา่งคู่คะแนนแต่ละคู่ยกก าลังสอง

n แทน จ านวนนักเรียน

1. ตั้งสมมติฐานทางสถิต ิ Ho : 21

Ha : 21

2. ก าหนดระดับนัยส าคญั . 05

3. ใช้แบบ t-test (Dependent Sample)

4. หาจุดวิกฤต (df) n-1 (10-1 = 9) 1.833

36

คนที่ คะแนน

ก่อนเรียน

2x

ก่อนเรียน

คะแนน

หลังเรียน

2x

หลังเรียน D 2D

1 10 100 15 225 5 25 2 12 144 18 324 6 36 3 8 64 16 256 8 64 4 9 81 15 225 6 36 5 11 121 17 289 6 36 6 8 64 15 225 7 49 7 13 169 18 324 5 25 8 10 100 16 256 6 36 9 7 49 15 225 8 64 10 5 25 14 196 9 81 1x 93 2x 917 2x 159 2x = 2545 D 66 2D 452

t =

1

)( 22

n

DDn

D

=

110

)66()452(10

66

2

=

9

43564520

66

= 22.18

66

= 268.4

66

t = 15.463

ดังนั้น t จากการค านวณ(15.463) มากกวา่ค่า t ตาราง(1.833) แสดงวา่หลังเรียนและก่อนเรียนด้วย

สื่อประสม มีความแตกตา่งกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือผู้เรยีนมีความรู้สูงข้ึนจากเดิม

37

ภาคผนวก ค

สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

38

สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

39

40

41

42

43

44

45

46

47

48

ประวัติผู้จัดท าวิจัยในชั้นเรียน

ชื่อ – นามสกุล นายสันติ ทองแก้วเกิด วันเกิด 13 เมษายน 2533 ต าแหน่ง ครู ค.ศ.1 สถานที่ท างาน วทิยาลัยเทคนิคตรัง แผนกวิชาสามัญสัมพันธ ์ หมวดสังคมศึกษา การศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลกระบ่ี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนอ ามาตยพ์านิชนุกูลกระบ่ี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนจตัุรัสวิทยาคาร อ าเภอจัตรุัส จงัหวัดชัยภูม ิ ระดับปริญญาตร ี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร กรุงเทพมหานคร ระดับปริญญาโท มหาวทิยาลัยรามค าแหง กรุงเทพมหานคร