Upload
jillian-lara
View
38
Download
0
Embed Size (px)
DESCRIPTION
Array in PHP. อะเรย์ (Array). อะเรย์หรือตัวแปรชุด คือ ตัวแปรที่สามารถเก็บค่าได้หลายๆค่า โดยใช้ตัวแปรตัวเดียว สิ่งที่อยู่ภายในอะเรย์เรียกว่าสมาชิก แต่ละสมาชิกในอะเรย์จะมีอินเด็กซ์เพื่อใช้อ้างอิง อินเด็กซ์ใช้อ้างอิงถึงแต่ละสมาชิกที่อยู่ในอะเรย์ - PowerPoint PPT Presentation
Citation preview
1
Array in PHPArray in PHP
2
อะเรย์�อะเรย์� (Array)(Array)
• อะเรย์�หร�อตัวแปรชุ�ดคื�อตัวแปรที่��สามารถเก็�บคื�าได�หลาย์ๆคื�า โดย์ใชุ�ตัวแปรตัวเด�ย์ว
• ส$�งที่��อย์&�ภาย์ในอะเรย์�เร�ย์ก็ว�าสมาชุ$ก็ แตั�ละสมาชุ$ก็ในอะเรย์�จะม�อ$นเด�ก็ซ์�เพื่��อใชุ�อ�างอ$ง
• อ$นเด�ก็ซ์�ใชุ�อ�างอ$งถ,งแตั�ละสมาชุ$ก็ที่��อย์&�ในอะเรย์�• ใน PHP อ$นเด�ก็ซ์�จะเร$�มที่�� 0 แตั�สามารถก็-าหนดอ$น
เด�ก็ซ์�ให�เป.นตัวอก็ษรได�
3
ตัวอย์�างตัวอย์�าง<html><body><?
$arr[0] = "Red";$arr[1] = "Green";$arr[2] = "Blue";$arr[3] = "White";echo " $arr[0] , $arr[1] ,$arr[2] ,$arr[3] ";
?></body></html>
4
อะเรย์� อะเรย์� (Array)(Array)• ใน PHP อะเรย์�ที่��มี�ขนาดเปลี่��ย์นแปลี่งได�เร�ย์กว�า
dynamic array หร�อ vector(สำ�าหรบอะเรย์�มี!ตั!เด�ย์ว)
$myarray[ 3]= ;
$myarray[ ]=1.1;
$myarray[ ]="";
• ขนาดจะปรบเปลี่��ย์นได� คื�อขย์าย์จ�านวนข�อมี$ลี่ที่��เก%บอย์$�ภาย์ในอะเรย์�
• ข�อมี$ลี่แตั�ลี่ะตัวในอะเรย์�ไมี�จ�าเป'น ตั�องเป'นข�อมี$ลี่ชน!ดเด�ย์วกน เช�น อาจจะมี�ที่)งจ�านวนเตั%มี เลี่ขที่ศน!ย์มี
5
<?$arr[0] = "Chair";$arr[1] = 20;$arr[2] = 3.37;$arr[3] = "A";$all = count( $arr );for ($i=0; $i<$all; $i++){
print "Member $i =$arr[$i] <BR>";}
?>
ตัวอย์�าง
6
การการสำร�างอะเรย์�สำร�างอะเรย์�เพื่��อน�าไปใช�งานเพื่��อน�าไปใช�งาน• ไมี�จ�าเป'นตั�องประกาศตัวแปร• คื�าของอะเรย์�จะ ถู$กก�าหนดให�ตัอนที่�� โปรแกรมีที่�างาน
(Run time)
<? $arr[] = "Red";
$arr[] = "Green";$arr[] = "Blue";$arr[] = "White";
?>
7
<? $arr[10] =100;
$arr[5] =200;$arr[40] =300;
?>
การการสำร�างอะเรย์�สำร�างอะเรย์�เพื่��อน�าไปใช�งานเพื่��อน�าไปใช�งาน
8
• ร$ปแบบ array array([mixed…])
<?$arr = array ( 5,6,7,4,3,2,10,3,440 );$all = count ( $arr );for ($i=0;$i<$all;$i++){
print "$arr[$i ] ";}
?>
การการสำร�างอะเรย์�สำร�างอะเรย์�โดย์ใช�โดย์ใช�ฟั/งก�ชนฟั/งก�ชน arrayarray
9
$arr=arrray(10,20,30.30,"PHP","PROGRMMING");
for($r=0; $r < count($arr) ; $r++){ echo (" index $r = $arr [$r]<br>");
}
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
10
การการสำร�างอะเรย์�สำร�างอะเรย์�โดย์ใช�โดย์ใช�ฟั/งก�ชนฟั/งก�ชน rangerange
• ร$ปแบบ array range(int low, int high)• ตัวอย์�าง<?$arr = range ( 6,10);
$all = count ( $arr );for ($i=0;$i<$all;$i++){echo "arr [" .$i. "] = ";
echo $arr[$i ] ; echo "<BR>";
}?>
การสำร�างอาร�เรย์�ที่��มี�คื�าเป'นลี่�าดบตัวการสำร�างอาร�เรย์�ที่��มี�คื�าเป'นลี่�าดบตัวอกษรอกษร
<?$ar_val=range("a","z");foreach($ar_val as $eachvalue){
print $eachvalue."<br>\n";}?>
12
การน�าข�อมี$ลี่จาก การน�าข�อมี$ลี่จาก Text file Text file มีาเก%บไว�มีาเก%บไว�ใน ใน ArrayArray
• ข้�อม&ลที่��เก็�บในแตั�ละบรรที่ดคื�อ ข้�อม&ลในแตั�ละ Element ตัย์.
<?$des=file("text.txt");$count_des=count($des);if($count_des==0)
echo “ไม�ม�ข้�อม&ลในFile <br>”;for ($i=0;$i<$count_des;$i++)
echo $des[$i].“br>”;?>
13
• การอ�างตั�าแหน�งของอ!นเด%กซ์� เช�น$arr[3]="php";
• ใช� ข�อคืวามีสำ�ง for เช�น for ($i=0;$i<4;$i++){
echo $arr[$i]."<BR>";}
การเข�าถู2งข�อมี$ลี่ในอะเรย์�การเข�าถู2งข�อมี$ลี่ในอะเรย์�
14
<HTML><HEAD><TITLE>Figure -5 2</TITLE></HEAD><BODY><?
$Cities[] = "San Francisco"; $Cities[] = "Los Angeles"; $Cities[] = "New York"; $Cities[] = "Martinez";
// count number of elements $indexLimit = count($Cities);
// print out every element for($index=0; $index < $indexLimit;$index++)
{ print("City $index is $Cities[$index]. <BR>\n");
}?></BODY></HTML>
0City is San Francisco. 1 .City is Los Angeles 2 .City is New York 3 .City is Martinez
15
การใช�อะเรย์�หลี่าย์มี!ตั!การใช�อะเรย์�หลี่าย์มี!ตั!(Multidimensional Array)(Multidimensional Array)• ก�าหนดช��อตัวแปรแลี่�วตัามีด�วย์เคืร��อง [..]
[..] สำ�าหรบอะเรย์�สำองมี!ตั!แลี่ะ [.. ][.. ] [.. ] สำ�าหรบอะเรย์�สำามีมี!ตั!
$arr_2[1][1] = 4000; //$arr_2 เป.นอะเรย์�สองม$ตั$
$arr_3[1][1][1] = 2000;
//$arr_3 เป.นอะเรย์�สามม$ตั$
16
<?$dim = 3; for ($row=0;$row<=$dim;$row+
+) { for ($column=0;$column<=$dim;
$column++) { $myarray2[$row][$column] =
4*$row + $column; echo $myarray2[$row]
[$column]," ";}echo "<BR>";}
?>
ก็ารใชุ�ก็ารใชุ�อะเรย์�อะเรย์�หลาย์ม$ตั$ หลาย์ม$ตั$ ((ตั�อตั�อ))
17
อะเรย์�อะเรย์�แบบแบบคื&�คื&�
• ก็ารเก็�บข้�อม&ลในอะเรย์�แบบน�2จะใชุ�ก็บข้�อม&ลที่��จดเก็�บเป.นคื&�ๆ
• ใชุ�ที่-า lookup table
18
อะเรย์�อะเรย์�แบบแบบคื&�คื&� ((ตั�อตั�อ))• สมม�ตั$ว�า "red" ให�แที่นคื�า 0xff0000 "green" ให�
แที่นคื�า 00000 และ "blue" ให�แที่นคื�า 0 0000 โดย์เก็�บไว�ในอะเรย์�ชุ��อ $color_table
• คื-าส�งที่��ใชุ� $color_table["red"] = 0xff0000; $color_table["green"] = 0x00ff00; $color_table["blue"] = 0x0000ff;
$color_name= "red"; echo "value = ".
$color_table[ $color_name]."<BR>\n";
19
อะเรย์�อะเรย์�แบบแบบคื&�คื&� ((ตั�อตั�อ))• สร�างอะเรย์�แบบคื&�ได�โดย์ใชุ�ฟั5งก็�ชุน array ( )• จาก็ตัวอย์�างที่��แล�วเราสามารถสร�างอะเรย์�
แบบคื&�ได�โดย์ใชุ�ฟั5งก็�ชุน array ( ) ดงน�2
$color_table = array( "red" => 0xff0000, 0 0000"green" => x ff , 0 0000"blue" => x ff );
20
ตัวอย์�างตัวอย์�าง<?
$word[a] = "Ant";$word[b] = "Bat";$word[c] = "Cat";$word[d] = "Dog";print( "$word[d] , $word[a]");print ("<BR>");print( "$word[a] , $word[b]");
?>หร�อ<?$word = array( "a" => "Ant" , "b" =>
"Bat" , "c" => "Cat" , "d" => "Dog" ); print( "$word[d] , $word[c]"); print ("<BR>");print( "$word[b] , $word[a]"); ?>
21
ตัวอย์�างตัวอย์�าง• จาก็ตัวอย์�าง a,b, c, d จะเร�ย์ก็ว�า key และ
Ant, Bat , Cat, Dog จะเร�ย์ก็ว�า Value• ก็ารแสดงคื�า key และ value ข้องอะเรย์�แบบคื&�จะ
ใชุ�ฟั5งก็�ชุนชุ��อ key และ value เชุ�น<?
$keep_age = array( "wichai" => 15 , "jira" => 18 , "wittawat" => 30 , "chuchai" => 16 );$name =key($keep_age);$age =current($keep_age);print ("Age of <u>$name</u> is $age");
?>
22
เราสามารถสร�างอะเรย์�แบบเชุ��อมโย์งเป.นสองม$ตั$ได� เชุ�น<? $countries = array ( "thailand" => array ( "zone" => "Asia",
"D_NAM E" => ".th"), "malasia" => array ( "zone" => "Asia",
"D_NAM E" => ".my"), "india" => array ( "zone" => "Asia",
"D_NAM E" => ".in"), "holland“ => array ( "zone" => "Europe",
"D_NAM E" => ".nl"), "france" => array ( "zone" => "Europe",
"D_NAM E" => ".fr")); echo "domain name=".$countries[ "thailand"]
["D_NAME"]."<BR>\n"; ?>
23
การที่�องไปในอะเรย์�การที่�องไปในอะเรย์�แบบแบบคื$�คื$�
• ถ�าเราตั�องก็ารจะเข้�าถ,งข้�อม&ลแตั�ละคื&�ที่��ถ&ก็เก็�บอย์&�ในอะเรย์�แบบคื&� จะใชุ�ว$ธี�เร�ย์ก็ผ่�านฟั5งก็�ชุน each(
) และ list()
• ฟั5งก็�ชุน each()จะที่�องไปในอะเรย์�และส�งคื�ามาให�ฟั5งก็�ชุน list() ก็-าหนดให�ก็บตัวแปร 2 ตัว
24
unset($a); $a = array( "a" => 10, "b" => 20, "c" => 30 ); while (list($key, $value) = each($a)){ echo "$key=$value <BR>\n";}
จะได�ผ่ลลพื่ธี� a=10 , b=20 ,c=30
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
25
ตัวอย์�างตัวอย์�าง<?$keep_age = array( "wichai" => 15 ,
"jira" => 18 , "wittawas" => 30 , "chuchai" => 16 );while ( list( $name , $age ) = each( $keep_age ) ){
print(" $name = $age<br>"); }?>
26
ฟั/งก�ชนที่��เก��ย์วกบฟั/งก�ชนที่��เก��ย์วกบArrayArray
27
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน
void sort (array arr); • เป.นฟั5งก็�ชุนที่��ใชุ�ในก็ารเร�ย์งล-าดบราย์ก็ารข้�อ
ม&ลในอะเรย์�น2นโดย์จดเร�ย์งข้�อม&ลจาก็คื�าน�อย์ไปหาคื�ามาก็
• คื�าสำ�ง rsort ใช�สำ�าหรบเร�ย์งคื�าจากมีากไปหาน�อย์
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน sortsort
28
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน
void rsort (array arr); • เป.นฟั5งก็�ชุนที่��ใชุ�ในก็ารเร�ย์งล-าดบราย์ก็ารข้�อ
ม&ลในอะเรย์�น2นโดย์จดเร�ย์งข้�อม&ลจาก็คื�ามาก็ไปหาคื�าน�อย์
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน rsortrsort
29
$sort = array(50,40,30,20);
sort($sort);
for($r = 0; $r < count($sort);$r++){
echo “$sort[$r]<br>”;
}
2
0
3
0
4
0
5
0
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
30
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน
void asort (array
arr);
• เป.นฟั5งก็�ชุนที่��ใชุ�ในก็ารเร�ย์งล-าดบข้�อม&ลในอะเรย์�แบบคื&� โดย์จดเร�ย์งข้�อม&ลจาก็คื�า Value ที่��เก็�บไว�จาก็น�อย์ไปหาคื�ามาก็
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน asortasort
31
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน
void arsort (array
arr);
• เป.นฟั5งก็�ชุนที่��ใชุ�ในก็ารเร�ย์งล-าดบข้�อม&ลในอะเรย์�แบบคื&� โดย์จดเร�ย์งข้�อม&ลจาก็คื�า Value ที่��เก็�บไว�จาก็มาก็ไปหาคื�าน�อย์
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน arsortarsort
32
<? $keep_age = array( "wichai" => 15 , "jira" =>
18 , "wittawas" => 30 , "chuchai" => 16 ); asort( $keep_age );
do{ $name = key( $keep_age );$age = current( $keep_age );print "age of $name is $age<br>";
}while( next( $keep_age) );?>
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
33
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งานvoid ksort (array arr);
• เป.นฟั5งก็�ชุนที่��ใชุ�ในก็ารเร�ย์งล-าดบข้�อม&ลในอะเรย์�แบบคื&� โดย์จดเร�ย์งข้�อม&ลจาก็คื�า key ที่��เก็�บไว�จาก็น�อย์ไปหาคื�ามาก็
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน ksortksort
34
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งานvoid krsort (array arr);
• เป.นฟั5งก็�ชุนที่��ใชุ�ในก็ารเร�ย์งล-าดบข้�อม&ลในอะเรย์�แบบคื&� โดย์จดเร�ย์งข้�อม&ลจาก็คื�า key ที่��เก็�บไว�จาก็มาก็ไปหาคื�าน�อย์
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน krsortkrsort
35
<? $keep_age = array( "wichai" => 15 , "jira" =>
18 , "wittawas" => 30 , "chuchai" => 16 ); ksort( $keep_age );
do{ $name = key( $keep_age );$age = current( $keep_age );print "age of $name is $age<br>";
}while( next( $keep_age) );?>
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
36
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน max, minmax, min
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน max(array arr );min(array arr );
• ฟั5งก็�ชุน max ใชุ�ในก็ารหาคื�าส&งส�ดและ min ใชุ�ในก็ารหาคื�าตั-�าส�ด
<?$arr = array( 5,6,7,4,3,2,10,3,440 );
echo max( $arr) ,"<br>";echo min( $arr) ,"<br>";
?>
37
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน arrayarray
ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน array array( );
คื-าส�งที่��ใชุ�ในก็ารสร�างอะเรย์�โดย์เราสามารถก็-าหนดคื�าข้องดชุน�และคื�าข้องข้�อม&ลไปพื่ร�อมก็บก็ารสร�างอะเรย์�
$test1=array(); //สร�างอะเรย์�ว�าง $test1
38
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน array_walkarray_walk
• ฟั5งก็�ชุน array_walk• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน int array_walk(array
arr,string func);• คื-าส�งที่��ใชุ�ในก็ารเข้�าถ,งข้�อม&ลที่��เก็�บอย์&�ในร&ปแบบข้อ
งอะเรย์�โดย์ตั�องก็ารอาก็$วเมนตั�สองตัวคื�อ 1. อะเรย์�ที่��ตั�องก็ารเข้�าถ,งข้�อม&ลที่��เก็�บไว�ในอะเรย์�น2น
2. ชุ��อข้องฟั5งก็�ชุนที่��ตั�องก็ารเร�ย์ก็ใชุ�และตั�องม�ก็ารสร�างฟั5งก็�ชุนโดย์ม�ก็ารก็-าหนดตัวแปรพื่าราม$เตัอร�คือย์รบคื�า
39
• ร$ปแบบการใช�งาน void count (array
arr);
• คื�าสำ�งที่��ใช�นบจ�านวนของข�อมี$ลี่ที่��เก%บอย์$�ภาย์ในราย์การข�อมี$ลี่ของอะเรย์�น)นว�ามี�จ�านวนข�อมี$ลี่ที่)งหมีดเที่�าไร
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน countcount
40
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน currentcurrent•ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน mixed current(array arr);
•เป.นคื-าส�งที่��ใชุ�ในก็ารคื�นคื�าข้องข้�อม&ลที่��ตั-าแหน�ง พื่อย์น�เตัอร�(pointer)ชุ�2อย์&�(ภาย์ในราย์ก็ารข้�อม&ลข้องอะเรย์�จะม� pointer เป.นตัวระบ�ตั-าแหน�งป5จจ�บนข้องข้�อม&ลน2น)
41
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
$sort=array(50,40,30,20);echo current($sort),"br>"; //แสดงคื�
า 50next($sort);//เล��อน pointer ไปย์งข้�อม&ลตัวตั�อ
ไปecho current($sort); //แสดงคื�า 40
42
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน eacheach
•ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน array each (array arr);
•คื-าส�งที่��ใชุ�ในก็ารอ�านคื�าข้�อม&ลข้องอะเรย์�ที่�ละตัว เม��ออ�านแล�ว pointer ที่��ชุ�2ตั-าแหน�งข้องข้�อม&ลก็�จะเล��อนไปย์งข้�อม&ลตัวถดไป และคื�าที่��อ�านได�น2นจะเก็�บไว�ในอะเรย์�อ�ก็ที่�
43
$sort = array(5,40,30,20);$get = each($sort); /*คื�าใน $sort มาหน,�ง
คื�าแล�วเล��อน pointer ไปย์งข้�อม&ลตัวถดไปโดย์ $get จะเป.นตัวแปรอะเรย์�ที่��ร บคื�าที่��อ�านได� */
echo “$get[0] => $get[1] <br>”;echo “$get[key] => $get[value]”;
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
44
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน void end (array arr);
• เป.นคื-าส�งที่��ใชุ�เล��อน pointer ที่��ชุ�2ตั-าแหน�งที่��อย์&�ข้องข้�อม&ลป5จจ�บนไปย์งตั-าแน�งที่��อย์&�ส�ดที่�าย์ข้องราย์ก็ารข้�อม&ลข้องอะเรย์�น2น
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน endend
45
$sort = array ( 50, 40, 30, 20 ); echo current($sort).”<br>”// แสดงคื�า 50
end($sort); // เล��อน pointer ไปย์งข้�อม&ลตัวส�ดที่�าย์
echo current($sort); // แสดงคื�า 20
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
46
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งานฟั5งก็�ชุน mixed key (array arr);
• เป.นคื-าส�งที่��ใชุ�ในก็ารตัรวจสอบว�าตั-าแหน�งป5จจ�บนอย์&�ที่�� pointer ชุ�2ข้�อม&ลในอะเรย์�อย์&�น 2นดชุน�ข้องข้�อม&ลน2นม�คื�าเป.นอะไร
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน keykey
47
$sort = array (“start”=>50,40,30,”stop”=>20);
echo key($sort).”<br>”; // แสดงคื�าดชุน�ป5จจ�บนที่�� pointer ชุ�2อย์&� end($sort); // เล��อน pointer ไปย์งข้�อม&ลตัวตั�อไป
echo key($sort); // แสดงคื�าดชุน�ป5จจ�บนที่�� pointer ชุ�2อย์&�
Startstop
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
48
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน void list (var1,var2,…);
• คื-าส�งที่��ใชุ�ในก็ารรบคื�าที่��อ�านมาได�จาก็อะเรย์�โดย์จ-านวนข้องตัวแปร (var1,var2,…) ที่��ตั 2งรบในคื-าส�งน�2ข้,2นอย์&�ก็บข้นาดอะเรย์�ที่��ส�งคื�ามาให�ว�าอะเรย์�น2นส�งคื�าข้�อม&ลมาให�จ-านวนก็��คื�า
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน listlist
49
$arr = array(“A”=>10,”B”=>20,”C”=>30);while (list($key,$data)=each($arr)){
echo “$key =>$data<br>”;}
A 10=>
B20=> 30
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
50
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน mixed next(array arr)
• เป.นคื-าส�งที่��ใชุ�เล��อน pointer ให�ชุ�2ไปย์งข้�อม&ลตัวถดไปในราย์ก็ารข้�อม&ลข้องอะเรย์�
ฟั/งก�ชนฟั/งก�ชน nextnext
51
$sort = array(50,40,30,20);echo current($sort).:”<br>”;
// แสดงคื�าข้�อม&ลป5จจ�บนnext($sort);
// เล��อน pointer ไปย์งข้�อม&ลตัวตั�อไปecho current($sort);
// แสดงคื�าข้�อม&ลหลงจาก็เล��อน pointer
5
0
4
0
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
52
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งานmixed prev (array arr)
• เป.นคื-าส�งที่��ใชุ�เล��อน pointer ให�ชุ�2ไปย์งข้�อม&ลตัวก็�อนหน�าน�2ที่��ม�ก็ารเล��อน pointer มาในราย์ก็ารข้�อม&ลข้องอะเรย์�
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน prevprev
53
$sort = array(50,40,30,20);echo current($sort).”<br>”; // แสดงคื�าข้�อม&ลป5จจ�บนnext($sort); // เล��อน pointer เด$นหน�าไปย์งข้�อม&ลตัวตั�อไปecho current($sort).”<br>”; // แสดงคื�าข้�อม&ลหลงจาก็เล��อน pointerprev($sort); // เล��อน pointer ถอย์หลงไปย์งข้�อม&ลตัวก็�อนหน�าน�2echo current($sort); // แสดงคื�าข้�อม&ลหลงจาก็เล��อน pointer
5
0
4
0
5
0
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
54
• ร&ปแบบก็ารใชุ�งาน void reset (array arr)
• เป.นคื-าส�งที่��ก็-าหนดคื�าเร$�มตั�นข้อง pointer ใหม�โดย์ให�มาเร$�มตั�นที่��ข้�อม&ลตัวแรก็ข้องราย์ก็ารข้�อม&ลที่2งหมดไม�ว�าตัอนน2น pointer จะชุ�2อย์&�ที่��ข้�อม&ลใดก็�ตัาม
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน resetreset
55
$sort = array(50,40,30,20);echo current($sort).”<br>”; // แสดงคื�าข้�อม&ลป5จจ�บนnext($sort); // เล��อน pointer เด$นหน�าไปย์งข้�อม&ลตัวตั�อไปecho current($sort).”<br>”; //แสดงคื�าข้�อม&ลหลงจาก็เล��อน pointernext($sort); // เล��อน pointer เด$นหน�าไปย์งข้�อม&ลตัวตั�อไปecho current($sort).”<br>”; // แสดงคื�าข้�อม&ลหลงจาก็เล��อน pointernext($sort); // เล��อน pointer เด$นหน�าไปย์งข้�อม&ลตัวตั�อไป
echo current($sort).”<br>”; // แสดงคื�าข้�อม&ลหลงจาก็เล��อน pointerreset($sort); // ส�งให� pointer ไปเร$�มตั�นที่��ข้�อม&ลตัวแรก็ข้องราย์ก็ารecho current($sort); // แสดงคื�าข้�อม&ลหลงจาก็ใชุ�คื-าส�ง reset
ตัวอย์�างตัวอย์�าง
56
• ร$ปแบบการใช�งานint sizeof (array arr);
• การที่�างานของคื�าสำ�งน�)จะเหมี�อนกบคื�าสำ�ง count
ฟั/งก�ชน ฟั/งก�ชน sizeofsizeof
ก็ารสร�าง ก็ารสร�าง Array Array จาก็ข้�อคืวามจาก็ข้�อคืวาม• การแปลี่ง Array จากข�อคืวามีโดย์ตั�องหาตัวอกษรที่��
เป'นหลี่กในการตัดแบ�งออกเป'น Array<?$info=“โปรแกรมีคือมีพื่!วเตัอร� แลี่ะ เที่คืโนโลี่ย์�
สำารสำนเที่ศ คืณะว!ที่ย์าศาสำตัร�ฯ”; $dev=explode(“ ”,$info);for($i=0;$i<count($dev);$i++){print(“$i=$dev[$i]<br></n>”);}?>
ก็ารสร�างข้�อคืวามจาก็ ก็ารสร�างข้�อคืวามจาก็ ArrayArray• การแปลี่ง Array จากข�อคืวามีโดย์ตั�องหาตัวอกษรที่��
เป'นหลี่กในการตัดแบ�งออกเป'น Array<?
$aa=array(“Hello,”, “How”, “are”, “you”);
$bb=implode($aa,“ ”);print(“$bb”);
?>
แบบฝึ6กหดแบบฝึ6กหดข�อที่�� 11 .รบคื�าจ-านวนข้�อม&ลที่��ตั�องก็ารป9อน 2สร�าง TEXT BOX ตัามจ-านวนตัวเลข้ที่��ป9อน3 .ป9อนข้�อม&ลใน TEXT BOX4.น-าข้�อม&ลใน Text box เก็�บไว�ใน Array แล�วน-า
ข้�อม&ลใน Array แสดงในอ�ก็หน�า FORM 5.สร�างตัวเล�อก็ให�จดที่-าดงน�251. .ก็ารจดเร�ย์งข้�อม&ลใน Array จาก็น�อย์ไปมาก็ 52. .ก็ารจดเร�ย์งข้�อม&ลใน Array จาก็มาก็ไปน�อย์53. .หาคื�าส&งส�ดใน Array54. .หาคื�าตั-�าส�ดใน Array
60
ข�อ2เข้�ย์นโปรแก็รมรบคื�าตัวเลข้จาก็ก็ล�องข้�อคืวามแล�วเก็�บไว�ใน Array เพื่��อคื-านวณหาคื�า บวก็ ลบ คื&ณ หาร คื�าส&งส�ด คื�าตั-�าส�ด ชุ�ดข้�อม&ลใน Array ที่��เร�ย์งล-าดบจาก็น�อย์ไปหามาก็ และจ-านวน Element ใน Array พื่ร�อมก็บแสดงผ่ลลพื่ธี�ที่��ได� โดย์จดร&ปแบบตัามคืวามเหมาะสม
แบบฝึ6กหดแบบฝึ6กหด