24
ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 BROKER NEWS www.reba.or.th สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ 8 เปลี่ยนชื่อใหม่รับเปิดAEC “สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย” เตือนนายหน้าอสังหาฯรับมือต่างชาติบุกไทยชี้ราคาบ้าน-ที่ดินยังถูก B R O K E R สาเหตุที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงและลดลง “TheGalleryConferenceroom” ทำสัญญาแบบไม่โง่ต้อง ExclusiveList 7 2 6

Broker new 8

Embed Size (px)

DESCRIPTION

Broker new

Citation preview

Page 1: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWSwww.reba.or.th สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ 8

• คำเตือน ! ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านและที่ดิน

เปลี่ยนชื่อใหม่รับเปิด AEC “สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ไทย” เตือนนายหน้าอสังหาฯ รับมือต่างชาติบุกไทยชี้ราคาบ้าน-ที่ดินยังถูก

B R O K E R

สาเหตุที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงและลดลง

“The Gallery Conference room” ทำสัญญาแบบไม่โง่ ต้อง

Exclusive List

7 2 6

Page 2: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS� บท บ.ก.

หากคุณเลือกที่จะประกอบอาชีพนายหน้าแล้ว เรื่องการทำสัญญาเป็นเรื่องใหญ่ ผมให้ความสำคัญมากๆ หลักการง่ายๆ ป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกโกง

คุณอย่าทำสัญญา แบบ Open list ซึ่งเป็นสัญญาแบบเปิด ไม่ ได้เจาะจงคุณเป็นนายหน้าเพียงคน

เดียว รูปแบบการทำสัญญา แบบ Open list คือกำหนดให้ผู้ขายนั้นสามารถเปิด

ให้ใครขายทรัพย์ก็ได้ เรียกว่ามีนายหน้าติดต่อมา 10 คน ถ้าใครขายได้ก่อน ก็ได้ค่าคอมมิชชั่นไป ถ้าเราเป็นนายหน้าแล้วต้องลงทุนทำป้ายโฆษณา ไปติดป้าย ลงโฆษณาในสื่อต่างๆ แล้วคนอื่นมาเห็น แล้วเขานำไปขายได้ขึ้นมา เราก็จบเห่ อดรับประทาน แนวคิดผม ถ้าจะเป็นนายหน้ามืออาชีพต้องทำสัญญาแบบ

Exclusive List เท่านั้น สัญญาต้องแต่งตั้งเราเป็นผู้แทนขายแต่เพียงผู้

เดียว หมายความว่าฝากเราเพียงผู้เดียว ซึ่งข้อดีของมันคือ นายหน้าจะทำการตลาด

เพื่อขายทรัพย์ ได้เต็มที่ อัดไปเลยเต็มที่ ทั้งป้ายโฆษณา เว็บไซด์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ เพื่อให้ขายได้ เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าถ้าทรัพย์ขายได้ เราได้ค่าคอมมิชชั่นแน่นอน หากลงทุนไปก็มีโอกาสได้เงินกลับมา ที่ต้องบอกเช่นนี้ ก็เพราะมันมีกรณีการโกงเกิดขึ้นบ่อยทีเดียว หากว่านายหน้าไม่ได้ทำ Exclusive List แล้วบังเอิญเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ซื้อกับผู้ขายมาเจอกันเอง นั่นครับคือโอกาสที่นายหน้าจะถูกโกงเดินมาถึงหน้าประตูบ้านแล้วครับ ณ วันนี้วิธีการของแต่ละบริษัทหรือนายหน้าก็ทำงานต่างกัน บางรายไม่ให้ผู้ซื้อกับผู้ขายเจอกันเลย บางบริษัทเปิดให้ผู้ซื้อกับผู้ขายมาเจอกันโดยให้นายหน้าเป็นคนกลางก็มี หรือบางบริษัทก็ให้ผู้ขายมาเตรียมบ้าน และเจอนายหน้าฝ่ายผู้ซื้อได้ แต่ไม่ให้เจอตัวผู้ซื้อ หรือบางทีก็ให้นายหน้าผู้ขายไปเจอกับผู้ซื้อได้ แต่ไม่ยอมให้ผู้ขายไปเจอผู้ซื้อ

ทำสัญญาแบบไม่โง่ ต้อง Exclusive List เหตุการณ์นายหน้าถูกโกงนั้นเกิดขึ้นทุกวี่ทุกวัน เมื่อให้ผู้ซื้อกับผู้ขายไปเจอกันเอง และแอบติดต่อกันเพื่อซื้อขายกันเองโดยไม่ผ่านนายหน้า ซึ่งหมายความว่าไม่ต้องเสียเงินค่านายหน้า ซึ่งถ้าเป็นนายหน้ามืออาชีพเขาปล่อยให้เจอกันก็ไม่ต้องกังวล เพราะเขาทำ Exclusive List ไม่ต้องสนใจถ้าจะแอบไปขายกันเอง เพราะยังไงก็ต้องจ่ายนายหน้า 3 % แต่กรณีนี้ก็ไม่ใช่นายหน้าจะไม่ต้องทำอะไรนะ ยังไงก็ต้องทำป้ายโฆษณา ลงสื่อประชาสัมพันธ์ หาลูกค้าให้ ฉะนั้น 3% ก็เป็นผลตอบแทนที่นายหน้าควรได้รับ เพราะเขาทำการตลาดจริงๆ ที่สำคัญบางครั้งนายหน้าก็ยังโกงกันเองเลยครับ เช่น นายหน้าผู้ขายพอเจอผู้ซื้อแล้วก็ไปติดต่อตรงกับผู้ซื้อเอง ไม่ยอมผ่านนายหน้าผู้ซื้อ เพราะไปเจอกันแล้ว ซึ่งถ้าสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ได้รับร้องเรียนว่า มีนายหน้าทำเช่นนี้คือ ตัดนายหน้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกไปแล้วไปขายเอง เพื่อจะไม่ต้องแบ่งค่าคอม ถือว่าการกระทำผิดจรรยาบรรณ ถ้าปรากฏว่าเป็นสมาชิกสมาคมฯ อยู่ และตรวจสอบว่าผิดจริง สมาคมฯ ก็ยึดใบอนุญาตเป็นพนักงานขายอสังหาริมทรัพย์กันนี้ เพราะถือว่ามีเจตนาโกง ตั้งแต่เริ่มทำอาชีพ ที่สำคัญขนาดนายหน้าด้วยกันมันยังโกงได้เลย แล้วจะไม่โกงลูกค้าเชียวหรือ ปัจจุบันสมาคมฯก็พยายามควบคุมบริษัทนายหน้าหรือนายหน้าอิสระโดยการสอบใบอนุญาตเป็นพนักงานขายอสังหาฯ แต่ต้องเป็นสมาชิกสมาคมด้วยเหตุเพราะต้องมีการควบคุมคนไหน บริษัทไหนไม่ดีกำจัดซะ แล้วรัฐทำอะไร.....งง...มั้ย ต้องเห็นใจครับอย่างที่ผมบอกตั้งแต่ต้น ยาจกยันคุณนายเป็นนายหน้าอันที่จริงแล้วถ้าได้ออกพรบ.นายหน้านั่นคือการคุ้มครองผู้บริโภคโดยตรง ออกซะทีเถิด....รัฐ!

โดยมูฮัมหมัดอิกบาน เชตเตอร์โมฮามัด

BROKER NEWS

www.reba.or.th

Page 3: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS

Contents/สารบัญ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 No.8

BROKER NEWSwww.reba.or.th

เปลี่ยนชื่อใหม่รับเปิด AEC “สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย” 4

เตือนนายหน้าอสังหาฯ รับมือต่างชาติบุกไทยชี้ราคาบ้าน-ที่ดินยังถูก

“The Gallery Conference room” 6

สาเหตุที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงและลดลง 7

ห้องชุดยังไม่ล้นตลาด 8

คุณหมอกรีนเด็นทัลชวนเด็กๆ

ดูแลสุขภาพในช่องปากและฟันกันเถอะ 18

เตือน 5 โรคร้ายทำลายชีวิตครูพร้อมแนะเทคนิค

ดูแลแม่พิมพ์ด้วยอาหารสไตล์อายุรวัฒน์ 19

ดวง ฮวงจุ้ย “ปี่เซียะ สัตว์มงคลที่ทุกบ้านควรมีตามตำราจีน” 20

สังคมข่าวอสังหาฯ 10

DRT ชี้ตลาดวัสดุก่อสร้างปี 56 เน้น ‘สินค้าสำเร็จรูป’

หวังลดต้นทุนก่อสร้าง รับมือค่าแรงพุ่ง 13

อัดแคมเปญ “ห้าห่วง ฉลากเขียว

ไม่มีฝุ่นใยหิน ปลอดภัยหายห่วง” 14

สัมภาษณ์

เตือนผู้บริโภคใช้สิทธิ์ตรวจสอบรายรับนิติบุคคล

ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดฯ 15

“ที่ดินประเภทไหนที่จะออกโฉนดที่ดิน

หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้” 16

ทำสัญญาแบบไม่โง่ ต้อง Exclusive List

สำหรับสมาชิกที่ต้องการเผยแพร่ข่าวสารขององค์กร สามารถติดต่อสอบถามและส่งข้อมูลได้ที่

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

คุณดรุณี รุ่งเรืองผล โทร. 081-625-6628, 02-679-3255 ([email protected])

5

6

20

Page 4: Broker new 8

§ ข่าวสารจากสมาคมฯ ข่าว

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS�

เปลี่ยนชื่อใหม่รับเปิด AEC “สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ไทย” เตือนนายหน้าอสังหาฯรับมือต่างชาติบุกไทยชี้ราคาบ้าน-ที่ดินยังถูก

โดย นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล

นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย ์นายหน้าเปลี่ยนชื่อองค์กรใหม่ “สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย” เผยเพื่อเป็นการระบุสัญชาติเมื่อต้องทำงานร่วมกับชาติอื่น ๆ หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เตือนนายหน้าเตรียมรับมือต่างชาติบุกตลาดอสังหาฯ ชี้ราคาบ้านและที่ดินในประเทศราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับชาติอื่น ๆ ในอาเซียน นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ที่ประชุมใหญ่ของสมาคมฯ มีมติเห็นชอบให้มีการเปลี่ยนชื่อสมาคมฯ โดยใช้ชื่อว่า “สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย” (Thai Real Estate Broker Association) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนายหน้าที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ที่ต้องไปทำงานในประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน ซึ่งจะสามารถชี้ชัดและระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นนายหน้าจากประเทศไทย เห็นได้จากมาเลเซียก็ได้ระบุชื่อประเทศไว้ในชื่อของสมาคมด้วย การเติมคำว่า “ไทย” ลงท้ายชื่อเดิมของสมาคมฯ เพราะเชื่อว่าอนาคตนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ของไทยจะต้องเดินทางไปทำงานร่วมกับชาติอื่น ๆ จะทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนทราบว่ากำลังใช้

Page 5: Broker new 8

§ �

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จำนวน 300 ราย เพื่อ ทำหน้าที่ส่งเสริมการประกอบวิสาหกิจประเภทที่เกี่ยวกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งสนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิก แก้ ไข อุปสรรค์ข้อขัดข้องต่าง ๆ รวมทั้งเจรจาทำความตกลงกับบุคคลภายนอก เพื่อประโยชน์ร่วมกันในการประกอบวิสาหกิจของสมาชิก สอดส่องและติดตามความเคลื่อนไหวของการตลาดการค้าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่ออำนวยประโยชน์ แก่การประกอบธุรกิจการค้าอุตสาหกรรมการเงินหรือเศรษฐกิจ และให้ความอนุเคราะห์แก่สมาชิกในด้านสวัสดิการเท่าที่ไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509

บริการกับนายหน้าสัญชาติใด เนื่องจากอีกไม่นานธุรกิจนายหน้าอสังหา ริมทรัพย์จะเปิดกว้างสำหรับทุกคนในภูมิภาคนี้ “การเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่ได้มีส่วนช่วยนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทำงานง่ายขึ้นหลังจากเปิด AEC แต่นายหน้าทุกคนจะต้องปรับกลยุทธ์การทำงานและพัฒนาความรู้เพื่อรับมือกับการแข่งขันของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต เนื่องจากจะมีนายหน้าสัญชาติต่างๆ ในอาเซียนเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้จัดอบรมหลักสูตรต่างๆ เช่น หลักสูตรวิชาการบริหารธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการให้การรับรอง เพื่อเพิ่มทักษะและศักยภาพของนายหน้าไทยให้สามารถทำงานท่ามกลางการแข่งขันของตลาดได้ ที่สำคัญจะต้องมีการเรียนภาษาต่างประเทศ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่นของประเทศที่เราจะไปทำงาน เนื่องจากที่ผ่านมานายหน้าของเวียดนาม มาเลเซียและสิงคโปร์ได้ให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาไทยมากขึ้น ดังนั้น นายหน้าไทยจะต้องเตรียมความพร้อมด้านภาษาสำหรับการสื่อสารด้วย” นายแพทย์ สมศักดิ์กล่าว

สำหรับจุดอ่อนและข้อเสียเปรียบของนายหน้าไทยนั้นนายแพทย์สมศักดิ์ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยยังไม่มี พ.ร.บ. ออกมาบังคับใช้ ในขณะที่ชาติอื่น ๆ ในอาเซียนได้ประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวมานานแล้ว ดังนั้น หากนายหน้าไทยจะเดินทางไปทำงานที่มาเลเซียหรือสิงคโปร์จะต้องไปสอบเพื่อขอไลเซ่นส์จากประเทศนั้นๆ ในขณะที่นายหน้าต่างชาติ สามารถมาทำงานเมืองไทยได้เลยเนื่องจากมีไลเซ่นส์จากประเทศของเขาแล้ว ซึ่งจะทำให้นายหน้าไทยเสียเปรียบเพราะจะส่งผลถึงความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจจากผู้บริโภค ดังนั้น ภาครัฐบาลจะต้องเห็นความสำคัญของกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งสามารถสร้างงานและสามารถกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ “มั่นใจว่าหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะมีนายหน้าชาติอื่นๆ เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางที่อยู่ ในความสนใจจากประชาชนอาเซียน ที่สำคัญราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังถูกกว่าชาติอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จากต่างชาติจะเข้ามาแข่งขันกับคนไทยมากขึ้น หากคนไทยไม่ปรับตัวก็จะไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้” นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยกล่าว

Page 6: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS� ข่าวแนะนำโครงการ

“The Gallery Conference room” ห้องประชุม แนวใหม่ สไตล์ไม่เหมือนใคร ที่จะทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับโรงแรม หรือ สถานที่อื่นๆ เปิดให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการจัดประชุม อบรมสัมมนา หรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ โดยมีอุปกรณ์ชุดเครื่องเสียง, podium, White board, Projector ฯลฯ ให้บริการอย่างครบวงจร รวมถึงมีบริการจัด catering ซึ่งสถานที่ของเราสามารถรองรับได้มากถึง 100 คน ถ้าท่านต้องการสถานที่ ที่ใหม่ เดินทางสะดวกสบาย และการนำเสนอที่แตกต่างไปจากบรรยากาศเดิมๆ อย่าพลาดติดต่อเรา “The Gallery Conference room” ชั้น 6 อาคาร เดอะ เทรนดี้ ออฟฟิศ สุขุมวิท 13 ทำเลย่านใจกลางเมืองที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง โรงแรม ห้างสรรพสินค้า การคมนาคมสะดวกสบายทั้งที่จอดรถ และการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS นานา และ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท

ติ ด ต่ อ ส อ บ ถ า ม เ พิ่ ม เ ติ ม : โทร. +66 (0) 2646 2555, +66 (0) 8 5918 8872 www.biz-concierge.com

Page 7: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย

ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย

บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส สาเหตุที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงและลดลง

บทความ N

หรือกลายเป็น 2.1 เท่าของราคาเดิม เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า BTS ทำให้เกิดการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดมากมาย อันดับ 7 ถนนอโศกดินแดง (I1-3) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินเพียง 160,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 320,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.0 เท่าของราคาเดิม อันเป็นผลจากการพัฒนาที่ดินอย่างเข้มข้นบริเวณถนนรัชดาภิเษก อันดับ 8 ถนนพญาไท (I2-3) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินเพียง 350,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 700,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.0 เท่าของราคาเดิม เนื่องจากการที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นมากเช่นนี้ เพราะอิทธิพลของรถไฟฟ้าโดยตรง อันดับ 9 ถนนสาทร (I4-3) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินเพียง 550,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 1,100,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.0 เท่าของราคาเดิม เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมือง และมีรถไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียง อันดับ 10 ถนนพหลโยธินช่วงต้น (I1-1) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินเพียง 300,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 600,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.0 เท่าของราคาเดิม ซึ่งก็เช่นเดียวกัน เป็นผลจากรถไฟฟ้าโดยตรง ในทางตรงกันข้าม พื้นที่ที่ราคาที่ดินลด มีที่สำคัญดังนี้ : อันดับ 1 ถนนเลียบคลอง 15 กม.ที่ 5 (A6-4) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินถึง 3,500 บาทต่อตารางวา ลงลงเหลือเพียง 2,500 บาทต่อตารางวา หรือเหลือเพียง 71% ของราคาเดิม เพราะขาดสาธารณูปโภคใหญ่ ๆ ในพื้นที่ อันดับ 2 ตรงข้ามศูนย์ศิลปาชีพบางไทร (A1-2) มีราคาเมื่อ พ.ศ.2550 เป็นเงินถึง 5,500 บาทต่อตารางวา ลงลงเหลือเพียง 4,600 บาทต่อตารางวา หรือเหลือเพียง 84% ของราคาเดิม เพราะมีการกำหนดห้ามก่อสร้างในบริเวณนี้ ทำให้ราคาที่ดินถูกจำกัดไว้ อันดับ 3 เขตหนอกจอก (E4-2) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินถึง 11,300 บาทต่อตารางวา ลงลงเหลือเพียง 10,000 บาทต่อตารางวา หรือเหลือเพียง 88% ของราคาเดิม เพราะห่างไกลความเจริญในใจกลางเมือง อันดับ 4 ถนนปทุมธานี สามโคก กม.16 (N7-3) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินถึง 10,000 บาทต่อตารางวา ลงลงเหลือเพียง 9,000 บาทต่อตารางวา หรือเหลือเพียง 90% ของราคาเดิม เพราะห่างไกลความเจริญ และยังมีพื้นที่อื่นพัฒนาอีกมาก อันดับ 5 ถนนลำต้อยติ่ง (E5-2) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินถึง 5,300 บาทต่อตารางวา ลงลงเหลือเพียง 5,000 บาทต่อตารางวา หรือเหลือเพียง 94% ของราคาเดิม เพราะสาธารณูปโภคมีจำกัด อันดับ 6 ถนนทองสัมฤทธิ์ (E5-3) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินถึง 10,000 บาทต่อตารางวา ลงลงเหลือเพียง 9,500 บาทต่อตารางวา หรือเหลือเพียง 95% ของราคาเดิม เพราะขาดสาธารณูปโภคใหญ่ ๆ ในพื้นที่ อันดับ 7 บางปู (H7-1) มีราคาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นเงินถึง 11,500 บาทต่อตารางวา ลงลงเหลือเพียง 11,000 บาทต่อตารางวา หรือเหลือเพียง 96% ของราคาเดิม เพราะเป็นพื้นที่ ๆ ไม่มีกิจกรรมใด ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าการก่อสร้างสาธารณูปโภค โดยเฉพาะทางด่วน รถไฟฟ้า จะเป็นตัวแปรสำคัญ และหากลงทุนด้วยการวางแผนที่ดีเพียงพอ จะทำให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ลงทุน รัฐบาล ประชาชน และสังคมโดยรวม

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ระบุ ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง เพราะสาธารณูปโภค เป็นสำคัญ โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้า ทำให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการวิจัยราคาที่ดินต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ.2537 ของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า ในรอบ 5 ปีล่าสุด (พ.ศ.2550-2555) ราคาที่ดินบางบริเวณขึ้นสูงมาก แต่บางบริเวณกลับตก นักลงทุนจึงพึงเรียนรู้สาเหตุและลักษณะการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดิน พื้นที่ที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นมาก ได้แก่ : อันดับ 1 ถนนสุขุมวิท บริเวณอาคารไทม์สแควร์ (I3-1) มีราคาเมื่อ พ.ศ.2550 เป็นเงินเพียง 500,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 1,300,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.6 เท่าของราคาเดิม เนื่องจากการที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นมากเช่นนี้ เพราะอิทธิพลของรถไฟฟ้าโดยตรง อันดับ 2 ถนนวิทยุ (I2-5) มีราคาเมื่อ พ.ศ.2550 เป็นเงินเพียง 550,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 1,300,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.4 เท่าของราคาเดิม เนื่องจากการพัฒนาโครงการธุรกิจอย่างเข้มข้นต่อเนื่องในพื้นที่นี้ อันดับ 3 ถนนสุขุมวิท 21 (I3-2) มีราคาเมื่อ พ.ศ.2550 เป็นเงินเพียง 360,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.2 เท่าของราคาเดิม เช่นเดียวกันเป็นเพราะการที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นมากเช่นนี้ เพราะอิทธิพลของรถไฟฟ้าโดยตรง อันดับ 4 ถนนสุขุมวิท บริเวณสถานีขนส่งเอกมัย (I3-4) มีราคาเมื่อ พ.ศ.2550 เป็นเงินเพียง 340,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 750,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.2 เท่าของราคาเดิม ผิดกับบริเวณถนนพระรามที่ 4 กล้วยน้ำไท ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นน้อยมาก เพราะไม่มีรถไฟฟ้า อันดับ 5 บริเวณสยามสแควร์ (I2-4) มีราคาเมื่อ พ.ศ.2550 เป็นเงินเพียง 700,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 1,500,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.1 เท่าของราคาเดิม เพราะเป็นศูนย์รวมรถไฟฟ้า BTS และมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่อเนื่อง อันดับ 6 ถนนสุขุมวิท 62 บางจาก (G3-1) มีราคาเมื่อ พ.ศ.2550 เป็นเงินเพียง 170,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 350,000 บาทต่อตารางวา

Page 8: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS� บทความ N

ห้องชุดยังไม่ล้นตลาด

ตามที่มีข่าวว่าห้องชุดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะล้นตลาดนั้น ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ยืนยันจากประสบการณ์สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยาวนานที่สุดตั้งแต่ พ.ศ. 2537 ยืนยันว่า ยังไม่จริง

ตารางการเปิดตัวโครงการอาคารชุดใน กทม และปริมณฑล พ.ศ. 2555 ระดับราคาห้องชุด จำนวนหน่วย มูลค่า (ล้านบาท) 0.501-1.000 8,551 7,780 1.001-2.000 29,951 43,149 2.001-3.000 9,930 25,230 3.001-5.000 7,112 27,620 5.001-10.000 2,946 18,786 10.001-20.000 706 10,037 > 20.000 34 1,435 โดยรวม 59,230 134,037 สัดส่วนต่อที่อยู่อาศัยทั้งหมด 64% 50% ที่มา : ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th)

จะเห็นได้ว่าในปี พ.ศ. 2555 ทั้งปี มีโครงการอาคารชุดเปิดตัวใหม่จริงๆ 59,230 หน่วย โดยไม่รวมหน่วยที่ โฆษณาแล้วไม่ได้เปิด ไม่รวมที่เป็นระยะ (Phase) ต่อไปที่ยังไม่ได้เปิดขาย ไม่รวมที่ขออนุญาตก่อสร้างแต่ไม่ได้สร้าง แต่รวมที่สร้างแต่ไมได้ขออนุญาต รวมมูลค่า 134,037 ล้านบาท จำนวนหน่วยนี้มีสัดส่วนประมาณ 64% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่เปิด แต่มีมูลค่าเพียง 50% ของหน่วยขายที่เปิด เพราะส่วนใหญ่เป็นห้องชุดในระดับราคาที่ไม่แพง การที่ห้องชุดมีสัดส่วนถึง 64% ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าจะเกิดฟองสบู่นั้น ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นเกิดได้ยากในไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี พ.ศ.2555 เนื่องจากประชาชนและนักลงทุนบางส่วนยังกลัวว่าจะเกิดน้ำท่วมอีกส ทำให้การเปิดตัวของโครงการที่อยู่อาศัยหลัก ๆ เป็นห้องชุดพักอาศัย แต่จะสังเกตว่าในภายหลัง ก็เริ่มมี

Page 9: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWSข่าวอสังหาริมทรัพย์ U

โครงการที่อยู่อาศัยประเภทอื่นเกิดมากขึ้น โดยเฉพาะในทำเลน้ำท่วมเดิม ทำให้เห็นว่าน้ำท่วมไม่ ได้ทำให้เกิดปัญหาราคาลดลง หรือเกิดปัญหาการถดถอยของตลาดที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด จากการสำรวจห้องชุดพักอาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของศูนย์ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เมื่อเดือนกันยายน 2555 พบว่า 1. ห้องชุดที่สร้างเป็นห้องชุดตามแนวรถไฟฟ้าซึ่งมีศักยภาพค่อนข้างสูง ในพื้นที่ศักยภาพต่ำ ไม่ค่อยมีการสร้างจึงไม่ค่อยมีความเสี่ยง 2. ยังมีผู้ซื้อบ้านโดยเฉพาะห้องชุดเป็นจำนวนมาก 3. ยังมีผู้เข้าอยู่อาศัยในบ้านโดยเฉพาะห้องชุดเป็นจำนวนมากเมื่อสร้างเสร็จ ไม่ได้ปล่อยร้างไว้ โดยประมาณ 75% มีผู้ย้ายเข้าอยู่ 4. ผู้เข้าอยู่ยังเป็นผู้ซื้ออยู่เองเป็นส่วนใหญ่ถึง 75% ไม่ใช่ผู้เช่า ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ผู้ซื้ออยู่ยังมีสัดส่วนเป็นสองเท่าของผู้เก็บกำไร แปลว่าสถานการณ์ยังดีอยู่ 5. ราคาห้องชุดที่ซื้อไว้ยังเพิ่มสูงขึ้นปีละประมาณ 5% 6. อัตราผลตอบแทนในการลงทุนซื้อห้องชุดยังเป็นเงินสูงถึงประมาณ 6% 7. ห้องชุดส่วนใหญ่กำลังก่อสร้าง หากสถานการณ์กลับไม่ดี ก็อาจยกเลิกโครงการไป ดังนั้น จึงไม่เกิดฟองสบู่ จนกลายเป็น Overbuilt หรือ Oversupplied ไป สถานการณ์ในขณะนี้ผู้ซื้อไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดฟองสบู่ หากสินค้าที่ซื้อมีศักยภาพ นอกจากนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ยังแนะนำให้ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุนพิจารณาซื้อสินค้าห้องชุดมือสอง เพราะสามารถเข้าอยู่ ได้เลย ไม่ต้องกลัวจะได้แต่สัญญาซื้อ สร้างเสร็จแน่นอน มักตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากกว่า สามารถพิจารณาได้ว่ามีการดูแลชุมชนและทรัพย์สินดีหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดราคามักถูกกว่าห้องชุดมือหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม การป้องกันการเกิดฟองสบู่สามารถทำได้ รัฐบาลสมควรดำเนินการดังนี้ : 1. การปรามการซื้อ เช่น ในกรณีประเทศจีน กำหนดให้ผู้ซื้อบ้านหลังแรก ต้องวางเงินดาวน์ 20-30% การวางเงินดาวน์เพียง 5-10% เช่นในประเทศไทยทุกวันนี้จะถูกยกเลิก และเมื่อยังไมได้ผลก็กำหนดให้ผู้ซื้อบ้านหลังที่สองห้ามกู้เงินสถาบันการเงิน ต้องใช้เงินสดส่วนตัว แต่เมื่อไม่เป็นผล เพราะบางคนอาจให้ลูกหรือภริยาซื้อบ้านแทนตน รัฐบาลก็กำหนดให้ครอบครัวหนึ่งสามารถกู้เงินซื้อบ้านหลังแรกเพียงหลังเดียว หลังต่อมาต้องใช้เงินสดส่วนตัว 2. การปรามการเก็งกำไร เช่น รัฐบาลฮ่องกงกำหนดให้ ผู้ที่ซื้อบ้านและโอนภายในเวลา 6 เดือน ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอน 15% ของราคาขาย (ไม่ใช่ส่วนต่างของกำไร) แต่ถ้าโอนภายใน 1 ป ี ก็เสียภาษี 10% และหากโอนภายใน 2 ปี ก็จะเสียภาษีเพียง 5% เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อการหยุดการเก็งกำไรอย่างมีประสิทธิผล 3. การหยุดการซื้อ เช่น รัฐบาลสิงคโปร์ กำหนดให้คนต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ หรือคนสิงคโปร์ที่ซื้อบ้านหลังที่สอง ซึ่งส่วนมากก็ซื้อเพื่อการเก็งกำไร ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอน 15% และ 5% ตามลำดับ ดังนั้นการเก็งกำไรต่าง ๆ จึงหมดไปในเวลาอันสั้น มาตรการเหล่านี้อาจทำให้บริษัทพัฒนาที่ดินไม่สามารถประกอบธุรกิจได้เป็นล่ำเป็นสันเช่นแต่ก่อน แต่ก็เป็นการคุ้มครองผู้บริโภค และบรรเทาความร้อนแรงของตลาด ป้องปรามการทำกำไรโดยไม่ ได้ทำอะไร (Unearned Increment of Value) ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไม่ล้มครืน ไม่ทำให้ประชาชนหลงมาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ราคาเพิ่มขึ้นโดยที่ตนเองไม่ได้ลงทุนลงแรงทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในยามนี้ ยังอาจไม่จำเป็นต้องออกมาตรการแบบ “ยาแรง” เช่นประเทศเพื่อนบ้าน แต่เชื่อว่า หากเกิดวิกฤติฟองสบู่เช่นที่เคยเกิดขึ้นจริง ส่วนราชการต่าง ๆ ก็คงไม่ทำอะไรมาก เพราะเกรงผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน อย่างมากก็คงทำแบบการเตือนนักการพนันตามภาพ

Page 10: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS10 สังคมข่าวอสังหาฯ

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย จัดอบรมหลักสูตรนายหน้ามืออาชีพ เมื่อเร็ว ๆ นี้สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ไทย ได้จัดให้มีการฝึกอบรมหลักสูตรนายหน้ามืออาชีพ งานนี้นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ไทย นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล ได้ร่วมงานและเป็นประธานในพิธีเปิด และได้รับเกียรติจากอาจารย์ไพรัตน์ ร่วมเป็นวิทยากรในหัวข้อต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้นายหน้ามีความรู้และสามารถนำไปใช้งานการปฏิบัติงานได้ โดยเริ่มจากหัวข้อ คุณสมบัติของนายหน้ามืออาชีพ สิ่งที่นายหน้ามืออาชีพต้องรู้ รวมทั้ง กลยุทธ์ในการเรียนรู้ลูกค้าและเทคนิคการปิดการขายแบบมืออาชีพ นอกจากนี้แล้วยังได้รับเกียรติจากอาจารย์ธงชัย ร่วมเป็นวิทยากรในหัวข้อมูล กระบวนการขายแบบมืออาชีพ

Page 11: Broker new 8

11

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWSข่าวอสังหาริมทรัพย์ U

สัมผัสความสุขทุกรูปแบบได้ ใกล้ๆ กับคอนโดมิเนียมทำเลดีที่สุดใจกลางเมืองภูเก็ต ที่ล้อมรอบด้วยสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกการเดินทาง ให้คุณอัพเดททุกเรื่องราวได้อย่างง่ายดาย ตอบไลฟ์สไตล์สำหรับชีวิตที่ชอบสังคม กับเพื่อนฝูงอย่างลงตัว ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำกัดการใช้ชีวิตแบบคนเมืองกับแนวคิดที่มากกว่าบ้าน เป็นสถานที่พักผ่อน พร้อมสระว่ายน้ำ สวนส่วนตัวและสวนพักผ่อนเหมาะสำหรับพัตต์กอล์ฟหรือออกกำลังกาย ลงตัวทุกไลฟ์สไตล์ โครงการ “เซนทริโอ” คอนโดมิเนียม ภูเก็ต พัฒนาโดย บริษัท เอเบิ้ล แอสเสท จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาฯ คุณภาพ ภายใต้การดำเนินงานโดย ผู้มีประสบการณ์ในวงการอสังหาฯ ยาวนานมากกว่า 30 ปี ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการบนทำเลศักยภาพในเมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาเคยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในรูปแบบบริษัทและการรวมกลุ่มพัฒนาโครงการต่างๆ ในเมืองท่องเที่ยวมาแล้วหลายโครงการ เช่น โครงการ บ้านวิววิมาน คอนโดมิเนียม หัวหิน พัฒนาโดยบริษัท สิทธารมย์ เรสซิเดนซ์ จำกัด โครงการใหม่ล่าสุด “เซนทริโอ” คอนโดมิเนียม ภูเก็ต เป็นคอนโดฯ โลว์ไรส์ 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 504 ยูนิต มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 30-60 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท หรือประมาณ 48,500 บาท ต่อ ตารางเมตร มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท โครงการประกอบด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง บริเวณโถงพักคอย สนามพัตต์กอล์ฟ ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เข้า-ออก ด้วยระบบคีย์การ์ด เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนไทยและต่างชาติในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ในสัดส่วน 70:30 ตามลำดับ คาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้ในต้นปี 2556 และแล้วเสร็จในปลายปี 2558 สะท้อนชีวิตทุกด้านทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยห้องเพดานสูง หน้าต่างบานใหญ่ บนทำเลใจกลางเมือง สัมผัสบรรยากาศมนต์เสน่ห์เมืองภูเก็ตได้ทุกวันบ่งบอกความทันสมัย ดีไซน์ที่แตกต่าง ตกแต่งครัวบิวอินท์ที่สั่งทำขึ้นมาตามรูปแบบ

เอเบิ้ล แอสเสท นำเสนอโครงการ “เซนทริโอ” ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต

การใช้งาน โดยเน้นประโยชน์ใช้สอยเพื่อตอบสนองความต้องการของชีวิตที่ทันสมัย พร้อมระเบียงโอ่อ่ากว้างขวางให้คุณสัมผัสบรรยากาศส่วนตัวของสวนส่วนกลางด้านล่าง ที่รองรับความสุขจากการพักผ่อนได้ทุกเวลา สัมผัสความสุขทุกรูปแบบได้ใกล้ๆ กับคอนโดมิเนียมทำเลดีที่สุดของใจกลางเมืองภูเก็ต นิยามที่ใช่ของทุกสไตล์ชีวิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 082-4141-222, 082-4141-666 หรือ คลิก www.thecentrio.com

Page 12: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS1�

“วิลเลต ซิตี้ พัฒนาการ” โครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นจาก บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการกว่า 45 ไร่ จำนวน 482 ยูนิต สไตล์ Modern Contemporary ความสมบูรณ์แบบที่ เรียบง่าย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Impressive Lines เน้นมิติทางเส้นสายการออกแบบเชิงสถาปัตย์ ผสานกับความโปร่งของโครงสร้าง และการใช้ระแนงเหล็กทั้งแนวตั้ง และแนวนอน ผสานกับบานกระจกของบ้านสไตล์ทรอปิคัล มีการวางผังทางเข้าบ้านที่ โดดเด่นและการวางตำแหน่งฟังก์ชันใช้สอยของห้องต่างๆ ไว้อย่างลงตัว ช่วยให้ทุกทิศทางของบ้านเปิดรับลมได้อย่างเต็มที่ และสามารถมองเห็นวิวสวนสวยจากภายนอกบ้านเพื่อลดทอนความอึดอัดภายในบ้าน ไม่เพียงโดดเด่นด้านโครงสร้าง แต่ยังคำนึงถึงการพักอาศัยที่ยืดหยุ่นกับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบบ้านดีไซน์ทันสมัยอีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถปรับฟังก์ชั่นภายในสำหรับเป็นโฮมออฟฟิศ สำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจขนาดเล็กได้อีกด้วย มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ City Suite หน้ากว้าง 5.65 เมตร ขนาดที่ดินเริ่ม 20.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 172 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ City Space หน้ากว้าง 5 เมตร ขนาดที่ดินเริ่ม 19.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการประกอบด้วย สโมสร สระว่ายน้ำ ลู่วิ่งออกกำลังกายสำหรับผู้รักสุขภาพ ที่จอดจักรยาน ระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา และ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่สไตล์ Grand Scenery ที่เน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย แต่สะดุดตาด้วยการใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างพรรณไม้สีเขียว และสิ่งก่อสร้างที่ถูกจัดวางอย่างลงตัวกับกิจกรรมต่างๆ โดยใช้ “เส้นสาย” มาใช้เป็นองค์ประกอบศิลป์ได้อย่างลงตัว เว้น

ช่องให้แสงแดดลอดผ่านสะท้อนเห็นแสงระยิบระยับชวนมอง เมื่ออยู่รวมกับเส้นสายใบไม้สีเขียวก็ยิ่งช่วยเสริมบรรยากาศให้สะดุดตามากยิ่งขึ้น เป็นความงามแบบเรียบง่ายที่ลงตัว โครงการตั้งอยู่ในพฤกษา อเวนิว (Pruksa Avenue) ซอยพัฒนาการ 38 เดินทางสะดวกด้วย แอร์พอร์ตเรลลิ้ งค์ สถานีหัวหมาก และ

รามคำแหง ใกล้ทองหล่อเพียง 5 กม. เชื่อมต่อกับถนนหลักที่ เข้าสู่ ใจกลางเมืองได้หลากหลายเส้นทาง ได้แก่ สุขุมวิท เพชรบุรีตัดใหม่ ศรีนครินทร์ และทางด่วน (พัฒนาการ) ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท สนใจแวะชมโครงการได้แล้ววันนี้ สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1739 หรือ www.pruksa.com

ข่าวอสังหาริมทรัพย์ U

วิลเลต ซิตี้ พัฒนาการ

Page 13: Broker new 8

DRT ชี้ตลาดวัสดุก่อสร้างปี 56 เน้น ‘สินค้าสำเร็จรูป’ หวังลดต้นทุนก่อสร้าง รับมือค่าแรงพุ่ง

13

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS

‘ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ ชี้แนวโน้มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างปี 56 จะมุ่งเน้นนำเสนอสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มมากขึ้น หวังช่วยลดระยะเวลาก่อสร้างและต้นทุนแรงงาน รองรับกับการปรับเพิ่มค่าแรง 300 บาทและแรงงานภาคก่อสร้างขาดแคลน ระบุช่องทางขายผ่านร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่โตต่อเนื่อง หลังพฤติกรรมเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าหนุน มั่นใจสินค้ากลุ่มกระเบื้องคอนกรีตและกลุ่มไม้สังเคราะห์ยังมาแรง หลังทำยอดขายเติบโตได้ดี นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า แนวโน้มของตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2556 จะได้รับแรงกดดันจากนโยบายของภาครัฐที่มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนก่อสร้างโดยรวมปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่รุนแรงขึ้น จะทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างมองหาผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการก่อสร้างให้เร็วขึ้น เพื่อลดการใช้แรงงาน ทำให้ต้นทุนก่อสร้างลดลง ในส่วนช่องทางจำหน่ายนั้น พบว่า การจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ยังขยายตัวได้ดี โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีแผนลงทุนขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสดีของตราเพชรในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายไปยังกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง ทั้งนี้ บริษัทฯได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดและการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางดังกล่าวไว้แล้ว เพื่อรองรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าที่นิยมเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างผ่านร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่มากขึ้น “เรามองว่า ในปีหน้า ปัจจัยด้านต้นทุนแรงงานจะเข้ามากดดันทำให้ผู้รับเหมามองหาสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ช่วยให้การก่อสร้างเร็วขึ้น เช่น เดิมใช้อิฐมอญก่อสร้างผนัง ก็จะปรับเปลี่ยนมาใช้อิฐมวลเบามากขึ้น เพื่อลดขั้นตอนการก่อและฉาบ หรือเลือกใช้ ไม้บอร์ดเข้ามาช่วยก่อสร้างผนังแทน ซึ่งจะใช้

แรงงานน้อยลง โดยในส่วนของตราเพชรนั้น เรามีความพร้อมด้านการผลิตและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าว เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ตราเพชรและสร้างยอดขายให้เติบโตขึ้น” นายสาธิตกล่าว รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ส่วนสินค้าวัสดุก่อสร้างที่คาดว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดีในปี 2556 ได้แก่ สินค้ากลุ่มกระเบื้องหลังคาคอนกรีตในรูปแบบลอนคู่และแบบเรียบหลัง ซึ่งในช่วง 11 เดือนแรก ตราเพชรทำยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเติบโตขึ้น 10-15% โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่มุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการซื้อของผู้บริโภค ขณะที่กลุ่มสินค้าไม้สังเคราะห์ถือเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่น โดยมีอัตราเติบโต 15-20% โดยเฉพาะไม้ฝาที่นำมาใช้ ในงานก่อสร้างมากขึ้น “เรามองว่า การเติบโตของกระเบื้องคอนกรีตและกลุ่มไม้สังเคราะห์ของตราเพชรนั้น มาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางขายผ่านร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่สินค้าสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งแบรนด์ตราเพชรมีความแข็งแกร่งและได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมสัดส่วนการขายจากร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 8-9% จากยอดขายทั้งหมด จากเดิมที่มีสัดส่วนยอดขายเพียงแค่ 2-3% เท่านั้น” นายสาธิต กล่าว

N ข่าวอสังหาริมทรัพย์ U

Page 14: Broker new 8

ข่าวอสังหาริมทรัพย์ U

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS14

ห้าห่วง เดินหน้าอัดแคมเปญ

“ห้าห่วง ฉลากเขียว ไม่มีฝุ่นใยหิน ปลอดภัยหายห่วง” ย้ำผู้บริโภคเลือก

หลังคาไม่มีแร่ใยหินที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ตั้งเป้าปี 56 ขอโตอีก 10%

นายปิยะพร กลันทกพันธุ ์รองผู้อำนวยการบริหารการตลาด บริษัทโอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดของผลิตภัณฑ์หลังคา “ตราห้าห่วง” ในปี 2556 ที่จะถึงนี้ว่า จะมุ่งเน้นทำกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ “ห้าห่วง ฉลากเขียว” โดยเฉพาะจุดขายหลัก...ไร้ใยหิน “บริษัทฯ วางแผนที่จะสร้างภาพลักษณ์สินค้า “ห้าห่วง ฉลากเขียว” ด้วยแคมเปญ “ห้าห่วง ฉลากเขียว ไม่มีฝุ่นใยหิน ปลอดภัยหายห่วง” โดยจะใช้งบประมาณทั้ งสิ้นกว่า 30 ล้านบาท ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ หลายช่องทาง ทั้งโฆษณาทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และ ป้ายหน้าร้านค้า เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคตระหนักถึงอันตรายของแร่ใยหิน ซึ่งคาดว่ากลยุทธ์การสร้างการรับรู้ของ

ห้าห่วง ฉลากเขียว ในเรื่องกระเบื้องหลังคาที่ปลอดภัย ไม่มีฝุ่นใยหิน จะสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายขึ้นอีก 10% ในปี 2556 นี้” สำหรับผลิตภัณฑ์ “ห้าห่วง ฉลากเขียว” บริษัทฯ ได้มีการปรับกระบวนการผลิตโดยไม่ใช้แร่ใยหินมานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งในการเปลี่ยนกระบวนการผลิตนี้ พบว่าไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพราะเป็นการเปลี่ยนเพียงส่วนเตรียมเยื่อวัตถุดิบเท่านั้นซึ่งใช้เวลาเพียง 6 เดือน โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ดีขึ้นให้แก่ผู้บริโภค และตัวแทนจำหน่ายสามารถมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพสินค้า ความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 1407-2540 นอกจากนี้ยังพบว่าเนื้อกระเบื้องมีความเหนียวเพิ่มขึ้น สามารถทนแรงกระแทกจากลูกเห็บได้มากกว่ารุ่นเดิมถึง 3 เท่า (ทดสอบโดยศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าอิเล็dทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง) และจากการสำรวจตลาดในเบื้องต้นพบว่า กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ในปัจจุบันคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงยึดถือเรื่องนี้เป็นจุดสำคัญหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในเรื่องของความรับผิดชอบต่อสุขภาพที่ดีทั้งของพนักงาน ตัวแทนจำหน่าย ช่าง และผู้บริโภค

ตลอดจนสั งคมโดยรวม และสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในเรื่องของการไม่หยุดนิ่งในการทำธุรกิจที่ถือว่าบริษัทฯเป็นส่วนหนึ่งของสังคม โดยการนำเสนอสิ่งที่ดีขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้นแก่ผู้บริโภค จึ ง ถื อ เ ป็ น พั น ธ กิ จ ข อ ง บริษัทฯ ซึ่งจะทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม จาก

การประชุมครม.เมื่อ 12 เม.ย. 54 ได้เห็นชอบมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2553 มาตรการ “สังคมไทยไร้ใยหิน” และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องแร่ใยหินไครโซไทล์ ถูกใช้ผสมเป็นวัตถุดิบและเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคา ยืนยันว่า แร่ใยหินทุกชนิด ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ทั้งสิ้น ดังนั้นวิธีที่จะขจัดโรคจากแร่ใยหินได้ คือ การยกเลิกการใช้แร่ใยหินทุกชนิด และสนับสนุนการใช้สารทดแทน ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

Page 15: Broker new 8

± สัมภาษณ์

เตือนผู้บริโภคใช้สิทธิ์ตรวจสอบรายรับนิติบุคคล ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดฯ HBIRM ชี้หากผู้ประกอบการเลี่ยงกฎหมายส่อแววกระทบอาคารเสื่อมโทรม

15

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS

HBIRM เผยยังมีผู้ประกอบการคอนโดฯ เลี่ยงกฎหมายนิติบุคคลอาคารชุด ยืนยันกระทบคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย และอาคารเสื่อมโทรมส่อแววมูลค่าในอนาคตตกต่ำ เตือนผู้บริโภคใช้สิทธิ์ตรวจสอบรายรับนิติบุคคล ทั้งค่าส่วนกลางและเงินกองทุนก่อนตัดสินใจซื้อ นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช บี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) เปิดเผยถึงการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมของผู้บริโภคในปัจจุบันนี้ว่า จะต้องศึกษาถึงเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัยในอาคาร โดยเฉพาะเรื่องรายรับและรายจ่ายที่นำมาใช้บำรุงและรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง เนื่องจากนิติบุคคลอาคารชุดจะมีรายรับอยู่ 3 ประเภท คือ 1. เงินกองทุนซึ่งผู้ซื้อจะถูกเรียกเก็บครั้งเดียวตอนโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อใช้ในการซ่อมแซมทรัพย์สินส่วนกลางที่มีมูลค่าแพงๆ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้เงินจำนวนมาก 2. ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ซึ่งจะมีการจัดเก็บเป็นประจำทุกเดือน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอาคาร และ 3. ค่าบริการที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น ค่าน้ำประปา ค่าเคเบิ้ลทีวี รวมทั้งอื่นๆ ที่เป็นบริการของนิติบุคคลอาคารชุด นายธนันทร์เอกกล่าวว่า ที่ต้องเน้นย้ำให้ผู้บริโภคศึกษาเรื่องดังกล่าว เพราะที่ผ่านมามีปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีผู้ประกอบการที่ไม่สุจริตต่อลูกค้า เช่น การไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าส่วนกลางสำหรับห้องที่ยังไม่ได้ โอน ซึ่งตามกฎหมายระบุให้เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการต้องจ่ายเหมือนกับห้องอื่นๆ ทำให้เงินค่าส่วนกลางถูกเก็บไม่เต็ม 100% เมื่อต้องนำมาใช้จ่ายจึงทำให้บัญชีติดลบและมีปัญหาต่างๆ ตามมา เนื่องจากไม่สามารถจัดเก็บค่าส่วนกลางได้ทั้งหมด ในขณะที่ทุกโครงการได้มีการคำนวณค่าใช้จ่ายส่วนกลางไว้ตั้งแต่เริ่มต้นก่อสร้างแล้ว นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องเจ้าของโครงการไม่นำเงินกองทุนโอนให้กับนิติบุคคลอาคารชุด ซึ่งบางโครงการมีรายได้จากเงินกองทุนที่จัดเก็บจากผู้ซื้อไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ทำให้นิติบุคคลสูญเสียรายได้ที่เกิดจากดอกเบี้ยซึ่งถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ผ่านมาปัญหานี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กที่มักเลี่ยงกฎหมายจึงทำให้เกิดปัญหาในการอยู่อาศัยตามมา ส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์มักให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด “กว่าผู้อยู่อาศัยจะทราบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นในอาคารที่ตนเองอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เนื่องจากต้องมีการจัดประชุมนิติบุคคลครั้งแรก หากผู้อยู่อาศัยไม่ทราบหรือไม่มีใครเปิดประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย จะไม่ทราบว่าเงินค่าส่วนกลางถูกใช้และจัดเก็บอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากการกระทำดังกล่าวมากที่สุดก็คือผู้ประกอบการหรือเจ้าของอาคารนั้นๆ และสาเหตุที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลางห้องที่ยังไม่ได้โอนส่วนใหญ่อ้างว่าเป็นห้องที่ยังขายไม่ได้ หากไม่มีใครรู้เรื่องข้อกฎหมายก็จะไม่ทราบว่ากำลังถูกเอาเปรียบ” นายธนันทร์เอกกล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่ผู้ประกอบการเลี่ยงกฎหมาย จะทำให้งบประมาณค่าส่วนกลางไม่สอดคล้องกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริง เมื่อระบบสาธารณูปโภคมีปัญหาโดยเฉพาะอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกมีมูลค่าแพง จึงมีปัญหาเรื่องการซ่อมแซมและทำให้เกิดปัญหาการอยู่อาศัย สุดท้ายก็จะทำให้ชุมชนและอาคารชุดนั้น ๆ เสื่อมโทรมและไม่มีมูลค่าทางการตลาดในอนาคต อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ในการเข้าไปบริหารโครงการอาคารชุดกว่า 100 โครงการที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากต้องการรักษาชื่อเสียงและมีการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง

จึงไม่เกิดปัญหาเรื่องการบริหารชุมชน แต่ก่อนตัดสินใจซื้ออาคารชุดไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ผู้บริโภคจะต้องทำความเข้าใจในสิทธิ์การอยู่อาศัยในอาคารชุด โดยจะต้องสอบถามถึงเรื่องเงินกองทุนและค่าส่วนกลางของห้องที่ยังไม่ได้โอนว่าทางโครงการรับผิดชอบหรือไม่ ซึ่งถ้าโครงการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็ถือว่าเป็นโครงการที่น่าอยู่อาศัย ทั้งนี้ โครงการที่ HBIRM จะเข้าไปบริหารจะต้องมีการตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวก็จะหลีกเลี่ยงเนื่องจากไม่ต้องการหลอกลวงผู้บริโภค

นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ

เนื่องจากนิติบุคคลอาคารชุดจะมีรายรับอยู่ 3 ประเภท คือ 1. เงินกองทุนซึ่งผู้ซื้อจะถูกเรียกเก็บครั้งเดียวตอนโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อใช้ในการซ่อมแซมทรัพย์สินส่วนกลางที่มีมูลค่าแพงๆ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้เงินจำนวนมาก 2. ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ซึ่งจะมีการจัดเก็บเป็นประจำทุกเดือน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอาคาร และ 3. ค่าบริการที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น ค่าน้ำประปา ค่าเคเบิ้ลทีวี รวมทั้งอื่นๆ ที่เป็นบริการของนิติบุคคลอาคารชุด

Page 16: Broker new 8

สาระความรู้ ù

ที่ดินประเภทไหนที่จะออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได ้

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS16

ประจำเดือนธันวาคม 2555

ในฉบับที่แล้วเราได้รู้จักเอกสารสิทธิที่เกี่ยวกับที่ดินประภทต่าง ๆ ไปแล้ว เอกสารสิทธิที่ถือว่าผู้ครอบครองมีสิทธิในที่ดินได้อย่างเต็มร้อยคือโฉนดที่ดินนั่นเอง และที่ดินประเภทไหนบ้างที่สามารถออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้บ้าง ในฉบับนี้เราได้นำสาระความรู้ในส่วนนี้มานำเสนอ 1. ที่ดินที่จะออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน คือ โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส. 3ก., น.ส. 3ข.)ได้ จะต้องเป็นที่ดินที่มีลักษณะตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ข้อ 14 กล่าวคือ จะต้องเป็นที่ดินที่ผู้มีสิทธิในที่ดินได้ครอบครองและทำประโยชน์แล้ว ไม่เป็นที่ดินที่ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบที่ชายตลิ่ง ที่เลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์ ไม่เป็นที่ดินซึ่งได้หวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่า อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินพุทธศักราช 2478 ไม่เป็นที่ดินที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติสงวนและพัฒนาที่ดินเพื่อจัดให้แก่ประชาชน ไม่เป็นที่ดินของรัฐที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติสงวนหรือหวงห้ามเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่เป็นที่ดินที่คณะรัฐมนตรีสงวนไว้เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น 2. ที่ดินที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ จะออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินได้จะต้องอยู่ในเงื่อนไข ดังนี ้ ที่เขา ที่ภูเขา และพื้นที่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศหวงห้ามตาม มาตรา 9 (2) แห่งประมวลกฎหมายที่ดินผู้ครอบครองที่ดินจะต้องมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดิน ที่เกาะ จะต้องมีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค. 1 ) ใบจอง, ใบเหยียบย่ำ, น.ค. 3, ก.ส.น. 5 หรือเป็นที่ดินที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติได้

อนุมัติให้จัดแก่ประชาชน หรือเป็นที่ดินซึ่งได้มีการจัดหาผลประโยชน์ตามมาตรา 10 และ 11 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินโดยคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติได้อนุมัติแล้ว เขตป่าสงวนแห่งชาต ิ เขตอุทยานแห่งชาติ พื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่า หรือพื้นที่ที่ ได้จำแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร จะต้องมีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค. 1 ) หรือได้ออกใบจอง, ใบเหยียบย่ำ, ตราจอง ไว้ก่อนการ

สงวนหรือหวงห้ามที่ดิน ที่ดินที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ผู้ครอบครองที่ดินจะต้องมีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1), ใบแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในที่ดิน ตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน หรือมีใบจอง, ใบเหยียบย่ำ หรือมีหลักฐาน น.ค.3, ก.ส.น.5 ก่อนประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ ที่ มีความลาดชันโดยเฉลี่ยร้อยละ 35 ขึ้นไป ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ผู้ครอบครองที่ดินจะต้องมีสิทธิครอบครองมาก่อนการบังคับใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน (ก่อน 1 ธันวาคม 2497) หรือมีหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1)

Page 17: Broker new 8

สาระความรู้ สินค้า บริการ e

บริษัท คอนวูด จำกัด กลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) แนะนำผลิตภัณฑ์กลุ่มตกแต่งผนัง ด้วยผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งผนังคอนวูด รุ่นเซาะร่องยู ทางเลือกใหม่สำหรับงานผนัง ด้วยคุณสมบัติที่ออกแบบให้สามารถทนแดด ทนฝนและติดตั้งได้ง่าย เหมาะแก่การนำไปใช้ตกแต่งผนังได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เพื่อเพิ่มความสวยงามเสมือนไม้จริง เติมเสน่ห์ให้แก่อาคารและที่พักอาศัย

ไม้ตกแต่งผนังคอนวูด รุ่นเซาะร่องยู

17

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS

เปิดประเดิมปฐมฤกษ์ความยิ่งใหญ่ต้อนรับศักราชใหม่ กับสุดยอดมหกรรมเอ็กซ์โปแห่งวงการเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านงานแรกของปี “Furniture Expo” เตรียมเปิดคลังผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมชั้นนำด้านเครื่องเรือนและอุปกรณ์แต่งบ้านครบวงจร บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ณ ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี มหกรรมเดียวที่รวบรวมสินค้าแต่งบ้านทุกประเภทที่ลูกค้าปรารถนา และนับเป็นอภิมหาโอกาสสำหรับผู้ประกอบการทั่วฟ้าเมืองไทยที่จะได้แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำแถวหน้าในแวดวงอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ พร้อมทั้งร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนกระแสความ อลังการของมหกรรมของแต่งบ้านที่ครบวงจรที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2556 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 1 - 4

Furniture Expo 2556

ประเภทสินค้าที่เข้าร่วมแสดง เฟอร์นิเจอร์ชุดรับแขก เฟอร์นิเจอร์ชุดห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์ชุดรับประทานอาหาร เฟอร์นิเจอร์ชุดสำนักงาน เครื่องสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์สุขภัณฑ์ วัสดุตกแต่งประดับบ้าน สินค้าหัตถกรรม เครื่องจักรสาน เฟอร์นิเจอร์หวาย อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในบ้าน เครื่องใช้ ไฟฟ้า ติดต่อ : www.unionpan.com โทร. 0-2719-0408

โฮมโซลูชั่น เซ็นเตอร์ ศูนย์บริการและรวมสินค้าเรื่องบ้านครบวงจร พร้อมบริการให้คำแนะนำจากผู้ชำนาญการ ในธุรกิจ เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดให้บริการ โซลูชั่นห้องน้ำ (Bathroom Solution) พร้อมบริการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ จากโฮมโซลูชั่น เซ็นเตอร์ ที่พร้อมจะเนรมิตห้องน้ำทั้งเก่าและใหม่ ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการปรับแต่งห้องน้ำ ในแบบฉบับที่ต้องการได้สม ดั่งใจ ด้วยบริการออกแบบที่เป็นภาพสามมิติเสมือนจริง จากโปรแกรม 3D Web Design ฟรี ! สำหรับผู้ที่สนใจ ทางโฮมโซลูชั่น เซ็นเตอร ์ จะมีการจัดเสวนาและ เวิร์คช้อปเรื่อง “ทำห้องน้ำ นับจากศูนย์” ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเรื่องสถานที่ เวลา และรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ 0-2586-4141

ครบเครื่องเรื่องห้องน้ำ กับมืออาชีพ ที่พร้อมให้คำปรึกษาฟรี ที่โฮมโซลูชั่น เซ็นเตอร์

Page 18: Broker new 8

ทพ.ญ.เอมอร ฤทธี (คุณหมอนุ่น) ทันตแพทย์และผู้บริหารกรีนเด็นทัล คลินิค (รามคำแหง 41/1) กล่าวว่า “เด็กไทยส่วนใหญ่ที่มาหาทันตแพทย์ มักมีอาการปวดฟันหรือเหงือกเป็นหนอง เนื่องจากมีรากฟันผุๆ และจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการถอนฟันออก เหตุเกิดมีน้อยรายนักที่ผู้ปกครองจะพาเด็กมาหาทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพในช่องปาก ฟัน.. ธรรมชาติจะสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะที่แข็งแรงกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หน้าที่ทำการเคี้ยวได้ตลอดชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพเและเพื่อสร้างรอยยิ้มให้เกิดความสวยงาม แต่ฟันก็ยังมีจุดอ่อนในตัวเองโดยธรรมชาติ กล่าวคือ ภายหลังกินอาหารทุกมื้อ มักจะมีเศษอาหารเล็กๆ ติดอยู่ตามซอกฟันหรือจับเป็นคราบอยู่ตามตัวฟัน หรือในช่องฟันที่มีเศษอาหารเหล่านั้นจะถูกเชื้อจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ ในช่องปาก ทำการย่อยให้สลายตัวลงเพื่อเป็นอาหารของเหล่าจุลินทรีย์เหล่านั้น และจากการย่อยสลายเศษอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกแป้งหรือของหวานชนิดต่างๆ โดยเชื้อจุลินทรีย์นี้เองจะมีสารประเภทกรดเกิดขึ้น กรดที่เกิดขึ้นนี้แม้จะเป็นกรดอย่างอ่อน แต่ก็มีความสามารถที่จะทำลายผิวเคลือบฟันและเนื้อฟันให้ผุกร่อนได้ และยิ่งหากฟันไม่เคยได้รับการเอาใจใส่ดูแลความสะอาดเลย หรือทำความสะอาดอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามซี่ฟันตลอดเวลาแล้วก็เท่ากับช่วยสนับสนุนให้การสร้างกรดโดยเชื้อจุลินทรีย์ภายในปากเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเด็กๆ ทุกคนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นด้วยตัวเราเองได้ด้วยวิธีการง่าย โดยต้นเหตุคือ ขจัดเศษอาหารไม่ให้หลงเหลืออยู่ภายในปากหลังกินอาหารแล้ว วิธีขจัดเศษอาหารจะทำโดยวิธีใด ใช้อุปกรณ์อย่างไร ก็แล้วแต่สภาพแวดล้อม แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ การทำความสะอาดฟันทุกครั้งหลังกินอาหาร คือ การแปรงฟัน หรือบ้วนปาก

คุณหมอกรีนเด็นทัลชวนเด็กๆ ดูแลสุขภาพในช่องปากและฟันกันเถอะ

เด็กๆ ส่วนใหญ่กับการทำความสะอาดฟันตั้งแต่เมื่อฟันคู่แรกของเด็กขึ้นมาในปากเมื่อเด็กมีฟันขึ้นหลายซี่ควรหัดให้ เด็กชินกับการใช้แปรงสีฟันขนาดเล็ก การทำความสะอาดฟันเด็ก พ่อหรือแม่ควรเป็นผู้ทำให้ ไม่ควรให้เด็กทำเอง

จนกว่าเด็กจะโตมาก และเข้าใจวิธีการแปรงฟันและสามารถแปรงฟันได้ถูกต้อง การแปรงฟันนั้นดูจะเป็นของธรรมดา แต่เกือบจะทุกคนไม่เคยให้ความสำคัญและไม่ให้เวลาอย่างพอเพียง แปรงฟันแบบรีบๆ แล้วก็เสร็จไป แต่เศษอาหารก็มิได้ถูกขจัดให้หมดไป ดังนั้นโอกาสที่จะทำให้ฟันผุก็ยังเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นเด็กๆ เมื่อแปรงฟันควรแปรงอย่างถูกต้อง การแปรงฟันให้เด็กนั้นควรให้เวลายาวสักนิด เพราะระยะแรกๆ เด็กคงไม่ชอบเท่าใดนัก แต่พ่อและแม่ไม่ควรตามใจเด็ก ควรหัดให้เด็กเคยชินที่จะได้รับการแปรงฟันจนสะอาด ซึ่งจะได้ติดเป็นนิสัยเด็กตลอดไป แปรงสีฟันที่ใช้กับเด็กควรเลือกขนาดที่พอเหมาะกับปากของเด็ก และมีขนแปรงที่อ่อนนุ่ม ข้อสำคัญของการแปรงฟันที่ถูกต้อง อยู่ที่ว่าต้องแปรงที่ฟันทุกๆ ซี่ๆ ละหลายครั้ง และแปรงโดยวิธีที่ถูกต้อง วิธีที่ถูกต้องมีหลักง่ายๆ อยู่นิดเดียวเท่านั้นคือ ให้เริ่มแปรงด้วยการวางขนแปรงไว้บริเวณที่เหงือกต่อกับตัวฟัน แล้วแปรงโดยการปัดขนแปรงผ่านตัวฟันและซอกฟันเข้าหาส่วนบดเคี้ยวของตัวฟัน หรือจะจำง่ายๆ ว่าฟันบนปัดขนแปรงลงล่าง ฟันล่างปัดขนแปรงขึ้นบนการปัดขนแปรงโดยวิธีนี้จะทำให้เศษอาหารที่ติดอยู่บนตัวฟันและตามซอกฟันหลุดออกหมด สำหรับด้านบดเคี้ยวด้านบนของตัวฟัน ก็ใช้ขนแปรงถูไปถูมา หลายๆ ครั้ง เพียงเท่านี้ฟันและสุขภาพช่องปากของเด็กไทย ก็จะแข็งแรงมากขึ้น และมั่นเข้าพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน หรืออย่างน้อย ปีละครั้ง นะคะ เด็กๆ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และ ดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อย 8 - 10 แก้ว เพื่อสุขภาพอนามัยของร่างกาย และความแข็งแรงของฟัน พร้อมรอยยิ้มหวานๆ ของเด็กไทยค่ะ ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับฟันของเด็กๆ กับหมอนุ่น สอบถามได้ที่ www.facebook.com/greendentalthai นะคะ”

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS18 สุขภาพ

Page 19: Broker new 8

TCELS ส่งศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เตือน 5 โรคร้ายอันตรายต่อชีวิตครู แนะเทคนิดดูแลสุขภาพแม่พิมพ์สไตล์อายุรวัฒน์ เผยเมนูเด็ดดูแลครูได้อย่างดีคือ น้ำพริกปลาทู แกงขี้เหล็ก น้ำใบมะตูม-ย่านาง-ใบบัวบก ในโอกาสวันครู ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ TCELS โดยศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ขอส่งความห่วงใยไปยังแม่พิมพ์ของชาติทุกคน ด้วยคำแนะนำดีๆ ที่เตือนให้คุณครูระวังโรคร้ายที่อาจมากับความ รับผิดชอบในวิชาชีพของตัวเอง นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาต ิกล่าวว่า โรคร้ายแรงมีมากมายที่อาจจะบั่นทอนชีวิตของคุณครูผู้มีบุญคุณมากมายกับลูกศิษย์ที่ออกไปทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมือง แต่ที่จะหยิบยกให้ทราบในทีนี้ คือ 5 โรคร้ายที่อาจทำอันตรายครูไทย คือ 1. โรคเครียด ไปจนถึงซึมเศร้า อาชีพครูเป็นอาชีพที่เหนื่อยและหนัก แต่ครูจะมีความสุขอยู่ในใจเสมอ ภาวะเครียดที่มาจากการที่ต้องรับผิดชอบทั้งลูกศิษย์และงานของครูอาจทำให้สมองล้าเป็นบางครั้งบางทีได้ แต่ถ้ายังมีแรงกดดันอยู่นานๆ เช่นมีเรื่องส่วนตัวและครอบครัวด้วยก็อาจทำให้ครูประสบภาวะทางอารมณ์ได้ อาจมีอารมณ์สองขั้วหรือซึมเศร้าได้ง่าย ทางแก้ง่ายคือให้คุณครู “ออกกำลังใจ” และกิน “อาหารร่าเริง” แบบง่ายๆ 2. โรคอ้วน มาจากเรื่องการรับประทาน, การดื่มแอลกอฮอล์,ออกกำลังกายน้อยและความเครียด ดังจะเห็นว่าแม่พิมพ์ของชาติที่ต้องตรากตรำทำงานทั้งสอนหนังสือและบริหารไปด้วยจะมีความเสี่ยงข้อนี้มาก ความเหนื่อยล้าของสมองกับร่างกายจะกระตุ้นให้การรับประทานมากขึ้นเป็นลำดับ เมื่อกลับถึงบ้านก็อยากพักผ่อนให้เต็มที่ ไม่อยากออกกำลังกายแล้วเพราะรู้สึกเหนื่อย เมื่อนั้นโรค “อ้วนลงพุงมฤตยู (Metabolic syndrome)” ก็จะถามหา โรคนี้ไม่ใช่แค่หุ่นไม่สวยอย่างเดียวนะครับแต่มันมีไขมันในเลือดสูง มันจุกตับและนำไปสู่ความดันสูง เบาหวานและโรคอื่นๆ ได้อีกมาก 3. โรคนอนดึก คุณครูหลายท่านจำต้อง “เข้าสังคม” ซึ่งสรุปง่ายคือต้อง นอนดึก,กินดึกและอยู่ดึก ทั้ง 3 ข้อเป็นไลฟสไตล์ที่เรียกโรคภัยไข้เจ็บเป็นอย่างยิ่ง ลำพังแค่การนอนดึกก็ทำให้ “อ้วนง่าย” กินน้อยแต่น้ำหนักขึ้นเร็ว ส่วนการรับประทานดึกก็ทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อน การนอนหลับจะไม่สนิทดีนัก อาจทำให้เกิด “กรดไหลย้อน” ได้ ในกรณีที่น่าห่วงคือคุณครูที่มี โรคประจำตัวอยู่แล้วการนอนที่มีปัญหาอาจมีได้ตั้งแต่หลับไม่ลึก หยุดหายใจขณะหลับ โรคหัวใจกำเริบ เสี่ยงมะเร็งไปจนถึงไหลตายได้ 4. โรคนอนไม่หลับ ครูบางท่านอยากนอนเร็วหัวค่ำแต่สมองกลับไม่เป็นใจปล่อยให้นอนกลิ้งไปมาตากลมอยู่ทั้งคืน อย่างนี้น่าเห็นใจ โรคนอนไม่หลับอาจเกิดได้ในครูไทย เกิดได้จากเรื่อง “วัย” และเรื่อง “งาน” โดยคุณครูที่เข้าวัยทองจะมีปัญหานี้มากหน่อยแล้วส่งผลต่อการสอนในตอนเช้ามาก น่าเห็นใจคุณครูมากที่เรื่อง “งาน” ก็อาจนำความเครียดติดสมองไปทำให้นอนไม่หลับได้ มีเทคนิคง่ายสไตล์อายุรวัฒน์คือ “จัดระเบียบสมอง” วางความสำคัญก่อนหลังเช่น สำคัญที่สุดคืองานสอนและงานประกันคุณภาพ สำคัญถัดมาคืองานสังคม ส่วนสำคัญท้ายสุดคืองานที่ไม่เกี่ยวข้องกับศิษย์เรา แล้วจะเบาหัวเวลานอนได้มาก 5. โรคที่เกี่ยวกับการยืน เช่นข้อเข่าเสื่อม ปวดไขข้อและริดสีดวง ครูที่ท่านต้องยืนนานวันละหลายชั่วโมงนั้นต้องเอาใจใส่สุขภาพให้มากครับเพราะท่านมีความเสี่ยงที่จะข้อเข่าสึกได้มากกว่าคนทั่วไปโดยเฉพาะในท่านที่รูปร่างใหญ่ด้วย ขอให้เลี่ยงมาพักเข่าบ้างทุก 30 นาทีและเลี่ยงท่านั่งต่อไปนี้คือ พับเพียบ ขัดสมาธิ คุกเข่าหรือว่านั่งยอง ในโรงเรียนควรจัดให้มี “สุขานั่งห้อยขา” แทนที่สุขาแบบ “นั่งยอง” ไว้สำหรับครูผู้ใหญ่จะช่วยได้มากครับ ถัดมาคือเรื่อง “ริดสีดวง” ที่อาจมาระรานครูได้เวลายืนนานๆ หรือต้องกลั้นการขับถ่ายบ่อยๆ ขอให้คุณครูใช้วิธีดื่มน้ำให้มากและออกกำลังบ่อยๆ ครับจะทำให้ลำไส้ทำงานได้ปกติดี

เตือน 5 โรคร้ายทำลายชีวิตครู พร้อมแนะเทคนิดดูแลแม่พิมพ์ด้วยอาหารสไตล์อายุรวัฒน ์

นอกจากนี้ นพ.กฤษดา ยังแนะนำ 5 เทคนิคดูแลสุขภาพครูคือ 1. อาหารร่าเริงสำหรับคุณครู เป็นอาหารที่ช่วยบำรุงสมองและมีวิตามินที่ช่วยคลายเครียด นั่นคือ “น้ำพริกปลาทู” เพราะมีปลากับกะปิที่ช่วยบำรุงสมองไล่ลดการอักเสบที่เกิดจากธาตุเครียด (Cortisol) สะสม ส่วนท่านที่สะดวกแบบวิตามินเม็ดก็มี วิตามินบี น้ำมันปลา วิตามินเอ วิตามินดีและแร่ธาตุอย่างสังกะสีกับแมกนีเซียมครับ ที่จะช่วยรับมือกับอาการล้าที่เกิดจากความเครียดได้ 2. นิทราบำบัด การนอนเป็นอาหารสมองที่สำคัญสำหรับครู ถ้านอนไม่หลับสนิทลองรับประทาน “แกงขี้เหล็ก” “น้ำมะตูม” “น้ำใบบัวบก” “น้ำใบย่านาง” หรือดื่ม “ชาคาโมไมล์ใส่น้ำผึ้ง” ก็ ได้ครับ จะช่วยปรับ “ธาตุง่วง (Melatonin)” และ “เคมีสุข (Serotonin)” ในสมองก่อนนอน ช่วยกล่อมให้หลับสบายใจดี 3. สุขาคุณครู คุณครูผู้ใหญ่และคุณครูผู้มีร่างใหญ่เหมาะกับโถห้องน้ำแบบ “นั่งห้อยขา” ครับ จะช่วยเซฟข้อเข่าไว้ ไม่ให้สึกก่อนวัย คุณครูจะได้ ไม่ปวดขาเวลายืนสอนนักเรียนนานๆ การมีห้องน้ำเฉพาะสำหรับคุณครูจะช่วยสุขภาพครูได้ทั้ง “ข้อเข่า” และ “ริดสีดวง” ด้วย 4. ออกกำลังกาย ภารกิจที่รัดตัวทำให้คุณครูหลายท่านไม่อาจออกกำลังกายได้ดังหวัง ลำพังงานก็ทำให้กลับบ้านมืดค่ำ จึงขอให้ใช้เทคนิคออกกำลังกาย “ขยับในออฟฟิศ” ดังต่อไปนี้คือ ลุกนั่งกับเก้าอี้เป็นระยะ ลุกขึ้นยืนแล้วนั่งอย่างนี้ก็ช่วยได้แล้วครับ วันหนึ่งสัก 20 ครั้ง สลับกับ “แกว่งแขน” วันละ 500 ครั้ง นอกจากนั้นการ “เดิน” เริ่มต้นสักวันละ 1,000 ก้าวโดยใช้เครื่องนับก้าวช่วยก็ช่วยได้มาก อย่างน้อยให้คุณครูได้ออกกำลังแบบที่ว่ารวมๆ กันสักวันละ 30 นาทีก็เท่ากับกฏการออกกำลังมาตรฐานแล้ว 5. ออกกำลังสมองและใจ เวชศาสตร์อายุรวัฒน์เน้นเรื่องของ “ความสุข” ที่มาจากข้างในออกข้างนอก สำหรับครูต้องพิเศษหน่อยครับคือเน้นที่ “ทำได้เอง” อาจลองหากิจกรรมที่ ไม่เคยทำมาทำดูเช่น ทำอาหาร ทำขนม เล่นดนตรี เต้นลีลาศ โยคะ ส่วนเรื่องของจิตใจขอให้ใช้เทคนิค “เห็นดีได้ในทุกสิ่ง” แม้ในงานที่รู้สึกว่าหนักใจไม่อยากรับถ้ามองจนเห็นดีได้จะทำให้สบายขึ้นเยอะ หรือกับคนที่ ไม่ดีกับเราก็ตามถ้าเห็นดีได้ในคนนั้นแล้วจะทำให้ใจ เบาลง นี่คือการออกกำลังใจสร้างเมตตาแบบง่ายๆ

19

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWSสุขภาพ

นพ.กฤษดา ศิรามพุช

Page 20: Broker new 8

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS20 ดวง&ฮวงจุ้ย ˇ

ปี่เซียะ สัตว์มงคลที่ทุกบ้านควรมีตามตำราจีน

ปี่เซียะ คือ เทพลก กวางสวรรค์มี 1 เขา มีปากไม่มีทวาร เชื่อกันว่าทรัพย์มีแต่เข้าไม่มีออก รูปลักษณะของปี่เซี๊ยะตามตำราเดิมเป็นสัตว์สี่เท้า ตัวเป็น กวาง แต่หางเป็นแมว มีเขา และปีก แต่บางแบบก็ไม่มีปีก เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งคำว่า “ปี่เซียะ” เป็นสำเนียงจีนกลาง ถ้าจีนแต้จิ๋วเรียกว่า “ผี่ชิว” กวางตุ้งเรียก “เพเย้า” หรืออาจเรียกในชื่ออื่น ๆ เช่น เถาปก หรือ ฝูปอ นี้เป็นคำเรียกรวม ๆ ของ “สิ่งซิ้ว” สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลหนึ่ง ปี่ คือ ตัวผู้ ส่วน เซียะ คือ ตัวเมีย สองเขาจะเรียกว่าปี่เซียะ ส่วนเขาเดียวจะเรียกว่าเทียนลก ทางเหนือของจีนจะเรียกว่าปี่เซียะ ส่วนทางใต้จะเรียกว่าเทียนลก ถ้าเป็นตัวเดียวจะเป็นตัวเสี่ยงโชค แต่ถ้าเป็นคู่สำหรับวัตถุมงคล สำหรับขจัดสิ่งชั่วร้าย แต่เดิม ปี่เซียะ เป็นสัตว์มงคลที่มีอนุภาพในทางกำจัดปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายรวมทั้งปกป้องจากคุณไสย และมนต์ดำต่าง ๆ กล่าวคือคำว่าปี่ หรือ ผี่ นั้น แปลว่า ปิด เร้นลับหลบซ่อน คำว่า ปี่เซี๊ยะ หรือ ชิว คือ อาถรรพณ์ สิ่งไม่ดี คุณไสย ภูติปีศาจ คำว่าปี่เซียะ หรือ ผี่ชิว จึงแปลได้ว่า ขจัดอาถรรพณ์ คนจีนสมัยก่อนจึงมักเขียนภาพหรือตั้งประติมากรรมรูปปี่เซียะไว้ตามประตูบ้านและสุสานทั่วไป บางทีก็ประดับไว้บนหลังคาพระราชวังต่างๆ เพื่อให้มันช่วยขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลายนั้นเอง ว่ากันว่ามีพลังในการกำราบสิ่งชั่วร้าย

มีลักษณะ 8 ประการ คือ 1. อ้าปากรับทรัพย์ 2. หางยาวกวักโชคลาภ 3. ยกหัวข่มศัตรูคู่แข่ง 4. เท้าตะปบเงิน (หาเงินเก่ง รักษาทรัพย์ให้งอกงาม) 5. ก้าวขา-ก้าวหน้า 6. ลิ้นยาว ตวัดโชคลาภเงินทอง 7. องอาจน่าเกรงขาม 8. ไม่มีรูทวาร เงินทองเข้าอย่างเดียวไม่ไหลออก เบญจธาตุของปี่เซียะ ปี่เซียะเป็นสัตว์มงคลลูกผสม 5 ชนิด คือ มังกร (หลง) - ธาตุไม้ , พญาราชสีห์หรือสิงโต (ชีจื่อ) - ธาตุทอง, อินทรี (อิง) - ธาตุไฟ, กวาง (ลู่) - ธาตุ น้ำ, แมว (มาว) - ธาตุดิน อานุภาพพิเศษ สัมผัสกลิ่นของโชคลาภได้รวดเร็ว ชัดเจนและแม่นยำ คุณสมบัติของปี่เซียะคู่กับปี่เซียะเดี่ยว เทพปี่เซียะแบบเดี่ยว (ขุนพล) ใช้เรียกทรัพย์ สำหรับคนที่ทำอาชีพค้าขาย ธุรกิจ หรือต้องการให้เงินเข้า ไม่เป็นหนี้ เทพปี่เซียะแบบคู่ (เทพพิทักษ์) ใช้เฝ้าทรัพย์ สำหรับคนที่หาเงินมาได้แต่ไม่ต้องการให้เงินไหลออก (เก็บเงินไม่อยู่) การที่จะใช้ปี่เซียะคู่หรือปี่เซียะเดี่ยว ให้ดูหลักธรรมชาติ หลักความสมดุล หรือความสวยงามเป็นหลัก ฉบับหน้าเรามารู้จักเคล็บลับเบิกเนตรปี่เซียะตามวิธีจีนโบราณ

Page 21: Broker new 8

21

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWSˇ การดูแลรักษารถยนต์ é

ลมหนาวผ่านไปอากาศร้อนก็เตรียมเข้ามาเยือนแล้ว ในฤดูร้อนที่จะถึงแม้อีกหลายเดือน ท่านผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ก็อย่าประมาท ต้องให้การดูแลรักษาระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ให้มีการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อการระบายความร้อนที่ดีของเครื่องยนต์ ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์มีระบบระบายความร้อนอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหล่อเย็น ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเป็นระบบระบายความร้อนที่ใช้อยู่กับรถจักรยานยนต์ และในเครื่องยนต์การเกษตร การระบายความร้อนแบบอากาศจะใช้แรงลมภายนอกมาปะทะกับครีบระบายความร้อนที่ติดอยู่กับเสื้อสูบ เพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ด้วยอากาศภายนอกที่ร้อนมากยิ่งขึ้น (30-40 องศา) ทำให้การระบบระบายความร้อนด้วยอากาศมีปัญหามาก มีการระบายความร้อนได้ ไม่เพียงพอ ทำให้ประเก็นต่างๆ ของเครื่องยนต์เกิดการเสื่อมสภาพเร็วมากยิ่งขึ้นและยังส่งผลทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง การดูแลรักษาเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ น้ำมันเครื่องที่ ใช้หล่อลื่นเครื่องยนต์ควรเป็นน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ 100% เพื่อการหล่อลื่นที่ดีและช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ดี ถ้าเครื่องยนต์มีพอร์ทที่สามารถติดตั้งชุดออยล์คลูเลอร์ควรที่จะทำการติดตั้งชุดออยล์คลูเลอร์เพิ่มเติม เพื่อการระบายความร้อนของน้ำมันเครื่อง ช่วยให้เครื่องยนต์มีการระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหล่อเย็น เป็นระบบระบายความร้อนที่ใช้อยู่ในเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเครื่องยนต์ที่ใช้อยู่ในรถยนต์ทั่วไปก็ใช้ระบบระบายความร้อนในรูปแบบน้ำหล่อเย็นเช่นกัน จุดเด่นของระบบระบายความร้อนแบบน้ำหล่อเย็นเป็นระบบระบายความร้อนที่ให้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี มีการหมุนเวียนน้ำหล่อเย็นเข้าไปในส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์เพื่อระบายความร้อน ด้วยประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีของระบบระบายความร้อนแบบน้ำหล่อเย็น ทำให้บริษัท ผู้ผลิตจักรยานยนต์ได้นำระบบระบายความร้อนแบบน้ำหล่อเย็นไปพัฒนาใช้กับรถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น ระบบระบายความร้อนแบบน้ำหล่อเย็นเป็นระบบระบายความร้อนที่มีชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ต้องทำงานร่วมกันอยู่ระบบระบายความร้อนด้วยกันหลายชิ้นส่วน ซึ่งประกอบด้วยเช่น หม้อน้ำ พัดลมระบายความร้อน ปั๊มน้ำ ท่อน้ำ และ วาล์วน้ำ ซึ่งแต่ละชิ้นส่วนมีการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ฉะนั้นการดูแลรักษาระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์แบบน้ำหล่อเย็นต้องมีการดูแลรักษาชิ้นส่วนอุปกรณ์ให้มีความสมบูรณ์ในทุกส่วน

สิ่งแรกที่ต้องดูแลรักษา คือ หม้อน้ำ หม้อน้ำที่ติดตั้งอยู่กับเครื่องยนต์ทำหน้าที่ระบายความร้อนของน้ำหล่อเย็นที่ออกมาจากเครื่องยนต์ ซึ่งการระบายความร้อนของน้ำหล่อเย็น ด้วยพัดลม

ระบายความร้อนที่ติดตั้งอยู่กับหม้อน้ำ ทำการดูดอากาศเย็นจากด้านหน้ารถยนต์เข้ามาผ่านแผงรังผึ้งหม้อน้ำเพื่อให้น้ำหล่อเย็นมีอุณหภูมิลดลง แล้วส่งน้ำหล่อเย็นกลับสู่เครื่องยนต์เพื่อระบายความร้อนเครื่องยนต์อีกครั้ง การดูแลรักษาหม้อน้ำให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ดีควรมีการตรวจเช็กปริมาณน้ำในหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำมีสีสนิมก็ควรที่จะทำการ

เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นใหม่ เพื่อการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น (น้ำหล่อเย็นที่สนิมปนเปื้อนจะให้การระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ ไม่

ดีเพียงพอ เพราะผงสนิมที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำหล่อเย็นจะเป็นสื่อนำความร้อนที่เพิ่มมาก และยังจะทำให้รูน้ำภายในเครื่องเกิดการอุดตันขึ้นได้) การเปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ สามารถทำได้โดยการคลายน็อตใต้หม้อน้ำปล่อยน้ำหม้อน้ำทิ้ง เติมน้ำเข้าสู่หม้อน้ำด้านบนให้เท่ากับปริมาณน้ำที่ออกจากหม้อแล้วทำการสตาร์ตเครื่องยนต์ให้เกิดน้ำหมุนเวียนไล่

สนิมที่ตกค้างอยู่ภายในเครื่องยนต์และหม้อน้ำออกมาจนหมด แล้วค่อยทำการเปิดนอตด้านล่างหม้อน้ำให้แน่นทำการเติมน้ำ

หล่อเย็นใหม่เต็ม ทำการติดเครื่องยนต์อีกครั้งเพื่อไล่อากาศที่อยู่ในระบบออกให้หมดทำการเติมน้ำให้เต็มอีกครั้งก็เป็นการเสร็จสิ้นการเปลี่ยน

ถ่ายน้ำหล่อเย็น สำหรับรถยนต์ที่มีหม้อพักน้ำเย็นก็ควรที่จะทำการล้าง หม้อพักน้ำเย็นอีกเช่นกัน นอกจากการล้างภายในของหม้อน้ำแล้ว การล้างภายนอกของหม้อน้ำก็ควรทำความสะอาดเช่นกัน ทำการล้างฉีดแผงรังผึ้งหม้อน้ำให้สะอาด เพื่ออากาศได้ไหลผ่านแผงรังผึ้งได้ดี ทำให้การระบายความร้อนดียิ่งขึ้น (การฉีดน้ำเพื่อล้างแผงรังผึ้งไม่ควรที่ทำการฉีดน้ำแรงมากๆ เพราะอาจจะทำให้ครีบระบายความร้อนของแผงรังผึ้งเกิดบีบพับ) ทำให้การไหลผ่านของอากาศเพื่อระบายความร้อนหม้อน้ำได้ดีไม่เพียงพอ (ฉบับหน้าเรามาเตรียมดูแลรถยนต์ก่อนเข้าฤดูร้อนกันต่อนะครับ)

เตรียมรถยนต์เข้าสู่ฤดูร้อน........(ตอนที่ 1)

Page 22: Broker new 8

ท่องเที่ยว

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS22

เที่ยวราชบุรี สมุทรสงคราม สัมผัสชีวิตแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ท่าจีน

สายลมหนาวได้พัดผ่านไปแล้ว เหลือไว้เพียงความอบอุ่นของแสงแดดที่สาดส่องลงกระทบผิวกาย เสื้อกันหนาวที่ต้องใส่เพื่อให้ความอบอุ่นกับร่างกาย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้อีกแล้ว พับเก็บเข้าตู้เสื้อผ้า ใส่เสื้อแขนสั้นเดินรับแสงแดดยามเช้าเพื่อเติมวิตามินดีให้กับร่างกาย เตรียมเสื้อผ้าที่ โปรงสบาย รับอากาศอบอุ่นที่กำลังเข้ามาเยี่ยมเยือนในช่วงต้นปลายเดือนมกราคม ด้วยอากาศที่อบอ้าวอย่างฤดูร้อนนี้ทำให้ใครๆ หลายคนต่างหลบร้อนไปพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทะเล น้ำตก ต่างได้รับความนิยมไปท่องเที่ยวกันอย่างมากมาย ในวันนี้คอลัมน์ ท่องเที่ยว ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูร้อนที่ ไม่เหมือนใคร ใช้เวลาในการเดินทางไปท่องเที่ยวเพียง 1 ชั่วโมงเศษ ก็ ได้สัมผัสชีวิตที่อยู่สายน้ำแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำท่าจีน ณ จังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม อิ่มอร่อยกับอาหารคาวหวาน และผลไม้หลากหลายชนิด ที่มี ให้ท่านเลือกรับประทานอย่างมากมาย นอนหลับพักผ่อนในแบบโฮมสเตย์ ชมความสวยงามของหิ่งห้อยยามค่ำคืน เพียง 2 วัน 1 คืน ก็ทำให้ชีวิตมีไฟกลับไปทำงานได้อีกต่อไป สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก ที่อยากแนะนำให้ ไปท่องเที่ยวคือ “ตลาดน้ำดำเนินสะดวก” ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตั้งแต่บนคลองดำเนินสะดวกที่เชื่อมต่อกันระหว่างแม่น้ำท่าจีน และ แม่น้ำแม่กลอง ตามพระราชดำริของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงเห็นว่าการคมนาคมในท้องถิ่นนี้ ไม่มีถนนที่เชื่อมกับอำเภออื่นๆ ส่วนมากใช้เรือเป็นพาหนะ จึงให้ “สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยะวงศ์” เป็นผู้อำนวยการขุดเมื่อ พ.ศ. 2409 โดยคลองนี้จะเชื่อมแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง เข้าไว้ด้วยกัน ใช้เวลาขุดประมาณ 2 ปี จึงแล้วเสร็จ เดิม” ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ได้ชื่อเรียกกันว่า ตลาดน้ำคลองลัดพลี มีมานานกว่า 100 ปีเศษมาแล้ว ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ตลาดน้ำดำเนินสะดวก” เพราะด้วยความสะดวกสบายในการคมนาคม ค้าขาย เป็นศูนย์รวมในการค้าขาย พืชผัก และผลไม้ตามฤดูกาลจากเรือกสวนไร่นาของเกษตรกรในย่านนี้ ในปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นตลาดน้ำที่ เป็นที่รู้จักของประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ในเดือนหนึ่งมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าไปชมความสวยงามและสัมผัสบรรยากาศของตลาดน้ำดำเนินสะดวกอย่างไม่ขาดสาย ตลาดน้ำจะเริ่มเวลาประมาณ 06.00 น. -11.00 น. มีเรือน้อยใหญ่มาขายสินค้าผลไม้กันอย่างมากมาย อิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณ ตบท้ายด้วยกาแฟโบราณที่รสชาติเข้มข้นหวานมันกำลังพอดี

เสร็จสิ้นจากการท่องเที่ยวชมตลาดน้ำดำเนินสะดวกแล้วก็ เดินทางไปชมความสวยงาม ณ อุทยาน ร.2 อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานศิลปะวัฒนธรรมอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ มีทั้งหมด 11 ไร่ ซึ่งที่บริเวณนี้มีความสำคัญเพราะเป็นที่พระราชสมภพของรัชกาลที่ 2 ภายในอุทยาน พระบรมราชานุสรณ์มีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นอาคารทรงไทย 4 หลัง จัดแสดงศิลปะวัตถุในสมัยต้น

รัตนโกสินทร์ ความเป็นอยู่ของชาวไทยในสมัย ร.2 มีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้หอกลาง ประดิษฐานพระบรมรูป ร.2 และโบราณวัตถุ หอนอนชาย แสดงให้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ของชายไทย หอนอนหญิงแสดงให้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ของหญิงโบราณชานเรือน จัดแสดงตามแบบบ้านไทยโบราณห้องครัว และห้องน้ำ แสดงลักษณะครัวไทยและห้องน้ำของชนชั้นกลาง นอกจากนี้ยังมี โรงละครกลางแจ้ง สวนพฤกษชาติ เป็น

สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิด ที่ปลูกขึ้นสลับกันให้ความร่มรื่น เหมาะกับการไปนั่งพักผ่อน ช่วงเย็นไปสัมผัสวิถีชีวิต ณ ตลาดน้ำอัมพวาเขาเรียกว่าเป็น “ตลาดน้ำยามเย็น” ที่เริ่มติดตลาดเอาตอนบ่ายสี่ โมงไปยันค่ำ มีอาหารสารพัดให้เลือกชิมอย่างมากมาย เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และยังได้บรรยากาศห้องแถวเรือนไม้สองฟากคลองของเก่าแก่ให้ ได้ย้อนอดีตกลับไปชื่นชมกันด้วย เป็นตลาดริมคลอง ในยามค่ำคืนล่องเรือชมความสวยงามของหิ่งห้อยที่ใส่แสงระยิบระยับตลอดลำคลอง นอนหลับพักผ่อนในแบบโฮมสเตย์ พร้อมกับการใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน อิ่มอร่อยกับรสชาติของอาหารแบบดั้งเดิม เพียงเท่านี้ก็ทำให้ท่านมีกำลังมีไฟที่จะไปทำงานได้ต่อไป สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวเดินทางโดยทางรถยนต์ ใช้เส้นทาง ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) แยกขวาเข้าอำเภอดำเนินสะดวก หรือไปตามทางหลวงสายเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านบางแค สวนสามพราน นครชัยศรี นครปฐม เลยกม.ที่ 83 ไปเล็กน้อย จะมีทางแยกซ้ายมือ ไปตามทางหลวงหมายเลข 325 อีก 25 กม. รวมระยะทาง 81 กม. หรือจากกรุงเทพฯ ไปตามสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านสมุทรสาคร รวมระยะทาง 63 กม. จะมีแยกขวามือไปสมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 326) สิ้นสุดที่ตัวเมือง ท่านก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวครบทั้ง 3 สถานที่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก

Page 23: Broker new 8

สวนสวย ไม้งาม Q 23

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS

ไม้เลื้อยไม้เถา ส่วนมากจะปลูกไว้เพื่อเป็นไม้ประดับตามซุ้มประตู หรือทำเป็นพุ่มเป็นกอ จัดแต่งให้สวยงาม เวลาเป็นดอกไม้จะหอมและสวยไม้เป็นส่วนใหญ่ แต่ไม้เลื้อยในฉบับนี้ที่อยากแนะนำเป็นไม้ปลูกง่ายโตไว แพร่ขยายไปตามหลักที่เราต้องการขยายได้เร็ว ไม้เลื้อยที่พูดถึงนี้คือ “เล็บมือนาง” นั่นเองครับ เล็บมือนางเป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Quisqualis indica Linn. เป็นต้นไม้ขนาดกลาง มึความสูงประมาณ 5 เมตร จะแตกกิ่งก้านสาขามากจนหนาทึบ และตามลำต้นหรือบริเวณกิ่งอ่อนจะมีขนสีน้ำตาลอมเทาขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ ต้นหรือกิ่งที่แก่แล้วผิวของต้นหรือกิ่งจะเกลี้ยงไม่มีขน การปลูกจะต้องหาหลักยึด หรือร้านให้ลำต้น หรือเถาเล็บมือนางยึดเกาะ เล็บมือนางเป็นไม้ใบเดี่ยว จะออกใบตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ลักษณะของใบจะเป็นรูปมน ขอบใบขนาน ปลายใบแหลม หรือปลายใบมนแล้วมีติ่งแหลม โคนใบจะเว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบ แต่บางใบก็จะเป็นคลื่นเนื้อใบจะบาง ดอกเล็บมือนางจะออกดอกเป็นช่อ อยู่บริเวณส่วนกลางยอดของลำต้นดอกจะมีลักษณะเป็นหลอดยาวประมาณ 4 นิ้ว ตรงปลายดอกจะแยกออกเป็น 5 กลีบ ดอกมีสีแดงอมขาว หรือสีชมพู หลอดของดอกจะโค้งเล็กน้อย และจะมีเกสรยาว ๆ ยื่นออกมาจากกลางดอก 5 อันออกดอกตลอดปี เล็บมือนางมีวิธีการปลูกโดยให้นำเอากิ่งที่ ได้จากการปักชำ มาปลูกลงดิน คนส่วนมากจะนิยมปลูกเล็บมือนางบริเวณรั้ว หรือซุ้มประตู หรือจะปลุกตามสวนสาธารณะ ก็จะดูสวยงามดี เล็บมือนางเป็นไม้กลางแจ้ง ที่ต้องการแสงมากพอสมควร เพราะหากได้รับแสงไม่เพียงพอ ก็จะเป็นผลต่อการสังเคราะห์แสงของใบ และจะทำให้ต้นเล็บมือนางไม่เจริญงอกงามเท่าที่ควร และดอกก็จะไม่สวย เล็บมือนางเป็นต้นไม้ที่มีความต้องการน้ำปานกลาง แต่หากเป็นในระยะแรกปลูก ควรรดน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง โดยรดในช่วงเช้า หรือ 2 วัน ต่อ 1 ครั้ง ก็ยังได้เล็บมือนางเป็นไม้ที่ขึ้นง่าย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องดินปลูกมากนักแต่ถ้าจะให้เจริญงอกงามดี ก็ควรปลูกด้วยดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี ปุ๋ยที่ใช้นั้นนอกจากใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ในการผสมดินปลูกแล้ว หากต้องการให้ต้นและใบเจริญ

งอกงามยิ่งกว่านี้ ก็ควรรดด้วยยูเรีย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ในช่วงที่เล็บมือนางให้ดอกไม่ควรรดยูเรีย ควรที่หันมาให้ปุ๋ยบำรุงดอกแทน สำหรับปัญหาของแมลงหรือโรดโดยส่วนใหญ่เท่าที่พบ จะไม่มี โรคและแมลงรบกวนมากนัก จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สารเคมีในการรักษา และป้องกันกำจัด เพียงแต่ให้ทำลายใบหรือส่วนอื่นๆ ของต้น ที่มีการร่วงหล่นลงมาอาจทำลายโดยการขุดหลุมฝัง หรือเอาไฟเสียจะเป็นการดีที่สุด การขยายพันธุ์จะใช้วิธีโดยการปักชำกิ่ง หากบำรุงรักษากันสม่ำเสมอรับรองว่า ออกดอกสวยเป็นพวงระย้าให้ชมทั้งปีครับ

เล็บมือนาง ไม้เถาเนื้อแข็ง ดอกสวยกลิ่นหอม

โดย หิรัญญิกา

Page 24: Broker new 8

คลินิกบ้าน @

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

BROKER NEWS24

การสร้างสรรค์สวนสวยๆ ให้ ได้อย่างมืออาชีพนั้น สิ่งที่สำคัญที่ควร

คำนึงถึงคือ การเลือกใช้วัสดุและการเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ฉบับนี้

คนรักสวนมีเคล็ดลับดี ๆ สำหรับคนที่เริ่มต้นจัดสวนมาฝาก เพื่อใช้เป็น

แนวทางในการออกแบบสวนสวยด้วยฝีมือของเราเอง

สิ่งที่ควรคำนึงถึงอันดับแรก คือ ขนาดของพื้นที่ ปัจจุบันพื้นที่ในการอยู่

อาศัยมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งการจัด

สวนสมัยใหม่ในพื้นที่จำกัดนั้น ทุกองค์ประกอบถือเป็นสิ่งสำคัญ สวนลักษณะ

นี้ ไม่นิยมใส่ต้นไม้หลายชนิดไว้ด้วยกัน เมื่อมีต้นไม้มากจะทำให้การดูแลรักษา

ยุ่งยาก มองดูรกไม่สบายตา ในส่วนการใช้วัสดุตกแต่งก็ไม่ควรใช้หลากหลาย

เช่นกัน เพราะจะทำให้อึดอัดดูแล้วไม่สบายตา ดังนั้น ก่อนการจัดสวนเจ้าของ

ก็ควรวางคอนเซ็ปต์สวนเบื้องต้นเสียก่อน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือก

ต้นไม้และอุปกรณ์ตกแต่งสวน เพื่อให้ ได้ความสมดุลพอดี ไม่มาก

หรือน้อยจนเกินไป

สำหรับคนที่มี ไอเดียสวนไว้แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง

ศึกษาลักษณะของพันธุ์ ไม้แต่ละชนิด ก่อนนำมาปลูกไม่ว่าจะเป็น

เรื่องของการเจริญเติบโต และการบำรุงดูแลรักษาเพื่อให้ ได้ต้นไม้ที่

เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในเมืองของคุณได้

เรื่องของอุปกรณ์ตกแต่งที่อยากให้พิจารณาเลือกใช้ คือ

กระจกเงา ที่จะช่วยสร้างมิติและความน่าสนใจให้กับสวนมากขึ้น

คุณทราบหรือไม่ว่ากระจกยังมีประโยชน์ในเรื่องของการสะท้อน

แสงแดดได้อีกด้วย ทั้งยังช่วยลดปัญหามุมอับ แต่ที่สำคัญคือการ

เลือกกระจกจะต้องใช้ชนิดสำหรับภายนอก และสามารถทนแดดทน

ฝนได้ดี

สีก็มีส่วนสำคัญกับสวนเช่นกัน การทาสีในสวนควรเลือกใช้สี

โทนอ่อน ซึ่งจะช่วยเปิดพื้นที่ให้ดูโล่งสบายตา แต่หากใครต้องการสีสันที่ดู

สวยสดจะเลือกใช้สีแรงๆ ให้สวนมีรูปแบบสไตล์โมร็อคโกก็คงไม่ว่ากัน

การเลือกใช้ ไม้เพื่อเป็นองค์ประกอบในสวน ทั้งสีเข้ม สีอ่อน หรือมี

ลวดลาย มาตกแต่งกำแพง ทางเดิน ม้านั่ง หรือแม้แต่เตียงสำหรับใช้นอน

เล่น ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดความเขียวขจีของสวนได้อย่างลงตัว

ไม้แขวน เป็นอีกชนิดที่จะช่วยเพิ่มความเก๋ ไก๋ให้กับสวน แต่หากจะเพิ่ม

ลูกเล่นอีกนิดก็ใช้ชั้นไม้ สำหรับวางไม้กระถางต้นเล็กสีสวย นำมาตั้งเรียงกันก็

ดูสดชื่นสบายตาแล้วค่ะ

หากมีเวลาว่างอย่าลืมนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปช่วยในการออกแบบจัด

สวนสำหรับพักผ่อนของคุณ ให้มีสีสันและน่ามองมากขึ้น เพียงร่วมมือ

ลงแรงกันคนละนิดก็จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวได้เยอะ

ทีเดียว

สวนสวยด้วยมือเรา (บนพื้นที่จำกัดของเมืองใหญ่)