Upload
thunchanok-supasat
View
217
Download
0
Embed Size (px)
DESCRIPTION
Â
Citation preview
ลวดลายปูนปั้นศิลปะพม่าในจังหวัดล�าปาง
ธวัชชัย สุภาศาสตร์
ลวดลายปูนปั้นศิลปะพม่าในจังหวัดล�าปาง
Burmese Stucco Arts in Lampang
ธวัชชัย สุภาศาสตร์
เมืองล�ำปำงเป็นเมืองส�ำคัญเมืองหนึ่งในดินแดน
ล้ำนนำ ที่มีควำมเจริญรุ่งเรืองมำแต่อดีตกำรปกครองและ
ศำสนำก็มีควำมเจริญด้วยเช่นกัน โดยมีกำรพบหลักฐำน
ทำงโบรำณสถำนและศิลปวัตถุโดยเฉพำะโบรำณสถำน
ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศำสนำนั้นได้ปรำกฎมำกและจำก
ประวัติศำสตร์ของอำณำจักรล้ำนนำได้ปรำกฏหลักฐำน
ที่แสดงถึงควำมสัมพันธ์กันทำงกำรเมืองของพม่ำกับ
ล้ำนนำส่วนหนึ่งที่เห็นได้ชัดคืองำนศิลปกรรมที่ตกแต่ง
ตำมศำสนสถำนแบบพม่ำที่มีอยู่ในเขตจังหวัดล�ำปำงนับว่ำ
เป็นศิลปกรรมที่มีควำมงดงำมยิ่งนัก
ลวดลำยปูนปั้นนั้นหลำยแห่งมีลักษณะใกล้เคียง
กันแต่มีรูปแบบที่แตกต่ำงกันโดยเฉพำะศิลปะแบบพม่ำ
ที่เข้ำมำจำกกำรที่ชำวพม่ำได้เข้ำมำในสมัยรัชกำลที่ ๕
และรัชกำลที่ ๖ โดยกำรเข้ำมำผูกขำดกำรค้ำขำยไม้ทำง
ภำคเหนือได้ตัดไม้โค่นไม้ส่งไปขำยยังภำคกลำงและต่ำง-
ประเทศจนร�่ำรวย ซึ่งชำวพม่ำจะมีคติควำมเชื่ออยู่ว่ำถ้ำรวย
แล้วต้องท�ำนุบ�ำรุงศำสนำสร้ำงวัดหรือบรูณะวัดเก่ำขึ้นมำ
อุทิศให้แก่เทวดำที่อำศัยอยู่ในป่ำเพื่อเป็นกำรตอบสนอง
ควำมศรัทธำและเลื่อมใสในพุทธศำสนำอำคำร
ศำสนสถำนแบบพม่ำจึงเกิดขึ้นมำกมำยและแพร่หลำยใน
เขตอ�ำเภอเมือง
6
การสร้างงานปูนปั้นของช่างพม่าแบ่งได้2ลักษณะ
1. กลุม่ลวดลำยทีส่ร้ำงขึน้ตำมแนวคดิคติควำมเชื่อตำมประเพณีนิยมมีกำร
ผสมผสำนแนวคิดควำมเชื่อของคนในล้ำนนำและแนวคิดของพม่ำเข้ำด้วยกันโดย
เฉพำะเรื่องคติจักรวำลไตรภูมิซึ่งเป็นแนวคิดนำมธรรมโดยใช้ลวดลำยเป็นสิ่งแสดง
สัญลักษณ์เพื่อให้เป็นรูปธรรม เช่น ลวดลำยดำวเพดำน ลวดลำยพนัธุพ์ฤกษำ เป็นต้น
ซึ่งลวดลำยนัน้ต้องสัมพันธ์กบัต�ำแหน่งของลำยและประเภทอำคำรเพือ่ให้สอดคล้องกบั
คตคิวำมเชือ่มำกขึน้
2. กลุ่มลวดลำยที่ประดิษฐ์ขึ้นตำมแบบของช่ำงลวดลำยที่ประดิษฐ์ขึ้น-
ใหม่ เป็นกำรผสมลวดลำยแบบตะวันตก (ยุโรป) โดยมิได้ค�ำนึงถึงควำมหมำยเชิง
สัญลักษณ์ เช่น ลวดลำยริบบิ้น ลวดลำยใบองุ่นที่มีลักษณะคล้ำยลวดลำยใบเมเปิล
ของตะวันตก
7
รำยละเอียดของลวดลำย ประกอบด้วย 5 ประเภท คือ
- กลุ่มลวดลำยพันธุ์พฤกษำ เช่น ลำยก้ำนขด ลำยดอกไม้-ใบไม้ เป็นต้น
- กลุ่มลวดลำยคน เทวดำ พระพุทธเจ้ำ ยักษ์ สัตว์
- กลุ่มลวดลำยแบบไข่ปลำ
- กลุ่มลวดลำยดำวเพดำน
- กลุ่มลวดลำยประเภทอื่น เช่น ลำยถักเชือก เป็นต้น
8
ของชำ่งผูส้รำ้งสรำ้ง
2. ลวดลำยคน เทวดำ พระพุทธเจ้ำ ยักษ์ สัตว์เป็นลวดลำยที่เกี่ยวกับ
คติควำมเชื่อเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้เกิดควำมเป็นสิริมงคล นยิมเป็นลำยที่ท�ำให้เป็น
ศูนย์กลำงของลำย หรือเป็นศูนย์กลำงของกรอบลำย เช่น ลำยเทวดำ หรือตัวเทวดำ
พระพุทธรูป ตัวสิงห์ ตัวม้ำ ตัวกวำง เป็นต้น
เทคนิคการสร้างลวดลายปูนปั้นที่โดดเด่น
ลวดลายปั้นรัก
สำมำรถแบ่งได้ 3 ประเภทคือ
1. ลวดลำยพันธุ์พฤกษำและลำยเครือเถำเป็นลำยที่นิยมประดับตกแต่ง
แบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ แบบที่หนึ่งเป็นลำยที่เกิดจำกกำรเลียนแบบธรรมชำติ โดย
น�ำรูปแบบของธรรมชำติมำเป็นต้นแบบในกำรผูกลำยมีลักษณะโดยรวมเป็นลำย
เครือ-เถำ เช่น ลำยเครือดอกพุดตำน เป็นต้น กำรออกลำยจะมีทั้งดอกเดี่ยวและ
เป็นดอกกลุ่ม นอกจำกนัน้ยงัมกีำรผสมผสำนระหวำ่งลำยพนัธุพ์ฤกษำหลำยๆ ชนดิ
ในกรอบลำยเดยีวกนั เชน่ ลำยดอกพดุตำนผสมกบัลำยใบอะเคนตสัหรอืลำยเถำ
องุน่ เป น็ตน้ แบบทีส่องเปน็ลำยธรรมชำตกิึง่ประดษิฐ์ เปน็ลำยทีม่พีืน้ลำยจำกลำยพันธุ์
พฤกษำแตล่ดควำมเหมอืนจรงิลงไปมกีำรสรำ้งลำยขึน้ใหมต่ำมแนวทำงกำรออกแบบ
9
3. ลวดลำยประดับเสำอำคำรกำรสร้ำงลำยในเสำอำคำรแบ่งออกเป็น 3
พื้นที่ คือ พ้ืนท่ีที่หนึ่งเป็นลำยบัวหัวเสำนิยมเป็นลำยกลีบบัวซ้อนซ้อนชั้นกันเป็น
บัวหัวเสำหรือเป็นลำยกำบใบ และมีกำรใช้รูปทรงใบแบบเรขำคณิต เช่น ลำย-
ฟันปลำ เป็นต้น นอกจำกนั้นยังมีลำยพันธุ์พฤกษำผสมอยู่ด้วย พื้นที่สองเป็นลำย
ตัวเสำนิยมสร้ำงเป็นลำยพันธุ์พฤกษำแบบพันเกลียวขึ้นในแนวเฉียง พื้นที่ที่สำม
เป็นลำยกรวยเชิงเสำเป็นลำยในกรอบสำมเหลี่ยมมีช่อลำยอยู่ในจุดศูนย์กลำงของ
ลำย ด้ำนข้ำงมีกำรเช่ือมกันของลำย
10
ลวดลายปั้นรักประดับกระจกสี
ลวดลำยที่สร้ำงจำกงำนป้ันรกั
ประดับกระจกสีนั้นนิยมที่จะสร้ำงเป็น
ลวดลำยพันธุ์พฤกษำแบบประดิษฐ์
ลวดลำยเครอืเถำ – ก้ำนดอก เนื่องจำก
สำมำรถปั้นรักประดับกระจกสีได้มำก
ที่สุดคือในส่วนของฐำนชุกชีส่วนของ
เพดำนอำคำร ส่วนของเสำอำคำร กำร
ประดับเฉพำะพื้นที่สำมแห่งนี้น่ำจะ
เป็นควำมนิยมกำรประดับของแบบ
อำคำรศำสนสถำนของกลุ่มพม่ำ – ไท
เนือ่งจำกพื้นที่ทั้งสำมแห่งนั้นเป็นพื้นที่
ส่วนหนึ่งของอำคำรที่ส�ำคัญ กล่ำวคอื
ฐำนชุกชีนิยมใช้ลวดลำยเครือเถำ ลวด
ลำยพันธ์ุพฤกษำ ปั้นรักไปตำมรูปทรง
และหน้ำกระดำนของฐำนนอกจำกนั้น
ยังพบว่ำมีเทคนิคพิเศษที่ใช้กับส่วนฐำน
นี้คอื เทคนคิแรกเป็นกำรขึ้นโครงโลหะ
เป็นลวดลำยก่อนแล้วเดินเส้นรักและ
ประดับกระจกสีซึ่งนิยมสร้ำงประดับไว้
คล้ำยรูปแบบของรวงผึ้งประดับไว้ด้ำน
ขอบบนของฐำน เทคนิคที่สองเป็นกำร
ปั้นรักรูปนูนสูง เป็นรูปพระพุทธเจ้ำ
เทวดำ ช้ำง ภูเขำ ซึ่งจะเป็นกำรกล่ำวถึง
พุทธประวัติของพระพุทธเจ้ำ
11
ดังปรำกฎกำรสร้ำงงำนโดยเทคนิคนี้ใน
อุโบสถวัดป่ำฝำง
ในส่วนของเสำอำคำรนั้นนิยม
สร้ำงลวดลำยปั้นรักประดับกระจกสี แบ่ง
พื้นที่ของเสำออกเป็น 3 ส่วน โดยทั่วไป
นิยมท�ำเป็นลวดลำยลำยพนัธ์พฤกษำผสม
กบักำรสร้ำงรูปนูนสูงเป็นตัวเทวดำหรือ
บุคลต่ำงๆ ส่วนแรกคือส่วนท้องเสำ นิยม
สร้ำงเป็นลวดลำยลำยพันธ์พฤกษำเชื่อม
ต่อกันจนเต็มพื้นที่ของท้องเสำแต่บัวหัว-
เสำกลับใช้รูปแบบกำบบัวแบบพื้นเมือง
สันนิฐำนว่ำน่ำจะได้รับอิทธิพลบัวหัว-
เสำแบบพื้นเมอืงส่วนที่สองคือ ลำยหน้ำ
กระดำนรอบเสำนยิมสร้ำงเป็นลวดลำย
ดอกประจ�ำยำมสลับกับกำรปั้นรักเป็นรูป
ปั้นเทวดำหรือตัวสัตว์ ส่วนที่สำมเป็นกำร
ท�ำลวดลำยบัวเชิงเสำซึ่งน่ำจะเป็นอิทธิพล
กำรสร้ำงงำนแบบพื้นเมือง แต่ลวดลำย
บัวเชิงเสำนั้นมีลักษณะเป็นลำยช่อดอก
หรือเครือดอกแบบพม่ำ ในส่วนของเสำ
อำคำรนี้ยังพบเทคนิคพิเศษที่ใช้กับส่วน
ฐำนนี้คือ เทคนิคกำรขึ้นโครงโลหะเป็น
ลวดลำยก่อนแล้วเดินเส้นรักและประดับ
กระจกสี
ในส่วนของเพดำนอำคำร
เนื่องจำกเพดำนอำคำรนิยมสร้ำงเป็น
กรอบช่องในรูปสี่เหลี่ยมเชื่อมต่อกัน
ไปจนเต็มพื้นที่เพดำนอำคำรจงึท�ำให้
ลกัษณะของลวดลำยเป็นกำรประดับไว้
ในส่วนด้ำนนอกกรอบและด้ำนกลำง
ของกรอบช่องเพดำนโดยทั่วไปลวดลำย
ที่ใช้นั้นพบว่ำนิยมใช้ลวดลำยพนัธุ์
พฤกษำแบบประดิษฐ์ลวดลำยเครือเถำ
– ก้ำนดอก เนื่องจำกสำมำรถปั้นเส้น
รักและเดินเส้นรักได้ในพื้นที่ต่ำงๆของ
เพดำนได้ดี
12
แนวคิดเชิงสัญลักษณ์ในลวดลาย งำนประดับตกแต่งอำคำรทำงศำสนำ
ของกลุ่มชำติพันธุ์พม่ำ กำรสร้ำงลวดลำย
ประดับตำมส่วนต่ำงๆทั้งภำยนอกและภำยใน
อำคำรนั้นมีช่วงระยะเวลำของกำรสร้ำงที่
แตกต่ำงกันเนื่องจำกเป็นงำนที่สร้ำงขึ้นเพื่อ
ถวำยเป็นพุทธบูชำจึงท�ำให้กลุ่มงำนประดับ
ตกแต่งดังกล่ำวมีรำยละเอียดที่แตกต่ำงกัน
นอกจำกนั้นแบบแผนของลวดลำยยังแสดงให้
เห็นได้ว่ำมีกำรผสมผสำนรูปแบบของลวดลำย
พืน้เมืองเข้ำกบัรูปแบบของลวดลำยแบบพม่ำ
เพือ่เป็นกำรตรวจสอบและวิเครำะห์ถึงลักษณะ
13
ที่เป็นแบบแผนและแนวคิดเชิงสัญลักษณ์
ที่ปรำกฏในลวดลำยและเพื่อให้ทรำบ
ถึงประวัติควำมเป็นมำของลวดลำยใน
ที่นี้สำมำรถจัดแบ่งกลุม่ตำมลกัษณะของ
ลวดลำยออกเป็นกลุม่ใหญ่ๆ ทีป่รำกฏใน
งำนป้ันรกัประดบักระจกงำนฉลไุม้และงำน
ลำยค�ำได้ดงันี้
- ลวดลำยพันธุ์พฤกษำ
- ลำยก้ำนขดเครือเถำ
- ลวดลำยแบบลำยประดิษฐ์
- ลวดลำยหน้ำกระดำน
- ลวดลำยประเภทเทวดำ คนและสัตว์
1. ลวดลายพันธุ์พฤกษา
ลวดลำยพนัธุพ์ฤกษำทีป่รำกฏ
อยูใ่นอำคำรศำสนสถำนแบบพม่ำมีควำม
แตกต่ำงของกำรสร้ำงสรรค์ลำยตำมแต่ละ
วสัดกุล่ำวคอืข้อจ�ำกดัของวสัดุทีใ่ช้ในกำร
ประกอบเป็นลำยน้ันมแีบบแผนของกำร
สร้ำงลวดลำยเฉพำะวสัด ุแต่ในทีน่ีจ้ะ
กล่ำวถงึภำพรวมของลวดลำยพนัธุพ์ฤกษำ
ทีป่รำกฏอยูใ่นงำนท้ังงำนป้ันรักประดบั
กระจกงำนฉลไุม้และงำนลำยค�ำโดยมรีำย
ละเอยีดของลวดลำยดงัต่อไปน้ี
14
ลำยดอกไม้ ลวดลำยดอกไม้ที่ใช้ประดับตกต่ำงมีลักษณะประกอบกันเป็น
ลำยเครอืเถำหรือเป็นลำยแบบดอกเดีย่ว ซึง่ลวดลำยดอกไม้นั้นบำงส่วนเป็นลวดลำย
ดอกไม้แบบล้ำนนำและแบบตะวันตกผสมแบบพม่ำ – ไท ลำยดอกไมด้ังกล่ำวมี
รำกฐำนมำจำกรูปแบบดอกไม้ซึ่งมีควำมนิยมในงำนศิลปะแบบตะวันตกลวดลำย
ดอกไม้นั้นมีส่วนประกอบของก้ำนใบและดอกลักษณะของลวดลำยดอกไม้มีทั้งแบบ
ที่เป็นไม้เลียนแบบธรรมชำตลิวดลำยดอกไม้แบบทรงกลม ลวดลำยดอกไม้แบบทรง-
เรขำคณิต ลวดลำยดอกไม้แบบลำยกนก และลวดลำยดอกไม้แบบลำยประดิษฐ์
งำนศิลปกรรมที่สร้ำงควำมโดนเด่นของลำยดอกไม้ได้เป็นอย่ำงดีคืองำนแกะสลัก
รักเนื่องจำกเทคนิคกำรสร้ำงแนวโค้งของช่ำงฝีมือแบบพม่ำนั้นมีควำมช�ำนำญและมี
เทคนิคในกำรสร้ำงให้เกิดมิติดังปรำกฏในงำนแกะสลักไม้เป็นโก่งคิ้วด้ำนทำงเข้ำของ
จองศรีชุมเป็นต้น
15
นอกจำกนั้นยังพบรูปแบบของลำยดอกไม้แบบพื้นเมือง ซึ่งเป็นลำยแบบ
ดอก 5 – 6 กลีบดอกลักษณะของกำรท�ำกลีบดอกมีรูปแบบคล้ำยดอกในลำย
เครื่องเขิน กล่ำวคือ ลักษณะของดอกนั้นเป็นดอกแบบดอกกลม กลีบดอกมีปลำย
แยกเป็นแฉกแบบเดียวกับเทคนิคกำรเขยีนดอกในเครื่องเขิน ดังปรำกฏให้เห็นใน
งำนลำยค�ำในจองป่ำฝำง และจองม่อนปู่ยักษ์
ลำยใบไม้ เป็นลวดลำยที่ปรำกฏคู่กับลำยดอกไม้ซึ่งประกอบกันเป็นลำย
เครือเถำ ควำมแตกต่ำงของลำยใบไม้นี้จะท�ำให้ได้ทรำบว่ำลวดลำยดอกไม้หรือ
ลวดลำยพันธุ์พฤกษำนั้นเป็นลวดลำยของดอกไม้ชนิดใด รูปแบบของลำยใบไม้มีทั้ง
แบบลำยใบไม้แบบลำยกนกกำบใบแบบพม่ำ ลำยใบไม้ที่เบียนแบบธรรมชำติ ลำย
ใบไม้แบบประดิษฐ์ ควำมนิยมลำยใบไม้แบบศิลปะพม่ำนั้นได้รับรูปแบบลำยใบไม้
แบบตะวันตกเช่น ใบเมเปิลซึ่งมีลักษณะลวดลำยของใบเมเป็นใบที่หยักแฉกลักษณะ
คล้ำยใบต�ำลึงและใบอะแคนตัสหรือลำยใบองุ่น เป็นต้น
16
2. ลายก้านขด – เครือเถา
เป็นลวดลำยที่พบในงำนปั้นรักประดับกระจกมำกที่สุดซึ่งจะปรำกฏใน
ส่วนที่เป็นกรอบช่องเพดำนในอำคำรและในส่วนที่เป็นลำยท้องเสำและลำยเชิงเสำ
เนื่องจำกงำนปั้นรักประดับกระจกนั้นมีควำมเป็นอิสระในกำรสร้ำงสรรค์ลวดลำย
รปูแบบของลำยก้ำนขดเครือเถำมีลักษณะที่เป็นทั้งลำยก้ำนขดแบบพม่ำ ลำยก้ำนขด
แบบลำยไทใหญ่ ลำยก้ำนขดแบบตะวันตก ลำยก้ำนขดแบบประดิษฐ์
ลำยก้ำนขด – เครือเถำ ตำมศัพท์ศิลปกรรมช่ำงพม่ำเรียกว่ำ “โซ่ปันกะโนว่”
ซึ่งเป็นลวดลำยก้ำนขดที่มีจุดส�ำคัญของลำยอยู่ที่ กำรต่อดอกหรือที่เรียกว่ำ “ลำย-
ก้ำนต่อดอก” ซึ่งมีรูปแบบของลำยคล้ำยลำยช่อกนก นอกจำกนั้นหำกเป็นลวดลำย
ก้ำนขอเครือเถำโดยมีจุดส�ำคัญ ของลำยอยู่ที่ก้ำนลำยและใบไม้ ดังจะพบเห็นได้ใน
งำนแกะสลักไม้และงำนปั้นรักประดับกระจกจะเรียกว่ำ “โซ่ปันโซ่แนว่”
17
3. ลวดลายแบบลายประดิษฐ์
เป็นลวดลำยที่สร้ำงสรรค์ขึ้นโดยมีพื้นฐำนของลำยมำจำกลวดลำยพันธุ์-
พฤกษำ รปูแบบของลวดลำยนั้นจะมีควำมแตกต่ำงกันตำมแนวควำมคิดหรือแนวทำง
กำรสร้ำงสรรค์ของแต่ละฝีมือช่ำง ลำยประดิษฐ์ที่พบมำกที่สุดจะพบในงำนลำยค�ำและ
งำนแกะสลักหรือฉลุไม้ ซึ่งลวดลำยประดิษฐ์นั้นได้รับอิทธิพลจำกรูปแบบลวดลำย
แบบฝรั่ง
18
4. ลวดลายประเภทเทวดา คนและสัตว์
ลวดลำยเทวดำ เป็นลวดลำยที่มีลักษณะเป็นตัวเทวดำแบบพม่ำและเทวดำ
แบบฝรั่งซึ่งเป็นลวดลำยที่ได้รับอิทธิพลจำกควำมนิยมแบบตะวันตกนั้นก็คือ ลำย-
กำมเทพหรือตัวคิวปิดซึ่งเป็นเทพเจ้ำแห่งควำมรักตำมคติควำมเชื่อของศำสนำคริสต์
ชำวพม่ำเรียกลำยตัวเทวดำแบบพม่ำนี้ว่ำ “นัตอะเซ่ำ” และเรียกตัวคิวปิดว่ำ
“เมียย์นัตเม่ำว์”
ลำยเทวดำหรือลำยเทพแบบพม่ำ – ไทย ยังปรำกฏในรูปแบบดังเดิม ดัง
ปรำกฏให้เห็นอย่ำงชัดเจนในงำนปั้นรักประดับกระจกเป็นลำยประเสำภำยในอำคำร
จองศรีรองเมือง ซึ่งเป็นลำยที่สร้ำงขึ้นรำว พ.ศ. 2451 ดังปรำกฏข้อควำมจำรึกไว้ที่
ตัวเทวดำในเสำด้ำนซ้ำยสุดของห้องพระประธำนภำยในจองศรีรองเมืองนี้ รูปแบบ
ของตัวเทวดำมีอยู่หลำกหลำยลักษณะ ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกันกับลวดลำยตัวภำพ
19
ที่ปรำกฏในลวดลำยของงำนเครื่องเขินแบบพม่ำ ซึ่งนิยมสร้ำงลวดลำยเครื่องเขินเป็น
ภำพตัวเทวดำต่ำงๆ เช่น รูปตัวเดวำ (Deva) รูปบีลู (Balu) รูปตัวนัด (Nat) เป็นต้น
แม่แบบของลวดลำยตัวเทวดำที่ปรำกฏในลวดลำยงำนปั้นรักประดับกระจก
ในงำนแกะสลักไม้ งำนจิตกรรม งำนประติมำกรรมหรือในลวดลำยเครื่องเขินก็ตำม
ล้วนมีแม่แบบมำจำกกำรสร้ำงหุ่นชักแบบพม่ำ ซึ่งพม่ำถือว่ำหุ่นละครชักนี้เป็นศิลปะ
ชั้นสูงของพม่ำที่น�ำมำสู่กำรสร้ำงงำนศิลปะในแขนงอื่นๆ อีกมำกมำยโดยเฉพำะ
อย่ำงยิ่งเป็นแม่แบบให้แก่ท่ำฟ้อนร�ำหรือนำฏลีลำแบบพม่ำ ชำวพม่ำเรียกหุ่นละคร
ชักนี้ว่ำ “โยะเต”
20
ลำยสัตว์ ลวดลำยสัตว์ปรำกฏหลำกหลำยรูปแบบทั้ง ลำยนกยุง
ลำยกระต่ำย ลำยสิงห์ หรือลำยตำมวันเกิดเช่น ม้ำ นก แกะ ช้ำง ซึ่งก็มีควำมหมำย
แตกต่ำงกันไป อย่ำงเช่น ลำยนกยุง กับลำยกระต่ำย หมำยถึงกลำงวันและกลำงคืน
และ สัตว์ประจ�ำวันเกิดก็สัมพันธ์กับเจดีย์ประจ�ำวันเกิดซึ่งมำกจำกควำมเชื่อต่ำงๆ
นั้นเอง
21
งานปูนปั้นประดับศำสนสถำนศิลปะพม่ำในเขตอ�ำเภอเมือง จังหวัด-
ล�ำปำง เป็นงำนศิลปะซึ่งสร้ำงขึ้นมำจำกศรัทธำที่มีควำมงดงำมอ้อนช้อยผสกลมกลืน
กับแนวคิดเชิงสัญลักษณ์ไว้อย่ำงมำกมำยซึ่งในปัจุบันได้ ควำมส�ำคัญของศำสนสถำน
แบบพม่ำในหลำยแห่งได้ขำดกำรดูแลและกำรให้ควำมรู้ควำมส�ำคัญของศำสนสถำน
เหล่ำนั้น ซึ่งกำรจัดท�ำประวัติวัดหรือประวัติของรูปแบบศิลปะต่ำงๆ เป็นกำรให้ควำม
รู้แก่ผู้ที่สนใจและอยำกไปศึกษำจะท�ำให้ผู้ที่สนใจเห็นคุณค่ำและควำมงำมของ
ศำสนสถำนเหล่ำนั้น ซึ่งถือเป็นกำรรักษำมรดกทำงวัฒนธรรมเหล่ำนี้ไว้เพื่อเป็น
แบบอย่ำงในกำรศึกษำต่อไป
ลวดลายปูนปั้นศิลปะพม่าในจังหวัดล�าปาง
ธวัชชัย สุภำศำสตร์
530310119
ภำษำไทย © 2556 ภำควิชำศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์
มหำวิทยำลัยเชียงใหม่
สงวนลิขสิทธิ์
พิมพ์ครั้งแรก สิงหำคม พ.ศ. 2556
จัดพิมพ์โดย ภำควิชำศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์
มหำวิทยำลัยเชียงใหม่
ออกแบบโดย ธวัชชัย สุภำศำสตร์
ออกแบบโดยใช้ฟอนท์ TF Lanna ขนำด 16 pt.