24
..My Singapore Story.. By.. Akanishi Daiko

My singapore story

Embed Size (px)

DESCRIPTION

เที่ยวสิงคโปร์ในมุมของเรา ที่อยากแบ่งปันให้คนที่สนใจไปสิงคโปร์ได้อ่านค่ะ

Citation preview

Page 1: My singapore story

..My Singapore Story..

By.. Akanishi Daiko

Page 2: My singapore story

Introก่อนออกเดินทางไปสิงคโปร์มักมีคนถามเสมอว่า ไปสิงคโปร์ตั้ง 6 วัน..สิงคโปร์มีอะไรน่าเที่ยวเยอะ

ขนาดนั้นเหรอ?..ตอนนั้นเราเองก็ตอบไม่ได้จนกว่าจะไปสัมผัสกับสิงคโปร์ด้วยตัวเอง..

เราเชื่อว่า เส้นทางการท่องเที่ยวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทุกคนล้วนมีความทรงจําแต่ละที่เป็นของตัวเอง

เรามีความทรงจําของสิงคโปร์เป็นของเรา แต่ละคนที่เคยไปเที่ยวสิงคโปร์

ก็มีความทรงจําของสิงคโปร์เป็นของตัวเองเช่นกัน

Photo book เล่มนี ้เราเลือกสิ่งที่น่าประทับใจที่เราได้พบ

และแบ่งปันประสบการณ์ดีๆให้ทุกคนได้รับรู้กับสิงคโปร์ของเราค่ะ

แล้วสิงคโปร์ของคุณละคะเป็นแบบไหน?

Akanishi Daiko

Page 3: My singapore story

1.Gardens by The Bay

วันแรกพอลงเครื่องมา ตอนค่ําๆ เรามาที ่Gardens by Bay เป็นที่แรก

แสงสีของต้นไม้ทําให้เราตื่นเต้น และเป็นโชคดีของเราที่ ส่วนของสวนจัดเทศกาลคริสมาสพอดี

แสงสีจึงดูวิบวับไปหมดเราเหมือนแมงเม่าเดินเข้าในไฟแห่งความสนุกสนาน..

ระหว่างทางสามารถมองเห็น Singapore Flyer งามค่ําคืนและตึก Sends Sky Park ที่ถือว่า

เป็นตึกที่ต้องถ่ายคู่หากมาสิงคโปร์เราไม่ได้ขึ้นไปด้านบนตึก เพราะ มีค่าเข้า

เอาเป็นว่าแค่มองอยู่ไกลๆก็อิ่มแล้ว เดินค่อนข้างเยอะตั้งแต่วันแรกแต่ก็ไม่หวั่น

การเดินทาง >>MRT : Bayfront ทางออก B ! / รถเมลล์ สาย 133 จาก ! lavender มาเรื่อยๆลงที่ตึก !Send ! Sky Park เดินลัดตึก! และลอดมาทางใต้สะพานไปที่! สวนได้เลย

Page 4: My singapore story

2.Botanic Gardens

! สวนสีเขียวร่มรื่นเหมาะกับการพักผ่อนเดินเล่นใครชอบต้นไม้คงจะชอบที่นี่ไม่น้อย ในสวนมีสวนกล้วยไม้ที่ต้องเสียเงินเข้าไปด ูสําหรับเราเฉยๆกับที่นี่เพราะไม่ค่อยมีอะไรนอกจากต้นไม้ตามชื่อสถานที่และวันที่เราไปดอกไม้ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร

การเดินทาง : MRT botanic Gardensสามารถเดินไป MRT Orchard ได้แต่เดินไกลอยู่เหมือนกัน

Page 5: My singapore story

3.Chinatown

! เป็นย่านช็อปปิ้งของฝากและหาของกินที่หลายคนต้องชอบ อาหารมีหลายประเภทให้เลือกทานที่ food street หากมาตอนเย็น ๆบรรยากาศที่ food street จะชิวมาก ที่ชอบอีกอย่างคงเป็นตึกและการตกแต่งที่ chinatown สีสันสดใสน่ารักมาก เราสามารถเดินไปที่ วัดจีน,วัดมุสลิมและพิพิธภัณฑ ์ red dot แถวนั้นได้ไม่ยากเลย

การเดินทาง :MRT : chinatown ทางออก A >>main streetทางออกก D ห้าง People Park เพื่อซื้อตั๋ว Universal ร้าน Sea wheel ชั้น 3

Page 6: My singapore story

Red dot design museumตึกจริงสีค่อนข้างซีดไปมากแล้ว แต่การ Design ยังคงเก๋อยู่

Page 7: My singapore story

4. ตึก ราม บ้าน ช่อง กับ Raffle hotel [Museum] ที่หาไม่เจอ

! ตอนแรกว่าจะไป raffle hotel แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ถามคนแถวนั้นบอกว่าปิดไปแล้ว (??) เลยเดินเล่นแถวนั้น ทะลุไปจนถึง city hall ที่ปิดปรับปรุงอยู ่ย่านนี้มีตึก โรงแรมสวยๆเยอะโดยเฉพาะตึกธนาคารสวยและดูรวยมาก 55 กลายเป็นว่าจาก raffle hotel ที่หาไม่เจอ เป็นทริปเดินดูบ้านเมืองสิงคโปร์ไป รู้สึกว่าตัวเองเดินเยอะมาก เพราะ ปลายทางที่ต่อไป คือ Singapore Flyer แถบนั้นทะลุถึงกันหมดเลย สถานที่ดังๆ หาไม่ยาก

Page 8: My singapore story

5. Singapore Flyer

! เดินเหนื่อยแล้วก็มาหยุดพัก นั่งชมประเทศสิงคโปร์มุมสูงด้วยกระเช้าลอยฟ้า กระเช้าเคลื่อนตัวช้าๆ ให้เราได้ดูเมือง ด้านล่างอย่างเต็มอิ่ม จากตึกสูงกลายเป็นตึกเล็กๆ ตั้งเรียงรายเหมือนเลโก้ ตอนกลางคืนไฟจากตึกจะต้องสวยมากแน่ๆ

Page 9: My singapore story

Fountain terraceน้ําพุเต้นระบํา

Page 10: My singapore story

Mer Lion & Marina Bay Sandเสน่ห์ยามค่ําคืนของสิงคโปร์เป็นอะไรที่ลืมไม่ลง

Page 11: My singapore story

6.

CASINOโชคดีมีให้เราครั้งเดียว

! casino ที่สิงคโปร์เปิดให้เข้าฟรี แต่ต้องอายุเกิน 22 เท่านั้นถึงจะเข้าได้ มีการตรวจจากพาสปอร์ต สามารกเดินข้ามสะพาน Helix ไปถึงตัวห้างที่มีคาสิโนอยู่ได้เลย ข้างในมีเคร่ืองเล่นแสวงโชคเยอะมากถึง 3-4 ชั้น กลิ่นบุหรี่อบอวน มีน้ําให้ดื่มฟรี เรากับเพื่อนเลือกเล่น สล๊อต ที่เป็นตู้ๆ จะมีให้เลือกเดิมพันตั้งแต่ 2 เหรียญขึ้นไป ลองคร้ังแรก เล่นไม่เป็นกดมั่วมาก 555 แล้วก็นั่งงงกัน ปรากฏเพื่อนไปกดปุ่ม collect แล้วหน้าจอก็ขึ้นเป็นเหรียญเงินเยอะๆ(ถือว่าจบเกมส์ ) ตู้ปร้ินเช็คให้เรา 15 เหรียญ ตอนนั้นคืองงมาก แบบ ได้มาแบบ งงๆ ในคาสิโนจะมีตู้ให้เอาใบนี้ไปรับเงินโดยอัตโนมัต ิรับเงินเสร็จลองเล่นอีกครั้ง ก็ไม่ได้แล้ว โชคดีมีได้ครั้งเดียวจริงๆ.

Page 12: My singapore story

7.Art museum

! เพราะฝนตกทําให้เราเลือกที่จะไป museum จะว่าไปแล้วสิงคโปร์เป็นเมืองศิลปะเลยนะ เดินผ่านไปที่ไหนเมืองนี้จะต้องมีงานศิลป ์ให้เห็นอยู่เสมอ singapore art museum เป็นสถานที่ตอบโจทย์สําหรับคนที่ชอบดูงานศิลปะ อีกท่ีหนึ่ง มีงานศิลปะทุกรูปแบบ ห้อง learning ใน museum มีให้เราทํางานศิลปะของเราด้วยเช่นเดียวกัน

ค่าเข้า : 10 เหรียญการเดินทาง : MRT สถานี Bras Basah

Page 13: My singapore story

8.Haji lane

! แถวนี้เป็นย่านร้านขายของที่มีการตกแต่ง graffiti ได้ฮิปเตอร์มากๆ เดินเพลิน ถ่ายรูปเพลิน haji lane อยู่ใกล้ๆ bali lane ที่นี่ใกล้ที่พักเราเลยขึ้นรถเมลล์ไป สาย 145 ถ้าเห็นป้าย bali lane ก็ลงได้เลย

Page 14: My singapore story

9.Singapore Marathon

! ได้ไปวิ่ง marathon เป็นครั้งแรกในชีวิตที่สิงคโปร์ ระยะทางที่เลือกคือ 10 กม. เราทําเวลาได ้1 ชั่วโมง 30 นาที การวิ่งครั้งนี้ให้อะไรหลายๆอย่างกับเรา เราได้เห็นว่าคนสิงคโปร์ส่วนใหญ่ใส่ใจกับการออกกําลังกายมาก เรารู้สึกตื้นตันใจระหว่างคนที่วิ่งนําไปก่อนแล้วสวนทางกับเรา ทุกคนส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้ ระหว่างวิ่งเราเหนื่อยเลยเดิน มีลุงที่เป็นกองเชียร์ข้างสนาม ตะโกนและตบไล่ว่า สู้ๆ!!(ภาษาจีน) แม้จะไม่รู้จักกัน แต่พลังที่ลุงส่งมาก็ทําให้เราวิ่งต่อไปได้ และเวลาเข้าเส้นชัยมันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆการวิ่งของเราครั้งนี้ทําให้เรารู้อีกว่ามีเพื่อนที่ไม่คิดจะทิ้งกัน รอเราอยู่เสมอแม้จะนําหน้าไปก่อน มีหลงกันบ้างแต่เพื่อนก็ยังรอเราอยู่ที่ที่นัดกันไว้ ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ ตัวเองโชคดีมากที่มีเพื่อนดีๆ

Don't stop when you're tired, Stop when you're done.

Page 15: My singapore story

10.Universal Studio

! ถือเป็นสวนสนุกสมชื่อ ภาพที่ได้มาให้พนักงานถ่ายภาพให้ กังฟูแพนด้าเป็น character ที่ฮาสุดๆ เล่นกับคนที่มาถ่ายรูปด้วย และเรียกเสียงหัวเราะจากเราไปเยอะเลย น่ารักสุด เราเล่นลืมอายุตัวเองไปเลย 555 ที่พลาดไม่ได้คือ เครื่องเล่นมัมมี ่และ ทรานฟอร์เมอร์

Page 16: My singapore story

! ทริกของการได้เล่นเร็วๆ ถ้าไปกันเพียง 2 คนคือ ให้เข้าแถวเล่นในช่อง single rider คือแยกกันเล่น แค่ไม่ได้นั่งด้วยกันแปร๊บเดียวแต่ประหยัดเวลาได้ 3 เท่าเลยค่ะ เช่น ทรานฟอร์เมอร์ถ้ารอ จะประมาณ 60 นาที แต่ถ้าเข้าช่องนี้ จะลดเหลือ 10 นาทีค่ะ (ส่วนคนที่มี fast pass ก็ยื่นเล่นแล้วแต่เลย) อย่าลืมเอาบัตรลด 5 เหรียญลดราคาอาหารด้วยนะคะ

การเดินทาง : MRT HarbourFront ไปตามป้ายที่ชี้ไป Sentosa การเดินทางเลือกไปทางเดินหรือรถไฟฟ้าเข้าเกาะก็ได้ค่ะ เราเลือกเดิน เสีย 1 เหรียญ เป็นค่าเข้าเกาะ

Page 17: My singapore story

boardwalk to Sentosaทางเดินสู่เกาะเซนโตซ่า

Page 18: My singapore story

11.Greenkiwi Hostel

! ที่พักอาศัยของเราทั้ง 5 คืน (2,500 บาท)เราดีใจมากที่ได้พักที่นี่ ราคาไม่แพง พนักงานน่ารัก เต็มใจบริการให้ข้อมูลที่เที่ยว อาหารเช้าฟรี ห้องน้ํารวมแต่ก็สะอาดดี เราพักห้องหญิงล้วน 8 คน ได้เพื่อน เกาหลีและเยอรมันมา มีแลกเปลี่ยนอีเมลล์กันตามประสา ที่นี่ยังมีพี่บอล(ขอเอ่ยนามตรงนี้นะพี่) เป็นลูกครึ่งไทย มาเล พูดไทยได้ พี่บอลแนะนําที่เที่ยวต่างๆโดยเฉพาะการเดินทางในสิงคโปร์ได้ดีมาก คุยสนุก เม้ากันเพลิน 555 เรามีเตรียมโปสการ์ด ที่ระลึกจากไทยไปให้เขียนความรู้สึกส่งท้าย และแปะไว้ที่ hostel เป็นความทรงจําเล็กๆว่าเราเคยมาอยู่ที่นี ่และ ยังให้เพื่อนใหม่ที่ได้รู้จักเขียนอีกแผ่นให้เราเก็บไว้ด้วย เชื่อว่าถ้าตัวเองหยิบขึ้นมาดูจะต้องยิ้มได้แน่ๆ

การเดินทาง: MRT Lavender นั่งรถเมล์สาย 133 จนเห็นปั๊มเอสโซ่แล้วลงได ้โฮสเทลจะอยู่ฝั่งปั๊มเอสโซ่ ต้องข้ามถนนมา (จะเดินก็ได้แต่ไกลอยู่) / MRT Boon keng ทางออก c เดินผ่านสนามหญ้า ผ่านร้านอาหารไทยมาเรื่อยๆ มองป้ายข้างตึกไว้ แล้วจะเจอ

Page 19: My singapore story

12. Food

! อาหารที่สิงคโปร์หากินไม่ยาก และรสชาติก็ไม่ได้แปลกประหลาดจนกินไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร จีน,อินเดีย เราไม่ได้คาดหวังกับเรื่องอาหารในการเที่ยวครั้งนี้ คือ มีอะไรอยากกินอะไรก็กิน ถูกๆง่ายๆ เอามาเลย แซนวิสก็กินได้ คือกะมาเพื่อเที่ยวอย่างเดียวเลย ใครที่ไม่ได้คาดหวังกับกินเหมือนเราก็หาอะไรกินได้ไม่ยากเลย food republic ก็ได้ถ้าเที่ยวห้าง หรือจะเป็น food street china town ก็มีอาหารหลากหลายให้เลือกสรร ใครอยากประหยัด ควรมีขวดสําหรับใส่น้ําเตรียมไว้เวลาไปเที่ยวเวลากินข้าวจะได้ไม่ต้องซื้อน้ํา

Page 20: My singapore story

Foods.

Page 21: My singapore story

13.Fashion

! เราเป็นอีกคนที่โคตรจะมีความสุขเวลาได้แต่งตัวไปเที่ยวเลย ชอบหาชุดที่คิดว่าเหมาะกับที่เที่ยวนั้นๆ แล้วถ่ายรูป พอเห็นรูปสวยก็จะมีความสุขมากก ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนเราบ้างหรือเปล่า แบกเป้เที่ยวก็แต่งตัวงามๆได้นะเออ

Page 22: My singapore story

MY Fashion at Singapore

Page 23: My singapore story

14.Friend.! คู่หูในการเดินทางครั้งนี้คือเพื่อนของเราเอง เราเที่ยวกัน 2 คน เพื่อนเราเป็นคนวางทริป เราจึงต้องดูแลกัน พลัดกันถ่ายรูป ระหว่างทางเรามีความทรงจําเพิ่มขึ้นมาด้วยกัน หัวเราะ หงุดหงิด มีความสุขและเข้าใจกันมากขึ้น การท่องเที่ยวแต่ละครั้งทําให้เรารู้สึกโชคดีที่มีเพื่อนคนนี้อยู่ข้างๆ แต่ละคนอาจจะมีการเดินทางเป็นของตัวเอง เที่ยวคนเดียว เที่ยวเป็นกลุ่ม ของเรานั้นก็มีเพื่อนคนนี้เหละที่อยู่กับเราและไม่เคยทิ้งกัน ขอบคุณนะ.

Page 24: My singapore story

Special Thanks

-พ่อกับแม่-คนที่คอยสนับสนุนเราทุกอย่าง

-Trophy Nate-ผู้คอยจัดทริปและอยู่ข้างๆกัน

-กล้อง Nikon D3100 -อุปกรณ์เก็บความทรงจํา

-สองเท้าของตัวเอง-ที่พาเราไปในทุกๆที่

สุดท้ายขอให้ทุกคนได้รับแรงบันดาลใจในการเดินทาง

ผ่านหนังสือเล่มนี้นะคะ

แล้วคุณจะได้รับอะไรที่มันมากกว่าการท่องเที่ยว

Akanishi Daiko