Transcript
Page 1: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

วิถีแหงความรูแจง

ถาทานผูใดประสงคจะพิมพแจกเปนธรรมทาน โปรดพิมพไดโดยไมตองขออนุญาต หากพิมพเพื่อจําหนาย ขอสงวนสิทธิ์

Page 2: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

คํานํา

วิถีแหงความรูแจงถึงพระสัทธรรมทางพระพุทธศาสนา ไดแกการเจริญสติ นอกจากการเจริญสติแลว ไมมีหนทางแหงความรูแจงทางที่สอง

การเจริญสติ หรือการทําความรูตัว เปนวิถีทางที่ตรงไปตรงมาที่สุด ที่จะพาเราแหวกออกจากโลกของความปรุงแตง หรือความคิดนึกทั้งหลาย ซึ่งปดกั้นเราไวจากสัจธรรมที่แทจริง ทันทีที่เราแยกตนเองออกจากโลกของความคิดปรุงแตงได จิตของเราจะมีคุณภาพที่จะมองเห็นปรมัตถธรรมที่กําลังปรากฏและเกิดดับ ไดแกจิตและเจตสิก อันเปนฝายนามธรรมและรูปธรรมทั้งปวง เมื่อจิตรูแจงและปลอยวางปรมัตถธรรม ฝายรูปธรรมและนามธรรมไดแลว เราก็จะบรรลุถึงสัจจะอันแทจริง ซึ่งอยูเหนือความปรุงแตงทั้งปวง

การบรรลุถึงสัจจะที่จะเหนือความปรุงแตง จะกระทําไมไดดวยการปฏิบัติที่เปนความปรุงแตง อาทิ การทําทาน การถือศีล และการทําสมาธิที่ถูกตอง (ไมตองกลาวถึงการทําทาน การถือศีล และการทําสมาธิที่ผิด คือเจือดวยโมหะและโลภะ) ตัวอยางเชน เมื่อเกิดความตระหนี่ก็ทําทานเพื่อลดความตระหนี่ เมื่อถูกราคะและโทสะครอบงําจิตใจ จนลนออกมาเปนการทําผิดทางกายและวาจา ก็ถือศีลเพื่อเปนกรอบกั้นการทําผิดทางกายและวาจาไวกอน หรือเมื่อจิตฟุงซานก็ทําความสงบ เมื่อมีกามราคะก็พิจารณาอสุภะ ฯลฯ สิ่งเหลานี้ แมจะเปนประโยชนมากและควรทํา แตก็เปรียบเหมือนกับการแกอาการของโรคเทานั้น ยังไมถึงขั้นการขจัดตนตอหรือสาเหตุของโรค

การจะปฏิบัติจนจิตเขาใจถึงสภาพธรรมที่เหนือความปรุงแตง จะกระทําไดดวยการลืมตาตื่นออกจากโลกของความคิดฝนปรุงแตง แลวหันหนามาเผชิญกับปรมัตถธรรมที่กําลังปรากฏดวยจิตที่เปนกลาง พนจากความหลงยินดียินรายแมแตกับกิเลสบาปธรรม ไมเพงจอง และไมเผลอเติมความคิดปรุงแตงลงในการรับรู นี้คือวิถีที่จะรีดกระแสความคิดปรุงแตงใหเรียวเล็กจนขาดลง เมื่อกระแสของความปรุงแตงขาดลง สภาพธรรมที่พนจากความปรุงแตงก็จะปรากฏออกมาเอง

การทําความรูตัว เปนสิ่งที่เราไมคุนเคย เพราะเราคุนเคยแตกับความไมรูตัวแลวหลงอยูในโลกของความคิดฝน จึงจําเปนที่เราจะตองศึกษา ทําความเขาใจ แลวลงมือปฏิบัติอยางจริงใจ

Page 3: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

หนังสือเลมนี้ ไดนําเสนอขอเขียนบางสวนของอุบาสกนักปฏิบัติผูหนึ่งคือ นายปราโมทย สันตยากร / “สันตินันท” / “อุบาสกนิรนาม” ทั้ง 4 เรื่อง มีสาระเดียวกันคือ นําเสนอแนวทางการเจริญสติ เพียงแตมีความยากงายในการอธิบายแตกตางกัน นับตั้งแต (1) เรื่อง “แดเธอผูมาใหม : เรื่องเรียบงายและธรรมดาที่เรียกวาธรรมะ” จะเปนการนําเสนอสําหรับผูที่ไมคุนเคยกับศัพททางพระพุทธศาสนา (2) เรื่อง “แนวทางปฏิบัติธรรมโดยสังเขป” เปนการขยายความใหลึกลง (3) เรื่อง “แนวทางปฏิบัติธรรมของพระราชวุฒาจารย (หลวงปูดูลย อตุโล)” เปนการแจกแจงการปฏิบัติแบบหนึ่ง ของศิษยผูหนึ่ง ซึ่งไดรับการชี้แนะแกนคําสอนในเชิงปฏิบัติจากหลวงปูดูลย (ควรเขาใจวา ศิษยทานอื่นก็อาจมีวิธีการปฏิบัติตามแกนคําสอนของหลวงปู แตกตางกันบางตามจริตนิสัย) และ (4) เรื่อง “การดูจิต : ความหมาย วิธีการ และผลของการปฏิบัติ” เปนการอธิบายในเชิงวิชาการ เพื่อสรางความเขาใจที่ตรงกันระหวางนักปริยัติกับนักปฏิบัติ

ขอชาวพุทธจงรูจักวิถีแหงความรูแจง และมีสวนแหงความรูแจงตามรอยบาทของพระศาสดาโดยทั่วถึงกันเทอญ

(1 พฤศจิกายน 2544)

Page 4: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

“เราไมไดปฏิบัติเพื่อดับสังขารขันธ หรือเวทนาและสัญญาขันธ

แตปฏิบัติเพื่อจะรูทันความเกิดดับของมัน ดวยจิตที่เปนกลาง ถาคิดจะดับมัน จิตจะเกิด ความรําคาญใจขึ้นมาเล็กๆแบบไมรูตัวครับ

เรียกวากิเลสเกิดขึ้น แตเรารูไมทัน จิตจึงไปปฏิเสธสภาพธรรมที่กําลังปรากฏอยู”

Page 5: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

แดเธอผูมาใหม : เร่ืองเรียบงายและธรรมดาที่เรียกวาธรรมะ

โดยคุณ : สันตินันท ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๒ / ๑๔:๐๗:๒๙ น.

เปนการยากที่เราจะเห็นไดวา ธรรมะเปนเรื่องเรียบงายและธรรมดาที่สุด เพราะภาพลักษณของศาสนา หรือของธรรมะที่เรารูจักนั้น ดูอยางไรก็ไมธรรมดาเลย เริ่มต้ังแตภาษาที่ใชเต็มไปดวยภาษาบาลี มีศัพทที่มีความหมายเฉพาะมากมาย แคทําความเขาใจศัพทก็ยากนักหนาแลว

พอรูศัพทแลวลงมือศึกษาตําราจริงๆ ก็พบความยากอีก คือธรรมะที่พระพุทธเจาทรงสอนไวมีมากเหลือเกิน และตําราที่พระรุนหลังลงมาทานเขียนไวก็มีอีกมากมาย

บางทานพอใจที่จะลงมือปฏิบัติ ก็มีปญหาอีกวา สํานักปฏิบัติมีมากมายทุกสํานักบอกวาแนวทางของตน ถูกตรงที่สุดตามหลักมหาสติปฏฐาน บางทีก็ทับถมสํานักอื่นหนอยๆ วา สอนไมตรงทาง

ความยากลําบากนี้พบกันทุกคนครับ ทําใหผมตองนั่งถามตนเองวา เปนไปไดหรือไม ที่เราจะศึกษาธรรมไดอยางงายๆ โดยไมตองรูศัพทบาลี หรือไมตองอานหนังสือ หรือเขาสํานักปฏิบัติใดๆ เลย

***********************************

ความจริงธรรมะที่พระพุทธเจาสอนไวเปนเรื่องงาย ๆ ธรรมดาๆ ดังที่ผูไดฟงธรรมจากพระโอษฐมักจะอุทานวา "แจมแจงนักพระเจาขา ธรรมที่ทรงแสดงเหมือนดังเปดของคว่ําใหหงาย" ซึ่งก็ไมนาแปลกใจอะไรนักที่ผูฟงจะรูสึกเชนนั้น ก็เพราะผูฟงเอง เกิดมากับธรรม อยูกับธรรม จนตายไปกับธรรม เปนอยางนี้มาแตไหนแตไรแลว เพียงแตมองไมเห็นวา ธรรมไดแสดงตัวอยูที่ไหน เมื่อพระพุทธเจาทรงชี้แนะก็สามารถรูเห็นตามไดโดยงาย

อีกประการหนึ่ง พระผูมีพระภาคเจาทรงถึงพรอมดวยความรอบรู สามารถอธิบายธรรมอันยุงยากซับซอนใหยนยอเขาใจงาย สามารถขยายความธรรมอันยนยอใหกวางขวางพอเหมาะแกผูฟง ทรงปราศจากอุปสรรคทางภาษา คือสามารถสื่อธรรมดวยภาษาที่ผูฟงเขาใจไดงายๆ

ไมเหมือนผูศึกษาและสอนธรรมจํานวนมากในรุนหลัง ที่ทําธรรมะซึ่งเปนเรื่องใกลตัวและแสนธรรมดา ใหกลายเปนเรื่องยุงยากซับซอนและไกลตัวเสียเหลือประมาณ

Page 6: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

จนเกินความจําเปนเพื่อความพนทุกข และสั่งสอนดวยภาษาที่ผูฟงไมสามารถเขาใจไดโดยงาย

***********************************

แทจริงแลว ธรรมเปนเรื่องใกลตัว ใกลจนถึงขนาดที่เรียกวา เปนเรื่องเกี่ยวกับ ตัวเราเอง และขอบเขตของธรรมะก็มีเพียงนิดเดียวคือ ทําอยางไรจึงจะไมเกิดความทุกข

ถาจะศึกษาธรรมะ ก็ศึกษาลงไปเลยวา "ความทุกขอยูที่ไหน เกิดขึ้นไดอยางไร และดับไปไดอยางไร" และความสําเร็จของการศึกษาธรรมะ อยูที่ปฏิบัติจนเขาถึงความพนทุกข ไมใชเพื่อความรอบรูรกสมอง หรือเพื่อความสามารถในการอธิบายแจกแจงธรรมไดอยางวิจิตรพิสดาร

แทจริงแลว ความทุกขของคนเราอยูในกายในจิตของตนนั่นเอง สนามศึกษาธรรมะของเรา จึงอยูที่กายที่จิตนี้แหละ แทนที่เราจะเที่ยวเรียนรูออกไปภายนอก ก็ใหเรายอนเขามาศึกษาอยูในกายในจิตของเรานี้แหละ วิธีการก็ไมมีอะไรมาก ขอเพียงใหหัดสังเกตกายและจิตของเราเองใหดี เริ่มตนงายๆ จากการสังเกตรางกายกอนก็ได

ขั้นแรก ทําใจใหสบายๆ อยาเครงเครียด อยาไปคิดวาเราจะปฏิบัติธรรม แตใหคิดเพียงวา เราจะสังเกตดูรางกายของเราเองเทานั้น สังเกตแลวจะรูไดแคไหนก็ไมเปนไร เอาแควาจะเฝาสังเกตใหไดเทาที่ทําไดก็พอ

เมื่อทําใจสบายๆ แลว ลองนึกถึงรางกายของเรา นึกถึงใหรูพรอมทั้งตัวเลยก็ได เหมือนเรากําลังดูหุนยนตอยูสักตัวหนึ่ง ที่มันเดินได เคลื่อนไหวได ขยับปากได กลืนอาหารอันเปนวัตถุเขาไปในรางกาย ขับถายกากอาหารออกจากรางกาย

ถาเราเห็นหุนยนตที่ชื่อวาตัวเรา มันทําโนนทํานี่ไปเรื่อยๆ เราเปนคนดูเฉยๆ ถึงจุดหนึ่งก็จะเห็นแจงประจักษใจเองวา รางกายนี้ไมใชตัวเรา มันเปนวัตถุกอนหนึ่งเทานั้น มีความไมหยุดนิ่ง ไมคงที่ แมแตวัตถุที่ประกอบเปนเจาหุนตัวนี้ ก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงไหลเขาไหลออกอยูตลอดเวลา เชนหายใจเขาแลวก็หายใจออก กินอาหารและน้ําแลวขับถายออก ไมใชสิ่งที่เปนกอนธาตุที่คงที่ถาวร ความยึดถือดวยความหลงผิดวา กายเปนเราก็จะบรรเทาเบาบางลงได แลวก็จะเห็นอีกวา ยังมีธรรมชาติที่เปนผูรูรางกาย อาศัยอยูในรางกายนี้เอง

Page 7: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

เมื่อเห็นชัดแลววา กายนี้เปนแคกอนธาตุ ไมคงที่ ไมใชตัวเรา คราวนี้ก็ลองมาสังเกตสิ่งที่ซอนเรนอยูในรางกายนี้ตอไป เปนการเรียนรูเรื่องของเราเองใหละเอียดยิ่งขึ้นไปอีก

สิ่งที่แฝงอยูในรางกายที่เห็นไดงายๆ คือความรูสึกเปนสุขบาง เปนทุกขบาง เฉยๆ บาง เชนเมื่อเราเห็นหุนยนตตัวนี้เคลื่อนไหวไปมา ไมนานก็จะเห็นความเมื่อยปวด ความหิวกระหาย หรือความทุกขอยางนั้นอยางนี้แทรกเขามาเปนระยะๆ พอความทุกขนั้นผานไปทีหนึ่ง ก็จะรูสึกสบายไปอีกชวงหนึ่ง(รูสึกเปนสุข) เชนกระหายน้ํา เกิดเปนความทุกขขึ้น พอไดดื่มน้ํา ความทุกขเพราะความกระหายน้ําก็ดับไป หรือนั่งนานๆ เกิดความปวดเมื่อย รูสึกเปนทุกข พอขยับตัวเสีย ก็หายปวดเมื่อย รูสึกวาทุกขหายไป(รูสึกเปนสุข)

บางคราวมีความเจ็บไขไดปวย ก็จะรูความทุกขทางกายไดตอเนื่องยาวนานขึ้น เชนเกิดปวดฟนติดตอกันนานๆ เปนวันๆ ถาคอยสังเกตรูความทุกขที่เกิดขึ้นนั้น ก็จะเห็นชัดวา ความปวดนั้นเปน สิ่งที่แทรกอยูกับเหงือกและฟน แตตัวเหงือกและฟน มันไมไดเจ็บปวดดวยเลย กายเหมือนหุนยนตที่ไมมีความเจ็บปวด เพียงแตมีความเจ็บปวด เปนอีกสิ่งหนึ่งที่แฝงอยูในกาย

เราก็จะรูชัดวา ความรูสึกสุข รูสึกทุกข หรือรูสึกเฉยๆ ไมใชรางกาย แตเปนสิ่งอีกสิ่งหนึ่งที่แทรกอยูในรางกาย และที่สําคัญ เจาความรูสึกเหลานั้น ก็เปนสิ่งที่กําลังถูกรู ถูกดูอยูเชนเดียวกับรางกายนั้นเอง

ถัดจากนั้น เรามาเรียนรูเรื่องราวของตัวเองใหละเอียดมากขึ้น คือคอยสังเกตใหดีวา เวลาที่เกิดความทุกขขึ้นนั้น จิตใจของเรามันจะเกิดความหงุดหงิดรําคาญใจตามมาดวย เชนหิวขาวแลวจะโมโหงาย เหนื่อยก็โมโหงาย เจ็บไขก็โมโหงาย เกิดความใครแลวไมไดรับการตอบสนองก็โมโหงาย ใหเราหัดรูใหเทาทันความโกรธที่เกิดขึ้น ในเวลาที่เผชิญกับความทุกข

ในทางกลับกัน เมื่อเราไดเห็นของสวยงาม ไดยินเสียงที่ถูกใจ ไดกลิ่นหอมถูกใจ ไดลิ้มรสที่อรอย ไดรับสิ่งสัมผัสรางกายที่นุมนวล มีอุณหภูมิพอเหมาะ ไมรอนหรือหนาวเกินไป ไดคิดถึงสิ่งที่พอใจ เราจะเกิดความรักใครพึงพอใจในสิ่งที่ ไดเห็น ไดยิน ไดกลิ่น ไดรส ไดสัมผัส และไดคิดนึกนั้น ก็ใหเรารูเทาทันความรักใครพอใจที่เกิดขึ้นนั้น พอเรารูจักความโกรธ หรือความรักใครพอใจแลว เราก็สามารถรูจักกับอารมณ

Page 8: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

อยางอื่นๆ ไดดวย เชนความลังเลสงสัย ความอาฆาตพยาบาท ความหดหูใจ ความอิจฉาริษยา ความคิดลบหลูผูอ่ืน ความผองใสอิ่มเอิบของจิตใจ ความสงบในจิตใจ ฯลฯ

เมื่อเราเรียนรูอารมณหรือความรูสึกเหลานี้มากขึ้นๆ เราก็จะเริ่มรูวา ความจริงแลว อารมณทุกอยางนั้นไมคงที่ เชนเมื่อโกรธ และเราก็รูอยูที่ความโกรธนั้น ก็จะเห็นระดับของความโกรธเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา อยูไปๆ ความโกรธก็ดับไปเอง และไมวาความโกรธจะดับหรือไมก็ตาม ความโกรธก็เปนแคสิ่งที่ถูกรู ไมใชตัวเรา ไมมีเราอยูในความโกรธ แมอารมณอ่ืนๆ ก็จะเห็นในลักษณะเดียวกับความโกรธนี้ดวย

ถึงตอนนี้ เราจะรูชัดวา รางกายก็เปนแคหุนยนตตัวหนึ่ง ความรูสึกสุขทุกข และอารมณทั้งหลาย ก็เปนสิ่งที่ถูกรู ไมใชตัวเรา เมื่อหัดสังเกตเรียนรูจิตใจตนเองมากขึ้น คราวนี้ก็จะเห็นการทํางานของจิตใจไดชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนรูความจริงวา ความทุกขเปนเพียงสิ่งที่มีเหตุทําใหเกิดขึ้นเปนคราวๆ เทานั้น

เราจะพบพลังงานหรือแรงผลักดันบางอยางในจิตใจของเรา เชนพอเห็นผูหญิงสวยถูกใจ พอจิตใจเกิดความรูสึกรักใครพอใจแลว มันจะเกิดแรงผลักดันจิตใจของเรา ใหเคลื่อนออกไปยึดเกาะที่ผูหญิงคนนั้น ทําใหเราลืมดูตัวเอง เห็นแตผูหญิงคนนั้นเทานั้น

(เรื่องจิตเคลื่อนไปไดนี่ ถาเปนคนที่เรียนตําราอาจจะงงๆ แตถาลงมือปฏิบัติจริง จะเห็นวา ความรับรูมันเคลื่อนไปไดจริงๆ ตรงกับที่พระพุทธเจาทานพูดเรื่องจิตเที่ยวไปไดไกล ไมมีคลาดเคลื่อนแมแตคําเดียว)

หรือเมื่อเราเกิดความสงสัยในธรรม วาเราควรปฏิบัติอยางไร ก็จะเห็นแรงผลักดันที่บังคับใหเราคิดหาคําตอบ จิตใจของเราเคลื่อนเขาไปอยูในโลกของความคิด ตอนนั้น เราลืมดูตัวเราเอง เจาหุนยนตนั้นก็ยังอยู แตเราลืมนึกถึงมันก็เหมือนกับวามันหายไปจากโลก ความรูสึกตางๆ ในจิตใจเราเปนอยางไร เราก็ไมรู เพราะมัวแตคิดหาคําตอบในเรื่องที่สงสัยอยูนั่นเอง

หัดรูทันจิตใจตนเองมากเขา ไมนานก็จะทราบดวยตนเองวา ความทุกขเกิดขึ้นไดอยางไร ความพนทุกขเกิดขึ้นไดอยางไร สภาพที่ไมทุกข เปนอยางไร สภาพจิตใจมันจะพัฒนาของมันไปเองทุกอยาง ไมตองไปคิดเรื่องฌาน เรื่องญาณ หรือเรื่องมรรคผลนิพพานใดๆ ทั้งสิ้น

Page 9: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ถึงตรงนี้ อาจจะพูดธรรมะไมไดสักคํา แปลศัพทบาลีไมไดสักตัว แตจิตใจพนจากความทุกข หรือมีความทุกข ก็ทุกขไมมากและไมนาน

***********************************

ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นเปนของฝากสําหรับผูเริ่มสนใจจะศึกษาธรรมะ เพื่อบอกวา ธรรมะ เปนเรื่องธรรมดาๆ เปนเรื่องของตัวเราเอง และสามารถเรียนรูไดไมยากนักดวยตนเอง อยาพากันทอถอยเสีย เมื่อไดยินคนอื่นพูดธรรมะแลวเราฟงเขาไมรูเรื่อง เราไมตองรูอะไรเลยก็ได รูแควา ทําอยางไรเราจะไมทุกข ก็พอแลว เพราะนั่นคือใจความทั้งหมดของพระพุทธศาสนา ซึ่งจําเปนที่คนๆ หนึ่งควรจะเรียนรูไว

Page 10: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

แนวทางปฏิบัติธรรมโดยสังเขป โดยคุณ สันตนิันท วนั ศุกร ที่ ๗ มกราคม ๒๕๔๓ ๑๕:๔๑:๓๒

เพื่อนรวมทุกขจํานวนมาก ไปศึกษาการปฏิบัติธรรมกับผม และผมไดเห็นปญหาที่ตามมาหลายอยาง

เชนบางทานกลัววา พอไมไดอยูใกลผมแลว จะทําไมไดหรือทําไมถูก ถาเปนคนกรุงเทพก็ยังอุนใจวาจะพบผมไดอีกไมยากนัก แตคนตางประเทศหรือตางจังหวัด จะกังวลกันมากหนอย จึงอยากไดคูมือสําหรับการปฏิบัติอยางงายๆ แตเปนระบบ เพื่อความอุนใจวา จะใชเปนแนวทางปฏิบัติตอไปไดเมื่อไมพบผม

บางทานฟงแลวยังสับสน ไมเขาใจ หรือไปจําธรรมที่ผมตอบคนอื่นเอาไปปฏิบัติบาง ซึ่งเปนคนละขั้นตอน หรือคนละจริต ผลก็ไมตางจากการเอายารักษาโรคของคนอ่ืนไปรับประทาน จึงอยากเห็นภาพรวมของการปฏิบัติธรรมทั้งหมดที่ผมแนะนํา เพื่อจะคลี่คลายความสับสนตรงนี้ไดบาง

ปญหาอีกประการหนึ่งที่ผมทราบก็คือ เพื่อนบางทานถกเถียงกันเรื่องการปฏิบัติธรรม โดยนําคําแนะนําของผมที่ไดยินมาตางกรรมตางวาระ ไปเปนขออางอิงโตแยงกัน

ผมจึงเห็นวา สมควรสรุปใจความยอของการปฏิบัติธรรม ตามที่ผมไดแนะนําหมูเพื่อน เพื่อใหเห็นภาพรวมของการปฏิบัติอยางเปนระบบ ต้ังแตเบื้องตนเปนลําดับไป เพื่อแกปญหาดังที่กลาวมาแลวขางตนนั้น

***********************************

๑. การสรางความเขาใจขอบเขตของพระพุทธศาสนา

เพื่อนที่มีพ้ืนฐานความเขาใจเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามานอย จะไดรับการปูพ้ืนความเขาใจเสียกอนวา พระพุทธศาสนาไมใชยาแกสารพัดโรคครอบจักรวาล ไมใชเครื่องมืออยางเดียวในการดํารงชีวิตอยูในสังคม ดังนั้น ไมใชวาเปนนักเรียนก็เลิกเรียน เพื่อมาศึกษาพระพุทธศาสนา เพราะความรูทางโลกเปนสิ่งจําเปนสําหรับการดํารงชีวิตในทางโลก ผูศึกษาพระพุทธศาสนาจําเปนตองรอบรูในศาสตรสาขาอื่นๆ ดวย และอยาเขาใจวา พระพุทธศาสนาเปนเรื่องอื่น นอกเหนือจากการเรียนรูเรื่องความทุกข และการปฏิบัติเพื่อความพนทุกข(ทางใจ) เทานั้น พระพุทธศาสนาไมไดมีไวเพื่อตอบปญหา เกี่ยวกับไสยศาสตร โชคลาง เจากรรมนายเวร ชาติโนนชาติหนา ผีสางเทวดา ฯลฯ

Page 11: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

๒. เครื่องมือในการปฏิบัติธรรม

ผูที่เขาใจแลววาพระพุทธศาสนาสอนเรื่องทุกขและการดับทุกข ก็จะไดรับการแนะนําใหรูจักเครื่องมือสําหรับการปฏิบัติธรรม ไดแก สติ และ สัมปชัญญะ

ผมมักจะพยายามแนะนําใหพวกเรา รูทัน สิ่งที่กําลังปรากฏกับจิต เชนความลังเลสงสัย ความอยาก ความกังวล ความสุข ความทุกข ฯลฯ เปนการหัดใหมี สติ ซึ่งเปนเครื่องมือรูอารมณที่กําลังปรากฏ

และเฝากระตุนเตือนพวกเราใหทําความรูตัว ไมเผลอ ไมวาจะเผลอสงจิตไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจ สวนมากก็จะเผลอกันทางตา กับ ทางใจคือหลงเขาไปอยูในโลกของความคิด กับเผลอไปเพงจองอารมณ เอาสติจอแนนเขาไปที่อารมณที่กําลังปรากฏ การกระตุนความไมเผลอและไมเผลอเพง ก็คือการพยายามใหพวกเรามี สัมปชัญญะ คือความรูตัวไวเสมอๆ

๓. การเจริญสติปฏฐาน

เมื่อพวกเรามีเครื่องมือหรืออาวุธในการปฏิบัติธรรมแลว ขั้นตอนตอไปผมจะแนะนําใหพวกเราเจริญสติปฏฐาน คือมีสติสัมปชัญญะระลึกรู กาย เวทนา จิต และ/หรือ ธรรม ตามความถนัดของแตละบุคคล เชนใหรูอิริยาบถ รูความเคลื่อนไหวระหวางการเดินจงกรม รูลมหายใจเขาออก เบื้องตนถาจิตยังไมมีกําลัง ก็ใหรูไปอยางสมถะ คือเอาสติจดจอสบายๆ ลงในกายที่ถูกรูนั้น เมื่อจิตมีกําลังขึ้นแลวก็ใหเห็นวา อิริยาบถ ความเคลื่อนไหวกาย หรือลมหายใจนั้น เปนเพียงสิ่งที่ถูกรู ถูกเห็น ไมใชจิต มีความไมเท่ียง เปนทุกข เปนอนัตตาปรากฏอยูตอหนาตอตานั่นเอง

เมื่อทําไดอยางนั้นแลว จิตจะมีกําลังสติสัมปชัญญะมากขึ้นอีก หากนามธรรมใดปรากฏกับจิตก็สามารถจะรูเทาทันได เชนเกิดความรูสึกสุข รูสึกทุกข เกิดกุศล อกุศล ตางๆ ก็ใหรูทันนามธรรมนั้น ในลักษณะสิ่งที่ถูกรู เชนเดียวกับการรูรูปนั่นเอง

อนึ่ง คนไหนมีกําลังรูนามธรรมไดเลย ผมมักแนะใหรูนามธรรมไปเลย หรือผูไมถนัดจะระลึกรูนามธรรม สมัครใจจะรูรูปธรรมอยางเดียว ก็ได

เมื่อจิตรูรูปธรรม หรือนามธรรมอยางตอเนื่องแลว พอมีกําลังสติปญญามากขึ้น ก็จะเห็นวา เมื่อจิตไปรูรูปธรรมหรือนามธรรมตางๆ แลว จิตจะมีความยินดี ยินราย หรือเปนกลางขึ้นมา ผมมักแนะนําหมูเพื่อนใหระลึกรูความยินดียินราย หรือความเปนกลางนั้น เมื่อจิตรูความยินดียินรายแลว ก็จะเห็นความยินดียินรายนั้นเกิดดับ เชนเดียวกับ

Page 12: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

รูปธรรมและนามธรรมทั้งปวงนั้นเอง แลวจิตปลอยวางความยินดียินราย เขาไปสูความเปนกลางของจิต ตอนแรกความเปนกลางๆ จะมีสั้นๆ แลวก็มีความยินดียินรายเกิดขึ้นอีก ตอมาชํานิชํานาญขึ้น จิตจะเปนกลางมากขึ้นตามลําดับ ก็ใหผูปฏิบัติรูอยูที่ความเปนกลางของจิต เมื่อจิตมีกําลังขึ้น ก็จะสามารถจําแนกขันธละเอียดตอไปจนเขาถึง ใจ ได

ในขั้นที่จิตเฝาระลึกรูความเปนกลางนั้น ปญญาชนจะเกิดโรคประจําตัว ๒ ประการเปนสวนมาก คือ

(๑) เกิดความเบื่อหนาย แลวเลิกปฏิบัติ หรือ (๒) เกิดความลังเลสงสัยวา จะตองทําอะไรตอไปอีกหรือไม แลวเลิกปฏิบัติ

โดยการ รู หันมาคิดคนควาหาคําตอบดวยการ คิด เอา

แทจริงเมื่อจิตเขาไปรูอยูที่ความเปนกลางแลว ก็ใหรูอยูอยางนั้น แลวจิตเขาจะพัฒนาของเขาไปเองเมื่อกําลังของ สติ สมาธิ ปญญาสมบูรณเต็มที่

นี้เปนขอสรุปแนวทางการปฏิบัติธรรมโดยสังเขป ที่ขอฝากไวใหกับหมูเพื่อนเพื่อประกอบการพิจารณาปฏิบัติตอไป

***********************************

ความเห็นที่ ๑๖ โดยคุณ สันตินันท วัน จันทร ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๓ ๐๙:๒๔:๑๔ (ตอ)

จากแนวทางอันเดียวกันขางตน เมื่อแตละคนลงมือปฏิบัติธรรมจริงๆ กลับปรากฏปญหาปลีกยอยแตกตางกันเปนจํานวนมาก ปญหาหลักก็มาจาก การเจริญสติสัมปชัญญะ ไมถูกตอง

พวกเราจํานวนมากในขณะนี้ ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งเกิดความคลาดเคลื่อน ยิ่งขยัน ยิ่งพลาดไปไกล จุดที่พากันพลาดมากในชวงนี้ก็คือ แทนที่จะ รู ตามความเปนจริง พวกเรากลับไป สราง อารมณอันหนึ่งขึ้นมา แลวพากันเขาไปติดอยูในอารมณอันนั้น

ความผิดพลาดนั้นเกิดจากบางคนรูสึกวาตนฟุงซานมากไป จึงเห็นวาจําเปนตองฝกสมถกรรมฐานเสียกอน แลวการฝกสมถกรรมฐานนั้นก็กระทําอยางผิดพลาดคือ แทนที่จะกระทําสัมมาสมาธิ กลับไปทํามิจฉาสมาธิอันไมประกอบดวยความรูตัว โดยการเพงเขาไปที่อารมณอันเดียว กลอมจิตใหเคลื่อน เคลิ้ม เขาไปเกาะอารมณอันเดียว แทนที่จะมีสติระลึกรูอารมณอันเดียวไปอยางสบายๆ โดยมีความรูตัวไมเผลอ ไมเพง จิตแคระลึกรูอารมณอันเดียวอยางสบายๆ เปนธรรมเอก

Page 13: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

เมื่อทํามิจฉาสมาธิ จิตเคลื่อน ไปเกาะอารมณที่สรางขึ้นมา พอหยุดการทําสมาธิ หันมาดูจิต หรือเจริญสติปฏฐาน ก็เอาจิตที่เกาะติดอารมณนั้นเองมาใชดูจิต ซึ่งจิตชนิดนี้ ใชเจริญสติปฏฐานไมไดจริง เพราะกระทั่งจิตติดอารมณอยูก็มองไมเห็นความจริงเสียแลว

สาเหตุของความผิดพลาดที่เปนกันมากอีกอยางหนึ่งก็คือ แทนที่จะรูอารมณไปตามธรรมดา งายๆ สบายๆ พวกเราจํานวนมากกลัวจะเผลอกลัวจะหลงมากเกินไป โดยเฉพาะอยางยิ่งในเวลาที่พบกับผม หรือใกลจะพบกับผม จิตจะเกิดการตื่นตัวข้ึน เกิดอาการเกร็ง ระวังตัวแจ ไมผิดอะไรกับนักวิ่ง เวลาเขาเสนสตารท

สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คือ การปฏิบัติธรรมดวยความอยาก เชนอยากรูธรรมเห็นธรรมเร็วๆ อยากเปนคนเกง เปนดาวเดน อยากไดรับการยอมรับและคําชมเชยจากหมูเพื่อน พออยากมาก ก็ตอง "เรงความเพียร" แตแทนที่จะเจริญสติสัมปชัญญะอยางเปนธรรมชาติใหตอเนื่องตลอดเวลา อันเปนความหมายที่ถูกตองของการเรงความเพียร กลับกลายเปนการปฏิบัติดวยความหักหาญ เครงเครียด ดูผิวนอกเหมือนจะดี แตจิตภายในไมมีความสงบสุขใดๆ เลย สาเหตุที่นึกไดในตอนนี้ทั้ง ๓ ประการนี้แหละ ทําใหพวกเราจํานวนมาก หลงไปยึดอารมณอันหนึ่งไว แลวคิดวา สามารถรูจิตรูใจไดอยางแจมชัด ตอนนี้บางคนพอจะแกไขไดบางแลว เมื่อเริ่มรูทันการที่จิตไปสรางภพของนักปฏิบัติขึ้นมา แทนที่จะรูสิ่งที่กําลังปรากฏตามความเปนจริง

มีเรื่องขําๆ เรื่องหนึ่งคือนองคนหนึ่งจิตติดอารมณภายในอยู ผมก็แนะนําวา ใหดูใหรูวากําลังติดอยู ถารูแลวจะไดกลับออกมาอยูขางนอก และแทนที่จะเพงเขาไปขางใน ใหพยายามรูตัวออกไปยังภายนอก ออกไปสัมผัสสิ่งแวดลอมใหดี จิตที่ติดอยูขางในจะไดหลุดออกมา นองคนนั้นฟงแลวกลุมใจมาก เพราะคิดวาผมสอนใหสงจิตออกนอก ยังดีวาสงสัยแลวถามผมเสียกอน ไมนําไปเลาถวายครูบาอาจารยวาผมสอนใหสงจิตออกนอก มิฉะนั้นถาทานพบผม ทานคงทุบผมตกกุฏิเลย

ความจริง การที่หลงสรางอารมณออกมาอันหนึ่ง แลวตนเองเขาไปติดอยูภายในนั้น ก็เปนการสงจิตออกนอกแลว คือออกไปนอกจาก รู ผมพยายามแกการสงจิตออกไปสรางภพโดยไมรูตัวให ไมไดปรารถนาจะใหหัดสงจิตออกนอกแตอยางใด

ปญหาอีกอยางหนึ่งที่พวกเราสวนนอยเปนกัน ไดแกการหลงตามอาการของจิต เชนหลงในนิมิต แสง สี เสียง ตางๆ หรือหลงในการกระตุกของรางกาย ฯลฯ พอเกิดอาการขึ้น บางคนก็ยินดี บางคนก็ยินราย ตองคอยปลอบคอยแนะใหหันมาสังเกตรูความ

Page 14: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ยินดียินรายของจิต จนจิตเขาถึงความเปนกลางเอง แทนการไปเพงใสอาการตางๆ เหลานั้น และมีราคะ โทสะ หรือโมหะ ครอบงําโดยไมรูตัว

การปฏิบัตินั้น ถาจะปองกันความผิดพลาด ก็ควรจับหลักใหแมนๆ วา "เราปฏิบัติเพื่อรูทันกิเลสตัณหา ที่คอยแตจะครอบงําจิตใจ ปฏิบัติไปจนจิตฉลาด พนจากอํานาจของกิเลสตัณหา" ไมใชปฏิบัติเพื่อสิ่งอ่ืน หากปฏิบัติโดยแฝงสิ่งอื่นเขาไป เชนความอยากรู อยากเห็น อยากเปน อยากได อยากเดน อยากดัง อยากหลุดพน โอกาสพลาดก็มีสูง เพราะจิตมักจะสรางบางสิ่งบางอยางขึ้นมา แทนที่จะรูทุกอยางตามความเปนจริง

แลวก็ควรสังเกตจิตใจตนเองไวบาง หากรูสึกวา จิตใจเกิดความหนักท่ีแตกตางหรือแปลกแยกจากธรรมชาติแวดลอม ก็แสดงวาจิตไปหลงยึดอะไรเขาใหแลว เพราะโดยธรรมชาติของสิ่งภายในภายนอกนั้น มันไมมีน้ําหนักอะไรเลย ที่มีน้ําหนักขึ้นมา ก็เพราะเราไปแบกไปถือไวเทานั้นเอง ลองสังเกตดูตอนนี้ก็ไดครับ ลองทําใจใหสบายๆ สังเกตไปยังสิ่งแวดลอมภายนอก เชนอาคารบานเรือน โตะเกาอี้ ตนหมากรากไม จะเห็นวา สิ่งภายนอกนั้นโปรง เบา ไมมีน้ําหนัก เพราะเราไมไดเขาไปแบกหามเอาไว สวนจิตใจของเรานั้น มองยอนเขามาจะเห็นวามันหนักมากบางนอยบาง ถายึดมากก็หนักมาก ยึดนอยก็หนักนอย มันยังแปลกแยกออกจากธรรมชาติธรรมดา สิ่งที่แปลกแยกนั่นแหละครับ คือสวนเกินที่เราหลงสรางขึ้นมาโดยรูไมเทาทันมายาของกิเลส

เมื่อรูแลว ก็สังเกตจิตตนเองตอไปวา มันยินดียินรายตอสิ่งที่แปลกปลอมเขามานั้นหรือไม แลวก็รูเรื่อยไปจนจิตเปนกลางตออารมณทั้งปวง ธรรมชาติภายใน กับธรรมชาติภายนอกก็จะเสมอกัน คือไมมีน้ําหนักใหตองแบกหามตอไป

พระศาสดาทรงสอนวา ขันธทั้ง ๕ เปนของหนัก บุคคลแบกของหนักพาไป เขา

ยอมไมพบความสุขเลย คําสอนของพระองคนั้น คําไหนก็เปนคํานั้น ขันธเปนของหนักจริงๆ สําหรับคนที่มีตาที่จะดูออกได

Page 15: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

แนวทางปฏิบัติธรรม (แนวทางปฏิบัติธรรมของ พระราชวุฒาจารย

(หลวงปูดูลย อตุโล) วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร เรียบเรียงโดย : อุบาสกนิรนาม)

๑. คําปรารภ หลวงปูดูลย อตุโล เปนศิษยรุนแรกสุดของทานพระอาจารยมั่น ภูรทัิตตเถร

ภายหลังจากทานออกเดินธุดงคจนสิ้นธุระในสวนขององคทานแลว ทานไดไปประจําอยูที่วัดบูรพาราม อําเภอเมือง จังหวัดสุรินทร ตลอดมาจนถึงวันมรณภาพ หลวงปูเปนผูเครง ครัดในพระธรรมวินัย และไดแผบารมีธรรมอบรมสั่งสอนศิษยทั้งที่เปนบรรพชิตและคฤหัสถ ประสบผลสําเร็จในการปฏิบัติธรรมเปนจํานวนมาก ซึ่งในความเปนจริงแลว หลักปฏิบัติที่ทานนํามาสั่งสอนนั้น ไมใชหลักธรรมของทาน หรือของทานอาจารยของทาน แตเปนพระธรรมคําสอนอันพระผูมีพระภาคเจาประทานไวนั่นเอง ทานเพียงแตเลือกเฟนกลั่นกรองนํามาสอน ใหถูกกับจริตนิสัยของศิษยแตละคนเทานั้น

หลวงปูปรกติสอนเรื่องจิต จนบางคนเขาใจวา ทานสอนเฉพาะการดูจิตหรือการพิจารณาจิต (จิตตานุปสสนาและธัมมานุปสสนา) แตในความเปนจริงแลว ทานสอนไวสารพัดรูปแบบ คือใครดูจิตไดทานก็สอนใหดูจิต แตหากใครไมสามารถดูจิตโดยตรงได ทานก็สอนใหพิจารณากาย (กายานุปสสนา และเวทนานุปสสนา) เชนเดียวกับที่ทานพระอาจารยมั่นสอน และในความเปนจริงศิษยฝายบรรพชิตที่พิจารณากายนั้น ดจูะมีมากกวาผูพิจารณาจิตโดยตรงเสียอีก

๒. เหตุผลท่ีทานเนนการศึกษาที่จิต

หลวงปูพิจารณาเห็นวาธรรมทั้งหลายรวมลงไดในอริยสัจสี่ทั้งนั้น และอริยสัจสี่นั้นสามารถรูเห็นและเขาใจได ดวยการศึกษาจิตของตนเอง เพราะทุกขนั้นเกิดมาจากสมุทัยคือตัณหา (ความทะยานอยากของจิต) และความพนทุกขก็เกิดจากความสิ้นไปของตัณหา แมแตมรรคมีองคแปด ซึ่งยอลงเปนศีล สมาธิ และปญญานั้น ก็เปนเรื่องที่เกิดข้ึนกับจิตทั้งสิ้น กลาวคือศีลไดแกความเปนปรกติธรรมดาของจิตที่ไมถูกสภาวะอันใดครอบงํา สมาธิคือความตั้งมั่นของจิต และปญญาคือความรอบรูของจิต ทานจึงกลากลาววา พระธรรมทั้งปวงนั้น สามารถเรียนรูไดทีจิ่ตของตนเอง ดวยเหตุนี้ ทานจึงใหความสําคัญเปนพิเศษกับการดูจิต

Page 16: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

๓. วิธีดูจิต

๓.๑ การเตรียมความพรอมของจิต พระกรรมฐานสายทานพระอาจารยมั่น ภูริทัตตเถร จะสอนตรงกันวา จิตที่จะเจริญวิปสสนาไดนั้น ตองมีสมาธิหรือความสงบตั้งมั่นของจิตเปนฐานเสียกอน จิตจะไดไมถูกกิเลสครอบงํา จนไมสามารถเห็นสภาวธรรมตามความเปนจริงได หลวงปูดูลยทานก็สอนในลกัษณะเดียวกัน และทานมักจะใหเจริญพุทธานุสติบริกรรม "พุทโธ" หรือควบดวยการทําอานาปานสติ คือการกําหนดลมหายใจเขา บริกรรม "พุท" หายใจออกบริกรรม "โธ"

เคล็ดลับของการทําความสงบ ในเวลาที่จะทําความสงบนั้น ทานใหทําความสงบจริงๆ ไมตองคิดถึงเรื่องการเจริญปญญา และมีเคล็ดลับที่ชวยใหจิตสงบงายคือ ใหรูคําบริกรรมหรอืกําหนดลมหายใจไปเรื่อยๆ ตามสบาย อยาอยากหรือจงใจจะใหจิตสงบ เพราะธรรมชาติของจิตนั้นจะไปบังคับใหสงบไมได ยิ่งพยายามใหสงบกลับจะยิ่งฟุงซานหนักเขาไปอีก

เมื่อจิตสงบลงแลว จิตจะทิ้งคําบริกรรม ก็ไมตองนึกหาคําบริกรรมอีก แตใหรูอยูตรงความรูสึกที่สงบนั้น จนกวาจิตจะถอนออกมาสูความเปนปรกติดวยตัวของมันเอง

๓.๒ การแยกจิตผูรูกับอารมณที่ถูกจิตรู เมื่อจิตรวมสงบทิ้งคําบริกรรมไปแลว ทานใหสังเกตอยูที่ความสงบนั้นเอง และสังเกตตอไปวา ความสงบนั้นเปนเพียงสิ่งที่ถูกรูเทานั้น จิตคือตัวผูรู ผูดูอยูนั้นมีอยูตางหาก สรุปก็คือ ทานสอนใหแยกจิตผูรูออกจากอารมณที่ถูกรู

บางคนไมสามารถทําความสงบดวยการบริกรรม หรือดวยกรรมฐานอื่นใด ก็อาจใชวิธีอ่ืนในการแยกผูรูกบัสิ่งที่ถูกรูได ตัวอยางเชน

นึกถึงพุทโธ หรือบทสวดมนตบทใดก็ไดที่คุนเคย แลวก็เฝารูการสวดมนตที่แจวๆ อยูในสมองตนเองไป จากนั้นจึงแยกวา บทสวดนั้นถูกรู ผูรู มีอยูตางหาก ตรงจุดนี้มีอุบายยักยายอีกหลายอยาง เชนอาจจะสังเกตดูความคิดของตนเอง ซึ่งพูดแจวๆ อยูในสมองก็ได แลวเห็นวา ความคิดนั้นถูกรู จิตผูรูมีอยูตางหาก

หรือตามรูความเคลื่อนไหวของรางกายไปเรื่อยๆ หรือตามรูความรูสึกเปนสุข เปนทุกข หรือเฉยๆ ไปเรื่อยๆ หรือ ฯลฯ (สรปุวา รูอะไรก็ไดให ตอเนื่อง) และสังเกตเห็นวาสิ่งนั้นเปนแคสิ่งที่ถูกรู จิตผูรูมีอยูตางหาก

Page 17: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

หรืออยางทานพระอาจารยเทสก เทสรังสี ศิษยอาวุโสอีกรูปหนึ่งของทานพระอาจารยมั่น ทานสอนใหลองกลั้นลมหายใจดูชั่วขณะ แลวสังเกตดู ความรูสึกตรงที่นิ่งๆ วางๆ นั้น แลวทําสติรูอยูตรงนั้นเรื่อยๆ ไปเปนตน เมื่อแยกจิตผูรูกับอารมณที่ถูกรูไดแลว กใ็หเจริญสติสัมปชัญญะตอไป

๓.๓ การเจริญสติและสัมปชัญญะ ใหทําความรูตัวอยูกับจิตผูรู อยางสบาย ๆ ไมเพงจองหรือควานหา คนควาพิจารณาเขาไปที่จิตผูรู เพียงแครูอยูเฉยๆ เทานั้น ตอมาเมื่อมีความคิดนึกปรุงแตงอื่นๆ เกิดขึ้น ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของอารมณชัดเจน เชน เดิมมีความนิ่งวางอยู ตอมาเกิดคิดถึงคนๆ หนึ่ง แลวเกิดความรูสึกรักหรือชังขึ้น ก็ใหสังเกตรูความรักความชังนั้น และเห็นวา มันเปนสิ่งที่ถูกรูเทานั้น ตัวจิตผูรูมีอยูตางหาก ใหรูตัวไปเรื่อยๆ สิ่งใดเปนอารมณปรากฏขึ้นกับจิต ก็ใหมีสติรูอารมณที่กําลังปรากฏนั้น ในขณะเดียวกัน ก็ตองไมเผลอสงจิตเขาไปในอารมณนั้น ตรงที่จิตไมเผลอสงออกไปนั้นเอง คือความรูตัว หรือสัมปชัญญะ

เรื่องสตินั้นเขาใจงาย เพราะหมายถึงตัวที่ไปรูเทาอารมณที่กําลังปรากฏ เชนคนอานหนังสือ สติจดจออยูกับหนังสือ จึงอานหนังสือไดรูเรื่อง คนขับรถ สติจดจอกับการขับรถก็ทําใหขับรถได ฉะนั้นโดยธรรมชาติแลว คนมีสติอยูเสมอเมื่อจิตตั้งใจรูอารมณ แตจะเปนสัมมาสติได ก็ตอเมื่อมีสัมปชัญญะคอื ความรูตัวไมเผลอควบคูไปดวย

ความรูตัวไมเผลอนั้นเขาใจยากที่สุด เพราะถามใครเขาก็วาเขารูตัวทั้งนั้น ทั้งที่ความจริงจิตยังมีความหลง (โมหะ) แฝงอยูเกือบตลอดเวลา สัมปชัญญะทีใ่ชเจริญสติปฏฐาน จะตองเปน "อสัมโมหสัมปชัญญะ" เทานั้น

ยกตัวอยาง เมื่อเราดูละครโทรทัศน ตาเห็นรูป หูไดยินเสียง ใจรู คิดนึกตามเรื่องของละครไป ในขณะนั้นเรามีสติดูโทรทัศน แตไมอาจไมมีสัมปชัญญะ เพราะเราสงจิตหลงไปทางตา ทางหู และทางใจ เราลืมนึกถึงตัวเองที่นั่งดูโทรทัศนอยู อันนี้เรียกวาไมมีสัมปชัญญะหรือไมรูตัว

บางคนเดินจงกรม กําหนดรูความเคลื่อนไหวของเทาซาย เทาขวา รูความเคลื่อนไหวของกาย อันนั้นมีสติ แตอาจไมมีสัมปชัญญะถาสงจิตเผลอไปในเรื่องของเทาและรางกาย มัวแตจดจอที่เทาและรางกายที่กําลังเคลื่อนไหว จนเหมือนกับลืมตัวเอง เหมือนตัวเองหรือตัวจิตผูรูนั้นไมมีอยูในโลกเลยในขณะนั้น

Page 18: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ความรูตัวหรือการไมหลงเผลอสงจิตออกไปตามอารมณภายนอกนั้นเองคือสัมปชัญญะ วิธีฝกใหไดสัมปชัญญะที่ดีที่สุดคือการทําสมถะกรรมฐาน เชนการบริกรรมพุทโธ จนจิตรวมเขาถึงฐานของมัน แลวรูอยูตรงฐานนั้นเรื่อยไป หากมีอารมณมาลอทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ก็ไมเผลอ หลงลืมฐานของตนสงจิตตามอารมณไปอยางไมรูตัว

๓.๔ ดูจิตแลวรูอารมณอะไรบาง การที่เราเฝารูจิตผูรูไปเรื่อยๆ อยางสบายๆ นั้น เราสามารถรูอารมณทุกชนิดที่ผานเขามาใหจิตรู แลวแตวา ในขณะนั้นอารมณตัวไหนจะแรงและเดนชัดที่สุด ดังนั้น เราสามารถเจริญสติปฏฐานไดทั้ง ๔ ประเภท (ในทางตรงขาม ถาแยกจิตผูรูกับอารมณที่ถูกรูออกจากกันไมได จะไมสามารถเจริญสติปฏฐานทุกประเภทเชนกันที่ กลาววาสมถะเปนฐานของวิปสสนาหรือสมาธิเปนเหตุใกลใหเกิดปญญาก็คือเรื่องตรงนี้เอง คือถาขาดสมถะที่ถูกตอง จิตจะตกเปนทาสอารมณ ถามีสมถะที่ถูก จิตจะมีสัมปชัญญะ รูตัว ไมเปนทาสของอารมณ จึงเห็นความเกิดดับของอารมณชัดเจนตามความเปนจริงได) กลาวคือ

๓.๔.๑ รูกาย เมื่อมีสัมผัสทางกาย เชนรูลมหายใจเขา ออก รูทางกายวามีอากาศเย็นมากระทบกาย กายเกิดอาการหนาว สะทานขึ้น หรือเมื่อเดินกลางแดดรอนจัด กายอิดโรยมีเหงื่อไคล สกปรกชุมอยู หรือเมื่อเดินจงกรมเคลื่อนไหวไปมา ผูที่มีจิตผูรู จะเห็นกายสักแตวาเปนกลุมของธาตุมารวมกัน และเคลื่อนไหวไปมาไดเหมือนหุนยนตตัวหนึ่ง ไมเห็นวากายสวนใดจะเรียกตัวเองวากายเลย หรอืเดินจงกรมจนเมื่อยขา ก็ไมเห็นวาขาจะบนอะไรไดเลย กายกับจิตมันแยกชัดเปนคนละสวนกันทีเดียว ผูปฏิบัติจะเห็นกาย เปนไตรลักษณชัดเจนมาก

๓.๔.๒ รูเวทนา บางครั้งในขณะที่รูจิตผูรูอยูนั้น เราจะรูเวทนา ทางกายบาง ทางจิตบาง แลวแตตัวใดจะเดนชัดในขณะนั้น เชนในขณะที่เดินอยู เกิดเมื่อยขารุนแรง ถาเรามีจิตผูรู เราจะเห็นชัดเลยวา ความเมื่อยไมใชขาที่เปนวัตถุธาตุ แตเปนอีกสิ่งหนึ่ง แฝงอยูในวัตถุธาตุที่ประกอบกันขึ้นเปนขา หรืออยางนั่งอยูรอนๆ มลีมเย็นพัดมา รูสึกสบาย ความสบายนั้นเปนความรูสึกอีกตัวหนึ่ง ที่แทรกเขามา โดยที่กายไมไดสบายไปดวย หรืออยางเราปวดฟน ถาเรามีจิตผูรู จะเห็นชัดวา ความปวดไมใชฟน และไมใชจิตดวย แตเปนอีกสิ่งหนึ่ง (อีกขันธหนึ่ง) และความปวดนั้นเปลี่ยนระดับตลอด ไมไดปวดเทากันตลอดเวลา อันเปนการแสดงความเปนไตรลักษณของเวทนาขันธใหปรากฏ

Page 19: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ในสวนของเวทนาทางจิตก็เห็นไดชัดมาก เชนเวลาปวดฟน มีเวทนาทางกายแลว บางครั้งจิตก็ปรุงแตงเวทนาทางจิตขึ้นมาดวย คือเกิดความรูสึกเปนทุกขใจขึ้นมา หรือในเวลารับประทาน อาหารที่ชอบใจ แมรสยังไมทันสัมผัสลิ้น ความสุขทางใจก็เกิดขึ้นกอนแลว อยางนี้ก็มี

การรูเวทนาขณะที่รูจิตผูรูอยูนั้น จะเห็นเวทนาเปนไตรลักษณชัดเจนมาก

๓.๔.๓ รูจิต จิตตานุปสสนานั้น ไมใชการเห็นจิตผูรู หรือจิตที่แทจริง แตเปนการเห็นจิตสังขาร (ความคิดนึกปรุงแตง) ที่กําลังปรากฏ เชนเห็นชัดวา ขณะนั้นจิตมีความโกรธเกิดขึ้น มีความใครเกิดขึ้น มีความหลงฟุงซานเกิดขึ้น ความความผองใสเบิกบานเกิดขึ้น ฯลฯ แลวก็จะเห็นอีกวา ความปรุงแตงทั้งฝายชั่วและฝายดี ลวนเปนเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นแลวก็ดับไป มันไมใชจิต มันเปนแคอารมณที่ถูกรู ทั้งนี้การรูจิต (สังขาร) ในขณะที่รูตัวหรือรูจิตผูรูอยูนั้น จะเห็นจิตสังขารเปนไตรลักษณอยางชัดเจนมาก

๓.๔.๔ รูธรรม ถารูจิตผูรูอยูนั้น หากสภาวธรรมอันใดปรากฏขึ้น ก็จะเห็นสภาวธรรมนั้นตามที่มันเปนจริง เชนขณะที่รูตัวอยู จิตคิดถึงคนที่รัก แลวจิตก็ทะยานออกไปเกาะความคิดนั้น คลุกคลกีับความคิดนั้น ผูปฏิบัติจะเห็นชัดวา จิตเกิดความยึดวาจิตเปนตัวตนของตนขึ้นมา เพราะความที่จิตหลงไปยึดอารมณนั้นเอง ความเปนตัวตน ความเปนกลุมกอน ความหนัก ไดเกิดขึ้นแทนความไมมีอะไรในตอนแรก และถารูทันวาจิตสงออกไปนําความทุกขมาให จิตจะปลอยอารมณนั้น กลบัมาอยูกับรู ความเปนกลุมกอน ความหนัก ความแนน หรือทุกขก็จะสลายตัวไปเอง อันนี้คือการเห็นอริยสัจสี่นั่นเอง คือเห็นวาถามีตัณหาคือความทะยานอยากไปตามอารมณ ความเปนตัวตนและเปนทุกขจะเกิดขึ้น ถาไมมีความอยาก ทุกขก็ไมเกิด

การรูสภาวธรรมในขณะที่รูตัว หรอืรูจิตผูรูนั้น จะเห็นวา จิตเปนไตรลักษณชัดเจนทีเดียว เชนเห็นวาเปนของบังคับบัญชาไมได มันสงออกไปยึดอารมณ มันก็ไปเอง ถามันรูวาไปยึดแลวทุกข มันก็ไมไปเอง เราจะบังคับวา จงอยาไปไมไดเลย ตัวอยางการพิจารณาหรอืการดูจิต

๑. นาย จ. กําลังซักผา ขณะนั้น สัญญาคือความจําภาพของสาวคนรักผุดขึ้นมา จิตของเขาปรุงแตงราคะคือความรักใครผูกพันขึ้นมา ทั้งที่ไมไดเห็นสาวคนรักจริงๆ วิธีดูจิตนั้น ไมไดหมายความวาใหนาย จ. หันมาทําสติวามือกําลังขยี้ผาอยู แตนาย จ. จะตองมองเห็นกิเลสที่เกิดขึ้นในใจของตนเอง เมื่อเห็นกิเลสแลว ก็ไมใชเกลียดหรืออยากดับ

Page 20: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

กิเลส แตการเห็นกิเลส ดวยจิตที่เปนกลาง กิเลสมันจะดับไปเอง เมื่อกิเลสดับไป นาย จ. ก็ตองรูวา กิเลสดับไป เปนตน

๒. กรณีเดียวกับตัวอยางแรก ถานาย จ. เกิดราคะเพราะคิดถึงคนรัก บางครั้งกําลังกิเลสที่แรงมากๆ แมนาย จ. จะรูวากิเลสเกิดขึ้น แตราคะนั้นอาจจะไมดับไป มิหนําซ้ํา จิตของนาย จ. ยังเคลื่อนออกจากฐานผูรูเขาไปเกาะกับภาพคนรัก หรือหลงเขาไปในความคิดเกี่ยวกับคนรัก ถึงขั้นนี้ก็ให นาย จ. รูวา จิตเคลื่อนออกไปรวมกับอารมณแลว ไมตองทําอะไร แครูเฉยๆ เทานั้น

๓. เมื่อจิตของนาย จ. มีราคะ หรือจิตของนาย จ. เคลื่อนเขาไปรวมกับอารมณ นาย จ. อาจจะสงสัยวา เอ..เราควรตองพิจารณาอสุภกรรมฐาน ชวยจิตหรือไม เพื่อใหพนอํานาจดึงดูดของราคะ เรื่องอยางนี้ในกรณีที่ผูปฏบิัติพิจารณากาย อาจจะใชการพิจารณาอสุภกรรมฐานมาเปนเครื่องแกกิเลสก็ได แตนักดูจิตจะไมใชความคิดเขาไปชวยจิต เขาจะทําแครูทันสภาพจิตของตนอยูตลอดเวลาเทานั้น เพราะจริงๆ แลว จิตจะเปลี่ยนสภาพอยูตลอดเวลา ถาตั้งใจสังเกตดู เชนกําลังราคะจะแรงขึ้นบาง ออนลงบาง ความคิดเกี่ยวกับ คนรักจะปรากฏขึ้นบาง และดับไปบาง การเคลื่อนของจิตก็อาจเคลื่อนถลํา เขาไปในอารมณบาง แลวถอยออกมาอยูกับรูบาง มันแสดงไตรลักษณอยูตลอดเวลา

๔. เมื่อนาย จ. รูทันจิตเรื่อยๆ ไปโดยไมไดใชความคิดเขาไปชวยจิต นาย จ.ซึ่งเปนปญญาชน เคยชินกับการแกปญหาดวยการคิด อาจเกิดความลังเลสงสัยข้ึนมาวา เอ..ถาเราเฝารูจิตไปเฉยๆ เราจะเกิดปญญาไดอยางไร เราจะกลายเปนคนโงสมองฝอหรือเปลา ก็ใหนาย จ. รูวาความลังเลสงสัยเกิดขึ้นแลว ไมตองคิดหาคําตอบ แคเห็นวาความสงสัยเกิดขึ้นก็พอ ที่สุดมันจะดับไปเองเหมือนอารมณตัวอ่ืนๆ นั่นเอง

แทที่จริง การที่จิตเปนกลางรูอารมณนั้น จิตเห็นไตรลักษณอยูตลอดเวลา และจะเห็นอริยสัจ ๔ ไปในตัวดวยนั้น เปนปญญาขั้นสุดยอดอยูแลวที่จะปลดเปลื้องจิตจากความทุกข ทั้งนี้ปญญาอันเกิดจากการใชความคิด (จินตมยปญญา) ซึ่งเปนวิธีการเรียนรูเกาๆ ที่ปญญาชนอยางนาย จ. เคยชิน ไมสามารถนําผูปฏิบัติออกจากทุกขได แตปญญาที่เกิดจากการภาวนา (ภาวนามยปญญา) คือการเจริญสติสัมปชัญญะนั้น นําผูปฏิบัติออกจากทุกขได และมันเปนปญญาคนละชนิดกัน

๕. เมื่อนาย จ. ซักผาไปนานๆ แขนของนาย จ. ก็ปวด มือก็ลา นาย จ. รับรูทุกขเวทนาทางกายที่เกิดขึ้น แลวสังเกตเห็นวา ความจริงรางกายของนาย จ. ไมไดปวด

Page 21: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

เมื่อยเลย แตความปวดเมื่อย เปนอีกสิ่งหนึ่งที่แฝงอยูในกาย จิตผูรูก็เปนอีกสวนหนึ่ง มันสงบสบายอยูไดในขณะที่ทุกขทางกายเกิดขึ้น อันนี้ก็เปนการเห็นความจริงเกี่ยวกับขันธที่แยกออกจากกันเปนสวนๆ เมื่อมองดูแตละสวน ไมเห็นมีสวนใดเลยที่เรียกวา "นาย จ." นี่ก็เปนสภาพอีกอันหนึ่งที่ผูดูจิตจะรูเห็นไดไมยาก

๓.๕ การดูจิตจะพลิกไปมาระหวางสมถะกับวิปสสนาได การดูจิตก็ดีหรือการพิจารณากายก็ดี จิตสามารถพลิกกลบัไปมาระหวางการเจริญสมถกรรมฐานและวิปสนากรรมฐานได

ในทางตําราทั่วๆ ไป มักจะแยกสมถะกับวิปสสนาดวยอารมณกรรมฐาน คือถาใครทํากรรมฐาน ๔๐ เชนอนุสติ ๑๐ ถือวาทําสมถะ ถาเจริญสติปฏฐานคือรูกาย เวทนา จิต หรือธรรม ถือวาเจริญวิปสสนา หรือถารูอารมณที่เปนสมมติบัญญัติถือวาทําสมถะ แตถารูอารมณปรมัตถก็ถอืวาทําวิปสสนา

แตในแงของนักปฏิบัติแลวไมใชเพียงเทานั้น การจําแนกสมถะกับวิปสสนานั้น สามารถจําแนกดวยอาการดําเนินของจิตไดดวย คือถาขณะใด จิตมีสติรูอารมณอันเดียวโดยตอเนื่อง อันนั้นเปนการทําสมถะ และเมื่อทําไปจนจิตจับอารมณนั้นเอง โดยไมตองบังคับควบคุม หรือไมตองตั้งใจแลว จิตเกาะเขากับอารมณอันเดียว เกิดความสุขความสงบ อันนั้นเปนฌานอันเปนผลของการทําสมถะ

เมื่อใดที่ผูปฏิบัติมีสติรูอารมณที่กําลังปรากฏ ในขณะเดียวกันก็มีสัมปชัญญะคือความรูตัว หรืออีกนัยหนึ่ง ผูรูกับสิ่งที่ถูกรูแยกออกจากกันแลว ตามเห็นความเกิดดับของอารมณปรมัตถ อันนั้นเปนการทําวิปสสนา และเมื่อถึงจุดหนึ่งจิตจะไมจงใจรูอารมณและไมจงใจประคองผูรู แตสามารถเจริญสติและสัมปชัญญะไดเอง อันนั้นจิตเดินวิปสสนาเองโดยอัตโนมัติ อันเปนวิปสสนาแทที่จิตทําของเขาเอง

เปรียบเทียบคนที่ทําสมถะ เหมือนคนที่ตกลงในกระแสน้ํา วายอยูในน้ํา ยอมเห็นสิ่งตางๆ ไมชัดเจน ในขณะที่ผูทําวิปสสนา เหมือนคนที่นั่งบนฝงน้ํา แลวมองดูสายน้ําที่ไหลผานเฉพาะหนาไป ยอมเห็นชัดวา มีอะไรลอยมากับน้ําบาง ทั้งของสะอาดสวยงาม และของสกปรก

ดวยเหตุนี้ จึงเปนบทเฉลยที่วา ทําไม จึงตองหัดแยกจิตผูรู ออกจากอารมณที่ถูกรู กอนที่จะดูจิตหรือพิจารณากายอยางหนึ่งอยางใด

Page 22: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ตัวอยางเชน หากพิจารณาอัฐิหรือกระดูก โดยใหสมาธิเพงรูรูปรางของกระดูก วาเปนแทงยาวๆ กลมๆ อันนั้นเปนการเพง เปนกสิณดิน หากเพงดูวากระดูกมีสีขาว อันนั้นก็เปนกสิณสี ซึ่งการเพงจนจิตสงบเกาะอยูกับรูปกระดูกก็ด ี สีกระดูกก็ดี เปนการทําสมถะ แมการคิดวากระดูกเปนเพียงธาตุขันธหรือเปนอสุภะ ก็ยังเปนการทําสมถะเพราะเปนการคิดๆ เอา

แตหากรูกระดูก โดยมีจิตผูรูตั้งมั่นอยูตางหาก แลวคิดพิจารณาไปในแงที่กระดูกเปนไตรลักษณ อันนั้นเปนการเจริญวิปสสนาขั้นตน และในระหวางที่พิจารณากายอยางเปนวิปสสนานั้น บางครั้งจิตก็เขาไปจับอยูกับกายสวนใดสวนหนึ่ง นิ่งพักอยูเปนสมถะ แลวคอยกลับออกมาพิจารณากายตอก็มี แตถาจิตไมเขาพักเอง แลวกลับตะลุยพิจารณากายจนจิตฟุงซาน ผูปฏิบัติจะตองยอนกลับไปทําสมถะใหม เพื่อใหจิตมีกําลังและแยกตัวออกจากอารมณเสียกอน

การดูจิตก็เปนไดทั้งสองอยาง คือถาเพงความวางเปลาของจิต หรือเพงสิ่งใดสิ่งหนึ่งในจิต อันนั้นเปนสมถะ หากรูอารมณปรมัตถที่เกิดดับไป โดยจิตผูรูอยูตางหาก อันนั้นเปนการทําวิปสสนา และตามธรรมดาแลว เมื่อผูปฏิบัติดูจิตอยูอยางเปนวิปสสนานั้น บางครั้งจิตก็เขาพักในสมถะ ดวยการจับนิ่ง เขากับอารมณอันเดียว

ผูปฏิบัติควรจําแนกไดวา ขณะนั้นจิตของตนทําสมถะ หรือเดินวิปสสนา มิฉะนั้น อาจหลงผิดทําสมถะ แลวคิดวากําลังทําวิปสสนาอยู ผูปฏิบัติที่ครูบาอาจารยขาดญาณทัศนะ ไมรูวาระจิตของศิษย อาจหลงผิดไดงายโดยไมมีใครแกไขให เชนเดินจงกรมกําหนดยกหนอ ยางหนอ เหยียบหนอ ฯลฯ แลวจิตไหลลงไปอยูในเทา หรือหลงคิดแตเรื่องยก ยาง เหยียบ ไมมีสัมปชัญญะคือความรูตัวของจิต อันนั้นเปนการทําสมถะอยางเดียวเทานั้น

อันตรายอีกอยางหนึ่งของการที่แยกไมออกระหวางการทําสมถะ กับวิปสสนาก็คือ การเกิดวิปสสนูปกิเลส คือในระหวางที่ทําวิปสสนาอยูนั้น บางครั้งจิตพลิกกลับไปสูภูมิของสมถะ แลวเกิดความรูความเห็นหรืออาการบางอยาง ทําใหหลงผิดวาตนบรรลุธรรมชั้นสูงแลว เชนเกิดอาการที่สติรูอารมณชัดกริบดวยจิตที่แข็งกระดาง (แทนที่จะรูดวยจิตที่ออนโยน วองไว ควรแกการทําวิปสสนา) หรือเกิดความรูความเห็นผิด เชนแยกไมออกระหวางสมมุติสัจจะ กับปรมัตถสัจจะ หลงผิดวา พระพุทธเจาก็ไมมี พอแมก็ไมมี ทุกอยางวางเปลา หมด เปนการปฏิเสธสมมุติบัญญัติคิดวามันไมมี ทั้งที่สมมุติเขาก็มีของเขาอยู แตมีอยางเปนสมมุติ เปนตน

Page 23: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

การที่ดูจิตแลวจิตพลิกกลับไปมาระหวางสมถะและวิปสสนาไดนั้น ทําใหผูปฏิบัติบางคนไดฌานโดยอัตโนมัติ ทั้งที่ไมตองหัดเขาฌาน

๓.๖ การปลอยวางอารมณหยาบเขาถึงความวาง เมื่อดูจิตชํานาญเขา อารมณใดกระทบจิต อารมณนั้นก็ดับไป เหมือนแมลงเมาบินเขากองไฟ เริ่มตน ผูปฏิบัติจะรูเห็นแตอารมณหยาบ เชนโกรธแรงๆ จึงจะดูออก แตเมื่อปฏิบัติมากเขา แมความขัดใจเล็กนอย หรือความพอใจเล็กนอยเกิดขึ้นกับจิต ก็สามารถรูเห็นไดอยางชัดเจน เชนในขณะที่รอนๆ มีลมเยน็โชยกระทบผิวกายนิดเดียว จิตก็เกิดยินดีมีราคะขึ้นแลว หรือปวดปสสาวะ พอเริ่มถายปสสาวะจิตก็ยินดีเสียแลว หรือกําลังหิวขาว พอเห็นเขายกอาหารมาวางตอหนา จิตก็ยินดีเสียแลว เปนตน

เมื่อรูอารมณละเอียดแลว โอกาสที่อารมณหยาบจะเกิดก็ยากข้ึน เพราะอารมณหยาบนั้นงอกงามขึ้นไปจากอารมณละเอียดนั่นเอง

อนึ่ง หลักการที่สําคัญมากในการดจูิตที่ขอยํ้าก็คือ ใหรูอารมณเฉยๆ อยาไปพยายามละอารมณนั้นเด็ดขาด จะเดินทางผิดทันที เพราะอารมณทั้งปวงนั้น เปนตัวขันธ เปนตัวทุกข ผูปฏิบัติมหีนาที่รูเทานั้น อยาอยาก (มีตัณหา) ที่จะไปละมันเขา จะผิดหลักการเกี่ยวกับกิจของอริยสัจ พระพุทธเจาทรงสอนวา "ทุกขใหรู สมุทัยใหละ" เพราะยิ่งพยายามละ ก็จะยิ่งหลงผิดมากขึ้น ตัวอยางเชนเห็นความโกรธเกิดขึ้นในจิต ทานใหรูเฉยๆ บางครั้งผูปฏิบัติพยายามหาทางดับความโกรธนั้น แลวความโกรธก็ดับไดจรงิๆ เหมือนกัน นักปฏิบัติจะหลงผิดวา ตนเองเกงดับกิเลสได และเห็นวา จิตเปนอัตตา กิเลสเปนอัตตา ทั้งที่ความจริงนั้น กิเลสมันดับเพราะหมดเหตุของมันตางหาก เชนเราถูกคนดา เราใครครวญเกี่ยวกับเรื่องที่เขาดา ความโกรธก็เกิดและแรงขึ้นเรื่อยๆ พอเราคิดเรื่องจะดับความโกรธ เราละเหตุของความโกรธเสียแลวคือไมไดคิดเรื่องวาเขาดา มัวแตคิดจะดับความโกรธ ความโกรธหมดเหตุมันก็ดับไปเอง แตผูปฏิบัติหลงผิดวา ตนดับความโกรธได แลวเมื่อไปเจอกิเลสอื่น ก็จะวุนวายอยูกับความพยายามจะดับมันอีก เรียกวาหางานใหจิตทําวุนวายอยูตลอดเวลา

การที่ผูปฏิบัติรูอารมณเร็วข้ึน ชัดเจนขึ้นตามลําดับนั้น อารมณก็จะ ยิ่งละเอียดเขาไปอีกตามลําดับเชนกัน แตทั้งนี้ตองเขาใจวา จิตก็ดี อารมณก็ดี สติสัมปชัญญะหรือสมาธิก็ดี เปนของที่อยูในอํานาจไตรลักษณเหมือนกัน ดังนั้น เมื่อจิตละเอียดแลว ชวงหนึ่งมันก็จะหยาบอีก อยาตกใจเพราะนั่นมันเปนธรรมดา ใหตั้งหนาปฏิบัติไปเรื่อยๆ มันจะกลับดี และดีขึ้นไปตามลําดับ

Page 24: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

เมื่ออารมณละเอียดถึงที่สุด จิตจะปรากฏเหมือนวา จิตวางไปหมด ถึงจุดนี้ผูปฏิบัติอาจหลงผิดวาตนสิ้นกิเลสแลว ความจริงความวางนั้นก็คือ อารมณอีกอันหนึ่ง เพียงแตละเอียดถึงที่สุดเทานั้นเอง

ทุกวันนี้มีผูประกาศเรื่องใหดํารงชีวิตดวยจิตวาง ทั้งที่เขาไมรูจักจิตวางเลย และไมรูวาจิตวางนั้นยังหาสาระแกนสารเอาเปนที่พ่ึงอะไรไมได เพราะมันก็ยังตกอยูใตอํานาจของไตรลักษณนั่นเอง และที่สําคัญก็คือ คนที่คิดเรื่องจิตวางและพยายามทําใหจิตวางนั้น จิตยังหางจากความวางมากมายนัก เพราะแมจิตที่มีอารมณหยาบก็ยังไมเขาใจแมแตนอย

๓.๗ การปลอยวางความวาง เขาถึงธรรมที่แทจรงิ เมื่อปฏิบัติเขาถึงขั้นที่ละเอียดเชนนั้นแลว หลักที่จะปฏิบัติตอไปยังคงเหมือนเดิม คือรูหรือดูจิตตอไป ไมตองสงสัย ไมตองคิดคนวิพากษวิจารณวาทําอยางไรจะปลอยวางความวางนั้นได เพราะแคเริ่มคิดนิดเดียว จิตก็จะหลงทางเขาสูความวุนวายสับสนอีกแลว ผูปฏิบัติจะตองรูอยางเดียวเทานั้น

การรูโดยไมคิดนั้นเอง คือการเจริญวิปสสนาที่แทจริง และละเอียดที่สุด ควรทราบวาจิตจะหลุดพนไดนั้น จิตเขาจะตองหลุดพนเองเพราะเขาเห็นความจริง การคิดใครครวญดวยสัญญาอารมณ มันเปนเพียงความรูขั้นสัญญาของตัวผูปฏิบัติ แตความรูจริงของจิตนั้น จิตเขาตองเรียนรูเอง ผูปฏิบัติ เพียงแตทําสิ่งที่เอื้อตอการที่จิตจะเรียนรูเทานั้น คืออยาไปรบกวนจิตใหวุนวายขึ้นมาอีก มีสติ มีสมัปชัญญะ รูแตไมคิดคนควาใด ๆ ในที่สุด จิตจะเกิดความเขาใจขึ้นมาเองวา จิตวางนั้นเองไมใชสาระแกนสาร ตราบใดทีย่ังเห็นวาจิตเปนตัวเรา หรือเปนของเราที่จะตองชวยใหจิตหลุดพน ตราบนั้นตัณหาหรือสมุทัย ก็จะสรางภพของจิตวางขึ้นมาร่ําไป

ขอย้ําวาในขั้นนี้ จิตจะดําเนินวิปสสนาเอง ไมใชผูปฏิบัติจงใจกระทํา ดังนั้นจึงกลาวไดวา ไมมีใครเลยที่จงใจหรือต้ังใจบรรลุมรรคผลนิพพานได มีแตจิตเขาปฏิวัติตนเองไปเทานั้น

๓.๘ การรูธรรมในขั้นของพระโสดาบัน และการปฏิบัติเพื่อบรรลุอรหตัมรรค เมื่อจิตทรงตัวรูแตไมคิดอะไรนั้น บางครั้งจะมีสิ่งบางสิ่งผุดขึ้นมา สูภูมิรูของจิต แตจิตไมสําคัญมั่นหมายวานั่นคืออะไร เพียงแตรูเฉยๆ ถงึความ เกิดดับนั้นเทานั้น ในขั้นนี้เปนการเดินวิปสสนาในขั้นละเอียดที่สุด ถึงจุดหนึ่งจิตจะกาวกระโดดตอไปเอง ซึ่งจะขอไมกลาวถึงขั้นตอนอยางละเอียด เพราะผูอานอาจคิดตามแลวปรุงแตงอาการนั้นขึ้นมาได

Page 25: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

การเขาสูมรรคผลนั้น "รู" มีอยูตลอด แตไมคิดและไมสําคัญ มั่นหมายในสังขารละเอียดที่ผุดขึ้น บางอาจารยจะสอนผิดๆ วา ในเวลาบรรลุมรรคผล จิตดับความรับรูหายเงียบไปเลย โดยเขาใจผิดในคําวา "นิพพานัง ปรมัง สุญญัง" สูญอยางนั้นเปนการสูญหาย แบบอุทเฉททิฏฐิ สภาพของมรรคผลไมไดเปนเชนนั้น การที่จิตดับความรับรูนั้น เปนภพชนิดหนึ่งเรียกวา "อสัญญ"ี หรือที่คนโบราณเรียกวาพรหมลูกฟกเทานั้นเอง

เมื่อจิตถอยออกจากอริยมรรคและอริยผลท่ีเกิดขึ้นแลว ผูปฏิบตัิจะรูชัดวา ธรรมเปนอยางนี้ สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นตองดับไป ธรรมชาติบางอยางมีอยู แตก็ไมมีความเปนตัวตนสักอณูเดียว นี้เปนการรูธรรมในขั้นของพระโสดาบัน คือไมเห็นวาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แมแตตัวจิตเองเปนตัวเรา แตความยึดถือในความเปนเรายังมีอยู เพราะขั้นความเห็นกับความยึดนั้นมันคนละขั้นกัน

เมื่อบรรลุถึงสิ่งที่บัญญัติวา "พระโสดาบัน" แลว ผูปฏิบัติยังคงปฏิบัติอยางเดิมนั้นเอง แตตัวจิตผูรูจะยิ่งเดนดวงขึ้นตามลําดับ จนเมื่อบรรลพุระอนาคามีแลว จิตผูรูจะเดนดวงเต็มที่ เพราะพนจากอํานาจของกาม การที่จิตรูอยูกับจิตเชนนั้น แสดงถึงกําลังสมาธิอันเต็มเปยม เพราะสิ่งที่เปนอันตรายตอสมาธิคือกามไดถูกลางออกจากจิตหมด แลว ผูปฏิบตัิในขั้นนี้หากตายลง จึงไปสูพรหมโลกโดยสวนเดียว ไมสามารถกลับมาเกิดในภพมนุษยไดอีกแลว

นักปฏิบัติจํานวนมากที่ไมมีครูบาอาจารยชี้แนะ จะคิดวาเมื่อถึงขั้นที่จิตผูรูหมดจดผองใสแลวนั้น ไมมีทางไปตอแลว แตหลวงปูดูลย อตุโล กลับสอนตอไปอีกวา "พบผูรูใหทําลายผูรู พบจิตใหทําลายจิต"

จุดนี้ไมใชการเลนสํานวนโวหารที่จะนํามาพูดกันเลนๆ ได ความจริงก็คือการสอนวา ยังจะตองปลอยวางความยึดมั่นจิตอีกชั้นหนึ่ง มันละเอียดเสียจนผูที่ไมละเอียดพอ ไมรูวามีอะไรจะตองปลอยวางอีก เพราะความจริงตัวจิตผูรูนั้น ยังเปนของที่อยูในอํานาจของไตรลักษณ บางครั้งยังมีอาการหมองลงนิดๆ พอใหสังเกตเห็นความเปนไตรลักษณของมัน แตผูปฏิบัติที่ไดรับการอบรมเรื่องจิตมาดีแลว จะเห็นความยึดมั่นนั้น แลวไมตองทําอะไรเลย แครูทันเทานั้น จิตจะประคองตัวอยูที่รู ไมคิดคนควาอะไร มันเงียบสนิทจริงๆ ถงึจุดหนึ่ง จิตจะปลอยวางความยึดถือจิต จิตจะเปนอิสระเปดโลงไปหมด ไมกลับเขาเกาะเกี่ยวกับอารมณใดๆ ที่จะพาไปกอเกิดไดอีก

Page 26: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

๔. บทสรุปคําสอนของหลวงปูดูลย อตุโล ๔.๑ ธรรมเรียนรูไดที่จิต ๔.๒ ใหบริกรรมเพื่อรวมอารมณใหเปนหนึ่ง สังเกตดูวา ใคร เปนผู บริกรรม "พุทโธ" ๔.๓ ทําความเขาใจในอารมณความคิดนึก สังเกตกิเลสที่กําลังปรากฏใหออก ๔.๔ อยาสงจิตออกนอก อยาใหจิตคิดสงไปภายนอก (เผลอ) ใหสังเกตความหวั่นไหว หรือปฏิกิริยาของจิตตออารมณที่รับเขามาทางอายตนะทั้ง ๖ ๔.๕ จงทําญาณใหเห็นจิต เหมือนดั่งตาเห็นรูป คือรูทันพฤติของจิต ๔.๖ รู เพราะคิดเทาไหรก็ไมรู ตองหยุดคิดถึงจะรู แตก็ตองอาศัยคิด คืออยาไปหามความคิด ๔.๗ แยกรูปถอด (ความปรุงแตง) ก็ถึงความวาง แยกความวาง ถึงมหาสุญตา ๔.๘ สรุปอริยสัจแหงจิต จิตสงออกนอก เปนสมุทัย (ฉะนั้น อยาสงจิตออกนอก) ผลอันเกิดจากจิตสงออกนอก เปนทุกข จิตเห็นจิตอยางแจมแจง เปนมรรค ผลอันเกิดจากจิตเห็นจติอยางแจมแจง เปนนิโรธ

Page 27: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

“ที่จริงเราปฏิบัติไมใชเพื่อเอาความรู แตปฏิบัติเพื่อความพนทุกขของจิต

โดย จิต มีปญญา ไมไปยึดอารมณทีก่ําลังปรากฏ ไมใชโดย เรา มคีวามรู”

Page 28: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

การดูจิต : ความหมาย วิธีการ และผลของการปฏิบัติ

โดยคุณ ปราโมทย วนั ศุกร ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๓ ๐๙:๓๓:๐๐

กระทูนี้ผมเขียนไวในลานธรรม เพื่อสรางความเขาใจระหวางนักปริยัติกับนักปฏิบัติ แตนํามาโพสตเก็บไวที่นี้ดวยเพราะสมาชิกของวิมุตติบางสวน ไมไดเขาไปอานกระทูในลานธรรม

***********************************

เพื่อนใหมที่เขามาสูลานธรรมมักจะมีคําถามเสมอวา การดูจิตคืออะไร ทําอยางไร ดูแลวมีผลอยางไร คําตอบที่ไดรับจากหลายๆ ทาน คอนขางแยกเปนสวนๆ วันนี้ผมขอโอกาสเลาถึงการดูจิตในภาพรวมสักครั้งนะครับ

ความหมายของการดูจิต

คําวา การดูจิต เปนคําที่นักปฏิบัติกลุมหนึ่งบัญญัติข้ึน เพื่อใชสื่อความหมายกันเองภายในกลุม หมายถึงการเจริญเวทนานุปสสนาสติปฏฐาน (ทุกบรรพ) จิตตานุปสสนาสติปฏฐาน (ทุกบรรพ) รวมถึงธัมมานุปสสนาสติปฏฐาน (บางอยางที่เปนฝายนามธรรม) กลาวอยางยอก็คือ การเจริญวิปสสนาดวยอารมณฝายนามธรรม ไดแกการรูจิตและเจตสิกนั่นเอง

วิธีการเจริญวิปสสนา (ดูจิต)

การเจริญวิปสสนาทุกประเภท รวมทั้งการดูจิตไมมีอะไรมาก เพียงแตใหผูปฏิบัติ "รูสภาวธรรมที่กําลังปรากฏตามความเปนจริง ดวยจิตที่เปนกลางเทานั้น" แตจะรูไดถูกตองก็ตอง (๑) มีจิตที่มีคุณภาพ และ (๒) มีอารมณกรรมฐานที่ถูกตอง เทานั้น ซึ่งจิตที่มี คุณภาพสําหรับการทําสติปฏฐานหรือวิปสสนา ไดแกจิตที่มีสติ (สัมมาสติ) สัมปชัญญะ (สัมมาทิฏฐิ) และสัมมาสมาธิ สวนอารมณกรรมฐานที่ถูกตองคืออารมณที่มีตัวจริงที่สามารถแสดงไตรลักษณได หรือที่นักปฏิบัติมักจะเรียกวาสภาวะและนักปริยัติเรียกวาอารมณปรมัตถ

เมื่อจะลงมือปฏิบัติ ก็ให (๑) มีสติเฝารูใหทัน (มีสัมมาสติ)

Page 29: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

(๒) ถึงอารมณหรือสภาวธรรมที่กําลังปรากฏ (มีอารมณปรมัตถ) (๓) ดวยจิตที่ตั้งมั่น ไมเผลอสงสายไปที่อ่ืน และไมเพงจองบังคับจิต (มี

สัมมาสมาธิ) แลว (๔) จิตจะรูสภาวธรรมทั้งปวงตามความเปนจริง (มีสัมปชัญญะ/สัมมาทิฏฐิ)

การมีสติเฝารูใหทัน หมายถึงสิ่งใดเกิดขึ้น ตั้งอยู หรือดับไป ก็ใหรูเทาทัน เชนขณะนั้นรูสึกมีความสุข ก็ใหรูวามีความสุข เมื่อความสุขดับไป ก็ใหรูวาความสุขดับไป มีความโกรธก็รูวามีความโกรธ เมื่อความโกรธดับไปก็รูวาความโกรธดับไป เมื่อจิตมีความทะยานอยากอันเปนแรงผลักดัน ใหออกยึดอารมณทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ใหรูวามีแรงทะยานอยาก เปนตน

อารมณหรือสภาวธรรมที่กําลังปรากฏ ตองเปนอารมณของจริง ไมใชของสมมุติ โดยผูปฏิบัติจะตองจําแนกใหออกวา อันใดเปนของจริง หรือปรมัตถธรรม อันใดเปนของสมมุติ หรือบัญญัติธรรม

เชนเมื่อจิตมีความสุข ก็ตองมีสติรูตรงเขาไปที่ความรูสึกสุขจริงๆ เมื่อจิตมีความโกรธ ก็ตองรูตรงเขาไปที่สภาวะของความโกรธจริงๆ เมื่อมีความลังเลสงสัย ก็ตองรูตรงเขาไปที่สภาวะของความลังเลสงสัยจริงๆ ฯลฯ และเมื่อหัดรูมากเขาจะพบวา นามธรรมจํานวนมากผุดขึ้นที่อก หรือหทยวัตถุ แตผูปฏิบัติไมตองเที่ยวควานหาหทยวัตถุหากกิเลสเกิดที่ไหน และดับลงที่ไหน ก็รูที่นั้นก็แลวกันครับ ถาเอาสติไปตั้งจอดูผิดที่เกิด ก็จะไมเห็นของจริง เชนเอาสติไปจออยู เหนือสะดือสองนิ้ว จะไมเห็นกิเลสอะไร นอกจากเห็นนิมิต เปนตน

และการมีสติรูของจริง ก็ไมใชการคิดถามตนเอง หรือคะเนเอาวา ตอนนี้สุขหรือทุกข โกรธหรือไมโกรธ สงสัยหรือไมสงสัย อยากหรือไมอยาก ตรงจุดนี้สําคัญมากนะครับ ที่จะตองรูสภาวธรรม หรือปรมัตถธรรมใหได เพราะมันคือ พยานหรือแบบเรียนที่จิตจะไดเรียนรู ถึงความเกิดขึ้น ตั้งอยู และดับไปของมันจริงๆ ไมใชแคคิดๆ เอาวามันเปนอยางนั้นอยางนี้

เมื่อมีสติรูสภาวธรรมหรือปรมัตถธรรมที่กําลังปรากฏแลว ผูปฏิบัติจะตองมีจิตที่รูตัว ตั้งมั่น ไมเผลอไปตามความคิดซึ่งจะเกิดตามหลังการรูสภาวธรรม เชนเมื่อเกิดสภาวะบางอยางขึ้นในจิต อันนี้เปน ปรมัตถธรรม ถัดจากนั้นก็จะเกิดสมมุติบัญญัติวา นี้เรียกวาราคะ สมมุติตรงนี้หามไมได เพราะจิตเขามีธรรมชาติเปนนักจําและนักคิด ผู

Page 30: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ปฏิบัติจึงไมตองไปหามหรือปฏิเสธสมมุติบัญญัติ เพียงรูใหทัน อยาไดเผลอหรือหลงเพลินไปตามความคิดนึกปรุงแตงนั้น หรือแมแตการหลงไปคิดนึกเรื่องอื่นๆ ดวย แลวใหเฝารูสภาวะ (ที่สมมุติเรียกวาราคะนั้น) ตอไป ในฐานะผูสังเกตการณ จึงจะเห็นไตรลักษณของสภาวะอันนั้นได

ในทางกลับกัน ผูปฏิบัติที่ไปรูสภาวะที่กําลังปรากฏ จะตองไมเพงใสสภาวะนั้นดวย เพราะถาเพงจิตจะกระดางและเจริญปญญาไมได แตจิตจะ "จํา และจับ" สภาวะอันนั้นมาเปนอารมณนิ่งๆ แทนการรูสภาวะจริงๆ พึงใหจิตเปนเพียงผูสังเกตการณ เหมือนคนดูละคร ที่ไมโดดเขาไปเลนละครเสียเอง สภาพที่จิตทรงตัวต้ังมั่น นุมนวล ออนโยน ควรแกการงาน โดยไมเผลอและไมเพงนี้แหละ คือสัมมาสมาธิ เปนสภาพที่จิตพรอมที่จะเจริญปญญาอยางแทจริง

คือเมื่อจิตมีสติ รูอารมณปรมัตถ ดวยความตั้งมั่น ไมเผลอและไมเพง จิตจะไดเรียนรูความจริงของปรมัตถธรรมอันนั้นๆ ๔ ประการ คือ

(๑) รูสภาวะของมันที่ปรากฏขึ้น ตั้งอยู และดับไป (รูตัวสภาวะ) (๒) รูวาเมื่อสภาวะอันนั้นเกิดขึ้นแลว มนัมีบทบาทและหนาที่อยางไร (รูบทบาทของ

สภาวะ) (๓) รูวาถามันแสดงบทบาทของมันแลวจะเกิดอะไรขึ้น (รูผลของสภาวะ) และเมื่อ

ชํานาญมากเขา เห็นสภาวะอันนั้นบอยครั้งเขา ก็จะ (๔) รูวา เพราะสิง่ใดเกิดขึ้นแลว จึงกระตุนใหสภาวะอนันั้นเกิดตามมา (รูเหตุใกลของ

สภาวะ) การที่จิตเปนผูสังเกตการณและเรยีนรู หรือวิจัยธรรม (ธรรมวิจัย) อันนี้เองคือการเจริญปญญาของจิต หรือสัมปชญัญะ หรอืสัมมาทฏิฐิ

ตัวอยางเชนในขณะที่มองไปเห็นภาพๆ หนึ่งปรากฏตรงหนา จิตเกิดจําไดหมายรูวา นั่นเปนภาพสาวงาม แลวสภาวธรรมบางอยางก็เกิดขึ้นในจิต (ซึ่งเมื่อบัญญัติทีหลังก็เรียก วา ราคะ) การรูสภาวะที่แปลกปลอมขึ้นในจิตนั่นแหละคือการรูตัวสภาวะของมัน แลวก็รูวามันมีบทบาทหรืออิทธิพลดึงดูด ใหจิตหลงเพลินพอใจไปกับภาพที่เห็นนั้น ผลก็คือ จิตถูกราคะครอบงํา ใหคิด ใหทํา ใหอยาก ไปตามอํานาจบงการของราคะ และเมื่อรูทันราคะมากเขา ก็จะรูวา การเห็นภาพที่สวยงามเปนเหตุใกลใหเกิดราคะ จึงจําเปนจะตองคอยเฝาระวังสังเกต ขณะที่ตากระทบรูปใหมากขึ้น เปนตน

Page 31: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ในสวนตัวสภาวะของราคะเอง เมื่อผูปฏิบัติมีสติรูอยูนั้น มันจะแสดงความไมเที่ยงใหเห็นทันที คือระดับความเขมของราคะจะไมคงที่ มันตั้งอยูไมนาน เมื่อหมดกําลังเพราะเราไมไดหาเหตุใหมมาเพิ่มใหมัน (ยอนไปมองสาว) มันก็ดับไป แสดงถึงความเปนทุกขของมัน และมันจะเกิดขึ้นก็ตาม ตั้งอยูก็ตาม ดับไปก็ตาม ลวนเปนไปตามเหตุปจจัยกําหนด ไมใชตามที่เราอยากจะใหเปน นอกจากนี้ มันยังเปนเพียงสิ่งที่ถูกรู ไมใชตัวเรา เหลานี้ลวนแสดงความเปนอนัตตาของสภาวะราคะทั้งสิ้น

ผลของการดูจิต และขอสรุป

จิตที่อบรมปญญามากเขาๆ ถึงจุดหนึ่งก็จะรูแจงเห็นจริงวา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไมวาจิต เจตสิก กระทั่งรูป ลวนแตเกิดขึ้นแลวดับไปทั้งสิ้น ถาจิตเขาไปอยาก เขาไปยึด จิตจะตองเปนทุกข ปญญาเชนนี้แหละ จะทําใหจิตคลายความยึดมั่นถือมั่นในตัวกูของกูลง ความทุกขก็จะเบาบางลงจากจิต เพราะจิตฉลาด ไมไปสายแสหาความทุกขมาใสตัวเอง (แตลําพังคิดๆ เอา ในเรื่องความไมมีตัวกูของกู ยอมไมสามารถดับ ความเห็นและความยึด วาจิตเปนตัวกูของกูได จะทําไดก็แค "กู ไมใชตัวกูของกู" คือจิตยังยึดอยู สวนการที่จะลดละไดจริง ตองเจริญสติปฏฐานจริงๆ เทานั้นครับ)

สรุปแลว การดูจิตที่ชาวลานธรรมพูดถึงกันนั้น ไมใชการดูจิตจริงๆ เพราะจิตนั้นแหละ คือผูรู ผูดู ผูยึดถือ อารมณ แตการดูจิตหมายถึงการเจริญวิปสสนา โดยเริ่มตนจากการรูนามธรรม ซึ่งเมื่อชํานิชํานาญแลว ก็จะรูครบสติปฏฐานทั้งสี่นั่นเอง ดังนั้น ถาไมชอบคําวา ดูจิต ซึ่งนักปฏิบัติสวนหนึ่งชอบใชคํานี้เพราะรูเรื่องกันเอง จะใชคําวา การเจริญเวทนานุปสสนาสติปฏฐาน + การเจริญจิตตานุปสสนาสติปฏฐาน + การเจริญธัมมานุปสสนาสติปฏฐาน ก็ไดครับ

แตการที่นักปฏิบัติบางสวนชอบพูดถึงคําวา "การดูจิต" ก็มีประโยชนอยูเหมือนกัน คือเปนการเนนใหทราบวา จิตใจนั้นเปนใหญ เปนประธานในธรรมทั้งปวง และเปนการกระตุนเตือนใหหมั่นสังเกตพฤติกรรมของจิตเมื่อมันไปรูอารมณเขา เพราะถารูจิตชัด ก็จะรูรูปชัด รูเวทนาชัด รูกิเลสตัณหาชัดไปดวย เนื่องจากจิตจะตั้งมั่น และเปนกลางตออารมณทั้งปวง ในทางกลับกัน ถาจิตไมมีคุณภาพ คือไมมีสัมมาสมาธิ สัมมาสติ และสัมมาทิฏฐิ แมจะพยายามไปรูปรมัตถ ก็ไมสามารถจะรูปรมัตถตัวจริงได นอกจากจะเปนเพียงการคิดถึงปรมัตถเทานั้น

Page 32: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ถาเขาใจจิตใจตนเองใหกระจางชัดแลว การเจริญสติปฏฐานก็จะทําไดงาย ถาไมเขาใจจิตใจตนเอง ก็อาจจะเกิดความหลงผิดไดหลายอยางในระหวางการปฏิบัติ เชนหลงเพงโดยไมรูวาเพง อันเปนการหลงทําสมถะแลวคิดวากําลังทําวิปสสนาอยู พอเกิดนิมิตตางๆ ก็เลยหลงวาเกิดวิปสสนาญาณ หรือหลงเผลอไปตามอารมณ โดยไมรูวากําลังเผลอ หรือหลงยินดียินรายไปตามอารมณ หรือหลงคิดนึกปรุงแตงอันเปนเรื่องสมมุติบัญญัติ แลวคิดวากําลังรูปรมัตถหรือสภาวะที่กําลังปรากฏ เปนตน ถาเขาใจจิตตนเองไดดีพอประมาณ ก็จะไมเกิดความหลงผิดเหลานี้ขึ้น

ขอดีที่สําคัญอีกประการหนึ่งของการดูจิตก็คือ การดูจิตเปนวิปสสนาชนิดเดียวที่ทําไดทั้ง ๓ โลก คือในกาม (สุคติ) ภูมิ รูปภูมิ (สวนมาก) และอรูปภูมิ แมแตในเนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ อันเปนภวัคคภูมิหรือสุดยอดภูมิของอรูปภูมิ พระอริยบุคคลที่ไปเกิดในภูมินี้ก็ตองอาศัยการดูจิตนี้เอง เปนเครื่องเจริญวิปสสนาตอไปไดจนถึงนิพพาน

อันที่จริงสิ่งที่เรียกวาการดูจิตนั้น แมจะเริ่มจากการรูนามธรรมก็จริง แตเมื่อลงมือทําไปสักระยะหนึ่ง ก็จะสามารถเจริญสติปฏฐานไดทั้ง ๔ อยาง โดยจิตจะมีสติสัมปชัญญะตอเนื่องอยูในชีวิตประจําวันนี่เอง เพียงกาวเดินกาวเดียวก็เกิดการเจริญสติปฏฐานไดตั้งหลายอยางแลวคือ

เมื่อเทากระทบพื้น ก็จะรูรูป ไดแกธาตุดินคือความแข็งภายในกาย (รูปภายใน) และธาตุดินคือความแข็งของพื้นที่เทาเหยียบลงไป (รูปภายนอก) อันนี้ก็คือการเจริญกายานุปสสนาสติปฏฐานแลว และรูถึงความเย็น ความรอนคือธาตุไฟของพื้นที่เทาเหยียบลงไป เปนตน

ขณะที่เหยียบพื้นนั้น ถาสติรูเขาไปที่ความรูสึกอันเกิดจากการที่เทากระทบพื้น เชนความเจ็บเทา ความสบายเทา ก็คือการเจริญเวทนานุปสสนาสติปฏฐานแลว

ขณะที่เหยียบพื้นนั้น ถาพื้นขรุขระ เจ็บเทา ก็สังเกตเห็นความขัดใจ ไมชอบใจ หรือถาเหยียบไปบนพรมนุมๆ สบายๆ เทา ก็สังเกตเห็นความพอใจ อันนี้ก็เปนการเจริญจิตตานุปสสนาสติปฏฐานแลว

ขณะที่เหยียบนั้น ถารูตัวทั่วพรอมอยู ก็จะเห็นกายเปนสวนหนึ่ง เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เปนแตละสวนๆ หรือรูถึงความทะยานอยากของจิตที่สงหลงเขาไปที่เทา หรือรูอาการสงสายของจิต ตามแรงผลักของตัณหาคือความอยาก แลวหนีไปเที่ยว

Page 33: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หรือรูถึงความเปนตัวกูของกูที่เกิดขึ้นในจิต หรือรูถึงนิวรณที่กําลังปรากฏขึ้น แตยังไมพัฒนาไปเปนกิเลสเขามาครอบงําจิต หรือรูชัดถึงความมีสติ มีสัมปชัญญะ มีความเพียร มีปติ มีความสงบระงับฯลฯ สิ่งเหลานี้ลวนแตเปน ธัมมานุปสสนาสติปฏฐาน ทั้งสิ้น

ที่เลามายืดยาวนี้ เพื่อนใหมที่ไมเคยลงมือเจริญสติสัมปชัญญะจริงๆ มากอน อาจจะเขาใจยากสักหนอยครับ ดังนั้น ถาอานแลวเกิดความสงสัยมากขึ้น ก็ลองยอนมารูเขาไปที่ ความรูสึกสงสัยในจิต เลยทีเดียว ก็จะทราบไดวา ความสงสัยมันมีสภาวะของมันอยู (ไมใชไปรูเรื่องที่สงสัยนะครับ แตใหรูสภาวะหรือปรมัตถธรรมของความสงสัย ) เมื่อรูแลวก็จะเห็นวา เมื่อความสงสัยเกิดขึ้น มันจะยั่วจิตใหคิดหาคําตอบ แลวลืมที่จะรูเขาไปที่สภาวะความสงสัยนั้น เอาแตหลงคิดหาเหตุหาผลฟุงซานไปเลย พอรูทันมากเขาๆ ก็จะเขาใจไดวาความสงสัยนั้นมันตามหลังความคิดมา เปนการรูเทาทันถึงเหตุใกล หรือสาเหตุที่ยั่วยุใหเกิดความสงสัยนั่นเอง

เมื่อรูที่ สภาวะของความสงสัย ก็จะเห็นสภาวะนั้นไมเที่ยง เปนทุกข เปนอนัตตา มันเกิดขึ้นเพราะความคิด พอรูโดยไมคิด มันก็ดับไปเอง

หัดรูอยูในจิตใจตนเองอยางนี้ก็ไดครับ แลวตอไปก็จะทําสติปฏฐาน ๔ ไดในที่สุด เพราะจะสามารถจําแนกไดชัดวา อะไรเปนจิต อะไรเปนอารมณ อะไรเปนอารมณของจริง และอะไรเปนเพียงความคิดนึกปรุงแตงหรือสมมุติบัญญัติที่แปลกปลอมเขามา รวมทั้งจําแนกไดดวยวา อันใดเปนรูป อันใดเปนจิต อันใดเปนเจตสิก

ขอย้ําแถมทายอีกนิดหนึ่งนะครับวา การดูจิต ไมใชวิธีการปฏิบัติธรรมที่ดีที่สุดเสมอไป เพราะในความเปนจริง ไมมีวิธีการปฏิบัติธรรมที่ดีที่สุดในโลก มีแต "วิธีปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุด เฉพาะของแตละบุคคล” เทานั้น ดังนั้น ถาถนัดจะเจริญสติปฏฐาน อยางใดกอน ก็ทําไปเถิดครับ ถาทําถูกแลว ในที่สุดก็จะทําสติปฏฐานหมวดอื่นๆ ไดดวย

***********************************

Page 34: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

ขออนุญาตฝากขอความจากลานธรรมไวดวยครับ ***********************************

ความคิดเห็นที่ ๓๗ : (สันตินันท)

ที่คุณสุภะตั้งประเด็นเรื่องปรมัตถนั้น ขอเรียนสั้นๆ วา พระพุทธเจาทรงสอนธรรมโดยสมมุติแกผูควรฟงธรรมโดยสมมุติ ทรงสอนปรมัตถแกผูควรฟงปรมัตถ เพื่อประโยชนของผูฟงเปนหลัก ไมใชเพื่ออวดวาพระองครอบรู

พระอริยสาวกชั้นตนๆ ไมเคยฟงเรื่องปรมัตถเลยก็มี แตก็รูธรรมได อันนี้ผมเห็นวา (ขอย้ําวาเปนความเห็นนะครับ) เพราะคุณภาพในการฟงของทานดี เชนพระพุทธเจาทรงสอนวา ความแกเปนทุกข ความเจ็บเปนทุกข ความตายเปนทุกข จิตที่อบรมมาดีแลว ไดรับธรรมอยางนี้ ก็ทราบวา ความแกเปนทุกข ฯลฯ ไมไปติดอยูแควา "คนแกเปนทุกข" คือทานสามารถมองทะลุสมมุติบัญญัติเขาถึงสภาวะของความแกไดเลย

อยางไรก็ตามในมหาสติปฏฐานนั้น ทานสอนทั้งโดยสมมุติและปรมัตถ ที่สอนโดยสมมุติก็เพราะทรงสอนธรรมตนทางของการปฏิบัติกอน คือสอนใหปรับจิตใหมีคุณภาพดวยการรูอารมณอยางเปนวิหารธรรม มีตปธรรม มีสัมปชัญญะ มีสติ นําความยินดียินรายในโลกออกจากจิต ผูใดปรับจิตใหมีคุณภาพแลวก็ยอมสามารถ

(๑) เห็นอารมณปรมัตถโดยความเปนปรมัตถ และ (๒) เห็นสมมุติโดยความเปนสมมุติ สวนทานที่อินทรียแกกลาแลว ก็จะกาวกระโดดไปเรียนรูเรื่องปรมัตถทีเดียว

ลองสังเกตเถิดครับวา ธรรมที่พระองคแสดงแมในขั้นสมมุติ บางทีก็แฝงปรมัตถอยางนึกไมถึง อยางเชนลองอานอริยสัจจ ๔ ดูเถิดครับ เชนทรงสอนวาเกิด แก เจ็บ ตาย พลัดพรากจากของรัก พบสิ่งที่ไมรัก เปนทุกข แตลงทายทานก็มักจะขมวดวา "วาโดยยอ อุปาทานขันธทั้ง ๕ เปนทุกข" และถาสังเกตธรรมที่ทานทรงสอนผูที่จะบรรลุพระอรหันตจริงๆ จะเปนธรรมขั้นปรมัตถ เชนพระสารีบุตรไดฟงเรื่องเวทนา พระพาหิยะฟงเรื่องรูปกระทบตาฯลฯ พระมหากัสสปะและพระอานนท สําเร็จดวยกายคตาสติ (กายคตาสติสูตร มีเนื้อหาอันเดียวกับกายานุปสสนาสติปฏฐานนะครับ อันนี้จะไมตรงกับวิสุทธิมรรค ที่จัดกายคตาสติเปนสมถะเทานั้น)

Page 35: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

อยางไรก็ตาม ไมมีหลักฐานชั้นพระไตรปฎกวา พระองคเคยทรงสอนวา จะตองรูอารมณปรมัตถจึงเห็นไตรลักษณ คําวาปรมัตถ ๔๐๐ กวาแหงในพระไตรปฎก เกือบทั้งหมดอยูในกถาวัตถุซึ่งแตงขึ้นหลังพุทธกาลราว ๒๓๐ ปเศษ ที่ผมเรียนอยางนี้ เพราะเห็นวาเราตองซื่อตรงตอการศึกษา แมผมจะเชื่อโดยสวนตัวเรื่องวิปสสนาตองรูอารมณปรมัตถ ก็ตองยอมรับวาพระพุทธเจาไมไดทรงสอนไว แตผมพบวา ถาดําเนินจิตใหถูกตองจะเห็นปรมัตถ แลวพระองคทรงสอนถึงการดําเนินจิตที่ถูกตองไว ซึ่งเพียงพอแลว หากทรงสอนเรื่องปรมัตถมากเกินไป พระศาสนาคงไมตั้งมั่นลงไดแนๆ เพราะหาคนฟงรูเรื่องและเขาใจ และปฏิบัติไดยากเต็มที

เรื่องจิตผูรูนั้น ขอเรียนวาจะไมใชการสรางมโนภาพ เพราะการสรางมโนภาพ เอาไปเจริญวิปสสนาไมไดครับ แตไมวาเราจะชอบคําวาจิตผูรูหรือไม ถาเราเจริญสติสัมปชัญญะจริงๆ ก็จะรูจักจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งตั้งมั่น เปนกลาง รูอารมณดวยความมีสติสัมปชัญญะ อันนี้เปนธรรมชาติที่มีอยูจริงครับ แตนักปฏิบัติไปบัญญัติเรียกกันเองวาจิตผูรู

เมื่อจิตเปนของจริง เหมือนที่เจตสิกและรูปเปนของจริง มันจึงไมใชมโนภาพ แตถาใครไปสรางมโนภาพของจิตผูรู ไมไดรูเองดวยปญญา อันนั้นผิดครับ

แลวก็ไมใชการสรางสิ่งหนึ่งขึ้นกอน แลวปลอยวางความยึดมั่นทีหลัง เพราะจะรูจักจิตผูรูหรือไม ปุถุชนทุกคนยอมเห็นวาจิตเปนเราทั้งนั้น และผูที่ไมใชพระอรหันต ก็ยอมยึดวา จิตเปนเรา จะรูตัวหรือไม ก็เปนอยางนี้แหละครับ

เรื่องจิตสงออกนอก ไมเกี่ยวกับการรูอารมณภายนอกและภายใน เปนคนละเรื่องกันเลยครับ เพราะเราตองรูอารมณตามความเปนจริง คือตามที่วิญญาณหยั่งลงรูลงไป

ทางใด คําวาจิตสงออกนอกเปนคําบัญญัติของนักปฏิบัติบางกลุมที่สอนวา เมื่อรูอารมณแลว อยางหลง อยาเผลอ อยาขาดสติคิดนึกปรุงแตงตามอารมณไป

สําหรับที่คุณรูปนามหนึ่งถามนั้น ผมมีความหมายดังที่คุณวิชชากรุณากลาวไวครับ คือพระอริยบุคคล ๗ ประเภท เวนแตพระโสดาปตติมรรค หากไปปฏิสนธิในเนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ ก็ไปดูจิตตอไดที่นั่น เพราะจิตที่อบรมสติสัมปชัญญะไวดีแลว มันทํางานไดโดยอัตโนมัติครับ พอรูอารมณอันใด มันก็เจริญปญญาตรงนั้นเลย เรื่องนี้เดิมผมไมกลาพูดหรอกครับ คิดวาเปนความรูที่แปลกเกินไป แตไปเห็นในตําราเรื่องภูมิจตุกกะและปฏิสนธิจตุกกะ สอดคลองกัน ก็เลยกลานํามาเขียนไว…

Page 36: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

อริยสัจจแหงจิตของหลวงปูดูลย อตุโล "จิตที่สงออกนอก เปนสมุทัย ผลอันเกิดจากจิตที่สงออกนอก เปนทุกข จิตเห็นจิตอยางแจมแจง เปนมรรค ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอยางแจมแจง เปนนิโรธ" อนึ่ง ตามสภาพที่แทจริงของจิต ยอมสงออกนอกเพื่อรับอารมณนั้นๆ โดยธรรมชาติของมันเอง ก็แตวา ถาจิตสงออกนอกไดรับอารมณแลว จิตเกิดหวั่นไหวหรือเกดิกระเพื่อมไปตามอารมณนั้นเปนสมุทัย ผลอันเกิดจากจิตหวั่นไหวหรือกระเพื่อมไปตามอารมณนั้นๆ เปนทุกข ถาจิตที่สงออกนอกไดรับอารมณแลว แตไมหวั่นไหว หรือไมกระเพื่อมไปตามอารมณนั้นๆ มีสติอยูอยางสมบูรณ เปนมรรค ผลอันเกิดจากจิตไมหวั่นไหว หรือไมกระเพื่อม เพราะมีสติอยูอยางสมบูรณ เปนนิโรธ พระอริยเจาทั้งหลายมีจิตไมสงออกนอก จิตไมหวั่นไหว จิตไมกระเพื่อม เปนวิหารธรรม จบอริยสัจจ 4

Page 37: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

����������� ����� ��������� ����� ��

������

�������������� ���������� �������������������� �� ������� ! "�"#��� �$%$ �������&���������������'�����(� )(�*�� �����������+,����)��-.�����/+ �0���(�12�3.�"��0��� "(4�) 5�6 ��(

0�1(��2�6�. (�2�3723 ! "�"#��� �$%8

����

�. ��������������������������� !�� - ����0�6*"�.��+�3��

". ����#�$����%� : ��� (<) �������)��"���&1�������)��,� (�) ����6���������������(�*��5��6 +�(�� ( ) �����/�� �� ������ "�����&1��+������5�����>�������������",��6��&1�����/����,� ?. �&1 (%) �*(�6�� ?./3�5�/��(��/"��,��(A6*"�.2��5 ����� ��� �������5�1���������"�&1�����/����������"'5��

&. ����#�$'#���#��%� : �"����" (<) �����������" (�) �������"����5 -�� �&1 ( ) �������������� ��.

(. ���������)*��#�$ : 6��������>��� )"��� )6*"�.��+�3��������������. B ����C�&���?�(DEE� ���&����(A"������E�5� ����"��5��� ��"5"��-."��,����5 ��"��(DEE�����,������(A������� "��" ),��(A5 �6*"�. ��5"'�1���5 -�� �*(�6� (5 -��6���*���) F0 ("��6>�"���6��,�) 3�5� (��������G/����(��/���51) �&1(&������6*"�. (��(��) 2��� 52� 5�

+. #�'���,�-�����%� - ���"���1&/"��� (��� H) �/��F��?��� (��� I) 6��">�& �(��"4 (��� B) 5�������(A���� (��� 8)

.. #���/0#� ��1����%� : 5����� �5�������(��/"��,�����J ���5���>��F��1�����(�����&�� �5��1�"���/+����������(��6����5���� "�&��(��"4�/+ C 5�����"���1&/"���6����"5������"�

Page 38: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�����*�25�������� ���"���&�5��"��&�(����������-.6��6���6 +� H �&1"��) �� )"����"��,����5���

2. �3� �������%� : �����(?����&1��?���6��(�1"�)" �/+�(A����"����5,�� �(A"��6*"�.�+ ��,3�����6���(A�������KD������5�"��������

4. ���#1/)�5�#6����0���%� - �����/��F��?���6��(��"4�(A����-.(D��*) ,�-1��55������+ ���(4�) 5�5�����������& ��/��F��?���,���5 �&1��" ��&�/��F��?���,���5

7. -���'58���������0���%� : �����/����& "L-1����F��?���5��5��6��� �(A (�(A5�& "L-.) �&1������(�6�"�G��F��1��&�� +�����������"(5 -��) �&1������'��� (6�4M�)

�9. ��/0#� ��/��%����%� : (<) �����������(A�*�,(D��*) �����5������ ���5�� ����)�")� (�) ������&1����&1�"��"& �5��)�( ( ) ��������)��-.����C�& (%) ������5 +�� ������5����� ������?� ($) ��� ���6�4M� ����,�5��� ����,������� �&1����,�?��� (H) �������)�)������&����"�����/����6 +��&�� (I) �������&*�0��&1 (B) ����������"����" )?������������&*�0�

�����

�. ������������������� !��

<.< 0�10*6?C����(AC��5�.6���*��5�)(DE��6����� �1����%�'���'���0��������#�$������:�';��%��

<.� ��):��/��)#������'������������#�$ �-�����������%5���#����������� �0��1��������������������"����5,��+�(A"��6*"�.�6�J ����6��6>�,���"�������*����������� ������+��������*�����������6*"�.��"�0���,� ��5,�"'������F��1�&1����6*"�.��"�/+�0��� + �0��1������1��+��0���,� �����*�6������"'������5'�����������O1 +"'������(����������'����� �����*����������6����"���������3���3������������� �����J �1������ �5�"'�1�&*����(�������������5��(��" �(A�������� ���&1��������,���"��"����+�����5&����&�2���� �6���1�����)���������*�� ����,����

<. �6����������*�6��0�"����6���������� +�(A�0���F�0&��5�6������������/� ���� "��������������� + ����������+ ������������2�"'�1�������*� ���(�&����������� 6� 0�.�����6�� ���)�� � E�5���5� 3�������� �>��� �����*"�� �*�F�0 P&P ���5 ������*� '�'��-���:�������������<��%��� ��)#���������������

Page 39: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

<.% 0�10*6?C���������,�������������*�3��6���(AF�0&��5� + �5���,���������6*"�.G/���(A�����������3���5 ���5�0�10*6?C����6�� +6��5�)(DE��������6*"�.��2��5�� ���6 +�)�"����5*�������6*"�. �&1)�"��?�(4�) 5��0�������0�6*"�.��+�3����������� ��'�!0#='�������#�$��'������'���0��������#�$ '�����):���%���*#)*������)�'->�*��* �?$5�#6�� �-�����-��-��:�)���

<.$ )����������&�(��"��� 0�10*6?C������2&"��������"�( ���������3���5���5�����6*"�. (�1��'�+5����������"���(A"��3 ������ �0��1����?�)��" ,�-1�+"'�1"&���(A����"�����6��(� 3E�( �0������� �����&���+,���)�&��&�����������6*"�.5����6��6��0�10*6?����6������ "'�1��'����������2����5���������&��"�����" �&�

". ����#�$����%�

�.< 0�10*6?C����������6*"�.�������&/"G/+��&1�&������*� ��""�������6*"�.6��0�"������� "" 6 ��J ( "&������

�.<.< ��#�'��� �������6*"�.6 ��(6��0�"������� "" �����&�� ���"�����6*"�."��6*"�.,� ���� �>��� )���6�����������E�5��������/"��� �J 6*"���6��/��"���/+� "�� +��/�� �5����6������E�5������10)��� 6*"���6��"���/+)�����" �3����������5����"������ �10)�������6*"�.������ 5�.����6������5��6>������������5&����&� 6>�,��5�������(&���������)� 5���"� 5������� 5���� )���� 5�����) 5����3'�&��� 5����"� 5������,����� 5������,���" P&P �6)������*�0 "�&� )������������(Q����� �(A����)�)� +6���*��� �&16���6���*���������">�& �������6*"�. ���"'�1��"����6*"�.6>���������5��

���,�6��6*"���6�)���6�&� ����1����/"����(A�*� �5�����&� ����6*"�."'5����6 ��"�����/��

��"���5��������6����5,�"'�10)��� ��5�������"�������������/+�6)5&����&� ���,����������������&�"'����/"�(A�*� ���,���������������"�/+"'����/"�(A6*"�.

�.<.� ��#�/)#=?� 6*"�.3���+��,3�����6*"�.,��������6 ��(6��,��J "'���� " �5�� �(A& "L-16 ��(�������6���(A� ����(�������"����5,��&1����(�*��5��6 +��&��) 6����� � ����6 +��&���������6������5&��( � � + 5�����������+ "�16 �������*�"'��& "L-1�(A6*"�.�3�" ���������6�������� ������6*"�& "L-1�+�1��'3 ��/+ �������&��������E�5��&�� ,3 +�+�/����6��)���0����+"��

Page 40: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�.<. ��#�$'���-)?� 6*"�.3���+�(A6*"�.6���"���/+" )��&1� 5�.6 +��&�������6)�15&����&� �5�����������'����� " ��� "(4�) 5�0��1�����'6*"�.3���+�� 2���O0�1����������������E�5�2��,3�����-.,KQ����?��� G/���1��'��� �����)�'58�'�-����'#����#�$ �����'�����"��5�"���������"(5 -��) �&1�����/����(�*(�6����5 -��6����">�& �"&��),��(���&1����-.6 +��&���&�� ��5�1�"������6*"�.��������/�� �� �����6 +��&���/+��6 6� ��"��5(��C��"�������"�&1�����/��������-. ��5�1��6*"�. �5�"& )�16��5 ���������������� ���F�0��� 5�� �)�")��&1�������*�����2��5 ����� ��� ���(4�) 5�6����5�"��(DEE��5'�6��,�1� )�+�1�����?�)��)��-. �����5�15 +�� �������2����5����1� �� "L���"5��( � �(AF���?���,�1� )0�1������ ���� 6��6�������/�F���?���� +�+)��6���1�"����������,���������(4�) 5�5��( �0��1����56��5 +�� ������� +�(A6��0/��6����C �� (&��F ��&1�������*���"�����&��

�.<.% ��#��)��$�����)� $����#�$ 6*"�.3���+�(A6*"�.6��&/"G/+�6���*� ���6������,�����6*"�.3���+��������������6�� +�/��10���""����������5���"���� �0��1"������ "�0���6*"���6��(A��������� E6��,��J "'���� " "������ "6*"�& "L-1"'�(A����6���������E��(D���"���M���������� ��(A(*�*3����"'���� " "������ "6*"�.�0��15 -��"'� ���,3�(DEE�6���/�6���*� �0��1� ���'�����5)��������(A�*��&1��5)��������(A6*"�. �������"6���*�"'�����/�?�����,�1� )0�1������ �0��1��5��(DEE�����,��������"���������"�&1�����/���� ��5�/��1�(A6*"�. ��5�/�0�,�6���15 +�� �������������-.F���"� �(A6��5 +������������"�&1�����/���� �5�"& )� ���/�� �,5 ���56���(A���������5������)�")��������

5�����������E��(D���"���M�5��(�(DEE��"���)�/�6���*�������6����� �/��1��'6*"�� ��.���������������� �)� $����� 5������#����)����/�����#�$ ��������#�/����0��)������%�� � 5����:#>'58���#�$�� �<��-)�����)�'���� ��/�� ��#�#��#�$%����������'#���0:� �/���#�#��#�$%�����������)*%5 ��,3����"���+��5�+�(A6*"�.)����(A�*�)��� ��"�5��(A6*"�.&��J �&�6������ �0����5�6*"�.��"����6*"�.����6�� +��� �����(DEE��"���)�����,����� ?.�(A6*"�.�&�� "'�(A� ����,������ ��.�������� ���������'���������)��0�'#����#�$ �/�'���%��� ���#�$�0�'#������)� '#��'58��)6�)#��������������%���������:���� -��'����� �������#�$��5/�������#�$%���/�� ����)�#>'58��)��)*%5<���)-<��)-� �/���<� �����������5�#6���������� �-�����-��- �)6�)#�#>'58��)���1�1/�/����?��):�'��

�����'�������� ?.������(���(A6*"�.(����33�-&1���33���) �1������(&�����������/����,� ?.������(��&����������'�����&1����� ��&���5��3�����'58���#�$ �-�%��

Page 41: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

��@ ���#�$ 6>�,���������"(5 -��-�*(�6�)6���1,�� ���(��������� �(A�*��&1(��C��"6*"�. ���(2��� 52� 5� ��5�/����������+�����"��6>���6��,�(� ����/F0/"���F0)6���1�����������*��&1�&�"������6*"�. ��5�1(&�������&1�����)O����(��(3�5�),�J �/+���(A5 �5���5��" �&1��'�/��F��1�����00����������+6*"�.�0��1��50��"�����>���"��"��""��&��&1� ?.������

"������E�5�(D4M��(A6����������6���16>�,�������������/�� ��?�����&���+�� �&1���������,���������,��������� �"&����+�&�� ��5"'�1�&���������"�&1�����/����,�������J 6����5(��������(A&>�� )J ��/�� +(&�����������/����,6*"�.���"���&1��5��,6���*�

�.� ����6*"�.6��0�10*6?����6����,���*��(4�) 5��0���,��0�( ���"��)� $����� �����,�&1���33�������������6*"�.&����0��1��'���������6������(����& "L-1�(A������6���� �(A��#�$(/)#=?�) �����(A� 55� ��5�1�& ���6*"�.(� ?./��(��/"��,�),��" )2&"6 6� �&1�����)O��6*"�.������(��,�J �/+����" �����#�'���6��"��,3�5�(D��*) �(A������6���&�"�&�������� �>��(A5����"�����(�5�����"��-.�(A����J ( 2������,�F�06����� ����"��6*"�. �5�,���6*"�.����� 5���������+� ?.�&1����� ?.,����"���/+ ���&1 �/������/�����0�6*"�.�������+�3�����������)��-.�))

&. ����#�$'#���#��%�

.< �>��� ))*��&�&1� 5�.6 ��(�&��� "����/"��� ��%������#�1���'#����#�$ �3����"�(A�*������&��5����"�"'6*"�. ���"��'�����&��5�����')(Q��"'6*"�. ���"�(A��51�&��5���5��"'6*"�. ���"���&������"'6*"�. �����"���&��5�����"'6*"�. �5����(���������,�"'������ +�1����/"����(A�*�

.� �>��� )���(4�) 5��1��'����������&/"G/+������/+(��� ����#-���#����1���'#����#�$ �0��1�������"6>�,����55�����+�6>���� "6 +�� 6 +����0����1,�� ����� �(A�*��&10���"����6*"�.6 +�(�� ���(��C��"�������" ��5"'��5�����+�"�1�"�1��� ���5������*���)����,5 �����6�� +

. �>��� )��������������� ��.�&���10)��� �)� $�)����/�'58�-)���#�$<��-)�����)�'�� �1���������"������ � ?."'�(A6*"�.5&����&������&�� �5��0��1���33���������������������� ?.�(A6*"�. "& )(������"���+,��+�(A6*"�.)����(A�*�)��� �/��"����*6 �����������"�1,��"��,��(A�*����� �������",��"��,�0�6*"�.���� �&���"��������+�6��,� "���(A����6*"�.��������5,������6)5&����&� ������������"���+�5"�&��&� ���������"'�1"�15*�,����5(�*�

Page 42: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

� ?.,����/+���(AF��1,��5����)"� )6*"�.5��(��" � � +��%��� ������)��$�������;;������%��� ����������� 5����:��/� �0�'58��#'����������#�$����������� �0��16>�,���"��"�����)O����(��� �(A"��6*"�.�/+������� �&���"��"����+�6����5,�5 +���"����0����1�� �����6*"�.��"��"��(�� �&1�������*���,����(�� 5&���"��,���"��� ?.,�����)5��(���������6����+�*� �/�"���"���(A����6*"�.G+>�G��6�������� "�)��+���&�

(. ���������)*��#�$

%.< �����6��)�&���������6*"�.�"����"�1� �������(A"����"6���16>���������,���� ����� )6*"�.�"���/+�������� G/��"'�����1���"("���"��� )���33������������������� ��. 2���O0�1������������������6*"�.������������������(A���������(��/"��,������,3�5 �5���5 � �(A5���5*,���"��5 -����������61�����"6���1�����������*��&1�&�"������6*"�.6����"�16)"��,����5 "����������(A���������(���(A�������>�� E��" ��� �0�10*6?� �16����� C'����� �-���'58���������'*������� '����'*�����������/�#1��)� (</3�/-)?�) '����/�#1��)������/����� '�����/���������� ����/������/�� ;-� (��'#��) ��:��/�� ��������$ (#�!0#=56�*)-� ���) �� ��*�/��E

%.� ��?�6���16>�,����5����F��?���5�������(A����6��5��(5����6���*�"'��� #����-� ��/0#� � �3� ��� ���#1/)�5�#6 -���'58����� (,)6�����+ �5������/�� ����5�G/��5����"������" )� ������?��&1� ���6�4M�����(DEE����� �5�6��������"��1���&1�����,3 +�+ "'�0��15���"��,�������"�,�0�10*6?C��� C/"L���2����G )G�� ") ���(A��5*�&6��5��(5����6���*��&�� 6>��������" )�����������"���� "5 ��������,��� "��/�� ���"'5����� �5�����0R5�"���������(����J 2��(��C��"��5� �/��1���� "�&1����,���� +��5��5�������(A���� 6 +��+0�10*6?����6����� ��� "������E�5������(��/"��,��+��&1���6����������6���1>�(�������)���*6?�S �0��1�����������5 -���&16�4M� (������'�����"��������) 5&�����������������,2&"������ 6 +��+�>����2&""'�����/���(��/"��,� ����

%. 0�"���)������� )�" )���������6�����"������E�5������(��/"��,����6����������� )6*"�. �0��1�����>���6����� 6��(4�) 5��0�������� )6*"�.���"�"������E�������������. B ��)���&���"'���"��C/"L�(4�) 5�,������C�& ���?� �&1(DEE� ����6���������+��"5����3�" �5����6>���������,�,�������/+(��"��� "������E������������"��� "L�C�& "��6>����?� �&1"������E(DEE� 3���6���"�+�"�&5������������� �&13������"�+�"�&5�������������

%.% �6�����"��)>��0'E�*-���������6 +��&�� �(A����6��0�10*6?����6���"���� 0�1���.���"'6��)>��0'E)��������"���"��6���15� ����(����,�?���5�������(A��������

Page 43: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

0�1���.���) �3�6��)>��0'E6����������������������0�13�5��(A0�1���� �� )��3�5�6�����C�&�))����&13���5 )��3�5�6��6>����?�����F�EE� $ �������+3�0�&����(�"��,0���2&" )��3�5��3�0�13�5�6���(A�2���) -T�5"'6���1��(DEE�)���������������� �5���5*,�0�1���.�/���6��5� ����0�1�*55�� ���� �20?�E�-,0�13�5���&�� + "& )��6��5� �������,0�13�5��*�6��� �&16��5� ��������"������E? ���*(D����5�(D4M�,����� ��)��0 �����������0�1���.��6��)>��0'E0�1)����,���5'��(UV�� 0�1���.������������5� ����������0�1���.��� �5����6��)>��0'E0�1)����2����6������E�5� 0�1���."'6��5� ���������3�" 6 +��+�0��1"��)>��0'E)����6 +��&�� �(A"��(� )0�+M�6����5,����0�1���.,��0�����>��� )"���������6������E�5� ���� 5 �������3� �0��10�1���.���KW"�&10�12���?����&10�13����0���0�120?�E�-,0�13�5�6���(A0�1���� �����&�� �/�6��������'�0�6���1�&10�1��0��0��&10�1���*&G/���(A6��� "���� �0���(������0�120?�E�- �(A5�

%.$ "��6>�������6 +��&�� 6 +�6� C�& ���?� �&1"������E(DEE�)���1� ) �����"�+�"�&5��"�����?��� �0����5�>������*���,������"*C&��)�"�����&�����������6�� + �&1)��"�-������6>����������� ��5"& )0&�"(�(A�"*C&"'������ 5 �������3�

%.$.< #��1�� ��"6>�2����(�1"�)�����5�(DEE�"'����(A"��0�"0�"��&�,����� "�����/+ �3�6>�(�������O�6�4M���� "'�" 6>�6��&�� ����� "'�" �"��,3�5�5��( "'�" �1�������&6��+ ���� �'�� �1��)��&*�����&�00��0��1"��6>�6��+ ����6>�(��������2&F��� ���6>�6��+ ��,����� )��"�&��"���������+J �(A5�

%.$.� #����!�/ ��"�����5�(DEE�">�" )�����(A"������6��������C�&�1���C�&)>��0'E0�5����������(��& 005(�����) �3��&������� "��)>��0'E���� 5�6��"������5,���"J �16>�,��"��&��)�)��&� �����������C�&"'����0�"0�"��&� �3��"����1��"�/+ ����"�������>�� E� �������� �����"��������0��1������C�& ��������&�"�������0��1����C�& �(A5�

%.$. #��1�� � ��"��(�1"�)�����5�(DEE� ����6>����?� ��5"'�������������������)���������*��)���&����+�&��5 � �����"�����O�6�4M����������'�����"�/+J �����>������2��1�&1���1 �3�6>����?��&���"��������&�)��&�+�����5� �����"�����55���J ��"��� )����/������'"�00�"�(A)������������(A����"�� )����"���������������'5���J �&���&�F���,�����" )���������&�� + �&1)����1����/"�����5�(A� 55�����(A����6��) �� )��)�*�,������,�>����� �(A5�

%.$.% #�'���,5F,, ��"��(�1"�)����(DEE�� ���6�4M�"'�1�"���������0&��,"������E(DEE�����"��� �3����6���>��"����"�1��������"���M�" )��(D���

Page 44: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

"���M� "'�(A"������6���1�&�6>����?��&��������">�& �����E(DEE����� �3� )��6���*��,3��������0����-�� 5�. )*��& 5 �5 ��� ��� � 5�*������� ���� P&P ,���(A5�& "L-. "��"�16>���&�� +�(A�0���"��6>����"���M� �(A(�0���������)�����5 )���� +��66���1�"��������) "& )�"������Y*Z�G��,?����6"'�� )��6���������0����-�5�& "L-. ��1� 55�"& )����0�"0��/+"'�� 6 +��+�0��1%-�/)#=?$�):� ��'�%��%�� �-�-���5���)#=$;)��0��3������������ 5 ����/��� ��� ���������-� �/�������-�������-):��)�� (�)���� �) �0���'�>�%-�/)#=?$����5F,,%������ �&1)��6���66���1����E(DEE�����"�������(�� "& )0��������������0�����(�������������������*EE5��6��(�� �0��1��6��)���"������E��(D���"���M�5���,3���(���(A����-. �5�"& )������"���& �6�+���(���&��(������������(A6��& �,"��(4�) 5�?��� �(A5�

%.H "��6>�������6���"�+�"�&5��"�����?��� 5����(A"��6>���6���"�+�"�&5��"������E�5�6����"5��� �����������������5�(DEE�,�-16��6>������� + �3�

%.H.< #��1�� ������5�(DEE�">�" )��5,����5�� 6 +�"��6>� �1�����6>� �&1�& �6>� ��"�(A"��"�16>�����C� 6?�6��(�1"�)����(DEE� 6>��&��5�����������������������"'���6>�5����������1�� ����6>��&����5,��3��3���)�")� "'���5��1&/"��������*������)�")� +( "��6>�6��/��(A����������KW""������E�5��������" �5����6>������������)*E�����>���2&F1�&12��1 6� +"'���"�+�"�&,�J 5��"������E�5�

%.H.� #��)#=!�/ C�&)���*6?�S����" ��"�����5�">�" )����6����5 �5���"���5�">�" )�������6����5,�5��� C�&3��6������"��� ���6���� ���C�&� �����"���/+2��� 52� 5� "&�����������26�1�"���/+"'���5�������26�1�"���/+ 26�1�������)�>���5���� C�&��� < "'�"���/+�5'�)��)��-.�0��1��5�����[������6>�����,�� ���2&F1�"���/+�&�����5����6 ������6>����C�&��� � �&1��� 2��� 52� 5� �(A5�

%.H. #��1�� � � ������?���������5 +�� ������5�(A���.(�1"�)�/������������������. B � � +���?�,0�10*6?C����/�5���(�1"�)�������.�������J ���� �3�5������5��&1(DEE�">�" )�������� ���?�6������5�(DEE� �(A���?�6��,�������*���������&����J ��"'���� �5�����(�12�3.5��"������E�5� �0��1��5��5 +�� �,"�����"�����,������� �&1�������5��5 +�� � C�&�&1(DEE�"'������"��,��)��)��-.��

%.H.% #�'���,5F,, "������E(DEE�6����"�����)��-.6���*��1"&���,� �����"����" )"������E�5�5��( ���,� �����+�1"&����O0�1"������E(DEE�,� +5� ���"�"��C/"L�(��� 5�� 6?��� G/��3��0*6?����1�(A "(4�) 5�"'�����6��6�+� ���������������,�����

Page 45: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�& ""��� +0�+M����0�10*6?C�����)��� ��O1 +���"&���(A��� )���& 6?�C������J 6 +�6��������5�(A3��0*6?"'��

%.I #�'���,!�/ �� � 5F,, G0��� �����/������):� ��'���,�-�%��� #-���

!�/ �� ��/�5F,,��'#���0:�'�� �3�,� ��������"��?���)6 "&����/�F�"L*��(�/��(6�&&���"����"0�10*6?�����0��1� "L�C�&�>����"���� 0�10*6?����6����,��6������E�5��6"��5��� "L�C�&�>����" 6��6>��&��������6>�C�&���6��,��)���*6?�S)��)��-.�� 6 +�� �)��&*�����&�00������� ������"������5���������1&/"����F��?���6��">�& �(��"4������J ,�-1 +����1�"��� ������?�2��� 52� 5� �����5�1�"������5 +�� ��&�����5��1&/"����F��?���6��">�& �(��"42�����&�����(�6�"�G� ����6��5����"'���(DEE�6�����& "L-1�����(�&1�� �������/������(A5�& "L-.�����(�&1�� �&1��������"�16 ������� ��. % (DEE���&���+�"����""������E�5�������56����� ������?�6 +���+ � � +�1"&������ "��(4�) 5�5��6����������0�6*"�. �15�������E�������������. B "'�� ���&����(A"������E5���"�����C�& ����?��&1(DEE�"'�� ����������&�,���/�6���*� #�'���,�-��):���/���#�'���,%-���#��/��������$ 4

+. #�'���,�-�����%�

$.< � �6����"&����&����� ��"������������6*"�.,6 C1���0�10*6?C��������������������������6*"�.�����(��/� ?./"��,� � �(A5���5*,���"���������"(5 -��) �����/����(�*(�6�)�&1������+�6��,�(F0)�0����1,��"��,��+�6���� �(A�*� �&1) �� )��5��,�(����� ������+� +6>�,���"������6*"�.6��,�G+>�G���/+����"3 +�/�� �"������"����6*"�.�����(��/� ?./"��,�6���(A6*"�.2��5 ����� ��������&�� ��"�����������'�������������(��/� ?./"��,�������(A������6���� �(A6*"�.�&1��,3�5 �5���56��) �� )�� ���5(&�����������/����"��,� ��5�1����������" �����/�����&1������+�6��,�2��� 52� 5� ����6*"�.6��,��0��1�������" �����/�����&1������+�"'�1���( ��5�1�(A����1��"� ?. 0��"��"��"� ?.� �(A"��6*"�. �&1�����/�� 5��*�� �6����������00� � � +"���16>�&����"������������6*"�.�/�5�������;;����5F,, 6>�&����������������(A���������(��/� ?./"��,� � �(A5���5*�������6*"�.&�(,����

$.� "��6>�(DEE������������,���"���/+ + 0�"������3�6���1�������������?�"���"��J ���"� (<) "��� )����6�������������(�1�)"��-.�������������"������&1"��YD� �&1 (�) "���)���,������E,������ +J G/����?�"��6 +� � �+,3����>��� )"�����������3�"�����J �5�"��6>���������,��& "?���6��0�10*6?C��� �>��(A5�����C �"�����������2����"��?�"���/���0����5����" � ��?���"��� ( ) "���KZ�� ��"5(��"4"��-.�����(�&1��5�������(A���� 6 +��+�0��1

Page 46: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

"��� )YD�����������6��������,��������0��������>� ���"�����"',��������0���������� 6 +����1�&1���������,3�������"'�� �5�6 +��+,�)�+��5� ���5���C/"L��& "?����>������0�10*6?��������"������&1"��YD� �&��>����)���,������E�0���,������/���6�����"���KZ�� ��"5(��"4"��-.�����(�&1�����������"5���5��(����"��

$. "�������������������"����� "��YD� �&1"����� �(A������?�����J 6��0�"������� "" �������&�� ,6���+�/��1����("&����/�"��������������������#�'���,�-� � ���"� "���KZ�� ��"5(��"4"��-.�����(�&1�� 2�� #���/0#� � (��� H) �0��3� ��� (��� I) ���#1/)�5�#6 (��� B) -���'58����� (��� 8)

.. #���/0#� ��1����%�

H.< �*L�.2��6 ��(�������1&/"���5F���*)����?$(����0����5��,��� B)�������&��5��?���3�5� �3�,�-1�+�� ������� ���� �� �����"'6��)�� ,�-1�+�������*� ��������6*"�. �����O�J "'6��)�� ,�-1�+������� " 2&F 2"�? �&� ��� � Y*Z�G�� ����� �"������� C� 6?� �����1 ������������) P&P "'6��)�� �5��*L�.���*�������(�1"����� (<) �*L�.� "/�'/������� �5F���*)����?$ �0��1� ��5��&�����" )���������� �(A������� �����&�����" )����6��(���(��'6 +��&�� �&��"��&��,�6��">�& �(��"4,(D��*) ���5��� �&1 (�) �*L�.� "� ����?$'�/��):��������/�@�� ����66���1��'5��)-�$���?$G/���(A�������(����0����5��,��� I) "& )��'�5�����-.) EE 5�� �(A�������KD���5��� �3������������ ������ ��� �� ���� 6 +�6�����������&����(����"��?�5*5�����"6������� ��� �������������">�& �2&F2"�?�&� 6 +�6�����������&����������55�����"6��">�& �2&F2"�?�&� 6 +��+�0��1�������'(�� 5�.����-.�����F��?���6���6����������(" )�� �5��*�������"���+,��+���5 ����G/���(A����-.) EE 5���������6������������������'����6�� +���

���"�16 ��0�"��� "(4�) 5�"'� "/"���/�������� #�'���,�-�����������#>��#��;�

��-�����'58� ���;-� ������:'�� %5� �5��)-�$���?$���#1/)�5�#6'58�5F���*)����?$ �-��)#'#����'����@���� #�'���,�-�����#���/0#� ��):� '58��3���%�������0�������'!='���� ���� �)��):����������;���-�� ����%5� ����?$ ��#'�#/)*�������� "� �" �**@�� �����0:����� �/����?$#���I�����;��� �#>%������ #-����)#����

� �����+�1"&����/�& "L-1�����56�� ����1�"�"������E��(D��� G/���(A��56�����5� � ������?� �&1(DEE� ����6�� "(4�) 5�)��6������"�����-� � ����

Page 47: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

H.� "��)��3�+�F��1��� "�����5� ����"���� � � 6����"5����(A������ + �(A��������"��" �0��1�0����5�����5�����������'������&�(���� �(A����� +������+ ���"'�1���������,����6 6� �5���"�����0��" �/��F��1���"�����6������"5�������"�� (G/��&���5��"����"5 -�������������" �&16�4M�����������'���6 +��&��) ���"'�1����,��/��F��1���6����"5���������" " �F��1���0&��6���>�� E���"�

H.�.< � � %���;�%��� � ('@/�//��-)�)

H.�.<.< �F��1��� �(A����6��5������" )�F��1����� � ���"���������� ������&� ����&��5 � ����,�&�� ��������KD"&��� ���� �(A�F��1���"��(&�����5,�,���&��0&���0&�(5������-.6��5� �� ���" &�+ �&1"�� ���"�16 ���0&�(,2&"����������KD�&1��5�"�����5��� 5 �������3������5������'��()��������&���"���>������ ��(A��(����E�����/���3���&�� "'� ��&��0&����5�������&����+�&��5 � ��������� ������������ "',�&�����Y*Z�G��(������J 2��)������"'6��)�/����������6����� �5�)������"'�����3 ��������������1� �(A5�

H.�.<.� �F��16������"�����&�����&��5 ��+ �(A�F��16�����&������"�����5��������" )���� ���(��"2&" ���6 +�&����5,����5��� ���,�-1 +��5,��1���*�����6*"�. �1������3 ��������"'���������1����� "&����������'�/���'�'@/��������-��):� '�%������� �#� '��� ��- �/� ���%���)��'��

H.�.<. �-1,�6�������&� �&���"�����5 ����">�& ���&����� �-1 +������&��1� )( �&1�1�"���F��1����������5 ��/+���66��6 6� � � +�0������������">�& ���&� "'�"��"�����6����"5����&��

H.�.� � � %���;���

H.�.�.< �F��1��� �������" )�F��1��� ,�-16����� + ������������6��">�& �����(A������� �5����&��5 �����&���" )��&�6����&� ���� #�� �'58�#�-��)�'#-

5�#6#�?$-��J -�����)�'58����� ���?����#��� '58�#�����������)�����'58�����%� (�5�6 +��+��"��"���>��(A5������ �3�5�������0���"����������"��6>��� ���"'5������(5�����6�����5)

H.�.�.� "(4�) 5��>����"������,�"������E�5� 2���������>�� E������"���������"��5�/"5���������"���&1,�5��� ��� "�(A��*F1 ���6���� �(A6*"�. �(A� 55� �����(A��(��" �(A"��6>���(D��� �6�����"������E�5�����"������E��(D����15������

Page 48: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�F��?���6��">�& �(��"45�������(A���� ��,3�"������/��F��?��� +J �0��1����������(*�*3����(�(\]������-�����J �����������,�*��������'�>�@���������K��6I�3��5���J �3������� �����"���+���6�����5���5�+�6���� 0�����"���+5��&���5"'��"��"����(�"��,���� ���������� �5 ���������� �5�0�5��&�"'��E(�&�� �(A5�

"�����0����-���,3���(D��� � �6���&��(�Q�6�". �6�� ��� G/���(AC�L�.���*2������(�/������&��(�Q� � F���6 525 ��������� "#�������?#���'58����3�#>'����

�#�����?$ ('58�����) #�������?��-� (��?�-�) �/�#�������?#���'58� -�'58��)� $ #>'�����#��#������-*����� ('58�����) ';��#)� -��'������56�*)-����0���-�0���-�'�� �0�%���#�������#�56�*)-� ���" �"��"�+�&��0��0*? M��2�"'���+>�������� C����'����'���������-):��� ��5F���'����'�����������E �&1�&��(�Q��&�. �5*2&"'������� C��'��%�#>%��� � �������0���� �E G/��"'5��" )0�1(��� 5�?���6���1)*��� ��*6� 00�E�-� �(A��(D���E�-�)�+��5� +5���(&����"��������

H.�.�. �-1,�6�� ������ �&���"�����5 ����">�& �5 + ��"5 +�,�������� �-1 +��������1� )( �&1�1�"���F��1����������5 ��/+���66��6 6� � � +�0������������">�& ���� "'�"��"�����6����"5����&��

H.�. � � %���;�#�-):���56�*)-�

H.�. .< �������"��5 +�6��"���1��� �5� "(4�) 5��"��)����&1���� ���������1(4�) 5�?���"'5�����)5 +�6��(4�) 5� �0��1(�(&����������� ""��(4�) 5�" ����(A ""��"�16>�" 6 +�6��"��(4�) 5� +��5���6>��1���""���"�������(��6��(��"4����(5��J 5��?���3�5�?����� �3������" )��������5���"����F�05����� ���"'���&��5��/+���6�� + �����������"�*�" ���"������� ���"'�������/"���� �6�� + �F��1���6���(A?���3�5� +����������&�� �5��0��1������,��& ""������E�5� ����/�5 +�6��(4�) 5� ����� "���� <!! ��5�6��">�& ���������5��.6 ����"�'�6 +�"���&1��5,� �66���1�������-.6��(��"4�O0�1���(������)��J 5��?���3�5�?�����

H.�. .� ��������(4�) 5�?��� "(4�) 5�� ") �� ),�5��� �&1����������0R5�"��������5)������� �3�"��,3��5������������F�0,,����5 �&���6��������� (scan) ����,��F�0 + �0������1�� "������������ ����"�������5��"(�������������� �&�����������6��">�& �(��"4�/+ ������&���+�(A�������0&����������� �0��1�(A"��(4�) 5�(����5 -������������"�1(4�) 5�?��� �&16�4M����������'������"��(4�) 5�?����15���6>������ +������+ �0���,�� "���" ���?���

Page 49: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

H.�. . ��������(4�) 5�?��� "(4�) 5�)��6��6�����,3���(����"���(A����-."���M� � "���������"���6�"�G�0R5�"���5��?���3�5����"�� �3����������1���&����,�"'����(��)�*�� ���1"�����,� ���������1���������&������������"��"'(">���� ���1"����&����������� �6�� �&16���)��� "��"�16>���&���+����� ����(A"��6>����1����5���"��,3�"���(A�*������5����"��(4�) 5�"��0 b�(���"�����6���6����� �5������,�"��0R5�"���6��"��2�������� ����"������E�5� �&1�����6 5 -���&16�4M�6��">�& ����)�>���5�"��0R5�"���� �"&����/+�� �"'�(A�������0&��6�����������"��"(�1"���/��

H.�. .% �������/����'���'���,�-����� � � ������* �?$�**������ '�%���1'58�-���-):�����%�'/� %��������-������#� �3������5���'��("'�����((��) + ��"��5�"��(4�"���������������5����("'���6 ��" �����-1�+����,������)�,�"'���(�&� �3������������"'������� 5�*"���+������ ���&�����������"�(&���������)�"'���6 �������"���5��� ���6 �&���1�(&���������)��0��1� �>��(A"'�� �����1���(&���������)��0����������������6*"���6�("��"'�� ���� �������O�J �"����������&����������5���"'�� �������������&����5�"��"*C&�����"*C&�����,�"'���(�&�"'�� �(A5�

H.�. .$ ������"'5�� ��" "(4�) 5��,������������(D��*) ����-.(5��?���3�5�?�������"'��5���5",� ,�)�+��5��15 +�6��(4�) 5�����"��"'�� �3������5Y*Z�G�� ""'6>�������)������"�� �5�5����1� �����,����&�+�&��5 � �&1����,���������/+�� ,���������-.� ,�� �/��(������)��J �1�(A����-.�1�"'�� ���"�16 ��"������>�)��"���"'�� �������5,���)�)���&���/������1&/"��������(&����(&������5,�(5��?���3�5�?�������"3 +�/�� ��������1�������""�����6���0���*) ���"�������"�� ���"����&���������(A� ���1 P&P ��������&����'*�:��-�����1#���I���#>%�� �/���0�����)L�%5� �#�� ��**%��-):���

����%������-��%5

H.�. .H �-1,�6�����5 +�6��(4�) 5� �&���"�����5 ����">�& �5 +�6�� �-1 +"��5 +�6���1� )( �&1�1�"���F��1����������5 ��/+���66��6 6� � � +�0������������">�& �5 +�6�� "'�"��"�����6����"5����&��

H.�.% � � %���;�#1���� �

H.�.%.< �����,3�"��">������ ����"��5�/"0����-��/�����-.����(A���(�� �5��(A"���1&/"��� (���"��) (D��*) ����-.(5��?���3�5�?����� "(4�) 5��>����"������ ������"��"">������ �0��1� "�����>�0���"����" )"��">��������(�� ����"��">������(D��*) ����-. �/������� "�����5�����"��"�16>� ���"��">��� ����"��0����-����� � � +0����

Page 50: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

����-.�&���/���))��"���5��6���"�����6 6� �3��"�� ������ 2"�?�� ������� P&P �����"��)��"�����,3�"����� (�)�+��5�����>��(A�>��� ))��6��6��5���)��"���"�� �5�0/�6��)����1��*�"��(4�) 5������0���� +"��5��)��"������� �0��1� ���,3���(D���) ����)��6�����"��0����-�">�" )G+>�&�(��"3 +�/�� G/��"'��,3�"������3�" �3������5���'��(5��?���3�5��&�� "'��,�0����-���(G+>�&�(��" ��� "��(�+�(A�0����� ��,3�� 5�. )*��& 5 �5 ��� ��� P&P" ����0����-���� "���(A��( ����(A��" � �(A#�#���1����������#1��� �/�'58�#�#���1-��/)�#�� ����?$���'58�5F���*)� �0��)�%���;�#�� ����*����� �M-� ���;-� ����

H.�.%.� �6������>���� ��5�� ,0�15�(c#"�(&�������/0#%�� �&10�1�F�?����?�)���0����5����� �-�����%��'/����/��'58�/)#=?� ���6 +�)�"������� �-���#��1�3� ���%�������1'58�'�-��#/����'#�� �5�0�"���3 +�& �3�)(�(&�>�����5���� �"��">������� 6 +�6��"��">�����,3������1&/"�� �5��(A"����,�"�16>�����)������6���"���""����������>���)�"�����2&F��5� �&1��������6�4M����"��">������"������E��(D��� 6 +�6��"��">��� +���������������G/���1�(A��(D���(�����&� ��"������/��"��">����"��"�1��,3��5��&�� � ������(A��5*,"&�,���5��"������ �5�"��5������F��?�������J ����"������E�5�(D4M�5�����" 6���(A��5*,����5���>��F��?��������(��������>��&���(A��5*,"&�,���5��"���/+

H.�.%. �-1,�6�����">������ �&���"�����5 ����">�& ���,�">������ �-1 +"��">�������1� )( �&1�1�"���F��1����������5 ��/+���66��6 6� � � +�0������������">�& �">������ "'�"��"�����6����"5����&��

H.�.$ � � %���;�'���

H.�.$.< �����,3�"���0�� �5� "(4�) 5��>����"3�)�0�� ����5��6����3�)6>����1�0��1���"����E��(D������������� "'� "�0��2�������6 ��5,����5��� �6�����"���0���(A�F��16����)���������""����,��&1"��5 +�6��(4�) 5� ���0�����/�"��(4�) 5�"'��,�(4�) 5� �&���"��"��5 +�6��(4�) 5� ����"���>����"��,�������,��� ��� � ���" +�/��0���������������������(A���5��5������-.6 +��&�� �(A�&,��&��5 � �&1)�����5,����3� ���������"��(4�"�����5�)���5������-.5��6������1�(A ����)�����,��0����(�&���� �1����/"�������6 +�(����&������"��� )����5�& "L-.�� �"����5����F��1)�������6�����������6������ "&���(A��'�������6 +�(��5"����,5�5�& "L-. �"�����5�6�� +6���6���� ����)�����,��0�������3������� �&��(�&��3�����" )�������� +������������E(DEE�5��(�� ����)���0����"��&�,�"'�0��,�� 0�"��&� +� )( (�0��1��5*���� � )) "'�"�������>�� E������ ���������

Page 51: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

� )"��&���6*"�� +� ����)���0��������-.�&�� "'�&��0����������5�5����+����-.6����&�����&/"����(F��, ��"'�(A"���0�������" �5��(A"��5���0������(�*��5��6����&�������,��5,�5���

�/��"���0���+�������,��*����"�( "'6>�,����5��)�(A"��6>����1�������?����3�" �5�� "��,3�� ������?�G/���>��(A�>��� )"��6>���(D���

H.�.$.� ��?�6>��������� "" )"���0������"�&� &���"�+�� ����������5����/+�� �&���0������,����5,����������6���+� +���������� �0�������1����/"��� �����'�5��+�� ��������6�� + �0��1��5���������6���*������ +����������,�� �"����"2&F1 ,�-1 +��'�5��+� "���1�(A������"'��6��) ��6������������/"�1�*�����6*"�."'��6��) ��5�1�(A"*C&�����"*C&"'��6��) ��5��&���(����6��� �������"'��6��) ��������&���16��)���O0�1� ������� �5���6��) "�� ��6� ��5 ?��� ��,�����(4�) 5��>��F��1���"���0����,���� ��&�6������E�5��������-.6���(A��(?���������?��� "',��� ��"5���6 ,�5��� ����,���&�(�0��������(������ +�����6������� �������5��� ��O1 +�1�(A"���&�6>����1 6 +�6��������">�& �6>���(D�����������(������

H.�.$. �-1,�6������0�� �&���"�����5 ����">�& ��0������ �-1 +"���0���1� )( �&1�1�"���F��1����������5 ��/+���66��6 6� � � +�0������������">�& ��0�� "'�"��"�����6����"5����&�� ������"'5���>��� )���6����55�����1��" + ����������0������ "���0��"'���&����" �5���"���6 ��5������"�&�"�0�� "'����&*���"��""�����3�,����-.�0��1"���0���� ��"� ����&*���""'���5�����C ��*)�������"�� ����"��,��&��"��(4�) 5�����3 ������ �������5�&�(�������-.����3��&�(,���������6������&�� "���0���1� )&�2��� 52� 5� �&���������6 ����&�(�&�� ��5"'�1�"��"�����6����"5����/+��

"��6��5���"&����/��*)���"�"���0�� 6 +�6��������������"��,3��*)�� �5����,��(4�) 5�(5���& ""�������(D������"�������(��5�������(A���� "'�0��1���(4�) 5��>����"5��"���0����6)��5 ����/+ �&1������&*���"��""���0�����(A��)J (U �/��>��(A5������*)����,3��0����"�(DE���O0�1��� G/���& ""���>�� E����*)���"�"���0��"'���#�'5/�������?$��"����-.����6��5������ �0����6���+��5"'�&*���"��""���0�����&��

H.�.H � � %���;�����

H.�.H.< �����,3�"����� �0��1��"�����"'�(A��"��"���/��6�� "(4�) 5��>����"3�)6>�" � �(A"����������"&��6>��/+��������������1(4�) 5�?���

Page 52: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�3������" )"���0�� �0����5�#�'���������� ����?$�)�'�������;)��/�����-�0����?$�):�%�� ����#�����'58�#��/�#������?$'�������*���'/�*'/�:�/��'��:�/��-)� '���-���#������-��* "&���(A"��(4�) 5�����2&F1 ���5�"�����1�0&���0&�,������)�*� �����"������G/��G��������6?1�/+ � ,�G/���6��������&�+���6��"'�>�� E������� +(4�) 5��� � ,�(4�) 5��&����G/�������&�+�"'����,����� +(4�) 5������� "�������5�+ "(4�) 5�)��6���1���*("�-.3������"���(c��6(?���1�&�(�����1����� �����?� �13��������5,��G/���6�������/���& )��/��5����2����'�

H.�.H.� �-1,�6����������5������������) �&���"�����5 ����">�& ������5���� �-1 +"������1� )( �&1�1�"���F��1����������5 ��/+���66��6 6� � � +�0������������">�& ���� "'�"��"�����6����"5����&��

H.�.I � � %���;������ ���%�

H.�.I.< �����,3���,��1����1� � � +��� "(4�) 5��,������� 6����,����� + ����1����1� ��������1���5 �6 ��0����������6 +�5 �5 +��5�(&�����/�0�+�6�� ���6��� ���� ��3��+�������� ������� ""�����6���6����� �0��1"������6����� + ����������,�����1�&��"��������/���&����� )����������J �������"������,���&�� +�(A(�0��15 -���&16�4M�&��J

H.�.I.� "���������F�06����55���/+��"2&"��������������KD 6 +��+����,�E��15���O0�1����"���5�,�� ��& )KD�����6������"���KD"&��� F��1������F��16����55����"����KD ��5������5��5 �0����6���1� )�������-.6 +�(��6��������"�16)6��5� �� ���" &�+ "�� �&1,� ������������-.�&�� "'0����6���1�"��(4�"�����5�)���5������-. +5��?���3�5� �&1����"��� +"'��� ����������6��6 (4�"�����5�)�����&�� +���(A����������� ���3���+����������,�����15����������-.,� �5����?$��5�#6�������#>� ����?$�):������ #-���'58�5F���*)� <��%���/�%5#)*���?$�):� �����/������ �-)��)������� %���;������ �-)��):�-)� '����)��'58�������#������� ��0#%5�)*���#��):�#�

H.�.I. �-1,�6�������,� �&���"�����5 ����">�& ���,����� �-1 +������,��1� )( �&1�1�"���F��1����������5 ��/+���66��6 6� � � +�0������������">�& ���,� "'�"��"�����6����"5����&��

H. ��*(�&�� �?���������� � ���������#�� ����� #-��� �������#���)��#�

�����)#=� ����-��'�����(����� H.H) �?��):�'����/�%5� ����/�@���)��� �0��1"��"�16>�,�J 6���"���""�����5��("5� � �(A"��"�16>������>������5 -���&16�4M� ���&1 �(A�������(c�" +����������,"���1&/"�������-.G/���������&��������������66���*�

Page 53: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�)��):�%���������1� ����� #-��� �?���� ���� �@�� �?��):���'#��#�� ����� #-���<���)-<��)-� �5��� "(4�) 5��>����"6������6������1��YD��>����"����" )"������E�5�����"���1&/"��� �5�"'� �(4���?6���1�1&/"����F��?���6��">�& �(��"4(5��?���3�5� �0��1������������������ 5���� ���)*E���������6>�)*E6>�6�("�� ������6���.5 � +5 ��+� �����"�( ����� ������*&" �15���0 b���6���."�� �3��15����0���(DEE�,�����*&" )C� 6?� �0������?�,�����*&" )�����1 6 +��+�0��1��6��)��� �#'���,�-������ �%���/�� �)����/����1���

�������$�):��/��#�#/������0:��/�����/#)�����

H.% �F��1���6����"5����1�"�������� ����"���"�+�"�&����5��&1� ������?� "&������

H.%.< ��"��5���������>��F��?���5���J ������>� �3��>��F��1�������� " 2&F 2"�? �&� (U5� �*� P&P ������>� ������F��1��&�� +(��"4�/+"'�1�"���5�����6��6 ����������'��0��1���������(�1� "L.3 �����"���&�� ����F��?���,������� "�*���� "'5���,3���&��������(3����/��"�� ���5���>��F��1 +������>��&�� �/��"���5����������

H.%.� �#��-���)���� � ��;�������3��� �� #-�������0:� ��56����� ������?������5��& "L-15 +�� �6��5 ����� ����&����&(5������-.6��(��"46��6���6 +� H (5� �� ���" &�+ "�� ,�) ��������)�1� )�����Y������Y)(5������-. �������)��)���5���,3��)�����������1&��(,��"�C ���������2�*���&����'�"�1�����"����"�'� ������0�����&1���������6���1� )�������-.����""����,������O�G/�6���������&�)��&�+�5���*�������5������05�� �&1������G���5��5�����6��"���������-.2��������(�6�"�G�����-. ��������0�0�"L�6��6>���2����&>��������������2�6".�����>��&�

��56����� ������?��������"���/+������" ��"����,�?���3�5�6����� ��5("5�?�����6������"����-.���)�>� ���� ��/����-�����!�/�)����/�����-������)���� ��� ���-)�'�� ������"'5����"��5������,�� ������ ������?�����J "'������KW"K�)���� 2��,�)�+��5�,��5 +�,�� "L�C�&F���"����"�� ���� "L�C�& $ �&1C�& B �(A5� ��" +�/�NO#N���-�����!�/3�������#�NO#�� � �)�%���#�#����-���/0#� ����?$�)�'����<��-��'����� ���?$�):���'58���%�#>%�����%���)��#�'/� �3� "��">���&����,� "��">���� ���1�����"�� "��">���� ���1��&�������� "��">���������&��������6��� �&1"��">����>�)��"��� �(A5� ,����,�">����������-. +������)��J �������������������5 +�,���" " �/�5���+��5��6����"6���1�>���(�� � 6�����

H.%.�.< ��"2��1����2&F1�����6�" ��5�1�"��������������������������)�)�� �"��������&�)��&�+�)��� �"�����55���J )��� �+�(A6��������O����?�

Page 54: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

H.%.�.� ��",�-16��">����������-.���� + ���(4�) 5����5�5��5 ���������J �����5����5�6�+�����-."���M�'@/�(������������"'� ��)� ��"��5�"��"��'�������-."'� ��)� ��"��5�)#��� �����-."'� ��)� 6 +��+?���3�5���5���)*��&6 ��(� "Y*Z�G���&�(5������-. +)��� ����-.�+)��� 2��������6��6 �/�5���� ��������-.� �����"�� 0���5��&�����"����-. +"',��������6 ������?��+��� ,��&�������(4�) 5�"'�1��������6 ��5,�6���������(5������-.5���J ��� ��)� ��-#>����#��������/��-):��)���� �<��%��%��*)�)* �)��#�):�'���������?$��5�#6 ��-#>��� ��)�<���)#��� � ��%��'��%5���#�G������/��/�%�/-����?$�):�%5

�#��#/�����#�#1���� �(����-)?��/���6I�) '58�'�����������#��1���� �����#���/0#� ������ ��)�(�����)#��� �) '58�'�����������#��1��5F��� #>#/��%��

H.$ ��"�1�>��"�F��1�����",������3 �"'������"&�������� � � ��#�'���,

�����������$ 4 ���� "&������

H.$.< ��5����(A��56��5 +�� � �(A5 ����5 ��������"��������������5������-.,�J ���)�>� ������56�����)���� �

H.$.� ��5����(A��56�����������"�"���� ������������-."�16)6��6���,� �)���-��1�1&/"����F��?���6��">�& �(��"45�������(A����6 6�

H.$. ��56��5 +�� ��(A� ������?��1�(A��56�����5 � G/���������5 � +�(A5 ��)����6I������)�5;),,� (3��6������"����� �2��� �(3 EE1) �5������5��5 +�� � ��5�1�&����&5������-. ��"����-.���)�>��&1�����5 � ����������5 �"'������������F��?���5�������(A����������3 � ����'�����"��� )�����(�� �&1����'����� ��. � � +�/�"&�������� � ������?��(A��5*,"&�,���"��(DEE�

H.$.% ��56�����5� ���?� (DEE��)������ �������������6����"5��������)���)�#)55� �&1����&,���)���� �)��#)��)�-��&1�)���;���)��)��-.����

H.$.$ "��0�"�0�������E�5����� + �����(A"���*��������6���.� �(A"��(c�" +)�(�"*C&6 +�(�� �&1�(A"��6>�,��"*C&?���6 +��&������E�/+ �+����)������

H.H ,�����"��������"������E�������� � � +������6��)��� #��-��#�� �����#�'���,�������%���#�#��1���'���, �����1���'#��*���J ��������-�*��������� �5�6 +��+���������������,�����5�����6���*��(A�6� �(A3 ��2�� �����(A� �0��1�-�'��'58�

Page 55: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

'�-��# ������'#���)*%5��/��?������#)*��- �)��):�'����1�������%��'��������'������� ���J %��%�� �-��1���'#��*���J %�� ��5*,"&�6��6>�,���5��"��)���"'���"�����������>��F��1���?���15���J ����"�&1����>� (5����>�5 ��F��1�� ��,3��>�3����&1& "L-15��5>������6�� +) ������F��?���� ,��"���/+ �5��/��������1&/"����6��6 ������������'� ������)����))�����) �&���"*C&"'�1��2�"���"�����&�5��&>�� ) ����2�"���"��,6���*�

H.I "��KW",����5���� "�&1���>��F��?�������"�&1����>� ������"�16>�������"���������-.� ,�� �/��6���"�������������"��������5 G/��)����"���M�6 +��&��6����" ����,�*��+ �����""',3��(A�)�+��5�,"����������F��?����� �3�"�����&����,� "�����6���0���*) "��6>�� ���1,"�������"�� "��6>�� ���1,"����&�������� "�����������)� % "��)��"���0*62? "����� ��6� �&1"��5�������5 �(A5� �0����5�0�"���5���(� )�*-F�0���"���������-."���M���&���+�&'"��� �0��1�*-F�0���"�����6���5"5���" ����,���&6���5"5���" G/�������",�*��+�0��� "(4�) 5�� "6>����0���"���0��5 �����-.�&1�����5(���"��6>����"���M�2�������5 � 5 �������*-F�0���"���������-."���M�6�����&�5"5���" "'�3�

H.I.< #�� �/����� ��"���&����,��&���"����&�)��&�+�����5�"',3����� ��"�0�����5�)�������" )&����,�"'�(A"��6>����"���M� ��"��'"�����,�����2������5�(A���������5�����""'�(A"������E��(D���"���M�����"�����"�� �&1��"���,��&����5�&�(���"'��� �&�(�0��&����,�"'��� �(A�*�"'��� �(A6*"�."'��� �O�J "'��� �"��"*C&"'����&1�"���"*C&"'��� ��&���+�(A"��� �����F��?���,KQ����?��� � �(A5�6��,���"���5�,"������E��(D���"���M�����"������55��(

H.I.� #�� ����������* ��"���6���0���*)�&���"����&�)��&�+�����5�"',3����� ��"�0�����5�)�������" )6���"'�(A"��6>����"���M� ��"��'"��������2������5�(A���������5�����""'�(A"������E��(D���"���M�����"�����"�� �&1��"���6���0���*)�&����5�&�(���"'��� �&�(�0��6���"'��� �(A�*�"'��� �(A6*"�."'��� �O�J "'��� �"��"*C&"'����&1�"���"*C&"'��� ��&���+�(A"��� �����F��?���,KQ����?��� � �(A5�6��,���"���5�,"������E��(D���"���M�����"������55��(

H.I. #��1�)������#�'�����#�� ��"�����"���&���"����&�)��&�+�����5�"',3����� ��"�0�����5�)�������" )�6����������"��6���������"'�(A"��6>����"���M� ��"��'"���������2������5�(A���������5�����""'�(A"������E��(D���"���M�����"�����"�� �&1��"��������&����5�&�(���"'��� �&�(�0��"'��� �(A�*�"'��� �(A6*"�."'��� �O�J "'��� �"��"*C&"'

Page 56: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

����&1�"���"*C&"'��� ��&���+�(A"��� �����F��?���,KQ����?��� � �(A5�6��,���"���5�,"������E��(D���"���M�����"������55��(

H.I.% #��1�)������#�'/����%����� ��"5���������&���"����&�)��&�+�����5�"',3����� ��"�0�����5�)�������" )���"'�(A"��6>����"���M� ��"��'"����&���������2������5�(A���������5�����""'�(A"������E��(D���"���M�����"�����"�� �&1��"��&���������&����5�&�(���"'��� �&�(�0��"'��� �(A�*�"'��� �(A6*"�."'��� �O�J "'��� �"��"*C&"'����&1�"���"*C&"'��� ��&���+�(A"��� �����F��?���,KQ����?��� � �(A5�6��,���"���5�,"������E��(D���"���M�����"������55��(

H.I.$ #�*��#������< ��")��"����&���"����&�)��&�+�����5�"',3����� ��")��"������5�)�������" )�>�)��"���"'�(A"��6>����"���M� ��")��"����&����'"������� �������2������5�(A���������5�����""'�(A"������E��(D���"���M�����"�����"�� �&1��")��"����&����5�&�(���"'��� �&�(�0��"'��� �(A�*�"'��� �(A6*"�."'��� �O�J "'��� �"��"*C&"'����&1�"���"*C&"'��� ��&���+�(A"��� �����F��?���,KQ����?��� � �(A5�6��,���"���5�,"������E��(D���"���M�����"������55��(

�������-."���M����"'�6��)������*-F�0���"������&1�&6���"���/+ ���3������" )����-.6��"&������(A5 �������+ ����

H.B ,��� H.� ��"&����/��F��16����,3����(�&�� ,����+�1��"&����/� ��$ ��������-���'58���-� � � �(A�������3���5�����)����"3 +�/����� "�����,�-1�+��"5����&�������� ���.?���� �"&��� �3�

H.B.< ��-� �%���#���-���'58� ��#�!/��- ;������5��#�*����5F,,

(,?�)�5��--$) �/�'#���0:�'��<��%��-���;)#;����������1���'#���0:� (��)����#) � � +

H.B.<.< �-1,���5���"*C& �-1 +� �������5���

H.B.<.� �-1,���5�*��,3�">�& ���""���(DEE� �3���"�����+���6��&16*"�.�����"*C& ������+�� "L��*�����"*C& �-1 +� �������5���

H.B.<. �-1,�������0�����������/�������,�6���16>�,����5����"���/+ �-1 +0&����"��������&�� �0��1��-� ��):� ������#����%��%�� �������������%��'��

H.B.� ��-� �'58�'������-�������#� ���"�16>�����-.��,,� ����6>�,�,���������-.�6�� + ��,3���&� ��� 5 +�6�� ">��� �0�� P&P (����� H.�) �3���������#��):�'58�

Page 57: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

#�� ���� %���:1��)# *�'K��* �/�'���*#��* %��������������'�-���� ������1�����-)?��/���6I���J �):���:�

H.B. ��-� �-���5��#�*����<�3?� �?'�-��# �����F��?���6���"������" )��56������� ���.?���6��>���� ��"5��5���������"�

H.B. .< �</3� �����5,�-1 +�����������" ����2&F ��������"�1��� ����5�,"��������?��� ����-1,���5�"���������"(4�) 5� ��,�(4�) 5� ����0�,�,�����*��&1"*C& �-1 +��2&F1 ��5��� +��,3���5���6����"5���

H.B. .� �<��� �����5,�-1 +���������*������ ������,����-.,�J ����-1,���5�"&���6*"�.�����"*C&�3��"&�������Y*Z�G�������5 �&��0�����&16*"�.�����"*C& + �-1 +��26�1 ��5��� +��,3���5���6����"5���

H.B. . ��'58�#/������?$ (-)-��);P)---) �����5(��C��"�������������� ������5�5������-.�����0������ "L�����-.)������� ����0�����&1����-.)������� ����-1,���5�&����������� ����"� ��"���(5����������������5������-. �-1 +��5���(A"&�� ��5��� +��,3���5���6����"5���

H.B. .% ����*���)* (5F��)� �) ����������5�������-.,�"'�������������)�1� ) �����������+�(5������-. +J ���5 �����-.6���(A��������/"5���J �������"����&��"'��)�1� )�0��1����"�5���3�+�,��Y*Z�G��������+���"�/+ ��"��5�������-.�&���"�������������5���J ��5��� +��,3���5���6����"5���

H.B. .$ ��'* (/��-) �����5����1�)��)�� ����+>�� ",�J �"���/+�0��1"���������-.����5���� �-1,�(4�) 5��&���"������� "������+>�� "�/+,,�����5��0����&'"��� (6 +��+����/�+>�� "6��5��&)�����������/"�)��������?���3�5�6 +��&������) �������0&����"��������&�� ��5��� +��,3���5���6����"5���

H.B. .H ������<��������/ (����-) �����5����1�(A��56�����2�*���& ����'� ��"�1���� ���(4�) 5��&���"����������/"��'�"�1���� �������0&����"��������&�� ��5��� +��,3���5���6����"5���

H.B. .I �����#�#��� (#)��),,-) �����5����(A��56��0�����>��� )"������E��(D��� ����"����(���)�>��������-.,�J (�5�������-.�"���/+"'���������3 ��&1������-. ���&1���(A6*"�� ��.6����"��� ��������-. ������-. �5����-.�����)�>���5 �))�+"',3��������" ) �5���"��5��"���)�>���������-. ��5��� +��,3���5���6����"5���

Page 58: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

H.B. .B ��/����/�� (5�,,-) �����5����1���5�(����(�����&�����&�� �-1,�����/"�O�������� G/��G� �"������� �������0&����"��������&�d� ��5��� +��,3���5���6����"5���

H.B. .8 ��G���-�� (��;�#-) �����5�16>����6���������-.�����G���J 5��J ��6>����6���"�"���"���������-. ��"��5��6>����6�����(�����G���J 5��J �5�0�������0�.�����6�"�G�����-.������>������"��&� ��5��� +��,3���5���6����"5���

H.B.% ��-� �'58���-���5��#�*�����)�5;),,� / 5F,, / 5F,,������$ / �<��� �������������E��(D�������2�����3 ���� �16>��1� (�1����E�5�) �0����1� (�0�����������,��F��?���5�������(A����) �16>������� (�15�����(D��*) ����-.5�������(A����) �&1�1����E�5�����������������/"5 � ���&�����&�5������-.,�J (�����>������2��1 ���6 +�-�����5F,,� ��/�'����/)#=?�����3� ������#1/)�5�#6'58����?$���

��5F���#���I��):����� �����& "L-1���6���� �(A6*"�. �����(A� 55������,�������/�� ��"��5���-�����F��?����O�J 2�����5F,,6���1����,�& "L-1����F��?��� + "'� ���,3���5���6���1����E��(D�����������6�����

2. �3� �������%�

I.< "������E�5����"�����6*"�.������(��/"��,� �0��������������'��������(��/"��,��(A5 �5���5 �&1,6���*��1�"��"��(&�����������/������(��/"��,�� �(A"��6*"�.���������'���� � � +"������E�5�6����"5����15����1&/"����/��F��1�����(�� ��,3�"������00� �����������-.) EE 5�� �(A����6��������KD�/+����� 6 +��+����5�"������/���(�������& "L-1�(A5�& "L-."'� ��(A����-.) EE 5� �0��1��,3�"������F��1�����(���&1��,3�"����'& "L-1�����(�� +

I.� 5 ���(��/"��,��+��&1����F��?���6���5��15����1&/"��� �&1(DEE��15���6>���������,�& "L-1����F��1 + �"������"�5�(DEE��&������������6��,3�,"�������(��"'��� 5� �� ���" &�+ "�� �&1,�?�����J �+��� "&������-)�� 5 ����):�� �%������- � �� # /�:� #��/��� ������ ���� �%��������

I. "�������(6>���6*"J 6���� ��+���

I. .< ��(6��������������5� +����"��� )��������"����"��&����( �3�����E�� ���3�� ��'" ��"� ���� &�� (&� " 61�& ���+>� F���� 5��� ��"�� � E�-� P&P �5�,�>����(6�� )�>������� + ���������������6��5������'"'������6�� +��� �&����C �� EE���������>���

Page 59: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�������������(�*��5����5 �/��"��"���>��"��� "&*����������+����"�������E�� ���3�� e � E�-� ���/��(A��(5 �����6��������������5�

I. .� ��(6��������������������� ��(6��������������"���"&�� ��(6�����������&�+����� ��(6�����������"���� 3����� ?�5*Y����������'-��� ?�5*�������������-��'� �&1?�5*&���������5/�-��

I. . ��(6�����������,����>����""�����(6�����������5� �� ���" &�+ �&1"�� ���"�(��6��( $ ����(�1��6�>��� )� )� �� �6��5� �� ���" &�+ �&1"�� " )��(&1����������*�*���( <H �3���(����������� ��(6��">����0C ��(���"����&�����"���&1�����0��������������� �(A5�

I.% ����6�����������,��"��" ��(�>����" (�< ��() 5����� I. . �&�� � �����"�&���������� (<) ��5��" $� 3�� �3� �*� 6*"�. �*�)"�� �����>���������� 2&F1 26�1 2��1 (U5� C� 6?� �����1 (DEE� P&P (�) ��5 ���?���3�5�6���������-. B8 ���� <�< ��� ( ) �00� �&1 (%) ) EE 5�?��� ��������6���(A�����������KDG/������5 ����� (������������� ��� ���) ,��/��(A���516���������-.��"���������&�"�&��6���*�

I.$ ����1"&������������J #�'���,�-���-�����/0#� ����?$5��)-�$G0��'58�-)����

����-)�������� ���;-� %���;�%5� �����������0#'�'��(*),,)-� ���) �3�������������,"&�"��Y �������6�������6��"�� ���&1�������-.(�� 5�. ����>�0��������J �(A���*5�) EE 5� ���(4�) 5������6������/��������6����"�16)"�� ��,3�(,3�����������Y�(A������ �����Y"��&�����Y�" �(A5� �"��"�+ �>��(A5���6��)�����������-.3��,������6��6���,� �3�����1���������)� % ��������(�� ��� �� � �15����������,� ��,3��������5���������"�� �(A5�

I.H ��"���(4�) 5������������(��� �(A����-.(�� 5�.���&�� �1�����������������'��������� 5�. )*��& 5 �5 ��� ���&��� �0��1����-.(�� 5�.6��,3�,"������E��(D������5���(" )��G/����,3�� 5�. )*��& 5 �5 ��� ��� )����� 5�. )*��& 5 �5 ��� ��� &���5��"����""���������"��) EE 5����"&*�������(�����(A� 5�. )*��& 5 �5 ��� ���6 +���+

I.I ,6��(4�) 5�������(�1��'�"����" )�F��?���6�����6��)��")����������

I.I.< ��5�����������-.6 +�6���(A(�� 5�.�&1) EE 5� �1���1���&��"���������/�������,�5���������"���� � � +�-1,���5�1&/"�������-.(�� 5�."'���6 �-1,���5�������-.) EE 5�"'���6 �0��1����5�0�1��� 5.6��"'�����������-.6 +� � 3�� ��,3�����O0�1����-.(�� 5�.����������

Page 60: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

I.I.� ,"������E��(D��� + ���(4�) 5��1�����5�����"�����5��1&/"�����(�����������,�"��"'���&���5������ � 2���1�&��"����E�5�(D4M�)��0,�"��"'�� �&1���>��(A5��������(����������E�5�(D4M�,����)6*"����� ��"���(4�) 5�0�����6>��5�(D4M�6*"M�/6*")��0 �"��"�1�����&�&�� � ��1�"������Y*Z�G���0��1����� )��,"��(4�) 5������� 6 +��+0�10*6?����6����,����� �"��,"��� ���6�,��6�� ���5,��5� �&1 �?���,?���� ���,�������()������� ��6�)������� ��56���(A"*C&�&1�"*C&)������� �&1?����0���)������� ���������,���(��)������� +�&�� "'�1����,���(�����6 +�������� �+ �(A"��C/"L���� ���(��(?������ �)�������"���*��5 ������ � �(A"�1)�"��C/"L�6��&+>��� ���"

5 �������3������'���������(����(�����( ����(���,3�5 ���� "'�1������������(6 +������,3�5 ���� �&1�����'�����56���&�" )��56������/"5 ��(A�������6�����&1) �� )���� "'�1������������56 +�������6�����&1) �� )��������

I.I. ���,�)�+��5� ���(4�) 5����5�����,��1&/"����F��?���������/�������,��(A��������������������������5(�����?���)("��"'���� �5����):�����-��)L��#�0:���'58��-�

�)-<��)-��/�� @ �56�*)-���'/��#� ����?$%��%�� ��"������-.(��"46��6���,��5�"'���3 �6��6��� + 2����5�1�1&/"��� ��( ����� "&�� �� 2�4M 001 ����? �����-. ������� "�� ��6� ��5 ����?��� (5��?���3�5�6�&1�-1 ���>�G+>����(4�) 5�� ��1��0)��������������� ��*)�)*�����-� �'K�����?$�����?$��0��%��%�� '�����-'��#>'58���)--��'58�������*)�)*'�-�����#%��%��

4. ���#1/)�5�#6����0���%�

B.< "�����5��1&/"����F��?���6 +��&�� + ���& "�>�� E��� -���� ��3� ������ 5�����#1/)�5�#6'58�5F���*)�'���):� %���;�-����0��������/�����/�� ������/:1%5�0���������)��%���0� 6 +��+0�10*6?C�����"��6>�(�12�3.,(D��*) �(A�>�� E � �6��0�1C����6��������,F 6�6"� 55��5� (���������� ��/���) �������

� !!"�#! �!$��%��%�&�'�(�'"# �)"� �#! � #�* �&�'�(�'+��#��%�

&�'�,-"# ���)"� &�'��/��01�2���"���)"�

)"�&�'�(�'+��#��%� �01�2���+��#�%�

�0� !!",-��������������������

�#�#��)�#� �#!"��)!"�,�����/�3 �-�

� !!"�/��%�14��5����/�1�6��3 ,*��� 7��#�1��-

Page 61: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�%�($�! �1��+�1&�+,� ���/)*"�

,!�1"#�4��8�! ���+,� ��� #�

1���� #�! �9-1��/+���44 ��:98��1&��,*5#�/�

+#��#�)�#1��(/�*"�+

��� ��98�&��+#�1��+�� !!"98��������+8#�+#����/

�! �1��+� �#1��+4!����(/��"�� �)"��"��!6� �/�)" #�

98�������*�%'�14��5 ;

B.� �>������(��6��">�& �(��"4,(D��*) ����������� ��+���

B.�.< � 5 +5����(A��(6��">�& �(��"4,5F���*)�����J �3������(6��">�& �����*���� ���������(6��">�& ���&����� �(A5�

B.�.� �� +5���5����������"�13 +3���/���6���0���� )(��J ���J �(A5F���*)��)�--����5�������" )(D��*) ��,3���6��">�& �(��"4,(D��*) ����J 6 +��+�0��1?����������5�����������-.���0����� +�&1���������� ,�-16����5�������-.� ,�� �/���/����������1���5 ���5����� �3��-16�������( ������ +��5�"���&�(���������,��������/�� ,�-1 +��5�1&����( ���"���(A2����&��53��Y*Z�G�� ����1�&�������� $ �6��&���/��"�������1&/"��(�5�)����&�(�&�� ,�-16���1&/"����������"�f�&�(�&�� ,�-1 +�����&��1� )(�&�� �(A5� ����2"�?�0����� $ �6��&�� �/��"���1&/"�����">�& �2"�?���� ����2"�?�1� )&�,6 6�6����� ������+"',3��� ��,3�2"�?�0�����������+�&����� �+�0���/"�����2"�? ��" +"' ������,��������2"�?�0����&� ��"���3��+&���5����(A(D��*) ����-16��2"�?��������+"'����� �-1�+">�& �����,�6��2"�?�0���"'�������"�0��1� �����/�������������� ����0�/"�����2"�?�0���(������� "'�������15���(����0���� "���� ��" +"'" ��&������(����&������1�������� ��"'�(A����" ��&,(D��*) 6����������6 �0��1� �(����/����5�����&��

B. ���������-����� ����?$%����/�����'���):� �/����������@ �56�*)-�#>��#���/0#� ����?$���#1/)�5�#6��5F���*)�(�1��)*� 5)������5F���*)��)�--�(�1��)*��) ���������������?$���'58����-%��� ��J '���#/)�����%��'�>�%-�/)#=?$ 5 �������3������5���'��"&*���/��"',������� +5��6��� �(A���� �0��1�� +�(A(D��*) ����-.6������"�����(���-. 5����� EE��"���>���(����� ��(A��(�� "������ ��5�"������3�),�� �(A���1�/+ ����3�),� +�(A����-.,���6���������,�(? �����-.) ���6��������(4�) 5�����������(6���F��1�������3�),�6��">�& �(��"4 + ��,3����"& )(���0����-���(�� " ����(A(4�"�&

Page 62: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

����� +������+�0���&1���1 �0��1��(�� ""&���(A���5(�&�� ������1�(A����-.(D��*) 6��">�& ���������5 +������&1� )(,���������� �(A5�

B.% �����"&������,������������-.(D��*) )�������"������� )���� ����3� +3��0*6?�����������������,���5�� "������3��+����"5��� ,���,���������6��5����������"'5���������� ����5�0�10*6?����6��"'6��0����-�&������6*"�3����� � �+6���������?���2(��,�� �����������1� 2(���&���1�"���&������ )���6���(A "�����3 +�&�C ��� (<) 6��">���)*��&�(Z����� (�) ">�����?�"�� ( ) ">�����+���?���6���1�������" )��� + �&1 (%) 0����-��/��&(�12�3.6��)*��& +�1��� )���� ���(4�) 5�5������� "�&��",3�?���,����""�&1�6C1 ���,������6�������"'5�������� �����6������"'5������� �����6��6>���"'5���6>��� �*�,��������E�5�"'����E�5� �*�,�5���,3����?�,"��6>���"',3����?� �*�,����,3��������0����-�5��5���"'5���,3�������� ��,3�����E�5���������2�������� "6>�������),�����,3��������0����-�5�����6�����5

B.$ ��������� ��"5(�1"���/��"'��� 1�� C5F���*)�E �):� %��%������0��)���: ;)��<����: �����: �������#���)���������: �-�����0� #���/0#� �� 5���#1/)�5�#6-�����-��-���?���-��: ����#�� ������'�����)*%5��J ����J G0��#�� ��):�'58�'�/����):����������1��%��#'#��#��� �%��%��

7. -���'58���������0���%�

8.< ��� H ���)6�����+�*��6>���������,���� ��56���������"5��� +���F�0������ ��� I �(A"��6>���������,��"����" )�F��?���G/���(A����6����"��� ��� B �(A"��3�+���"�����5�������F��?���6���(A(D��*) ����-. ���� �����+�(A������6��������������F��?���6���(A(D��*) ����-.���&�� -�����/0#� ��3� ����):�-���'58�����-��-����#1/)�'58��� � <�� (�) %��'��%5�)��5/��/����#�G����?$ (� ������1�>�� E,��� 8.� : 8. ) (") %��'��%55����-����-���%5� ����?$'�/��):� (� ������1�>�� E,��� 8.%) �/� (&) -���� �/)#=?�������?$� 5

���):�-��-�1������������ '�� (� ������1�>�� E,��� 8.$)

8.� #��)��5/����?$ ���(4�) 5��>����"3�)� ��(&���(��� �(A����-."���M�,���5"5���(��"�F��1("5� 6���>�� E�� � (�1"����� (<) "��0�������������?$,��3��&� �&1 (�) #��*��G������'�����):�-����/�'����������?$,����"�/+ "&������

8.�.< ���(4�) 5��>����"0�������������-.,��3��&� �3�0�������&�����3��J 2���� �����5��15������F��1� �3��3�� +��6 �6���������1��&�����,��3���0���,� "��&�"'����3��5��"����&����� +(���� �3�)������"���&1 $ �6� ����15��

Page 63: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�0��������"����&�������3 ��� �5�"& )����'����������� ��5,�-1 +��"2&F1����������"(4�) 5�?������)�>����� ������������,��&� $ �6� + ��5����5�����&����&���(��""�����(���"������&����)�� +��&�� ���������5�1������5��&����&���(��"����-. + �5���5"'">�& ��0������������-.��)��6����" )����-.�3���� �6�� �&16��� � �(A"��6>���� ��-�(�3g�G/���(A"��6>����"���M� ��,3���(D���"���M������6������16>� �(A5�

8.�.� ���(4�) 5�)��6���)��G�������0���� +5����&1������������-.,������/+ �3�������1���&����,�"'���"��"�16)���&�5 +��5��1���(�"����(&�����" &�������(5��"����&������&���/�6��� 2��">���M�&����&��J M� ����"��6>�� ���1"�����,����� +5��&��J � + �(A5� "��"�16>�� �"&����(A�&��,"����"� ���5��" )����-. G/��"'�����?�"������E���"���M��0���,����5��)����" )����-."���M� �����(4�) 5�������?�"���3��+�&�� ��5"'� "�"��(U5��������5� �(A�&��""������E���"���M� �5����(4) 5�� "�&�������5�"��(DEE�����E�- �0��1/"���5">�& �����E��(D������� �(A5�

8. #����#�G��3� ��� "������E��(D��� +���6>��0���,���"��(DEE��������������F��?��������(�� ����6>��0���,���"������� ����* �������� �5����(4�) 5������""& )��5���"���������� � � +���������F��?����&��"'� "0������6�"�G�(�*��5���F��?���� �(A(D��*) ����-. +,���*� ,����) ,���� ������?�"��5���J ���

8. .< '����� ��#�!/ ���#>����/� �3������0)�����5Y*Z�G�� "'0�����)��"���0*62?)��� )��"���Y*Z�G����)��� �0���,�����Y*Z�G�� �����0)�����5��"�����1"'0�����0����-���*F1)��� �����0)�����5��26�1"'0����������55�)��� ���������0)�����5�(A6*"�."'0�����&16*"�. +������?�"��5���J )��� P&P "��"�16>���&���+�"������"�&������5* �3�

8. .<.< �0��1�"��������'����������"��������>������ ,��&1����3 ��)�(6 +�(�� 0�0)��'�"*C&?����/�0�����&1 ����������#�'���,��5F����):�'/�

�):�#�/�*5�/�#�'���,#�!/��/�� �-�'58��):�#��1��-���@����@��'������'����;)�� �0�-���� ��3���/�/)#=?�����):����?$������/�;)��������'58�#/� %���;��)#�)���0��'#/����)���0�� ����)��6��5������>������0�1C�����&����&��� �3��������5�(D4M���5� ? ���*(D����5�(D4M� ���-)��0 �&������,����0�1C����6����,������&1&1���-.���� �/�����,�������"������E�5�6���6�������6 +�"������&1"��&1�F��?��� �1�����������������

8. .<.� �0��1��6��)��� #��-����#��)��$%���#�#�� � %���;�#�/� �����0)6*"�.�/�0�����&16*"�. � �(A"��"�16>�6������&���" )��5,�6��� "�*��"&���6*"�.

Page 64: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

8. .<. �0��1������,��& ""������E��(D���6��,������F��?���5��5�������(A���� �������?���6 +��&����,3�� 5�. )*��& 5 �5 ��� ��� �&1) �� )���5��,����"���� �����������������&����5�/�(&������ �&��0�6*"�.������"��(&������

8. .<.% �0��1�*����" )"��6>����1 ����������"��(4�) 5�?������"��6>�������)�6�� + ���1,�������*���(�1-�5����"���"���*� ���6>����1��������),��5,�)��� �"���������������'5���J �(A�������*"�&1��F���,�)��� �/��(A6������"����" ��",���� "(4�) 5� � � +0�0)?���� ,��(A���C/"5��������) �/�0�����&1?���� +

8. .� '����� �#�!/ ���#>�����)#=�����)L�����������0:� 2���� ���������0 b�,�����������5��������&�� ��5�1�&*�0�,� "� �/��������� �0��10�1��� 5.��� "�6����5,����&�C�� ��" 6 C1�3��+���0&����" �0��1��-#>�� #�!/'�-��##>�� '58��)����):���:� ���������5�5����/�*)�)**),;%��%�� '����� �������';����:�/��-���# ��-�0�5/��������0��)����- �/���/�����'�����%������)�� %���;��/�����'����1��-���%��'��������'�����%�� �����1��-���'58���#�$���'58����%�� �����1��-���'58���)--����� ����1��*)�)*%��

8.% #�5����-����- "���1�����(����5��5�������(A���� + �"��"�15������ ��(&�����-.��(���&�� � �5������ ��(&���56��(�������-.��(������ �5� "(4�) 5��"��)����&1�������������1(4�) 5�?��� � "�1�����5�����"���)��5/���-���@�� ��������"���/��1���������� ���(�� ��������������(���&�"'�� 5 ������"��� ��(&���5"'�3�

8.%.< #������-������� ���(4�) 5��"��)6 +�������������1(4�) 5�?���"'� "�1�����5�����"��� ��(&���5,��5���(��"�F��1("5� 2��"��6>���5,�����������)�>������������(A���� �6������������E��(D���"'�0�����������(A�������"���&1,� ��"(� ��(&���5,�,��5���(��"�F��1("5������&�� �1��'�������������5,��������� ���5��1�����5������������� G/�������'�>��������������-%5� �'������%-�/)#=?$���� %�� �-�#/)*� ��0#��-)���-'������ ��* %��'/����%��'5/�����5/� �/�%������%-�/)#=?$��J '/� �/������&1������'��������5�(A5 �5���5�� � ""��6�4M��/�������&1���(4�) 5������)��&*2���(D55��&��

8.%.� #��1��-������ "(4�) 5�)��6���������)�������."&������ ������(4�) 5�(�/�6���*��&�� ��5�1������""��&��&1������"� ?.� "'�*��5�����������������&�6������ ����"��5������-��������/�5����-��������0:�� � �(A"��0������&���))(&��6�����"��(4�) 5� 2�����>�/����0�10*6?����6����5�6�����"��(4�) 5�����"��,�������(��/"��,� 5�����������,������(A���������(���&1(&�������������� �,��(�����&��

Page 65: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

���&1 ��5�/������/�����������""��&��&1������"� ?.,6���*� "����,�6>���5,�������������"6���*�"'�(A�0���"��6>���5,�����3������� (��"��� E���51) ����������������1��&� (��"�E� EE��51) G/���(A�0���"��6>����"���M��6�� + *������-�0�#)*���� 5/��<5��� ������ ������):���J ���1),@����*��/�������)�-$�/��#>�� �):������-�)��/�5����-��3�������'5/��/��-���� ���3��):��)��'��

�6����� ���5������""��&�� �0��1��(DEE���'����,��(�����������/����,��(�� �&1"��&�5 -�����)3���6���1�"������" ��5�/������������(�����"&����2�4M 001�&1? �����-.,�J "'��2����5����&����"���������-.���J (����O0�1�������� ��� ���5������"� ?.� + ��,3���,������ ?. �5�6 +�6������ ?.���� ���&1 "& )��������6�5&������ ?.�(A���������"�����(A� 5�.)*��&5 �5������

8.%. #�/���:���- "(4�) 5�)��6��0�����&16�+���5������?�"��5���J �3�(<) #�'���� 5 ����"�����"����&��������"��2��&16�+������,���5 �66���1��"��(��2����'��� ���(��&����� ,��(A������� "& )����5��)����" )��(������6����������/"(�*��5�� ����"���0������-.������� ��-�(�3g�� �(A"��6>����"���M� ���� "���0����( +������0����/�6���*��1���5*5�g�����g�6�� % �����(�1"�)" )�������,��� ��5�10&�"������ EE� 55�F��� ���� )� EE�&��� ��5"'� )&�,�-1 +��&���5�����"����'�6������� � �6������"" ����(A0���&�"YD" ���� )*��&6��KW""���M����+�������5�������"�����2&"F���"�&�� �1��������'2&"�����(&����"�����(A5 �5�������" �0��1����������'����,�"'������5�������>�� E����,�J &�,"����� )��6��������5����>���'��(A0�1��� 5.�&���0��1����"��&�,�J �"���/+�&� �5� ���,3��F��1��������&*�0�����J �0��1'58��3��������#��'58�-)�-������-5����-���0:� �(A"�����"��&���3 ����������"���0����( ���55��5�/�����,����-.���2����5����0���6�� + �/�����/"������"���&���0��1��5����0����5���">�����"5��(�&�� �"��"�+�F��1�����(��� ���"��"�(A������ �����������5F��,��"6>�,��"&��/�����(&���&1��� )��� ,�-16����5�&��)�������" )����-.F���" �����,�6��">�& ���""���0��&�&� "��&��1">����)�*���"����("5��&���6�� "

"��&16�+���5� �6>�����"��?��/�� ���"� (�) #�'�������#��)������-��'���������� �/����-���/)�-)������#�$��#%55����-��������0:�� �/��'��%5�� �#)*������):�<��%������������ ���-'/� ��?��+6>����&��������3� (") #�#1������?$-��'�����#)�%�������������-'���'���������� �&1 (�) #�56�*)-������)#<���3� ���������5�������" 6 +�� 6 +�������&1�&��J �

Page 66: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

������"�������������/�����*� )��6���/�" )�"����"�����("5�6����5�����"��"����')(Q��6��"�� �5�)��6����5�1�&)��"(����������F���"�0��������#�$G0��5�#6�� ������- �/"�����5�&*�0��&���0��1��5�&*���"(����F���" ��5�1�����������F���" �������)���)�")� ��'2&"F���"�����(&����"�����(A5 �5 �5�����'��55��� �1����/"���F��,"&���&1��5����������������F��,�� ���-�%5�/��*��� �3���#'���):� ���6��(4�) 5����+)��6����5� "�1(�*�������55��/+�� �&������" )������55� +

8.%.% #�����'����5����� �3���#�� � �"����"������� �,���� "��5������0����6���+�1���&�0���0��"�"�����?��� �/�5���0������0���(�1��6?�F�0���"��� )��� + ������?�"��5���J �3�

8.%.%.< #�;���������?�F��?���6��">�& ���"��� + �3���������26�1"'0�����������26�1���� >�����6*"�.��,�� 26�1��26L��"����� +������+ �(A5�

8.%.%.� #�'����������������(A���5��5���F��?��� + �0����1�����3 ��������/+ �����0����0��,��� ) ����)��6��/�" )5�������&��5 ��&>�����(,��5���&/"G/��,�-1 +� ��������-.� +������ �5��(A"������))�6��312�"���������,+>��5���5"+>��&��� ������5 ����5"+>� "'��

8.%.%. #�'�����? ����**5�)*����/ �"����""������������ �����*-?�������� +������+ �3���� 6� C�& ���� 2�55 ((1 � ��1 6�1 � 5� ���1 �"� ��1 C� 6?� �5� �����1 (U5� (D�� 6?� ���?� �*�)"�� (DEE� P&P �&1�15����0����*-?�����&�� +,���0���0��&1���*&" )�*-���������J ����"���/��1����E�5��� �������������� ���'����(���)����6I�)��� ��)#'���,�-�%���/�� �? ���NQ����):��/���'#���0:�%��<����� ��"�*���0���)����5���J 2��&1�&�"������E�5� "'������6���5������)����0������6��"& �5������"����6����"��")��� "6� ��""��(U"'(���/��*�����6���� ���

8.$ -���� ��3���/�/)#=?����� 5���):�-��-�1������������ '�� "�����5�������(A����5������5��" )�>������0�10*6?���� ��,3����5���F��16������1������� ����5��5��6��������.���5�� ���������" )�>������0�10*6?���� "&������

8.$.< �3������-���/0#� � ��(��6���5�(�1&/"��� +5������F��15��5���>���,6��0�10*6?C��� �3��5���& "L-1�(A�����1&/"����,3�"��">��� (DEE�������(D���E�-�(A����������������5��,3���"���(&"J 6������"�� �&16*"�.�(A��������/"6*"�.��,3���(?����(A���"&�J ����� �(A5�

Page 67: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

8.$.� /)#=?����5F,,� � ��"�5��1&/"����F��?�������"5��� ��5�1�"����"����� 5�� �&1�)�")������-�"���?��/+�����3 ���-1 �&1����-.��(���15�������5�& "L-.�����,�������/��,����5��' �3���(���������(A6*"�.�&1�����(A?�5*,����' �&1�������������6�����&1"��) �� )����,����' 2���O0�1��?���,KQ���"*C&�15���� )6 6�6���5��"���/+

8.H '�-�@/���-���� ��3� ���-���'58�����#>'����� '��1'58�-���� ���'58���������3� ���'�/��):� %���;�-���#��)��5/������*���3� ���'�/��):� 6 +��+5��� ����6�� �&1 % ���)6�����+"'��"&������&����� ��%��� ��)#�3� ���-���'58������������;; �1���'#��-)?��)�'58�'�-�������#�$ �#�1/���%��� �'���%�� -)?��/���#�$��%����<�#�'#���0:�%����#

8.I #�����'��%5���#�G�#�� ��3� �����#�����'#�����/�@����)#�����0:� �3������"��&��������Y*Z�G���"���/+ �&�����(4�) 5�0�����&1"��&� + ����"��)��"������ "Y*Z�G����J" �������Y*Z�G��"'�1� )(�� (�0��1"��)��"���(� )� +��������� �(A5�5��������Y*Z�G��) ���(4�) 5�"'�1�"�������>�� E������ "��&��(A����6��) �� )��)�*��� (�(A� 55�) ������5�+�(A5 �5������6��� ����5��,�3�)(�(A� 55�) ����(4�) 5�����3>��E,"���0����������)��"����"�"��&� �����&����"'����0�"0�"��,���"����1� 55���""����"��������" ���6 +�����2�"���������6'�������� �����'#���#'�-� ��'�-��)* ����):�#>�)* #/�'58���'��)* ����):�%��-���;�*'���'�NO# "��5F���" ��'#���/��

8.B 2��?��������(*�*3�&�� �"*C&��5�����"�������6)5&����&� ���"*C&��5�"���/+�����" �3����� " ��,�&��6�&1�J ����1�(A3 ��2��J (�����>������2��1) �/��"���1&/"���6 ���">�& �,�&������ �-1,�&�� +��5�(A�"*C& �5��-16�����-�� ��)��&1����,�&��� )(2��� 52� 5� + ��5�(A"*C&����)�����&�� (6 6�6���"���5�/��� �"*C&�1� )(��� ��������5�/��� �/������"*C&�1,��&1 �5�����6����"&1(���"��*� �����"��&�6��G��&/"����,��5,� ������5*�+��&1 ���������'��0���'����#�� � %��-���/�#�'/� '������?�������-�*��* �?$�):�%����#�'/������/� ����-�����#�$#>%��-���%5��/��)� �#�)���'�-��)�#>'#�� �#���'�-��)�#>�)* ���6��������������6*"�.�6�� +"'0��&��) �*��������������E�5�"'���� )�& ""������E�5���������>� ��5�/�0&�"(�(A�"*C&��"��,0��)5������ ���0��"���������5 ��0���� )����� �&��"'����&����>����E�/����5��� "5��&1 ����&���5 +�3 ��2���/���&�� ������+�1�����,6��?�����������" �����"������" ��&�/����5��� "6>�����������1���&�(�����6������&����&��" #������1��%��##��� �%5-� ������/��?�J ��:��/� '58���@���/������1),��'����

Page 68: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

8.8 #�� ��):� �#*����� �M*��* �?$�0������������3����'���#�� "�)#��� �" '58��3��� ����?$���#1/)�5�#6-���'58���������������� <��%��'-���-��������/���#��)*� ��):�����-����� �3� (<) %��'-���������������1�0��0��3� ��� (���?$) �):�J ��� "�+�����( �+����� 3����+J 6>�"��������+ ���&������+ ����5*,"&�������+ �(A������6���� �(A6*"�. ��,3�5 �5 ����� �&16��">�& ���������+"'�(A� "������" �&1 (�) %��'-����������������� ���-����5����

8.<! '�-�$�1����������������</3'�-���������� �(���?$)����� G0����*/���):�#����� ����?$�/�#����� ���-��:'�� '58��������'58�5F��)����'#��#�#���1#�������#���R-�#������� (�/��R-�#�����#����):�-���) ���'���#�� "#�56�*)-� ���" ���� "#��1#���I�" �0:�

��������� �'*�:���/)����#�'#��������#>��-)?������������"�1,�� �"��,�������� �������*��&10���"6*"�.���������

��������� �'*�:���/)�-)?�#>�����;;2���O0�1��������� (�) ��%��� ���#�$ ��������������� ���(���+���6���� �(A6*"�. ��,3�5 ���������� ��"�5��(A��) 5����2&"� �/��"���������"�1,�� �"��,�������� �+���5������*��&10�6*"�.���� �&1 (") ��%��� �����)� �����������"����+�������6*"�.�&1�������*�����"������������-.6���0&���0&�0�,�)��� ����"��) �� )"��) �� ),�)��� �&1����"���&�"�&����"��"�16)����-.)��� �1"��F0 "��3�5� �&1"��6*"�.�/+�� ( "(4�) 5������"�1�����,����������/���5 �/����",�� ���5�������&*�0�� �/�5����6����������?���������( 2����������"����+������� +����������(�*��5��KQ���� ����(*EE�F�� ���� ����� 55"�&���*2�� G/������"���������"���33��3������" )����(�*��5��KQ��3 �� �����(*EE�F�� ���� ����"���*� &&�"�*2�� ����)

��5����-��'�/���:%��5S�*)� ����)�*����� �M���5�!�#-)�-� (�����) %�� <��5S�#):�,?�)�������@ �56�*)-�%��%�����5���)#=$�0�������)�'58���- -����5�#6'->�*��* �?$�� �-�����-��-%��

8.<< �#� C�)#��� �E �):�'#��'���5F,, G/�����&���1� )��� (<) ��5��(DEE����6 �����*�25�����������"���&�5��"��&�(����������-.F���"" )"���0������) �� )"��) �� ),�5��� (�) ��5��(DEE�����6��6 ��������������6���"���/+�������"��"�16)����-.6��6���6 +� H �&16���>�� E"'��� ( ) ��5��(DEE�����,������(A�����������-.6 +�(������(A���3 ������ �3��*�"'3 ������ 6*"�."'3 ������ ��"'3 ������ 3 ��"'3 ������ ��5"'����������"������-.� �/���&���"&���3 �����-.��"� �/�� �������(A"&��5������-.6 +�(�� �����/�"��� "������ ���

Page 69: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

������5�#6���� �#>� �%5������%������������� '�����5F,,(� ����*�("��E�-)����6��6 �������(�*��5��6*"������(A���3 ������

8.<� '����5�!�#��������������� ����?$�-�� ����?$(5��)-�$) �/�

5�!�#��������������� ���-�-�� ���- #>������� ����?$�/���-%��-��-���'58����� ,6���*�(DEE�"'�1�"���)����"��"�����6*"�.�����"����������6�,� ?. �)�+��5��1�"����������6���� C�)� $%���;�'� '�%���;��)� $ %����-)�'����)� $����������������#�#�)� $E �+���(DEE��)�+��5�� �(AF���?������0�12���) ����

�����5�������(��5��(��""'�1�"��(DEE���'��� C'��������-'#��-)?�����

������#��� 5'����#/�����<@6I)���(#��?���?$) ��������-�'#��-)?���������0�#��?���?$ '�����):�����#�$������'#���0:� '��������-%��'#��-)?� '�����):���-��������*����� ���-)�'��E �����(DEE�� +"&���+�1����������*�����- ��'��56����)�1� )��""��&�5 -���(A�*������(A�"�1��������0�6*"�."&��61�&����� ����� 4 �/�����������������+���"(������"���*-����-. ��5�����?�)��)��-.���6��5 �5 +�� �����������2����5���� "L� �+�(AF���?������0�1������

�����5�������(��5��(��"�����6���.�"���)�/�6���*��&������J "'�1 ����6*"�.� �������������,O )0& 6 ,� ����10)��'��� C��-�):�'��'58� ���;-��)���0�� G0���)�-#�� ��-��1�����%-�/)#=?$ ��'�'58�����0������!)���J %��%��'/�E )��6��6����C� 6?�"&���1��'�������6���������5 )��6��6�������?�"&���1��'�����(A6*"�.�����5 �&1)��6��6����(DEE�"&���1��'�����(A� 55������5 K)*�/)���-#>�/)�����-� � ���;-�'���� ������/������-'��'58�#�����#�$/���J %���;�����������'!=�������'�� ��0#�/������������)#=��-�'���

#�� ���#�$��������������:'���1�������)���-)?�� #/�<���)-<��)-� �/�K)*�/)� ���������0��G0����/)#=?�'58�����*�)�-� 5�!�##�'/��/�5�!�#�)� $ ����#-)�-��/���5����-������������� #>��5�#6'->�*��* �?$�� �-�����-��-�):�'�� ��:��������������#�$ ����<� �������

�/����-���*����� �M#)*�����'58� ����/�����#)� �����56��)���*6?�S�(A?���3�5����6��(��C��"5 �5 ����(& "L-. ��� ��)��5�&16��5 +� �5�"'� ��(A����6��5"����,"&*��?���6��5����"��� ) ����00�G/���(A?���6��)���*6?�S (��C��"5 �5 ����(& "L-. ��� ��)��5�&16��5 +��3�" �5��00��(A����-.6����5(�������2������������)�����(A��������00� �&10���"�����"��� )

Page 70: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

8.< �3�� C�)#��� �E �)�'#���#5F,,'������'58��������� 5�� ��'#����'58�#/�-��� 5�� �����@/���'���0����/)���� 5���/��0�������������#�$%�� ���)�1���������*��!�����5�����#��������������

-8�� ��*�+� ,���",-)"

16'�(#��1*0�4�1�2�&� #�1*0� 16'�<=�4�1�2�&� #�<=�

16'�(���4�1�2�&� #�(��� 16'��8�)4��4�1�2�&� #��8�)4��

,���"�/� (#��+#��#�

,���",- ��������� ,���"�/� (#��+#��#�,�7"���/

+#��#�,�7"�*��� +#��#�,���* #��7"�(/�&��

������� ���!"�#������$% T

(��*�+&8�� ����������1"#(�' ��/�>)

�9. ��/0#� ��/��%����%�

<!.< ���(4�) 5��>����"����������>������ ",�����5��1&/"����F��?���6��">�& �(��"45�������(A����" �&������"��������� ���� "��(4�) 5��0����6���+�1��(�12�3.�1�,�����"��(4�) 5�6����"&>�)�""����+ � ���3���,�����?����� �������#�'���,�-�� �� 5�������-�5F6I�

'58�������'!=�)!����$������ ��'!=�0������������� '���������)��� ��:'58�����'��������1%5� ���*����� �M%�� �/�%��@/'�>����� *��3��� 2 �)� *��3��� 2 '���� �/�*��3��� 2 5U #>��

<!.� 0�"������>��(A5�����5�"�����"������E�5���(�12�3.�����,�)��� �0��10�1C����6��(�16��>�3�+�1���&��� �5��(�+���

-8�����? (/�*"�+ 16'� (�) "&'"�����((���+8#

(�) �'�'����)&&����:6'� #��1*� &�8�@A

+#��)�#� !!"98�&�8�@A-� +&��)"�&�:55�

16'�*���)"�7��������+8# (B) )'����"��*�:6'� #��1*� &�8�@A

+#��)�#� !!"98�&�8�@A-� +*���)"�7������

16'����(��+&� ���+8# (�) +��:6'� #��1*� &�8�@A

+#��)�#� !!"98�&�8�@A-� +���(��+&� �

Page 71: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

16'�C�"��+8# (�) "����"���':6'� #��1*� &�8�@A

+#��)�#� !!"98�&�8�@A-� +C�"

16'�&�&�����+8# (D) ,�-.&(�/��"��:6'� #��1*� &�8�@A

+#��)�#� !!"98�&�8�@A-� +&�&���

16'�+���8�5�@(&�� ��+8# (�) �'��'��*'��0�:6'� #��1*� &�8�@A

+#��)�#� !!"98�&�8�@A-� ++���8�5�@(&��

16'������(� ���!���+8# (E) *'��&&'(�/��"��:6'� #��1*� &�8�@A

+#��)�#� !!"98�&�8�@A-� +�����(� ���!�

(&��&8�� ����������1"#(�' �B/�E�)

<!. ��"0�10*6?� �1� �"&����1��'����� )�����*-������3 +�&�C6 +��&���1��)��-.�� "'�0��1�������5�� �(3 EE1�(A5���5* "&������

<!. .< �����/�<�--)55� (���"�����&1���5��"��6>�)�(�&1�����"��"& �5���&���"��6>�)�() �����,����5�� �(3 EE1 ��������6��6 "���"���/+���"��&�6 +��&�� �&1����/�0�LF ����"��&����>�,���"��"��"�16>����6��"�� 6������ �&16��,� ���6 +�"��,���"������6*"�.�������������������5,������� ��5,�����&1���6���16>�)�(�&1�"��"& �5���&���)�( 2�"��6���16>��"*C&"���� "J �/����� �/�������&12�55 ((1�+�(A�6�?��� ����(A?���6��6>��,���(A�6�����

<!. .� ��������)��� (���"������>����5� �� ���" &�+ "���&1,� 6�������"�16)��( ����� "&�� �� 2�4M 001(� �� �6��"��)�&1? �����-.�&�� ��"���>�����1� � )�(�"*C&"'�1���)�>���5��) ���,����5�� �(3 EE1 ������&1����&1�����"��"& �5��)�(�&�� �����"�������>�����1� ���6���.2��� 52� 5�6������ �/��"�����5��1&/"����F��?��������5� �� ���" &�+ "���&1,�"�16)����-.�+��� "'���"������E��(D���"���M�6��5��(5����6���*��&��

<!. . !�/ (���"������(A("5������5) ��������5�� �(3 EE1����6��6 "��"�16)����-.6��6���6 +� H ���� ��5��������"�"*C&���)�>� 0���"��������������5������-. ��5"'�����/������(A("5�?���������C�& G/����56���(A("5��+������*-��) 5������������,� ((�1F ���) ��5�1��& "L-1��� 5�� �&1�)�")������?�2��� 52� 5� G/����"���0)��5������+�16��)����� �����������(A�*�,(D��*) ���(A������� �/��C�&����������&,���������*� ��2F�

Page 72: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

6� 0�. �&1�/��00��� �0��1��5�����(A("5��6��,� ����(�*��5���������&��6�� + ��"��50�����(�*��5�� ��5�����������������-.�00�G/��������������(�*��5����

<!. .% �)���� � (���"�����5 +�� ������5 G/����"&������&��,��� H.% ���)6�����+) 2��?���3�5��&�� ��56����C�& ���&1�(A��56����� ������?� �&1��56����� ������?�"'�����56����C�& �0��1C�&" )� ������?��(A�������� ��"&���������G/��" �&1" �����"��&����������������G��� �&1&������G������������� �/��"������E� ������?��+�����6>�,����" ��������&,�����(4�) 5�)��6�������/�������),�1� )g��� G/��,�������*�,(D��*) �&1����&,����� +�����/�">����,0���2&"��������"� ��������/��00�,3���5�+

<!. .$ ��3 -,?�)��� (���"�"�������������������,��"����" )��(����"5���5�������(A���� F�5,6���+�����/���(��/� ?. $ ��,3���5����������,F�L�6�) "�������'���������(A������(DEE� G/��(DEE���� ������?��(A��5*,"&�,���"�� ����������55 +�� ��(A"&���&1���5��1&/"�������-. (��(��) "'�1��'��(��5�������(A���� ��,3�5��6�����"�1,���(A(����5 -��) ����5��6�����������1�(A (����6�4M�)

<!. .H ���������� (���"������)��������&��">�� �) ��������� "��(��5�������(A�����&�� ��5�����"����������������)�������������1��5����(��6 +��&�� �0��1��'�����������1�"���� �F��1����00�6���,3������)��������2&"J 6���(A"���)���6*"�.�5����"���*� �00�6� +��'6 +�6*"�.�&1�*� 6 +����&13 �� 6 +����)�&1&1����� 6 +�F��,�&1F���"��������1������"

������"���00�6��&����5�������������+�61�����"6���1(4���?6*"�.�����������*� ���������E�5�5��(��5�1�����/������(A"&��5����(��������6����� �&�����3 �,��(����� (<) ,?���3�5������ 5�. )*��& 5 �5 ��� ��� ���5���(?����&1��?��� (�) ��(?����&1��?�����& "L-1�(A5�& "L-. ������6���� �(A6*"�. �(A� 55�����������,) �� )���,�� ( ) ��(?����&1��?�������5*(D�� �,���"�� �(�(��(5����5* �&1�����5*� )� "'� ) (%) �����/����,��(?����&1��?����1>�6*"�.��,�� �&1 ($) �����(DEE��"���)�/�6���*�"'�1������ � 5���)����/�����#�$ �+���"�����6*"�.������������� �&16>�,�������������� ��.������� C'���������)��0�'#����#�$ '���%��� ���#�$�0�'#������)�E 6*"�." )��*6 ������C �" �"��� )��)�����" (���������6����+�*� �5� C'���� ���#�$���������0�/�����)� '������)*%��'�/���������)��0�������<� ��������� ��:'�������E �+�(A6���*�����6*"�. �/���00� ���&1������ ��� ���?���� ��+5 -��

Page 73: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

��*(�&���������5�(A"&��5��� ���� ������������� ��.�&�� ��5�1"���"�12�������O )0& (��������&*�0� 2�����(4�) 5�������,��1,���(A(�3� + ���0����� ?. $ "'��(�1� "L.�2�? �����00� ������� ���� ���������1 � �(A�*�����(&��6�����"��(4�) 5�?���,6��0�10*6?C��������(D��*) 6 ���

<!. .I ����--�,?�)��� (���"�������������"����" )�F��?������������&*�0���"�0&��6*"�.�&1�0&��"��&�) �����(&��������(��������00��&�� ���(4�) 5��1�"�����������������,��"����" )"�1)�"���&*�0� �&1����,��/��F��1����00����� ���0)����00��(A�F��?���6��������""��&��&1� ?. �5���,3����������(&���))���������E(�*6�O66�#M�) ,�-1�����" "'��,3�F03���/��6���6�����6�����6����5(�*��5���/+(� ��56�#M�) �00��(A�F��?���6���5'�)��)��-.����5&����&� ��)�� �� 5� )���*6?�S��������,�(�*��5���� �&1(&��F ���""���)"�6 +�(��

���(4�) 5�6����0)����-.�00�����"��)��&*�����&�/� % �� +��&�� ����0�6*"�.0�"��&���+�3�� �0��1��-�/������#����'�����/ #%#����'���1/�'5/��#%����#�%���/�� %����������#/)*'����'5/��#%��%����# ��� )����F�0�&1)���*�� �������"��5������������5 -�� ���F��16���15�����+� �&10���"����������6�6 +�(�� �������*�����,6*"������)� 6 +�"&��� �&1"&���� 6 +��& )�&15�� �/�����6�����0)�00��&��,�-16���"�������& ���0)�00�����"�0����(A������������(A�*�,(D��*) ���� � ��?�"����� (<) "�������"�� (,��,�) �/�� ����6 +��&�� 0���5�������-.6���(A� ����"'�1(�������-.�00� ���� (�) "�����"���/�����-.�00�2��5�� 6 +� � ������+�(A(�12�3.�*�,(D��*) 6����������"������E�5��6�� +

<!.% ��*(�&�� �-���:��/�����'#��*��������� �/���#�##�'���,�-�5F6I���

#����-�� �� 5���/�� #>����%���;������������������������ 1������������5����-�� (#�!/) '�����#���5����-�� (�#�!/) 1����):�'58�%5'������'����;� (�-����1'58���'*�:��-���1��)**��) 1��������'���,�-�� ��)���5����-��(�):�#�!/�/��#�!/)������#��5����-��(�):�#�!/�/��#�!/) 1����):�'58���(���)-)�-��'���0��������#�$��:�';��(��<� /�����)

���)�������.0�1(Q�6 +��&��G/���(A0��������������.���������� �3� �&��(�Q��&�. �5*2& �&��(�Q�6�". �6�� ��� �&��0��0*? M��2� �&1�&��(�Q�*� �. �*�2� �(A5� 6��"'�� "��,�������������E�5��������� )��6���"� �,��>�������&��(�Q� � F���6 55���1 �������������� �&��(�Q� �6������� "�1�� � (����*) �##>'����;� ������?�##>V�W�G�� ����

Page 74: วิถีแห่งความรู้แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ (เล่ม 1 และ เล่ม 2)

�1),���������#�56�*)-���#�'���,�-���;���-5���1�)� ��'�����#��#>-���'������������-� ���)���� �#>-����)�����������-� �1������#>-����1���������-� '���'���������-�'�����):�����'���� '���������-�'�����):�����'����" �������"'����C ��>������0��������������.� �"&����+�(A��6��(4�) 5�5&����

( ! "�"#��� �$%8)

*)��0#���'/��

�)66� X C'���������)��0�'#����#�$ '���%��� ���#�$�0�'#������)�...E

���)66� X C'���� ���#�$���������0�/�����)� '������)*%��'�/���������)��0�������<� //E


Recommended