จนิตนาการรกั

วชิาสขุศึกษา

สมาชกิกลุ่ม9ด.ช. ทรงวุฒ ิ พนัธุมจนิดา ม.2/6 เลขท่ี 12ด.ช. ณัฐภมู ิ ชูพาณิชสกลุ ม.2/6 เลขท่ี 11ด.ช. ทศพล ล้ำ�าบรสิทุธิ ์ ม.2/6 เลขท่ี 13 ด.ช. ปิยพทัธ ปรางทอง ม.2/6 เลขท่ี 29ด.ช. พสิฐิพงศ์ พมิพแ์ป ม.2/6 เลขท่ี 33ด.ช. พรีพชัร ฉิมพาลี ม.2/6 เลขท่ี 34

สาระสำาคัญความสมัพนัธร์ะหวา่งคนสองคนซึ่งมคีวามพงึ

พอใจต่อกันเป็นพเิศษ อาจพฒันาได้หลาก หลายรูปแบบ ทั�งนี� แต่ละคนควรตระหนักวา่

ตนสามารถก้ำาหนดหรอืเลือกได้วา่ต้องการให้ ความสมัพนัธเ์ป็นไปอยา่งไร และควรเป็นการ

ตัดสนิใจรวมทั�งความพรอ้มในการรบัผิดชอบต่อผลของการตัดสนิใจรว่มกัน

จุดประสงค์1.บอกพฒันาการความสมัพนัธร์ะหวา่งคน

สองคนท่ีมคีวามพงึใจต่อกันเป็นพเิศษ2.ส้ำารวจความรุส้กึและความต้องการของ ตนเอง ต่อการมแีฟน และการมเีพศสมัพนัธ์3.ประเมนิความพรอ้มของตนเองต่อการรบั

ผิดชอบผลท่ีอาจจะเกิดขึ�นจากการตัดสนิใจหรอืการกระท้ำาของตนเองในการพฒันาความสมัพนัธ์

ภาพท่ี 1 อยากมแีฟนเมื่อเขา้สูว่ยัรุน่บางคนอาจจะรูส้กึสนใจในเพศตรง

ขา้ม ถ้าเป็นผู้ชายก็อยากมแีฟนสวย, หุน่ดี เด็กผู้หญิงก็อยากมแีฟนหล่อ, เท่ แต่อาจแตกด่างกันท่ีถ้าเด็กผู้ชายเรยีนดี,กีฬา

เด่นถึงจะไมห่ล่อก็เป็นท่ีสนใจต่อเพศตรงขา้ม แต่ถ้าเด็กผู้ หญิงเรยีนเก่งแต่ไมน่่ารกัก็ไมม่เีด็กผู้ชายมาสนใจ

ภาพท่ี 2 ปิ๊ งกัน อาการท่ีแสดงออกอาจจะเป็นการแอบมอง

แล้วยิ�มใหห้รอืเขา้ไปทักทายพูดคยุเพื่อถามชื่อหรอื เบอรโ์ทรศัพท์ โดยอาจจะปรกึษาหรอืเล่าใหเ้พื่อน

ฟงั

ภาพท่ี 3 การจบีกันโดยวธิ.ี..(โทรคยุ/เดินด้วยกัน/กินขา้ว/ดหูนัง/ไมส่ว่นตัวในท่ีสาธระณะ)

- สว่นใหญ่ฝ่ายชายเป็นฝ่ายจบีก่อน โดย การเขา้ไปพูดคยุชวนไปกินขา้ว , ดหูนัง ฯลฯ

-เวลาเป็นแฟนกันแสดงออกโดยการจบั มอื , โอบไหล่ เป็นต้น

ภาพท่ี 4 พยายามหาโอกาสอยุส่องต่อสองชวนไปบา้น/ไปเท่ียว/แสดงความรกัต่อกัน

/หนุนตัก/จบัมอื/ลบูผม/คลอเคลียชายหญิงอาจแสดงออกเหมอืนหรอืต่าง

กัน แล้วแต่นิสยัและการกล้าแสดงออกของ แต่ละคน แต่ฝ่ายชายอาจจะกล้าแสดงออก

มากกวา่ในระยะนี�ความรกัของทั�ง2 คน ไมจ่้ำาเป็น

ต้องเป็น แฟนกันตลอดไป ขึ�นอยูก่ับปัจจยัหลายๆอยา่ง

ภาพท่ี 5 อาจพฒันาไปถึงการมสีมัพนัธุ์

อาจไปได้หลายชอ่งทาง เชน่1.อาจจะเปน็หญิงกับหญิง2.อาจจะเปน็หญิงกับชาย3.อาจจะเปน็ชายกับชาย

1.น้ีคือหญิงกับหญิง

ทางเราเกรงวา่ถ้าเราเซนเซอรค์งจะมองยาก ต้องขออภัยด้วย

2.น้ีเปน็รูปหญิงชาย

อันนี้น่าจะไมค่่อยเห็นนะครบั

3.น้ีเปน็รูปชายกับชาย[เนื่องจากชายกับชายทางเราไมส่ามารถนำามาได้ครบัเกรงวา่]ชา

ยนะฮะ

[เนื่องจากชายกับชาย ทางเราไมส่ามารถนำามาได้

ครบัเกรงวา่จะไมส่มควร]

สรุปประเด็นดังนี้1.การมคีวามรกั พงึพอใจใครบางคนเป็นพเิศษ หรอืมแีฟนในชว่งวยัรุน่เป็นเรื่องธรรมดาท่ีเกิดขึ�นได้ และเป็นรูปแบบหนึ่งของความสมัพนัธ์

2.เมื่อเกิดความรุส้กึพเิศษกันคนบางคน ความรูส้กึท่ีตามมาคือ ต้องอยูใ่กล้ชดิ อยูต่ามล้ำาพงั ต้องการแสดงออกถึงความรูส้กึท่ีมต่ีอกัน ซึ่งจงัหวะก้าวในการพฒันาความสมัพนัธข์องคนสองคน

3.ความสมัพนัธข์องคนสองคน เชน่การมแีฟน เป็นเรื่องท่ีแต่ละคนต้องตอบตัวเองก่อนกวา่ เราอยากใหค้วามสมัพนัธท่ี์มเีป็นอยา่งไร โดยค้ำานึงถึงสิง่ท่ีจะเกิดตามมากับชวีติของเรา สว่นการก้ำาหนดรูปแบบและลักษณะความสมัพนัธ ์เป็นเรื่องคนสองคนจะต้องตกลงกัน ไมค่วรใหฝ่้ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายก้ำาหนด

4.ทกุคนควรรูว้า่ ในขณะท่ีเราสามารถพฒันาสมัพ้ำนธภาพใหด้ีและแน่นแฟน้ขึ�นได้ ก็ต้องตระหนักด้วยวา่ ความสมัพนัธอ์าจยุติลงได้เชน่กัน และการยุติความสมัพนัธไ์มจ่้ำาเป็นต้องท้ำาใหค้นสองคนเลิกคบกัน หรอืใชค้วามรุนแรงต่อกัน

5.ดังนั�นเมื่อมคีวามรกั การเผื่อใจคิดถึงอาจท้ำาใหค้วามสมัพนัธก์ับคนท่ีเรารกัจะยุติลง จะชว่ยใหเ้ราพยายามรกัษาความสมัพนัธท่ี์ดีให้ดีต่อไปและเตรยีมใจไวห้ากมกีารเปล่ียนแปลงใดๆเกิดขึ�น6.ความรกัอาจพฒันาไปในเรื่องเพศสมัพนัธุแ์ต่ก้แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนวา่มนัเหมาะสมกับวยัไหมถ้ามนัหา้มใจไมไ่หวจรงิๆควรไปซื�อถงุยางมาป้องกันซะ

จบแล้วครบั

ขอกราบขอโทษคญุผู้หญิงทกุท่านที่บางรูปที่เหมอืนแนวทางที่ไมดี่