Upload
suphaphorn-kharwpang
View
902
Download
1
Embed Size (px)
Citation preview
241202
5 การสอนตามแนวสรรคนยิม
5.15.2 หลกัการเรยีนรู ้5.3 หลกัการสรา้งความรู ้5.45.5 การออกแบบการสอน5.6 การจดักจิกรรมการสอน
5.15.2 หลกัการเรยีนรู ้5.3 หลกัการสรา้งความรู ้5.45.5 การออกแบบการสอน5.6 การจดักจิกรรมการสอน
5.1
ConstructivismConstructivism
Cognitive : Piaget Social : Vygotsky
Cognitive Piaget.คอื การเนน้ผูเ้รยีนเป็นผูส้รา้งความรู ้ โดยการลงมอืกระทาํ
Piagetขดัแยง้ทางปญัญา(Cognitive conflict)เกดิสมดลุทางปญัญา(Disequilibrium) ผูเ้รยีนตอ้งพยายามปรบัโครงสรา้งทางปญัญาใหเ้ขา้สูส่ภาวะสมดลุ(Equilibrium)โดยวธิกีารดดูซมึ(Assimilation)ไดแ้ก ่การ
(Accomodation)
.คอื การเนน้ผูเ้รยีนเป็นผูส้รา้งความรู ้ โดยการลงมอืกระทาํPiagetขดัแยง้ทางปญัญา(Cognitive conflict)เกดิสมดลุทางปญัญา(Disequilibrium) ผูเ้รยีนตอ้งพยายามปรบัโครงสรา้งทางปญัญาใหเ้ขา้สูส่ภาวะสมดลุ(Equilibrium)โดยวธิกีารดดูซมึ(Assimilation)ไดแ้ก ่การ
(Accomodation)
CognitiveConstructivism
Student
Disequilibrium
Equilibrium
Assimilation Accomodation
Social ConstructivismVygotsky กลา่ววา่ “ปฏสิมัพนัธท์างสงัคม
มบีทบาทสําคญัในการพฒันาดา้นพทุธิปญัญา”รอยตอ่พฒันาการ (Zone of PtoximalDevelovemant)
(Interaction)เชน่การปฏสิมัพนัธท์างสงัคม ภาษา
ความชว่ยเหลอื จงึจะทาํใหเ้กดิการขยายแนวคดิไปสูก่ารคดิกลวธิเีสรมิตอ่การเรยีนรู ้(Scaffoding)
Vygotsky กลา่ววา่ “ปฏสิมัพนัธท์างสงัคมมบีทบาทสําคญัในการพฒันาดา้นพทุธิปญัญา”รอยตอ่พฒันาการ (Zone of PtoximalDevelovemant)
(Interaction)เชน่การปฏสิมัพนัธท์างสงัคม ภาษา
ความชว่ยเหลอื จงึจะทาํใหเ้กดิการขยายแนวคดิไปสูก่ารคดิกลวธิเีสรมิตอ่การเรยีนรู ้(Scaffoding)
Social ConstructivismSocial Constructivism
Interaction + ZPDInteraction + ZPDInteraction + ZPDInteraction + ZPD
ScaffoldingScaffolding
5.2 หลกัการเรยีนรู ้
1. การสรา้งความรู ้- โครงสรา้งทางปัญญา
2. ความรูเ้ดมิ- ประสบการณ์- ความสนใจ- แรงจงูใจ
3.- การจัดสภาพการเรยีนรู ้
1. การสรา้งความรู ้- โครงสรา้งทางปัญญา
2. ความรูเ้ดมิ- ประสบการณ์- ความสนใจ- แรงจงูใจ
3.- การจัดสภาพการเรยีนรู ้
5.3 หลกัการสรา้งความรู ้
1.2. ผูเ้รยีนสรา้ง/3. ครเูป็นผูส้นบัสนนุการเรยีนการสอน4.
1.2. ผูเ้รยีนสรา้ง/3. ครเูป็นผูส้นบัสนนุการเรยีนการสอน4.
5.4
1. ผูเ้รยีนลงมอืกระทาํ2. เรยีนรูแ้บบรว่มมอื3. คาํนงึถงึระดบัของผูเ้รยีน4. ประสบการณนํ์าไปใชไ้ดจ้รงิ
1. ผูเ้รยีนลงมอืกระทาํ2. เรยีนรูแ้บบรว่มมอื3. คาํนงึถงึระดบัของผูเ้รยีน4. ประสบการณนํ์าไปใชไ้ดจ้รงิ
5.5 การออกแบบการสอน
1. การสรา้งการเรยีนรู ้- ประสบการณ์
2. การแปลความของผูเ้รยีน3. การลงมอืทาํ4. การเรยีนรูแ้บบรว่มมอื5.6. การทดสอบเชงิบรูณาการ
1. การสรา้งการเรยีนรู ้- ประสบการณ์
2. การแปลความของผูเ้รยีน3. การลงมอืทาํ4. การเรยีนรูแ้บบรว่มมอื5.6. การทดสอบเชงิบรูณาการ
5.6 การจดักจิกรรมการเรยีนการสอน
1.2. ปญัหาจากสภาพจรงิ3. วธิกีารนําเสนอหลากหลาย4. ผูเ้รยีนมสีว่นรว่ม5. ประเมนิจากความรูเ้ดมิ + ใหม่
1.2. ปญัหาจากสภาพจรงิ3. วธิกีารนําเสนอหลากหลาย4. ผูเ้รยีนมสีว่นรว่ม5. ประเมนิจากความรูเ้ดมิ + ใหม่