Upload
saravut-yuenyong
View
25
Download
1
Embed Size (px)
Citation preview
1
หลกัสตูรและการเรียนการสอนคณะเภสชัศาสตร ์
มหาวิทยาลยัสงขลานครินทร ์ใช้ประกอบการตดัสินใจเข้าเรียน
รศ. ดร. ภญ. โพยม วงศภ์วูรกัษ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิชาชีพ
วนัที่ 26 มิถนุายน 2558
http://www.pharmacy.psu.ac.th/undergrad/
2
เกณฑก์ารคดัเลอืก
นักเรียนใน 14 จงัหวดัภาคใต้ที่
มหาวิทยาลยัสงขลานครินทร ์
จดัสอบเอง ปี 2558 เป็นต้นไป
คณะเภสชัศาสตร ์
มหาวทิยาลยัสงขลานครนิทร์3
เดิม “วิชาคณิตศาสตรต์้องได้คะแนนไม่ตํา่ กว่า 30% จึง
ถือว่าผา่นเกณฑ”์ ปรบัเป็น
(หมายเหต ุแม้คะแนนไม่ถึง 30% แต่ได้คะแนนมากกว่าหรือ
เท่ากบั ≥ 0.8 x ค่าเฉลี่ยของรายวิชา กถ็ือว่าผา่นเกณฑ)์
4
1. วิชาคณิตศาสตร:์ ปรบัเกณฑใ์นการคดัเลือก
“วิชาคณิตศาสตร ์ต้องได้คะแนนไม่ตํา่กว่า 30% หรือ ได้
คะแนนมากกว่าหรือเท่ากบั ≥ 0.8 x ค่าเฉลี่ยของรายวิชา จึงถือว่าผา่นเกณฑ”์
5
2.วิชากลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส ์ เคมี ชีววิทยา ):
“แต่ละวิชามีคะแนน 100 คะแนน คะแนนรวมของทัง้ 3 วิชา
คือ 300 ต้องได้คะแนนรวมไม่ตํา่กว่า 90 คะแนน (30%)
โดยแต่ละวิชาไม่จาํเป็นต้องได้ 308คะแนน
ตวัอย่าง: ได้คะแนนวิชา ฟิสิกส ์29 คะแนน;
เคมี 31 คะแนน; ชีววิทยา 30 คะแนน กถ็ือว่าผา่นเกณฑ์
• ผูเ้ข้าศึกษาในคณะเภสชัศาสตรท์กุรายต้องทาํสญัญา
การเป็นนักศึกษาเภสชัศาสตรใ์นชัน้ปีที่ 1 กบัรฐับาล
• เมื่อสาํเรจ็การศึกษาจะมีการสาํรวจความประสงคท์ี่
จะเข้าปฏิบตัิงานกบัรฐับาลเพื่อชดใช้ทนุ
• ทัง้นี้ สามารถเลือกที่จะไม่ปฏิบตัิงานกบัรฐับาลกไ็ด้
แต่หากยื่นความประสงคแ์ล้ว ต้องเข้าสู่กระบวนการ
จบัฉลากเพื่อไปปฏิบตัิงานในสถานที่ที่จบัฉลากได้
ทัว่ประเทศ เป็นเวลา 2 ปี
6
การทาํสญัญาชดใช้ทนุรฐับาล
• หากไม่สามารถปฏิบตัิงานได้ตามกาํหนดต้องชดใช้
เงิน 250,000 บาท และหากทาํงานได้ช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ไม่ถึง 2 ปี เงินที่ต้องชดใช้กจ็ะลดลงตามสดัส่วน
เวลาที่ได้ปฏิบตัิงานไปแล้ว
• สญัญานี้เป็นสญัญาฝ่ายเดียว หากรฐับาลมีตาํแหน่ง
กจ็ะประกาศให้ชดใช้ทนุ แต่หากรฐับาลไม่มีตาํแหน่ง
ผูส้าํเรจ็การศึกษากเ็ป็นอิสระ ไม่ผกูพนักบัรฐับาล
7
การทาํสญัญาชดใช้ทนุรฐับาล
ความเป็นมาหลกัสตูรปริญญาตรีเภสชัศาสตร ์ 6 ปี
8
ปี 2536 - เภสชักรและมหาวิทยาลยัในไทยตื่นตวัเรื่อง “การ
บริบาลทางเภสชักรรม” ส่งอาจารยไ์ปดงูานและเรียนต่อ Doctor
of Pharmacy (Pharm.D) หลกัสตูร 6 ปี ที่สหรฐัอเมริกาซึ่งเน้น
ด้านการดแูลผูป้่วยด้านการใช้ยา
ปี 2540 – ม.นเรศวรเปิดหลกัสตูร Pharm.D แห่งแรกในเอเชีย-
ต่อยอดจากปริญญาตรีเภสชัฯ 2 ปี และเป็นหลกัสตูร 6 ปี- 2542
ปี 2542- ม.มหาสารคามเปิดหลกัสตูร Pharm. D
ปี 2545 - ม.สงขลานครินทร ์เปิดหลกัสตูร Pharm. D 6 ปี
ปี 2553 สภาเภสชักรรมกาํหนดให้ไทยมีเฉพาะหลกัสตูร 6 ปี
ปี 2554 สภาเภสชักรรมประกาศเกณฑม์าตรฐานผู้
ประกอบวิชาชีพการบริบาลทางเภสชักรรม
9
• http://www.pharmacycouncil.org/index.php?option=content_detail&menuid=68&itemid=456&catid=0
10http://www.pharmacycouncil.org/
ปี 2556 สภาเภสชักรรมประกาศเกณฑม์าตรฐานผูป้ระกอบวิชาชีพเภสชัอตุสาหการ
และเปลี่ยนชื่อเป็น “เภสชักรรมอตุสาหการ” ในปี 2557
หลกัสตูรที่ใช้กบัผูเ้ข้าเรียนปี 2558 ของ มอ. เป็นหลกัสตูร
ปรบัปรงุใหม่ให้เข้ากบัเกณฑใ์หม่ของสภาเภสชักรรม
11
1. หลกัสตูรเภสชัศาสตรบณัฑิต
สาขาเภสชักรรมอตุสาหการ หลกัสตูรปรบัปรงุ
พ.ศ. 2557
2. หลกัสตูรเภสชัศาสตรบณัฑิต
สาขาการบริบาลทางเภสชักรรม หลกัสตูรปรบัปรงุ
พ.ศ. 2557
ทัง้สองหลกัสตูรเงินเดือนเทียบเท่าปริญญาโท
1. หลกัสตูรสาขาเภสชักรรมอตุสาหการ
มี 2 โปรแกรม
12
• โปรแกรมปกติ 234 หน่วยกิต ปริญญา: เภสชัศาสตรบณัฑิต สาขาเภสชักรรมอตุสาหากร
ชื่อย่อ : ภ. บ. (เภสชักรรมอตุสาหการ)
ภาษาองักฤษ: Doctor of Pharmacy (Industrial Pharmacy)
ชื่อย่อ: Pharm.D. (Industrial Pharmacy)
• โปรแกรมก้าวหน้า 246 หน่วยกิต ปริญญา: เภสชัศาสตรบณัฑิต ภ.บ. (เภสชักรรมอตุสาหการ
โปรแกรมแบบก้าวหน้า)
ชื่อย่อ :Pharm.D. (Industrial Pharmacy, Honors Program)
หลกัสตูรสาขาเภสชักรรมอตุสาหการโปรแกรม
แบบก้าวหน้า (Honors Program)
• เตรียมความพร้อมสาํหรบันักศึกษาที่มีศกัยภาพสงู
ให้มีโอกาสเรียนรายวิชาระดบัปริญญาโท-เอก
ในขณะที่ยงัศึกษาในระดบัปริญญาตรี
• ทาํให้สามารถศึกษาต่อในระดบัปริญญาโท-เอก ใน
ระยะเวลาลดลง
13
• รบันักศึกษาโปรแกรมปกติที่สาํเรจ็การศึกษาชัน้ปีที่ 3
แล้ว และมีผลการศึกษาเฉลี่ยสะสมไม่ตํา่กว่า 3.25 โดย
คาํนวณจากผลการเรียนชัน้ปีที่ 1 ถึงชัน้ปีที่ 3
• นักศึกษาโปรแกรมแบบก้าวหน้าต้องรกัษาสถานภาพผล
การเรียนในแต่ละภาคการศึกษาให้ไม่น้อยกว่า 3.00 และ
ต้องไม่มีผลการเรียนในรายวิชาใดตํา่กว่าระดบั C หาก
ผลการเรียนของนักศึกษาโปรแกรมแบบก้าวหน้าไม่
เป็นไปตามข้อกาํหนดข้างต้น ให้นักศึกษากลบัเข้าเรียน
ในหลกัสตูรโปรแกรมแบบปกติ14
ผูท้ี่จะเข้าเรียนโปรแกรมก้าวหน้า
2. หลกัสตูรเภสชัศาสตรบณัฑิต สาขาการบริบาลทาง
เภสชักรรม
จาํนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลกัสตูร 236 หน่วยกิต
ปริญญา: เภสชัศาสตรบณัฑิต
ชื่อย่อ: ภ.บ. (การบริบาลทางเภสชักรรม)
ภาษาองักฤษ: Doctor of Pharmacy
(Pharmaceutical Care)
ชื่อย่อ: Pharm. D. (Pharm. Care)
15
16
วิทยาเขตหาดใหญ่
การหาข้อมลูการเรียนการสอนhttp://elc.psu.ac.th/edumanual/2557/
17
คณะเภสชัศาสตร์
18
หลกัสตูรที่เปิดสอน
คาํอธิบายรายวิชา
19
หลกัสตูรที่เปิดสอน
หลกัสตูรสาขาบริบาลฯ
หลกัสตูรสาขาเภสชัศาสตรฯ์
(เภสชักรรมอตุสาหการ)
20
หลกัสตูรสาขาเภสชัศาสตรบณัฑิต –เภสชักรรมอตุสาหการ (ปกติ)
21
หลกัสตูรสาขาเภสชัศาสตรบณัฑิต –เภสชักรรมอตุสาหการ
(ก้าวหน้า) รบันักศึกษาโปรแกรมปกติที่สาํเรจ็การศึกษาชัน้ปีที่ 3
แล้ว และมีผลการศึกษาเฉลี่ยสะสมไม่ตํา่กว่า 3.25
22
หลกัสตูรสาขาบริบาลเภสชักรรม
23
การอ่านหน่วยกิต
4(3-3-3) 2(2-0-3)
หน้าวงเลบ็หน่วยกิตรวมทัง้หมด
ในวงเลบ็ ตวัที่ 1: บรรยาย (1 หน่วยกิต = 1 ชม/สปัดาห)์
ตวัที่ 2: ปฏิบตัิการ (1 หน่วยกิต = 3 ชม/สปัดาห)์
ตวัที่ 3: ศึกษาด้วยตนเอง
แผนการเรียนเทอม 1 ปีที่ 1 ทัง้สองหลกัสตูร
24
25
คาํอธิบายรายวิชา
26
คาํอธิบายรายวิชา: วิชานัน้เรียนอะไรบา้ง
27
ภญ. ผศ. ดร. รุ่งเพ็ชร สกลุบาํรงุศิลป์
“สมรรถนะพืน้ฐานของเภสชักรทกุคน”
“สมรรถนะพืน้ฐานของเภสชักรทกุคน”
ในยา 1 เมด็ : เภสชักรต้องเหน็รายละเอียดภายใน
ที่คนอื่นมองไม่เหน็ : ชีวิตผูใ้ช้ยา-อยู่ในมือเภสชักร
มีการผลิตอย่างไร ทาํไมต้องผลิตแบบนี้
ควบคมุคณุภาพอย่างไร เกบ็รกัษาอย่างไร
มีโครงสร้างเชื่อมโยงกบัการออกฤทธิ์อย่างไร
ใช้อย่างไรจึงถกูต้อง ใช้แล้วจะเกิดผลอย่างไร
จะป้องกนัและแก้ไขปัญหาการใช้ยาอย่างไร28
29
เภสชักรกบัยา
วิจยั คิดค้น เสาะหาตวัยาใหม่จาก
การสงัเคราะห ์หรือจากธรรมชาติ
เตรียม/ ผลิตยาให้เป็นรปูแบบที่เหมาะสม:
ยาเมด็ ยานํ้า ยาฉีด ฯลฯ
ทดลองในหลอดทดลอง เพื่อเกบ็ข้อมลู
ขัน้ต้น
ทดลองในสตัว์
ขึน้ทะเบียนยาเพื่อขอจาํหน่ายยา
ทดลองนํายาไปใช้จริงในผูป้่วย: วิจยัทางคลินิก
30
เภสชักรกบัยา
ผลิตยาในปริมาณมากเพื่อจาํหน่าย
ควบคมุ ประกนัคณุภาพการผลิต
ส่งมอบยาให้ผูป้่วย
ให้คาํปรึกษาเรื่องยา
การกระจายยาไปสู่ผูส้ ัง่ใช้ / ผูจ้่ายยา
การตลาด การให้ข้อมลูยาแก่ผูส้ ัง่/จ่ายา
ติดตามการใช้ยา
ป้องกนั/ แก้ไขปัญหาการใช้ยา
ให้คาํปรึกษาเรื่องยาแก่ทีม
สขุภาพและผูป้่วย
คุ้มครองผูบ้ริโภคด้านยาและผลิตภณัฑส์ขุภาพ
ทิศทางวิชาชีพเภสชักรรม
• บริบทด้านยามีหลายมิติ
• การสอนให้เภสชักรทกุคนมีความรู้และทกัษะในเชิง
ลึกที่สามารถปฏิบตัิงานได้ดีในทกุด้านเป็นไปไม่ได้
• การปฏิบตัิงานบางด้านต้องการความรู้ที่ลึกซึ้ง
เกินกว่าที่จะเรียนทกุอย่างได้ในระดบัปริญญาตรี
• ทิศทางวิชาชีพ จึงต้องการเภสชักรที่มีความรู้
ร่วมกนัระดบัหนึ่ง และมีความรู้เพิ่มเติมในสาขา
เฉพาะด้าน 31
32
ความแตกต่างของ 2 หลกัสตูร• มีความรู้ทกัษะตามสมรรถะร่วมของวิชาชีพ
เภสชักรรมที่เหมือนกนัส่วนหนึ่ง
• เน้นความชาํนาญเฉพาะด้านต่างกนั
33
หลกัสตูรสาขา-เภสชักรรมอตุสาหการ
มุ่งเน้นสร้างเภสชักรในภาคอตุสาหกรรมยาตัง้แต่การ
วิจยัคิดค้นยา ผลิตยา การตลาดยา คุ้มครองผูบ้ริโภค
หลกัสตูรสาขาการบริบาลทางเภสชักรรม
มุ่งเน้นสร้างเภสชักรในภาคการดแูลการใช้ยาในผูป้่วย
เป็นที่ปรึกษาด้านการใช้ยาในสถานพยาบาล ร้านยา
-จดัโดยสภาเภสชักรรม
ตามสาขาหลกั: เภสชัศาสตร์ / บริบาลทางเภสชักรรม-จดัโดยสภาเภสชักรรม
ทกุสาขาต้องเรียน
วิชาที่เกี่ยวกบัเคมี
ไม่ตํา่กว่า 6 วิชา
ความรู้ด้านวิชาชีพที่ทัง้ 2 หลกัสตูรต้องเรียน
กลุ่มวิชาพืน้ฐานวิชาชีพ (เรียนปีที่ 1-2)
เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส ์คณิตศาสตร ์ สถิติ
โครงสร้างและหน้าที่การทาํงานของร่างกายของ
มนุษย ์
สาเหตแุละกลไกการเกิดโรค
การศึกษาและการตรวจทางห้องปฏิบตัิการ
35
ความรู้ด้านวิชาชีพที่ทัง้ 2 หลกัสตูรต้องเรียน
กลุ่มวิชาวิชาชีพที่เป็นสมรรถนะร่วม (เรียนปี 3-4)
กลุ่มวิชาด้านผลิตภณัฑ ์รายวิชาทางเภสชักรรมอตุสาหการขัน้พืน้ฐานที่มีเนื้อหา
เกี่ยวข้องกบัตวัยา เคมีภณัฑ ์สารสกดัสมนุไพรและชีว
วตัถตุ่างๆ ที่นํามาใช้เป็นยา
การเตรียมยา การผลิตยา และประดิษฐย์า
หลกัการวิเคราะหย์า การควบคมุและประกนัคณุภาพยา
กระบวนการเกบ็รกัษายา และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ทัง้ยา
สาํหรบัคนและสตัว)์ 36
การปรงุยาและผลิตยาการปรงุยาและผลิตยา
การปรงุยาและผลิตยา
พืน้ฐาน: คณิตศาสตร ์ ฟิสิกส ์ เคมีเชิงฟิสิกส์เทคโนโลยีเภสชักรรม -สาขาเภสชักรรมอตุสาหการวิชา Pharmaceutical technology
ยาเตรียม -สาขาบริบาลทางเภสชักรรม วิชา Pharmaceutical preparation
ผลิตภณัฑจ์ากธรรมชาติและสมนุไพร
พืน้ฐาน: ชีววิทยา เคมีทัว่ไป เคมีอินทรีย์
เภสชัพฤกษศาสตร ์(Pharmaceutical botany)เภสชัเวท (Pharmacognosy) เภสชัวินิจฉัย
เคมียาและวิเคราะหย์า/ ควบคมุคณุภาพยา
พืน้ฐาน: เคมีทัว่ไปเคมีอินทรีย์
เคมีเชิงฟิสิกส ์ ชีวเคมี
เภสชัวิเคราะห ์ (Pharmaceutical analysis)
เคมียา (Medicinal chemistry)เคมีคลินิก ( Clinical chemistry)
ความรู้ด้านวิชาชีพที่ทัง้ 2 หลกัสตูรต้องเรียน
กลุ่มวิชาวิชาชีพที่เป็นสมรรถนะร่วม (เรียนปี 3-4)
กลุ่มวิชาด้านการใช้ยาในผูป้่วย พยาธิสภาพ พยาธิสรีรวิทยาของโรค
การใช้ยา/เภสชับาํบดั (สารสงัเคราะหแ์ละสมนุไพร)
ฤทธิ์และพิษของยา (เภสชัวิทยา/พิษวิทยา)
กระบวนการจ่ายยาและส่งมอบยา
การใช้ยาอย่างสมเหตสุมผล
การจดัการอาการไม่พึงประสงคจ์ากยา
41
วิชาพืน้ฐาน: การใช้ยาในผูป้่วย
จุลชีววทิยา
กายวภิาคศาสตร์
ชีวเคมี
ชีววทิยาคณิตศาสตร์
พยาธิวทิยาสรีรวทิยา
ความรู้ด้านวิชาชีพที่ทัง้ 2 หลกัสตูรต้องเรียน
กลุ่มวิชาวิชาชีพที่เป็นสมรรถนะร่วม (เรียนปี 3-4)
กลุ่มวิชาด้านเภสชัศาสตรส์งัคมและการบริหารเภสชักิจ
กฎหมาย และจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ
การจดัการ บริหารเภสชักิจ การสื่อสาร
ระบบการสาธารณสขุ ระบบยา
ระบบการคุ้มครองผูบ้ริโภคยาและสขุภาพ
การบริการปฐมภมูิ และการสร้างเสริมสขุภาพ
เภสชัเศรษฐศาสตรแ์ละระบาดวิทยาทางยา
วิทยาระเบยีบวิธีวิจยัทางเภสชัศาสตร ์พืน้ฐาน: ชีวสถิต
43
ชัน้ปีที่ 5 เรียนรายวิชาเฉพาะด้านของแต่ละสาขา
• สาขาเภสชักรรมอตุสาหการเรียนเน้น การวิจยัยา
และเภสชัภณัฑ ์ การผลิตยาในระดบัอตุสาหกรรม
การตลาดยา พฤติกรรมผูบ้ริโภคด้านยาและ
ผลิตภณัฑส์ขุภาพ
• สาขาบริบาลทางเภสชักรรมเน้นด้านการดแูลด้าน
การใช้ยาในผูป้่วย การให้ข้อมลูยาแก่ผูป้่วยและ
บคุลากรทางการแพทย์44
การฝึกปฏิบตัิงาน: > 2,000 ชัว่โมง
• ทัง้ 2 หลกัสตูร ฝึกปฏิบตัิงานภาคฤดรู้อนของ
ชัน้ปี 4
โรงพยาบาล 200 ชัว่โมง
ร้านยา 200 ชัว่โมง
• ในปีสดุท้ายฝึกงานเฉพาะสาขาทัง้ปีไม่น้อยกว่า
1,680 ชัว่โมง
45
การฝึกงานในชัน้ปีที่ 6 สาขาเภสชักรรมอตุสาหการบงัคบัทกุคนต้องฝึกในโรงงานอตุสาหกรรมยา:
การผลิตยา
การประกนัคณุภาพยา
เลือกฝึกอีก 5 ผลดัเช่น
• วิจยัและพฒันาเภสชัภณัฑใ์นสถาบนัวิจยัต่าง ๆ
• ขึน้ทะเบียนยาทัง้แผนปัจจบุนั และยาสมนุไพร
• คุ้มครองผูบ้ริโภคด้านยาและผลิตภณัฑส์ขุภาพที่
สาํนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.),
สาํนักงานสาธารณสขุจงัหวดั46
การฝึกงานในชัน้ปีที่ 6 สาขาเภสชักรรมอตุสาหการ เลือกฝึกอีก 5 ผลดั-• ผลิตยาในโรงพยาบาล• การบริหารเวชภณัฑใ์นโรงพยาบาล • การบริหารเวชภณัฑใ์นร้านยา • การตลาดยาในบริษทัยา • การวิจยัยาในบริษทัยา ฯลฯ
47
การฝึกงานในชัน้ปีที่ 6 สาขาบริบาลทางเภสชักรรมบงัคบัทกุคน:
-การบริบาลทางเภสชักรรมในร้านยา
-การจดัการด้านยาในโรงพยาบาล
-การบริบาลทางเภสชักรรมสาํหรบัผูป้่วยนอกใน
โรงพยาบาล
-การบริบาลทางเภสชักรรมสาํหรบัผูป้่วยในที่พกั
รกัษาตวัในโรงพยาบาล
-การให้ข้อมลูสารสนเทศทางยาในโรงพยาบาล หรือ
หน่วยงานงานอื่น เช่น สถาบนัการศึกษา 48
การฝึกงานในชัน้ปีที่ 6 สาขาบริบาลทางเภสชักรรมฝึกวิชาเลือกอื่นๆ อีก 2 ผลดั
-การวิจยัยาทางคลินิก
-การดแูลผูป้่วยที่ได้รบัอาหารทางหลอดเลือด ฯลฯ
-เภสชักรรมปฐมภมูิ
-การบริบาลทางเภสชักรรมในผูป้่วยโรคต่าง ๆ เช่น
โรคมะเรง็
โรคติดเชื้อ
โรคไต
- ฯลฯ
49
• การจ่ายยา : เป็นเภสชักรในร้านยา หรือในสถาน
บริการสขุภาพต่าง ๆ ทัง้ศนูยส์ขุภาพชมุชน และ
โรงพยาบาลทกุระดบั
• ผลิตยาที่ไม่ใช่ระดบัอตุสาหกรรม เช่น ใน
โรงพยาบาล
• การบริการด้านปฐมภมูิ การส่งเสริมสขุภาพด้าน
ยาในชมุชน การเป็นเภสชักรเยี่ยมบา้น50
จากความรู้ร่วมกนัในสมรรถนะร่วมทาํให้ผูเ้รียนทัง้
2 สาขาสามารถปฏิบตัิงานต่อไปนี้ได้
• การคุ้มครองผูบ้ริโภคด้านยาและผลิตภณัฑ์
สขุภาพ ทาํงานในสาํนักงานสาธารณสขุจงัหวดั
หรือโรงพยาบาลชมุชน
• การตลาดยา: ดีเทลยา เป็นตวัแทนบริษทัยาให้
ข้อมลูยากบัแพทยแ์ละบคุลากรทางการแพทย์
อื่น)
• การวิจยัยาทางคลินิก:เพื่อนํายาใหม่มาใช้ในคน51
จากความรู้ร่วมกนัในสมรรถนะร่วมทาํให้ผูเ้รียนทัง้
2 สาขาสามารถปฏิบตัิงานต่อไปนี้ได้
“จดุรว่มคอืทาํเป็น
จดุแตกต่างคอืชาํนาญ”
52
ความเฉพาะของ
หลกัสตูรสาขาเภสชักรรมอตุสาหการ
• ชาํนาญในการพฒันาระบบคณุภาพและการผลิตยา
สมนุไพร เภสชัภณัฑส์ขุภาพ อาหาร และเครื่องสาํอาง
• สามารถวิจยัพฒันาคิดค้นยาใหม่หรือตาํรบัยาใหม่ๆ
• เป็นผูเ้ชี่ยวชาญในการเสนอข้อมลูยาและเภสชัภณัฑ์
สขุภาพด้านการตลาดยา
• มีความสามารถด้านการคุ้มครองผูบ้ริโภคด้านยาและ
สร้างศกัยภาพที่จะเป็นผูน้ําระดบัสงูขององคก์รธรุกิจ 53
งานที่เหมาะสาํหรบัผูส้าํเรจ็
หลกัสตูรสาขาเภสชักรรมอตุสาหการนอกเหนือจากสามารถทาํงานตามสมรรถนะร่วมแล้ว ยงัมี
ความเหมาะสมสาํหรบัเภสชักรในหน่วยงานต่อไปนี้
• เภสชักรฝ่ายผลิต ประกนัคณุภาพ และขึน้ทะเบียนใน
บริษทัผลิตยา เครื่องสาํอาง ผลิตภณัฑเ์สริสมสขุภาพ
• เภสชักรการตลาดในบริษทัยา
• เภสชักรในสาํนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
สาํนักงานสาธารณสขุจงัหวดั กรมวิทยาศาสตรก์ารแพทย์
• นักวิจยัในสถาบนัวิจยัต่าง ๆ 54
งานที่เหมาะสาํหรบัผูส้าํเรจ็หลกัสตูร
สาขาการบริบาลทางเภสชักรรม
นอกเหนือจากสามารถทาํงานตามสมรรถนะร่วมแล้ว ยงัมี
ความเหมาะสมสาํหรบัเภสชักรในหน่วยงานต่อไปนี้
• เภสชักรคลินิกดแูลผูป้่วยด้านยาในโรงพยาบาล :
ติดตาม ป้องกนัและแก้ไขปัญหาการใช้ยา
• เภสชักรร้านยาที่เน้นการดแูลผูป้่วยโรคเรือ้รงัในเชิงลึก
• เภสชักรให้คาํปรึกษาเรื่องยา
55
56
• ผูเ้รียนสาขาเภสชักรรมอตุสาหการมีความรู้
และทกัษะในการดแูลด้านการใช้ยาในผูป้่วยใน
เชิงลึกไม่มากเท่ากบัผูเ้รียนสาขาการบริบาล
ทางเภสชักรรม
• ผูเ้รียนสาขาบริบาลทางเภสชักรรมมีความรู้
และทกัษะด้านการผลิตยาในเชิงลึกไม่มากเท่า
ผูเ้รียนสาขาเภสชัศาสตร์
ทัง้ 2 สาขา เป็นอาจารยใ์นสถาบนัการศึกษาเภสชัศาสตรไ์ด้
ผูท้ี่เลือกเรียนด้านการบริบาลทางเภสชักรรม
-ชอบมีปฎิสมัพนัธก์บัผูป้่วย บคุลากรทางการแพทย์
-ขณะเรียนมีการทาํงานในห้องปฏิบตัิการ แต่ไม่มากเท่า
เภสชักรรมอตุสาหการ
57
ผูท้ีเ่หมาะในการเรยีนดา้นเภสชักรรมอุตสาหการ
-มธีรรมชาตงิานทีห่ลากหลาย ตามวงจรยา เลอืกไดท้ัง้
ทาํงานกบัเครือ่งมอืเครือ่งจกัร ไปถงึทาํงานทีเ่กีย่วขอ้ง
กบัการบรหิาร การตลาด การคุม้ครองผูบ้รโิภค
หลกัเกณฑก์ารรบันักศึกษาย้ายหลกัสตูร
• ถ้าคะแนนสอบเข้าศึกษาต่อที่คณะเภสชัศาสตรข์อง
นักศึกษาถึงคะแนนตํา่สดุของสาขาวิชาที่จะขอย้าย
ในปีนัน้ กจ็ะสามารถรบันักศึกษาได้ และให้อยู่ใน
ดลุยพินิจของคณะกรรมการประจาํคณะฯ
• กรณีผูท้ี่ได้คะแนนสอบเข้าไม่ถึงคะแนนตํา่สดุของ
สาขาวิชาที่จะขอย้าย ในปีนัน้นักศึกษาจะต้องมีผล
การเรียนเฉลี่ยภาคการศึกษาที่ 1 ไม่ตํา่กว่า 3.25
58
59
การสาํเรจ็การศึกษา• ผูเ้ข้าศึกษาตัง้แต่ปี 2557 เป็นต้นไป ไม่ต้องสอบประมวลความรอบรู้
• ต้องเรียนทกุรายวิชาครบตามหลกัสตูร และมีระดบัคะแนนเฉลี่ยสะสมในทกุรายวิชาตามหลกัสตูรไม่ตํา่กว่า 2.00 รวมทัง้ระดบัคะแนนเฉลี่ยสะสมเฉพาะรายวิชาชีพไม่ตํา่กว่า 2.00 จึงจะสาํเรจ็การศึกษา
สอบวดัความรู้ผูข้อขึน้ทะเบียนและรบัใบอนุญาตเป็นผู้
ประกอบวิชาชีพเภสชักรรม: ผูเ้ข้าศึกษาตัง้แต่ปี 2557
สอบ 2 ครัง้ เมื่อเรียนจบปี 4 และ ปี 6
60
ประกาศเกณฑส์มรรถนะร่วมฯ “ทัง้นี้การสอบวดัครัง้แรกจดัเป็น
ข้อบงัคบัก่อน (pre-requisite) ของครัง้ที่ ๒ ซึ่งเป็นการสอบวดัความรู้
ทกัษะ ความสามารถที่สอดคล้องกบัสาขาหลกั
การตดัสินใจเลือกเรียน
เลือกสิ่งที่ตนเองชอบ และคิดว่าจะทาํงานใน
วิชาชีพนัน้ได้ อย่าฝืนใจด้วยเหตผุลต่าง ๆ เช่น
• ตามกระแสนิยม
• ตามใจคนรอบข้าง ทัง้ที่ตนเองไม่ชอบ
• เลือกตามเพื่อน
• คะแนนสงูกว่าสาขาอื่น และคิดว่าน่าจะดี
“หากเลือกผิด ต้องทนเรียนถึง 6 ปี และจบแล้วต้อง
ฝืนใจทาํงานในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ”61
หลกัเกณฑก์ารรบันักศึกษาย้ายหลกัสตูร
• ถ้าคะแนนสอบเข้าศึกษาต่อที่คณะเภสชัศาสตรข์อง
นักศึกษาถึงคะแนนตํา่สดุของสาขาวิชาที่จะขอย้าย
ในปีนัน้ กจ็ะสามารถรบันักศึกษาได้ และให้อยู่ใน
ดลุยพินิจของคณะกรรมการประจาํคณะฯ
• กรณีผูท้ี่ได้คะแนนสอบเข้าไม่ถึงคะแนนตํา่สดุของ
สาขาวิชาที่จะขอย้าย ในปีนัน้นักศึกษาจะต้องมีผล
การเรียนเฉลี่ยภาคการศึกษาที่ 1 ไม่ตํา่กว่า 3.25
62
แม้คณะฯ เปิดโอกาสให้ย้ายข้ามสาขา
ได้ภายในคณะเภสชัศาสตรภ์ายในชัน้ปี
ที่ 1 แต่ไม่ใช่ว่าจะย้ายได้ทกุคน เพราะ
หากสาขาที่จะย้ายเข้าไปมีที่นัง่เตม็ก็
ย้ายไม่ได้
63
นโยบายมหาวิทยาลยัสงขลานครินทร ์
ด้านการเรียนการสอน
• ให้จดัการเรียนการสอนเป็นภาษาองักฤษในแต่ละ
รายวิชา > 20% - สื่อการสอน, slide, บรรยายเป็น
ภาษาองักฤษ
• ให้มีการสอนแบบ active learning ให้นักศึกษา
มีส่วนร่วมในการเรียนการสอน > 30 % ของจาํนวน
ชัว่โมงตามหน่วยกิต เช่น อภิปราย คิดวิเคราะห ์ค้นคว้า
ด้วยตนเอง ใช้ปัญหาเป็นฐาน ใช้กรณีศึกษา ฯลฯ
64
65
วิชาทางเภสชัศาสตร์ผสมผสาน
ความเขา้ใจ: ท่องจํา: คํานวณ
ชื่อยา สูตรโครงสรา้งทางเคมีของยา, ฤทธิ์ของยาและสมุนไพร: เขา้ใจและท่องจํา
ระดบัยาในร่างกาย สูตรยา ขนาดยา กระบวนการผลิตยา : ความเขา้ใจและคํานวณ
การทํางานกบัผูป้่วย : มิติทางมนุษยแ์ละสงัคม
66
กระบวนการเรียนรู้การฝึกปฏิบตัิในห้องปฏิบตัิการ หรือสถานการณ์จาํลอง
อาจมี Laboratory direction หรือ Manual ให้ทาํตาม หรือให้
นักศึกษาค้นคว้าหาวิธีหรือบางสิ่งบางอย่างที่ต้องใช้ในการ
ปฏิบตัิการเอง
ต้องปฏิบตัิ และค้นคว้าด้วยตนเองจึงจะเกิดทกัษะในการ
เรียนรู้
ให้ตัง้คาํถามว่า “ทาํไมจึงต้องทาํอย่างนัน้ ทาํอย่างนี้ ?”
และหาคาํตอบ
67
การฝึกปฏิบตัิการในสถานการณ์จริง
ประมวลและบรูณาการความรู้ที่เรียนมาทัง้หมดมาแก้ปัญหาจริง
และค้นคว้าเพิ่มเติมในสิ่งที่ยงัไม่รู้ให้สามารถนํามาแก้ปัญหานัน้ ๆ ได้
การค้นคว้าศึกษาด้วยตนเองการวเิคราะห์ วจิารณ์ความรู้ทีไ่ด้รับการสังเคราะห์ความรู้การนําเสนอความรู้ทีไ่ด้รับ
- ทาํรายงานส่ง- การนําเสนอหน้าชั้นเรียน
-ปริญญาโท 5 หลักสูตร- จบป.ตรีเภสัชฯ สาขาใดกไ็ด้
1.เภสัชศาสตรมหาบณัฑติ (เภสัชศาสตร์)
2. เภสัชศาสตรมหาบณัฑติ (เภสัชกรรมคลนิิก)
3. เภสัชศาสตรมหาบณัฑติ (เภสัชศาสตร์สังคมและการบริหาร)
4. วทิยาศาสตรมหาบณัฑติ (วทิยาศาสตร์สมุนไพร)
5. วทิยาศาสตรมหาบณัฑติ (วทิยาศาสตร์เครื่องสาํอาง)
การศกึษาต่อหลงัจบปรญิญาตร-ี หลกัสตูรของ มอ.
ปริญญาเอก 3 หลักสูตร; วุฒบิตัร 1 หลักสูตร -ปรัชญาดุษฎีบณัฑติสาขาเภสัชศาสตร์
-ปรัชญาดุษฎีบณัฑติสาขาการบริบาลทางเภสัชกรรม
-ปรัชญาดุษฎีบณัฑติ เภสัชศาสตร์สังคมและบริหาร
-วุฒบิตัรแสดงความรู้ความชาํนาญในการประกอบวชิาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบาํบดั (residency หรือ board)-เหมาะสาํหรับผู้จบสาขาการบริบาลทางเภสัชกรรม
การศกึษาต่อหลงัจบปรญิญาตร-ี หลกัสตูรของ มอ.
การรบัรองปริญญาเภสชัศาสตรโ์ดยสภาเภสชักรรม
ประกนัคณุภาพ: ผลิตเภสชักรอย่างมีคณุภาพ-
ประโยชน์ของผูร้บับริการ
ปกป้องสิทธิของผูเ้ข้าเรียน
70
ก่อนเข้าเรียน หลกัสตูร, รบัรองสถาบนัทกุ ๕ ปี-
ระหว่างเรียน (สถาบนัใหม่ทกุปี - ๖ แห่ง)
สาํเรจ็การศึกษา- สอบขึน้ทะเบียนฯ
www.pharmacycouncil.org
71
สามารถเข้าไปด ูปริญญา
เภสชัศาสตรบณัฑิตที่สภา
เภสชักรรมให้การรบัรองได้ที่
website นี้
คณะเภสชัศาสตร ์มอ.มี 5 ภาควิชา• เภสชักรรมคลินิก: การใช้ยา บริบาลทางเภสชักรรม
• เภสชัเคมี: เคมีของยา วิเคราะหย์าทางเคมี
• เภสชัเวทและเภสชัพฤกษศาสตร:์ ยาจากธรรมชาติ
• บริหารเภสชักิจ: เภสชัศาสตรส์งัคมและการบริหาร
• เทคโนโลยีเภสชักรรม: ผลิตยา เครื่องสาํอาง ทัง้ระดบั
เลก็จนถึงอตุสาหกรรม
หน่วย/ศนูยบ์ริการวิชาการของคณะเภสชั
ศาสตร ์ มอ.
• สถานปฏิบตัิการเภสชักรรมชมุชน
– ร้านยาเภสชั มอ.
• ศนูยบ์ริการปฏิบตัิการทางเภสชัศาสตร ์
• ศนูยส์มนุไพรทกัษิณ
• หน่วยเภสชัสนเทศ (Drug Information center
:DIC) 73
http://drugstore.pharmacy.psu.ac.th/สถานปฏิบตัิการเภสชักรรมชมุชน ร้านยาเภสชั มอ.
74
http://plsc.pharmacy.psu.ac.th/ศนูยบ์ริการปฏิบตัิการทางเภสชัศาสตร ์
75
ศนูยบ์ริการปฏิบตัิการทางเภสชัศาสตร ์(ศบภ.)
1. ตรวจวิเคราะหค์ณุภาพยา เภสชัภณัฑ ์เครื่องสาํอาง
อาหาร สมนุไพร และผลิตภณัฑเ์สริมอาหาร
-การทดสอบยา: ความสมํา่เสมอของปริมาณตวัยา
สาํคญั การละลาย การทดสอบความคงตวั ฯลฯ
-การวิเคราะหส์มนุไพร ตรวจสเตียรอยด ์ เตรียม
วตัถดุิบสมนุไพร
- การให้บริการผลิตเภสชัภณัฑ ์ได้แก่ โซเดียมคลอไรด ์
และยาหลอก (placebo)
76
ศนูยบ์ริการปฏิบตัิการทางเภสชัศาสตร ์(ศบภ.)
- - บริการจาํหน่ายนํ้ากลัน่และนํ้ากลัน่บริสทุธิ์สงู
- การให้บริการอื่นๆ ได้แก่ การทดสอบคณุสมบตัิ
ทางกายภาพ เช่น ความเป็นกรด-ด่าง หาปริมาณ
ความชื้น วดัขนาดอนุภาค
2. การให้บริการศึกษาชีวสมมลูยา (Bioequivalence
Study) ที่ผลิตในประเทศเทียบกบัยาต้นแบบ
3. การวิจยัและพฒันาสตูรตาํรบั เพื่อการผลิตยา และ
เครื่องสาํอางที่มีคณุภาพ77
ศนูยบ์ริการปฏิบตัิการทางเภสชัศาสตร ์(ศบภ.)
5. เป็นหน่วยตรวจสอบมาตรฐานผลิตภณัฑช์มุชน
(OTOP) โดยความร่วมมือกบัสาํนักมาตรฐาน
ผลิตภณัฑอ์ตุสาหกรรมเพื่อเสริมสร้างศกัยภาพ และ
ยกระดบักระบวนการผลิต มาตรฐานและคณุภาพ
ผลิตภณัฑช์มุชน
6. โรงงานผลิตยาสมนุไพรต้นแบบ
78
ศนูยส์มนุไพรทกัษิณ:
http://herbal.pharmacy.psu.ac.th/
79
80
http://drug.pharmacy.psu.ac.th/: ประชาชนและบคุลากรทางการแพทย์
81
82
83