การพัฒนาระบบสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม...

การพั�ฒนาระบบสารสนเทศในงาน อุ�ตสาหกรรม

(System Development in Industrial)

Programming with Visual Basic 6.0

Programming withVisual Basic 6.0• การประกาศต�วแปร

– ก่�อนใช้�งานตั�วแปรหร�อค่�าค่งที่��ที่�ก่ค่ร��ง ค่วรที่��จะประก่าศตั�วแปร ก่�อน

– เพื่��อบอก่ให�ร� �ว�าตั�วแปรช้��อน��ตั�องก่ารใช้�งานและใช้�แที่นข้�อมู�ลช้น#ดใด

– VB อน�ญาตัให�ใช้�ตั�วแปรได�โดยไมู�ตั�องประก่าศตั�วแปร – ตั�วแปรที่��สามูารถแที่นข้�อมู�ลได�ที่�ก่ช้น#ดเร�ยก่ว�าตั�วแปร

Variant– ตั�วแปรช้น#ด Variant จะใช้�หน�วยค่วามูจ+ามูาก่ และ

ประมูวลผลได�ช้�าโปรแก่รมูเมูอร-จะไมู�น#ยมูใช้�

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศดั�งน��

Dim varname As datatypes• Dim ค่�อ ค่+าส��ง (statements) ที่��บอก่ให�ร� �ว�า ตั�องก่าร

ประก่าศตั�วแปร • varname ค่�อ ช้��อข้องตั�วแปร สามูารถตั��งช้��อตั�วแปรได�อย�าง

อ#สระ แตั�ตั�องไมู�ผ#ดก่ฎก่ารตั��งช้��อข้อง VB ค่วรจะตั��งช้��อตั�วแปร ให�ส��อก่�บข้�อมู�ลที่��ตั�วมู�นเก่0บอย�� จะที่+าให�อ�านโค่�ดได�ง�ายข้1�น

• As ค่�อ ค่+าสงวน (keywords) ที่��บอก่ให� VB ร� �ว�า ตั�องก่ารก่+าหนดให�ตั�วแปรช้��อด�งก่ล�าวแที่นข้�อมู�ลช้น#ดใด

• datatypes ค่�อ ช้น#ดข้องข้�อมู�ลที่�� VB สน�บสน�นอย�� ซึ่1�งมู�อย��หลายช้น#ด เช้�น ตั�วเลข้จ+านวนเตั0มู (integer), ตั�วอ�ก่ษร

(string) เป4นตั�น

Programming withVisual Basic 6.0• การประกาศต�วแปร แยก่ได� 2 แบบ ค่�อ

•แบบ Implicit Declaration •หมูายถ1ง VB ยอมูให�ใช้�งานตั�วแปรได� โดยไมู�ตั�อง

มู�ก่ารประก่าศตั�วแปร ช้น#ดข้องข้�อมู�ลที่��ได�จะเป4นแบบ Variant ซึ่1�งไมู�ค่วรน+ามูาใช้�งานด�วยเหตั�ผลข้�างตั�น

•แบบ Explicit Declaration •หมูายถ1ง ตั�องมู�ก่ารประก่าศตั�วแปรก่�อนก่ารใช้�

งานที่�ก่ค่ร��ง แล�วจ1งสามูารถน+าตั�วแปรน��นๆ ไปใช้�งานได�

Programming withVisual Basic 6.0• การประกาศต�วแปรแบบ Explicit

– ให�ใส�ค่+าส��ง Option Explicit ไว�ในส�วนบนส�ด ก่�อนก่ารสร�างโพื่รซึ่�เดอร- จะเป4นก่ารบ�งค่�บให� ตั�องประก่าศตั�วแปรก่�อน ที่��จะน+าไปใช้�งานที่�ก่ค่ร��ง

– ถ�าไมู�ตั�องก่ารพื่#มูพื่-ข้�อค่วามูด�งก่ล�าวที่�ก่ค่ร��ง ให�เล�อก่เมูน� Tools/Option เล�อก่ห�วข้�อ

Require Variable Declaration VB จะใส�ข้�อค่วามูด�งก่ล�าว ให�โดยอ�ตัโนมู�ตั#ที่�ก่ค่ร��ง

Programming withVisual Basic 6.0

Tools/Option

เลื�อุกห�วข้ อุRequire Variable Declaration VB

Programming withVisual Basic 6.0• กฎการต��งชื่�#อุต�วแปรแลืะค่%าค่งท�#

• ให�ข้1�นตั�นด�วยพื่ย�ญช้นะเที่�าน��น • ค่วามูยาวข้องช้��อที่��ตั� �งส�งส�ดไมู�เก่#น 255 ตั�วอ�ก่ษร • ช้��อที่��ตั� �งจะตั�องไมู�ซึ่+�าก่�บค่+าสงวน (keywords) , ค่+า

ส��ง(statements) , ฟั7งก่-ช้�น (functions) หร�ออ��นๆ ที่�� VB ก่+าหนดไว�

• ห�ามูตั��งช้��อซึ่+�าก่�นในโพื่รซึ่�เดอร-เด�ยวก่�น หร�อในข้อบเข้ตัเด�ยวก่�น• ห�ามูใช้�เค่ร��องหมูายที่างค่ณิ#ตัศาสตัร- , ตั�วด+าเน#นก่าร

(Operators) หร�อ เค่ร��องหมูายพื่#เศษ เช้�น @,# มูาตั��งช้��อ• ห�ามูมู�ช้�องว�างในช้��อข้องตั�วแปร ถ�าตั�องก่ารเว�นว�าง ให�ใช้�

เค่ร��องหมูาย _ (underscore) เที่�าน��น เช้�น end_salaryเป4นตั�น

• ชื่น&ดัข้อุงข้ อุม�ลื – VB มู�ช้น#ดข้องข้�อมู�ลให�ค่�ณิเล�อก่ใช้�ได�เหมูาะสมูตัามูที่��ค่�ณิ

ตั�องก่ารมูาก่มูาย – จ+านวนเตั0มู (Integer) , เศษส�วน (Single, Double)– สามูารถ เล�อก่ค่วามูละเอ�ยดจ+านวนตั�วเลข้ได�อ�ก่ด�วย – ข้�อค่วามู (string) , ตั�วเลข้ที่างก่ารเง#น (Currency) , ค่�า

ที่างตัรรก่ (boolean) เป4นตั�น – ถ�าเป4นตั�วเลข้ ให�ค่�ณิพื่ยายามูใช้�ข้�อมู�ลช้น#ด Integer หร�อ

Long ให�มูาก่ที่��ส�ด เพื่ราะว�าใช้�ที่ร�พื่ยาก่รน�อย และประมูวลผลได�เร0ว แตั�ก่0ตั�องข้1�นอย��ก่�บข้�อมู�ลที่��จะเก่0บด�วย

Programming withVisual Basic 6.0• ชื่น&ดัข้อุงข้ อุม�ลืเบ��อุงต นท�# VB สน�นสน�น• ส�ญล�ก่ษณิ-พื่#เศษที่��ใช้�แที่นช้น#ดข้องข้�อมู�ล ใช้�ในก่รณิ�

ตั�องก่ารใช้�งานตั�วแปรแบบ Implicitชื่น&ดัข้อุงข้ อุม�ลื

ส�ญลื�กษณ์*พั&เศษ ใชื่ หน%วยค่วามจำ-า รายลืะเอุ�ยดั Boolean ไมู�มู� 2 Bytes

เก่0บค่�าที่างตัรรก่ มู�ได� 2 ค่�า ค่�อ true

(จร#ง ) , false (เที่0จ )ก่+าหนดไว�ว�า 0 มู�ค่�าเที่�าก่�บ falseจ+านวนเตั0มูใดที่��ไมู�เที่�าก่�บ

0 มู�ค่�าเที่�าก่�บ true Byte ไมู�มู� 1 Byteเก่0บค่�าเลข้จ+านวนเตั0มูตั��งแตั� - 0255

ซึ่1�งเป4นรห�สแอสก่� ASCII

ชื่น&ดัข้อุงข้ อุม�ลื

ส�ญลื�กษณ์*พั&เศษ

ใชื่ หน%วยค่วามจำ-า รายลืะเอุ�ยดั

Currency @ 8 Bytes

ใช้�เก่0บตั�วเลข้จ+านวนจร#ง มู�ค่�า ระหว�าง -

922,337,203,685,477.5808 ถ1ง922,337,203,685,477.5807 ใช้�ส+าหร�บเก่0บตั�วเลข้ที่างก่ารเง#นมู�ที่ศน#ยมู4

ตั+าแหน�ง Variant ไมู�มู�ข้1�นอย��ก่�บช้น#ดข้�อมู�ล สามูารถเก่0บข้�อมู�ลได�ที่�ก่ช้น#ด Integer % 2 Bytes

เก่0บค่�าเลข้จ+านวน เตั0มูที่��มู�ค่�าระหว�าง -

32768 ถ1ง32767 Long & 4 Bytesใช้�เก่0บเลข้จ+านวนเตั0มูที่��

มู�ค่�าระหว�าง -2,147,483,648 ถ1ง2,147,483,647

Single ! 4 Bytes

ใช้�เก่0บตั�วเลข้จ+านวนจร#ง ค่�า บวก่อย��ระหว�าง

1.401298E-45 ถ1ง3.402823E38 และค่�า

ลบอย��ระหว�าง -3.402823E38 ถ1ง -1.401298E-45

Double 8 Bytes#

ใช้�เก่0บตั�วเลข้จ+านวนจร#ง แยก่เป4น 2 ก่รณิ� ค่�อ ค่�า

บวก่อย��ระหว�าง4.94065645841247E-324 ถ1ง1.79769313486232E308 ค่�าลบอย��ระหว�าง-1.79769313486232E308 ถ1ง -4.94065645841247E-324

String $ 1 Bytes (ascii) ใช้�เก่0บตั�วอ�ก่ษร ข้�อค่วามู และตั�วเลข้

Date ไมู�มู� 8 Bytes ใช้�ส+าหร�บเก่0บว�นเด�อนป:

Decimal ไมู�มู� 12 Bytes

ก่รณิ�เลข้จ+านวนเตั0มู มู� ค่�าตั��งแตั� -

79,228,162,514,264,337,593,543,950,335 ถ1ง+79,228,162,514,264,337,593,543,950,335 Object ไมู�มู� ? ใช้�ส+าหร�บแที่นอ;อบเจ0ก่ตั- หร�อค่อนโที่รลที่�� VV สน�บสน�น

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Dim x As Integer

•หมูายถ1ง ให�ตั�วแปร x เก่0บข้�อมู�ลที่��เป4นตั�วเลข้จ+านวนเตั0มูเที่�าน��น (มู�ค่�าอย��ระหว�าง -32

768 ถ1ง 32767

• Dim y As String •หมูายถ1ง ให�ตั�วแปร y เก่0บข้�อมู�ลที่��เป4นข้�อค่วามู

หร�อตั�วอ�ก่ษรเที่�าน��น

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Boolean ใช้�หน�วยค่วามูจ+า 2 bytes มู�ค่�า V( จร#ง )

หร�อ V( เที่0จ ) เที่�าน��น – เช้�น Dim a As Boolean ก่+าหนดให�ตั�วแปร a เป4น

ตั�วแปรช้น#ดบ�ล�น• Byte เป4นข้�อมู�ลช้น#ดเลข้จ+านวนเตั0มู มู�ค่�าระหว�าง

- 0255 โดยใช้�หน�วยค่วามูจ+า 1 byte มู�ก่ใช้�เก่0บรห�สโค่�ดแอสก่�� ที่��มู�จ+านวน 256 ตั�วอ�ก่ษร – เช้�น Dim asc As Byte ก่+าหนดให�ตั�วแปร asc เป4น

ตั�วแปรช้น#ด VVVV

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Currency เป4นข้�อมู�ลช้น#ดที่��มู�ค่�าตั��งแตั�

-92233720368547, , , , 75808 ถ1ง

92233720368547, , , , 75807. ใช้�หน�วยค่วามูจ+า VVVVV 8

• ใช้�เก่0บตั�วเลข้ที่างก่ารเง#นโดยเฉพื่าะ เพื่ราะมู�ค่วามูละเอ�ยดส�ง มู�ที่ศน#ยมู 4 ตั+าแหน�ง – เช้�น Dim Deb VV currency

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Date เป4นข้�อมู�ลส+าหร�บใช้�เก่0บว�นที่�� ซึ่1�งสามูารถเก่0บได�

ตั��งแตั�ว�นที่�� 1 100January ถ1งว�นที่�� 31 9999และเก่0บเวลาได�ตั��งแตั� 00000 ถ1ง 23:59:59

• ในก่ารใช้�ข้�อมู�ลช้น#ดน��ตั�องใช้�เค่ร��องหมูาย # #... ล�อมูรอบค่�าข้องตั�วแปรด�วย ใช้�หน�วยค่วามูจ+า 8 bytes• เช้�น VVV dte VV Date

dte = #12/31/1999 11:59:59#PM

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Decimal เป4นข้�อมู�ลช้น#ดเลข้จ+านวนจร#ง ใช้�หน�วยค่วามูจ+า 12 bytes ซึ่1�งจะ

แยก่ออก่เป4น 3 ก่รณิ� ค่�อ – กรณ์�เลืข้จำ-านวนเต.ม มู�ค่�าตั��งแตั�

-7922816251426433759354395, , , , , , , , 0335, ถ1ง

7922816251426433759354395+ , , , , , , , , 0335,

– กรณ์�เลืข้ทศน&ยม มู�ค่�าตั��งแตั� -792281625142643375935439503

35 ถ1ง -79228162514264337593543950+ .

– ค่%าท�#น อุยท�#ส�ดัท�#ไม%เท%าก�บศ�นย* ที่��สามูารถเก่0บได�ค่�อ 000000000000000000000000000.

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• ก่ารใช้�งาน Decimal

– ประก่าศตั�วแปรให�เป4นข้�อมู�ลช้น#ด Variant ก่�อน – ใช้�ฟั7งก่-ช้�น CDec ( ) เพื่��อแปลงช้น#ดข้องข้�อมู�ล

จาก่ Variant เป4น Decimal ด�งน��– Dim a As Variant

a =CDec("123456789123456789")

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Double ใช้�เก่0บตั�วเลข้จ+านวนจร#ง แยก่เป4น 2 ก่รณิ� ค่�อ

– ค่%าบวกอุย�%ระหว%าง - 494065645841247 324. Eถึ2ง 179769313486232 308. E

– ค่%าลืบอุย�%ระหว%าง - 179769313486232 308. Eถึ2ง - - 494065645841247 324. E

– ใชื่ หน%วยค่วามจำ-า bbbbb 8

– เช้�น Dim aBs As Double

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Integer ใช้�เก่0บเลข้จ+านวนเตั0มูที่��มู�ค่�าตั��งแตั�

- 32768 ถ1ง 32767 ใช้�หน�วยค่วามูจ+า 2 byt e– เช้�น Dim count As Integer

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Long ใช้�เก่0บเลข้จ+านวนเตั0มูที่��มู�ค่�าระหว�าง

- 2147483648 ถ1ง 2147483647, , , ใช้�หน�วย

ค่วามูจ+า VVVV4

– เช้�น Dim num As Long

Programming withVisual Basic 6.0• ร�ปแบบการประกาศต�วแปร• Single ใช้�เก่0บตั�วเลข้จ+านวนจร#ง แยก่เป4น 2 ก่รณิ�

ค่�อ – ค่�าบวก่อย��ระหว�าง - 1401298 45. E

ถ1ง 3402823 38. E– ค่�าลบอย��ระหว�าง - 3402823 38. E

ถ1ง - - 1401298 45. E– ใช้�หน�วยค่วามูจ+า VVVV4 – เช้�น Dim Intr As Single

Programming withVisual Basic 6.0• String

– เป4นข้�อมู�ลช้น#ดข้�อค่วามู ซึ่1�งอาจเป4นได�ที่��งตั�วอ�ก่ษร หร�อตั�วเลข้ก่0ได�

– ข้นาดหน�วยค่วามูจ+าที่��ใช้�จะข้1�นอย��ก่�บร�ปแบบก่ารจ�ดเก่0บ ค่�อ ถ�าตั�วอ�ก่ษรที่��เก่0บอย��ในร�ปแบบ AS

CII จะใช้�พื่��นที่�� 1 ตั�วตั�อ 1 byt e แตั�ถ�าเก่0บในร�ปแบบ VVVVVVV อ�ก่ษรแตั�ละตั�วจะใช้�พื่��นที่��

1 ตั�วตั�อ 2 bytes

Programming withVisual Basic 6.0• ข้�อมู�ลช้น#ด String สามูารถแบ�งออก่ได� 2

ประเภที่ ค่�อ • - Variable length string

– หมูายถ1ง เป4นตั�วแปร String ที่��ไมู�ได�ก่+าหนดข้นาดข้องตั�วอ�ก่ษรไว�

– สามูารถใส�ตั�วอ�ก่ษรได� 65526 ตั�วอ�ก่ษร (ascii) และ 32763 ตั�วอ�ก่ษร

(unicode)

Programming withVisual Basic 6.0• ข้�อมู�ลช้น#ด String สามูารถแบ�งออก่ได� 2 ประเภที่ ค่�อ • - Fixed length string

– หมูายถ1ง เป4นตั�วแปร String ที่��จ+าก่�ดข้นาดตั�วอ�ก่ษรไว� จะตั�องใช้�เลข้จ+านวนเตั0มูเที่�าน��น

– เช้�น Dim a As String * 99 หมูายถ1ง ตั�วแปร aสามูารถเก่0บตั�วอ�ก่ษร รวมูช้�องว�างได�ไมู�เก่#น 99 ตั�วอ�ก่ษร ส�งส�ดที่�� 98 ตั�วอ�ก่ษร ตั�วส�ดที่�ายใช้�เก่0บตั�วอ�ก่ษรพื่#เศษ n

ull ก่+าก่�บไว�เพื่��อบอก่ให�ร� �ว�า จบข้�อค่วามูแล�ว ซึ่1�งเป4นก่ฎเก่ณิฑ์-ที่��ค่�ณิค่วรที่ราบไว�ส+าหร�บในก่ารใช้�ตั�วแปรช้น#ด Stri

Programming withVisual Basic 6.0• การใชื่ งานต�วแปรแบบใชื่ ส�ญลื�กษณ์*พั&เศษก-าก�บ

ชื่น&ดัข้อุงข้ อุม�ลื ส�ญลื�กษณ์*พั&เศษInteger %

Long &

Single !

Double #

Currency @

String $

สามารถึใชื่ งานต�วแปรไดั โดัยการใชื่ ส�ญลื�กษณ์*พั&เศษต%อุท ายต�วแปรน��นๆ

• การใชื่ ส�ญลื�กษณ์*พั&เศษต%อุท ายต�วแปร ถ�าใช้�ว#ธี�น��ตั�องใช้�ตัลอดที่��งโพื่รซึ่�เดอร- เช้�น– Dim x% หมูายถ1ง ให�ตั�วแปร x เก่0บข้�อมู�ลช้น#ดเลข้จ+านวนเตั0มู Integer – Dim x& หมูายถ1ง ให�ตั�วแปร x เก่0บข้�อมู�ลช้น#ดเลข้จ+านวนเตั0มู Long– Dim x! หมูายถ1ง ให�ตั�วแปร x เก่0บข้�อมู�ลช้น#ดเลข้ที่ศน#ยมูแบบ Single

(ค่วามูละเอ�ยดตั+�า) – Dim x# หมูายถ1ง ให�ตั�วแปร x เก่0บข้�อมู�ลช้น#ดเลข้ที่ศน#ยมูแบบ

Double (ค่วามูละเอ�ยดส�ง) – Dim x@ หมูายถ1ง ให�ตั�วแปร x เก่0บข้�อมู�ลช้น#ดเลข้ที่างก่ารเง#น

Currency– Dim x$ หมูายถ1ง ให�ตั�วแปร x เก่0บข้�อมู�ลช้น#ดข้�อค่วามู String

Programming withVisual Basic 6.0• ข้อุบเข้ตข้อุงต�วแปร (Scope of

Variable)• ตั�วแปรแตั�ละตั�วมู�ข้อบเข้ตัก่ารใช้�งาน• VB สามูารถแบ�งข้อบเข้ตัตั�วแปรได� 2 ประเภที่

ค่�อ – ตั�วแปรแบบ Local– ตั�วแปรแบบ Public

Variable not defind

Option ExplicitPrivate Sub cmd1_Click()

x=x+yEnd Sub

Programming withVisual Basic 6.0• ต�วแปรแบบ Local เป4นตั�วแปรเฉพื่าะที่��

– ถ�าประก่าศในส�วนข้อง Gerneral ข้องแบบฟัอร-มูที่�ก่ส�วนข้องโปรแก่รมูที่��อย��ในแบบฟัอร-มูน��จะน+าไปใช้�ร�วมูก่�นได�

– ถ�าใช้�ค่+าส��ง Dim ก่+าหนดในส�วนข้องโปรแก่รมู Sub จะใช้�ได�เฉพื่าะส�วนน��น

Private Sub cmd1_Click()Dim x As IntegerDim y As Long

x=x+yEnd Sub

Private Sub cmd2_Click()x=x+y

End Sub

x=x+yEnd Sub

Private Sub cmd1_Click()x=x+y

Print xEnd Sub

Dim x As IntegerDim y As Long

Private Sub cmd2_Click()y=x-y

Print yEnd Sub

Programming withVisual Basic 6.0• ต�วแปรเม�#อุถึ�กเร�ยกใชื่ จำะม�ค่%าเร&#มต นเสมอุ

– ตั�วแปรที่��เก่0บเลข้จ+านวน จะมู�ค่�าเร#�มูตั�นเป4น 0– ตั�วแปรอ�ก่ข้ระ จะมู�ค่�าเร#�มูตั�นว�าง (Null)

Private Sub cmdSum_Click()Dim x as Integer

x=x+1Text1.text=xEnd Sub

Programming withVisual Basic 6.0• ค่-าส�#ง Static

– ตั�วแปรที่��ประก่าศด�วยค่+าส��ง Static จะเก่0บค่�าล�าส�ดไว�เสมูอ

Private Sub cmdSum_Click()Static x as Integer

x=x+1Text1.text=xEnd Sub

Programming withVisual Basic 6.0• ต�วแปรแบบ Public

– ก่+าหนดโดยใช้�ค่+าส��งที่�� Module และสามูารถเร�ยก่ใช้�ได�จาก่ ที่�ก่ส�วนข้องโปรแก่รมู ใน Project หน1�งๆ

Programming withVisual Basic 6.0• ประกาศใน Module• เล�อก่เมูน� Project/Add Module VB จะเพื่#�มู

ไฟัล-โมูด�ล . () เข้�ามูาในโปรเจ0ก่ตั- • ไฟลื*โมดั�ลื (Module) เป4นพื่��นที่��พื่#เศษที่��ใช้�

ส+าหร�บประก่าศตั�วแปร,ฟั7งก่-ช้�นที่��เข้�ยนข้1�นมูา VVVVVVV VV, ocedure, หร�อฟั7งก่-ช้�น Windows API ฯลฯ

เที่�าน��น

Programming withVisual Basic 6.0• ตั�องประก่าศตั�วแปรโดยใช้�ค่+าส��ง Public แที่นค่+า

ส��ง DimOption ExplicitPublic x As LongPublic y As Long

Programming withVisual Basic 6.0• การทดัลือุงท�# 1 โปรแกรมบวกต�วแปร• หน�าจอหล�ก่

Programming withVisual Basic 6.0• ว�ตถึ�ประสงค่*ข้อุงการท-างาน

– สร�างโปรแก่รมูเพื่��อบวก่เลข้ค่�าจ+านวนเตั0มู เลข้จ�ดที่ศน#ยมู หร�อตั�อค่�าตั�วแปรแบบ String เข้�าด�วยก่�น

– โดยผ��ใช้�จะใส�ค่�าที่��ช้�อง A และ B เมู��อก่ดป�Bมู Plus จะปราก่ฏค่+าตัอบที่��ช้�อง labal ช้��อ lblResult

Programming withVisual Basic 6.0• ข้��นตอุนการเข้�ยนโปรแกรม

– เปDด Project ใหมู�เข้�าส�� Visual Basic– เล�อก่ Standard Exe– ก่ด Open – โปรแก่รมูจะเข้�าส��หน�าจอ IDE ข้อง Visual

– ออก่แบบหน�าจอซึ่1�งเป4นฟัอร-มูที่��แสดงให�ผ��ใช้�เห0นและตั#ดตั�อก่�บตั�วโปรแก่รมู

– ให�ออก่แบบด�งร�ป ซึ่1�งจะมู� Object 7 ตั�ว ให�เล�อก่ Object ตั�างๆจาก่ Toolbox แล�วน+ามูาวางพื่ร�อมูก่�บจ�ดตั+าแหน�งให�เป4นไปตัามูภาพื่

Label ชื่�#อุ lblALabel ชื่�#อุ lblB

Command button ชื่�#อุ cmdPlus

Text box ชื่�#อุ txtAText box ชื่�#อุ txtBLabel ชื่�#อุ lblResultCommand button ชื่�#อุ cmdExit

– ตั��งค่�าแตั�ละ Property ข้องแตั�ละ Object – ก่ารตั��งค่�า Object ที่+าได�โดยค่ล#ก่ที่��ตั�ว Object

แล�วเข้�าไปตั��งค่�าใน View>Properties Window

– แตั�ถ�า window ไมู�แสดงข้1�นมูาก่0ให�เล�อก่เมูน� View>Properties Window หร�อก่ด F4 แล�วตั��งค่�า Property ตั�างๆตัามูค่�าในตัารางตั�อไปน��

– เข้�ยน code ส+าหร�บเหตั�ก่ารณิ-ที่��เก่#ดข้1�น ค่�อ– เมู��อผ��ใช้�ก่ดป�Bมู Plus ตั�องน+าค่�าในช้�อง txtA มูาบ

วก่ก่�บค่�าในช้�อง txtB แล�วน+าผลล�พื่ธี-ไปใส�ช้�อง lblResult

– ด�งน��นตั�องไปเข้�ยนโปรแก่รมูที่�� Code Editor โดย Double Click ที่��ป�Bมู cmdPlus หร�อเร�ยก่จาก่ Menu View> Code แล�วใส� Code ด�งน��

– ที่ดลอง Run โปรแก่รมู โดยก่ด F5 แล�วที่ดลองใส�ค่�าตั�วเลข้ในช้�อง A และ B แล�วค่ล#ก่ที่��ป�Bมู Plus เพื่��อด�ผล

Programming withVisual Basic 6.0• ค่-าถึามท ายการทดัลือุง

– ที่ดลองเปล��ยน code ตัรงช้น#ดข้อง Variable ให�เป4น Single (แที่นที่�� Integer )แล�วด�ว�าโปรแก่รมูตั�างจาก่เด#มูอย�างไร

– ที่ดลองเปล��ยน code ตัรงช้น#ดข้อง Variable ให�เป4น String (แที่นที่�� Integer )แล�วด�ว�าโปรแก่รมูตั�างจาก่เด#มูอย�างไร

Programming withVisual Basic 6.0• การทดัลือุงท�# 2 การสร างเมน�

– ก่ารใช้�งานค่อนโที่รล ToolBar และค่อมูโที่รล ImageList•ค่อนโที่รล ToolBar ใช้�ส+าหร�บสร�างแถบที่�ล

บาร- โดยก่ารใช้�ร�ปภาพื่ที่��เก่0บอย��ในค่อนโที่รล ImageList

Programming withVisual Basic 6.0• การเพั&#มค่อุนโทรลื Microsoft

Windows Common Control 6.0 เข้ ามาใน VBIDE– ให�ค่ล#ก่ข้วาที่��ว�างบน Tool box แล�วเล�อก่

Components….– หร�อเล�อก่ที่��เมูน� Project>Add

Components…

Programming withVisual Basic 6.0• การเพั&#มค่อุนโทรลื Microsoft

Windows Common Control 6.0 เข้ ามาใน VBIDE– ให�เล�อก่ Microsoft Tabbed Dialog

Control– ให�เล�อก่ Microsoft Windows

Component Control

Programming withVisual Basic 6.0• การใชื่ งานค่อุนโทรลื ImageList

•ค่อนโที่รล ImageList มู�หน�าที่��เก่0บร�ปภาพื่แล�วเร�ยบเร�ยงร�ปภาพื่แบบอาเรย-

•เมู��อตั�องก่ารใช้�ร�ปภาพื่ใดก่0สามูารถอ�างอ#งจาก่ล+าด�บข้องร�ปภาพื่

•โดยที่��ร�ปภาพื่แรก่จะก่+าหนดให�เป4นล+าด�บเที่�าก่�บ 1

Programming withVisual Basic 6.0• การใชื่ งานค่อุนโทรลื ToolBar

– ก่ารน+าร�ปภาพื่ที่��เก่0บไว�ใน IamgeList มูาแสดงในค่อนโที่รล ToolBar เพื่��อใช้�เป4นร�ปภาพื่แที่นเมูน�ค่+าส��ง

– ค่ล#ก่ข้วาที่��ค่อนโที่รล ToolBar แล�วเล�อก่ Properties

Programming withVisual Basic 6.0• การปร�บแต%งค่อุนโทรลื ToolBar แบบ

Flat– จาก่ร�ปก่�อนหน�าน��จะพื่บว�าเมูน�ย�งไมู�ที่�นสมู�ย เรา

สามูารถปร�บแตั�งเมูน�ให�ที่�นสมู�ยเหมู�อนเมูน�ข้องโปรแก่รมูที่��วไปได�

Programming withVisual Basic 6.0• การสร างเส นค่�#นระหว%างป�7ม

– สมูมูตั#ว�าตั�องก่ารแบ�งก่ล��มูข้องก่ล��มูออก่เป4น 2 ก่ล��มู ระหว�างป�Bมูที่�� 3 และป�Bมูที่�� 4

– โดยที่+าก่ารแที่รก่ป�Bมูใหมู�ระหว�างป�Bมูที่��ตั�องก่ารแบ�ง

Programming withVisual Basic 6.0• การสร างเมน�ย%อุยให ก�บป�7ม

– สมูมูตั#ว�าตั�องก่ารสร�างเมูน�ย�อยให�ก่�บป�Bมูที่�� 1

Programming withVisual Basic 6.0• การใส%เส นค่�#นระหว%างเมน�ย%อุย

– สมูมูตั#ให�ใส�เส�นค่��นระหว�างเมูน�ย�อย 2 และเมูน�ย�อย 3

Programming withVisual Basic 6.0• การตรวจำสอุบสถึานะการค่ลื&กท�#ป�7มหร�อุเมน�ย%อุย

– หล�งจาก่ที่��สร�างป�Bมูและเมูน�ย�อยแล�วจะตั�องมู�ก่ารตัรวจสอบสถานะก่ารค่ล#ก่เพื่��อที่��จะน+าไปใช้�ในก่ารเข้�ยน Code

– โดยจะก่+าหนดให�– Toolbar1_ButtonClick() เป4นก่ารค่ล#ก่ที่��ป�Bมูใดๆใน

ค่อนโที่รล– Toolbar1_ButtonMenuClick() เป4นก่ารค่ล#ก่ที่��

เมูน�ย�อยใดๆในค่อนโที่รล

Programming withVisual Basic 6.0• การใชื่ งานค่อุนโทรลื CoolBar

– ใช้�ส+าหร�บบรรจ�ค่อนโที่รล Toolbar ตั��งแตั� 1 ตั�วข้1�นไป

– แถบที่��ปราก่ฏในค่อนโที่รลน��เร�ยก่ว�า Brand

Programming withVisual Basic 6.0• การใชื่ งานค่อุนโทรลื StatusBar

– ใช้�ส+าหร�บแสดงสถานะ , แสดงข้�อค่วามู หร�อแสดงร�ปภาพื่ที่างด�านล�างข้องแบบฟัอร-มู

– ใช้�แสดงสถานะข้องป�Bมูบางป�Bมูที่��อย��บนค่�ย-บอร-ด , แสดงว�นที่�� , แสดงเวลา และแสดงข้�อค่วามูตั�างๆ

– ช้�องที่��ปราก่ฏในค่อมูโที่รลน��เร�ยนก่ว�า Panel

การพัฒนาระบบสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม...

Documents

HealthCare System Development Project

Information System Development and Programming Languages

System Development and System Analyst

(System Development).doc

System Development Life Cycle I.pdf

YAMUNA EXPRESSWAY INDUSTRIAL DEVELOPMENT AUTHORITYyamunaexpresswayauthority.com/sites/default/files/pdfs/New Open-I… · YAMUNA EXPRESSWAY INDUSTRIAL DEVELOPMENT AUTHORITY First

Shared Questionnaire System Development Project

Chapter 5 system development

Implementasi Agile Dynamic System Development Method

บทที่ 2 การพัฒนาระบบสารสนเทศ (Information System Development)

European System Industrial

Development Certiﬁcation Evaluation System...Development Certification Evaluation System For the Standardization of Human Resource Development Training Management System Rika NAGATA

BAB II LANDASAN TEORI 2.1 System Development Life Cyclesir.stikom.edu/id/eprint/1692/4/BAB_II.pdf · 6 BAB II LANDASAN TEORI 2.1 System Development Life Cycle System development life

Chapter 6 system development

การพัฒนาระบบสารสนเทศ (Information System Development)

"Ordinary" System Development

SE2 2 System Development LifeCycle

System development life cycle sdlc

System development live cycle

경력개발제도 (Career Development System)