Upload
apple-natthakan
View
341
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
17/07/54
1
ทฤษฎีการผลติทฤษฎีการผลติ
อาจารย์ณฐักานต์อาจารย์ณฐักานต์ บญุอยู่บญุอยู่
อาจารย์เปิล้อาจารย์เปิล้
ความหมายของทฤษฎีการผลิต
กระบวนการสร้างอรรถประโยชน์หรือกระบวนการสร้างอรรถประโยชน์หรือประโยชน์ทางเศรษฐกิจประโยชน์ทางเศรษฐกิจ((Economic Economic ฐฐ ((
UtilityUtility) ) ให้กบัปัจจยัตา่งๆให้กบัปัจจยัตา่งๆ เพ่ือเพ่ือตอบสนองความต้องการของมนษุย์ตอบสนองความต้องการของมนษุย์
17/07/54
2
17/07/54
3
การแบ่งชนิดของปัจจัยการผลิตการแบ่งชนิดของปัจจัยการผลิต1. ปัจจยัการผลติแบง่ตามชนิดของปัจจยัการผลติ
2. ปัจจยัการผลติแบง่ตามลกัษณะการใช้หรือแบง่ตามระยะเวลาการผลติ
แบง่ตามชนิดของปัจจยัการผลติ• ท่ีดนิ (Land)
แบง่ตามชนิดของปัจจยัการผลติ• แรงงาน (Labor)
• หรือทรัพยากรมนษุย์
(Human Resource)(Human Resource)
แบง่ตามชนิดของปัจจยัการผลติ• ทนุ (Capital)
แบง่ตามชนิดของปัจจยัการผลติ• การประกอบการ (Entrepreneurship)
17/07/54
4
แบง่ตามลกัษณะการใช้หรือแบง่ตามระยะเวลาการผลติ
• ปัจจยัคงท่ี (Fixed Factor)
แบง่ตามลกัษณะการใช้หรือแบง่ตามระยะเวลาการผลติ
• ปัจจยัผนัแปร (Variable Factor)
ระยะเวลาการผลติ1. การผลติในระยะสัน้ หมายถึง การผลติท่ีมีทัง้ปัจจยั
ผนัแปร (Variable Factors) ทํางานร่วมกบัปัจจยัคงท่ี (Fixed Factors) อยา่งน้อยหนึง่อยา่ง
2. การผลติในระยะยาว หมายถึง การผลติท่ีมีเฉพาะปัจจยัชนิดผนัแปรเท่านัน้
Production ProcessVariable Factors
(Input) (Output)
Product
22
Product
• ผลผลติเพิม่ (Marginal Product : MP)• ผลผลติรวม (Total Product : TP)• ผลผลติเฉลีย่ (Average Product : AP)
โดยท่ี :LTP
AP
AP = ผลผลติเฉล่ีย (Average Product)
TP= จํานวนผลผลิตรวมทัง้หมด (Total Product)
L = จํานวนปัจจยัผนัแปร
ผลผลิตเพิ่ม (Marginal Product : MP)
TPL
TPMP
17/07/54
5
4
3
2
***
2.5
3
2
***
MPAP
31 9
521
211
001
ผลผลติรวม
(TP)
แรงงาน
(คน)
ทีด่นิ
(ไร)
- 1
0
1
2
3
4
1.8
2.1
2.5
2.8
3
331
1481
1571
1561
1451
1241
9
ผลผลติ
12
10
8
16
14 TP
I II III
จาํนวนแรงงาน
2
2
6
4
5 6 7 81 3 40
-2
AP
MPการแบงชวงการผลติ
• Stage 1 เร่ิมตัง้แตจ่ดุ 0 จนถึงจดุท่ี AP มีคา่สงูสดุ สามารถขยายการผลติและทํากําไรได้อีกเน่ืองจาก TP ยงัเพ่ิมขึน้
•ผลผลติ
16 I II III
จาํนวนแรงงาน
2
2
12
10
8
6
4
14
5 6 7 81 3 40
-2
AP
MP
TP
การแบงชวงการผลติ
• Stage 2 เร่ิมตัง้แตจ่ดุท่ี AP มีคา่สงูสดุจนถึงจดุท่ี
MP มีคา่เทา่กบัศนูย์และ TP มีคา่สงูสดุ ขัน้นี ้MP
และ AP จะลดลง ผู้ผลิตควรเลือกทําการผลติ ณ
จดุใดจดุหนึง่ในขัน้การผลิตนีเ้พราะจะทําให้ผู้ผลิตได้รับ TP สงสดไดรบ TP สงูสดุผลผลติ
จาํนวนแรงงาน
2
2
12
10
8
6
4
16
14
5 6 7 81 3 40
-2
AP
MP
TP
การแบงชวงการผลติ
I II III
• Stage 3 เร่ิมตัง้แตจ่ดุท่ี MP มีคา่เทา่กบัศนูย์และ TP มีคา่สงูสดุเป็นต้นไป ผู้ผลติไม่ควรทําการผลติเพราะจะได้รับ TP ท่ีลดลง และ MP มีคา่ติดลบผลผลติผลผลต
จาํนวนแรงงาน
2
2
12
10
8
6
4
16
14
5 6 7 81 3 40
-2
AP
MP
TP
การแบงชวงการผลติ
I II III
การผลิตในระยะยาว
(Long-Run Production)
การผลติในระยะเวลาท่ีสามารถเปล่ียนแปลงขนาดและปริมาณของปัจจยัการผลติทกุชนิดได้ตามต้องการ ดงันัน้
ปัจจยัการผลติท่ีใช้ในการผลิตมีชนิดเดียวคือ ปัจจยัผนัปจจยการผลตทใชในการผลตมชนดเดยวคอ ปจจยผนแปร การผลติในระยะยาวอยูภ่ายใต้กฎของกฎผลได้จากการขยายขนาดการผลติ (Law of Returns to Scale)
ซึง่อธิบายการเปล่ียนแปลงของผลผลติรวมขณะท่ีปัจจยัการผลติตา่งๆ เปล่ียนแปลงไป
17/07/54
6
แบง่ระยะการเปล่ียนแปลงผลผลติรวมได้ 3
ระยะ คือ• ระยะที่ 1 ระยะผลได้เพิ่มขึน้
(Increasing Returns to Scale) ผลผลติรวมท่ีได้มีปริมาณเพ่ิมขึน้ เม่ือเพ่ิมปัจจยัการผลติเข้าไปในอตัราสว่นหนึง่จะทําให้ผลผลติรวมเพ่ิมขึน้ในอตัราท่ีสงูกวา่
ระยะที่ 2 ระยะผลได้คงที่ (Constant
Returns to Scale)
• ผลผลิตรวมท่ีได้มีปริมาณคงท่ี เม่ือเพ่ิมปัจจยัการผลิตเข้าไปในอตัราสว่นเท่าใดจะทําให้ผลผลิตรวมเพ่ิมขึน้ในอตัราสว่นเท่ากนัด้วย
ระยะที่ 3 ระยะผลได้ลดน้อยลง (Decreasing Returns to Scale)
• ผลผลติรวมท่ีได้มีปริมาณลดลง เม่ือเพ่ิมปัจจยัการผลติเข้าไปในอตัราสว่นหนึง่จะทําให้ผลผลติรวมเพิ่มขึน้ในอตัราท่ีต่ํากวา่
ดงันัน้ การผลติในระยะท่ีหนึง่และสองจะทําให้ได้รับกําไร แตใ่นระยะท่ีสามซึง่ผลผลติรวมเพ่ิมขึน้ในอตัราท่ีลดลง ้ ิ ไ ่ ื ํ ิผู้ผลติจะไมเ่ลือกทําการผลติเพราะเส่ียงกบัการขาดทนุ
ต้นทนุการผลติ
•ต้นทนุคงท่ี
•ต้นทนุผนัแปร• ต้นทนุรวม = คงท่ี+ผนัแปร
รายรับในการผลติ• รายรับรวม
รายรับเฉลี่ย• รายรบเฉลย
• รายรับเพ่ิม
17/07/54
7
กําไร• กําไรปกต ิ(รายรับ = ต้นทนุรวม)
• กําไรเกินปกต ิ(รายรับรวม สงูกวา่ ต้นทนุรวม)
• กําไรเป็นลบ หรือ ขาดทนุ (รายรับรวม น้อยกวา่ต้นทนุรวม