56
กกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกก กกก กก. กกกกกกก กกกก กกกกกกกก

โดย ดร. ทัศตริน วรรณเกตุศิริ

Embed Size (px)

DESCRIPTION

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. โดย ดร. ทัศตริน วรรณเกตุศิริ. หลักการเลือกประเด็น ปัญหาสำหรับ การวิจัย. เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และผู้วิจัยมีความสนใจ ต้องการแก้ไขหรือหาคำตอบอย่างแท้จริง - PowerPoint PPT Presentation

Citation preview

Page 1: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

การวิ�จั�ยเพื่��อพื่�ฒนาการเร�ยนร��

คณะศึ�กษาศึาสตร�และพื่�ฒนศึาสตร�มหาวิ�ทยาล�ยเกษตรศึาสตร� วิ�ทยาเขต

ก#าแพื่งแสน โดย

ดร . ท�ศึตร�น วิรรณเกต'ศึ�ร�

Page 2: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

หล�กการเล�อกประเด)นป*ญหาส#าหร�บการวิ�จั�ย

1 . เป-นป*ญหาท��เก�ดข�.นจัร�ง และผู้��วิ�จั�ยม�ควิามสนใจั ต�องการแก�ไขหร�อหาค#าตอบอย2างแท�จัร�ง

2. ผู้��วิ�จั�ยต�องม�ควิามร�� และ/หร�อม�ควิามถน�ดในเร��องท��จัะวิ�จั�ย

3. สามารถสร�างเคร��องม�อวิ�จั�ยเพื่��อรวิบรวิมข�อม�ล ต�องการกระบวินการวิ�จั�ยเพื่��อให�ได�ค#าตอบ ไม2ใช่2ป*ญหาท��สามารถแก�ได�โดยการจั�ดการ

4. ม�ควิามช่�ดเจัน ไม2คล'มเคร�อ ไม2กวิ�างจันเก�นไป

Page 3: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

หลากหลายช่��อแต2ควิามหมายเด�ยวิก�น การวิ�จั�ยในช่�.นเร�ยน (Classroom Research) การวิ�จั�ยเช่�งปฏิ�บ�ต�การ (Action Research) การวิ�จั�ยเพื่��อพื่�ฒนาการเร�ยนร�� (Research for Learning

Development) การวิ�จั�ยของคร� หร�อ การวิ�จั�ยโดยคร� (Teacher-Based

research) การแสวิงหาควิามร��เช่�งสะท�อนผู้ลด�วิยตนเอง (Self-Reflection) การวิ�จั�ยเช่�งปฏิ�บ�ต�การในช่�.นเร�ยน (Classroom Action

Research

Page 4: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ควิามยากของการวิ�จั�ยในช่�.นควิามยากของการวิ�จั�ยในช่�.นเร�ยน เร�ยน ขาดควิามเข�าใจัด�านกระบวินการวิ�จั�ย และสถ�ต�ท��

ใช่�ในการวิ�จั�ยขาดงบประมาณสน�บสน'น ไม2น#าผู้ลงานวิ�จั�ยไปใช่�จัร�ง การขาดท�กษะในการเข�ยนรายงานวิ�จั�ย

Page 5: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

www.onec.go.th

Page 6: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

www.thaiedresearch.org

Page 7: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 8: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 9: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 10: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 11: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 12: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ควิามส�มพื่�นธ์�ระหวิ2างกระบวินการเร�ยนการสอน

การวิางแผู้นการสอน

จั�ดก�จักรรมการเร�ยนการสอน

ประเม�นผู้ลการเร�ยนร��

วิ�เคราะห�ผู้ลการประเม�น

น#าผู้ลการวิ�จั�ยไปใช่�ปร�บปร'งและพื่�ฒนา

พื่บป*ญหาการเร�ยน

ร��

กระบวินการวิ�จั�ย

การวิางแผู้นการวิ�จั�ย : P

ปฏิ�บ�ต�ตามแผู้น : A

เก)บข�อม�ล : O

สะท�อนควิามค�ด ควิามร��ส�กและข�อค�นพื่บ : R

เข�ยนรายงานการวิ�จั�ย

Page 13: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ต�วิอย2างห�วิข�อการวิ�จั�ยในช่�.นเร�ยน การวิ�จั�ยเพื่��อให�บรรล'จั'ประสงค�ของหล�กส�ตร

cognitive affective

performance

• ควิามร�� • กระบวินการค�ด• การแก�ป*ญหา

• ควิามค�ดเห)น• ควิามร��ส�ก• เจัตคต�• ค2าน�ยม

• ท�กษะทางร2างกาย• ท�กษะการปฏิ�บ�ต�• ท�กษะการท#างานเด��ยวิ/กล'2ม

Page 14: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ต�วิแปรของการวิ�จั�ยในช่�.นเร�ยน ต�วิแปรต�น ค�อ นวิ�ตกรรม หร�อส��งท��คร�สร�างข�.น

เพื่��อใช่�ในการพื่�ฒนาผู้��เร�ยนหร�อแก�ป*ญหาในช่�.นเร�ยน เช่2น วิ�ธ์�การสอน ช่'ดก�จักรรม ส��อประกอบการสอน แผู้นการจั�ดการเร�ยนร�� ฯลฯ

ต�วิแปรตาม ค�อ ส��งท��ต�องการศึ�กษาท��เป-นผู้ลมาจัาการใช่�นวิ�ตกรรม เช่2น คะแนน ท�กษะ ควิามพื่�งพื่อใจั กระบวินการค�ด ฯลฯ

Page 15: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไขช่��อเร��องไม2สมบ�รณ� - ไม่�ระบุ�นวัตกรรม่ที่��จะใช้�ในการวั�จย (ขาดต�วิแปรต�น) - ไม่�ระบุ�กลุ่��ม่ที่��ต�องการพัฒนา เช้�น ผู้��เร�ยน บุ�คคลุ่ องค!กร

ตรวิจัสอบช่��อต�วิแปรต�น/นวิ�ตกรรม ให�ครบถ�วินการสร�าง/พัฒนา/ใช้� (ตวัแปรต�น-ตวัแปรตาม่ ) ของ/ส'าหรบุนกเร�ยนช้)น ...

การพื่�ฒนาท�กษะการค#านวิณปร�มาตรร�ปทรงสาม�ต�ของน�กเร�ยนช่�.นม�ธ์ยมศึ�กษาป8ท�� 3

การพื่�ฒนาแบบฝึ:กแบบฝึ:กท�กษะการค#านวิณปร�มาตรร�ปทรงสาม�ต�ของน�กเร�ยนช่�.นม�ธ์ยมศึ�กษาป8ท��

3

การต�.งช่��อเร��องการต�.งช่��อเร��อง ::

Page 16: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไขการใช่�ต�วิแปรตามข�.นก2อน แล�วิใช่�ค#าฟุ่' <มเฟุ่=อย เช่2น “โดยใช่�” “ด�วิยวิ�ธ์�” “ผู้ลของการศึ�กษา”

ใช่�ต�วิแปรต�นข�.นก2อน และต�ดค#าฟุ่' <มเฟุ่=อย

การพัฒนาที่กษะการค'านวัณปร�ม่าตรร�ปที่รงสาม่ม่�ต�ของนกเร�ยนช้)นม่ธยม่ศึ.กษาป/ที่�� 3โดยใช่�บุที่เร�ยนส'าเร0จร�ปการพื่�ฒนาส1�อประสม่เพั1�อพื่�ฒนาควัาม่สนใจในการเร�ยนวั�ที่ยาศึาสตร!ของนกเร�ยนช้)นม่ธยม่ศึ.กษาป/ที่�� 3

การพัฒนาบุที่เร�ยนส'าเร0จร�ปเร1�องที่กษะการค'านวัณปร�ม่าตรร�ปที่รงสาม่ม่�ต�ของนกเร�ยนช้)นม่ธยม่ศึ.กษาการพื่�ฒนาส1�อประสม่เพั1�อเสร�มสร�างควัาม่สนใจในการเร�ยนวั�ที่ยาศึาสตร!ของนกเร�ยนช้)นม่ธยม่ศึ.กษาป/ที่�� 3

การเข�ยนช่��อการเข�ยนช่��อเร��องเร��อง ::

Page 17: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 18: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

การเปร�ยบเท�ยบผู้ลส�มฤทธ์�?ทางการเร�ยนและเจัตคต�ต2อการเร�ยนวิ�ช่าคณ�ตศึาสตร�ของน�กเร�ยนช่�.นม�ธ์ยมศึ�กษาป8ท�� 3 เร��อง “ระบบ

สมการ” ระหวิ2างกล'2มท��เร�ยนโดยใช่�วิ�ธ์�สอนตามข�.นตอนการ

สอนของกาเย2ก�บการสอนแบบปกต�

Page 19: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

เพื่��อเปร�ยบเท�ยบผู้ลส�มฤทธ์�?ทางการเร�ยนและเจัตคต�ในวิ�ช่าคณ�ตศึาสตร� เร��อง พื่�.นท��ผู้�วิและปร�มาตร ของน�กเร�ยนช่�.น

ม�ธ์ยมศึ�กษาป8ท�� 3 โดยใช่�การเร�ยนการสอนแบบลงม�อปฏิ�บ�ต�และการจั�ดการเร�ยนร��แบบปกต� โรงเร�ยนก#าแพื่งแสน

วิ�ทยา

Page 20: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

การศึ�กษาผู้ลของการจั�ดก�จักรรมโดยใช่�วิ�ธ์�สอนของโพื่ลยาท��ม�ต2อผู้ลส�มฤทธ์�?ทางการเร�ยนคณ�ตศึาสตร�

เร��อง ทฤษฎี�บทพื่�ทาโกร�ส ของน�กเร�ยนช่�.นม�ธ์ยมศึ�กษาป8ท�� 2

Page 21: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ส2วินประกอบของรายงานการวิ�จั�ย

Page 22: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

บทท�� บทท�� 11 บทน#าบทน#า

Page 23: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- เน1)อหาน�อย/ม่ากเก�นไป - ควัาม่ยาวัเน1)อหาประม่าณ 3

หน�ากระดาษ - เน1)อหาไม่�ลุ่��เข�าส��ส��งที่��จะที่'าวั�จย

- ใส�รายลุ่ะเอ�ยด ห�องเร�ยน/นกเร�ยน/โรงเร�ยน เพั1�อบุ�งช้�)ป4ญหาแลุ่ะระบุ�แหลุ่�งอ�างอ�ง

- เข�ยนย�อหน�าส�ดที่�ายซึ่.�งสร�ปเป7าหม่าย หร1อประเด0นการวั�จยรวัม่กบุประเด0น อ1�น ๆ

- แยกหวัข�อที่��เป9นประเด0นส'าคญของการวั�จย ออกม่าเป9นย�อหน�าให�ช้ดเจน ควัาม่ยาวั ประม่าณ 8 บุรรที่ด

- ใช้�สรรพันาม่ วั�า “ผู้��ศึ.กษา” “ผู้��รายงาน” “ผู้��ที่ดลุ่อง”

- ใช้�สรรพันาม่ วั�า “ผู้��วั�จย” เที่�าน)น

บทท�� บทท�� 11 ::การเข�ยนควิามเป-นมาและการเข�ยนควิามเป-นมาและควิามส#าค�ญของป*ญหาควิามส#าค�ญของป*ญหา

Page 24: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

บทน#าบทน#า

Page 25: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 26: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 27: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 28: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 29: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ
Page 30: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

การต�.งวิ�ตถ'ประสงค�ของการวิ�จั�ย การก#าหนดส��งท��จัะท#าในการวิ�จั�ยในช่�.นเร�ยน ม� 2 ส��งท��ส#าค�ญ

ค�อ 1 . การพื่�ฒนา/สร�างนวิ�ตกรรม (เพื่��อพื่�ฒนา/สร�างอะไร ส#าหร�บ

ใคร เพื่��อใช่�สอนเร��องอะไร)

2. การตรวิจัสอบผู้ลการใช่�นวิ�ตกรรม เช่2น เปร�ยบเท�ยบผู้ล (คะแนน/ท�กษะ/ควิามสามารถ) ก2อนและหล�งการใช่�นวิ�ตกรรม และ/หร�อการศึ�กษาควิามพื่�งพื่อใจั ควิามค�ดเห)นต2อการเร�ยน

Page 31: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- การเข�ยนวัตถุ�ประสงค!งานวั�จยเก�นจร�ง

- เข�ยนเฉพัาะผู้ลุ่ผู้ลุ่�ตของงานวั�จย อย�าเข�ยนเก�นไป ในส�วันของผู้ลุ่ลุ่พัธ!หร1อผู้ลุ่กระที่บุ

- ไม่�เข�ยนแยกเป9นข�อ ๆ ให�ช้ดเจน

- เข�ยนเป9นข�อเร�ยงตาม่ลุ่'าดบุควัาม่ส'าคญ

- จ�ดประสงค!ที่��เข�ยนไม่�สอดคลุ่�องกบุช้1�อ งานวั�จย

- ย.ดวัตถุ�ประสงค!ในการสร�าง/พัฒนานวัตกรรม่ เป9นวัตถุ�ประสงค!หลุ่กของงานวั�จย

- ม่�จ'านวันจ�ดประสงค!หลุ่ายข�อ ใช้�ภาษาซึ่')าซึ่�อน เข�าใจยาก

- ไม่�จ'าเป9นต�องม่�หลุ่ายข�อย�อย ใช้�ภาษาเข�าใจง�ายช้ดเจน

บทท�� บทท�� 11 ::การเข�ยนวิ�ตถ'ประสงค�งานการเข�ยนวิ�ตถ'ประสงค�งานวิ�จั�ยวิ�จั�ย

Page 32: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- ระบุ�วั�าพัฒนาตวัแปรตาม่ เช้�น“เพื่��อพื่�ฒนาท�กษะการค#านวิณปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต�ของน�กเร�ยนช่�.นม�ธ์ยมศึ�กษาป8ท�� 3 ”

-ต�องระบุ�เป9นตวัแปรต�น เช้�น แบุบุฝึ>ก ค��ม่1อคร� “เพื่��อพื่�ฒนาแบบฝึ:กท�กษะการค#านวิณปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต�ของ น�กเร�ยนช่�.นม�ธ์ยมศึ�กษาป8ท�� 3 ”

- ไม่�ม่�วัตถุ�ประสงค!เก��ยวักบุ “นวัตกรรม่ที่��ใช้�”

- ต�องเข�ยนระบุ�เป9นวัตถุ�ประสงค!ของการวั�จย เช้�น 1) เพื่��อพื่�ฒนา ... (ต�วิแปรต�น/ช่��อนวิ�ตกรรมท��ใช่�)

- ไม่�ม่�วัตถุ�ประสงค!ที่��จะตรวัจสอบุ/ศึ.กษาผู้ลุ่จากการใช้� ตวัแปรต�น/นวัตกรรม่ที่��พัฒนาข.)น

- เพั��ม่วัตถุ�ประสงค!ย.ดวัตถุ�ประสงค!ในการสร�าง/พัฒนานวัตกรรม่เป9นวัตถุ�ประสงค!หลุ่กของงานวั�จย เช้�น

2) เพื่��อตรวิจัสอบ ..... (ต�วิแปรต�น/ช่��อนวิ�ตกรรมท��ใช่�) 2 . 1 ) หาประส�ทธ์�ภาพื่ของ ... (ต�วิแปรต�น/ช่��อนวิ�ตกรรมท��ใช่�) 2 2. ) เพื่��อเปร�ยบเท�ยบผู้ลส�มฤทธ์�?ของ.. . (ต�วิแปรต�น/ช่��อนวิ�ตกรรมท��ใช่�)

2 3. ) เพื่��อศึ�กษาควิามพื่�งพื่อใจัของ...ท��ม�ต2อ ...(ต�วิแปรต�น/ช่��อนวิ�ตกรรมท��ใช่�)

บทท�� บทท�� 11 ::การเข�ยนวิ�ตถ'ประสงค�งานการเข�ยนวิ�ตถ'ประสงค�งานวิ�จั�ยวิ�จั�ย

Page 33: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

บทท�� บทท�� 11 ::การเข�ยนประโยช่น�ท��คาดวิ2าการเข�ยนประโยช่น�ท��คาดวิ2าจัะได�ร�บจัะได�ร�บ

1 )ที่'าให�นกเร�ยนสาม่ารถุ/ม่� ...........(ตวัแปรตาม่)......... แลุ่ะน'าไปใช้�ประโยช้น!ต�อไปได�

2) คร�สาม่ารถุน'า .........(ตวัแปรต�น)...... ไปใช้�เพั1�อให�เก�ด .......(ตวัแปรตาม่)..... ได�

3) เป9นแนวัที่างในการพัฒนา ...........(ตวัแปรตาม่)........ ของผู้��เร�ยนในพั1)นที่��หร1อระดบุอ1�นๆ ได�

Page 34: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- ไม่�ระบุ�จ'านวันประช้ากรแลุ่ะกลุ่��ม่ตวัอย�างให�ช้ดเจน

- ต�องระบุ�จ'านวันประช้ากรแลุ่ะกลุ่��ม่ตวัอย�าง เวั�น กรณ�ที่��วั�จยโดยใช้�ประช้ากรที่)งหม่ด ให�ระบุ�วั�า “กลุ่��ม่ตวัอย�าง ศึ.กษาประช้ากร”

- ไม่�บุอกวั�ธ�การได�ม่าซึ่.�งกลุ่��ม่ ตวัอย�าง

- ต�องเข�ยนระบุ�วั�าได�ม่าโดยการ “เลุ่1อก” หร1อ “ส��ม่” ด�วัยวั�ธ�การใด

- ระบุ�การวั�ธ�การได�ม่าซึ่.�งกลุ่��ม่ ตวัอย�าง ไม่�สอดคลุ่�องกบุร�ปแบุบุ การวั�จยที่��น'าเสนอ

- ตรวัจสอบุวั�ธ�การส��ม่ตวัอย�างแลุ่ะระเบุ�ยบุวั�ธ�วั�จยที่��ใช้� ในงานวั�จยน)น ๆ เช้�นงานวั�จยแบุบุก.�งที่ดลุ่อง เป9นการเลุ่1อกกลุ่��ม่ตวัอย�างแบุบุเจาะจงงานวั�จยแบุบุที่ดลุ่อง เป9นการเลุ่1อกกลุ่��ม่ตวัอย�างแบุบุส��ม่อย�างง�าย

บทท�� บทท�� 11 ::การเข�ยนขอบเขตการวิ�จั�ยการเข�ยนขอบเขตการวิ�จั�ย

Page 35: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- ระบุ�ตวัแปรต�นหร1อตวัแปรตาม่ผู้�ด เช้�น

“ต�วิแปรต�น ค�อ น�กเร�ยน หร�อ เคร��องม�อวิ�จั�ย” “ต�วิแปรตาม ค�อ น�กเร�ยน หร�อ แบบทดสอบ”

- ต�องระบุ�ให�ถุ�กต�อง โดย ตวัแปรต�น ค1อ นวัตกรรม่ที่��ใช้� ตวัแปรตาม่ ค1อ พัฤต�กรรม่หร1อส��งที่��ต�องการให�เก�ดข.)น เช้�น ผู้ลุ่สม่ฤที่ธ�@ ที่กษะ เจตคต� ควัาม่สนใจ “ต�วิแปรต�น ค�อ แบบฝึ:ก” “ต�วิแปรตาม ค�อ ท�กษะการค#านวิณ”

- บุางคร)งม่�ค'าวั�า ส�งข.)น หร1อ น�อยลุ่ง หลุ่งตวัแปรตาม่ “ท�กษะการค#านวิณเร��องปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต�ส�งข�.น”

- หลุ่งตวัแปรไม่�ม่�ค'าวั�า ส�งข.)น หร1อ น�อยลุ่ง “ท�กษะการค#านวิณเร��องปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต�”

- ตวัแปรไม่�ครบุ ตาม่จ�ดประสงค!ที่��ต )งไวั� “ต�วิแปรตาม ค�อ ผู้ลส�มฤทธ์�?เร��องปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต�”

- ตรวัจสอบุตวัแปรที่��ระบุ�ให�เป9นไปตาม่จ�ดประสงค!การวั�จยที่��ต )งไวั� “ต�วิแปรตาม ค�อ ผู้ลส�มฤทธ์�?เร��องปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต� และควิามพื่�งพื่อใจัของน�กเร�ยนท��ม�ต2อแบบฝึ:ก”

บทท�� บทท�� 11 ::การเข�ยนต�วิแปรการเข�ยนต�วิแปร

Page 36: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- เข�ยนน�ยาม่ของตวัแปรต�นแลุ่ะตวัแปรตาม่ไม่�ครบุ

- ควัรตรวัจสอบุค'าหร1อข�อควัาม่ที่��ต�องก'าหนดน�ยาม่ศึพัที่! ให�ครบุถุ�วันตาม่วัตถุ�ประสงค!ของการวั�จย

-เข�ยนเหม่1อนน�ยาม่ศึพัที่!ที่�วัไป ไม่�ม่�ควัาม่เฉพัาะเจาะจง เช้�น

“ท�กษะการค#านวิณปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต� หมายถ�ง ควิามสามารถในการหาค2าปร�มาตรของร�ปทรงสามม�ต�”

-เข�ยนให�ม่�ควัาม่จ'าเพัาะ เพั1�องานวั�จยในคร)งน�)เที่�าน)น โดยต�องระบุ�ด�วัยวั�า ตวัแปรตาม่น)นจะวัดได�อย�างไร โดยใช้�เคร1�องม่1อวั�จยแบุบุใด ของใคร“ท�กษะการค#านวิณปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต� หมายถ�ง ควิามสามารถในการหาค2าปร�มาตรของร�ปทรงสามม�ต� วิงกลม พื่�ระม�ด ปร�ซึ�ม ล�กบาศึก� จัากภาพื่หร�อวิ�ตถ'ร�ปทรงต2าง ๆ ท��ก#าหนดให�ได�อย2างรวิดเร)วิและถ�กต�อง วิ�ดได�จัากแบบวิ�ดท�กษะการค#านวิณปร�มาตรร�ปทรงสามม�ต� จั#านวิน 15 ข�อ ท��ผู้��วิ�จั�ยสร�างข�.น”

บทท�� บทท�� 11 ::การเข�ยนน�ยามศึ�พื่ท�เฉพื่าะการเข�ยนน�ยามศึ�พื่ท�เฉพื่าะ

Page 37: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

การเข�ยนบทท�� บทท�� 2 2 เอกสารและงานเอกสารและงาน

วิ�จั�ยท��เก��ยวิข�องวิ�จั�ยท��เก��ยวิข�อง

Page 38: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- ม่�หวัข�อหลุ่กไม่�ครบุตาม่ก'าหนด ขาดหวัข�อส'าคญ- บุางหวัข�อม่�เน1)อหาม่าก แต�บุางหวัข�อม่�เน1)อหาม่ากเก�นไป - บุางหวัข�อม่�หวัข�อรอง แต�บุางหวัข�อไม่�ม่�หวัข�อรอง- ต)งช้1�อหวัข�อรองแลุ่ะหวัข�อหลุ่กซึ่')ากน

- หวัข�อหลุ่กที่��ต�องม่� ค1อ ตวัแปรต�น ตวัแปรตาม่ แลุ่ะ งานวั�จยที่��เก��ยวัข�อง - งานวั�จยที่��เน�นการพัฒนานวัตกรรม่ จะต�องม่�หวัข�อ “การสร�างแลุ่ะการพัฒนานวัตกรรม่” เช้�น

1. การค#านวิณทางคณ�ตศึาสตร� 11. ควิามหมาย 12. ควิามส#าค�ญ

2. ช่'ดการเร�ยนร�� 21. ควิามหมาย 22. องค�ประกอบ 23 ข�.นตอนการสร�างช่'ดการเร�ยนร��

3. งานวิ�จั�ยท��เก��ยวิข�อง 31. งานวิ�จั�ยในประเทศึ 32. งานวิ�จั�ยต2างประเทศึ

บทท�� บทท�� 22 ::การก#าหนดห�วิข�อการก#าหนดห�วิข�อ

Page 39: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

การเข�ยนบทท�� บทท�� 3 3 วิ�ธ์�การด#าเน�นวิ�ธ์�การด#าเน�น

การวิ�จั�ยการวิ�จั�ย

Page 40: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ร�ปแบบของการวิ�จั�ย (Research Design) ในการวั�จยในช้)นเร�ยน แบุ�งได� 3 กลุ่��ม่

กลุ่��ม่ที่�� 1 การวั�จยก�อนม่�แบุบุการวั�จยเช้�งที่ดลุ่อง (pre-experimental design)

กลุ่��ม่ที่�� 2 การวั�จยเช้�งก.�งที่ดลุ่อง (quasi-experimental design)

กลุ่��ม่ที่�� 3 การวั�จยเช้�งที่ดลุ่อง (experimental design)

Page 41: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

Pre-experimental design

เป9นวั�จยเช้�งที่ดลุ่องอย�างอ�อน (leaky design) วั�จยตวัแปรต�างๆ ที่��ม่�อย��แลุ่�วั ไม่�ม่�การที่ดลุ่องจร�ง ไม่�ม่�กลุ่��ม่ควับุค�ม่ (control group) ม่�เฉพัาะกลุ่��ม่ที่ดลุ่อง

(experimental group) ควับุค�ม่อ�ที่ธ�พัลุ่ของตวัแปรเก�นได�น�อยกวั�าแบุบุอ1�นๆ

Page 42: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

One Shot Case Study

เลุ่1อกกลุ่��ม่ตวัอย�าง 1 กลุ่��ม่หร1อ 1 กรณ� ม่�การที่ดลุ่อง แลุ่ะที่'าการสงเกตหร1อวัดผู้ลุ่เพั1�อด�วั�าตรงกบุสม่ม่ต�ฐานที่��ต )งไวั�หร1อไม่�

ง�าย สะดวัก เหม่าะส'าหรบุ action research เพั1�อแก�ป4ญหาเฉพัาะกลุ่��ม่

ไม่�ม่�การส��ม่ตวัอย�าง ไม่�สาม่ารถุอ�างอ�งผู้ลุ่ไปส��กลุ่��ม่อ1�นได� ไม่�ม่�การควับุค�ม่ตวัแปร ผู้ลุ่ที่��ได�อาจไม่�ได�ม่าจากตวัแปรต�นที่��ต�องการศึ.กษา

X T2

Page 43: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

One-Group Pretest Posttest Design

เลุ่1อกกลุ่��ม่ตวัอย�าง 1 กลุ่��ม่ วัดตวัแปรตาม่ก�อนแลุ่ะหลุ่งการให�ตวัแปรต�น น'าผู้ลุ่การวัดก�อนแลุ่ะหลุ่งม่าเปร�ยบุเที่�ยบุกน ด�วั�าเพั��ม่ม่ากข.)น หร1อลุ่ดน�อยลุ่ง

สาม่ารถุที่ราบุได�วั�าตวัแปรต�นให�ผู้ลุ่อย�างไรการสอบุก�อนที่ดลุ่องอาจม่�อ�ที่ธ�พัลุ่ต�อการสอบุหลุ่งการที่ดลุ่อง

แต�ไม่�สาม่ารถุม่�นใจได�วั�าผู้ลุ่การสอบุที่��แตกต�างกน ม่าจากตวัแปรต�นเพั�ยงอย�างเด�ยวัหร1อไม่� อาจม่าจากการม่�วั�ฒ�ภาวัะม่ากข.)น/โตข.)น

T1 X T2

Page 44: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

Quasi-Experimental Design

ม่�การที่ดลุ่องแต�ไม่�สม่บุ�รณ! ไม่�ม่�การส��ม่ตวัอย�างเข�ากลุ่��ม่ที่ดลุ่องแลุ่ะกลุ่��ม่ควับุค�ม่

เพัราะกลุ่��ม่ตวัอย�างเป9นนกเร�ยนที่��ถุ�กจดให�เร�ยนในห�องเร�ยนปกต�

ไม่�สาม่ารถุควับุค�ม่ตวัแปรเก�นได�

Page 45: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

Nonrandomized control group pretest posttest design

เลุ่1อกกลุ่��ม่ตวัอย�าง 2 กลุ่��ม่ เป9นกลุ่��ม่ที่ดลุ่องแลุ่ะกลุ่��ม่ควับุค�ม่ วัดตวัแปรตาม่ก�อนที่ดลุ่องเพั1�อด�วั�าสองกลุ่��ม่ไม่�ม่�ควัาม่แตกต�างกนก�อนให�ตวัแปรต�น

ม่�กลุ่��ม่ควับุค�ม่ใช้�เปร�ยบุเที่�ยบุผู้ลุ่ของการให�ตวัแปรต�น ถุ�าสองกลุ่��ม่ม่�ควัาม่แตกต�างกน ผู้ลุ่การที่ดลุ่องที่��ได�จะได�รบุ

การกระที่บุกระเที่1อน

E T1 X T2

C T1 ~X T2

Page 46: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- เข�ยนซึ่บุซึ่�อน เข�าใจยาก บุางคร)งข)นตอนไม่�ต�อเน1�อง

- ควัรเสนอข)นตอนเป9นภาพัหร1อแผู้นภ�ม่� แลุ่ะเข�ยนบุรรยายใต�แผู้นภ�ม่� โดยเน1)อหาในแผู้นภ�ม่�แลุ่ะการบุรรยายสอดคลุ่�องกน

- ตรวัจสอบุข)นตอนการวั�จยม่�ควัาม่ต�อเน1�องแลุ่ะเป9นเหต�เป9นผู้ลุ่ตาม่ลุ่'าดบุของเวัลุ่า

บทท�� บทท�� 33 ::การเข�ยนข�.นตอนการด#าเน�นการเข�ยนข�.นตอนการด#าเน�นการวิ�จั�ยการวิ�จั�ย

Page 47: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- ไม่�เข�ยนข)นตอนการสร�างแลุ่ะพัฒนานวัตกรรม่

- ควัรเสนอข)นตอนการสร�างแลุ่ะพัฒนาอย�างช้ดเจน โดยระบุ� 1) ข)นตอนการค�นควั�า รวัม่รวับุข�อม่�ลุ่ 2 ) ข)นตอนในการสร�างแลุ่ะพัฒนานวัตกรรม่ ในร�ปแบุบุต�างๆ เช้�น ค��ม่1อ วั�ธ�การเร�ยนการสอน ช้�ดการเร�ยนร� � อ�ปกรณ! ส��งประด�ษฐ! 3 ) ข)นตอนการเตร�ยม่การ การตรวัจสอบุ ที่ดลุ่องใช้� 4 ) ข)นตอนการสร�ปผู้ลุ่การที่ดลุ่องใช้�แลุ่ะการปรบุปร�ง

บทท�� บทท�� 33 ::การเข�ยนวิ�ธ์�สร�างและพื่�ฒนาการเข�ยนวิ�ธ์�สร�างและพื่�ฒนานวิ�ตกรรม นวิ�ตกรรม

Page 48: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- ไม่�บุอกช้1�อวั�จยที่��ใช้� - ควัรบุอกช้1�อแบุบุการวั�จยที่��ใช้�

แลุ่ะเข�ยนสญลุ่กษณ!ที่��ใช้�แบุบุวั�จยน)น พัร�อม่บุรรยายรายลุ่ะเอ�ยด

- ไม่�บุอกเหต�ผู้ลุ่ที่��เลุ่1อกใช้�แบุบุวั�จยน)น

- บุอกเหต�ผู้ลุ่อย�างช้ดเจน ให�สอดคลุ่�องกบุข�อจ'ากดของงานวั�จยที่��ระบุ�ไวั�ในบุที่ที่�� 1

- ระบุ�แบุบุวั�จยไม่�ตรงกบุการที่ดลุ่อง เช้�น“ระบ'วิ2า แบบวิ�จั�ย ค�อ การทดลองกล'2มเด�ยวิ แต2ก#าหนดกล'2มต�วิอย2างเป-นกล'2มทดลองและกล'2มควิบค'ม”“ระบ'วิ2า ต�วิอย2างการวิ�จั�ยได�มาจัากการส'2มอย2างง2าย แต2ก#าหนเกล'2มต�วิอย2างเป-นน�กเร�ยนช่�.น ม 51/ ” โดยไม2ให�เหต'ผู้ลประกอบ

- ตรวัจสอบุวั�าระบุ�แบุบุวั�จยได�ตรงกบุการด'าเน�นการวั�จย ได�แก� One – Group Pretest-Posttest Design None equivalent Control Group Design Pretest-Posttest Control Group Design Posttest-Only Control Group Design

บทท�� บทท�� 33 ::การเข�ยนแบบวิ�จั�ย การเข�ยนแบบวิ�จั�ย

Page 49: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- เข�ยนกวั�างๆ ไม่�ม่�รายลุ่ะเอ�ยด

- ต�องระบุ�รายลุ่ะเอ�ยดของเคร1�องม่1อวั�จยแต�ลุ่ะช้�)นให�ครบุ ต)งแต� วัตถุ�ประสงค!ของเคร1�องม่1อวั�จย ส�วันประกอบุแลุ่ะร�ปแบุบุ ข)นตอนการพัฒนา การวั�ธ�การแลุ่ะผู้ลุ่การตรวัจสอบุค�ณภาพัของเคร1�องม่1อวั�จย

- น'าเสนอรายลุ่ะเอ�ยดผู้ลุ่การที่ดลุ่อง/ตรวัจสอบุค�ณภาพัของค�าเคร1�องม่1อ

- น'ารายลุ่ะเอ�ยดลุ่การที่ดลุ่อง/ตรวัจสอบุค�ณภาพัของค�าเคร1�องม่1อ เช้�น การหาค�าควัาม่ยาก ง�าย อ'านาจจ'าแนก ค�าควัาม่เช้1�อม่�น แลุ่ะตารางข�อม่�ลุ่ ใส�ในภาคผู้นวัก

บทท�� บทท�� 33 ::การเข�ยนเก��ยวิก�บเคร��องม�อการเข�ยนเก��ยวิก�บเคร��องม�อท��ใช่�ในการวิ�จั�ย ท��ใช่�ในการวิ�จั�ย

Page 50: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- ไม่�ระบุ�รายลุ่ะเอ�ยด วั�าเคร1�องม่1อแต�ลุ่ะช้�)น ม่�ข)นตอนในการน'าไปใช้�อย�างไร ใครเป9นผู้��เก0บุข�อม่�ลุ่ สถุานที่�� ระยะเวัลุ่า แลุ่ะจ'านวันคร)งที่��เก0บุข�อม่�ลุ่

- ต�องระบุ�รายลุ่ะเอ�ยดในการเก0บุข�อม่�ลุ่ โดยใช้�เคร1�องม่1อวั�จยแต�ลุ่ะช้�)น ให�ครบุถุ�วัน

- น'าสาระส�วันอ1�นๆ ที่��ไม่�ใช้�เคร1�องม่1อเก0บุรวับุรวัม่ข�อม่�ลุ่ม่าเข�ยนในหวัข�อน�) เช้�น นวัตกรรม่ แผู้นการจดการเร�ยนร� � ช้�ดการเร�ยนร� �

- น'าเสนอในส�วันของเคร1�องม่1อที่��ใช้�เก0บุรวับุรวัม่ข�อม่�ลุ่ เช้�น แบุบุที่ดลุ่อง แบุบุสอบุถุาม่ แลุ่ะแบุบุสม่ภาษณ! เที่�าน)น

บทท�� บทท�� 33 ::การเข�ยนเก��ยวิก�บการรวิมการเข�ยนเก��ยวิก�บการรวิมรวิมและวิ�เคราะห�ข�อม�ล รวิมและวิ�เคราะห�ข�อม�ล

Page 51: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- บุอกสถุ�ต�ที่��ใช้�ไม่�ครบุ

- บุอกสถุ�ต�ที่��ใช้�ให�ครบุถุ�วัน หากใช้�โปรแกรม่ส'าเร0จร�ป เช้�น SPSS ไม่�ต�องบุอกรายลุ่ะเอ�ยดของส�ตร

- ไม่�ระบุ�วั�าใช้�วั�เคราะห!อะไร

- ระบุ�ให�ช้ดเจน โดยอาจน'าเสนอ ดงน�) 1) สถ�ต�พื่�.นฐาน ได�แก2

11. ) ใช่� % หาส�ดส2วินน�กเร�ยนช่ายและหญ�ง 12. ) ใช่� หาค2าเฉล��ยของคะแนนจัากแบบวิ�ดท�กษะ...

2) สถ�ต�อ�างอ�ง ได�แก2 21. ) t-Test แบบไม2อ�สระเปร�ยบเท�ยบคะแนนก2อนและหล�งเร�ยน 22. ) t-Test แบบอ�สระเปร�ยบเท�ยบคะแนนของน�กเร�ยนช่ายและหญ�ง

3) สถ�ต�หาค'ณภาพื่ของเคร��องม�อ ได�แก2 31. ) ใช่� IOC หาควิามสอดคล�องจัากผู้��เช่��ยวิช่าญ 32. )ใช่� KR-20 หาควิามช่��อม��นของแบบสอบถาม

4 ) สถ�ต�หาค'ณภาพื่ของนวิ�ตกรรม/ช่'ดการเร�ยนร�� ได�แก2 41. ) ใช่� E1/E2 หาประส�ทธ์�ภาพื่ของช่'ดการเร�ยนร�� 42. ) ใช่� E1 หาประส�ทธ์�ผู้ลของช่'ดการเร�ยนร��

บทท�� บทท�� 33 ::การเข�ยนสถ�ต�ท��ใช่�ในการการเข�ยนสถ�ต�ท��ใช่�ในการวิ�เคราะห�ข�อม�ล วิ�เคราะห�ข�อม�ล

x

Page 52: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

การเข�ยนบทท�� บทท�� 4 4 ผู้ลการวิ�เคราะห�ผู้ลการวิ�เคราะห�

ข�อม�ลข�อม�ล

Page 53: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- น'าเสนอผู้ลุ่การวั�เคราะห!ไม่�ครบุ แลุ่ะขาดข�อการพัฒนานวัตกรรม่

- ระบุ�ผู้ลุ่ให�ครบุถุ�วันแลุ่ะเร�ยงตาม่ลุ่'าดบุของวัตถุ�ประสงค!ของงานวั�จย- เสนอวั�าผู้ลุ่การวั�เคราะห!นวัตกรรม่ที่��ใช้� ม่�โครงสร�างหร1อประกอบุด�วัย อะไรบุ�าง รวัม่ที่)งผู้ลุ่การพั�จารณานวัตกรรม่ของผู้��ที่รงค�ณวั�ฒ� หร1อ ผู้��เช้��ยวัช้าญ โดยอาจเสนอในร�ปของตารางสร�ป

- เสนอรายลุ่ะเอ�ยดในตารางม่ากเก�นไป

- เสนอเฉพัาะส�วันส'าคญ ตดเอาส�วันที่��เป9นคะแนนรายคนไปใส�ในภาคผู้นวัก

- อธ�บุายรายลุ่ะเอ�ยดใต�ตารางม่ากเก�นไป

- ควัรน'าเสนอเฉพัาะประเด0นส'าคญ ที่��เป9นจ�ดร�วัม่ หร1อข�อม่�ลุ่ที่��ม่�ควัาม่แตกต�าง จากส�วันอ1�นๆ อย�างช้ดเจน

-น'าสาระเก��ยวักบุเคร1�องม่1อที่��ใช้�ในการวั�จยม่าน'าเสนอ

- ข�อม่�ลุ่ที่��เก��ยวักบุค�ณภาพัของเคร1�องม่1อที่��ใช้�ในการวั�จยจะต�องอย��ในบุที่ที่�� 3

-แสดงควัาม่ค�ดเห0นของผู้��วั�จย

- น'าเสนอเพั�ยงผู้ลุ่ที่��ได�จากเคร1�องม่1อวั�จยเที่�าน)น

บทท�� บทท�� 44 ::การเข�ยนผู้ลการวิ�เคราะห�การเข�ยนผู้ลการวิ�เคราะห�ข�อม�ล ข�อม�ล

Page 54: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

การเข�ยนบทท�� บทท�� 5 5 สร'ปผู้ล สร'ปผู้ล

อภ�ปรายผู้ล และข�อเสนออภ�ปรายผู้ล และข�อเสนอแนะแนะ

Page 55: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- น'าเสนอผู้ลุ่การวั�เคราะห!ซึ่')า

- ไม่�ควัรน'าเสนอค�าสถุ�ต�ใดๆ อ�ก - เข�ยนสร�ปเป9นข�อๆ ตาม่จ�ดประสงค!การวั�จย - สร�ปเข�ยนเป9นควัาม่เร�ยง- เน�นเฉพัาะผู้ลุ่แลุ่ะตวัเลุ่ขที่��ส'าคญ ๆ เช้�น นยส'าคญที่างสถุ�ต�เที่�าน)น

- ประเด0นอภ�ปรายไม่�สอดคลุ่�องกบุผู้ลุ่การวั�จย หร1ออภ�ปรายนอกเหน1อประเด0นหร1อผู้ลุ่ที่��ได�จากการวั�จย

- อภ�ปรายตาม่ประเด0นของวัตถุ�ประสงค!การวั�จย- กรณ�ที่��ผู้ลุ่การวั�จยเป9นไปตาม่สม่ม่ต�ฐาน ก0เข�ยนวั�าสอดคลุ่�องกบุ งานวั�จยของใครหร1อแนวัค�ดที่ฤษฏี�อะไร- กรณ�ที่��ผู้ลุ่การวั�จยไม่�เป9นไปตาม่สม่ม่ต�ฐาน ต�องเข�ยนแสดงเหต�ผู้ลุ่ สาเหต�ป4จจยที่��ส�งผู้ลุ่

- ไม่�น'าข�อม่�ลุ่ที่��ได�จากการตรวัจสอบุเอกสารในบุที่ที่��

2 ม่าร�วัม่อภ�ปราย

- น'าข�อม่�ลุ่ที่��ได�จากการตรวัจสอบุเอกสารในบุที่ที่�� 2 ม่าร�วัม่อภ�ปราย

บทท�� บทท�� 55 ::การเข�ยนผู้ลการวิ�เคราะห�การเข�ยนผู้ลการวิ�เคราะห�ข�อม�ล ข�อม�ล

Page 56: โดย  ดร. ทัศตริน  วรรณเกตุศิริ

ป*ญหาป*ญหา แนวิทางแก�ไขแนวิทางแก�ไข- เข�ยนกวั�าง ไม่�เห0นแนวัปฏี�บุต�

- ต�องช้ดเจน เป9นร�ปธรรม่ ม่�ควัาม่เป9นไปได�ในการปฏี�บุต� - ระบุ�กลุ่��ม่ผู้��ที่��จะน'าไปใช้�ให�เก�ดประโยช้น!อย�างช้ดเจน- น'าเสนอข�อบุกพัร�องที่��พับุแลุ่ะแนวัที่างการแก�ไข (ถุ�าม่�)

- เข�ยนข�อเสนอแนะที่��ไม่�เก��ยวัข�องกบุผู้ลุ่การวั�จยที่��ได�

- ข�อเสนอแนะจะต�องม่าจากผู้ลุ่การวั�จยเที่�าน)น พัร�อม่ที่)งให�เหต�ผู้ลุ่ที่��ช้ดเจน

บทท�� บทท�� 55 ::การเข�ยนข�อเสนอแนะ การเข�ยนข�อเสนอแนะ