3
ใบความรู้ที2.1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโปรแกรม Flash โปรแกรม Flash คืออะไร ? โปรแกรม Flash เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการสร้างสื่อมัลติมีเดีย , ภาพเคลื่อนไหว (Animation), ภาพกราฟิกที่มีความคมชัด เนื่องจากเป็นกราฟิกแบบเว็คเตอร์( Vector), สามารถเล่น เสียงและวีดิโอแบบสเตริโอได้ , สามารถสร้างงานให้โต้ตอบกับผู้ใช้ (Interactive Multimedia) มี ฟังก์ช่นสาหรับการเขียนโปรแกรม ( Action Script) และยังทางานในลักษณะ CGI โดยเชื่อมต่อกับ การเขียนโปรแกรมภาษาอื่นๆ ได้มากมาย เช่น ภาษา PHP, JSP, ASP, ASP.NET, C/C++, C#, C#.NET, VB, VB.NET, JAVA และอื่นๆ โดยเฉพาะข้อดีของโปรแกรม Flash คือ ความสามารถใน การบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็ก มีผลทาให้แสดงผลได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังแปลงไฟล์ไปอยู่ใน ฟอร์แมตอื่น ได้หลากหลาย เช่น avi, mov, gif, wav, emf,eps, ai, dxf, bmp, jpg, gif, png เป็น ต้น โปรแกรม Flash เริ่มมีชื่อเสียงประมาณปี พ.ศ. 2539 จนถึง ปัจจุบันได้ถูกนามาใช้งานอย่าง แพร่หลาย โดยเฉพาะเทคโนโลยีเว็บ ทาให้การนาเสนอทาได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนั้น โปรแกรม Flash ยังสามารถสร้างแอพพลิเคชั่น (Application) เพื่อใช้ทางานต่างๆ รองรับการใช้งาน กับอุปกรณ์ที่ เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และทางานได้กับหลายๆ แฟลตฟอร์ม (Platform) ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ flash (ในที่นี้เราคงไม่ต้องย้อนยุคไปในสมัยก่อนนะครับ เดี๋ยวมันจะ งงเอาแค่ปัจจุบันก็พอ) แฟลชหรือแสงอาทิตย์เทียม ที่สามารถทาให้เราถ่ายภาพได้ในทุกที่และทุกเวลา ซึ่งในที่นี้จะขอกล่าวถึงแฟลชแค่สามระบบ คือ 1. แฟลชระบบแมนนวล Manual 2. แฟลชระบบออโต้ Auto 3. แฟลชระบบ TTL ( Through the lens ) 1. Flash ระบบแมนนวล Manual Flash ในระบบแมนนวล (Manual) เป็น Flash ในระบบดั้งเดิมเริ่มต้น ซึ่งถูกพัฒนา ต่อมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงยืนยงและมีประโยชน์อยู่ในตัวหลายอย่าง และไม่น่าเชื่อในยุคดิจิตอลผมมองว่า Flash ระบบแมนนวลกลับใช้งานได้ดีกว่าในสมัยฟิล์มอย่างไม่น่าเชื่อ (ส่วนหนึ่งมาจากการเห็นผลหลัง การถ่ายได้ทันที) ผลกระทบต่อการพัฒนากล้องมีส่วนกับระบบ TTL มากกว่าที่ต้องคอยพัฒนา Flash

02 ______ใบความรู้ที่ 2.1

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: 02  ______ใบความรู้ที่ 2.1

ใบความรู้ที่ 2.1

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโปรแกรม Flash

โปรแกรม Flash คืออะไร ?

โปรแกรม Flash เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการสร้างสื่อมัลติมี เดีย , ภาพเคลื่ อนไหว (Animation), ภาพกราฟิกที่มีความคมชัด เนื่องจากเป็นกราฟิกแบบเว็คเตอร์(Vector), สามารถเล่นเสียงและวีดิโอแบบสเตริโอได้, สามารถสร้างงานให้โต้ตอบกับผู้ใช้(Interactive Multimedia) มีฟังก์ชั่นส าหรับการเขียนโปรแกรม (Action Script) และยังท างานในลักษณะ CGI โดยเชื่อมต่อกับ การเขียนโปรแกรมภาษาอ่ืนๆ ได้มากมาย เช่น ภาษา PHP, JSP, ASP, ASP.NET, C/C++, C#, C#.NET, VB, VB.NET, JAVA และอ่ืนๆ โดยเฉพาะข้อดีของโปรแกรม Flash คือ ความสามารถในการบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็ก มีผลท าให้แสดงผลได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังแปลงไฟล์ไปอยู่ในฟอร์แมตอ่ืน ได้หลากหลาย เช่น avi, mov, gif, wav, emf,eps, ai, dxf, bmp, jpg, gif, png เป็นต้น

โปรแกรม Flash เริ่มมีชื่อเสียงประมาณปี พ.ศ. 2539 จนถึง ปัจจุบันได้ถูกน ามาใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเทคโนโลยีเว็บ ท าให้การน าเสนอท าได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนั้น โปรแกรม Flash ยังสามารถสร้างแอพพลิเคชั่น (Application) เพ่ือใช้ท างานต่างๆ รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ท่ี เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และท างานได้กับหลายๆ แฟลตฟอร์ม (Platform)

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ flash (ในที่นี้เราคงไม่ต้องย้อนยุคไปในสมัยก่อนนะครับ เดี๋ยวมันจะงงเอาแค่ปัจจุบันก็พอ) แฟลชหรือแสงอาทิตย์เทียม ที่สามารถท าให้เราถ่ายภาพได้ในทุกที่และทุกเวลา ซึ่งในท่ีนี้จะขอกล่าวถึงแฟลชแค่สามระบบ คือ 1. แฟลชระบบแมนนวล Manual 2. แฟลชระบบออโต้ Auto 3. แฟลชระบบ TTL ( Through the lens )

1. Flash ระบบแมนนวล Manual Flash ในระบบแมนนวล (Manual) เป็น Flash ในระบบดั้งเดิมเริ่มต้น ซึ่งถูกพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงยืนยงและมีประโยชน์อยู่ในตัวหลายอย่าง และไม่น่าเชื่อในยุคดิจิตอลผมมองว่า Flash ระบบแมนนวลกลับใช้งานได้ดีกว่าในสมัยฟิล์มอย่างไม่น่าเชื่อ (ส่วนหนึ่งมาจากการเห็นผลหลังการถ่ายได้ทันที) ผลกระทบต่อการพัฒนากล้องมีส่วนกับระบบ TTL มากกว่าที่ต้องคอยพัฒนา Flash

Page 2: 02  ______ใบความรู้ที่ 2.1

รุ่นใหม่ ให้ใช้งานกับกล้องรุ่นใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่เหมือนสมัยฟิล์มที่ Flash ในรุ่นสูงสามารถใช้ได้กับกล้องเกือบทุกรุ่นไม่ว่าเก่าหรือใหม่ และ Flash รุ่นหนึ่งก็อยู่ในท้องตลาดเป็นเวลาหลายปี ไม่ต้องเปลี่ยนรุ่นเร็วเหมือน Flash สมัยดิจิตอล (แอบบ่นมาซะหลายบรรทัดมาเข้าเรื่องเลยละกัน) ประโยชน์ข้อแรกเลยส าหรับ Flash ในระบบแมนนวล (จริงๆ) คือมีราคาถูกมาก Flash ในระบบแมนนวลที่ไม่มีระบบอะไรมากมายราคาไม่ค่อยสูงนัก ซึ่งนักถ่ายภาพทุกคนสามารถหาซื้อมาไว้ใช้ได้ ข้อที่สองถ้าค านวณระยะทางได้พอดีไม่ต้องมาคอยห่วงเรื่องชดเชยแสง Flash ข้อสามเนื่องจาก Flash ระบบแมนนวลเป็นการปล่อยแสง Flash ตามระยะทางมันจึงประหยัดแบตเตอรี่กว่าอีกสองระบบและชาร์จประจุไฟได้เร็วมาก ส่วนการใช้ถ้าเป็น Flash รุ่นธรรมดาๆ ที่ราคาไม่สูงนักจะถูกก าหนดการกระจายแสง Flash ไว้ที่ 35 มม. เพราะฉะนั้นท่านที่ใช้เลนส์มุมกว้างกว่านี้ควรระมัดระวังเรื่องแสงที่ขอบภาพด้วย ส่วนการใช้งานก็สามารถใช้สูตรค านวณข้างบนที่ได้กล่าวไปแล้วมาใช้ได้ ส่วนข้อเสียก็คือช้าและต้องคอยค านวณระยะทางอยู่ตลอดไม่สะดวกเหมือน Flash ในระบบออโต้หรือ TTL และถ้าน าไปใช้ในการเบ๊านซ์ (bounce) เพดานหรือใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมบางประเภทที่มีการเสียแสง เช่น ทิวป์ (tube) หรือ เทเลคอนเวนเตอร์ (teleconverter) ก็ต้องมาคอยค านวณช่องรับแสงใหม่อยู่เสมอ มีข้อเสนอแนะเล็กๆ น้อยๆ เวลาใช้ Flash แบบแมนนวลให้ได้รวดเร็วก็คือ สมมุติว่าเราจะถ่ายวัตถุหรือแบบในระยะใดก็ตาม เราก็พยายามปรับช่องรับแสงให้อยู่ในระดับกลางๆ เช่น F8 สมมุติว่าอยู่ที่ระยะ 5 เมตร ทีนี้พอแบบเคลื่อนที่ถ้าใกล้เข้ามาเราก็ปรับ F-Stop ให้แคบขึ้นไปอีกเพ่ือลดก าลังไฟ Flash ถ้าแบบถอยออกไปไกลเราก็ปรับ F-Stop ให้กว้างขึ้นเพ่ือให้ Flash มีก าลังไปถึงโดยที่เราไม่ต้องมาคอยเดินตามไปๆ มาๆ

2. Flash ระบบออโต้ เป็น Flash รุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก Flash ระบบแมนนวล โดย Flash ระบบออโต้มีเซลไวแสงหรือเซนเซอร์ติดไว้เพ่ืออ่านค่าแสงที่สะท้อนกลับมาจากวัตถุที่แสง Flash ได้ไปกระทบถูก และเซนเซอร์ก็จะท าการตัดแสง Flash ให้เราโดยอัตโนมัติ ท าให้นักถ่ายภาพใช้ Flash ได้สะดวกข้ึน แต่ก็ยังต้องคอยระวังในเรื่องของอุปกรณ์เสริมที่มีการเสียแสงคล้ายๆ Flash ในระบบแมนนวล แต่สมัยนี้หา Flash ระบบออโต้ไม่ค่อยมีแล้ว 3. Flash ระบบ TTL ( Through the lens ) Flash ระบบ TTL เป็นแฟลชที่ถูกพัฒนาต่อมาและเป็นต้นแบบของแฟลชในยุคดิจิตอลนี้เกือบทุกตัว เพียงแต่จะใส่ระบบที่เพ่ิมมากขึ้นเช่นการค านวณตามระยะทางจากข้อมูลของเลนส์ หรือตามจุดโฟกัส แต่พ้ืนฐานก็มาจากแฟลชระบบ TTL ในสมัยเริ่มแรกนั่นคือการน าเซนเซอร์มาวางไว้ที่

Page 3: 02  ______ใบความรู้ที่ 2.1

ตัวกล้องเลย แทนที่จะวางไว้ในตัวแฟลชเหมือนระบบออโต้ ข้อดีก็คือเราสามารถจะใช้แฟลชได้ทุกช่องรับแสงโดยมีข้อแม้ว่าก าลังไฟของแฟลชต้องฉายไปถึง ไม่ต้องคอยมานั่งค านวณ จะใช้อุปกรณ์เสริมอะไรก็ไม่ต้องคอยชดเชยช่องรับแสงให้ ส่วนข้อเสียก็คือต้องคอยค านวณค่าสะท้อนของสีบางประเภทให้กับกล้องด้วยเช่นสีขาวและสีด า อีกข้อก็คงเป็นเรื่องการใช้พลังงานที่ค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นการยิงแฟลชไปกลับท าให้บางครั้งต้องคอยเวลาในการปะจุไฟที่ค่อนข้างนานถ้าวัตถุท่ีจะถ่ายอยู่ในระยะไกล(มีต่อตอนต่อไป นิ)