Systems Analysis & Design1

3Problem Definition and Feasibility Study

การก�าหนดปัญหาและศึ�กษาความเปั�นไปัได�

Systems Analysis & Design2

การก�าหนดปัญหาและศึ�กษาความเปั�นไปัได�

ปัจจ�ยหร�อแรงผล�กด�นที่!"ส่$งผลต่$อความต่�องการเพื่�"อพื่�ฒนาระบบใหม$อาจจะเก*ดขึ้�,นได�ที่�,งปัจจ�ยภายในและภายนอก ปัระกอบด�วย1. ผ.�ใช้�ร�องขึ้อให�ปัร�บปัร0งระบบใหม$

2. ผ.�บร*หารระด�บส่.งต่�องการพื่�ฒนาระบบใหม$

3 . ปัญหาและขึ้�อผ*ดพื่ลาดขึ้องระบบงานปัจจ0บ�น 4 . แรงผล�กด�นจากภายนอก ส่$งเส่ร*มให�ม!การปัร�บปัร0งระบบ

5 . ส่$วนงานบร*การส่ารส่นเที่ศึแนะน�าให�ม!การปัร�บปัร0งระบบ

Systems Analysis & Design3

Problem Definition (ก�าหนดปัญหา) ส่ามารถต่รวจส่อบด�วยว*ธี!พื่�,นฐาน 2 ปัระการ ค�อ

ต่รวจส่อบปัญหาจากการปัฏิ*บ�ต่*งาน การที่�างานล$าช้�า ม!ขึ้�อผ*ดพื่ลาดส่.ง

ที่�างานไม$ถ.กต่�อง ไม$ส่มบ.รณ์6 ไม$บรรล0ว�ต่ถ0ปัระส่งค6ที่!"ต่�องการ

ส่�งเกต่พื่ฤต่*กรรมขึ้องพื่น�กงาน อ�ต่ราการเจ8บปั9วยส่.ง ไม$พื่อใจในงาน

ที่!"ที่�า ไม$กระต่�อร�อล�น การลาออกส่.ง

การก�าหนดปัญหา (Problem Definition )

Systems Analysis & Design4

กรณ์!ศึ�กษา บร*ษ�ที่ BM Car Rent Service Center จ�าก�ดความเปั�นมาและปัญหา

ต่�วอย$าง การก�าหนดปัญหา (Problem Definition )

การศึ�กษาความเปั�นไปัได�ขึ้องโครงการ ( Feasibility Study)

5

1. ความเปั�นไปัได�ที่างเที่คน*ค (TechnicalFeasibility) ส่*"งส่�าค�ญขึ้องการศึ�กษาความเปั�นไปัได�ที่างเที่คน*ค ค�อ การว*เคราะห6ความเส่!"ยงด�านเที่คน*ค เพื่�"อให�ได�ค�าต่อบขึ้องค�าถามที่!"ว$า “Can we build it” หมายความว$า พื่วกเราส่ามารถพื่�ฒนาได�หร�อไม$ ความเปั�นไปัได�ที่างเที่คน*คจะขึ้�องเก!"ยวก�บรายละเอ!ยด ด�งน!,

จ�าเปั�นต่�องหาอ0ปักรณ์6ใหม$หร�อไม$อ0ปักรณ์6ที่!"หามาเพื่�"อระบบใหม$ส่ามารถรองร�บ

เที่คโนโลย!ในอนาคต่ได�หร�อไม$ความเขึ้�าก�นได�ขึ้องฮาร6ดแวร6ต่$าง ๆ ก�บซอฟต่6แวร6

ใช้�งานร$วมก�นได�ด!หร�อไม$ปัระส่*ที่ธี*ภาพื่ขึ้องฮาร6ดแวร6และซอฟต่6แวร6ม!ปัระส่*ที่ธี*ภาพื่

ที่!"ด!เพื่!ยงพื่อหร�อไม$ระบบส่ามารถรองร�บการขึ้ยายต่�วขึ้องธี0รก*จใน

อนาคต่ได�หร�อไม$

การศึ�กษาความเปั�นไปัได�ขึ้องโครงการ ( Feasibility Study)

6

2. ความเปั�นไปัได�ที่างเศึรษฐศึาส่ต่ร6 (Economical Feasibility) ค�อ ความเปั�นไปัได�ในเช้*งเศึรษฐศึาส่ต่ร6 ซ�"งม�กเร!ยกว$า การว*เคราะห6ต่�นที่0นและผลก�าไร ด�วยการก�าหนดต่�นที่0นที่างการเง*นและผลต่อบแที่นที่!"ได�จากโครงการ และจะปัระเม*นผลกระที่บที่างการเง*น 4 ปัระเภที่ ด�งน!,

ต่�นที่0นการพื่�ฒนาระบบ (Development Costs)ต่�นที่0นการปัฏิ*บ�ต่*งาน (Operational Costs)ผลต่อบแที่นที่!"ส่ามารถปัระเม*นค$าได� (Tangible Benefits)ผลต่อบแที่นที่!"ไม$ส่ามารถปัระเม*นค$าได� (Intangible Benefits)

การศึ�กษาความเปั�นไปัได�ขึ้องโครงการ ( Feasibility Study)

7

ผลต่อบแที่นที่!"ส่ามารถปัระเม*นค$าได� (Tangible Benefits)

การเพื่*"มยอดขึ้ายและม!รายได�เพื่*"มขึ้�,น ,การลดค$าใช้�จ$ายเก!"ยวก�บเอกส่าร , การลดค$าล$วงเวลา

ผลต่อบแที่นที่!"ไม$ส่ามารถปัระเม*นค$าได� (Intangible Benefits)

ล.กค�าม!ที่�ศึนะคต่*ที่!"ด!ต่$อบร*ษ�ที่ , ระบบงานม!ปัระส่*ที่ธี*ภาพื่มากขึ้�,น , ความพื่�งพื่อใจขึ้องพื่น�กงาน

การศึ�กษาความเปั�นไปัได�ขึ้องโครงการ ( Feasibility Study)

8

3. ความเปั�นไปัได�ที่างการปัฏิ*บ�ต่*งาน (Operational Feasibility) ค�อ ความเปั�นไปัได�ขึ้องระบบใหม$ที่!"น�าเส่นอส่ารส่นเที่ศึได�อย$างถ.กต่�อง และต่รงต่ามความต่�องการขึ้องผ.�ใช้� ส่ร0ปัได� ด�งน!,

ผ.�ใช้�งานเขึ้�าใจในการเปัล!"ยนระบบ และส่น�บส่น0นระบบใหม$หร�อไม$

ต่�องเต่ร!ยมอะไรบ�างก�บการฝึ@กอบรมการใช้�งานระบบใหม$ให�พื่น�กงาน

ระบบใหม$ที่!"พื่�ฒนาส่$งผลกระที่บต่$อจ�านวนพื่น�กงาน หร�อไม$

ผ.�ใช้�ม!ส่$วนร$วมก�บการวางแผนระบบใหม$หร�อไม$

ขึ้�,นต่อนการปัฏิ*บ�ต่*งานม!การเปัล!"ยนแปัลงไปัจากเด*มหร�อไม$

ผลกระที่บจะส่$งผลต่$อล.กค�าที่!"มาใช้�บร*การหร�อไม$

ใช้�ระยะเวลาในการพื่�ฒนาระบบใหม$ยาวนานเที่$าไร

การวางแผนและการควบค0มก*จกรรม (Activity Planning and Control)

Systems Analysis & Design9

การวางแผน (Planning) เปั�นการวางแผนที่!"ปัระกอบไปัด�วยก*จกรรมต่$าง ๆ ที่!"ได�ม!การมอบหมายและแจกจ$ายงานให�ก�บที่!มงาน การคาดคะเนเวลาที่!"ต่�องใช้�ไปัก�บงานใด ๆ

การก�าหนดเวลาโครงการ (Project Scheduling ) ส่ามารถจ�ดที่�าขึ้�,นโดยการใช้�เที่คน*ค แกนที่6ช้าร6ต่ “ ” (Gantt Charts) เปั�นแผนภ.ม*อย$างง$ายที่!"ใช้�ส่�าหร�บวางแผนและก�าหนดเวลาการที่�างานขึ้องโครงการ

Systems Analysis & Design10

Gantt Charts

Weeks

Activity

ด�าเน*นการส่�มภาษณ์6จ�ดที่�าแบบส่อบถามอ$านรายงาน

ขึ้องบร*ษ�ที่ว*เคราะห6การไหลขึ้องขึ้�อม.ลจ�ดที่�าโพื่โต่

ไที่ปัAส่�งเกต่การณ์6ด�านผลกระที่บ

จ�ดที่�าขึ้�อเส่นอขึ้องโครงการน�าเส่นอผ.�บร*หารเพื่�"ออน0ม�ต่*

ก�าหนดต่�นที่0นและผลต่อบแที่น

Current Weeks

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

งานที่!"ย�งไม$ได�ด�าเน*นการ

งานที่!"ด�าเน*นการเส่ร8จแล�ว

Systems Analysis & Design

สาเหตุ�ส�าคัญที่� ส�งผลตุ�อคัวามล�มเหลวในโคัรงการซอฟตุ�แวร�

12

ขาดการศึ"กษาคัวามเป็%นไป็ได�ที่� ด�พอข�อก�าหนดหร(อคัวามตุ�องการตุ�าง ๆ ไม�ชัดเจนพอขาดการป็ระสานงานที่� ด�ระหว�างผ.�ใชั�กบนกว0เคัราะห�ระบบขาดการคัวบคั�มที่� ด�ซอฟตุ�แวร�ในป็1จจ�บนนบวนม�คัวามซบซ�อนยิ่0 งข"3นคัวาม

ตุ�องการตุ�าง ๆ อาจม�การเป็ล� ยิ่นแป็ลงไป็ในขณะพฒนาโป็รแกรม

ผ.�ใชั�ไม�ยิ่อมรบในระบบ เน( องจากไม�สามารถป็ฏิ0บตุ0งานได�ตุรงตุาม วตุถ�ป็ระสงคั�ของการใชั�งาน

ระบบงานผ0ดพลาดบ�อยิ่คัร3ง ก�อให�เก0ดคัวามไม�น�าเชั( อถ(อในระบบใหม�

คัวามไม�ชั�านาญงานของตุวนกว0เคัราะห�ระบบระดบผ.�บร0หารไม�ม�คัวามชัดเจนในนโยิ่บายิ่ ที่�าให�เก0ดคัวาม

เป็ล� ยิ่นแป็ลงได�ตุลอดเวลา

PERT and CPMPERT and CPM

Systems Analysis & Design13

เที่คัน0คัการป็ระเม0นผลและที่บที่วนโคัรงการ (Program Evaluation and Review Technique : PERT)

ระเบ�ยิ่บว0ธี�ว0กฤตุ (Critical Path Method : CPM) เป็%นเที่คัน0คั เชั0งป็ร0มาณด�านการว0เคัราะห�ข�ายิ่งาน (Network analysis) ที่� ใชั�กนแพร�หลายิ่ในการวางแผนและคัวบคั�มงานที่� ม�ลกษณะเป็%นงานโคัรงการ (งานที่� ม�จ�ดเร0 มตุ�นและจ�ดส03นส�ด และสามารถกระจายิ่ เป็%นงานยิ่�อยิ่ที่� ม�คัวามสมพนธี�กนได�) ซ" งจะชั�วยิ่ให�ผ.�บร0หารโคัรงการสามารถด�าเน0นโคัรงการให�ส�าเร:จตุามเวลาและในงบป็ระมาณที่� ก�าหนด

Systems Analysis & Design14

PERT พฒนาข"3นเม( อ พ.ศึ. 2501โดยิ่กองที่พเร(อสหรฐร�วมกบ บ.ซ แอลเลน และ แฮม0ลตุน (Booz Allen and Hamilton) และ ล=อกฮ�ด แอร�คัราฟตุ� (Lockheed Aircraft) เพ( อใชั�ในการบร0หารโคัรงการข�ป็นาว�ธี โพลาร0ส (Polaris) ซ" งเป็%นโคัรงการขนาด ลกษณะของโคัรงการเป็%นการว0จยิ่และพฒนา ดงน3นการป็ระมาณระยิ่ะเวลาในการด�าเน0นการตุ�างๆ ในโคัรงการจ"งไม�สามารถก�าหนดลงไป็ได�แน�นอน

จ�าเป็%นตุ�องน�าเอาแนวคัวามคั0ดของคัวามน�าจะเป็%นเข�ามาป็ระกอบด�วยิ่

จ"งอาจกล�าวได�ว�า จ�ดเด�นของ PERT คั(อ การสามารถน�าไป็ใชั� กบโครงการที่!"ม!เวลาด�าเน*น

งานไม$แน$นอน

ความเปั�นมาขึ้อง PERT

Systems Analysis & Design15

CPM พฒนาข"3นเม( อ พ.ศึ. 2500 โดเคัลล� (J.E. Kelly) แห�งเรม0งตุน แรนด�

(Remington Rand) ร�วมกบวอล�กเกอร� (M.R. Walker) แห�งบร0ษที่ด.ป็องตุ�

(Dopont) เพ( อใชั�ในโคัรงการก�อสร�างและซ�อมบ�าร�งเคัร( องจกรในโรงงานเคัม� โดยิ่เน�นในด�าน

การวางแผนและคัวบคั�มเวลา ตุลอดจนคั�าใชั�จ�ายิ่โคัรงการ

CPM มกจะน�าไป็ใชั�กบโคัรงการที่� ผ.�บร0หารเคัยิ่ม�ป็ระสบการณ�มาก�อนและสามารถป็ระมาณ

เวลารวมที่3งคั�าใชั�จ�ายิ่ในการด�าเน0นงานของโคัรงการได�แน�นอน

ความเปั�นมาขึ้อง CPM

ข�อแตุกตุ�างชัดเจนระหว�าง PERT และ CPM คั(อ เวลาในการที่�าก0จกรรม

กล�าวคั(อ เวลาในการที่�าก0จกรรมของ PERT จะเป็%นเวลาโดยิ่ป็ระมาณซ" งคั�านวณได�ด�วยิ่การใชั�คัวามน�าจะเป็%นจ"งใชั�กบโคัรงการที่� ไม�เคัยิ่ที่�ามาก�อน หร(อโคัรงการซ" งไม�สามารถเก:บรวบรวม

เวลาของการที่�าก0จกรรมได� เชั�น โคัรงการพฒนาว0จยิ่

ส�วน CPM น3น เวลาที่� ใชั�ในก0จกรรมจะเป็%นเวลาที่� แน�นอน ซ" งคั�านวณได�จาก

ข�อม.ลที่� เคัยิ่ที่�ามาก�อน เชั�น อตุราการที่�างานของงานแตุ�ละป็ระเภที่ อตุราการที่�างานของ

เคัร( องจกร เป็%นตุ�น CPM จ"งใชั�กบโคัรงการที่� เคัยิ่ที่�ามาก�อน ซ" งม�คัวามชั�านาญแล�ว เชั�น งาน

ก�อสร�าง

คัวามแตุกตุ�างระหว�าง PERT และ CPM

Systems Analysis & Design17

ส่�ญล�กษณ์6

ความหมายจ0ดเช้�"อมต่$อหร�อโหนด

(Node) แส่ดงถ�งเหต่0การณ์6ต่�,งแต่$เร*"มต่�นจนจบโครงการเส่�นต่รงที่!"เช้�"อมต่$อระหว$างโหนด แส่ดงก*จกรรมหร�องานที่!"ที่�า ส่$วนห�วล.กศึรค�อจ0ดเส่ร8จส่*,นขึ้องก*จกรรมหร�องานที่!"ที่�าเส่�นปัะที่!"เช้�"อมต่$อระหว$างโหนด แส่ดงก*จกรรมหร�องานส่มมต่* (Dummy Activity) ซ�"งเปั�นก*จกรรมที่!"ไม$ม!ต่�วต่นในโครงการแต่$จ�าเปั�นต่�องใส่$ไว�เพื่�"อให�ถ.กต่�องต่รงก�บความเปั�นจร*ง

1 2A

3 4

ส่�ญล�กษณ์6ต่$าง ๆ และความหมายที่!"ใช้�ใน PERT

ต่�วอย$าง PERT แบบที่!" 1

1 2

3

4

5A

B

C D

6

งาน งานที่!"ต่�องเส่ร8จก$อนA - B A C A DB,C

ต่�วอย$าง PERT แบบที่!" 2

1

2 3

5

6

AC

D E4

B

7

งาน งานที่!"ต่�องเส่ร8จก$อน A -

B -

C A D B E C,D

ต่�วอย$าง PERT แบบที่!" 3

1

2

5

4

AC

D

4

B

งาน งานที่!"ต่�องเส่ร8จก$อน A

-

B -

C A D A,B

ต่�วอย$าง PERT แบบที่!" 4 แส่ดงระยะเวลาขึ้องแต่$ละงาน

1

23

6

7

A,2D,3

2F,

E,3

5

C,1

4

G,3

H,2

B,1

ส่ายงานที่!" 1

- - -123

7 =2+3+3=8

ส่ายงานที่!" 2 1-4-7 = 1+3=4

ส่ายงานที่!" 3 1-5-6-7 = 1+2+2 =5

งาน งานที่!"ต่�องเส่ร8จก$อน ระยะเวลา(ส่�ปัดาห6) A - 2

B - 1 C - 1

D A 3 E B 3

F C G 2

D G 3

G2

ส่ายงานว*กฤต่ (Critical Paths)

22

เส�นที่างงานว0กฤตุ (Critical Paths) จะพ0จารณาจากเส�นที่างงานที่� ม�เวลารวมยิ่าวนานที่� ส�ด ซ" งในที่� น�3 คั(อ เส�นที่างงาน - - -123

7 รวมเวลาที่3งส03น 11 วน น นหมายิ่ถ"งเส�นที่างงานที่�กอยิ่�างในแตุ�ละข3นตุอน จะแล�วเสร:จ

โดยิ่ใชั�เวลา 11 วนโดยิ่ในโคัรงการอาจม�เส�นที่างงานว0กฤตุมากกว�า 1 เส�นที่างงานก:เป็%น

ได�การเร�งโคัรงการ สามารถที่�าได�ด�วยิ่การเร�งก0จกรรมภายิ่ในสายิ่งานว0กฤตุ

23

1. จ�ดเร0 มตุ�นของโคัรงการม�จ�ดเด�ยิ่วอยิ่.�ด�านซ�ายิ่ของข�ายิ่งาน

2 . จ�ดส03นส�ดของโคัรงการม�จ�ดเด�ยิ่ว อยิ่.�ด�านขวาของข�ายิ่งาน

3 . แตุ�ละก0จกรรมจะใชั�แที่นด�วยิ่เส�นล.กศึรเพ�ยิ่งเส�นเด�ยิ่วในข�ายิ่งาน

4 . ก0จกรรมมากกว�า 1 ก0จกรรมจะเร0 มตุ�นที่� จ�ดเด�ยิ่วกนและแล�วเสร:จที่� จ�ดเด�ยิ่วกนไม�ได�

5 . จ�ดที่� แสดงเหตุ�การณ�ส03นส�ดของก0จกรรมคัวรเข�ยิ่นเยิ่(3องมาที่างขวา

6 . พยิ่ายิ่ามหล�กเล� ยิ่งการเข�ยิ่นเส�นล.กศึรไขว�กน 7 . ระยิ่ะเวลาด�าเน0นงานของก0จกรรมไม�ม�คัวาม

สมพนธี�กบคัวามยิ่าวของเส�นล.กศึรที่� ใชั�แที่นก0จกรรมน3นๆ

8 . การก�าหนดหมายิ่เลขจ�ดเชั( อมในข�ายิ่งาน น0ยิ่มให�จ�ดเร0 มตุ�นของก0จกรรมม�ตุวเลขตุ� ากว�าจ�ดส03นส�ดก0จกรรม

หลกเกณฑ์�ในการสร�างข�ายิ่งาน ดงน�3

Chapter 3

The End