25

ภาพนิ่ง 1 - NPRUhome.npru.ac.th/.../aj32/2541102_SettleWarmSTD_PPT.pdf · 2012. 3. 12. · พืชพันธุ์ธรรมชาติจะเป็นป่าไม้

  • Upload
    others

  • View
    4

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

  • เขตอบอุ่น อยู่ระหว่างเส้นทรอปิคออฟแคนเซอร์ (ละติจูด 23.5° เหนือ) กับเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (ละติจูด 66.5° เหนือ) และพื้นทีร่ะหว่างเส้นทรอปิคออฟแคปริคอน (ละติจูด 23.5° ใต้) กับเส้นแอนตาร์คติกเซอร์เคิล (ละติจูด 66.5° ใต้) แสงอาทิตย์ตกกระทบพ้ืนโลกเป็นมุมเฉียง แม้ว่าไม่มีโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะอยู่เหนือศีรษะ แต่ก็ยังได้รับแสงอาทิตย์ตลอดปี

    เขตอบอุ่น อยู่ระหว่างเส้นทรอปิคออฟแคนเซอร์ (ละติจูด 23.5° เหนือ) กับเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (ละติจดู 66.5° เหนือ) และพื้นที่ระหว่างเส้นทรอปิคออฟแคปริคอน (ละติจูด 23.5° ใต้) กับเส้นแอนตาร์คติกเซอร์เคิล (ละติจูด 66.5° ใต้) แสงอาทิตย์ตกกระทบพ้ืนโลกเป็นมมุเฉียง แม้ว่าไม่มีโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะอยู่เหนอืศรีษะ แต่ก็ยังได้รับแสงอาทิตย์ตลอดปี

  • วลาดิเมียร์ เคิปเปน นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้จ าแนกภูมิอากาศโลกโดยใช้เกณฑ์อุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนและปริมาณหยาดน้ าฟ้า โดยใช้สัญลักษณ์เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ดังนี้A ภูมิอากาศร้อนชื้นแถบศูนย์สูตร ทุกเดือนมีอุณหภูมิเฉลีย่สูงกว่า 18°C ไม่มีฤดูหนาว B ภูมิอากาศแห้ง อัตราการระเหยของน้ ามากกว่าหยาดน้ าฟ้าที่ตกลงมา C ภูมิอากาศอบอุ่นชื้นแถบละติจูดกลาง ฤดูร้อนอากาศอบอุ่น ฤดูหนาวไม่หนาวมาก อุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนที่หนาวที่สุดต่ ากว่า 18°C และสูงกว่า -3°CD ภูมิอากาศชื้นภาคพ้ืนทวีป ฤดูร้อนอากาศเย็น ฤดูหนาวหนาวเย็น อุณหภูมิเฉลีย่ของ

    เดือนที่อบอุ่นที่สุดไม่ต่ ากว่า 10°C อุณหภูมิเฉลีย่ของเดือนที่หนาวที่สุดต่ ากวา่ -3°CE ภูมิอากาศขั้วโลก อุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนที่อบอุ่นที่สุดต่ ากว่า 10°CH ภูมิอากาศแถบภูเขาสูง เป็นลักษณะภูมิอากาศหลายแบบรวมกัน ตามระดับสูงของ

    ภูเขา (ก าหนดโดยนักวิทยาศาสตร์ในสมัยต่อมา)

  • เป็นเขตภูมิอากาศอบอุน่ เดือนที่อุณหภูมิหนาวท่ีสุดจะสูงกว่าจุดเยือกแข็ง แต่จะผันแปรอยู่ระหว่าง -5 องศาเซลเซียส ถึง 18 องศาเซลเซียส และจะแบ่งเป็นเขตย่อยลงไปอีก 3 เขต โดยใช้ปริมาณน้ าฝนเป็นเกณฑ์ ได้แก่- Cf เขตภูมิอากาศอบอุน่ที่มีฝนตกตลอดปี- Cw เขตภูมิอากาศแบบสะวันนา่ในเขตอบอุ่นที่มีอากาศแห้งแล้งในฤดูหนาว- Cs เขตอภูมอิากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่มีอากาศแห้งแล้งในฤดูร้อน

  • บริเวณที่มีเขตภูมิอากาศแบบอบอุ่นชืน้จะปรากฏอยู่ใน 2 บริเวณใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ 1.ต้ังอยู่ชายฝ่ังตะวันออกของทวีป เช่น ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ

    ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ทางตะวันออกตอนกลางของเจนตินา่ และทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสหภาพแอฟริกาใต้ เป็นต้น

    2.ทางตะวันตกของทวีป เช่น ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป ชายฝ่ังมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ ตอนใต้ของชลิีและนิวซีแลนด์

  • พืชพันธุ์ธรรมชาติจะเป็นป่าไม้ บางแห่งที่ต้นไม้ถูกถางหรือปริมาณน้ าฝนลดน้อยกจ็ะเป็นทุ่งหญ้าแพร่ี (Prairie) ทุ่งหญ้าแพร่ีสามารถจะน าเอาพ้ืนที่มาใช้ท าการเพาะปลูกได้ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชืน้ถูกถากถางเพ่ือน ามาใช้ท าการก่อสร้างและท าการเพาะปลูกป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้ใบกว้างผลัดใบเป็นพวกป่าไม้พวกป่าสน

    ทุ่งหญ้าแพร่ี

    ป่าสน

  • เขตภูมิอากาศแบบอบอุน่ชืน้จะเหมาะส าหรับการต้ังถิ่นฐานของมนุษยม์าก อาชีพที่ส าคัญก็คือการเพาะปลูก พืชที่ส าคัญได้แก่ ข้าวโพด ฝ้ายและยาสูบ

  • จะมีอากาศอบอุน่และแห้งแล้งในฤดูหนาว ส่วนฤดูร้อนอากาศร้อนจะชุ่มชื้น ลกัษณะหลายอย่างของภูมิอากาศแบบนีจ้ะคล้ายคลึงกบัเขตภูมิอากาศแบบสะวันน่าในเขตร้อน (AW) แต่ภูมิอากาศแบบสะวันน่าอบอุ่นนี้จะอยู่ในละติจูดที่สูงกว่า อุณหภูมขิองอากาศอบอุ่นกว่าในฤดูร้อนและจะหนาวเย็นกว่าในฤดูหนาว เขตภูมิอากาศแบบสะวันน่าอบอุ่นทีส่ าคัญ ได้แก่ แถบชาโค (Chaco)

  • ในเขตภูมิอากาศแบบนี้เหมาะส าหรับท าการปลูก กาแฟมาก กล่าวคือ ในช่วงท่ีฝนตกหนักกาแฟจะโตอย่างรวดเร็วและในช่วงฤดูหนาวก็ท าการเก็บผลกาแฟ และตากกาแฟกลางแจ้ง

  • จะมีภมูิอากาศร้อนและแห้งแล้งในฤดูร้อนแต่อบอุ่นและชุ่มชื้นในฤดูหนาว ช่วงเวลาท่ีฝนตกจะเกี่ยวข้องกับแสงของดวงอาทิตย์ ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ท้องฟ้าจะแจม่ใสและอากาศอบอุน่ ซึ่งจะถึงฤดูนักท่องเที่ยวเข้าไปยังบริเวณนี้ปีละมาก ๆ แม้ว่าในช่วงฤดูหนาว ฝนจะตกและสภาพภมูิอากาศไม่ดีนัก เขตภูมิอากาศเช่นนีจ้ะปรากฏในกลุ่มประเทศรอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายฝ่ังตะวันตกของทวีปตอนล่างของละตจิูด

  • พืชพรรณธรรมชาติจะเจริญงองามในช่วงฤดูหนาวหรือในช่วงฤดูร้อนที่ยัง

    มีความชุม่ชื้นอยู่บ้าง พืชทีจ่ะน ามาปลูกในบริเวณนี้จึงต้องมีการปรับปรุงพันธ์ของพืชที่จะใช้ปลูกอาศัยน้ าจากชลประทาน พืชพรรณธรรมชาติในเขตเมดิเตอร์เนียนจะแบ่งออกได้ 3

    ชนิดด้วยกันคือ

    1. ป่าไม้ในเขตภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน

    2. ไม้พุ่ม

    3. หญ้า

  • ไม้เนื้อแข็ง ใบเล็กเป็นมัน เปลือกหนาท้ังนี้เพ่ือป้องกันการระเหย ของน้ าในฤดูร้อน ไม้ที่ส าคัญได้แก่ ต้นโอ๊ค แต่ในแคลิฟอร์เนียป่าไม้จะเป็น พวกไม้เนื้ออ่อน เช่น ป่าไม้แดง (Redwood) ในแคลิฟอร์เนีย เป็นต้น

  • จะปรากฏในบริเวณที่มีความชืน้น้อยซึ่งจะเรียกชือ่แตกต่างกันออกไปในทางตอนใต้ของฝร่ังเศสเรียกว่า มาร์กีส์ ในสหรัฐอเมริกา เรียกว่า ชาพาร์รอล (Chaparral) ไม้พุ่มเหล่านีจ้ะมลีกัษณะคล้ายกับต้นสาบเสอืในประเทศของเรา

  • การเพาะปลูกพืชซ่ึงมนุษย์ได้ท าการปรับปรุงพืชพันธุ์ที่จะน ามาปลกูให้เหมาะกับดินแดนแถบเมดิเตอร์เรเนียน พืชปลูก ได้แก่

    1.พืชที่มีรากยาว ที่สามารถน าเอาน้ าใต้ดินขึ้นมาเลีย้งล าต้นและสามารถด ารงชีวิตอยู่ได้ตลอดฤดูร้อนโดยไม่ต้องอาศัยการชลประทาน

  • 3. ธัญพืช ที่ปลูกในฤดูหนาวซ่ึงพืช จ าพวกนี้จะใช้ฤดูกาลเพาะปลูกที่สัน้และอาศัยความชุม่ชืน้ที่ได้จากน้ าฝนในช่วงฤดูหนาว โดยเร่ิมการเพาะปลูกตั้งแต่ต้นฤดูหนาว หรือปลายฤดูใบไม้ร่วงและเก็บเกี่ยวในฤดูร้อน

    2.พืชที่ปลูกโดยอาศัยการชลประทาน พืชที่ปลูกได้แก่ ผลไม้พวกมะนาวเป็นต้น

  • ลักษณะทั่วไป ทะเลทรายในรุ้งปานกลาง ตั้งอยู่ในเขต รุ้ง 30 องศา ถึง 45 องศาส่วนมากท่ีสุดทะเลทรายในเขตนี้จะอยู่ลึกเข้าไปในทวีป เอเชียมีทะเลทรายแบบนี้มากที่สุด รองลงไปก็คืออเมริกาเหนือ ในทะเลทรายเขตรุ้งปานกลางนี้ได้รับอิทธิพลจากลมประจ าน้อยมากเม่ือเทียบกับทะเลทรายในเขตร้อน

  • ดินแดน ดินแดนทะเลทรายในเขตรุ้งปานกลางมักต้ังอยู่ในบริเวณหลุบภูมิประเทศ (Depression) หรืออยู่ในแอ่งภูมิประเทศ (Basins) ที่ภูเขาล้อมรอบ เช่น ทะเลทรายตาริม ในธิเบตที่มีภูเขาปิดล้อมทุกด้าน ไอน้ าไม่มีโอกาสเข้าไปถึงได้เลยจึงเกิดเป็นทะเลทรายขึ้น ทะเลทรายซุงกาเรีย ทะเลทรายรัสเซีย -เตอรกีสถาน ทะเลทรายโกบีและทะเลทรายในมลรัฐเนวาดาของสหรัฐอเมริกา

  • ส่วนทะเลทรายปัตตาโกเนีย และทะเลทรายชายฝ่ังตะวันตกของแอฟริกานั้น ความแห้งแล้งนัน้เกิดจากการต้ังอยู่ในเงาฝนของเทือกเขาแอนดีสและเทือกเขาฝ่ังตะวันตก ประกอบกับกระแสน้ าเย็นที่ไหลผ่านท าให้ไอน้ าลดน้อยลง เพราะอากาศเย็นอุ้มไอน้ าได้น้อย

  • บ้านที่สร้างด้วยไม้มักพบในชนบทเขตอบอุ่น และเขตที่มีอากาศค่อนข้างหนาว ส่วนใหญ่จะมลีักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวติดพ้ืนซึ่งต่างจากชนบทของเขตร้อนชื้น หลังคาจะเป็นหลังคาหน้าจั่วเพ่ือให้น้ าฝนไหลได้สะดวก และบ้านเกือบทุกบ้านมักจะมีปล่องไฟเพ่ือระบายควันจากเตาไฟในบ้าน

  • บ้านสมัยใหม่ ในเขตอบอุ่นมักจะเป็นบ้านสร้างด้วยอิฐ คอนกรีต และคอนกรีตเสริมเหล็กซ่ึงมักจะพบโดยท่ัวไปในเขตเมืองและบางบริเวณในชนบท ลักษณะเด่นของบ้านคือ

    ก.เป็นตึกที่ค่อนข้างหนา หน้าต่างน้อย ทั้งนี้เพ่ือป้องกันความหนาวข.ความสูงของช่วงชั้นตึกแต่ละชัน้ไมสู่งมาก

    ค.บางบริเวณอาจใช้กระจกเป็นสว่นประกอบของบ้านเพ่ือเก็บความร้อนจากพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์

    ง.หลังคามักเป็นพื้นเรียบในบริเวณที่เป็นตึกสูงหลายชัน้ ส่วนบ้านที่อยู่อาศัยธรรมดามักเป็นหน้าจั่วเพ่ือให้หิมะหรือน้ าฝนตกสู่พ้ืนดิน