Upload
others
View
3
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
Presented by :
Mr. Padungsak U-nontakarn
CDM & Renewable Energy Manager
Bright Management Consulting Co., Ltd
E-mail : [email protected]
Tel :+662 6421270 ext. 717
BAT for Glass Industry
การวิเคราะห์พลังงาน สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย Energy, Environment & Safety Summary
ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมการควบคมุมลภาวะทางอากาศการควบคมุน้ําเสียการควบคมุขยะการควบคมุเสียงรบกวนการควบคมุความปลอดภัย
ISO 1400:ISO 14001 เป็นชุดของการจัดการสิ่งแวดล้อม มีจุดประสงค์ คือช่วย
องค์กรในการรักษาสิ่งแวดล้อม ป้องกันการปล่อยมลพิษ
EMAS:EMAS เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการสําหรับบริษัทหรือองค์กร
ในการประเมนิ รายงานและปรับปรุงการดําเนินการทางด้านสิ่งแวดล้อม
ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (EMS)
การเปรียบเทียบระหว่างระบบ ISO 14001 และ EMAS
ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (EMS)
การเปรียบเทียบระหว่างระบบ ISO 14001 และ EMAS
ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (EMS)
การปล่อยสารพิษสู่อากาศจากอุตสาหกรรมแก้ว มาจาก 3 ส่วน ได้แก่ กิจกรรมการจัดเก็บและการจัดการวัตถุดิบ กิจกรรมการหลอม กิจกรรมที่ไม่มีการหลอม
กิจกรรมการหลอม เป็นกิจกรรมหลักในอุตสาหกรรมแก้วที่มีการปล่อยสารพิษสู่อากาศมากที่ สุด ซึ่ ง เป็นสารพิษที่ เกิดจากกระบวนการเผาไหม้และปฏิกิริยาออกซิเดชั่นความร้อนสูง เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ และออกไซด์ของไนโตรเจน รวมถึงฝุ่นละอองและโลหะในระดับต่ํา
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
เทคนิคการควบคมุการปล่อยมลภาวะจากการจัดเก็บและจัดการวัตถุดิบ แบง่ตามขั้นตอน ดังนี้
• ขั้นตอนการจัดเก็บ – ถา้เป็นโรงงานขนาดใหญ่ อาจจะใช้ไซโลแบบปิด และมกีารระบายไปสู่อุปกรณ์การกําจัดฝุน่ทีเ่หมาะสม ในกรณีโรงงานขนาดเลก็ อาจจะเก็บไว้ในภาชนะปิดหรือถุงปิดผนกึ
• ขั้นตอนการลําเลียง – ในการลําเลียงผ่านสายพานอาจจะต้องมีเครื่องป้องกันลม ซึ่งจะห่อหุ้มสายพานลาํเลียงไว้ทกุด้าน ในขณะที่ถ้าต้องมีการขนส่งด้วยลม จําเปน็ต้องมีระบบปิดผนกึด้วยทีก่รองก่อนปล่อยออก
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
เทคนิคการควบคมุการปล่อยมลภาวะจากกิจกรรมการหลอม แบ่งตามสารพิษที่ปล่อยจากกิจกรรม ดังนี้
• ฝุ่นละออง• NOx• SOx• F2 และ Cl2
• COx
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
มลพิษ จากฝุ่น1. เทคนิคขั้นต้น ได้แก่
• การปรบัเปลี่ยนวัตถุดิบ• การลดอุณหภูมิทีเ่ตาเผา• การวางตําแหน่งเตาเผา• การเปลีย่นไปใช้การเผาด้วยแก๊ส
การปรับเปลี่ยนโดยใชเ้ทคนิคขั้นต้นนั้นจะทาํได้ค่อนขา้งยาก เนื่องจาก เกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนวตัถุดิบและอุปกรณ์ทีใ่ชใ้นกระบวนการผลิต
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
มลพิษ จากฝุ่น2. เทคนิคขัน้ที่สอง ได้แก่
• อุปกรณ์กรองฝุ่นด้วยไฟฟ้าสถิต (เครื่องตกตะกอนด้วยไฟฟ้าสถิต)
• ที่กรองแบบถุง (ถุงกรอง)• ตัวกรองที่ทนอุณหภูมิสูง (high temperature filter media)• เครื่องกรองอากาศแบบเปียก (wet scrubber)
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
มลพิษ จากออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx)มลพิษ NOx เกิดจาก 3 แหล่งหลัก คือ วัตถุดิบ เชื้อเพลิง และ NOx
ร้อน จากกระบวนการหลอมแก้ว ซึง่สามารถหลีกเลี่ยงได ้โดยควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเกิด NOx ร้อน ได้แก่ อุณหภูมิเปลวไฟ ปริมาณออกซิเจน และช่วงเวลาในการเผา ซึ่งจะเป็นการลดโอกาสในการเกิดไนโตรเจนและออกซิเจนขึ้นพร้อมกัน
วิธีที่เป็นไปได้ในการลดการปล่อยสารพิษ NOx สามารถทําได้ 2 วิธี คือ1. วิธีการขั้นต้น – การป้องกันการก่อตัวของ NOx2. วิธีการขั้นที่สอง – การบําบัดมลพิษก่อนปลดปล่อย NOx สู่อากาศ
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
1. เทคนิคขัน้ต้น ในการป้องกนัการก่อตวัของ NOx ได้แก่• การแก้ไขการเผาไหม้• สูตรของวัสดุที่ใช้• การออกแบบเตาเผาแบบพิเศษ• การหลอมด้วยเชื้อเพลิงออกซิเจน• ปฏิกิรยิาเคมีจากเชื้อเพลิง
การควบคุมมลภาวะทางอากาศมลพิษ จากออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx)
การแก้ไขการเผาไหม้ สามารถทําได้โดยวิธีการดังต่อไปนี้การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
วิธีการ การแก้ไข อุปกรณ์ ประสิทธิภาพ หมายเหตุอัตราส่วนของอากาศที่ถูกรีดิวซ์และเชื้อเพลิง
ควบคุมการรั่วของอากาศที่เข้าไปในเตาเผา โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ หัวเผาและตัวป้อน
เบ้าภาชนะเผาผนึก
ลดการปล่อยมลพิษได้ 40%
ค่อนข้างถูกและมีประสิทธิภาพ
อุณหภูมิอากาศเผาไหม้ที่ถูกรีดิวซ์
ลดอุณหภูมิอากาศเผาไหม้ที่อุ่นล่วงหน้า
- N/A ประสิทธิภาพของเตาเผาและเชื้อเพลิงจะต่ําลงไปด้วย
การเผาไหม้เปน็ขั้นตอน
ป้อนอากาศเปน็ขั้นตอนอย่างสมดุลเพื่อใหเ้กิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์
- N/A ใช้กันทั่วไปในเตาเผาแบบดั้งเดิม
การไหลเวียนก๊าซเชื้อเพลิงซ้ํา
นําไอเสียจากเตาเผามาพ่นใส่เปลวไฟเพื่อลดออกซเิจนและอุณหภูมิ
46-59 % มีความยุ่งยากในการใช้ในอุตสาหกรรมแก้วเต็มรูปแบบ
หัวเผา NOx ต่ํา มีการผสมเชื้อเพลิงและอากาศช้ากว่า และความเร็วในการพ่นน้อย
หัวเผา NOx ต่ํา
30 % แบบของหัวฉีดที่แตกต่าง
การเลือกเชื้อเพลิง เตาเผาแบบก๊าซจะปล่อย NOx สูงกว่าน้ํามันเชื้อเพลิง
- N/A เลือกใหเ้หมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐ
ตัวอย่างการใช้งานระบบหัวเผา เทคโนโลยี Glass- FLOX โรงงานผลิตแก้วหลอดไฟ ประเทศเยอรมนี
ที่มา: ข้อมูลบริการ BINE, ข้อมูลโครงการ 05/2008
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
ข้อดีและข้อเสียของการการปรับแต่งการเผาไหม้
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
• ควรมีการออกแบบสูตรวัสดุในการผลิตแก้วให้เหมาะสม เพื่อให้เกิด NOx ต่ํา เนื่องจากไนเตรทเป็นสารออกซิไดซ์ และเป็นสารช่วยตกตะกอนในอุตสาหกรรมแก้ว
• ปริมาณไนเตรทต้นแบบที่แนะนําอยู่ที่ประมาณ 0.5-1% เชน่ NaNO35-10 กก. สําหรับแก้ว 1 ตัน
• ระดับไนเตรทจะลดลงได้โดยการทดสอบผลิตภัณฑ์และเงื่อนไขในการหลอมแบบเดียวกัน
สูตรวัสดุในการผลิต
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
• หลักการสําคัญคือ การออกแบบให้ได้เปลวไฟอณุหภูมิต่ํา• เตาเผาแบบนี้ที่รู้จักกนัดี ได้แก่ Sorg LoNOx และ Flex • มลพิษที่ปล่อยจากเตาเผาแบบ Sorg LoNOx อยู่ที่ 420-440 มก./นิวตัน
ม.3 ซึง่เทียบได้น้อยกว่า NOx 1 kg/แก้วหลอม 1 ตัน• ข้อจํากัดของเตาเผาแบบพิเศษนี้ คือ ต้องมีการอุ่นวัตถุดิบให้ร้อนก่อน
ดังนั้น เทคนิคนี้จะใช้ได้จรงิกับโรงงานที่มีเศษแก้วหลอมที่มาก เช่น มากกว่า 70% และมีการหลอมเต็มอัตราเท่านั้น
การออกแบบเตาเผาพิเศษ
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
• หลักการสําคัญคือ การแทนที่อากาศเผาไหม้ด้วยออกซิเจน (ความบริสุทธิ์ > 90%) ทําใหไ้ม่จาํเป็นต้องอุ่นไนโตรเจนในบรรยากาศให้เท่ากับอุณหภูมิเปลวไฟ
• เทคนิคนี้สามารถใชไ้ด้กับเชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซธรรมชาติและน้ํามัน• เตาหลอมด้วยเชื้อเพลิงออกซิเจน สามารถลดการปล่อย NOx ได้
ถึง 70-90% ซึง่เทียบได้น้อยกว่า 1 kg/แก้วหลอม 1 ตัน
การหลอมด้วยเชื้อเพลิงออกซิเจน
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
• หลักการสําคัญคือ การเติมเชื้อเพลิงให้แก่กระแสไอเสียเพื่อลด NOx ทางเคมีไปเป็น N2 ผ่านปฏิกิริยาเคมีต่างๆ
• เทคนิคหลัก 2 อย่าง สําหรับหลักการนี้ คือ กระบวนการ 3R และกระบวนการเผาซ้ํา
• เทคนิคนี้ สามารถลดการปล่อย NOx ได้ถึง 70-85% ซึง่เทียบเท่ากับ 1.0 – 1.5 kg/แก้วหลอม 1 ตัน
• ข้อจํากัดของเทคนิคนี้ คือ การบริโภคพลังงานที่มากเป็นพิเศษ
ปฏิกิริยาเคมีจากเชื้อเพลิง
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
การควบคุมมลภาวะทางอากาศกระบวนการเลือกใช้เคมีแบบไม่ต้องมีตัวเร่ง (Selective non-catalytic reduction, SNCR)
• กระบวนการที่ใช้บ่อยที่สุด คือ การเปลี่ยนไนโตรเจนออกไซดไ์ปเป็นไนโตรเจนและน้ําด้วยแอมโมเนีย
• ภาวะที่เหมาะสมสําหรับเทคนิคนี้ คือ ภายใต้อุณหภูมิ 850 – 1050 ๐C ปฏิกิรยิาจะดําเนินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
• เทคนิคนี้ สามารถลดการปล่อย NOx ได้ถึง 30-70% ซึง่เทียบเท่ากับ 1.0– 1.5 kg/แก้วหลอม 1 ตัน
• ข้อจํากัดของเทคนิคนี้ คือ พื้นที่ที่เกิดอุณหภูมิอาจยากที่จะเข้าไปหรอือยู่ในตําแหน่งการไหลของก๊าซ ซึง่จะมีผลกับการเกิดปฏิกิริยา
การควบคุมมลภาวะทางอากาศกระบวนการเลือกใช้เคมีแบบมีตัวเร่ง (Selective catalytic reduction, SCR)
• กระบวนการที่ใช้บ่อยที่สุด คือ การเปลี่ยนไนโตรเจนออกไซดไ์ปเป็นไนโตรเจนและน้ําด้วยแอมโมเนีย
• ภาวะที่เหมาะสมสําหรับเทคนิคนี้ คือ ภายใต้อุณหภูมิ 200-400 ๐C โดยต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยาเข้ามาช่วย
• ตัวเร่งปฏิกิรยิาที่ใช้ เช่น สารละลายน้ํากระด้าง NH3 25% หรอื ยูเรีย• เทคนิคนี้ สามารถลดการปล่อย NOx ได้ถึง 70-95%• ข้อจํากัดของเทคนิคนี้ คือ จําเป็นต้องติดตั้งกับเครื่องกรองฝุ่นและเครื่อง
กรองกา๊ซกรดด้วย ฝุ่นและ SO2
การควบคุมมลภาวะทางอากาศกระบวนการเลือกใช้เคมีแบบมีตัวเร่ง
มลพิษ จากออกไซด์ของกํามะถัน (SOx)มลพิษ NOx เกิดจาก 2 แหล่งหลัก คือ ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของ
กํามะถันในเชื้อเพลิง และการสลายตัว/ออกซิเดชั่นของสารประกอบกํามะถันในวัสดุหลอมแก้ว
วิธีที่เป็นไปได้ในการลดการปล่อยสารพิษ SOx สามารถทําได้ 2 วิธี คือ1. การเลือกเลื้อเพลิง2. การกําหนดวัสดุในการหลอม3. เครือ่งกรองอากาศแบบอบแห้ง หรือกึง่แห้ง
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
การควบคุมมลภาวะทางอากาศการเลือกเชื้อเพลิง
ปริมาณการปล่อยสารพิษ SOx ในไอเสียแก้วเตาเผาของเชื้อเพลิงต่างๆ
ที่มา: เอกสาร BREF อุตสาหกรรมการผลิตแก้ว
การกําหนดวัสดุในการหลอม เตาเผาแก้วแบบดั้งเดิม SOx จะเกิดจากซัลเฟท ซึง่เป็นสารช่วยตกตะกอน
และสารออกซไิดซ์ที่สําคัญ ในกระบวนการหลอม แต่ในปัจจุบันเตาเผาแก้วสมัยใหม่ส่วนใหญ่ ระดับซัลเฟทในวัสดุหลอมถูกลดลงจนต่ํามากในทางปฏิบัติ
การควบคุมมลภาวะทางอากาศเครื่องกรองอากาศแบบแห้ง และแบบกึ่งแห้ง
• เครื่องกรองทัง้ 2 แบบ ใช้หลักการเดี่ยวกัน คือ ตัวดูดซับจะถูกนําเข้ามาและแพร่ในกระแสไอเสีย ซึง่จะทาํปฏิกิริยากับ SOx เพื่อก่อตัวเป็นของแข็ง แล้วนําไปผ่านการตกตะกอนด้วยไฟฟ้า หรือระบบถุงกรองต่อไป
• ตัวดูดซับที่ใช้ ได้แก่ แป้งแห้ง (เช่น Ca(OH)2, NaHCO3, Na2(CO)3, CaO เป็นต้น)
• กระบวนการนี้ สามารถลดการปล่อย SOx ได้ระหว่าง 10 และ 90% ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนตัวดูดซับ/SOx อุณหภูมิ ชนิดตัวดูดซับ เป็นต้น
• ในอุตสาหกรรมแก้ว กระบวนการแหง้พบได้บ่อยกว่าอุตสาหกรรมกึ่งแหง้
เทคนิคการควบคมุการปล่อยมลภาวะจากกิจกรรมที่ไม่ใช่การหลอม
กิจกรรมที่ไม่ใช้การหลอม ครอบคลุมกิจกรรมดังตอ่ไปนี้ เช่น การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ การขึ้นรูปชิ้นส่วนในกระบวนการหลักต่างๆ ซึง่จะถูกเรียกว่า กิจกรรมอันดับล่าง (Downstream activities)
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
ตัวอย่างเทคนคิการลดการปล่อยสารพิษ จากกิจกรรมที่ไม่ใช่การหลอมการควบคุมมลภาวะทางอากาศ
น้ําเสียจากอุตสาหกรรมแก้ว โดยทั่วไปเกิดจาก แก้วของแข็ง การปนเปือ้นด้วยน้ํามันบางอย่าง วัสดุทําแก้วที่ละลายได้บางชนิด และสารเคมีในการบําบัดระบบระบายความร้อน เป็นต้น
การควบคุมน้ําเสีย
แหล่งที่มาของการปล่อยมลพิษทางน้ํา1. น้ําระบายความร้อน2. น้ําประปา3 .การตัดแบบหล้อเย็น4. น้ําในกระบวนการขึ้นรูป5. น้ําเสียจากเครื่องกรองอากาศ6. การแปรรูปเชิงกล7. การเคลือบ8. การแปรรูปทางเคมี9. แหล่งอื่นๆ เช่น การหกรัว่ของวัตถุดิบ น้ําระบายที่พื้นผิว
การควบคุมน้ําเสีย
วิธีในการป้องกันและควบคุมน้ําเสีย ได้แก่1. การลดการบริโภคน้ําและลดการปล่อยความร้อนลงในน้ํา2. การลดการปล่อยสารเคมีลงไปในน้ํา3 .การลดการใช้ยาฆ่าแมลงด้วยการจ่ายยาแบบเป้า4. การลดการรั่วไหล5. การมองหาการประหยัดพลังงานโดยรวมสูงสุด เมื่อเลือกระหว่างการระบายน้ําแบบเปียก แบบแหง้ และทั้งแบบเปียกและแหง้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของกระบวนการและสถานที่6. การลดการบริโภคพลังงานโดยตรง และการลดความต้านทานน้ําและ/หรอือากาศในระบบระบายความร้อนโดยการใช้เครื่องมือประหยัดพลังงานสมัยใหม่
การควบคุมน้ําเสีย
แหล่งที่มาของการปล่อยมลพิษทางน้ํา1. ขยะวัสดุในการหลอม2. ผุ่นที่รวบรวมจากกระแสไอเสีย3 .ผลผลิตของเสีย4. ขยะของแข็งจากระบบบําบัดน้ําเสีย5. วัสดุเตาเผา
การควบคุมขยะ
วิธีในการป้องกันและควบคุมขยะ ได้แก่1. การรไีซเคิลวัสดุหลอมที่มีคุณภาพตามกําหนด2. การลดการสูญเสียวัสดุให้น้อยที่สุดระหว่างการเก็บและการจัดการวัตถุดิบ3 .การรไีซเคิลเศษแก้วภายในจากการผลิตที่ถูกตีกลับ การรไีซเคิลฝุ่นกรองในการผสมวัสดุใชห้ลอมที่มีคุณภาพเพียงพอ
การควบคุมขยะ
เสียงจากระบวนการผลิตแก้ว แหล่งที่มาสําคญัของมลพิษทางเสียง ได้แก่ อากาศแรงดันในระบบระบายอากาศ พัดลมในระบบเผาไหม้ พัดลมในระบบแยกไอเสีย เครื่องขึ้นรูป เครื่องตัด การเจีย การขัด เป็นต้น
วิธีในการป้องกันและควบคุมเสียงรบกวน ได้แก่1. การรไีซเคิลวัสดุหลอมที่มีคุณภาพตามกําหนด2. การลดการสูญเสียวัสดุให้น้อยที่สุดระหว่างการเก็บและการจัดการวัตถุดิบ3 .การรไีซเคิลเศษแก้วภายในจากการผลิตที่ถูกตีกลับ การรไีซเคิลฝุ่นกรองในการผสมวัสดุใชห้ลอมที่มีคุณภาพเพียงพอ
การควบคุมเสียงรบกวน
การควบคุมความปลอดภัย
การควบคุมความปลอดภยั แบ่งออกได้ ดังนี้
1. ความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม2. ความปลอดภัยต่อการทํางานและสุขภาพ
การควบคุมความปลอดภัย
ผลกระทบในอุตสาหกรรมแก้วที่อาจจะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนผู้อยู่อาศัย หรอือุตสาหกรรมใกล้เคียงมีเพยีงเล็กน้อย โดยทั่วไปปริมาณของสสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมแก้วมีปริมาณน้อยเกินกว่าที่จะเป็นสาเหตุก่อให้เกิดอันตรายได้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายอาจเกิดจากการจัดเก็บ และการจัดการวัสดุของเหลวหรือของแข็งที่สามารถติดไฟควรมีการจดัระดับความเสี่ยงในกระบวนการทํางานที่กําลังดําเนินการอยู่
การควบคุมความปลอดภยัด้านสิ่งแวดล้อม
ชนิดและปริมาณของวัสดุที่ติดไฟได้ และวัสดุของแข็งที่ใช้ในอุตสาหกรรมแก้ว ควรมีการจดบันทึกและรวบรวมเป็นตารางสรุปผลซึ่งมีข้อมูล ดังต่อไปนี้•ชื่อและรายละเอียดของวัตถุอันตราย เช่น ส่วนประกอบของสารผสม (เช่น ส่วนประกอบในการผสม)•การจัดกลุ่มของวัตถุอันตราย (เช่น ระบุโค้ด กลุ่ม หรือประเภท)•ปริมาณการใช้วัตถุอันตรายต่อเดือน•ลักษณะของการเกิดอันตราย (เช่น การติดไฟ ความเป็นพิษ)
การควบคุมความปลอดภยัด้านสิ่งแวดล้อม
การควบคุมความปลอดภัย
• อันตรายจากการจัดการ / การจดัระเบียบองค์กร• อันตรายจากเครื่องกล• อันตรายจากกระแสไฟฟ้า• สสารอนัตราย / สารชวีภาพ• อันตรายจากเพลิงไหม้ และ การระเบิด• อันตรายจากความร้อน• อันตรายที่มีผลกระทบทางกายภาพโดยเฉพาะ• อันตรายจากสภาพแวดล้อมการทํางาน• ภาระต่อร่างกาย / การทํางานหนัก / ปัจจจัยด้านจิตใจ
ความปลอดภยัต่อการทํางานและสุขภาพ สามารถจัดตามกลุ่มของความเสี่ยง ได้ดังต่อไปนี้
การควบคุมความปลอดภัย
อันตรายต่ออาชีวอนามัยและความปลอดภัยส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการผลิตแก้วของโรงงาน และรวมทัง้ขั้นตอนพื้นฐาน ดังต่อไปนี้•การสัมผัสถูกความร้อน•การรับเสียงรบกวน•การรับสารอันตรายเข้าทางระบบหายใจ•อันตรายด้านกายภาพ•อันตรายจากไฟฟ้า
ความปลอดภยัและสุขภาพในการประกอบอาชีพ สําหรับการทํางานในอุตสาหกรรมการผลิตแก้ว
การควบคุมความปลอดภัย
วิธีการป้องกันและควบคุม - การสัมผัสถูกความร้อน
• ลดเวลาที่ใชใ้นการทางานในสภาพแวดล้อมที่มอีุณหภูมิสูงลง ลดการดําเนนิงานในพื้นที่เหล่านัน้ลง
• ป้องกันความร้อนที่มากเกินไปในสถานทีท่ํางาน การระบายอากาศทีเ่พียงพอ และมีอากาศเย็นไหลผ่านเพื่อไล่ควันและฝุ่นออกจากสถานทีท่ํางาน
• การเพิ่มอากาศ หรือออกซเิจน ตามความต้องการ เพื่อชว่ยในการหายใจ• ป้องกันพื้นผิวทีใ่กล้ชิดกับคนงานและรวมถึงการสัมผสักับอุปกรณ์ที่ร้อน จําเปน็ต้องใช้
อปุกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) รวมถึงถุงมือป้องกันและรองเท้า
การควบคุมความปลอดภัยความปลอดภยัต่อการทํางานและสุขภาพ
วิธีการป้องกันและควบคุม - การรับเสยีงรบกวนในกระบวนการขึน้รูปภาชนะแกว้จะเกิดความดันสูงในกระบวนการขึ้นรปูเย็นซึ่งอาจสูงถึง 100 เดซิเบลหรือมากกว่า ดังนั้นควรมีวิธีการปเองกันสขุภาพของพนักงานทีเ่กีย่วข้อง ดังนี้•การควรระบุพื้นที่ในการใชเ้สียงแตล่ะระดับให้ชัดเจน •การใชเ้ครื่องกําจัดเสียงกับท่อไอเสียทีเ่กิดเสียงมาจากลม•การลดการใชเ้ครือ่งอานวยความสะดวกเพื่อทาความเย็นทั้งการกระจายด้านขวาง และขอบรอบๆ•ใช้หัวฉีดที่มีหลายรู เช่นอุปกรณ์ฉีดพ่น
การควบคุมความปลอดภัยความปลอดภยัต่อการทํางานและสุขภาพ
วิธีการป้องกันและควบคุม - การรับสารอันตรายเข้าทางระบบหายใจตัวอย่างสารอันตรายจากอุตสาหกรรมผลิตแก้ว ยกตัวอย่างเช่น•แร่ใยหินสังเคราะห์บนวงแหวนแบบจุ่ม หรือวัสดุทีเ่ป็นฉนวน•น้าผสมน้ามันสาหรับหล่อเย็นกรรไกรตัด•น้ามันหล่อลื่นแม่พิมพ์ และ ไอระเหยและควัน•สารประกอบอินทรีย์ กรดไฮโดรคลอริคที่ใชส้าหรับเคลือบในการหลอม•ก๊าซติดไฟ
การควบคุมความปลอดภัยความปลอดภยัต่อการทํางานและสุขภาพ
วิธีการป้องกันและควบคุม - การรับสารอันตรายเข้าทางระบบหายใจ
วิธีการป้องกันและควบคุมอันตรายจากสารเคมี•ใช้ทดแทน โดยการค้นหา/ ทดสอบ•ทาการลงทะเบียนวัตถุอันตราย•ค้นหาความเสี่ยงจากการสัมผสัถูกวัตถุอันตราย•มีคาสั่งพักการใช้สารทีเ่ป็นวัตถุอันตรายตามกฎหมาย•ฝกึอบรมผู้ประกันตน
การควบคุมความปลอดภัยความปลอดภยัต่อการทํางานและสุขภาพ
วิธีการป้องกันและควบคุม - อันตรายด้านกายภาพ
• อันตรายทีเ่กิดจากเศษแก้วและอนุภาคของเศษแก้วที่กระเด็นอันก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่ดวงตาเป็นปจัจัยเสี่ยงปกติทีเ่กิดในการผลิตแก้ว และควรทําการป้องกันโดยการใชก้ระจกนิรภัยสาหรับพนกังานและผูเ้ยี่ยมชม
• การบาดเจ็บจากการตัดกระจกสามารถเกดิได้ในกรณีทีก่ระจกเกิดการแตกในระหว่างการทางาน ควรลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บโดยการใช้ระบบหยุดการตัดโดยอัตโนมัติ และใช้ถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันสาหรับพนักงานทีต่้องทํางานกับกระจก
การควบคุมความปลอดภัยความปลอดภยัต่อการทํางานและสุขภาพ
วิธีการป้องกันและควบคุม - อันตรายจากไฟฟ้า• การเพิ่มขึ้นของสนามไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก และสนามแมเ่หล็กไฟฟ้า ภายในโรงงาน
สําหรับเครื่องจักรผลิตแก้วแบบกลวง เนื่องจากมีการเพิม่ขึ้นของเครื่องหลอมแก้วและอุปกรณ์ที่ใชส้าหรับการลาํเลียง จําเป็นต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพในการทํางาน
• อุปกรณ์หรือเครือ่งจักรทีต่ั้งอยู่ในกระบวนการผลิตจําเปน็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของช่างไฟฟ้าหรือคําสั่งของหัวหน้าวิศวกรไฟฟ้า ในการปรับแต่ง หรือการซ่อมบํารุงจะต้องมั่นใจว่าการทํางานของระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าเปน็ไปตามกฏ สําหรับการติดตั้งระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ต้องมีการตรวจสอบ (เริ่มและทดสอบเป็นระยะๆ)
การควบคุมความปลอดภัยความปลอดภยัต่อการทํางานและสุขภาพ
Thank youThank you
PadungsakPadungsak UU--nontakarnnontakarn
Bright Management Consulting Co., Ltd.Bright Management Consulting Co., Ltd.Tel : 0Tel : 0--26422642--1270, Fax : 01270, Fax : 0--26422642--12421242email : email : padungsaku@[email protected]