Upload
others
View
3
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
ยอ้นเวลากลบัไปในคราวเม่ือแรกเร่ิมจะสถาปนากระทรวงมหาดไทย ๑๒๐ ปี ก่อนนั้น พระบาทสมเดจ็พระจุลจอมเกลา้เจา้อยูห่วัไดโ้ปรดเกลา้ฯ ใหส้มเดจ็พระบรมวงศเ์ธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ มาเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ดว้ยมีพระราชด าริจะจดัการปกครองพระราชอาณาเขตใหม.่..ใหเ้ป็นการกวดขนั มัน่คงและเป็นการสะดวกดีในการปกครองข้ึน...ซ่ึงทา่นหญิงพนูพิศมยั ดิศกลุ พระธิดา ทรงเล่าไว้ในหนงัสือ เร่ือง “ชีวิตและงานสมเดจ็กรมพระยาด ารงราชานุภาพ” ถึงเหตกุารณ์เม่ือแรกทรงงานท่ีกระทรวงมหาดไทย ความวา่ “ในเวลาแรกเสดจ็ไปไมไ่ดท้รงแกไ้ขอะไรเลย ไปประทบัทอดพระเนตรการงานท่ีเขาท ากนัอยูท่กุแผนก และประทบัอยูใ่นหอ้งเจา้คุณราชวรานุกลู (อ่วม) ผูเ้ป็นปลดัทลูฉลองโดยมาก จนกระทัง่ทรงทราบการงานท่ีท าอยู่โดยละเอียดจึงทรงคิดแกไ้ข โดยทรงกราบบงัคมทลูขอตั้งมณฑลและจงัหวดั อ าเภอ ข้ึนตามทอ้งท่ี”
นบัเป็นจุดเร่ิมแรกการเปล่ียนแปลงการปกครองพระราชอาณาเขต จากเดิมท่ีเป็นจตุสดมภ ์เวียง วงั คลงั นา อยา่งสมยักรุงศรีอยธุยา กลายเป็น “มณฑล และจงัหวดั” ๑
แต่เดิมนั้น การตั้งเมืองและศาลากลางจงัหวดัยดึเอาความสะดวกของประชาชนเป็นหลกั สมเดจ็พระเจา้บรมวงศเ์ธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพทรงเล่าวา่ “...โบราณเขาเอาท่ีมีน ้า และท่ีราบท านาไดเ้ป็นหลกั และระยะเมืองกเ็อาเกณฑตี์นเดินแต่เชา้มืดถึงเยน็เป็นท่ีหยดุพกั ระยะทางจึงอยูใ่นระยะ ๖๐ กิโลเมตรเสมอ ดงัเช่น นครปฐม ราชบรีุ เพชรบรีุฯ เป็นตน้ ในสมยัของพระองคท์า่นเอาความสะดวกของราษฎรเป็นหลกั เช่นถา้ทางน ้าเปล่ียนใหม ่ ไมส่ะดวกแก่การคมนาคม ราษฎรมกัยา้ยไปตามน ้า ถา้เลือกท่ีได้ถูกตอ้งมัน่คง กย็า้ยเมืองตามไป ถา้ไมถู่กตอ้งกแ็กไ้ขช้ีแจงใหเ้ขา้ใจกนั เมืองสมยันั้นคือศาลากลางอยูท่ี่ไหนท่ีนัน่คือเมือง...”
ปัจจุบนัอาคารมีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลาเกิดความช ารุดเสียหาย รอยแตกร้าว ของคอนกรีต และโครงสร้างเพดานหลายแห่ง หลงัคาร่ัวซึม ฝ้าเพดาน ผกุร่อน บนัไดมีการทรุดตวั ขาดความปลอดภยั โดยเฉพาะภายหลงัเกิดเหตุแผน่ดินไหวส่งผลใหอ้าคารเกิดการสัน่สะเทือนทั้งอาคาร มีรอยร้าวเพ่ิมมากข้ึน ประกอบกบัพ้ืนท่ีใชส้อยท่ีมีขนาดคบัแคบ การใหบ้ริการประชาชนขาดความคล่องตวั จึงจ าเป็นตอ้งจดัสร้างอาคารใหมท่ดแทน
ศาลากลางจงัหวดัภูเกต็ สร้างข้ึน (ระหวา่ง พ.ศ. ๒๔๕๐-๒๔๕๖) ในสมยัท่ีพระยารัษฎานุประดิษฐม์หิศรภกัดี (คอซิมบ้ี ณ ระนอง) เป็นสมหุเทศาภิบาลมณฑลภูเกต็ ไดก้ าหนดให้บริษทัทุ่งคาคอมเปาตเ์ป็นผูส้ร้างให้ เพ่ือแลกเปล่ียนกบัการอนุญาตให้ประทานบตัรในการขดุแร่ ซ่ึงท าใหไ้มต่อ้งใชง้บประมาณแผน่ดินในการก่อสร้าง และบริษทัทุง่คาคอมเปาตไ์ด ้ ใหช่้างชาวอิตาเล่ียนเป็นผูอ้อกแบบ และควบคุมการก่อสร้าง ดงันัน้ ศาลากลางจงัหวดัภูเกต็จึงเป็นอาคารท่ีมีสถาปัตยกรรมแบบยโุรป และเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหลก็ หลงัแรกของประเทศไทยท่ีมีช่ือเสียงมากในสมยันัน้ เป็นอาคารไมส้กัสองชัน้ มีลกัษณะเป็นคอร์ต (court) คือ อาคารท่ีลอ้มรอบเป็นส่ีเหล่ียม ตรงกลางเป็นลานกวา้งเปิดโล่ง ไมมี่หลงัคา ท าเป็นสวนหยอ่ม มีระเบียงอาคารทัง้ดา้นนอก และดา้นใน เดินรอบอาคารไดท้ัง้สองชัน้ อาคารหลงัน้ี เป็นอาคารท่ีประกอบดว้ยประตูทัง้หมด จ านวน ๙๙ ประตู ต่อมาในภายหลงัไดมี้การต่อเติมหนา้ต่าง จ านวน ๒ บาน ทางมขุดา้นหลงัของอาคาร ต่อมากรมศิลปากรไดข้ึ้นทะเบียนและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวนัท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ใหเ้ป็นโบราณสถาน
มติคณะรัฐมนตรี เม่ือวนัท่ี ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ เห็นชอบแผนการใชท่ี้ดินของหน่วยงานของรัฐในเร่ืองศนูยก์ลางความเจริญของภาคใต ้: ภูเกต็ ก าหนดใหมี้การจดัวางผงัแมบ่ทศนูยร์าชการจงัหวดัภูเกต็ โดยศนูยร์าชการหลกัมีเน้ือท่ี ๑๙๒ ไร่ ถูกหอ้มลอ้มดว้ยถนนมนตรี ถนนด ารง ถนนปะเหลียน ถนนอ าเภอ ถนนนริศร และถนนสุรินทร์ และใหพ้ื้นท่ีบริเวณท่ีราชพสัดุคลองเกาะผี เน้ือท่ี ๙๗ ไร่ ถูกหอ้มลอ้มดว้ยคลองทา่แครง ถนนรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี และถนนศกัดิเดชทางทิศใต ้ เป็นศนูยร์าชการรอง
ศาลากลางจงัหวดัหลงัใหม ่ท่ีจะก่อสร้างใหใ้ชพ้ื้นท่ีบริเวณสนามชยัและสนามเทนนิส โดยใหย้า้ยสนามเทนนิสไปอยูบ่ริเวณศนูยท่ี์พกับคุลากร และใหอ้าคารศาลากลางจงัหวดัในปัจจุบนัเป็นอาคารอนุรักษข์องกรมศิลปากรปรับปรุงการใชส้อยเป็นอาคารพิพิธภณัฑ ์หรืออาคารท่ีเก่ียวกบัศิลปะ วฒันธรรมของจงัหวดั
ปัจจุบนัรัฐบาลไดอ้นุมติัเงินงบประมาณ จ านวน ๔๕๐ ลา้นบาท ใหจ้งัหวดัภูเกต็ เป็นคา่ก่อสร้างศาลากลางจงัหวดั จ านวน ๑ หลงั เป็นรายการผกูพนังบประมาณรายจ่ายประจ าปี พ.ศ.๒๕๕๖ - ๒๕๕๘ โดยใหจ้ดัหาผูรั้บจา้งตามระเบียบส านกันายกรัฐมนตรีวา่ดว้ยการพสัดุ พ.ศ.๒๕๓๕ และท่ีแกไ้ขเพ่ิมเติม
๑ กระทรวงมหาดไทย ตามรอยเสด็จ ๔ ภาค ณ ศาลากลางจังหวัด และที่ว่าอ าเภอที่เป็นท่ีประทับ
จงัหวดัภูเกต็มีความพร้อมในดา้นพ้ืนท่ีท่ีจะใชก่้อสร้างศาลากลางจงัหวดัภูเกต็หลงัใหม ่ ในพ้ืนท่ีสนามเทนนิส และสนามชยั ซ่ีงมีเน้ือท่ีรวม ๑๔-๒- ๖ ไร่
สนามสนามเทนนิสเดิมเป็นพ้ืนท่ีของสโมสรจงัหวดัภูเกต็ ไดถู้กเพิกถอนโดยข้อบังคับสมาคม และข้ึนทะเบียนเป็นท่ีราชพสัดุ โดยจงัหวดั ไดจ้ดัหาสถานท่ีก่อสร้างสนามเทนนิส จ านวน ๖ คอร์ด ใหมี้ขนาดมาตรฐานโดยใชท่ี้ราชพสัดุท่ีกรมการปกครองครอบครองดูแลบริเวณดา้นหลงัศาลากลางจงัหวดัในปัจจุบนั
ส าหรับพ้ืนท่ีสนามชยัจะยงัคงรักษาความเป็นพ้ืนท่ีสีเขียว เพ่ือการนนัทนาการ และผกัผอ่นหยอ่นใจ ในการวางแผนระยะยาว มีแผนงานท่ีจะยา้ยเรือนจ าจงัหวดั ซ่ึงมีเน้ือท่ีประมาณ ๔๗ ไร่ ไปอยูท่ี่บา้นบางโจ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง และปรับปรุงพ้ืนท่ีเป็นปอดส าหรับชุมชนเมือง เพ่ือการนนัทนาการกีฬาประเภทต่าง ๆ และกิจกรรมสาธารณประโยชนอ่ื์นๆ
อาคารส านกังานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดความสูง ๕ ชั้น ออกแบบ
และตกแต่งภายในเป็นสถาปัตยกรรมอาคารเก่าสไตลโ์คโลเนียลหรือชิโนโปรตุกีส
ซ่ึงคงเอกลกัษณ์ของภูเก็ตแบบดั้งเดิม พ้ืนท่ีใชส้อยรวม ๑๖,๖๐๐ ตารางเมตร
ประกอบดว้ย ๑๗ หน่วยงาน
อาคารหอประชุมและศูนยอ์าหาร เป็นอาคาร ๒ ชั้น พ้ืนท่ีใชส้อยรวม
๓,๒๐๐ ตารางเมตร มีความจุของห้องประชุมถึง ๕๐๐ คน
อาคารจอดรถใตดิ้น ดา้นล่างของสนามชยั รองรับรถยนตไ์ด ้๑๙๐ คนั และพ้ืนท่ี
อเนกประสงคด์า้นบน ซ่ึงปรับสภาพเป็นท่ีจอดรถไดอี้ก ๑๙๐ คนั
บริเวณโดยรอบพ้ืนท่ี นอกจากเป็นท่ีจอดรถบางส่วนแลว้ ยงัเป็นสวนหยอ่ม
และพ้ืนท่ีนนัทนาการเพ่ือการพกัผอ่นและออกก าลงักาย
การด าเนินการจะแลว้เสร็จ ภายในปีงบประมาณ ๒๕๕๘