Upload
wisdom-ingoodfaith
View
194
Download
19
Embed Size (px)
DESCRIPTION
Merger ans Acquisition
Citation preview
บทวิเคราะห์ : ควบรวมกิจการ..ทางออกของธุรกิจ???
มีการกล่าวว่า ปี2552เป็นปีเผาจริง และธุรกิจต่างๆ อาจต้องเผชิญกับภาวะขาดสภาพคล่อง จนอาจถึงขั้นปิดตัวลง
การแสวงหาความร่วมมือทางธุรกิจ จึงเป็นทางออกหนึ่งของนักธุรกิจที่ไม่อยากเผชิญกับภาวะขาดทุนในปัจจุบัน
สำหรับประเทศไทยเอง ธุรกิจภาคเอกชนก็มีการควบรวมกิจการเกิดขึ้นมาหลายยุคหลายสมัย แต่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
จึงอาจเริ่มเห็นความชัดเจนของการควบรวมอีกครั้ง อย่างกรณีที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เผยว่าจะควบรวมกิจการระหว่างธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์)
กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) แต่แล้วในที่สุด ก็ไม่ควบรวมเนื่องจากเหตุผลว่า
ทั้ง2องค์กรมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจในปัจจุบันมากขึ้น จึงเห็นควรเพิ่มบทบาทในการทำงานแยกจากกันให้ชัดเจน
กระแสควบรวมกิจการ (Merger & Acquisition)ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย หากแต่ในภูมิภาคอาเซียน
พบว่าตัวเลขการควบรวมกิจการได้เพิ่มขึ้นมากกว่า2เท่า
และการควบรวมกิจการมักเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมที่มีจำนวนคู่แข่งขันมากเกินไป(Fragmented)อย่างสถาบันทางการเงิ
น หรือหมายความว่า การควบรวมกิจการจะเพิ่มขึ้นตามดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม ราคาหุ้น ปริมาณซื้อขายหุ้น
อย่างในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ.2550อันเป็นปีเริ่มต้นของภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
ธุรกิจทางการเงินเริ่มส่งผลกระทบอย่างชัดเจนมากขึ้น หนังสือพิมพ์Financial Timesของอังกฤษ ได้รวบรวมตัวเลข
บริษัทยักษ์ใหญ่ของยุโรป พบว่ามีการควบรวมกิจการ มากกว่าพันราย มูลค่ารวมทั้งสิ้น2.16แสนล้านดอลลาร์
หรือ1.07แสนล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน72%
ทฤษฎีการควบรวมกิจการ (Merger &Acquisition)จึงถือได้ว่าเป็นทฤษฎีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดทฤษฎีหนึ่งในปัจจุบัน
สำนักข่าวแห่งชาติ จึงได้ประมวล
ข้อดีและข้อเสียของการควบรวมกิจการเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของนักธุรกิจในภาวะสุ่มเสี่ยงเช่นนี้
การควบรวมกิจการ สามารถทำได้โดยนำความสามารถของอีกองค์กรหนึ่งมารวมกับอีกองค์กรหนึ่ง
เพื่อเสริมสร้างศักยภาพร่วมกัน การรวมกิจการมักจะเป็นธุรกิจที่มีกำไรต่ำ ทำให้ต้องมีการลดต้นทุน และรักษาทรัพย์สินไว้
ในทางทฤษฎีแล้ว การควบรวมกิจการแบ่งเป็น3ประเภทใหญ่ๆ คือการควบกิจการตามแนวนอน (Horizontal
Merger)คือการรวมกิจการในธุรกิจประเภทเดียวกัน ถือเป็นวิธีการกำจัดคู่แข่งรายสำคัญอย่างรวดเร็ว
และเพิ่มอำนาจต่อรองทางตลาด(Market Power)การควบรวมกิจการตามแนวดิ่ง (Vertical Merger)คือ
การรวมกิจการที่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจเดียวกัน แต่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เช่น เป็นผู้ป้อนวัตถุดิบหรือเป็นผู้จัดจำหน่าย
ซึ่งมักจะเกิดกับอุตสาหกรรมที่ต้องการลดความผันผวนของราคาซื้อหรือราคาขาย
และการควบรวมเพื่อกระจายธุรกิจออกจากธุรกิจหลัก(Diversify)มักเกิดกับบริษัทที่เป็นHolding
Companyที่ใช้วิธีการเงินต่อเงินด้วยการกว้านซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร
ข้อดีของการควบรวมกิจการคือ การเข้าซื้อกิจการไม่จำเป็นต้องเป็นการรวมบริษัท
(amalgamation)หรือการควบรวมธุรกิจ
แต่เป็นการรวมสินทรัพย์ของทุกบริษัทจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่(consolidation)แม้ว่าการเข้าซื้อกิจการจะมีการเปลี่ยนการเ
ข้าควบคุมโดยสิ้นเชิง แต่บริษัทที่เกี่ยวข้องอาจจะยังคงดำเนินการเป็นอิสระอยู่
แต่ต้องมีการควบคุมบริษัทร่วมกันเพื่อแสวงหากำไรให้ได้มากที่สุด การควบรวมจึงถือเป็นการลดความเสี่ยงของบริษัท
ช่วยให้เข้าถึงทรัพยากรทางการเงินและการบริหารมากขึ้น รวมถึงช่วยให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้การรวมบริษัทจะทำให้เกิดการลดการแข่งขันได้ง่ายขึ้นจากการให้ความช่วยเหลือทางการเงินข้ามบริษัทในธุรกิ
จที่ได้กำไรน้อย เพื่อมุ่งหมายที่จะจำกัดการแข่งขันและการจัดการแบบต่างตอบแทนกับบริษัทที่รวมกันอื่นๆ
ในการซื้อและขายวัตถุดิบและผลผลิต
ข้อเสียของการควบรวมกิจการคือ
หากบริษัทพยายามที่จะจำกัดการแข่งขันโดยใช้สถานะทางการตลาดของตนเพื่อที่จะทำให้คู่แข่ง และคู่ค้าเสียเปรียบ
จะเกิดการกระจุกตัวของตลาดผู้ซื้อและตลาดผู้ขาย รวมถึงการผูกขาดในระยะยาว กล่าวคือ คู่แข่งหรือคู่ค้า
ที่ไม่มีตัวเลือกมากนักอย่างที่ผ่านมา
ทำให้ข้อต่อรองทางการตลาดส่งผลต่อคู่ค้าส่งผลให้เกิดปัญหาต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจและการจัดสรรทรัพยากรไม่เหมา
ะสมได้ ซึ่งประเด็นปัญหานี้ หลายประเทศที่มีกิจการที่ควบรวมกันมาก
จะมีการใช้กฎหมายการค้าที่เป็นธรรมหรือกฎหมายต่อต้านการผูกขาด (Fair Trading or Antimonopoly
Law)เพื่อเข้าดูแลควบคุม นอกจากนี้หากไม่การจัดการดูแลอย่างเป็นระบบ ก็จะทำให้เกิดปัญหา
อย่างสายการบินอเมริกา เวสต์ และยูเอส แอร์เวยส์ ที่มีการควบรวมกิจการ
ภายหลังพบว่ายังคงมีเรื่องร้องเรียนสูงที่สุดในกลุ่ม20สายการบินขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ
จากปัญหาการผนวกรวมระบบการจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งนับเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงการควบรวมกิจการ
การควบรวมกิจการต่างมีข้อดีและข้อเสีย ซึ่งผู้ประกอบการควรต้องมีการศึกษาและการวางแผนระบบให้รัดกุม
สังเกตได้ว่าในประเทศที่มีการควบรวมกิจการมีการหามาตรการรวมถึงกฎหมายในการรองรับปัญหาที่อาจเกิดตามมาจาก
การควบรวมนี้ แม้ประเทศไทยยังคงไม่มีธุรกิจที่มีการควบรวมมากนัก
และเมื่อมองถึงภาวะเศรษฐกิจไทยที่อาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกบ้าง
แต่ยังคงประเมินได้ว่าไม่มีความรุนแรงถึงขั้นต้องเกิดการควบรวมกิจการต่างๆ
เข้าด้วยกันมากเหมือนธุรกิจทางการเงินในยุโรปและสหรัฐฯ อย่างที่ผ่านมา
หากรัฐบาลมีมาตรการเข้ามาดูแลแก้ไขอย่างถูกต้องและทันท่วงที เช่น
ในธุรกิจการท่องเที่ยวและการส่งออกที่มีผลกระทบมากที่สุด
จึงควรหามาตรการกระตุ้นด้วยการลดภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ อย่างมาตรการกระตุ้นภาคธุรกิจอื่น
อย่างอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ
การช่วยเหลือและหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างถูกทางจึงอาจเป็นหนทางหนึ่งในการประคับประคองธุรกิจต่างๆ
ต่อไป
by Mr. Weerapong Wasukaratana นักวิชาการคอมพิวเตอร์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร