20
K NASI LEM จุลสารรายเดือนชมรมนักศึกษาไทยมหาวิทยาลัยอินซานียะห์ UPDATEàÃ×èองKUIN INCREASEอีหÁ‹าน ฉบับที่ 25 ประจำ�เดือนกุมภ�พันธ์ พศ. 2554 FREE COPY

Nasi Lemak Vol.25

Embed Size (px)

DESCRIPTION

สดุดี....ท่านศาสดามูฮำหมัด(ซ.ล.)

Citation preview

Page 1: Nasi Lemak Vol.25

KNASI LEMจุลสารรายเดือนชมรมนักศึกษาไทยมหาวิทยาลัยอินซานียะห์

UPDATEàÃ×èองKUIN INCREASEอีหÁ‹าน

ฉบับที ่ 25 ประจำ�เดือนกุมภ�พันธ์ พศ. 2554

FREE COPY

Page 2: Nasi Lemak Vol.25

Assalam mu Alai Kum Wa Rahmatullah Wa Barakatuh

เจอกันอีกครั้งบนหน้านิตยสารนาซิเลอเมาะ เล่มนี้เป็นฉบับที่ 25 ประจำาเดือนกุมภาพันธ์ 2554 หลังจากปิดอิญาซะห์พักผ่อนกันถึง ๑ สัปดาห์เต็มๆ ก็กลับมาสู่ช่วงการเรียนอีกครั้ง อิญาซะห์ที่ผ่านไปไม่นานมาพร้อมกับช่วงเทศกาลวาเลนไทน์พอดี เทศกาลที่ดอกกุหลาบและช็อกโกแลตจะขายดีเป็นพิเศษ เทศกาลที่คนที่รักกันจะมาแสดงความรักต่อกัน โดยการมอบดอกกุหลาบหรือช็อกโกแลตให้กัน (ส่วนหลังจากนั้น วัลลอฮุ อะอฺลัม) อันที่จริงการแสดงความรักต่อกันเป็นสิ่งที่ดี ถ้าเราทำาให้ถูกและไม่จำาเป็นต้องทำาเพียงวันใดวันหนึ่งเท่านั้น และเรื่องของความรักยังมีอีกมากมายหลายประเภท อาทิเช่น ความรักต่อพ่อ-แม่ ความรักต่อพี่น้อง ความรักต่อเพื่อน ความรักต่อมุสลิมด้วยกัน หรือความรักระหว่างสามี-ภรรยา และที่มุอ์มินที่ดีอย่างพวกเราลืมไม่ได้เลยคือความรักต่ออัลลอฮ์(ซบ.)และนบีมุฮัมหมัด(ซล.) เพราะหากเรามีความรักต่ออัลลอฮ์และนบีอย่างเต็มเปี่ยมในหัวใจแล้วเราจะไม่มีวันหลุดออกจากเส้นทางแห่งอิสลามแน่นอนความรักต่ออัลลอฮ์และนบีไม่จำาเป็นต้องมีดอกกุหลาบหรือช็อกโกแลตไม่จำาเป็นต้องรักแค่วันวาเลนไทน์ แต่วันไหนๆเราก็รักได้ไม่จำากัด และแน่นอนหากเรารักอัลลอฮ์และนบีอย่างสุดหัวใจแล้วเราไม่มีวันผิดหวังแน่นอนสังคมโลกในยุคปัจจุบันมีแต่เรื่องวุ่นวายน่าปวดหัว ไหนจะเรื่องการประท้วงขับไล่ผู้นำาประเทศอิยิปต์ที่พึ่งผ่านมา และประเทศอื่นๆที่เริ่มจะทำาตามกันบ้างแล้ว ไหนจะเรื่องข้อพิพาทพื้นที่ชายแดนของไทย-กัมพูชา ไหนจะปัญหาการขัดแย้งกันเองของพี่น้องมุสลิมในเรื่องที่ความเห็นไม่ตรงกัน เห็นแล้วน่าเศร้าแต่ก็ต้องทนๆกันไปรุ่นพี่ท่านหนึ่งเคยบอกเอาใว้ให้คิดว่า หากมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน และไม่อาจทำาตามความเห็นของอีกฝ่ายได้ เราก็ควรจะหันหน้าคุยกันเพื่อหาจุดร่วมที่ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมรับและทำาร่วมกันได้เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ไม่ให้แย่มากไปกว่านี้ แต่ ในชีวิตจริงมนุษย์มักไม่ยอมรับความเห็นของผู้อื่นที่ขัดแย้งกับความเห็น(และผลประโยชน์)ของตนเองได้ ก็แน่ล่ะพวกเราเป็นมนุษย์นี่ เราอาจจะต้องผิดบ้าง พลาดบ้างเป็นธรรมดา แต่ถ้าผิดแล้วยังไม่เปลี่ยนแปลงมันจะตรงกับสำานวนไทยสำานวนหนึ่งที่ว่า

“ผิดแล้วจำายังเป็นคน ผิดแล้วไม่ปรับปรุงตน จะเรียกว่าคนได้ยังไง”

จริงมั๊ยครับผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน

บ อ ก อ . . ข อ บ ่ น

กองบรรณาธิการ

Page 3: Nasi Lemak Vol.25

ขม หวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด สิ่งเหล่านี้คือรสชาติที่ทุกๆคนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่มีอยู่รสชาติหนึ่ง

ที่คุณยัง

ไม่เคยลองลิ้มชิมรสของมันมาก่อน แต่พวกคุณต้องได้ชิมมันแน่นอนคะ “ทุกชีวิตจะต้องลิ้มรสแห่ง

ความตาย” (อาละอิมรอน:185)

ใช่คะ!! ทุกชีวิตต้องลิ้มรสสิ่งๆนี้ แต่คุณสามารถที่จะปรุงรสชาติของมันได้นะคะ อยู่ที่คุณจะ

ใส่ “บางอย่าง” ลงไปมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น บางอย่างที่ว่านั้นคือ “อีหม่าน”

ถ้าหากคุณใส่อีหม่านลงไปมาก รสชาติแห่งความตายที่คุณจะประสบย่อมเป็นรสหอมหวาน

ซึ่งแน่นอนคุณอยากลองชิมรสของมัน แต่....ถ้าหากคุณใส่อีหม่านลงไปน้อยหรือลืมใส่มันลงไปละก็

รสชาติแห่งความตายที่คุณจะประสบ ย่อมเป็นรสขมจนคุณไม่อยากชิมมันแน่ ฉะนั้นอย่าลืมนะคะ “อีหม่า

น คือเครื่องปรุงสำาคัญที่สุดที่สุด เครื่องปรุงชนิดนี้จะทำาให้ความตายของคุณ มีรสชาติที่น่าลิ้มลอง”

จากหนังสืออิควะฮฺเล่ม2/หน้า5

เ ค รื่ อ ง ป รุ ง ชิ้ น เ อ ก

เกร็ดเก็บมาฝาก

ทำ�ไมต้องมีย�งลบอยู่บนหัวดินสอบางครั้งเราก็มองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไปเพียงเพราะใช้เวลาสั้นๆ ในการตัดสินสิ่งนั้นว่า “ไร้สาระ” หลายวันก่อน เพื่อนคนหนึ่งถามผมว่า

“ทำาไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ ?”ผมไม่ได้สนใจและใส่ใจกับคำาถามนั้นสักเท่าไหร่เพียงแค่

รู้สึกว่าเป็นคำาถามที่ไม่มีสาระอะไรเสียเลยแต่ก็อดไม่ได้ที่จะตอบเล่นๆ ไปว่า “ก็คงมีเพื่อความสะดวกมั้งหรือไม่ก็ช่วยให้คนขี้ลืมที่ชอบวางยางลบ

ไม่เป็นที่เป็นทางได้มียางลบใช้มั้ง” เพื่อนของผมก็อมยิ้มก่อนที่จะตอบผม สั้นๆ ว่า “ไม่ใช่” “อ้าว. . .งั้นเพราะอะไรล่ะ” ผมอดที่จะถามไม่ได้ “ก็

เพราะว่าคนเราสามารถทำาผิดกันได้” ผมนิ่งไปครู่หนึ่งหลังจากที่ได้ยินคำาตอบและปล่อยให้เจ้าของคำาถามเดินจากไปโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรมากไป

กว่าคำาตอบสั้นๆ ของเขาเท่านั้นคำาถามของเพื่อนที่ผมเคยมองว่ามันไร้สาระกลับทำาให้ผม ได้เก็บมาคิดแทบทุกขณะที่สมองว่างเย็นวันนั้น ผม

จึงหยิบโทรศัพท์เขียนข้อความส่งถึงเพื่อนๆ ด้วยประโยคที่ซ้ำากัน. . .“ทำาไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ” เพราะคนเรามีสิทธิ์ทำาผิดกันได้ แต่

จงจำาไว้ว่า. . .เราไม่ควรใช้ยางลบให้หมดก่อนดินสอเพราะนั่นอาจหมายความว่า เรากำาลังทำาผิดซ้ำาๆ จนความผิดนั้นอาจสายเกินแก้ ผมเอง

ยังไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่คิดต่อจากเพื่อนนั้นมันจะถูกต้องหรือไม่และเพื่อนๆ ที่ได้รับข้อความจากผมจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะบอกหรือ

เปล่าจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ. . .นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการมากสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมอยากได้รับ คือ เพื่อนของผมจะคิดต่อจากความคิดของผม

อย่างไร และลึกๆ ผมก็แค่หวังว่า เพื่อนของผมคงจะกล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด และไม่ประมาทในการใช้ชีวิตและยอมรับการกระทำาของ

ตัวเองเพียงแค่นั้น ผมก็หมดห่วงและเพื่อน ๆ ที่ได้อ่านแล้วคิดอย่างไรกันบ้างครับว่า “ทำาไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ

Page 4: Nasi Lemak Vol.25

แม่......... ลูกรู้สึกเบื่อเหลือเกิน ที่ต้องนั่งนับวัน

ก็ครบรอบ1เดือนแล้วที่แม่จากไป

รู้สึกเพิ่งเมื่อคืนนี่เองที่แม่กอดเรา

แม่รู้ใช่ไหม.......

นั่นแหละที่เป็นครั้งแรกที่แม่กอดลูกไม่เอาถ่านคนนี้ตั้งแต่เราโตมา

และนั่นเหมือนกันที่เป็นกอดครั้งสุดท้าย......

อืม...รู้สึกเหมือนแม่รู้ว่าแม่จะไปไกล

หนึ่งอาทิตย์ก่อนนั้น...แม่นั่งสานเสื่อสามผืน....

พี่สาวบอก...ตั้งแต่เช้า แม่นั่งสานเสื่อผืนนั้น....

โดยที่ไม่รู้สึกง่วง....และไม่รู้สึกเหนื่อย...

พี่สาวก้อรู้สึกงง....

เพราะแม่ไม่เคยทำาอย่างนั้น....

วันนั้นวันเสาร์บ่ายสามโมง อยู่ๆแม่ก็ปวดท้อง..

ตอนที่เรากลับถึงบ้าน...แม่ก็อยู่ในอาการเจ็บหนัก....

พี่สาวและพี่ชาย ทุกๆคนต่างก็คะยั้นคะยอแม่ ให้แม่ไปโรงพยาบาล...

แต่แม่ก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาล...

และเหลือแต่เราเท่านั้นที่พูดอะไรไม่ออก...

แต่สุดท้ายเราก็พูดออกมา ว่า...

แม่..ที่โรงพยาบาลนะมีหมอน่ะ...มียาสำาหรับแม่...

ถ้าอยู่บ้าน พวกเราทำาได้แต่...ทายาและนวดเท่านั้น...

แม่ไม่เห็นด้วย...แม่ดื้อสุดๆ...

แต่ไม่ผิด...ลูกของแม่นี้ก้อนิสัยเหมือนแม่...

แต่สุดท้าย..เมื่อเห็นอาการแม่ยิ่งแย่...

เราและพี่ๆน้องๆ จึงตัดสินจัยพาแม่ไปโรงพยาบาล...

แม่..อภัยให้เราด้วยน่ะ....

เราอยากให้แม่แข็งแรง..

เราทุกคนรักแม่.......

เราจำาเป็นต้องพาแม่ไปโรงพยาบาล...

อภัยให้เราทุกคนด้วยน่ะแม่....

แม่......คืนนั้นพี่ชายพาแม่ไปโรงพยาบาล...

และนั่นแหละ...เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่แม่นั่งรถเรา...

ตี 4.30พยาบาลกำาลังห่อแม่ด้วยผ้าขาว...

แม่ต้องเห็นเราแน่เลย เรานั่งลงอยู่กับพื้นโรงพยาบาล..

แม่..เห็นพี่ชายจูบหน้าผากแม่ใช่ไหม?...

แม่เห็นพี่สาวอ่านดูอาอฺให้แม่ ใช่ไหม?...

11.00โมงเช้า อาบน้ำาให้แม่..ลูกๆของแม่ช่วยกันอาบน้ำาให้แม่...

จดหมายถ ึงแม ่

Page 5: Nasi Lemak Vol.25

แม่คงรู้สึกรู้สึกใช่ไหม...เราค่อยๆถูทั้งร่างของแม่...

เราถูเท้าของแม่เบาๆ...แม่รู้สึกใช่ไหม........

เราร้องไห้อยู่.......

ก่อนที่ใบหน้าของแม่ จะถูกปิดตลอดไป.......

ลูกของแม่ทุกๆคนอยู่รอบๆแม่...นั่งดูใบหน้าของแม่เป็นครั้งสุดท้าย...

ทุกคนกำาลังบอกว่าแม่กำาลังยิ้มอยู่....

แม่รู้ไหม?...ตอนที่เราสัมผัสหน้าผากของแม่....

เรารู้สึกว่าหน้าผากของแม่เย็นเฉียบเลย......

เราไม่สามารถจูบแม่ได้... เราทำาไม่ได้ ...

น้ำาตาของเราไม่หยุดไหล...มันกลั้นไม่อยู่...

แม่จำาได้ใช่ไหม?...ลูกของแม่เป็นอีหม่ามละหมาดศพของแม่...

แต่เราบอกโต๊ะอีหม่ามให้อ่านดูอาอฺ เพราะเราสะอื้น....

แม่รู้ไหม?...เราพยายามอดกลั้น.....

ปลอบโยนตัวเองทุกครั้ง แต่..มันทำาไม่ได้.....

เราอยากคุยกับแม่....

ลูกแม่คนนี้เหมือนคนบ้าเลยใช่ไหม?...

และสุดท้ายเราก็โทรกลับบ้าน......

เราคุยกับพี่สาว...เราก็ร้องไห้อีก....

พี่ก็ปลอบเรา.... พี่บอกเราว่าร้องไห้มากๆไม่ดีน่ะ.......

เดี๋ยวแม่ก็ลำาบากหรอกอยู่ที่โน้น...

แต่สุดท้ายพี่สาวก็ร้องไห้เหมือนกัน....

หวังว่าแม่คงจะเห็นภาพเหตุการณ์นั้น.....

สุดท้ายคำาพูดเพื่อแม่...I IOVE YOU SO MUCH....

และล้านๆคำาขอบคุณที่เลี้ยงดูเรามา........

ให้ความรัก ความอบอุ่น ตั้งแต่เด็ก จนเข้าโรงเรียน จนเข้ามหาลัย....

จนได้ขึ้นเครื่องบิน....ได้สัมผัสความเป็นอยู่ในต่างประเทศ....

จนถึงสุดท้ายของชีวิตเราคงไม่สามารถตอบแทนพระคุณของแม่ได้...

ขอบคุณ.....

ลูกของแม่ที่ปรับปรุงตัวแล้ว......

ทิ้งท้าย

จงให้ความสำาคัญเมื่อแม่เรายังอยู่

จงให้ความสำาคัญเมื่อแม่มีให้

จงแสดงออกถึงความรักตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่

จงอย่าขัดแย้งในสิ่งที่ดีเมื่อท่านใช้....

พูดจาด้วยน้ำาเสียงที่นิ่มนวลเมื่อพูดคุยกับท่าน...

จงจำาไว้ว่าเรามีแม่เดียว พ่อเดียวเท่านั้นในโลกนี้...

หากอัลลอฮ์จะเอากลับคืน...คนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคน

เราก็จะไม่สามารถพบเจอท่านได้อีก..จนกระทั่งวันคืนฟื้น

ชีพ

ดุอาอฺลูกที่ดีเท่านั้นที่สามารถผ่อนผันโทษของพ่อแม่ได้...

จดหมายถ ึงแม ่

Page 6: Nasi Lemak Vol.25

หลังจากเลิกงาน พ่อกลับถึงบ้านในค่ำาวันหนึ่งด้วยความเหน็ดเหนื่อยและ

ตึงเครียด เขาพบลูกชายวัย 6 ขวบ นั่งรออยู่หน้าประตูบ้าน

“พ่อครับ ผมขอถามพ่ออย่างหนึ่งได้ไหม?” ลูกชายพูดขึ้น

พ่อตอบว่า “ได้สิ จะถามอะไรล่ะ?”

ลูกถามว่า “พ่อครับ พ่อทำางานได้เงินชั่วโมงละเท่าไหร่ครับ?”

พ่อตอบด้วยความโกรธว่า “มันไม่ใช่เรื่องของแก ทำาไมถึงถามเรื่องแบบ

นี้?”

“ผมแค่อยากจะรู้ บอกหน่อยนะครับ พ่อทำางานได้เงินชั่วโมงละเท่าไหร่?”

พ่อตอบว่า “ถ้าลูกจะต้องรู้ให้ได้ เอาละ พ่อทำางานได้ชั่วโมงละ 200 บาท”

“โอ้” เด็กน้อยอุทาน คอตก ก้มหน้า เขาค่อยๆ เหลือบตาขึ้นมองพ่อแล้วพูดว่า “พ่อครับ ให้ผมยืมเงิน

พ่อสัก 100 บาทได้ไหมครับ?”

พ่อ โมโหเดือด “ถ้าเหตุผลที่แกถามเรื่องนั้นเพียงเพื่อแกจะได้ยืมเงินไปซื้อของเล่นโง่ๆหรือ อะไร

อย่างอื่นที่ไร้สาระละก็ แกขึ้นห้องไปนอนเดี๋ยวนี้ แล้วคิดว่าทำาไมแกถึงเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างนี้

ฉันทำางานหนักทุกวันเพื่อเด็กนิสัยเสียอย่างนี้หรือ”

เด็กน้อยนิ่งเงียบเดินคอตกไปที่ห้องของเขาและปิดประตู

พ่อ นั่งลงและเริ่มรู้สึกโกรธมากขึ้นเมื่อคิดถึงคำาถามของลูกชาย มันกล้าดียังไงมาถามคำาถามแบบนั้น

เพียงเพื่อจะให้ได้เงิน? หลังจากนั้นราวหนึ่งชั่วโมง อารมณ์ของพ่อค่อยสงบลง และเริ่มคิดว่า บางที

ลูกอาจจะมีบางอย่างที่เขาต้องการซื้อด้วยเงิน 100 บาทนั้นก็ได้ เขาไม่ได้ขอเงินบ่อยนักนี่นา

พ่อไปที่ห้องของลูกชายแล้วเปิดประตู

“หลับหรือยังลูก?” พ่อถาม

“ยังครับพ่อ ผมยังไม่หลับ” เด็กน้อยตอบ

“พ่อ ได้คิดดูแล้ว บางทีพ่ออาจจะพูดแรงกับลูกไปเมื่อกี้” พ่อพูด “พ่อทำางานเหนื่อยมาทั้งวัน แล้วก็

เลยอาจจะมาลงที่ลูก เอ้า นี่เงิน 100 บาทที่ลูกขอ”

เด็กน้อยลุกขึ้นนั่งตัวตรง ยิ้มแป้น “โอ้ ขอบคุณครับพ่อ” เขาร้องดีใจ

จากนั้นเขาหันไปคว้าใต้หมอน หยิบเงินออกมาจำานวนหนึ่ง คนเป็นพ่อเมื่อเห็นว่าลูกมีเงินอยู่บ้าง

แล้ว ก็เริ่มโกรธขึ้นมาอีก

เด็กน้อยค่อยๆ นับเงินของเขาอย่างช้าๆ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองพ่อของเขา

“ลูกต้องการเงินเพิ่มอีกทำาไม ถ้าลูกมีอยู่บ้างแล้ว?” พ่อบ่นด้วยความไม่พอใจ

“ก็เพราะผมยังมีไม่พอนะสิครับ แต่ตอนนี้ผมมีพอแล้ว” เด็กน้อยตอบ พลางยื่นเงินนั้นมาให้พ่อ

“พ่อค รับ ตอนนี้ผมมีเงิน 200 บาทแล้ว ผมขอซื้อเวลาของพ่อหนึ่งชั่วโมงได้ไหมครับ? พรุ่งนี้พ่อ

กลับบ้านเร็วขึ้นสักหนึ่งชั่วโมงนะครับ ผมอยากจะทานอาหารมื้อเย็นกับพ่อ”

พ่อ รู้สึกชาไปทั้งตัว นิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ลำาคอเหมือนมีก้อนแข็งๆ ขึ้นมาอุดอยู่จนหายใจลำาบาก

แล้วน้ำาใสๆ ก็ไหลมาตามแก้ม เขากอดลูกชายไว้แน่น

เวลาของพ่อ

Page 7: Nasi Lemak Vol.25

บางคนคิดถึง...Insaniah Thai Students Association Present:

ว ั น ศ ุ ก ร ์ ท ี ่ 4 ม ี น า ค ม 2 5 5 4

ณ ห ้ อ ง เ ด ว ั น เ ล ็ ก { D S A H O }

ต ั ้ ง แ ต ่ เ ว ล า 1 5 . 0 0 น . เ ป ็ น ต ้ น ไ ป

แล้วเจอกัน.......

...คิดถึงบางคน

ห า ก ม า ช ้ า ท ่ า น จ ะ พ ล า ด ส ิ ่ ง ด ี ๆ

Page 8: Nasi Lemak Vol.25

อัสล�มมู่อ�ลัยกุ้ม พี่น้องช�ว KUIN ทุกท่�น นับเป็นคว�มปลื้มปริติยินดีอย่�งยิ่ง ที่เห็นพวก

เร�หล�ยๆคนได้ม�ใช้ชีวิตร่วมกัน ณ.มห�วิทย�ลัยแห่งนี้ และเร�หล�ยๆคนก็มีวัตถุประสงค์หรือ

เจตน�รมณ์เดียวกัน ก็เพื่อที่จะสืบส�นและดำ�รงให้อิสล�มของเร�ได้สืบไปรุ่นต่อรุ่น เพื่อให้ตัวเร�เอง

หรือเย�วชนรุ่นต่อจ�กเร�ได้รู้ถึงแก่นแท้ หรือจิตวิญญ�ณของอิสล�มอย่�งจริงๆ ไม่ว่�จะเป็น วิช�

คว�มรู้ ก�รดำ�เนินชีวิตและก�รอยู่ร่วมกันในสังคม หรือเรื่องอื่นๆก็ต�ม ก็เพร�ะสิ่งเหล�นี้แหละจะ

ทำ�ให้อิสล�มเดินไปในท�งที่ถูกต้องม�กที่สุด

ดังนั้นเย�วชนมุสลิมอย่�งเร�ๆจึงต้องมีก�รศึกษ�และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวล�ก็เพื่อที่จะให้ทัน

ต่อโลกและเหตุก�รณ์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวล� ทั้งในเรื่องของศ�สน�หรือส�มัญก็ต�ม เพร�ะว่�โลกของ

เร�มีก�รเปลี่ยนแปลงและวิวัฒน�ก�ร อยู่ตลอดเวล� จึงทำ�ให้เกิดคำ�ถ�มใหม่ๆ

ในเรื่องศ�สน�อยู่ตลอด และไม่ใช่ เพียงแค่ก�รศึกษ�ในเรื่องของศ�สน�

เท่�นั้น แต่ ณ.ตอนนี้เร�ยังต้องศึกษ� ในเรื่องของเศรษฐกิจ ก�รเงิน ก�ร

แพทย์ วิทย�ศ�สตร์ ก�รอ�ห�ร และ อื่นๆอีกม�กม�ย เพร�ะเดี่ยวนี้อิสล�ม

จะล้�หลังต่อเรื่องแบบนี้ไม่ได้แล้ว อัน สืบเนื่องม�จ�กก�รถูกแทรกแซงจ�ก

หล�ยๆด้�นที่จะทำ�ให้อิสล�มของเร� เหลือเพียงแค่ชื่อ และโดยส่วนม�กจะ

ม�แทรกแซงท�งด้�นคว�มคิดและคว�มเชื่อมั่นของเร� จึงทำ�ให้เร�กล�ยเป็นผู้ที่ลืมตัวหรือเผลอใจ

อย่�งไม่ค�ดคิด เร�จะเป็นอิสล�มเพียงแค่ชื่อไม่ได้ เพร�ะฉะนั้น เร�ต้องศึกษ� ศึกษ� ศึกษ�

มันจะทำ�ให้หนท�งสู่สวรรค์เป็นสิ่งที่สะดวกง่�ยด�ย

ร�ยง�นจ�กอบูฮุร็อยเร�ะฮฺ เร�ะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่�ท่�นเร�ะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม

ได้กล่�วว่� : คว�มว่� :

“และผู้ใดที่เดินในหนท�งเพื่อค้นห�วิช�คว�มรู้ อัลลอฮฺก็จะทรงทำ�ให้หนท�งสู่สวรรค์เป็นสิ่งที่สะดวก

ง่�ยด�ยแก่เข� เนื่องเพร�ะมัน(ก�รห�คว�มรู้)” [บันทึกโดยมุสลิม หม�ยเลข 2699]

พระองค์คือผู้สอนเร�ในทุกสิ่งอัลลอฮฺ ซุบฮ�นะฮุวะตะอ�ล� ได้ตรัสว่�

พระองค์คือ)ผู้ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เข�ไม่รู้ (อัลอะลัก : 5)

อย�กมีคว�มรู้ม�กๆอย่�งเข�บ้�ง ร�ยง�นจ�กอับดุลลอฮฺ บินมัสอูด เร�ะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่�ท่�นนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ได้

กล่�วว่� :

“ไม่มีก�รอิจฉ� (ไม่อนุญ�ตให้อิจฉ�) นอกจ�กเพียงสองกรณีเท่�นั้น คือ (ก�รอิจฉ�และอย�กเอ�

เป็นแบบอย่�ง) ต่อช�ยผู้หนึ่งที่อัลลอฮฺได้ให้ทรัพย์สมบัติแก่เข� แล้วมันก็ถูกใช้จ่�ยไปในท�งที่ดีจน

หมดไป และต่อช�ยผู้หนึ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประท�นวิทยปัญญ�ให้แก่เข� แล้วเข�ก็นำ�ไปใช้ และสอน

ต่อให้แก่ผู้อื่น” บันทึกโดยอัลบุคอรีย์

บ้านใกล้ไกลไม่สำาคัญ แค่ใจเราตรงกันก็พอแล้ว

Page 9: Nasi Lemak Vol.25

ขอความสันติสุข ความพึงพอพระทัย จากเอกองค์อัลเลาะฮ์(ซบ.)พึงประสบแด่พี่น้องผู้ที่ศรัทธาทุกท่านและ

ขอเรียกร้องให้เราท่านทั้งหลายจงยำาเกรงต่อเอกองค์อัลเลาะห์(ซบ.)แต่เพียงผู้เดียว โดยการที่พวกท่านทั้ง

หลายจะต้องปฏิบัติในสิ่งซึ่งที่พระองค์บัญชาใช้อย่างเต็มความสามารถ และออกห่างจากสิ่งที่พระองค์

ทรงห้ามอย่างสิ้นเชิง

พี่น้องทุกๆท่าน เมื่อพวกเราได้ถือกำาเนิดขึ้นมาในโลกดุนยาตามพระประสงค์ของอัลเลาะฮ์(ซบ.) เราทุกคน

ต่างมีหน้าที่แสวงหาสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็น ริสกีที่ฮาลาล วิชาความรู้ และอื่นๆอีกมากมาย การได้รับฮิดา

ยะห์นั้นเป็นสิ่งที่เรา ผู้เป็นบ่าวของอัลเลาะฮ์(ซบ.)ปรารถนาอย่างมากที่จะให้ตัวเรา ครอบครัว และลูกหลาน

เรา เป็นผู้ที่ได้รับพระเมตตาจากอัลเลาะฮ์(ซบ.) แต่ทว่าฮิดายะห์นั้นเป็นเอกสิทธิ์ ณ ที่อัลเลาะฮ์(ซบ.)ที่จะมอบ

ให้แก่บ่าวของพระองค์คนใดคนหนึ่ง มิใช่ว่าเราทุกคนจะได้รับ และไม่มีผู้ใดหรือใครจะมีสิทธิ์ แม้กระตัวเรา

หรือท่านนบีมุฮำามัด (ซล.)เองก็ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีอำานาจ ไม่มีความสามารถที่จะดลใจหรือโน้มน้าวจิตใจของ

ใครได้ นอกเสียจากบุคคลผู้นั้นจะได้รับพระเมตตาจากอัลเลาะฮ์(ซบ.)

ดั่งที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์ อัลกุรอาน ซูเราะห์ อัล ก้อซอซ อายะห์ที่ 56ว่า………………

ซึ่งมีใจความว่า”แน่แท้ โอ้ มุฮำามัดสูเจ้าไม่มีความสามารถ ไม่อาจที่จะให้ฮิดายะห์ทางนำาให้เกิดความเชื่อ

มั่นศรัทธายอมรับในสิ่งที่ดีที่ถูก แก่บรรดาบุคคลที่สูเจ้ารัก ที่สูเจ้าพอใจได้เจ้าไม่มีความสามารถหรอก มี

แต่อัลเลาะห์(ซบ.)องค์เดียวเท่านั้นที่มีความสามารถให้ฮิดายะห์ ให้ทางนำา ให้ความรู้สึกว่าอะไรดีอะไรชั่ว

ยอมรับในสิ่งที่ถูกเกลียดในสิ่งที่ผิดแก่บุคคลที่พระองค์ทรงประสงค์เท่านั้น พระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งนักกับ

บรรดาผู้ที่ได้รับทางนำา”

ดังนั้นจากโองการนี้ เราจึงแน่ใจได้ว่าการได้รับฮิดายะห์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพอใจของใคร หรือบุคคล

ใดเว้นแต่การฮิดายะห์นั้นมาจากเอกองค์อัลเลาะห์(ซบ.)ที่ทรงเมตรตาแก่บ่าวคนนั้น แต่ท่านทั้งหลายอย่า

พึ่งท้อแท้ แม้การฮิดายะห์นั้นมาจากอัลเลาะห์(ซบ.) แต่พระองค์ได้มอบสิ่งหนึ่งซึ่งสูงค่ายิ่งแก่บ่าวของ

พระองค์นั้นก็คือ สติปัญญา และความพยายามและได้มีฮาดิษบทหนึ่งได้กล่าวไว้โดยมีใจความเป็นภาษา

ไทยว่า “ผู้มีตำาแหน่งใกล้กับท่านนบีมากที่สุดก็คือผู้ที่มีความรู้ และมีความพยายาม”

เมื่อท่านทั้งหลายได้รู้อย่างนี้แล้วก็จงใช้มันให้คุ้มค่า และอย่าหลงลืมการดุอา ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะมอบ

หมายแก่อัลเลาะห์(ซบ.)

โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ติดต่อสำานักบรรณาธิการ นาซิเลอเมาะ บ้านคลองสิบ และ บ้านนี้มีรัก

Page 10: Nasi Lemak Vol.25

อัสลามมุ อลัยกุม วาเราะห์มาตุลลอฮฺ วาบารอกาตุฮฺ

ก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับสำาหรับผู้บริโภค “นาซิเลอเมาะ” ทุกท่าน รู้สึกคิดถึงพี่ๆน้องๆทุกท่านมากเลยครับ หลังจากหายหน้าหายตากันไป

หลายวันเนื่องจากทางอินซานปิดพักเบรคให้ แล้วพี่ๆน้องคืดถึงกันบ้างรึเปล่า? หลายคนปิดเบรคไปก็ได้พักผ่อน บ้างก็ได้กลับบ้านกันไป ส่วนบาง

คนปิดเบรกไปก็ต้องอ่านหนังสือบ้าง ทุ่งกุรอานกันบ้าง เพราะเปิดมาก็ต้องมาเจอสอบกลางภาคกันบ้าง บางคนก็บวกสอบซ่อมต่ออีก เฮ้อ...เห็นแล้ว

เหนื่อยครับเหนื่อย แต่ก็เอาใจช่วยทุกๆคนเลยครับ....อามีน สำาหรับในฉบับบนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “เดือนแห่งความรัก” เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

ว่า เดือนนี้เป็นเดือนที่ผู้คนส่วนใหญ่ เกือบทั้งโลกเลยก็ว่าได้ ให้ความสำาคัญเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่น่าตกใจอย่างมากว่ามันสำาคัญอะไรกันขนาดนั้น

ทั้งการแต่งงานและจดทะเบียนสมรสในเดือนนี้ อันนี้น่าส่งเสริม แตที่แย่สุดคือการยอมมอบร่างกายให้กับคนที่เรารัก ในเดือนนี้ (ถ้าแต่งงานกันแล้ว

ถูกต้องตามหลัก ไม่นับรวมน่ะ) หลายคนอ้างว่ามันคือ “เหตุผล” ที่จะนำามาซึ่งสิ่งนั้นสิ่งนี้ ก็ว่ากันไปตามความชอบ แต่สำาหรับตัวผมเอง ย้ำา!! ว่าตัวผม

คนเดียวน่ะครับ คิดว่ามันเป็นเรื่องของ “ความเชื่อ” ล้วนๆ โดยไม่มีเหตุผลใดๆแอบแฝงอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ถ้ามี “เหตุผล” ก็คงจะเป็นเรื่องของการ

ขายดอกกุหลาบให้ได้ราคาที่สูง หรือการขายช็อกโกแลตกันทั้งเมือง ความสุขก็คงเป็นของผู้ให้กับผู้รับนิดนึง แต่ที่จะยิ้มจนแก้มแทบปริก็คงเป็นใคร

ไปไม่ได้นอกจากบรรดาร้านขายดอกกุหลาบและช็อกโกแลตนั่นแหละ ในฐานะที่เรานั้นเป็นมุสลิมคนหนึ่ง เราไม่ควรสนับสนุนหรือเห็นด้วยกับการ

ให้ความสำาคัญกับ “เดือนแห่งความรัก” แต่ผมสนับสนุนและเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้มีทั้งปี รักกันทุกวัน ทุกเดือน ทุกปีกันไปเลยดีกว่า ซึ่งที่ผม

สนับสนุน ณ ที่นี้คือ “ความรักต่อท่านนบี(ซล.) เพราะเดือนนี้ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของท่านบีมุฮัมหมัด(ซล.) บุคคลซึ่งเป็นแบบอย่างให้กับพวกเรา

ในทุกๆด้าน บุคคลที่มีส่วนสำาคัญเป็นอย่างยิ่งที่ทำาให้ศาสนาอิสลามเป็นศามนาที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่แพร่หลายไปสู่ส่วนต่างๆในทั่วทุกมุมโลก

เป็นบุคคลที่อัลลอฮ์(ซบ.) ผู้ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของ เรา ทรงรักย่ิงนัก ด้วยจรรยามารยาทอันงดงาม การ

ปกครองที่ทรงธรรม การดูแลบุคคลในครอบครัวเป็น อย่างดี แบบอย่างที่สมบูนณ์ยิ่งสำาหรับประชาชาติของ

ท่านในการดำาเนินชีวิตตามครรลองของอิสลาม ทั้งหลาย ทั้งปวงนี้เป็นแบบอย่างที่เราควรจะนำามาปรับใช้กับการ

ดำาเนินชีวิตของเราให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำาได้ จนสุด ความสามารถ โดยการทำาตามแบบฉบับของท่านก็เท่ากับ

เป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง ซึ่งผมมองว่าเป็นการ แสดงความรักที่ดีที่สุด ใช้การแสดงออกทางด้านการกระ

ทำาในด้านของความรักเพื่อทดแทนความรัที่ออกมาจาก คำาพูด ผมไม่รู้ว่าพวกเราทุกคนมีความรักต่อท่านนบีมุฮัม

หมัด(ซล.) มากน้อยเพียงใดแต่ที่ผมรู้คือ คำาพูดของท่าน อาลี(รด,) ที่กล่าวว่า “ในช่วงสุดท้ายนั้น(ขณะวิญญานจะ

ออกจากร่างท่าน)ท่านนบี(ซล.)กระดิกริมฝีปากสองครั้ง ฉันจึงก้มศรีษะลงฟังใกล้ๆ ฉันได้ยินท่านพูดอย่างแผ่วเบา

ว่า ประชาชาติของฉัน ประชาชาติของฉัน “ เห็นมั๊ยครับ ว่าท่านรักและเป็นห่วงพวกเรามากเพียงใด แล้วพวกเราล่ะ

ทำาอะไรที่เป็นการแสดงออกถึงความรักต่อท่านแล้วหรือยัง???

Page 11: Nasi Lemak Vol.25

อัสลามมุ อลัยกุม วาเราะห์มาตุลลอฮฺ วาบารอกาตุฮฺ

ก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับสำาหรับผู้บริโภค “นาซิเลอเมาะ” ทุกท่าน รู้สึกคิดถึงพี่ๆน้องๆทุกท่านมากเลยครับ หลังจากหายหน้าหายตากันไป

หลายวันเนื่องจากทางอินซานปิดพักเบรคให้ แล้วพี่ๆน้องคืดถึงกันบ้างรึเปล่า? หลายคนปิดเบรคไปก็ได้พักผ่อน บ้างก็ได้กลับบ้านกันไป ส่วนบาง

คนปิดเบรกไปก็ต้องอ่านหนังสือบ้าง ทุ่งกุรอานกันบ้าง เพราะเปิดมาก็ต้องมาเจอสอบกลางภาคกันบ้าง บางคนก็บวกสอบซ่อมต่ออีก เฮ้อ...เห็นแล้ว

เหนื่อยครับเหนื่อย แต่ก็เอาใจช่วยทุกๆคนเลยครับ....อามีน สำาหรับในฉบับบนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “เดือนแห่งความรัก” เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

ว่า เดือนนี้เป็นเดือนที่ผู้คนส่วนใหญ่ เกือบทั้งโลกเลยก็ว่าได้ ให้ความสำาคัญเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่น่าตกใจอย่างมากว่ามันสำาคัญอะไรกันขนาดนั้น

ทั้งการแต่งงานและจดทะเบียนสมรสในเดือนนี้ อันนี้น่าส่งเสริม แตที่แย่สุดคือการยอมมอบร่างกายให้กับคนที่เรารัก ในเดือนนี้ (ถ้าแต่งงานกันแล้ว

ถูกต้องตามหลัก ไม่นับรวมน่ะ) หลายคนอ้างว่ามันคือ “เหตุผล” ที่จะนำามาซึ่งสิ่งนั้นสิ่งนี้ ก็ว่ากันไปตามความชอบ แต่สำาหรับตัวผมเอง ย้ำา!! ว่าตัวผม

คนเดียวน่ะครับ คิดว่ามันเป็นเรื่องของ “ความเชื่อ” ล้วนๆ โดยไม่มีเหตุผลใดๆแอบแฝงอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ถ้ามี “เหตุผล” ก็คงจะเป็นเรื่องของการ

ขายดอกกุหลาบให้ได้ราคาที่สูง หรือการขายช็อกโกแลตกันทั้งเมือง ความสุขก็คงเป็นของผู้ให้กับผู้รับนิดนึง แต่ที่จะยิ้มจนแก้มแทบปริก็คงเป็นใคร

ไปไม่ได้นอกจากบรรดาร้านขายดอกกุหลาบและช็อกโกแลตนั่นแหละ ในฐานะที่เรานั้นเป็นมุสลิมคนหนึ่ง เราไม่ควรสนับสนุนหรือเห็นด้วยกับการ

ให้ความสำาคัญกับ “เดือนแห่งความรัก” แต่ผมสนับสนุนและเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้มีทั้งปี รักกันทุกวัน ทุกเดือน ทุกปีกันไปเลยดีกว่า ซึ่งที่ผม

สนับสนุน ณ ที่นี้คือ “ความรักต่อท่านนบี(ซล.) เพราะเดือนนี้ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของท่านบีมุฮัมหมัด(ซล.) บุคคลซึ่งเป็นแบบอย่างให้กับพวกเรา

ในทุกๆด้าน บุคคลที่มีส่วนสำาคัญเป็นอย่างยิ่งที่ทำาให้ศาสนาอิสลามเป็นศามนาที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่แพร่หลายไปสู่ส่วนต่างๆในทั่วทุกมุมโลก

เป็นบุคคลที่อัลลอฮ์(ซบ.) ผู้ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของ เรา ทรงรักย่ิงนัก ด้วยจรรยามารยาทอันงดงาม การ

ปกครองที่ทรงธรรม การดูแลบุคคลในครอบครัวเป็น อย่างดี แบบอย่างที่สมบูนณ์ยิ่งสำาหรับประชาชาติของ

ท่านในการดำาเนินชีวิตตามครรลองของอิสลาม ทั้งหลาย ทั้งปวงนี้เป็นแบบอย่างที่เราควรจะนำามาปรับใช้กับการ

ดำาเนินชีวิตของเราให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำาได้ จนสุด ความสามารถ โดยการทำาตามแบบฉบับของท่านก็เท่ากับ

เป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง ซึ่งผมมองว่าเป็นการ แสดงความรักที่ดีที่สุด ใช้การแสดงออกทางด้านการกระ

ทำาในด้านของความรักเพื่อทดแทนความรัที่ออกมาจาก คำาพูด ผมไม่รู้ว่าพวกเราทุกคนมีความรักต่อท่านนบีมุฮัม

หมัด(ซล.) มากน้อยเพียงใดแต่ที่ผมรู้คือ คำาพูดของท่าน อาลี(รด,) ที่กล่าวว่า “ในช่วงสุดท้ายนั้น(ขณะวิญญานจะ

ออกจากร่างท่าน)ท่านนบี(ซล.)กระดิกริมฝีปากสองครั้ง ฉันจึงก้มศรีษะลงฟังใกล้ๆ ฉันได้ยินท่านพูดอย่างแผ่วเบา

ว่า ประชาชาติของฉัน ประชาชาติของฉัน “ เห็นมั๊ยครับ ว่าท่านรักและเป็นห่วงพวกเรามากเพียงใด แล้วพวกเราล่ะ

ทำาอะไรที่เป็นการแสดงออกถึงความรักต่อท่านแล้วหรือยัง???

SCOOP

Page 12: Nasi Lemak Vol.25

พืช หมายถึง เมล็ด

พันธุ์ไม้ พืชพันธุ์ก็

ใช้ ในภาษาอาหรับเรียกฮับบะฮฺหรือหมายถึง พรรณพืชทุกชนิด เรียกรวมๆ ในภาษาอาหรับว่า น่า

บ๊าตฺ เรียกต้นไม้ ซึ่งหมายถึง พืชชนิดที่มีลำาต้นใหญ่มีกิ่งแยกออกไปว่า ชะญะเราะฮฺและชาวอาหรับเรียก

สมุนไพรว่า อัลอะอฺช๊าบ อัฏฏิบบียะฮฺ ในคัมภีร์อัลกุรอาน มีระบุถึงพันธุ์พืชและสมุนไพรตลอดจนผลไม้

อาไว้หลายชนิด เท่าที่ตรวจทานพบมีดังนี้

1. อินทผลัม (อ่านว่า อินทะผะลำา) เป็นชื่อปาล์มชนิด Phoenix dactylifera Linn ในวงศ์ Plamae ผล

กินได้ ภาษาปากมักเรียกว่า อินทผาลัม ในภาษาอาหรับ เรียกว่า อันนัคลุ้ หรือ อันนะคีลฺ เป็นไม้ยืนต้น

ชอบขึ้นในเขตร้อน มีลำาต้นตั้งตรงและยาว มีผลออกเป็นทะลาย ผลของมันมีรสชาติอร่อย ใช้ทำาแยม

และบางชนิดใช้หมัก เรียกว่า นะบีซฺ อัลบะละฮฺนักภาษาศาสตร์บอกว่า เหตุที่เรียกอินทผลัมว่า อันนะ

คีล เพราะมันมีรากศัพท์มาจากคำาว่า นัคลฺ ซึ่งหมายถึง คัดเลือก กลั่นกรอง เพราะอินทผลัมจัดเป็นพืช

ยืนต้นที่มีเกียรติที่สุดในประดาพืชยืนต้นด้วยกัน

ในคัมภีร์อัลกุรอาน ได้กล่าวถึงเรื่องของอินทผลัมเอาไว้หลายแห่งและหลายรูปคำา กล่าวคือ ใช้คำาว่า

“อันนัคลุ้” 10 แห่ง และใช้ คำาว่า “นัคลัน” 1 แห่งในบทอะบะ

สะ อายะฮฺที่ 29, และใช้คำา ว่า “อันนัคละฮฺ” 2 แห่งคือ

ในบทมัรยัม อายะฮฺที่ 23 และ 25, และใช้คำาว่า “นะคีล” 7

แห่งด้วยกัน รวม 20 แห่ง อินทผลัมมีหลายสายพันธุ์และผล

อินทผลัมก็มีชื่อเรียกแตกต่าง กันไป เช่น อัลบะละฮฺ ซึ่งเป็นผล

อินทผลัมช่วงก่อนสุก เมื่อ เริ่มเข้าสีเรียกว่า อัลบุสรุ้ พอเริ่ม

สุกเรียกว่า อัรรุฏ่อบุ้ส่วน อินทผลัมแห้งอย่างที่วางขาย

ทั่วไปนั้นเรียกว่า ตัมรฺส่วน หนึ่งจากสายพันธุ์ของอินทผลัม

คือ ซุกกะรีย์และอัจญ์วะฮฺเป็นต้น มีปรากฏในอัลหะดีษซึ่งรายงานโดย อันนะซาอีย์และอิบนุมาญะฮฺ จาก

ท่านหญิงอาอิชะฮฺ (ร.ฎ) ว่า ท่านศาสดา (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้กล่าวว่า “พวกท่านจงกิน

อินทผลัมสด (อัลบะละฮฺ) กับอินทผลัมสุกที่แห้ง (อัตตัมรฺ)...” นักการแพทย์ชาวมุสลิมระบุว่า ที่ท่าน

ศาสดา (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ใช้ให้กินอินทผลัมสดกับอินทผลัมสุกที่แห้ง ไม่ใช่ให้กินอินทผลัม

ที่เริ่มเข้าสี (อัลบุสรุ้) กับอินทผลัมสุกที่แห้ง เป็นเพราะอินทผลัมสด (อัลบะละฮฺ) มีสรรพคุณเป็น

ของเย็นและแห้ง ส่วนอินทผลัมสุกที่แห้ง (อัตตัมรฺ) มีสรรพคุณเป็นของร้อนชื้น แต่ละชนิดจะแก้กัน

เหมือนกับกินทุกเรียนซึ่งร้อนก็ให้กินมังคุดตามเพราะเป็นของเย็น ส่วนอินทผลัมที่เข้าสี (อัลบุสรุ้) นั้น

มีสรรพคุณเหมือนกับอินทผลัมสุกที่แห้ง (อัตตัมรฺ) คือเป็นของร้อน อินทผลัมมีสรรพคุณร้อนค่อน

ข้างมาก จึงไม่เป็นการดีที่จะรวมเอาของกินที่มีสรรพคุณร้อนกับร้อนมารวมกันหรือเย็น กับเย็นมา

รวมกันอินทผลัม สด (อัลบะละฮฺ) มีสรรพคุณเย็นและแห้ง ทางยาแล้วมีประโยชน์ต่อปาก, เหงือก และ

กระเพาะอาหาร แต่ไม่ดีสำาหรับอก ปอด ซึ่งมีอาการอักเสบ ย่อยยาก แต่ดูดซึมเป็นสารอาหารได้ง่าย

พืชที่ถูกกล่าวในอัลกุรอาน

Page 13: Nasi Lemak Vol.25

อินทผลัมที่เข้าสี (อัลบุสรุ้) มีสรรพคุณร้อนแห้ง ลดความชื้น ฟอกกระเพาะ แต่ทำาให้ท้องผูกได้

มี เรื่องราวตอนที่พระนางมัรยัม (อล.) คลอดท่านศาสดาอีซา (อล.) ถูกระบุไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน

บทมัรยัม อายะฮฺที่ 25 ว่า “และ เจ้าจงเขย่าต้นอินทผลัมมาทางเจ้า มันจะหล่นลงมาบนตัวเจ้า เป็น

อินทผลัมที่สดมีรสอร่อย แล้วเจ้าจงกินและจงดื่ม และจงทำาจิตใจให้เบิกบานเถิด”

การเขย่าต้นอินทผลัมให้สะเทือนจนทำาให้ผลของมันร่วงหล่นลงมา ดูจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งนัก

สำาหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ มิหนำาซ้ำายังเป็นหญิงที่เพิ่งจะคลอดบุตร แต่คำาสั่งของพระผู้เป็นเจ้าในเรื่องนี้

สอนให้รู้ถึงคุณค่าของความเพียร พยายาม ในการกระทำาเหตุปัจจัยเสียก่อน ส่วนผลที่จะเกิดขึ้นนั้น

เป็นการเอื้ออำานวยของพระผู้เป็นเจ้า (ซบ.) นัก วิชาการระบุว่า ในผลอินทผลัมสดนั้น “มีฮอร์โมน ไบ

โตซีน” ซึ่งมีสรรพคุณในการทำาให้บาดแผลที่มดลูกหดหรือลดขนาดลงและห้ามเลือดออกที่ มดลูกได้

นอกจากนี้อินทผลัมยังมีกลูโคส 75-87 % ฟรุกโตส 45% และ ยังมีโปรตีนและไขมันตลอดจนวิตามิน

บางชนิด เช่น 10, บี 2, บี 12 และแร่ธาตุที่สำาคัญ เช่น แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, โปตัสเซียม, กำามะถัน,

โซเดียม, แมกนีเซียม, โคบอลต์, สังกะสี เป็นต้น ฟรุกโตสจะแปรสภาพเป็นกลูโคสอย่างรวดเร็วและดูด

ซึมโดยตรงจากระบบย่อยอาหาร จึงลดอาการอ่อนเพลียและการที่ร่างกายสูญเสียน้ำาและกระตุ้นการ

ทำางานของเซลล์ สมอง ระบบประสาท เซลล์เลือดแดง และกระดูกเป็นต้น

อินทผลัม ยังเป็นแหล่งรวมของวิตามินหลายตัว ซึ่งมีบทบาทสำาคัญในการให้สารอาหาร การระงับ

ประสาท การสร้างความชุ่มชื่น และการคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น (โดยสรุป,เมาซูอะฮฺ อัลอิอฺญาซฺ อัลอิ

ลมี่ย์, ยูซุฟ อัลฮัจยีอะฮฺหมัด, สำานักพิมพ์ อิบนุ ฮะญัร, (2003) หน้า 755-758)

มีรายงานจากท่านอนัส (ร.ฎ) ว่า “ท่านศาสนทูต (ซล.) จะละศีลอดด้วยอินทผลัมสดหลายเม็ดก่อน

หน้าที่ท่านจะละหมาด...” ทั้งนี้เนื่องจากการถือศีลอด ทำาให้กระเพาะอาหารว่าง เมื่อทานอินทผลัมสด

เข้าไป ความหวานของอินทผลัมจะไปดูดซึมไปหล่อเลี้ยงตับและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายให้กลับมา

ชุ่มชื่นขึ้นอีกครั้ง ในนครมาดีนะฮฺ มีอินทผลัมสายพันธุ์ที่ดีที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง เรียกว่า อัจวะฮฺมีรสชาติ

อร่อย ไม่หวานมาก มีประโยชน์ต่อร่างกายและเป็นยารักษาโรคได้ มีระบุในอัลหะดีษว่า “ผู้ใดรับประทา

นอินทผลัมอัจวะฮฺ 7 เม็ดในยามเช้า พิษและไสยศาสตร์ย่อมไม่ทำาอันตรายผู้นั้นได้ในวันดังกล่าว” จา

กอัลหะดีษบทนี้ อินทผลัม อัจวะฮฺมีสรรพคุณในการป้องการคุณไสยและพิษต่างๆ หากรับประทานเป็น

ประจำา จำานวน 7 เม็ดอัลหะดีษอีกบทหนึ่งระบุว่า : อินทผลัมที่ดีที่สุดของพวกท่านคือ อัลบุรนี่ย์มันจะ

ทำาให้โรคหมดไป และไม่มีโรคร้ายในมัน (บันทึกโดย อัตตอบรอนีย์, อัลฮากิม, อิบนุ อัซซุนนีย์ และอบู

นุอัยมฺ เป็นหะดีษฮะซัน) ดร.อับดุลลอฮฺ อับ

ดุรร่อซฺซ๊าก อัสสะอีด ได้ทดลองเกี่ยวกับ

เรื่องนี้ ปรากฏว่า เชื้อโรคไม่อาจมีชีวิตอยู่ใน

อินทผลัมได้จริงตามที่ระบุในอัลหะดีษ

ที่ม� http://www.alisuasaming.com/index.php/plant-in-quran/1338-plantquran01

Page 14: Nasi Lemak Vol.25

ครั้งนี้ จะมาเชิญชวนเพื่อนๆ มาทำาปลาทอด

กัน เอ...หลายคนอาจจะสงสัยเกี่ยวอะไรกับ

ปลาทอดนะ?

โอ เค มาเริ่มกันดีกว่า อันดับแรก อยากจะ

ถามว่า ก่อนจะเอาปลาลงทอดในกะทะนั้น เราควรเปิดไฟแรง หรือเปิดไฟอ่อนดีล่ะ?

ถ้าถามคำาถามนี้กับคุณแม่บ้านที่มีประสบการณ์ในการทอดปลา แน่นอนว่าคำาตอบที่ได้คือเปิด

ไฟอ่อนใช่ไหม?

เพราะอะไรละ? ทำาไม่เราไม่เปิดไฟแรง มันจะทำาให้การเปลี่ยน (hijrah) จากปลาดิบ (negatif)

กลายเป็นปลาสุก (positif) เร็วขึ้น ค่ะ แน่นอนว่า ถ้าเปิดไฟแรงปลาดิบที่ว่านั้นก็จะกลายเป็น

ปลาทอดในเวลาอันรวดเร็ว แต่! ถ้าลองกินมัน (ปลาทอดนั้น) ลองฉีกเนื้อปลาที่ผ่านการทอดสุก

แบบเร็วๆนั้น ลักษณะภายนอกของปลาที่ดูเหมือนสุกแล้ว (positif) แต่เนื้อในนั้นยังไม่สุก (จริง)

เพียงแต่ทำาให้ดูคล้ายกับว่าสุกแล้ว และหนังภายนอกที่ทำาให้เราพึงใจ

อื่นจากนี้นั้น ถ้าเราเปิดไฟอ่อนก่อนที่จะเริ่มทอด ปลาตัวนั้นจะค่อยๆเปลี่ยนจากปลาดิบ (ที่ไร้

ประโยชน์) กลายเป็นปลาทอด (ที่มีประโยชน์แก่เรา) ถ้าเราคิดใคร่ครวญให้ดี เราก็จะได้ข้อคิด

เตือนใจแก่ชีวิตของเรา หากเราปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลง โดยการบังคับ การเปลี่ยนแปลง

นั้นย่อมไม่คงทนถาวร การที่พ่อคนหนึ่งซึ่งต้องการเปลี่ยนแปลงลูกของตน ด้วยการบังคับ (โดย

ใช้ความแข็งกร้าว) ด้วยคาดหวังจะให้ (ลูก) เป็นคนที่มีคุณค่า ด้วยวิธีดังกล่าวได้ผลจริงหรือ?

หากเปรียบกับพ่อที่ใช้ความใกล้ชิดผูกพันซึ่งจะเป็นที่จับใจของลูก อินชาอัลลอฮฺ หัวใจนั้นจะ

เปลี่ยนแปลงก่อนการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย (บุคลิกและมารยาท)

เช่นเดียวกันหากเราจะเชิญชวน (ดะวะฮฺ) ผู้อื่น ในความรู้สึกของเราหากว่าเราดำาเนินไปที่ละขั้น

น่าจะเป็นที่ยอมรับมากกว่า เปรียบกับการที่เราคบเป็นเพื่อนกับเขาก่อน แล้วเราค่อยๆนำาเสนอ

การเชิญชวนนั้นในเวลาและวิธีการที่ “เหมาะสม”

อุปมาดังนี้สามารถประยุกต์กับการทอดขนมด้วยแป้งทอด adabi การทอดขนม และสิ่งอื่นๆ การ

เปรียบอุปมานี้สอดคล้องกับหะดีษนบี เกี่ยวกับหัวใจ ดังที่ท่านนบีได้ย้ำาว่า ถ้าหากหัวใจนั้นดี ทุก

ส่วนของร่างกายก็จะดีไปด้วย

Page 15: Nasi Lemak Vol.25

เช่นเดียวกันนี้ทำาให้เราได้ทราบว่า กระบวนการที่สำาคัญนั้น ไม่ใช่เพียงการบรรลุเป้า

หมาย แต่รวมไปถึงการแสวงหาคุณค่าอื่นๆ อย่างการอิสติกอมะฮฺ จนทำาแม้จะเล็กน้อยแต่

สัญญาว่าจะทำาอย่างสม่ำาเสมอ จงพยายาม ไม่ใช่เพราะความพยายามนั้นที่สำาเร็จ แต่ความ

สำาเร็จนั้นคือโบนัสจากอัลลอฮฺ การเผยแผ่และการชี้นำานั้นเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺ สิ่งสำาคัญ

สำาหรับเราคือการเชิญชวน (ดะวะฮฺ)

อิบนิมัสอู๊ด รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม นั้นจะเลือกวันเวลาที่เหมาะสมใน

การอบรมตักเตือน เพื่อไม่ให้เรารู้สึกเบื่อ

หน่าย

อ้างอิงเพิ่มเติม ฮะดีษเลขที่ 70, 6411 อบูฮุ

รอยเราะห์ รายงานว่า มีผู้ถามว่า โอ้

ศาสนทูตของอัลลอฮฺ ผู้ใดในหมู่มนุษย์ที่

ประสบความสำาเร็จได้รับความช่วยเหลือ

จากท่านในวันกิยาฮฺ ? ท่านร่อซูลุลลอฮฺ

ศ็อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “โอ้อบูฮุรอยเราะฮฺเอ๋ย ฉันคิดว่า ไม่มีผู้ใดจะถามเรื่อง

ราวที่ถ่ายทอดจากฉันเป็นคนแรกก่อนเจ้า, และฉันไม่เคยเห็นผู้ใดที่จะเอาใจใส่เรื่องที่ถ่ายทอด

จากฉันมากไปกว่าเจ้า “มนุษย์ที่ประสบความสำาเร็จได้รับความช่วยเหลือจากฉันในวันกิยามะฮฺ

คือ ผู้ที่กล่าวว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ จากหัวใจของเขาหรือจิตใจของเขาที่บริสุทธิ์”

ดังนั้น หน้าที่ของเราต่อพวกเขา คือ การ

เรียกร้องเชิญชวนสู่สัจธรรมด้วยหิกมะฮฺ

และการตักเตือนที่ดี ให้เขายอมรับอิสลาม

โดยสมัครใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ในเมื่อ

เราไม่ปรารถนาให้ตนเองกลับไปสู่สภาพ

ญาฮิลียะฮฺ แล้ว เราก็คงไม่ปรารถนา

ให้เขาซึ่งเป็นคนที่เรารัก ต้องตกอยู่ ใน

สภาพนั้นเช่นกัน

“จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้า

ของเจ้าด้วยหิกมะฮฺและการตักเตือนที่

ดี และจงโต้แย้งกับเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า” 16

อันนะหลฺ อายะฮฺที่ 125

jmfozjcjz;ojd

qwefcghyn

ตุรอบุ้ลอัสวัด

Page 16: Nasi Lemak Vol.25

บางช่วงของชีวิตเราเคยรู้สึกบ้างไหมว่า “กำาลังประสบกับความล้มเหลว” ถ้าเคยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถ้ามีคำา

ว่า “ความสำาเร็จ” ก็ต้องมีคำาว่า “ล้มเหลว” เป็นของคู่กัน เพียงแต่ว่าคุณจะรับกับมือสถานการณ์ความล้มเหลว

แล้วลุกขึ้นสู้อีกครั้งได้อย่างไร? ตราบใดที่ลมหัวใจยังไม่หยุดเต้นชีวิตเราก็นับหนึ่งได้ และเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

โดยเตือนใจตัวเองว่า

๑ - ทำาดีที่สุดแล้ว

คนที่ไม่เคยล้มเหลวคือคนที่ไม่เคยทำาอะไรเลย คนที่ประสบความล้มเหลว คือคนที่น่ายกย่องมากกว่า เพราะอย่าง

น้อยก็ได้ลงมือทำา อย่ากลัวกับความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้น เพราะมันจะเป้นบทเรียนและประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ให้

เราได้เรียนรู้ว่า หนทางแห่งความสำาเร็จอยู่ตรงไหน?

ให้คิดเสียว่า ... “เราทำาดีที่สุดแล้ว”

๒ – อย่ายอมแพ้

ไม่มีใครจะแพ้ตลอด และไม่มีใครจะเป็นผู้ชนะตลอดกาล ฉะนั้น จงอย่ายอมแพ้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแพ้ใจตัวเอง ทุกครั้งที่คุณหกล้มหรือก้าวพลาด จงอย่า

ยอมแพ้ ให้ลุกขึ้นสู้และก้าวเดินต่อไปอย่างสง่างามอีกครั้ง แพ้อะไรก็แพ้ได้แต่

อย่าแพ้ใจตัวเองก็แล้วกัน เพราะถ้าเราแพ้ใจตัวเอง นั้นหมายถึงเราโดนน๊อคตั้งแต่

ยังไม่เริ่มชกแล้ว จงบอกกับตัวเองว่า หนทางแห่งชัยชนะยังรอคุณอยู่ข้างหน้า

ค่อย ๆ ตั้งสติ คิดอย่างมีสติ และรอบคอบ แล้วลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง

๓ นับหนึ่งถึงร้อย

ทุกครั้งที่ท้อถอย หรือหมดกำาลังใจ ก่อนจะเดินถอยหนี หยุดคิดสักนิด ลองนับ

หนึ่งถึงร้อยก่อน อย่าตัดปัญหาด้วยการทิ้งปัญหา และหันหลังเดินจากไป นั่นไม่ใช่

วิธีการแก้ปัญหาที่ดี เพราะปัญหามันยังคงหมักหมมอยู่ตรงนั้น จงบอกกับตัวเอง

ให้อดทน..อดทน...และอดทน รอวันเวลาและโอกาสที่จะมาถึง แล้วค่อย ๆ เดิน

หน้าสู้ต่อไป

๔ - เหนื่อยนักก็พักก่อน

วันนี้อาจจะเหนื่อย และท้อแท้กับปัญหาที่เกิดขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ดีอย่าง

หนึ่งที่คอยเตือนให้เรารู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดพักเสียบ้าง

หยุดพักเพื่อที่จะทบทวนกับปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หยุดพักเพื่อถอยออกมา

หนึ่งก้าว แล้วมองย้อนไปมองดูปัญหาในอีกมุมหนึ่ง บางที่อาจทำาให้เรามองเห็น

ปัญหาในมุมที่กว้างขึ้น การหยุดพักไม่ได้หมายถึงการทำาให้เราต้องยอมแพ้ หรือถอยหลัง แต่การหยุด

พักจะทำาให้เราได้ชาร์ทแบตเตอรี่ หรือเติมกำาลังใจให้เข้มแข็งขึ้น และมีเรียวแรง

ที่จะสู้กับปัญหาต่อไป

๕ - หยุดคิดเพื่อทบทวน

การหยุดคิดเพื่อทบทวนจะทำาให้เราแก้ปัญหาได้ดีขึ้น เพราะบางทีการหมกมุ่นอยู่

กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนาน ๆ อาจทำาให้เรามองไม่เห็นปัญหา หรือวนอยู่กับปัญหานั้นซ้ำา ๆ

ซาก ๆ และถึงทางตันจนหาทางออกไม่เจอ

ล้มได้ แพ้ ได้ แต่อย่าท้อ

Page 17: Nasi Lemak Vol.25

อย่าลืมว่าในมุมมืดที่สุดก็ต้องมีมุมสว่างเล็ดลอดอยู่บ้างค่อยๆคิด ค่อยๆ ทบทวน

แล้วเราจะค้นพบทางสว่างและหาทางออกเจอในที่สุด

บางทีทางออกใหม่จะดีกว่าทางเดิมที่เราเคยเดินมาเสียอีก

๖ - โอกาสต้องเป็นของคุณ

วันนี้ ... เวลานี้ โอกาสอาจยังไม่เป็นของเรา แต่วันข้างหน้าโอกาสต้องเป็นของ

เราไม่ช้าก็เร็ว อย่างน้อยตอนนี้เราก็มีเวลาอย่าเพียงพอที่จะเก็บเกี่ยวความรู้

ประสบการณ์ ความเชื่อมั่น และพลังใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคให้ประสบความสำาเร็จ

ได้ต่อไป

๗ – ต้องชนะ

เมื่อเราเรียนรู้ที่จะแพ้ เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะชนะด้วย ชัยชนะอาจไม่ได้มาง่าย ๆ

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะแพ้ตลอดไป “อย่ากลัวที่จะแพ้ และอย่าประมาท

กับชัยชนะที่จะมาถึง”

จงเรียนรู้จากบทเรียนของความพ่ายแพ้ และนำาสิ่งนั้นมาเป็นหนทางสู้ต่อเพื่อให้ได้

มาซึ่งชัยชนะ เมื่อเราเคยแพ้ เรายิ่อมรู้ดีว่าวิธีที่จะนำามาซึ่งชัยชนะนั้นต้องทำา

อย่างไร? จงบอกกับตัวเองว่า เราจะต้องเป็นผู้ชนะให้ได้

8 - คิดและวางแผน

จะถูกบ้างผิดบ้างก็ไม่เป็นไร แต่จงคิดและวางแผนของเราเสียแต่วันนี้บางทีความ

คิดของเราอาจจะเข้าทางใครสักคน หรือเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ อย่าดูถูกความคิดของ

ตัวเอง อย่าคิดว่าความคิดของเราเป็นเรื่องประหลาด บางทีความคิดประหลาดอาจ

เป็นความคิดที่เข้าท่าก็ได้

อย่าลืมว่า ความคิดแปลก ๆ ใหม่ ๆ สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในโลกมามากแล้ว

ลองคิดดัง ๆ แล้วบอกความคิดของเราให้คนรอบข้างได้รู้บ้าง บางทีความคิดดี ๆ

ของเราอาจจะเป็นของขวัญชิ้นโบว์แดงสำาหรับโลกก็ได้ ใครจะรู้

9 - ไปให้ถึงเป้าหมาย

มนุษย์ทุกคนต่างก็มุ่งไปสู่เป้าหมายแห่งความสำาเร็จข้างหน้าด้วยกันทั้งนั้น จะไป

ได้ช้าหรือเร็วนั้น อยู่ที่วิธีการและแนวทางของแต่ละคน

กว่าจะถึงภูเขาที่สูงชันย่อมต้องเจอกับขวากหนามที่แหลมคม สติและสมาธีที่

มุ่งมั่นเท่านั้นที่จะทำาให้เราเดินผ่านขวากหนามได้

ผู้ฉลาดเท่านั้นย่อมเรียนรู้ที่จะใช้ข้อผิดพลาดนั้นให้เป็นประโยชน์ และผู้ที่อดทน

เท่านั้นที่จะก้าวไปสู่ยอดเขาอันสูงชันได้

ยอดเขาสูงชัน ... ยิ่งสูงยิ่งหนาว แต่เราจะไม่เหน็บหนาวเพียงลำาพัง ถ้าเราไม่

ลืมว่าบรรยากาศบนพื้นดินที่เคยเดินผ่านมานั้นเป็นอย่างไร

๐ ให้โอกาสและกำาลังใจกับตัวเอง และจงบอกกับตัวเองเสมอว่า ๐

.......... ชีวิตนับหนึ่งได้เสมอ ..........อินชาอัลอฮ์

Page 18: Nasi Lemak Vol.25

เวลาที่เราถ่ายรูป เราเคยสังเกตไหมค่ะ ว่าทำาไมเราต้อง ชูสองนิ้ว เสมือนกับเป็นท่าบังคับไปในตัว

นั่นสิ!! ทำาไมกัน? เชื่อค่ะ ว่าทุกคนคงสงสัย เพราะเวลาที่เห็นใครถ่ายรูปมา ต้องมีสักคนถามมาว่า

ทำาไมต้องชูสองนิ้ว ? ทำาไมไม่ชูห้านิ้วหรือสิบนิ้ว? วันนี้ Nasi Lemak มีคำาตอบมาให้ผู้บริโภคทุก

ท่าน

เดิมทีการชูสองนิ้ว หรือ ที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า “V sign” นั้น เป็นที่รู้จักกันดีในความหมาย

ของ “ชัยชนะ” คือ V แทนคำาว่า Victory ค่ะ นอกจากนี้การชูสองนิ้วยังหมายถึง “สันติภาพ” และ

“การดูถูกท้าทาย” ได้อีกด้วย .

..โดยหากเราไปแสดงอากัปกิริยาด้วยการ ชูสองนิ้วแต่หันฝ่ามือเข้าหาตัวเอง ในสหราชอาณาจักร

อย่างอังกฤษ หรือสกอตแลนด์แล้ว ถือว่าเป็นการแสดงท่าทางดูถูกต่อว่าอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ โดย

ความหมายของการทำาเช่นนี้นั้น จะเหมือนกับการที่เราไปทำาท่าที่หยาบคายอย่างการ “ชูนิ้วกลาง”

(The Finger) ให้คนอื่นเลยทีเดียว ซึ่งพฤติกรรมนี้ถือว่าร้ายแรงและเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่าง

มากเลย ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกา การชู 2 นิ้วนั้นจะใช้กันในความหมายที่ว่า

เป็นการแสดงสันติภาพมากกว่า โดยเริ่มได้รับความนิยมมาจากการที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว

เพื่อให้เกิดสันติภาพ

ส่วนจุดเริ่มต้นของการชูสองนิ้ว เชื่อกันมาอย่างยาวนานว่า เริ่มจากพลธนูชาวเวลส์ ที่ต่อสู่

ร่วมกับอังกฤษในการสู้รบที่หมู่บ้านอกินคอร์ต ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม

1415 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามร้อยปีระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งมีการกล่าวไว้ว่า

ทหารฝรั่งเศสจะตัดนิ้วมือข้างขวาของพลธนูชาวเวลส์ที่ถูกจับตัวได้ไป 2 นิ้ว จนไม่สามารถยิงธนู

ได้อีก ด้วยเหตุนี้ บรรดาพลธนูชาวเวลส์ที่ยังไม่ถูกจับตัวจึงชูนิ้ว 2 นิ้วเป็นการดูถูกท้าทายทหาร

ของฝรั่งเศส

สำาหรับใครที่ชอบชูสองนิ้วเวลาถ่ายรูป ก็คงทำาเป็นท่าแบบฉบับที่ใครๆก็ทำากัน หันไปทางไหนไม่ว่า

จะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ชูสองนิ้วเวลาเข้ากล้องตลอด ชูสองนิ้วก็มีความหมายได้หลายอย่าง ทั้ง

สู้สู้น่ะ เป็นกำาลัง ยิ้ม ดีใจ สบายใจ สามารถใช้การชูสองนิ้วเป็นสื่อแทนได้ เลือกได้ตามใจของเรา

ต้องการ

ทีนี้ก็คงเข้าใจความหมายของการชูสองนิ้วแล้วน่ะค่ะ ใครที่ชอบ

ชูสองนิ้วก็ชูให้เป็นที่เป็นทางซะหน่อย เดี๋ยวจะกลายเป็นการเหยียด

หยามหรือดูถูกชนชาติอื่นไปโดยที่เราไม่รู้ตัวค่ะ ส่วนใครที่ชอบถามก็

หวังว่า การบริโภคหนนี้คงทำาให้พวกคุณเลิกสงสัยได้แล้วน่ะค่ะ

หน้านี้ขอสอง

Page 19: Nasi Lemak Vol.25

1 – คุณมักจะตื่นนอนเวลาไหน?

A – รีบตื่นตั้งแต่ซุบฮิหรือก่อนซุบฮิ

B – ไม่เห็นแสงแดดไม่ลุกจากที่นอน

5 – คุณอ่าน อัลกุรอานบ่อยแค่ไหน

A – เกือบจะทุกวันหรือทุกๆวัน

B – นานๆทีอ่านพอแล้วอ่านทำาใมบ่อยๆ

10 – ให้เลือก 1 จาก 2 ข้อด้านล่าง

A – อ่านอัลกุรอาน นั่งซิกรุลลอฮ์ ละหมาดสุนัต

B – ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์

2 – คุณไปละหมาดที่มัสยิดบ่อยแค่ไหน

A – ทุกเวลาที่มีโอกาส

B – ทุกวันศุกร์ไปละหมาดวันศุกร์อย่างเดียว

3 – ในการละหมาดครั้งหนึ่งคุณใช้เวลากี่นาที

A – เรื่อยๆไม่ต้องรีบ

B – ๕ นาทีก็เยอะเกินไปแล้ว

4 – หลังจากละหมาดคุณจะทำาอะไร

A – นั่งซิกรุลลอฮ์ขอดุอาอ์ก่อนใช้เวลาไม่นานหรอก

B – ให้สลามเสร็จต้องรีบลุกเลยเดี๋ยวทำาอย่างอื่นไม่ทัน

คณุเป็นมุสลิมแบบไหน?

6 – เวลามีคนมาชวนคุณให้ไปมัสยิด คุณจะ......?

A – ตอบรับคำาเชิญอย่างไม่ต้องคิด

B – ไปก่อนเลยเดี๋ยวละหมาดที่บ้านเอง

7 – เมื่อถึงเวลาละหมาดอีซา คุณจะ........?

A – ละหมาดก่อนเลย เดี๋ยวเผลอหลับ

B – เดี๋ยวค่อยละหมาดก็ได้ อีซามีเวลาจนถึงเช้า

8 – เวลาคุณถูกเตือนเมื่อทำาความผิด?

A – ฟังคำาเตือนและนำาไปปฏิบัติให้ถูกต้อง

B – อย่ามายุ่งกับกรู......

9 – คุณถือศีลอดที่เป็นสุนัตบ่อยมั๊ย?

A – ทุกครั้งที่มีโอกาส

B – ฟัรดูเดือนรอมดอนก็พอแล้ว

จงถามตัวเองก่อนที่จะถูกถาม

เกณฑ์การคิดคะแนน

A = 2 คะแนน

B = 1 คะแนน

ผลการประเมิณ :20 คะแนน : คุณเป็นมุสลิมที่ยอดเยี่ยมและน่ายกย่องรักษาความดีของคุณใว้ให้ดี อินชาอัลลอฮ์ คุณจะเป็นบ่าวที่ดีของอัลลอฮ์แน่นอน

16 –19คะแนน : คุณเป็นมุสลิมที่ดีถึงดีมาก หากคุณแก้ไขอีกนิดคุณอาจจะเป็นมุสลิมที่ยอดเยี่ยมได้ไม่ยาก11 – 15 คะแนน : คุณเป็นมุสลิมทั่วไปที่ยังเผลอไผลไปบ้างแต่ถ้าคุณตั้งใจทำ จริงๆคุณอาจจะพัฒนาความดีในตัวคุณให้สูงไปอีกขั้น10 คะแนน : คุณเป็นมุสลิมที่ค่อนข้างแย่ ไม่ค่อยให้ความสำ คัญกับเรื่องของเวลาละหมาดและสิ่งที่เป็นสุนัต ควรอย่างยิ่งที่คุณจะต้องรีบปรับปรุงตัวเองเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ลองให้เวลากับการไปมัสยิดบ้างหรือทำ สิ่งที่เป็นสุนัตสักนิด บางทีคุณอาจจะชอบที่ทำ มันก็ได้

Page 20: Nasi Lemak Vol.25

oTNewsH- เชิญพี่น้องนักศึกไทยร่วมกิจกรรมกีฬาสี ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยอินซานียะห์

ตั้งแต่เวลา 8.00 น. วันที่ 5 มีนาคม เช็ครายชื่อตำาแหน่งสีของท่านได้ตามใบประกาศ

ของชมรมฯ

- ร่วมส่งคำาคมโดนใจของท่าน คำาคมใดโดนใจคณะกรรมการจะถูกนำาไปลงในTSAM

MAGAZINE ฉบับเปิดตัว ส่งได้ที่บ้านนี้มีรักหรือบ้านคลองสิบ

- เข้าสู่ช่วงสอบเก็บคะแนนแล้ว ตั้งใจอ่านหนังสือกันนะครับ

- สถานการณ์ในลิเบียเริ่มย่ำาแย่ ในนิวซีแลนด์ก็แย่ไม่แพ้กัน

- ไทยซื้อเครื่องบินรบใหม่แล้ว จะเอาไปประกาศสงครามกับใคร?

- เชิญร่วมงาน KITA BERDIKIR SELATAN เร็วๆนี้

- ดาอีมย้ายบ้านอีกแล้ว

- สนใจอยากมีจักรยาน FIX GEAR ใว้ในครอบครองติดต่อ ร๊อก ลูกแฝด

- หาพี่น้องที่สนใจและมีไอเดียมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน TSAM MAGAZINE ติด

ต่อประธานฯ

- นักศึกษาใหม่ท่านใดยังไม่ส่งใบลงทะเบียนเข้าชมรมฯ กรุณาส่งด่วน!!!