(36) นิยาย Arifureta shokugyou de sekai แปลนิยายญี่ปุ่น >
ตอนที่ 54 : เมืองบรูคอีกครั้งหนึ่ง (ตอนที่51) : Dek-D.com
24-30 นาท ี
"ฮุๆๆ เจ้าพวกโง่เขลา ถึงเวลาโชว์ความแนบแน่นของพวกเจ้าให้ข้าดู
แล้ว"
พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวซ่อนอยู่หลังเมฆในตอนกลางคืน มีร่างๆหนึ่งที่มีใบหน้าเปล่งปลั่งเคล่ือนไหวดุจลม แสงเริ่มสาดส่องตึกๆหนึ่งที่อยู่บนพื้น ถ้าพูดให้ชัดเจนละก็ มีเชือกห้อยอยู่จากหลงัคาตึก และส่ิงที่สะท้อนแสงคือเด็กสาวคนหนึ่งที่มีทักษะเหาะเกี่ยวสูงเยี่ยมเหมือนกับหน่วยรบพิเศษจากที่ใดที่หนึ่ง
ปึดๆๆ เธอค่อยๆลงมายังหน้าต่างห้องหนึ่งที่อยู่ชั้นสาม เธอคว่่าหัวลง ขณะที่ห้อยหัว หน้าของเธอยื่นออกมายังส่วนบนของหน้าต่าง
"เพื่อเหตุการณ์นี้ ฉันขอให้คุณคริสตาเบลสอนเทคนิคการปีนให้กับฉัน! ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องใช้มันในสถานที่นี้ ฮุๆๆ เอาละ,พวกเขาจะเล่นกันพิศดารแบบไหนนะ ฉันจะต้องยืนยันให้ได้!"
"ฮ่าาา ฮ่าาา" เสียงหอบหายใจดงัออกมาจากเด็กสาวที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากในขณะที่แอบมองเข้าไปในห้องที่อยู่เบื้องหน้า เด็กสาวคนนี้เป็นคนอื่นไม่ได้นอกจากโซนะจังนั่นเอง;เด็กสาวที่ท่างานใจโรงแรมของเมืองบรูคที่มีชื่อว่า "โรงแรมมิซากะ" เธอเป็นคนที่สดใสและกระฉับกระเฉง พูดโดยไม่ลังเล เป็นเด็กสาวที่ทๅงานหนัก ถึงแม้จะไม่อาจเรียกเธอได้ว่าสวย แต่เด็กสาวโรงแรมคนนี้น่ารักเปรียบเหมือนกับดอกไม้ที่งอกในทุ่งหญ้า มีผู้ชายในเมืองนี้จ่านวนไม่น้อยเลยที่สนใจเธอ
เด็กสาวในตอนนี้ใช้เทคนิคทั้งหมดที่เธอมีในการ "แอบดู" แขกกลุ่มหนึ่งด้วยความสามารถทั้งหมดที่เธอมี ถ้าสีหน้าของเธอในตอนนี้ถูกผู้ชายที่หลงรักเธอละก็พวกเขาจะต้องคิดว่าภาพลวงตาอย่างแน่นอน......สีหน้าของเธอเหมือนกับคนแก่ลามก
"อุก มันมืดเหลือเกิน มองไม่เห็นอะไรเลย ถ้าเปลี่ยนมุมซะหน่อยละก็..."
"แบบนี?้"
"ใช่แล้ว, ถ้าจากมุมนี้ละก็.....จะว่าไปแล้ว มันไม่เงียบไปหน่อยเหรอ?
ฉันคิดว่าจะได้ยินเสียงครางเสียอีก..."
"เป็นไปได้ไหมที่จะใช้เวทมนตร์ในการสกัดกั้นเสียง?"
"หา! มีเวทแบบนั้นด้วย! อุก, ช่างพลิกแพลงนัก! แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้!
ถึงจะเห็นแค่ภาพ ฉันจะจดจ่าไว้ในสมองตลอดไป..."
ขอพูดอีกครั้งหนึ่ง ที่นี่อยู่ข้างนอกหน้าต่างห้องชั้นสาม ต่อให้เธอโง่ขนาดไหนเธอก็ไม่อยากเชื่ออว่าเธอได้ยินเสียงใกล้ๆเธอ เธอเหงื่อแตกเหมือนกับน้่าตก และหันกลับไปเก้ๆกังๆเหมือนกับเครื่องยนต์ที่ไม่ได้หยอดน้่ามัน ที่ตรวนั้นมี....
ฮาจิเมะที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า ด้วยรอยยิ้มอันเย็นชาอยู่บนหน้า
"นะ-นี่มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคุณลูกค้า อืมมม ใช่แล้ว! การตรวจสอบโรงแรมตามปกติ!"
"โฮ่~ ตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะ?"
"ชะ-ใช่แล้ว~ คิดดูซิ ถ้าฉันไม่ท่าตอนเที่ยงคืนแล้วท่าตอนกลางวัน
ลูกค้าจะต้องเห็นการซ่อมแซม เพราะว่านี่คือโรงแรม มันจะท่าให้เสีย
ชื่อเสียง ถูกไหม?"
"เข้าใจละ ชื่อเสียงเป็นสิ่งส่าคัญใช่ไหม?"
"ชะ-ใช่แล้ว! ชื่อเสียงนั้นส่าคัญมาก!"
"จะว่าไปแล้ว ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะมีนักแอบดูในโรงแรมนี้ เธอรู้เรื่องนี้
ไหม?"
"นะ-นั่นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก! กะ-การแอบดู ยะ-ยกโทษให้ไม่ได้ ถูก
ไหม?"
"อา อย่างที่เธอพูดนั่นแหละ การแอบดูยกโทษให้ไม่ได้ใช่ไหม?"
"เอ่อ อ่า, ฉันคิดว่ายกโทษให้ไม่ได้..."
ฮาจิเมะและโซนะต่างมองหน้ากันและกันและหัวเราะออกมาพร้อมกันว่า "ฮ่าๆๆๆ" , "ฮุๆๆๆ" อย่าไรก็ตามตาของฮาจิเมะนั้นไม่หัวเราะด้วย และถึงแม้โซนะจะหัวเราะแต่เธอตัวสั่นพร้อมกับเหงื่อไหลมาได้สักครู่แล้ว
"ตาย"
"อี-๊, ฉันขอโท~ษ"
ฮาจิเมะเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังอย่างรวดเร็วและใช้มือเหล็กคว้าไปที่หน้าของโซนะ โซะนะที่ท่าได้แค่ห้อยอยู่กลางอากาศท่าได้แค่ร้องและขอให้ยกโทษให ้โซนะเป็นเด็กสาวธรรมดา และนั่นท่าให้ฮาจิเมะปรับพลังแขนให้ไม่มากเกินระดับของการลงโทษ ถ้านี่เป็นความผิดครั้งแรกเขาจะยอมผ่อนปรนให้ แต่ในวันที่เขากลับมาจากมหาดันเจี้ยนไรเซ็น ทุกๆคืนตั้งแต่พวกเขาพักที่โรงแรมนี้ เธอจะพยายามแอบมองด้วยวิธีที่
หลากหลาย และนั่นท่าให้ความอดทนของเขาหายไป จะว่าไปแล้วเหตุผลที่พวกเขานั้นยังพักอยู่เนื่องจากอาหารนั้นอร่อย
ฮาจิเมะท่าได้แค่ถอนหายใจและแบกโซนะที่ตอนนี้ท่าได้แค่กระตุกในแขนของเขา โซนะสามารถวางใจในที่สุดในตอนที่เธอถูกปล่อย แตต่อนที่เธอมองไปด้างล่าง.....ที่ตรงนั้นคือปีศาจถึงแม้ว่าพวกเขาจะยิ้มก็ตาม พวกเขาคือพ่อแม่ของเธอนั่นเองที่ดูเหมือนปีศาจแะดวงตาไม่ได้ยิ้มไปด้วย เหมือนกับฮาจิเมะ
"หยาา!!"
พวกเขารู้ว่าโซนะเห็นพวกเขา เธอค่อยๆลงไปยังแขนของพวกเขาที่ยื่นแขนมารับ มันเหมือนกับการเชื้อเชิญเข้าสู่นรก
"ครั้งนี,้ ผมอาจจะยกโทษให้หลังจากที่เธอถูกฟาดหนึ่งร้อยครั้ง"
"หยาาาาาา-!"
ได้ยินค่าพูดของฮาจิเมะ โซนะนึกถึงบทลงโทษของเธอจนถึงบัดนี้และส่งเสียงร้องออกมา ในตอนเช้าเขาจะเห็นเธอถูก้นด้วยน้่าตา ทกุๆคืนและทุกๆเช้าฮาจิเมะท่าได้แต่ถอนหานหายใจกบัเหตุการณ์ซ้่าๆนี้
หลังจากยื่นเธ ให้กับครอบครัว ฮาจิเมะกลับห้องและล้มตัวลงนอน
"...ขอบคุณที่ท่างานหนัก"
"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน"
แน่นอนว่าคนที่ทักทายฮาจิเมะคือยูเอะและชิอะ ห้องนั้นมีแสงจันทร์สาด่องเข้ามาและเห็นถึงรูปร่างของคนทั้งสอง เด็กสาวทั้งสองนั่นอยู่ตรงข้างเตียงโดยไร้ความเขินอายและสวมแค่ชุดชั้นใน ภาพของพวกเธอนั้นท่าให้หื่นอย่างง่ายดายเมื่อบวกกับหน้าตาที่สวย ถ้าพวกเขาถูกวาดละก็ มันจะต้องถูกเรียกว่างานสมบูรณ์แบบถึงแม้จะมาจากนักวาดขั้นรอง
"เฮ้อ อะไรท่าใหเ้ด็กคนนั้น.......ถึงขนาดปีนลงมาจากหลังคา มันไม่ปกติใช่ไหม? อย่างที่คิดไว้จริงๆ ต่อให้อาหารอร่อยแค่ไหน พวกเราก็ควรจะหาโรงแรมอื่นดีกว่า"
ฮาจิเมะพูดด้วยความทึ่งพร้อมกับยืนขึ้น ชิอะหวัเราะและนั่งลงบนเตียงของฮาจิเมะ ยูเอะเองก็ลุกข้ึนยืนอย่างช้าๆและก้าวไปยังเตียงของฮาจิเมะ จากนั้นเธอก็เอาเข่าไว้ใต้หัวของฮาจิเมะ ผลก็คือพวกเขากลายเป็นที่หนุนตักก
"แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจุดประกายไฟจิตใจเด็กสาวของโซ
นะจัง มันช่วยไม่ได้ที่เธอจะอยากรู้อยากเห็น มันไม่ใช่ว่าน่ารักหรอก
เหรอ"
".........แต่จากการที่เธอเก่งขึ้นเร่ือยๆ......มันท่าให้ฉันกังวล"
"เมื่อวานเธอใช้ท่อลมซ่อนอยูใ่ต้อ่างอาบน้่า.......เมื่อมองเห็นเธอมอง
ด้วยตาเป็นประกาย มันท่าให้รู้สึกหนาวขึ้นไม่รู้ตัว"
"อ~ือ แน่นอนวา่มันเป็นการกระท่าที่ไม่ดีส่าหรับลูกสาวเจ้าของโรงแรม
......ตอนนี้มีแคพ่วกเราแต่......."
ในตอนที่พวกเขาพูดถึงนิสัยที่เกินเลยไปของโซนะ ชิอะเข้าใกล้ร่างของฮาจิเมะอย่างเงียบๆ เธอยื่นแขนออกไปอย่างธรรมชาติและน่าทางมือของฮาจิเมะไปที่อกของเธอ หน้าของชิอะนั้นแดงเถือกและเธอกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์นี้
ฮาจิเมะจับมือของชิอะอย่างอ่อนโยน หมับ, เขาเพิ่มแรงลงไปและท่าให้เธอตัวส่ัน เนือ่งจากเธอก่าลังดีใจท่าให้เธอเองก็เพ่ิมแรงในการก่ามือ ฮาจิเมะเพิ่มแรงในการก่ามากขึ้นไปอีก
อือ.....ปึด, เอ๋....กร็อบ, อ๋า.......กร็อบๆๆ, โอ๊ย......กร็อบๆๆๆๆ
"หวา-! คุณฮาจิเมะ! มือจะหักแล้ว! มือของฉันจะหักแล้ว!"
กร็อบ!
"หยา-! ฉันขอโทษ, ฉันขอโทษจริงๆนะ! ฉันลืมตัวไปเล็กน้อย! เพราะฉะนั้นปล่อยเถอะ! มันจะหักแล้ว! มือฉันจะหักแล้วถ้าเพิ่มแรงไปมากกว่านี้!"
"เธอพยายามท่าอะไรถึงท่าเป็นบรรยากาศดี? จะว่าไปแล้วห้องของเธอ
อยู่ข้างๆ ท่าไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?"
ชิอะพยายามปล่อยแขนที่ถูกฮาจิเมะจับไว้ในขณะที่ตัวสั่น แต่เธอไม่สามารถปล่อยได้
"นะ-นั่นฉันแค่สงสัย~ ถ้าฉันสามารถนอนเตียงเดียวกัน☆,ประมาณนั้นแหละ ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ของพวกเราก็ไปถึงข้ันจูบกันแล้ว มันเป็นเรื่องปกติถ้าจะไปถึงขั้นนั้น"
"ไม่มีทาง ฉันบอกแล้วไงว่ามันเป็นการช่วยชีวิต"
"แหม, จากการคาดการณ์ของฉัน คุณฮาจิเมะจะต้องเร่ิมเดเระ!
เปรียบเทียบจากตอนแรกแล้ว คุณใจดีขึ้น! เนื่องจากมันเป็นความจริง
จากนั้นก็......เฮะๆๆ "กร็อบ!!"ม่าายย-! มันจะแตกแล้ว-!"
ไม่อาจทนต่อแผนการลามกของชิอะได้อีกต่อไป ฮาจิเมะเพิ่มแรงในการก่ามือ ชิอะที่ถูกปล่อยมือตัวสั่นอยู่ที่มุมของเตียงในขณะที่ย่อตัวจับแขนเพื่อทนต่อความเจ็บ ฮาจิเมะเมินชิอะและหันไปหายูเอะ ยูเอะมองตรงไปที่ฮาจิเมะทันที
"ยิ่งไปกว่านั้น ยูเอะ,ช่วงนี้เธอไม่ใจกว้างไปหน่อยเหรอ?เธอเปล่ียนใจเหรอ?"
ยูเอะเอียงคอและคิดถึงค่าถามของฮาจิเมะ อย่างที่ฮาจิเมะพูด หลังจากที่กลับมาจากมหาดันเจีย้นไรเซ็น มุมมองของยูเอะต่อชิอะนั้นปราณีมากขึ้น ก่อนหน้านี้ถ้าชิอะพยายามเข้าใกล้ฮาจิเมะ เธอจะเป่าชิอะออกไปทันทีโดยไม่พูดแม้แต่ค่าเดียว แต่หลังๆมานี้เธอไม่ว่าอะไรกับการที่ชิอะพยายามแตะเนื้อต้องตัวแม้แต่น้อย แต่ถ้าเกินเลยไปละก็......ตัวอย่างเช่นในตอนที่ชิอะพยายามจูบเขา เธอจะไม่พอใจทันที...
".........ชิอะพยายามอย่างเต็มที่ และในอนาคตเธอก็จะท่าต่อไปเพราะเธอชอบฮาจิเมะและฉัน"
"หืม?นั่นมัน..."
"...ฉันเองก็......ไม่เกลียดเธอ"
"ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอดูเหมือนสนิทกับชิอะเป็นอย่างอย่างมาก ฉัน
เข้าใจดีจากการเฝ้าดู อืม~"
ใจความส่าคัญที่ฮาจิเมะเดาจากค่าพูดเล็กน้อยของชิอะ ยูเอะนั้นพอใจกับชิอะแต่ไม่ถคงขั้นที่มองเธอเป็นคนส่าคัญ
นั่นเป็นความจริง ในมหาดันเจี้ยนไรเซ็นนั้นถูกสลายเวทมากกว่าหุบเขาเสียอีกและท่าให้ยูเอะแสดงพลังของเธอได้ไม่เต็มที่ ฮาจิเมะเองก็เหมือนกัน พวกเขาได้ว่าจะยากขนาดไหนถ้ามีเพียงแค่พวกเขาทั้งสองคน แน่นอนว่าฮาจิเมะตัวคนเดียวนั้นสามารถพิชิตๆได้ แต่โอกาศที่เขาอาจจะต้องใช้น้า่ศักดิสิทธ์ินั้นสูงมาก การที่พิชิตดันเจี้ยนได้โดยไม่ใช้มันนั้นต้องขอบคุณชิอะ
ก่อนหน้านี้ไม่นานตัวตนของชิอะนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้แม้แต่น้อย ไม่ซิต้องบอกว่าเธอเกลียดการต่อสู้ เธอจะต้องรู้สึกกลัวและๆม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ยังคงติดตามฮาจิเมะและยูเอะโดยที่ไม่ปริปากบ่นแม้แต่น้อย ในตอนที่พวกเขาเข้าไปที่มหาดันเจี้ยนที่เปรียบเหมือนกับนรก เธอกัดฟันทนและในที่สุดเธอสามารถพิชิตมันอย่างงดงาม
เธอท่าไปเพื่อความรักของเธอต่อฮาจิเมะและมิตรภาพต่อยูเอะโดยไม่เปลียนใจแม้แต่น้อย เพราะเธอต้องการอยู่เคียงข้างพวกเขา ชิอะได้เปล่ียนตัวเองและก้าวไปข้างหน้าด้วยความสามารถทั้งหมดที่เธอมี
แน่นอนว่ายูเอะนั้นอิจฉาและมีความต้องการครอบครองเขาเพียงผู้เดียว ดังนั้นความรู้สึกของชิอะที่มีต่อฮาจิเมะนั้นไม่อาจท่าให้เธอยอมรับได้อย่างง่ายดาย นี่คือเหตุผลว่าท่าไมในตอนแรกมันยากที่จะสนับสนุน......ชอิะที่สามารถกระโดดตรงไปข้างหน้าถึงแม้จะถูกปฎิบัติอย่างโหดร้าย มิตรภาพของพวกเธอนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ตามด้วยการพิสูจน์ตัวเองจากการพิชิตมหาดันเจี้ยน.......นัน่กลายเป็นหลักฐานที่ไม่อาจเมินได้
คิดดูแล้วในความทรงจ่านั้นเธอไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน ก่อนที่เธอจะถูกผนึก เธอยุ่งกับการเรียนรู้การเมือง ไม่มีใครที่สามารถเป็นเพื่อนเธอในระดับเดียวกันได้เลย พูดได้อีกอย่างว่า เธอนั้นตัวคนเดียว นั่นคือเหตุผลว่าต่อหน้าชิอะที่พูดว่า "พวกเราคือพวกพ้อง~!"อย่างตรงๆ ยกเว้นส่วนที่เกี่ยวกับฮาจิเมะ ตั้งแต่เริ่มแรกแล้วที่เธอไม่สามารถเกลียดชิอะได้
จากเหตุผลนั้นเอง ท่าให้เธอคิดว่า "ถ้าเป็นชิอะละก็นิดหน่อยคงไม่เป็นไร..." เธอแสดงความใจกว้างออกมา
".......อย่างไรก็ตาม"
"หือ?"
ยูเอะมองไปที่ฮาจิเมะในขณะที่พูด ตาของเธอนั้นน่าหลงใหลและเต็มไปด้วยความจริงใจ, ความมั่นใจ, และการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด บวกกับรอยยิ้มที่สว่างไสวที่สะท้อนถึงสิ่งที่กล่าวมาแล้ว ท่าให้เธอน่ารักสุดๆ น่าหลงใหลสุดๆ และท่าให้ฮาจิเมะเผลอลืมหายใจ เหมือนกับว่าเธอมีแรงดึงดูด ฮาจิเมะไม่สามารถละสายตาและท่าได้แค่มองด้วยความชื่นชม อีกครั้งหนึ่งที่ฮาจิเมะหันกลับไปมองที่ยูเอะ
"........หัวใจของฮาจิเมะเป็นของฉันแล้ว"
"........"
ไม่ว่าใครก็ตามที่หลงรักฮาจิเมะ ไม่ว่าใครก็ตามหลงสเน่ห์เขา คนส่าคัญที่สุด, คนที่เป็อันดับหนึ่งคือ...ฉัน นี่คอืการประกาศ การประกาศสงครามของยูเอะ ประกาศสงครามต่อผู้ที่เคยเจอมาแล้วและคนที่จะเจอในอนาคต
ฮาจิเมะนั้นไร้ค่าพูด เขาถึงดึงดูดจากประกายตาของเธอ อีกครั้งหนึ่งที่เธอเหมือนกับผูกติดกับเขา ยูเอะได้ดึงดูดสายตาของฮาจิเมะอีกครั้ง มือของฮาจิเมะจับแก้มของยูเอะในขณะที่มือของยูเอะจับแก้มเขา แสง
จันทร์สะท้อนเงาทั้งสองบนก่าแพง เงาของพวกเขาค่อยๆเข้าหากันอย่างช้าๆ ในวินาทีที่เงาจะชนกัน.......
"อะฮืก, อืม, อย่างน้อยก็อย่าลืมตัวตนของฉันได้ไหม? ฉันรู้สึกว่าเปล่าและหงอยเหงา........อะฮืก"
ชิอะนั่งกอดเข่าบนมุมเตียง ในขณะที่ร้องไห้และเช็ดน้่าตา เธอมองฮาจิเมะและยูเอะสร้างโลกส่วนตัวของทั้งสองคน
มันเป็นภาพที่น่าสงสารจนท่าให้ฮาจิเมะรู้สึกผิดและยูเอะบอกให้เธอเข้ามาใกล้ "คุ~ณยูเอะ" เธอตะโกนพร้อมกับพุ่งเข้าหาหน้าอกและสะอื้น หัวของชิอะนั้นถูกลูบอย่างอ่อนโยน เนื่องจากเธอรู้สึกดีเธอปิดตาลง จากนั้นก็หลับไปในท่านั้น
ฮาจิเมะที่มองภาพนั้นได้แต่ฝืนยิ้มออกมา
"แทนที่จะบอกวา่เพื่อน ไม่ใช่ว่าเหมือนกับแม่มากกว่าหรอกเหรอ?"
"........ฉันชอบที่จะมีลูกกับฮาจิเมะมากกว่า"
"........."
".........อ่อนโยนกับชิอะหน่อยนะ"
".........เร่ืองนั้นฉันจะท่าให้ดีที่สุด"
"อืม......ฉันรักเธอ"
".........อา"
ท้ายที่สุด ชิอะก็อยู่ทางด้านซ้ายของเขา ส่วนยูเอะอยู่ด้านขวา ทั้งสามคนนอนหลับพร้อมกัน หลังจากวันนั้นชิอะได้รับอนุญาติให้นอนห้องเดียวกันท่าให้เธอเต้นด้วยความดีใจและหลงระเริงพยายามจู่โจมฮาจิเมะทุกๆคืน และถูกเขาลงโทษ
จะว่าไปแล้วตอนที่ชิอะร้องออกมาในตอนที่โดนก่ามือ โซนะที่ได้ยินเสียงนั้นเข้าใจผิด,สงสัย,และจินตนาการมากข้ึนไปอีก จากนั้นเธอก็กลายเป็นเด็กสาวโรงแรมที่มีทักษะลอบเร้นสูงมาก.....แต่นั่นเป็นเร่ืองราวในภายภาคหน้า
--------------------------------
กริ๊งๆ
ตามด้วยเสียงนั้น ประตูของนักผจญภัยสาขาบรู้คก็เปิดออก เงาสามเงาเดินเข้ามา พวกเขาคือฮาจิเมะ,ยูเอะ,และชิอะที่กลายมาเป็นจุดสนในหลังจากผ่านมาหลายวัน ข้างในร้านอาหารของกิลมีนักผจญภัยหลายคนทานอาหารตามปกติ มีบางส่วนทักทายฮาจิเมะและปาร์ตี้โบกมือให้กับพวกเขา ส่าหรับผู้ชายพวกเขามองยูเอะและชิอะเหมือนทุกที จากนั้นก็หันไปมองฮาจิเมะด้วยความชื่นชมแต่ไม่มีใครคิดร้ายในนี้
พวกเขาได้พักในเมืองบรู้คหนึ่งสัปดาห์แล้ว มีหลายคนที่ไม่เคยคิดจะเรียนรู้และท้าเขาประลองเพื่อแย่งยูเอะและชิอะในช่วงนั้น ในอดีตพวกเขาไม่สามารถชักจูงยูเอะที่รู้กันดีในนามว่า "นักบดขยี้ไข่" เพราะพวกเขากลัวเธอ และนั่นท่าให้พยายามจับฮาจิเมะและฝังเขานอกก่าแพงเมือง
แน่นอนว่าฮาจิเมะไม่ท่าเรื่องยุ่งยากแบบนั้น สุดท้ายถ้ามีคนพูดว่า "มาประลองกัน!" ในตอนที่ฝ่ายตรงข้ามพูดค่าว่า "ประลอง" เขาก็ยิงปืนแล้ว สิ่งที่ถูกยิงออกไปนั้นเป็นยางที่อันตรายถึงกับชีวิตและระเบิดออกในตอนที่โดนหัวของผู้ท้าชิงที่น่าอนาถและท่าให้เขาหมุนสามครั้งจากนั้นก็จูบกับพื้น
ด้วยเหตุนั้นเอง ยูเอะที่ถูกเรียกขานว่า "นักบดขยี้ไข่" และคนรักของเธอที่สามารถฆ่าศัตรูในพริบตาก่อนที่การประลองจะเริ่มเสียอีก ทั้งสองคนถูกเรียกขานว่า "คู่หูจอมบดขยี้" ทั้งสองกลายเป็นที่รู้จักของทุกคน ถึงพวกเขาจะไม่ได้ลงทะเบียนชื่อปาร์ตี้กับทางกิลแต่ชื่อ "คู่รักนักบดขยี้" ก็โด่งดังไปทั่วแล้ว ฮาจิเมะที่ค้นพบชื่อที่ถูกเรียกขานท่าได้แค่มองไปสุดหูลูกตาสักครู่หนึ่งจากประสบการณ์อันใหม่นี้
ชิอะที่รู้สึกว่าตัวตนเบาบางขึ้นเรื่อยๆท่าได้แค่หลั่งน้่าตาออกมา
"หืม, วันนี้ทั้งสามคนมาพร้อมกัน?"
ฮาจิเมะและปาร์ตี้มาที่เคาเตอร์ เหมือนทุกทีป้า.....แคเธอรีนอยูต่รงนั้นและเธอเป็นคนที่ทักพวกเขาเมื่อกี้นี้ เสียงของแคเธอรีนนั้นเต็มไปด้วยความประหาดใจเพราะในอาทิตย์ที่ผ่านมาคนที่มากิลปกติจะเป็นฮาจิเมะคนเดียวหรือชิอะและยูเอะที่มาพร้อมกัน
"อือ, พวกเราจะออกจากเมืองในวันพรุ่งนี้และเนื่องจากพวกเราเป็นหนี้บุญคุณคุณ พวกเราจึงแวะมาทักทาย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราคิดจะรับภารกิจที่ไปทางเดียวกับจุดหมายของพวกเรา"
หนี้ที่พวกเขาพูดถึงคือการที่ฮาจิเมะยืมห้องของกิลฟรี เนื่องจากในที่สุดเขาก็ได้รับเวทแรงโน้มถ่วง เขาต้องการทดลองมัน เมื่อบวกกับเวทสร้างสรรค์ท่าให้เขาต้องการห้องที่กว้างขวาง แคเธอรีนที่ได้ยินเกี่ยวกับเร่ืองนี้ยื่นข้อเสนอให้ใช้ห้องของกิลโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ส่วนยูเอะและชิอะฝึกการใช้เวทแรโน้มถ่วงนอกเมือง
"เข้าใจละ พวกเธอก่าลังจะเดินทาง นั่นท่าให้ฉันรู้กเหงา ที่นี่ครึกครื้นตั้งแต่เธอกลับมา"
"เร่ืองนั้นขอเถอะ มีคนโรคจิตอยู่ในโรงแรม,มีคนโรคจิตในร้านเสื้อผ้า,อีก
ทั้งยังมีพวกโรคจิตที่ก้มกราบเม่ือยูเอะและชิอะเดินผ่านและยังมีสตอค
เกอร์ลามกที่เรียกยูเอะและชิอะว่า "ท่านพี่" ยังมีคนโง่ที่ท้าฉันประลอง
.........ไม่มีคนปกติในนี้แม้แต่น้อย ผู้ชายที่เจอทั้งหมด 70%เป็นคน
ลามกและ20%เป็นไอ้งั่ง......เมืองนี้ผิดปกติสุดๆ"
ค่าบ่นของฮาจิเมะนั้นเป็นความจริง เมื่อพูดถึงโซนะ, และทุกๆครั้งที่ฮาจิเมะพบกับคริสตาเบล เขาจะเลียริมฝีผากและมองฮาจิเมะเหมือนนักล่า เขาลืมไปแล้วด้วยซ้่าว่ากี่ครั้งแล้วที่เขารู้สึกหนาวส่ัน
ยิ่งไปกว่านั้นในเมืองบรูคแบ่งออกเป็นสามฝ่ังใหญ่ๆ พวกเขาสู้กันและกันทุกๆวัน ฝ่ายแรกคือ "กองพันพวกเราต้องการโดนยูเอะเหยียบ" ฝ่ายที่สองคือ "กองพันพวกเราต้องการเป็นทาสของชิอะ" และฝ่ายสุดท้าย "กองพันพวกเราต้องการเป็นญาติกับท่านพี่" พวกเขาแบ่งออกตามความปราถนาของตนเอง และดูเหมือนจะแข่งกันว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายหลัก
ฮาจิเมะและปาร์ตี้ท่าได้แค่ส่าลักน้่าออกมาเพราะชื่อเหล่านั้นมาจากความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ อยู่ดีๆก็มีคนในเมืองก้มกราบให้กับยูเอเและพูดว่า "ได้โปรดเหยียบพวกเรา!" และท่าให้เธอตัวสั่น ไม่รู้ว่าความคิดของพวกเขาบ้าคลั่งขนาดไหนกับกรณีของชิอะ;เผ่ากึ่งมนุษย์ที่มักโดนเหยียดหยาม การที่พวกเขาต้องการเป็นทาสของเธอนั้นเป็นโอกาศที่จะตบมุขสุดๆแต่เธอท่าเพียงแค่ปฎิเสธเพราะเมื่อคิดลึกกับค่าพูดนี ้กลุ่มสุดท้ายนั้นมีแต่ผู้หญิง อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเธอเห็นเขาเป็นเคร่ืองกีดขวางของยูเอะและชิอะ พวกเธอพยายามที่จะก่าจัดฮา
จิเมะ มีออยู่ครั้งหนึ่งมีเด็กสาวกรีดร้องขึ้นมาว่า "เจ้าปรสิตที่เป็นอันตรายต่อท่านพี่! ฉันจะตัดไข่ของมันซ้าาาาา--!!" พร้อมกับแทงมดีมาที่เขาด้วยมือข้างเดียว
เนื่องจากมันจะเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะฆ่าเด็กสาวในเมือง ฮาจิเมะท่าได้แค่ท่าให้เธอเปลือยและมัดไว้ด้วยท่าเต่า หลังจากที่ห้อยเธอไว้บนตึกที่สูงที่สุดและติดแผ่นกระดาษที่เขียนไว้ว่า "ฉันจะฆ่าเธอในครั้งหน้า" หลังจากเหตุการณ์นี้ การกระท่าสุดกูข่องเด็กสาวเริ่มซ่อนมากขึ้น และนั่นเป็นเรื่องที่ดี
ฮาจิเมะที่นึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้นท่าได้แค่ท่าหน้าหงุดหงิด ในขณะที่แคเธอรีนฝืนยิ้มออกมา
"เอาละๆ แต่ส่วนที่ครึกครื้นนี่เป็นความจริงนะ"
"ใช่ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ"
"แล้วเมืองไหนที่เธอจะไปละ?"
"ฟุเร็น"
ถึงแม้พวกเขาจะพูดกันแบบนั้น แต่แคเธอรีนนั้นมุ่งมั่นให้กับงาน เธอค้นหางานที่เกี่ยวกับฟุเร็นทันที
ฟุเร็นเป็นเมืองการค้าที่ไม่ฝักฝ่ายฝ่ายใด เป้าหมายต่อไปของฮาจิเมะและปาร์ตี้คือ "มหาทะเลทรายกูเรียวเอ็น" ที่ๆหนึ่งในมหาดันเจี้ยนที่มีชื่อว่า "ภูเขาไฟกูเรียวเอ็น" อยู่ตรงนั้น ก่อนอื่นพวกเขาต้องไปทางตะวันตกของทวีปและเมืองที่อยู่ระหว่างทางคือเมือง "เมืองแห่งการค้าไม่ฝักฝ่ายฝ่ายใดฟุเร็น" ดังนั้นเพื่อเขาจึกต้องการแวะไปที่เมืองแห่งการค้าอันดับหนึ่งของทวีป เป้าหมายต่อไปหลังจาก "ภูเขาไฟกูเรียวเอ็น" เป้าหมายของต่อไปของพวกเขาอยู่ทางตะวันตกของมหาทะเลทราย มหาดันเจี้ยนที่ตกลงไปใต้ทะเลทีมีชื่อว่า "ซากปรักหักพังเมลจิน"
"อ~ืม แหมๆ ฉันเจออันที่ดีๆละ ร้องขอคนคุ้มกันขบวนพ่อค้าใมีที่ว่างอยู่คนนึง.......เป็นอย่าวไร? เธอจะรับงานนี้ไหม?"
ฮาจิเมะยืนยันถึงเนื้อหาที่ได้รับจากแคเธอรีน แน่นอนว่าเนื้อหานั้นเกี่ยวกับการร้องขอคนคุ้มกันขบวนพ่อค้า มันเป็นขบวนพ่อค้าระดับกลางและดูเหมือนว่าจะร้องขอคนคุ้มกัน15คน เนื่องจากยูเอะและชิอะนั้นไม่ใช่นักผจญภัย มนัจึงเป็นงานที่เหมาะกับฮาจิเมะ
"เป็นไรไหมที่จะน่าเพื่อนร่วมทางไปด้วย?"
"อา, ไม่มีปัญหา ถึงแม้อาจจะบ่นที่มีคนเยอะเกินไปแต่ก็มีคนที่จ้างคน
ขนของ, ยังมีนักผจญภัยบางคนที่น่าทาสไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยูเอะจัง
และชิอะจังนั้นเป็นคนที่มีชื่อเสียง การที่มีสองคนเพิ่มข้ึนจากการจ้าง
เพียงคนเดียว ไม่มีเหตุผลที่จะปฎิเสธเลย"
"เข้าใจละ, อืม~, เอาไงดี?"
ฮาจิเมะที่ลังเลเล็กน้อยหันกลับไปมองยูเอะและชิอะเพื่อถามความคิดเห็น จริงๆแล้วเขาคิดจะรับงานถ้าเกี่ยวกับการส่งของ ถ้ามีเพียงแค่ฮาจิเมะและปาร์ตี้ พวกเขาสามารถที่จะใช้รถยนต์เวทมนตร์และไปถึงฟุเร็นเร็วกว่าใช้รถม้า มันเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไปที่จะเดินทางความเร็วเดียวกันกับคนอื่นในภารกิจคุ้มกัน
"........ไม่จ่าเป็นที่จะต้องรีบเดินทาง"
"ใชแล้ว~ บางครั้งมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่จะเดินทางไปกับนักผจญภัยคน
อื่นๆ พวกเราอาจจะได้เรียนรู้บางอย่างจากนักผจญภัยที่มี
ประสบการณ์ ใช่ไหม?"
"........จริง, ในเมื่อพวกเราไม่รีย บางคร้ังมันเป็นเรื่องที่ดี..."
ฮาจิเมะที่ได้ยินความคิดเห็นของพวกเธอ ถอนหายใจ"ฟู่" และบอกแคเธอรีนว่ารับงานนี้ อย่างที่ยูเอะบอก มันจะต้องใช้เวลานานมากในการพิชิตเจ็ดมหาดันเจี้ยน ไม่มีอะไรบอกว่าพวกเขาจะผิดพลาดถ้าพวกเขา
เร่งเกินไป และบวกกับประสบการณ์ของนักผจญภัยที่มีประสบการณ์อาจมีข้อมูลที่มีประโยชน์กับพวกเขาในอนาคต
"เรียบร้อย ฉันจะบอกผู้ร้องขอให้ ได้โปรดรอที่หน้าประตูพรุ่งนี้ในตอนเช้า"
"รับทราบ"
หลังจากที่เธอยืนยันแล้วว่าฮาจิเมะได้รับส่าเนา แคเธอรีนหันไปมองยูเอะและชิอะที่อยู่ข้างหลังเขา
"พวกเธอจะต้องท่าให้ตัวเองสุขภาพดีรู้ไหม? เมื่อไหร่ที่เด็กคนนี้ท่าให้พวกเธอร้องไห้ ได้โปรดกลับมาที่นี่ ฉันจะจัดการเขาให้พวกเธอเอง"
"........อือ พวกเราเป็นหนี้คุณ ของคุณ"
"ตกลงคุณแคเธอรีน ขอบคุณมากที่ดูแลพวกเรา!"
ค่าพูดที่แสนใจดีของแคเธอรีนท่าให้ยูเอะและชิอะยิ้ม โดยเฉพาะชิอะนั้นมีความสุขดูเหมือนเธอจะลืมไปว่าเธอเป็นเผ่ากึ่งมนุษย์ตั้งแต่มาถึงเมืองนี้ แน่นอนว่ามีคนคิดแตกต่างกันและไม่ใช่คนทั้งหมดที่จะยอมรับ แต่แคเธอรีนนั้นเป็นแกนน่า อีกทั้งโซนะ,คริสตาเบลและคนที่
ชื่นชอบเธออย่างเช่นแฟนคลับที่ไม่ได้ดูถูกเธอถึงแม้เธอจะเป็นเผ่ากึ่งมนุษย์ก็ตาม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจิตใจของคนในเมืองนี้หรือว่าเป็นเพราะกระแสของเมืองนี้พาไป แต่ส่าหรับชิอะแล้ว ที่นี่เป็นที่ที่อบอุ่นเกือบจะเหมือนกับบ้านเกิดของเธอในทะเลป่า
"เธอด้วย, อย่าทา่ให้สาวๆร้องไห้รู้ไหม? ฉันจะลงโทษเธอถ้าเธอไม่ให้ความส่าคัญกับพวกเธอเข้าใจไหม?"
".......ชีส์ ช่างเป็นคนที่ยุ่งยากจริงๆ ฉันท่าแบบนั้นอยู่แล้วโดยที่ไม่ต้อง
บอก"
ฮาจิเมะตอบกลับแคเธอรีนด้วยรอยยิ้มแกนๆ แคเธอรีนยื่นจดหมายให้กับฮาจิเมะ ฮาจิเมะแสดงสีหน้าสงสัยและรับจดหมาย
"นี่มัน?"
"ยังไงเธอก็พกอาวุธอันตรายหลายอย่าง มันเป็นการขอโทษกับปัญหา
ทั้งหมดที่เกิดจากคนในเมืองนี้ ในตอนที่เธอไปถึงกิลเมืองอื่นๆและมี
ปัญหา แสดงจดหมายนี้ให้กับคนที่ดูแลที่นั่น มันอาจจะมีประโยชน์"
แคเธอรีนขยิบตาให้และฮาจิเมะแก้มกระตุกพร้อมกับคิดว่า "การที่จดหมายสามารถเปลี่ยนความคิดเห็นของกิลสาขาอื่นๆ เธอเป็นใครกันแน่?" สีหน้าของเขาปรากฎความสงสัย
"แหมๆ มันจ่าเป็นที่จะค้นหาข้อมูลของฉันเหรอ? ผู้หญิงที่ดีจะต้องมีความลับรู้ไหม"
"....เฮ้อ, เข้าใจแล้ว ฉันยินดีที่จะรับมัน"
"การเชื่อฟังเป็นสิ่งที่ดี! ถึงแม้อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต อย่าตาย
ละ"
แคเธอรีนเป็นพนักงานของกิลในเมืองบ้านนอกและมีความลับหลายอย่าง เธอส่งฮาจิเมะและปาร์ตี้ด้วยรอยยิ้มที่ดึงดูด
หลังจากนั้นฮาจิเมะและปาร์ตี้ไปที่ร้านของคริสตาเบล ถึงแม้ฮาจิเมะจะปฎิเสธที่จะมาด้วย แต่เขาท่าได้แค่ฝืนใจมาเพราะยูเอะและชิอะ........แต่ตอนทีค่ริสตาเบลได้ยินว่าพวกเขาจะออกจากเมือง เธอกลายมาเป็นมอนส์เตอร์ยักษ์และพยายามโจมตีฮาจิเมะเนื่องจากเป็นโอกาศสุดท้ายแล้ว ฮาจิเมะที่กลัวเป็นอย่างมากใช้การโจมตีข้อต่อและฝังเธอไว้ ถึงแม้ยูเอะและชิอะสามารถที่จะหยุดเหตุการณ์ให้เลวร้ายมากกว่านี้ได้.....แต่รายละเอียดเหตุการณ์นั้นก็ยังน่าอ้วกอยู่ดี
ในตอนที่เธอได้ยินว่านี่เป็นคืนสุดท้าย ในที่สุดโซนะก็สามารถบุกเข้าไปในห้องน้่า เหตุการณ์นั้นเริ่มจากเธอบุกเข้ามาในห้อง จากนั้นครอบครัวที่โกรธเธอเป็นอย่างมากก็มัดเธอด้วยเงื่อนเต่าทั้งคืน เหตุการณ์ที่เธอถูกแขวนไว้หน้าโรงแรมนั้นไม่น่าจดจ่า เหตุใดที่ครอบครัวของเธอถึงผูกเงื่อนแบบเต่าได้ก็ไม่น่าจดจ่า
ในตอนเช้า
ด้วยความทรงจ่าที่ดี(?)ต่อคนในเมืองบรูค ฮาจิเมะและปาร์ตี้มาถึงหน้าประตูเมือง และเดินทางไปพร้อมกับขบวนพ่อค้าและนักผจญภัยคนอื่นๆที่เข้าร่วมเควสนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาเป็นกลุ่มสุดท้าย ตอนที่มาถึงคนที่ดูแลขบวนและนักผจญภัยหันมามองกลุ่มของฮาจิเมะที่พึ่งมาถึง
"เฮ้ๆ อย่าบอกนะว่าสามคนที่เหลือคือ "คู่หูนักบด-คู่รัก!"!?
"มันเป็นความจริง! ถึงแม้มันจะท่าให้ฉันดีใจและหวาดกลัวในเวลา
เดียวกัน!"
"มองที่มือฉันซิ มันไม่หยุดสั่นตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเห็นมั้ย?"
"เดี๋ยวก่อน, ไม่ใช่เพราะว่านายเมาหรอกหรือ?"
มีบางคนที่ได้เห็นยูเอะและชิอะ บางคนกุมเป้าด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกับน้่าตาซึมและโดนตบมุขจากเพื่อนร่วมทาง และอีกหลายหลายการตอบรับ ฮาจิเมะเข้าหาพวกเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิด จากนั้นคนดูแลก็เรียกพวกเขา
"พวกเธอเป็นคนคุ้มกันกลุ่มสุดท้ายใช่ไหม?"
"อืม, นี่คือเอกสาร"
ฮาจิเมะแสดงเอกสารที่หยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ หลังจากยืนยันแล้ว ผู้ดูแลชายพยักฟน้าให้และเริ่มแนะน่าตัวเอง
"ฉันชื่อมอตโต้ ยังเกอร์ เป็นหัวหน้าขบวนสินค้านี้ ถึงแม้ระดับนักผจญภัยของเธอยังสีฟ้าแต่ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นนักผจญภัยที่ยอดเยี่ยมจากคุณแคเธอรีน ฉันคาดหวงัพวกเธอในการคุ้มกันพวกเราตามทางนะ"
".......มอตโต้(มอร์) ยังเกอร?์........มันจะต้องยากมากแน่นอนที่จะมา
เป็นผู้น่าขบวนพ่อค้า......"
มันเป็นชื่อที่ท่าให้เขานึกถึงเครื่องดื่มชูก่าลังของญี่ปุ่น และท่าให้สายตาของฮาจิเมะเต็มไปด้วยความเห็นใจ มอตโต้ที่ไม่เข้าใจว่าท่าไมฮาจิเมะ
ถึงมองเขาด้วยสายตาแบบนั้นท่าได้เอียงคอและตอบกลับว่า "มันยุ่งยากแต่ฉันชินกับมันแล้ว" และฝืนยิ้มออกมา
"ฉันจะไม่ท่าให้ผิดหวัง ฉันชื่อฮาจิเมะและทั้งสองคนคือยูเอะและชิอะ"
"นั่นท่าให้สบายใจ...จะว่าไปแล้ว เด็กสาวที่มาจากเผ่ากระต่าย.......เธอ
ไม่สนใจจะขายเธอเหรอ? ถึงแม้ฉันจะจ่ายได้แค่ตามสมควรเท่านั้นก็
ตาม"
มอตโต้จ้องมองชิอะพร้อมกับชมเธอ เธอเป็นเด็กสาวที่สวยจากเผ่ากระต่ายที่ไม่ได้มีผมสีฟ้าเหมือนเผ่ากระต่ายทั่วไปแต่กลับมีผมสีเทาแทน ตามนิสัยของพ่อค้าแล้ว เขาไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้สนใจของหายากแบบนี้ได้ เขาตัดสินว่าเธอเป็นทาสจากปลอกคอ และยื่นข้อเสนอให้กับฮาจิเมะที่เป็นเจ้าของทันที เขาจะต้องเป็นพ่อค้าที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
ชิอะที่ถูกมองครางออกมาอย่างไม่พอใจ "ฮึ่ม" และซ่อนอยู่หลังฮาจิเมะ ยูเอะมองมอตโต้ด้วยสายตาที่เฉียบขาด มุมมองของคนทั่วไปนั้นเมื่อเจอเผ่ากระต่ายนอกทะเลป่าจะคิดว่าเป็นทาส มันเป็นเรื่องปกติที่จะยื่นข้อเสนอส่าหรับทาสที่ไม่ธรรมดานี้ ไม่มีเหตุผลที่จะโทษมอตโต้
"โฮ่, เธอดูติดคน......อีกทั้งยังน่าทะนุถนอม ฉันยินดีให้มากกว่าเดิม คิดว่าไง?"
"เฮ้อ, นายเองก็ดูเหมือนว่าจะเป็นพ่อค้าที่ยอดเยี่ยม.......ไม่ใช่รู้ค่าตอบ
แล้วหรอกเหรอ?"
ถึงแม้มอตโต้จะเห็นหน้าตาของชิอะและสนใจมากยิ่งขึ้นพร้อมยื่นข้อเสนอให้มากกว่าเดิมแต่ฮาจิเมะตอบกลับอย่างง่ายๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมอตโต้รู้สึก่าเขาไม่ควรปล่อยโอกาศนี้ในการเจรจากับฮาจิเมะ เพราะมันจะท่าให้เขาได้ก่าไรเป็นอย่างมากจากสเน่ห์ของชิอะ นั่นท่าให้เขาพยายามยื่นข้อเสนอมากกว่าเดิมเพื่อขยายเวลาการเจรจานี้
อย่างไรก็ตามฮาจิเมะอ่านใจของเขาออก ถึงแม้จะเป็นค่าพูดธรรมดา เขาบอกมอตโต้ด้วยความตั้งใจที่ไม่มีวันแปรเปลี่ยน
"ต่อให้พระเจ้าต้องการเธอ ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไป........เท่านี้นายก็น่าจะเข้าใจแล้ว"
"......เอ่อ, ฉันเข้าใจ ฉันจะไม่พูดต่อแล้ว อย่างไรก็ตามถ้านายเปลี่ยนใจ
ได้โปรดติดต่อบริษัทจังเกอร์ของฉัน เอาละ,เกือบจะถึงเวลาออก
เดินทางแล้ว ส่าหรับข้อมูลในการเดินทาง โปรดติดต่อหัวหน้าที่อยู่ตรง
นั้น"
ค่าพูดของฮาจิเมะนั้นเป็นอันตรายเป็นอย่างมาก ถ้าเขาพูดโดยไม่ระวัง ค่าพูดของเขาจะท่าให้เขาถูกประกาศเป็นคนนอกศาสนาจากโบสถ์แห่งนักบุญ ส่าหรับข้อมูลเพ่ิมเติม เผ่าปีศาจเชื่อในพระเจ้าคนละองค์ พวกเขาบูชาพระเจ้าองค์อื่นมากกว่าพระเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ "เอฮีโต้" แต่พวกเขาไม่ได้พยายามสู้โดยตรงกับโบสถ์แห่งนักบุญ ส่าหรับฮาจิเมะที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงค่าพูด นั่นท่าให้มอตโต้เข้าใจว่าฮาจิเมะจะไม่มีสันยอมปล่อยเธอไป"
ฮาจิเมะมองมอตโต้ถอยกลับขบวนพ่อค้าไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเขาก็สังเกตุเห็นว่ารอบๆเขามีเสียงพูดคุยดังข้ึน
"ว้าว.....การที่กล้าพูดถึงขนาดนี้เพื่อผู้หญิง.....มันท่าให้ฉันตัวชาเลย!"
"อย่างที่คิดจากคู่หูนักบดขยี้ เขาไม่ยกโทษให้กับคนที่มายุ่งกับผู้หญิง
ของเขา......ฟู,่ ลูกผู้ชายจริงๆ"
"สุดยอดเลย~ ฉันเองก็อยากให้มีคนพูดแบบนี้กับฉันเหมือนกัน"
"เดี๋ยวก่อน, นายเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ? ใครจะมาพูด-, ขอโทษ ข้าขอ
โทษ หยุ- อ๋า-!!"
เมื่อได้ยินค่าสนทนาอย่างมีความสุขของเพื่อนร่วมทาง ฮาจิเมะท่าได้แค่กุมหัวเนื่องจากปวดหัว คนจากเมืองบรู้คนั้นติงต็องอย่างที่คิดไว้จริงๆ ในขณะที่เขาคิดนั้นมีเสียง "ฮิๆ" จากนัเนเขาก็รู้สึกถึงบางส่ิงที่นุ่มจากข้างหลังของเขา จากนั้นเขาก็โดนกอดจากแขนที่มาจากข้างหลังเมื่อกี้นี้
ฮาจิเมะหันไปมองข้างหลังและเห็นหน้าของชิอะในระยะติดกันเนื่องจากเธอเท้าคางไว้บนบ่าของเขา หน้าของเธอนั้นแดงทั้งหน้าและเนื่องจากเธอดีใจจริงๆ สีหน้าของเธอนั้นมีความสุข
"........ฟังนะ ค่าพูดนั้นไม่มีความหมายพิเศษ ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดนะ ตกลงไหม?"
"ฮุๆๆ รู้แล้ว~ ฮุๆๆๆ"
ถึงแม้ฮาจิเมะจะพยายามอธิบายว่ามันก็เหมือนกับไม่ทอดทิ้งเชื้อสายเดียวกัน ไม่ใช่เพราะ "เป็นผู้หญิงของเขา" อย่างที่คนรอบๆเข้าใจ แต่ค่าอธิบายของเขาไม่สามารถสื่อให้ชิอะได้เพราะคนที่เธอหลงรักประกาศว่า "แม้แต่พระเจ้าก็ไม่มีวันยกให้" ไม่ว่าความตั้งใจในการประกาศนี้คืออะไร ค่าพูดที่สุดยอดก็คือค่าพูดที่สุดยอด
ถึงแม้ค่าพูดนั้นจะจบบทสนทนาอย่างรวดเร็ว แต่ในหลายๆความหมายมัน "มากเกินไป" และท่าให้ฮาจิเมะรู้สึกเสียใจภายหลัง ยูเอะเดินเข้าหาฮาจิเมะและดึงขากางเกงเขา
"? มีอะไรเหรอ ยูเอะ?"
"อือ.......อย่ากังวลไปเลยเพราะมันเท่มาก"
".......ขอบคุณส่าหรับค่าปลอบใจ"
รู้สึกเห็นใจกับความรู้สึกของฮาจิเมะ ยูเอะพยายามปลอบใจเขาและฮาจิเมะลูบแก้มเธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับขอบคุณ ยูเอะปิดตาลงเหมือนกับว่าเธอพึงพอใจกับมนั
ณ หน้าประตูเมืองในยามเช้าตรู่ท่ามกลางผู้คน ชายคนหนึ่งมีเด็กสาวเผ่ากระต่ายที่สวยท่าหน้าดีใจเกาะหลังของเขา และอีกคนหนึ่งเป็นเด็กสาวสวยผมทองที่มีตาสีแดงอยู่ที่มือขวา คนนั้นคือ นากูโมะ ฮาจิเมะนั่นเอง
ผู้หญิงที่ร่วมขบวนพ่อค้ามองด้วยสายตาที่เป็นมิตร ในขณะที่ผู้ชายมองภาพนี้ด้วยสายตาปลาตาย การถูกจ้องมองด้วยสายตาอันน่าหงุดหงิดและค่าพูดที่เสียงแทงเขานั้นมาจากการที่เขาท่าตัวเองทั้งนั้น
=================================
จบตอนครับ
เจอกันวันพรุ่งนี้ครับผม :D
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอกัษร กรอกชื่อดว้ยนะ _________ กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ หรือข้อมูลผิดพลาดครับ : _____________________________ ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
(36) นิยาย Arifureta shokugyou de sekai แปลนิยายญี่ปุ่น >
ตอนที่ 55 : งานของนักผจญภัย (ตอนที่ 52) : Dek-D.com
21-27 นาท ี
ระยะทางระหว่างเมืองบรูคและเมืองแห่งการค้าขายฟุเร็นนั้นใช้เวลาใน
การเดินทางด้วยรถม้าหกวัน
พวกเขาเคลื่อนขบวนก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและตั้งแค้มป์ก่อนพระอาทิตย์ตก กิจวรรตนี้ด่าเนินนซ้่าๆกันเป็นเวลาสามวัน ฮาจิเมะและปาร์ตี้เดินทางอีกสามวันก็จะถึงเมืองฟุเร็นหรือพูดได้ว่าเดินทางมาครึ่งหนึ่ง
แล้ว ตั้งแต่เดินทางมายังไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น ถึงแม้ฮาจิเมะและปาร์ตี้จะคุ้มกันด้านหลังแต่มันก็สงบสุขดี
วันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นและพวกเขาเริ่มตั้งแค้มป์ เกี่ยวกับเร่ืองอาหารนั้น นักผจญภัยนั้นต่างก็กินอาหารของตัวเอง พวกเขาต้องกินไปพร้อมกับระมัดระวังรอบๆไปด้วย นั่นท่าให้เวลากินพวกเขาไม่สามารถมานั่งรวมกลุ่มกันได้ อีกทั้งดูเหมือนว่าจะมีกฎว่าจะต้องกินของตัวเองเท่านั้น ในระหว่างภารกิจ นักผจญภัยกินแต่อาหารที่หยาบๆและง่ายๆ การเตรียมอาหารที่อร่อยนั้นจะท่าให้น้่าหนักกระเป๋าเดินทางเพิ่มมากขึ้นและท่าให้มีปัญหาช่วงเวลาฉุกเฉินได้ จากเหตุผลนี้เอง มันกลายเป็นเหมือนกฎส่าหรับพวกเขาว่าถ้าไปถึงเมืองแล้วพวกเขาจะกินอาหารที่อร่อยจนกว่าจะอิ่มเต็มท้องในฐานะรางวัล
เร่ืองราวนี้ฮาจิเมะและปาร์ตี้ได้ยินจากนักผจญภัยในตอนที่พวกเขากินอาหารในวันที่สอง ฮาจิเมะและปาร์ตี้เตรียมขนมปังอุ่นๆที่ชุบด้วยสตูว์
"อึก- เยี่ยม! มันอร่อยมากจริงๆ~ อย่างที่คาดหวังได้จากชิอะจัง! ผมไม่สนว่าเธอเป็นเผ่ากึ่งมนุษย์อีกแล้ว ดังนั้นสนใจแต่งงานกับผมไหม?"
"กรุบๆ กรึบ ฮ่า, ไอ้บ้า, อย่าพูดหมาๆแบบนี้! ชิอะคือภรรยาของฉัน!"
"เหอะ, หมูสกปรกตัวเล็กๆอย่างนายพยายามพูดอะไรออกมา? ดูตัวเอง
ซะบ้าง, จะว่าไปแล้วชิอะจัง สนใจทานอาหารกับผมหลังจากถึงเมือง
ไหม? แน่นอนว่าผมเลี้ยง"
"ถะ-ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะพาชิอะจังไปเหมือนกัน! ชิอะจังได้โปรดไปทาน
อาหารกับผมด้วยเถิด!"
"ซ้อมของชอิะจัง........ฮ่า....ฮ่า....."
นักผจญภัยต่างก็ยุ่งกับการกินหม้อสตูว์ที่ชิอะท่าและต่างก็ชมว่าอร่อย ในวันแรกพวกเขาต่างก็กินอาหารแห้งที่เหมือนกับอาหารตั้งแค้มป์ ในตอนที่ฮาจิเมะและปาร์ตี้เริ่มท่าอาหารข้างๆพวกเขาด้วยการใช้วัตถุดิบและเครื่องครัวที่เอาออกมาจาก "กล่องสมบัติ" เหมือนปกติ เหล่านักผจญภัยต่างก็ถูกกลิ่นหอมของอาหารดึงดูดความสนใจ เมื่อมองไปที่ต้นก่าเนิดกลิ่น พวกเขาเห็นฮาจิเมะและปาร์ตี้ก่าลังกินอาหารที่ร้อนและก่าลังเป่าอาหารอยู่ใกล้ๆ มันท่าให้เกิดเหตุการณ์ที่เหล่านักผจญภัยต่างก็หันมามองด้วยตาที่แดงและน้่าลายไหล ชิอะที่รู้สึกว่าพวกเขานา่สงสารเสนอที่จะแบ่งอาหารให้และท่าให้เกิดสถานการณ์ที่ว่านี้ขึ้นมา
ในตอนแรกนั้น ต่อหน้าเหล่าคนที่หิวโซ ฮาจิเมะก็ยังคงกินอย่างสงบ ในตอนแรกเขาไม่คิดที่จะแบ่งอาหารให้แม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามเนื่องจากชิอะท่าหน้าที่เตรียมอาหารในตอนตั้งแค้มป์ เขาจึงต้องพึ่งเธอในการท่าอาหารที่อร่อย ไม่ใช่ว่าฮาขิเมะและยูเอะจะไม่สามารถท่าอาหารได้แต่รถชาติที่พวกเขาท่านั้นเรียบๆ ฮาจิเมะท่าได้แค่อาหารจ่านวนมาก
ส่วนยูเอะนั้นไม่มีประสบการณ์การท่าอาหารเนื่องจากเมื่อก่อนเธอเป็นชนชั้นสูง และนั่นคือเหตุผลที่ฮาจิเมะไม่สามารถปฎิเสธข้อเสนอของชิอะที่สามารถท่าอาหารอร่อยที่จะแบ่งปันได้ง่ายๆ
ตั้งแต่นั้นมา ถึงแม้เริ่มแรกเหล่านักผจญภัยต่างก็มารุมล้อมเหมือนฝูงไฮยีน่าต่างก็ขอบคุณ หลังๆพวกเขาเร่ิมชินและเร่ิมพูดตลกๆในการพยายามที่จะหว่านล้อมชิอะและยูเอะ
ฮาจิเมะที่เห็นนักผจญภัยท่าแบบนั้นใช้ "แรงกดดัน" ออกมาอย่างเงียบๆ ถึงแม้ร่างของนักผจญภัยจะถูกอุ่นด้วยสตูว์ร้อนแต่พวกเขากลับรู้สึกเย็นยะเยือกและท่าได้แค่ยืนขึ้นด้วยสีหน้าที่ซีด ฮาจิเมะกลืนเนื้อลงไปและพูดเบาๆออกมาอย่างช้าๆว่า
"เอาละ ในเมื่ออิ่มแล้ว ใครต้อการที่จะโดนโยนออกไป?"
"""""พวกเราขอโทษด้วยครับที่ลืมตัว"""""
เหล่านักผจญภัยต่างก็ขอโทษด้วยท่าหมอบกราบอย่างพร้อมเพรียงกัน ถึงแม้พวกเขาจะเป็นรุ่นพี่และมีประสบการณ์ในอาชีพนักผจญภัยมากกว่าฮาจิเมะ แต่พวกเขากลับไม่มีศักดิศรีแม้แต่น้อย บวกกับแรงกดดันที่ฮาจิเมะใช ้พวกเขาไม่กล้าสู้กับฮาจิเมะแม้แต่น้อยเพราะพวกเขารู้ดี่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองบรู้ค
"บู่, คุณฮาจิเมะ, ในเมื่อเป็นช่วงทานอาหารดังนั้นตลกเล็กน้อยนั้นไม่เป็นไร อะ-อีกทั้งไม่ว่าพวกเขาจะพูดอย่างไร ฉะ-ฉันก็เป็นของฮาจิเมะ รู้ไหม?"
"ฉันไม่สนเกี่ยยกับเรื่องนั้น"
"อุก!?"
ถึงแม้ชิอะจะพยายามหว่านสเน่ห์ฮาจิเมะพร้อมกับแสดงท่าทางเขินอาย แต่ฮาจิเมะตัดค่าพูดของเธอด้วยประโยคเดียว
"........ฮาจิเมะ"
"หือ?.....มีอะไรเหรอยูเอะ?"
ฮาจิเมะสั่นเล็กน้อยจากสายตาคาดโทษของยูเอะ ยูเอะชี้นิ้วชี้และพูดว่า "...........ไม่ดี!" สรุปง่ายๆว่า มันเกี่ยวข้องกับสัญญาที่เขาให้ไว้ว่าจะดูแลชิอะให้ดีขึ้น ฮาจิเมะที่ไม่มีความรู้สึกรักชิอะแม้แต่ตอนนี้คิดว่าท่ากับเธอเป็นแค่ญาติก็เพียงพอแล้ว.......อย่างไรก็ตามมันดูเหมือนว่ามันไม่ถูกต้องส่าหรับยูเอะ
"คุณฮาจิเมะ! ถ้ายังท่าท่าทางแบบนี้ละก็ ฉันจะไม่ท่าเนื้อย่างให้แล้ว!"
ดูเหมือนว่าช่วงนี้ชิอะจะไม่สลดง่ายๆแล้ว เธอไม่สะดุ้งกับกับค่าพูด ซึน-ของฮาจิเมะแม้แต่น้อย ถึงแม้เธอจะได้รับความกระทบกระเทือน เธอก็ฟื้นขึ้นมาทันทีและกลับมาจู่โจมอย่างแง่ดีต่อไป
"........อย่างที่เคยพูด เธอรู้จักฉากนี้.........ไม่ ช่างมันเถอะ ฉันเข้าใจแล้วดังนั้นจงยื่นเนื้อมาเร็วๆ"
"ฮุๆ นายต้องการกินมัน? ถะ-ถ้าอย่างนั้น อ~้าม"
"......."
ชิอะยื่นเนื้อย่างอย่างดีให้กับฮาจิเมะพร้อมกับท่าทางเขินอาย ดูเหมือนว่าเขาต้องการมันจริงๆ และนั่นท่าให้ฮาจิเมะช่าเลืองมองไปที่ยูเอะ ยูเอะนั้นยืนอยู่ข้างๆเขาพร้อมกับเนื้อย่างในมือเรียบร้อยแล้ว เป็นไปได้ว่าเธอจะป้อนหลังจากชิอะ "อ~้าม"
ฮาจิเมะถอนหายใจออกมาพร้อมกับรู้สึกถึงสายตาของเหล่านักผจญภัย เขาเปิดปากให้กับชิอะ สีหนา้ของชิอะนั้นเต็มไปด้วยความสุข
"อ~้าม"
"......."
ฮาจิเมะกันและเคี้ยวเนื้ออย่างเงียบๆ สีหน้าของชิอะนั้นเต็มไปด้วยความสุขในขณะที่มองฮาจิเมะ จากนั้นเนื้อย่างอีกอันก็ยื่นมาที่เขาจากอีกด้านหนึ่ง
"อ~้าม"
"......"
เขากัดและเคี้ยวอย่างเงียบๆอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็กัดของชิอะจากอีกด้านหนึ่งอีกครั้งและหันกลับไปกินของยูเอะอีกครั้ง
เส�