44
เอกสารประกอบการสอนเตรียมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555 สาระสาคัญและข้อสอบตามสาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จัดทาโดย ครูสุรชัย ผิวเหลือง

โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

Embed Size (px)

DESCRIPTION

ผิดพลาดประการใด ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ

Citation preview

Page 1: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

สาระส าคัญและข้อสอบตามสาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

รายวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

จัดท าโดย

ครูสุรชัย ผิวเหลือง

Page 2: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

สาระส าคัญ

สาระท่ี 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการด ารงชีวิต

มาตรฐาน ว 1.1 เข๎าใจหนํวยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร๎าง และหน๎าที่ของระบบตํางๆ

ของสิ่งมีชีวิตที่ท างานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู๎ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู๎และน าความรู๎ไปใช๎ใน

การด ารงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต

ตัวช้ีวัดที1่ ทดลองและอธิบายการรักษาดุลยภาพของเซลล์ของสิ่งมีชีวิต

Page 3: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ตัวอย่างข้อสอบ

1. ลอกผิวใบวํานกาบหอยแล๎วแชํลงในสารละลายน้ าตาลกลูโคส เมื่อน ามาสํองด๎วยกล๎องจุลทรรศน์เห็น

ลักษณะ ดังภาพ (O-NET 50)

สารละลายกลูโคสนี้เป็นสารละลายประเภทใด เมื่อเทียบกับสารละลายในเซลล์ผิวใบ

Page 4: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ก. สารละลายไฮโพโทนิค ข. สารละลายไอโซโทนิค

ค. สารละลายไฮเพอร์โทนิค ง. สารละลายซูเปอไอโซโทนิค

2. จาการตรวจเซลล์ 4 ชนิด พบสํวนประกอบดังนี้ (O-NET 49)

เซลล์ ผนังเซลล์ นิวเคลียส คลอโรพลาสต์

1. / - -

2. / / /

3. / / -

4. - / -

ข๎อใดเป็นเซลล์ที่มาจากพืช

ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3 ค. 3 และ 4 ง. 2 และ 4

3. ปรากฏการณ์ใดตํอไปนี้จะเกิดกับเซลล์พืชที่แชํในสารละลายไฮโพโทนิค (O-NET 49)

ก. เซลล์เตํง ข. เซลล์แตก ค. เซลล์เหี่ยว ง. เซลล์เหมือนเดิม

4. ข๎อใดตํอไปนี้อาศัยกระบวนการเอกโซไซโทซิส (O-NET 51)

ก. การท าลายเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว

ข. การน าอนุภาคขนาดใหญํเข๎าสูํเซลล์ของอะมีบา

ค.การขับเกลือแรํสํวนเกินออกทางเหงือกของปลาทะเล

ง. การหลั่งเอนไซม์ยํอยอาหารออกมาจากเยื่อบุผิวล าไส๎เล็ก

5. เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวน าแบคทีเรียเข๎าสูํเซลล์แลว๎ออร์แกเนลใดท าหน๎าที่ยํอยท าลายแบคทเีรียนั้น (O-NET 51)

ก. ไรโบโซม ข. ไลโซโซม

ค. ไมโทคอนเดรีย ง. กอลจิคอมเพลกซ์

Page 5: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

6. เมื่อน ากระเพาะปัสสาวะของสุกรมาบรรจุสารละลายน้ าตาล รัดปลายทั้งสองด๎านให๎แนํนและน าไปชั่ง

น้ าหนัก จากนั้นจึงน าไปแชํในน้ ากลั่นและชั่งน้ าหนักเป็นระยะๆ กราฟใดแสดงการเปลี่ยนแปลงน้ าหนักของ

กระเพาะปัสสาวะได๎ถูกต๎อง (O-NET 52)

ก. ข. ค. ง.

7. นักเรียนจะต๎องหยดเลือดลงในภาชนะบรรจุสารละลายที่มีความเข๎มข๎นเทําใด จึงจะท าให๎เซลล์เม็ดเลือด

แดงแตก (O-NET 52)

ก. 0.4 โมลาร์ ข. 0.6 โมลาร์ ค. 1.0 โมลาร์ ง. 1.6 โมลาร ์

8. ออร์แกเนลล์ใดในเซลล์พืชที่ไมํพบดีเอ็นเอ (O-NET 52)

ก. นิวเคลียส ข. แวคิวโอล ค. คลอโรพลาสต์ ง. ไมโทคอนเดรีย

9. เซลล์ที่มีสํวนประกอบดังตํอไปนี้ : ดีเอ็นเอ ไรโบโซม เยื่อหุ๎มเซลล์ เอนไซม์ และไมโทคอนเดรีย เป็นเซลล์

ของสิ่งมีชีวิตในข๎อใด (O-NET 53)

ก. แบคทีเรีย ข. พืชเทํานั้น

ค. สัตว์เทํานั้น ง. อาจเป็นได๎ทั้งพืชหรือสัตว์

10. เมื่อหยดน้ าเกลือลงบนสไลด์ที่มีใบสาหรํายหางกระรอกอยูํ จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์คล๎าย

กับท่ีเกิดขึ้นเมื่อหยดสารใดมากท่ีสุดและเกิดเร็วที่สุด (O-NET 53)

ก. น้ ากลั่น ข. น้ าเชื่อม ค. น้ านมสด ง. แอลกอฮอล์

Page 6: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ตัวช้ีวัดที่ 2 ทดลองและอธิบายกลไกการรักษาดุลยภาพของน้ าในพืช

กลไกส้าคัญในการรักษาดุลยภาพของน้้าในพืช คือ ควบคุมสมดุลระหว่างการคายน้า้ผ่านปากใบและการดูดน้า้

ที่ราก ถ้าคายน้้ามากก็ต้องดูดน้า้เข้าทางรากมากเช่นกัน ส่วนมากจะคายน้้าที่ปากใบ

การคายน้้าทางปากใบ เรียกว่า สโตมาทอล ทรานสพิเรชัน ( stomatal transpiration ) เป็นการคายน้้าที่

เกิดขึ้นมากถึง 90 %

ตัวอย่างข้อสอบ

11. ต๎นมะมํวงตอบสนองตํอภาวะแห๎งแล๎งเนื่องจากฝนไมํต๎องตกตามฤดูกาลอยํางไร (O-NET 50) ก. ทิ้งใบบางสํวน เพ่ือลดการคายน้ า

ข. รากใช๎พลังงานเพ่ิมขึ้น เพ่ือให๎สามารถดูดน้ าได๎

ค. ปากใบเปิดกว๎างมากข้ึน เพ่ือรับน้ าจากอากาศปาก

ง. ใบปิดเฉพาะเวลากลางคืน เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ า

Page 7: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

12. ข๎อใดตํอไปนี้เกี่ยวข๎องน๎อยที่สุดกับการปรับตัวเพ่ือลดการคายน้ าของพืช (O-NET 52)

ก. การมีเปลือกแข็งหุ๎มล าต๎น ข. การมีใบเข็มของต๎นกระบองเพชร

ค. การสังเคราะห์ด๎วยแสงในเวลากลางคืน ง. การมีปากใบด๎านหลัง (ventral) ใบของผักตบชวา

13. การหลั่งเพปซิโนเจนออกจากเซลล์ผนังกระเพาะอาหารอาศัยกระบวนการใด (O-NET 49)

ก.กระบวนการแพรํ ข.การล าเลียงแบบใช๎พลังงาน

ค. การล าเลียงแบบฟาซิลิเทต ง. กระบวนการเอกโซไซโทซิส

ตัวช้ีวัดที ่3 สืบค้นข้อมูลและอธิบายกลไกการควบคุมดุลยภาพของน้ า แร่ธาตุ และอุณหภูมิของมนุษย์

และสัตว์อ่ืน ๆ และน าความรู้ไปใช้ประโยชน์

Page 8: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

14. อวัยวะใดที่ไมํท าหน๎าที่ขับเกลือออกจากรํางกายของปลาทะเลสํวนใหญํ (O-NET 49)

ก. ไต ข. เหงือก ค. ผิวหนัง ง. ทวารหนัก

15. สัตว์ข๎อใดที่อุณหภูมิรํางกายแปรผันตามอุณหภูมิของสิ่งแวดล๎อม (O-NET 50)

ก. ม๎าน้ า ข. แมวน้ า ค. นกเป็ดน้ า ง. หมูน้ า

16. สัตว์ชนิดใดที่ไมํมีกลไกการักษาอุณหภูมิของรํางกายให๎คงท่ี อุณหภูมิของรํางกายจึงแปรผันไปตามอุณหภูมิ

ของสิ่งแวดล๎อม (O-NET 51)

ก. พยูน ข. จระเข๎ ค. ปลาวาฬ ง. นกเพนกวิน

Page 9: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

17. ก. และ ข.เป็นกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหวํางอุณหภูมิรํางกายและอุณหภูมิสิ่งแวดล๎อมของสัตว์ชนิดใด

ตามล าดับ (O-NET 50)

ก. เตํา และ โลมา ข. ปลาฉลาม และ คน

ค. หนูและ นกเพนกวิน ง. นกกางเขน และ กิ้งกํา

18. ข๎อใดกลําวถึงการรักษาดุลยภาพของน้ าและแรํธาตุของปลาน้ าจืดได๎ถูกต๎อง

ก. ไตขับปัสสาวะเจือจางและปริมาณน๎อย ข. ไตขับปัสสาวะเจือจางและปริมาณมาก

ค. ไตขับปัสสาวะที่มีความเข๎มข๎นและปริมาณน๎อย ง. ไตขับปัสสาวะที่มีความเข๎มข๎นสูงและปริมาณมาก

19. คอนแทร็กไทล์ แวคิวโอล (contractile vacuole) ที่พบในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ท าหน๎าที่ใด (O-NET 49)

ก. ยํอยอาหาร ข. ก าจัดกากอาหาร ค. ก าจัดน้ า ง. ข๎อ ข และ ค

20. หลังจากออกก าลังกายกลางแดดนานๆรํางกายมีกลไกในการรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิอยํางไร (O-NET 49)

ก. ลดอัตราเมแทบอลิซึมและหลอดเลือดขยายตัว ข. ลดอัตราเมแทบอลิซึมและหลอดเลือดหดตัว

ค. เพ่ิมอัตราเมแทบอลิซึมและหลอดเลือดขยายตัว ง. เพ่ิมอัตราเมแทบอลิซึมและหลอดเลือดหดตัว

21. ขณะที่สิ่งแวดล๎อมมีอุณหภูมิสูงขึ้น ข๎อใดเป็นสิ่งที่เกิดข้ึนในรํางกายของเรา (O-NET 51)

ข๎อ อัตราแทบอลิซึม หลอดเลือดฝอยที่ผิวหนัง กล๎ามเนื้อยึดโคนเส๎นขน

ก. สูงขึ้น ขยายตัว คลายตัว

ข. ลดลง ขยายตัว คลายตัว

ค. สูงขึ้น หดตัว หดตัว

ง. ลดลง หดตัว หดตัว

Page 10: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

22. สารใดที่ไมํพบในปัสสาวะของคนปกติ (O-NET 49)

ก. โปรตีน ข. ยูเรีย ค. ยูริก ง. เกลือโซเดียม

23. หลังการออกก าลังกายอยํางหนักเลือดในรํางกายจะมีสภาพอยํางไร (O-NET 51)

ก. เลือดมีสภาพเป็นเบส เพราะมี OH- ในเลือดต่ า ข. เลือดมีสภาพเป็นเบส เพราะมี OH- ในเลือดสูง

ค. เลือดมีสภาพเป็นกรด เพราะมี H+ ในเลือดต่ า ง. เลือดมีสภาพเป็นกรด เพราะมี H+ ในเลือดสูง

24. ข๎อใดแสดงสภาวะของเลือดในคนกํอนและหลังการออกก าลังกายใหมํๆ ไมํถูกต๎อง (O-NET 52)

คําท่ีวัด กํอนออกก าลัง

กาย

หลังออกก าลัง

กาย

ก คํา pH ของเลือด 7.4 7.8

ข ความเข๎มข๎นของออกซิเจน (หนํวย/ซม3) 30 20

ค ความเข๎มข๎นของคาร์บอนไดออกไซด์ (หนํวย/ซม3) 60 65

ง ความเข๎มข๎นของกรดแลกติก (หนํวย/ซม3) 15 35

25. โครงสร๎างของสิ่งมีชีวิตในข๎อใดตํอไปนี้ที่ไมํได๎ท าหน๎าที่ป้องกันการสูญเสียน้ าจากรํางกาย (O-NET 52)

ก. ขนนก ข. เกล็ดปลา

ค. ผนังล าตัวแมลง ง. เยื่อหุ๎มเซลล์พารามีเซียม

26. กระบวนการใดไมํพบในกระบวนการดูดน้ ากลับที่ทํอหนํวยไต (O-NET 53)

ก. การแพรํ ข. ออสโมซิส

ค. เอนโดไซโทซิส ง. การล าเลียงแบบใช๎พลังงาน

Page 11: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

27. พิจารณาแผนภาพข๎างลํางที่แสดงกลไกการรักษาสมดุลอุณหภูมิในรํางกายมนุษย์

การตอบสนองในข๎อใดไมํถูกต๎อง (O-NET 52)

ก. (ก) และ (ข) ข. (ค) และ (ฉ) ค. (ง) และ (ช) ง. (จ) และ (ซ)

28. เหตุใดผู๎ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์จึงมักปัสสาวะบํอยกวําปกติ (O-NET 53)

ก. ไตท างานอยํางมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ข. การหลั่งฮอร์โมนวาโซเปรสซินลดลง

ค. แอลกอฮอล์เป็นพิษตํอรํางกาย จึงถูกก าจัดทิ้งอยํางรวดเร็ว

ง. รํางกายควบคุมการท างานของกล๎ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะไมํได๎

29. การดื่มน้ าส๎มเป็นปริมาณมาก ท าให๎เลือดมีสภาวะเป็นกรดจริงหรือไมํ เพราะเหตุใด (O-NET 53)

ก. เป็นกรดจริง เพราะวิตามินซีละลายน้ าได๎

ข. เป็นกรดจริง เพราะน้ าส๎มมีรสเปรี้ยวและมีปริมาณกรดสูง

ค. ไมํเป็นกรด เพราะเลือดมีสมบัติเป็นสารละลายบัฟเฟอร์

ง. ไมํเป็นกรด เพราะรํางกายจะได๎รับอันตรายได๎หากเลือดมีสภาวะเป็นกรด

Page 12: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ตัวช้ีวัดที ่4 อธิบายเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและน าความรู้ไปใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพ

Page 13: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ตัวอย่างข้อสอบ

30. การรณรงค์ให๎เลี้ยงลูกด๎วยน้ านมแมํในระยะหลังคลอดเนื่องด๎วยเหตุผลส าคัญในข๎อใด (O-NET 49)

ก. น้ านมแมํมีโปรตีนสูง ข. น้ านมแมํไมํมีเชื้อโรค

ค. น้ านมแมํมีแอนติบอดี ง. น้ านมแมํมีแอนติเจน

31. วัคซีนที่ใช๎หลอดป้องกันโรคโปลิโอในเด็กเป็นสารใด (O-NET 49)

ก. แอนติบอดี ข. แอนติเจน ค. เอนไซม์ ง. แอนติไบโอติก

Page 14: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

32. ถ๎าตรวจเลือดแล๎วพบวําเม็ดเลือดขาวเพ่ิมมากขึ้นผิดปกติแสดงวําเป็นโรคใด (O-NET 50)

ก. เอดส์ ข.ติดเชื้อ ค. โลหิตจาง ง. ธาลัสซีเมีย

33. ข๎อใดเป็นความจริง (O-NET 51)

ก. ภูมิค๎ุมกันที่ทารกได๎จากแมํสามารถคุ๎มกันโรคได๎ทุกชนิด

ข. วัคซีนป้องกันโรคไทฟอยด์ผลิตจากจุลินทรีย์ที่มีชีวิต

ค. ม๎ามเป็นอวัยวะน้ าเหลืองขนาดใหญํที่สุดของมนุษย์

ง. สํวนประกอบหลักของเซรุํมคือสารพิษของจุลินทรีย์ที่หมดสภาพความเป็นพิษแล๎ว

34. อวัยวะในข๎อใดตํอไปนี้ไมํเป็นสํวนหนึ่งของระบบน้ าเหลืองในรํางกายมนุษย์ (O-NET 52)

ก. ม๎าม ข. ทอนซิล

ค. ตํอมไทมัส ง. ตํอมหมวกไต

35. เมื่อเชื้อโรคเข๎าสูํรํางกายคน รํางกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยสร๎างสารใดมาตํอสู๎ (O-NET 53)

ก. ซีรุํม ข. แอนติเจน ค. ทอกซอยด์ ง. แอนติบอดี

36. ข๎อใดเป็นแผนภาพการให๎เลือดที่ถูกต๎องตามหมูํเลือด (O-NET 50)

Page 15: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

มาตรฐาน ว1.2 เข๎าใจกระบวนการและความส าคัญของการถํายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการ

ของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช๎เทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบตํอ

มนุษย์และสิ่งแวดล๎อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู๎และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสาร สิ่งที่

เรียนรู๎ และน าความรู๎ไปใช๎ประโยชน์

ตัวชี้วัดที่ 1 อธิบายกระบวนการถํายทอดสารพันธุกรรม การแปรผันทางพันธุกรรม มิวเทชัน และการเกิด

ความหลากหลายทางชีวภาพ

Page 16: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

37. ข๎อความใดถูกต๎องเกี่ยวกับการแบํงเซลล์บริเวณปลายรากหอม (O-NET 51)

ก. เป็นการแบํงเซลล์แบบไมโอซิส ข. เมื่อสิ้นสุดการแบํงเซลล์จะได๎เซลล์ใหมํ 4 เซลล์

ค. เซลล์ใหมํที่เกิดขึ้นมีจ านวนโครโมโซมเทําเดิม ง. เซลล์ใหมํที่เกิดขึ้นจากการคอดของเยื่อหุ๎มเซลล ์

38. การสร๎างเซลล์สืบพันธุ์ของคนเกิดจากการแบํงเซลล์แบบใด (O-NET 49)

ก. ไมโทซิสที่มีการลดจ านวนโครโมโซม ข. ไมโทซิสที่ไมํมีการลดจ านวนโครโมโซม

ค. ไมโอซิสที่มีการลดจ านวนโครโมโซม ง. ไมโอซิสที่ไมํมีการลดจ านวนโครโมโซม

Page 17: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

39. สารพันธุกรรมเป็นสารประเภทใด (O-NET 49)

ก. ลิพิด ข.โปรตีน ค.คาร์โบไฮเดรต ง. กรดนิวคลีอิค

40. ข๎อใดไมํใชํองค์ประกอบของดีเอ็นเอ (O-NET 51)

ก. กรดอะมิโน ข. ไนโตรเจนเบส ค. หมูํฟอสเฟต ง. น้ าตาลเพนโทส

41. ชายคนหนึ่งมีลักษณะนิ้วเกินที่แตํงงานกับหญิงที่มีนิ้วปกติ มีบุตรชาย 1 คนและบุตรสาว 1 คน ที่มี

ลักษณะนิ้วเกินบุตรชายแตํงงานกับหญิงที่มีจ านวนนิ้วปกติและบุตรชาย 2 คน ที่มีจ านวนนิ้วปกติ ข๎อใดคือ

เพดดิกรีของครอบครัวนี้ (O-NET 49)

ก. ข.

ค. ง.

42. คนมีจ านวนโครโมโซมในเซลล์รํางกาย46 แทํง ระหวํางการแบํงเซลล์แตํละโครโมโซมประกอบด๎วย

กี่โครมาติด(O-NET 50)

ก. 2 ข. 23 ค. 46 ง. 92

43. ชายคนหนึ่งมีลักษณะผิวเผือกแตํงงานกับหญิงผิวปกติ มีบุตรชายผิวปกติ 1 คนและบุตรสาวผิวเผือก 1 คน

บุตรชายแตํงงานกับหญิงผิวปกติและมีบุตรสาว 2 คน ที่มีผิวปกติข๎อใดคือเพดดีกรีของครอบครัวนี้ (O-NET 51)

ก. ข.

ค. ง.

Page 18: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

44. จากเพดดิกรีตาบอดสีตํอไปนี้ ข๎อใดคือ จีโนไทป์ของบุคคลที่ 2 ในรุํนที่ I (O-NET 50)

ก. XCXC ข. XCXc ค. XCY ง. XcY

45. สามีภรรยาคูํหนึ่งเป็นพาหะของธาลัสซีเมียที่เหมือนกัน โอกาสที่ลูกคนแรกจะเป็นธาลัสซีเมียมีเทําใด

(O-NET 49)

ก. 2

1 ข. 3

1 ค.4

1 ง. 4

3

46. สามีภรรยาคูํหนึ่งเป็นพาหะของธาลัสซีเมียที่เหมือนกัน โอกาสที่ลูกคนแรกจะไมเ่ป็นธาลัสซีเมียมีเทําใด

(O-NET 51)

ก. 2

1 ข. 3

2 ค. 4

3 ง. 4

1

47. ลักษณะผิวเผือกควบคุมโดยยีน a ที่อยูํบนออโตโซม สํวนลักษณะผิดปกติควบคุมโดยยีน A ครอบครัวหนึ่ง

พํอแมํผิวปกติมีบุตรคนแรกลักษณะผิวเผือกโอกาสที่บุตรคนตํอไปจะมีฟีโนไทป์ปกติเทําใด (O-NET 50)

ก. 0% ข.20% ค.25% ง. 75%

48. ลักษณะพันธุกรรมของคนในข๎อใด ที่มียีนควบคุมอยูํบนออโตโซม (autosome) (O-NET 49)

ก. โรคธาลัสซีเมีย ข. โรคฮีโมฟิเลีย(โรคเลือดไหลไมํหยุด)

ค. ตาบอดสี ง. ภาวะพรํองเอนไซม์กลูโคส-6-ฟอตเฟต ดีไฮโดรจีเนส

49. ลักษณะพันธุกรรมของคนในข๎อใด ที่ไมํมียีนอยูํบนโครโมโซมเพศ (O-NET 51)

ก. ลักษณะผิวเผือก ข. ตาบอดสี

ค. ลักษณะนิ้วเกิน ง.โรคธาลัสซีเมีย

Page 19: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

50. ลักษณะตาบอดสีพบในเพศชายมากกวําเพศหญิง เพราะเหตุใด (O-NET 49)

ก. ลักษณะตาบอดสีเกิดจากยีนด๎อยบนโครโมโซม X และเพศชายมีโครโมโซม X เพียง 1 โครโมโซม

ข. ลักษณะตาบอดสีเกิดจากยีนเดํนบนโครโมโซม X และเพศชายมีโครโมโซม X เพียง 1 โครโมโซม

ค. ลักษณะตาบอดสีเกิดจากยีนด๎อยบนโครโมโซม Y และแสดงออกเมื่อมีฮอร์โมนเพศชาย

ง. ลักษณะตาบอดสีเกิดจากยีนเดํนบนโครโมโซม Y และแสดงออกเม่ือมีฮอร์โมนเพศชาย

51. หมูํเลือดของพํอแมํคํูใดที่ลูกทุกคนจะมีหมูํเลือดเดียวกัน (O-NET 50)

ก. A X A ข. B X B ค. AB X AB ง. O X O

52. พํอมีหมูํเลือด O แมํมีหมูํเลือด AB ลูกของพํอแมํคูํนี้จะมีหมูํเลือดใดได๎บ๎าง (O-NET 49)

ก. หมูํ A หรือ AB ข. หมูํ B หรือ AB

ค. หมูํ A หรือ B ง. หมูํ O หรือ AB

53. หญิงหมูํเลือด A มีลูกหมูํเลือด O ซึ่งหญิงคนนี้ อ๎างวําเป็นลูกของชายที่มีหมูํเลือด AB ชายผู๎นี้สามารถ

ปฏิเสธข๎อกลําวหานี้ได๎หรือไมํ (O-NET 51)

ก. ปฏิเสธได๎ เพราะ จีโนไทป์ของชายคนนนี้ไมํมียีน i ข. ปฏิเสธได๎ เพราะ จีโนไทป์ของชายคนนนี้มียีน i ค. ปฏิเสธไมํได๎ เพราะ จีโนไทป์ของชายคนนนี้มียีน i ง. ปฏิเสธไมํได๎ เพราะ จีโนไทป์ของชายคนนนี้มียีน IA และ IB

54. ข๎อความในข๎อตํอไปนี้ ถกต๎องมากท่ีสุด (O-NET 51)

ก. มิวเทชันที่เกิดกับโครโมโซมเพศของเซลล์ใด ๆ จะถํายทอดไปยังลูกหลานได๎

ข. มิวเทชันที่เกิดกับโครโมโซมเพศของเซลล์รํางกายจะถํายทอดไปยังลูกหลานได๎

ค. มิวเทชันที่เกิดกับออโตโซมของเซลล์รํางกายจะถํายทอดไปยังลูกหลานได๎

ง. มิวเทชันที่เกิดกับโครโมโซมใด ๆ ของเซลล์สืบพันธุ์จะถํายทอดไปยังลูกหลานได๎

Page 20: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

55. ข๎อความใดตํอไปนี้ไม่ถูกต๎อง (O-NET 50)

ก. รังสีหรือสารเคมีบางชนิดท าให๎อัตราการเกิดมิวเทชันสูงขึ้น

ข. มิวเทชันที่เกิดกับโครโมโซมเพศเทํานั้นจึงจะถํายทอดให๎ลูกได๎

ค.มิวเทชันที่เกิดในเซลล์สืบพันธุ์จะถํายทอดไปรุํนลูกหลานได๎

ง. มิวเทชันเกิดข้ึนได๎กับสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติโดยไมํทราบสาเหตุ

56. การมิวเทชันตามธรรมชาติเกิดจากการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบใดของดีเอ็นเอ (O-NET 50)

ก. ชนิดของน้ าตาลเพนโทส ข. ล าดับเบสของนิวคลีโอไทป์

ค. จ านวนหมูํฟอตเฟต ง. จ านวนสายนิวคลีโอไทด์

57. ลักษณะทางพันธุกรรมในข๎อใดตํอไปนี้ถูกควบคุมด๎วยยีนบนออโตโซม (O-NET 52)

(1) ผมหยิก (2) ฮีโมฟิเลีย (3) หมูํเลือด AB (4) ตาบอดสี

ก. (1) และ (2) ข. (3) และ (4) ค. (1) และ (3) ง. (2) และ (4)

58. ถ๎าแมํมีหมูํเลือด AB และลูกมีหมูํเลือด A พํอจะมีหมูํเลือดใดได๎บ๎าง (O-NET 52)

ก. A หรือ O ข. A หรือ AB

ค. A หรือ B หรือ AB ง. AหรือBหรือABหรือO

59. ถ๎าสิ่งมีชีวิตไมํเกิดมิวเทชันเลย อาจจะเกิดเหตุการณ์ใดตํอไปนี้ (O-NET 52)

ก. สิ่งมีชีวิตบางชนิดอาจสูญพันธุ์ ข. จ านวนประชากรของสิ่งมีชีวิตจะคงที่

ค. จ านวนเผําพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตจะเทําเดิม ง. สิ่งมีชีวิตในอดีตและปัจจุบันไมํแตกตํางกัน

60. วิธีการขยายพันธุ์มะมํวงพันธุ์ดีในข๎อใดที่ท าให๎มีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์สูงที่สุด (O-NET 52)

ก. ติดตา ข. ตํอกิ่ง

ค. ตอนกิ่ง ง. เพาะเมล็ด

Page 21: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

61. ข๎อใดไมํถูกต๎องเกี่ยวกับดีเอ็นเอ (O-NET 53)

ก. ดีเอ็นเอพบได๎ในคลอโรพลาสต์

ข. ดีเอ็นเอท าหน๎าที่ก าหนดชนิดของโปรตีน

ค. สิ่งมีชีวิตแตํละชนิดมีปริมาณดีเอ็นเอไมํเทํากัน

ง. ไนโตรเจนเบสชนิดกวานีนและไซโทซีนจะจับคูํกันด๎วยพันธะคูํเสมอ

62. ถ๎าพํอมีหมูํเลือด B แมํมีหมูํเลือด A และมีลูกชายที่มีหมูํเลือด O โอกาสที่จะได๎ลูกสาวที่มีหมูํเลือด O เป็น

เทําใด (O-NET 53)

ก. 1/2 ข. 1/4 ค. 1/8 ง. 1/16

63. ข๎อใดไมํถูกต๎องเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมีย (O-NET 53)

ก. เป็นโรคโลหิตจางชนิดหนึ่ง

ข. ผู๎ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมียควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง

ค. เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร๎างโกลบิน

ง. ผู๎ที่ได๎รับแอลลีลผิดปกติจากพํอหรือแมํเพียงฝ่ายเดียวมีโอกาสเป็นโรคได๎

64. ข๎อใดถูกต๎องเกี่ยวกับมิวเทชัน (O-NET 53)

ก. มีอัตราการเกิดได๎สูงตามธรรมชาติ

ข. เกิดได๎ทั้งระดับโครโมโซมและดีเอ็นเอ

ค. เกิดข้ึนได๎เฉพาะในเซลล์ที่ก าลังแบํงตัว

ง. มิวเทชันในเซลล์ทุกชนิดสามารถถํายทอดไปยังรุํนลูกหลานได๎

Page 22: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ตัวชี้วัดที่ 2 สืบค้นข้อมูลและอภิปรายผลของเทคโนโลยี ชีวภาพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและน า

ความรู้ไปใช้ประโยชน์

65. สิ่งใดตํอไปนี้ไมํสามารถใช๎ในการตรวจลายพิมพ์ดีเอนเอเพ่ือใช๎พิสูจน์บุคคล (O-NET 50)

ก. กระดูก ข. เลือด ค. น้ าเหลือง ง. ปลายเส๎นผม

66. ข๎อใดตํอไปนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ผํานกระบวนการพันธุวิศวกรรม (O-NET 51)

ก. มะละกอพันธุ์ต๎านไวรัสที่ได๎จากการผสมและคัดเลือกพันธุ์

ข. ข๎าวพันธุ์ กข 6 ที่ได๎จากการปรับปรุงพันธุ์ข๎าวดอกมะลิ 105 ด๎วยรังสีแกมมา

ค. ฝ้ายบีทีซึ่งเป็นฝ้ายที่ได๎รับการถํายฝากยีนของแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis

ง. วัวนมชื่อ อิง ที่ได๎จากการโคลนโดยใช๎เซลล์ใบหู

67. การเปลี่ยนแปลงในข๎อใดที่เกิดขึ้นกับพืชดัดแปรพันธุกรรม(GMO) (O-NET 50)

1. มีจ านวนโครโมโซมเพ่ิมขึ้น 2. มียีนใหมํอยูํภายในเซลล์ 3. มีการสร๎างโปรตีนชนิดใหมํ

ก. 1 และ 2 ข.2 และ 3 ค. 1 และ 3 ง. 1 2 และ 3

68. สิ่งมีชีวิตในข๎อใดจัดเป็นจีเอ็มโอ (GMO) (O-NET 49)

ก. เซลล์แบคทีเรียที่มียีนอินซูลินของคน ข. ต๎นเปล๎าน๎อยท่ีได๎จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ค. พุทธรักษาพันธุ์กลายที่เกิดจากการฉายรังสี ง. แตงโมสี่เหลี่ยม

Page 23: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

69. จากพาดหัวขําวหนังสือพิมพ์วํา “นักวิชาการหวั่นตํางชาติแอบโคลนเงาะพันธุ์ใหมํ” ค าวําโคลน หมายถึง

(O-NET 49)

ก. น าต๎นเงาะพันธุ์ใหมํไปขยายพันธุ์โดยการตอน

ข. น าเงาะพันธุ์ใหมํไปตัดตํอยีนได๎เป็นพันธุ์ใหมํที่ดีขึ้น

ค. น าเงาะพันธุ์ใหมํ ไปผสมพันธุ์กับพันธุ์อ่ืนท าให๎ลักษณะดีขึ้น

ง. น าเมล็ดของเงาะพันธุ์ใหมํไปเพาะขยายพันธุ์

70. เทคโนโลยีชีวภาพในข๎อใดถือวําเป็นเทคโนโลยีที่เกําแกํที่สุด (O-NET 52)

ก. เทคโนโลยีการหมัก ข. เทคโนโลยีการถํายยีน

ค. เทคโนโลยีการผสมเทียม ง. เทคโนโลยีการผลิตวัคซีน

71. สมบัติของฝ้ายบีที (BT) คือข๎อใด (O-NET 52)

ก. ต๎านทานยาปราบวัชพืชในไรํฝ้าย ข. ปลูกได๎ในพ้ืนที่ที่มีความแห๎งแล๎ง

ค. ต๎านทานหนอนเจาะสมอฝ้าย ง. ต๎านทานโรคฝ้ายที่เกิดจากเชื้อไวรัส

72. ข๎อใดไมํถูกต๎องเกี่ยวกับการโคลน (O-NET 53)

ก. ได๎สัตว์ตัวใหมํที่มีเพศเดียวกับสัตว์ต๎นแบบ

ข. เป็นการสร๎างสัตว์ตัวใหมํโดยไมํต๎องอาศัยเซลล์สืบพันธุ์

ค. แฝดเหมือนคือตัวอยํางของการโคลนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

ง. แกะดอลลีเกิดจากการโคลนโดยใช๎เซลล์บริเวณเต๎านมเป็นต๎นแบบ

73. ข๎อใดจัดเป็นสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม (O-NET 53)

ก. แตงโมไมํมีเมล็ด ข. กล๎วยไม๎ที่ได๎จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ค. แบคทีเรียที่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ง. กล๎วยไม๎พันธุ์ใหมํที่ได๎จากการฉายรังสีแกมมา

Page 24: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

74. หลักฐานในข๎อใดที่ไมํสามารถใช๎ตรวจหาฆาตกรโดยใช๎ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ (O-NET 53)

ก. เส๎นผม ข. ลายนิ้วมือ ค. คราบอสุจิ ง. คราบเลือด

ตัวช้ีวัดที ่3 สืบค้นข้อมูลและอภิปรายผลองความหลากหลายทางชีวภาพที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

75. ข๎อใดไมํใชํลักษณะเฉพาะของไวรัส HIV (O-NET 51)

ก. ท าลายเซลล์เม็ดเลือดแดงทุกชนิด

ข. กลายพันธุ์ได๎งําย

ค. ถํายทอดทางเพศสัมพันธ์ หรือรับเลือดจากผู๎ติดเชื้อ

ง. เพ่ิมจ านวนโดยใช๎วัตถุดิบจากเซลล์ที่ถูกท าลาย

76. ไวรัสที่ท าให๎เกิดโรคไข๎หวักนก 2009 เป็นสายพันธุ์ใด (O-NET 50)

ก. H5 N1 ข. H5 N2 ค. H1 N5 ง. H2 N5

มาตรฐาน ว 2. 2 เข๎าใจสิ่งแวดล๎อมในท๎องถิ่น ความสัมพันธ์ระหวํางสิ่งแวดล๎อมกับสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์

ระหวํางสิ่งมีชีวิตตําง ๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู๎และจิตวิทยา

ศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู๎และน าความรู๎ไปใช๎ประโยชน์

Page 25: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

Page 26: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

Page 27: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ตัวช้ีวัดที ่1 อธิบายดุลยภาพของระบบนิเวศ

77. สายใยอาหารข๎างลํางนี้ ค. และ ง เป็นสิ่งมีชีวิตกลุํมใดตามล าดับ (O-NET 49)

ก. ผู๎ผลิต และผู๎บริโภค ข. ผู๎บริโภคท้ังพืชและสัตว์และผู๎ยํอยสลายอินทรียสาร

ค. ผู๎บริโภคพืชและผู๎บริโภคสัตว์ ง. ผู๎บริโภคท้ังพืชและสัตว์ และผู๎บริโภคสัตว์

78. แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหวํางการสังเคราะห์ด๎วยแสงและการหายใจ 1.และ 2. อาจเป็นสารใด

ตามล าดับ(O-NET 49)

ก. CO2, H2O ข. CO2, O2 ค. O2 , CO2 ง. H2O, O2

1.

2.

กระบวนการหายใจ กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง

Page 28: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

79. เมื่อน าเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยูํในสระน้ าทั่วไปมาตรวจหาปริมาณสารก าจัดแมลงหนึ่งที่ปนเปื้อนอยูํ

ในน้ า พบวํา มีการสะสมของสารนี้สูงสุดในปลาชํอนเสมอ แสดงวําปลาชํอนเป็น (O-NET 50)

ก. ผู๎บริโภคพืชล าดับแรกของโซํอาหาร ข. ผู๎บริโภคท้ังสัตว์และพืช

ค. ผู๎บริโภคสัตว์ล าดับแรกของโซํอาหาร ง. ผู๎บริโภคสัตวล์ าดับสุดท๎ายของโซํอาหาร

80. แก๏สในข๎อใดจัดเป็นแก๏สเรือนกระจก (O-NET 50)

ก. คาร์บอนไดออกไซด์ คลอโรฟลูออโรคาร์บอน มีเทน

ข. มีเทน คาร์บอนไดออกไซด์ ออกไซด์ของไนโตรเจน

ค. ไนโตรเจน ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์

ง. มีเทน ออกไซด์ของไนโตรเจน คลอโรฟลูออโรคาร์บอน

81. สายใยอาหารข๎างลํางนี้ ข. และ ง เป็นสิ่งมีชีวิตกลุํมใดตามล าดับ (O-NET 51)

ก. ผู๎ผลิต และผู๎บริโภคสัตว ์ ข. ผู๎บริโภคท้ังพืชและสัตว์และผู๎ยํอยสลายอินทรียสาร

ค. ผู๎บริโภคพืชและผู๎บริโภคสัตว์ ง. ผู๎บริโภคท้ังพืชและสัตว์ และผู๎บริโภคสัตว์

82. นักปักษีวิทยาศึกษาจ านวนประชากรนกบนเกาะช๎างโดยจับนกมาติดเครื่องหมาย 50 ตัว แล๎วปลํอยไป

หนึ่งเดือนตํอมา จับนกอีกครั้งได๎จ านวน 100 ตัว พบวําในจ านวนนี้มีนกที่ติดเครื่องหมายอยูํแล๎ว 2 ตัว ดังนั้น

ประชากรนกบนเกาะนี้มีจ านวนประมาณเทําใด (O-NET 52)

ก. 250 ตัว ข. 1,250 ตัว

ค. 2,500 ตัว ง. 10,000 ตัว

Page 29: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

83. ข๎อใดสนับสนุนค ากลําวที่วํา “ระบบนิเวศป่าฝนเขตร๎อน มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุด” (O-NET 52)

ก. ป่าลุํมน้ าอะเมซอนในอเมริกาใต๎เป็นถิ่นก าเนิดของปลาปิรันยา

ข. ป่าฝนเขตร๎อนมีฝนตกหนัก ความชื้นสูง และอุณหภูมิเฉลี่ย 25–27 °C

ค. ผืนป่าภาคใต๎ของไทยมีพืชเถาวัลย์ชื่อยํานลิเภากระจายอยูํทั่วไปถึง 200,000 ต๎น

ง. อุทยานแหํงชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธาน ีมีสัตว์เลี้ยงลูกด๎วยนม 93 ชนิดนก 153 ชนิด

สัตว์เลื้อยคลาน 69 ชนิด และสัตว์สะเทินน้ าสะเทินบก 27 ชนิด

84. แบคทีเรีย Escherichia coli ที่อาศัยในล าไส๎คน มีความสัมพันธ์แบบเดียวกับสิ่งมีชีวิตในข๎อใด (O-NET 52)

ก. ดอกไม๎กับแมลง ข. กล๎วยไม๎บนต๎นไม๎ใหญํ

ค. พยาธิใบไม๎ในตับกับมนุษย์ ง. แหนแดงกับไซยาโนแบคทีเรีย

85. ภาพปิรามิดนี้แสดงถึงจ านวนของสิ่งมีชีวิตในโซํอาหารใด (O-NET 52)

ก. หญ๎า → กระตําย → งู → เหยี่ยว

ข. หญ๎า → ตั๊กแตน → แมงมุม → กบ

ค. ต๎นไม๎ → เพลี้ย → ด๎วงเตําลาย → นก

ง. ต๎นไม๎ → หนอนผีเสื้อ → แตนเบียน → ผู๎ยํอยสลายอินทรียสาร

86. วัฎจักรของสารใดในระบบนิเวศท่ีมีความสัมพันธ์กับการเกิดฝนกรดมากท่ีสุด (O-NET 52)

ก. คาร์บอน ข. ก ามะถัน ค. แคลเซียม ง. ไฮโดรเจน

87. วิธีการในข๎อใดที่ใช๎ควบคุมโรคไวรัสในพืชได๎ผลดีที่สุด (O-NET 53)

ก. การเผาท าลายพืช ข. การฉีดวัคซีน

ค. การใช๎ยาปฏิชีวนะ ง. การเพ่ิมไนโตรเจนในดิน

Page 30: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

88. ในระบบนิเวศซึ่งประกอบด๎วย เหยี่ยว งู กระรอก หญ๎า และตั๊กแตน สิ่งมีชีวิตในข๎อใดมีมวลชีวภาพน๎อย

ที่สุด (O-NET 53)

ก. งู ข. เหยี่ยว

ค. หญ๎า ง. กระรอกและตั๊กแตน

ตัวช้ีวัดที ่2 อธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิต

89. ถ๎าต๎องการลดการท าลายโอโซนในบรรยากาศเราควรปฏิบัติอยํางไร (O-NET 49)

ก. ลดการตัดต๎นไม๎ ข. ลดการใช๎สาร CFC

ค. ลดการใช๎น้ ามัน ง. ลดการใช๎เชื้อเพลิงฟอสซิล

90. กระบวนการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบใดน าไปสูํการเกิดระบบนิเวศหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟบน

เกาะหนึ่ง (O-NET 53)

ก. แบบปฐมภูมิ ข. แบบทุติยภูมิ

ค. แบบตติยภูม ิ ง. แบบจตุรภูม ิ

ตัวชี้วัดที ่3 อธิบายความส าคญัของความหลากหลายทางชีวภาพ และเสนอแนะแนวทางในการดูแล และรักษา

91. ข๎อใดไมํนับวําเป็นสํวนหนึ่งของความหลากหลายทางชีวภาพ (O-NET 53)

ก. ความหลากหลายของสปีชีส์

ข. ความหลากหลายของพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิต

ค. ความหลากหลายของแหลํงที่อยูํของสิ่งมีชีวิต

ง. ความหลากหลายของสารเคมีตําง ๆ รอบสิ่งมีชีวิต

มาตรฐาน ว 2.2 เข๎าใจความส าคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช๎ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท๎องถิ่น

ประเทศ และโลกน าความรู๎ไปใช๎ในในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อมใน

ท๎องถิ่นอยํางยั่งยืน

Page 31: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ตัวช้ีวัดที ่1 วิเคราะห์สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล๎อมและทรัพยากรธรรมชาติในระดับท๎องถิ่น

ระดับประเทศ และระดับโลก

92. ดัชนีที่แสดงวําน้ าในแหลํงน้ าธรรมชาติมีคุณภาพดีคือข๎อใด (O-NET 52)

ก. น้ าที่มีคํา OD สูง ข. น้ าที่มีคํา COD สูง

ค. น้ าที่มีคํา BOD ต่ า ง. น้ ามีอุณหภูมิสูงและมีคํา DO ต่ า

93. ข๎อใดตํอไปนี้กลําวไมํถูกต๎องเก่ียวกับภาวะโลกร๎อน(O-NET 52)

ก. ภาวะโลกร๎อนมีผลน๎อยมากตํอการอยูํรอดของสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทร

ข. ภาวะโลกร๎อนท าให๎บริเวณที่ชุํมชื้นมีฝนตกมากข้ึน และเกิดพายุรุนแรง

ค. ภาวะโลกร๎อนท าให๎เกิดความแห๎งแล๎งจนอาจท าให๎บางพ้ืนที่กลายเป็นทะเลทราย

ง. ภาวะโลกร๎อนท าให๎สารประกอบมีเทนเยือกแข็งที่ฝังตัวอยูํในชั้นน้ าแข็งหลอมเหลวและระเหยเป็นแก๏สมากขึ้น

94. เมื่อมีสารประกอบไนเตรตและฟอสเฟตสะสมอยูํในแหลํงน้ าเป็นปริมาณมากปรากฏการณ์ใดจะเกิดขึ้นเป็น

อันดับแรก (O-NET 53)

ก. ปริมาณแพลงตอนสัตว์จะเพ่ิมข้ึน

ข. จ านวนของแพลงตอนพืช สาหรําย และพืชน้ าจะเพ่ิมขึ้น

ค. สารพิษตกค๎าง เชํน สารก าจัดแมลง จะมีปริมาณการสะสมสูงขึ้น

ง. ปริมาณสัตว์น้ า เชํน ปลา สัตว์ไมํมีกระดูกสันหลังอ่ืนๆ จะเพ่ิมข้ึน

95. สัตว์ป่าในข๎อใดมีสถานภาพปัจจุบันแตกตํางไปจากข๎ออื่นทั้งหมด (O-NET 53)

ก. พะยูน ช๎าง ข. ควายป่า กระทิง วัวแดง

ค. นกเจ๎าฟ้าหญิงสิรินธร กูปร ี ง. นกแต๎วแล๎วท๎องด า เลียงผา

Page 32: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

ตัวช้ีวัดที ่2 อภิปรายแนวทางในการป้องกัน แก๎ไข ปัญหา สิ่งแวดล๎อมและทรัพยากรธรรมชาติ

96. ทรัพยากรที่เกิดขึ้นทดแทนใหมํได๎ในข๎อใดที่มนุษย์น ามาใช๎ประโยชน์มากที่สุดในปัจจุบัน (O-NET 53)

ก. พลังงานน้ า ข. พลังงานลม

ค. พลังงานจากคลื่น ง. พลังงานแสงอาทิตย์

97. ค าวําการพัฒนาที่ยั่งยืนมีความหมายสอดคล๎องกับข๎อใดมากท่ีสุด

ก. การใช๎ทรัพยากรตามที่กฎหมายบัญญัติ ข. การใช๎ทรัพยากรหลายชนิดพร๎อมกัน

ค. การใช๎ทรัพยากรธรรมชาติอยํางประหยัดคุ๎มคํา ง. การใช๎ทรัพยากรธรรมชาติเพ่ือการอุตสาหกรรม

98. ปัญหาดินในประเทศไทยก าลังประสบปัญหาในข๎อใดมากท่ีสุด

ก. การปลูกพืชไมํถูกวิธี ข. การตกค๎างในดินของสารปราบศัตรูพืชและการใช๎ปุ๋ยเคมี

ค. ดินเปรี้ยวเพราะมีกรดก ามะถันมาก ง. การพังทลายของดินเนื่องจากการตัดไม๎ท าลายป่า

99. การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติหมายถึงอะไร

ก. การมีมาตรการเพื่อการป้องกันและคุ๎มครอง

ข. การควบคุมมิให๎มีการท าลายทรัพยากร

ค. การใช๎ทรัพยากรให๎มีคุณภาพตํอชีวิตมนุษย์

ง. การใช๎ทรัพยากรอยํางเหมาะสมโดยให๎เกิดสภาพสมดุล

100. ปรากฏการณ์ภาวะเรือนกระจกและภาวะโลกร๎อนมีผลกระทบตํอประเทศไทยในข๎อใด

ก. สัตว์ป่าถูกท าลายและไมํมีที่อยูํอาศัย

ข. ฝนแล๎งรุนแรงและอาจตกรุนแรงไมํตามฤดูกาล

ค. เหตุการณ์สึนามิ

ง. การย๎ายถิ่นของประชากร

*************************

Page 33: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

เฉลย

1. ข๎อ ค จากรูปใบวํานกาบหอยที่แชํในสารละลายน้ าตาลกลูโคสจะเห็น cell membrane

แยกออกหํางจาก cell wall ก๎อน protoplasm ยุบปริมาตรลงแสดงวําเซลล์เสียน้ า

(เกิด Plasmolysis)เซลล์ต๎องแชํในสารละลายที่เข๎มข๎น (Hypertonic solution)

2. ข๎อ ข เซลล์พืชจะมี cell wall มี chloroplast และมี Nucleus ยกเว๎นเซลล์บางเซลล์ อาจ

ไมํมีคลอโรพลาสต์ เชํน เซลล์รากพืช

3. ข๎อ ก ปรากฎการณ์ที่ เกิดกับเซลล์พืชที่แชํในสารละลายเจือจาง (Hypotonic solution)

คือเซลล์จะเตํง (plasmoptysis)

4. ข๎อ ง กระบวนการ exocytosis คือ การหลั่งสารโมเลกุลใหญํออกจากเซลล์ เชํน การหลั่ง

เอนไซม์ที่ท าหน๎าที่ยํอยอาหาร การหลั่งฮอร์โมน

5. ข๎อ ข ภายในเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดที่กินแบคทีเรีย ภายในเซลล์จะมีไลโซโซมจ านวนมากโดย

ภายในไลโซโซมจะมีน้ ายํอยพวกไฮโดรไลติกเอนไซม์ยํอยเซลล์แบคทีเรียและไมํสามารถ

ท าให๎เกิดโรคได๎

6. ข๎อ ค จากกราฟจะเห็นได๎วํา เมื่อน ากระเพาะปัสสาวะสุกรที่บรรจุด๎วยสารละลายน้ าตาลไปแชํ

ในน้ ากลั่นจะพบวําในชํวงแรกน้ าจะแพรํเข๎าไปในกระเพาะปัสสาวะเป็นจ านวนมาก

น้ าหนักจึงเพ่ิมขึ้นอยํางรวดเร็ว ตํอมาน้ าจะแพรํ เข๎าน๎อยลง น้ าหนักจะเพ่ิมขึ้นน๎อย

เนื่องจากสารละลายน้ าตาลเจือจางลงและกระเพาะปัสสาวะนั้นจะตึงตัวมากขึ้นเกิดแรง

ต๎านในที่สุดจะเกิดสภาพสมดุล

7. ข๎อ ก น้ าเกลือที่มีความเข๎มข๎นเทํากับเลือดมีความเข๎มข๎น 0.85% ดังนั้นสารละลายที่จะท าให๎

เม็ดเลือดแดงแตกได๎ ต๎องมีความเข๎มข๎นน๎อยกวํา 0.85% เชํน น้ ากลั่น หรือน้ าประปาใน

ที่นี้ 0.4 โมลาร์ เป็นคําที่ต่ าท่ีสุดจึงมีโอกาสท าให๎เม็ดเลือดแดงแตกได๎งํายที่สุด

8. ข๎อ ข ดีเอ็นเอ จะพบได๎ในนิวเคลียส คลอโรพลาสต์ ไมโทคอนเดรีย แตํจะไมํพบในแวคิวโอล

เพราะแวคิวโอลไมํได๎มีปฏิกิริยาที่เฉพาะเจาะจง แตํมีหน๎าที่สะสมอาหาร สะสมสารละลาย

และก าจัดของเสียในรูปของสารละลาย

Page 34: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

9. ข๎อ ค เซลล์ที่มีสํวนประกอบดังกลําวนําจะเป็นเซลล์ของสัตว์ เนื่องจากไมํมีสํวนประกอบใดที่

แสดงวําเป็นเซลล์ของพืชเลย ส าหรับแบคทีเรีย ไมํมี mitochondria

10. ข๎อ ข การหยดแอลกอฮอล์ ลงบนสไลด์ ที่มีใบสาหรํายหางกระรอกจะมีผลท าให๎ใบสาหรํายหาง

กระรอกเหี่ยวลง (คล๎ายหยดน้ าเกลือ) แตํแอลกอฮอล์ จะดึงน้ าออกท าให๎เซลล์เหี่ยวคล๎าย

หยดน้ าเชื่อมแตํเร็วกวํา

11. ข๎อ ก การป้องกันตนเองของพืชเมื่อขาดน้ า คือ ใบเหี่ยว หรือท้ิงใบบางสํวนเพื่อลดการคายน้ า

ทางปากใบจะปิดเนื่องจากแรงดันเตํงมีน๎อยจะท าให๎สงวนรักษาน้ าไว๎ในต๎น

12. ข๎อ ง การมีปากใบทางด๎านหลังใบของผักตบชวาไมํได๎ปรับตัวเพ่ือลดการคายน้ าของพืช แตํเป็น

การปรับตัวให๎คายน้ าได๎มากข้ึน เนื่องจากผักตบชวาเป็นพืชลอยน้ าได๎รับน้ ามากจึงต๎อง

ก าจัดน้ าสํวนเกิน มีปากใบทางด๎านหลังใบน้ าระเหยเร็วขึ้น

13. ข๎อ ง การหลั่งเอนไซม์ เชํน เพปซิโนเจน เป็นสารโมเลกุลใหญํ จะใช๎วิธีเอกโซไซโทซิส การหลั่ง

สารโมเลกุลใหญํ อื่นๆ เชํน ฮอร์โมน ก็ใช๎วิธีนี้เชํนเดียวกัน

14. ข๎อ ค ปลาทะเลสูญเสียเกลือแรํให๎แกํน้ าทะเลทางเหงือกซึ่งสัมผัสกับน้ าทะเล ดังนั้นเหงือกปลา

ทะเลจะท าหน๎าที่ดูดซึมเกลือแรํเข๎าสูํรํางกาย เพ่ือชดเชยเกลือแรํที่เสียไป ไตและทวารหนัก

จะท าหน๎าที่ขับเกลือออกจากรํางกายสํวนผิวหนัง ซึ่งมีเกล็ดหรือเมือกลื่นจะไมํท าหน๎าที่ก าจัด

เกลือ

15. ข๎อ ก ม๎าน้ าเป็นปลากระดูกแข็ง จัดเป็นสัตว์ เลือดเย็นเชํนเดียวกับสัตว์ครึ่ งน้ าครึ่ งบอก

สัตว์เลื้อยคลาน อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ไปตามสภาพสิ่งแวดล๎อมไมํสามารถควบคุม อุณหภูมิ

ของรํางกายให๎คงท่ีอยูํได ๎

16. ข๎อ ข สัตว์ที่ไมํมีกลไกรักษาอุณหภูมิของรํางกายให๎คงท่ี คือ สัตว์เลือดเย็น ได๎แกํ สัตว์ครึ่งน้ าครึ่งบก

และสัตว์เลื้อยคลาน ในที่นี้ ได๎แกํ จระเข๎

17. ข๎อ ง ก. คือ สัตว์เลือดอํุน คือ สัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด๎วยนม ในที่นี้ คือ นกกางเขน

ข. คือ สัตว์เลือดเย็น คือ สัตว์ครึ่งน้ าครึ่งบก และสัตว์เลื้อยคลาน ในที่นี้ คือ กิ้งกํา

Page 35: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

18. ข๎อ ข ปลาน้ าจืดจะได๎รับน้ าจากแหลํงน้ าที่มันอาศัยอยูํทางเหงือกเสมอ ดังนั้นเพ่ือให๎แรงดัน

ออสโมติกสมดุลอยูํได๎ ปลาน้ าจืดจึงต๎องขับปัสสาวะจ านวนมากออกทางไตและปัสสาวะนั้น

จะเจือจาง เพราะปลาได๎รับน้ ามากความเข๎มข๎นของปัสสาวะจึงต่ า

19. ข๎อ ค คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล จะพบมากในโพรโทซัวน้ าจืด มีหน๎าที่ก าจัดน้ าสํวนเกินและและของ

เสียที่เกิดจากเมแทบอลิซึม (ไมํใชํกากอาหาร) ออกจากเซลล์

20. ข๎อ ก เมื่อออกก าลังกายนาน ๆ อุณหภูมิของรํางกายจะสูงขึ้นเมื่อพักอัตราเมแทบอลิซึมจะลดลง

หลอดเลือดที่ผิวหนังจะขยายตัว เลือดมาเลี้ยงผิวหนังมากขึ้นท าให๎หลั่งเหงื่อมากขึ้น อุณหภูมิ

ของรํางกายจึงลดลง

21. ข๎อ 2 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นศูนย์ควบคุมระดับอุณหภูมิในไฮโพทาลามัสจะสั่งการไปยังอวัยวะแสดงผล

ให๎ลดเมแทบอลิซึมลง หลอดเลือดที่ผิวหนังขยายตัว เลือดไปเลี้ยงผิวหนังมากขึ้นท าให๎หลั่ง

เหงื่อมากขึ้น และกล๎ามเนื้อยึดโคนเส๎นขนคลายตัว เส๎นขนราบท าให๎ความร๎อนระบายออก

ได๎มากยิ่งขึ้น

22. ข๎อ 1 สารโปรตีนเป็นสารโมเลกุลขนาดใหญํไมํสามารถผํานกรองที่โกลเมอรูลัสได๎ จึงไมํพบใน

ปัสสาวะของคนปกติ แตํอาจพบในปัสสาวะของคนท่ีเป็นโรคเก่ียวกับไตได๎

23. ข๎อ ง เลือดมีสภาพเป็นกรดเพ่ิมมากขึ้น เนื่องจากเมื่อออกก าลังกายอยํางหนักจะมีการสะสม

คาร์บอนไดออกไซด์

24. ข๎อ ก คํ า pH ของ เ ลื อดกํ อนออกก าลั ง ก าย เทํ า กับ 7 . 4 เ มื่ อ ออกก าลั ง ก ายปริ ม าณ

คาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดจะเพ่ิมมากข้ึนท าให๎ pH ของเลือดลดลงไมํใชํ pH เพ่ิมเป็น 7.8

25. ข๎อ ง ขนนก เกล็ดปลา ผนังล าตัวแมลง มีหน๎าที่ปกป้องคุ๎มครองรํางกายของสัตว์แตํละชนิด

นอกจากนี้ยังป้องกันการสูญเสียน้ าให๎แกํรํางกายด๎วย สํวนเยื่อเซลล์ของพารามีเซียมน้ าจะ

แพรํเขาหรือออกจากเซลล์ได๎ตามสภาพของสิ่งแวดล๎อมที่เซลล์พารามีเซียมอยูํ

26. ข๎อ ง กระบวนการแพรํ การออสโมซิส และเอนโดไซโทซิส สามารถพบได๎ในกระบวนการดูดน้ า

กลับที่ทํอหนํวยไต ยกเว๎น การล าเลียงแบบใช๎พลังงาน เพราะการดูดน้ ากลับไมํต๎องใช๎

พลังงาน

Page 36: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

27. ข๎อ ง ข๎อที่อธิบายผิด คือ จ และ ซ โดย เมื่ออากาศหนาวอัตราเมแทบอลิซึมจะเพ่ิมขึ้น เพ่ือเพ่ิม

อุณหภูมิให๎แกํรํางกาย สํวนเส๎นขนลุกชันและเส๎นเลือดฝอยหดตัวเพ่ือป้องกันการสูญเสีย

ความร๎อน เมื่ออากาศร๎อน อัตราเมแทบอลิซึมจะลดลง เพ่ือลดอุณหภูมิให๎แกํรํางกาย สํวน

เส๎นขนนอนราบและเส๎นเลือดฝอยขยายตัวก็เพ่ือระบายความร๎อนออกจากรํางกายเพ่ือลด

อุณหภูมิ

28. ข๎อ ข แอลกอฮอล์ยับยั้งการหลั่งฮอร์โมน วาโซเปรสซิน จึงมีผลท าให๎ทํอหนํวยไตด๎านไกลและทํอ

รวมดูดน้ ากลับได๎น๎อยลง จึงมีอาการปัสสาวะบํอยกวําปกติ

29. ข๎อ ค เลือดของคนเรามีสมบัติเป็นสารละลายบัฟเฟอร์ จะชํวยปรับ pH ของเลือดให๎อยูํที่ประมาณ

7.4 การดื่มน้ าส๎มปริมาณมากจะไมํมีผลท าให๎เลือดมีสภาวะเป็นกรด

30. ข๎อ ค น้ านมแมํหลังคลอดจะมีสารซึ่งเป็นภูมิค๎ุมกันอยูํด๎วย เรียกวํา นมน้ าเหลือง

31. ข๎อ ข วัคซีน คือ เชื้อจุลินทรีย์ที่ท าให๎หมดพิษหรือตายแล๎วจัดเป็นสารแอนติเจนเพ่ือกระตุ๎นให๎

รํางกายสร๎างแอนติบอดีข้ึนมาตํอต๎าน ดังนั้น เมื่อได๎รับเชื้อจริงจึงไมํเป็นอันตราย

32. ข๎อ ข การที่เม็ดเลือดขาวเพ่ิมข้ึนแสดงวํา รํางกายต๎องติดเชื้อ เชํน แบคทีเรีย รา เพราะวําเม็ดเลือด

ขาวมีหน๎าที่ตํอต๎านเชื้อโรคตําง ๆ ที่เข๎าสูํรํางกาย ดังนั้นเมื่อติดเชื้อเม็ดเลือดขาวจึงต๎อง

ท างานมากข้ึนและเพ่ิมจ านวนขึ้น

33. ข๎อ ค ม๎ามเป็นอวัยวะน้ าเหลืองที่มีขนาดใหญํที่สุดของมนุษย์ โดยอวัยวะน้ าเหลือง ได๎แกํ ตํอม

น้ าเหลือง ตํอมทอนซิลและม๎าม

34. ข๎อ ง อวัยวะที่เป็นสํวนหนึ่งของระบบน้ าเหลือง คือ ม๎าม ตํอมน้ าเหลือง ตํอมทอนซิล ตํอมไทมัส

สํวนตํอมหมวกไตอยูํในระบบตํอมไร๎ทํอท าหน๎าที่สร๎างฮอร์โมน

35. ข๎อ ง เมื่อเชื้อโรคเข๎าสูํรํางกายของคนเรา รํางกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยการสร๎างสาร

แอนติบอดี มาตํอสู๎กับเชื้อโรค

36. ข๎อ ค. เหตุผล การให๎เลือดท่ีถูกต๎อง

- หมูํ O ให๎ได๎ทุกหมูํ (ผู๎ให๎เลือดสากล)

- หมูํ AB ผู๎รับเลือดสากล

- ตรงกับแผนภาพที่ 3

Page 37: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

37. ข๎อ ค. เหตุผล เซลล์ปลายราก ถือเป็นเซลล์รํางกาย (Somatic cell) ของพืช ดังนั้นการแบํงเซลล์

บริเวณปลายรากหอม ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเจริญ จึงเป็นการแบํงเซลล์แบบ mitosis ผลที่ได๎คือ

เซลล์ใหมํ 2 เซลล์ซึ่งมีจ านวนโครโมโซมเทําเดิม (2n 2n)

38. ข๎อ ค. เหตุผล เซลล์สืบพันธุ์ ถูกสร๎างโดยการแบํงเซลล์แบบไมโอซิส ซึ่งมีการแบํงนิวเคลียส 2 ครั้ง

คือ ไมโอซิส I (แบํงฮอมอโลกัสโครโมโซม)และไมโอซิส II (แบํงโครมาทิด) ท าให๎ได๎เซลล์ลูกที่

มีจ านวนโครโมโซมลดลงครึ่งหนึ่ง (2n 2n)

39. ข๎อ ง. เหตุผล สารพันธุกรรม คือ โมเลกุล DNA (deoxyribonucleic acid) เป็นสารโมเลกุลที่

เรียกวํา กรดนิวคลีอิก (พอลินิวคลีโอไทด์) ที่เป็นสายยาวแตํขดกันแนํนกลายเป็นแทํง

โครโมโซมในนิวเคลียสของเซลล์

40. ข๎อ ก. เหตุผล DNA เป็นสารโมเลกุลใหญํที่เรียกวํา กรดนิวคลีอิก มีโครงสร๎างประกอบด๎วย

พอลินิวคลีโอไทด์ 2 สาย ที่มีกลุํมไนโตรจีนัสเบสจับกัน ท าให๎มีลักษณะเป็นเส๎นเกลียวคูํ

นวิคลีโอไทด์แตํละกลุํม ประกอบด๎วย 3 กลุํม กลุํมฟอสเฟต 1 กลุํม กลุํมน้ าตาลเพนโทส

1 กลุํม กลุํมไนโตรจีนัสเบส 1 กลุํม

41. ข๎อ ค. เหตุผล นิ้วเกิน เป็นโรคพันธุกรรมที่เกิดจาก ยีนเดํนบนออโตโซม ดังนั้นลักษณะนิ้วเกินไมํ

เกี่ยวกับเพศ

42. ข๎อ ก. เหตุผล ในการแบํงเซลล์รํางกาย (ไมโทซิส) เซลล์ตั้งต๎น 1 เซลล์ แบํงเซลล์แล๎วได๎เซลล์ลูก 2

เซลล์ที่ยังคงมีจ านวนโครโมโซมเทําเดิม เนื่องจากกํอนการแบํงเซลล์ ในระยะอินเทอร์เฟส

เซลล์มีการเตรียมพร๎อมโดยสังเคราะห์สารตํางๆที่จ าเป็นส าหรับการแบํงเซลล์ โดยเฉพาะการ

จ าลองตัวเองของดีเอ็นเอเพ่ิมข้ึนอีก 1 ชุด

43. ข๎อ ง. เหตุผล เพดดิกรี คือ การเขียนแผนผังแสดงการถํายทอดลักษณะพันธุกรรม โดยใช๎สัญลักษณ์

แทนบุคคลตํางๆในครอบครัว ดังนั้น พํอผิวเผือกแตํงงานกับหญิงผิวปกติ 1 คน และบุตรสาว

ผวิเผือก 1 คน และบุตรชายผิวปกติแตํงงานกับหญิงผิวปกติ มีบุตรสาวผิวปกติ 2 คน จะ

เขียนเพดดิกรีของครอบครัวนี้ ได๎ดัง ข๎อ ง.

44. ข๎อ ข. เหตุผล ยีนตาบอดสี ถูกควบคุมโดยยีนด๎อยบนโครโมโซม X จากเพดดิกรีจะเห็นได๎วํา บุคคล

ในรุํน II ลูกชาย(1)ตาบอดสี สํวนลูกสาว(2)ตาปกติ และเนื่องจากยีนตาบอดสีเป็นยีนด๎อยที่อยูํ

Page 38: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

บนโครโมโซม X แสดงวําลูกชายได๎รับการถํายทอดยีนตาบอดสีมาจากแมํ นั่นคือ แมํเป็น

พาหะของตาบอดสี ดังนั้น จีโนไทป์ของแมํ จึงเป็นข๎อ ข.

45. ข๎อ ค. เหตุผล โรคธาลัสซีเมีย เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมโดยยีนบนออโตโซม

(autosome) ดังนั้นสามี ภรรยาเป็นพาหะ และหาโอกาสที่ลูกคนแรกเป็นธาลัสซีเมียได๎

ดังนี้

รุํนพํอแม ํ Tt(พาหะ) x Tt(พาหะ)

เซลล์สืบพันธุ์ T t T t

ลูกผสม TT 2Tt tt

(ปกติ) (ปกต-ิพาหะ) เป็นโรค

ดังนั้น โอกาสที่ลูกคนแรกเป็นโรค มีโอกาสเป็น 1 ใน 4

46. ข๎อ ค. เหตุผล โรคธาลัสซีเมีย เป็นลกัษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมโดยยีนบนออโตโซม

(autosome) ดังนั้นสามีภรรยาเป็นพาหะ และหาโอกาสที่ลูกคนแรกเป็นธาลัสซีเมียได๎

ดังนี้

รุํนพํอแม ํ Tt(พาหะ) x Tt(พาหะ)

เซลลส์บืพันธุ์ T t T t

ลูกผสม TT 2Tt tt

(ปกติ) (ปกต-ิพาหะ) เป็นโรค

ดังนั้น โอกาสที่ลูกคนแรกจะไมํเป็นโรค มีโอกาสเป็น 1 ใน 4

47. ข๎อ ง. เหตุผล ลักษณะผิวเผือก เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจาก ยีนด๎อยบนออโตโซม

พํอแมํผิวปกติ แตํมีบุตรคนแรกผิวเผือก แสดงวํา ทั้งพํอและแมํมียีนผิวเผือกแฝงอยูํ

จีโนไทป์ ของพํอ แมํ คือ Aa ดังนั้น ลูกที่มีผิวปกติ มีโอกาส 3 ใน สี หรือ 75 %

รุํนพํอแมํ Aa x Aa

เซลลส์ืบพันธุ์ A a A a

ลูกผสม AA 2Aa aa

Page 39: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

(ปกติ) (ปกติ) เผือก

ดังนั้น โอกาสที่ลูกผิวปกติ มีโอกาสเป็น 3 ใน 4 หรือ 75 %

48. ข๎อ ก. เหตุผล โรคธาลัสซีเมีย เป็นลกัษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมโดยยีนบนออโตโซม

(autosome) สํวนตาบอดสี โรคฮีโมฟิเลีย และภาวะพรํองเอนไซม์กลูโคส – 6 – ฟอสเฟต

ดีไฮโดรจีเนส เป็นการถํายทอดพันธุกรรมโดยติดมากับเพศ โดยเป็นยีนด๎อยบน X –

Chromosome

49. ข๎อ ค. เหตุผล ตาบอดสี เป็นโรคพันธุกรรมที่เกิดจาก ยีนด๎อยบนโครโมโซมเพศ

50. ข๎อ ก. เหตุผล ยีนตาบอดสี ควบคุมโดยยีนด๎อยบนโครโมโซม X ลูกชายได๎รับโครโมโซม Y จาก

พํอ ดังนั้นได๎รับ X จากแมํเพียงยีนเดียว ก็จะมีลักษณะตาบอดสี

51. ข๎อ ง. เหตุผล พํอแมํที่มีหมูเลือด O ทั้งคํู (จีโนไทด์ ii) จะมีลูกหมูํเลือด O เหมือนกันทุกคน

52. ข๎อ ค. เหตุผล จากโจทย์พํอมีโอกาสมี genetypeแบบเดียว คือ ii สํวนแมํมี genotype แบบ

เดียวเชํนเดียวกัน คือ

IAIB ดังนั้นเมื่อผสม ลูกที่ได๎จะมีโอกาสได๎ เลือดหมูํ A หรือ B เทํานั้น

53. ข๎อ ก. เหตุผล ถ๎าแมํมีเลือดหมูํ A พํอมีเลือดหมูํ AB ลูกจะมีเลือดหมูํ A,B และ AB เทํานั้น ไมํมี

โอกาสที่จะมีเลือดหมูํ O เพราะพํอไมํมีจีโนไทด์ i

54. ข๎อ ง. เหตุผล มิวเทชัน คือ การเปลี่ยนแปลงที่โครโมโซม หรือการเปลี่ยนแปลงที่ล าดับเบสของ

DNA ที่โครโมโซมเส๎นใดก็ได๎ (ออโตโซมหรือโครโมโซมเพศ) ซึ่งเกิดขึ้นได๎กับทุกเซลล์ (เซลล์

รํางกายและเซลล์สืบพันธุ์) แตํมิวเมชันที่ถํายทอดไปสูํลูกหลานได๎ ต๎องเป็นมิวเทชันของ

เซลล์สืบพันธุ์เทํานั้น เพราะลูกหลานเกิดจากการรวมตัวกันของเซลล์สืบพันธุ์

55. ข๎อ ง. เหตุผล มิวเมชัน มี 2 แบบ คือ มิวเทชันแบบที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ (ทราบหรือไมํ

ทราบสาเหตุ) และมิวเทชันที่เกิดจากการกระตุ๎นของสิ่งกํอกลายพันธุ์

56. ข๎อ ข. เหตุผล มิวเทชันหรือ การกลายพันธุ์ คือ การเปลี่ยนแปลงของยีน ท าให๎สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้น

ใหมํมีลักษณะแตกตํางไปจากกลุํมปกติ มิวเทชัน แบํงออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับ

โครโมโซม เชํน การขาดหายไปของโครโมโซม หรือการเพ่ิมจ านวนชุดโครโมโซม ซึ่ง

Page 40: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

สามารถถํายทอดสูํรุํนลูกหลานได๎ และมิวเทชันระดับยีน คือการเปลี่ยนแปลงที่เบสของ

โมเลกุล DNA

57. ข๎อ ค. เหตุผล ผมหยิก และหมูํเลือด AB เกิดจากยีนเดํนที่อยูํบนออโตโซม

58. ข๎อ ง. เหตุผล ถ๎าแมํที่มีหมูเลือด AB และลูกมีหมูเลือด A แสดงวํา ลูกได๎รับแอลลีล IA หรือ I จาก

พํอ ดังนั้นพํออาจมีเลือดหมูํ A หมูํ AB หมูํ B หรือหมูํ O ก็ได๎

59. ข๎อ ก. เหตุผล ในสิ่งมีชีวิตที่มีการสืบพันธุ์แบบไมํอาศัยเพศ ถ๎าไมํมีการเกิดมิวเทชันหรือการกลาย

พันธุ์เลย ลูกหลานจะมีลักษณะเหมือนเดิมทุกรุํน ถ๎ามีการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล๎อม

แล๎วปรับตัวไมํได๎จะตายทั้งหมด เกิดการสูญพันธุ์ได๎

60. ข๎อ ง. เหตุผล ต๎นอํอนที่เกิดจากเมล็ด มีลักษณะแปรผันไปจากต๎นแมํ เพราะเมล็ดที่เกิดจากการ

สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ เซลล์ไซโกตท่ีเจริญขึ้นเป็นต๎นอํอนในเมล็ด เกิดจากการรวมตัวกัน

ของเซลล์สืบพันธุ์ 2 เซลล์ คือ ละอองเกสรตัวผู๎ และเซลล์ไขํ

61. ข๎อ ง. เหตุผล ทุกข๎อถูกต๎อง แตํเบสไซโทซีน (C) จะจับคูํกับเบสกวานีน (G) ด๎วยพันธะไฮโดรเจน

3 พันธะ (ไมํใชํพันธะคูํ) คือ C = G แตํ A = T (จับด๎วยพันธะคูํ)

62. ข๎อ ค. เหตุผล พํอมีหมูํเลือด B แมํมีหมูํเลือด A มีลูกชายเลือดหมูํ O แสดงวํา พํอ – แมํ มี

ลักษณะพันธุ์ทางของหมูํเลือด ดังกลําว

โอกาสมีบุตรเลือดหมูํ O = ดังนั้น โอกาสที่จะมีบุตรสาวเลือดหมูํ O = × =

63. ข๎อ ง. เหตุผล โรคธาลัสซีเมีย เป็น Autosomal recessive ดังนั้น ผู๎ที่ป่วยเป็นโรคจะต๎องได๎รับ

แอลลีลผิดปกติจากพํอและแมํ (ไมํใชํจากพํอ หรือจากแมํเพียงฝ่ายเดียว) Genotype ต๎อง

เป็น aa (พํอ – แมํ เป็น Aa)

64. ข๎อ ข. เหตุผล ข๎ออ่ืนๆไมํถูกต๎อง เพราะมิวเทชัน

- มีอัตราการเกิดต่ าตามธรรมชาติ (นอกจากโดนรังสี หรือเคมี)

- อาจเกิดในเซลล์รํางการทั่วไปก็ได๎

- ถ๎าเกิดในเซลล์รํางกายจะไมํถํายทอดไปยังลูกหลาน (ยกเว๎น เกิดในเซลล์สืบพันธุ์)

- มิวเทชัน เกิดได๎ทั้งระบบดีเอ็นเอ และโครโมโซม

Page 41: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

65. ข๎อ ง. เหตุผล ปลายรากผมไมํมีเซลล์ (ตัวเซลล์อยูํที่โคนรากผม) ดังนั้นไมํสามารถสกัด DNA มาใช๎

ในการตรวจลายพิมพ์ดีเอ็นเอเพ่ือพิสูจน์บุคคล

66. ข๎อ ค. เหตุผล ต๎นฝ้ายบีที ที่เกิดจากการเคลื่อนย๎ายยีนของแบคทีเรียบีทีเข๎าไปในยีนของฝ้าย ท า

ให๎ได๎ต๎นฝ้ายพันธุ์ใหมํที่สามารถสร๎างโปรตีนที่เป็นพิษตํอแมลงที่เจาะสมอฝ้าย

67. ข๎อ ข. เหตุผล พืช GMO คือ พืชดัดแปรพันธุกรรม ที่เกิดจากการตัดตํอยีน น ายีนของสิ่งมีชีวิต

ชนิดอื่นเข๎าไปเพื่อท าให๎มีการสร๎างโปรตีนชนิดใหมํที่มีลักษณะแตกตํางไปจากพืชเดิม การ

ตัดตํอยีน เป็นเพียงการใสํทํอนสั้นๆของโมเลกุล DNA แทรกเข๎าไปในโครโมโซม ไมํมีผล

เพ่ิมหรือลดจ านวนโครโมโซม

68. ข๎อ ก. เหตุผล เซลล์แบคทีเรียที่มียีนอินซูลินของคน คือ สิ่งมีชีวิตจีเอ็มโอ ที่ตัดตํอยีนของคนใสํ

เข๎าไปในยีนของแบคทีเรีย ท าให๎แบคทีเรียสามารถสังเคราะห์ฮอร์โมนอินซูลินของคนได๎

69. ข๎อ ก. เหตุผล การขยายพันธุ์พืชโดยการตอน คือ การโคลน

70. ข๎อ ก. เหตุผล เทคโนโลยีชีวภาพที่เกําแกํที่สุด คือ เทคโนโลยีการหมัก เชํน การหมักดองอาหาร

การหมักน้ าปลา ปลาร๎า

71. ข๎อ ค. เหตุผล ข๎อดีของฝ้ายบีที คือ ท าให๎เกษตรกรสามารถลดการใช๎สารเคมีก าจัดแมลงศัตรูพืช

ลดการใช๎แรงงาน และได๎ผลผลิตฝ้ายสูงขึ้น ข๎อเสียของฝ้ายบีที คือ เมล็ดพันธุ์ฝ้ายบีทีมี

ราคาสูง หนอนเจาะสมอฝ้ายอาจกลายพันธุ์มีความต๎านทานตํอฝ้ายบีทีในอนาคต รวมทั้ง

ผลเสียอ่ืนๆตํอสิ่งแวดล๎อมที่อาจเกิดข้ึน

72. ข๎อ ข. เหตุผล เพราะการโคลน ต๎องอาศัยเซลล์ไขํ ซึ่งจะถูกเอานิวเคลียสออกไป จากนั้นจะน า

นิวเคลียสของเซลล์ต๎นแบบของเซลล์รํางกายอื่นมาใสํเข๎าไป เชํน เซลล์จากเต๎านม กระตุ๎น

ด๎วยไฟฟ้าให๎เกิดการแบํงตัว (การโคลน จะไมํต๎องอาศัย สเปิร์ม จากพํอมาปฏิสนธิ)

73. ข๎อ ค. เหตุผล สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมต๎องมีการตัดตํอยีนโดยเทคนิควิศวพันธุศาสตร์ ได๎ดีเอ็น

เอสายผสมสร๎างสิ่งที่เราต๎องการ เชํน แบคทีเรียที่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลิน

74. ข๎อ ข. เหตุผล ลายนิ้วมือ มีไขมัน แรํธาตุ จึงไมํสามารถใช๎ตรวจหาฆาตกรโดยใช๎ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ

ได๎ (เพราะเราต๎องใช๎โครโมโซม จากเซลล์ที่มีนิวเคลียส) ลายนิ้วมือไมํมีเซลล์ใดๆ

Page 42: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

75. ข๎อ ก ไวรัส HIV เป็นไวรัสโรคเอดส์ที่ท าลายเม็ดเลือดขาวบางชนิดไมํได๎ท าลายเม็ดเลือดขาวทุกชนิด

76. ข๎อ ก ไวรัสที่ท าให๎เกิดไข๎หวัดนกเป็นไวรัสชนิด H5N1 สํวนไวรัสที่ท าให๎เกิดโรคไข๎หวัด H1N1

77. ข๎อ ง ก คือ พืช

ข คือ ผู๎บริโภคพืช (ก)

ค คือ ผู๎บริโภคท้ังพืช (ก) และบริโภคสัตว์ (ข)

ง คือ ผู๎บริโภคสัตว์ (ค)

78. ข๎อ ก คือ แก๏สออกซิเจน ซึ่งเกิดจากการสังเคราะห์ด๎วยแสงของพืชและถูกใช๎ในกระบวนการ

หายใจตํอไป

ข คือ แก๏สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจากการหายใจและถูกไปใช๎ในกระบวนการ

สังเคราะห์ด๎วยแสง

79. ข๎อ ง เป็นผู๎บริโภคสัตว์ล าดับสุดท๎ายของโซํอาหาร เนื่องจากการสะสมสารพิษจะเพ่ิมขึ้น

ตามล าดับ การกินอาหารซึ่งเป็นไปตามลักษณะที่เรียกวํา food chain

80. ข๎อ ก แก๏สเรือนกระจกประกอบด๎วยแก๏ส CO2 CFC CH4

81. ข๎อ ค ก. คือ พืชเพราะได๎รับแสงในการสร๎างอาหารได๎

ข. คือ ผู๎บริโภคพืชโดยกินพืชอยํางเดียว

ค. คือ ผู๎บริโภคท้ังพืชและสัตว์

ง. ผู๎บริโภคสัตว์ เพราะกินแตํ ค

82. ข๎อ ค นกบนเกาะมีจ านวนประมาณ 2500 ตัว ค านวณจาก

=

P = จ านวนนกทั้งหมด

M = จ านวนนกที่ท าเครื่องหมายแล๎วปลํอย

Page 43: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

p = จ านวนนกที่จับได๎

m = จ านวนนกที่จับได๎และมีเครื่องหมาย

=

P = 2500 ตัว

83. ข๎อ ง เพราะมีทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด๎วยนม นก สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งน้ าครึ่งบกจ านวนหลายร๎อย

ชนิด

84. ข๎อ ง แบคทีเรียในล าไส๎คนมีความสัมพันธ์กับคน แบบภาวะที่ต๎องพึงพา (+,+) แหนแดงและไซยา

โนแบคทีเรียก็มีความสัมพันธ์แบบภาวะที่ต๎องพ่ึงพา ดอกไม๎กับแมลงเป็นแบบได๎ประโยชน์

รํวมกัน (+,+) กล๎วยไม๎บนต๎นไม๎ใหญํเป็นแบบอิงอาศัย (+,0) พยาธิใบไม๎ตับมนุษย์เป็นแบบ

ปรสิต (+,-)

85. ข๎อ ค ปิรามิดจ านวน จะเห็นได๎วํา

ต๎นไม๎ มีจ านวนน๎อยที่สุด (แตํมีขนาดใหญํ)

เพลี้ย มีมากท่ีสุดกินน้ าเลี้ยงจากต๎นไม๎

ด๎วงเตําลาย กินเพลี้ยจะมีจ านวนน๎อยกวําเพลี้ย

นก กินด๎วยเตําลาย จึงมีจ านวนน๎อยที่สุด

86. ข๎อ ข วัฏจักรของก ามะถันจะท าให๎เกิดฝนกรดมากท่ีสุด

87. ข๎อ ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการท าลายไวรัส

88. ข๎อ ข สิ่งมีชีวิตที่มีมวลชีวภาพน๎อยที่สุด คือ ผู๎บริโภคล าดับสุดท๎าย คือ เหยี่ยว

89. ข๎อ ข ลดการใช๎สาร CFC มีผลการท าลายชั้นโอโซน ซึ่งมาจากสารท าความเย็น การเผาโฟม

90. ข๎อ ก หลังจากการระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะแหํงหนึ่งจะมีไลเคนส์มาเกิดบนก๎อนหิน ตํอมาจะเกิด

มอส เฟิร์น ไม๎พํุม ไม๎ยืนต๎น ตามล าดับ ถือวําเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิ

Page 44: โจทย์รายมาตรฐาน ชีววิทยา

เอกสารประกอบการสอนเตรยีมความพร้อมในการสอบโอเนต ชีววิทยา ปีการศึกษา 2555

91. ข๎อ ง ความหลากหลายทางชีวภาพมี 3 ระดับ คือ ความหลากหลายของพันธุกรรม ความ

หลากหลายของสิ่งมีชีวิต และความหลากหลายของระบบนิเวศหรือแหลํงที่อยูํ

92. ข๎อ ค น้ าที่มีคํา BOD ต่ า แสดงวํามีสารอินทรีย์เจือปนอยูํน๎อย ดังนั้นแหลํงน้ าใดมีคํา BOD ต่ า

แหลํงน้ านั้นจึงเป็นแหลํงน้ าที่มีคุณภาพด ี

93. ข๎อ ก ข๎อ ข ค และ ง เป็นเรื่องส าคัญที่มีปัญหามาจากโลกร๎อน

94. ข๎อ ข เมื่ อมีสารประกอบไนเตรตและฟอสเฟต สะสมในแหลํ งน้ า เป็นปริมาณมากจะ

เกิดปรากฎการณ์ Algal bloom จ านวนแพลงตอนพืช สาหรํายและพืชน้ าจะเพ่ิมขึ้นเป็น

อันดับแรก

95. ข๎อ 1,2 พะยูน ควายป่า นกเจ๎าฟ้าหญิงสิรินธร กูปรี นกแต๎วแร๎วท๎องด า เลียงผา เป็นสัตว์สงวน มี

จ านวนน๎อยมาก ใกล๎จะสูญพันธุ์ กระทิง และวัวแดง เป็นสัตว์ป่าคุ๎มครองประเภทที่ 2 ช๎าง

ไมํได๎จัดไว๎ในสัตว์ 2 ประเภทดังกลําว

96. ข๎อ ก ทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นทดแทนใหมํได๎มนุษย์น ามาใช๎มากท่ีสุด คือ พลังงานน้ า

97. ข๎อ ค การพัฒนาที่ยั่งยืนคือการรํวมกันใช๎ทรัพยากรอยํางคุ๎มคํามากท่ีสุด

98. ข๎อ ง ปัญหาการบุรุกตัดไม๎ท าลายป่าในพ้ืนที่ป่าสงวนสํงผลให๎เกิดการพังทลายของดิน

99. ข๎อ ง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นการใช๎ทรัพยากรอยํางเหมาะสมและให๎เกิดสมดุลมีการ

ปลูกทดแทนอยํางตํอเนื่อง

100. ข๎อ ข ภาวะเรือนกระจก หรือโลกอุณหภูมิสูงขึ้นสํงผลตํอประเทศไทยโดยตรงในเรื่องของลมฟ้า

อากาศที่มีความแปรปรวน ฝนตกไมํตามฤดูกาล ยากตํอการพยากรณ์

*************************