เฉลยแบบฝึกหัดบทที 5 1 - PR.SoLA...

Preview:

Citation preview

เฉลยแบบฝึกหดับทที 5

ส่วนที 1 จงตอบคาํถามต่อไปนี1. ปจัจยัการผลติในระยะส ั นประกอบดว้ยปจัจยัอะไรบา้งใหย้กตวัอย่างประกอบคาํอธิบายตอบ ปจัจยัการผลติในระยะส ั นประกอบดว้ย ปจัจยัคงที(fixed factors) คือปจัจยัที ยงัเปลี ยนแปลงจาํนวนไม่ได ้เช่นที ดิน อาคารโรงงาน เครืองจกัรขนาดหนกั เป็นตน้ ส่วนปจัจยัการผลิตใดที สามารถเปลี ยนแปลงจาํนวนไดเ้มื อตอ้งการ เราเรียกปจัจยัการผลิตนั นว่า ปจัจยัแปรผนั(variable factors)

2. ใหน้กัศึกษาอธิบายความสมัพนัธร์ะหว่างผลผลิตชนิดต่างๆในระยะส ั น พรอ้มท ั งวาดรูปประกอบคาํอธิบาย

ตอบ 1.) ผลผลติรวม(total product) คาํนวณไดจ้ากยอดรวมของผลผลิตเพิ ม(marginal product) เสน้ผลผลติรวมจะมลีกัษณะคลา้ยรูประฆงัคว ํ า ที เป็นเช่นนี เพราะการเพิ มปจัจยัแปรผนัหน่วยแรกๆ เพื อทาํงานร่วมกบัปจัจยัคงที นั นมสีดัส่วนพอเหมาะ ผลผลติเพิ มจึงเพิ มขึ นตามลาํดบั ยงัผลใหผ้ลผลิตรวมเพิ มขึ นอย่างรวดเร็ว แต่เมื อไดเ้พิ มปจัจยัแปรผนัมาถึงจุดหนึ งแลว้ การเพิ มปจัจยัแปรผนัต่อไปจะไม่สู ้ไดผ้ล นั นคือผลผลิตเพิ มลดลงเรื อยๆ จนถึงศูนย ์ผลผลิตรวมในช่วงนี จึงเพิ มขึ นชา้กว่าช่วงแรกและผลผลิตรวมจะสูงสุดเมื อผลผลิตเพิ มเท่ากบัศูนย ์เมื อถึงตอนนี แลว้ ถา้ยงัเพิ มปจัจยัแปรผนัต่อไปอีก ผลผลติจะติดลบ และผลผลิตรวมจะเริ มลดลงตามลาํดบั 2.) ผลผลติเฉลี ย = ผลผลติรวม / จาํนวนปจัจยัแปรผนั

นั นคือ AP = TP/Lความสมัพนัธร์ะหว่างผลผลติเฉลี ยและผลผลิตรวมเป็นดงันี คือ ตราบใดที อตัราการเพิ มของ

ผลผลติรวม(เช่น 10%) มากกว่าอตัราการเพิ มของปจัจยัแปรผนั(เช่น 8%) ผลผลติเฉลี ยจะเพิ มขึ นเรื อยๆ 3.) ผลผลติเพิ ม คือ จาํนวนผลผลติที เพิ มขึ นเมื อเพิ มปจัจยั L จาํนวน 1 หน่วย

นั นคือ L

TPMPL

การเปลี ยนแปลงของผลผลิตเพิ มจะเป็นดงันี การเพิ มปจัจยัแปรผนัในตอนแรกๆ จะทาํใหผ้ลผลิตเพิ มสามารถเพิ มขึ นไดม้าก แต่เมื อไดเ้พิ มปจัจยัแปรผนัจนถึงระดบัหนึ งแลว้ ผลผลติเพิ มจะค่อยๆ ลดลงจนถึงศูนยแ์ละติดลบในที สุด ซึ งเป็นไปตามกฎว่าดว้ยการลดนอ้ยถอยลงของผลผลิตเพิ ม 4.) ความสมัพนัธร์ะหว่างผลผลติเฉลี ยและผลผลิตเพิ มจะเป็นดงันี

(ก.) ผลผลติเฉลี ยจะสูงขึ นๆ ตราบเท่าที ผลผลติเพิ มมคี่ามากกว่าผลผลติเฉลี ย(ข.) ผลผลติเฉลี ยจะเริ มลดลงเมื อผลผลติเพิ มมีค่านอ้ยกว่าผลผลติเฉลี ย(ค.) ผลผลติเฉลี ยจะมคี่าสูงสุดเมื อผลผลติเฉลี ยมีค่าเท่ากบัผลผลติเพิ มเป็นที น่าสงัเกตว่า การลดลงของผลผลติแบบต่างๆ เกิดขึ นไม่พรอ้มกนั ผลผลติเพิ มจะเริ มลดก่อน

แลว้จึงตามดว้ยผลผลติเฉลี ย ส่วนผลผลติรวมจะลดเป็นอนัดบัสุดทา้ย

3. ช่วงการผลติในระยะส ั นแบ่งไดก้ี ช่วงและผูผ้ลิตควรจะจา้งปจัจยัแปรผนัในช่วงการผลติใดจึงจะทาํใหเ้ชาไดร้บัผลผลติสูงสุด

ตอบ ช่วงการผลติในระยะส ั นแบ่งได3้ ช่วง คือ ช่วงที 1 เริ มต ั งแต่การใชป้จัจยัแปรผนัหน่วยที 1 จนถึงการใชป้จัจยัแปรผนัหน่วยที ระดบัผลผลิตเฉลี ยมคี่าสูงสุด ส่วนผลผลิตเพิ มจะมีค่ามากกว่าผลผลิตเฉลี ยมาตลอดช่วง ณ จุดสิ นสุดของช่วงจะมีค่าเท่ากนัพอดีแมว้่าช่วงที 1 นี จะเป็นช่วงที ผลผลติเฉลี ยสูงสุด แต่ผูผ้ลิตก็ยงัไม่ควรหยุดการผลติอยู่แค่ช่วงนี เพราะในช่วงนี ผลผลติเพิ มมคี่าเป็นบวก ดงันั น การขยายการผลติต่อไปยงันาํผลดีมาสู่ผูผ้ลิต ช่วงที 2 เริ มจากจุดสิ นสุดของช่วงที 1 ผลผลติเฉลี ยมีค่าสูงสุดและเท่ากบัผลผลติเพิ ม จนถึงจุดทีผลผลติเพิ มมีค่าเท่ากบัศูนยแ์ละผลผลติรวมมีค่าสูงสุด ช่วงนี เป็นช่วงที การลดนอ้ยถอยลงของผลได ้(diminishing returns) เกิดขึ นตลอดช่วง ดงัจะเห็นไดจ้ากการที ผลผลติเฉลี ยลดลงตามลาํดบั ผลผลติเพิ มซึ งเริ มลดลงแลว้ในช่วงที 1 ก็ยงัคงลดต่อไปตลอดช่วงที 2 นี โดยปกติผูผ้ลิตจะผลิต ณ ระดบัใดระดบัหนึ งที อยู่ในช่วงที 2 นี แต่เราไม่สามารถบอกไดว้่า ผูผ้ลติจะทาํการผลิตตรงระดบัใดแน่นอน จนกว่าจะไดท้ราบตน้ทุนการผลิตและรายรบัจากการผลติ ช่วงที 3 เริ มจากจุดที ผลผลติเพิ มเท่ากบัศูนยเ์ป็นตน้ไป ช่วงที 3 นี เป็นช่วงที จาํนวนผลผลติทุกชนิดลดลงตามลาํดบั เฉพาะอย่างยิ งผลผลติเพิ มจะติดลบ ตามปกติผูผ้ลติไม่ควรจะขยายการผลิตจนเขา้มาอยู่ในช่วงที 3 นี การเพิ มปจัจยัแปรผนัทาํใหผ้ลผลิตรวมลดลงแทนที จะเพิ มขึ น

ผูผ้ลติควรจะจา้งปจัจยัแปรผนัในช่วงการผลิตที 2 เพราะในช่วงนี ผลผลติเพิ มมคี่าเป็นบวก ดงันั น การขยายการผลิตต่อไปยงันาํผลดีมาสู่ผูผ้ลติ

4. เครื องมอืที ใชว้ิเคราะหก์ารผลติในระยะยาวประกอบดว้ยอะไรบา้งและใหอ้ธิบายความหมายของเครื องมอืแต่ละตวัดว้ย

ตอบ การวิเคราะหก์ารผลิตในระยะยาวประกอบดว้ย การวิเคราะหโ์ดยใช ้เสน้ผลผลติเท่ากนั คือ เสน้ซึ งแสดงถึงการใชป้จัจยัการผลิต 2 ชนิดในส่วนผสมต่างๆ กนัซึ งใหผ้ลผลิต

เท่ากนั

เสน้ตน้ทุนเท่ากนั คือ เสน้ที แสดงถึงส่วนผสมต่างๆ ของปจัจยัการผลติ 2 ชนิดที ซื อไดด้ว้ยตน้ทุนจาํนวนเท่ากนั โดยกาํหนดใหร้าคาของปจัจยัการผลติคงที

5. อตัราการทดแทนของปจัจยัการผลติ (Marginal Rate of Technical Substitution : MRTS) คืออะไร

ตอบ อตัราการทดแทนของปจัจยัการผลิต หมายถึง จาํนวนปจัจยัการผลิตชนิดหนึ งที ลดลงโดยที ปจัจยัการผลติอีกชนิดหนึ งเพิ มขึ น 1 หน่วย เพื อใหไ้ดผ้ลผลิตจํานวนเท่าเดิม

6. กฎผลไดต้่อขนาดคืออะไร และมกีี ชนิดตอบ กฎผลไดต้่อขนาดคือ การเปลี ยนแปลงปริมาณของผลผลติรวมซึ งเกิดจากปจัจยัการผลิตทุกชนิดเปลี ยนแปลงไปเป็นสดัส่วนเดียวกนั ดงันั นจึงเป็นกฎว่าดว้ยการผลติในระยะยาว

ในที นี สมมติว่าปจัจยัการผลิตทุกชนิดเพิ มขึ นในสดัส่วนเดียวกนัคือ 10% จะทาํใหป้ริมาณผลผลติเปลี ยนแปลงไป แบ่งไดเ้ป็น 3 ลกัษณะ ดงันี

(1) ปริมาณผลผลิตเพิ มขึ นมากกว่า 10% เรียกว่าผลไดต้่อขนาดเพิ มขึ น(increasing return to scale) มองจากแง่ของตน้ทุนการผลิต จะสะทอ้นออกมาในลกัษณะที ว่าตน้ทุนเฉลี ยมีค่าลดลง(decreasing cost) ดงัรูป ก.

(2) ปริมาณผลผลิตเพิ มขึ นเท่ากบั 10% เรียกว่าผลไดต้่อขนาดคงที(constant return to scale) ปรากฏการณ์นี น่าจะสะทอ้นออกมาในลกัษณะที ว่า ตน้ทุนเฉลี ยมีค่าคงที(constant cost)

(3) ปริมาณผลผลิตเพิ มขึ นนอ้ยกว่า 10% เรียกว่าผลไดต้่อขนาดลดลง(decreasing returns to scale) ปรากฏการณ์นี จะสะทอ้นออกมาในลกัษณะที ว่าตน้ทุนเฉลี ยมีค่าเพิ มขึ น(increasing cost) ดงัรูป ข.

ส่วนที 22.1 ในการผลิตสินคา้ชนิดหนึ งโดยใชป้จัจยัการผลิตA และ B ถา้ตารางแสดงการผลติ(ผลผลติ) เป็นดงันี

จาํนวนปจัจยั A จาํนวนปจัจยั B ผลผลติหน่วยสุดทา้ยของปจัจยัB

1010101010

12345

4055220-6

1. เพื อใหไ้ดผ้ลผลิตรวมสูงสุดจะตอ้งใชป้จัจยัB จาํนวน 4 หน่วย2. ผลผลติรวมสูงสุดเท่ากบั_______117______________________________หน่วย3. การใชป้จัจยั B จาํนวน 5 หน่วย จะไดผ้ลผลติรวมจาํนวน______111_____________หน่วย4. ปจัจยัการผลิต A เป็นปจัจยั__คงท_ี_______________________5. ปจัจยัการผลิต B เป็นปจัจยั___แปรผนั_______________________6. ระยะผลไดเ้พิ มขึ น จะเป็นระยะที ใชป้จัจยัB จาํนวน 0 ถึง 2 หน่วย7. ระยะผลไดล้ดลง จะเป็นระยะที ใชป้จัจยัB จาํนวน 2 ถึง 4 หน่วย

8. ระยะผลที ไดต้ิดลบ จะเป็นระยะที ใชป้จัจยัB จาํนวน ตั งแต่ หน่วยที 4 เป็นตน้ไป

Recommended