การปฏิรูปศาสนา Religious Reformation

Preview:

Citation preview

การปฏริ ูปศาสนา(Religious Reformation)

จ ัดท ำาโดย1. นางสาวณภาภัช ประชาอนุวงศ์

ม.6.5 เลขที่ 12. นางสาววรินธร ลิมปนากร ม.

6.5 เลขที่ 33เสนอ

อาจารย์ปรางคส์วุรรณศักด์ิโสภณกุล

วิชา ส33101 สงัคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปกีารศึกษา

2557โรงเรียนสตรีวิทยา

การปฏิร ูปศาสนา มีสาเหตุ สำาคญัมาจากความเสือ่มความนิยมในผูน้ำาทางศาสนา

และการเกิดแนวคดิใหม่เก่ียวกับศาสนา เนื่องจากมี การศึกษาคมัภีร์ไบเบิลและแปลออกเปน็ภาษาต่างๆ

เชน่ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ทำาให้คริสต์ ศาสนิกชนมีความรู้ความเข้าใจใหม่ การปฏิรูป

ศาสนาจึงเกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ โดยมีผูน้ำาการปฏิรูปหลายคนและใชช้ือ่แตกต่างกัน

การปฏิรูปคริสต์ศาสนา หมายถึง ขบวนการ ในยุโรปตะวันตกที่ปจัเจกชนและสถาบนัต่างๆ

แสดงความเห็นคดัคา้นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตาม หลักในคัมภีร์ไบเบลิ การปฏิรูปเปน็ไปอย่าง ต่อ

เนื่อง จนในที่สุดคริสต์ศาสนาในยุโรปได้แตกแยก เป็น 2 นิกาย คือโรมันคาทอลิกและ โปรเตสแตนต์

การปฏิร ูปศาสนา (Religious Reformation) การปฏิรูปศาสนาเริ่มขึ้นประมาณ ค.ศ. 1500 มี

ผลให้อิทธิพลของศาสนาคริสต์ที่ครอบงำาดินแดน ต่างๆ ในยุโรปนานหลายศตวรรษเสือ่มสลาย จุดเริ่ม

ต้นของการปฏิรูปศาสนาเกิดจากนักมนษุย์นิยมในดินแดนยุโรปกลุ่มหนึ่งได้วิพากย์ถึงความเสือ่มของ

สถาบนัศาสนา และเสนอแนวทางแก้ไข แต่ศาสนจักร ไม่ยอมรับความคดิและข้อเสนอแนะ จึงเกิดความ

แตกแยกและนำาไปสูก่ารปฏิรูปศาสนา

สาเหต ุของการปฏิร ูปศาสนา ปลายสมัยกลาง ศาสนาคริสต์ถึงแก่ความเสื่อม

เนื่องจากประชาชนเบือ่หนา่ยวิธีดำารงชีวิตด้วยความ ฟุ้งเฟ้อและการซื้อขายตำาแหน่งของพระชั้นผูใ้หญ่ นอกจากนี้กลุ่มชาตินิยมที่ก่อตัวขึ้นในดินแดนต่างๆ

ในช่วงปลายสมัยฟิวดัลก็ดำาเนินการต่อต้านอำานาจทางการเมืองของสันตะปาปาที่ครอบงำากษัตริย์และผู้

ปกครองดินแดนต่างๆ ในยุโรป

การแสดงความคดิต่อต้านอำานาจของสันตะปาปาและ คริสตจักรเริ่มขึ้นในดินแดนเยอรมณี ซึ่งขณะนั้นอยู่

ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมันอันศักด์ิสิทธิท์ี่กำาลังเสื่อมอำานาจและมีการก่อตัวของกลุ่มชาตินิยม

ในแคว้นต่างๆ กลุ่มชาตินิยมเยอรมันได้วิพากย์วิธกีารเรี่ยไรเงินของสันตะปาปาเพื่อนำาเงินไปก่อสร้างวิหารเซนต์ปเีตอร์ (St. Peter) ในกรุงโรม โดยวิธกีารขาย

บตัรไถ่บาปว่าเปน็สิง่ที่ไม่ถูกต้อง ผู้นำาในการต่อต้าน คอืมาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) นักบวชชาว

เยอรมันซึ่งเป็นผู้ที่เคร่งศาสนาและเห็นว่าวิธีการจ่าย เงินเพื่อไถ่บาปเปน็สิง่หลอกลวงประชาชน

มหาวิหารนักบญุเปโตรจากภาพเขียนโดยวิวีอา

โน โกดัซซี (Viviano Codazzi) เมื่อ ค.ศ. 1630 หอสองหอที่เห็นในภาพถูกรี้อภายหลัง

รูปจากทางอากาศของ

มหาวิหารนักบุญเปโตร

ใน ค.ศ. 1520 ลูเธอร์ ได้พิมพ์หนังสือเผยแพร่ความคิดต่อต้านพฤติกรรมของสันตะปาปาถึง 3 เล่ม

แนวคิดของเขาได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางเป็นเหตุให้สันตะปาปาลีโอที่ 10 (Leo X) ประกาศขับ

ไล่เขาออกจากศาสนา และให้จักรวรรดิชาลล์ที่ 5 (Charles V) แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักด์ิสิทธิ์ลงโทษลูเธอร์ว่าเปน็บคุคลนอกกฎหมาย

แต่ลูเธอร์ได้รับการคุม้ครองจาก เจ้าชายเฟรเดอริก ผู้ ปกครองแคว้นแซกซอนี (Saxony) ซึ่งมีแนวคิดแบบ

ชาตินิยม จึงรอดพ้นจากการลงโทษ และสามารถ เผยแผ่คริสต์ศาสนาตามแนวทางของเขา โดยการ

แปลคมัภีร์ไบเบิ้ลเป็นภาษาเยอรมันทำาให้ความรู้ด้าน ศาสนาแพร่หลายและแยกเปน็นิกายใหม่ เรียกว่า

“โปรเตสแตนต์” (Protestant)

แนวความคดิถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปศาสนาไปทั่วยุโรปปฏิกิริยาตอบโต้ของศาสนจักรโรมันคาธอลิก1. การจัดตั้งสมาคมเยซูอิทซ์ ให้ศึกษาให้แก่บตุร

หลานชาวคาธอลิก เพื่อจะได้ไม่เปลี่ยนไปเป็น Protesstant

2. การจัดตั้งศาลพิเศษทางศาสนา เพื่อต่อต้านการกระทำาของพวกนอกรีต

มีการลงโทษอย่างรุนแรง เช่นการเผาทั้งเปน็

3. การประชมุทางศาสนาที่เมืองเทรนท์ มีผลดังนี้คือ- สนัตะปาปาคือประมุขของศาสนา- คำาภีร์ไบเบลิต้องเขียนเปน็ภาษาละติน- ห้ามขายตำาแหนง่ทางศาสนาและห้ามขายใบไถ่บาป- ไม่ให้คนที่ไมม่ีความรู้มารับตำาแหนง่ราชาคณะ- ขึ้นบญัชหีนังสือต้องห้ามซึ่งเป็นของพวกนอก

ศาสนา หนังสอืต้องห้ามจะถูกทำาลายผู้แต่งจะถูกเผาทั้งเปน็

กองฟืนที่เตรียมไว้เผาทั้งเป็น

พวกโปรเตสแตนต์ที่ยอมตาย

เพื่อรักษาความเชือ่ตน

มาร์ติน ลูเธอร์(Martin Luther)

การปฏิร ูปศาสนจักร เมื่อเกิดการปฏิรูปศาสนาในดินแดนสว่นต่าง ๆ

ของยุโรป คริสตจักร ที่กรุงโรมได้พยายาม ต่อต้านปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยวิธีต่าง ๆ ได้แก่

1. ศาสนจักรได้จัดการประชุมดังกล่าวใชร้ะยะเวลา ถึง 18 ปี สิ้นสดุใน

ค.ศ.1563 โดยมีบทสรุปดังนี้

1) สันตะปาปาทรงเปน็ประมุขของคริสต์ศาสนา2) การประกาศหลักธรรมทางศาสนาต้องใช้

ศาสนจักรเป็นผู้ประกาศ แก่ศาสนกิชน

3) คัมภีร์ไบเบลิต้องเปน็ภาษาละติน4) ยกเลิกการขายใบยกโทษบาปและตำาแหน่ง

ทางศาสนา มีการกำาหนด ระเบยีบวินัย มาตรฐานการศึกษาของพระ และให้ใช้ภาษาพื้นเมืองในการสอน ศาสนา

2. ศาสนจักรได้ตั้งศาลศาสนาเพื่อลงโทษพวกนอก ศาสนา โดยศาลศาสนาพิจารณาความผดิของพวก

นอกศาสนาคาทอลิก และชาวคาทอลิกที่มีความคิด เห็นแตกต่างจากศาสจักร ซึ่งมีการลงโทษโดยการเผา

คนผิดทั้งเป็นการต่อต้านการปฏิรูปศาสนาของคริสตจักรที่

กรุงโรมกระทำาได้ผล คอื นิกายโรมันคาทอลิกสามารถป้องกันไม่ให้ศาสนิกชนโรมันคาทอลิกหันไป

นับถือนิกายโปรเตสแตนต์เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สามารถดึงศาสนกิชนโปรเตสแตนต์ให้กลับมานับถือนิกายโรมันคาทอลิกได้

3. การปรับปรุงระเบยีบวินยัของนกับวชและตั้งคณะ นักบวชเพื่อการปฏิรูป เชน่ คณะเยซูอิต ตั้งขึ้นใน

ค.ศ. 1534 เพื่อจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาและเผยแผ่ศาสนาไปยังประเทศต่างๆ

การประชุมสงัคายนาแห่งเทรนต์(Council of Trent) ระหว่าง ค.ศ. 1545-1547 และ ค.ศ. 1562-1563 เพื่อ กำาหนดระเบียบวินัยภายในคริสตจักร

คณะเยซูอิต (The Jesuit) ก่อตั้งโดย ชาวสเปนชือ่ Ignatius Loyolaและได้รับ

การรับรองโดยพระสนัตะปาปาพอลที่ 3 เป็นสุดยอดของสมาคมลับในคริสตจักรคาทอลิคที่จะเข้าไปแทรกซึมกลุ่มโปรเตสแตนต์

ผลกระทบของการปฏิร ูปศาสนาต่อพัฒนาการของย ุโรป

1. การประกาศแยกตัวของกลุ่มโปรเตสแตนด์ในดินแดนเยอรมณีก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำาคญั

ต่อพัฒนาการของยุโรป คือ เกิดการแตกแยกของ ศาสนาคริสต์ และการพัฒนารัฐชาติในยุโรป

คริสต์ศาสนาแบ่งออกเป็น 2 นิกาย คอื นิกาย โรมันคาทอลิก และ นิกายโปรเตสแตนต์

- นิกายโรมนัคาทอลิก มีศูนย์กลางที่กรุงโรม มี สันตะปาปาเป็นประมุข

- นิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่งแยกเป็นนกิายต่างๆ ได้แก่ นิกายลูเธอร์แรน นิกายคาลวิน นิกายแอ งกลิคนั เป็นต้น ( ส่วนนกิายออร์ทอดอกซ์ แยกตัว

ไม่ขึ้นกับสนัตะปาปา ใน ค.ศ. 1045 โดยมีสังฆราช ที่เรียกว่า PATRIARCH เปน็ประมุข ซึ่งแพร่หลาย

ในกรีซ รัสเซีย เซอร์เบยี โรมาเนีย บัลแกเรีย) ทำาให้ความเปน็เอกภาพทางศาสนาสิน้สุดลง

2. เกิดการกระตุ้นให้ศึกษาหลักธรรมทางคริสต์ศาสนา มากยิ่งขึ้นในหมู่สามัญชน มีการ เผยแผ่คริสต์ศาสนา

ไปยังดินแดนต่างๆนอกทวีปยุโรป เชน่ อเมริกา เอเชียและแอฟริกา3. เกิดกระแสชาตินิยมในประเทศต่างๆ เนื่องจาก

นิกายโปรเตสแตนต์ส่งเสริมวัฒนธรรม ท้องถ่ิน และส่งเสริมให้อำานาจแก่ผูป้กครองในท้องถ่ินเปน็ตัวแทน

ของพระเจ้าในการปกครอง ประเทศ4. เกิดสงครามศาสนาในยุโรปหลายครั้ง ส่งผลให้

สถาบนักษัตริย์มีอำานาจเหนือคริสตจักร ในที่สุด

สร ุปสาเหตุการปฏิร ูปศาสนา1. ประชาชนไม่พอใจสันตะปาปาที่กรุงโรม พระ

และบาทหลวงที่มีความเป็นอยู่อย่าง ฟุ่มเฟือย หรูหรา ทั้งยังเรียกเก็บภาษีบำารุงศาสนาสูงขึ้น เพื่อ

นำาเงินไปใชจ้่ายในคริสตจักรใน กรุงโรม รวมทั้งการซื้อขายตำาแหน่งของพวกบาทหลวงและความ

เสื่อมเสียในจริยวัตรของ สันตะปาปาที่ครองอำานาจ ในคริสต์ศตวรรษที่ 15-16

2. เจ้าผูค้รองแคว้นต่างๆ ในยุโรปต้องการเปน็อิสระ จากคริสตจักรที่มีสันตะปาปาเปน็ ผู้ปกครอง และ

จากจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักด์ิสิทธิ์ เนื่องจากสันตะปาปาเข้าไปยุ่งเก่ียว และใช้อำานาจ

ทางการเมือง3. การศึกษาในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ทำาให้ชาว

ยุโรปเห็นว่ามนุษย์สามารถทำาความ เข้าใจคมัภีร์ไบเบิลได้ด้วยตนเองมากกว่าที่จะผ่านพิธีกรรมของศาสนจักร

4. สันตะปาปาจูเลียสที่ 2 (JULIUS II) และ สันตะปาปาลีโอที่ 1 ต้องการหาเงินในการ ก่อสร้าง

มหาวิหารเซนต์ปเีตอร์ที่กรุงโรม จึงส่งคณะสมณทูต มาขาย “ใบไถ่บาป” ในดินแดน เยอรมนี เนื่องจาก

เปน็แนวคดิของชาวคริสต์ว่า พระเปน็เจ้าส่งพระเยซู คริสต์มาชว่ยมนุษย์ให้พ้น จากบาป เรียกว่า การ

ไถ่บาป (REDEMPTION) ด้วยการเสียสละพระชนม์ ชีพ การไถ่บาปจะเปน็การ เปดิทางให้มนุษย์ได้รับ

การอภัยโทษ และกลับมามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ได้ อย่างถูกต้อง

จบการนำาเสนอขอบคณุคะ่

Recommended