26
กกกกกกกกก/กกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกก 1. กกกกกกกกกกกกก กกกก กกกก 2. กกกกกกกกกก กกกกกกกก 3. กกกกกกกกก กกกกก 4. กกกกกกกกกกกก กกกกกกก กกกกกกกกกกก 1 กกกกกกก 4 กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

201010010830750

Embed Size (px)

DESCRIPTION

ยา

Citation preview

Page 1: 201010010830750

กรณี�ศึ�กษา/ประเด็ นความร��

จั�ด็ทำ�าโด็ย1. นางสาวส�ก�ญญา พรหมอุ่�!น2. นายไพทำ�รย# เพชรแก�ว3. นายส�รช�ย เจัตนา4. นางอุ่�ไรร�ตน# บุ�ญช!วย

สมาช(กกลุ่�!ม 1 ร�!นทำ�* 4

โครงการพ�ฒนาสมรรถนะขอุ่งผู้��ให�บุร(การปฐมภู�ม(ทำ�*อุ่ย�!ในช�มชนโด็ยใช�ทำร�พยากร ทำ�*ม�

อุ่ย�!ภูายในอุ่�าเภูอุ่ให�เก(ด็ประโยชน#ส�งส�ด็ (Context Based Learning: CBL)

Page 2: 201010010830750

อุ่�าเภูอุ่อุ่�ทำ�มพรพ(ส�ย -โพธิ์(4ศึร�ฯ จั�งหว�ด็ศึร�สะเกษ ป6 2553

ความร��ทำ�* ER1. การบร�หารยา

Amoxycilin 1×3 หร�อ 2 × 2 Bromhexine ½ × 3Domperidone ½ × 3 ac Salbutamal ½ × 3 pcCloxacilin 1×4 a cDicloxacilin 1×4 a cCo-trimoxazone 2×2 pcRanitidine 1×2 acNorfloxacin 1×2 ac

2. การบร�หารยาน้ำ� าสำ�าหร�บเด็�กโด็ยย�ด็น้ำ� าหน้ำ�กเด็�กเป็�น้ำเกณฑ์�

น้ำ� าหน้ำ�กที่�� 10 Kg

10 Kg : ½ ช�อุ่นชา 10 Kg : 1 ช�อุ่นชาCPM ParacetamolDomperidone AmoxycilinSalbutamal CloxacilinBromhexine

3. Cardio Pulmonary Arrest

Page 3: 201010010830750

ย�ด็ตามหลั�ก ABC จากน้ำ� น้ำสำามารถให# Adrenaline

ก$อน้ำ 1 dose ใน้ำผู้&#ใหญ่$ สำ$วน้ำใน้ำเด็�ก ให# ผู้สำมก�น้ำ NSS 10cc : Adrenaline 0.01-0.03 cc/ Kg

4. ภาวะ shock ควา มด็�น้ำโลัห�ตต#องต��ากว$า 90/60

mmHg. Pluse เบาเร�ว ใน้ำ Neurogenic Shock

Pluse อาจจะไม$เบาร�ว สำามารถให# 0.9 NSS ได็# 200

cc แลั#วว�ด็ ความด็�น้ำโลัห�ตซ้ำ� า5. Chest Pain ลั�กษณะการป็วด็จะป็วด็มากบร�เวณ

หน้ำ#าอกข้#างซ้ำ#ายลั�กษณะเหม�อน้ำโด็น้ำที่�บที่��ห�วใจป็วด็ร#าวไป็หน้ำ#าแลัะห�วไหลั$ แข้น้ำข้#างซ้ำ#าย การด็&แลัร�กษาเบ� องต#น้ำควรย�ด็ตามหลั�ก MONA (M= O= N= A= )

6. Hypertention ความด็�น้ำโลัห�ตต#องมากกว$า 140/90 mmHg. สำ$วน้ำมากผู้&#ป็2วยจะมาเม��อเป็�น้ำร3แรงจน้ำเป็�น้ำ Stork จะน้ำ�กถ�ง FAST (F= Face หน้ำ#าจะด็&เฉยเมย A= Arm ยกแข้น้ำข้าไม$ได็# S= Speak

พู&ด็ไม$ได็# T= Time เวลัาภายใน้ำ 3 ชั่��วโมงเพู��อจะได็#ร�บการผู้$าต�ด็ โที่ร 1669

7. Anaphylasis Shock ให# Adrenaline ข้น้ำาด็ 0.3-0.5 cc ซ้ำ� าได็# ที่3ก 5 น้ำาที่�ถ#าย�งม�ภาวะ Shock

ให#0.9 NSS / CPM 5-10 Mg ใน้ำเด็�ก 0.25 Mg/

Dexa 4-8 Mg IV จะด็&ตามสำภาพูข้องผู้&#ป็2วย8. COPD แลัะ Asthma ใน้ำเด็�กจะพูบมาก ควรฟั8งป็อด็

ก$อน้ำแลัะหลั�งพู$น้ำยาเพู��อจะได็#ป็ระเม�น้ำสำภาพูผู้ลัการร�กษาได็# ใน้ำเด็�ก ใชั่#ข้น้ำาด็ 0.03/kg ผู้สำมก�น้ำ NSS รวม

Page 4: 201010010830750

ก�น้ำได็# 3 cc ใน้ำผู้&#ใหญ่$ข้น้ำาด็ยา 1cc ผู้สำมก�น้ำ NSS 3

cc พู$น้ำใน้ำ 6-8LPM พู$น้ำสำ&งสำ3ด็ได็#ไม$เก�น้ำ 3 คร� ง9. Croup ร�กษาด็#วย Adrenaline พู$น้ำ แลัะ ฉ�ด็ Dexa

0.6 mg/kg Muscle10. Hemoptysis ถ#าไอเป็�น้ำเลั�อด็มากกว$า 100 cc

/คร� ง ให# 0.9 NSS เจาะ Hct ถ#าน้ำ#อยกว$าอาจให# Dextomethophen ได็#

11. ภาวะฉ3กเฉ�น้ำการป็วด็ที่#องใสำ#ต��ง สำ$วน้ำใหญ่$จะม�อาการน้ำ�ามาก$อน้ำ เชั่$น้ำ ไข้# ถ$ายเหลัว อาเจ�ยน้ำ ถ#าตรวจพูบควรงด็น้ำ� างด็อาหารให# ให# 0.9 NSS IV แลัะร�บสำ$งโรงพูยาบาลั

12. GI Hemorrhage ม�อาการอาเจ�ยน้ำเป็�น้ำเลั�อด็ หร�อถ$ายด็�า ตรวจร$างกายพูบ เป็ลั�อกตาซ้ำ�ด็ เจาะ Hct

ต��า ควรให#สำารน้ำ� าแลัะร�บสำ$งโรงพูยาบาลั13. Alteration of conscious ควรเจาะ DTX ถ#า

น้ำ#อยกว$า 60 mg ให# 50 % Glucose IV (ระด็�บน้ำ�าตาลัที่��ป็กต� ค�อ 80-120 mg)

14. ชั่�กด็&แลัตาม ABC ไม$ใชั่#ข้องแข้�งกด็ลั� น้ำ ควรจ�บตะแคงหน้ำ#า ถ#าไม$หย3ด็ชั่�กให# Diazepam 10 mg IV

ใน้ำเด็�กให# Diazepam 0.03 mg/kg IV ถ#าไข้#สำ&งให#เชั่�ด็ต�วลัด็ไข้#

15. การลั#างตาด็#วย NSS ไป็ก$อน้ำ 1000 cc ให#พูลั�กเป็ลั�อกตาด็&ถ#าม�สำ��งแป็ลักป็ลัอมต�ด็ Cornea ให#รายงาน้ำแพูที่ย�

Page 5: 201010010830750

16. Epistaxis ม�เลั�อด็ออกใน้ำจม&ก การด็&แลัเบ� องต#น้ำค�อให#ผู้&#ป็2วยใชั่#ม�อบ�บจม&กหายใจที่างป็ากถ#าไม$หย3ด็ให#ใชั่# ก�อชั่ชั่3บ Adrenaline แพู�คไว# 10 น้ำาที่�ถ#าไม$หย3ด็ให#สำ$งต$อโรงพูยาบาลั

17. การด็&แลับ3คคลัที่��ถ&กสำ3น้ำ�ข้ก�ด็ ถ#าเป็�น้ำแผู้ลัเป็9ด็จะไม$เย�บป็9ด็แผู้ลัเพูราะจะป็9ด็ที่างระบายเชั่� อโรคควรเป็9ด็แผู้ลัแลัะที่�าความสำะอาด็ที่3กว�น้ำ การฉ�ด็ว�คซ้ำ�น้ำ RV ฉ�ด็ที่��ว�น้ำที่�� 0 3 7 30 ถ#าเคยฉ�ด็ภายใน้ำ 6 เด็�อน้ำ ให#กระต3#น้ำ 1

คร� ง ถ#าเก�น้ำ 6 เด็�อน้ำกระต3#น้ำ 2 คร� ง18. calculi น้ำ��วใน้ำกระเพูาะป็8สำสำวะ จะม�อาการป็วด็

ป็8สำสำวะลั�าบาก การร�กษาควรฉ�ด็ Diclofenac IM ได็#ถ#าป็วด็มาก น้ำอกจากน้ำ� น้ำย�งสำามารถให#ยา Norfloxacin แลัะการแน้ำะน้ำ�าให#ด็��มน้ำ� ามากๆ

19. กรณ�ม�case Arrest ที่�� ER จากการสำ�งเกตเห�น้ำพูบว$า

ถ#าม�ผู้&#ป็2วย COMA เจ#าหน้ำ#าที่��จะม�หน้ำ#าที่��ชั่$วยก�น้ำด็�งน้ำ� คน้ำที่�� 1 จะเร�ยกที่�มงาน้ำ ม�การตะโกน้ำว$าม�ผู้&#ป็2วย Arrest

คน้ำที่�� 2 ต�ด็ EKG

คน้ำที่�� 3 จ�ด็ที่$าผู้&#ป็2วยใน้ำที่$า Head Thin shin lefe

พูร#อม Hold mask ที่�า BLS 30/2

คน้ำที่�� 4 เป็9ด็เสำ#น้ำให# 0.9% NSS IV ต$อ tree way 2

อ�น้ำ ให# Adrenaline ไป็ก$อน้ำ 1 AM ให#ได็# 3-5

Dose ที่3ก 5 น้ำาที่�Case/ความร��ทำ�* OPD

Page 6: 201010010830750

20. ผู้&#ป็2วยแข้น้ำข้าอ$อน้ำแรง อ$อน้ำเพูลั�ย สำ$วน้ำใหญ่$จะอย&$ภาวะ ข้าด็สำาร Electrolyte ค�อ K ต��า แพูที่ย�แน้ำะน้ำ�าให#ร�บป็ระที่าน้ำกลั#วยเพู��มข้� น้ำเน้ำ��องจากกลั#วยม� K สำ&ง เพูราะ K ต��าม�ผู้ลัต$อกลั#ามเน้ำ� อห�วใจ

21. ผู้&#ป็2วยมาด็#วยป็วด็เม��อยตามลั�าต�ว ป็วด็กระด็&กสำ�น้ำหลั�ง แพูที่ย�ว$าเป็�น้ำกระด็&กสำ�น้ำหลั�งเสำ��อมจะม�อาการป็วด็ลังมาตามเสำ#น้ำป็ระสำาที่จะต#องก�น้ำยาแลัะที่�ากายภาพูบ�าบ�ด็

22. ผู้&#ป็2วยม�ไข้# ได็# 2 ว�น้ำ เลั�อด็ก�าเด็าไหลั ม�ถ$ายด็�าแพูที่ย�ตรวจร$างกายด็& ฟั8งป็อด็ ด็& คอ ว�น้ำ ที่�า TT ผู้ลั Neg คอ จากน้ำ� น้ำก�ให# ไป็เจาะเลั�อด็ เน้ำ��องจากการที่�า TT ผู้ลัอาจย�งไม$ข้� น้ำ ใน้ำว�น้ำที่�� 2 สำ$วน้ำมากหมอจะเจาะเลั�อด็ป็ระเม�น้ำด็& จ�าน้ำวน้ำเม�ด็เลั�อด็แด็ง เม�ด็เลั�อด็ข้าว แลัะเกร�ด็เลั�อด็ สำ$วน้ำการเจาะด็& Hct น้ำ� น้ำเป็�น้ำการป็ระเม�น้ำได็#ใน้ำระยะ Shock

23. ผู้&#ป็2วยโด็น้ำไม#ที่��มที่��ตา ม�ตาม�ว เวลัาโด็น้ำแด็ด็น้ำ� าตาจะไหลั แพูที่ย�ให#ค�าแน้ำะน้ำ�าควรหลั�กเลั��ยงแสำงแด็ด็แลัะให#ยาไป็ร�กษา

24. ม�ผู้&#ป็2วยโรคลั� น้ำห�วใจร��ว ฟั8งเสำ�ยงห�วใจได็#เสำ�ยง mur

mur เป็�น้ำเสำ�ยงลั�กษณะเหม�อน้ำเสำ�ยงหายใจซ้ำ$อน้ำอย&$ใน้ำเสำ�ยงห�วใจ

25. ผู้&#ป็2วยเป็�น้ำไข้# ไอ หอบบ$อย ม�โรคป็ระจ�าต�วเป็�น้ำโรค ความด็�น้ำโลัห�ตสำ&ง แลัะเก;าที่� แพูที่ย�ให#ค�าแน้ำะน้ำ�าว$า ภายใน้ำ 1 สำ�ป็ด็าห� ไม$ให#ป็2วยเก�น้ำ 1-2 คร� งหลั�กเลั��ยงการเป็�น้ำไข้# หว�ด็

Page 7: 201010010830750

26. ผู้&#ป็2วยเป็�น้ำต#อลัมถ#าไม$เป็�น้ำอะไรมากแพูที่ย�จะให#ยาแก#ระคายเค�อง แลัะถ#าเป็�น้ำมากจะต#องม�การข้&ด็ออก

27. ผู้&#ป็2วยจะม�อาการว�งเว�ยน้ำ ข้ณะย�น้ำจะลั#มไป็ที่างข้วา แพูที่ย�จะตรวจร$างกายด็&การที่รงต�วใน้ำผู้&#ป็2วยรายน้ำ� ไม$ม�ป็8ญ่หาอะไรจ�งไม$น้ำ$าเก�ด็จากสำมอง น้ำ$าจะเก�ด็จากน้ำ� าใน้ำห&ที่��ไม$สำมด็3ลั เร�ยกว$า BBPV

28. ผู้&#ป็2วยมาด็#วยอาการเจ�บเข้$า แพูที่ย�ว$าน้ำ$าจะเก�ด็จากการที่��กระด็&กข้#อเข้$าเสำ��อม แพูที่ย�แน้ำะน้ำ�าให#ม�การอกก�าลั�งกายป็<องก�น้ำข้#อเข้$าเสำ��อม ค�อการน้ำ��งเก#าอ� แลัะยกข้าที่� งสำองข้#าง ข้� น้ำ-ลัง ว�น้ำลัะ 200 คร� ง ที่�าได็#ใน้ำที่3กเพูศที่3กว�ย

29. ผู้&#ป็2วยป็วด็แน้ำ$น้ำหน้ำ#าอก ร#าวไป็ที่��หลั�ง แพูที่ย�ตรวจที่#องด็&แลั#วอ�น้ำด็�บแรกร�กษาแบบภาวะ Desphepsia

30. ผู้&#ป็2วยม�ภาวะความด็�น้ำโลัห�ตสำ&ง ควรสำอบถามเร��อง อาหาร การใชั่#ยาสำม3น้ำไพูร ความเคร�ยด็ การพู�กพู$อน้ำ การสำ&บบ3หร�� ด็��มสำ3รา กาแฟั

31. ผู้&#ป็2วยที่��เป็�น้ำโรคว�งเว�ยน้ำศร�ษะควรสำอบถามอาการอ��น้ำๆด็#วยเชั่$น้ำด็&ว$าสำ�มพู�น้ำธ์�ก�บที่$าที่างหร�อไม$ ควรฟั8งป็อด็ ห�วใจ ป็ระเม�น้ำความด็�น้ำโลัห�ต ภาวะซ้ำ�ด็

ความร��ในการด็�แลุ่สตร�ต�7งครรภู#การด็&แลัแลัะค�ด็กรองหญ่�งต� งครรภ� ใชั่# 3 อย$าง ค�อ

Page 8: 201010010830750

32. การซ้ำ�กป็ระว�ต� ควรซ้ำ�กให#ลัะเอ�ยด็ เน้ำ#น้ำ การถามถ�งป็ระว�ต�ครอบคร�วความด็�น้ำโลัห�ตสำ&ง โรคเบาหวาน้ำ โรคห�วใจ

ด็�านส�ต(ศึาสตร# เชั่$น้ำ LPM ที่��เป็�น้ำป็กต�ที่3กรอบ ที่��ไม$ม�กระป็9ด็กระป็อย ค�อ 28 +- 7 เพูราะกลั�วเป็�น้ำเลั�อด็ฝั8งต�วข้องต�วอ$อน้ำ น้ำอกจากน้ำ� น้ำย�งต#องถามถ�งป็ระว�ต� PARA แลัะ การค3มก�าเน้ำ�ด็ ก$อน้ำการต� งครรภ�ถ#าหย3ด็หลั�งการใชั่#สำามเด็�อน้ำ อาย3ครรภ�จะไม$แม$น้ำอาการที่��ต#องถามใน้ำระหว$างการต� งครรภ�

ไตรมาศแรก จะม�อาการแพู#ที่#อง คลั��น้ำไสำ# เลั�อด็ออก ป็วด็ที่#องน้ำ#อยได็#

ไตรมาศที่��สำอง แน้ำะน้ำ�าเร��องกรร�บป็ระที่าน้ำอาหาร การน้ำ�บลั&กด็�น้ำ

ไตรมาศที่�สำามอาการเจ�บครรภ� เลั�อด็หร�อน้ำ� าคร��าออกที่างชั่$องคลัอด็ การเคลั��อน้ำไหวข้องที่ารก

33. การตรวจร$างกาย สำ$วน้ำสำ&งถ#า น้ำ#อยกว$า 145 cm

จะม�ป็8ญ่หาต$อการคลัอด็ เสำ��ยงต$อภาวะ คลัอด็ต�ด็ข้�ด็ น้ำอกจากน้ำ� แลั#วต#องตรวจด็&ต$อมไที่รอยด็� โด็น้ำสำ$วน้ำมากหญ่�งต� งครรภ�จะม�อาการร#อน้ำตามต�ว HR เร�ว ป็ระเม�น้ำด็&ห�วน้ำมแลัะลัาน้ำน้ำมเพู��อที่��จะได็#ร�บการแก#ไข้ได็#ที่�น้ำหารม�ภาวะผู้�ด็ป็กต� แลัะไม$ควรลัะเลัยเร��องการตรวจฟั8น้ำเน้ำ��องจากการต� งครรภ�จะต#องม�การสำ&ญ่เสำ�ยแคลัเชั่�ยมไป็ให#ที่ารก

34. อาการผู้�ด็ป็กต�ข้ณะต� งครรภ� เชั่$น้ำ

Page 9: 201010010830750

- หลั�ง 3 เด็�อน้ำแรก น้ำ� าหน้ำ�ก ไม$ควรข้� น้ำต��ากว$า สำ�ป็ด็าห�หลัะ 04.-05. Kg

- ตลัอด็การต� งครรภ� น้ำ� าหลั�กควรเพู��มข้� น้ำ 7-12 Kg

- ตรวจ Urine ไม$ควร เก�น้ำ +1

- ความด็�น้ำโลัห�ตไม$ควรเก�น้ำ 140/90 mmHg.

- อาเจ�ยน้ำร3น้ำแรง35. การว�ด็ระด็�บมด็ลั&กเป็�น้ำเซ้ำน้ำต�เมตร จะเร��มว�ด็จาก

ข้อบบน้ำข้องกระด็&กห�วหน้ำ$าว จะว�ด็ได็#แม$น้ำเม��ออาย3ครรภ� 18-32 สำ�ป็ด็าห� บวกลับได็#ไม$เก�น้ำ 2 cm เชั่$น้ำ อาย3ครรภ� 19 สำ�ป็ด็าห� สำามารถว�ด็ได็# 19 เชั่น้ำต�เมตร

36. First leopold handgrip ว�ตถ3ป็ระสำงค�     ตรวจเพู��อหาระด็�บข้องยอด็มด็ลั&กแลัะสำ$วน้ำข้องเด็�กที่��บร�เวณยอด็มด็ลั&ก Second leopold handgrip

ว�ตถ3ป็ระสำงค�     ตรวจเพู��อหาหลั�งข้องเด็�ก Third

leopold handgrip ตรวจเพู��อหาสำ$วน้ำน้ำ�า (Presentation) ข้องเด็�ก Fourth leopold

handgrip ตรวจเพู��อหาระด็�บสำ$วน้ำน้ำ�าแลัะที่รงข้องเด็�ก

37. การตรวจั LAB

Hct ควรม�ค$าเที่$าก�บ 33 % ข้� น้ำไป็

การตรวจเลั�อด็ สำ��งที่��ต#องตรวจ สำาม�ด็#วยที่3กคร� ง ค�อ HIV OF DCIP

Page 10: 201010010830750

GDM ควรที่�า 50% glucose ที่��อาย3ครรภ� 24-28

สำ�ป็ด็าห� เน้ำ��องจาก ชั่$างน้ำ� Hormone ที่��ข้�ด็ข้วางภาวการณ�ด็&ด็ซ้ำ�มน้ำ� าตาลัม�น้ำ#อยที่��สำ3ด็ แลัะไม$ควรที่�า FBS เพูราะคน้ำที่#องม�กพูบภาวะ FBS HEMIA

การที่�า 50 % glucose ไม$ต#อง NPO ถ#า น้ำ� าตาลัมากกว$าหร�อเที่$าก�บ 140 Mg% ให#สำ$งไป็ที่�า OGTT ต$อ โยต#องม�การงด็น้ำ� างด็อาหารก$อน้ำที่�า แลั#วให#ด็��มน้ำ� าตาลั 100

กร�ม เจาะเลั�อด็ด็& ถ#า FBS ไม$ควรเก�น้ำ 105 Mg% ชั่��วโมงที่�� 1 ค$าป็กต� 190 Mg% 2Hr 165 Mg% 3 Hr

145 Mg% ถ#าพูบความผู้�ด็ป็กต� 2 ค$าข้� น้ำไป็ สำ$งตรวจ FBS 2 ชั่��วโมงหลั�งอาหารเพู��อบอกชั่น้ำ�ด็

38. Preeclamcia ความด็�น้ำโลัห�ตมากกว$า 140/90 mmHg. Protein มากกว$า +1 อาการย�งไม$ร3น้ำแรง

39. ค�าแน้ำะน้ำ�าก$อน้ำกลั�บบ#าน้ำ

ไตรมาสำแรก ควรระว�งอาการแพู#ที่#อง อาการแที่#ง

ไตรมาสำที่��สำอง การสำ�งเกตลั&กด็� น้ำ การก�น้ำอาหาร น้ำ� าหน้ำ�กที่��ควรเพู��มข้� น้ำ การก�น้ำยาบ�าร3ง

ไตรมาสำที่��สำาม อาการไกลั#คลัอด็

40 ยา FBC ให# dose 1*2 ให#ร$วมก�บว�ตาม�น้ำ c เพู��อการด็&ด็ซ้ำ�มใน้ำรายที่��ต#องให#เพู��มมากข้� น้ำค�อรายที่��มาฝัากครรภ�ชั่#า ครรภ�แฝัด็ หลั�งคลัอด็ก�สำามารถให#ได็#

Page 11: 201010010830750

41 ยา Folic acid สำามารถให#ได็# ก$อน้ำการต� งครรภ� 3 เด็�อน้ำ เพู��อสำ�งเคราะห� Neuron tube deflut

แลัะมารด็าที่��เป็�น้ำเบาหวาน้ำถ#าต� งใจจะต� งครรภ� ควรให#ก$อน้ำการต� งครรภ� 3 สำ�ป็ด็าห�

42 การพูบแพูที่ย�ค3ณภาพู พูบที่��อาย3ครรภ� 18-24

สำ�ป็ด็าห�

43 การฝัากครรภ� GA ที่�� 1-28 ฝัากที่3ก 4 สำ�ป็ด็าห�

GA ที่�� 28-32 ฝัากที่3ก 3 สำ�ป็ด็าห�

GA ที่�� 33-36 ฝัากที่3ก 2 สำ�ป็ด็าห�

GA 36 ข้� น้ำไป็ ฝัากที่3ก 1 สำ�ป็ด็าห�

Page 12: 201010010830750

1. ข�อุ่ม�ลุ่ส!วนบุ�คคลุ่

ช8*อุ่ผู้��ป9วย น้ำายอ3ด็ร อุ่าย� 44 ป็A เพศึ หญ่�ง

สถานภูาพสมรส ค&$ เช87อุ่ชาต( ไที่ย ส�ญชาต( ไที่ย ศึาสนา พู3ที่ธ์

ระด็�บุการศึ�กษา ชั่� น้ำป็.4

อุ่าช�พ ร�บจ#าง

ผู้��ให�ข�อุ่ม�ลุ่ ผู้&#ป็2วย

2. อุ่าการส�าค�ญ (Chief Complaint : C.C.)

ตาแด็ง ป็วด็ตาที่� ง 2 ข้#างมา 1 ว�น้ำ

3. ประว�ต(เจั บุป9วยในป:จัจั�บุ�น (History of Present illness :

P.I.)2 ว�น้ำก$อน้ำมา เร��มร& #สำ�กเค�องตา ตาแด็ง ที่� งสำองข้#าง

1 ว�น้ำก$อน้ำมารพู.หลั�งตาแด็ง ป็วด็ตาที่� ง 2 ข้#าง ป็วด็ตาข้#างซ้ำ#ายมากกว$าข้#างข้วา ม�ข้� ตาออกมาก

ข้� ตาม�สำ�เหลั�อง ต��น้ำเชั่#ามาลั�มตาไม$ข้� น้ำ

4. ประว�ต(การเจั บุป9วยในอุ่ด็�ต (Past Health History / Past

Medical History)แข้�งแรงด็�มาตลัอด็ ป็ฏิ�เสำธ์การผู้$าต�ด็แลัะการได็#ร�บยาใด็ๆเป็�น้ำ

ป็ระจ�า ป็ฏิ�เสำธ์การเจ�บป็2วยด็#วยโรคร#ายแรง ป็ฏิ�เสำธ์การแพู#ยา ป็ฏิ�เสำธ์การแพู#สำารอ��น้ำ ป็ฏิ�เสำธ์การเก�ด็อ3บ�ต�เหต3ใด็ๆก�บตน้ำเอง ป็ฏิ�เสำธ์การได็#ร�บเลั�อด็

5. ประว�ต(การเจั บุป9วยในครอุ่บุคร�ว (Family History)

สำมาชั่�กใน้ำครอบคร�ว ป็ฏิ�เสำธ์โรคป็ระจ�าต�ว ไม$ม�ใครเจ�บป็2วยด็#วยโรคร#ายแรงหร�อโรคต�ด็ต$อที่างกรรมพู�น้ำธ์� ที่3กคน้ำสำ3ข้ภาพูแข้�ง

Page 13: 201010010830750

แรงด็� เม�� อ 3 ว�น้ำก$อน้ำหลัาน้ำชั่ายอาย3 8 ป็A เป็�น้ำโรคตาแด็ง ร�กษาอาการที่3เลัาแลั#ว

6. ประว�ต(ส!วนต�วแลุ่ะพฤต(กรรมส�ขภูาพ (Personal History and

Health behavior / Life Style)น(ส�ย / บุ�คลุ่(กภูาพ : เป็�น้ำคน้ำเฉยๆ พู&ด็น้ำ#อยโด็ยเฉพูาะก�บบ3คคลัที่��ไม$ค3#น้ำเคยอุ่าหาร : ชั่อบร�บป็ระที่าน้ำอาหารรสำจ�ด็ที่3กชั่น้ำ�ด็ยาทำ�*ใช� : ร�บป็ระที่าน้ำยาแก#ป็วด็(Para) เม��อม�ไข้#หร�อป็วด็เม��อย ซ้ำ� อยาจาก

คลั�น้ำ�กใกลั#บ#าน้ำเหลุ่�า / บุ�หร�* : ด็��มเหลั#าบางคร� งเวลัาม�งาน้ำสำ�งสำรรค� ไม$สำ&บบ3หร��

การใช�ช�ว(ตทำ�*วๆไป : หลั�งจากร�บป็ระที่าน้ำอาหารเชั่#าเวลัาป็ระมาณ 7.00 น้ำ. จะออกไป็

ร�บจ#างที่�าสำวน้ำ กลั�บเข้#าบ#าน้ำอ�กคร� งค�อตอน้ำเย�น้ำ สำ$วน้ำใหญ่$ใชั่#ชั่�ว�ต

แบบเร�ยบง$ายอย&$ก�บครอบคร�ว การนอุ่นหลุ่�บุ : น้ำอน้ำหลั�บ ว�น้ำลัะ 6-8 ชั่��วโมง หลั�บสำน้ำ�ที่ด็� ความเคร�ยด็ : เม��อม�เร��องไม$สำบายใจม�กพู&ด็ค3ยก�บภรรยา การข�บุถ!าย : ถ$ายป็กต�ที่3กว�น้ำ สถานะเศึรษฐก(จั : รายได็#ข้องครอบคร�ว 8,000

บาที่/เด็�อน้ำ พูอเพู�ยงไม$เป็�น้ำหน้ำ� สำ�น้ำ ส(*งแวด็ลุ่�อุ่ม : ที่��อย&$อาศ�ยข้องต�วเองเป็�น้ำเร�อน้ำไม# 2 ชั่� น้ำ

สำร#างต�ด็ถน้ำน้ำภายใน้ำ หม&$บ#น้ำ สำภาพูภายใน้ำบ#าน้ำ อากาศถ$ายเที่ด็�

5. การตรวจัร!างกายระบุบุทำ�*ม�ป:ญหา (Physical Examination)

Page 14: 201010010830750

General appearance : Thai man 44 years old normostenic built looked comfortable

by sitting up learning forward well co - operative

Vital sign : T = 36.8 C , BP 120/70 mmHg , P= 82 /min by radial, pulse

regular RR = 22 Breaths/min , Weight = 45 kgs.,Height 145 cm. , BMI = 20.4 (normal)

Skin : color tan of skin not pale no jaundice no cyanosis normal

distribution of hair normal skin tugoreye : Conjunctiva Rt.eye mild iniected Conjunctiva Lt.eye iniected

with swelling ciliary iniection Lt.. eye no diplopia mild watering ,

yellow discharge , no hordeolum , pupil 2 mm. both eyes react to

lightLymnode : pre auricular palpable size 0.5 cm.mobile with tendernessThroat & pharynx : Tonsils not enlarge , pharynx mild iniected Chest : A-P transverse normal approximately 1:2 , Lung expand

equally , no retraction ,normal tactile fremitus

Breath sound normal , no adventitious sound Heart : Heart sound S1 , S2 regular ,no murmur

6. รายการป:ญหาขอุ่งผู้��ป9วย (Problem List)

Problem list1. ตาแด็ง ป็วด็ตา ม�ข้� ตาสำ�เหลั�อง

Page 15: 201010010830750

2. ข้าด็ความร& #ความเข้#าใจใน้ำการด็&แลัสำ3ข้ภาพูต$อโรคที่��เป็�น้ำ

7. การว(น(จัฉั�ยแยกโรค (Differential Diagnosis)

1. Bacterial conjunctivitis2. Viral conjunctivitis3. Allergic conjunctivitis

โรค ทำฤษฎี� ผู้��ป9วยBacterial

conjunctivitis

เ ย�� อ ต า ข้ า ว อ� ก เ สำ บ จ า ก เ ชั่� อแบคที่�เร�ยพูบใน้ำคน้ำที่3กว�ย หายเองภายใน้ำ 10 – 14

ว�น้ำสาเหต� เก�ด็จากการต�ด็เชั่� อแบคที่�เร�ย เชั่$น้ำ

สำเตรป็โตค�อกค�สำ สำแตฟัฟัAโลัค�อกค�สำ

ต�ด็ต$อโด็ยการสำ�มผู้�สำถ&กน้ำ� วม�อ ผู้#าเชั่�ด็หน้ำ#า หร�อผู้#าเชั่�ด็ต�วที่��ป็น้ำเป็C อน้ำเชั่� ออุ่าการ ตาแด็งหน้ำ�งตาบวม ม�ข้� ตามาก ม�ลั�กษณะเป็�น้ำสำ�เหลั�องหร�อเข้�ยวม�กม�การอ�กเสำบที่��ตาที่� งสำองข้#างโด็ยลัามเข้#าหาก�น้ำสำ$วน้ำมากจะไม$ม�อาการป็วด็ตาหร�อเค�องตามาก ไม$ม�อาการค�น้ำแลัะต$อมน้ำ� าเหลั�องที่��หน้ำ#าห&ไม$โตส(*งตรวจัพบุ ตาแด็ง หน้ำ�งตาบวมม�ข้� ตาสำ�เหลั�องหร�อเข้�ยว

ข�อุ่ม�ลุ่สน�บุสน�น-ตาแด็ง หน้ำ�งตาบวม ข้� ตามากสำ�เหลั�อง- บ3ตรชั่ายที่��อย&$บ#าน้ำเด็�ยวก�น้ำเป็�น้ำตาแด็ง

ข�อุ่ม�ลุ่ค�ด็ค�าน

-ม�อาการป็วด็ตา-ต$อมน้ำ� าเหลั�องหน้ำ#าห&โต

Viral conjunctiviti

เย��อตาข้าวอ�กเสำบจากไวร�สำ พูบ ข�อุ่ม�ลุ่สน�บุสน�น

Page 16: 201010010830750

s ใน้ำที่3กว�ย

สาเหต� เก�ด็จากการต�ด็เชั่� อไวร�สำซ้ำ��งม�อย&$หลัายชั่น้ำ�ด็ เชั่$น้ำ ไวร�สำอะด็�โน้ำ ไวร�สำพู�คอร�น้ำา

ต(ด็ต!อุ่ โด็ยการสำ�มผู้�สำโด็ยตรงหร�อสำ�มผู้�สำถ&กข้#าวข้องเคร��องใชั่#ที่��แป็ด็เป็C อน้ำจากม�อข้องผู้&#ป็2วยระยะฟั8กต�ว 1-2 ว�น้ำอุ่าการ ม�อาการตาแด็ง หน้ำ�งตาบวมเลั�กน้ำ#อย เค�องตา น้ำ� าตาไหลั ม�ข้� ตาเลั�กน้ำ#อย บางรายอาจม�ไข้# เจ�บคอ อ$อน้ำเพูลั�ย ม�กพูบว$าเป็�น้ำหลัายคน้ำใน้ำชั่$วงที่��ม�การระบาด็ส(*งตรวจัพบุ ตาแด็ง บางคร� งเห�น้ำเป็�น้ำป็C น้ำแด็งคลั#ายเลั�อด็ออก หน้ำ�งตาบวม ต$อมน้ำ� า เหลั�องที่��หน้ำ#าห&โตอาจม�ไข้#ร$วมด็#วย

-ตาแด็ง หน้ำ�งตาบวม

เค�องตา น้ำ� าตาไหลั-ต$อมน้ำ� าเหลั�องหน้ำ#าห&โต-บ3ตรชั่ายที่��อย&$บ#าน้ำเด็�ยวก�น้ำเป็�น้ำตาแด็งข�อุ่ม�ลุ่ค�ด็ค�าน-ข้� ตามาก ต��น้ำเชั่#ามาลั�มตาไม$ข้� น้ำ- T = 36.8 C

โรค ทำฤษฎี� ผู้��ป9วยAllergic

conjunctivitis

เย��อตาข้าวอ�กเสำบจากการแพู# ม�ป็ระว�ต�การแพู#สำารต$างๆม�อาการค�น้ำตามาก ม�กจะค�น้ำตรงห�วตา

ต#องข้ย� ย��งข้ย� ย��งค�น้ำ ถ#าข้ย� มากๆหน้ำ�งตาจะบวมแลัะชั่� า

ตาข้าวจะม�สำ�แด็งเร� อๆผู้&#ป็2วยม�กม�น้ำ� าตาไหลั ตอน้ำแรกน้ำ� าตาจะใสำ

ต$อมาจะเหน้ำ�ยว ม�กไม$ม�ข้� ตา หร�อม�เพู�ยงเลั�กน้ำ#อยม�ลั�กษณะใสำๆหร�อเป็�น้ำสำ�ข้าว ถ#าแพู#มากๆเย��อ

ข�อุ่ม�ลุ่สน�บุสน�น- ตาแด็ง หน้ำ�งตาบวม

ข�อุ่ม�ลุ่ค�ด็ค�าน-ไม$ม�ป็ระว�ต�การแพู#สำารใด็ๆ- ตาแด็ง หน้ำ�งตาบวม ข้� ตามากสำ�เหลั�อง- ไม$ม�อาการค�น้ำตา

Page 17: 201010010830750

ตาข้าวอาจบวมเป็2งเป็�น้ำเย��อใสำๆ

สำ��งตรวจพูบ ตาแด็งอ�กเสำบ หน้ำ�งตาบวม

10. การว(น(จัฉั�ยโรค

จากการซ้ำ�กป็ระว�ต�แลัะตรวจร$างกาย พูบว$า Conjunctiva Lt.

eye iniected with swelling ciliary iniection Lt.. eye ตาแด็ง

หน้ำ�งตาบวม ข้� ตาสำ�เหลั�อง ม�มากลั�มตาไม$ข้� น้ำตอน้ำต��น้ำน้ำอน้ำ

- สอุ่ด็คลุ่�อุ่งก�บุโรค Bacterial conjunctivitis มากที่��สำ3ด็

ผู้��เข�าร�บุการอุ่บุรมว(น(จัฉั�ย Bacterial conjunctivitis

แพทำย#ว(น(จัฉั�ย Bacterial conjunctivitis

11. การร�กษา หร8อุ่การส!งต!อุ่

Problem list : ตาแด็ง ปวด็ตา ข�7ตาส�เหลุ่8อุ่ง

ว(ธิ์�การร�กษาตามต�ารา1. ใชั่#ยาป็<ายตาหร�อยาป็<ายตาที่��เข้#ายาป็ฏิ�ชั่�วน้ำะ เชั่$น้ำข้� ผู้� งป็<ายตา

เตตร#าไซ้ำคลั�น้ำ ยาหยอด็ตาน้ำ�โอสำป็อร�ร�น้ำที่3ก 2 – 4 ชั่��วโมงแลัะก$อน้ำน้ำอน้ำควรใชั่#ข้� ผู้� งป็<ายตาเพู��อป็<องก�น้ำไม$ให#ตาต�ด็ก�น้ำตอน้ำต��น้ำน้ำอน้ำก$อน้ำใชั่#ยาที่3กคร� ง

2. ควรใชั่#น้ำ� าต#มสำ3กเชั่�ด็ข้� ตาออก ถ#าหน้ำ�งตาบวมมากให#ก�น้ำยาป็ฏิ�ชั่�วน้ำะ เชั่$น้ำ cloxacillin หร�อ

erythromycin 3. ถ#าป็วด็มากให#ยาแก#ป็วด็ สำ$วน้ำมากอาการจะด็�ข้� น้ำภายใน้ำ 2–

3 ว�น้ำ ควรให#ยาต$อสำ�ก 5-7 ว�น้ำ

แผู้นการร�กษาขอุ่งผู้��ร�บุการอุ่บุรม

Page 18: 201010010830750

- Dicloxacillin (250) 1 x 4 ac + hs - Paracetamol (500) 2 tabs oral prn.q 4 – 6 hrs.

- CPM 1 X 3 pc oral- Chloram.ED. หยอด็ตา tid

การร�กษาขอุ่งแพทำย# - Dicloxacillin (250) 1 x 4 ac + hs - Paracetamol (500) 2 tabs oral prn.q 4 – 6 hrs.

- CPM 1 X 3 pc oral- Chloram.ED. หยอด็ตา tid

แผู้นการร�กษาขอุ่งผู้��เข�าร�บุการอุ่บุรมSpecific treatment

- Dicloxacillin (250) 1 x 4 ac + hs - Chloram.ED. หยอด็ตา tid

Non - Specific treatment- Paracetamol (500) 2 tabs oral prn.q 4 – 6 hrs.- CPM 1 X 3 pc oral

Non –pharmacologic Rx.- เชั่�ด็ตาด็#วยน้ำ� าต#มสำ3กเวลัาม�ข้� ตาแลัะก$อน้ำหยด็ยาตา

Pharmacologic treatment

Name Gr. Action / Dose Side effectDicloxacillin (250)

Antibiotic กลุ่�!ม

Pennicillin

Dose : ผู้&#ใหญ่$ให#คร� งลัะ 250 มก.ว�น้ำลัะ 4 คร� ง

ก$อน้ำอาหารแลัะก$อน้ำน้ำอน้ำAction : เป็�น้ำยาฆ่$าเชั่� อแบคที่�เร�ย ออกฤที่ธ์�ย� บย� งการสำร#างผู้น้ำ�งเซ้ำลัลั�ข้องแบคที่�เร�ย เป็�น้ำ

Pennicillin ก��งสำ�งเคราะห�ที่��ม�สำ&ตร

คลั��น้ำไสำ# อาเจ�ยน้ำ

อาการแพู# เชั่$น้ำผู้��น้ำค�น้ำ ม�ไข้# หร�อม�อาการแพู#แบบ

Anaphylactic shock

Page 19: 201010010830750

โครงสำร#างที่างเคม�ที่��ที่�าให#ที่น้ำต$อการย$อย enzyme

Pennicillinase ยากลั3$มน้ำ� ม�ความแรงน้ำ#อยกว$า

Pennicillin G มากName Gr. Action / Dose Side effect

Paracetamol

(500)

ระง�บุปวด็ลุ่ด็ไข�

Dose : 1-2 tab oral q 4-6 hrAction :ย�บย� งการสำ�งเคราะห� prostaglandins ใน้ำระบบป็ระสำาที่สำ$วน้ำกลัาง แต$ย�บย� งการสำร#างสำารน้ำ� ที่��บร�เวณน้ำอกสำมองได็#น้ำ#อยโด็ยเฉพูาะใน้ำบร�เวณที่��เก�ด็การอ�กเสำบ ซ้ำ��ง prostaglandins เป็�น้ำต�วที่�าให#เก�ด็ความเจ�บป็วด็แลัะที่�าให#เก�ด็ไข้#ที่��ม�ผู้ลัต$อศ&น้ำย�ควบค3มอ3ณหภ&ม�ข้องร$างกาย ไม$ที่�าให#เก�ด็แผู้ลัใน้ำกระเพูาะอาหาร ออกฤที่ธ์�Fภายใน้ำ 30-60 น้ำาที่�หลั�งได็#ร�บยา

ง$วงซ้ำ�ม ผู้��น้ำข้� น้ำ บวม เป็�น้ำแผู้ลัที่��เย��อบ3ชั่$องป็าก ใน้ำข้น้ำาด็ที่��มากเก�น้ำไป็อาจที่�าให#ต�บวายแลัะถ�งแก$กรรมได็#

CPM ยาแก�แพ�กลุ่�!มทำ�*แย�ง

Dose : 1 tab oral tid.pc.Action : ต#าน้ำฮี�สำตาม�น้ำ

ม�อาการซ้ำ�ม

ม�น้ำงง ง$วง

Page 20: 201010010830750

จั�บุ H1

receptor กลุ่�!ม

Alkylamine

ต#าน้ำการบวม การหด็ร�ด็ต�วข้องระบบที่างเด็�น้ำหายใจ ที่างเด็�น้ำอาหาร

แลัะกลั#ามเน้ำ� อเร�ยบข้องหลัอด็เลั�อด็

หลั�บ เว�ยน้ำศ�รษะ ห&อ� อ ใจสำ��น้ำ ชั่�พูจรเต#น้ำเร�ว ความด็�น้ำโลัห�ตต��าหร�อสำ&งเลั�กน้ำ#อย ตาม�ว ป็ากคอแห#ง ที่#องผู้&ก ป็8สำสำาวะลั�าบาก คลั��น้ำไสำ# อาเจ�ยน้ำ เบ��ออาหาร ที่#องเด็�น้ำ

Chloram.ED.

Antibioticกลุ่�!มChloramphenical

Dose :. : 1 หยด็ เชั่#า

กลัางว�น้ำ เย�น้ำ.

Action : ย�บย� งการเจร�ญ่เต�บโตข้องแบคที่�เร�ย โด็ยไป็ย�บย� งการสำร#างโป็รต�น้ำใน้ำ Ribosome ข้องเซ้ำลัลั�ฆ่$าได็#ที่� งกร�มบวก

aerobic organisms แลัะกร�มลับ

เย��อบ3ตาบวมแด็ง ผู้�วหน้ำ�งบร�เวณเป็ลั�อกตาอ�กเสำบ

เค�องตา กลั�วแสำง น้ำ� าตาไหลั ต�ด็เชั่� อซ้ำ� า

กด็ไข้กระด็&กรวมที่� ง Aplastic

anemia

12.การให�ค�าแนะน�า

1. แน้ำะน้ำ�าให#หย3ด็งาน้ำจน้ำกว$าจะหาย2. ควรลั#างม�อบ$อยๆด็#วยสำบ&$เพู��อป็<องก�น้ำการแพูร$กระจายเชั่� อ

สำ&$ผู้&#อ��น้ำ

Page 21: 201010010830750

3. ห#ามใชั่#ม�อข้ย� ตา แลัะพูยายามอย$าไป็คลั3กคลั�ก�บคน้ำอ�� น้ำป็<องก�น้ำการแพูร$กระจายโรค

4. ระหว$างที่��ม�อาการตาแด็งห#ามใชั่#ข้องใชั่# เชั่$น้ำ ผู้#าเชั่�ด็หน้ำ#า ผู้#าเชั่�ด็ต�ว หมอน้ำ แก#วน้ำ� า จาน้ำชั่าม สำบ&$ ข้�น้ำน้ำ� า โที่รศ�พูที่� ร$วมก�บผู้&#อ��น้ำ 5. หลั�กเลั��ยงจากแสำงแด็ด็จ#า หร�อใชั่#สำายตาใน้ำการอ$าน้ำหน้ำ�งสำ�อ ด็&โที่รที่�ศน้ำ� 6. น้ำอน้ำหลั�บพู�กผู้$อน้ำอย$างเพู�ยงพูออย$างน้ำ#อยว�น้ำลัะ 6 –

8 ชั่��วโมง ห#ามที่�างาน้ำหน้ำ�ก7. ร�บป็ระที่าน้ำยาตามแพูที่ย�สำ��งอย$างเคร$งคร�ด็8. การใชั่#ยาหยอด็ตา ไม$ให#ใชั่#ร$วมก�บผู้&#อ��น้ำ แลัะหลั�งเป็9ด็ใชั่#ยา

แลั#ว ยาหยอด็ตาม�อาย3อย&$ได็# 1 เด็�อน้ำ

13. การต(ด็ตามผู้ลุ่การร�กษาทำางโทำรศึ�พทำ#แลุ่ะทำ�*บุ�านหร8อุ่การเย�*ยมผู้��ป9วยทำ�*บุ�าน

การวางแผู้น้ำการเย��ยม เพู��อป็ระเม�น้ำอาการอาการตาแด็ง ป็วด็ตา ต�ด็ตามการป็ฏิ�บ�ต�ต�วเพู��อป็<องก�น้ำการแพูร$กระจายเชั่� อตาแด็ง

ต�ด็ตามการร�บป็ระที่าน้ำยาตามแผู้น้ำการร�กษาแลัะอาการข้#างเค�ยงจากการใชั่#ยา

14.ส(*งทำ�*ได็�เร�ยนร��จัาก Case น�7 ตาแด็งเป็�น้ำโรคระบาด็ซ้ำ��งสำามารถต�ด็ต$อก�น้ำโด็ยการสำ�มผู้�สำ เม��อ

พูบผู้&#ป็2วยตาแด็งต#องแน้ำะน้ำ�าการป็<องก�น้ำโรคน้ำ� ให#ก�บผู้&#ป็2วยแลัะคน้ำใน้ำครอบคร�ว การป็ฏิ�บ�ต�ต�วใน้ำข้ณะม�อาการเพู��อป็<องก�น้ำการแพูร$ระบาด็ข้องโรค แลัะการต�ด็เชั่� อแบคที่�เร�ยเพู��ม

Page 22: 201010010830750