Upload
others
View
5
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
1
บทท่ี 4การต่อลงดินของระบบไฟฟ้า( Power System Grounding )
2
ความผิดพร่องแบบลดัวงจร แบง่ได้เป็น 2 ประเภท
4.1 บทน า
1. ความผิดพร่องแบบเฟส ( Phase Fault )- Three Phase Fault - Line to Line Fault
2. ความผิดพร่องลงดิน ( Ground Fault )- Single Line to Ground Fault - Double Line to Ground Fault
ความผิดพร่องลงดิน 70 - 90 %ของความผิดพร่องแบบลดัวงจร
3
จดุประสงคข์องการต่อลงดิน
1) เพ่ือจ ากดัแรงดนัเกิน ( Overvoltage ) เน่ืองจาก- ฟ้าผา่ ( Lightning )- เสิรจ์ในสาย ( Line Surge )- สมัผสักบัสายแรงสงูโดยบงัเอิญ
2) เพ่ือให้แรงดนัระหว่างสายกบัดินในขณะท างานตามปกติมีค่าคงท่ี
3) เพ่ือช่วยให้อปุกรณ์ป้องกนักระแสเกิน ท างานได้รวดเรว็ขึน้เมื่อเกิดการลดัวงจร (Short Circuit) ส่วนท่ีต่อลงดินเช่น สวิตชต์ดัตอนอตัโนมติั (CB)
4
1. ตดัวงจรและก าจดัความผิดพร่องออกจากระบบ( Trip and Clear Fault )- ตดัวงจรออกทนัที- ใช้ในกรณีท่ีความผิดพร่องมีความรนุแรง- รปูแบบการต่อลงดิน
(1) ระบบการต่อลงดินโดยตรง ( Solidly Grounding System )(2) ระบบต่อลงดินผา่นความต้านทานค่าต า่
( Low Resistance Grounded System )
4.2 ข้อพิจารณาในการท างานของระบบป้องกนั
การป้องกนัความผิดพร่องลงดิน เลือกการท างานได้ 2 แบบ
5
2. ไม่ตดัวงจรและให้ระบบท างานต่อเน่ืองไปเรื่อยๆ ( Not to Trip and Maintain Service Continuity
- เม่ือเกิดความผิดพร่อง ส่งสญัญาณเตือน ระบบยงัคงการท างานต่อไปได้
- ใช้ในกรณีระบบมีค่ากระแสผิดพร่องต า่- ใช้ในอตุสาหกรรมท่ี Continuity of Service ส าคญัมาก- รปูแบบการต่อลงดิน
(1) ระบบต่อลงดินผา่นความต้านทานค่าสงู( High Resistance Ground System )
(2) ระบบไม่ต่อลงดิน ( Ungrounded System )
6
- ระบบไฟฟ้าก าลงัท่ีไม่ได้ตัง้ใจให้มีการต่อลงดิน- แต่ความเป็นจริงแล้ว ระบบจะต่อลงดินผา่นตวัเกบ็ประจุ ( Capacitance )
4.3 ระบบไฟฟ้าท่ีไม่มีการต่อลงดิน (Ungrounded System)
รปูท่ี 4.1 ระบบไฟฟ้าท่ีไม่มีการต่อลงดิน
XG0
เมือ่ XG0 คอื รแีอคแตนซล์ ำดบัศนูยข์องเครือ่งก ำเนดิไฟฟ้ำหรอืหมอ้แปลง
7
ข้อดี
- เม่ือเกิดความผิดพร่องลงดิน กระแสผิดพร่องมีค่าต า่
- ขณะเกิดความผิดพร่องลงดิน ระบบยงัสามารถท างานต่อได้
- ไม่ต้องลงทนุเพ่ือท าการต่อลงดิน
ข้อเสีย
- เกิดแรงดนัเกินชัว่ครู่สงู (High Transient Overvoltage)
- มีโอกาสเกิด Arcing Ground Faults
Ungrounded System
8
รปูท่ี 4.2 วงจรสมมลูและแรงดนัเกินชัว่ครู่ ในระบบท่ีไม่มีการต่อลงดิน
ข้อเสียของระบบไฟฟ้าก าลงัท่ีไม่มีการต่อลงดิน
- เกิดแรงดนัเกินชัว่ครู่สงู High Transient Overvoltage
Ungrounded System
9
สามารถแบง่ออกเป็น 2 รปูแบบ
1. การต่อลงดินโดยตรง (Solid Grounding)
4.4 การต่อลงดินของระบบไฟฟ้าก าลงั
2. การต่อลงดินผา่นอิมพีแดนซ์ (Impedance Grounding)- การต่อลงดินผา่นความต้านทาน (Resistance Grounding)- การต่อลงดินผา่นรีแอคแทนซ์ (Reactance Grounding)- การต่อลงดินแบบเรโซแนนซ์ (Resonant Grounding)
10
4.5 การต่อลงดินโดยตรง ( Solidly Grounding )
รปูท่ี 4.3 การต่อลงดินโดยตรง
XG0
เมือ่ XG0 คอื รแีอคแตนซล์ ำดบัศนูยข์องเครือ่งก ำเนดิไฟฟ้ำหรอืหมอ้แปลง
- เรียกว่า Effectively Ground หรือ Directly Ground- ท าโดยต่อจดุนิวทรอลลงดิน โดยไม่ผา่น Impedance ใดๆ
11
ข้อดี- ค่าแรงดนัเกินชัว่ขณะ (Transient Overvoltage) มีค่าน้อยมาก
- ท าให้อปุกรณ์ป้องกนั เช่น อปุกรณ์ป้องกนักระแสเกิน(Overcurrent Devices) สามารถท างานได้อย่างรวดเรว็เน่ืองจากกระแสผิดพร่องลงดินท่ีเกิดขึน้จะมีค่าสงู
- Arcing Ground Faults จะไม่เกิดขึน้
Solidly Grounding
ข้อเสีย- กระแสผิดพร่องลงดินมีค่าสงู อาจท าให้อปุกรณ์เสียหาย- ในเครื่องก าเนิดไฟฟ้า ค่ากระแสผิดพร่องแบบสายเดียวลงดิน
อาจมากกว่าค่ากระแสผิดพร่องแบบ 3 เฟส
12รปูท่ี 4.4 การต่อลงดินโดยผา่นความต้านทาน
เมื่อ XGO คือ รีแอคแทนซล์ าดบัศนูยข์องเคร่ืองก าเนิดไฟฟ้าหรือหม้อแปลงRN คือ ความต้านทานท่ีใช้ในการต่อลงดิน
XG0
3RN
RN
4.6 การต่อลงดินโดยผา่นความต้านทาน( Resistance Grounding )
13
ข้อดี•ลดความเสียหายของอปุกรณ์ท่ีเป็นทางผา่นของกระแสผิดพร่อง เช่นสวิตชเ์กียร์ หม้อแปลง สายเคเบิล และเครื่องกลไฟฟ้าต่างๆ•ลดความเครียดทางกลของในวงจร และอปุกรณ์•ลดอนัตรายจากการชอ๊ค (Shock) ทางไฟฟ้า เมื่อคนสมัผสัสายดิน•ลดอนัตรายจากการเกิดประกายไฟ (Arc or Flash Hazard) ขณะเกิดผิดพร่อง•ลดการเกิดแรงดนัตกชัว่ขณะ และช่วยแก้ไขได้อย่างรวดเรว็เม่ือเกิดการผิดพร่อง•ควบคมุแรงดนัเกินชัว่ขณะ ลดโอกาสในการตดัวงจรในช่วงแรก
Resistance Grounding
14
การต่อลงดินผา่นความต้านทาน มี 2 ประเภท1. การต่อลงดินผา่นความต้านทานต า่
( Low Resistance Grounding )
2. การต่อลงดินผา่นความต้านทานสงู( High Resistance Grounding )
Resistance Grounding
15
การต่อลงดินผา่นความต้านทานต า่ยอมให้ค่ากระแสผิดพร่องลงดินให้อยู่ระหว่าง 100 - 1000 A เฉล่ีย 400 A
ข้อดีกระแสผิดพร่องมีค่ามากพอ อปุกรณ์ป้องกนัตดัวงจรได้อย่างรวดเรว็
ข้อเสียกระแสผิดพร่องมีค่าสงู เกิดความเสียหายกบัอปุกรณ์ และระบบได้
Resistance Grounding
16
การต่อลงดินผา่นความต้านทานสงู
- ยอมให้ค่ากระแสผิดพร่องลงดินมีค่าต า่ แต่ต้องมากกว่า Charging Current ( IC ) ของ Stray Capacitance
- กระแสผิดพร่องลงดิน ควรมีค่าไม่เกิน 2 เท่าของ ICหรือ 10 A
ถ้ากระแสสงูกว่าน้ี การเกิดอารก์จะรนุแรง
- นิยมใช้กบัระบบแรงดนัปานกลาง
- การต่อลงดินผา่นความต้านทานสงู ท าได้โดย- ต่อความต้านทานเข้ากบัจดุศนูยโ์ดยตรง- ต่อความต้านทานผา่น Distribution Transformer
Resistance Grounding
17
รปูท่ี 4.5 การต่อลงดินโดยใช้ Distribution Transformer
a : 1
GEN
DistributionTransformer
RN
ReflectedResistance
= a2RN
Resistance Grounding
ใชค้วามตา้นทานคา่ต ่าต่อผา่นหมอ้แปลง ชว่ยท าใหป้ระหยดัคา่ใชจ้า่ยได้
18
การต่อลงดินผา่นความต้านทานสงูข้อดี- กระแสผิดพร่องมีค่าต า่ ในการตรวจจบัฟอลต์ และส่งสญัญาณเตือน- ป้องกนัแรงดนัเกินชัว่ขณะได้ดี โดยไม่ต้องใช้รีเลย์
ข้อเสียกระแสผิดพร่องมีค่า > 10 A มีโอกาสเกิด Arc ท่ีรนุแรง
Resistance Grounding
รปูท่ี 4.6 ระบบการต่อลงดินผา่นรีแอคเตอร์19
4.7 การต่อลงดินผา่นรีแอคเตอร์( Reactance Grounding )
- การต่อจดุศนูยข์องหม้อแปลง หรือเคร่ืองก าเนิดไฟฟ้าผา่น รีแอคเตอรล์งดิน- จ ากดักระแสผิดพร่องให้อยู่ในช่วง 25 - 60 % ของกระแสผิดพร่องลงดินแบบ 3 เฟส
20
4.8 การต่อลงดินผา่นรีแอคเตอรแ์บบเรโซแนนซ์(Resonant Grounding)
- โดยการติดตัง้ตวัหกัล้างความผิดพร่องลงดิน ( Ground Fault Neutralizer or Petersen Coil)
- XN จะปรบัค่าให้หกัล้าง XC ของระบบ ท าให้ขณะเกิดความผิดพร่องมีแค่ R ท าให้กระแสและแรงดนัในนิวทรอลมีเฟสตรงกนั
- ใช้กบัระบบส่งขนาดใหญ่ ไม่นิยมใช้ในงานไฟฟ้าอตุสาหกรรม
รปูท่ี 4.7 การต่อลงดินผา่นรีแอคแทนซแ์บบเรโซแนนซ์
21
การเปรียบเทียบระบบการต่อลงดินแบบต่างๆ
Characteristics of different grounding methodsCharacteristic Ungrounded High-resistance Low-resistance Effective
Transient Overvoltage Up to 6 p.u. 2.5 p.u. 2.5 p.u. 2.5 p.u.
Positive Fault Location No Yes Yes Yes
System Interruption On First Fault Sometimes Optional Yes Yes
Personnel Safety Poor Best Good Fair
Multiple Faults Often Seldom Seldom Seldom
Fault damage Low Low Medium High
Coordination Of Protective Relays Impossible Best Good Good
22
ตารางท่ี 4.1 เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการต่อลงดินแบบต่างๆ
4.9 การเปรียบเทียบระบบการต่อลงดินแบบต่างๆ
Case Type AUngrounded
Type B
EffectivelyGrounded
Type C
ReactanceGrounded
Type D
ResistanceGrounded
Type E
ResonanceGrounded
1) การฉนวนของอุปกรณ์
Fully Insulated ต ่า Partially Graded Partially Graded Partially Graded
2) กระแสผดิพรอ่งลงดนิ
มคีา่ต ่า คา่สงูสดุโดยทัว่ไปไม่มากกวา่
อยูร่ะหวา่ง 25%-50%
ของ Type B
มคีา่ต ่า ละเลยได้
3) ความปลอดภยัจาก Voltage
Gradient
โดยทัว่ไปดี ให้ Gradient สงูสดุแต่โดยทัว่ไปจะไมม่ปัีญหาอะไร
ดกีวา่ Type B ดกีวา่ Type C คา่ Gradient น้อยทีส่ดุ
4) เสถยีรภาพ ไมต่อ้งพจิารณา มเีสถยีรภาพต ่ากว่าแบบอื่นแต่ท าใหด้ไีด้โดยการใช้ CB ความไวสงู
ดกีวา่ Type B ดกีวา่ Type B ไมม่ปัีญหาเมือ่เกดิSLG
23
ตารางท่ี 5.1 ( ต่อ ) เปรียบเทียบการต่อลงดินแบบต่างๆCase Type A
UngroundedType B
EffectivelyGrounded
Type C
ReactanceGrounded
Type D
ResistanceGrounded
Type E
ResonanceGrounded
6) Arcing Ground มโีอกาสเกดิมาก มโีอกาสน้อย อาจมไีดถ้า้Reactance มคีา่สงู
มโีอกาสน้อย มโีอกาสน้อย
7) เมือ่เกดิLocalizing Fault
เกดิ Fault ทีเ่ฟสหนึ่งท าใหเ้กดิแรงดนัเกนิที่เฟสอื่นๆไดใ้นวงจร
เมือ่เกดิ Fault แลว้ทีอ่ื่นไมเ่กีย่วขอ้ง
เหมอืน Type B ดกีวา่ Type A ดกีวา่ Type A
8) โอกาสเกดิDouble Fault (เกดิFault 2 ที่ )
มโีอกาสเกดิสงูมาก มโีอกาสเกดิน้อย โอกาสเกดิน้อยเวน้แต่วา่Reactance มากเกนิไปและฉนวนอ่อนแอไป
เหมอืน Type C มโีอกาสเกดิแต่ไม่มาก
9) การป้องกนัฟ้าผา่ ตอ้งใช้ Arrester ที่ไมไ่ดต้่อลงกราวน์
ประสทิธภิาพสงูสดุราคาต ่าสดุ
ถา้ Reactance มคีา่สงูตอ้งมี Arrester ต่อที่Neutral
ตอ้งใช้ Arrester กบัสายทีไ่มไ่ดต้่อลงกราวน์และจดุ Neutral ดว้ย
เหมอืนกบั Type D
10) การเหนี่ยวน า ปกตจิะมคีา่ต ่ายกเวน้ในกรณี Double Fault
มคีา่มากเนื่องจากกระแส Fault สงูแกโ้ดยใช้ CBความไวสงู
มคีา่ต ่ากวา่ Type B มคีา่ต ่ากวา่ Type B มคีา่ต ่ายกเวน้กรณีเกดิ Double Fault
หรอื Series
Resonant
24
ตารางท่ี 5.1 ( ต่อ ) เปรียบเทียบการต่อลงดินแบบต่างๆCase Type A
UngroundedType B
EffectivelyGrounded
Type C
ReactanceGrounded
Type D
ResistanceGrounded
Type E
ResonanceGrounded
11) การรบกวนทางความถีค่ลืน่วทิยุ
มคีา่ต ่า น้อยมาก มากกวา่ Type B มคีา่ต ่ากวา่ Type B อาจมมีากถา้ Fault
มคีา่ต ่า
12) เมือ่เกดิ Fault
สายสามารถใชไ้ด้หรอืไม่
โดยทัว่ไป Fault จะClear ตวัเองถา้สายที่ต่ออยูม่ไีมม่ากนกั หากมจี านวนมากตอ้งตดัสว่นเกดิ Fault ออก
ตอ้งตดัสว่นเกดิ Fault
ออกจากระบบเหมอืน Type B เหมอืน Type B ไมจ่ าเป็นตอ้งตดั
วงจรโดยทัว่ไปFault จะ Clear
ตวัเอง
13) ความสามารถในการต่อวงจรกบัระบบอื่น
ไมส่ามารถต่อกบัระบบอื่นได้
สามารถต่อไดก้บั Type
C
สามารถต่อไดก้บั Type
B
สามารถต่อไดก้บัType B และ Type C
ไมส่ามารถต่อกบัระบบอื่นได้
14) การตัง้ CB Ic ของ CB หาไดโ้ดยก าหนดจาก Fault 3
เฟส
โดยทัว่ไปก าหนดโดยFaultแบบ 3 เฟสแต่บางกรณี SLG Fault
อาจมากกวา่ได้
เหมอืน Type A เหมอืน Type A เหมอืน Type A
15) ราคาทัง้หมด สงู ต ่าสดุ ปานกลาง ปานกลาง สงู
25
Z0, Z
1, Z
2
Zf
A
B
C
4.10 การวิเคราะหค์วามผิดพร่องลงดินกรณี Single Line to Ground Fault
26
f3Z
2Z
1Z
0Z
fE
2I
1I
0I
2I
1I
0I
2aa1
a2a1
111
cI
bI
aI
2I
1I
0I
FI
0I 3
f3Z
2Z
1Z
0Z
f3E
27
2I
1I
0I
2Z00
01
Z0
000
Z
0
fE
0
2V
1V
0V
2V
1V
0V
a2a1
2aa1
111
cV
bV
aV
b
V- a V ab
V
c V- b
V bc
V
a V- cV caV
28
ตวัอย่างท่ี 4.1 พจิารณาระบบไฟฟ้าก าลงัมี Single Line Diagram ดงัรปู โดยมรีายละเอยีดดงันี้
SCC = 5000 MVA X/R = 10
Z1 = Z2 = 0.1905 + j0.3229 ?/km
F1
2km.
F2
Z0 = 0.3817 + j1.5440 ?/km
transformer 40 MVA115 kV / 22 kV%U = 10 X/R = 10
4.11 ตวัอย่างการค านวณเก่ียวกบัการต่อลงดิน
1. ให้ค านวณหากระแส Three Phase Fault และ SLG ท่ีระยะ0 km และ 2 km2. ถ้าใช้ Neutral Ground Resistor เพ่ือจ ากดักระแสให้ไม่เกิน 1000 A กระแส SLG จะเป็นเท่าใด ท่ีระยะ 0 km และ 2 km
SCC = 1500 MVA, X/R = 10
%Z = 10, X/R = 6
29
วิธีท า
kA 0.50201153
100kV) (115bI
kA 2.6243223
100kV) (22bI
4.84100
222MVA
2kV kV) (22b
Z
ก าหนดให้ Base Power = 100 MVABase Voltage = 115 kV และ 22 kV
30
p.u. 0.0667 1500100
SZ
1) ระบบไฟฟ้า
ดงันัน้ 10 RX
p.u. 0.0066 2
RX1
Z S
R
p.u. 0.066 S
10R S
X
S2 X
S1 X,
S2R
S1R
31
2) หม้อแปลง
p.u. 0.25 40
1000.10 T
Z
ดงันัน้ 6 RX
p.u. 0.0411 2
RX1
TZ
T
R
p.u. 0.2466 T
6R T
X
T0 X
T1 X,
T0R
T1R
32
3) Feeder ท่ี 2 km
p.u. 0.1362 j0.0787 F1
XjF1
R
p.u. 0.6380 j0.1577 F0
XjF0
R
SCC = 5000 MVA X/R = 10
Z1 = Z2 = 0.1905 + j0.3229 ?/km
F1
2km.
F2
Z0 = 0.3817 + j1.5440 ?/km
transformer 40 MVA115 kV / 22 kV%U = 10 X/R = 10
33
สว่น Impedance ( p.u. )
0 1 2
1) ระบบไฟฟ้า - 0.0066 + j 0.066
0.0066 + j 0.066
2) หมอ้แปลง 0.0411 + j 0.2466
0.0411 +j 0.2466
0.0411 + j 0.2466
Fault ที่ F1 0.0411 + j 0.2466
0.0477 +j 0.3126
0.0477 + j 0.3126
3) สายป้อน 2km. 0.1577 + j 0.6380
0.0787 + j 0.1362
0.0787 + j 0.1362
Fault ที่ F2 0.1988 + j 0.8846
0.1264 + j 0.4488
0.1264 + j 0.4488
34
หากระแส Three Phase Fault ท่ี 0 km. ( F1 )
p.u. 3.160.3126 j0.0477
1.0
1ZE
FI
kA 8.28 2.623.16
หากระแส Three Phase Fault ท่ี 2 km. ( F2 )
p.u. 2.145
0.4488 j0.1264
1.0
1
ZE
FI
kA 5.62
2.622.145
35
หากระแส SLG ท่ี 0 km. ( F1 )
p.u. 3.4
j0.87180.13651.03
2Z
1Z
0Z
3EFI
kA 8.9
2.623.4
หากระแส SLG ท่ี 2 km. ( F2 )
p.u. 1.63
j1.78220.4516
1.03
2Z
1Z
0Z
3E FI
kA 4.27
2.621.63
36
2. ถ้าใช้ Neutral Ground Resistor ( NGR )เพ่ือจ ากดั กระแสให้ไม่เกิน 1000 A
Rph
E I จาก
12.70
1000
3
22000
Iph
E R
p.u. 2.62
4.84
12.70 puR
37
เม่ือติดตัง้ NGR หากระแส SLG ท่ี 0 km ( F1 )
pu3R2
Z1
Z0
Z3E
FI
2.62)(30.8718) j(0.13651.03
kA 0.98 2.620.373
p.u. 0.373
38
เม่ือติดตัง้ NGR หาหระแส SLG ท่ี 2 km ( F2 )
2.62)(31.7822) j(0.45161.03
pu3R2
Z1
Z0
Z3E
FI
2.62)(31.7822) j(0.45161.03
p.u. 0.353
kA 0.92 2.620.353
จะเหน็ได้ว่าสามารถก าหนดกระแส Fault สงูสดุได้ โดยติดตัง้ NGR ระหว่างจดุ Neutral และ Ground
Ans.
39
ตวัอย่างท่ี 4.2 ค านวณกระแสผิดพร่องของระบบไฟฟ้าดงัรปูต่อไปน้ี
ระบบไฟฟ้าส าหรบัตวัอย่างท่ี 4.2
R
(2) (1)
3 phase fault
(L-G)
ก าหนดให้ Short Circuit Capacity = 2000 MVA , 115 kVเกดิ 3 Short Circuit ทีข่ ัว้ 22 kV ของหมอ้แปลงหมอ้แปลงขนาด 20 MVA 115/22 kVX1 = X2 = 10 % , X0 = 5 %
40
วิธีท าระบบไฟฟ้า
200020
scMVAbase
MVA
2 X
1X
หม้อแปลง p.u. 0.10 j 2
X 1
X
A525 223
20000 BaseI
p.u. 0.05 j 0
X
p.u. 0 .11 j 0 .10 j 0 .01 j 2
X 1
XTotal
41
3 Phase Fault0.11 j1.0
1 XjE
3I
p.u. 9.09
kA 4.77 5259.09
Line to Ground Fault
j0.05j0.1121.03
0 Xj
2 Xj
1 Xj
3E 1I
pu 11.110.27 j3
kA 5.83 52511.11
จะสงัเกตเหน็ว่า กระแส Line to Ground Fault มากกว่า กระแส 3 Phase FaultAns.
42
ตวัอย่างท่ี 4.3 จากตวัอย่างท่ี 4.2 จงหาค่า R ท่ีต่ออยู่ระหว่างจดุNeutral กบั Ground เพ่ือจ ากดักระแส SLG Fault ไม่ให้เกิน 400 A
R
(2) (1)
3 phase fault
(L-G)
43
วิธีท า
3R0
Xj2
Xj1
Xj3E
1I
Line to Ground Fault
kV 12.703
22 p.u. 1.0E
31.75 400
12700 R ดงันัน้
A400 1I
เน่ืองจาก R >> j X1 + j X2 + j X0
RE
3R3E
1I
Ans.
44
ตวัอย่างท่ี 4.4 ต่อความตา้นทานเขา้กบัจุดศนูยโ์ดยตรงดงัรปู
การต่อลงดินผา่นความต้านทานสงู
R
GEN
45
ก าหนดให้เคร่ืองก าเนิดไฟฟ้ามีพิกดั 160 MVA , 18 kV
เมื่อ Capacitance to Ground เป็นดงัน้ี- Generator Winding 0.24 F- Generator Surge Capacitance 0.25 F- Generator to Transformer Leads 0.004 F- หมอ้แปลงก าลงั ดา้นแรงต ่า 0.03 F- ดา้นแรงสงูของหมอ้แปลง 0.004 F- ขดลวดแรงดนัของหมอ้แปลง 0.0005 F
รวม Capacitance to Ground 0.5285 F
46
วิธีท า
Capacitance ของเครือ่งก ำเนิดไฟฟ้ำ
)50)(0.52852(3.1416)(610 j
fC2610 j
CX
/phase 6023 j
ส าหรบั High Resistance Grounding จะได้
/phase 6023 3R
kV 18 at 2008 R
47
C X//3R
o45 4259
j60236023)906023(6023
0Z
ค่า Positive-Sequence และ Negative-Sequence มีค่าน้อยมากตดัท้ิงได้
o452.44 1000454259
318/0I
2I
1I
ส าหรบั Single Line to Ground Fault
48
o45 2.443 1I
kV 18 at o45 7.32
o45 COS1I
RI
A5.18
1000200825.18 R I Ploss
R2
Rating Continuous kW 53.8
Ans.
49
ตวัอย่างท่ี 4.5 ใชเ้ครือ่งก าเนิดไฟฟ้าและหมอ้แปลงเดยีวกบัตวัอยา่งที่ 4.4 แต่ใชต้่อลงดนิผา่น Distribution Transformerขนาด 18 kV / 240 V ดงัรปู
ต่อลงดินผา่น Distribution Transformer
GEN
R
50
วิธีท า
2
180002402008R
0.36
A388.5 240
180005.18 SI
V139.9 0.36388.5 S
V
จากตวัอย่างท่ี 4.4 จะได้
51
10000.36388.5 R I
lossP
22
Distribution Transformer Rating
kW 54.3
3
185.18
kVA 53.8
ทัง้ Distribution Transformer และความต้านทานสามารถใช้พิกดัช่วงเวลาสัน้ๆ ( Short Time Rating ) ได้
END