9
วววววววววววววววว วววววว 2556 – ววววววว 2556 วววววววววววววววววววววววววว กกกกกกกก กกกกกกก 1 กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกก กกกกกกก กกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกก ก กกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก กก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกก (กกกก visible light) กกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกก (electromagnetic wave) กกก กกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกก (Radio astronomy) กกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกก กกกกกกกกกก กกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (กกก กกกกกก 1) 1

ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

  • Upload
    others

  • View
    1

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

วารสารฟสิกิสไ์ทย มนีาคม 2556 – สงิหาคม 2556

ดาราศาสตรว์ทิยุในประเทศไทยกิติยานี อาษานอก 1

การศึกษาดาราศาสตรใ์นประเทศไทย ได้รบัความนิยมกันอยา่งแพรห่ลาย ไมว่า่จะเป็นสงัเกตการณ์สรุยุิปราคา จนัทรุปราคา ฝนดาวตก ดาวหาง ตลอดจนปรากฏการณ์ทางดาราศาสตรอ่ื์น ๆ รวมไปถึงการจดัตัง้ชุมนุมดาราศาสตรต์ามโรงเรยีนและสถาบนัอุดมศึกษาทัว่ ๆ ไป ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวขา้งต้น เป็นเพยีงการศึกษาดาราศาสตรภ์าคสงัเกตการณ์ในชว่งความยาวคล่ืนท่ีตามนุษย์มองเหน็ได้เท่านัน้ (หรอื visible light) แต่การศึกษาในทางดาราศาสตรน์ัน้สามารถจำาแนกได้ตามการสงัเกตการณ์ชว่งความยาวคล่ืนของคล่ืนแมเ่หล็กไฟฟา้ (electromagnetic wave) วา่เป็นการศึกษาในชว่งความยาวคล่ืนใด

เชน่เดียวกับดาราศาสตรว์ทิยุ (Radio astronomy) ซึ่งเป็นการศึกษาเทหวตัถบุนท้องฟา้ท่ีในชว่งความยาวคล่ืนวทิยุขอ้ได้

เปรยีบอยา่งหน่ึงในการศึกษาในชว่งคล่ืนดังกล่าวนี้คือสามารถศึกษาได้ตลอดเวลาทัง้กลางวนั และกลางคืน เพราะมคีวามยาวคล่ืนยาว ไมถ่กูดดูกลืน หรอืปิดกัน้ท่ีชัน้บรรยากาศจงึทำาใหส้ามารถทะลผุ่านชัน้บรรยากาศมายงัพื้นโลกได้ (ดังรูปท่ี 1)

1

Page 2: ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

1 อาจารย ์(ดร.) ภาควชิาฟสิกิส ์คณะวทิยาศาสตร ์มหาวทิยาลัยขอนแก่น2ความละเอียดเชงิมุม เป็นความสามารถของอุปกรณ์สรา้งภาพในการแยกแยะภาพ 2 จุดท่ีเหล่ือมซอ้นกันใหแ้ยกจากกันได้

วารสารฟสิกิสไ์ทย มนีาคม 2556 – สงิหาคม 2556

นักดาราศาสตรว์ทิยุจะใชอุ้ปกรณ์ในการสงัเกตการณ์ท่ีเรยีกวา่ กล้องโทรทรรศน์วทิยุ

(radio telescope) ซึ่งมขีนาดหน้ากล้องหรอืเสน้ผ่านศูนยก์ลางของหน้ากล้องใหญ่เพื่อเพิม่ศักยภาพใหก้ับกล้องโทรทรรศน์ในแง่ของความละเอียดเชงิมุม 2 (หรอื angular resolution) ใหม้คีวามละเอียดมากแต่ทัง้นี้ทัง้นัน้ ปัจจยันี้ก็ขึ้นอยูก่ับความยาวคล่ืนท่ีใชใ้นการสงัเกตการณ์ด้วย โดยเฉพาะถ้าเป็นคล่ืนที่ตามองเหน็ (500 – 700 นาโนเมตร) แล้ว ในระดับความละเอียดเชงิมุมเท่า ๆ กันกล้องโทรทรรศน์ธรรมดาจะมขีนาดหน้ากล้องท่ีเล็กกวา่มากเมื่อเทียบกับกล้องโทรทรรศน์วทิยุดังนัน้ ถ้าต้องการเพิม่ความละเอียดเชงิมุมใหก้ับกล้องโทรทรรศน์วทิยุแล้ว จำาเป็นจะต้องสรา้งกล้องใหม้ขีนาดใหญ่ตามไปด้วย จากปัญหาดังกล่าว เราสามารถเพิม่ขนาดของกล้องโทรทรรศน์วทิยุได้โดยใชห้ลักการแทรก

รูปท่ี 1 แผนภาพจำาลองการทึบแสง (opacity) ของชัน้บรรยากาศโลกในชว่งความยาวคล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ประเภทต่าง ๆ

2

Page 3: ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

วารสารฟสิกิสไ์ทย มนีาคม 2556 – สงิหาคม 2556สอดสญัญาณทางดาราศาสตรว์ทิยุ (radio interferometry) ซึ่งใชก้ล้องโทรทรรศน์วทิยุตัง้แต่สองตัวขึ้นไป วางตำาแหน่งของกล้องใหห้า่งกันด้วยระยะฐานใด ๆ (หรอืเรยีกวา่ baseline ดังรูปท่ี 2 ด้านบน) สญัญาณท่ีได้รบัจากเทหวตัถบุนท้องฟา้ มาถึงกล้องทัง้สองตัวต่างเวลากันเนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเอง ดังนัน้จงึต้องมกีารหน่วงสญัญาณ (delay) จากกล้องตัวหน่ึงใหม้าถึงกล้องอีกตัวหนึ่งพรอ้ม ๆ กัน จากนัน้ก็จะนำาสญัญาณที่ได้จากกล้องทัง้สองมาแทรกสอดสญัญาณเขา้ด้วยกัน พบวา่หากระยะหา่งของฐานมากจะทำาใหม้คีวามละเอียดเชงิมุมมากขึ้น อีกทัง้ถ้ามีจำานวนคู่ฐานของกล้องหลาย ๆ ตัวก็จะทำาให้สามารถระบุตำาแหน่งของเทหวตัถบุนท้องฟา้ได้แมน่ยำาและได้รายละเอียดของภาพมากยิง่ขึ้น ด้วยหลักการน้ีจะชว่ยเพิม่ความละเอียดเชงิมุมได้น้อยกวา่ 1 พลิิปดา (เครอืขา่ยอินเตอรเ์ฟยีโรเมทรใีนโลกนี้ ได้แก่ VLBA; Very Long Baseline Array และ MERLIN; Multi-Element Radio Linked Interferometer Network ดังรูปท่ี 2)

รูปท่ี 2 (บน) แสดงภาพจำาลองการใชเ้ทคนิคแทรกสอดสญัญาณดาราศาสตรว์ทิยุ (radio interferometry)[2] (ล่าง) กล้องโทรทรรศน์วทิยุเครอืขา่ยของประเทศสหราชอาณาจกัร (MERLIN) [3]

ดังนัน้ เพื่อเป็นการเริม่ต้นงานวจิยัด้านดาราศาสตรว์ทิยุในประเทศไทย กลุ่มเครอืขา่ยวจิยัดาราศาสตรว์ทิยุประเทศไทย (Thai Radio Astronomy Research Network; TRAN) ซึ่งนำาทีมโดย ผศ. ดร. นิพนธ ์กสพิรอ้ง (อาจารยป์ระจำาภาควชิาฟสิกิส ์คณะวทิยาศาสตร ์มหาวทิยาลัย

3

Page 4: ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

วารสารฟสิกิสไ์ทย มนีาคม 2556 – สงิหาคม 2556อุบลราชธานี) ได้รว่มมอืกับอาจารย ์และนักวจิยัจากหลากหลายสถาบนั โดยเฉพาะสถาบนัวจิยัดาราศาสตรแ์หง่ชาติ (องค์การมหาชน) รว่มกันคิดค้นและประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์วทิยุขนาดเล็ก (หรอื small radio telescope; SRT) เพื่อใชเ้ป็นเครื่องต้นแบบสำาหรบัประกอบกิจกรรมปฏิบติัการทดลองหรอืการเรยีนการสอนด้านดาราศาสตรว์ทิยุในระดับอุดมศึกษา

กล้องโทรทรรศน์วทิยุแบบจานเด่ียว (single dish) ดังรูปท่ี 3 โดยทัว่ไปมสีว่นประกอบหลักแบง่ออกเป็นสองสว่นได้แก่

1) สว่นท่ีใชร้บัสญัญาณ เชน่ จานรบัสญัญาณ ตัวแปลงสญัญาณ หรอืฟดี(feed) วงจรขยาย (low noise amplifier; LNA) และตัวกรอง (filter) สญัญาณ

2) ระบบทางกล เชน่ ฐานตัง้และระบบควบคมุการชีต้ำาแหน่ง

รูปท่ี 3 แสดงสว่นประกอบของกล้องโทรทรรศน์วทิยุขนาดเสน้ผ่าน

ศูนยก์ลาง 10 ฟุต ซึ่งถกูพฒันาโดยสถาบนัวจิยัดาราศาสตรแ์หง่ชาติ (องค์การมหาชน) ประกอบไปด้วย 1) ตัวกรองสญัญาณ 2) สาย RG-213/U 3) ระบบทำาความเยน็ 4) ตัวขยายสญัญาณรบกวนตำ่า 5) ฟดี 6) มอเตอรข์บัตามแนวนอน 7) มอเตอรข์บัตามแนวตัง้ 8) ตู้ควบคมุระบบชี้ตำาแหน่ง 9) เครื่องวเิคราะหส์เปกตรมั 10) คอมพวิเตอรค์วบคมุ (ขอขอบคณุรูปภาพจากสถาบนัวจิยัดาราศาสตร ์ฯ )

หลักการทำางานโดยเบื้องต้นของกล้องโทรทรรศน์วทิยุเริม่จากคล่ืนวทิยุกระทบจานพาราโบลาและสะท้อนไปรวมท่ีจุดโฟกัส โดยทัว่ไปจานพาราโบลาจะเป็นจานโลหะขนาดใหญ่ คล่ืนวทิยุรวมที่จุดโฟกัสจะถกูแปลงให้เป็นสญัญาณไฟฟา้โดยฟดี สญัญาณไฟฟา้ดังกล่าวจะถกูขยายโดยวงจรขยายสญัญาณและสง่ต่อไปยงัตัวกรองความถี่ ก่อนที่จะนำาไปบนัทึกและทำาการประมวลผลในภายหลังโดยกล้องโทรทรรศน์วทิยุขนาดเล็กน้ี มกีำาลังขยายทางทฤษฎีประมาณ 30dB ค่าความกวา้งของลำาคล่ืนที่กำาลังลดลงครึง่หนึ่ง (หรอื half power beamwidth) ประมาณ 5 องศา มรีะบบฐานตัง้กล้องเป็นแบบอะซมุิทและอัลติจูด หมุนตามมุมกวาดได้ 360 องศา ตามมุมเงยได้ 25 ถึง 90 องศา ควบคมุด้วยระบบคอมพวิเตอร์

กล้องโทรทรรศน์วทิยุท่ีได้พฒันาขึ้นมานี้ ถกูออกแบบมาเพื่อตรวจจบัสญัญาณวทิยุในชว่งความถ่ี 1420 ± 30 MHz ซึ่งถกูแผ่โดยอะตอมไฮโดรเจนท่ีเป็นกลาง(หรอื neutral hydrogen3 ; HI)ในกาแลกซีท่าง

4

Page 5: ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

3neutral hydrogen หรอืไฮโดรเจนที่เป็นกลางประกอบไปด้วย โปรตอน อิเล็กตรอน และนิวตรอน อยา่งละ1 ตัว มตีามระนาบดาราจกัรและในบรเิวณที่มสีสารระหวา่งดาว (interstellar medium)4กราฟเสน้โค้งการหมุน เป็นกราฟความสมัพนัธร์ะหวา่งความเรว็ในการหมุนของไฮโดรเจนที่เป็นกลางเทียบกับระยะทางจากใจกลางดาราจกัรไปยงัตำาแหน่งต่าง ๆ ที่ตรวจวดัสญัญาณได้

วารสารฟสิกิสไ์ทย มนีาคม 2556 – สงิหาคม 2556ชา้งเผือกหรอืกาแลกซีทั่ว่ ๆ ไปโดยอะตอมนี้จะปลดปล่อยพลังงานออกมาที่ความยาวคล่ืน 21 เซนติเมตรหรอืความถ่ี 1420 MHz สว่นใหญ่แล้วไฮโดรเจนที่เป็นกลางจะอยูท่ี่ระดับชัน้พลังงานตำ่าสดุ (ground state) หรอืเสถียรท่ีสดุ ขณะท่ีอิเล็กตรอนโคจรรอบโปรตอนมนัจะมทิีศทางการสปิน (หมุน) ไปในแนวเดียวกันกับการสปินของโปรตอน (เรยีกวา่สปินในทิศขนาน; parallel) หรอือาจสปินในทิศทางตรงกันขา้มกับสปินของโปรตอน (เรยีกวา่ สปินในทิศต้านการขนาน; anti-parallel) ถ้าหากวา่อิเล็กตรอนสปินอยูใ่นทิศขนาน มนัก็จะพยายามปรบัใหตั้วเองกลับไปอยู่ท่ีสถานะพลังงานตำ่าสดุ จงึทำาใหอิ้เล็กตรอนใช้ระยะเวลาค่อนขา้งยาวนาน(หลายล้านปี) จนกวา่วา่มนัจะพลิก (flip) กลับไปสูทิ่ศทางต้านการขนานดังเดิม(ดังรูปท่ี 4 บน) ถึงแมว้า่เหตกุารณ์ดังกล่าวจะเกิดค่อนขา้งยาก แต่อยา่งไรก็ตาม ปรมิาณของไฮโดรเจนที่เป็นกลางมจีำานวนมากพอท่ีจะสามารถตรวจจบัได้ในระนาบแผ่นดิสก์ของกาแลกซีต่่าง ๆ ดังนัน้ถ้าทำาการศึกษาการกระจายตัวในระนาบกาแลกซีท่างชา้งเผือกของเราเอง จะชว่ยทำาให้เขา้ใจถึงสภาพการหมุนท่ีแตกต่าง (differential rotation) กันของแต่ละแขนของกาแลกซีร่วมไปถึงการกระจายมวลกาแลกซีท่ี่ได้จากกราฟเสน้โค้งการหมุนของกาแลกซี4่ (rotation curve) แต่อยา่งไรก็ตาม กลุ่มวจิยัฯ ได้ทำาการวดัสญัญาณคล่ืนวทิยุ HI จากระนาบกาแลกซี ่โดยในเบื้อง

ต้นยงัไมส่ามารถตรวจวดัความต่างของสญัญาณได้มากพอซึ่งกล้องโทรทรรศน์วทิยุต้นแบบตัวนี้จะต้องพฒันาใหม้ปีระสทิธภิาพมากยิง่ขึ้นต่อไป

รูปท่ี 4 (บน) ภาพจำาลองแสดงไฮโดรเจนที่เป็นกลางมกีารปลดปล่อยพลังงานออกมาที่ความยาวคล่ืน 21 เซนติเมตร(หรอืความถี่ 1420 MHz) [4] (ล่าง) แสดงผลการวดัสญัญาณคล่ืนวทิยุจากดวงอาทิตยใ์นชว่งความถ่ี 1400 – 1500 MHz ของวนัท่ี 26 สงิหาคม 2556 ท่ีสถานีพลังงานนำ้าแมส่าบ อำาเภอสะเมงิจงัหวดัเชยีงใหม ่อักษร ON1, ON2 และ ON3 เป็นสญัญาณที่ตรวจวดัได้เมื่อกล้องชีไ้ปท่ีตำาแหน่งดวงอาทิตย ์(หรอื on source) ครัง้ที่ 1, 2 และ 3 ตามลำาดับ

5

Page 6: ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

/10( ) 1 10 dBmP mW mW

วารสารฟสิกิสไ์ทย มนีาคม 2556 – สงิหาคม 2556สว่น Az+90, Az+180 เป็นสญัญาณที่ตรวจวดัได้เมื่อกล้องชีต้ำาแหน่งออกนอกดวงอาทิตย ์(หรอื off source) ด้วยมุมกวาดเพิม่จากเดิมไป 90 องศาและ 180 องศาตามลำาดับและ alt+45 เป็นการชีต้ำาแหน่งกล้องออกนอกดวงอาทิตยด้์วยมุมเงยเพิม่จากเดิมไป 45 องศา(ขอขอบคณุรูปภาพจากสถาบนัวจิยัดาราศาสตรฯ์)

นอกจากนี้ กลุ่มวจิยัฯ ยงัได้ใช้กล้องโทรทรรศน์วทิยุท่ีสรา้งขึ้นมาทดสอบวดัสญัญาณคล่ืนวทิยุจากดวงอาทิตยท่ี์ความถ่ี 1400 – 1500 MHz ณ สถานีพลังงานนำ้าแมส่าบอำาเภอสะเมงิจงัหวดัเชยีงใหม ่ วนัท่ี26 สงิหาคม 2556 โดยในเบื้องต้นพบวา่ท่ีความถ่ีดังกล่าว ดวงอาทิตยจ์ะแผ่พลังงานออกมาในรูปสเปกตรมัแบบต่อเนื่อง (continuum spectrum) เพราะฉะนัน้ความเขม้ของสญัญาณท่ีวดัจะอยูใ่นรูปสเปกตรมัแถบกวา้งสงูขึ้นมากกวา่ปกติ ดังเชน่รูปท่ี 4 (ล่าง)ขณะท่ีกล้องชีไ้ปท่ีดวงอาทิตย ์(หรอือักษร ON1, ON2, ON3) สญัญาณมคีวามเขม้ประมาณ -79 dBm5 ซึ่งสงูกวา่ขณะท่ีกล้องชีไ้ปยงัตำาแหน่งอ่ืน (Az+90, Az+180, Alt+45) ประมาณ 5 dBm (หรอื 3.2 เท่า) ขณะท่ีสญัญาณพื้นหลัง (noise floor) อยูท่ี่ -85.5 dBm ซึ่งผลการวดัสญัญาณที่ได้น้ี คาดวา่จะนำาไปประยุกต์ใชใ้นกิจกรรมการเรยีนการสอนระดับอุดมศึกษาในอนาคตต่อไป

รูปท่ี 5 แสดงแผนภาพจำาลองการเกิดคล่ืนวทิยุจากดาวพฤหสับดี

กิจกรรมดาราศาสตรว์ทิยุเพิม่เติมท่ีกลุ่มวจิยัฯ ได้ดำาเนินการ คือทำาการทดลองวดัสญัญาณคล่ืนวทิยุจากดาวพฤหสับดี ท่ีความถ่ี 20 .1 MHz

จากการติดตัง้ชุดคิทเสาอากาศขององค์การอวกาศนาซา่ เรยีกวา่ Radio Jove ซึ่งใชต้รวจวดัสญัญานคล่ืนวทิยุจากดาวพฤหสับดี ซึ่งมสีาเหตหุลัก ๆ มาจาก การที่ดวงจนัทรไ์อโอโคจรไปอยู ่ณ ตำาแหน่งท่ีเสน้แรงแมเ่หล็กพุง่ผ่านพอดีและอนุภาคท่ีมีประจุไฟฟา้จากดวงจนัทรเ์คล่ือนท่ีเขา้ไปในบรเิวณเสน้แรงแมเ่หล็กด้วยอัตราเรว็สงู

(Alfven wave) และเคล่ือนท่ีบดิเป็นเกลียวตามเสน้แรงแมเ่หล็ก ก่อใหเ้กิดปรากฏการณ์ท่ีเรยีกวา่ซนิโครตรอน (Synchrotron effect) และแผ่คล่ืนวทิยุออกมา (ดังรูปท่ี 5) ท่ีความถ่ีตัง้แต่ 15 MHz – 39.5 MHz แต่ชว่งความถ่ีที่ดีท่ีสดุที่สามารถตรวจวดัได้บนโลกคือ 18 MHz – 22 MHz สญัญาณคล่ืนวทิยุจากดาวพฤหสับดียงัสามารถบนัทึกในรูปของเสยีงได้สองรูปแบบ ได้แก่ Long-

6

Page 7: ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

วารสารฟสิกิสไ์ทย มนีาคม 2556 – สงิหาคม 2556burst (หรอื L-burst) ลักษณะเสยีงซา่คล้ายดังคล่ืนทะเลสาดซดัชายหาด และ Short-burst (หรอื S-burst) ลักษณะคล้ายการแตกของขา้วโพด (popcorn) ดังนัน้กลุ่มวจิยัฯ จงึได้ทดลองติดตัง้และทดสอบสายอากาศท่ีหอดดูาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จงัหวดันครราชสมีา ในชว่งระหวา่งวนัที่ 1 – 5 เมษายน 2556 (ดังรูปท่ี 6 บน) โดยใชบ้รเิวณโล่งด้านบนของหอดูดาวฯ เป็นสถานท่ีตัง้เสาอากาศสญัญาณ

รูปท่ี 6 (บน) แสดงการติดตัง้เสาอากาศ Radio Jove เพื่อตรวจวดัสญัญาณคล่ืนวทิยุจากดาวพฤหสับดี ที่ความถี่ 20.1 MHz บรเิวณหอดดูาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จงัหวดันครราชสมีา ในชว่งระหวา่งวนัที่ 1 – 5 เมษายน 2556 (ล่าง) กราฟแสดงความสมัพนัธร์ะหวา่งเวลา

ท่ีทำาการสงัเกตการณ์ในหน่วยเวลาสากล (universal time) ของวนัท่ี 3 เมษายน 2556 และความเขม้ของสญัญาณในรูปของอุณหภมู ิ(ในหน่วยองศาเคลวนิ K) ลักษณะสญัญาณคล่ืนวทิยุท่ีตรวจวดัได้ อยูใ่นชว่งเวลา 19:51 – 19:52 น.คล่ืนวทิยุท่ีคาดวา่จะมาจากดาวพฤหสับดี วดัได้ในวนัท่ี 3 เมษายน 2556 เวลาประมาณ 19:51–19:52 น. ลักษณะสญัญาณเป็นแบบ S-burst ประมาณ 1 นาที (ดังรูปท่ี 6 ล่าง)แต่อยา่งไรก็ตามสญัญาณท่ีได้นี้ยงัไม่อาจจะยนืยนัได้ชดัเจนวา่เป็นสญัญาณจรงิ เพราะจะต้องมกีารเปรยีบเทียบกับฐานขอ้มูลอ่ืนทัว่โลกท่ีสงัเกตการณ์ในชว่งเวลาเดียวกันวา่เป็นสญัญาณประเภทเดียวกันหรอืมาจากดาวพฤหสับดีจรงิหรอืไม ่ซึ่งแผนกิจกรรมในรูปแบบนี้ที่จะทำาต่อไปในอนาคต กลุ่มวจิยัฯ อาจจะนำาไปใชท้ดสอบชว่งที่สนามแมเ่หล็กบนดวงอาทิตยก์ลับขัว้ ในปลายปีนี้ เพื่อทำาการทดสอบวดัสญัญาณ solar burst ท่ีคาดวา่จะเกิดขึ้นในชว่งเวลานัน้มากกวา่ปกติ อีกทัง้ประยุกต์เสาอากาศประเภทอ่ืน เพื่อตรวจจบัคล่ืนวทิยุจากดาวเคราะหห์รอืดาวฤกษ์ประเภทอ่ืน ๆ ในลำาดับถัดไป

จะเหน็ได้วา่น่ีเป็นเพยีงจุดเริม่ต้นสำาหรบัการทำาวจิยัดาราศาสตรว์ทิยุในประเทศไทย ซึ่งสามารถพฒันาใหก้้าวต่อไปขา้งหน้าและกระตุ้นใหเ้กิดความสนใจกับนักเรยีน นักศึกษา รวมไปถึงบุคคลทัว่ไป ท่ีมีความสนใจในงานดาราศาสตร ์ได้ตระหนักและเล็งเหน็ความสำาคัญของการศึกษาด้านดาราศาสตรว์ทิยุน้ี

7

Page 8: ฟิสิกส์ของสเก็ตน้ำแข็งpersonal.sut.ac.th/worawat/TJP_InternalUse/05 5 Kitiyanee... · Web viewร ปท 3 แสดงส วนประกอบของกล

วารสารฟสิกิสไ์ทย มนีาคม 2556 – สงิหาคม 2556

เอกสารอ้างอิง[1] http://upload.wikimedia.org/

wikipedia/commons/3/34/Atmospheric_electromagnetic_opacity.svg สบืค้นเมื่อวนัท่ี 22 กันยายน 2556

[2] http://www.hardhack.org.au/files/interferometer.gif สบืค้นเมื่อวนัท่ี 23 กันยายน 2556

[3] http://www.merlin.ac.uk/merlin_icons/MERLINMapcrop.jpg สบืค้นเมื่อวนัท่ี 23 กันยายน 2556

[4] http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/hbase/quantum/h21.html สบืค้นเมื่อวนัท่ี 23 กันยายน 2556

[5] Arkhypov, OV. andRucker, HO., Effects of magnetohydrodynamic wavesin Jovian decametric emission, A&A, 474, 1031-1035; 2007.

8