126
Concept Map การวัดคากลาง ของขอมูล การวัดการกระจาย ของขอมูล การวิเคราะหขอมูล เบื้องตน การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น หน่วยการเรียนรู้ที1 ผลการเรียนรู เลือกวิธีวิเคราะหขอมูลเบื้องตนและอธิบายผลการวิเคราะหขอมูลไดถูกตอง นําความรูเรื่องการวิเคราะหขอมูลไปใชได การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น เป็นขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการทางสถิติ เพื่อหาข้อสรุปหรืออธิบายลักษณะของข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถิติเชิงพรรณนา ที่เก็บรวบรวมจากกลุ่มตัวอย่าง (sample) หรือจากประชากร (population) ทั้งหมด การวัดการกระจายสัมบูรณ การวัดการกระจายสัมพัทธ ความสัมพันธระหวางการแจกแจงความถี่ คากลาง และการกระจายของขอมูล มัธยฐาน เดไซล ฐานนิยม เปอรเซ็นไทล คาเฉลี่ยเรขาคณิต คาเฉลี่ยฮารมอนิก คาเฉลี่ยเลขคณิต ควอรไทล การวัดตําแหนงทีของขอมูล ฉบับ เฉลย คณิตศาสตร เลม 5 1

WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

  • Upload
    others

  • View
    5

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

Concept Map

การวดคากลาง

ของขอมล

การวดการกระจาย

ของขอมล

การวเคราะหขอมล

เบองตน

การวเคราะหขอมลเบองตนหนวยการเรยนรท1

ผลการเรยนร

เลอกวธวเคราะหขอมลเบองตนและอธบายผลการวเคราะหขอมลไดถกตอง

นาความรเรองการวเคราะหขอมลไปใชได

การวเคราะหขอมลเบองตน เปนขนตอนหนงของกระบวนการทางสถต เพอหาขอสรปหรออธบายลกษณะของขอมล

ซงเปนสวนหนงของสถตเชงพรรณนา ทเกบรวบรวมจากกลมตวอยาง (sample) หรอจากประชากร (population)

ทงหมด

การวดการกระจายสมบรณ

การวดการกระจายสมพทธ

ความสมพนธระหวางการแจกแจงความถ คากลาง

และการกระจายของขอมล

มธยฐานเดไซล

ฐานนยมเปอรเซนไทล

คาเฉลยเรขาคณต

คาเฉลยฮารมอนก

คาเฉลยเลขคณต ควอรไทล

การวดตาแหนงท

ของขอมล ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 1

Page 2: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1 . 1 ʶԵÔáÅТŒÍÁÙÅ Statistics and Data

ความหมายของสถต ความหมายของสถต สามารถจาแนกไดอยางกวางๆ 2 ลกษณะ คอ

1) สถต หมายถง ตวเลขทางสถต ซงอาจเกดจากการวด การคานวณจากขอมลทเกบ

รวบรวมไดตามหลกเกณฑทางสถต

2) สถต หมายถง ศาสตรทเกยวของกบหลกการและกระบวนการทางสถต ซงประกอบดวย

การเกบรวบรวมขอมล การนาเสนอขอมล การวเคราะหขอมล และการตความหมายขอมล

สถตเชงพรรณนาและสถตเชงอนมาน สถตเชงพรรณนา คอ สถตทมงศกษาเพออธบายลกษณะหรอเรองราวตางๆ ของประชากร

กลมใดกลมหนง โดยทาการเกบรวบรวมขอมลของสมาชกทกหนวยในกลมประชากรนน ซงผล

การศกษาทไดจะสามารถอธบายหรอสรปเกยวกบเรองราวของกลมประชากรททาการศกษาเทานน

ไมสามารถนาผลการศกษาทไดไปสรปอางองกบประชากรกลมอน

สถตเชงอนมาน คอ สถตทมงศกษาเพออธบายลกษณะหรอเรองราวตางๆ ของประชากร

กลมใดกลมหนง โดยทาการเกบรวบรวมขอมลจากกลมตวอยาง แลวนาผลทไดไปสรปอางองถง

กลมประชากรซงเปนกลมทตองการศกษา

ขอมลสถต จาแนกตามลกษณะของขอมล

1) ขอมลเชงคณภาพ คอ ขอมลทใชบอกลกษณะของการแบงเปนกลมหรอแบงเปนประเภท

ซงไมอาจวดคาเปนตวเลขหรอสอความหมายตามคาตวเลขไดโดยตรง

2) ขอมลเชงปรมาณ คอ ขอมลทวดเปนตวเลขหรอปรมาณและสอความหมายตามคา

ของตวเลขได ซงแบงออกเปน 2 ลกษณะ คอ

- ขอมลไมตอเนอง เปนขอมลทไดจากการนบ ลกษณะของขอมลเปนจานวนเตม

- ขอมลตอเนอง เปนขอมลทไดจากการวด ซงเปนขอมลทมคาไดทกคาในชวง

ทกาหนด

จาแนกตามแหลงทมาของขอมล

1) ขอมลปฐมภม คอ ขอมลทผใชเกบรวบรวมจากแหลงขอมลโดยตรง

2) ขอมลทตยภม คอ ขอมลทผใชไดมาจากแหลงขอมลทมผเกบรวบรวมไวแลว

ฉบบเฉลย

2 คณตศาสตร เลม 5

Page 3: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

คาศพททเกยวของกบสถต ประชากร คอ เซตของสงตางๆ ทเราตองการศกษาทงหมด

ตวอยาง คอ สวนหนงของประชากรทเราตองการศกษา

คาพารามเตอร คอ คาทคานวณไดจากขอมลทเกบรวบรวมจากสมาชกทกๆ หนวยในกลม

ประชากร

คาสถต คอ คาทคานวณไดจากขอมลทเกบรวบรวมจากกลมตวอยาง

1. พจารณาวาขอมลทกาหนดใหเปนขอมลเชงคณภาพหรอขอมลเชงปรมาณ

1) คะแนนสอบวชาคณตศาสตร ............................................................

2) จานวนผโดยสารทรอรถประจาทาง ............................................................

3) เลขทะเบยนรถสวนบคคล ............................................................

4) ราคารถยนต ............................................................

5) อาชพของผปกครองนกเรยน ............................................................

6) โรคของผปวยในโรงพยาบาล ............................................................

7) รหสไปรษณย ............................................................

8) ปรมาณผลผลตขาวตามภาคตางๆ ............................................................

9) ขนาดรองเทาของนกเรยน ............................................................

10) เลขประจาตวประชาชน ............................................................

2. พจารณาขอความตอไปน แลวใสเครองหมาย ✓ หนาขอความทถกตอง และใสเครองหมาย

✗ หนาขอความทผด

…………………. 1) สถตศาสตรเปนศาสตรทวาดวยการวเคราะหขอมล เพอหาขอสรปจากขอมล

ทเกยวของมาอธบายปรากฏการณหนง หรอประเดนปญหาทสนใจ

…………………. 2) สถตเชงอนมาน คอ วธการในการสรปและนาเสนอขอมลดวยตวเลขสถต

ชดหนง เชน คาวดแนวโนมเขาสศนยกลาง คาการกระจาย หรอแผนภมตางๆ

…………………. 3) สถตเชงพรรณนา คอ การนาเสนอขอมลเพยงบางสวนซงเรยกวาตวอยางมา

วเคราะห โดยใชความรทางคณตศาสตรและสถตขนสง

จดประสงค นกเรยนมความรความเขาใจในเรองขอมล ขาวสาร การเกบรวบรวมขอมล และการนาเสนอขอมล

Exercise 1.1

ฉบบเฉลย

ขอมลเชงปรมาณ

ขอมลเชงปรมาณ

ขอมลเชงคณภาพ

ขอมลเชงปรมาณ

ขอมลเชงคณภาพ

ขอมลเชงคณภาพ

ขอมลเชงคณภาพ

ขอมลเชงปรมาณ

ขอมลเชงคณภาพ

ขอมลเชงคณภาพ

คณตศาสตร เลม 5 3

Page 4: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

…………………. 4) กระบวนการทางสถตประกอบดวย การกาหนดประเดนปญหาทางสถต การเกบ

รวบรวมขอมล การสรปสาระสาคญและการนาเสนอขอมล การวเคราะหขอมล

และการสรปผลเพอตอบคาถามหรอปญหาในประเดนทสนใจ

…………………. 5) ขอมลเชงปรมาณ คอ ขอมลทแสดงลกษณะ ประเภท รปแบบทไมสามารถ

วดคาออกมาเปนตวเลขและสอความหมายคาของตวเลขไดโดยตรง

…………………. 6) วธการเกบรวบรวมขอมลของการสารวจตวอยางอาจใชการสอบถาม การสมภาษณ

หรอการสงเกต แตตองเกบทกหนวยทใหขอมลนน

…………………. 7) การเลอกวธการเกบรวบรวมขอมลทเหมาะสมกบแตละเรอง หรอแตละสถานการณ

นนจะขนอยกบวตถประสงคหรอความตองการทจะนาขอมลไปใช

…………………. 8) นกวจยตองการขอมลเกยวกบความคดเหนดานการศกษาของนกเรยนชนมธยม

ศกษาปท 5 จงเกบรวบรวมขอมลโดยวธสมภาษณ ซงจะไดผลอยางรวดเรว

3. จากขอมลทกาหนดให ตอบคาถามตอไปน

“สานกงานสถตแหงชาต ไดดาเนนการเกบรวบรวมขอมลแรงงานนอกระบบในไตรมาสท 3

(เดอนกรกฎาคม - กนยายน) พ.ศ. 2556 พบวามแรงงานนอกระบบซงเปนผททางานแตไมได

รบความคมครองหรอไมมหลกประกนทางสงคมจากการทางานถงรอยละ 64.2 ของผทางาน

ทงหมด 39.1 ลานคน และจากขอมลยงพบวา แรงงานนอกระบบเหลานอยในภาคเกษตรกรรม

เปนสวนใหญ และมการศกษาไมสงนก” จากขอความขางตน

1) กลมประชากร คอ ……………………………………………………………………………………………………………………………………..

2) กลมตวอยาง คอ ……………………………………………………………………………………………………………………………………..

4. พจารณาวาควรใชวธใดในการเกบขอมลตอไปน

1) รายไดเฉลยตอครวเรอนของคนในกรงเทพมหานคร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2) จานวนผใชบรการหองสมดโรงเรยน

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3) ผลการเคลอบฟลออไรดบนผวฟนทมผลตอการปองกนฟนผ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4) การเปรยบเทยบประสทธภาพของยาแกปวด

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5) การสารวจความคดเหนกรณการเกดแผนดนไหวทางภาคเหนอ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

การสมภาษณ

เกบรวบรวมขอมลจากบนทกการเขาใชบรการหองสมดโรงเรยน

การทดลอง

การทดลอง

การสมภาษณ

ผมงานทา

ตวอยางกลมผมงานทา

4 คณตศาสตร เลม 5

Page 5: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

แนวคด ผลการประเมนทนกเรยนไดรบนนไดจากครสอนวทยาศาสตรโดยตรงจงจดเปนขอมล

แบบปฐมภม และผลการประเมนออกมาเปน ดเยยม ด พอใช และตองแกไข

เปนขอมลเชงคณภาพ

แนวคด กรณทขาดขอมลและสารสนเทศควรทาการกาหนดขอมลทจาเปนตองใชกอนเปน

ลาดบแรก จากนนจงเลอกวธเกบรวบรวมขอมล เกบรวบรวมขอมล และเลอกวธ

วเคราะหขอมล ตามลาดบ

Test for U1. ครสอนวทยาศาสตรมอบหมายใหนกเรยน 40 คน ทาโครงงานตามความสนใจ หลงจากตรวจ

รายงานโครงงานของทกคนแลว ผลสรปเปนตารางดงน

ผลการประเมน จานวนโครงงาน

ดเยยม

พอใช

ตองแกไข

3

20

12

5

ขอมลทเกบรวบรวม เพอใหไดผลสรปขางตนเปนขอมลชนดใด

1. ขอมลปฐมภม เชงปรมาณ 2. ขอมลทตยภม เชงปรมาณ

3. ขอมลปฐมภม เชงคณภาพ 4. ขอมลทตยภม เชงคณภาพ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ในการใชสถตเพอการตดสนใจและวางแผน สาหรบเรองทจาเปนตองมการใชขอมลและสารสนเทศ

ถาขาดขอมลและสารสนเทศดงกลาว ผตดสนใจควรทาขนตอนใดกอน

1. เกบรวบรวมขอมล 2. เลอกวธวเคราะหขอมล

3. เลอกวธเกบรวบรวมขอมล 4. กาหนดขอมลทจาเปนตองใช

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3 ขอมลปฐมภม เชงคณภาพ 4

เลอกวธเกบรวบรวมขอมล 4 กาหนดขอมลทจาเปนตองใช

คณตศาสตร เลม 5 5

Page 6: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

แนวคด ขอ ก. ผด เพราะจากตารางแมวาอตราการวางงานในภาคใตในเดอนกนยายนของ

ป พ.ศ. 2550 และของป พ.ศ. 2551 จะเทากน แตจานวนผวางงานในแตละป

ไมจาเปนจะตองเทากนกได

ขอ ข. ถก เพราะจานวนผอยในกาลงแรงงานทวประเทศในเดอนกนยายนป พ.ศ. 2551

เทากบ 429,0001.1

× 100 = 39,000,000 คน

Test for U3. จานวนผวางงานทวประเทศในเดอนกนยายน ป พ.ศ. 2551 มจานวนทงสน 4.29 แสนคน ตาราง

เปรยบเทยบอตราการวางงานในเดอนกนยายน ป พ.ศ. 2550 กบป พ.ศ. 2551 เปนดงน

พนทสารวจ

อตราการวางงานในเดอนกนยายน

(จานวนผวางงานตอจานวนผอยในกาลงแรงงานคณ 100)

ป พ.ศ. 2550 ป พ.ศ. 2551

ภาคใต

ภาคตะวนออกเฉยงเหนอ

ภาคเหนอ

ภาคกลาง

(ยกเวน กรงเทพมหานคร)

กรงเทพมหานคร

ทวประเทศ

1.0

0.9

1.5

1.3

1.2

1.2

1.0

1.3

1.2

0.9

1.2

1.1

พจารณาขอความตอไปน

ก. จานวนผวางงานในภาคใตในเดอนกนยายนของป พ.ศ. 2550 และของป พ.ศ. 2551 เทากน

ข. จานวนผอยในกาลงแรงงานทวประเทศในเดอนกนยายนป พ.ศ. 2551 มประมาณ 39 ลานคน

ขอใดถกตอง

1. ก. และ ข. 2. ก. เทานน

3. ข. เทานน 4. ก. และ ข. ผด

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3 ข

6 คณตศาสตร เลม 5

Page 7: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. 2 ¡ÒùÓàʹ͢ŒÍÁÙÅ Presentation of data

ตวแปร หมายถง ลกษณะของประชากรทเราสนใจวเคราะห โดยทลกษณะนนๆ ของประชากร

สามารถเปลยนคาได ทงตวแปรทเปนเชงคณภาพและเชงปรมาณ เชน

- คะแนนสอบ เปนตวแปรเชงปรมาณ

- เพศ เปนตวแปรเชงคณภาพ

คาจากการสงเกตและคาทเปนไปได

ถา x เปนตวแปรทใชแสดงผลคะแนนสอบซงมคะแนนเตม 10 คะแนน คะแนนทนกเรยน

แตละคนสอบไดเรยกวา คาจากการสงเกตหรอคาสงเกต และเรยกคะแนนสอบทอาจเปนไปได

สาหรบการสอบไดแก 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และ 10 วา คาทเปนไปได

คาสงเกตทเกบรวบรวมมาได และยงมไดมการจดหมวดหมขอมลชนดนเรยกวา ขอมลดบ

การจดเรยงขอมลดบหรอคาสงเกตทเกบรวบรวมมาไดใหเปนหมวดหม เรยกวา การแจกแจง

ความถ ซงม 2 รปแบบ คอ การแจกแจงความถแบบตาราง และการแจกแจงความถแบบใชกราฟ

การแจกแจงความถแบบตาราง การสรางตารางแจกแจงความถโดยสวนใหญประกอบดวย ขอมล รอยขด ความถของ

ขอมล ความถสะสม ความถสมพทธ และรอยละความถสะสมสมพทธ ซงมขนตอนดงน

ตวอยาง ขอมลคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน ม.6 จานวน 30 คน ดงน

45 56 76 85 45 34 65 76 86 65

76 70 53 82 61 73 87 88 60 89

74 48 51 54 76 68 93 97 53 72

สามารถสรางตารางแจกแจงความถไดดงน

1. หาคาพสยของขอมล

จาก พสย = คาสงเกตสงสด - คาสงเกตตาสด = 97 - 34 = 63

2. กาหนดจานวนอนตรภาคชนของขอมลตามความเหมาะสม ซงในทนจะกาหนดใหม

6 อนตรภาคชน

3. หาความกวางของอนตรภาคชน (I) จาก I = พสยจานวนอนตรภาคชน

= 636 ≈ 11กรณทหารแลวไมเหลอเศษใหบวกเพมอก 1 เสมอ

เชน 606

= 10 ใหปดเปน 11

กรณทหารแลวไมเหลอเศษใหบวกเพมอก 1 เสมอ Note

ปดขนใหเปนจานวนเตมเสมอ

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 7

Page 8: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

4. เขยนชวงของขอมลแตละอนตรภาคชน อาจเรมจากอนตรภาคชนของขอมลตาสด

ไปหาขอมลสงสด หรอจากอนตรภาคชนของขอมลสงสดไปหาขอมลตาสด ตามความกวางของ

อนตรภาคชนทคานวณได

5. พจารณาวาคาสงเกตแตละคาอยในอนตรภาคชนใด แลวขดในชองรอยขด

6. นบจานวนรอยขดของแตละอนตรภาคชน แลวใสรวมในชองความถของขอมลใน

อนตรภาคชนนน และเมอรวมความถของขอมลในแตละอนตรภาคชนจะตองเทากบจานวนคา

สงเกตทงหมด ไดตารางแจกแจงความถดงน

คะแนนสอบ รอยขด ความถ ขอบลาง ขอบบนจดกงกลาง

ของอนตรภาคชน

34 - 44 � 1 33.5 44.5 39.0

45 - 55 ���� �� 7 44.5 55.5 50.0

56 - 66 ���� 5 55.5 66.5 61.0

67 - 77 ���� ���� 9 66.5 77.5 72.0

78 - 88 ���� 5 77.5 88.5 83.0

89 - 99 ��� 3 88.5 99.5 94.0

รวม 30

ขอบลาง = คานอยทสดของอนตรภาคชนนน + คามากสดของชนทอยตากวาหนงชน

2

เชน ขอบลางของอนตรภาคชนท 2 = 45 + 442 = 44.5

ขอบลางของอนตรภาคชนท 3 = 56 + 552 = 55.5

ขอบบน = คามากทสดของอนตรภาคชนนน + คานอยสดของชนทอยสงกวาหนงชน

2

เชน ขอบบนของอนตรภาคชนท 2 = 55 + 562 = 55.5

ขอบบนของอนตรภาคชนท 3 = 66 + 672 = 66.5

การสรางอนตรภาคชนทมความกวางเทากน แตละคนอาจสรางแตกตางกน แตตองอย

ภายใตหลกการเดยวกนวา คาตาสดของขอมลตองอยอนตรภาคชนตาสด และคาสงสด

ของขอมลตองอยอนตรภาคสงสด

Note

+ 11 + 11 ความกวาง ของอนตรภาคชน

+ 11ฉบบเฉลย

8 คณตศาสตร เลม 5

Page 9: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

จดกงกลางของอนตรภาคชน คอ คาทอยกงกลางระหวางขอบบนและขอบลางของชวง

ขอมลในอนตรภาคชน

จดกงกลางของอนตรภาคชน = ขอบบน + ขอบลาง2

ความกวางของอนตรภาคชน คอ ผลตางระหวางขอบบนและขอบลางของขอมลในแตละ

อนตรภาคชน

ความกวางของอนตรภาคชน = ขอบบน - ขอบลาง

นอกจากนเรายงสามารถหาความถสะสม ความถสมพทธ ความถสะสมสมพทธ และรอยละ

ของความถสะสมสมพทธไดดงตาราง

คะแนนสอบ ความถความถสะสม

ความถสมพทธ

ความถสะสมสมพทธรอยละของความถ

สะสมสมพทธ

34 - 44 1 1 1 ÷ 30 ≈ 0.033 1 ÷ 30 ≈ 0.033 0.033 × 100 = 3.3

45 - 55 7 7 + 1 = 8 7 ÷ 30 ≈ 0.233 8 ÷ 30 ≈ 0.267 0.267 × 100 = 26.7

56 - 66 5 5 + 8 = 13 5 ÷ 30 ≈ 0.167 13 ÷ 30 ≈ 0.433 0.433 × 100 = 43.3

67 - 77 9 9 + 13 = 22 9 ÷ 30 = 0.300 22 ÷ 30 ≈ 0.733 0.733 × 100 = 73.3

78 - 88 5 5 + 22 = 27 5 ÷ 30 = 0.167 27 ÷ 30 = 0.900 0.900 × 100 = 90.0

89 - 99 3 3 + 27 = 30 3 ÷ 30 = 0.100 30 ÷ 30 = 1.000 1.000 × 100 = 100.0

รวม 30 1.000

ความถสะสม คอ ผลรวมของความถของคานนหรอของอนตรภาคชนกบความถของคา

หรอของอนตรภาคชนทมชวงคะแนนตากวาทงหมด

ความถสมพทธ คอ อตราสวนระหวางความถของคานนหรอของอนตรภาคชนนนกบ

ผลรวมของความถทงหมด อาจอยในรปเศษสวน หรอทศนยม วตถประสงคในการสรางเพอหาวา

ความถของแตละคาทเปนไปไดหรอของแตละอนตรภาคชนมจานวนมากนอยเพยงใดเมอเทยบกบ

ความถทงหมด

ความถสะสมสมพทธ คอ อตราสวนระหวางความถสะสมของคานนหรอของอนตรภาคชนนน

กบผลรวมของความถทงหมด อาจแสดงในรปเศษสวน หรอทศนยม เพอหาวาแตละคาทเปนไปได

หรอแตละอนตรภาคชนทมความถสะสมเปนจานวนมากนอยเพยงใดเมอเทยบกบความถทงหมด

รอยละของความถสะสมสมพทธ คอ คาทไดจากการนาความถสะสมสมพทธคณดวย 100

ซงเปนการแสดงความถสะสมสมพทธในรปรอยละ

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 9

Page 10: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. เตมขอมลลงในตารางแจกแจงความถใหถกตอง และตอบคาถามตอไปน

ขอมล ความถ ขอบลาง ขอบบน จดกงกลางชน

นอยกวา 450 11

450 - 469 23

470 - 489 14

490 - 529 15

ตงแต 530 ขนไป 10

1) ความกวางของอนตรภาคชนท 3 เทากบ …………………………………………………

2) ความกวางของอนตรภาคชนท 4 เทากบ …………………………………………………

3) ผลตางระหวางจดกงกลางชนของชนท 2 และ 3 เทากบ …………………………………………………

4) อนตรภาคชนใดมความถสงทสด …………………………………………………

5) ขอมลในชวงใดทมความถนอยทสด …………………………………………………

6) อนตรภาคชนใดไมมจดกงกลางชน …………………………………………………

2. เตมขอมลลงในตารางแจกแจงความถใหถกตอง และตอบคาถามตอไปน

ขอมล ความถ ขอบลาง ขอบบน จดกงกลางชน

0 ≤ x < 15 2

15 ≤ x < 30 15

30 ≤ x < 45 16

45 ≤ x < 60 2

60 ≤ x < 75 3

1) ความกวางของอนตรภาคชนท 2 เทากบ …………………………………………………

2) ความกวางของอนตรภาคชนท 4 เทากบ …………………………………………………

3) จากตารางขอมลขางตนมจานวนขอมลทงหมด เทากบ …………………………………………………

4) คาสงเกต 45.5 อยในอนตรภาคชนใด …………………………………………………

5) คาสงเกต 60.0 อยในอนตรภาคชนใด …………………………………………………

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถสรางตารางแจกแจงความถของขอมลได

1.2 A

ฉบบเฉลย

-

449.5

469.5

489.5

529.5

-0.5

14.5

29.5

44.5

59.5

489.5 - 469.5 = 20

529.5 - 489.5 = 40

479.5 - 459.5 = 20

อนตรภาคชนท 2

ตงแต 530 ขนไป

อนตรภาคชนท 1 และ 5

29.5 - 14.5 = 15

59.5 - 44.5 = 15

2 + 15 + 16 + 2 + 3 = 38

อนตรภาคชนท 4

อนตรภาคชนท 5

449.5

469.5

489.5

529.5

-

14.5

29.5

44.5

59.5

74.5

-

459.5

479.5

509.5

-

7

22.5

37.5

52.5

57

10 คณตศาสตร เลม 5

Page 11: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3. เตมขอมลลงในตารางแจกแจงความถใหถกตอง

ขอมล ความถ ขอบลาง ขอบบน จดกงกลางชน ความกวางของอนตรภาคชน

2.0 - 3.9 3

4.0 - 5.9 4

6.0 - 8.5 6

8.6 - 9.2 12

9.3 - 9.9 5

4. เตมขอมลลงในตารางแจกแจงความถใหถกตอง

ขอมล ความถความถสะสม

ความถสมพทธ

ความถสะสมสมพทธรอยละความถสะสมสมพทธ

41 - 45 5

46 - 50 2

51 - 55 14

56 - 60 10

61 - 70 9

รวม

5. จากตารางการสารวจอายของคนในหมบานแหงหนง ใหนกเรยนเตมขอมลลงในตารางแจกแจง

ความถใหถกตอง

อาย (ป) ความถ (คน) ความถสมพทธ

0 - 10 10

11 - 20 25

21 - 30 35

31 - 40

41 - 50 40

51 - 60 20 0.100

61 - 70 15

71 - 80 3

91 - 90 2

รวม

ฉบบเฉลย

3.95

5.95

8.55

9.25

9.95

1.95

3.95

5.95

8.55

9.25

กาหนดใหจานวนคนในหมบานม x คน

จะได 20x = 0.10

x = 200 คน

2.95

4.95

7.25

8.90

9.60

5

5 + 2 = 7

7 + 14 = 21

21 + 10 = 31

31 + 9 = 40

40

5 ÷ 40 = 0.125

2 ÷ 40 = 0.050

14 ÷ 40 = 0.350

10 ÷ 40 = 0.250

9 ÷ 40 = 0.225

1.000

0.125

0.125 + 0.050 = 0.175

0.175 + 0.350 = 0.525

0.525 + 0.250 = 0.775

0.775 + 0.225 = 1.000

0.125 × 100 = 12.5

0.175 × 100 = 17.5

0.525 × 100 = 52.5

0.775 × 100 = 77.5

1.000 × 100 = 100

0.050

0.125

0.175

0.250

0.200

0.075

0.015

0.010

1.000

50

200

2.0

2.0

2.6

0.7

0.7

คณตศาสตร เลม 5 11

Page 12: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

6. ขอมล จดกงกลางชน ความถ

a - b 12.5 4

c - d 16.5 5

e - f 20.5 2

g - h 24.5 9

จากตารางทกาหนดให ตอบคาถามตอไปน

1) ชวงของขอมลในอนตรภาคท 3 และ 4 คอ ……………………………………………………..

2) คาสงเกตคาหนงคอ 15 คาสงเกตนจะอยในอนตรภาคชนใด ……………………………………………………..

3) คาของ h - a เทากบ ……………………………………………………..

7. ขอมล ความถสะสม

11 - 20 4

21 - 30 15

31 - 40 27

41 - 50 30

จากตารางทกาหนดให ตอบคาถามตอไปน

1) อนตรภาคชนใดมความถมากทสด ……………………………………………………..

2) ความถสมพทธของขอมล 31 - 40 เทากบ ……………………………………………………..

3) ความถสะสมสมพทธของขอมล 21 - 30 เทากบ ……………………………………………………..

8. ในการสารวจจานวนลกหมทแตละครอบครวเลยงไวในหมบานแหงหนงเปนดงน

จานวนลกหม (ตว) จานวนครอบครว

14 ตวหรอนอยกวา 50

11 ตวหรอนอยกวา 45

8 ตวหรอนอยกวา 37

5 ตวหรอนอยกวา 22

3 ตวหรอนอยกวา 15

1 ตวหรอนอยกวา 5

จากตารางทกาหนดให ครอบครวทเลยงหมตงแต 4 ถง 11 ตว คดเปนกเปอรเซนตของจานวน

ครอบครวทงหมด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฉบบเฉลย

19 - 22 และ 23 - 26

อนตรภาคชนท 2

26 - 11 = 15

อนตรภาคชนท 3

0.4

0.5

8 + 15 + 750

× 100 = 60%

ขอมล

11 - 14

15 - 18

19 - 22

23 - 26

ความถ

4

15 - 4 = 11

27 - 15 = 12

30 - 27 = 3

ความถ จานวนลกหม

12 - 14 50 - 45 = 5

9 - 11 45 - 37 = 8

6 - 8 37 - 22 = 15

4 - 5 22 - 15 = 7

2 - 3 15 - 5 = 10

0 - 1 5

12 คณตศาสตร เลม 5

Page 13: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

9. ขอมลรายไดตอวนของพนกงานโรงงานหลอเหลกแหงหนงจานวน 60 คน เปนดงน

330 306 296 314 284 336 348 302 312 316 302 296

312 308 328 322 316 318 286 298 316 290 298 332

314 308 324 318 306 328 322 330 304 314 296 290

340 330 330 336 308 296 306 284 334 324 302 344

280 314 326 336 294 300 302 314 306 334 328 294

1) สรางตารางแจกแจงความถ ความถสะสม ความถสมพทธ ความถสะสมสมพทธ และ

รอยละความถสะสมสมพทธ ของขอมลรายไดตอวนของพนกงานโรงงานหลอเหลกแหงน

โดยกาหนดใหจานวนอนตรภาคชนของขอมลเทากบ 7 อนตรภาคชน

2) ขอมลในชวงใดทมความถสงสด

3) หารอยละของพนกงานทไดคาแรงระหวาง 320 - 329 บาท

4) หารอยละของพนกงานทไดคาแรงตงแต 300 บาทขนไป

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

1) สรางตารางแจกแจงความถ ไดดงน

หาความกวางของอนตรภาคชนจาก พสยจานวนอนตรภาคชน

= 687

= 9.71 ≈ 10

2) ขอมลทมความถสงสด คอ อนตรภาคชนท 4 รายได 300 - 309 บาท

3) รอยละของพนกงานทไดคาแรงระหวาง 320 - 329 บาท คอ 0.133 × 100 = 13.3%

4) รอยละของพนกงานทไดคาแรงตงแต 300 บาทขนไป คอ 100.1 - 23.4 = 76.6%

รายได (บาท) รอยขด ความถ ความถสะสมความถสมพทธ

ความถสะสมสมพทธ

รอยละความถสะสมสมพทธ

280 - 289 4 4 0.067 0.067 6.7

290 - 299 10 14 0.167 0.234 23.4

300 - 309 13 27 0.217 0.451 45.1

310 - 319 12 39 0.200 0.651 65.1

320 - 329 8 47 0.133 0.784 78.4

330 - 339 10 57 0.167 0.951 95.1

340 - 349 3 60 0.050 1.001 100.1

รวม 60 1.001

คณตศาสตร เลม 5 13

Page 14: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

10. ขอมลแสดงนาหนก (กโลกรม) ของนกเรยนชนมธยมศกษาปท 6 ของโรงเรยนแหงหนง

เปนดงน

43.4 63.7 47.8 56.8 71.0 63.2 57.8 53.7 58.9 61.1

77.3 82.4 49.9 51.2 63.4 65.2 77.3 55.6 48.7 59.0

65.1 64.4 76.3 45.5 88.5 69.8 53.6 69.2 84.6 78.9

57.2 72.6 57.3 63.2 67.2 80.2 41.9 74.6 66.8 82.6

43.6 81.0 62.4 59.2 53.7 68.9 81.7 74.2 70.3 56.5

1) สรางตารางแจกแจงความถ ความถสะสม ความถสมพทธ ความถสะสมสมพทธ และ

รอยละความถสะสมสมพทธของขอมลแสดงนาหนก (กโลกรม) ของนกเรยนชนมธยม-

ศกษาปท 6 ของโรงเรยนแหงน โดยใหอนตรภาคชนแรกเปน 40.0 - 47.9

2) ขอมลในชวงใดทมความถสงสด

3) หาอตราสวนของนกเรยนทมนาหนกนอยกวา 80 กโลกรมตอจานวนนกเรยนทงหมด

4) หารอยละของนกเรยนทมนาหนก 56.0 - 79.9 กโลกรม

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

1) สรางตารางแจกแจงความถ ไดดงน

หาความกวางของอนตรภาคชนจาก ขอบบน - ขอบลาง = 47.95 - 39.95 = 8

2) ขอมลในอนตรภาคชนท 3 ทมนาหนก 56.0 - 63.9 กโลกรม มความถสงสด

3) อตราสวนของนกเรยนทมนาหนกนอยกวา 80 กโลกรมตอจานวนนกเรยนทงหมดเทากบ

43 : 50

4) รอยละของนกเรยนทหนก 56.0 - 79.9 กโลกรม เทากบ 86 - 24 = 62

นาหนก (กโลกรม)

รอยขด ความถ ความถสะสมความถสมพทธ

ความถสะสมสมพทธ

รอยละความถสะสมสมพทธ

40.0 - 47.9 5 5 0.10 0.10 10

48.0 - 55.9 7 12 0.14 0.24 24

56.0 - 63.9 14 26 0.28 0.52 52

64.0 - 71.9 10 36 0.20 0.72 72

72.0 - 79.9 7 43 0.14 0.86 86

80.0 - 87.9 6 49 0.12 0.98 98

88.0 - 95.9 1 50 0.02 1.00 100

รวม 50 1.00

14 คณตศาสตร เลม 5

Page 15: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

การแจกแจงความถแบบใชกราฟ การใชกราฟแสดงการแจกแจงความถของขอมล สามารถทาใหเหนการกระจายของ

ขอมลไดชดเจนกวาการดจากตารางแจกแจงความถ

จากตวอยางขอมลคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน ม.6 จานวน 30 คน

คะแนนสอบ ความถ ขอบลาง ขอบบนจดกงกลาง

ของอนตรภาคชนความถสะสม

ความถสมพทธ

ความถสะสมสมพทธ

34 - 44 1 33.5 44.5 39.0 1 0.033 0.033

45 - 55 7 44.5 55.5 50.0 8 0.233 0.266

56 - 66 5 55.5 66.5 61.0 13 0.167 0.433

67 - 77 9 66.5 77.5 72.0 22 0.300 0.733

78 - 88 5 77.5 88.5 83.0 27 0.167 0.900

89 - 99 3 88.5 99.5 94.0 30 0.100 1.000

รวม 30

ฮสโทแกรม หรอรปสเหลยมผนผาของความถ

เปนการแสดงความถโดยใชพนทสเหลยมผนผา

คลายกบการนาเสนอขอมลแบบกราฟแทง โดย

ทแตละแทงจะตดกน เพราะใชขอบเขตลางและ

ขอบเขตบนของขอมลแตละชน

รปหลายเหลยมของความถ เปนการแสดง

ความถซงสรางตอจากการทาฮสโทแกรมโดย

การแบงกงกลางทยอดของแตละแทงแลวลาก

เสนเชอมของจดแบง จะไดรปหลายเหลยมของ

ความถ

โคงของความถ เปนโคงทเกดจากการปรบเสน

ของรปหลายเหลยมของความถใหเรยบขน โดย

การปรบจะตองใหพนทภายใตเสนโคงทปรบใหม

มขนาดใกลเคยงกบพนทของรปหลายเหลยม

ของความถ

2

4

6

33.5 44.5 55.5 66.5 77.5 88.5 99.5

8

10

ความถ (คน)

คะแนนสอบ(คะแนน)

ความถ (คน)

33.5 44.5 55.5 66.5 77.5 88.5 99.5 109.5

2

4

6

8

10

คะแนนสอบ(คะแนน)

2

4

6

8

10

ความถ (คน)

33.5 44.5 55.5 66.5 77.5 88.5 99.5 109.5คะแนนสอบ(คะแนน)

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 15

Page 16: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

โคงความถสะสม เปนโคงทแสดงความถสะสมของขอมลตงแตคาตาสด โดยใชแกน Y เปนความถ

สะสม และแกน X เปนขดจากดชนทแทจรงของขอมลแตละชน ตอจากนนจงลากเสนโยงจดแตละ

จดเหลานน

แผนภาพตน - ใบ เปนการจดขอมลเปนกลมอาจใชวธการสรางแผนภาพเพอแจกแจงความถและ

วเคราะหขอมลเบองตนไปพรอมๆ กน

ตวอยาง ขอมลแสดงนาหนกของนกเรยนชน ม.6 จานวน 2 หอง

หอง 145 48 55 67 61 48 58 59 50 60

72 63 69 49 56 51 69 49 59 66

หอง 252 65 58 48 48 63 58 81 55 60

65 51 57 70 61 54 44 82 47 79

จากขอมลในตารางสามารถสรางแผนภาพตน - ใบ ไดดงน

หอง 1 หอง 2

5 8 8 9 9 4 4 7 8 8

0 1 5 6 8 9 9 5 1 2 4 5 7 8 8

0 1 3 6 7 9 9 6 0 1 3 5 5

2 7 0 9

8 1 2

33.5 44.5 55.5 66.5 77.5 88.5 99.5คะแนนสอบ (คะแนน)

ความถสะสม (คน)

5

10

15

20

25

30

ฉบบเฉลย

16 คณตศาสตร เลม 5

Page 17: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. คะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน 50 คน เปนดงน

45 28 47 39 74 64 53 72 80 34 42 55 56 73 25 58 36 65

57 59 60 57 68 64 49 50 39 38 41 53 73 56 61 62 66 57

85 47 69 50 63 62 53 29 34 52 40 49 53 66

1) สรางตารางแจกแจงความถทมความกวางของอนตรภาคชนเทากน และอนตรภาคชนแรก

เปน 20 - 29

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

2) สรางฮสโทแกรม รปหลายเหลยมของความถ เสนโคงของความถ และเสนโคงความถสะสม

จากตารางแจกแจงความถทได

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

Exerciseจดประสงค นกเรยนมความรความเขาใจเกยวกบการแจกแจงความถเพอนามาใชในการวเคราะหขอมลเบองตน

1.2 B

ฉบบเฉลย

คะแนนสอบ ความถ จดกงกลางชน ความถสะสม

20 - 29 3 24.5 3

30 - 39 6 34.5 9

40 - 49 8 44.5 17

50 - 59 15 54.5 32

60 - 69 12 64.5 44

70 - 79 4 74.5 48

80 - 89 2 84.5 50

19.5 29.5

คะแนนสอบ(คะแนน)19.5 29.5

4

6

8

10

12

14

16

2

39.5 49.5 59.5 69.5 79.5 89.5

ความถ (คน)

20

30

40

50

10

39.5 49.5 59.5 69.5 79.5 89.5คะแนนสอบ(คะแนน)

ความถสะสม (คน)

คณตศาสตร เลม 5 17

Page 18: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. ความสง (เซนตเมตร) ของนกเรยนชนมธยมศกษาปท 6 ของโรงเรยนแหงหนง จานวน 40 คน

ดงน

157 167 154 162 164 166 178 180 185 148

156 158 160 166 163 159 158 170 174 171

159 165 158 163 170 176 167 160 155 182

172 162 179 169 173 158 153 156 170 167

1) สรางตารางแจกแจงความถทมอนตรภาคชนแรกเปน 140 - 149

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

2) สรางฮสโทแกรม รปหลายเหลยมของความถ เสนโคงของความถ และเสนโคงความถสะสม

จากตารางแจกแจงความถทได

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

คะแนนสอบ ความถ จดกงกลางชน ความถสะสม

140 - 149 1 144.5 1

150 - 159 12 154.5 13

160 - 169 14 164.5 27

170 - 179 10 174.5 37

180 - 189 3 184.5 40

ความถสะสม (คน)

40

30

20

10

134.5 144.5 154.5 164.5 174.5 184.5คะแนนสอบ (คะแนน)

คะแนนสอบ (คะแนน)

ความถ (คน)

20

15

10

5

129.5 139.5 149.5 159.5 169.5 179.5 189.5 199.5

18 คณตศาสตร เลม 5

Page 19: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3. ขอมลระดบไขมนในเลอด (มลลกรมตอเดซลตร) ของผทเขารบการตรวจสขภาพจานวน 30 คน

เปนดงน

156 142 178 203 212 167 174 195 193 169

179 180 168 189 138 166 158 182 146 183

191 213 184 159 215 178 145 160 188 163

1) สรางแผนภมตน - ใบ แทนขอมลขางตน

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

2) ผทเขารบการตรวจสขภาพสวนใหญมระดบไขมนในเลอดเทาไร

........................................................................................................................................................................................................................................

3) ถาระดบไขมนในเลอดของคนปกตอยระหวาง 140 - 200 มก./ดล. ในกลมผทเขารบการ

ตรวจสขภาพนมกเปอรเซนตทระดบไขมนในเลอดผดปกต

........................................................................................................................................................................................................................................

4. แผนภาพตน - ใบ แสดงนาหนกของมะมวง (กรม) ทวางขายในแผงผลไมซงสมหยบ เปนดงน

1) มะมวงทงหมดทถกสมมาชงมทงหมดกผล

............................................................................................................................

2) มะมวงทงหมดทถกสมมาชงสวนใหญมนาหนก

เทาไร

............................................................................................................................

3) ในจานวนมะมวงทถกสมมาชงมกเปอรเซนต

ทหนกกวา 370 กรม

............................................................................................................................

4) มะมวงทงหมดทถกสมมาชงมนาหนกรวมกน

ทงหมดกกโลกรม

............................................................................................................................

32 3 8 9

33 2 3 7 9

34 3 3 3 6 8

35 5 8 9

36 2 6 6 8 9 9

37 0 1 2 4 6 7 8

38 2 3 7 8

39 1 3 4

40 0 2 5

ฉบบเฉลย

13 8

14 2 5 6

15 6 8 9

16 0 3 6 7 8 9

17 4 8 8 9

18 0 2 3 4 8 9

19 1 3 5

20 3

21 2 3 5

160 - 189 มลลกรมตอเดซลตร

ผทเขารบการตรวจสขภาพมระดบไขมนในเลอดผดปกต จานวน 5 คน คดเปน 16.67%

38 ผล

370 - 378 กรม

ประมาณ 42.11%

13.859 กโลกรม

คณตศาสตร เลม 5 19

Page 20: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

5. นกเรยนหองหนงมผลการสอบวชาท 1 และวชาท 2 ซงแตละวชามคะแนนเตม 100 คะแนน

เปนดงน

วชาท 130 34 45 83 100 75 72 73 90 81

74 56 69 93 76 87 65 72 70 94

วชาท 269 99 87 60 94 63 45 55 57 75

83 80 63 65 43 46 79 65 76 98

1) สรางแผนภาพตน - ใบ เพอแสดงคะแนนสอบของทงสองวชาน ใหใชเลขโดดจากหลกสบ

ของคะแนนแตละวชาสรางเปนลาตนรวมกน

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

2) นกเรยนสวนใหญไดคะแนนวชาท 1 อยในชวงใด

........................................................................................................................................................................................................................................

3) นกเรยนสวนใหญไดคะแนนวชาท 2 อยในชวงใด

........................................................................................................................................................................................................................................

4) ความแตกตางระหวางคะแนนสงสดและคะแนนตาสดของวชาท 1 เทากบเทาใด

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

5) ความแตกตางระหวางคะแนนสงสดและคะแนนตาสดของวชาท 2 เทากบเทาใด

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

นกเรยนสวนใหญไดคะแนนวชาท 1 อยในชวง 70 - 76 คะแนน

นกเรยนสวนใหญไดคะแนนวชาท 2 อยในชวง 60 - 69 คะแนน

ความแตกตางระหวางคะแนนสงสดและคะแนนตาสดของวชาท 1 เทากบ 100 - 30 = 70 คะแนน

ความแตกตางระหวางคะแนนสงสดและคะแนนตาสดของวชาท 2 เทากบ 99 - 43 = 56 คะแนน

วชาท 1 วชาท 2

0, 4 3

5 4 3, 5, 6

6 5 5, 7

5, 9 6 0, 3, 3, 5, 5, 9

0, 2, 2, 3, 4, 5, 6 7 5, 6, 9

1, 3, 7 8 0, 3, 7

0, 3, 4 9 4, 8, 9

0 10

20 คณตศาสตร เลม 5

Page 21: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

แนวคด เตมตวเลขลงในตารางใหสมบรณ โดยเรมจากอนตรภาคชนท 4

จากความสมพนธ ความถสมพทธ = ความถ

จานวนขอมลทงหมด

แนวคด ขอ 1. ผด เพราะนกเรยนทไดคะแนน 40 - 49 คะแนน เทากบ 1020

× 100 = 50%

ขอ 2. ผด เพราะนกเรยนสวนใหญไดคะแนน 40 - 49 คะแนน

ขอ 3. ถก

ขอ 4. ผด เพราะไมสามารถสรปไดวานกเรยนทไดคะแนนนอยกวา 47 คะแนนมกคน

ความถ 1 10 7 2

กาหนดให N แทนจานวนขอมล

ทงหมด

จะได 6N = 0.3

N = 20

Test for U1. ขอมลชดหนงมบางสวนถกนาเสนอในตารางตอไปน

อนตรภาคชน ความถ ความถสะสม ความถสมพทธ

2 - 6 7 7 0.35

7 - 11 4 11 0.2

12 - 16 3 14 0.15

17 - 21 6 20 0.3

ชวงคะแนนใดเปนชวงคะแนนทมความถสงสด

1. 2 - 6 2. 7 - 11 3. 12 - 16 4. 17 - 21

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. กาหนดใหตารางแจกแจงความถสะสมของคะแนนของนกเรยนหองหนง เปนดงน

ชวงคะแนน 30 - 39 40 - 49 50 - 59 60 - 69

ความถสะสม 1 11 18 20

ขอสรปในขอความตอไปนถกตอง

1. นกเรยนทไดคะแนน 40 - 49 คะแนน มจานวน 22%

2. นกเรยนสวนใหญไดคะแนน 60 - 69 คะแนน

3. นกเรยนทไดคะแนนมากกวา 53 คะแนน มจานวนนอยกวานกเรยนทไดคะแนน 40 - 49

คะแนน

4. นกเรยนทไดคะแนนนอยกวา 47 คะแนน มจานวนมากกวานกเรยนทไดคะแนนมากกวา

50 คะแนน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

1 2

3 นกเรยนทไดคะแนนมากกวา 53 คะแนน มจานวนนอยกวานกเรยนทไดคะแนน 40

คณตศาสตร เลม 5 21

Page 22: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. 3 ¡ÒÃÇÑ ¤‹Ò¡ÅÒ§¢Í§¢ŒÍÁÙÅ Central Value

คากลางของขอมลเปนคาสถตหรอคาพารามเตอรทไดจากการวเคราะหขอมลชดหนง

แลวนาผลทไดมาสรปและตความหมายของขอมล ใชเปนตวแทนของขอมลทงหมดเพอความ

สะดวกในการสรปเรองราวเกยวกบขอมลนนๆ คากลางทเปนตวแทนของขอมลทนยมใชมอย 3 คา

ไดแก คาเฉลยเลขคณต มธยฐาน และฐานนยม

สญลกษณแทนการบวก ใชสญลกษณ “Σ” แทนการบวก เชน

1) Σ xi = x1 + x2 + … + xN

2) Σ xi2 = x1

2 + x22 + … + xN

2

3) Σ fi xi = f1x1 + f2x2 + … + fN xN

สมบตของสญลกษณการบวก

กาหนดให c เปนคาคงท

1) Σ c = cN

2) Σ cxi = cΣ xi

3) Σ (xi ± yi) = Σ xi ± Σ yi

N

i=1N

i=1N

i=1

N

i=1N

i=1

N

i=1N

i=1

N

i=1

N

i=1

1. เขยนผลบวกของพจนตอไปนในรปของ Σ

1) 3x13 + 3x2

3 + 3x33 + … + 3x3

99 = ………………………………………………………………………………………………

2) (x1 - y1)2 + (x2 - y2)

2 + (x3 - y3)2 + … + (xn - yn)

2 = ……………………………………………………

3) f1x12 + f2x2

2 + f3x32 + f4x4

2 + … + fmxm2 = ………………………………………………………………………………

2. กาหนดให x1, x2, x3, x4 และ x5 มคาเทากบ 1, 3, 4, 8 และ 11 ตามลาดบ และ f1, f2, f3,

f4 และ f5 มคาเทากบ 2, 4, 3, 5 และ 7 ตามลาดบ หาคาในแตละขอตอไปน

1) Σ xi = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2) Σ fi = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

5

i=15

i=1

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถใชเครองหมายซกมาแทนการบวกและใชสมบตของซกมาแทนการบวกได

1.3 A

ฉบบเฉลย

Σ 3xi3

Σ (xi - yi)2

Σ fixi2

99

i=1n

i=1m

i=1

1 + 3 + 4 + 8 + 11 = 27

2 + 4 + 3 + 5 + 7 = 21

22 คณตศาสตร เลม 5

Page 23: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3) Σ fi xi = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4) Σ (xi + 5) = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5) Σ (xi - 11) = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6) Σ (fixi - 1) = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

7) Σ xi2 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

8) Σ (xi - 4)2 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9) Σ (xi + 1)2 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10) Σ (fi + 2)(xi - 6) = ………………………………………………………………………………………………………………………………….

= ………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. กาหนดให Σ xi = 20, Σ xi2 = 110 และ Σ xi

3 = 235 หาคาในแตละขอตอไปน

1) Σ (-3xi ) = ……………………………………………………………………………………………………………………..

2) Σ (2xi2 + 4xi + 5) = ……………………………………………………………………………………………………………………..

= ……………………………………………………………………………………………………………………..

3) Σ (xi3 - xi

2 - 3xi + 17) = ……………………………………………………………………………………………………………………..

= ……………………………………………………………………………………………………………………..

4. กาหนดให Σ xi = 25, Σ (xi - 5)2 = 145 หาคาของ Σ xi

2

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

5. กาหนดให Σ xi = 10, Σ yi = 30 และ Σ xiyi = 65 หาคาของ Σ (xi + 3)(yi - 2) วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

5

i=15

i=15

i=15

i=15

i=15

i=15

i=15

i=1

10

i=1

10

i=1

10

i=110

i=110

i=1

10

i=1

12

i=1

12

i=1

12

i=1

40

i=1

40

i=1

40

i=1

40

i=1

ฉบบเฉลย

2(1) + 4(3) + 3(4) + 5(8) + 7(11) = 143

Σ xi + Σ 5 = 27 + 5(5) = 52

Σ xi - Σ11 = 27 - 11(5) = -28

Σ fixi - Σ1 = 143 - 1(5) = 138

12 + 32 + 42 + 82 + 112 = 211

Σ (xi2 - 8xi + 16) = Σ xi

2 - 8Σ xi + Σ16 = 211 - 8(27) + 16(5) = 75

Σ (xi2 + 2xi + 1) = Σ xi

2 + 2Σ xi + Σ1 = 211 + 2(27) + 1(5) = 270

5

i=1

5

i=15

i=1

5

i=15

i=1

5

i=1

5

i=1

5

i=1

5

i=1

5

i=15

i=1

5

i=1

5

i=1

5

i=1

Σ (fixi + 2xi - 6fi - 12) = Σ fixi + 2Σ xi - 6Σ fi - Σ12

143 + 2(27) - 6(21) - 12(5) = 11

5

i=1

5

i=1

5

i=1

5

i=1

5

i=1

-3Σ xi = -3(20) = -60

2Σ xi2 + 4Σ xi + Σ 5

2(110) + 4(20) + 5(10) = 350

Σ xi3 - Σ xi

2 - 3Σ xi + Σ 17

235 - 110 - 3(20) + 17(10) = 235

10

i=110

i=1

10

i=1

10

i=1

10

i=1

10

i=1

10

i=1

10

i=1

จาก Σ (xi - 5)2 = Σ (xi

2 - 10xi + 25)

145 = Σ xi2 - 10Σ xi + Σ 25

145 = Σ xi2 - 10(25) + 25(12)

Σ xi2 = 95

12

i=1

12

i=112

i=1

12

i=1

12

i=112

i=112

i=1

จาก Σ (xi + 3)(yi - 2) = Σ (xiyi - 2xi + 3yi - 6)

= Σ xiyi - 2Σ xi + 3Σ yi - Σ 6

= 65 - 2(10) + 3(30) - 6(40)

= -105

40

i=1

40

i=140

i=1

40

i=1

40

i=1

40

i=1

คณตศาสตร เลม 5 23

Page 24: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

คาเฉลยเลขคณต คาเฉลยเลขคณต คอ คาของผลรวมของคาสงเกตของขอมลทงหมด หารดวยจานวน

ของขอมลทงหมด คาเฉลยเลขคณตเหมาะทจะนามาเปนคากลางของขอมลเมอขอมลนนไมม

คาใดคาหนงสงหรอตาผดปกต

การหาคาเฉลยเลขคณตกรณทขอมลไมไดแจกแจงความถ

คาเฉลยเลขคณตของประชากร (μ)

μ = Σ xi

N

i=1

N

เมอ xi แทน ขอมลตวท i

N แทน จานวนขอมลทงหมด

คาเฉลยเลขคณตของตวอยาง (X )

X = Σ xi

n

i=1n

เมอ xi แทน ขอมลตวท i

n แทน ขนาดของตวอยาง

1. เตมคาตอบลงในชองวางแตละขอตอไปนใหถกตองสมบรณ

ขอท ขอมลจานวนขอมล

ผลบวกของขอมลทงหมด

คาเฉลยเลขคณต

1 1, 3, 5, 7, 9, 11 6 1 + 3 + 5 + 7 + 9 + 11 = 36 366 = 6

2 2, 4, 6, 8 4 2 + 4 + 6 + 8 = 20 204 = 5

3 5, 10, 15, 20 4

4 11, 13, 15, 17, 19 5

5 150, 152, 154, 156, 158, 160 6

6 0.5, 0.7, 0.9, 0.11, 0.13, 0.15 6

7 22, 24, 26, 28, 30, 32 6

8 16, 18, 20, 22, 24, 26, 28, 30 8

9 3, 7, 11, 15, 19 5

10 10, 20, 30, 40, 50, 60, 70 7

จดประสงค นกเรยนสามารถหาคาเฉลยเลขคณตของขอมลทไมไดแจกแจงความถได

Exercise 1.3 B

ฉบบเฉลย

50

75

930

2.49

162

184

55

280

12.5

15

155

0.42

27

23

11

40

24 คณตศาสตร เลม 5

Page 25: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. การแขงขนบาสเกตบอลของทมนกกฬาโรงเรยนแหงหนง จานวน 8 ครง คะแนนททาได มดงน

58, 70, 63, 59, 66, 52, 71 และ 69 คาเฉลยเลขคณตของคะแนนทนกบาสเกตบอลทมน

ทาไดในการแขงขนเทากบเทาใด

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

3. ขอมลชดหนงม 6 จานวน คอ 35, 64, 72, 45, 69, x, 114 ถาคาเฉลยเลขคณตของขอมล

ชดนเทากบ 68 แลว x มคาเทาใด

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

4. คาเฉลยเลขคณตของอายของนกศกษากลมหนงเปน 20 ป ถานกศกษาคหนงเปนพนองกน

ซงมอายหางกน 3 ป สวนนกศกษาทเหลออาย 18, 20, 23, 17 และ 19 ป อายของ

พนองคนนเทากบเทาใด

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

5. ขอมลชดหนงม 5 จานวน กอยลอกขอมลชดนเปนดงน 30, 13, 32, 15 และ 43 ปรากฏวา

กอยลอกขอมลจานวนสดทายผดไป ถาคาเฉลยเลขคณตของขอมลทถกตอง คอ 26 อยาก

ทราบวากอยลอกขอมลผดไปเทาใด และจานวนนนเปนเทาไร

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

คาเฉลยเลขคณต = 58 + 70 + 63 + 59 + 66 + 52 + 71 + 698

= 5088 = 63.5

ดงนน คะแนนเฉลยในการแขงขนททมนกบาสเกตบอลทาได เทากบ 63.5

คาเฉลยเลขคณต = 35 + 64 + 72 + 45 + 69 + x + 1146

68 = 399 + x6

408 = 399 + x

x = 9

คาเฉลยเลขคณต = 18 + 20 + 23 + 17 + 19 + x + (x + 3)7

20 = 100 + 2x7

140 = 100 + 2x

x = 20

ดงนน อายของพนองคนน คอ 20 ป และ 23 ป

คาเฉลยเลขคณต = 30 + 13 + 32 + 15 + (43 + x)5

26 = 133 + x5

130 = 133 + x

x = -3

ดงนน กอยลอกขอมลผดไป 3 แตม จานวนนน คอ 43 + (-3) = 40

คณตศาสตร เลม 5 25

Page 26: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

6. ขอมลชดหนงม 10 จานวน หาคาเฉลยเลขคณตของขอมลชดนไดเทากบ 2 ตอมาปรากฏวา

ผคานวณอานขอมลผดไป 2 จานวน คอ 0.2 และ 0.4 แตเขาอานเปน 2 และ 4 ตามลาดบ

อยากทราบวาคาเฉลยเลขคณตทถกตองเทากบเทาไร

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

7. นกเรยนชนมธยมศกษาปท 5 หองหนงม 45 คน คาเฉลยเลขคณตของนาหนกของนกเรยน

หองน คอ 54 กโลกรม ตอมามนกเรยนยายเขามาใหม 1 คน มนาหนก 62 กโลกรม

คาเฉลยเลขคณตใหมของนาหนกของนกเรยนหองนเทากบเทาใด ถานกเรยนคนอนๆ มนาหนก

เทาเดม

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

8. กาหนดขอมล x1, x2, …, xn ถา Σ xi2 = 16 และ Σ (xi + 5)

2 = 311 แลวคาเฉลยเลขคณต

ของขอมลชดนเทากบเทาใด

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

9

i=1

9

i=1

ฉบบเฉลย

จะได X ผด =

Σ xผด

10

10

i=1

2 = Σ xผด

10

10

i=1

Σ xผด = 20

Σ xถก = 20 - 2 - 4 + 0.2 + 0.4 = 14.6

ดงนน X ถก =

Σ xถก

10

10

i=1 = 14.610 = 1.46

10

i=110

i=1

จะได X เกา =

Σ xเกาnเกา

45

i=1

54 = Σ xเกา

45

45

i=1

Σ xเกา = 2,430

Σ xใหม = 2,430 + 62 = 2,492

ดงนน X ใหม =

Σ xใหมnใหม

46

i=1 = 249246 = 54.17 กโลกรม

45

i=146

i=1

จาก Σ (xi - 5)2 = Σ (xi

2 + 10xi + 25)

311 = Σ xi2 + 10Σ xi + Σ 25

= 16 + 10Σ xi + 25(9)

Σ xi = 7

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของขอมลชดน = Σ xin

9

i=1 = 79 = 0.78

9

i=1

9

i=19

i=1

9

i=1

9

i=19

i=19

i=1

26 คณตศาสตร เลม 5

Page 27: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

คาเฉลยเลขคณตแบบถวงนาหนก คาเฉลยเลขคณตถวงนาหนก ใชในกรณทขอมลมความสาคญไมเทากน เชน การหา

ผลการเรยนเฉลย เนองจากแตละวชาอาจมจานวนหนวยกตไมเทากนจงจาเปนตองถวงนาหนก

ถาให w1, w2, w3, …, wk เปนความสาคญหรอนาหนกของคาจากการสงเกต x1, x2, x3,

…, xk ตามลาดบ แลว

คาเฉลยเลขคณตถวงนาหนกของประชากร (μ)

μ = w1μ1 + w2μ2 + … + wkμk

w1 + w2 + … + wk

= Σ wi μi

k

i=1

Σ wi

k

i=1

คาเฉลยเลขคณตถวงนาหนกของตวอยาง (X)

X = w1X

1 + w2X2 + … + wkXk

w1 + w2 + … + wk

= Σ wiXi

k

i=1

Σ wi

k

i=1

1. อรทยมผลการเรยนในภาคเรยนท 1 ดงน

วชา จานวนหนวยกต (wi) ผลการเรยน (xi)

คณตศาสตรพนฐาน 1.0 4.0

คณตศาสตรเพมเตม 1.5 3.5

วทยาศาสตรกายภาพ 1.0 3.0

ภาษาไทย 2.5 3.5

ภาษาองกฤษ 2.0 2.5

ประวตศาสตร 1.0 4.0

ระดบผลการเรยนเฉลยของอรทยเทากบเทาใด

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหาคาเฉลยเลขคณตถวงนาหนกได

1.3 Cฉบบเฉลย

จากสตร μ = Σ wixi

Σwi

6

i=16

i=1

จะได = 1.0(4.0) + 1.5(3.5) + 1.0(3.0) + … + 1.0(4.0)1.0 + 1.5 + 1.0 + … + 1.0 = 309 = 3.33

ดงนน ระดบคะแนนเฉลยของอรทยเทากบ 3.33

wixi

4.00

5.25

3.00

8.75

5.00

4.00

คณตศาสตร เลม 5 27

Page 28: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. ในการสอบวชาคณตศาสตร 3 ครง กาหนดใหนาหนกในการสอบเปน 25%, 35% และ 40%

ตามลาดบ นกเรยนคนหนงสอบวชานไดแตละครงเปน 49, 72 และ 84 คะแนน ตามลาดบ

คาเฉลยในการสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยนคนนเทากบเทาใด

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

3. ในการสอบวชาภาษาองกฤษของนายสมศกด ซงมการสอบ 4 ครง เปนการสอบยอย 3 ครง

และสอบปลายปอก 1 ครง ปรากฏวาคะแนนทนายสมศกดสอบไดสาหรบการสอบยอย 3 ครง

เปน 65, 72 และ 80 ตามลาดบ อาจารยผสอนเกบคะแนนสอบยอยครงละ 20% และสอบ

ปลายป 40% ถาคาเฉลยเลขคณตของคะแนนสอบวชาภาษาองกฤษของการสอบทง 4 ครง

ของนายสมศกด คอ 73 คะแนน แลวนายสมศกดสอบปลายปไดเทาไร

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จากสตร μ = Σ wixi

Σwi

3

i=13

i=1

จะได = 25(49) + 35(72) + 40(84)25 + 35 + 40

= 7105100

= 71.05

ดงนน คาเฉลยในการสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยนคนนเทากบ 71.05 คะแนน

ให x แทนคะแนนสอบปลายปของสมศกด

จากสตร μ = Σ wixi

Σwi

4

i=14

i=1

73 = 20(65) + 20(72) + 20(80) + 40(x)20 + 20 + 20 + 40

2,960 = 40x

x = 74 คะแนน

ดงนน นายสมศกดสอบปลายปได 74 คะแนน

28 คณตศาสตร เลม 5

Page 29: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

คาเฉลยเลขคณตรวม ในการวเคราะหขอมลหลายๆ ชดทหาคาเฉลยไวแลว หากตองการหาคาเฉลยเลขคณต

ของขอมลทงหมดโดยนบรวมเปนชดเดยว ตองใชการคานวณโดยคาเฉลยเลขคณตรวม

คาเฉลยเลขคณตรวมของประชากร (μรวม)

μรวม = μ1N1 + μ1N2 + … + μ1Nk

N1 + N2 + … + Nk

= Σ μiNi

k

i=1

Σ Ni

k

i=1

เมอ μi แทนคาเฉลยเลขคณตของประชากร

กลมท i

Ni แทนขนาดของประชากรในกลมท i

i = 1, 2, …, k

คาเฉลยเลขคณตรวมของตวอยาง (Xรวม)

X รวม =

X 1n1 + X

2n2 + … + X

knkn1 + n2 + … + nk

= Σ Xini

k

i=1

Σ ni

k

i=1

เมอ Xi แทนคาเฉลยเลขคณตของตวอยาง

กลมท i

ni แทนขนาดของตวอยางกลมท i

i = 1, 2, …, k

1. นกเรยนชนมธยมศกษาปท 6 ของโรงเรยนแหงหนงมทงหมด 5 หอง ซงแตละหองมจานวน

นกเรยนและคะแนนเฉลยวชาคณตศาสตรพนฐาน ดงน

วชา หอง 1 หอง 2 หอง 3 หอง 4 หอง 5

จานวนนกเรยน (คน) 45 47 50 53 49

คะแนนเฉลย 94 73 84 92 80

คาเฉลยรวมของคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยนชน ม.6 เทากบเทาไร

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหาคาเฉลยเลขคณตรวมได

1.3 D ฉบบเฉลย

จากสตร μรวม = μ

1N1 + μ2N2 + μ3N3 + μ4N4 + μ5N5N1 + N2 + N3 + N4 + N5

= 94(45) + 73(47) + 84(50) + 92(53) + 80(49)45 + 47 + 50 + 53 + 49

= 20657244

= 84.66 คะแนน

ดงนน คาเฉลยรวมของคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยนชน ม.6 เทากบ

84.66 คะแนน

คณตศาสตร เลม 5 29

Page 30: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. ในการแขงขนไตรกฬารายการหนงมผเขารวมการแขงขนทงหมด 130 คน เปนหญง 55 คน

เปนชาย 75 คน โดยอายเฉลยของผเขารวมแขงขนทงหมดเทากบ 37.5 ป ซงนอยกวาอายเฉลย

ของผเขารวมแขงขนทเปนชาย 2.5 ป แลวอายเฉลยของผเขารวมแขงขนทเปนหญงเทากบ

เทาไร

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

3. ในการทดสอบความสามารถทางเทคโนโลยของนกศกษา 3 กลม ปรากฏผลดงน นกศกษา

กลมท 1 จานวน 20 คน มคาเฉลยเลขคณตของคะแนนสอบเทากบ 17.8 คะแนน นกศกษา

กลมท 2 จานวน 24 คน มคาเฉลยเลขคณตของคะแนนสอบเทากบ 19.2 คะแนน นกศกษา

กลมท 3 มคาเฉลยเลขคณตของคะแนนสอบเทากบ 16.7 คะแนน และคานวณคาเฉลยเลขคณต

รวมได 17.2 คะแนน นกศกษากลมท 3 มจานวนเทาใด

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จากสตร μรวม = μ

ชNช + μญNญ

Nช + Nญ

37.5 = (37.5 + 2.5)(75) + μ

ญ(55)

130

1875 = 55 μญ

μญ = 34.09 ป

ดงนน อายเฉลยของผเขารวมแขงขนทเปนหญงเทากบ 34.09 ป

จากสตร μรวม = μ

1N1 + μ2N2 + μ3N3

N1 + N2 + N3

17.2 = 17.8(20) + 19.2(24) + 16.7N3

20 + 24 + N3

17.2(44 + N3) = 356 + 460.8 + 16.7N3

756.8 + 17.2N3 = 816.8 + 16.7N3

0.5N3 = 60

N3 = 120

ดงนน จานวนนกศกษากลมท 3 เทากบ 120 คน

30 คณตศาสตร เลม 5

Page 31: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

4. คาเฉลยเลขคณตของเงนเดอนของบรษทแหงหนงเทากบ 15,500 บาท เงนเดอนเฉลยของ

พนกงานชายและหญงเทากบ 16,700 บาท และ 14,800 บาท ตามลาดบ อตราสวนของ

จานวนพนกงานชายตอจานวนพนกงานหญงเทากบเทาไร

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

5. จากการสารวจรายจายตอวนของนกเรยนชาย 40 คน และนกเรยนหญง 50 คน รายจาย

ทงหมดตอวนคอ 12,380 บาท ถารายจายเฉลยตอวนของนกเรยนชายมากกวารายจาย

เฉลยตอวนของนกเรยนหญง 22.5 บาท รายจายเฉลยตอวนของนกเรยนชายเทากบเทาไร

วธทา ...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จากสตร μรวม = μ

ชNช + μญNญ

Nช + Nญ

15500 = 16700Nช + 14800Nญ

Nช + Nญ

15500Nช + 15500Nญ = 16700Nช + 14800Nญ

700Nญ = 1200Nช

NชNญ

= 712

ดงนน อตราสวนของจานวนพนกงานชายตอจานวนพนกงานหญงเทากบ 7 : 12

จากสตร μรวม =

N

i=1Σ xi (รวม)

Nรวม

= 1238040 + 50 = 137.56 บาท

จากสตร μรวม = μ

ชNช + μญNญ

Nช + Nญ

137.56 = μ

ช(40) + (μ

ช - 22.5)(50)

40 + 50

μช = 150.06 บาท

ดงนน รายจายเฉลยตอวนของนกเรยนชายเทากบ 150.06 บาท

คณตศาสตร เลม 5 31

Page 32: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

6. นกเรยนหองหนงม 140 คน และอตราสวนของจานวนนกเรยนชายตอจานวนนกเรยนหญง

เทากบ 3 : 4 ปรากฏวาคาเฉลยของนาหนกของนกเรยนชายเทากบจานวนนกเรยนชาย

และคาเฉลยของนาหนกของนกเรยนหญงเทากบจานวนนกเรยนหญงพอด คาเฉลยของนาหนก

ของนกเรยนทงหองเทากบเทาไร

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

7. จากผลสอบของนกเรยน 30 คน ในหองหนง พบวาคาเฉลยของคะแนนของนกเรยนชาย

เทากบจานวนนกเรยนชายพอด และคาเฉลยของคะแนนของนกเรยนหญงกเทากบจานวน

นกเรยนหญงพอด ถาคาเฉลยรวมทงหองเปน 46.83 คะแนน และจานวนนกเรยนชายนอยกวา

จานวนนกเรยนหญง แลวจานวนนกเรยนชายเทากบเทาใด

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ใหจานวนนกเรยนชายเทากบ 3x คน และจานวนนกเรยนหญงเทากบ 4x คน

จากสตร μรวม = μ

ชNช + μญNญ

Nช + Nญ

จะได 3x + 4x = 140

7x = 140

x = 20

ดงนน หองนมนกเรยนชาย 3(20) = 60 คน หองนมนกเรยนหญง 4(20) = 80 คน

และ μช = 60 , μญ = 80

μรวม = 60(60) + 80(80)140

= 71.43

ดงนน คาเฉลยของนาหนกของนกเรยนทงหองเทากบ 71.43 กโลกรม

ใหจานวนนกเรยนชายเทากบ x คน และจานวนนกเรยนหญงเทากบ 30 - x คน

จากสตร Xรวม = X

ชNช + XญNญ

Nช + Nญ

46.83 = x2 + (30 - x)2

30

468 = 2x2 - 60x + 900

2x2 - 60x + 432 = 0

(2x - 36)(x - 12) = 0

x = 12, 18

เนองจากจานวนนกเรยนชายนอยกวานกเรยนหญง

ดงนน จานวนนกเรยนชายเทากบ 12 คน

32 คณตศาสตร เลม 5

Page 33: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

การหาคาเฉลยเลขคณตกรณทขอมลแจกแจงความถ

การคานวณหาคาเฉลยเลขคณตโดยวธนใชสตรทานองเดยวกบการหาคาเฉลยโดยวธ

ถวงนาหนก โดยทความสาคญของนาหนกในทนคอความถของคาจากการสงเกตแตละคา หรอ

คาทเปนตวแทนของแตละอนตรภาคชน ซงเรยกวา จดกงกลางของอนตรภาคชน

ถาให x1, x2, x3, …., xk เปนจดกงกลางของอนตรภาคชนท 1, 2, 3, …, k และ f1, f2,

f3, …, fkเปนความถของขอมลแตละอนตรภาคชนตามลาดบ แลวจะไดคาเฉลยเลขคณต คอ

คาเฉลยเลขคณตของประชากร (μ)

μ = Σ fi xi

Σ fik

i=1

k

i=1 = Σ fi xi

N

k

i=1

คาเฉลยเลขคณตของตวอยาง (X)

X = Σ fi xi

Σ fik

i=1

k

i=1 = Σ fi xin

k

i=1

1. หาคาเฉลยเลขคณตของขอมลทกาหนดใหตอไปน

คะแนน 20 19 18 17 16 15 14 13 12 11 10

ความถ 1 2 2 4 5 7 11 12 8 5 3

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหาคาเฉลยเลขคณตของขอมลทแจกแจงความถได

1.3 D

เมอ N แทนจานวนขอมลทงหมดของประชากร

n แทนจานวนตวอยางทงหมด

xi แทนจดกงกลางของชนท i

fi แทนความถของอนตรภาคชนท i

k แทนจานวนอนตรภาคชน

ฉบบเฉลย

จากสตร X =

k

i=1Σ fi xi

n

= 83860

= 13.97

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของขอมลเทากบ 13.97 คะแนน

fixi 20 38 36 68 80 105 154 156 96 55 30 838

รวม

60

คณตศาสตร เลม 5 33

Page 34: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. หาคา a ททาใหคาเฉลยเลขคณตของขอมลทกาหนดให มคาเทากบ 54.43

xi 40 45 50 55 60 65 รวม

fi 2 3 12 a 8 6 31 + a

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ตารางแสดงความถของอายของคนกลมหนงจานวน 70 คน คาเฉลยเลขคณตของอายของ

คนกลมนเทากบเทาใด

อาย จานวนคน

11 - 15 1

16 - 20 7

21 - 25 9

26 - 30 13

31 - 35 14

36 - 40 26

รวม 70

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

fixi 80 135 600 55a 480 390 1685 + 55a

xi fixi

13 13

18 126

23 207

28 364

33 462

38 988

2160

จากสตร X =

k

i=1Σ fi xi

n

54.43 = 1685 + 55a31 + a

1687.33 + 54.43a = 1685 + 55a

a = 4.09

ดงนน a มคาประมาณ 4

จากสตร X =

k

i=1Σ fi xi

n

= 216070

= 30.86

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของอายของคนกลมนเทากบ 30.86 ป

34 คณตศาสตร เลม 5

Page 35: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

4. นกเรยน 40 คน สอบวชาภาษาไทยไดคะแนนดงตารางตอไปน

คะแนน จานวนนกเรยน

40 - 49 2

50 - 59 7

60 - 69 8

70 - 79 18

80 - 89 5

รวม 40

คาเฉลยเลขคณตของคะแนนสอบเทากบเทาไร

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5. หาคาเฉลยเลขคณตของขอมลชดหนงทกาหนดใหตอไปน

ชวงของขอมล fi1.0 - 1.4 3

1.5 - 1.9 4

2.0 - 2.4 7

2.5 - 2.9 3

3.0 - 3.4 1

3.5 - 3.9 2

รวม 20

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

xi fixi

44.5 89.0

54.5 381.5

64.5 516.0

74.5 1,341.0

84.5 422.5

2,750.0

xi fixi

1.2 3.6

1.7 6.8

2.2 15.4

2.7 8.1

3.2 3.2

3.7 7.4

44.5

จากสตร μ =

k

i=1Σ fi xi

N

= 275040

= 68.75

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของคะแนนสอบเทากบ 68.75 คะแนน

จากสตร X =

k

i=1Σ fi xi

n

= 44.520

= 2.225

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของขอมลเทากบ 2.225 คะแนน

คณตศาสตร เลม 5 35

Page 36: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

การหาคาเฉลยเลขคณตโดยวธทอนคาขอมลหรอวธลด การหาคาเฉลยเลขคณตกรณทขอมลแจกแจงความถแลว โดยความกวางของแตละ

อนตรภาคชนเทากน

X = A + I (Σ fidi

Σ fik

i=1

k

i=1 )

เมอ A แทน จดกงกลางของอนตรภาคชนทมความถสงสด หรอชนทอยตรงกลาง

I แทน ความกวางของอนตรภาคชน

di แทน xi - AI เมอ xi คอ จดกงกลางชนท i

ตวอยาง หาคาเฉลยเลขคณตของขอมลตอไปน โดยใชวธลด

ขอมล ความถ

110 - 129 11

130 - 149 10

150 - 169 21

170 - 189 18

รวม 60

วธทา เลอกอนตรภาคชนท 3 จะได A = 159.5

ขอมล ความถ di fidi

110 - 129 11 -2 -22

130 - 149 10 -1 -10

150 - 169 21 0 0

170 - 189 18 1 18

รวม 60 -14

A = 159.5

จากสตร

X = A + I (Σ fidi

Σ fik

i=1

k

i=1 )

= 159.5 + 20 (-1460 ) = 154.83

A เปนจดกงกลางของอนตรภาคชนใดกได แตเพอความสะดวกในการคานวณจงควรเลอก

อนตรภาคชนทมความถสงสด

Note

ฉบบเฉลย

36 คณตศาสตร เลม 5

Page 37: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. นกเรยนชน ม.3 ของโรงเรยนแหงหนง มความสงตามตารางแจกแจงความถตอไปน

ความสง จานวนนกเรยน

121 - 130131 - 140141 - 150151 - 160171 - 180

111417208

รวม 70

นกเรยนกลมนมความสงเฉลยเทากบเทาไร

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. บรษทแหงหนงใหอตราเงนเดอนของพนกงานตามตารางแจกแจงความถตอไปน

เงนเดอน จานวนพนกงาน

13,000 - 14,99915,000 - 16,99917,000 - 18,99919,000 - 20,99921,000 - 22,99923,000 - 24,99925,000 - 26,999

81531211596

รวม 105

คาเฉลยเลขคณตของเงนเดอนพนกงานเทากบเทาใด

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Exerciseจดประสงค สามารถหาคาเฉลยเลขคณตโดยวธทอนคาขอมลได

1.3 E

ฉบบเฉลย

เลอกอนตรภาคชนท 3 จะได A = 145.5

จากสตร X = A + I (Σ fidi

Σ fi5

i=1

5

i=1 ) = 145.5 + 10 ( 070) = 145.5

เลอกอนตรภาคชนท 3 จะได A = 19,999.5

จากสตร X = A + I (Σ fidi

Σ fi7

i=1

7

i=1 ) = 19,999.5 + 20,000 (-34105) = 13,523.31

di fidi

-2

-1

0

1

2

-22

-14

0

20

16

0 0

di fidi

-3

-2

-1

0

1

2

3

-24

-30

-31

0

15

18

18

-34

คณตศาสตร เลม 5 37

Page 38: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3. ฮสโทแกรมแสดงคาใชจายของนกเรยนกลมหนงเปนดงน

5

10

15

20

คาใชจาย (บาท)

20 25 30 35 40 45จานวนนกเรยน (คน)

คาเฉลยเลขคณตของคาใชจายเทากบกบาทตอวน

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. ขอมล ความถ

12.1 - 13.013.1 - 14.014.1 - 15.015.1 - 16.016.1 - 17.0

7141153

รวม 40

จากตารางแจกแจงความถ คาของ N(μ - A) เทากบเทาไร เมอ A เปนจดกงกลางของ

อนตรภาคชนของชนทมความถมากทสด

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

จากฮสโทแกรมจะได

xi 20 25 30 35 40 45 รวม

fi 8 14 17 20 11 4 74

di -3 -2 -1 0 1 2

fidi -24 -28 -17 0 11 8 -50

เลอกอนตรภาคชนท 3 จะได A = 35

จากสตร X = A + I (Σ fidi

Σ fi6

i=1

6

i=1 ) = 35 + 5 (-5074 ) = 31.62

เลอกอนตรภาคชนท 2 จะได A = 13.55

จากสตร μ = A + I (Σ fidi

Σ fi5

i=1

5

i=1 ) = 13.55 + 1 (2340) = 14.125

ดงนน N(μ - A) = 40(14.125 - 13.55) = 23

di fidi

-1

0

1

2

3

-7

0

11

10

9

23

38 คณตศาสตร เลม 5

Page 39: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

สมบตทสาคญของคาเฉลยเลขคณต

1. คาเฉลยเลขคณตเมอนามาคณกบจานวนขอมลทงหมดจะมคาเทากบผลรวมของ

ขอมลทกๆ คา

Σ xi = Nμ และ Σ xi = nX

2. ผลรวมของผลตางระหวางขอมลแตละคากบคาเฉลยเลขคณตเทากบศนย

Σ (xi - μ) = 0 และ Σ (xi - X) = 0

3. ผลรวมของผลตางกาลงสองระหวางขอมลแตละคากบจานวนจรง M ใดๆ จะมคา

นอยทสด เมอ M เทากบคาเฉลยเลขคณตของขอมลชดนน

Σ (xi - M)2 นอยทสด เมอ M = μ และ

Σ (xi - M)2 นอยทสด เมอ M = X

4. คาเฉลยเลขคณตของขอมลชดใดๆ จะตองอยระหวางคาสงเกตทนอยทสด กบคาสงเกต

ทมากทสดในขอมลชดนน

xmin < μ < xmax และ xmin < X < xmax

5. ถาตวแปร Y สมพนธกบตวแปร X ในรปฟงกชนเชงเสน นนคอ ถา yi = axi + b

เมอ i = 1, 2, 3, …, N เมอ a และ b เปนคาคงตวใดๆ แลว

μy = aμx + b และ Y = aX + b

N

i=1

n

i=1

N

i=1

n

i=1

N

i=1

n

i=1

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 39

Page 40: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. ขอมลชดหนงม 18 จานวน ถาคาเฉลยเลขคณตของขอมลชดนเทากบ 8.5 แลวผลบวกของ

ขอมลชดนเทากบเทาไร

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ตารางแสดงการกระจายของจานวน a - 12 คาเฉลยเลขคณตของขอมล a เทากบเทาไร

a - 12 ความถ

357911

4816125

รวม 45

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. กาหนดขอมล (xi) ดงน 18.2, 15.7, 21.4, 23.8, 19.6 หาคาจานวนจรง a ททาให

Σ (xi - a) = 0

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5

i=1

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถนาสมบตทสาคญของคาเฉลยเลขคณตไปใชได

1.3 F

ฉบบเฉลย

จากสมบต Σ xi = nX

จะได Σ xi = 18(8.5) = 153

ดงนน ผลบวกของขอมลชดนเทากบ 153

n

i=1n

i=1

จากสตร X = Σ fixi

Σ fi5

i=1

5

i=1 = 32745

= 7.27

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของ a - 12 เทากบ 7.27

นนคอ คาเฉลยเลขคณตของ a เทากบ 7.27 + 12 = 19.27

จากสมบต Σ (xi - X) = 0

จะไดวา a = X = Σxin

n

i=1

= 18.2 + 15.7 + 21.4 + 23.8 + 19.65

= 19.74

n

i=1

fixi

12

40

112

108

55

327

40 คณตศาสตร เลม 5

Page 41: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

4. กาหนดให Σ (xi + yi) = 112 และ Σ (xi - yi) = 74 หาคาจานวนจรง M ททาให

Σ (xi - M) = 0

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

5. กาหนดขอมล 10, 20, 30, 40 และ 50 หาคาของจานวนจรง a ซงทาให Σ (x - a) = 0 เมอ x แทนคาในขอมลทกาหนดให

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6. กาหนดขอมล 3, 5, 7, 9, 11 และ 13 หาคาทนอยทสดของ Σ (xi - a)2 เมอ a เปนจานวนจรง

และ x แทนคาในขอมลทกาหนดให

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

19

i=1

19

i=119

i=1

5

i=1

6

i=1

ฉบบเฉลย

จาก Σ (xi + yi) = Σ xi + Σ yi

112 = Σ xi + Σ yi ……➊จาก Σ (xi - yi) = Σ xi - Σ yi

74 = Σ xi - Σ yi ……➋➊ + ➋ จะได 186 = 2 Σ xi

Σ xi = 93

จากสมบต Σ (xi - X) = 0

จะได M = X =

19

i=1Σ x19 = 9319 = 4.89

19

i=1

19

i=1

19

i=119

i=1

19

i=119

i=1

19

i=1

19

i=119

i=1

19

i=119

i=119

i=1n

i=1

จากสมบตขอท 1 ทวา Σ (x - X) = 0แสดงวา เมอ Σ (x - a) = 0 เมอ a = X

จะได X = 10 + 20 + 30 + 40 + 505

= 1505

= 30

ดงนน a = 30

5

i=15

i=1

จากสมบตขอท 2 ทวา Σ (x - a)2 มคาทนอยทสดกตอเมอ a = X

จะได X = 3 + 5 + 7 + 9 + 11 + 136

= 486

= 8

ดงนน คาทนอยทสดของ Σ (x - a)2 คอ = (3 - 8)2 + (5 - 8)2 + (7 - 8)2 + (9 - 8)2 + (11 - 8)2 + (13 - 8)2

= 25 + 9 + 1 + 1 + 9 + 25

= 70

6

i=1

6

i=1

คณตศาสตร เลม 5 41

Page 42: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

7. กาหนดขอมล X ดงน 3, 4, 6, 2, 6, 7, 5, 8, 9, 10, 4, 2, 7, 11, 2 และ 10 หาคาเฉลย

เลขคณตของขอมล (Y) ซงมเงอนไขดงน

(1) Y = 2X + 3 (2) Y = 34 X - 11

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

8. ความสมพนธระหวางกาไร (Y) และราคาทน (X) ของสนคาชนดหนงคอ Y = 7 + 0.25X

ถาราคาทนของสนคา 5 ชน เปนดงน 32, 48, 40, 56 และ 44 บาท คาเฉลยเลขคณต

ของกาไรของสนคาทง 5 ชนน เทากบเทาใด

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

หา X จาก X =

n

i=1Σ xin

= 3 + 4 + 6 + … + 1016

= 9616 = 6

จากสมบต Y = aX + b

ขอ (1) จะได Y = 2X + 3

= 2(6) + 3

= 15

ขอ (2) จะได Y = 34 X - 11

= 34 (6) - 11

= -6.5

หา X ของสนคา 5 ชน จาก X =

n

i=1Σ xin

= 32 + 48 + 40 + 56 + 445

= 44

จากสมบต Y = aX + b

จะได Y = 0.25X + 7

= 0.25(44) + 7

= 18

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของกาไรของสนคา 5 ชนน เทากบ 18 บาท

42 คณตศาสตร เลม 5

Page 43: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

9. จากการวเคราะหความสมพนธระหวางนาหนก (กก.; W) กบสวนสง (ซม.; H) ของคน

15 คน พบวาเปนไปตามสมการ 3W = H - 15 ถาคาเฉลยของสวนสง 6 คนแรกเปน

159 ซม. และอก 9 คนทเหลอเปน 156 ซม. คาเฉลยของนาหนกคน 15 คนน เทากบเทาใด

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10. ให x1, x2, x3, …, x10 เปนจานวนชดหนง ซงมคาเฉลยเลขคณตเทากบ 10A คาเฉลยเลขคณต

ของขอมลตอไปน 3x1 + 2, 3x2 + 4, 3x3 + 6, …, 3x10 + 20 เทากบเทาใด

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

จากสตร Xรวม = n1X

1 + n2X

2n1 + n2

จะได Xรวม = 6(159) + 9(156)6 + 9

= 157.2

จากสมบต Y = aX + b

จะได 3W = H - 15

3W = 157.2 - 15

W = 47.4

ดงนน คาเฉลยของนาหนกคน 15 คนน เทากบ 47.4 กโลกรม

จากโจทย Σ xi = 10A

พจารณา 3x1 + 2, 3x2 + 4, 3x3 + 6, …, 3x10 + 20

จะได ai = 3xi + 2i เมอ i = 1, 2, 3, …, 10

และ Σ ai = Σ (3xi + 2i)

= 3 Σ xi + 2 Σ i = 3(10A) + 2(10)(10 + 1)2

= 30A + 110

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของขอมลชดน เทากบ 30A + 110

10

i=1

10

i=1

10

i=110

i=1

10

i=1

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Hint

Σ i = n (n + 1)2

n

i=1

คณตศาสตร เลม 5 43

Page 44: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

มธยฐาน (Median)

มธยฐาน คอ คาทมตาแหนงอยตรงกลางของขอมล เมอนาขอมลทงหมดมาเรยงลาดบ

จากนอยไปมากหรอจากมากไปนอย ซงคานจะแบงขอมลชดนนออกเปน 2 สวนเทาๆ กน

การหาคามธยฐานในกรณทขอมลไมไดแจกแจงความถ มขนตอนดงน

1) เรยงลาดบขอมลทงหมด จากนอยไปมากหรอจากมากไปนอย

2) นบจานวนขอมลวาเปนจานวนคหรอจานวนค

- ถาจานวนขอมลเปนจานวนค

มธยฐาน คอ คาของขอมลในตาแหนงท N + 12

เมอ N แทนจานวนขอมลทงหมด

- ถาจานวนขอมลเปนจานวนค

มธยฐาน คอ (คาของขอมลในตาแหนงท n) + (คาของขอมลในตาแหนงท n + 1)2

การหาคามธยฐานในกรณทขอมลแจกแจงความถ มขนตอนดงน

1) หาความถสะสม

2) หาตาแหนงทมธยฐานอย คอ N2

3) พจารณาวาตาแหนงทมธยฐานอยตรงกบขอมลตวใด โดยใชสตร

มธยฐาน = L + I ΣfL

fm

N2 -

เมอ L แทน ขอบลางของชนทมคามธยฐานอย (เรยกชนนวา “ชนมธยฐาน”)

I แทน ความกวางของอนตรภาคชนทมมธยฐานอย

fm แทน ความถของขอมลในชนมธยฐาน

N แทน จานวนขอมลทงหมด

ΣfL แทน ผลรวมของความถของทกอนตรภาคชนทเปนชวงคะแนนตากวา

ฉบบเฉลย

44 คณตศาสตร เลม 5

Page 45: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

สมบตทสาคญของมธยฐาน

ผลรวมของคาสมบรณของผลตางระหวางขอมลแตละคากบมธยฐานของขอมลชดนนจะม

คานอยทสด

Σ � xi - มธยฐาน � มคานอยทสดn

i=1

1. หามธยฐานของขอมล 2, 6, 4, 8, 12, 10, 14

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. หามธยฐานของขอมล 1, 7, 5, 11, 13, 9, 15, 17

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหามธยฐานของขอมลทกาหนดใหได

1.3 G

ถาในจานวนขอมลทงหมดมขอมลบางตวทมคาสงหรอตากวาขอมลอนมากๆ จะมผล

ตอคาเฉลยเลขคณต กลาวคอ อาจทาใหคาเฉลยเลขคณตมคาสงหรอตากวาขอมลสวนใหญ

แตจะไมมผลกระทบตอมธยฐาน ดงนน กรณเชนนควรเลอกใชมธยฐาน

Note

ฉบบเฉลยเรยงขอมลจากนอยไปมาก จะได 2, 4, 6, 8, 10, 12, 14

∴ ตาแหนงของมธยฐาน = N + 12

= 7 + 12

= 4

∴ มธยฐาน = คาทอยในตาแหนงท 4

= 8

เรยงขอมลจากนอยไปมาก จะได 1, 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17

∴ ตาแหนงของมธยฐาน = N + 12

= 8 + 12

= 4.5

∴ มธยฐาน = คาทอยในตาแหนงท 4 และตาแหนงท 5

= 9 + 112

= 10

คณตศาสตร เลม 5 45

Page 46: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3. เวลาทนกเรยน 10 คน ใชทาขอสอบ 100 ขอ (หนวยเปนนาท) เปนดงน

45 62 73 69 65 75 105 82 87 90

หามธยฐานของขอมลชดน

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. หามธยฐานจากขอมลตอไปน

คะแนน 10 13 15 17 19

ความถ 12 14 10 8 6

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

เรยงลาดบขอมลจากนอยไปมาก จะได

45 62 65 69 73 75 82 87 90 105

ตาแหนงของมธยฐาน = 10 + 12

= 5.5

มธยฐาน = คาเฉลยของคาทอยในตาแหนงท 5 และตาแหนงท 6

= 73 + 752

= 74 นาท

หาความถสะสม ไดดงตาราง

คะแนน ความถ ความถสะสม

10 12 12

13 14 26

15 10 36

17 8 44

19 6 50

ตาแหนงของมธยฐาน คอ N + 12

= 50 + 12

= 25.5

มธยฐาน = คาเฉลยของคาทอยในตาแหนงท 25 และตาแหนงท 26

= 13 + 132

= 13

ตาแหนงของมธยฐานอยในชนน�

46 คณตศาสตร เลม 5

Page 47: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

5. หามธยฐานของขอมลในตารางตอไปน

คะแนน 93 - 97 98 - 102 103 - 107 108 - 112 113 - 117

ความถ 8 2 14 6 10

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6. หามธยฐานของคะแนนสอบของนกเรยนกลมหนง ดงน

คะแนน 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

นกเรยน (คน) 3 11 5 8 3

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

หาความถสะสม ไดดงตาราง

คะแนน ความถ ความถสะสม

93 - 97 8 8

98 - 102 2 10

103 - 107 14 24

108 - 112 6 30

113 - 117 10 40

ตาแหนงของมธยฐาน คอ N2 = 40

2 = 20

จากสตร มธยฐาน = L + I (N2 - ΣfLfm

) = 102.5 + 5 × (20 - 1014 ) = 102.5 + 3.57 = 106.07

มตาแหนงมธยฐานในชนน�

หาความถสะสม ไดดงตาราง

คะแนน ความถ ความถสะสม

50 - 59 3 3

60 - 69 11 14

70 - 79 5 19

80 - 89 8 27

90 - 99 3 30

ตาแหนงของมธยฐาน คอ N2 = 30

2 = 15

มธยฐาน = L + I (N2 - ΣfLfm

) = 69.5 + 10 (302

- 14

5 ) = 69.5 + 10 (15) = 71.5

มตาแหนงมธยฐานในชนน

คณตศาสตร เลม 5 47

Page 48: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

7. ตารางแจกแจงความถแสดงอายของเดกกลมหนง ดงน

อาย (ป) จานวนเดก (คน)

1 - 4 2

5 - 8 3

9 - 12 b

13 - 16 4

ถามธยฐานของอายเดกกลมนเทากบ 9 ป แลว b เทากบเทาใด

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

เนองจากโจทยกาหนดมธยฐานอายของเดกเทากบ 9 ป

แสดงวามธยฐานอยในอนตรภาคชน 9 - 12

อาย (ป) จานวนเดก (คน) ความถสะสม

1 - 4 2 2

5 - 8 3 5

9 - 12 b 5 + b

13 - 16 4 9 + b

หาตาแหนงของมธยฐาน = N2 = 9 + b

2

จากสตร มธยฐาน = L + I [N2 - ΣfLfm

]

9 = 8.5 + 4 (9 + b

2 - 5

b ) 0.5 = 4 (b - 12b )

0.5 = 2b - 2b

0.5b = 2b - 2

2b - 0.5b = 2

b = 21.5

b = 1.33

มตาแหนงของมธยฐานในชนน

48 คณตศาสตร เลม 5

Page 49: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

8. มเพอนกลมหนงจานวน 7 คน มารวมประชมเพอหาจดนดหมายในการไปทศนาจรตางจงหวด

โดยเลอกจดนดหมายไว 2 จด ระยะทางทสมาชกแตละคนจะมายงจดนดหมาย เปนดงน

• จดนดหมายทหนง 5 4 7 9 8 6 5

• จดนดหมายทสอง 6 5 8 5 8 9 10

เราควรจะเลอกจดนดหมายใดเพอใหสมาชกทกคนเดนทางไดใกลทสด

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

จากขอมลทกาหนด จดนดหมายท 1 มมธยฐานของระยะทางทสมาชกแตละคนจะมา

เทากบ 6 และจดนดหมายท 2 มมธยฐานของระยะทางทสมาชกแตละคนจะมา เทากบ 8

จากสมบตของมธยฐานมคานอยทสด Σ �xi - M� มคานอยทสด จะได

จดนดหมายท 1 Σ �xi - 6� = �5 - 6� + �4 - 6� + �7 - 6� + �9 - 6� + �8 - 6� + �6 - 6� +

�5 - 6� = 10

จดนดหมายท 2 Σ �xi - 8� = �6 - 8� + �5 - 8� + �8 - 8� + �5 - 8� + �8 - 8� + �9 - 8� +

�10 - 8� = 11

ดงนน นกเรยนควรจะเลอกจดนดหมายท 1 เพราะเปนจดทสมาชกในกลมเดนทางมาใกลกวา

จดนดหมายท 2

N

i=1N

i=1

N

i=1

แนวคด ขอ ก. ถก และ ขอ ข. ผด

จดเรยงลาดบขอมลจากนอยไปมาก ไดดงน

ชด A : 1, 2, 2, 3, 3, 3, 4, 4, 5

หาคาเฉลยเลขคณต

μA = 1 + 2 + 2 + 3 + 3 + 3 + 4 + 4 + 5

9 = 27

9 = 3

ตาแหนง MedA = 9 + 1

2 = 5 จะได MedA = 3

ชด B : 1, 1, 1, 2, 2, 2, 3, 4, 5, 5, 5, 5

μA = 1 + 1 + 1 + 2 + 2 + 2 + 3 + 4 + 5 + 5 + 5 + 5

12 = 36

12 = 3

ตาแหนง MedB = 12 + 1

2 = 6.5 จะได MedB =

2 + 32

= 2.5

Test for Uจากขอมลทกาหนดให ชด A : 1, 3, 2, 2, 5, 3, 4, 4, 3

ชด B : 1, 2, 4, 1, 2, 5, 2, 5, 1, 5, 5, 3

พจารณาขอความตอไปน ขอใดถกหรอผด

ก. คาเฉลยเลขคณตของขอมลสองชดน เทากน ข. มธยฐานของขอมลสองชดน เทากน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

คณตศาสตร เลม 5 49

Page 50: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฐานนยม (Mode) ฐานนยม คอ คาสงเกตทเกดซามากทสดหรอมความถสงสด

การหาฐานนยมในกรณทขอมลไมไดแจกแจงความถ

ใหพจารณาคาของขอมลทมคาซากนมากทสด คานนคอ ฐานนยม

การหาฐานนยมในกรณทขอมลแจกแจงความถ

1) โดยการประมาณทไมตองการความละเอยดมากนก ทาไดโดยใชจดกงกลางของ

อนตรภาคชนทมความถสงสด (ชนฐานนยมอย) เปนคาฐานนยม

2) โดยใชสตรเปนกรณทตองการความละเอยด ดงน

ฐานนยม = L + I d1

d1 + d2 ))

เมอ L คอ ขอบลางของอนตรภาคชนทมความถสงสด (ชนฐานนยมอย)

I คอ ความกวางของอนตรภาคชน

d1 คอ ผลตางระหวางความถของชนฐานนยมกบชนทมขอมลตากวา

d2 คอ ผลตางระหวางความถของชนฐานนยมกบชนทมขอมลสงกวา

1. กรณทขอมลมความถเทากนทงหมด จะไมมฐานนยม

2. กรณทขอมลมความถมากทสดมมากกวา 1 คา แตไมเกน 2 คา ใหถอวาทงสองคานนเปนฐานนยม

3. กรณทขอมลมความถมากทสดเกน 2 คา ใหถอวาขอมลนนไมมฐานนยม

Note

ฐานนยมเหมาะสมกบการใชเปนคากลางของขอมล เมอขอมลชดนนๆ เปนขอมลเชงคณภาพ

เชน ยหอรถยนต ขนาดเสอผา ฯลฯ หรอขอมลทมการแจกแจงความถทมบางอนตรภาคชน

เปนอนตรภาคชนเปด หรอมขอมลทมคาสงหรอตาผดปกตรวมอยดวย

Note

ฉบบเฉลย

50 คณตศาสตร เลม 5

Page 51: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. หาฐานนยมของอายเกษตรกรของหมบานแหงหนงทเขารวมโครงการฝกอบรมการจดทาบญช

ครวเรอนในหมบาน จานวน 15 คน มอายดงน

61 60 45 55 35 40 57 45 61 45 52 43 45 62 65

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. หาฐานนยมของนาหนกของนกเรยนหองหนง จานวน 20 คน ซงมนาหนก ดงน

45 48 49 51 46 45 48 47 48 52 48 53 52 48 45 46 49 48 51 52

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ขอมลชดหนง เปนดงน 4 4 4 x 8 8 8 13 13 และ 13 ถาคาเฉลยเลขคณตของขอมลชดนเทากบ 7.9 หาฐานนยมของขอมลชดน

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. ตารางแสดงคาใชจายในแตละวนของนกเรยนจานวน 100 คน เปนดงน

รายจาย (บาท) 25 30 35 40 45 50 55 60

ความถสะสม 8 21 42 59 76 84 95 100

นกเรยนสวนใหญมคาใชจายเทาใด

วธทา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหาฐานนยมของขอมลทกาหนดใหได

1.3 H

ฉบบเฉลย

ฐานนยมของอายเกษตรกรของหมบานแหงนทเขารวมโครงการฝกอบรมทง 15 คน คอ 45 ป

ฐานนยมของนาหนกของนกเรยนหองน คอ 48 กโลกรม

จากคาเฉลยเลขคณตเทากบ 7.9 จะได

7.9 = 4 + 4 + 4 + x + 8 + 8 + 8 + 13 + 13 + 1310

= 75 + x10

x = 4

ดงนน จานวนทมากทสดของขอมลชดน คอ 4

นนคอ ฐานนยมของขอมลชดน คอ 4

สรางตารางแจกแจงความถ

รายจาย (บาท) 25 30 35 40 45 50 55 60

ความถสะสม 8 21 42 59 76 84 95 100

ความถ 8 13 21 17 17 8 11 5

ฐานนยมของขอมลชดน คอ 35

ดงนน นกเรยนสวนใหญมคาใชจายในแตละวนเทากบ 35 บาท

คณตศาสตร เลม 5 51

Page 52: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

5. ตารางแจกแจงความถแสดงคะแนนสอบของนกเรยนชน ม.6/2 จานวน 42 คน ดงน

คะแนน ความถ (คน)

50 - 59 6

60 - 69 11

70 - 79 16

80 - 89 8

90 - 99 1

หาฐานนยมโดยประมาณของคะแนนสอบของนกเรยนชน ม.6/2

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6. ตารางแจกแจงความถแสดงจานวนเงนตออาหารกลางวนของนกเรยนชน ม.6/1 จานวน 36 คน

ดงน

จานวนเงน ความถ (คน)

11 - 20 2

21 - 30 15

31 - 40 12

41 - 50 7

หาฐานนยมโดยประมาณของจานวนเงนคาอาหารกลางวนของนกเรยนชน ม.6/1

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

อนตรภาคชนทมความถสงสด คอ อนตรภาคชนท 5

จาก ฐานนยม = L + I d1

d1 + d2

))

จะได ฐานนยม = 69.5 + 10 ( 55 + 8)

≈ 69.5 + 3.85

≈ 73.35

ดงนน ฐานนยมของคะแนนสอบของนกเรยนชน ม.6/2 ประมาณ 73.35 คะแนน

อนตรภาคชนทมความถสงสด คอ อนตรภาคชนท 2

จาก ฐานนยม = L + I d1d1 + d2

))

จะได ฐานนยม = 20.5 + 10 ( 1313 + 3) ≈ 20.5 + 8.13 ≈ 28.63

ดงนน ฐานนยมของจานวนเงนคาอาหารกลางวนประมาณ 28.63 บาท

d1 = 15 - 2 = 13

ฐานนยมอยในอนตรภาคชนน

d2 = 15 - 12 = 3

d1 = 16 - 11 = 5

ฐานนยมอยในอนตรภาคชนน

d2 = 16 - 8 = 8

52 คณตศาสตร เลม 5

Page 53: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

แนวคด นาขอมลจากแผนภาพตน - ใบ มาเขยนเรยงจากนอยไปมาก จะได

12 13 15 21 24 27 30 34 34 36 40 42

จะเหนวา ฐานนยม เทากบ 34

มธยฐานอยในตาแหนงท N + 12

= 12 + 12

= 6.5

จะได มธยฐาน = 27 + 302

= 28.5

และคาเฉลยเลขคณต = 12 + 13 + 15 + 21 + 24 + 27 + 30 + 34 + 34 + 36 + 40 + 4212

= 27.33

ดงนน คาเฉลยเลขคณต < มธยฐาน < ฐานนยม

แนวคด เพราะฐานนยมของขอมลชดแรกเทากบ 3 จะได a = 3

ตาแหนงมธยฐาน คอ 10 + 12

= 5.5

จะได มธยฐานเทากบ a + b2

= 1.5 + b2

แตโจทยกาหนดมธยฐานของขอมลชดแรกเทากบ 4 จะได 1.5 + b2 = 4

b = 5

ดงนน คาเฉลยเลขคณตของขอมลชดทสองเทากบ

1.1 + 2.2 + 3.3 + 3.4 + 3.5 + 5.6 + 6.7 + 6.8 + 9.9 + 1310

= 5.55 ≈ 5.6

Test for U1. กาหนดแผนภาพตน - ใบ ของขอมลชดหนง ดงน

1 2 3 52 1 4 73 0 4 6 44 0 2

ขอใดตอไปนถกตอง

1. คาเฉลยเลขคณต < ฐานนยม < มธยฐาน 2. คาเฉลยเลขคณต < มธยฐาน < ฐานนยม

3. มธยฐาน < คาเฉลยเลขคณต < ฐานนยม 4. ฐานนยม < มธยฐาน < คาเฉลยเลขคณต

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. ขอมลชดหนงเรยงลาดบจากนอยไปมากไดเปน

1, 2, 3, 3, a, b, 6, 6, 9, 12

ถาฐานนยมและมธยฐานของขอมลชดนเปน 3 และ 4 ตามลาดบ แลวขอมลชดตอไปน คอ

1.1, 2.2, 3.3, 3.4, a + 0.5, b + 0.6, 6.7, 6.8, 9.9, 13

มคาเฉลยเลขคณตเทากบเทาใด

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

มธยฐาน 2. คาเฉลยเลขคณตมธยฐาน 2 คาเฉลยเลขคณต

คณตศาสตร เลม 5 53

Page 54: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

คาเฉลยฮารมอนก (Harmonic Mean) คาเฉลยฮารมอนก เปนคาเฉลยทเหมาะสาหรบขอมลทอยในรปอตรา เชน ความเรวตอ

ชวโมง ราคาสนคาตอชน ปรมาณงานททาไดตอหนวยเวลา เปนตน

ถา x1, x2, …, xN เปนขอมล N จานวน ซงเปนจานวนบวกทกจานวน

คาเฉลยฮารมอนก (H.M.) = 1N{ 1x1

+ 1x2

+ … + 1xN

}1 =

Σ 1xi

NN

i=1

ในกรณท xi มความถ fi และ Σ fi = N จะไดวา

H.M. = 1N {f1 1x1

+ f2 1x2

+ … + fk 1xk

}1 =

Σ fixi

Nk

i=1

เมอ k แทนจานวนอนตรภาคชน

xi แทนจดกงกลางของอนตรภาคชนท i โดยท i คอ 1, 2, …, k

fi แทนความถของขอมลอนตรภาคชนท i

k

i=1

1. หาคาเฉลยฮารมอนกของขอมล 20, 30, 40, 50 และ 60

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหาคาเฉลยฮารมอนกของขอมลทกาหนดใหได

1.3 I

ฉบบเฉลย

จากสตร H.M. = Σ

1xi

NN

i=1

จะได H.M. = 5120

+ 130

+ 140

+ 150

+ 160

= 587600

≈ 34.48

54 คณตศาสตร เลม 5

Page 55: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. หาคาเฉลยฮารมอนกของขอมล 1.2, 2.4, 3.6 และ 7.2

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. อยวงรอบสนามรปสเหลยมจตรส โดยดานแรกวงดวยความเรว 12 เมตรตอนาท และในดานท

2, 3 และ 4 เขาเรมรสกเหนอยจงวงชาลงเปน 10, 6 และ 4 เมตรตอนาท ตามลาดบ

หาความเรวเฉลยทอยใชในการวงรอบสนาม

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. โรงงานเยบผาแหงหนง จตราเยบกางเกงหนงตวเสรจในเวลา 25 นาท นาร วมล และวภา

เยบกางเกงแบบเดยวกนเสรจในเวลา 30, 40 และ 45 นาท ตามลาดบ เวลาเฉลยในการเยบ

กางเกงหนงตวของทง 4 คน เทากบเทาไร

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

จากสตร H.M. = Σ

1xi

NN

i=1

จะได H.M. = 4112

+ 110

+ 16 + 1

4

= 6.67

ดงนน ความเรวเฉลยทอยใชในการวงรอบสนาม เทากบ 6.67 เมตรตอนาท

จากสตร H.M. = Σ

1xi

NN

i=1

จะได H.M. = 411.2

+ 12.4

+ 13.6

+ 17.2

= 412072

= 2.4

จากสตร H.M. = Σ

1xi

NN

i=1

= 4125

+ 130

+ 140

+ 145

= 42171,800

≈ 33.18

ดงนน เวลาเฉลยในการเยบกางเกงหนงตวของทง 4 คน เทากบ 33.18 นาท

คณตศาสตร เลม 5 55

Page 56: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

5. พนกงานขายคนหนง ขบรถจากกรงเทพฯ เพอไปสงของทจงหวดเพชรบร ซงหางจาก

กรงเทพฯ ประมาณ 160 กโลเมตร ขาไปเขาขบรถดวยความเรวเฉลย 80 กโลเมตรตอชวโมง

สวนขากลบเขาขบรถดวยความเรวเฉลย 100 กโลเมตรตอชวโมง ความเรวเฉลยทเขาใช

ในการเดนทางเทากบเทาใด

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6. นาแปลงหนงนายกมลใชเวลาดานาแลวเสรจในเวลา 90 วน ขณะทใหนายขาว นายคณต

และนางสาวจนทร ทานาแปลงเดยวกนน ใชเวลา 80, 60 และ 120 วน ตามลาดบ คาเฉลย

ของอตราการทางานของทง 4 คนนเทากบเทาไร และถาใหคนทง 4 คนนรวมกนทางาน

จะใชเวลาเทาไรงานจงจะเสรจ

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

ให x1 แทนความเรวทพนกงานขายใชขบรถจากกรงเทพฯ ไปเพชรบร = 80 กม./ชม.

x2 แทนความเรวทพนกงานขายใชขบรถกลบจากเพชรบร ถงกรงเทพฯ = 100 กม./ชม.

จาก H.M. = Σ

1xi

NN

i=1

= 2180

+ 1100

= 88.89 กโลเมตรตอชวโมง

ดงนน ความเรวเฉลยทพนกงานขายใชในการขบรถไป-กลบ ระหวางกรงเทพฯ - เพชรบร

ประมาณ 88.89 กโลเมตรตอชวโมง

สมมตปรมาณงานทงหมดคอ 1 หนวย งานททาไดตอวนของนายกมล นายขาว นายคณต

และนางสาวจนทร คอ 190

, 180

, 160

และ 1120

หนวย ตามลาดบ

เวลาเฉลยในการทางานเพอใหงานเสรจตอคน คอ

H.M. = 190

+ 180

+ 160

+ 1120

4

= 4 × 72035

วน

ถาใหทง 4 คน รวมกนทางานใน 1 วน จะไดงานเทากบ 14 × 720

× 4

35

= 354 × 720

× 4

= 35720

หนวย

ถาจะใหงานเสรจ 1 หนวย จะตองใชเวลาเทากบ 72035

= 20.57 วน

56 คณตศาสตร เลม 5

Page 57: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

7. แมคาซอไขจากตลาด ก ข และ ค ราคาทแมคาซอ เปนดงน

ตลาด ก ไขราคาแผงละ 80 บาท

ตลาด ข ไขราคาแผงละ 90 บาท

ตลาด ค ไขราคาแผงละ 100 บาท

หาราคาเฉลยตอแผงของไขทแมคาซอมา เมอกาหนด

1) แมคาซอไขแตละตลาดจานวน 100 แผง เทากน

2) แมคาซอไขแตละตลาด 2,000 บาท

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

1) ราคาเฉลยตอแผง = ราคาไข (บาท) ทงหมด

จานวนไข (แผง) ทงหมดทซอมา

= 80(100) + 90(100) + 100(100)100 + 100 + 100

= 80 + 90 + 1003

= 90

ราคาเฉลยตอแผงของไขเทากบ 90 บาท

2) ราคาเฉลยตอแผง = ราคาไข (บาท) ทงหมด

จานวนไข (แผง) ทงหมดทซอมา

= 200080

+ 200090 + 2000100

2000 + 2000 + 2000

= 3 × 2000

2000 ( 180

+ 190

+ 1100)

= 3180

+ 190

+ 1100

= 32427,200

= 89.26

ราคาเฉลยตอแผงของไขเทากบ 89.26 บาท

คณตศาสตร เลม 5 57

Page 58: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

8. หาคาเฉลยฮารมอนกของขอมลตอไปน

คะแนน จานวนนกเรยน

11 - 15

16 - 20

21 - 25

3

2

5

10

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9. หาคาเฉลยฮารมอนกของขอมลตอไปน

คะแนน 30 - 39 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

จานวนนกเรยน 2 5 10 13 6 3 1

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

xifixi

13

18

23

313

= 0.23218

= 0.11523

= 0.22

Σ fixi

= 0.563

i=1

จากสตร H.M. = fixi

N

Σ 3

i=1

= 100.56

≈ 17.86

จากสตร H.M. = fixi

N

Σ 7

i=1

= 400.683

≈ 58.57

คะแนน fi Xi

fixi

30 - 39

40 - 49

50 - 59

60 - 69

70 - 79

80 - 89

90 - 99

2

5

10

13

6

3

1

34.5

44.5

54.5

64.5

74.5

84.5

94.5

0.058

0.112

0.183

0.202

0.081

0.036

0.011

N = 40 Σ fixi

= 0.6837

i=1

สรางตารางใหม ดงน

58 คณตศาสตร เลม 5

Page 59: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. หาคาเฉลยเรขาคณตของขอมลตอไปน

25 125 125 625

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหาคาเฉลยเรขาคณตของขอมลทกาหนดใหได

1.3 J

คาเฉลยเรขาคณต (Geometric Mean) คาเฉลยเรขาคณตมประโยชนเมอมคาของขอมลสงหรอตากวาคาอนๆ รวมอยดวย

ถา x1, x2, …, xN เปนขอมล N จานวน ซงเปนจานวนบวกทกจานวน

คาเฉลยเรขาคณต (G.M.) = N x1 x2 … xN

หรอ log G.M. = 1N(f1log x1 + f2log x2 + f3log x3 + … + fklog xk)

log G.M. = 1N Σ log xi

ในกรณท xi มความถ fi และ Σ fi = N

G.M. = N x1f1 x2

f2 … xkfk

หรอ log G.M. = 1N(f1log x1 + f2log x2 + f3log x3 + … + fklog xk)

log G.M. = 1N Σ fi log xi

เมอ xi แทนจดกงกลางของอนตรภาคชนท i โดยท i คอ 1, 2, …, k

fi แทนความถของขอมลอนตรภาคชนท i

k แทนจานวนอนตรภาคชน

N

i=1

k

i=1

k

i=1

ฉบบเฉลย

จาก G.M. = N x1 x2 … xN

จะไดวา G.M. = 4 (25)(125)(125)(625)

= 4 (52)(53)(53)(54)

= 4 512

= (512) 14 = 53 = 125

คณตศาสตร เลม 5 59

Page 60: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. หาคาเฉลยเรขาคณตของขอมลตอไปน

27 81 243 729 2,187

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ตารางแจกแจงความถแสดงคะแนนสอบของนกเรยนชน ม.6/2 จานวน 45 คน ดงน

คะแนน จานวน (คน)

30 - 39 2

40 - 49 1

50 - 59 6

60 - 69 11

70 - 79 16

80 - 89 8

90 - 99 1

45

หาคาเฉลยเรขาคณตของคะแนนสอบของนกเรยนชน ม.6/2

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฉบบเฉลย

จาก G.M. = N x1 x2 … xN

จะไดวา G.M. = 5 (27)(81)(243)(729)(2,187)

= 5 (33)(34)(35)(36)(37)

= 5 (3)25

= (325) 15

= 35

= 243

จาก log G.M. = 1N Σ fi log xi =

145

(82.393)

log G.M. = 1.831

G.M. = 101.831 = 67.76

ดงนน คาเฉลยเรขาคณตของคะแนนสอบของนกเรยนชน ม.6/2 ประมาณ 68 คะแนน

k

i=1

xi log xi fi log xi

34.5 1.538 3.076

44.5 1.648 1.648

54.5 1.736 10.416

64.5 1.810 19.910

74.5 1.872 29.952

84.5 1.927 15.416

94.5 1.975 1.975

82.393

60 คณตศาสตร เลม 5

Page 61: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

4. ตารางแจกแจงความถคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน 20 คน ดงน

คะแนน 1 - 5 6 - 10 11 - 15 16 - 20

ความถ (คน) 4 6 7 3

หาคาเฉลยเรขาคณตของคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน 20 คนน

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5. หาคาเฉลยเรขาคณตของคะแนนความถนดของนกเรยนกลมหนงซงแสดงดงน

คะแนน 0 - 4 5 - 9 10 - 14 15 - 19

ความถ (คน) 4 3 11 7

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

คะแนน ความถ (fi) xi log xi fi log xi

1 - 5 4 3 0.477 1.908

6 - 10 6 8 0.903 5.418

11 - 15 7 13 1.114 7.798

16 - 20 3 18 1.255 3.765

N = 20 18.889

สรางตารางใหมไดดงน

จาก log G.M. = 1N Σ fi log xi =

120

(18.889) = 0.945

G.M. = (10)0.945 = 8.81

ดงนน คาเฉลยเรขาคณตของคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน 20 คนน

ประมาณ 9 คะแนน

k

i=1

คะแนน ความถ (fi) Xi log Xi fi log Xi

0 - 4 4 2 0.301 1.204

5 - 9 3 7 0.845 2.535

10 - 14 11 12 1.079 11.869

15 - 19 7 17 1.230 8.61

N = 25 24.218

สรางตารางใหมไดดงน

จาก log G.M. = 1N Σ fi log xi =

125

(24.218) = 0.969

G.M. = (10)0.969 = 9.31

ดงนน คาเฉลยเรขาคณตของคะแนนความถนดของนกเรยนกลมนประมาณ 9 คะแนน

k

i=1

คณตศาสตร เลม 5 61

Page 62: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

คากงกลางพสย (Mid - range)

คากงกลางพสย (M.R.) = xmax + xmin

2

เมอ xmax เปนคาสงสดของขอมลทงหมด

xmin เปนคาตาสดของขอมลทงหมด

1. หาคากงกลางพสยของขอมลทกาหนดใหตอไปน

1) 19 20 23 25 18 31

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2) 32 30 35 42 49 56 28

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3) 110 125 210 140 169 108

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4) 211 275 191 243 251 195

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5) 421 622 380 462 529 610

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหาคากงกลางพสยของขอมลทกาหนดใหได

1.3 K

ฉบบเฉลย คากงกลางพสย = 25 + 18

2 = 21.5

คากงกลางพสย = 56 + 282

= 42

คากงกลางพสย = 210 + 1082

= 159

คากงกลางพสย = 275 + 1912

= 233

คากงกลางพสย = 622 + 3802

= 501

62 คณตศาสตร เลม 5

Page 63: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. สมมตปรมาณขยะในรอบ 12 เดอน ของเทศบาลแหงหนงในหนวยเปนตนคอ 46.1, 47.3,

42.9, 46, 48, 57.2, 53.7, 52.8, 58.4, 50.1, 52.7, 46.4 หาคากงกลางพสยของปรมาณ

ขยะของเทศบาลแหงน

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ขอมลชดหนงเรยงจากนอยไปหามาก ดงน 98, 100, 101, 104, x, 109, 110, 111, yถาคากงกลางพสยและคาเฉลยเลขคณตของขอมลชดนเทากบ 105 และ 106 ตามลาดบ

แลวมธยฐานของขอมลชดนเทากบเทาใด

วธทา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ฉบบเฉลย

คากงกลางพสย = xmax + xmin

2

= 58.4 + 42.92

= 50.65 ตน

ดงนน คากงกลางพสยของปรมาณขยะของเทศบาลแหงน ประมาณ 50.65 ตน

จาก คากงกลางพสย = xmax + xmin

2

จะได 105 = y + 982

y = 112

จาก คาเฉลยเลขคณต =

n

i=1Σ xin

จะได 106 = 98 + 100 + 101 + 104 + x + 109 + 110 + 111 + 1129

954 = 845 + x

x = 109

ตาแหนงของมธยฐาน = N + 12

= 9 + 12

= 5

ดงนน มธยฐาน = 109

คณตศาสตร เลม 5 63

Page 64: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. “โดยเฉลยแลวคนไทยใชรถขนาด 1,600 ซซ ซงใชนามนโดยเฉลย 10 กโลเมตรตอลตร” คาวา

โดยเฉลยทงสองคาตามลาดบในทนใหความหมายตรงกบขอใด

1. คาเฉลยเลขคณตและคาเฉลยเรขาคณต

2. คาเฉลยเลขคณตและคาเฉลยฮารมอนก

3. มธยฐานและคาเฉลยฮารมอนก

4. ฐานนยมและคาเฉลยฮารมอนก

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. กาหนดให x1, x2, x3, x4, x5 และ x6 คอ 3, 4, 6, 13, 8 และ 2 ตามลาดบ พจารณาขอความ

ตอไปน

(1) Σ (xi - a)2 มคานอยทสด เมอ a = 6

(2) Σ �xi - b� มคานอยทสด เมอ b = 5

ขอใดตอไปนถกตอง

1. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ถก 2. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ผด

3. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ถก 4. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ผด

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4 ฐานนยมและคาเฉลยฮารมอนก

6

i=16

i=1

1 ขอ

ฉบบเฉลย

แนวคด โดยเฉลย คาแรก เปนการแสดงความถสงสดและเปนขอมลเชงคณภาพ

จงเปนฐานนยม

โดยเฉลย คาหลง เปนการแสดงอตราเรวเฉลย ควรใชคาเฉลยฮารมอนก

แนวคด (1) คาเฉลยเลขคณต = 3 + 4 + 6 +13 + 8 + 26

= 6

จากสมบตของคาเฉลยเลขคณต Σ (xi - a)2 มคานอยทสด

เมอ a = คาเฉลยเลขคณต

ดงนน Σ (xi - a)2 มคานอยทสด เมอ a = 6 เปนจรง

(2) เรยงลาดบขอมลจากนอยไปมากได 2, 3, 4, 6, 8, 13

ตาแหนงมธยฐาน = 6 + 12

= 3.5 จะได มธยฐาน = 4 + 0.5(2) = 5

จากสมบตของมธยฐาน Σ �xi - b� มคานอยทสด เมอ b = มธยฐาน

ดงนน Σ �xi - b� มคานอยทสด เมอ b = 5 เปนจรง

6

i=1

6

i=1

6

i=16

i=1

Test for U

64 คณตศาสตร เลม 5

Page 65: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

แนวคด เนองจากมผเขาสอบไดคะแนนสงกวาและตากวาคาเฉลยเลขคณตอยเปนจานวน

เทากน ดงนน คาเฉลยเลขคณตกบมธยฐานจะเปนคาเดยวกน เพราะวามธยฐาน

อยในตาแหนงกงกลางของขอมลทเรยงจากนอยไปมากหรอจากมากไปนอย

แนวคด จากสมบต Σ xi = nX

จะไดวาผลรวมของอายนกกฬาครงแรก 379 คน = 379(22) = 8,338 ป

หลงมการถอนตว 4 คน ผลรวมของอายนกกฬาเหลอ

= 8,338 - (24 + 25 + 25 + 27)

= 8,237 ป

ผลรวมของอายนกกฬาหลงมการเพมนกกฬา 5 คน

= 8,237 + 5(17) = 8,322 ป

ดงนน อายเฉลยของนกกฬาจากประเทศไทยจะเทากบ 8,322379 - 4 + 5

= 21.9 ป

n

i=1

Test for U3. ถาคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของผเขาสอบ 100 คน ซงไมไดแจกแจงความถ ปรากฏวามผได

คะแนนสงกวาและตากวาคาเฉลยเลขคณตอยางละ 50 คน ขอใดตอไปนเปนขอสรปทถกตอง

1. คาเฉลยเลขคณตกบมธยฐานจะเปนคาเดยวกนได แตไมเทากบฐานนยม

2. คาเฉลยเลขคณตกบฐานนยมเปนคาเดยวกน แตจะไมเทากบมธยฐาน

3. มธยฐานและฐานนยมเปนคาเดยวกน แตจะไมเทากบคาเฉลยเลขคณต

4. คาเฉลยเลขคณต มธยฐาน และฐานนยมจะมคาเดยวกน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4. ในการแขงขนกฬามหาวทยาลยโลกครงท 24 ซงประเทศไทยเปนเจาภาพ มการสงรายชอนกกฬา

จากประเทศไทย 379 คน มอายเฉลย 22 ป ถามการถอดถอนตวนกกฬาไทยออก 4 คน ซงมอาย

24, 25, 25 และ 27 ป และมการเพมนกกฬาไทยอก 5 คน ซงมอายเฉลย 17 ป แลวอายเฉลยของ

นกกฬาจากประเทศไทยจะเทากบขอใดตอไปน

1. 21.6 ป 2. 21.7 ป 3. 21.8 ป 4. 21.9 ป

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

1 คาเฉลยเลขคณตกบมธยฐานจะเปนคาเดยวกนได แตไมเทากบฐานนยม

8 ป 4 21

คณตศาสตร เลม 5 65

Page 66: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

แนวคด (1) จากความสมพนธ yi = xi + b

จะได Y = X + b

และ Mod2 = Mod1 + b

Med2 = Med1 + b

ถา X = Mod1 = Med1 แลวจะได Y = Mod2 = Med2 ขอ (1) ถก

(2) ให p เปนคาตาสดของขอมลชดท 1 และ q เปนคาสงสดของขอมลชดท 1

พสยของขอมลชดท 1 = q - p

พสยของขอมลชดท 2 = (q + b) - (p + b) = q - p ขอ (2) ถก

แนวคด ให 2 จานวนดงกลาวเปน a และ b ซง a < b

จะไดคาเฉลยเลขคณต 56 = a + b2

a + b = 112 ……➊ และ พสย b - a = 18 ……➋ จาก ➊ และ ➋ จะได a = 47 และ b = 65

ดงนน คาเฉลยเรขาคณต = ab = 47 × 65 = 3,055

Test for U5. กาหนดให x1, x2, …, xn เปนขอมลชดท 1 และ y1, y2, …, yn เปนขอมลชดท 2

โดยท yi = xi + b เมอ i = 1, 2, …, n และ b ≠ 0 พจารณาขอความตอไปน

(1) ถาขอมลชดท 1 มฐานนยม 1 คา และมสมบตวา คาเฉลยเลขคณต = มธยฐาน = ฐานนยม

แลวขอมลชดทสองจะมสมบตขางตนเชนเดยวกน

(2) พสยของขอมลทงสองชดเทากน

ขอใดตอไปนถกตอง

1. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ถก 2. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ผด

3. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ถก 4. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ผด

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

6. ขอมลชดหนงม 2 จานวน คาเฉลยเลขคณตเทากบ 56 พสยเทากบ 18 คาเฉลยเรขาคณตของขอมล

ชดนเทากบเทาใด

1. 3,055 2. 3,255 3. 3,465 4. 3,885

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

1 ขอ

1

66 คณตศาสตร เลม 5

Page 67: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

แนวคด ใหขอมลชดนเปน a, b และ c

จะได คาเฉลยเรขาคณต = abc 3 = 4

abc = 64 ……➊ คาเฉลยเลขคณต = a + b + c

3 = 14

3

a + b + c = 14 ……➋ หาคาตอบของ ➊ และ ➋ จะได a = 2, b = 4 และ c = 8

คาเฉลยฮารมอนก = 312 + 1

4 + 1

8

= 3 37

แนวคด จากคาเฉลยเลขคณตของอายนกเรยน N คน เทากบ m ป

จะไดวานกเรยน N คน มอายรวมกนเทากบ mN ป

ให x แทนอายของนกเรยนทมาเพม ทาใหคาเฉลยเลขคณตเปน m + 1 ป

ดงนน mN + xN + 1

= m + 1

mN + x = (m + 1)(N + 1)

= mN + m + N + 1

x = m + N + 1

Test for U7. ขอมลชดหนงม 3 จานวน มคาเฉลยเรขาคณตเปน 4 และคาเฉลยเลขคณตเปน 14

3 ขอมลชดน

มคาเฉลยฮารมอนกเทาใด

1. 3 17 2. 3 3

7 3. 3 4

7 4. 3 6

7

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

8. คาเฉลยเลขคณตของอายนกเรยน N คน เทากบ m ป เมอนาอายของนกเรยนคนหนงมาเพม

ทาใหคาเฉลยเลขคณตเปน m + 1 ป อายของเดกทมาเพมเทากบเทาใด

1. m + N - 1 ป 2. m + N + 1 ป

3. (m + 1)(N + 1) - 1 ป 4. (m + 1)(N + 1) + 1 ป

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2 3

1 ป 2

คณตศาสตร เลม 5 67

Page 68: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

แนวคด ในการหาจานวนหนาทพมพตอหนงหนวยเวลาควรใชคาเฉลยฮารมอนก

จากสตร H.M. = Σ 1xi

NN

i=1

= 415 + 1

6 + 1

10 + 1

12

= 412 + 10 + 6 + 5

60

= 4 × 6033

= 8011

ดงนน คาเฉลยของอตราเรวในการพมพเอกสารของพนกงานทง 4 คน

เทากบ 7 311

นาทตอหนา ขอ (1) ผด

ในเวลา 5 12 ชวโมง หรอ 330 นาท พนกงานทง 4 คนจะพมพดดได

= 4 × 3308011

หนา

= 4 × 330 × 1180

หนา

= 181.5 หนา ขอ (2) ผด

Test for U9. ในสานกงานแหงหนงมพนกงานพมพดด 4 คน พมพเอกสาร 1 หนา ใชเวลา 5, 6, 10 และ

12 นาท ตามลาดบ

พจารณาขอความตอไปน

(1) คาเฉลยของอตราเรวในการพมพเอกสารของพนกงานทง 4 คน เทากบ 8.25 นาทตอหนา

(2) ในเวลา 5 12 ชวโมง พนกงานทง 4 คน จะพมพดดไดทงหมด 160 หนา

ขอใดตอไปนถกตอง

1. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ถก 2. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ผด

3. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ถก 4. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ผด

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ในการหาจานวนหนาทพมพตอหนงหนวยเวลาควรใชคาเฉลยฮารมอนก

ถก 4 ขอ

68 คณตศาสตร เลม 5

Page 69: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1 . 4 ¡ÒÃÇÑ µÓá˹‹§¢Í§¢ŒÍÁÙÅ Measures of Relative Standing

การวดตาแหนงของขอมล เปนการแปลงขอมลแตละชดใหอย ในลกษณะเดยวกน

เพอประโยชนในการเปรยบเทยบขอมลระหวางขอมลตางชดกน ในการแปลงขอมลจะแบงชดขอมล

ออกเปนสวนยอยเทาๆ กน มทง 4 สวน, 10 สวน และ 100 สวน

การวดตาแหนงของขอมลทแบงออกเปน 4 สวน คอ ควอรไทล

การวดตาแหนงของขอมลทแบงออกเปน 10 สวน คอ เดไซล

การวดตาแหนงของขอมลทแบงออกเปน 100 สวน คอ เปอรเซนไทล

ขอมลแตละชดมลกษณะตางกน ดงนนการนาคะแนนทตางชดกนมาเปรยบเทยบกน

จงจาเปนตองนาขอมลแตละชดมาแปลงใหเปนขอมลทมลกษณะเดยวกนกอน โดยอาจใชวธการ

ทางสถตชนดใดชนดหนงคอ ควอรไทล เดไซล หรอเปอรเซนไทล

กรณทขอมลไมไดแจกแจงความถ

การหาควอรไทล เดไซล และเปอรเซนตไทลของขอมล มวธหาเหมอนกบการหามธยฐาน

ของขอมลทไมไดแจกแจงความถ ดงน

1. เรยงลาดบขอมลจากคาทนอยทสดไปคาทมากทสด

2. หาตาแหนงทของควอรไทล เดไซล และเปอรเซนตไทลทตองการจากสตร

ตาแหนงของ Qr คอ

r(N + 1)4 เมอ r = {1, 2, 3}

ตาแหนงของ Dr คอ r(N + 1)

10 เมอ r = {1, 2, …, 9}

ตาแหนงของ Pr คอ r(N + 1)

100 เมอ r = {1, 2, …, 99}

เมอ r คอ ตาแหนงของควอรไทล เดไซล หรอเปอรเซนไทล

N คอ จานวนขอมลทงหมด

หาคาของขอมลทตรงกบตาแหนงของควอรไทล เดไซล และเปอรเซนตไทลทตองการ

โดยวธเดยวกบการหามธยฐานของขอมลทไมไดแจกแจงความถ

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 69

Page 70: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

กรณทขอมลแจกแจงความถ

การหาควอรไทล เดไซล และเปอรเซนไทลของขอมลทแจกแจงความถ มวธดาเนนการ

คลายกบการหามธยฐานของขอมลทแจกแจงความถทไดศกษามาแลว โดยการเทยบอตราสวนของ

ความแตกตางของความถสะสมกบความกวางของอนตรภาคชน ดงน

1. สรางตารางแจกแจงความถสะสมของขอมล

2. หาตาแหนงทของควอรไทล เดไซล และเปอรเซนตไทลทตองการจากสตร

ตาแหนงของ Qr คอ rN4 เมอ r = {1, 2, 3}

ตาแหนงของ Dr คอ rN10 เมอ r = {1, 2, …, 9}

ตาแหนงของ Pr คอ rN100 เมอ r = {1, 2, …, 99}

เมอ r คอ ตาแหนงของควอรไทล เดไซล หรอเปอรเซนไทล

N คอ จานวนขอมลทงหมด

3. คานวณหาคาของขอมลทตรงกบตาแหนงของควอรไทล เดไซล หรอเปอรเซนไทล

ทตองการจากสตร

Qr = L + (rN4 - ΣfL

fQ) I Dr = L + (

rN10 - ΣfL

fD) I

Pr = L + (rN100 - ΣfL

fP) I

เมอ r คอ ตาแหนงของควอรไทล เดไซล หรอเปอรเซนไทล

ΣfL คอ ผลรวมความถของอนตรภาคชนทมคานอยกวาอนตรภาคชน

ทควอรไทล เดไซล หรอเปอรเซนไทลในตาแหนงทตองการอย

L คอ ขอบลางของอนตรภาคชนทควอรไทล เดไซล หรอเปอรเซนไทล

ในตาแหนงทตองการอย

I คอ ความกวางของอนตรภาคชน

fQ, fD, fP คอ ความถของขอมลของอนตรภาคชนทควอรไทล เดไซล

หรอเปอรเซนไทลในตาแหนงทตองการอย ตามลาดบ

ฉบบเฉลย

70 คณตศาสตร เลม 5

Page 71: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. คะแนนสอบปลายภาคของนกเรยนหองหนงเปนดงน

60 65 65 67 70 71 73 75 76 76 79 81 83 84 85 85 88 89 90 92

95 96 99 100 100

1) หาควอรไทลท 3 ของคะแนนสอบของนกเรยน

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

2) หาเดไซลท 5 ของคะแนนสอบของนกเรยน

วธทา ........................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

3) หาเปอรเซนไทลท 68 ของคะแนนสอบของนกเรยน

วธทา ........................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถหาตาแหนงของขอมลทกาหนดใหได

1.4 A

ฉบบเฉลยตาแหนงของ D5 คอ

5(25 + 1)10

= 13

ดงนน D5 = 83 คะแนน

ตาแหนงของ P68 คอ 68(25 + 1)

100 = 17.68

ดงนน P68 อยระหวาง 88 กบ 89

ตาแหนงตางกน 18 - 17 = 1 คะแนนสอบเพมขน 89 - 88 = 1 คะแนน

ตาแหนงตางกน 17.68 - 17 = 0.68 คะแนนสอบเพมขน 0.68 × 11

= 0.68 คะแนน

นนคอ P68 = 88 + 0.68 = 88.68 คะแนน

ตาแหนงของ Q3 คอ 3(25 + 1)

4 = 19.5

ดงนน Q3 อยระหวาง 90 กบ 92

ตาแหนงตางกน 20 - 19 = 1 คะแนนสอบเพมขน 92 - 90 = 2 คะแนน

ตาแหนงตางกน 19.5 - 19 = 0.5 คะแนนสอบเพมขน 2 × 0.51

= 1 คะแนน

นนคอ Q3 = 90 + 1 = 91 คะแนน

คณตศาสตร เลม 5 71

Page 72: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. นกเรยนกลมหนงมความสง ดงน

165 155 154 158 163 148 150 161 166 152 160 145

1) หาควอรไทลท 3 ของสวนสงของนกเรยนทง 12 คน

วธทา ........................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

2) หาเดไซลท 6 ของสวนสงของนกเรยนทง 12 คน

วธทา ........................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

3) หาเปอรเซนตไทลท 45 ของสวนสงของนกเรยนทง 12 คน

วธทา ........................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จากสวนสงของนกเรยนทง 12 คน เมอนามาเรยงลาดบจากนอยไปหามากจะได ดงน

145 148 150 152 154 155 158 160 161 163 165 166

ตาแหนงของ Q3 คอ 3(12 + 1)

4 = 9.75

ดงนน Q3 อยระหวาง 161 กบ 163

ตาแหนงตางกน 10 - 9 = 1 ความสงเพมขน 163 - 161 = 2 เซนตเมตร

ตาแหนงตางกน 9.75 - 9 = 0.75 ความสงเพมขน 0.75 × 21

= 1.5 เซนตเมตร

นนคอ Q3 = 161 + 1.5 = 162.5 เซนตเมตร

ตาแหนงของ D6 คอ 6(12 + 1)

10 = 7.8

ดงนน D6 อยระหวาง 158 กบ 160

ตาแหนงตางกน 8 - 7 = 1 ความสงเพมขน 160 - 158 = 2 เซนตเมตร

ตาแหนงตางกน 7.8 - 7 = 0.8 ความสงเพมขน 0.8 × 21

= 1.6 เซนตเมตร

นนคอ D6 = 158 + 1.6 = 159.6 เซนตเมตร

ตาแหนงของ P45 คอ 45(12 + 1)

100 = 5.85

ดงนน P45 อยระหวาง 154 กบ 155

ตาแหนงตางกน 6 - 5 = 1 ความสงเพมขน 155 - 154 = 1 เซนตเมตร

ตาแหนงตางกน 5.85 - 5 = 0.85 ความสงเพมขน 0.85 × 11

= 0.85 เซนตเมตร

นนคอ P45 = 154 + 0.85 = 154.85 เซนตเมตร

72 คณตศาสตร เลม 5

Page 73: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3. ผลการทดสอบเกยวกบระดบสตปญญาของนกเรยนชน ม.6 กลมหนงปรากฏคะแนน ดงน

98 110 100 97 102 105 99 109 95 106116 97 102 106 117 122 111 98 119 107111 102 116 99 103 120 101 102 114 97

1) นกเรยนจะตองสอบไดคะแนนเทาไรจงจะมนกเรยนครงหนงของชนไดคะแนนตากวา

วธทา ........................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

2) นกเรยนจะตองสอบไดคะแนนเทาไรจงจะมนกเรยน 7 ใน 10 ของชนไดคะแนนตากวา

วธทา ........................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จากผลการทดสอบเกยวกบระดบสตปญญาของนกเรยนชน ม.6 เมอนามาเรยงลาดบ

จากนอยไปหามากจะได ดงน

95 97 97 97 98 98 99 99 100 101

102 102 102 102 103 105 106 106 107 109

110 111 111 114 116 116 117 119 120 122

คะแนนทมจานวนนกเรยนครงหนงของชนไดคะแนนตากวา คอ คะแนนท Q2

ตาแหนงของ Q2 คอ 2(30 + 1)

4 = 15.5

ดงนน Q2 อยระหวาง 103 กบ 105

ตาแหนงตางกน 16 - 15 = 1 คะแนน เพมขน 105 - 103 = 2 คะแนน

ตาแหนงตางกน 15.5 - 15 = 0.5 คะแนน เพมขน 0.5 × 21

= 1 คะแนน

นนคอ Q2 = 103 + 1 = 104 คะแนน

ดงนน คะแนนทมจานวนนกเรยนครงหนงของชนไดคะแนนตากวา คอ 104 คะแนน

คะแนนทมจานวนนกเรยน 7 ใน 10 ของชนไดคะแนนตากวา คอ คะแนนท D7

ตาแหนงของ D7 คอ 7(30 + 1)

10 = 21.7

ดงนน D7 อยระหวาง 110 กบ 111

ตาแหนงตางกน 22 - 21 = 1 คะแนนเพมขน 111 - 110 = 1 คะแนน

ตาแหนงตางกน 21.7 - 21 = 0.7 คะแนนเพมขน 0.7 × 11

= 0.7 คะแนน

นนคอ D7 = 110 + 0.7 = 110.7 คะแนน

ดงนน คะแนนทมจานวนนกเรยน 7 ใน 10 ของชนไดคะแนนตากวา คอ 110.7 คะแนน

คณตศาสตร เลม 5 73

Page 74: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3) นกเรยนจะตองสอบไดคะแนนเทาไรจงจะมนกเรยนรอยละ 25 ของชนไดคะแนนสงกวา

วธทา ........................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................................................................................

4. จากการตรวจสอบลาดบทของคะแนนสอบของนาย ก และนาย ข ในวชาคณตศาสตรทม

ผเขาสอบ 400 คน ปรากฏวา นาย ก สอบไดคะแนนอยในตาแหนงควอรไทลท 3 และ

นาย ข สอบไดคะแนนอยในตาแหนงเปอรเซนไทลท 60 จานวนนกเรยนทสอบไดคะแนน

ระหวางคะแนนของนาย ก และนาย ข มประมาณกคน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

คะแนนทมจานวนนกเรยนรอยละ 25 ของชนไดคะแนนสงกวา คอ คะแนนท P75

ตาแหนงของ P75 คอ 75(30 + 1)

100 = 23.25

ดงนน P75 อยระหวาง 111 กบ 114

ตาแหนงตางกน 24 - 23 = 1 คะแนน เพมขน 114 - 111 = 3 คะแนน

ตาแหนงตางกน 23.25 - 23 = 0.25 คะแนน เพมขน 0.25 × 31

= 0.75 คะแนน

นนคอ P75 = 111 + 0.75 = 111.75 คะแนน

ดงนน คะแนนทมจานวนนกเรยนรอยละ 25 ของชนไดคะแนนสงกวา คอ 111.75 คะแนน

ตาแหนงของ Q3 ตรงกบตาแหนงของ P75

ลาดบทคะแนนของนาย ก อยในตาแหนงของ P75

สวนลาดบทคะแนนของนาย ข อยในตาแหนงของ P60

มผเขาสอบ 100 คน จานวนนกเรยนทไดคะแนนระหวางนาย ก และนาย ข มอย 15 คน

มผเขาสอบ 400 คน จานวนนกเรยนทไดคะแนนระหวางนาย ก และนาย ข มอย 15 × 400

100 = 60 คน

ดงนน จานวนนกเรยนทสอบไดคะแนนระหวางคะแนนของนาย ก และนาย ข

มประมาณ 60 คน

74 คณตศาสตร เลม 5

Page 75: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

5. กาหนดขอมล 30, 42, 25, 34, 28, 36, 33, 44, 18 หาวา 30 เปนขอมลทอยในตาแหนง

เปอรเซนไทลทเทาใด

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

6. เมอพจารณาผลการสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน 39 คน พบวาเปอรเซนไทลท 25

ของคะแนนสอบเทากบ 35 คะแนน โดยมนกเรยน 30 คน ไดคะแนนนอยกวาหรอเทากบ

80 คะแนน และมนกเรยนทสอบไดคะแนน 35 คะแนน เพยงคนเดยว แลวจานวนนกเรยน

ทสอบไดคะแนนในชวง 35 - 80 คะแนน มทงหมดกคน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

เรยงลาดบขอมลจากนอยไปมากจะได ดงน

18 25 28 30 33 34 36 42 44

กาหนดใหขอมลทมคา 30 อยในตาแหนงท r

ดงนน Pr = 30 ซงขอมลทมคา 30 อยในตาแหนงท 4

Pr = r(9 + 1)100

4 = 10r100

400 = 10r

r = 40

ดงนน 30 เปนขอมลทอยในตาแหนงเปอรเซนไทลท 40

ตาแหนงของ P25 เทากบ (25)(39 + 1)100

= 10

นนคอ จานวนนกเรยนทไดคะแนนในชวง 0 - 34 ม 9 คน

จากโจทยมนกเรยน 30 คน ทไดคะแนนในชวง 0 - 80 คะแนน

ดงนน จานวนนกเรยนทสอบไดคะแนนในชวง 35 - 80 คะแนน เทากบ 30 - 9 = 21 คน

คณตศาสตร เลม 5 75

Page 76: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

7. ขอมลชดหนงม 5 จานวน และมคาเฉลยเลขคณตเทากบ 12 ถาควอรไทลท 1 และ 3 ของ

ขอมลชดนมคาเทากบ 5 และ 20 ตามลาดบ แลวเดไซลท 5 ของขอมลชดนมคาเทากบเทาใด

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ใหขอมลชดหนงม 5 จานวน เรยงลาดบจากนอยไปมาก ดงน a, b, c, d, e

พจารณาคาเฉลยเลขคณต จะไดวา

12 = a + b + c + d + e5

a + b + c + d + e = 60 ……➊ พจารณาตาแหนงควอรไทลท 1 (Q1) ดงน

ตาแหนงของ Q1 = 1(N + 1)

4 = 5 + 1

4 = 1.5

Q1 คอ ขอมลในตาแหนงท 1.5 มคาเทากบ a + b2

แตโจทยกาหนดให Q1 = 5 นนคอ a + b2

= 5

a + b = 10 ……➋ พจารณาตาแหนงควอรไทลท 3 (Q3) ดงน

ตาแหนงของ Q3 = 3(N + 1)

4 = 3(5 + 1)

4 = 4.5

Q3 คอ ขอมลในตาแหนงท 4.5 มคาเทากบ d + e2

แตโจทยกาหนดให Q3 = 20 นนคอ d + e2

= 20

d + e = 40 ……➌ นา ➋ และ ➌ แทนใน ➊ จะได 10 + c + 40 = 60 c = 10

พจารณาเดไซลท 5 (D5) ดงน

ตาแหนงของ D5 = 5(N + 1)

10 = 5(5 + 1)

10 = 3

ดงนน D5 คอ ขอมลในตาแหนงท 3 ดงนน D5 = c = 10

76 คณตศาสตร เลม 5

Page 77: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

8. ตารางแจกแจงความถของคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน 60 คน ดงน

คะแนน จานวน (คน)

30 - 39 6

40 - 49 10

50 - 59 8

60 - 69 15

70 - 79 12

80 - 89 5

90 - 99 4

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

1) หาควอรไทลท 3 ของคะแนนสอบวชาคณตศาสตร

ของนกเรยน 60 คน

2) หาเดไซลท 4 ของคะแนนสอบวชาคณตศาสตร

ของนกเรยน 60 คน

ฉบบเฉลย

คะแนน จานวน (คน)

ความถสะสม

30 - 39 6 6

40 - 49 10 16

50 - 59 8 24

60 - 69 15 39

70 - 79 12 51

80 - 89 5 56

90 - 99 4 60

รวม 60

สรางตารางแจกแจงความถสะสมได ดงน

1) ตาแหนงของ Q3 คอ

3N4

= 3(60)4

= 45

ดงนน Q3 อยในอนตรภาคชนท 5

จากสตร Qr = L + (rN4

- ΣfLfQ

) I

จะได Q3 = 69.5 + (45 - 3912 )(10) = 74.5

ดงนน คะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน

60 คน ในตาแหนงควอรไทลท 3 เทากบ 74.5

คะแนน

2) ตาแหนงของ D4 คอ 4N10

= 4(60)10

= 24 ดงนน D4 อยในอนตรภาคชนท 3

จากสตร Dr = L + (rN10

- ΣfLfD

) I

จะได Dr = 49.5 + (24 - 168 )(10) = 59.5 ดงนน คะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน 60 คน ในตาแหนงเดไซลท 4

เทากบ 59.5 คะแนน

คณตศาสตร เลม 5 77

Page 78: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

9. ในการสอบครงหนงมนกเรยนเขาสอบทงหมด 50 คน แจกแจงเปนอนตรภาคชน ไดดงน

คะแนน ความถ

31 - 40 3

41 - 50 5

51 - 60 6

61 - 70 12

71 - 80 14

81 - 90 8

91 - 100 2

รวม 50

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

1) ตาแหนงของคนทสอบไดเปอรเซนไทลท 39

2) คนทสอบไดคะแนนในตาแหนงเปอรเซนไทล

ท 39 สอบไดกคะแนน

ฉบบเฉลย

คะแนนจานวน (คน)

ความถสะสม

31 - 40 3 3

41 - 50 5 8

51 - 60 6 14

61 - 70 12 26

71 - 80 14 40

81 - 90 8 48

91 - 100 2 50

รวม 50

1) ตาแหนงของ P39 คอ 39N100

= (39)(50)100

= 19.5

ดงนน ตาแหนงของคนทสอบไดเปอรเซนไทลท 39

คอ 19.5

2) ตาแหนงของ P39 อยในอนตรภาคชนท 4

จากสตร Pr = L + (rN100

- ΣfLfP

) I

จะได P39 = 60.5 + (19.5 - 1412 )(10) = 65.08

ดงนน คนทสอบไดคะแนนในตาแหนงเปอรเซนไทล

ท 39 สอบได 65.08 คะแนน

สรางตารางแจกแจงความถสะสมได ดงน

78 คณตศาสตร เลม 5

Page 79: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

10. อายของเดกกลมหนงมการแจกแจงความถ ดงน

อาย (ป) 1 - 3 4 - 6 7 - 9 10 - 12 13 - 15

จานวนเดก 2 A 8 7 3

กาหนดใหเปอรเซนไทลท 25 ของอายเดกกลมนเทากบ 6.5 ป แลวเดกในกลมนทมอาย

ตากวา 10 ป มจานวนกคน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

พจารณาเปอรเซนไทลท 25 (P25) ของอายของเดกกลมน

P25 = 25N100

= 25100

(20 + A) = 20 + A4

จากโจทยกาหนดวา P25 ของอายของเดกกลมนเทากบ 6.5 ป ซงเปนขอบบนของชวงอาย

4 - 6 ป แสดงวาตาแหนงของ P25 นคอ ตาแหนงสดทายในชวงอาย 4 - 6 ป ซงเทากบ

ตาแหนงท 2 + A

จะไดวา 20 + A4

= 2 + A

20 + A = 8 + 4A

12 = 3A

A = 4

ดงนน เดกในกลมนทอายตากวา 10 ป มจานวน 10 + A = 10 + 4 = 14 คน

อาย (ป) 1 - 3 4 - 6 7 - 9 10 - 12 13 - 15

จานวนเดก 2 A 8 7 3

ความถสะสม 2 2 + A 10 + A 17 + A 20 + A

สรางตารางแจกแจงความถสะสมได ดงน

คณตศาสตร เลม 5 79

Page 80: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

11. ตารางแจกแจงความถแสดงรายจายตอวนของนกเรยนจานวน 80 คน ดงน

รายจายตอวน (บาท) จานวน (คน)

51 - 60 8

61 - 70 25

71 - 80 20

81 - 90 10

91 - 100 12

ตงแต 101 บาทขนไป 5

รวม 80

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

1) นกเรยน 3 ใน 4 ของกลมนมคาใชจาย

มากทสดเทาไร

2) คาใชจายนอยทสดทนกเรยนรอยละ 20

ของกลมทมคาใชจายมากทสดมคาเทาไร

ฉบบเฉลย

รายจายตอวน (บาท)จานวน (คน)

ความถสะสม

51 - 60 8 8

61 - 70 25 33

71 - 80 20 53

81 - 90 10 63

91 - 100 12 75

ตงแต 101 บาทขนไป 5 80

รวม 80

สรางตารางแจกแจงความถสะสมได ดงน

1) คาใชจายมากทสดทนกเรยน 3 ใน 4

ของกลมนใช คอ Q3

ตาแหนงของ Q3 คอ 3N4

= 3(80)4

= 60

ดงนน Q3 อยในอนตรภาคชนท 4

จะได Qr = L + (rN4

- ΣfLfQ

) I

Q3 = 80.5 + (60 - 5310 )(10) = 87.5 นนคอ คาใชจายมากทสดทนกเรยน 3 ใน 4

ของกลมนใช คอ 87.5 บาท

2) คาใชจายนอยทสดทนกเรยนรอยละ 20 ของกลมทมคาใชจายมากทสด คอ P80

ตาแหนงของ P80 คอ 80N100

= 80(80)100

= 64

ดงนน P80 อยในอนตรภาคชนท 5

จะได Pr = L + (rN100

- ΣfLfP

) I

P80 = 90.5 + (64 - 6312 )(10) = 91.33 นนคอ คาใชจายนอยทสดทนกเรยนรอยละ 20 ของกลมทมคาใชจายมากทสด

มคาเทากบ 91.33 บาท

80 คณตศาสตร เลม 5

Page 81: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

12. ตารางแจกแจงขอมลนาหนกของนกกฬากลมหนง ดงน

นาหนก (กโลกรม) จานวนนกกฬา (คน)

41 - 45 5

46 - 50 x51 - 55 7

56 - 60 8

61 - 65 3

กาหนดใหเปอรเซนไทลท 24 เทากบ 48 หาคาเฉลยของขอมลชดน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ความถสะสม

5

5 + x

12 + x

20 + x

23 + x

จากโจทยกาหนดวา P24 ของนาหนกของนกกฬากลมหนงเทากบ 48 อยในอนตรภาคชนท 2

ตาแหนงของ P24 เทากบ 24100

(23 + x)

จะได 48 = 45.5 + [24100

(23 + x) - 5x ](5)

0.5x = 5.52 + 0.24x - 5

นนคอ x = 2

หาคา X โดยใชวธลด เลอกจดกงกลางทอยในอนตรภาคชนทมความถมากทสด

ซง A = 55.5 + 60.52

= 58

นาหนก (กโลกรม) จานวนนกกฬา (คน) di fidi

41 - 45 5 -3 -15

46 - 50 2 -2 -4

51 - 55 7 -1 -7

56 - 60 8 0 0

61 - 65 3 1 3

รวม 25 -5 -23

X = A + (Σ fidi

25

i=1

Σ fi25

i=1

) I = 58 + (-23)5

25 = 58 - 4.6 = 53.4

ดงนน คาเฉลยของนาหนกของนกกฬากลมน เทากบ 53.4 กโลกรม

A

คณตศาสตร เลม 5 81

Page 82: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ถาขอมลชดนม P25 = 100.5 และ Q3 = 110.5 แลว

จานวนคนงานทไดคาจางรายวนตากวา 115.5 บาท

เทากบเทาใด

1. 28 คน 2. 32 คน

3. 46 คน 4. 52 คน 46 คน 4 52 คน

กาหนดคาจางรายวนของแรงงานกลมหนงมการแจกแจง ดงน

คาจาง (บาท) จานวนคนงาน

81 - 85

86 - 90

91 - 95

96 - 100

101 - 105

106 - 110

111 - 115

116 - 120

1

3

x

5

8

y

10

4

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฉบบเฉลย

แนวคด สรางตารางแจกแจงความถสะสม

จากโจทย P25 = 100.5 ซงเปนขอบบนของชนท 4

จะได ตาแหนงของ P25 = คนสดทายของชนท 4

25(x + y + 31)100

= x + 9

3x - y + 5 = 0 ……➊จากโจทย Q3 = 110.5 ซงเปนขอบบนของชนท 6

จะได ตาแหนงของ Q3 = คนสดทายของชนท 6

3(x + y + 31)4

= x + y + 17

x + y - 25 = 0 ……➋ x = 5

คาจาง (บาท) จานวนคนงาน ความถสะสม

81 - 85

86 - 90

91 - 95

96 - 100

101 - 105

106 - 110

111 - 115

116 - 120

1

3

x

5

8

y

10

4

1

4

x + 4

x + 9

x + 17

x + y + 17

x + y + 27

x + y + 31

แทน x ดวย 5 ใน ➋ จะได

5 + y - 25 = 0

y = 20

ดงนน จานวนคนงานทไดคาจางรายวนตากวา 115.5 บาท

เทากบ x + y + 27 = 5 + 20 + 27 = 52 คน

Test for U

82 คณตศาสตร เลม 5

Page 83: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

บอกซพลอต บอกซพลอตเปนการสรปลกษณะของขอมลชดหนงๆ ดวยกราฟ โดยทคาสถตทงหมด

ทตองทราบเพอใชในการสรางบอกซพลอต 5 คา ไดแก คาตาสดของขอมล คาควอรไทลท 1

คาควอรไทลท 2 คาควอรไทลท 3 และคาสงสดของขอมล

ตวอยาง ขอมลแสดงรายไดของครวเรอน (หมนบาท) จานวน 12 ครวเรอน เปนดงน

23 17 21 53 16 39 26 31 48 25 29 19

สราง Box plot ของขอมลทกาหนด

วธทา ขนท 1 เรยงลาดบขอมลจากนอยไปมากไดดงน

16 17 19 21 23 25 26 29 31 39 48 53

ขนท 2 คานวณหา Q1, Q2, Q3, หาคาสงสด และคาตาสดของขอมล

ตาแหนง Q1 = 1(12 + 1)

4 = 3.25 จะได Q1 = 19 + 0.25(2) = 19.50

ตาแหนง Q2 = 2(12 + 1)

4 = 6.50 จะได Q2 = 25 + 0.50(1) = 25.5

ตาแหนง Q3 = 3(12 + 1)

4 = 9.75 จะได Q3 = 31 + 0.75(8) = 37

คาสงสด = 53 และคาตาสด = 16

ขนท 3 เขยนสเกลบนแกนแนวนอนหรอแนวตงใหครอบคลมคาตาสดและคาสงสด

แลวสราง Box plot ตามภาพ

15 20 25

Q2 Q3

คาสงสดคาตาสด

Q1

25%25% 25% 25%

30 35 40 45 50 55

จากแผนภาพจะพบวาจานวนขอมลทอยระหวาง xmin - Q1, Q2 - Q3 และ Q3 - xmaxมอยประมาณชองละ 25% ของจานวนขอมลทงหมด แตคาสงเกตทไดในแตละชวงจะไมเทากน

ดงนน เราสามารถใชความยาวของกลองในแตละชวงบอกลกษณะการกระจายตวของขอมล

ชดนนๆ ได

Note

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 83

Page 84: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. สราง Box plot จากขอมลตอไปน

12 11 24 15 27 21 20 13 14 12 18 12 11 10 35

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

Exerciseจดประสงค นกเรยนสามารถสราง Box plot และตความหมายจาก Box plot ได

1.4 B

ฉบบเฉลย

จดเรยงขอมลจากนอยสดไปมากสด เพอหา Q1 Q2 และ Q3 ดงน

10 11 11 12 12 12 13 14 15 18 20 21 24 27 35

มขอมลทงหมด 15 จานวน

Q1 อยในตาแหนงท 1(15 + 1)4

= 4

ดงนน จานวนทตรงกบตาแหนงควอรไทลท 1 คอ 12

Q2 อยในตาแหนงท 2(15 + 1)4

= 8

ดงนน จานวนทตรงกบตาแหนงควอรไทลท 2 คอ 14

Q3 อยในตาแหนงท 3(15 + 1)4

= 12

ดงนน จานวนทตรงกบตาแหนงควอรไทลท 3 คอ 21

จากขอมลทได สราง Boxplot ไดดงรป

40

30

20

10

0

35

25

15

5

84 คณตศาสตร เลม 5

Page 85: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. ขอมลตอไปนเปนปรมาณแคลอรตอไอศกรมหนงแทง จานวน 22 ชนด

346 377 320 340 300 234 294 286 370 282 210

339 120 240 282 297 209 157 290 250 230 250

สราง Box plot จากขอมลทกาหนด

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จดเรยงขอมลจากนอยสดไปมากสดเพอหา Q1 Q2 และ Q3 ดงน

120 157 209 210 230 234 240 250 250 282 282

286 290 294 297 300 320 339 340 346 370 377

ในทนมขอมลทงหมด 22 จานวน

จาก Qr อยในตาแหนงท r(N + 1)4

จงได Q1 อยในตาแหนงท 1(22 + 1)4

= 5.75

ดงนน Q1 อยระหวางคา 230 - 234 และจานวนแคลอรทตรงกบตาแหนงควอรไทลท 1

คอ 230 + 3 = 233 แคลอร

Q2 อยในตาแหนงท 2(22 + 1)4

= 11.5 ดงนน Q2 อยระหวางคา 282 - 286

และจานวนแคลอรทตรงกบตาแหนงควอไทลท 2 คอ 282 + 2 = 284 แคลอร

Q3 อยในตาแหนงท 3(22 + 1)4

= 17.25 ดงนน Q3 อยระหวางคา 320 - 329

และจานวนแคลอรทตรงกบตาแหนงควอไทลท 3 คอ 320 + 2.25 = 322.25 แคลอร

จากขอมลทมสราง Box plot ไดดงรป

100

300

400

200

แคลอ

350

250

150

คณตศาสตร เลม 5 85

Page 86: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3. Box plot แสดงผลสรปของคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยนหอง ม.6/1 และหอง

ม.6/2

60 70 80 90 100

7567

60

98

918577

64

88

100(ม.6/1)

(ม.6/2)

1) คะแนนหอง ม.6/1 ทไดคะแนนอยในกลม 25% ตาสด มคะแนนตาสดและคะแนนสงสด

เปนเทาใด

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

2) นกเรยนหอง ม.6/2 ทไดคะแนนมากกวาหรอเทากบ 91 คะแนน มประมาณกเปอรเซนต

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

3) มนกเรยน ม.6/1 กเปอรเซนต ทไดคะแนนนอยกวาหรอเทากบ 75 คะแนน

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

4) ถาในการสอบครงนผสอนจะใหระดบผลการเรยนเทากบ 4 แกผทได 80 คะแนนขนไป

หองใดจะมนกเรยนทไดระดบผลการเรยนเทากบ 4 มากกวากน

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จาก Box plot ของนกเรยนหอง ม.6/1

คาตาสด คอ 60, คาสงสด คอ 100, Q1 = 67, Q2 = 75 และ Q3 = 88

ดงนน 25% ของนกเรยนหอง ม.6/1 ทไดคะแนนอยในกลมตาสด

มคะแนนตาสด 60 คะแนน และคะแนนสงสดเปน 67 คะแนน

จาก Box plot ของนกเรยนหอง ม.6/2

คาตาสด คอ 64, คาสงสด คอ 98, Q1 = 77, Q2 = 85 และ Q3 = 91

ดงนน นกเรยนหอง ม.6/2 ทไดคะแนนมากกวาหรอเทากบ 91 คะแนน มประมาณ 25%

จาก Box plot ของนกเรยนหอง ม.6/1 จะพบวา Q2 = 75 คะแนน

ดงนน มนกเรยน 50% ของนกเรยนทงหองทไดคะแนนนอยกวาหรอเทากบ 75 คะแนน

จาก Box plot ของนกเรยนหอง ม.6/1 และ ม.6/2 จะพบวา นกเรยนหอง ม.6/1 มนกเรยน

นอยกวา 50% ไดคะแนนมากกวา 80 คะแนน สวนนกเรยนหอง ม.6/2 มนกเรยน

มากกวา 50% ไดคะแนนมากกวา 80 คะแนน ของนกเรยนทงหอง

ดงนน หอง ม.6/2 มนกเรยนไดระดบผลการเรยนเทากบ 4 มากกวา

86 คณตศาสตร เลม 5

Page 87: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1 . 5 ¡ÒÃÇÑ ¡ÒáÃШÒ¢ͧ¢ŒÍÁÙÅ Measures of Dispersion

การวดการกระจายของขอมล เปนสถตประเภทหนงทใชอธบายลกษณะการกระจายของ

ขอมล ถาขอมลชดนนประกอบดวยคะแนนทมคาตางกนมาก เรยกวา ขอมลมการกระจายมาก

ถาขอมลชดนนประกอบดวยคะแนนทมคาตางกนนอย เรยกวา ขอมลมการกระจายนอย และ

ถาขอมลชดนนประกอบดวยคะแนนทมคาเทากนหมด เรยกวา ขอมลไมมการกระจาย

การวดการกระจายสมบรณ การวดการกระจายสมบรณ คอ การวดการกระจายของขอมลเพยงชดเดยว เพอดวาขอมล

แตละคาในชดนนมความแตกตางกนมากหรอนอยเพยงไร นยมใชกนอย 4 ชนด คอ

1) พสย

เปนคาทใชวดการกระจายของขอมล โดยหาไดจากผลตางระหวางคาสงสดกบ

คาตาสดของขอมล

กรณทขอมลไมไดแจกแจงความถ

เมอ xmax แทนขอมลทมคาสงสด

xmin แทนขอมลทมคาตาสด

กรณทขอมลแจกแจงความถ

เมอ Umax แทนขอบบนของอนตรภาคชนทมคาสงสด

Lmin แทนขอบลางของอนตรภาคชนทมคาตาสด

2) สวนเบยงเบนควอรไทล

เปนคาทใชวดการกระจายของขอมลรอบๆ คามธยฐาน ซงหาไดจากครงหนงของ

ผลตางระหวางควอรไทลท 3 กบควอรไทลท 1

พสย = xmax - xmin

พสย = Umax - Lmin

สวนเบยงเบนควอรไทล (Q.D.) = Q3 - Q1

2

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 87

Page 88: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

สวนเบยงเบนเฉลย (M.D.) = Σ �xi - X�

n

k

i=1

สวนเบยงเบนเฉลย (M.D.) = Σ fi �xi - X�

Σ fi

k

i=1k

i=1

= Σ fi �xi - X�

n

k

i=1

สวนเบยงเบนมาตรฐานของประชากร (σ) = Σ (xi - μ)2

N

N

i=1 หรอ Σ xi

2

N

N

i=1 - μ2

3) สวนเบยงเบนเฉลย

เปนคาทใชวดการกระจายของขอมลรอบๆ คาเฉลย โดยหาไดจากการเฉลยคาสมบรณ

ของผลตางระหวางขอมลแตละตวกบคาเฉลยของขอมลชดนน

กรณทขอมลไมไดแจกแจงความถ

ถา x1, x2, x3, …, xk เปนคาของขอมลตวอยาง n จานวน และมคาเฉลย

เลขคณตเปน X แลว

กรณทขอมลแจกแจงความถ

เมอ xi เปนจดกงกลางของอนตรภาคชนตางๆ โดย i = 1, 2, 3, …, k ชน

fi เปนความถของอนตรภาคชนท i

n เปนจานวนขอมลตวอยางทงหมด

X เปนคาเฉลยเลขคณตของขอมลชดน

4) สวนเบยงเบนมาตรฐาน

เปนการวดการกระจายของคะแนนรอบๆ คาเฉลยคลายๆ กบสวนเบยงเบนเฉลย

ซงหาไดจากรากทสองของคาเฉลยของกาลงสองของผลตางระหวางขอมลแตละคากบคากลาง

ของขอมล

กรณทขอมลไมไดแจกแจงความถ

ถา x1, x2, x3, …, xn เปนคาของขอมลประชากร N หนวย และมคาเฉลย

เลขคณตเปน μ สวนเบยงเบนมาตรฐานของประชากร เปน σ คานวณจากสตร

เมอ μ แทนคาเฉลยเลขคณตของประชากร

N แทนจานวนขอมลทงหมดของประชากร

ฉบบเฉลย

88 คณตศาสตร เลม 5

Page 89: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

สวนเบยงเบนมาตรฐานของตวอยาง (s) = Σ (xi - X)

2

n - 1

n

i=1 หรอ Σ xi

2 - nX 2

n - 1

n

i=1

สวนเบยงเบนมาตรฐานของประชากร (σ) = Σ fi (xi - μ)2

N

k

i=1 หรอ Σ fi xi

2

N

k

i=1 - μ2

สวนเบยงเบนมาตรฐานของตวอยาง (s) = Σ fi (xi - X)

2

n - 1

k

i=1 หรอ Σ fi xi

2- nX 2

n - 1

k

i=1

สวนเบยงเบนมาตรฐานของตวอยางของประชากรใชสญลกษณแทนดวย S.D. หรอ s

เมอ X แทนคาเฉลยเลขคณตของตวอยาง

N แทนจานวนขอมลทงหมดของตวอยาง

กรณทขอมลแจกแจงความถ

สวนเบยงเบนมาตรฐานของประชากรหรอตวอยางทแจกแจงความถ เปนคาโดยประมาณ

เพราะตองใชจดกงกลางของแตละอนตรภาคชนเปนตวแทนขอมล ซงมสตร ดงน

เมอ xi แทนจดกงกลางของอนตรภาคชนท i

fi แทนความถของอนตรภาคชนท i

k แทนจานวนอนตรภาคชน

N แทนจานวนขอมลทงหมดของประชากร หรอผลรวมของความถของทกๆ

อนตรภาคชน

n แทนจานวนตวอยางทงหมด

μ แทนคาเฉลยเลขคณตของประชากร

X แทนคาเฉลยเลขคณตของตวอยาง

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 89

Page 90: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

จะเหนไดวา กาลงสองของสวนเบยงเบนมาตรฐานกคอคาความแปรปรวนเขยนเปนสตรได

ดงน

คาสวนเบยงเบนมาตรฐาน2 = ความแปรปรวน

ดงนน ถาทราบความแปรปรวนของขอมลแลว จะสามารถหาคาสวนเบยงเบนมาตรฐาน

ไดโดยการถอดรากทสองของความแปรปรวนนน เขยนเปนสตรในรปสญลกษณได ดงน

กรณทความแปรปรวนของขอมลประชากรไมไดแจกแจงความถ

กรณทความแปรปรวนของขอมลประชากรแจกแจงความถ

เมอ xi แทนจดกงกลางของอนตรภาคชนท i

fi แทนความถของอนตรภาคชนท i

k แทนจานวนอนตรภาคชน

μ แทนคาเฉลยเลขคณตของประชากร

N แทนจานวนขอมลทงหมดของประชากร

สวนการหาคาเฉลยของสวนเบยงเบนกาลงสอง โดยการหารดวยจานวนคาสงเกตทงหมด

ในชดขอมลลบดวย 1 หรอ (n - 1) ผลทไดเรยกวา ความแปรปรวนของตวอยาง และแทนดวย s2

กรณทความแปรปรวนของขอมลตวอยางไมไดแจกแจงความถ

ความแปรปรวนของตวอยาง s2 = Σ (xi - X)

2

n - 1

n

i=1 หรอ Σ xi

2 - nX 2

n - 1

n

i=1

ความแปรปรวนของประชากร (σ2) = Σ (xi - μ)2

N

N

i=1 = Σ xi

2

N

N

i=1 - μ2

ความแปรปรวนของประชากร (σ2) = Σ fi (xi - μ)2

N

k

i=1 = Σ fixi

2

N

k

i=1 - μ2

ในการวดการกระจายสมบรณ ถาคาทคานวณไดมคามาก แสดงวาขอมลมการกระจายมาก

ถาคาทคานวณไดมคานอย แสดงวาขอมลมการกระจายตวนอย

Note

ฉบบเฉลย

90 คณตศาสตร เลม 5

Page 91: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ความแปรปรวนของตวอยาง (s2) = Σ fi (xi - X)

2

n - 1

k

i=1 หรอ Σ fi xi

2- nX 2

n - 1

k

i=1

1. หาพสยของความสง (เซนตเมตร) ของนกเรยนกลมหนง ซงมความสง ดงน

164 164 166 166 166 172 172 165 168 169 175

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

2. หาพสยของคะแนนสอบของนกเรยนกลมหนง ซงไดคะแนน ดงน

คะแนน 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

จานวนนกเรยน (คน) 3 6 20 21 8 2

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

จดประสงค นกเรยนสามารถวดการกระจายของขอมลและเปรยบเทยบการกระจายของขอมลได

Exercise 1.5 A

กรณทความแปรปรวนของขอมลตวอยางแจกแจงความถ

เมอ xi แทนจดกงกลางของอนตรภาคชนท i

fi แทนความถของอนตรภาคชนท i

X แทนคาเฉลยเลขคณตของตวอยาง

n แทนจานวนตวอยางทงหมด

k แทนจานวนอนตรภาคชน

ฉบบเฉลย

จากขอมลทกาหนด คาสงสดของขอมล คอ 175 และคาตาสดของขอมล คอ 164

ดงนน พสยเทากบ 175 - 164 = 11 เซนตเมตร

จากขอมลทกาหนด ขอบบนของอตรภาคชนของขอมลทมคาสงสด คอ 99.5

และขอบลาง ของอตรภาคชนของขอมลทมคาตาสด คอ 39.5

ดงนน พสยเทากบ 99.5 - 39.5 = 60 คะแนน

คณตศาสตร เลม 5 91

Page 92: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3. หาสวนเบยงเบนควอรไทลของความสง (เซนตเมตร) ของนกเรยนกลมหนง ซงมความสง ดงน

164 164 166 166 166 172 172 165 168 169 175

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

4. หาสวนเบยงเบนควอรไทลของคะแนนสอบของนกเรยนกลมหนง ซงไดคะแนน ดงน

คะแนน 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

จานวนนกเรยน (คน) 3 6 20 21 8 2

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

เรยงขอมลจากนอยไปมาก ไดดงน

164 164 165 166 166 166 168 169 172 172 175

หาตาแหนง Q1 = 1(N + 1)4

= 11 + 14

= 3

ดงนน Q1 = 165

หาตาแหนง Q3 = 3(N + 1)

4 = 3(11 + 1)

4 = 9

ดงนน Q3 = 172

ดงนน สวนเบยงเบนควอรไทล (Q.D.) = 172 - 1652

= 3.5 เซนตเมตร

คะแนน f f สะสม

40 - 49 3 3

50 - 59 6 9

60 - 69 20 29

70 - 79 21 50

80 - 89 8 58

90 - 99 2 60

จากขอมลทกาหนด นามาเขยนตารางใหมเพอหาความถสะสมได ดงน

หาตาแหนงของ Q1 = 604

= 15

ดงนน Q1 อยในอนตรภาคชนท 60 - 69

ตาแหนงตางกน 29 - 9 = 20

คะแนนตางกน 59.5 - 69.5 = 10 คะแนน

ตาแหนงตางกน 15 - 9 = 6

คะแนนตางกน (10)(6)20

= 3 คะแนน

จะไดวา Q1 = 59.5 + 3 = 62.5 คะแนน

หาตาแหนงของ Q3 = 3(60)

4 = 45 ดงนน Q3 อยในอนตรภาคชนท 70 - 79

ตาแหนงตางกน 50 - 29 = 21 คะแนนตางกน 69.5 - 79.5 = 10 คะแนน

ตาแหนงตางกน 45 - 29 = 16 คะแนนตางกน (10)(16)21

= 7.62 คะแนน

จะไดวา Q3 = 69.5 + 7.62 = 77.12 คะแนน

ดงนน สวนเบยงเบนควอรไทล (Q.D.) = 77.12 - 62.52

= 7.31 คะแนน

92 คณตศาสตร เลม 5

Page 93: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

5. ขอมลจากตวอยางชดหนงประกอบดวยขอมล 8 จานวน คอ 70 52 73 46 75 90 78 100

หาสวนเบยงเบนเฉลยของขอมลชดน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

6. หาสวนเบยงเบนเฉลยของคะแนนสอบของนกเรยนกลมหนง ซงไดคะแนน ดงน

คะแนน 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

จานวนนกเรยน (คน) 3 6 20 21 8 2

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

หาคาเฉลยเลขคณตจากสตร X = Σ xin

n

i=1

X = 70 + 52 + 73 + 46 + 75 + 90 + 78 + 1008

= 5848

= 73

ดงนน M.D. = �70 - 73� + �52 - 73� + �73 - 73� + �46 - 73� + �75 - 73� + �90 - 73� + �78 - 73� + �100 - 73�8

= 3 + 21 + 0 + 27 + 2 + 17 + 5 + 278

= 1028

= 12.75

จากขอมลทกาหนด นามาเขยนตารางใหม ดงน

จากตาราง จะได X = 4,18060

= 69.67

และ M.D. = Σ fi�xi - X�

n

k

i=1

= 539.6660

= 8.99

ดงนน สวนเบยงเบนเฉลยโดยประมาณของคะแนนสอบของนกเรยนกลมน

เทากบ 8.99 คะแนน

คะแนน ความถ (fi) จดกงกลางชน (xi) fixi �xi - X� fi�xi

- X�

40 - 49 3 44.5 133.5 25.17 75.51

50 - 59 6 54.5 327 15.17 91.02

60 - 69 20 64.5 1,290 5.17 103.4

70 - 79 21 74.5 1,564.5 4.83 101.43

80 - 89 8 84.5 676 14.83 118.64

90 - 99 2 94.5 189 24.83 49.66

รวม 60 4,180 539.66

คณตศาสตร เลม 5 93

Page 94: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

7. ผลการสารวจนาหนก (กโลกรม) ของนกเรยน 10 คน ปรากฎผล ดงน 42, 54, 67, 32, 89,

45, 53, 64, 49 และ 56

1) หาพสย 2) หาสวนเบยงเบนควอรไทล

3) หาสวนเบยงเบนเฉลย 4) หาสวนเบยงเบนมาตรฐาน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

1) หาพสยจาก พสย = xmax - xmin = 89 - 32 = 57

2) หาสวนเบยงเบนควอรไทลจาก Q.C. = Q3 - Q1

2

เรยงขอมลจากนอยไปมาก 32, 42, 45, 49, 53, 54, 56, 64, 67, 89

ตาแหนง Q1 = 1(10 + 1)

4 = 2.75 จะได Q1 = 42 + 0.75(3) = 44.25

ตาแหนง Q3 = 3(10 + 1)

4 = 8.25 จะได Q3 = 64 + 0.25(3) = 64.75

ดงนน Q.C. = 64.75 - 44.252

= 10.25

3) หาสวนเบยงเบนเฉลยจาก M.D. = Σ �xi - X�

n

n

i=1

X = Σ xin

n

i=1 = 32 + 42 + 45 + … + 8910

= 55.1

ดงนน M.D. = �32 - 55.1� + �42 - 55.1� + �45 - 55.1� + … + �89 - 55.1�10

= 11.12

4) หาสวนเบยงเบนมาตรฐานจาก s =

n

i=1 n - 1

Σ xi2 - nX 2

Σ xi2 = 322 + 422 + 452 + … + 892 = 32,581

ดงนน s = 10 - 132581 - 10(55.1)2 = 15.71

n

i=1

94 คณตศาสตร เลม 5

Page 95: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

8. ขอมลแสดงอายของผเขาสมครงานในตาแหนงประชาสมพนธของบรษทแหงหนงเปน ดงน

26, 23, 25, 24, 27, 30, 32, 28, 33, 29, 31, 25, 27

1) หาพสย 2) หาสวนเบยงเบนควอรไทล

3) หาสวนเบยงเบนเฉลย 4) หาสวนเบยงเบนมาตรฐาน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

1) หาพสยจาก พสย = xmax - xmin = 33 - 23 = 11

2) หาสวนเบยงเบนควอรไทลจาก Q.C. = Q3 - Q1

2

เรยงขอมลจากนอยไปมาก 23, 24, 25, 25, 26, 27, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33

ตาแหนง Q1 = 1(13 + 1)

4 = 3.5 จะได Q1 = 25 + 0.5(0) = 25

ตาแหนง Q3 = 3(13 + 1)

4 = 10.5 จะได Q3 = 30 + 0.5(1) = 30.5

ดงนน Q.C. = 30.5 - 252

= 2.75

3) หาสวนเบยงเบนเฉลยจาก M.D. = Σ �xi - X�

n

n

i=1

X = Σ xin

n

i=1 = 23 + 24 + 25 + … + 3313

= 27.69

ดงนน M.D. = �23 - 27.69� + �24 - 27.69� + �25 - 27.69� + … + �33 - 27.69�13

= 2.59

4) หาสวนเบยงเบนมาตรฐานจาก s =

n

i=1 n - 1

Σ xi2 - nX 2

Σ xi2 = 232 + 242 + 252 + … + 332 = 10,088

ดงนน s = 13 - 110088 - 13(27.69)2 = 3.17

n

i=1

คณตศาสตร เลม 5 95

Page 96: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

9. ขอมลแสดงคะแนนสอบของนกเรยนกลมหนงเปน ดงน

คะแนน 30 - 39 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

จานวนนกเรยน 1 2 6 20 21 8 2

1) หาพสย 2) หาสวนเบยงเบนควอรไทล

3) หาสวนเบยงเบนเฉลย 4) หาสวนเบยงเบนมาตรฐาน

วธทา .................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จากขอมลทกาหนด นามาเขยนตารางใหมได ดงน

คะแนน 30 - 39 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99 รวม

fi 1 2 6 20 21 8 2 60

cfi 1 3 9 29 50 58 60

xi34.5 44.5 54.5 64.5 74.5 84.5 94.5

fixi34.5 89 327 1290 1564.5 676 189 4170

�xi - X� 35 25 15 5 5 15 25 125

(xi - X)2 1225 625 225 25 25 225 625

fi�xi - X� 35 50 90 100 105 120 50 550

fi(xi - X)2 1225 1250 1350 500 525 1800 1250 7900

1) หาพสยจาก พสย = Umax - Lmin = 99.5 - 29.5 = 70

2) หาสวนเบยงเบนควอรไทลจาก Q.C. = Q3 - Q1

2

ตาแหนง Q1 = 1(60)

4 = 15 จะได Q1 = 59.5 + 10 (15 - 920 ) = 62.5

ตาแหนง Q3 = 3(60)

4 = 45 จะได Q3 = 69.5 + 10 (45 - 2921 ) = 77.12

ดงนน Q.C. = 77.12 - 62.52

= 7.31

3) หาสวนเบยงเบนเฉลยจาก M.D. = Σ fi�xi - X�

n

k

i=1

X = Σ fixi

n

n

i=1 = 417060

= 69.5 ดงนน M.D. = 55060

= 9.16

4) หาสวนเบยงเบนมาตรฐานจาก s =

k

i=1 n - 1

Σ fi(xi - X)2

= 60 - 17900 = 11.57

96 คณตศาสตร เลม 5

Page 97: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

10. ขอมลแสดงคาใชจายของนกเรยนแตละคนใน 1 วน เปนดงน

จานวนเงน (บาท) 41 - 50 51 - 60 61 - 70 71 - 80 81 - 90 91 - 100

จานวนนกเรยน 1 2 6 20 21 2

1) หาพสย 2) หาสวนเบยงเบนควอรไทล

3) หาสวนเบยงเบนเฉลย 4) หาสวนเบยงเบนมาตรฐาน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จากขอมลทกาหนด นามาเขยนตารางใหมได ดงน

จานวนเงน (บาท) 41 - 50 51 - 60 61 - 70 71 - 80 81 - 90 91 - 100 รวม

fi 3 13 8 6 5 5 40

cfi 3 16 24 30 35 40

xi45.5 55.5 65.5 75.5 85.5 95.5

fixi136.5 721.5 524 453 427.5 477.5 2740

�xi - X� 23 13 3 7 17 27

(xi - X)2 529 169 6 49 289 729

fi�xi - X� 69 169 24 42 85 135 524

fi(xi - X)2 1587 2197 72 294 1445 3645 9240

1) หาพสยจาก พสย = Umax - Lmin = 100.5 - 40.5 = 60

2) หาสวนเบยงเบนควอรไทลจาก Q.C. = Q3 - Q1

2

ตาแหนง Q1 = 1(40)

4 = 10 จะได Q1 = 50.5 + 10 (10 - 313 ) = 55.88

ตาแหนง Q3 = 3(40)

4 = 30 จะได Q3 = 70.5 + 10 (30 - 246 ) = 80.5

ดงนน Q.C. = 80.5 - 55.882

= 12.31

3) หาสวนเบยงเบนเฉลยจาก M.D. = Σ fi�xi - X�

n

k

i=1

X = Σ fixi

n

n

i=1 = 274040

= 68.5 ดงนน M.D. = 52440

= 13.1

4) หาสวนเบยงเบนมาตรฐานจาก s =

k

i=1 n - 1

Σ fi(xi - X)2

= 40 - 19240 = 15.39

คณตศาสตร เลม 5 97

Page 98: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

11. สมมตวาสมตวอยางถานไฟฉายยหอหนงมาตรวจสอบอายการใชงาน (หนวยชวโมง) ซงได

ขอมลดงตารางแจกแจงความถตอไปน

อายการใชงาน (ชวโมง) ความถ

61 - 70

71 - 80

81 - 90

91 - 100

101 - 110

111 - 120

5

14

18

25

12

6

หาความแปรปรวนและสวนเบยงเบนมาตรฐานของอายการใชงานของถานไฟฉาย

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จากขอมลทกาหนด นามาเขยนตารางใหมได ดงน

อายการใชงาน xi fi fixi xi2 fixi

2

61 - 70

71 - 80

81 - 90

91 - 100

101 - 110

111 - 120

65

75

85

95

105

115

5

14

18

25

12

6

325

1,050

1,530

2,375

1,260

690

4,225

5,625

7,225

9,025

11,025

13,225

21,125

78,750

130,050

225,625

132,300

79,350

รวม Σ fi = 80 Σ fixi = 7,230 Σ fixi2 = 667,200

6

i=1

6

i=1

6

i=1

จะได X = Σ fixi

6

i=1

Σ fi6

i=1

= 7,23080

, Σ fi = 80 , Σ fixi2 = 667,200

และ s2 =

6

i=1 n - 1

Σ fixi2 - nX 2

= 667200 - 80 (7,23080 )

2

80 - 1 = 174.541

s = 174.541 = 13.21

ดงนน คาความแปรปรวนเทากบ 174.541 และสวนเบยงเบนมาตรฐานเทากบ 13.21

6

i=1

6

i=1

98 คณตศาสตร เลม 5

Page 99: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

12. คะแนนสอบวชาหนงของนกเรยน 40 คน เปนดงน

คะแนน จานวนนกเรยน (fi)

10 - 14 4

15 - 19 6

20 - 24 a

25 - 29 8

30 - 34 4

35 - 39 6

โดยมคะแนนเฉลย (μ) เทากบ 24.5 และ Σ fi(xi - μ) = -125 ถาสวนเบยงเบนควอรไทล

เทากบ b และสวนเบยงเบนเฉลยเทากบ c แลว a + b + c เทากบเทาไร

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

3

i=1

ฉบบเฉลย

cfi xi fixi �xi - μ� fi�xi - μ�

4 12 48 12.5 50

10 17 102 7.5 45

22 22 264 2.5 30

30 27 216 2.5 20

34 32 128 7.5 30

40 37 222 12.5 75

จาก Σ fi(xi - μ) = -125 และ μ = 24.5

จะได Σ fi(xi - μ) = 4(12 - 24.5) + 6(17 - 24.5) + a(22 - 24.5)

-125 = -50 - 45 - 2.5a

a = 12

หาสวนเบยงเบนควอรไทลจาก Q.C. = Q3 - Q1

2

ตาแหนง Q1 = 1(40)

4 = 10 จะได Q1 = 19.5

ตาแหนง Q3 = 3(40)

4 = 30 จะได Q3 = 29.5

ดงนน Q.C. = 29.5 - 19.52

= 5

หาสวนเบยงเบนเฉลยจาก M.D. = Σ fi�xi - μ�

N

6

i=1

= 25040

= 6.25

ดงนน a + b + c = 12 + 5 + 6.25 = 23.25

3

i=1

3

i=1

คณตศาสตร เลม 5 99

Page 100: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

13. ในการสอบสมภาษณนกศกษา 3 คน ปรากฎวา มธยฐานเทากบ 46 และพสยเทากบ 17

ถานกศกษาคนแรกไดคะแนน 32 คะแนน ความแปรปรวนในการสอบสมภาษณครงน

ประมาณเทาใด

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ให x1, x2, x3 เปนคะแนนสอบสมภาษณของนกศกษาทงสามคน โดยเรยงจากนอยไปมาก

จากโจทย พสย = 17 แสดงวา x3 - x1 = 17

มธยฐาน = 46 แสดงวา x2 = 46

นกศกษาคนแรกไดคะแนน 32 คะแนน นนคอ x1 = 32

จะไดวา x3 - 32 = 17

x3 = 49

หาคาเฉลยเลขคณต μ = Σ xi

N

N

i=1

= 32 + 46 + 493

= 1273

= 42.33

ความแปรปรวน σ2 =

N

i=1 N

Σ (xi - μ)2

= (32 - 42.33)2 + (46 - 42.33)2 + (49 - 42.33)2

3 ≈ 106.71 + 13.47 + 44.49

3 ≈ 54.89

ดงนน ความแปรปรวนในการสอบสมภาษณประมาณ 54.89

100 คณตศาสตร เลม 5

Page 101: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

14. คะแนนสอบชดหนงม 3 จานวน โดยมฐานนยมและมธยฐานเทากบ 52 และคาเฉลยเลขคณต

เทากบ 48 พสยและสวนเบยงเบนควอรไทลของขอมลชดนเทากบเทาใด

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ให x1, x2, x3 เปนคะแนนสอบโดยเรยงจากนอยไปมาก

จากโจทย มธยฐาน = 52 แสดงวา x2 = 52

ฐานนยม = 52 แสดงวา ตองมอกคาเทากบ 52

และคาเฉลยเลขคณต = 48 ซงนอยกวา 52 นนคอ คาทเหลอจงตองนอยกวา 52

จะไดวา x3 = 52

นนคอ μ = Σ xi

N

N

i=1

48 = x1 + 52 + 52

3 144 = x1 + 102

x1 = 42

ดงนน พสยเทากบ 52 - 42 = 10

หาคาเบยงเบนควอรไทลจากตาแหนงของ Q1 = (N + 1)r

4

= (3 + 1)(1)4

= 1

นนคอ Q1 = 42

ตาแหนงของ Q3 = (3 + 1)(3)

4 = 3

นนคอ Q3 = 52

จะไดวา Q.D. = Q3 - Q1

2

= 52 - 422

= 102

= 5

ดงนน สวนเบยงเบนควอรไทลเทากบ 5

คณตศาสตร เลม 5 101

Page 102: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

15. ในการทดสอบความสามารถดานการอานของนกเรยน 3 คน ปรากฏวาคาเฉลยเลขคณต

ของคะแนนเทากบ 63 มธยฐานเทากบ 60 และพสยเทากบ 21 สวนเบยงเบนเฉลยในการ

สอบครงนเปนเทาใด

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

16. กาหนดให Σ (xi - 3)2 = 90 และ Σ xi = 30 เมอ xi คอ คาสงเกตตวท i ของขอมลแลว

หาสวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมลชดน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

10

i=1

10

i=1

ฉบบเฉลย

ใหคะแนนของนกเรยน 3 คน เรยงจากนอยไปมาก คอ a, b, c

มธยฐานเทากบ 60 ดงนน b = 60

พสยเทากบ 21 ดงนน c - a = 21 ……➊คาเฉลยเลขคณตเทากบ 63 ดงนน a + 60 + c

3 = 63

a + c = 129 ……➋แกสมการ ➊ และ ➋ จะได a = 54, b = 60 และ c = 75

หาสวนเบยงเบนเฉลยจาก M.D. = Σ �xi - μ�

N

N

i=1

= �54 - 63� + �60 - 63� + �75 - 63�3

= 8

จาก Σ (xi - 3)2 = Σ (xi

2 - 6xi + 9)

= Σ xi2 - 6Σ xi + 9(10)

90 = Σ xi2 - 6(30) + 90

Σ xi2 = 180

หาคาเฉลยเลขคณตจาก X = Σ xin

n

i=1 = 3010

= 3

หาสวนเบยงเบนมาตรฐานจาก s =

n

i=1 n - 1

Σ xi2 - nX 2

= 10 - 1180 - 10(3)2

= 3.16

10

i=1

10

i=1

10

i=1

10

i=1

10

i=110

i=1

102 คณตศาสตร เลม 5

Page 103: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

17. ในการสอบครงหนงนกเรยนทไดคะแนนสงสดไดคะแนนสงกวาคาเฉลยเลขคณต 42 คะแนน

และนกเรยนทไดคะแนนตาสดไดคะแนนตากวาคาเฉลยเลขคณต 34 คะแนน หาพสยของการ

สอบครงน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

18. นกเรยนหองหนงม 42 คน ในการสอบครงหนงพบวามนกเรยนขาดสอบ 2 คน คาเฉลย

เลขคณตและสวนเบยงเบนมาตรฐานของคะแนนของนกเรยน 40 คน เทากบ 60 และ 2 คะแนน

ตามลาดบ ตอมานกเรยนทขาดสอบ 2 คน มาสอบไดคะแนน 80 และ 82 คะแนน ตามลาดบ

หาคาเฉลยเลขคณตและสวนเบยงเบนมาตรฐานของนกเรยนทงหอง

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ให xmax แทนคะแนนสงสด และ xmin แทนคะแนนตาสด

จะได xmax - X = 42 ……➊ X - xmin = 34 ……➋➊ + ➋ จะได xmax - xmin = 76

ดงนน พสยของการสอบครงนเทากบ 76 คะแนน

จากสมบต Σ xi = nX

จะได Σ xiเกา = 40(60) = 2,400

ดงนน Σ xiใหม = 2,400 + 80 + 82 = 2,562

นนคอ Xใหม = 2,56242

= 61

จาก sเกา =

n

i=1 nเกา - 1

Σ xi2เกา - nX 2เกา

2 =

n

i=1 40 - 1

Σ xi2เกา - (40)(60)

2

Σ xi2เกา

= 144,156

ดงนน Σ xi2ใหม = 144,156 + 802 + 822 = 157,280

นนคอ sใหม = 42 - 1157280 - (42)(61)2 = 4.93

n

i=1n

i=1

n

i=1

n

i=1

n

i=1

คณตศาสตร เลม 5 103

Page 104: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

19. คาเฉลยเลขคณตและสวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมลทเปนประชากรขนาด 20 รายการ

ชดหนงเปน 12 และ 4 ตามลาดบ ภายหลงพบวามการบนทกขอมลรายการหนงผดพลาด

โดย 12 บนทกเปน 8 หาคาเฉลยเลขคณตและสวนเบยงเบนมาตรฐานทถกตอง

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

20. ขอมลชดหนงม 50 จานวน มคาเฉลยเลขคณตและความแปรปรวนเปน 10 และ 16 ตามลาดบ

แตภายหลงพบวาไดอานขอมลผดไป 3 จานวน คอ 0.1, 0.2 และ 0.3 เปน 10, 20 และ 30

ตามลาดบ หาความแปรปรวนทถกตอง

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

จะได Σ xiเกา = 20(12) = 240

ดงนน Σ xiใหม = 240 - 8 + 12 = 244 นนคอ μใหม = 12.2

จาก σเกา =

n

i=1 N

Σ xi2เกา - μ2 จะได 4 =

n

i=1 20

Σ xi2เกา - 122

Σ xi2เกา

= 3,200

ดงนน Σ xi2ใหม = 3,200 - 82 + 122 = 3,280

นนคอ σใหม = 203,280 - (12.2)2 = 3.89

n

i=1

n

i=1

n

i=1

n

i=1

จะได Σ xiเกา = 50(10) = 500

ดงนน Σ xiใหม = 500 - 10 - 20 - 30 + 0.1 + 0.2 + 0.3 = 440.6

นนคอ Xใหม = 440.650

= 8.812

จาก s2เกา =

n

i=1 nเกา - 1

Σ xi2เกา - nX 2เกา จะได 10 =

n

i=1

50 - 1

Σ xi2เกา - 50(10)

2

Σ xi2เกา

= 5,490

ดงนน Σ xi2ใหม = 5,490 - 102 - 202 - 302 + 0.12 + 0.22 + 0.32

= 4,090.14

นนคอ s2ใหม = 50 - 1

4090.14 - 50(8.812)2 = 4.24

n

i=1

n

i=1

n

i=1

n

i=1

104 คณตศาสตร เลม 5

Page 105: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

21. ขอมลประชากรในหมบานแหงหนงม 100 ครวเรอน คานวณหาคาเฉลยเลขคณตไดเทากบ 8

สวนเบยงเบนมาตรฐานเทากบ 2 แตเมอตรวจสอบขอมลดงกลาวใหม พบวาบนทกขอมลผด

จาก 3 เปน 4 และจาก 1 เปน 2 หาคาเฉลยเลขคณตและสวนเบยงเบนมาตรฐานทถกตอง

ของขอมลชดน

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

โจทย N = 100, μ = 8, σ = 2

จะไดวา μเกา = Σ xiเกา

N

N

i=1

ดงนน Σ xiเกา = Nμเกา = 100 × 8 = 800

Σ xiใหม = 800 - (4 + 2) + (3 + 1) = 798

และจาก σ2 = Σ xi

2เกา

N

N

i=1 - μ2

Σ xi2เกา = N(μ2 + σ2) = 100(64 + 4) = 6,800

Σ xi2ใหม = 6,800 - (42 + 22) + (32 + 12)

= 6,800 - 20 + 10 = 6,790

ดงนน คาเฉลยเลขคณตทถกตอง คอ Σ xi

N

N

i=1 = 798100

= 7.98

และสวนเบยงเบนมาตรฐาน คอ

n

i=1 N

Σ xi2ใหม - μ2

ใหม = 1006,790 - (7.98)2

= 67.90 - 63.68

= 4.22

≈ 2.05

n

i=1

n

i=1

n

i=1

n

i=1

คณตศาสตร เลม 5 105

Page 106: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. กาหนดตารางแจกแจงความถแสดงความสงของนกเรยนในโรงเรยนแหงหนง เปนดงน

ขอใดตอไปนถกตอง

ความสง (ซม.) จานวนนกเรยน (คน)

120 - 129 10

130 - 139 20

140 - 149 40

150 - 159 50

160 - 169 30

1. ฐานนยมของความสงมคานอยกวา 149 เซนตเมตร

2. มธยฐานของความสงมคานอยกวา 145 เซนตเมตร

3. เปอรเซนไทลท 20 ของความสงมคามากกวา 146 เซนตเมตร

4. ควอรไทลท 3 ของความสงมคามากกวา 150 เซนตเมตร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4. ควอรไทลท 3 ของความสงมคามากกวา 150 เซนตเมตร 4 ควอรไทลท 3 ของความสงมคามากกวา 150 เซนตเมตรฉบบเฉลย

แนวคด ความสง f F

120 - 129 10 10

130 - 139 20 30

140 - 149 40 70

150 - 159 50 120

160 - 169 30 150

1. อนตรภาคชนทมความถสงสด คอ 150 - 159 นนคอ ฐานนยม มากกวา 149

2. ตาแหนงมธยฐาน คอ N2 = 150

2 = 75

แสดงวามธยฐานอยในอนตรภาคชน 150 - 159 นนคอ มธยฐาน มากกวา 145

3. ตาแหนง P20 คอ Nr100

= 150 × 20100

= 30

ตาแหนง P20 อยในอนตรภาคชน 130 - 139

แตตาแหนงของ P20 เทากบความถสะสมชนกอน P20

นนคอ P20 = ขอบบนของอนตรภาคชน 130 - 139 = 139.5

4. ตาแหนงควอรไทลท 3 คอ Nr4 = 150 × 3

4 = 112.5

แสดงวา ควอรไทลท 3 อยในอนตรภาคชน 150 - 159 นนคอ Q3 มากกวา 150

Test for U

106 คณตศาสตร เลม 5

Page 107: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. ถา 20, x2, x3, …, x25 เปนขอมลทเรยงจากคานอยไปมาก และเปนลาดบเลขคณตและควอรไทล

ทหนงของขอมลชดนเทากบ 31 แลวสวนเบยงเบนเฉลยของขอมลชดนเทากบเทาใด

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฉบบเฉลย

แนวคด จากโจทย Q1 = 31

ตาแหนงของ Q1 = (N + 1)r

4 = (25 + 1)(1)

4 = 6.5

จะได Q1 = x6 + x7

2 แสดงวา x6 + x7

2 = 31

x6 + x7 = 62

จากขอมลเรยงกนเปนลาดบเลขคณต จะได

(x1 + 5d) + (x1 + 6d) = 62

2x1 + 11d = 62

เนองจาก x1 = 20 จะได

2(20) + 11d = 62

d = 2

นนคอ ขอมลชดน คอ 20, 22, 24, …, 68

คาเฉลยเลขคณตของขอมลชดน คอ

X = Σ xin

n

i=1

= 20 + 22 + 24 + ... + 6825

= 44

ดงนน สวนเบยงเบนเฉลยเทากบ Σ �xi - X�

n

n

i=1 = Σ �xi - 44�

n

n

i=1

= 24 + 22 + 20 + ... + 20 + 22 + 2425

= 12.48

Test for U

คณตศาสตร เลม 5 107

Page 108: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

การวดการกระจายสมพทธ การวดการกระจายสมพทธ คอ การวดการกระจายของขอมลทมากกวา 1 ชด โดยใช

อตราสวนของคาทไดจากการวดการกระจายสมบรณกบคากลางของขอมลนนๆ เพอใชในการ

เปรยบเทยบการกระจายของขอมลเหลานน มอย 4 ชนด คอ

1) สมประสทธของพสย (C.R.)

2) สมประสทธของสวนเบยงเบนควอรไทล (C.Q)

3) สมประสทธของสวนเบยงเบนเฉลย (C.A)

ก. กรณของตวอยาง

C.A. = M.D.X

ข. กรณของประชากร

C.A. = M.D.μ

4) สมประสทธของความแปรผน (C.V.)

ก. กรณของตวอยาง

C.V. = s

ข. กรณของประชากร

C.V. = σμ

C.Q. = Q3 - Q1Q3 + Q1

C.R. = xmax - xminxmax + xmin

การวดการกระจายสมพทธ คาทคานวณไดจะไมมหนวย ซงแตกตางจากการวดการกระจาย

สมบรณซงมหนวย และบางครงอาจแสดงรปรอยละทาโดยการปรบเทยบคากลางใหเปน 100 กได

Note

X

ฉบบเฉลย

108 คณตศาสตร เลม 5

Page 109: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ความสมพนธระหวางการแจกแจงความถ คากลาง และการกระจายของขอมล จากขอมลทมการแจกแจงความถ ถานาขอมลเหลานมาเขยนใหเปนเสนโคงของความถ

จะเหนวาโดยทวๆ ไป แบงเปน 3 ลกษณะ ดงน

1. เสนโคงปกต หรอเสนโคงรประฆงควา (Normal curve or bell-shaped Curve)

ซงมความสมพนธกบคากลางของขอมล คอ

คาเฉลยเลขคณต = มธยฐาน = ฐานนยม

2. เสนโคงเบลาดทางขวา หรอเสนโคงเบทางบวก (Positively Curve) ซงมความสมพนธ

กบคากลางของขอมล คอ

ฐานนยม < มธยฐาน < คาเฉลยเลขคณต

3. เสนโคงเบลาดทางซาย หรอเสนโคงเบทางลบ (Negatively Curve) ซงมความสมพนธ

กบคากลางของขอมล คอ

คาเฉลยเลขคณต < มธยฐาน < ฐานนยม

X = Med = MoxO

f โคงปกต

X < Med < MoxO

f โคงเบซาย

Mo < Med < XxO

f โคงเบขวา

X = Med = MoxO

f โคงปกต

X < Med < MoxO

f โคงเบซาย

Mo < Med < XxO

f โคงเบขวา

X = Med = MoxO

f โคงปกต

X < Med < MoxO

f โคงเบซาย

Mo < Med < XxO

f โคงเบขวา

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 109

Page 110: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

เสนโคงของความถทพบเสมอๆ ไมวาจะเปนขอมลทางดานประชากร เกษตร สงคม

เศรษฐกจ หรอวทยาศาสตร สวนใหญมกเปนขอมลทเกดขนหรอเปนไปตามธรรมชาต และจะม

เสนโคงความถเปนรปเสนโคงปกต เชน ขอมลเกยวกบนาหนก สวนสง ราคา และผลผลตทาง

การเกษตร

ลกษณะของเสนโคงปกต

เสนโคงปกตมความโดงมากหรอนอยขนอยกบการกระจายของขอมล ดงน

ถาขอมลมการกระจายมาก เสนโคงปกตจะโดงนอย หรอคอนขางแบน

ถาขอมลมการกระจายนอย เสนโคงปกตจะโดงมากหรอคอนขางสง ดงรป

μ1 = μ2

ขอมลชดท 2 มการกระจายตวมาก

ขอมลชดท 1 มการกระจายตวนอย

จากรป

• μ1 = μ2

• σ1 < σ2

• ขอมลชดท 2 กระจายมากกวาขอมลชด 1

ฉบบเฉลย

110 คณตศาสตร เลม 5

Page 111: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

1. ตารางแสดงอายของบตรของสองครอบครวเปน ดงน

อายของบตรในครอบครวท 1 (ป) 8 6 5 3

อายของบตรในครอบครวท 2 (ป) 24 17 12 10 8

เปรยบเทยบการกระจายอายของบตรของสองครอบครว โดยใช

1) สมประสทธของพสย

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

2) สมประสทธของสวนเบยงเบนควอรไทล

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

จดประสงค นกเรยนสามารถเปรยบเทยบการกระจายของขอมลได

Exercise 1.5 B

ฉบบเฉลย

ครอบครวท 1 C.R1 = xmax - xminxmax + xmin

= 8 - 38 + 3

= 0.45

ครอบครวท 2 C.R2 = xmax - xminxmax + xmin

= 24 - 824 + 8

= 0.50

จะพบวา C.R2 > C.R1 แสดงวา อายของบตรในครอบครวท 2 มการกระจายตวมากกวา

อายของบตรในครอบครวท 1

ครอบครวท 1

หาตาแหนง Q1 = 1(4 + 1)

4 = 1.25 จะได Q1 = 3 + 0.25(2) = 3.5

หาตาแหนง Q3 = 3(4 + 1)

4 = 3.75 จะได Q3 = 6 + 0.75(2) = 7.5

ดงนน C.Q1 = Q3 - Q1Q3 + Q1

= 7.5 - 3.57.5 + 3.5

= 0.363

ครอบครวท 2

หาตาแหนง Q1 = 1(5 + 1)

4 = 1.5 จะได Q1 = 9 + 0.5(1) = 9.5

หาตาแหนง Q3 = 3(5 + 1)

4 = 4.5 จะได Q3 = 17 + 0.5(7) = 20.5

ดงนน C.Q2 = Q3 - Q1Q3 + Q1

= 20.5 - 9.520.5 + 9.5

= 0.366

จะพบวา C.Q2 > C.Q1 แสดงวา อายของบตรในครอบครวท 2 มการกระจายตวมากกวา

อายของบตรในครอบครวท 1

คณตศาสตร เลม 5 111

Page 112: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3) สมประสทธของสวนเบยงเบนเฉลย

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

4) สมประสทธของการแปรผนสาหรบประชากร

วธทา .......................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ครอบครวท 1 หา μ1 จาก μ1 = Σ xi

N

N

i=1 = 8 + 6 + 5 + 34

= 5.5

หา M.D1 จาก M.D1 = Σ �xi - μ�

N

N

i=1 = �8 - 5.5� + �6 - 5.5� + �5 - 5.5� + �3 - 5.5�4

= 1.5

ดงนน C.M1 = M.D.

μ = 1.55.5

= 0.27

ครอบครวท 2 หา μ2 จาก μ2 = Σ xi

N

N

i=1 = 8 + 10 + 12 + 17 + 245

= 14.2

หา M.D2 จาก M.D2 = Σ �xi - μ�

N

N

i=1

= �8 - 14.2� + �10 - 14.2� + �12 - 14.2� + �17 - 14.2� + �24 - 14.2�5

= 5.04

ดงนน C.M2 = M.D.

μ = 5.0414.2

= 0.35

จะพบวา C.M2 > C.M1 แสดงวา อายของบตรในครอบครวท 2 มการกระจายตวมากกวา

อายของบตรในครอบครวท 1

ครอบครวท 1 หา σ1 จาก σ1 =

N

i=1 N

Σ (xi - μ)2

= 4(8 - 5.5)2 + (6 - 5.5)2 + (5 - 5.5)2 + (3 - 5.5)2 = 1.8

ดงนน C.V1 = σμ = 1.8

5.5 = 0.33

ครอบครวท 2 หา σ2 จาก σ2 =

N

i=1 N

Σ (xi - μ)2

= 5(8 - 14.2)2 + (10 - 14.2)2 + (12 - 14.2)2 + (17 - 14.2)2 + (24 - 14.2)2

= 5.74

ดงนน C.V1 = σμ = 5.74

14.2 = 0.40

จะพบวา C.V2 > C.V1 แสดงวา อายของบตรในครอบครวท 2 มการกระจายตวมากกวา

อายของบตรในครอบครวท 1

112 คณตศาสตร เลม 5

Page 113: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

2. ถาราคาขาวเปลอกและขาวสารตอถงของรานคาขาว 6 ราน ในทองทแหงหนงเปน ดงน

ราคาขาวเปลอก (บาท) 75 74 72 77 78 71

ราคาขาวสาร (บาท) 112 114 117 115 120 116

หาสมประสทธของการแปรผนสาหรบประชากรและสมประสทธของพสยของราคาขาวเปลอก

และราคาขาวสาร และอธบายความหมายทได

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ราคาขาวเปลอก

หา μ1 จาก μ1 = Σ xi

N

N

i=1 = 75 + 74 + 72 + 77 + 78 + 716

= 74.5

หา σ1 จาก σ1 =

N

i=1 N

Σ (xi - μ)2 = 6

(75 - 74.5)2 + (74 - 74.5)2 + … + (71 - 74.5)2 = 2.5

ดงนน C.V1 = σμ = 2.5

74.5 = 0.03

ราคาขาวสาร

หา μ2 จาก μ2 = Σ xi

N

N

i=1 = 112 + 114 + 117 + 115 + 120 + 1166

= 115.67

หา σ2 จาก σ2 =

N

i=1 N

Σ (xi - μ)2

= 6(112 - 115.67)2 + (114 - 115.67)2 + … + (116 - 115.67)2 = 2.49

ดงนน C.V2 = σμ = 2.49

115.67 = 0.02

จะพบวา C.V1 > C.V2 แสดงวาราคาขาวเปลอกมการกระจายตวมากกวาราคาขาวสาร

ราคาขาวเปลอก C.R1 = xmax - xminxmax + xmin

= 78 - 7178 + 71

= 0.05

ราคาขาวสาร C.R2 = xmax - xminxmax + xmin

= 120 - 112120 + 112

= 0.03

จะพบวา C.R1 > C.R2 แสดงวาราคาขาวเปลอกมการกระจายตวมากกวาราคาขาวสาร

นนคอ ไมวาจะใชสมประสทธของการแปรผนสาหรบประชากรหรอสมประสทธของพสย

กใหผลลพธการวดการกระจายสมพทธทเหมอนกน

คณตศาสตร เลม 5 113

Page 114: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

3. ในการเปรยบเทยบความเทยงตรงของ

ไมบรรทด 2 ชนด คอ A และ B ได

วดกบวตถมาตรฐานทมความยาว 50

มลลเมตร จานวน 8 ครง บนทกความยาว

ทอานได จากการใชไมบรรทดทง 2 ชนด

ดงตารางทกาหนด

จากขอมลดงกลาว ไมบรรทดชนดใด

มความคลาดเคลอนนอยกวา

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

การวดครงทความยาวทอานได (มลลเมตร) จาก

ไมบรรทด A ไมบรรทด B

12345678

5148474951485047

5047495048504948

ฉบบเฉลย

ในทนเลอกใชสมประสทธของการแปรผนสาหรบประชากรมาเปรยบเทยบ

หา μ1 จาก μ1 = Σ xi

N

N

i=1 = 51 + 48 + … + 478

= 48.875

หา μ2 จาก μ2 = Σ xi

N

N

i=1 = 50 + 47 + … + 488

= 48.875

จะได

จาก σ1 =

N

i=1 N

Σ (xi - μ)2 = 8

18.91 = 1.54

ดงนน C.V1 = σμ = 1.54

48.875 = 0.03

จาก σ2 =

N

i=1 N

Σ (xi - μ)2= 8

8.91 = 1.06

ดงนน C.V2 = σμ = 1.06

48.875 = 0.02

xA (xA - μA)2 xB (xB - μB)

2

5148474951485047

4.520.773.520.024.520.771.273.52

5047495048504948

1.273.520.021.270.771.270.020.77

391 18.91 391 8.91

จะพบวา C.V1 > C.V2 แสดงวาความยาวทวดไดจากไมบรรทด A มการกระจายตวมากกวา

ความยาวทวดไดจากไมบรรทด B

นนคอ ไมบรรทด B มความคลาดเคลอนนอยกวาไมบรรทด A

114 คณตศาสตร เลม 5

Page 115: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

4. ในการทดสอบระดบไอควของนกเรยน 4 หอง มสวนเบยงเบนเฉลยและคาเฉลยของระดบไอคว

ดงน

หอง หองนก หองชาง หองหน หองลง

สวนเบยงเบนเฉลย 4.25 3.25 3.50 2.75

คาเฉลยของระดบไอคว 115 110 108 112

ถานกเรยนเปนอาจารยทตองเลอกสอนนกเรยน 1 ใน 4 หองน โดยมขอตกลงวาจะสอนหอง

ทมระดบไอควไลเลยกนเทานน นกเรยนจะตองเลอกสอนนกเรยนหองใด

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

5. ความแปรปรวนของนาหนกในรอบ 8 ป ซงมนาหนก 60, 40, 60, 60, 50, 70, 80 และ 80

กโลกรม ตามลาดบเทากบกกโลกรม2

วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

6. ขอมลชดหนงมความแปรปรวน 5 + 24 สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมลชดนเทากบเทาไร วธทา ..................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................................

ฉบบเฉลย

ในทนเลอกใชสมประสทธของสวนเบยงเบนเฉลยมาเปรยบเทยบ

หองนก C.M1 = M.D.μ = 4.25

115 = 0.037

หองชาง C.M2 = 3.25110

= 0.0295

หองหน C.M3 = 3.5108

= 0.032

หองลง C.M4 = 2.75112

= 0.0246

จะพบวา C.M1 > C.M3 > C.M2 > C.M4 แสดงวาระดบไอควของนกเรยนหองนก

มการกระจายตวมากทสด รองลงมาเปนหองหน หองชาง และหองลง ตามลาดบ

นนคอ ถานกเรยนเปนอาจารยจะเลอกสอนนกเรยนหองลง เพราะมระดบไอควใกลเคยงกน

มากทสด

หาความแปรปรวนของประชากรจาก σ2 =

N

i=1 N

Σ (xi - μ)2

μ = Σ xi

N

N

i=1 = 60 + 40 + 60 + … + 808

= 60.5

σ2 = (60 - 60.5)2 + (40 - 60.5)2 + (60 - 60.5)2 + … + (80 - 60.5)2

8 = 172.75

ดงนน ความแปรปรวนของนาหนกในรอบ 8 ป เทากบ 172.75 กโลกรม2

ความแปรปรวน = 5 + 24

= 5 + 2 6 = ( 2 + 3)2

ดงนน สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมลชดนเทากบ 2 + 3

คณตศาสตร เลม 5 115

Page 116: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

Unit Testแบบทดสอบหนวยการเรยนรท

ตอนท 1 เลอกคาตอบทถกทสด

1

ฉบบเฉลย

1. แผนภาพตน - ใบ ตอไปน มคาเฉลยเลขคณตเทากบเทาใด

1 4 72 3 4 83 0 2 3 5 94 2 65 3

1. 28 2. 32 3. 36 4. 40

2. ตารางแจกแจงความถคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน ชน ม.6 หองหนง คะแนน

เตม 50 คะแนน เปนดงน

คะแนน 0 - 10 11 - 20 21 - 30 31 - 40 41 - 50

ความถ 4 7 12 5 2

ขอสรปทเกยวกบขอมลชดน ขอใดถกตอง

1. คาเฉลยเลขคณต เทากบ 23 2. มธยฐานเทากบ 28.33

3. ฐานนยมเทากบ 24.67 4. ขอบบนของอนตรภาคชนท 3 เทากบ 20.5

3. กาหนดให Σ (xi - 1)(6yi + 3) = 45 , Σ xi = 6 และ Σ yi = - 2 หา Σ xiyi

1. -9 2. -5 3. 5 4. 9

4. ขอมลชดหนงม 50 จานวน ทกจานวนเปนจานวนบวก

กาหนดให Σ (xi - X )2 = 50 และ Σ xi

2 = 1,250 แลว X เทากบเทาใด

1. 24 2. 24 3. 12 4. 12

5. โรงเรยนมธยมแหงหนง มนกเรยนหญง 38 ของจานวนนกเรยนทงหมด และคานวณคาเฉลย

นาหนกของนกเรยนทงหมดเทากบ 53 กโลกรม ถานาหนกเฉลยของนกเรยนหญงเทากบ

48 กโลกรม นาหนกเฉลยของนกเรยนชายเทากบเทาไร

1. 56 2. 58 3. 62 4. 64

6. คาเฉลยฮารมอนกของขอมล 4, 5, 8, 12 เทากบขอใด

1. 6.28 2. 6.18 3. 6.08 4. 5.98

1. 28 2. 32 3. 36 4. 40 1. 28 2. 32 3. 36 4. 40

3. ฐานนยมเทากบ 24.67 4. ขอบบนของอนตรภาคชนท 3 เทากบ 20.5 3. ฐานนยมเทากบ 24.67 4. ขอบบนของอนตรภาคชนท 3 เทากบ 20.55

i=1

5

i=1

5

i=1

5

i=1

1. -9 2. -5 3. 5 4. 9 1. -9 2. -5 3. 5 4. 9

50

i=1

50

i=1

1. 24 2. 1. 24 2.

1. 56 2. 58 3. 62 4. 64 1. 56 2. 58 3. 62 4. 64

1. 6.28 2. 6.18 3. 6.08 4. 5.98 1. 6.28 2. 6.18 3. 6.08 4. 5.98

116 คณตศาสตร เลม 5

Page 117: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

7. ตารางแจกแจงความถคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน ชน ม.6 โรงเรยนแหงหนง

เปนดงน

คะแนน 0 - 10 11 - 20 21 - 30 31 - 40 41 - 50

ความถสะสม 5 13 a 36 40

ถามธยฐานของคะแนนสอบเทากบ 25.5 คะแนน คาของ a เทากบเทาใด

1. 14 2. 17 3. 27 4. 31

8. ตารางแจกแจงความถคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยน 50 คน เปนดงน

คะแนน 20 - 29 30 - 39 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

ความถ 1 5 5 10 15 8 5 1

เปอรเซนตไทลท 60 เทากบเทาไร

1. 62.5 2. 63.5 3. 64. 5 4. 65.5

9. ตารางแจกแจงความถทกาหนดให คะแนน 59.38 ตรงกบเปอรเซนตไทลทเทาไร

คะแนน 21 - 30 31 - 40 41 - 50 51 - 60 61 - 70 71 - 80

ความถสะสม 16 32 45 70 120 140

1. 48 2. 50 3. 52 4. 55

10. ตารางแสดงคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยนชน ม.6/1 เปนดงน

คะแนน 30 - 39 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

จานวนนกเรยน (คน) 1 4 10 22 45 30 8

ถานกเรยนกลมทไดคะแนนสงสดและนกเรยนกลมทไดคะแนนตาสดคดเปน 15% และ 80%

ของนกเรยนทงระดบ ตามลาดบ ให a แทนคะแนนตาสดของนกเรยนกลมทไดคะแนนสงสด

และ b แทนคะแนนสงสดของนกเรยนกลมทไดคะแนนตาสด คาของ a, b เทากบเทาไร

1. 83.24, 62.67

2. 84.88, 61.23

3. 84.88, 62.67

4. 84.17, 60.86

1. 14 2. 17 3. 27 4. 31 1. 14 2. 17 3. 27 4. 31

1. 62.5 2. 63.5 3. 64. 5 4. 65.5 1. 62.5 2. 63.5 3. 64. 5 4. 65.5

1. 48 2. 50 3. 52 4. 55 1. 48 2. 50 3. 52 4. 55

4. 84.17, 60.86 4. 84.17, 60.86

คณตศาสตร เลม 5 117

Page 118: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

11. ตารางแจกแจงความถของคะแนนสอบวชาฟสกสของนกเรยนหองหนงเปนดงน

คะแนน 10 - 19 20 - 29 30 - 39 40 - 49 50 - 59 60 - 69 70 - 79 80 - 89 90 - 99

จานวนนกเรยน (คน) 3 8 14 8 11 6 10 8 12

ณฐนนทสอบไดคะแนนในตาแหนงควอรไทลท 3 สวนพสชฐสอบไดในตาแหนงเดไซลท 8

พสชฐสอบไดคะแนนมากกวาณฐนนทกคะแนน

1. 1.25 คะแนน 2. 1.50 คะแนน 3. 2.50 คะแนน 4. 5.00 คะแนน

12. กาหนดขอมล 2 ชด ดงน

ขอมล A 2, 3, 7, 4, 6, 8 ขอมล B 4, 1, 5, 6, 9, 5

พจารณาวาขอความทสรปเกยวกบขอมล A และขอมล B ขอใดถกตอง

1. คาเฉลยเทากน สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมล B มากกวาขอมล A

2. คาเฉลยเทากน สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมล A มากกวาขอมล B

3. คาเฉลยไมเทากน สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมล B มากกวาขอมล A

4. คาเฉลยไมเทากน สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมล A มากกวาขอมล B

13. ขอมลชดหนงม 50 จานวน มคาเฉลยเลขคณตเทากบ 30 คาความแปรปรวนเทากบ 36

เมอตรวจสอบขอมลใหม พบวาอานขอมลผดไป 2 คา คอ จาก 1 เปน 9 และจาก 4

เปน 6 คาความแปรปรวนทถกตองคอขอใด

1. 44.39 2. 45.96 3. 46.17 4. 46.32

14. ขอมลชดหนงม 6 จานวน มคาฐานนยมเทากบ 12 มธยฐานเทากบ 20 คาเฉลยเลขคณต

เทากบ 21 พสยเทากบ 22 กาหนดใหขอมลตวท 3 ทเรยงจากขอมลทมคานอยทสด

เทากบ 15 คาความแปรปรวนเทากบเทาใด

1. 69 2. 72 3. 75 4. 84

15. ให xi แทนคะแนนสอบวชาชววทยาของนกเรยนคนท i เมอ i = 1, 2, 3, …, 50 ทม

คะแนนเตม 100 คะแนน คาเฉลยเลขคณต ฐานนยม และมธยฐานเทากบ 60, 50 และ 40

ตามลาดบ ขอใดตอไปนถกตอง

1. Σ �xi - 60� มคานอยทสด

2. Σ �xi - 50� มคานอยทสด

3. Σ �xi - 40� มคานอยทสด

4. Σ (xi - 60)2 มคานอยทสด

1. 1.25 คะแนน 2. 1.50 คะแนน 3. 2.50 คะแนน 4. 5.00 คะแนน 1. 1.25 คะแนน 2. 1.50 คะแนน 3. 2.50 คะแนน 4. 5.00 คะแนน

1. คาเฉลยเทากน สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมล B มากกวาขอมล A 1. คาเฉลยเทากน สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมล B มากกวาขอมล A

1. 44.39 2. 45.96 3. 46.17 4. 46.32 1. 44.39 2. 45.96 3. 46.17 4. 46.32

1. 69 2. 72 3. 75 4. 84 1. 69 2. 72 3. 75 4. 84

50

i=150

i=1

3. 3.50

i=150

i=1

118 คณตศาสตร เลม 5

Page 119: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

16. ขอมลชดหนงมสมประสทธพสยเทากบ 0.45 ขอมลทมคามากทสดมคา 58 หาคาของขอมล

ทมคานอยทสด

1. 22 2. 24

3. 26 4. 28

17. ขอมล 2 ชด ไดแก ขอมลชด A : 15, 20, 30, 45, 50

ขอมลชด B : 10, 20, 30, 50, 60

พจารณาขอสรปตอไปน

(1) สมประสทธของสวนเบยงเบนเฉลยของขอมลชด A มากกวาขอมลชด B

(2) สมประสทธของการแปรผนของขอมลชด B นอยกวาขอมลชด A

ขอใดถกตอง

1. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ถก

2. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ผด

3. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ถก

4. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ผด

18. ตารางแสดงขอมลคะแนนสอบวชาวทยาศาสตรของนกเรยน ชน ม.6/1 และ ม.6/2 เปนดงน

นกเรยนชน ม.6/1 นกเรยนชน ม.6/2

คาเฉลยเลขคณต 85 90

สวนเบยงเบนมาตรฐาน 15 18

เมอเปรยบเทยบการกระจายของคะแนนสอบวชาวทยาศาสตร ขอใดตอไปนถกตอง

1. คะแนนสอบวชาวทยาศาสตรของนกเรยน ชน ม.6/1 มการกระจายนอยกวา ม.6/2

2. คะแนนสอบวชาวทยาศาสตรของนกเรยน ชน ม.6/1 มการกระจายมากกวา ม.6/2

3. คะแนนสอบวชาวทยาศาสตรของนกเรยน ชน ม.6/1 มการกระจายเทากบ ม.6/2

4. จากขอมลไมสามารถเปรยบเทยบการกระจายได

19. ขอมลชดหนงมสวนเบยงเบนควอรไทลเทากบ 32 คะแนน และสมประสทธของสวนเบยงเบน

ควอรไทลเทากบ 12 ถาโอและเอมลาดบคะแนนอยทตาแหนงเปอรเซนตไทลท 25 และ 75

ตามลาดบ ทงสองมคะแนนรวมกนกคะแนน

1. 128 คะแนน 2. 96 คะแนน

3. 64 คะแนน 4. 48 คะแนน

1. 22 2. 24 1. 22 2. 24

4. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ผด 4. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ผด

1. คะแนนสอบวชาวทยาศาสตรของนกเรยน ชน ม.6/1 มการกระจายนอยกวา ม.6/2 1. คะแนนสอบวชาวทยาศาสตรของนกเรยน ชน ม.6/1 มการกระจายนอยกวา ม.6/2

1. 128 คะแนน 2. 96 คะแนน 1. 128 คะแนน 2. 96 คะแนน

คณตศาสตร เลม 5 119

Page 120: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

20. พจารณาขอมลตอไปน ซงเรยงลาดบจากนอยไปมาก

5 10 x 18 20 23 25 27 y 37 46

ถาควอรไทลท 1 มคาเทากบ 12 คาเฉลยเลขคณตเทากบ 23 แลวสวนเบยงเบนควอรไทล

และสวนเบยงเบนเฉลยเทากบเทาใด

1. 0.19, 8.11

2. 0.18, 9.09

3. 9, 8.11

4. 9, 9.09

21. ตารางแสดงขอมล 2 กลม ทมคาเฉลยเลขคณตและสวนเบยงเบนมาตรฐาน ดงน

ขอมลกลมท 1 ขอมลกลมท 2 ขอมลรวมของกลมท 1, 2

คาเฉลยเลขคณต 20 x 22.5

สวนเบยงเบนมาตรฐาน y 4 5.5

จานวนขอมล 15 25 40

คา x และ y เทากบขอใด

1. 26, 6 2. 26, 8

3. 24, 7 4. 24, 6

22. กาหนดขอมลตอไปน 4, 9, 16, 22, 39 ถา a และ b ทาให Σ (xi - a)2

และ Σ �xi - b� มคานอยทสด คาของ a และ b เทากบขอใด

1. 20, 16

2. 16, 20

3. 18, 16

4. 16, 18

23. ในการเกบคะแนนของนกเรยน 3 คน ไดคาเฉลยเลขคณตเทากบ 22 มธยฐานเทากบ 22

และพสยเทากบ 4 สมประสทธการแปรผนเทากบเทาไร

1. 633 2. 233

3. 233 4. 833

4. 9, 9.09 4. 9, 9.09

3. 24, 7 4. 24, 6 3. 24, 7 4. 24, 6N

i=1N

i=1

3. 18, 16 3. 18, 16

3. 3.

120 คณตศาสตร เลม 5

Page 121: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

24. ให xi แทนขอมลชดท 1, σ12 แทนความแปรปรวนของขอมลชดท 1

Yi แทนขอมลชดท 2, σ22 แทนความแปรปรวนของขอมลชดท 2

และ Σ xi2= 88, σ1

2= 2, Σ Yi2= 152, σ2

2 = 3

ขอใดถกตอง

1. คาเฉลยของขอมลชดท 1 มากกวาขอมลชดท 2

และการกระจายของขอมลชดท 1 มากกวาขอมลชดท 2

2. คาเฉลยของขอมลชดท 1 นอยกวาขอมลชดท 2

และการกระจายของขอมลชดท 1 มากกวาขอมลชดท 2

3. คาเฉลยของขอมลชดท 1 นอยกวาขอมลชดท 2

และการกระจายของขอมลชดท 1 นอยกวาขอมลชดท 2

4. คาเฉลยของขอมลชดท 1 มากกวาขอมลชดท 2

และการกระจายของขอมลชดท 1 นอยกวาขอมลชดท 2

25. กาหนดขอมลตอไปน 23, 35, 18, 20, 27, 25, 41 พจารณาวาขอใดไมถกตอง

1. สมประสทธของพสยเทากบ 0.39

2. สมประสทธของสวนเบยงเบนเฉลยเทากบ 0.27

3. สมประสทธของสวนเบยงเบนเฉลยเทากบ 0.23

4. สมประสทธของการแปรผนเทากบ 0.82

26. ขอมล 2 ชด ไดแก ขอมล A 5 8 9 11 12

ขอมล B 20 25 27 28 30

อตราสวนของสมประสทธของสวนเบยงเบนเฉลยของขอมล A ตอขอมล B เทากบเทาไร

1. 63130 2. 130

63

3. 16033 4. 33

160

27. ขอมลชดหนงมสมประสทธของการแปรผนเทากบ 0.75 มคาความแปรปรวนเทากบ 9

และผลรวมของขอมลแตละตวยกกาลงสองเทากบ 1,000 จานวนขอมลทงหมดเทากบเทาใด

1. 30 2. 40

3. 50 4. 60

8

i=1

8

i=1

3. คาเฉลยของขอมลชดท 1 นอยกวาขอมลชดท 2 3. คาเฉลยของขอมลชดท 1 นอยกวาขอมลชดท 2

4. สมประสทธของการแปรผนเทากบ 0.82 4. สมประสทธของการแปรผนเทากบ 0.82

2. 2.

1. 30 2. 40 1. 30 2. 40

คณตศาสตร เลม 5 121

Page 122: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

28. ตารางแจกแจงความถคะแนนสอบของนกเรยน ชน ม.6 ของโรงเรยนแหงหนงเปนดงน

คะแนน 0 - 9 10 - 19 20 - 29 30 - 39 40 - 49

ความถ (คน) 2 8 14 12 4

สมประสทธของสวนเบยงเบนควอรไทลของขอมลชดนเทากบเทาไร

1. 0.28 2. 0.34

3. 0.56 4. 0.64

29. โรงเรยนแหงหนงมนกเรยนชนมธยมศกษาปท 3 ทงหมด 4 หอง ทาการสอบวชาคณตศาสตร

คะแนนเตม 50 คะแนน สามารถแจกแจงขอมลได ดงน

หอง ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4

คาเฉลยเลขคณต 35 38 32 28

สวนเบยงเบนมาตรฐาน 7 8 5 6

คะแนนสอบหองใดมการกระจายของคะแนนนอยทสด

1. ม.3/1 2. ม.3/2

3. ม.3/3 4. ม.3/4

30. ขอมลชดหนงมจานวน 8 ตว มคาเฉลยเลขคณตเทากบ 5 ถา Σ (xi - 5)2 = 160

แลวสมประสทธของการแปรผนเทากบเทาใด

1. 55 2. 2 55

3. 3 55 4. 4 55

1. 0.28 2. 0.34 1. 0.28 2. 0.34

3. ม.3/3 4. ม.3/4 3. ม.3/3 4. ม.3/48

i=1

2. 2.

122 คณตศาสตร เลม 5

Page 123: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ตอนท 2 แสดงวธทา

1. ตารางแจกแจงความถของคะแนนสอบของนกเรยนกลมหนง ทกอนตรภาคชนมความกวาง

10 คะแนน มธยฐานของคะแนนสอบเทากบ 57 คะแนน อยในอนตรภาคชน 50-59

ถานกเรยนทสอบไดคะแนนนอยกวา 49.5 คะแนน มจานวน 12 คน และมนกเรยนทได

คะแนนมากกวา 59.5 คะแนน มจานวน 20 คน นกเรยนกลมนมจานวนกคน

2. นกเรยนหองหนงสอบวชาคณตศาสตรไดคะแนนเฉลยเลขคณตเทากบ 40 คะแนน ถานกเรยน

ชายสอบไดคะแนนเฉลยเลขคณต 35 คะแนน และนกเรยนหญงสอบไดคะแนนเฉลยเลขคณต

50 คะแนน อตราสวนของจานวนนกเรยนชายตอนกเรยนหญงเปนเทาไร

3. จากการสารวจนาหนกของนกเรยนกลมหนงจานวน 4 คน ม 2 คน นาหนกเทากนแตนอยกวา

อก 2 คนทเหลอ ถาฐานนยม มธยฐาน และพสยของนาหนกของนกเรยน 4 คน คอ 45, 46

และ 6 กโลกรม ตามลาดบ แลวความแปรปรวนของนาหนกของนกเรยน 4 คนนเทากบเทาใด

4. คาเฉลยเลขคณตของคะแนนสอบของนกเรยนกลมหนงเทากบ 72 คะแนน ความแปรปรวน

(ประชากร) เทากบ 600 คะแนน2 ถามนกเรยนเพมอกหนงคน ซงสอบได 60 คะแนน ทาให

คาเฉลยเปลยนไปเปน 70 คะแนน ความแปรปรวนของขอมลชดใหมเทากบเทาใด

5. ในการสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยนหองหนง ถานกเรยนคนหนงในหองนสอบได 55

คะแนน เมอนามาลบกบคาเฉลยเลขคณตจะเทากบ 12 เทาของสวนเบยงเบนมาตรฐาน

และสมประสทธของการแปรผนของคะแนนนกเรยนหองนเทากบ 20% คะแนนเฉลยของ

นกเรยนหองนเทากบเทาใด

ฉบบเฉลย

คณตศาสตร เลม 5 123

Page 124: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

แบบทดสอบ

พสจนศกยภาพChallenge Test

ฉบบเฉลย

1. กาหนดขอมลชดหนง ดงน 3, 5, 2, 8, 7, 4, 9, 6, 10, 6 พจารณาขอใดถกตอง

1. คาเฉลยเลขคณตมากกวาฐานนยม

2. ฐานนยมมากกวามธยฐาน

3. คาเฉลยเลขคณตเทากบมธยฐาน

4. มธยฐานมากกวาคาเฉลยเลขคณต

2. ขอมลชดหนงเรยงจากนอยไปมากได ดงน 2, 5, a, b, 8, 9 ถาคาเฉลยเลขคณตเทากบ

มธยฐานและสวนเบยงเบนเฉลยของขอมลชดนเทากบ 2 แลวคาของ [b + ab - a ]2 เทากบ

เทาใด

1. 24 2. 36

3. 48 4. 60

3. ตารางแจกแจงความถคะแนนสอบวชาคณตศาสตรของนกเรยนชน ม.6 เปนดงน

คะแนน 0 - 10 11 - 20 21 - 30 31 - 40 41 - 50

จานวนนกเรยน (คน) 10 20 30 20 10

คาเฉลยเลขคณตของขอมลสามารถเขยนอยในรปจานวนคละไดดงน a bc คาของ (a + c - b)

เทากบเทาใด

1. 10 2. 20

3. 30 4. 40

4. กาหนดขอมล 10 จานวน ดงน 32 18 45 27 34 23 46 16 44 30

พจารณาขอความตอไปน

(1) ผลตางของควอรไทลท 3 และมธยฐาน เทากบ 8

(2) สมประสทธของสวนเบยงเบนควอรไทล เทากบ 0.31

ขอใดถกตอง

1. ขอ (1) และ ขอ (2) ถก

2. ขอ (1) ถก แต ขอ (2) ผด

3. ขอ (1) ผด แต ขอ (2) ถก

4. ขอ (1) และ ขอ (2) ผด

3. คาเฉลยเลขคณตเทากบมธยฐาน 3. คาเฉลยเลขคณตเทากบมธยฐาน

1. 24 2. 36 1. 24 2. 36

3. 30 4. 40 3. 30 4. 40

4. ขอ (1) และ ขอ (2) ผด 4. ขอ (1) และ ขอ (2) ผด

124 คณตศาสตร เลม 5

Page 125: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

5. ในการสอบวชาภาษาองกฤษคะแนนเตม 50 คะแนน มจานวนนกเรยนเขาสอบ 100 คน

ถานายยศกร เปนนกเรยนทเขาสอบคนหนง สอบไดคะแนน 48 คะแนน และมจานวนนกเรยน

ทสอบไดคะแนนนอยกวา 48 คะแนน อย 90 คน ถาจดอนตรภาคชนในตารางแจกแจงความถ

ใหแตละอนตรภาคชนเทาๆ กน โดยทนายยศกรอยในชวงอนตรภาคชน 46-50 มจานวน

นกเรยนทสอบไดคะแนนในชวงอนตรภาคชน 46-50 อยกคน

1. 4 คน 2. 8 คน

3. 10 คน 4. 20 คน

6. ตารางแจกแจงความถแสดงนาหนกของนกเรยนเปนกโลกรม ดงน

นาหนก (กโลกรม) 36 - 40 41 - 45 46 - 50 51 - 55 56 - 60

จานวนนกเรยน (คน) 6 10 12 8 4

คาเฉลยเลขคณต มธยฐาน ฐานนยม และสวนเบยงเบนควอรไทลเทากบเทาไร ตามลาดบ

1. 47.25, 47.17, 47.57 และ 4.625

2. 47.25, 47.17, 47.17 และ 4.625

3. 47.17, 47.25, 47.57 และ 4.265

4. 47.17, 47.25, 47.17 และ 4.265

7. นาขอมล 3 จานวน ทมคาตางกนและมผลรวมของขอมลเทากบ 111 ถาขอมลชดนมมธยฐาน

และสมประสทธของพสยเทากบ 39 และ 13 ตามลาดบ แลวสวนเบยงเบนมาตรฐานเทากบ

เทาใด

1. 5 2 2. 6 2

3. 7 2 4. 8 2

8. ขอมลชดหนงประกอบดวย x1, x2, x3, …, x10 โดยมสมบต ดงน Σ (xi - a)2 มคานอยสด

เมอ a = 9, Σ �xi - b� มคานอยสด เมอ b = 6 และ Σ (xi - 4)2 = 340

แลวพจารณาวาขอใดถกตอง

1. ขอมลชดนมคาเฉลยเลขคณตนอยกวามธยฐาน

2. ผลรวมของขอมลชดนเทากบ 60

3. สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมลชดนเทากบ 3

4. สมประสทธของการแปรผนของขอมลชดนเทากบ 0.5

3. 10 คน 4. 20 คน 3. 10 คน 4. 20 คน

2. 47.25, 47.17, 47.17 และ 4.625 2. 47.25, 47.17, 47.17 และ 4.625

3. 7 3. 710

i=110

i=1

10

i=1

3. สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมลชดนเทากบ 3 3. สวนเบยงเบนมาตรฐานของขอมลชดนเทากบ 3

คณตศาสตร เลม 5 125

Page 126: WordPress.com€¦ · Concept Map การวัดค ากลาง ของข อมูล การวัดการกระจาย ของข อมูล การวิ

ฉบบเฉลย

9. นกเรยนชนมธยมศกษาปท 6 จานวน 2 หอง สอบวชาคณตศาสตร คะแนนเตม 20 คะแนน

โดยนาคะแนนของนกเรยนแตละหอง หองละ 10 คน มาแสดงได ดงน

คะแนนนกเรยน ม.6 หอง 1 13 12 14 16 15 12 13 14 12 9

คะแนนนกเรยน ม.6 หอง 2 17 6 13 10 8 10 14 6 6 10

พจารณาขอความตอไปน

(1) ความสามารถทางคณตศาสตรของนกเรยน ชน ม.6 หอง 1 มความแตกตางนอยกวา

นกเรยน ชน ม.6 หอง 2

(2) สมประสทธของสวนเบยงเบนควอรไทลของนกเรยนชน ม.6 หอง 1 และนกเรยนชน

ม.6 หอง 2 เทากบ 0.086 และ 0.377 ตามลาดบ

ขอใดตอไปนถกตอง

1. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ถก

2. ขอ (1) ถก และ ขอ (2) ผด

3. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ถก

4. ขอ (1) ผด และ ขอ (2) ผด

10. กาหนดใหขอมลชดหนงมการแจกแจงแบบปกต ถาขอมลชดนมมธยฐานเทากบ 12

มสวนเบยงเบนมาตรฐานเทากบ 4 ถา Σ (xi - 5)2 = 1,625 จานวนขอมลเทากบเทาใด

1. 10 2. 15

3. 20 4. 25

1. 1.

N

i=1

3. 20 4. 25 3. 20 4. 25

126 คณตศาสตร เลม 5