Upload
others
View
0
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
01ทศวรรษที่ 1 พ.ศ. 2475-2485
ทศวรรษแห่งการก่อตั้ง
02ทศวรรษที่ 2พ.ศ. 2486-2495
รับรองวิทยฐานะ
03 ทศวรรษที่ 3 พ.ศ. 2496-2505
ก าเนิดอาคารมารีย-์อาคารมงฟอร์ต
04ทศวรรษท่ี 4พ.ศ. 2506-2515
เฟ่ืองฟูการกีฬา-พัฒนาดนตรี- ย้ายแผนกประถม
05 ทศวรรษที่ 5 พ.ศ. 2516-2525
ขยายแผนกประถม-เร่ิมสหศึกษา- สามัคคีนฤมิต
06ทศวรรษท่ี 6พ.ศ. 2526-2535
สู่มหิดลด้วยความภาคภูมิใจ
07 ทศวรรษที่ 7 พ.ศ. 2536-2545
ฉลอง 60 ปี
08ทศวรรษที่ 8พ.ศ. 2546-2555
พัฒนาจิต-พัฒนาคน-พัฒนาสถานท่ี
09 ทศวรรษที่ 9 พ.ศ. 2556-ปัจจุบัน
มงฟอร์ตสู่สากล
พ.ศ. 2475 ภราดาคณะเซนต์คาเบรยีลได้เปิดโรงเรยีนแห่งที่ 3 มีช่ือว่า “โรงเรียนมงฟอร์ตวทิยาลัย” เปิดการสอนครัง้แรกมีนักเรียนเพียง 22 คน โดยอาศัยเรือนไม้ข้างโบสถพ์ระหฤทัยเป็นห้องเรยีนชั่วคราว
พ.ศ. 2476 ย้ายมาเรยีนทีอ่าคารใหม่ เป็นอาคาร 2 ชัน้ 8 ห้องเรียน มีนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 116 คน
พ.ศ. 2476 ภราดาฮูเบิร์ต ย้ายจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล มาด ารงต าแหน่งอธกิารต่อจากภราดาซเิมออนและได้พยายามฟื้นฟูวงดรุิยางค์ M.C. Band
พ.ศ. 2485 ภราดาปีเตอร์ ย้ายมาประจ าที่โรงเรยีนมงฟอร์ตท่านมีความรอบรูใ้นวิชาคณิตศาสตร์เป็นอย่างดี จึงได้รับสมญานามว่า “บดิาแห่งคณิตศาสตร์”
ภราดาไมเคิล, ภราดาฮีแลรแ์ละคุณพ่อเปรุต เดนิทางมาภาคเหนือ เพ่ือหาท าเลที่ตั้งโรงเรยีนวา่เหมาะสมแก่การตั้งสาขาอัสสัมชัญหรือไม่
อาคารเรียนหลังแรกของมงฟอร์ตวิทยาลัย
ในยุคแรกๆ เราใช้ตัวยอ่โรงเรยีนวา่
ม.ฟ.ว.พ.ศ. 2489 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้รับการรับรอง
วิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล จากกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั้นมีนักเรียนจ านวน 400 คน
ภราดาเซราฟิน ผู้ย่ืนค าร้องต่อกระทรวง ศึกษาธกิาร เพ่ือขอรับรองวิทยฐานะให้กับโรงเรยีน
พ.ศ. 2492 โรงเรยีนมงฟอรต์วิทยาลัย ได้เปดิสอนระดับมัธยมศกึษาตอนปลาย ในขณะนั้นเรยีกการศึกษาในระดับนีว้่า “เตรียมอุดมศึกษา”
พ.ศ. 2494 เลิกรับนักเรยีนประจ าแล้วใช้ห้องพักดังกล่าว กัน้เป็นห้องเรียน มนีักเรยีนเพิ่มเป็น 600 กว่าคน
พ.ศ. 2496 สร้าง“อาคารมารีย”์ เพื่อให้เพียงพอกับจ านวนนักเรียนท่ีเพิ่มขึน้ เป็นอาคารเรียน 3 ชัน้ 8 ห้องเรียน ชัน้ล่างเป็นที่จอดรถจักรยานของนักเรยีน
พ.ศ. 2499 สร้าง“อาคารมงฟอร์ต” เป็นอาคาร 3 ชัน้
พ.ศ. 2505 โรงเรียนมงฟอร์ตฯเลื่องลือในการกฬีา เพราะได้ครองถ้วยชนะเลิศกฬีาประเภทตา่งๆ ถงึ 15 ใบ รวมทั้งถว้ยทองชนะเลิศอีก 1 ถว้ย มีการจัดวัน Sport day รว่มกัน 3 โรงเรยีน คือ โรงเรยีนเรยนีาเชลี โรงเรยีนพระหฤทัย เชียงใหม่ และโรงเรยีนมงฟอรต์ฯ พ.ศ. 2507 ภราดาอังเดร เกแก็ง ย้ายจากอัสสัมชัญบาง
รักมาประจ าที่มงฟอรต์พ.ศ. 2513 โรงเรยีนได้แยกกิจการออกเป็น แผนกประถม
และแผนกมัธยม โดยย้ายแผนกประถมไปอยู่มี่ถนนชา้งคลานและได้สรา้งอาคารเรียน 4 ชัน้ ส าหรับนักเรียนชัน้ประถมศกึษาปีท่ี 1 - 7
พ.ศ. 2513 ภราดาอันโตนิโอ มารอีา ย้ายจากโรงเรยีนอัสสัมชัญศรรีาชามาปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอน ได้พยายามวางรากฐานทางดนตรีให้แกโ่รงเรยีนมงฟอร์ต มีความตั้งใจให้วงดุริยางค์ของโรงเรยีนเป็นที่ช่ืนชมของชาวเชยีงใหม่และแพร่หลายไปท้ังในและต่างประเทศ
Rev. Bro. Andre’
ภราดาอันโตนีโอ มารอีาผู้วางรากฐานและพัฒนาสง่เสริมวงดุริยางค์ของโรงเรยีน
พ.ศ. 2516 ใช้ชื่อว่าโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม และเปลี่ยนมาใช้อักษรย่อว่า “ม.ป.”
พ.ศ. 2518 เริ่มจัดการเรยีนการสอนแบบสหศึกษา โดยรับนักเรียนหญิงเข้าเรยีนในระดับ ม.ปลาย ส่วน ม.ต้น ยังคงรับเฉพาะผู้ชาย
พ.ศ. 2522 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้ร้ืออาคารเรียนหลังแรกสุดเพราะช ารุดโดยได้สรา้งอาคารเรียนหลังใหม่ขนาด 4 ชัน้แทน และได้รับพระมหากรุณาธคิุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ัวฯ พระราชทานนามอาคารนีว้่า “สามัคคีนฤมิต”พ.ศ. 2527 สร้างโรงเรียนมงฟอร์ตแห่งใหม่ ณ ที่ตัง้ถนน
มหิดล (ปัจจุบันคือถนนมงฟอร์ต) ต.ท่าศาลาประกอบด้วยอาคารหอประชุม 1 หลัง อาคารอ านวยการ 1 หลัง อาคารเรียน 3 หลัง โดยมีช่ือว่า ปีเตอร์ เซราฟินและอัลเบิร์ตและห้องสมุด 1 หลัง ช่ือว่าแอมบริสโิอ
พ.ศ. 2528 ย้ายแผนกมัธยมไปยังสถานท่ีใหม่ท่ีถนนมหิดล และย้ายแผนกประถมจากถนนชา้งคลานมาท่ีถนนเจรญิประเทศดังในปัจจุบัน
พ.ศ. 2529 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชด าเนินทรง เปิดโรงเรยีนมงฟอร์ตวิทยาลัย แห่งใหม่อยา่งเป็นทางการ
พ.ศ. 2530 แผนกประถม ได้รับรางวัลโรงเรยีนพระราชทานประเภทประถมศกึษาขนาดใหญ่
พ.ศ. 2532 โรงเรียนมงฟอร์ตวทิยาลัย ได้รับรางวัลโรงเรยีนพระราชทาน ระดับมัธยมศกึษาขนาดใหญ่
ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพเลีย้งแสดงความยนิดีในโอกาสที่วงดุริยางค์ของโรงเรยีนได้รับรางวัลเหรยีญทองในการแข่งขันดุรยิางค์นานาชาติ ณ เมือง Kerkrade ประเทศเนเธอร์แลนด์
พ.ศ. 2533 สร้างอาคาร“เอ็มมานูเอล” เพื่อรองรับจ านวนนักเรยีนชัน้ ม.1 ที่เพิ่มจาก 6 เป็น 7 ห้องเรียน เป็นอาคาร 4 ชัน้ ต่อจากอาคารเรียน 3 อาคาร มทีางเชื่อมถึงกันทุกชัน้
พ.ศ. 2536 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด าเนินทรงเปิดอาคารเรียนเอ็มมานูเอลเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี
พ.ศ. 2537 แผนกประถม รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ครั้งที่ 2พ.ศ. 2540 ภราดาอนุรักษ ์ นิธิภัทราภรณ์ ได้ทบทวน
เป้าหมายและทิศทางของโรงเรยีน โดยก าหนดวิสัยทัศน์ MC2012 เพื่อบูรณาการกจิกรรมกับกระบวนการเรียนการสอน
พ.ศ. 2542 จัดตั้งหน่วยงานอภบิาลเพ่ือน านักเรียนออกผสานชวีิตชุมชน คน้หาขุมทรัพย์ในตน และภูมิปัญญาท้องถิ่น
MC Timeline 88 years
พ.ศ. 2544 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ได้รับรางวัลโรงเรยีนพระราชทาน ระดับมัธยมศกึษาขนาดใหญ ่คร้ังที่ 2 และวงดุริยางคข์องโรงเรยีนได้รับรางวัลเหรยีญเงิน การประกวดวง BIG BAND (JAZZ) นักเรยีนแห่งประเทศไทย คร้ังที่ 1
พ.ศ. 2547 โรงเรยีนได้ทบทวนและจัดท าธรรมนูญโรงเรยีนฉบับปีการศกึษา 2548 – 2552 และเริ่มเปดิหลักสูตร English Program ทัง้แผนกประถมและแผนกมัธยม
พ.ศ. 2548 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้จัดงานกาล่า ดินเนอร์ เพื่อฉลอง 72 ปีแห่งการกอ่ตั้ง และได้สร้างอาคารอันโตนีโอ
พ.ศ. 2549 โรงเรยีนได้จัดกจิกรรมฉลองความสัมพันธ ์ ไทย – จีน ครบรอบ 30 ปี
พ.ศ. 2550 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้จัดงานฉลองครบรอบ 75 ปี แห่งการก่อตัง้ที่โรงเรียนมงฟอรต์วิทยาลัย แผนกประถม
พ.ศ. 2551 โรงเรยีนได้กอ่สรา้งอาคาร Saint Mary ซึ่งเป็นอาคารกจิกรรม
พ.ศ. 2553 วงโยธวาทติโรงเรยีนมงฟอร์ตวิทยาลัยชนะเลิศ รางวัลถว้ยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
พ.ศ. 2557 ยกระดับมาตรฐานการจัดการเรยีนการสอนเป็น Montfort College Cambridge Programmeและมีการจัดโครงกาพัฒนาศักยภาพผู้เรยีนเพื่อเตรยีมความพรอ้มในการสอบวัดความรู้มาตรฐานสากล
พ.ศ. 2558 จัดท าหลักสูตรตามมาตรฐานต่างๆ เช่น O-Net, Cambridge, HSK, DELF, JLPT, LAMA
พ.ศ. 2559 แต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ระหว่างโรงเรยีน สมาคมผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เกา่ เพ่ือสร้างความร่วมมือ แก้ปัญหาและสรา้งความเข้าใจ
พ.ศ. 2560 อนุมัติเปิดแผนการเรียนศิลป์-ค านวณพ.ศ. 2561 รว่มกับสถาบัน British Council Thailand จัดตั้ง
ศูนยส์อบภาษาอังกฤษสากลเพื่อเตรยีมความพรอ้มด้านภาษาอังกฤษให้กับนักเรยีน