Upload
kungsadal-jongka
View
226
Download
0
Embed Size (px)
DESCRIPTION
Photobook Muang Khong Champasak
Citation preview
“MAUNG KHONG CHAMPASACK”
Photobook โดย กังสดาล จงคา
นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิจัยศิลปะและวัฒนธรรม
คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ปราสาทหินวัดพู
เมืองโขง
แขวงจ�ำปำสัก
ปากเซช่องเม็ก
จ�าปาสักเป็นแขวงหนึ่งใน 18 แขวงของ สปป.ลาว มีเนื้อที่ทั้งหมด 15,415 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทาง
ภาคใต้สุดของประเทศ อันเป็นพื้นที่ลุ่มแม่น�้าโขงตอนล่าง ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ประมาณ 610 กิโลเมตร
เป็นแขวงหนึ่งที่ตั้งอยู่ทั้งสองฟากฝั่งของแม่น�้าโขง (แม่น�้าผ่านกลางแขวง)
อาณาเขตของแขวงจ�าปากสัก
ทิศเหนือ ติดกับแขวสาละวัน
ทิศตะวันออก ติดกับแขวงเซกอง และแขวงอัตตะปือ
ทิศใต้ ติดกับประเทศกัมพูชา
ทิศตะวันตก ติดกับประเทศไทย
ลักษณะภูมิประเทศ
แขวงจ�าปาสัก มีแนวเทือกเขาสูงอยู่ทางทิศ
เหนือและทิศตะวันออก บริเวณตอนกลางของแขวง
เป็นพื้นที่ลุ่มแม่น�้าโขงและแม่น�้าเซโดน บริเวณทางด้านทิศ
ตะวันออกเป็นที่ราบสูง ซึ่งมีความสูงประมาณ 1,500
- 1,800 เมตร จากระดับน�้าทะเลปานกลาง พื้นที่โดย
ทั่วไปมีความสูงไม่เกิน 1,000 เมตร จึงท�าให้บริเวณนี้
มีฝนตกมาก และอากาศชุ่มเย็นตลอดทั้งปี บริเวณภูเขา
ทางด้านนี้ จะเป็นแนวเทือกเขาของภูเขาไฟที่ดับแล้ว
บริเวณตอนใต้ของแขวง จะเป็นดินแดนที่เป็นเกาะแก่ง
มากมาย อันเป็นที่มาของค�าว่า “สี่พันดอน” โดยมี เกาะ
ดอนโขง เป็นเกาะหรือดอนที่ ใหญ่ที่สุด ลักษณะในดิน
แขวงจ�าปาสักส่วนใหญ่ เป็นดินที่มีคุณภาพดี เพราะเป็น
บริเวณทีเ่ป็นแนวภูเขาไฟเก่า ดงันัน้ จึงเหมาะแก่การเพาะปลกู
ลักษณะภูมิอากาศ
อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีของแขวงจ�าปาสัก
จะอยู่ประมาณ 27 องศาเซลเซียส แต่ในบริเวณทางทิศ
เหนือของแขวง คือ ที่เมืองปากซอง จะมีอากาศเย็น
ตลอดทั้งปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยต�่ากว่า 20 องศา
เซลเซียส และมีความชื้นสัมพัทธ์สูง ปริมาณฝนตกใน
ระดับ 1,400 - 2,000 มิลลิเมตรต่อปี ยกเว้น
ที่ราบสูง
ทรัพยากร
แขวงจ�าปาสักได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่อุดม
สมบูรณ์แห่งหนึ่ง เพราะมีดินด�าน�้าชุ่ม เหมาะแก่การ
เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตาม
ลักษณะของภูมิประเทศ
ประชาชนส่วนใหญ่ของแขวงจ�าปาสักมี
อาชีพทางเกษตรกร พืชที่ท�าชื่อเสียงของแขวง
จ�าปาสัก ได้แก่ ข้าวและกาแฟ โดยสามารถส่งออก
จ�าหน่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ ข้าวที่ปลูก
ส่วนใหญ่เป็นข้าวเหนียว ส่วนกาแฟส่งออกไปยัง
ยุโรปส่วนมาก นอกจากนี้ ยังมีพืชส่งออกอีก
ชนิดหนึ่ง โดยส่งขายให้กับญี่ปุ่น นั่นคือ “หมาก
แหน่ง” เป็นพืชสมุนไพรที่สามารถสกัดที่สามารถ
สกัดท�ายารักษาโรคประเภทยาแก้ปวด ยาดม
และยาบ�ารุง
แขวงจ�าปาสักได้ชื่อว่าเป็นดินแดน “สี่พัน
ดอน” ท�าให้มีปลามากมายอุดมสมบูรณ์ เช่น ปลา
เพีย ปลากด ปลาหอน ปลาเคิง ปลาแข้ รวมทั้ง
ปลาข่า หรือปลาโลมาน�้าจืด ซึ่งมีแห่งเดียวในแม่น�้า
โขง และใกล้จะสูญพันธุ์ทุกขณะเข้าไปแล้ว
แขวงจ�าปาสัก เป็นแขวงส�าคัญทางภาคใต้มาแต่สมัย
โบราณ เป็นที่ตั้งของอาณาจักจ�าปาสัก เคยอยู่ในเขตอาณา
จักขอมโบราณ แขวงนี้เป็นที่ตั้งของปราสาทหินวัดภู ซึ่งได้
รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ก่อนที่ฝรั่งเศสจะยึดครองลาว เมืองเอกของ
แขวงนี้คือเมืองจ�าปาสัก ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาแม่น�้าโขงแต่หลัง
จากฝรั่งเศสได้เข้ามายึดครองลาวแล้ว ก็ย้ายเมืองเอกไปที่
ปากเซ ซึ่งอยู่เหนือจากจ�าปาสักไป 30 กิโลเมตรและอยู่ทาง
ฝั่งซ้ายของแม่น�้าโขง แขวงจ�าปาสักนี้มีแหล่งท่องเที่ยวทาง
ธรรมชาติมากมาย เช่น น�้าตกคอนพะเพ็ง น�้าตกผาส้วม
น�้าตกหลี่ผี และมี ปราสาทหินวัดพู ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็น
มรดกโลก แห่งที่ 2 ของ สปป.ลาว
เขตติดต่อของแขวงนี้ทางตะวันตกสามารถข้ามไป
ประเทศไทยทางช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี และทางใต้ ยัง
สามารถเดินทางผ่านด่านเวินคาม และด่านพรมแดน ดง
กะลอ ของ สปป.ลาว เพื่อไปจังหวัดสตึงแตรงของ
ประเทศกัมพูชา
เมืองโขงอยู่ในแขวงจ�าปาสักทางตอนใต้
ของสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.)
ลาว ซึ่งมีแม่น�้าโขงเป็นเส้นเลอืดส�าคญัในการหล่อ
เลีย้งชวีติของชาวบ้านมายาวนาน แม่น�า้โขงในช่วง
ที่ ไหลผ่านเมอืงโขง หรือ สพีนัดอน มีความกว้าง
ใหญ่ไพศาล จากฝั่งถึงฝั่งกินความยาวกว่า 12
กิโลเมตร และมีปริมาณน�้าที่มากโดยเฉพาะฤดูฝน
ซึ่งเป็นช่วงหาปลาประจ�าปี เพราะได้รับการเติมเต็ม
จากน�้าในแม่น�้าสาขา อาทิ แม่น�้ามูน น�้าสงคราม
จากฝั่งไทย แม่น�้าอู แม่น�้าซัน แม่น�้าเซบังไฟ ในลาว
ประกอบกับพื้นที่นี้เป็นที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ที่เกิด
จากการยุบตัวของแผ่นหิน ท�าให้เกิดเกาะแก่ง
มากมาย รวมทั้งน�้าตกสวยงามอย่างหลี่ผี และ
คอนพะเพ็ง เมืองโขงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ใหญ่
ของปลาแม่น�้าโขง เนื่องจากมีระบบนิเวศที่เอื้อ
อ�านวยโดยเป็นพื้นที่ชุ่มน�้าที่เชื่อมร้อยสู่เมือง
สตรึงเตรง หรือ เซียงแตง ในกัมพูชา ลงไป
จรดทะเลสาบเขมรที่เป็นแหล่งปลาที่ ใหญ่ที่สุด
ในลุ่มน�้าโขง
เมืองโขงหรือ สี่พันดอน (Si phandon) แม่น�้ำโขงช่วงใกล้เขตแดน
กัมพูชำมีขนำดกว้ำง 10-12 กิโลเมตร กลำงล�ำน�้ำเต็มไปด้วยเกำะแก่งหินขนำด
ต่ำงๆถึง4,000เกำะเป็นที่มำของชื่อสี่พันดอนค�ำว่ำดอนในภำษำลำวหมำยถึง
เนินดินที่ผุดขึ้นในแม่น�้ำและมีน�้ำล้อมรอบในจ�ำนวนสี่พันดอนนี้ดอนที่ ใหญ่ที่สุด
คือดอนโขง
“
”
ดอนโขง
กว้าง 6 กิโลเมตร ยาว 12 กิโลเมตร
เป็นบ้านเกิดของท่านค�าไตสีพันดอน
อดีตประธานประเทศลาว นับว่าเป็นเมือง
ที่มีขนาดใหญ่และมีความเจริญด้วย
ระบบโครงวร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า และ
ประปาที่สมบูรณ์ มีแม่น�้าโขงล้อมรอบ
มีโรงแรมและเกสต์เฮาส์เป็นจ�านวนมาก
โดยเฉพาะวิลล่าแบบฝรั่งเศสหลายแห่ง
ที่ ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซม รวมทั้ง
ร้านอาหารริมแม่น�้าโขงที่มีอาหารสดๆ
จากแม่น�้ามาบริการ จึงมีชาวต่างชาติไป
พักผ่อนตากอากาศจ�านวนมาก สถานที่
น่าสนใจ ได้แก่ วัดพวงแก้วอะรุโนไทย์
มีพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ วัด
จอมทอง วัดเก่าแก่ที่สุดของดอนโขง
สร้างในสมัย เจ้าอนุวงศ์
วัดพวงแก้วอะรุโนไทย์
ดอนโขง
เด็กนักเรียนชาวลาว
ดอนโขง
ดอนเดด
เป็นเกาะเล็กๆ ทางตอนเหนือของดอนคอน และเป็นท่าเรือระหว่างบ้านนากะสัง
(ท่าข้ามนากะสัง) บรรยากาศแรกที่ทุกคนจะได้พบ คือ การนอนอาบแดด
ผ่อนคลายของนักเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ที่หาดทรายซึ่งเป็นสันดอน ซึ่งที่นั่น
เป็นท่าเรือด้วย
ท่าข้ามนากะสัง-ดอนเดด
ข้ามดอนเดด (ท่าเรือดอนเดด)
รถห้าแถวน�าเที่ยวชมน�้าตกหลี่ผี
และท่าเรือขนส่งสินค้าฝรั่งเศส เนื่องจาก
จากฝรั่งเศสระเบิดคอนพะเพ็งกับหลี่ผี
ไม่ส�าเร็จ จึงต้องใช้วิธีน�าสินค้าพวกไม้
ทองแดง มาขึ้นที่นี้แล้วใช้รถไฟขนไปยัง
อีกฟากนึงของเกาะแทน
ดอนคอน
เป็นดอนขนาดรองลงมา กว้าง 4.5 กิโลเมตร ยาว 5 กิโลเมตร
ประกอบด้วย 3 หมู่บ้าน ห่างจากหมู่บ้านไป 2 กิโลเมตร เป็นที่ตั้ง
ของน�้าตก หลี่ผี สมัยฝรั่งเศสยึดครองอินโดจีนจ�าเป็นต้อง
ขนส่งสินค้าและสิ่งของต่างๆ ขึ้นไปทางตอนกลางประเทศแต่ติดขัด
เกาะแก่งขนาดใหญ่ท�าให้เรือสินค้าไม่สามารถแล่นผ่านไปได้ จึงได้
สร้างท่าเรือและทางรถไฟบนดอนคอนและดอนเดด พอเรือแล่นมา
ถึงบริเวณสี่พันดอนก็จอดเรือไว้ที่ดอนเดด ขนถ่ายสินค้าจาก
เรือไปทางรถไฟจากหัวดอนเดดข้ามไปท้ายดอนคอนแล้วขนสินค้า
ลงเรือใหม่ ทางรถไฟสายนี้ปัจจุบันยังคงมีซากหลงเหลืออยู่ ให้
เห็น รวมทั้ง หัวรถจักรไอน�้าที่ ใช้ในสมัยนั้น
วิถีชีวิตยามเช้า
ดอนคอน
เรือนฝาไม้ไผ่ขัดแตะ
หลังคามุงใบมะพร้าวแบบหลังเดี่ยว
ดอนคอน
บ้านเรือนริมโขง
ดอนคอน
วิถีชีวิตริมโขง
คนพึ่งปลา
ปลาพึ่งน้ำ
แม่น�้ำโขง แม่น�้ำในบริเวณนี้แยกออกเป็นสำยต่ำงๆ หรือที่เรียกว่ำ ฮู
ในภำษำลำว พบพันธุ์ปลำอย่ำงน้อย 201 ชนิดในบริเวณดังกล่ำว รวมทั้ง
ปลำบึก และโลมำอิรวดี กำรศึกษำของผู้เชี่ยวชำญระบุว่ำพันธุ์ปลำแม่น�้ำโขงกว่ำ
ร้อยละ70เป็นปลำอพยพทำงไกลจำกทำงตอนล่ำงของลุม่น�ำ้สูท่ำงตอนบนโดย
มีระดับน�้ำตำมฤดูกำล และระบบนิเวศ ที่เป็นสิ่งเอื้ออ�ำนวยแก่กำรอพยพและ
ขยำยพันธุ์ปลำแม่น�้ำโขง
“
”
ยามอู่ ยามเช้า
อู่ ดักปลา เป็นภาษาลาว คือเครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็น
ตอกไม้ไผ่สานกันเป็นผืนใหญ่ ผูกด้วยเชือกทั้งสี่มุมให้หย่อนคล้าย
อู่นอน ( “อู่” ภาษาอีสาน แปลว่า “เปล” ) น�ามาวางหนือน�้าตกใช้ดักปลา
ที่จะกระโดดขึ้นไปยังเหนือน�้าจะมาติดที่อู่ ปลาที่ ได้เป็นปลาเล็กปลาน้อย เช่น
ปลาสร้อย
หลี่ เป็นภาษาลาว เป็นเครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่งมีลักษณะคล้ายลอบ
หลี่ ได้รับการตกทอดมาจากบรรพบุรุษ จากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมาใน
ครอบครัว มีการดูแลและซ่อมแซมอยู่ทุกๆ ปีก่อนน�้าหลาก นับเป็น
เครื่องมือที่ส�าคัญในการจับปลา
วัฒนธรรมปลา และการกินปลา
อยู่คู่กับวิถีชีวิตริมน�้ามาอย่างยาวนาน
เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวบ้านเมืองโขง
ในทุกหนทุกแห่ง ซึ่งเขาเหล่านั้นจะขาดปลา
และล�าน�้าแห่งนี้ ไปเสียมิได้ เพราะเป็นสิ่งที่
หล่อเลี้ยงชีวิตนับล้านตั้งแต่ในอดีต
จนถึงปัจจุบัน
ก้อยปลาสร้อย
ชาวบ้านบอกว่าปลาสร้อยส�าคัญ
ที่สุดเพราะมีอยู่จ�านวนมาก และมี
ให้จับได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าน�้าจะมาก
หรือน้อย ชาวลาวที่มีวิถีชีวิต
อยู่ริมโขงจะอาศัยปลาสร้อย
ด�ารงชีพและเลี้ยงครอบครัว
หากว่าหาปลาใหญ่ไม่ได้