23
ผลการดําเนินงาน ขั้นตอนที1 การสํารวจพื้นที่บริเวณปายทางเขาพรอมกับการสอบถามความตองการของทางโรง แรม ( Site Survey and Client Analysis ) การสํารวจพื้นที่บริเวณปายทางเขา เปนการเขาเดินดูพื้นที่บริเวณปายทางเขาและสภาพแวดลอมในบริเวณ ถายภาพ วัดพื้นทีและศึกษาการมองเห็นของผูขับขี่ยานพาหนะบนถนน ทั้งนี้เพื่อใชเปนขอมูลในการออกแบบ สถานที่ตั้งของปายทางเขา โรงแรมตั้งอยูเลขที1349 ถนนเพชรเกษม ตําบลชะอํา อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี ตัว ปายตั้งอยูบริเวณหนาประตูทางเขาโรงแรม (ภาพที1) แนวปายเมื่อมองจากถนนเพชรเกษม สามารถมองเห็นไดจากสองทิศทาง คือ มองจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต มี พื้นที่ในการจัดสวนประมาณ 320 ตารางเมตร (ภาพที2 และ 3) ทิศ - ทิศเหนืออยูติดกับถนนทางเขาโรงแรม - ทิศใตอยูติดกับพื้นที่สนามหญาหนาโรงแรม - ทิศตะวันตกอยูติดกับถนนเพชรเกษม - ทิศตะวันออกติดกับแนวรั้วของโรงแรม สภาพพื้นที่บริเวณปายทางเขา (ภาพที4) แบงเปน 2 สวนคือ 1. สวนที่เปนสิ่งกอสราง - ตัวปาย เปนปายคอนกรีตรูปสี่เหลี่ยมผืนผา ตัวหนังสือสีทองแดง พื้นหลังสีดํา มีขอบ ปายเปนคอนกรีตสีขาว ความสูงของเสาจากพื้นดิน 2.10 เมตร ความยาวของตัวปาย 6.50 เมตร และกวาง 1.20 เมตร มีไมคลุมดินคือเทียนทองและชาฮกเกี้ยนปลูกรอบตัวปาย (ภาพที5) - แทนเฉลิมพระเกียรติทําจากไม สวนที่เปนฐานมีความกวาง 1.25 เมตร ยาว 4.15 เมตร ความสูงประมาณ 5.00 เมตร ตั้งอยูบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของพื้นที(ภาพที6) - เสาไฟฟา เปนเสาคู ทําจากคอนกรีต ตั้งอยูดานหลังของตัวปาย

special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

  • Upload
    others

  • View
    5

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ผลการดาํเนนิงาน ขั้นตอนที่ 1 การสํารวจพืน้ที่บริเวณปายทางเขาพรอมกับการสอบถามความตองการของทางโรง

แรม ( Site Survey and Client Analysis ) การสํารวจพืน้ที่บริเวณปายทางเขา เปนการเขาเดนิดูพืน้ที่บริเวณปายทางเขาและสภาพแวดลอมในบริเวณ ถายภาพ วัดพื้นที่

และศึกษาการมองเหน็ของผูขับข่ียานพาหนะบนถนน ทัง้นี้เพื่อใชเปนขอมูลในการออกแบบ สถานที่ตั้งของปายทางเขา

โรงแรมตั้งอยูเลขที่ 1349 ถนนเพชรเกษม ตําบลชะอาํ อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบรีุ ตัวปายตั้งอยูบริเวณหนาประตทูางเขาโรงแรม (ภาพที ่ 1) แนวปายเมื่อมองจากถนนเพชรเกษมสามารถมองเห็นไดจากสองทิศทาง คือ มองจากทิศตะวนัตกเฉียงเหนอืและทิศตะวนัตกเฉียงใต มีพื้นที่ในการจดัสวนประมาณ 320 ตารางเมตร (ภาพที่ 2 และ 3)

ทิศ - ทิศเหนืออยูติดกับถนนทางเขาโรงแรม - ทิศใตอยูติดกับพืน้ที่สนามหญาหนาโรงแรม - ทิศตะวนัตกอยูติดกับถนนเพชรเกษม - ทิศตะวนัออกติดกับแนวรัว้ของโรงแรม

สภาพพื้นที่บริเวณปายทางเขา (ภาพที่ 4) แบงเปน 2 สวนคือ 1. สวนที่เปนสิ่งกอสราง - ตัวปาย เปนปายคอนกรีตรูปส่ีเหลี่ยมผนืผา ตัวหนงัสอืสีทองแดง พืน้หลงัสีดํา มีขอบ

ปายเปนคอนกรีตสีขาว ความสูงของเสาจากพื้นดนิ 2.10 เมตร ความยาวของตัวปาย 6.50 เมตร และกวาง 1.20 เมตร มีไมคลุมดินคือเทยีนทองและชาฮกเกี้ยนปลูกรอบตัวปาย (ภาพที ่5)

- แทนเฉลมิพระเกียรติทาํจากไม สวนที่เปนฐานมีความกวาง 1.25 เมตร ยาว 4.15 เมตร ความสงูประมาณ 5.00 เมตร ต้ังอยูบริเวณทิศตะวนัตกเฉียงเหนือของพืน้ที ่ (ภาพที่ 6)

- เสาไฟฟา เปนเสาคู ทาํจากคอนกรีต ต้ังอยูดานหลังของตัวปาย

Page 2: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

2. สวนที่เปนสนาม (พืน้ทีท่ี่มีการจัดสวน) - เปนพื้นที่ทีม่คีวามชนั 2 ระดับ คือ +0.10 เมตร และ +0.20 เมตร ตามลําดับ ตัวปายตั้ง

อยูบนเสนความชันที่ +0.20 เมตร มีการปูหญานวลนอยทั่วทัง้พืน้ที ่มีไมคลุมดินเดิมที่ตัดแตงเปนรูปทรงเรขาคณิตอยูกระจายทั่วทัง้พืน้ที ่ ตนไมบางสวนทรุดโทรมและมวีัชพืชข้ึนกระจายเล็กนอยบนพืน้สนาม รายชื่อตนไมเดิม มีดังนี ้

ไมคลุมดิน ไดแก ชาฮกเกีย้น เทียนทอง เข็มแดง เข็มชมพู ขาไกไทย ไทรทอง เกล็ดแกว ผักเปดแดง หูปลาชอน

ไมยืนตน ไดแก หมากคอนวล เฟองฟา การสอบถามความตองการของทางโรงแรม

เพื่อหาขอมูลลักษณะการใชสวน ความชอบ ความตองการตางๆ จากทางโรงแรม เพื่อใชขอมูลเปนแนวทางในการปรับปรุงสวนใหเหมาะสมและเปนทีพ่ึงพอใจแกทางโรงแรม โดยสอบถามจาก 1. คุณสมยศ สมานมิตร หัวหนาแผนกสวนของโรงแรม 2. คุณเอมสัน เนตะฝาง ผูชวยหัวหนาแผนกสวนของโรงแรม สรุปความตองการของทางโรงแรมไดดังนี ้- ตองการพนัธุไมที่มีสีสันสดใส สรางความสวางใหพื้นที่ และทําใหปายเปนจุดเดน - ตองการพันธุไมที่ดูแลงาย ทนแลง เนื่องจากสวนนี้มักขาดแคลนน้ําในฤดูแลง และ ไมตองมกีารตัดแตงมาก

Page 3: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ภาพที ่1 แสดงแผนที่ต้ังพืน้ที่ปายโรงแรมดุสิตรีสอรต แอนด โปโลคลบั

บริเวณจัดสวน ถนนเพชรเกษม

Page 4: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ภาพที ่2 แสดงที่ต้ังของปายเมื่อมองจากถนนทางเขาโรงแรม

ภาพที ่3 แสดงที่ต้ังของปายเมื่อมองจากถนนเพชรเกษม

Page 5: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช
Page 6: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ขั้นตอนที่ 2 การสํารวจและวิเคราะหสภาพพื้นที่บริเวณปาย (Site Analysis) เปนการนาํขอมูลที่ไดมาวิเคราะหทั้งขอดีและขอเสีย รวมทั้งปญหาตางๆ และหาแนวทาง

การออกแบบเพื่อใหเหมาะสมกับสภาพพืน้ที ่สภาพแวดลอมโดยรอบบริเวณพ้ืนทีป่าย แสงแดด รมเงา และทิศทางลม - พื้นที่สวนใหญจะไดรับแดดตลอดทั้งวัน ไดรับรมเงาเล็กนอยจากตนไมใหญที่อยูบริเวณ ร้ัวดานใน จะมีพื้นที่บางสวนที่อยูใตบริเวณแนวปายและแทนเฉลิมพระเกียรติ์ที่ไดรมเงาจากตัวปายเล็กนอยในชวงสายถึงบาย สามารถใชพืชที่ชอบแดดไดทั้งพื้นที่ - พื้นที่ไดรับลมหนาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ รับลมมรสุมจากทิศตะวันตกเฉียงใต รับ ลมรอนจากทิศใต แตไมไดรับลมกําลังแรงมากนัก เพราะมีแนวตนไมใหญปลูกขนานกับแนวรั้วใกลปาย เสมือนแนวกันลม ทางระบายน้าํ - มีรองระบายน้ําขนาดกวางประมาณ 1.50 เมตร อยูติดกับถนนเพชรเกษมมวีัชพืชข้ึนเล็ก นอย พืน้ที่ไมมีปญหาน้ําทวมขังแฉะ

มลพิษตางๆ - พื้นที่ทางดานทิศเหนือและทิศตะวันออกอยูติดกับแนวถนนทําใหไดรับฝุนละอองและ ควันพิษมากกวาพื้นที่ในสวนอื่นๆ ควรเลือกใชพืชที่แข็งแรงและทนทาน มุมมอง - แนวปายเมื่อมองจากถนนเพชรเกษมสามารถมองเห็นไดจากสองทิศทาง คือ มองจาก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต แตมองเห็นไดยากเพราะบริเวณปายตั้งอยูกระช้ันถนนเพชรเกษมมีเสาไฟฟาบดบังกอนถึงทางเขาโรงแรม อีกทั้งตัวพื้นปายมีสีเขม เมื่อทดลองขับรถยนตผานปายดวยความเร็ว 40 – 120 กิโลเมตรตอชั่วโมง โดยเพิ่มความเร็วขึ้นทุก 10 กิโลเมตรตอชั่วโมง พบวา ผูสัญจรที่เคลื่อนที่มาดวยความเร็วสูงจะไมสามารถมองเห็นปายไดทัน และมักจะเลยไปเมื่อขับข่ีมาดวยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรตอชั่วโมงขึ้นไป ดังนั้นจึงควรเลือกใชพันธุไมที่มีสีสวางสดใส และปลูกเปนกลุมใหญ (mass planting) เพื่อใหเหมาะสมกับการมองเห็นขณะที่ผูสัญจรเคลื่อนที่ดวยความเร็วตางๆ กัน (speed design)

Page 7: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ภาพที ่5 แสดงลักษณะของตัวปายซึง่มพีืน้สีเขม ตัวหนงัสือทาํจากทองเหลือง

ภาพที ่6 แสดงลักษณะของแทนเฉลิมพระเกียรติ

Page 8: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ขั้นตอนที่ 3 การตรวจเอกสาร หลักศิลปะในการออกแบบจัดสวน อุดมลักษณ (2537) กลาววา หลักศิลปะประกอบดวย 1. ความสมดุล (Balance) 2. สัดสวน (Proportion or Scale) 3. จังหวะ (Rhythm) 4. ความกลมกลนื (Harmony or Unity) 5. ความแตกตาง (Contrast) 6. จุดเดนหรือจุดสนใจ (Emphasis or Focalization)

ความสมดุล หมายถงึ การทีพ่ืน้ทีห่นึง่มีสัดสวนที่เหมาะสมกนั มนี้ําหนกัเทากันหรือใกลเคียงกนัทัง้สองขาง ความสมดุลมี 2 แบบ

1. ความสมดุลที่เหมือนกันทัง้สองขาง (Formal of Symmetrical balance) เปนการจัด สวนอยางเปนระเบียบ มนี้ําหนกัเทากนัทัง้ดานซายและดานขวา หรือมีตนไมทัง้สองขางเหมือนกัน เชน ตนไม 2 ขางทาง หรือการจัดตามอนุสาวรียวงเวยีน สวนสาธารณะ การจัดวางใชจุดศูนยกลางเปนจุดเริ่มแลวขยายรูปแบบการจัดออกไปโดยรอบเหมอืนกนั เหมาะกับพืน้ที่ราบ พื้นที่กวางใหญในอันที่จะสรางจุดรวมภาพ ใหความรูสึกโออา ภาคภูมิ สงางาม หนักแนนและมัน่คง

2. ความสมดุลทีไ่มเหมือนกันทั้ง 2 ขาง (Informal or Asymmetrical balance) เปน ความสมดุลตามธรรมชาต ิโดยมีรูปทรง สัดสวนทั้งสองดานไมเหมือนกัน มีจุดสนใจทั้ง 2 ดานที่ไมเหมือนกนั ใชพันธุพืชตางกนั แตทําใหเกดิสมดุลโดยใชตนพืชขนาดเล็กหลายตนถวงสมดุลกบัตนพืชขนาดใหญ หรือใชพืชกลุมเล็กถวงสมดลุกับพืชสีเย็นกลุมใหญ หรือการใชกลุมหนิถวงสมดุลกบักลุมตนไม เปนตน สวนลักษณะนีจ้ะปลอยใหพรรณไมเจริญเติบโตอยางอิสระ เหมาะตอสภาพพื้นที่เปนเนนิสภาพธรรมชาติ เปนสวนทีก่อใหเกิดอารมณสรางสรรค เพลิดเพลนิ ใหความรูสึกอิสระเสรี

สัดสวน หมายถงึ การจดัวัสดุแตงสวนพนัธุไม ใหมีความสัมพนัธกนัอยางไดสัดสวนกลมกลนื สวยงาม ใหความรูสึกวาของหลาย ๆ ส่ิงมีความสัมพนัธกนั เชนเดียวกนักับสัดสวนหรือใบหนาของมนุษย ในการวางตําแหนงของตา ห ู จมกู ปาก จะตองเหมาะสม จงึจะไดใบหนาที่สวยงาม ดังนั้นในการจัดสวนตองเลอืกพนัธุไมหรือหินที่มีรูปราง รูปทรง และขนาดที่แตกตางกนั โดยคํานงึถงึขนาดของพื้นที ่ ความสูงของสิ่งกอสราง เชน ระเบียง หรือตัวบาน เพื่อจะไดเลือกขนาดใหเหมาะสม รวมทั้งพิจารณาในเรือ่งของสีไปพรอมกัน และนํามาจัดวางใหเปนธรรมชาติ

Page 9: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

อยางไดสัดสวน สมดุล โดยมากแลวจะเริม่ตนดวยการจัดวางลกัษณะสามเหลี่ยม ซึ่งจะเกิดความสมดุลและมีมมุมองไดทุกดาน สัดสวนจึงเกี่ยวของกับการจัดสวน โดยจะตองพิจารณาถึง

1. ขนาดและรูปลักษณที่จะนาํมาประกอบกนัใหงดงาม 2. จัดสัดสวนใหเกิดความสนใจ ดึงดูดสายตา 3. จัดสัดสวนของวัตถุตาง ๆ ขนาดตาง ๆ ใหมีความสมัพนัธกนัเปนหมวดหมู จังหวะ หมายถึง ความพอดีของการจัดวางมีชองวางเหมาะสมและมีความตอเนื่อง จะ

กอใหเกิดการเคลื่อนไหวของสิ่งที่คลายคลงึกนั มีความเปนธรรมชาติ ถาจัดในพื้นทีก่วาง อาจจะใชแปลงไมดอกหรือจัดวางมานั่ง กระถางตนไมเปนระยะกระจายเปนชวงซ้าํกนัไปได ทําใหเกิดชวงจังหวะนาสนใจ ชวนติดตาม เกิดความตื่นเตน

ชวงจงัหวะของการจัดสวนแบงเปน 4 แบบคือ 1. จังหวะซ้าํหรอืย้ํา (Repetition) เปนการใชตนไมหรือวัสดุที่มีรูปทรง ลักษณะ สี และ

เสนซ้ําๆ กันไป เชน ลักษณะของแนวรัว้ หรือตนไมสองขางทางเดิน สองขางถนน ถาซ้ํา ๆ กันมากก็อาจจะกอใหเกิดความเบื่อหนายได

2. จังหวะตอเนื่อง (Sequence or Continuity) เปนการสรางความซ้าํของรูปทรง พนัธุไม หรือสีสันซ้ํากนัไป เปนระยะโดยเวนระยะเทา ๆ กนั

3. จังหวะกระจาย (Radiation) เปนการจัดทีเ่ร่ิมจุดศูนยกลาง แผกระจายออกไปรอบ ดานเหมือนกนัหรือซ้ํากัน เชน การจัดรอบอนุสาวรีย ตามวงเวยีน ตามสี่แยก เปนตน

4. จังหวะลดหลัน่ (Gradiation) ใชวัสดุหรือพืชชนิดเดยีวกัน แตมีขนาดแตกตางกนั สูง ตํ่าไมเทากัน อาจจะจัดจากเล็กไปหาใหญ หรือสลับกนัไป

ความกลมกลนืกนัหรือเอกภาพ เปนสิง่ที่กอใหเกิดความสวยงาม ดังนัน้ในการจัดสวน นักจัดสวนจะตองคํานงึการอยูรวมกันของหนวยความงามชนิดตาง ๆ จัดใหอยูรวมกนัไดอยางกลมกลนืเปนหนึง่เดียวอยางเหมาะสม เชน ความกลมกลืนในลักษณะของพืช เกิดขึ้นไดโดยปลูกพืชทีม่ีลักษณะใบคลายกนั อยูรวมกนัไดแก ปาลมชนดิตาง ๆ หรือปลูกพืชที่มีรูปรางใบคลายกนัอยูรวมกนั เชน พลับพลงึ จันทนผา เตย อยูรวมกนั สวนความกลมกลืนในลกัษณะของวัตถุไดแก การใชหนิทีม่ีรูปรางลักษณะหรือสีที่คลายคลึงกัน จะทาํใหเกิดความกลมกลนืและจะตองพิจารณาถึงชวงจงัหวะสัดสวน ความสัมพันธระหวางขนาดและรูปทรงใหกลมกลืนกนั ดังนัน้ หลักของความกลมกลนืตองพิจารณาถึงเสน รูปทรง และสี

Page 10: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ในการออกแบบสวนใหเกิดความกลมกลนืสามารถทําไดคือ 1. ทําเปนรูปซ้ํา ๆ กัน จะกอใหเกิดความกลมกลืน แตจะตองระวงัไมใหมกีารซ้ํากันมาก

เกินไป จะทาํใหขาดความนาสนใจ จึงควรใหมีสวนทีไ่มกลมกลนืหรือขัดกันบางในสวนนอย แตในสวนใหญกลมกลืนกัน

2. สรางความกลมกลืนโดยเลือกใชวัสดุหรือพรรณไมที่มีสีสันกลมกลืนกัน 3. พื้นผวิและชองวางจะตองมคีวามคลายคลึงและกลมกลืนกนั 4. เลือกใชวัสดุหรือพรรณไมที่มีรูปทรงและลกัษณะคลายคลึงและกลมกลืนกนั การขัดกัน ใชในการออกแบบจัดสวนเพือ่ลดความกลมกลืน โดยการจัดสภาวะของเสน

รูปทรงหรือสีใหแตกตางกัน เพื่อไมใหเกิดความซ้าํ กอใหเกิดความหลากหลายในลกัษณะตรงขามหรือขัดกัน โดยเฉลี่ยแลวควรจัดใหมีความกลมกลนืประมาณ 80 เปอรเซ็นต และมีการขัดกันประมาณ 20 เปอรเซ็นต เพือ่ใหเกิดจุดสนใจ มีจุดเดน กอใหเกิดความเคลื่อนไหว แตจะตองระวงัอยาใหมกีารขดักันมาก เพราะจะทําใหเกดิความรูสึกยุงเหยงิ ขาดเอกภาพและความกลมกลนื การขัดกันเกิดขึ้นโดย

1. จัดใหมีความแตกตางกันในรูปทรงลักษณะ เชน รูปทรงสามเหลี่ยมกับรูปทรงสี่เหลี่ยม 2. จัดใหเกิดความแตกตางกัน ในเรื่องของเสน คือ มีทั้งเสนโคงและเสนตรงอยูดวยกัน 3. จัดใหสีแตกตาง โดยใชสีรอนตัดกับสีเย็น สีมืดกับสีสวาง 4. จัดใหเกิดความแตกตางในเรื่องของแสง เงา สัดสวน ชองวาง พื้นผิว หรือแมแตพันธุ

ไมที่มีการตัดแตงและไมมีการตัดแตง จุดเดน จุดรวมภาพ หมายถึง จุดเดนที่เปนจุดรวมสายตา ดึงดูดสายตา เปนจุดที่สงเสริม

ความงาม โดยการเนนในเรื่องของสี เสน การตกแตง การจัดชองวาง หรือการเนนเฉพาะจุดกลุมใดกลุมหนึ่ง การสรางจุดเดนหรือจุดรวมภาพแบงเปน 2 ลักษณะคือ

1. สรางจุดเดนหรือจุดรวมภาพอยางเปนระเบียบ เชน การสรางน้ําพุตามวงเวียน ตามสี่ แยก น้ําพุกลางสระน้ํา รูปปน อนุสาวรีย น้ําตก หอนาฬิกา หรือแมแตซุมตนไมในสวน เปนตน

2. การสรางจุดเดนในสวนแบบธรรมดาหรือสวนแบบไมเปนระเบียบ อาจจะสรางจุดรวม ภาพโดยใชกลุมพืชที่ดอกมีสีสันสวยงาม มีรูปทรงสวยงาม หรือใชตนไมที่สูงเดนกวาตนอื่น และมีตนเตี้ยมาจัดประกอบหางพอสมควร หรืออาจเปนกอนหินที่เดน มีรูปทรงแปลกๆ มุมน้ําตกแบบธรรมชาติ หรือแมแตการใชเฟอรนิเจอรประกอบสวนก็สรางใหเปนจุดเดนหรือจุดรวมภาพได ในแตละพื้นที่ไมควรจัดใหมีจุดเดนหลายจุดในพื้นที่เดียวกัน จะทําใหเกิดการแขงขันและทําใหความเดนลดลง

Page 11: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

การวางแผนการจัดสวนใหมีการบํารุงรักษาต่าํ การจัดสวนเปนการผสมผสานขององคประกอบทัง้สวนที่มีชีวิตและไมมีชีวิต และทั้งสองสวนมี

โอกาสเสื่อมสภาพ ถาหากการดูแลรักษาเอาใจใสไมพอเพียง ไมเขาใจหลักการและความตองการในสิ่งที่จะบาํรุงรักษาใหมีอายุการใชงานยาวนาน การจัดสวนทุกองคประกอบตองมีการบํารุงรักษา จึงเกีย่วของกบัการใชแรงงาน งบประมาณและเวลา จึงมีแนวคิดในการจัดสวนเพื่อใหมกีารบํารุงรักษาต่ํา ซึ่งมหีลักการดังนี ้1. หลีกเลี่ยงการสรางมุมแหลม หรือพืน้ที่มมุฉากในสวน การใชเสนควรเปนเสนโคง เพราะพืน้ที่

มุมแหลมยุงยากตอการตัดหญา 2. ในพืน้ทีท่างเทา ถนน ลานพกัไมควรปลูกหญาแทรกถาไมมีความจาํเปน ทาํใหผิวลดความ

กระดางลง การตัดหญาทําดวยความยากลําบาก 3. ใชแผนอิฐวางกั้นขอบเขตแนวแปลง ทางเดิน พื้นที่อาคาร ลานพกั ทีเ่ปนแนวตอระหวางหญา

กับสวนทีก่ลาวถึง เพื่อใหตัดหญาไดสะดวกและไมทาํใหหญาล้ําเขาในแนวแปลง 4. ควรออกแบบหลีกเลี่ยงจุดการตัดหญาลําบาก เชน พืน้ที่ลาดเอียงมากๆ พืน้ที่สูงๆต่ําๆ 5. ทางเดินในสวนหรือใชสัญจร ควรทําดวยวสัดุถาวร คงทน แข็งแรงเพื่อการรับน้ําหนัก 6. ในขอบเขตใหความอิสระ ตองปองกนัสายตาบุคคลภายนอก ใหสรางรั้วที่เปนร้ัวทีท่าํจาก

ตนไมที่มกีารจดัการต่ํา 7. การออกแบบใหสนามสะอาด ไมควรปลูกตนไมใบรวงงาย กิง่หักงาย ดอกรวงตลอดเวลา ตอง

เลือกไมไมผลัดใบหรือผลัดใบเปนฤดูกาลและมีกิ่งเหนียว 8. สรางแปลงปลกูดอกไมใหแคบและเปนสัดสวนเพื่อสะดวกตอการกาํจัดวัชพืช การฉีดยาและ

การยืน่มือเขาปฏิบัติงาน 9. ไมดอกที่ใชปลูกในแปลง ควรปลูกสลบัโดยแปลงหนึ่งปลูกไมดอกอายุยืนยาว อีกแปลงปลูกไม

หัวเพื่อใหออกดอกสลับทุกฤดู 10. การปลูกไมพุม ตองปลูกเปนกลุมแนน สะดวก ประหยดั การใหน้ํา ปุย การจัดการ และให

ความสวยงามกวาการปลูกตนเดียวโดดๆ 11. เตรียมดินสําหรับปลูกไมตางๆใหดี ดินปลูกเปนดนิผสมระหวางดนิและอินทรียวตัถุซึ่งมีธาตุ

อาหารที่พชืตองการอยูมาก ดินปลูกที่ดีทาํใหตนไมสมบูรณแข็งแรง 12. หลีกเลี่ยงการปลูกหญาใตรมเงาไมใหญ พืชที่ใชปลูกควรเปนพืชคลุมดิน 13. ตัดแตงกิ่งตนไมออกบาง เพือ่ใหแสงและลมพัดผานไดโดยเฉพาะกลุมไมที่มีการปลูกหญา การ

ตัดแตงกิ่งใหบางจะชวยใหหญาไดรับแสงเพียงพอตอการเจริญเติบโต

Page 12: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

14. ในบางฤดูเพื่อใหพืชสวยงาม ใหขุดดินรอบโคนตน ความกวางเทาทรงพุมแลวใชปุยหมกั ปุยอินทรียอัดรอบๆ เพื่อใหรากพืชไดรับปุย

15. พิถีพถิันในการเลือกพืชปลูก พืชที่ใชปลูกที่ดีที่สุดคือพืชทองถิน่นั้น เพราะจะทนตอการทําลายของโรคและแมลง พืชที่ปลูกไมควรโตเร็วเกินไป ยุงยากตอการควบคุมทรง

16. ใชเครื่องมือที่เปนเครื่องยนต ในการจัดการสวน เชน รถตัดหญา ตัดขอบ แตตองอยูในสภาพพรอมใช

17. มีเรือนเพาะชาํสําหรับพักเลีย้งตนไม ในสวนตนไมที่โทรม หรือตนไมทดแทนใหม ในขณะเดียวกนัไดศึกษาถงึความตองการและนิสัยของพนัธุตางๆ

18. หลีกเลี่ยงการปลูกพืชที่ตองตัดแตงบอยๆ ยกเวนในกรณีที่จําเปน 19. การทาํสนามหญาใหมควรปลูกหญาเต็มแผน ดีกวาการปลูกหญาดวยเมล็ดแบบกระจุก แบบ

ปกดําและแบบใชลําตนหวาน การปูหญาเต็มแผน สนามจะปราศจากวัชพืชถาเตรียมดินดี (กันยา, 2537)

Page 13: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ขั้นตอนที่ 4 การออกแบบ (Design)

การออกแบบขั้นตนหรือการออกแบบดวยแผนภาพวงกลม (Balloon Diagram) การออกแบบ (Design) เปนการนําขอมูลที่ไดจากการสํารวจพื้นที่และการสอบถามความ

ตองการจากทางโรงแรมมาเปนแนวทางในการออกแบบ ซึ่งอาศัยการออกแบบโครงรางคราวๆ ของการจัดสวนที่เรียกวา แผนภาพวงกลม (Balloon diagram) (ภาพที่ 7) เพื่อใหผูอานแบบสามารถเขาใจไดงายขึ้น จากนั้นจึงพัฒนาเปนแบบแปลน (plan) ซึ่งแสดงรายละเอียดรูปรางและขนาดขององคประกอบตางๆ รวมทั้งการจัดตนไม วงกลมที่ 1 เปนพื้นที่บริเวณโดยรอบแทนเฉลิมพระเกียรติ ไดรมเงาจากแทนเล็กนอยในชวงเชา กลุมไมคลุมดินเดิมที่ปลูกมีความทรุดโทรม ขาดสีสัน มุมทั้งสี่ของแทนฯ มองดูแลวกระดาง จะใชการปลูกไมคลุมดินที่มีสีสันสดใส รูปรางแปลงเปนเสนโคงอิสระและตัดแตงตางระดับกัน โดยจะปลูกลอมแทนฯ เพื่อลดความกระดางของมุมทั้งสี่ของแทนฯ และใชไมยืนตนขนาดกลางซึ่งมีรูปทรงตนรับกับรูปแบบของแทนเฉลิมพระเกียรติที่มีรูปรางเปนยอดแหลม สวนดานหลังแทนเฉลิมพระเกียรติ ใชไมพุมขนาดกลางที่มีความสูงแตกตางกันมาปลูกเพื่อลดความกระดางของดานหลังแทนฯ

วงกลมที่ 2 และ 3 เปนพื้นที่บริเวณดานหนาตัวปายที่ไดรับแดดเกือบตลอดทั้งวัน กลุมตนไมเดิมเปนไมคลุมดินที่มีการตัดแตงเปนรูปทรงเรขาคณิต ตําแหนงของกลุมไมคลุมดินก็กระจัดกระจาย จึงออกแบบโดยการใชไมคลุมดินที่มีสีสันสดใสมาปลูกรวมกันเปนกลุมกอน (mass) เพื่อใหเห็นไดชัดจากระยะไกลและผูที่สัญจรดวยความเร็วสูงเกิดความสนใจมาที่ตัวปาย และใชรูปแปลงที่เปนเสนโคงอิสระเพื่อใหเกิดความรูสึกเคลื่อนไหวไมนาเบื่อ โดยปลูกขึ้นไปตามเเนวความชันของพื้นที่ วงกลมที่ 4 เปนพื้นที่สวนที่อยูดานขางของตัวปายทางทิศใต ซึ่งพื้นที่ของโรงแรมบริเวณดานหลังของสวนนี้มีมุมมองที่ไมสวยงาม จึงเลือกใชไมพุมขนาดกลางปลูกเปนไมบังสายตาตามแนวยาวของลักษณะพื้นที่ วงกลมที่ 5 เปนพื้นที่สวนที่อยูดานขางของตัวปายทางทิศเหนือ พื้นที่ของโรงแรมบริเวณดานหลังของสวนนี้มีมุมมองที่ไมสวยงามเชนกัน แตพื้นที่สวนนี้อยูติดกับถนนทางเขาโรงแรมที่มีผูใชบริการผานเขาออกเปนประจํา จึงเลือกใชไมคลุมดินที่มีดอกและไมยืนตนขนาดกลางที่มีรูปทรงสวยงามปลูกเปนไมบังสายตา

Page 14: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

วงกลมที ่ 6 เปนพืน้ที่สวนที่อยูติดกับตัวปายดานลาง ไดรับรมเงาจากตัวปายเลก็นอยในชวงเชา พนัธุไมเดิมที่ปลูกเริ่มทรุดโทรมและมีรูปแปลงโคงไปตามแนวปาย แตแนวโคงไมคอยสวยงามนัก จงึแกไขโดยการออกแบบใหรูปแปลงมีสวนโคงเพิม่ข้ึน และเลือกใชไมคลุมดินที่มีสีสันสดใส และมดีอกสวยงาม และใชไมยนืตนขนาดกลางปลูกเพื่อลดความกระดางที่มมุทั้งสามของตัวปาย

วงกลมที ่ 7 เปนพืน้ที่ดานในตัวปายซึ่งไดรับรมเงาจากตนไมใหญคอนขางมากมองดูแลวมืด จงึเลือกใชไมยืนตนขนาดกลางทีม่ีดอกสีสดใสและใบสีเขียวออน เพื่อใหตัดกบัสีเขมของรมเงาจากตนไมใหญและใชเปนฉากหลงัของตวัปายทาํใหมองดูแลวมีจุดสิ้นสุดของการมองที่ตรงปาย ไมเลยไปที่ตนสนดานหลงัทีอ่ยูไกลออกไป

การออกแบบขั้นสุดทายหรอืแปลน ( plan ) จากแผนภาพวงกลม (Balloon diagram) นํามาเขียนเปนภาพแปลน (ภาพที่ 8) เพื่อ

ออกแบบรายละเอียด กาํหนดรูปราง ตําแหนง และเลือกตนไมใหเหมาะสมกบัสภาพแวดลอมบริเวณนัน้ โดยใชมาตราสวน 1:100

สวนที่ 1 เปนพื้นที่บริเวณหนาแทนเฉลิมพระเกียรติ ปลูกบานบุรีแคระสีเหลืองและ

แพงพวยฝรั่งสีมวง (พันธุพื้นเมือง) ไวหนาแทนฯ ตรงหัวมุมของพื้นที่เพื่อเพิ่มความสวยงามและลดความกระดางของมุมทางเขา สวนพื้นที่ที่ติดกับฐานของแทนฯ ปลูกไมพุม คือ แสยก ชิดกับแนวฐานทั้งดานหนาและดานหลัง ปลูกไทรทองรอบแทนฯ โดยใชรูปแปลงเปนแนวเสนโคงอิสระและตดัแตงใหมีระดับตํ่ากวาแสยก และปลูกการะเกดดางที่มีลักษณะใบเปนเสนยาว เพื่อใหตัดกับรูปรางใบของพืชอ่ืนๆ มุมทางดานขางของแทนฯ ปลูกสนมังกรเพราะมีรูปทรงตนเปนปลายยอดแหลมรับกับรูปแบบของแทนฯสวนดานหลังของแทนฯ ปลูกชาดัดที่ตัดแตงเปนรูปคร่ึงวงกลมและมีขนาดแตกตางกันเพื่อลดความกระดางของหลังแทนฯ สวนที่ 2 และ สวนที่ 3 เปนพื้นที่สวนที่เปนสนามหญา รับแดดตลอดทั้งวันและมีความชัน 3 ระดับคือ 0.00 0.10 และ 0.20 เมตร ปลูกไมคลุมดิน ไดแก เข็มพิษณุโลกสีชมพู ไทรทอง และการะเกดดาง ซึ่งเปนไมที่ทนแลงและชอบแดด โดยออกแบบรูปแปลงเปนเสนโคงอิสระตามแนวความชันของพื้นที่ และปลูกชาดัดที่ตัดแตงเปนรูปทรงเรขาคณิตและมีขนาดแตกตางกันเพื่อเพิ่มความสวยงามและรับกับแนวไมคลุมดิน

Page 15: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

สวนที่ 4 เปนสวนที่อยูดานขางของตัวปายทางทิศใต พื้นที่ของโรงแรมบริเวณดานหลังของสวนนี้มีมุมมองที่ไมสวยงาม จึงปลูกลิ้นกระบือที่มีสีสันสดใส ชอบแดดและทนแลง เปนแนวไมบังฉากหลังใหกับพื้นที่ สวนที่ 5 เปนสวนที่อยูดานขางของตัวปายทางทิศเหนือ ติดกับถนนทางเขาโรงแรม พื้นที่ของโรงแรมบริเวณดานหลังของสวนนี้มีมุมมองที่ไมสวยงามเชนกัน จึงเลือกปลูกแพงพวยฝรั่งสีมวง(พันธุพื้นเมือง) ที่มีดอกสีสันสดใสเปนแนวโคง เพื่อบังฉากหลังและลดความกระดางของมุมพื้นที่และปลูกสนมังกรที่มีขนาดตางกันเพื่อสรางความโดดเดนและสวยงามยิ่งขึ้น สวนที่ 6 เปนพื้นที่สวนที่ติดกับตัวปายดานลาง เดิมมีการปลูกชาฮกเกี้ยนและเทียนทองรอบตัวปายตนไมสวนใหญเร่ิมทรุดโทรมและรูปแปลงไมสวยงาม จึงปลูกไมคลุมดินที่มีสีสันสวยงามเพิ่มเขาไป ไดแก ล้ินมังกร เข็มพิษณุโลกสีขาว และไทรทองซึ่งเปนพืชที่ทนแลงไดดี โดยออกแบบรูปแปลงเปนเสนโคงอิสระรับกับแนวปาย และปลูกสิบสองปนนาที่มีทรงพุมโปรงสวยงาม เพื่อลดความกระดางของมุมทั้ง 3 ของตัวปาย

สวนที่ 7 เปนพื้นที่บริเวณดานหลังปาย เดิมมีการปลูกตนหมากนวลเปนแนวฉากหลัง เนื่องจากพื้นที่ในสวนนี้จะไดรับรมเงาจากตนไมใหญคอนขางมาก ทําใหมองดูแลวมืด จึงปลูกตนรําเพยดอกสีสมที่ทนแลงไดดี มีใบสีเขียวออนและดอกสีสมตลอดป เพื่อใหตัดกับเงามืดของตนไมใหญ และเปนฉากหลังใหกับแนวปายทําใหมองดูแลวมีจุดสิ้นสุดของการมองที่ตรงปาย ไมเลยไปที่ตนสนดานหลังที่อยูไกลออกไป

พันธุไมที่เลือกใชในการปรับปรุงสวนครั้งนี้เปนชนิดที่ทนแลงไดดี ชอบแดด และมีอัตรา

การเจริญเติบโตชา ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ที่มีการดูแลรักษาไมทั่วถึง

Page 16: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ขั้นตอนที่ 5 การเสนอแบบและรับขอเสนอแนะจากเจาของพื้นที่ (Plan Presentation)

เมื่อดําเนินการออกแบบเปนที่เรียบรอยแลวไดมีการนําเสนอแบบแกทางโรงแรมเพื่อพิจารณาและมีการแกไขชนิดของตนไมในบางตําแหนง ซึ่งแปลนครั้งแรกที่นําเสนอไดเนนการเลือกใชพันธุไมที่มีสีสันสดใสเปนหลัก ทางโรงแรมขอเปลี่ยนแปลงชนิดของพันธุไมเปนกลุมที่ทนแลงไดดี ชอบแดด มีดอกสวยงาม และดูแลรักษางาย และในขณะนี้การดําเนินการกําลังอยูในข้ันตอนการพิจารณาของทางโรงแรม

Page 17: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช
Page 18: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช
Page 19: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ภาพที่ 9 แสดงทัศนยีภาพดานทิศหนือ (กอนดําเนินการ)

ภาพที ่10 แสดงทัศนยีภาพดานทิศหนือ (หลังดําเนนิการ)

Page 20: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ภาพที ่11 แสดงทัศนยีภาพดานทิศใต (กอนดําเนินการ)

ภาพที ่12 แสดงทัศนยีภาพดานทิศใต (หลังดําเนินการ)

Page 21: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

ขั้นตอนที่ 6 การประเมินราคา (Cost Estimation) การประเมนิราคาการปรับปรุงสวน 1. ราคาตนไม ลําดับ ชนิดพนัธุไม ขนาด จํานวน

(ตน) ราคาตอตน (บาท)

รวม (บาท)

1. การะเกดดาง สูง 0.20 เมตร 108 10 1,080 2. เข็มพิษณุโลก (ชมพ)ู สูง 0.25 เมตร 252 25 6,300 3. เข็มพิษณุโลก (ขาว) สูง 0.25 เมตร 112 25 2,800 4. ไทรทอง สูง 0.25 เมตร 376 20 7,520 5. บานบุรีแคระ สูง 0.25 เมตร 68 20 1,360 6. แพงพวยฝรัง่สมีวง

(พันธุพื้นเมือง) สูง 0.30 เมตร 160 20 3,200

7. ล้ินมังกรแคระ สูง 0.25 เมตร 56 25 1,400 8. ล้ินกระบือ สูง 0.30 เมตร 64 20 1,280 9. แสยก สูง 0.25 เมตร 69 20 1,380 10. ชาดัด สูง 1.00 เมตร 15 400 6,000 11. สิบสองปนนา สูง 1.00 เมตร 6 500 3,000 12. สนมังกร สูง 1.50 เมตร 4 700 2,800 13. สนดินสอ สูง 1.20 เมตร 3 400 1,200 14. รําเพยดอกสม สูง 1.50 เมตร 3 400 1,200 รวมราคาตนไมทัง้หมด 40,370 บาท

2. ราคาสนามหญา หญานวลนอย 212 ตารางเมตร ตารางเมตรละ 40 บาท = 8,480 บาท (รวมคาหญา ปุย ทรายหยาบ และคาแรงปูหญา) คาสนามหญา = 8,480 บาท

Page 22: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

3. ราคาวัสดุและอุปกรณ ลําดับ รายการ จํานวน (หนวย) ราคาตอหนวย (บาท) รวม (บาท)

1. ปุยเคมีสูตรเสมอ 5 กิโลกรัม 40 200 2. ปุยคอก 20 ถุง 15 300 3. ดินผสม 22 ลูกบาศก

เมตร 400 8800

4. เชือกฟาง 1 มัด 20 20 5. ไมคํ้าตนไม 2 มัด 40 80

รวมราคาวัสดุและอุปกรณ 9,400 บาท 4. คาแรงงานทั้งหมด - แรงงานในการปรับปรุงพืน้ที่ 1 วัน 4 แรง - แรงงานในการขุดหลุมและเตรียมดินปลกู 2 วนั 12 แรง - แรงงานในการปลูกและค้ําตนไม 2 วนั 12 แรง - แรงงานในการดูแลรักษา (2 คร้ัง/เดือน) คร้ังละ 4 แรง 16 แรง รวม 44 แรง คาแรงวันละ 200 บาท เปนจํานวนเงนิ 8,800 บาท คาหัวหนาคุมงานจัดสวน (9 วัน) 500 บาท/วัน เปนจํานวนเงนิ 4,500 บาท รวมคาแรงงานทัง้หมด 8,800 + 4,500 = 13,300 บาท 5. คาแบบ 15% คาตนไม + คาสนามหญา + คาวัสดุและอุปกรณ + คาแรงงาน 71,550 บาท คาแบบ 15% 10,732.50 บาท 6. คาดําเนนิการ 20% คาตนไม + คาสนามหญา + คาวัสดุและอุปกรณ + คาแรงงาน 71,550 บาท คาดําเนนิการ 20% 14,310 บาท

Page 23: special problem from prachya - lib.kps.ku.ac.th · 2. ส วนที่เป นสนาม (พื้นที่ที่มีการจัดสวน) - เป นพื้นที่ที่มีความช

สรุปการประเมินราคาในการปรับปรุงสวนบริเวณปายทางเขาโรงแรมดุสิตรีสอรต แอนด โปโลคลบั 1. ราคาตนไม 40,370 บาท 2. ราคาสนามหญา 8,480 บาท 3. ราคาวัสดุและอุปกรณ 9,400 บาท 4. คาแรงงาน 13,300 บาท 5. คาแบบ 15% 10,732.50 บาท 6. คาดําเนนิการ 20% 14,310 บาท รวมคาใชจายในการปรับปรุงสวน 96,592.50 บาท (เกาหมื่นหกพนัหารอยเกาสิบสองบาทหาสบิสตางค) หมายเหตุ

การประเมินราคาในการปรับปรุงสวนครั้งนี้จะไมนําราคาสนามหญา คาแรงงาน คาแบบ15% และคาดําเนินการ 20% มารวมเปนคาใชจายดวย เนื่องจากในพื้นที่เดิมมีการปลูกหญาอยูแลว คาแรงงานทางโรงแรมมีเจาหนาที่ดําเนินการเอง และการปฏิบัติงานครั้งนี้เปนการทําปญหาพิเศษจึงไมรวมคาใชจายของคาเเบบและคาดําเนินการ ทําใหราคาในการปรับปรุงสวนครั้งนี้เปนเงิน 49,770 บาท