1
หลักสูตรการอบรมผู้ดูแลและใช้งาน
อุปกรณ์เครือข่ายตามโครงการ POLIS
รุ่นที่ ๑ วันที่ ๔ - ๖ กันยายน ๒๕๕๖
รุ่นที่ ๒ วันที่ ๑๑ – ๑๓ กันยายน ๒๕๕๖
ณ สถาบันวิชาการ ทีโอที งามวงศ์วาน
2
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์By
รัฐการ เลียวรักษ์โอฬารTOT Academy
3
LAN
WLAN
MANWAN
SAN
CANGAN
4
CIS MIS SIS SSIS SCIS PSIS
CIS:ระบบสานสนเทศอาชญากรรม MIS:ระบบสานสนเทศเพ่ือการบริการSIS:ระบบสารสนเทศเพ่ือความมั่นคงSSIS:ระบบสารสนเทศเพื่อการบริการสังคมSCIS: ระบบข้อมูลอื่นเพื่อสนับสนนุงานด้านการ
ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมPSIS: ระบบสารสนเทศสถานตี ารวจ
VPN
http://172.17.2.66/polis
POLIS องค์กรน ามาใช้บันทึก แกไ้ข บริหารจัดการระบบงานข้าราชการต ารวจและอ านวยความสะดวกในการปฏิบตัิงาน ใช้เรียกดูข้อมูลทะเบียนราษฎรไดโ้ดยตรง ช่วยให้สามารถทราบข้อมลูของผู้กระท าความผิดในการตามจับผู้ทีก่ระท าความผิดได้เร็วขึ้น
• กองบัญชาการต ารวจนครบาล• กองบังคับการต ารวจจราจร• กองทะเบียน
• กองบัญชาการต ารวจภูธร 1 - 9
• ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ
5
Local Area Network (LAN) คือ เครือข่ายข้อมูลความเร็วสูง โดยจะครอบคลุมพื้นที่ไม่ใหญ่มาก เช่น ภายในส านักงาน, ภายในอาคาร, ภายในองค์กรหรือบริษัท Metropolitan Area Network (MAN) คือ เครือข่ายข้อมูลที่ครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ใหญ่ขึ้นกว่า LAN เช่น การเชื่อมต่อระหว่างองค์กรต่างๆ ภายในอ าเภอหรือจังหวัด เป็นลักษณะการน าเครือข่าย LAN หลายๆ เครือข่ายที่อยู่ห่างกันมาต่อถึงกันผ่านทางสื่อต่างๆ Wide Area Networks (WAN) คือ เครือข่ายที่เกิดจากการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ LAN ที่อยู่ห่างไกลกันมากๆ เข้าด้วยกัน โดยจะที่ครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ใหญ่กว่าแบบ MAN เช่น การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายระหว่างจังหวัด หรือระหว่างประเทศ
อยุธยากรุงเทพมหานคร
LAN1 LAN3
LAN2
DataNetwork
6
Wireless LAN (WLAN) เป็นเครือข่ายที่หลักการท างานอยู่บนพื้นฐานเดียวกับระบบ
แลนแต่ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย
Personal Area Network (PAN) การเชื่อมโยงของเทคโนโลยีการเข้าถึงไร้สายใน
พื้นที่เฉพาะส่วนบุคคลโดยมีระยะทางไม่เกิน 1 เมตร และมีอัตราในการรับส่งข้อมูล
ความเร็วสูงมาก (สูงถึง 480 Mbps) ใช้สื่อ IrDA Port, Bluetooth, Wireless
Global Area Network (GAN) เป็นเครือข่ายที่ใช้ส าหรับ mobile เพื่อการ
เชื่อมต่อเข้ากับระบบไร้สายอื่นๆ เช่น ดาวเทียม และ WLAN เป็นต้น
7
Storage Area Network (SAN) และ Network Attached Storage (NAS) ต่าง
เป็นเทคโนโลยีเพื่อช่วยเข้าถึงข้อมูลในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ เพื่อเข้า
มาแทนที่การเชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลโดยตรงอย่าง Direct Attached
Storage (DAS) ซึ่งมีข้อจ ากัดอยู่หลายอย่าง เช่น ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล
ความถูกต้องของข้อมูล หรือ พื้นที่จัดเก็บ ให้เกิดความยืดหยุ่นในการเข้าถึงอุปกรณ์
จัดเก็บข้อมูลมากกว่า
Controller Area Network (CAN) เป็นเครือข่ายที่ใช้ติดต่อกันระหว่าง
ไมโครคอนโทรลเลอร์ Micro Controller unit
8
Outsideresources
Outline
Firewall
Gateway
DMZ
Data network
LAN WAN
DMZ (Demilitarized Zone)
HTTP DNS PROXY
eth0
eth1
eth2
Trusted Zone
9
LAN คืออะไร?
• LAN ย่อมาจาก Local Area Network
• คือระบบเครือข่ายการสื่อสารแบบหนึ่งที่ท าให้ผู้ใช้งาน (Users) สามารถใช้งานทรัพยากรต่างๆ ร่วมกันได้
(เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์, เครื่องพิมพ์)
10
ใช้ทรัพยากรร่วมกัน
ถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่
การส ารองข้อมูล
รองรับGroupware
ฐานข้อมูลระบบรักษาความปลอดภัย
ระบบบริหารเครือข่าย
LAN มีประโยชน์อย่างไร?
ถ้าคุณมี LAN
11
LAN
Outsideresources
Firewall Gateway
DMZ
Data network
LAN WAN
Server
Printer
Hub/Switch
Media
PC Workstation/Clients
Topology
12
องค์ประกอบของ LAN
• สายสัญญาณ - สายคู่ตีเกลียว, สายโคแอคเชียล, เสน้ใยแก้วน าแสง
• Servers – เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการงานด้านต่างๆ เช่น ไฟล์ข้อมูล, งานพิมพ์เอกสาร, การสื่อสาร เป็นต้น
• Workstations - คอมพิวเตอร์ที่ผู้ใชง้านนัง่ท างาน
• อุปกรณส์ ารองข้อมูล – เก็บข้อมูลส ารองไว้กรณรีะบบเกดิความผิดพลาดจะสามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้ เช่น เทปแม่เหล็ก, แผ่นดิสก,์ ฮาร์ดดิสก,์ ออพติคอลดิสก์
• การ์ด LAN – การ์ดที่ติดตั้งลงในเครื่องคอมพิวเตอรเ์พื่อให้สามารถต่อเชื่อมในระบบ LAN ได้
13
สายสัญญาณ : UTP
14
สายสัญญาณ : STP
RJ-45
ชีลด์
15
มาตรฐานของสาย UTP: 10BaseT
• 100BaseT• 1000BaseT
10BaseT
ความเร็ว Mbps
Baseband Twisted pairสายคู่ตีเกลียว
Hub
การ์ด LANสายแต่ละเส้น (segment)ยาวได้สูงสุด 100 เมตร
16
Unshielded Twisted Pair (UTP) มาตรฐาน ANSI
Super-fast Broadband Applications. 200-250 MHzCAT 6
100 Mbps TPDDI (100BASE-T or Fast Ethernet)
155 Mbps ATM100 MbpsCAT 5E
100 Mbps TPDDI (100BASE-T or Fast Ethernet)
155 Mbps ATM Gigabit Ethernet
100 Mbps
1000 Mbps (4 pair)CAT 5
Used in 16 Mbps Token Ring Otherwise not used much20 MbpsCAT 4
Voice and data on 10BASE-T Ethernet16 MbpsCAT 3
Mainly used in the IBM Cabling System for token
ring networks4 MbpsCAT 2
Analog voice (POTS) Integrated Services Digital Network
Basic Rate Interface in ISDNLess than 1 MbpsCAT 1
Usual ApplicationMaximum Data RateCategory
17
RJ-45 and UTP cable1 ……. 8
18
6 Tx-6 Rc-
3 Tx+3 Rc+
2 Rc-2 Tx-
1 Rc+1 Tx+
RJ-45 PINRJ-45 PIN
Straight Through Cable
2 Rc-6 Tx-
1 Rc+3 Tx+
6 Tx-2 Rc-
3 Tx+1 Rc+
RJ-45 PINRJ-45 PIN
Crossover Cable
EIA/TIA 568A & 568B Standard
19
20
Straight-through and Crossover
568B568Aสายไขว้
568B
2
568Bสายตรง
1
Side
Cable
21
สายสัญญาณ : โคแอคเชียล (Coaxial cable)
Outer shieldฉนวน (PVC, Teflon)
ตัวน าสัญญาณทองแดงถักเปน็ตาข่าย
22
สายสัญญาณ : โคแอคเชียล (Coaxial cable)
Thicknet (10Base5)
Thinnet (10Base2)
23
สายสัญญาณ : เส้นใยแกว้น าแสง (Fiber optic)
ST
SC
LC
FC
24
LAN Server
25
อุปกรณส์ ารองข้อมูล
26
การ์ด LAN
RJ-45
AUI
BNC
27
การ์ด LAN
RJ-45
28
การเชื่อมต่อ LAN• Bus
• Ring
• StarBUS
STAR RING
Hub, Switch, Router
29
30
Repeater
• รับข้อมูลเข้ามาจากพอร์ตหนึ่ง ขยายให้แรงขึ้นแล้วส่งออกทางอีกพอร์ตหนึ่ง
A B
C D
31
จาก Repeater สู่ Hub
Multiport
Repeater
UTP Segment
Ethernet Hub
32
Ethernet Hub
33
Bridges
Bridge
A
B
C
D
Port 1 Port 3
Po
rt 2
Forwarding TableMAC Port
A 1B 2C 3D 2
Repeater
• สามารถรับส่งข้อมูลพร้อมกันได้หลายคู่
• สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายแบบ– 10/100/1000 Mbps Ethernet
– แต่ละพอร์ตจะต่อเครื่องเดียวหรือหลายเครื่องก็ได้
34
Ethernet Switches
35
Router• Router จะต้องมีอย่างน้อย 2 พอร์ต
• รับข้อมูลเข้ามาจากพอร์ตหนึ่งแล้วตรวจดูว่าข้อมูลจะไปปลายทางที่ไหน จากนั้นจะส่งข้อมูลออกทางพอร์ตที่สัมพันธ์กับปลายทางที่ระบุไว้ในแพคเก็ต (Packet)
36
หน้าที่ของ Router
LAN Internet
Ethernet Frame
HDLC, PPP, etc.Gateway Router
• Encapsulation and De-encapsulation
?Source Router
DestinationRouter
• Routing and Packet Forwarding
37
TCP/IP and IPv4 Addressing
Outsideresources
Firewall Gateway
DMZ
Data network
LAN WAN
Server
Printer
Hub/Switch
Mediaโปรโตคอลหลักทีใ่ช้สือ่สารกันภายใน LAN คือ
TCP/IP
38
OSI model vs. DoD model
Application
Presentation
Session
Transport
Network
Data Link
Physical
7
6
5
4
3
2
1
Application
Transport
(Host-to-Host)
Internet
NetworkInterface
OSI Reference Model
Ethernet, 802.3,802.5, FDDI, andso on.
DoD Model
DoD : Department of Defense
39
IPv4 Addressing
40
IP Address Classes
41
Network ID and Host ID
42
IP Address Ranges• Class A
– Public address 1.x.x.x - 126.x.x.x– Private address 10.x.x.x
• Class B– Public address 128.x.x.x - 191.x.x.x– Private address 172.16.x.x – 172.31.x.x
• Class C– Public address 192.x.x.x - 223.x.x.x– Private address 192.168.x.x
43
Subnet Mask
• Distinguishes the Network ID from the Host ID
• Used to Specify Whether the Destination Host is Local or Remote
44
Subnet Mask (cont.)
45
Determining Network Address
46
Default Subnet Masks (No Subnetting)
Bits Used for Subnet MaskAddress
Class
Dotted Decimal
Notation
Class A
Class B
Class C
11111111 00000000 00000000 00000000
11111111 11111111 00000000 00000000
11111111 11111111 11111111 00000000
255.0.0.0
255.255.0.0
255.255.255.0
47
IP Addressing Guide
10.0.0.0 Network Address
10.0.0.1 First valid host
10.255.255.254 Last valid host
10.255.255.255 Broadcast Address
172.16.0.0
172.16.0.1
172.16.255.254
172.16.255.255
192.168.1.0
192.168.1.1
192.168.1.254
192.168.1.255
Class A
Class B Class C
48
IP Addressing Guide (cont.)
Network address172.18.0.0
Network address172.17.0.0
Network address172.16.0.0
49
UTP Cabling Laboratory
ในการทดลองเข้าสาย UTP ส าหรับใชง้านในระบบ LAN แบบ Ethernet ใช้อุปกรณ์ดังนี้
• สาย UTP ยาว 1 เมตร คนละ 2 เส้น
• RJ-45 Connector คนละ 4 หัว
• มีด Cutter
• คีมตัดสายไฟ
• คีมเข้าหัวสาย RJ-45 Crimper
50
Lab 1 สายตรง Straight-through Cable1. ให้ท าการปลอกฉนวนหุ้มสายออก
2. เรียงสายทั้งสองด้านตามมาตรฐาน EIA/TIA 568B
3. ตัดสายให้ปลายเรียบเทา่กัน
โดยเว้นระยะให้เหลือความยาว
ประมาณ 1.5 cm
51
Lab 1 สายตรง Straight-through Cable
4. สอดสายสัญญาณเข้า Connector ให้สุด
5. ใช้ RJ-45 Crimper บีบ Connector ให้แน่น
6. เมื่อท าเสร็จทัง้สองด้านให้น าสายมาทดสอบ
7. หากสายต่อได้ถูกต้องไฟบนเครื่องจะติดตามล าดับของคู่ 1,2,3,4
52
Lab 2 สายไขว้ Cross Over Cable1. ส าหรับสาย Cross ให้ท าปลายสายด้านหนึ่งเป็น EIA/TIA 568A
ปลายสายอีกด้านหนึง่ท าเปน็แบบ EIA/TIA 568B
2. เมื่อท าเสร็จทัง้สองด้านให้น าสายมาทดสอบ
3. หากสายต่อได้ถูกต้อง ไฟบนเครื่องทดสอบ
จะติดตามล าดับ ดังนี้
568A 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8
568B 3 , 6 , 1 , 4 , 5 , 2 , 7 , 8
53
เครื่องมือตรวจสอบระบบ Network ด้วยค าสั่ง Ping• ค าสั่ง Ping คือ ค าสั่งที่ใช้ในการทดสอบสถานะการเชื่อมต่อระบบ
เครือข่ายว่าขณะนั้นคุณสามารถเชื่อมต่อกับเป้าหมายปลายทางได้หรือไม่ ค าว่า “เป้าหมายปลายทาง” คือ เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครือข่ายที่สามารถก าหนดหมายเลข IP Address ได้, ชื่อของเครื่องหรืออุปกรณ์ในระบบเครือข่าย, ชื่อของเว็บไซต์ เป็นต้น
– Ping 172.17.2.66
– Ping www.google.co.th
54
ผลลัพธ์ที่ได้จากค าสั่ง Ping1. ผลลัพธ์ที่ขึ้นต้นด้วยค าว่า “Reply from” หมายความว่า เรา
สามารถติดต่อกับเป้าหมายปลายทางได้
2. ผลลัพธ์ที่ขึ้นต้นด้วยค าว่า “Request timed out” หมายความว่า เราไม่สามารถติดต่อกับเป้าหมายปลายทาง อาจจะมีปัญหาทางฝั่งปลายทางหรือทางฝั่งคุณเอง ซึ่งปัญหาอาจจะเกิดจากอุปกรณ์หรือเกิดความหนาแน่นของการสื่อสารในระบบเครือข่าย เพราะมีคนใช้งานมาก
55
ผลลัพธ์ที่ได้จากค าสั่ง Pingหากเราเชื่อมต่อระบบเครือข่ายไม่ได้หรือเข้าเว็บไซต์ไม่ได้ ให้คุณใช้ค าสั่ง Ping ถ้าได้ผลลัพธ์เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ “Reply from” แสดงว่ามีปัญหา ให้เราแจ้งข้อความ Error ให้ผู้ดูแลระบบของหน่วยงานทราบ
56
วิธีการใช้ TRACERT เพื่อแก้ไขปัญหา TCP/IP ใน Windows
• ค าสั่ง TRACERT (Trace Route) เป็นค าสั่งที่จะช่วยให้ท่านสามารถ ติดตามดูเส้นทางการเชื่อมต่อของ Router ไปยังจุดหมายปลายทาง ท่านสามารถใช้ค าสั่ง Tracert เพื่อประเมินว่า Router หรือการเชื่อมต่อบนเส้นทางที่ทอดสู่คอมพิวเตอร์ปลายทางนั้น เกิดปัญหาติดขัดหรือไม่
57
วิธีการใช้ TRACERT เพื่อแก้ไขปัญหา TCP/IP ใน Windows
• ถ้ าหากว่ ามี รู ปดอกจั นปรากฏอยู่ หมายความว่า Hop ดังกล่าว มีค่า Delay มากเกินไป หรือเกิดปัญหาติดขัด และนี่เป็นสาเหตุที่ท าให้เครื่องนี้ ติดต่อกับเครื่องปลายทาง ได้ช้ามาก tracert เป็น utility ที่ช่วยให้ค้นหาเส้นทางเดินจาก PC ของคุณไปยัง Address ที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยบอกปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการเข้าถึง host ที่ต้องการ
58
59
การจัดตั้งค่า Firewall บน Windows XP
60
เป็นขอบเขตป้องกันที่ตรวจตราและจ ากัดข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ของเรากับเครือข่ายหรืออินเตอร์เน็ต เพื่อเป็นเขตป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นนอกไฟร์วอลล์เข้ามายังคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับการอนุญาต หากเราใช้ Windows XP Service Pack 2 (SP2) ขึ้นไป Windows Firewall จะเปิดใช้โดยอัตโนมัติหลังจากการติดตั้ง
Windows Firewall
61
1. คลิ๊ก start แล้วคลิ๊ก Control Panel2. ใน Control Panel คลิ๊กที ่Windows Security Center3. คลิ๊ก Windows Firewall
วิธีเปิดการท างานของ Windows Firewall
62
เมื่อมีใครในอินเตอร์เน็ตหรือในเครือข่ายติดต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ เราจะเรียกการกระท านี้ว่า "การร้องขอที่ไม่ได้เชื้อเชิญ" เมื่อคอมพิวเตอร์ของคุณได้รับการร้องขอที่ไม่ได้เชื้อเชิญ Windows Firewall จะสกัดกั้นการติดต่อ
Windows Firewall ท างานอย่างไร
63
หากคุณใช้โปรแกรมอย่างเช่น โปรแกรมส่งข้อความหรือเกมส์ในเครือข่าย ที่จ าเป็นต้องได้รับข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตหรือเครือข่าย ไฟร์วอลล์จะถามว่าคุณต้องการสกัดกั้นหรือยอมให้มีการติดต่อนี้หรือไม่ ซึ่งจะปรากฏวินโดว์ข้างล่างนี้
Windows Firewall ท างานอย่างไร
64
Windows Firewall ท าอะไรได้บ้าง
ท าไม่ได้
ตรวจจับการท างานของไวรัสหรือเวิร์ม
ห้ามไม่ให้คุณเปิดอีเมล์ที่มีไฟล์แนบที่เป็นอันตราย
สกัดกั้นอีเมล์ขยะจากเมล์บ็อกซ์ของคุณ
ท าได้
ช่วยสกัดกั้นบล็อกไวรัสหรือเวิร์ม ไม่ให้เข้าสู่คอมพิวเตอร์ของคุณ
ขออนุญาตในการหยุดหรือยอมให้มีการเชื่อมต่อ
สร้างบันทึก ในกรณีที่คุณต้องการเก็บประวัติการเชื่อมต่อ ทั้งที่ส าเร็จและไม่ส าเร็จ ซึ่งอาจใช้ช่วยในการแก้ปัญหาได้
65
1. คลิ๊ก start แล้วคลิ๊ก Control Panel2. ใน Control Panel คลิ๊กที ่Windows Security Center3. คลิ๊ก Windows Firewall4. เลือกการตั้งคา่ในแท็ป General
การปรับค่า Windows Firewall
66
On : เปิดใช้งาน Windows FirewallOn: เปิดใช้งาน Windows Firewall (ปกติควรเปิดไฟร์วอลล์ไว้ในลักษณะนี้) ซึ่งจะปฏิเสธค าร้องขอที่ไม่ได้เชื้อเชิญทั้งหมดที่ติดต่อเข้ามาสู่คอมพิวเตอร์ของคุณ ยก เ ว้ น ค า ร้ อ ง ขอที่ ม า จ าก โป รแก รมหรื อบ ริ ก า รที่ เ ลื อ ก ไ ว้ ใ นแท็ป exceptionsOn with no exceptions: เมื่อตัวเลือก don't allow exceptions ถูกเลือก Windows Firewall จะปฏิเสธค าร้องขอที่ไม่ได้เชื้อเชิญทั้งหมดที่ติดต่อเข้ามาสู่คอมพิวเตอร์ของคุณ รวมถึงค าร้องของที่มาจากโปรแกรมหรือบริการที่เลือกไว้ในแท็ป exceptions ด้วย ซึ่งเราจะเลือกการตั้งค่านี้เมื่อต้องการป้องกันแบบสูงสุด เช่น เมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายสาธารณะที่โรงแรมหรือสนามบิน หรือเมื่อมีการแพร่กระจายของไวรัสหรือเวิร์มชนิดร้ายแรงในอินเตอร์เน็ต
การปรับค่า Windows Firewall
67
Off : ปิดการท างานของ Windows FirewallOff: ปิดการท างานของ Windows Firewall ซึ่งท าให้คอมพิวเตอร์ของคุณเสี่ยงต่อการบุกรุกหรือจากไวรัสที่มาทางอินเตอร์เน็ต การตั้งค่าแบบนี้เหมาะส าหรับผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญ ส าหรับการจัดการระบบเท่านั้น หรือในกรณีที่คอมพิวเตอร์ได้รับการป้องกันจากไฟร์วอลล์อื่น
การปรับค่า Windows Firewall
68
69
ระบบเครือข่ายไรส้าย (Wireless LAN)
70
• ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LANs)
• ความเป็นมาของระบบเครือข่ายไร้สาย
• รูปแบบการติดตั้งและเชื่อมต่อระบบเครือข่ายไร้สาย
• มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย
• อุปกรณท์ี่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย
71
ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LANs)
ระบบเครือข่ายไร้สาย (WLAN = Wireless Local Area Network) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นแม่เหล็กในอากาศ เช่น คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) หรือ คลื่นอินฟราเรด (Infrared) ส าหรับการสื่อสารข้อมูลต่างๆ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยไม่ต้องใช้สายน าสัญญาณ (สายเคเบิล) ในการสื่อสารข้อมูล เทคโนโลยี Wireless LAN จะมีอุปกรณ์หลักที่เรียกว่า Access Point
72
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส าหรับรับและส่งสัญญาณและเชื่อมต่อเข้ากับโครงสร้าง
พื้นฐานของ Fixed Line ที่มีอยู่แล้ว โดยปกติ Access Point 1 เครื่อง
สามารถรองรับการท างานของคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์
แบบพีซีสามารถใช้งานได้กับระบบเครือข่ายไร้สายได้หลายเครื่อง ซึ่งรัศมี
ของสัญญาณจะกินขอบเขตโดยประมาณ 50 เมตรจนถึง 400 เมตร
ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LANs)
73
มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย• มาตรฐาน IEEE802.11a มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่ได้รับการตีพิมพ์
และเผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยใช้เทคโนโลยี OFDM เพื่อพัฒนาให้
ผลิตภัณฑ์ไร้สายมีความสามารถในการรับส่งข้อมูลด้วยอัตราความเร็ว
สูงสุด 54 เมกะบิตต่อวินาทีโดยใช้คลื่นวิทยุย่านความถี่ 5 GHz ซึ่งเป็น
ย่านความถี่สาธารณะที่ใช้งานได้ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่อย่างไรก็
ตามคลื่นวิทยุย่านความถี่ 5 GHz นี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานโดยทั่วไป
ในประเทศไทย เนื่องจากสงวนไว้ส าหรับกิจการทางด้านดาวเทียมและมี
ราคาแพง ดังนั้นผลิตภัณฑ์ไร้สายมาตรฐาน IEEE802.11a จึงได้รับความ
นิยมน้อย
74
• มาตรฐาน IEEE802.11b มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่ถูกตีพิมพ์และ
เผยแพร่ออกมาพร้อมกับมาตรฐาน IEEE802.11a เมื่อปี พ.ศ. 2542
ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและได้รับความนิยมในการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
มากที่สุด เป็นที่รู้จักในเครื่องหมายการค้า Wi-Fi ซึ่งก าหนดขึ้นโดย
WECA (Wireless Ethernet Compatibility Alliance) โดย
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเครื่องหมาย Wi-Fi ได้ผ่านการตรวจสอบและรับรอง
ว่าเป็นไปตามข้อก าหนดของมาตรฐาน IEEE802.11b ซึ่งสามารถใช้
งานร่วมกันกับผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตรายอื่นๆ ได้
มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
75
• มาตรฐาน IEEE802.11g มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่นิยมใช้งานกันมาก
ในปั จจุบันและได้ เข้ ามาทดแทนผลิตภัณฑ์ที่ รองรับมาตรฐาน
IEEE802.11b เนื่องจากสนับสนุนอัตราความเร็วของการรับส่งข้อมูลใน
ระดับ 54 เมกะบิตต่อวินาทีโดยใช้เทคโนโลยี OFDM บนคลื่นสัญญาณ
วิทยุย่านความถี่ 2.4 GHz และให้รัศมีการท างานที่มากกว่ามาตรฐาน
IEEE802.11a พร้อมความสามารถในการใช้งานร่วมกันกับมาตรฐาน
IEEE802.11b ได้
มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
76
• มาตรฐาน IEEE802.11e มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่ออกแบบมาส าหรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นทางด้านมัลติเมียอย่าง VoIP (Voice over IP) เพื่อควบคุมและรับประกันคุณภาพของการใช้งานตามหลักการรับรองคุณภาพของการให้บริการ QoS (Quality of Service) โดยการปรับปรุงMAC Layer ให้มีคุณสมบัติในการรับรองการใช้งานให้มีประสิทธิภาพ
มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
77
• มาตรฐาน IEEE802.11f มาตรฐานนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ IAPP (InterAccess Point Protocol) ซึ่งเป็น มาตรฐานที่ออกแบบมาส าหรับจดัการกับผู้ใช้งานที่เคลื่อนที่ข้ามเขตการให้บริการของ Access Point ตัวหนึ่งไปยังอีก Access Point เพือ่ให้บริการในแบบโรมม่ิงสัญญาณระหวา่งกัน
• มาตรฐาน IEEE802.11h มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่ออกแบบมาส าหรับผลิตภัณฑ์เครือข่ายไร้สายที่ใช้งานย่านความถี่ 5 GHz ให้ท างานถูกต้องตามข้อก าหนดการใช้ความถี่ของประเทศในทวีปยุโรป
มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
78
• มาตรฐาน IEEE 802.11k มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่ใช้จัดการการท างานของระบบเครือข่ายไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการการใช้งานคลื่นวิทยุให้มีประสิทธิภาพโดยมีฟังก์ชั่นการเลือกช่องสัญญาณ การโรมมิ่งและการควบคุมก าลังส่ง การร้องขอและปรับแต่งค่าให้เหมาะสมกับการท างาน การหารัศมีการใช้งานส าหรับเครื่อง Client ที่เหมะสมที่สุดเพื่อให้ระบบจัดการสามารถท างานจากศูนย์กลางได้
มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
79
• มาตรฐาน IEEE802.11n เป็นมาตรฐานของผลิตภัณฑ์เครือข่ายไร้สายที่จะเข้ามาแทนที่มาตรฐาน IEEE802.11a, IEEE802.11b และ IEEE802.11g ที่ใช้งานกันในปัจจุบัน โดยให้อัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลในระดับ100 เมกะบิตต่อวินาที
มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
80
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย
1. PCI Card เป็นการ์ดที่ไว้ใช้ส าหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพีซีซึ่งไม่ได้รองรับการท างานระบบเครือข่ายไร้สายให้สามารถใช้งานร่วมกับระบบไร้สายได้ อุปกรณ์PCI Card นี้จะเป็นช่องทางในการรับส่งข้อมูลภายในระบบเน็ตเวิร์คผ่าน Access Point
81
2. PCMCIA Card ท าหน้าที่เหมือนกับ PCI Card แต่ PCMCIA Card เป็นการ์ดที่ใช้งานส าหรับครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊กที่ไม่สามารถใช้งานระบบเครือข่ายไร้สายจึงต้องมีการติดตั้ง PCMCIA Card ไว้ภายในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
82
3. USB Adapter เป็นการ์ดที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งเครื่อง
คอมพิวเตอร์แบบพีซีและแบบโน้ตบุ๊กท าหน้าที่เหมือนกับ PCI Card และ
PCMCIA Card คือจะเป็นช่องทางในการรับส่งข้อมูลภายในระบบ
เน็ตเวิร์คผ่าน Access Point เช่นกัน ซึ่งมีให้เลือกใช้ทั้งแบบที่เชื่อมต่อ
ผ่านสายน าสัญญาณและในแบบที่ต่อเข้ากับพอร์ต USB โดยตรง
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
83
4. Access Point เป็นตัวกลางในการรับและส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งการ์ดเครือข่ายไร้สายให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยเป็นอุปกรณ์ที่ท าหน้าที่เป็นสถานีกระจายสัญญาณคลื่นวิทยุออกเป็นวงกว้างโดยมีรัศมีประมาณ 150 - 400 เมตรต่อ Access Point 1 เครื่อง
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
84
5. Wireless Broadband Router เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ ADSL เข้าด้วยกัน ในปัจจุบัน Wireless Broadband Router นั้นถูกออกแบบมาส าหรับจุดประสงค์การใช้งานอย่างหลากหลายซึ่งสามารถเป็นทั้ง Router Switch และ Access Point ในเครื่องเดียว
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
85
6. Wireless Signal Booster เป็นอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายที่ใช้เพิ่มระยะทางและประสิทธิภาพการท างานของ Access Point โดยการเพิ่มก าลังส่งของสัญญาณเพื่อให้ได้รัศมีการใช้งานที่มากขึ้นกว่าเดิม
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
86
7. Wireless Bridge เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาส าหรับใช้เชื่อมต่อเครือข่าย 2 เครือข่ายให้สื่อสารกันได้ซึ่งมีทั้งแบบติดตั้งภายนอกซึ่งใช้เชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างอาคารและแบบที่ติดตั้งภายในอาคาร โดยWireless Bridge มี 2 ลักษณะให้เลือกใช้ คือ แบบที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างจุดต่อจุด (Point-to-Point) และแบบจุดต่อหลายจุด (Point-To-Multipoint)
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
87
8. Wireless Print Server เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ส าหรับเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องพิมพ์เพื่อให้มีความสามารถในแบบไร้สายซึ่งมีทั้งรุ่นที่ออกแบบมาส าหรับใช้งานกับเครื่องพิมพ์ที่มีพอร์ต Parallel พอร์ต USB หรือทั้งสองพอร์ตร่วมกันด้วย
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
88
9. PoE (Power over Ethernet) Adapter เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมา
ส าหรับแก้ไขข้อยุ่งยากในการเดินสายไฟฟ้าเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ไร้สาย
โดยใช้วิธีการจ่ายไฟผ่านสายน าสัญญาณ UTP ที่ยังมีคู่สายที่ยังไม่ถูก
น ามาใช้งานมาท าหน้าที่แทนซึ่งอุปกรณ์ PoE Adapter จะมี 2 ส่วน
คือ Power Injector เป็นอุปกรณ์ก าเนิดไฟฟ้าและน าสัญญาณข้อมูล
จาก Hub/Switch เข้าไปสายน าสัญญาณสู่อุปกรณ์ไร้สายอย่าง
Access Point และอีกอุปกรณ์เป็น Splitter ที่ใช้แยกสัญญาณข้อมูล
และไฟฟ้าให้กับ Access Point
อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย (ต่อ)
89
รูปแบบการติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ Wireless LAN
1. Access Point Mode คือ การใช้งานโดยมี Access Point เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายไร้สาย กับเครือข่ายสายทองแดง เป็นลักษณะการท างานที่นิยมใช้กันมากที่สุด ดังรูป
90
Access Point Mode
91
2. Wireless Bridge แบบ Point-to-Point เป็นการท างานในลักษณะที่ มีการติดตั้ง Access point เข้าไปในระบบเครือข่ายสายทองแดงเพื่อกระจายสัญญาณไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งอุปกรณ์ไร้สายอยู่ การท างานในลักษณะนี้เป็นที่นิยมแพร่หลาย
รูปแบบการติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ Wireless LAN (ต่อ)
92
Wireless Bridgeแบบ Point-to-Point
93
3. Wireless Bridge แบบ Point-to-Multipoint คือ Wireless Access Point ท างานในลักษณะเดียวกับ แบบ Point-to-Point คือเชื่อมต่อเครือข่ายสายทองแดงเข้าด้วยกันแต่มีการท างานร่วมกันมากกว่าสองเครือข่าย ดังนั้นWireless Access Point แต่ละเครื่องจะมีการรับส่งสัญญาณถึงกันโดยตรง
รูปแบบการติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ Wireless LAN (ต่อ)
94
Wireless Bridgeแบบ Point-to-MultiPoint
95
4. Repeater Mode เป็นการเพิ่ม Access Point เข้าไปเพื่อท าการทวนสัญญาณให้ได้ระยะทางการส่งข้อมูลที่ไกลกว่าเดิมโดยการผลิตอุปกรณ์ไร้สายที่ส่งสัญญาณได้ไกลกว่าปกติขึ้นหรืออาจมีการติดตั้งเสาอากาศชนิดพิเศษเข้าไปเพื่อเพิ่มระยะทางได้
รูปแบบการติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ Wireless LAN (ต่อ)
96
Repeater Mode
97
5. Wireless LAN Client เป็นการส่งสัญญาณจากเครือข่ายโดย Access
Point ไปยัง Access Point อีกเครื่องหนึ่งที่ติดตั้งอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์
เสมือนกับว่า Access Point เครื่องนั้นท างานเป็นอุปกรณ์ไร้สาย (PCI,
PCMCIA, USB) อาจใช้ในช่วงเริ่มต้นเพื่อขยายจ านวนผู้ใช้งานไร้สายใน
อนาคต
รูปแบบการติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ Wireless LAN (ต่อ)
98
Wireless Client Mode
99
การท าให้ระบบ Wireless LAN ให้มีความปลอดภัย(อย่างน้อยที่ต้องท า)
o เปลี่ยน SSID
o เปลี่ยน Default Password
o SSID Broadcast : Disable
oWEP : Enable
oMac Address Filtering
100
การใช้งาน Wireless
ถ้าตัวส่งเป็น Bตัวรับ B รับได้ตัวรับ G รับได้ตัวรับ N รับได้
101
การใช้งาน Wireless
ถ้าตัวส่งเป็น Gตัวรับ B รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใช้งานแบบ Mixed B/G ตัวรับ G รับได้ตัวรับ N รับได้
102
การใช้งาน Wireless
ถ้าตัวส่งเป็น Nตัวรับ B รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใชง้านแบบ Mixed B/G/N ตัวรับ G รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใชง้านแบบ Mixed B/G/N ตัวรับ N รับได้
103
Channel Width 20 MHz/40 MHz20 MHz จะใช้ใน Wireless ทั้งแบบ B G และ Nเมื่อใช้ใน Wireless N จะท าให้รับสัญญาณได้สูงสุดแค่ 144 Mbps ถึงแม้ Router รุ่นนั้นเป็น 300 Mbps ก็ตาม40 MHz จะใช้ใน Wireless Nเมื่อใช้ใน Wireless N จะท าให้รับสัญญาณได้สงูสุดที่ 300 Mbps ในปจัจบุัน (อนาคตจะได้ถึง 450 Mbps และ 600 Mbps)แต่เมื่อเลือกเป็นแบบ 40 MHz จะท าให้ Wireless B และ G ไม่สามารถรับสัญญาณได้ เพราะ B และ G เป็นเทคโนโลยีเก่า
104
105
1. วางต าแหน่ง Wireless Router ให้อยู่ ณ จุดก่ึงกลางของบ้านเนื่องจากเสาส่งสัญญาณของ Wireless Router โดยทั่วไปจะเป็นเสาแบบส่งสัญญาณรอบทิศทาง เป็นรัศมีวงกลมกระจายออกไป ดังนั้นเพื่อให้การรับส่งสัญญาณไร้สายภายในบ้านมีประสิทธิภาพมากที่สุดจึงควรวางต าแหน่งของ Wireless Router ในบริเวณกึ่งกลางบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะท าได้ เพื่อใช้ประโยชน์จากลักษณะการส่งสัญญาณแบบนี้ให้มากที่สุด
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
106
1. วางต าแหน่ง Wireless Router ให้อยู่จุดกึ่งกลางของบ้าน (ต่อ)
107
2. หลีกเลี่ยงการวาง Wireless Router ที่พื้น, ติดก าแพง หรือใกล้โลหะ
ควรหลีกเลี่ยงการวางไว้ที่พื้น การวางไว้ติดชิดฝาผนังบ้านโดยเฉพาะผนัง
คอนกรีต และการวางไว้ใกล้กับเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ที่เป็นโลหะ เช่นตู้
เก็บเอกสารที่ท าด้วยเหล็กไว้ด้วย เพราะทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่
ท าให้ประสิทธิภาพในการรับส่งสัญญาณไร้สายของตัว Wireless Router
มีประสิทธิภาพต่ าลงทั้งสิ้น
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
108
3. เปลี่ยนเสาส่งสัญญาณเป็นเสาสง่สัญญาณความถ่ีสูง
หาก Wireless Router ที่คุณใช้เป็นแบบที่สามารถถอดเปลี่ยน
เสาส่งสัญญาณได้ ขอแนะน าให้ลองเปลี่ยนเสาส่งสัญญาณความถี่
สูงแบบต่อแยกต่างหากจากตัวเครื่องได้ เพราะนอกจากจะเป็น
การเพิ่มรัศมีในการรับส่งสัญญาณไร้สายให้กว้างไกลมากขึ้นแล้ว
ยังสะดวกสบายในการปรับแต่งเคลื่อนย้ายการวางเสาไปไว้ใน
ต าแหน่งที่น่าจะส่งสัญญาณกระจายไปทั่วบ้านได้ดีที่สุด
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
109
4. เปลี่ยนตัวรับสัญญาณไรส้ายในคอมพิวเตอร์ใหเ้ป็นแบบ USB Network Adapter
ขอแนะน าให้ทดลองเปลี่ยนมาใช้ตัวรับสัญญาณแบบ USB แบบที่มีสายต่อเชื่อมยาวออกจากตัวเครื่องได้ ซึ่งคุณเ คลื่ อนย้ ายต าแหน่ งการจั ดวาง เพื่ อ ให้ ส ามารถรั บคลื่นสัญญาณจาก Wireless Router ได้ดียิ่งขึ้น
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
110
5. เพิ่มรัศมีการรับสง่สัญญาณด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ Access Point เพิ่มเติม
ส าหรับท่านที่มีปัญหาไม่สามารถเคลื่อนย้าย Wireless Router จากต าแหน่งเดิมได้ และประสบปัญหาคลื่นสัญญาณอ่อน ขอแนะน าให้ติดตั้งอุปกรณ์ Access Point เพิ่มเติมอีกหนึ่งจุด ซึ่งเหมือนกับการเพิ่มระยะการรับส่งสัญญาณไปอีกอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว และนอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มไปในจุดต่างๆ ได้มากจุดเท่าที่คุณต้องการได้อีกด้วย โดยให้ตั้งต าแหน่งที่เป็นจุดกึ่งกลางของบริเวณที่คุณต้องการขยายรัศมีการรับส่งสัญญาณออกไป
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
111
5. เพิ่มรัศมีการรับสง่สัญญาณด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ Access Point เพิ่มเติม (ต่อ)
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
112
6. เปลี่ยนคลื่นความถี่ในการส่งสัญญาณไร้สายของตัว Wireless Router
โดยปกติ Wireless Router จะมีส่วนของ Wireless Channel ให้ทดลอง
ปรับเปลี่ยนได้อยู่แล้ว ให้คุณเข้าไปปรับค่าในส่วนนี้ เพื่อให้ค้นหาคลื่น
ความถี่ที่ดีที่สุดของคุณ
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
113
6. เปลี่ยนคลื่นความถี่ในการสง่สัญญาณไร้สายของตัว Wireless Router (ต่อ)
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
114
7. พยายามลดคลื่นรบกวนการรับส่งสัญญาณไร้สายให้มากที่สุดอีกปัจจัยหนึ่งที่ท าให้ประสิทธิภาพในการรับส่งสัญญาณไร้สายลดลงก็คือ การมีคลื่นรบกวนจากอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านที่มีการปล่อยคลื่นความถี่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเตาไมโครเวฟ, โทรทัศน์รวมไปถึงเครื่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม โดยเฉพาะอุปกรณ์ไร้สายอย่างเช่นโทรศัพท์ไร้สาย ที่ใช้ระดับคลื่นความถี่ที่ 2.4 GHz ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ Wireless Router จะสร้างคลื่นรบกวนให้การรับส่งสัญญาณเป็นอย่างมาก จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ ที่ใช้คลื่นความถี่ระดับเดียวกันนี้ภายในบ้าน
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
115
8. อัพเดทเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์ของอุปกรณ์ไร้สายของคุณให้ใหม่สุดโดยทั่วไปบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไร้สายจะมีการอัพเดทเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์ส าหรับอุปกรณ์ของตัวเองอยู่เป็นระยะๆ อยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับปรุงการท างานของตัวเครื่องและรองรับการท างานร่วมกับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์ใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในบางครั้งการอัพเดทยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการท างานให้มากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย ผมจึงขอแนะน าให้คุณเข้าไปดูเว็บของบริษัทผู้ผลิตเป็นระยะๆ หากพบว่ามีอัพเดทใหม่ให้คุณ Download มาติดตั้งทันที เพื่อให้คุณสามารถใช้งานระบบ Wireless Network ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
116
9. พยายามเลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ที่ใช้ร่วมกันจากผู้ผลิตรายเดียวกันถ้าใช้อุปกรณ์จากผู้ผลิตรายเดียวกันจะท าให้ประสิทธิภาพการงานท าโดยร่วมของระบบ Wireless Network ของคุณจะดีขึ้น ซึ่งก็เป็นจริงอย่างนั้นจริงๆ ด้วย เพราะถึงแม้แต่ละบริษัทผู้ผลิตจะผลิตอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานเดียวกันและสามารถท างานร่วมกันได้จริง แต่ในบางครั้งบริษัทผู้ผลิตได้มีการเพิ่มเติมเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะของตัวเองเข้าไป ซึ่งจะท าใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดหากใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มาจากผู้ผลิตรายเดียวกัน การเลือกซ้ืออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ จากผู้ผลิตเดียวกันจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
117
10. เลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11g หรือดีกว่าให้คุณเลือกซื้ออุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11g เป็นอย่างน้อย ซึ่งมีรัศมีและความเร็วในการรับส่งสัญญาณสูงกว่ามาตรฐานเดิมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าให้ดีที่สุดควรเลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11n ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีความเร็วในการรับส่งสัญญาณได้มากกว่ามาตรฐาน 802.11g ถึง 5 เท่าตัว และที่ส าคัญสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานเก่าได้อีกด้วย
10 ค าแนะน าการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้าน
118
จบแล้วครับ