16
โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน

โปรแกรมย อยและฟ งก_ช_นมาตรฐาน

Embed Size (px)

Citation preview

โปรแกรมย่อยและฟังก์ชันมาตรฐาน

การสร้างและใช้งานโปรแกรมย่อย

การแยกโปรแกรมยอ่ยออกเป็นส่วนยอ่ยๆมีประโยชน์ดงันี�1. ลดความซํ�าซอ้นในการเขียนโปรแกรมในส่วนที$ทาํงานอยา่ง

เดียวกนั 2. ช่วยใหท้าํความเขา้ใจโปรแกรมไดง้่าย เพราะมีการแบ่งเป็น

ส่วนยอ่ยๆ3. ทาํใหส้ามารถแกไ้ขและเพิ$มเติมการทาํงานของโปรแกรมไดง้่ายขึ�น4. ช่วยใหน้าํโปรแกรมที$สร้างไปใชง้านในโปรแกรมอื$นไดถ้า้ใน

โปรแกรมนั�นตอ้งการฟังกช์นัในการทาํงานที$เหมือนกนั

โปรแกรมย่อยที�ใช้งานอยู่ใน VB.NET มอียู่ 2 ประเภทคอื-โปรแกรมยอ่ย SUB -โปรแกรมยอ่ย FUNCTION

โปรแกรมย่อยชนิด SUB เป็นโปรแกรมยอ่ยที$ถูกสร้างขึ�นมาท างานโดยที$อาจจะรับหรือไม่มีการรับค่าพารามิเตอร์มาทาํงานกไ็ด ้แต่จะไม่มีการส่งผลการทาํงานกลบัไปยงัโปรแกรมที$เรียกใชง้านซบัรูทีนนี� มีรูปแบบในการเขียน SUB ดงันี�

โปรแกรมย่อย Function เ เป็นโปรแกรมยอ่ยที$ถูกสร้างขึ�นมาทาํงานโดยที$อาจจะรับหรือไม่มีการรับค่าพารามิเตอร์มาทาํงานกไ็ด ้และเมื$อทาํงานเสร็จแลว้จะมีการส่งผลการทาํงานกลบัไปยงัโปรแกรมที$เรียกใชง้านฟังกช์ั$นนี� มีรูปแบบในการเขียน Sub ดงันี�

การสร้างโปรแกรมย่อย1.พิมพส์่วนหวัของโปรแกรมยอ่ยลงในหนา้ต่าง CODE

EDITOR จากนั�นกด ENTER

2.จะปรากฏขอ้ความ END SUB ของโปรแกรมยอ่ยนั�น จากนั�นพิมพค์าํสั$งสร้างโปรแกรมยอ่ย

การแสดงหรือแก้ไขคาํสั�งที�อยู่ในโปรแกรมย่อย1.เลือกคลาสที$จะประกาศโปรแกรมยอ่ย จากรายการ OBJECT

LISTBOX (เลือก MODULE1)2.เลือกชื$อโปรแกรมยอ่ยที$ตอ้งการ จากรายการ PROCEDURE

LISTBOX (เลือก MYFUNCTION)3.VB.NET จะแสดงโปรแกรมยอ่ยที$เลือก

ฟังก์ชันมาตรฐาน (STANDARD FUNCTIONS) 1.ฟังก์ชันทางคณติศาสตร์ (MATHEMATIC FUNCTIONS) 2. ฟังก์ชันเกี�ยวกบัตัวอกัษร (CHARACTER FUNCTIONS) 3. ฟังก์ชันเกี�ยวกบัสตริง (STRING FUNCTIONS) 4 .ฟังก์ชันทั�วไปที�ใช้งานบ่อย ๆ

1.1 ฟังก์ชันทางคณติศาสตร์ (MATHEMATIC FUNCTIONS) เป็นฟังกช์นัที$ใชส้าํหรับการคาํนวณทางคณิตศาสตร์ และ

ก่อนที$จะใชฟ้ังกช์นัประเภทนี� จะตอ้งใชค้าํสั$ง #INCLUDE แทรกอยูต่อนตน้ของโปรแกรม และตวัแปรที$จะใชฟ้ังกช์นัประเภทนี�จะตอ้งมีชนิด (TYPE) เป็น DOUBLE เนื$องจากผลลพัธ์ที$ไดจ้ากฟังกช์นัประเภทนี�จะไดค้่าส่งกลบัของขอ้มูลเป็น DOUBLE เช่นกนั

ฟังก์ชันทางคณติศาสตร์ที�ควรทราบ มีดงันีK ACOS(X) ASIN(X) ATAN(X)

SIN(X) COS(X) TAN(X)

SQRT(X) EXP(X) POW(X,Y)

LOG(X) LOG10(X) CEIL(X)

FLOOR(X) FABS(X)

1.2 ฟังก์ชันเกี�ยวกบัตวัอกัษร (CHARACTER FUNCTIONS) เป็นฟังกช์นัที$ใชก้บัขอ้มูลที$มีชนิดเป็น SINGLE CHAR (ใช้

เนื�อที$ 1 BYTE) เท่านั�น และก่อนที$จะใชฟ้ังกช์นัประเภทนี�จะตอ้งใชค้าํสั$ง #INCLUDE แทรกอยูต่อนตน้ของโปรแกรม จึงจะสามารถเรียกใชฟ้ังกช์นัประเภทนี�ได้

ฟังก์ชันที�เกี�ยวกบัตวัอกัษรที�ควรทราบ มดีงันีK

ISALNUM(CH) ISALPHA(CH)

ISLOWER(CH) ISUPPER(CH)

TOLOWER(CH) TOUPPER(CH)

ISSPACE(CH) ISXDIGIT(CH)

ISDIGIT(CH)

1.3 ฟังก์ชันเกี�ยวกบัสตริง (string functions) เป็นฟังกช์นัที$ใชก้บัขอ้มูลชนิดสตริง (string) โดยก่อนที$จะใชฟ้ังกช์นั

ประเภทนี�จะตอ้งใชค้าํสั$ง #include แทรกอยูต่อนตน้ของโปรแกรมเสียก่อน จึงจะเรียกใชฟ้ังกช์นัประเภทนี�ได้ ฟังกช์นัที$เกี$ยวขอ้งกบัสตริงที$ควรทราบ มีดงันี� strlen(s) strcmp(s1,s2)

strcpy(s) trcat(s1,s2)

1.4 ฟังก์ชันทั�วไปที�ใช้งานบ่อย ๆ 1) ฟังกช์นั CLRSCR( ) 2) ฟังกช์นั GOTOXY(X,Y) 3) ฟังกช์นั CLREOL( ) 4) ฟังกช์นั ATOL(S)

จดัทาํโดยนายสุภชัชา เกา้ลิ�ม เลขที$ 13นางสาว ทรรศพร จิตนิยม เลขที$ 19นางสาว ศรินยา เสมแกว้ เลขที$ 20นางสาว ศกลวรรณ ไพศาขมาศ เลขที$ 21นางสาว สุดารัตน ์ อาจคิดการ เลขที$ 22นางสาว ปุณยนุช แซ่แต ้ เลขที$ 24นางสาว วาสินี ลดัดากลุ เลขที$ 27