Upload
gtrping
View
172
Download
0
Embed Size (px)
DESCRIPTION
สอวน ค่าย1
Citation preview
1
ทฤษฎบีทที�ควรทราบ ทฤษฎีเกี�ยวกับการแปลงทางเรขาคณติ
การแปลงทางเรขาคณิตเชน่ การเลื�อนทางขนาน การสะท้อน และการหมนุ จะไมส่ง่ผลตอ่รูปเรขาคณิต
เดิม กลา่วคือภาพที�ได้จากการเลื�อนทางขนาน การสะท้อน และการหมนุ จะเท่ากนัทกุประการกบัภาพต้นแบบ
ทฤษฎเีกี�ยวกับเส้นขนาน 1 ถ้าเส้นตรงสองเส้นตดักนัแล้ว มมุตรงข้ามจะมีขนาดเท่ากนั
2 ถ้าเส้นตรงเส้นหนึ�งตดักบัเส้นตรงคูข่นานแล้ว
2.1 มมุแย้งที�เกิดขึ �นจะมีขนาดเท่ากนั
2.2 มมุภายในที�อยู่บนด้านเดียวกนัของเส้นตดั รวมเป็น 180 องศา
2.3 มมุภายนอกและมมุภายในบนข้างเดียวกนัของเส้นตดัที�ไมใ่ช ่
มมุประชิด มีขนาดเท่ากนั
ทฤษฎบีทเกี�ยวกับรูปสามเหลี�ยม สมบัติพื �นฐานของรูปสามเหลี�ยม
1. มมุภายในรูปสามเหลี�ยมดๆ รวมกนัได้ 180 องศา
2. รูปสามเหลี�ยมที�มีมมุเท่ากนัสองมมุ ก็ตอ่เมื�อ มีด้านที�อยู่ตรงข้ามมมุสองมมุนั �นยาวเท่ากนั
3. ถ้าตอ่ด้านใดด้านหนึ�งของรูปสามเหลี�ยมให้ยาวออกไป มมุภายนอกเท่ากบัผลบวกของมมุภายใน
ที�ไมใ่ช่มมุประชิด
4. มมุภายนอกรูปเหลี�ยมใดๆจะมีผลบวก เท่ากบั 360o เสมอ
5. เส้นมธัยฐานทั �งสามเส้นของรูปสามเหลี�ยมใดๆ จะตดักนัที�จดุๆเดียว จดุตดันี �จะแบ่งเส้นมธัยมฐาน
ออกเป็นอตัราสว่น 2 : 1 นบัจากจดุยอด
6. เส้นแบ่งครึ�งและตั �งฉากกบัด้านทั �งสามของรูปสามเหลี�ยมจะตดักนัที�จดุๆเดียว
และจดุนี �เป็นจดุศนูย์กลางของวงกลมที�ล้อมรอบ(แนบนอก)รูปสามเหลี�ยม
7. เส้นแบ่งครึ�งมมุภายในทั �งสามมุมมุของรูปสามเหลี�ยม จะตดักนัที�จดุๆเดียว
และจดุตดันี �เป็นจดุศนูย์กลางของวงกลมที�แนบในรูปสามเหลี�ยม
รูปประกอบทฤษฎีบท
2
สมบัตรูิปสามเหลี�ยมหน้าจั�ว รูปสามเหลี�ยมหน้าจั�ว คือ รูปสามเหลี�ยมที�มีด้านยาวเท่ากนัสองด้าน หรือมีมมุเท่ากนัสองมมุ
ข้อสรุปเกี�ยวกบัรูปสามเหลี�ยมหน้าจั�วดงันี �
1. เส้นแบ่งครึ�งมมุยอดของรูปสามเหลี�ยมหน้าจั�ว จะแบ่งรูปสามเหลี�ยม
หน้าจั�วออกเป็นรูปสามเหลี�ยมสองรูปที�เท่ากนัทกุประการ
2. เส้นแบ่งครึ�งมมุยอดของรูปสามเหลี�ยมหน้าจั�ว
จะแบ่งครึ�งและตั �งฉากกบัฐานของรูปสามเหลี�ยมหน้าจั�ว
สมบัติรูปสามเหลี�ยมด้านเท่า
รูปสามเหลี�ยมหน้าจั�ว คือ รูปสามเหลี�ยมที�มีด้านยาวเท่ากนัทกุด้านด้าน หรือมีมมุเท่ากนัทกุมมุ
มมุละ 60 องศา และมีสมบตัิเหมือนกบัสามเหลี�ยมหน้าจั�วด้วย
ความเท่ากันทุกประการของรูปสามเหลี�ยม รูปสามเหลี�ยมสองรูปใดๆเท่ากนัทกุประการ ก็ตอ่เมื�อ สามเหลี�ยมสองรูปนั �น
1. มีด้านยาวเท่ากนัสองคูแ่ละมมุระหวา่งด้านคูที่�ยาวเท่ากนัมีขนาดเท่ากนั (ด.ม.ด.)
2. มีมมุขนาดเท่ากนัสองคู ่ และด้านซึ�งเป็นแขนร่วมของมมุทั �งสองนั �น มีความยาวเท่ากนั (ม.ด.ม.)
3. สามเหลี�ยมสองรูปนั �น มีด้านที�ความยาวเท่ากนั 3 คู ่ (ด.ด.ด.)
4. สามเหลี�ยมสองรูปนั �น มีมมุขนาดเท่ากนัสองคู ่ และมีด้านยาวเท่ากนัหนึ�งคู ่(ม.ม.ด.)
5. สามเหลี�ยมมมุฉาก 2 รูป มีด้านตรงข้ามมมุฉากยาวเท่ากนั และมีด้านหนึ�งยาวเท่ากนั (ฉ.ด.ด.)
ความคล้ายของรูปสามเหลี�ยม รูปสามเหลี�ยมสองรูปคล้ายกนัก็ตอ่เมื�อ รูปสามเหลี�ยมมีมมุที�เท่ากนัเป็นคูท่ั �งสามคู ่มีสมบตัิดงันี �
1. อตัราสว่นของความยาวของด้านคูที่�อยู่ตรงข้ามมมุที�ขนาดเท่ากนั(ด้านสมนยั)จะเท่ากนั
2. ถ้าอตัราสว่นความยาวด้านที�สมนยักนัของรูปสามเหลี�ยมสองรูปที�คล้ายกนั เท่ากบั k
แล้วอตัราสว่นของความสงูของรูปสามเหลี�ยมทั �งสองรูปนั �น เท่ากบั k
และอตัราสว่นของพื �นที�รูปสามเหลี�ยมทั �งสองรูปนั �น เท่ากบั 2k
3. ถ้าอตัราสว่นความยาวด้านที�สมนยักนัของรูปเรขาคณิตสองรูปที�คล้ายกนั เท่ากบั k
แล้วอตัราสว่นของพื �นที�รูปเรขาคณิตทั �งสองรูปนั �น เทา่กบั 2k
4. เส้นเชื�อมตอ่จดุกึ�งกลาง 2 ด้านของสามเหลี�ยมใดๆ ย่อมขนานกบัด้านที�สาม
และยาวเป็นครึ�งหนึ�งของด้านที�สามด้วย
3
ทฤษฎบีทอื�นๆที�เกี�ยวกับสามเหลี�ยม 1. พื �นที�ของสามเหลี�ยมที�อยู่บนฐานเดียวกนักบัสี�เหลี�ยมด้านขนานและมีสว่นสงูเท่ากนั
ย่อมมีพื �นที�เป็นครึ�งหนึ�งของสี�เหลี�ยมด้านขนาน
2. ในรูปสามเหลี�ยมหนึ�งใดๆ จะได้ความสมัพนัธ์ระหวา่งอตัราสว่นของพื �นที�และอตัราสว่นของ
ความยาวฐาน ดงัรูป
3. ทฤษฎีบทปีทาโกรัส : 2 2 2a b c
4. จากรูป 2 2 2 2a b 2d 2m
ทฤษฎบีทเกี�ยวกับรูปสี�เหลี�ยม 1 ผลบวกขนาดของมมุภายในของรูปสี�เหลี�ยมใดๆ จะเท่ากบั 360 องศา
2. รูปสี�เหลี�ยมด้านขนานด้านตรงข้ามของรูปสี�เหลี�ยมด้านขนานยาวเท่ากนั
และมมุภายในที�อยูต่รงมีขนาดเท่ากนั
3. ถ้ารูปสี�เหลี�ยมรูปหนึ�งมีด้านตรงข้ามยาวเท่ากนัสองคู ่หรือ มีมมุตรงข้ามที�มีขนาดเท่ากนัสองคู ่
แล้ว รูปสี�เหลี�ยมนี �จะเป็นรูปสี�เหลี�ยมด้านขนาน
4. เส้นทแยงมมุของรูปสี�เหลี�ยมด้านขนานตดัแบ่งครึ�งซึ�งกนัและกนั
5. เส้นทแยงมมุของรูปสี�เหลี�ยมมมุฉากยาวเท่ากนั
6. เส้นทแยงมมุของรูปสี�เหลี�ยมจตัรุัสและรูปสี�เหลี�ยมขนมเปียกปนูตดักนัเป็นมมุฉาก
ทฤษฎีบทเกี�ยวกับรูปหลายเหลี�ยม
1. ผลบวกมมุภายในรูป n เหลี�ยมหาจากสตูร (n – 2)180 องศา
2. ขนาดของมมุภายในรูป n เหลี�ยมด้านเท่ามมุเท่า เทา่กบั (n 2) 180
n
องศา
3. ผลบวกของมมุภายนอกรูป n เหลี�ยม เท่ากบั 360 องศา
4. จํานวนเส้นทแยงมมุของรูป n เหลี�ยม n(n 3)
2
เส้น
จากรูปฐานแบ่งเป็นอตัราสว่น a : b
ทําให้พื �นที� : พื �นที� = a : b
a b
a
b
c
a bd
|m
|m
4
ทฤษฎบีทเกี�ยวกับวงกลม
1 ในวงกลมวงหนึ�งมมุที�จดุศนูย์กลางจะมีขนาดเป็นสองเท่าของขนาด
ของมมุในสว่นโค้งของวงกลมซึ�งรองรับด้วยสว่นโค้งเดียวกนั
2 ในวงกลมวงหนึ�งมมุในสว่นโค้งของวงกลมที�รองรับด้วนสว่นโค้ง
เดียวกนัหรือมีความยาวเท่ากนั มีขนาดของมมุเท่ากนั
3 ในวงกลมวงหนึ�งมมุในครึ�งวงกลมมีขนาด 90 องศาหรือหนึ�งมมุฉาก
ดงันั �น วงกลมที�มีรูปสามเหลี�ยมมมุฉากแนบใน
มีจศุนูย์กลางอยู่ที�จดุกึ�งกลางด้านตรงข้ามมุฉาก
4. ในวงกลมวงหนึ�งหรือวงกลมที�เท่ากนัสว่นโค้งที�อยู่ตรงข้ามกบัมมุที�ม ี
ขนาดเท่ากนัไมว่า่จะเป็นมมุที�จดุศนูย์กลางหรือมมุที�เส้นรอบวงก็ตาม
จะยาวเท่ากนั
5. ในวงกลมเดียวกนัหรือวงกลมที�เท่ากนั
คอร์ดที�ยาวเท่ากนัจะตดัสว่นโค้งได้ยาวเท่ากนั
6. สว่นของเส้นตรงที�ลากจากจดุศนูย์กลางของวงกลมวงหนึ�งไปยงัจดุ
กึ�งกลางของคอร์ดใดๆที�ไมใ่ชเ่ส้นผา่นศนูย์กลางของวงกลมวงนั �น
จะตั �งฉากกบัคอร์ด
7. สว่นของเส้นตรงที�แบ่งครึ�งและตั �งฉากกบัคอร์ด
จะผา่นจดุศนูย์กลางของวงกลมนั �น
8. วงกลมทั �งหลายที�ผา่นจดุสองจดุคงที� จะมีทางเดินของจดุศนูย์กลาง
เป็นเส้นตรงที�แบ่งครึ�งและตั �งฉากกบัสว่นของเส้นตรงที�ตอ่จดุทั �งสอง
นั �น(คอร์ดร่วม)
9. ในวงกลมวงหนึ�ง คอร์ดจะยาวเท่ากนั ก็ตอ่เมื�อ
อยู่ห่างจากจดุศนูย์กลางเท่ากนั
5
10. เส้นสมัผสัของวงกลมใดๆ จะตั �งฉากกบัรัศมีของวงกลมที�จดุสมัผสั
11. ถ้าลากเส้นตรงจากจดุภายนอกวงกลมมาสมัผสัวงกลม จะได้
(1) สามารถลากได้เพียงสองเส้น
(2) เส้นสมัผสัสองเส้นนั �นยาวเท่ากนั
(3) เส้นสมัผสัสองเส้นนั �นรองรับมมุที�จดุศนูย์กลางขนาดเท่ากนั
12. วงกลมสองวงสมัผสักนัภายนอกหรือภายใน จดุสมัผสัและ
จดุศนูย์กลางของวงกลมทั �งสองจะอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกนั
13. ขนาดของมมุตรงข้ามของรูปสี�เหลี�ยมใดๆ ที�แนบในวงกลมรวมกนั
จะเท่ากบัสองมมุฉาก
และมมุภายนอกจะเท่ากบัมมุภายในที�อยู่ตรงข้ามกบัมมุประชิด
14. มมุที�เกิดระหวา่งเส้นสมัผสักบัปลายคอร์ดที�จดุสมัผสัจะมีขนาดเท่ากบั
มมุในสว่นโค้งของวงกลมที�อยู่ตรงข้ามกบัคอร์ดนั �น
15. กําหนด AB เป็นเส้นสมัผสัวงกลม จากจดุ A ลากเส้นตรงตดัวงกลม
ที�จดุ D และ C จะได้วา่ 2AB AC AD
16. กําหนดให้ AB และ CD เป็นคอร์ดที�ตดักนัภายในวงกลมที�จดุ X
จะได้วา่ AX XB DX XC
17. กําหนดให้ AB และ CD เป็นคอร์ดที�ตดักนัภายนอกวงกลมที�จดุ X
จะได้วา่ AX XB DX XC
AB
C
D
X
A
B C
D
X
A
B
CD
A
B
C
DA
B
C
6
18. กําหนดให้ AD BC และ AE เป็นเส้นผา่นศนูย์กลาง
จะได้วา่ AB AC AE AD
19. กําหนด ABCD แนบในวงกลม จะได้วา่
AC BD AB CD BC AD
20. กําหนดวงกลมที�แนบในสี�เหลี�ยม ABCD
จะได้วา่ AB + CD = AD + BC
21. วงกลมที�แนบในรูปสามเหลี�ยม ABC และ r เป็นรัศมีวงกลม
จะได้วา่ r = 2 Area ABC
AB BC CA
22. วงกลมที�แนบนอกรูปสามเหลี�ยม ABC ซึ�งสมัผสัด้าน AC
และ r เป็นรัศมีวงกลม
จะได้วา่ r = 2 Area ABC
AB BC CA
23. วงกลมที�ล้อมรอบรูปสามเหลี�ยม ABC และ r เป็นรัศมีวงกลม
จะได้วา่ r = (AB)(BC)(AC)
4 Area ABC
24. วงกลมที�ล้อมรอบรูปสามเหลี�ยม ABC และ AX, BY, CZ เป็น
เส้นแบ่งครึ�งมมุ ˆ ˆ ˆA, B, C ตามลําดบั
จะได้วา่ ˆ ˆ ˆA B Cˆ ˆ ˆX 90 , Y 90 , Z 902 2 2
A
B CD
EA
B
C
DM
AB
C
D
A
B
C
O
AB
CO
A
B
CO
A
B C
X
YZ
7
พื �นที�รูปเรขาคณิต
1. พื �นที�รูปสามเหลี�ยม = 1
2 ฐาน สงู
= S(S a)(S b)(S c)
= 1
ab sin2
พื �นที�รูปสามเหลี�ยมด้านเท่า = 3
4 ด้าน2
พื �นที�รูปหกเหลี�ยมด้านเท่า = 3 3
2 ด้าน2
2. พื �นที�รูปสี�เหลี�ยมจตัรุัส = ด้าน2 = 1
2(ผลคณูของเส้นทแยงมมุ)
พื �นที�รูปสี�เหลี�ยมผืนผ้า = กว้าง ยาว
พื �นที�รูปสี�เหลี�ยมด้านขนาน = ฐาน สงู
พื �นที�รูปสี�เหลี�ยมขนมเปียกปนู = ฐาน สงู = 1
2(ผลคณูของเส้นทแยงมมุ)
พื �นที�รูปสี�เหลี�ยมคางหม ู= 1
2 (ผลบวกด้านคูข่นาน) สงู
พื �นที�รูปสี�เหลี�ยมรูปวา่ว = 1
2(ผลคณูของเส้นทแยงมมุ)
3. พื �นที�วงกลม = 2r และ เส้นรอบวงกลม = 2 r
อัตราส่วนตรีโกณมิต ิ จากรูปสามเหลี�ยมมมุฉาก ABC จะพบวา่
sin = a
c cos =
b
c tan =
a
b
cosec = c
a sec =
c
b cot =
b
a
ค่าของฟังก์ชันตรีโกณมติิที�มุมขนาดต่าง ๆ
sin = ___________
cos = ___________
tan = ___________
a b cS
2
A
B
C
a
b
c
0
6
4
2
3
0o
30o 45o
60o
90o
a
b
ch
8
ตัวอย่างแนวข้อสอบ สอวน
คาํชี �แจง : จงแสดงวิธีหาคําตอบ
1. กําหนดให้ PQR เป็นรูปสามเหลี�ยมด้านเท่า
โดยที� ˆSPR 40 และ ˆTQR 35
แล้วขนาดของมมุ ˆSXT เป็นกี�องศา
(สอวน: มอ. 2556)
P
Q RS
TX
9
2. จากรูป ABC เป็นรูปสามเหลี�ยม
CE แบ่งครึ�ง ˆACB และ BE แบ่งครึ�ง ˆABD
ถ้า ˆBAC 78 แล้วขนาดของ ˆBEC เป็นกี�องศา
(สอวน: มอ. 2556)
A
CD B
E
10
3. จากรูปมมุ ˆBEC 40 มมุ ˆAFB 30
ขนาดของมมุ ˆBCD เป็นกี�องศา
(สอวน: มอ. 2556)
AD
CB
E
F
11
4. กําหนดวงกลมดงัรูป
ถ้า AB = 18 หน่วยและ ˆACB 45
แล้วเส้นรอบวงกลมนี �เป็นเท่าใด
(สอวน: มอ. 2556)
A
C
18 B
12
5. วงกลม O มีจดุ A เป็นจดุบนเส้นรอบวงกลม AD ผา่นจดุศนูย์กลางของวงกลมตดัวงกลมที�
จดุ C และ DB สมัผสัวงกลมที�จดุ B ถ้า ˆABD 115 แล้วขนาดของมมุ ˆADB เป็นเท่าใด
(สอวน: มอ. 2556)
13
6. กําหนดให้ PQRS เป็นที�ดินรูปสี�เหลี�ยม โดยมีด้าน PS ขนานกบั RQ
มมุ ˆPSR 90 , ˆPQR 30 ด้าน PQ ยาว 20 วา ด้าน RQ ยาว 40 วา
แล้วพื �นที�สี�เหลี�ยม PQRS มีคา่เท่าใด (สอวน: มอ. 2556)
14
7. กําหนดให้ ABC เป็นรูปสามเหลี�ยมมมุฉาก และ A B C เป็นรูปสามเหลี�ยมที�เกิดจากการ
สะท้อนของรูปสามเหลี�ยม ABC ดงัรูป จงหาวา่ความยาวของสว่นของเส้นตรง BB เป็นกี�เท่า
ของสว่นของเส้นตรง AB ที�ทําให้พื �นที�แรเงาเป็นครึ�งหนึ�งของพื �นที�สามเหลี�ยม ABC
(สอวน: มอ. 2556)
A
C
BB A
C
15
8. กําหนดให้ ABC เป็นสามเหลี�ยมด้านเท่า สร้างวงกลมโดยให้ AB เป็นเส้นผา่นศนูย์กลาง
และวงกลมตดั AC และ BC ที�จดุ D และ E ตามลําดบั ถ้า AB ยาว 6 หน่วย
พื �นที�สี�เหลี�ยม ABED เป็นเท่าใด (สอวน: มอ. 2556)
16
9. สี�เหลี�ยมด้านขนาน ABCD มี E และ F เป็นจดุกึ�งกลาง CD และ AD ตามลําดบั
ลาก AE และ BF ตดักนัที�จดุ G จงหาอตัราสว่นของพื �นที� EFG ตอ่พื �นที� BCE
(สอวน: มอ. 2556)
17
10. กําหนดให้ ABC เป็นรูปสามเหลี�ยมใดๆ โดยที� BC = 3 หน่วย ให้ D เป็นจดุบนด้าน BC
และ BD = 2 หน่วย คา่ของ 2 2 2AB 2AC 3AD เป็นเท่าใด
(สอวน: มอ. 2556)
18
11. จากรูป ABCD เป็นรูปสี�เหลี�ยมจตัรุัส และ APQ เป็นรูปสามเหลี�ยมด้านเท่า
ถ้าพื �นที� ADQ 30 ตารางหน่วย จงหาพื �นที�ของ CPQ (สอวน: มอ. 2556)
(คาํถามเพิ�มเตมิ : จงหาพื �นที� ABCD และ พื �นที� APQ )
A
CB
Q
D
P
19
12. รูปสี�เหลี�ยมคางหมหูน้าจั�วมพืี �นที� 144 ตารางหน่วย ถ้าด้านคูข่นานด้านสั �นยาวเท่ากบัระยะห่าง
ของด้านคูข่นาน และด้านคูข่นานด้านยาวยาวเท่ากบัเส้นทแยงมมุ แล้วความสงูของรูปสี�เหลี�ยม
คางหมนีู �ยาวกี�หน่วย (สอวน: สก. 2556)
20
13. วงกลมรัศมี r หน่วย แนบในรูปสามเหลี�ยมหน้าจั�ว ซึ�งมมีมุหนึ�งมมุเป็นฉาก
และรูปสามเหลี�ยมหน้าจั�วนี �แนบในวงกลมอีกวงที�มีรัศมี R หน่วย
จงหาคา่ของ r
R (สอวน: สก. 2556)
21
14. AB, CD, EF เป็นคอร์ดที�ขนานกนั และอยู่ด้านเดียวกนัของจดุศนูย์กลางของวงกลมวงหนึ�ง
ถ้าระยะระหวา่งคอร์ด AB กบั CD เท่ากบัระยะห่างงระหวา่งคอร์ด CD กบั EF
และความยาวของคอร์ดทั �งสาม เท่ากบั 20, 16 และ 8 หน่วย ตามลําดบั
แล้วความยาวของเส้นผา่นศนูย์กลางของวงกลมนี �เท่ากบักี�หน่วย (สอวน: สก. 2556)
22
15. P เป็นจดุภายนอกวงกลม O สว่นของเส้นตรง PA, PB สมัผสัวงกลมที�จดุ A, B
ตอ่ PB เลยไปพบสว่นตอ่ของเส้นผา่นศนูย์กลาง AC ที�จดุ D ถ้าความยาวของ CD และ BD
เท่ากบั 92
และ 15
2 หน่วยตามลําดบั แล้วพื �นที�ของรูปสามเหลี�ยม PAD เท่ากบักี�ตารางหน่วย
(สอวน: สก. 2556)
23
16. ในสามเหลี�ยม ABC มีมมุยอด A กาง 120 องศา OB และ OC เป็นเส้นแบ่งครึ�งมมุ B
และ C พบกนัที�จดุ O ดงันั �น มมุ BOC กางกี�องศา
24
17. ในสามเหลี�ยม ABC เส้นแบ่งครึ�งมมุ A พบฐานที�จดุ D, AE เป็นเส้นตั �งฉากพบฐานที� E
ปรากฏวา่มมุ B กาง 42 องศา มมุ C กาง 65 องศา ดงันั �นมมุ DAE เท่ากบักี�องศา
25
18. ใน ABC , XY // BC และพื �นที�ของ AXY เท่ากบั 8 ตารางหน่วย พื �นที�
BXY เท่ากบั 12 ตารางหน่วย จงหาพื �นที� YBC
B
A
C
X Y
26
19. จากรูปจงหาผลบวกของมมุ 1, 2, 3, 4, 5 และ 6
1
2
3
4
5
6
27
20. จากรูป PQR; PQ = PR และ PS = QS = QR ดงันั �นมมุ QPR กางกี�องศา
P
Q R
S
28
21. ใน ABC, A = 62o, B = 48o PQR เป็นสามเหลี�ยมใน ABC ที�ทําให้ oBAQ PBC RCA 20 ดงัรูป จงหามมุ P, Q, R ซึ�งเป็นมมุภายในรูป PQR
A
B C
P
Q
R
29
ตัวอย่างข้อสอบคดัเลือกการแข่งขันคณติศาสตร์โอลมิปิก
1. จากรูป ถ้า AD = DF = FB และ EG = 2AE = 2GC แล้ว พื �นที�ของรูปสี�เหลี�ยม BFGC
เป็นกี�เท่าของพื �นที�ของรูปสามเหลี�ยม ADE
C
A
B
D E
G F
30
2. จากรูป ถ้า AB = 2 หน่วย AD = BC = 3 หน่วย และ AC = 4 หน่วย แล้ว CD มีคา่เท่าไร
A B
C D
31
3. จากรูป AB = CD ; E, F และ G เป็นจดุกึ�งกลางด้าน AD, BC และ AC ตามลําดบั oBAC 88 , oDCA 42 จะได้ E F G มีขนาดกี�องศา
A
B C
D E
F
G
32
4. จากรูป AD แบ่งครึ�งมมุ ˆBAC ตอ่ BC ออกไปถึงจดุ E H เป็นจดุบน AB
ซึ�ง EH ตดักบั AD และ AC ที�จดุ G และ F ตามลําดบั ถ้า ˆAGH 90
และ ˆABC มีขนาดเลก็กวา่ ˆBCA 30 องศา แล้วขนาดของมมุ ˆBEF เท่ากบักี�องศา
A
BCD E
FG
H
33
5. จากรูป ABCD เป็นรูปสี�เหลี�ยมด้านขนาน E และ F เป็นจดุบน AB และ CD ตามลําดบั โดยที�
EF ขนานกบั BC และ EF ตดักบั AC ที�จดุ G ถ้าอตัราสว่นของพื �นที�รูปสามเหลี�ยม AEG ตอ่
พื �นที�รูปสี�เหลี�ยม ABCD เท่ากบั 1 ตอ่ 18 แล้วอตัราสว่นของพื �นที�รูปสี�เหลี�ยม AGFD ตอ่พื �นที�รูป
สี�เหลี�ยม BCGE เท่ากบัเท่าไร
AB
C DF
G
E
34
6. ให้ ABC เป็นรูปสามเหลี�ยมมมุฉาก ซึ�งมี ˆBAC เป็นมมุฉาก จากจดุ A ลาก AD ไปตั �งฉากกบั
BC ที�จดุ D และจากจดุ D ลาก DE ไปตั �งฉากกบั AC ที�จดุ E ถา BD และ DC ยาว 4 และ 9
หน่วย ตามลําดบั แล้ว 2 2(EC) (AE) เท่ากบัเท่าใด
A
B
C
D
E
35
7. จากรูป ABC เป็นรูปสามเหลี�ยม มีด้าน AC ยาว 10 หนว่ย ˆACB มีขนาด 75 องศา D เป็นจดุ
กึ�งกลางของ AC และ E เป็นจดุบน BC ที�อยู่ห่างจากจดุ A น้อยที�สดุ ถ้ารูปสามเหลี�ยม ABC มี
พื �นที� 37.5 ตารางหน่วย แล้วอตัราสว่นของความยาวของ BE ตอ่ความยาวของ CE เท่ากบัเท่าใด
A
B
CD
E
36
8. จากรูป ABC เป็นรูปสามเหลี�ยม DE ขนานกบั BC ลาก CD และ BE ตดักนัที�จดุ F ลาก
DG ขนานกบั AC พบ BF ที�จดุ G ถ้าพื �นที�สามเหลี�ยม ABC เท่ากบั 9 เท่าของพื �นที�สามเหลี�ยม
ADE แล้วพื �นที�ของสามเหลี�ยม ABC เท่ากบักี�เท่าของพื �นที�สามเหลี�ยม DGF
A
B C
D
FG
E
37
9. สามเหลี�ยม ABC เป็นสามเหลี�ยมด้านเท่า จดุ D และจดุ E อยู่บนด้าน AC และ AB ตามลําดบั
ทําให้ CD = AE ตอ่ BD และ CE ตดักนัที�จดุ X แล้วขนาดของมมุ BXC เท่ากบักี�องศา
A
BC
D
X E
38
10. จากรูป ABCD เป็นรูปสี�เหลี�ยมด้านขนานที�มพืี �นที�เท่ากบั 60 ตารางนิ �ว จดุ E อยู่บนด้าน AB
ลาก CE ตดั DB ที�จดุ F ทําให้ AE : EB = 1 : 2 และ EF : FC = 2 : 3
แล้วพื �นที�สามเหลี�ยม COF เท่ากบักี�ตารางหน่วย
A B
CD
F
E
O
39
11. จากรูป AD = BE = 20 เมตร และ DE = EC โดย DA , FE และ CB ตั �งฉากกบั AB
ถ้าสามเหลี�ยม DEC มีพื �นที� 1,352 ตารางหน่วย แล้ว EF ยาวกี�หน่วย
A B
C
D
F
E
40
12. ให้ ABCD เป็นสี�เหลี�ยมคางหม ูมีด้าน AB ขนานกบัด้าน DC มีมมุ ADC เป็นมมุฉาก
และเส้นทแยงมมุ AC และ BD ตดัตั �งฉากกนั ถ้า AB = 2 เซนติเมตร DC = 8 เซนติเมตร
แล้วความยาว BD เท่ากบักี�เซนตเิมตร
A B
CD
2
E
8
41
13. จากรูป AB และ AC เป็นคอร์ดที�ยาวเท่ากนัของวงกลม ที�มีจดุ O เป็นจดุศนูย์กลาง
และมีรัศมียาว 8 หน่วย ถ้า ˆBAC มีขนาด 45 องศา แล้วพื �นที�แรเงาเท่ากบักี�ตารางหน่วย
A
B C
O
42
14. จากรูป AB และ AC เป็นคอร์ดที�ยาวเท่ากนัของวงกลม ที�มีจดุ O เป็นจดุศนูย์กลาง
และมีรัศมียาว 2 หน่วย ถ้า ˆACB มีขนาด 75 องศา แล้วพื �นที�แรเงาเท่ากบักี�ตารางหน่วย
A
B C
O
43
15. สามเหลี�ยม ABC เป็นสามเหลี�ยมหน้าจั�ว มี AB = AC มีวงกลมแนบในสามเหลี�ยม ลาก DE
สมัผสัวงกลมและขนานกบั BC ถ้า DE ยาว 18 นิ �ว และ BC ยาว 50 นิ �ว แล้วรัศมีของวงกลม
แนบในสามเหลี�ยมยาวกี�นิ �ว
A
B C
D E
44
16. จากรูป AOC เป็นเส้นผา่นศนูย์กลางของวงกลม AB เป็นคอร์ด BD เป็นเส้นสมัผสัวงกลมที�จดุ B
พบ AC ที�ตอ่ออกไปที�จดุ D ลาก DE ตั �งฉากกบั AD พบ AB ที�ตอ่ออกไปที�จดุ E
ถ้า AB = CD = 8 เซนตเิมตร และ BC = 6 เซนตเิมตร แล้ว DE ยาวกี�เซนติเมตร
A B
C
D
E
O5
56
8
8
45
17. วงกลม 2 วงตดักนัที�จดุ M และ N จดุ A เป็นจดุบนวงกลมเลก็ ตอ่ AM และ AN ไปพบเส้นรอบ
วงกลมใหญ่ที�จดุ B และ C ตามลําดบั PAQ เป็นเส้นสมัผสัวงกลมเลก็ที�จดุ A ถ้า ˆMAP 75
และผลตา่งระหวา่งมมุ B และมมุ C เท่ากบั 25 แล้วขนาดของมมุ MAN เท่ากบักี�องศา
A
B
C
P
N
M
Q
46
18. AB และ AC สมัผสัวงกลม O ที�จดุ B และจดุ C ทําให้ ˆBAC 64 ที�จดุ D เป็นจดุบนสว่นโค้ง
ใหญ่ BC และ E เป็นจดุกึ�งกลางสว่นโค้งเลก็ BC แล้วมมุ OBE มีขนาดโตกวา่มมุ BDC กี�องศา
A
B
C
D O E
47
19. จากรูป EX แบ่งครึ�งมมุ AEB และ FX แบ่งครึ�งมมุ AFD ถ้ามมุ BAD เท่ากบั 40 องศา และมมุ
ADC เท่ากบั 120 องศา แล้วขนาดของมมุ EXF เท่ากบักี�องศา
A B
CD
F
E
X
48
20. สามเหลี�ยม ABC มีมมุ BAC เท่ากบั 2 เท่าของมมุ ABC วงกลม O แนบนอกสามเหลี�ยม ABC
โดยสมัผสัด้าน BC และ AB, AC ที�ตอ่ออกไป ลาก AO ตดัด้าน BC ที�จดุ P กําหนดให้ AP
เท่ากบั 3 เซนตเิมตร และ AB เท่ากบั 5 เซนตเิมตร ความยาวของ AO เท่ากบัเท่าใด
A
B CP
O
49
21. สามเหลี�ยม ABC และสามเหลี�ยม DEF เป็นสามเหลี�ยมด้านเท่าที�แนบในวงกลม
โดย BC ขนานกบั EF ถ้าวงกลมมีเส้นผา่นศนูย์กลางยาว 6 หนว่ย แล้วพื �นที�แรเงาเท่ากบัเท่าใด
A
B C
D
EF
50
22. ให้ ABC เป็นสามเหลี�ยมหน้าจั�วมมุฉาก โดยมีมมุ ACB เป็นมมุฉาก และด้าน AC ยาวเท่ากบัด้าน
CB ลาก CO ตั �งฉากกบั AB ที�จดุ O สร้างวงกลมโดยใช้ C เป็นจดุศนูย์กลางรศัมี CA และสร้าง
วงกลมโดยใช้ O เป็นจดุศนูย์กลางรศัมี OC เกิดพื �นที�แรเงาดงัรูป ถ้า AB ยาว 2 2 หน่วย
แล้วสว่นแรเงามีพื �นที�กี�ตารางหน่วย
A
B
CO
51
23. กําหนดให้ ABC เป็นสามเหลี�ยมหน้าจั�ว โดยที� ˆBAC 120 มี AB = AC ลาก BD พบกบั AC
ที�จดุ D ถ้าเส้นตรง BD ผา่นจดุศนูย์กลางของวงกลมที�แนบในสามเหลี�ยม ABC แล้วอตัราสว่นของ
AD ตอ่ DC เท่ากบัเท่าใด
A
B C
D
52
24. จากรูป ให้สี�เหลี�ยมABCD เป็นสี�เหลี�ยมมมุฉาก มีจดุ E, G, F และ H เป็นจดุที�แบ่งครึ�งด้าน AB,
BC, AD และ FE ตามลําดบั จงหาอตัราสว่นระหวา่งพื �นที�แรเงากบัพื �นที�ไมแ่รเงา
A B
CD
H
F G
E
53
25. จากรูป กําหนดให้ ABCD เป็นรูปสี�เหลี�ยมผนืผ้า ให้ P เป็นจดุใดๆ บน AB
โดย PS BD, PR AC , AF BD และ PQ AF
แล้ว PR + PS เท่ากบัความยาวเท่ากบัสว่นของเส้นตรงใด (ตอบในรูปตวัแปร)
A B
CD
P
E
F
Q RS
T
54
26. กําหนดให้ AC , CD และ AE เป็นเส้นสมัผสัวงกลมของวงกลม O ที�จดุ B จดุ D และจดุ E
ตามลําดบั โดยมีวงกลมเลก็อีกสองวงสมัผสักนัภายนอก และสมัผสัภายในกบัวงกลม O
ถ้าวงกลมขนาดเลก็สดุรัศมี r จงหาคา่ของ 2
(AB)(BC)
r (สอวน: มน. 2556)
C
D
A
B
E O
r
55
27. กําหนดให้ ABC เป็นสามเหลี�ยม โดยมจีดุ O เป็นจดุศนูย์กลางของวงกลมที�ล้อมรอบจดุ A, B และ C
โดยที� CD เป็นเส้นแบ่งครึ�งมมุ ˆACB จากจดุ C ลากเส้นตั �งฉากกบั AB และไปตดักบัเส้นตรงที�ลาก
ผา่นจดุ OD ที�จดุ E ซึ�งอยู่บนเส้นรอบวงกลมที�ผา่นจดุ A, O และ B
แล้วขนาดของมมุ ˆACB เท่ากบักี�องศา
C
DA B
E
O
56
28. จากรูป จงหาขนาดของมมุ ˆHDG
A
B
CD
EF
G
H
57
29. กําหนดรูปสามเหลี�ยม ABC โดยที�มมุ B มีขนาด 80 องศา มีวงกลม O แนบในรูปสามเหลี�ยม ABC
โดย BC และ AC สมัผสัวงกลมที�จดุ D และ E ตามลําดบั ตอ่ BO ไปตดั DE จดุ P
จงหาขนาดของมมุ APB (สอวน : มข 2556)
P
E
D
O
A B
C
58
30. ให้ ABCD เป็นสี�เหลี�ยม มเีส้นทแยงมมุ AC และ BD ตดักนัที�จดุ E
ถ้า AB = BE = 5 , CD = CE = 7 และ BC = 11 จงหาความยาวของ AE
(สอวน : มช 2556)