วิชา ง30210 คอมพิวเตอร์บูรณาการ

ม.6/1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2559

ม.กรวิชญ ์ โสภา / มิสนงลักษณ์ สีนิลแท้

What is STEM?

STEM stands for Science, Technology,

Engineering and Mathematics, it is the way to

integrate 4 majors to education

- Science

- Technology

- Engineering

- Mathematics

Objective

Students can integrate any field of

knowledge to solve the problem and create

innovation for use in everyday life.

Science เป็นวิชาที่ว่าด้วยการศึกษา

ปรากฏการณ์ต่างๆ ในธรรมชาติ โดยอาศัย

ก ร ะ บ ว น ก า ร สื บ เ ส า ะ ท า ง วิ ท ย า ศ า ส ต ร์

(Scientific Inquiry)

Technology เป็นวิชาที่ว่าด้วย

กระบวนการท างานที่มีการประยุกต์ศาสตร์สาขา

อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการแก้ปัญหา ปรับปรุง

แก้ไขหรือพัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่อตอบสนองความ

ต้องการ หรือความจ าเป็นของมนุษย์

Engineering เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการ

สร้างสรรค์นวัตกรรมหรือสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อมา

อ านวยความสะดวกของมนุษย์ โดยอาศัยความรู้

ด้ า น วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ค ณิ ต ศ า ส ต ร์ แ ล ะ

กระบวนการทางเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้

สร้างสรรค์ชิ้นงานนั้นๆ

Mathematics เป็นวิชาที่ว่าด้วย

การศึกษาเกี่ยวกับการค านวณ หรือ วิชาที่

เกี่ ยวกับการค านวณ เป็นพื้ นฐานส าคัญใน

การศึกษาและต่อยอดทางวิศวกรรมศาสตร์

โครงงานคอมพิวเตอร์

โครงงาน คือ ภาระงาน ชิ้นงาน หรือกิจกรรมอิสระที่ผู้ท า

โครงงานเลือกศึกษาหรือด าเนินการตามความสนใจ ซึ่งต้อง

อาศัยความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ของตนเอง โดยน า

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการอื่นๆ เข้ามาใช้ใน

การหาค าตอบ หรือแก้ปัญหาเรื่องนั้นๆ ซึ่งผู้ท าโครงงานจะต้อง

มีการวางแผนการปฏิบัติงาน เพื่อให้การด าเนินการมีระบบ

ระเบียบเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้วางไว้

โดยมีครูเป็นผู้กระตุ้น แนะน าให้ค าปรึกษาแก่นักเรียน

โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็นงานวิจัยในระดับนักเรียน

เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีอยู่

ในการศึกษา มาใช้ในการทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อน า

ผลที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือใช้เพื่อช่วยสร้างสื่อเพื่อ

เสริมการเรียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โครงงานคอมพิวเตอร์

โคร ง งานคอมพิ ว เ ตอร์ จึ ง เ ป็ น กิ จ กร รมทาง

วิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกฝนการใช้

ทักษะเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้ ง

เครื่องมือต่างๆ ในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการ

สร้างผลงานจริงอีกด้วย

โครงงานคอมพิวเตอร์

- เป็นประโยชนต์่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า

- ท าให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไป

- ก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าของทุกๆ สังคมในโลก

ปัจจุบัน

เช่น สังคมส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็น

สังคมสารสนเทศ การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่ง

ได้จากระบบสารสนเทศของคอมพิวเตอร์

ดังนั้น

โครงงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

จึงเป็นโครงงานที่มีความน่าเชื่อถือ ด าเนินกิจกรรมได้รวดเร็ว

การน าเสนอมีความน่าสนใจ และเผยแพร่โครงงานได้สะดวก

โครงงานคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศจึงเป็น

กิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้น าความรู้ทางเทคโนโลยี

สารสนเทศมาใช้ในการแก้ปัญหา พัฒนา คิดค้น และส่งเสริมให้

นักเรียนมีความสนใจในการท าวิจัยซึ่งเป็นผลต่อการพัฒนา

ประเทศชาตใิหเ้จริญก้าวหน้า

1. สร้างจิตส านึกและความรับผิดชอบในการศึกษา2. นักเรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของ

ตนเอง

3. นักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้เรื่องที่นักเรียนสนใจได้

ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องปกติ

4. ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การ

ตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน

5. กระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนสาขาวิชา

คอมพิวเตอร์

6. ส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในทาง

สร้างสรรค์

7. สร้างสัมพันธ์ระหว่างครู นักเรียน และสังคม8 เป็นการบูรณาการเอาความรู้จากวิชาต่างๆ ที่ได้รับมาจัดท า

ผสมผสานกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นโครงงานเพื่อน าเสนอ

ต่อสังคม

การจัดท าโครงงานคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

นั้น นักเรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ

- การท างานของเครื่องคอมพิวเตอร์

- เหตุผลที่ใช้ในการแก้ปัญหา

- กระบวนการแก้ปัญหา

- หลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น

โดยในการท าโครงงานนั้น นักเรียนอาจมีโอกาสได้ท า

ความรู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมด้วย เช่น

- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) - ฐานข้อมูล (Database) - และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหัวข้อที่นักเรียนเลือกท าโครงงาน

ควรมีองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้

1. นักเรียนเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษาค้นคว้า พัฒนาด้วยตนเองตามความ

สนใจและระดับความรู้ความสามารถ

2. เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี

สารสนเทศ หรือกระบวนการทางคอมพิวเตอร์

3. นักเรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า ตลอดจนการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยมีครู อาจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้ค าปรึกษา

โครงงานสามารถแบ่งออกได้หลากหลายประเภท ตาม

ลักษณะของผลงานหรือกระบวนการท างาน ซึ่งมีทั้งโครงงานระดับ

ง่าย จนไปถึงระดับสูง ซึ่งแบ่งตามลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม

และประโยชน์หรือผลงานที่ได้รับ ซึ่งแบ่งเป็น 5 ประเภทใหญ่ คือ

เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา

ประกอบวิชาการสอนต่างๆ จุดส าคัญอยู่ที่เนื้อหาน่าสนใจและ

ความสวยงามของสื่อที่พัฒนา โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่

นักเรียนทั่วไปเข้าใจได้ยาก หรือ หัวข้อที่สนใจเป็นพิเศษ มาเป็น

หัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน หรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

CAI, E-learning, WBI

ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้

คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม

บทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท

ทบทวน และค าถามค าตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบ

รายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือ

ว่าเป็นการใช้สื่อคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอน ซึ่งเป็นการ

พัฒนาบทเรียนที่ให้ผู้เรียนเข้ามาเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง

การพัฒนาสื่อการศึกษา

ใช้โปรแกรมส าเร็จรูป ในการสร้างสื่อการ

สอน นักเรียนต้องเลือกว่าจะ...

- ใช้โปรแกรมอะไร

- ผลิตสื่อการศึกษาประเภทไหน

- เนื้อหาที่สอนเรื่องอะไร

โคร ง งานประ เภทนี้ ส ามารถพัฒนาขึ้ น เ พื่ อ ใ ช้

ประกอบการสอนวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่

เข้าใจยากมาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น

โครงงานสื่อการสอน เรื่อง

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, อักษรต่ า กลาง สูง, ระบบสุริยจักรวาล, ประชาคมอาเซียน

จบบทเรียน

งานกลุ่ม 3 คน

- สอบถาม / สัมภาษณ์ครู 3 ท่าน

- วิชาใดๆ

- เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ของการเรียนวิชานัน้ๆ

- ถอดเทปสัมภาษณ์

- น าเสนอสัปดาห์ต่อไป