12
การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับท่ 5 ปักษ์แรก เดือนพฤษภาคม 2559 โครงการ 1 โรงเรียน 1 โครงงานอาชีพ เอกสารนิเทศทางไกล ประจาปีงบประมาณ 2559 นางสาวอรวรรณ ปล้องไหม กษานเทศก์ สานักงานเขตพ้นท ่การศกษาประถมศกษายะลา เขต 1 ผู้ปฏบัตการนเทศทางไกล โครงงานอาชีพ

การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

  • Upload
    others

  • View
    5

  • Download
    1

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

การแนะแนวงานอาชีพ

ฉบับที ่5

ปักษ์แรก เดือนพฤษภาคม 2559

โครงการ 1 โรงเรียน 1 โครงงานอาชีพ

เอกสารนิเทศทางไกล

ประจ าปีงบประมาณ 2559

นางสาวอรวรรณ ปล้องไหม ศึกษานิเทศก์ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1

ผู้ปฏิบัติการนิเทศทางไกล

โครงงานอาชีพ

Page 2: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

2

ถึง...ผู้บริหารโรงเรยีนและคุณครทูี่ท าหน้าที่แนะแนวทัง้หลาย

ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แอนได้เป็นเพ่ือนแม่ไปตลาด

ตลาดมีร้านค้าใหญ่โตและมีของขายมากมายในตึกแถวซึ่งบ่งบอกถึงฐานนะทางการเงินของเจ้าของร้าน บางร้านท าเป็นแผงขายซึ่งบ่งบอกถึงเป็นร้านที่ขายประจ าซึ่งอาจรับสินค้าจากคนกลางมาขาย และบางคนปูด้วยกระสอบพลาสติกวางขายบนพ้ืนทางเดิน ซึ่งบ่งบอกถึงเจ้าของร้านว่ามีต้นทุนน้อยและมักเป็นแม่ค้ามาจากต่างพ้ืนที่มาวางขาย

ตลาดเป็นสังคมท่ีคนมีความสัมพันธ์กันหลายรูปแบบ

มีคนมากมายเดินไปมาหาซื้อของ ความสัมพันธ์แบบซื้อขายมีการต่อรองกันและจบลงด้วยความพอใจ หากตกลงกันไม่ได้การซื้อขายก็ยุติลง แสดงว่าความพอใจส าคัญต่อการซื้อขาย

นอกจากนี้ ได้พบเห็นความสัมพันธ์แบบบริการ มีคนรับจ้างขนของด้วยวิธีการต่างๆ เช่น แบก ใช้รถเข็น ใช้รถซาเล้ง เป็นต้น นอกจากนี้มีคนรับจ้างกวาดขยะ รับจ้างท ากุญแจ รับจ้างขายของ รับจ้างเก็บค่าใช้พ้ืนที่ เป็นต้น คนเหล่านี้ได้ค่าจ้างจากผู้จ้าง

ตลาดจึงเป็นแหล่งเรียนรู้ส าหรับครูใช้จัดกิจกรรมและส าหรับนักเรียนใช้เป็นที่เรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพได้เป็นอย่างดี

แอนได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากตลาด เกิดจุดประกายความคิดในการเขียนเนื้อหาสาระเกี่ยวกับโครงงานอาชีพเพ่ือน าเสนอแก่คุณครูทั้งหลาย

แอน คิดว่าหลังศึกษาเอกสารฉบับนี้คงท าให้คุณครูทั้งหลายเข้าใจเกี่ยวกับโครงงานอาชีพมากขึ้น และน าไปใช้ด าเนินงาน “1 โรงเรียน 1 โครงงานอาชีพด้วยหลักการแนะแนว” งานนี้ส าเร็จได้ด้วยการร่วมมือของคุณครูทั้งหลาย ผลที่ได้ย่อมเกิดกับผู้เรียนของท่านทั้งหลาย

ขอให้ท่านทั้งหลายค่อยๆ ศึกษาและท าความเข้าใจ หลังจากนั้นอย่าลืมท าภารกิจที่มอบหมายในตอนท้าย นะคะ

Page 3: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

3

หลายคนคงเคยเห็นที่เหมือนกับภาพนี้ และรู้ได้ทันทีว่าเป็น

การท าโครงงานของนักเรียน หลายคนเข้าใจว่าการท าโครงงานมีนักเรียน 2-3 คน มีโต๊ะวางอุปกรณ์ มีแผงกระดาน 3 ส่วน มีเอกสารรายงาน 5 บท

“โครงงาน” จึงเป็นภาพซึ่งเข้าใจตามที่เห็น หากผิดเพ้ียนจากนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นโครงงาน การขาดความรู้หรือขาดการน าความรู้ที่มีอยู่นั้นมาใช้เพ่ือพิจารณาสิ่งที่เห็นนั้น ท าให้เกิดการติดยึดรูปหรือแบบนั้น เรียกว่า “หลง” หรือ “เข้าใจผิด” โดยยึดถือว่าสิ่งนั้นถูกต้องและเหมาะสมแล้ว โครงงานจึงไม่เปลี่ยนแปลงและไม่แตกต่างกับอดีตที่ผ่านมา คือ

โครงงานส่วนใหญ่ที่พบเห็นเป็นโครงงานวิทยาศาสตร์ ซึ่งถูกน าไปลอกเลียนเป็นแบบ เมื่อน าไปใช้กับบางกลุ่มสาระการเรียนรู้/วิชาจึงขาดความเหมาะสมกับธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้/วิชานั้นๆ

โครงงานส่วนใหญ่ถูกน าไปใช้เพ่ือการประกวดมากกว่าน าไปใช้ในการพัฒนานักเรียน มักพบว่ามีนักเรียนจ านวนน้อยที่เรียนดีและได้รับการฝึกเรื่องนี้ โดยเฉพาะ เ พ่ือเป็นตัวแทน เข้าประกวดโครงงานของโรงเรียน

ข้อค้นพบจากโครงงานไม่แตกต่างมากนัก จากเวลาที่ผ่านๆ มามกัพบว่ามีการลอกเลียนหรือดัดแปลงเพียงบางส่วนจากแบบ ซึ่งแสดงถึงการพัฒนาของครูและนักเรียนในเรื่องนี้ยังมีอยู่น้อย

โครงงาน

มุมมองสะทอ้น

ท ำให้เกิดกำรติดยึดรูปหรื อแบบนั้ น เ รี ยกว่ ำ “หลง” หรือ “เข้ำใจผิด” โดยยึดถือว่ำสิ่งนั้นถูกต้องแ ล ะ เ ห ม ำ ะ ส ม แ ล้ ว โ ค ร ง ง ำ น จึ ง ไ ม่เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง แ ล ะ ไ ม่แตกต่ำงกับอดีตที่ผ่ำนมำ

Page 4: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

4

จากการศึกษาเกี่ยวกับ “โครงงาน” ได้พบมีข้อสรุปที่น าเสนอไว้ดังนี้

“โครงงาน” เป็นการศึกษาค้นคว้าค้นหาค าตอบ

เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยด าเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน มีการวางแผน ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้จนได้ข้อสรุปที่เป็นค าตอบของเรื่องนั้น และมีการน าเสนอผลของการค้นพบที่เป็นองค์ความรู้นั้นให้ผู้อ่ืนได้รับรู้

ดังนั้น ทุกคนต้องท าโครงงาน เพราะ

ทุกคนต้องมีการศึกษาค้นคว้า

ทุกคนมีค าถามที่ต้องค้นหาค าตอบ

ทุกคนมีวิธีการต่างๆ เพ่ือหาค าตอบ

ทุกคนทีค่้นพบค าตอบคือพบองค์ความรู้ใหม่

ทุกคนทีท่ าโครงงานเกิดการเรียนรู้และพัฒนา

ทุกคนที่เรียนรู้จากการท าโครงงานเป็นการพัฒนาตนเองแล้ว ยังช่วยพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้อีกด้วย

ดังนั้น หากมองครูเป็นศูนย์กลาง “โครงงาน” เป็น “กิจกรรม” ที่คุณครูทั้งหลายต้อง

น าไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียน “โครงงาน” เป็นกิจกรรมที่เน้นนักเรียนเป็นส าคัญ ซึ่ง

ส่งเสริมให้เรียนรู้และพบความรู้ด้วยตนเองจากการปฏิบัติ

ดังนั้น คุณครูทั้งหลายต้อง รู้ว่าโครงงานคืออะไร

รู้ว่าโครงงานพัฒนาอะไรของนักเรียน

รู้ว่าโครงงานจ าเป็นต่อการเรียนรู้อย่างไร

รู้ว่าโครงงานมีรูปแบบอย่างไร

รู้ว่าโครงงานท าอย่างไร

รู้ว่าโครงงานน าไปใช้กับนักเรียนได้อย่างไร

โครงงาน

?

คืออะไร

“ โครงงำน”เป็น “ กิ จ ก ร รม ” ที่ คุณค รูทั้งหลำยต้องน ำไปใช้ในกำรจัดกำรเรียนรู้ให้กับนักเรียน

Page 5: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

5

เมื่อ “โครงงาน” เป็นการศึกษาค้นคว้าหาค าตอบ

เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่ด าเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน มีการวางแผน ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้จนได้ข้อสรุปที่เป็นค าตอบของเรื่องนั้น และมีการน าเสนอผลของการค้นพบที่เป็นองค์ความรู้นั้นให้ผู้อ่ืนได้รับรู้

และ “อาชีพ” เป็นงานที่ท าและเกิดรายได้เพ่ือใช้

ในการด ารงชีวิตอย่างมีความสุข

ดังนั้น “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค าตอบ

ของการท างานอาชีพ ที่ด าเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน มีการวางแผน ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้จนได้ข้อสรุปที่เป็นค าตอบ

“ค าตอบของการท างานอาชีพ” คืออะไร

เมื่อ“อาชีพ” เป็นงานที่ท าและเกิดรายได้ ดังนั้น “ค าตอบเกี่ยวกับการท างานอาชีพ” คือ

1. วิธีการหรือกระบวนการท างาน 2. รายได้จากการท างาน ซึ่งเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง หรือ

ค่าตอบแทนอันเป็นรายได้จากนายจ้าง หรือเป็นก าไรซึ่งเป็นรายได้จากการค้าขายหรือบริการอันเป็นรายได้จากการลงทุนซึ่งไม่ใช่เป็นรายได้จากนายจ้าง

โครงงานอาชีพ เป็นการศึกษาหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการท างานอาชีพ 2 ประเด็น คือ วิธีหรือกระบวนการท างาน และรายได้จากการท างาน ส่วนโครงงานวิทยาศาสตร์ค้นหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับตัวแปรต่างๆ ของธรรมชาติและเน้นการทดสอบสมมติฐาน โครงงานอาชีพจึงแตกต่างกับโครงงานวิทยาศาสตร ์

หรือ อาจกล่าวได้ว่า โครงงานอาชีพเป็นกิจกรรมหนึ่งของ

การแนะแนวด้านอาชีพ เพ่ือช่วยเหลือนักเรียนให้รู้จักท างานอาชีพเพ่ือหารายได้

โครงงาน

?

อาชีพ เป็น

อย่างไร

โครงงำนอำชีพจึงแตกต่ำงกับโครงงำนวิทยำศำสตร์ ซึ่งศึกษำหำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกำรท ำงำนอำชีพ 2 ประเด็น คื อ วิ ธี ห รื อ ก ร ะ บ วนก ำ รท ำงำน และรำยได้จำกกำรท ำงำน

Page 6: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

6

จุดเน้น

เรามักให้นักเรียนท างานตามที่เราก าหนด จนบางครั้งเราลืมเน้นการฝึกทักษะและวินัยที่ดีในการท างาน สุดท้ายนักเรียนท างานไปสู่อาชีพไม่ได้ เพราะขาดโอกาสฝึกการวางแผน และการประเมินผลงานเพ่ือตีค่า ตัดสินราคาและคุณค่าของผลงาน

จุดเน้นการฝึกนักเรียนไปสู่การท างานอาชีพด้วยโครงงานอาชีพ มีดังนี้

1) วิเคราะห์งาน

ยกตัวอย่างการท างานอาชีพปลูกกล้วย เราต้องวิเคราะห์งานเพ่ือจ าแนกแยกแยะงานการปลูกกล้วย เช่น เราต้องรักและต้องรับผิดชอบอะไร ต้องรู้จักพันธุ์และวงจรชีวิตกล้วย ต้องรู้จักวิธีการปลูกกล้วย ต้องรู้จักการใช้เครื่องมือ ต้องรู้จักการใส่ปุ๋ยและรดน้ า ต้องรู้จักการป้องกันและรักษาโรค ต้องรู้การเก็บเก่ียวและจ าหน่าย เป็นต้น

2) วางแผนการท างาน เมื่อรู้เกี่ยวกับงานที่ท าแล้ว เราก็ต้องเตรียมการปลูกกล้วย ได้แก่ เตรียมที่

เตรียมดิน ปุ๋ย และยาป้องกันโรค เตรียมพันธุ์ เตรียมคนปลูกและดูแล เตรียมเงินส าหรับท างาน เตรียมเวลาการปลูกและการดูแลแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งการจ าหน่าย เป็นต้น

3) ปฏิบัติงานตามแผน เมื่อเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างครบถ้วนแล้วเราก็ต้องลงมือปลูกกล้วยตามแผนที่

ก าหนดไว้ ระหว่างปลูกเราต้องสังเกต จดบันทึกข้อมูลต่างๆ และหาข้อสรุปส าหรับปรับปรุงแก้ไขเพ่ือให้กล้วยที่ปลูกเจริญเติบโต รวมทั้งการส่งตลาดหรือการจ าหน่าย

4) ประเมินผลการท างาน การปลูกทุกขั้นตอนที่กล่าวแล้ว เราต้องตรวจสอบและประเมินการท างาน

และผลของงานที่เกิดขึ้นว่าเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่อย่างไร รวมทั้งการจ าหน่ายว่ามีก าไรหรือขาดทุนอย่างไร เพ่ือดูข้อบกพร่องและต้องปรับปรุงและแก้ไขอย่างไร

ของโครงงานอาชีพ

1. ทักษะกระบวนการที่น าไปสู่การท างานอาชีพ

Page 7: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

7

พฤติกรรมที่แสดงถึงการมีทักษะกระบวนการท างานอาชีพ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรม

1. การวิเคราะห์งาน -จ าแนกภาระงาน -จ าแนกความส าคัญของงาน -จ าแนกข้ันตอนการท างาน -จ าแนกเครื่องมือและอุปกรณ์ส าหรับท างาน -จ าแนกผลที่ได้รับของงาน

2. การวางแผน -ก าหนดขั้นตอนการท างาน -ก าหนดเวลาการท างานแต่ละข้ันตอน -ก าหนดเครื่องมือ อุปกรณ์ วัสดุ เงิน และคนท างาน -ก าหนดราคาสินค้าที่น าไปสู่รายได้หรือก าไร

3. การปฏิบัติงาน -ท างานตามแผนที่ก าหนด -ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์และวัสดุในการท างาน -ใช้การตลาดในการท างาน -จ าหน่ายหรือบริการ -จดบันทึกและจัดกระท าข้อมูลการท างาน -ควบคุม ปรับปรุงและแก้ไขการท างาน

4. การประเมินงาน -ใช้เครื่องมือตรวจสอบก่อน ระหว่างและหลังการท างาน -มีเกณฑ์ประเมินการท างาน -ประเมินและสรุปการท างาน และผลงาน -รายงานผลการท างาน

ถ้าคุณครูได้ฝึกทักษะกระบวนการท างานและวินัยที่ดีในการท างานแล้ว นักเรียนก็สามารถท า “โครงงานอาชีพ” ได.้..นะคะ

ผู้ท างานอาชีพที่ประสบความส าเร็จต้องมี “วินัย” อันเป็นสิ่งควบคุมให้มีคุณลักษณะ ที่ดี ในการท างาน ได้แก่ ตั้ ง ใจ ซื่อตรง รับผิดชอบ ตรงเวลา ขยัน อดทน สุภาพ เอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่ การมีวินัยเกิดประโยชน์ต่อตัวเองแล้วยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

โครงงานอาชีพต้องฝึก“ทักษะกระบวนการที่น าไปสู่การท างานอาชีพ” แล้วต้องฝึก “การมีวินัยในการท างาน” ที่น าไปสู่เจตคติและนิสัยที่ดีในการท างานของนักเรียนอีกด้วย

รายได้เป็นสิ่งที่ผู้ท างานอาชีพคาดหวัง ถ้ารายได้ที่เป็นก าไรจากการลงทุน (ค้าขาย)หรือการบริการนั้นสามารถน าไปใช้ส าหรับด ารงชีวิตได้เพียงพอแล้วก็จะเกิดความพึงพอใจต่องานอาชีพนั้น

การตั้งราคาสินค้าหรือการบริการจึงเป็นสิ่งส าคัญ ที่ต้องตั้งราคาสินค้าให้ถูกต้อง หากตั้งไว้สูงหรือต่ าเกินไปส่งผลต่อก าไร ซึ่งเป็นรายได้ของการท างานอาชีพนั้นๆ

2. รายได้จากการท างาน

Page 8: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

8

สูตรพ้ืนฐานของการตั้งราคาสินค้าหรือการบริการ

ราคาสินค้า = ต้นทุน + ก าไรท่ีต้องการ

ต้นทุน เป็นสิ่งส าคัญ การก าหนดต้นทุนต้องมององค์ประกอบให้ครบถ้วน เพราะมีผลต่อก าไร หากมองไม่ครบท าให้ราคาสินค้านั้นถูกเกินไป ท าให้ก าไรน้อยลงหรือไม่ได้ก าไร หากขาดทุนก็ท าให้การท างานอาชีพไปไม่รอด

ต้นทุนแยกได้ดังนี้ 1. ต้นทุนต่อหน่วยของสินค้า 2. ต้นทุนที่เป็นค่าแรง 3. ต้นทุนที่เป็นวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือที่ใช้ครั้งเดียวหรือใช้ได้หลายๆครั้ง 4. ต้นทุนที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เช่น ไฟฟ้า ประปา ค่าเช่า 5. ต้นทุนอื่นๆ เช่น ปากกา ยางลบ กระดาษ ฯลฯ

ก าไร เป็นความพึงพอใจที่ต้องการที่ก าหนดจากราคาต้นทุนของสินค้า มักก าหนดเป็นเปอร์เซ็นต ์เช่น 10 % หรือ 20% เป็นต้น

การซื้อขายหรือการบริการต้องค านึงถึงความต้องการของลูกค้า การตั้งราคาสูงเกินไปก็ขายไม่ได้ หากตั้งต่ าเกินไปก็อาจขายได้แต่ขาดทุน

การซื้อขายหรือการบริการมีความจ าเป็นที่ต้องท าบัญชีรับจ่าย โดยจดบันทึกก่อนและหลังรายการเมื่อการซื้อขายเกิดขึ้น เพื่อให้รู้ว่าการจ าหน่ายสินค้าหรือการบริการในงวดหนึ่งๆ ว่ามีก าไรหรือขาดทุน เป็นข้อมูลที่ใช้ตรวจสอบและป้องกันความผิดพลาดการปฏิบัติงานได้ นอกจากนี้ยังใช้เป็นข้อมูลส าหรับการควบคุม ก ากับ และติดตามการประกอบกิจการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การท าบัญชี เป็นการจดบันทึกรายการค้าจากการรับเงินและจ่ายเงินลงในสมุดบัญชีอย่างสม่ าเสมอ เพื่อเก็บข้อมูล และจัดท ารายงานทางการเงิน ซึ่งแสดงผลการด าเนินงานและฐานะการเงินของกิจการในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สุดท้ายของการบัญชีคือการน าเสนอข้อมูลทางการเงินทีเ่ป็นประโยชน์แก่บุคคลต่างๆ และผู้สนใจในกิจกรรมของกิจการนั้นๆ

รายการต่างๆ ที่จดบันทึกในการท าบัญชีอย่างง่ายมีดังนี้ 1. รายรับ หมายถึง ยอดรวมจ านวนเงินได้รับ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการขายสินค้า 2. รายจ่าย หมายถึง จ านวนเงินใช้จ่ายในการซื้อสินค้าเพ่ือน ามาเป็นใช้ปฏิบัติงาน

เช่น ค่าวัสดุต่างๆ ค่าเชื้อเพลิง ค่าอุปกรณ์ ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 3. เงินคงเหลือ หมายถึง การน ายอดเงินรายจ่ายไปหักออกจากเงินรายรับ เรียกว่า

“เงินคงเหลือ” หากมีเงินคงเหลือแสดงว่ามี “ก าไร”

Page 9: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

9

ตวัอยา่ง

แบบบันทึกการท าบัญชีรับจ่ายแบบง่ายๆ

วันเดือนป ี รายการ รายรับ รายจ่าย คงเหลือ

บ. สต. บ. สต. บ. สต. 20 พค. 59 แป้งสาลี 600 กรัม - - 10 - - -

น้ าตาลทราย 500 กรัม - - 15 - - - ขายขนมสาลี่ 50 ช้ิน 500 - - - - -

รวม 500 - 25 - 475 - 21 พค. 59

ประโยชน์ของการจดบันทึก การท าบัญชีเป็นประโยชน์ต่อรายได้ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดหวังของผู้ท างานอาชีพ ดังนี้

ช่วยบันทึกความทรงจ าที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ช่วยให้ได้ข้อมูลที่แสดงฐานะทางการเงินของกิจการ ช่วยพัฒนานิสัยในการท างานให้เป็นระบบและมีระเบียบแบบแผน ช่วยพัฒนาให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น ช่วยให้รู้จักประหยัดค่าใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จ าเป็น ช่วยให้ก าหนดเป้าหมายทางการเงินชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ รายได้จากการขายสินค้าหรือการบริการข้ึนอยู่กับคุณภาพของสินค้าหรือ การบริการแล้วยังขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ประกอบอาชีพที่ต้องรู้จักในสิ่งต่อไปนี้

1. รู้จักตั้งราคาไม่ให้ถูกหรือแพงเกินไป 2. รู้จักกลุ่มเป้าหมายที่มาซื้อหรือรับบริการ 3. รู้จักช่วงเวลาที่เหมาะสมของการขายหรือบริการ 4. รู้จักท าให้สินค้ามีคุณภาพและลูกค้าเชื่อมั่นในสินค้า 5. รู้จักสร้างความรู้จักและคุ้นเคยกับสินค้าหรือการบริการโดยการโฆษณา และประชาสัมพันธ์ 6. รู้จักท าต้นทุนสินค้าหรือการบริการให้ต่ าลง 7. รู้จักมองผลรวมของก าไรมากกว่ามองผลก าไรเป็นรายชิ้นของสินค้าหรือ การบริการ

Page 10: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

10

การท าโครงงานอาชีพของนักเรียนมีขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมดังนี้ 1) ส ารวจความพร้อม ความสามารถ และความถนัดของตนเอง

2) ส ารวจสภาพเศรษฐกิจของชุมชน 3) ตัดสินใจเลือกอาชีพ 4) เขียนและเสนอเค้าโครงของโครงงานอาชีพ 5) ลงมือปฏิบัติงานอาชีพทั้งกระบวนการผลิตและการจ าหน่ายหรือการบริการ 6) บันทึกข้อมูลการปฏิบัติงาน 7) ท าบัญชีรับจ่าย 8) ประเมินผลการปฏิบัติงาน 9) รายงานผลการท างานอาชีพ 10) ปรับปรุงการท างานอาชีพ

โครงงาน

อาชีพ

ขั้นตอนการท า

ของนักเรียน

Page 11: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

11

สรุป

1 โรงเรียน 1 โครงงานอาชีพ โครงงานอาชีพ เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งของการแนะแนว เพ่ือฝึกการท างานอาชีพของนักเรียน ที่ต้องบูรณาการความรู้ในห้องเรียนไปใช้ท าโครงงาน ซึ่งเป็นการศึกษาค้นหาความรู้งานด้านอาชีพจากการปฏิบัติ โดยมีคุณครูเป็นที่ปรึกษาและช่วยเหลือในการท างานตามวงจรการท าโครงงานอาชีพมีดังนี้

การจัดกิจกรรมโครงงานอาชีพมีจุดเน้นส าคัญ 2 ประการ คือ

1. ทักษะกระบวนการที่น าไปสู่งานอาชีพ ประกอบด้วย ทักษะและความสามารถในการท างาน และการมีวินัยในการท างานอาชีพ

2. รายได้ เป็นผลการท างานอาชีพที่เป็นก าไรหรือค่าตอบแทนส าหรับน าไปใช้ด ารงชีพ

Page 12: การแนะแนวงานอาชีพ ฉบับที่ 5 · “โครงงานอาชีพ” จึงเป็นการศึกษาค้นคว้าหาค

12

มอบภารกิจ ต่อไปนี้คงมอบหมายงานให้คุณครูปฏิบัติกิจกรรมนะคะ

ให้เขียนตอบประเด็นต่อไปนี้สั้นๆ พอเข้าใจ

1. คุณครูเข้าใจ“การแนะแนวงานอาชีพด้วยโครงงานอาชีพ” ว่าเป็นอย่างไร 2. การมอบหมายให้นักเรียนท าโครงงานอาชีพ โดยให้นักเรียนซื้อขนมปี๊ปมาแบ่งใส่ถุง

ขาย หรือ ท าขนมดอกจอกขาย คุณครูคิดว่าเป็นการฝึกท า “โครงงานอาชีพ” หรือไม่อย่างไร

(คุณครูท าเสร็จไม่ต้องส่ง เก็บไว้ที่โรงเรียนนะคะ)

ท่านใดมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะใดโทรศัพท์มาคุยกันได้

พบกันใหม่ฉบับหน้านะคะ

แอน : อรวรรณ ปล้องไหม โทร : 089-468-0650

แอน : อรวรรณ ปล้องไหม

โทร : 089-468-0650