<<< 4 I EQUINOX

เดือนนี้ได้มีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตเล็กๆ ที่เป็นวงจากอเมริกา มาเล่นในบ้านเรา แม้จะไม่เคยได้รู้จักมาก่อน ไม่เคยได้ฟังด้วยซ้ำา แต่พอเห็นว่ามันน่าสนใจดี ก็ลองไปดู ปรากฏว่าเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมากๆ กลับมาถึงบ้านก็ต้องหาเพลงของพวกเขา “ACT OF CONGRESS” มาฟังวนอยู่หลายรอบ แถมยังเอาลงไอพอดพกไว้ไปฟังข้่างนอกด้วย

อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะมีคอนเสิร์ตของ MAROON 5 กับ KEAN แล้ว สำาหรับแฟนๆ MAROON 5 ที่ยังไม่มีบัตรก็คงต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะบัตรหมดแล้ว และหมดเร็วมากตั้งแต่วันแรกๆ ที่ขาย ส่วน KEAN นั้นคาดว่าคงจะมีเหลืออยู่บ้าง แต่ก็รีบๆ เข้าล่ะ ถ้าพลาดคงเสียดายน่าดู

ที่ปรึกษาระวิ โหลทอง, วิลักษณ์ โหลทอง, วรรคสร โหลทองนัดดา บุรณศิริ, วรชัย ทิพยวาน, วิชาติ จิราธิยุต

ธีรวุฒิ วัฒนธีปกร, สุรชัย เสนศรีปภาณ หุตารมณ์, วรางคณา ไตรวิทยาคุณ

วรชัย ทิพยวานที่ปรึกษากฎหมายสุดเขต กุลสารภูษิต

บริษัท เควีพี ลอว์ แอนด์ ลอยกรุ๊ป จำากัดกรรมการอำานวยการฝ่ายการเงิน

สานิต บูรณวิทยานนท์บรรณาธิการ ปืโยรส หลักคำา

กองบรรณาธิการสุชน โชติธรรมวัฒนา, อภิรัตน์ รัตนไพบูลย์

ชาตรี ตันสถาวีรัฐ, ก้องเกียรติ์ นานาธเนตร ปรีดารัตน์

ศิลปกรรมสุภานุมาศ นวนสอาด, มนูญศักดิ์ ช่วยรอดหมด

ช่างภาพอวิรุทธ์ ปิ่นแก้ว, Chris Martin

ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา เสาวลักษณ์ อัครวิบูลย์ฝ่ายโฆษณา

กฤษณ์ จงตระกูล โทร 02-508-8166แฟ็กซ์ 02-508-8144

ผู้อำานวยการฝ่ายธุรกิจ ทิฐินันท์ โชตินันท์ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านกลยุทธ์ สุธัญญา สุทธิธรรม

ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ หนึ่งฤทัย รักชาติเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด วันวิสาข์ สุทธิขันเงิน

จัดจำาหน่าย ก.สัมพันธ์ โทร 214-1604 214-3066ฝ่ายสมาชิก

สังวาลรัตน์ ทองภักดี โทร 02-508-8000

สำานักงานบริษัท อิคิวน็อกซ์ แม็กกาซีน จำากัด 115/66 หมู่ 12 ซ.รามอินทรา 40 ถนนรามอินทรา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ 10230 โทร 02-508-8176 แฟ็กซ์ 02-508-3278 E-MAIL EQUINOX-

MAG@YAHOO.COMWWW.EQUINOXMAG.COM

EQUINOX I\5 >>>

ช่างภาพมืออาชีพที่ ทำ างานให้กับศิลปินมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น A DAY TO REMEMBER, ALL TIME LOW, WE THE KINGS, A ROCKET TO THE MOON, WILLIAM BECKETT หรือแม้แต่ HEY MONDAY เขาคือคนที่มากความสามารถและเป็นที่ต้องการของบรรดาวงต่างๆ ที่ต่างก็อยากได้เขามาถ่ายโปรไฟล์ให้ทั้งนั้น และในเวลาว่างหลังจากวางกล้องแล้ว เขายังทำาหน้าที่ร้องนำาให้กับวง EASTON ซึ่งก็มีเพลงเพราะๆ อย่าง “US“ จากอัลบั้ม “H&H“ ที่ติดหูและทำาได้ดีทีเดียว

และแม้ตัวจะอยู่ไกลขนาดไหน แต่เจ้าตัวก็ยังอุส่าห์ตอบรับคำาขอจากทางทีมงานจนได้ ต้องขอขอบคุณ CHRIS MARTIN จริงๆ ที่ทำาให้เราไดมีโอกาสได้ภาพสวยๆ ของเขามาลงในฉบับนี้

EQUINOX I\7 >>>

กลับมาตอกย้ำ าความมันส์กันอีกครั้งสำาหรับ MAROON 5 ที่ไม่ปล่อยให้แฟนๆ ต้องรอนานหลังจากที่ปล่อยอัลบั้มใหม่ล่าสุด “OVEREXPOSED” ออกมาในปีนี้ พวกเขาก็เตรียมตัวออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกอีกครั้ง โดยแฟนเพลงชาวไทยจะได้พบกับพวกเขาทั้ง 5 คน ในวันจันทร์ที่ 8 ตุลาคมนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

หนุ่มๆ ทั้ง 5 ของ MA-ROON 5 อันประกอบไปด้วย ADAM LERVINE (VOCALS), JAMES VALENTINE (GUITAR), MICKEY MADDEN (BASS), MATT FLYNN (DRUMS) และ JP MORTON (KEYBOARD) (เล่นแทน JESSE CARMICHAEL ที่ลาพักชั่วคราว) พวกเขาคือวงป๊อปร็อคชั้นนำาจากอเมริกาที่ได้รับความนิยม และมีแฟนคลับทั่วโลกมากมาย

สำาหรับแฟนๆ ในบ้านเราเองก็

คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของ NOEL GALLAGHER อดีตมือกีตาร์และนักแต่งเพลงจาก OASIS วงบริทป๊อประดับตำานานของประเทศอังกฤษที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลจากทั่วโลก มีเพลงฮิตเป็นที่ชื่นชอบมากมาย อาทิเช่น DON’T LOOK BACK IN ANGER, LIVE FOREVER และ WONDERWALL วันนี้ NOEL GALLAGHER กลับมาอีกครั้งกับผลงานชุดใหม่ของเขา “NOEL GALLAGHER’S HIGH FLYING BIRDS” ซึ่งอัลบั้มนี้ทั้งนักวิจารณ์และแฟนเพลงทั่วโลกต่างให้การยอมรับว่าเป็นพัฒนาการทางดนตรีก้าวใหม่ที่งดงามและยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น

NOEL GA LLAGHER’S HIGH FLYING BIRDS LIVE IN BANGKOK จะจัดขึ้นที่ HALL 106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม BITEC BANGNA ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายนนี้ โดยคอนเสิร์ตนี้ผู้ชมจะได้พบกับการแสดงสดของทั้งเพลงในอัลบั้มใหม่ และเพลงฮิตที่คุณประทับใจของวง OASIS ที่เป็นผลงานการแต่งเพลงของเขาด้วย บัตรจำาหน่ายที่ราคา 1000, 2000 และ 3000 บาท

มีความเหนียวแน่นกันเป็นอย่างมาก เพราะทันทีที่เว็บไซต์ของ THAITICKET MAJOR เปิดขายบัตรในวันแรก เพียงไม่กี่นาทีบัตรก็ถูกขายออกไปเป็นจำานวนมากเลยทีเดียว และด้วยระบบการซื้อบัตรแบบใหม่ของเว็บไซต์ ที่เพิ่มความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในที่สุดบัตรก็ถูกขายออกไปจนหมดในเวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น และนับเป็นครั้งที่ 3 สำาหรับการมาเยือนประเทศไทยของพวกเขา ล่าสุดในปี 2011 และปี 2009 ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ความมันส์และยอดจำาหน่ายบัตรที่ถล่มทลายเช่นเดียวกัน

หลังจากที่มาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตในบ้านเราครั้งแรกเมื่อ 6 ปีก่อน คราวนี้ KEANE กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอัลบั้มใหม่ล่าสุดของพวกเขา “STRANGELAND” โดยคอนเสิร์ตจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคมนี้ ณ MOONSTAR STUDIO (STUDIO 8) บัตรราคาเดียว 1800 บาท

สมาชิกทั้ง 4 ของ KEANE ประกอบไปด้วย TOM CHAPLIN (VOCALS), RICHARD HUGHES (DRUMS), TIM RICE-OXLEY (PIANO) และ JESSE QUIN (BASS)

และนอกจากนี้ KEANE ยังเป็น 1 ใน 3 ของวงดนตรีป๊อปในประวัติศาสตร์ของอังกฤษที่มีอัลบั้มอยู่ในอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 5 อัลบั้ม ล่าสุด “STRANGELAND” ก็มีเพลงฮิตติดอันดับ อย่าง SILENCED BY THE NIGHT ที่ทะยานเข้าสู่ชาร์ทตามคลื่นวิทยุต่างๆ ในหลายประเทศ ดังนั้นเมื่อพวกเขาจะกลับมาเปิดคอนเสิร์ตในประเทศไทยอีกครั้ง เชื่อว่าพวกเขาจะต้องกลับมาพร้อมกับความประทับใจที่ไม่แพ้ครั้งก่อนอย่างแน่ นอน สาวก KEANE ห้ามพลาดเด็ดขาด

<<< 8 I EQUINOX

GREEN DAY ปล่อยเอ็มวี “OH LOVE”

เปิดตัวอัลบั้มใหม่

ONE REPUBLICปล่อยซิงเกิ้ลใหม่เพื่อการกุศล “FEEL AGAIN” ALL TIME LOWเปิดตัวอัลบั้มใหม่ “DON’T PANIC“

และซิงเกิ้ลที่สอง “FOR BALTIMORE”

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ALL TIME LOW วงป๊อปพังค์ขวัญใจสาวๆ ได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรก “THE RECKLESS AND THE BRAVE” ให้แฟนๆ ได้ดาวน์โหลดไปฟังกันแบบฟรีๆ ให้หายคิดถึงกันไปก่อน แต่พวกเขาก็รู้ดีว่านั่นมันไม่เพียงพอกับความต้องการของแฟนๆ ที่จะต้องรอไปจนกว่าอัลบั้มเต็มจะออกมา ดังนั้นพวกเขาจึงได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่ 2 ออกมาที่มีชื่อว่า “FOR BALTIMORE”

นอกจากนี้หลังจากที่ในอัลบั้มชุดที่ผ่านมาล่าสุด “DIRTY WORK” ที่ได้ย้ายไปร่วมงานกับ INTERSCOPE RECORDS กลับมาคราวนี้พวกเขาได้เลือกที่จะกลับมาสู่อ้อมแขนของ HOPELESS RECORDS อีกครั้ง ซึ่งค่ายเพลงค่ายนี้ถือว่าเป็นบ้านเกิดของพวกเขา ที่ทำาให้ได้แจ้งเกิดกับอัลบั้มก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็น “SO WRONG, IT’S RIGHT” และ “NOTH-ING PERSONAL”

EQUINOX I\9 >>>

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมานี้ ONE REPUBLIC วงร็อคฝีมือดีที่โด่งดังมาจากเพลง “APOLOGIZE” ได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า “FEEL AGAIN ” ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มชุดที่ 3 ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกันแล้ว หลังห่างหายไปจากอัลบั้มชุดก่อนหน้านี้ “WAKING UP” เมื่อปี 2009 ในปีนี้พวกเขากลับมาพร้อมกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 โดยซิงเกิ้ลแรกที่ถูกปล่อยออกมานั้นจะถูกจำาหน่ายแบบดิจิตอลโดยรายได้ที่ได้จากการจำาหน่ายเพลงนี้จะถูกนำาไปช่วยเหลือเด็กๆ ยากไร้ ทั้งในอเมริกา และทั่วโลกด้วย

พวกเขาได้อธิบายต่อว่า “ทุกๆ ปี มีเด็กๆ กว่า 7 ล้านคน มีสาเหตุการตายมาจากโรคที่ส่วนใหญ่สามารถป้องกันและรักษาได้ อย่าง มาลาเรีย, ท้องร่วง และ ปอดบวม “FEEL AGAIN” จึงเป็นเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความรู้สึกข้างในของพวกเขาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกล และไม่ได้รับการดูแลในเรื่องของสุขภาพ”

หลังจากปล่อยให้แฟนๆต้องรอนานถึง 3 ปี ล่าสุดวงพังค์ร็อคแถวหน้าแห่งวงการอย่าง GREEN DAY ก็ได้ปล่อยมิวสิควีดีโอเพลงใหม่ “OH LOVE” เพื่อเป็นการเปิดตัว อัลบั้มใหม่ล่าสุดที่กำาลังจะวางแผงในเร็วๆ นี้ และใน

อัลบั้มนี้ก็มีความพิเศษอยู่ตรงที่พวกเขาจะทำาออกมาเป็นไตรภาค ซึ่งประกอบไปด้วย UNO!, DOS! และ TRE!โดยจะออกวางจำาหน่ายในเวลาที่แตกต่างกันไป คือ วันที่ 25 กันยายน, 13 พฤศจิกายน 2012 และ 15 มกราคม 2013 ตามลำาดับ แต่อย่างไรก็ตาม ทางวงได้เปิดโอกาสให้แฟนๆ สามารถเข้ามาสั่งจองอัลบั้มเหล่านี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของพวกเขา

ส่วนสาเหตุที่ต้องทำาอัลบั้มออกมาเป็นไตรภาคแบบนี้ พวกเขาให้เหตุผลว่า “นี่เป็นการทำางานที่พวกเราเกิดความคิดสร้างสรรค์แบบพุ่งกระฉูดสุดๆ และก็เชื่อว่าทุกเพลงเป็นเพลงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทำามา ซึ่งยังคงเอกลักษณ์และพลังในแบบฉบับ GREEN DAY แท้ๆ ด้วย”

นับตั้งแต่ฟอร์มวงขึ้นมาในปี 2005 ตอนนี้เองที่น่าจะพูดได้เต็มปากว่า The Gaslight Anthem ที่ประกอบไปด้วย 4 หนุ่ม ไบรอัน ฟัลล่อน (ร้อง/กีตาร์), อเล็กซ์ โรซามิเลีย (กีตาร์), อเล็กซ์ เลอวีน (เบส) และ เบนนี่ โฮโรวิตซ์ (กลอง) กำาลังจะก้าวขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของวงการเพลงร็อก ด้วยสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 4 Handwritten ที่วางแผงตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม และประสบความสำาเร็จงดงาม

The Gaslight Anthem มีต้นกำาเนิดจากนิวเจอร์ซีย์ ที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีแนวเจอร์ซีย์ ชอร์ ซาวนด์ จากศิลปินรุ่นพ่อจากเมืองเดียวกันอย่าง เดอะ บอส บรูซ สปริงส์ทีน ในลักษณะของการทำาเพลงที่ชวนให้แหกปากร้องตาม ผสมผสานเข้ากับดนตรีแนวฮาร์ดคอร์พังก์ ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก Jawbreaker ตลอดจน The Ramones, The Cure และ The Clash จนกลายมาเป็นซาวนด์เฉพาะตัวของพวกเขาเอง

พวกเขาคลอดอัลบั้มแรก Sink or Swim ปี 2007 แต่ไม่มีอันดับในชาร์ตใหญ่ใดๆ ทั้งนั้น ทั้งอัลบั้มและซิงเกิล จากนั้นปีถัดมา พวกเขาออกอัลบั้มชุดสอง The 59 Sound ที่ติดอันดับ 70 ชาร์ต US Billboard 200 และอันดับ 55 ชาร์ต UK Albums มีซิงเกิลออกมา 4 เพลง โดยซิงเกิลชื่อเดียวกับอัลบั้มติดอันดับ 115 ของชาร์ตยูเค พวกเขาคลอดอัลบั้มชุด 3 American Slang ในปี 2010 และขึ้นถึงอันดับ 16 ชาร์ตบิลบอร์ด และมีอันดับติดชาร์ตเพลงต่างๆ กว่า 12 ประเทศ

และในขณะที่ชื่อของ The Gaslight Anthem เริ่มติดปาก พวกเขาใช้เวลาตลอดซัมเมอร์ทำาอัลบั้มชุดสี่ Handwritten ภายใต้สังกัด Mercury Records ทั้งยังได้ เบรนแดน โอไบรอัน โปรดิวเซอร์มือทอง (AC/DC, Bruce Springsteen, Incubus, Pearl Jam) ดีกรี 2 รางวัลแกรมมี่ มาควบคุมการผลิต ตัดซิงเกิลออกมาแล้ว 1 เพลงคือ “45” ขณะที่อีกเพลงที่จะตามมาคงหนีไม่พ้นเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม ที่ตอนนี้มีเอ็มวีออกมาแล้ว...วันนี้เราจะมาคุยกับ ไบรอัน ฟัลล่อน นักร้องนำาของวงกัน

ในงาน 3 อัลบั้มแรกของพวกคุณ คุณจะมีสไตล์การแต่งเพลงที่เป็นเอกลักษณ์มาก คุณแต่งเพลงเกี่ยวกับตัวละครต่างๆ และเอาพวกเขามาสร้างเป็นพลอตเรื่อง แต่มันถูกลดทอนลงในอัลบั้มนี้ และเมื่อดูจากสไตล์การแต่งเพลงของคุณแล้ว การแต่งเพลงรูปแบบใหม่มันยากง่ายยังไงมั้ย?

ผมมีความตั้งใจในการที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว มันประมาณว่า ผมอ่านเจอคำาพูดของ ทอม เวตส์ เมื่อสัก 2-3 เดือนที่แล้ว เขาพูดถึงเรื่องที่ว่าจะมีคนถามเขาว่า เขาพัฒนาสไตล์ตัวเองอย่างไร? อยู่เสมอๆ และเขาบอกว่า ช่วงแรกๆ เขาอยากเป็นนักร้องบรอดเวย์ และในงานอัลบั้มแรกๆ ของเขาคือสิ่งที่เขาพยายามทำา แต่จากนั้นเขาก็ได้ตระหนักว่า มันไม่ใช่ตัวเขา มันไม่ใช่เขา ผมเองก็คล้ายๆ แบบนั้น ที่ผมได้รู้ว่า ผมไม่ใช่คนเดิมจากที่เคยแต่งเพลงในอัลบั้มชุดแรกๆ

แล้วการรู้ตัวเองแบบนั้นมันเป็นอย่างไรบ้าง?มันก็ทำาให้ผมงงไปเหมือนกัน มันออกแนวว่า - ผมไม่อยากเขียนเพลง

แบบนี้อีกแล้ว - เพลงเก่าๆ มันก็ยังมีความหมายกับผมอยู่นั่นแหละ แต่ว่ามันไม่ใช่ตัวตนของผมในตอนนี้ ออปชั่นเดียวของผมคือเปิดโน้ตบุ๊กและลงมือ มันเป็นเรื่องที่ว่าจะทำาแบบนี้ หรือตกอยู่ในอิทธิพลของตัวเองไปตลอดชีวิต ในแง่ของการแต่งเพลงแล้ว ความรู้สึกของผมคือมันจะหนักเกินไป ถ้าผมยังเอาแต่ - คุณต้องสวมบท แวน มอร์ริสัน, นีล ยัง และ แซม คุ้ก ลงไปนิดๆ หน่อยๆ - มันสื่อถึงอะไร? เราชอบพวกเขามากขนาดนั้นมั้ย? อิทธิพลของเราคือดนตรีที่มีชีวิตอยู่ในโลก เราไม่จำาเป็นต้องเป็นแบบพวกเขา ผมไม่ได้วิจารณ์งานของเราเอง ผมว่ามันเจ๋ง แต่มันไม่ใช่ผมในตอนนี้ก็แค่นั้น

แต่จะว่าไปแล้วการปรับเปลี่ยนสไตล์การแต่งเพลงก็น่าจะง่ายกว่าเปลี่ยนแปลงเรื่องดนตรี แล้วคุณพยายามจะทำาแนวเพลงแบบใหม่บ้างมั้ย?

เรารวมตัวกันในห้อง และแจมดนตรีกันยังกับเด็กๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำากันมาก่อน แล้วผมเคยทำาอะไร แนวทางของผมคือ - พวกที่อยู่ในยุค 60-70 ใช้เอ็กโค่เทป ผมก็เลยใช้แบบนั้นด้วย พวกเขาไม่มีเอฟเฟกต์ ผมก็จะไม่ใช้ - ทำาไมน่ะเหรอ? มันไม่เข้ากับเราอีกแล้วนะสิ พวกเราในวงอายุเข้าเลข 3 กันหมดแล้ว เราเป็นเด็กยุค 90 เราโตมากับกรันจ์ ดนตรีแรกที่ผมได้รับรู้ด้วยตัวเอง ที่ทำาเอาผมอยากพังห้องนั่งเล่นคือ Nirvana กับ Pearl Jam ผมเริ่มคิดว่า - อะไรคือเนื้อแท้ของ Pearl Jam? - พวกเขาชอบ นีล ยัง และ The Who แต่ว่าก็ไม่ยักกะเลียนแบบพวกนั้น พวกเขาผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพราะรู้แบบนั้นเราเลยปลอดโปร่ง เป็นอิสระ เราเคยใช้เอฟเฟกต์ แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว

แล้วเป็นไงมาไงถึงมาทำางานกับ เบรนแดน โอไบรอัน? เราคุยกับโปรดิวเซอร์หลายคน และพวกเขาแบบว่า -

พวกนายมีอัลบั้มที่ยอดเยี่ยม และเป็นวงดัง ตอนนี้ถึงเวลาต้องทำาซิงเกิลฮิตๆ แล้ว - ซึ่งเราแบบว่า - โอ้ พระเจ้า - ผมชอบเพลงของโกตีเย แต่จะให้ผมมาทำาเพลงแบบนั้น เขียนเพลงแบบนั้นก็ไม่ได้ ผมว่าเขาเองก็คงไม่คิดเหมือนกัน วงร็อกมีซิงเกิลฮิตก็แสดงว่าต้องฟลุกอย่างมากๆ มันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ เบรนแดน โทร.มาหาผม และบอกว่า - ฟังนะ ชั้นชอบงานของพวกนาย ฉันอยากทำาอัลบั้มใหม่ของพวกนาย และนี่คือสิ่งที่ฉันอยากให้พวกนายทำา อย่ามาคุยกับฉันเรื่องการทำาซิงเกิล หรือการทำาเพลงเอาใจวิทยุ นายมีหน้าที่เขียนเพลงที่มีความหมายกับตัวเอง

มีเพลงไหนมั้ยในอัลบั้ม Handwritten ที่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนของคุณ เพลงที่ทำาให้คุณรู้สึกว่ามีซาวนด์ที่ขยับเข้าใกล้กับสิ่งที่คุณคาดหวังแล้ว?

ตอนผมทำาอัลบั้ม Horrible Crowes มันสอนผมว่า ผมทำาอะไรก็ได้ ทุกอย่างไม่มีลิมิต ลิมิตมันเป็นสิ่งที่คุณกำาหนดให้ตัวคุณเอง มันก็เหมือนกับทฤษฎีของ Bon Iver หรือ Modest Mouse ที่ว่า - เดี๋ยวผมจะเอากระทะแบนๆ นี่ฟาดไปที่กำาแพง แล้วเอาเสียงของมันมาใช้ - พวกเราคงไม่ทำาถึงขนาดนั้น แต่มันเป็นทฤษฎีที่ว่า - อะไรก็ได้ทั้งนั้น - ที่ทำาใหัผมมีความกระหายที่จะทำาเพลงใหม่ๆ หนึ่งในเพลงแรกๆ ที่เราทำาในอัลบั้มนี้คือ “45” และผมแบบว่า - แบบนี้แหละใช่เลย! - มันเป็นเพลงจังหวะเร็ว ซาวนด์เจ๋ง แต่ก็ไม่ได้มีความสลับซับซ้อนอะไร เพลงแบบนี้แหละที่ให้ความรู้สึกว่าคุณกำาลังพูดและทำาสิ่งที่คุณตั้งใจทำา แบบนี้เลย นี่แหละที่เ

<<< 10 I EQUINOX

EQUINOX I\11 >>>

หลังจากอัลบั้ม TEARGARDEN BY KALEIDYSCOPE ออกมาปี 2009 หรือบางคนอาจนับ ZEITGEIST ในปี 2007 ว่าเป็นอัลบั้มล่าสุด ตอนนี้ THE SMASHING PUMPKINS วงอัลเตอร์เนทีฟจากชิคาโก กลับมาพร้อมอัลบั้มชุดใหม่เอี่ยมอ่อง OCEANIA ที่อุดมไปด้วยบทเพลงทรงพลัง เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ 13 เพลง

OCEANIA บันทึกเสียงกันที่สตูดิโอส่วนตัวของ บิลลี่ คอร์แกน นักร้องนำาและหัวหน้าวง ในชิคาโก พร้อมเพื่อนร่วมวง เจฟฟ์ ชโรเดอร์ (กีตาร์), ไมค์ เบิร์น (กลอง) และเช่นเคยที่เบสขอสงวนให้กับผู้หญิง...นิโคล ฟิออเรนติโน่ ขณะที่หน้าปกสวยๆ เป็นผลงานการถ่ายภาพของ ริชาร์ด เชย์ บุตรชายของ อาร์ท เชย์ ช่างภาพและนักเขียนคนดังของเมืองชิคาโก

อัลบั้มนี้โปรดิวซ์โดยคอร์แกน กับ บียอร์น ธอร์สรุด โดยคอร์แกนบอกว่าสำาหรับ OCEANIA แล้ว นี่คือ “อัลบั้มในอัลบั้ม” โดยมันเป็นส่วนหนึ่งจากการสร้างสรรค์งานก่อนนี้ อย่าง TEARGARDEN BY KALEIDYSCOPE ที่คอร์แกนทำาออกมาในแนวคอนเซปต์อัลบั้ม รวม 44 เพลง เรียกได้ว่า OCEANIA สร้างขึ้นมาจากประสบการณ์เพื่อให้คนฟังซึมซับกับบทเพลงและดนตรีอย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้เราจะมาคุยสั้นๆ กับ บิลลี่ คอร์แกน หัวหน้าวงคนเก่ง พอหอมปากหอมคอ

ในการทำาอัลบั้มนี้มีความแตกต่างจากอัลบั้มก่อนๆ อย่างไรบ้าง?พวกเราทำางานกันด้วยความว่างเปล่าที่เซโดน่า ในช่วงหน้าหนาวต้นปี 2011 วาด

ภาพคร่าวๆ ของเพลงต่างๆ ในเบื้องต้น ขณะเดียวกันก็พยายามค้นหาแนวทางของอารมณ์ไปด้วย ในแง่ของกระบวนการแบบนี้แล้ว ถือว่ามันผิดแผกไปจากการทำางานอัลบั้มก่อนๆ ที่ผมทำาร่วมกับวงในฐานะกลุ่มก้อนที่ช่วยผมในการนิยามรูปแบบของการทำางานที่จะทำา เราหลุดออกจากกรอบ และมีเซนส์ที่ดีเกี่ยวกับสิ่งที่เคยไม่อยู่ในสายตาของเรา เราทุ่มเทหนักเพื่อสร้างพื้นที่ในดนตรี แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทิ้งพลังของอารมณ์ที่ผมต้องจัดให้มีอยู่เบื้องหลังบทเพลงต่างๆ ของผม

คุณทำาอัลบั้ม OCEANIA เสร็จสิ้นก่อนการตัดสินใจร่วมงานกับทาง EMI LABEL SERVICES/CAROLINE DISTRIBUTION นั่นหมายความว่านี่เป็นงานที่คุณทำาอย่างอิสระตามใจต้องการ อยากให้คุณเล่ากรอบความคิดการสร้างสรรค์ระหว่างทำาอัลบั้มนี้ให้เราฟังหน่อย?

ในแง่ของการสร้างงานแล้ว ผมพยายามทำาเพลงที่เพลงแต่ละเพลงต่างก็มีคุณค่าในตัวของมันพอๆ กับเพลงอื่นๆ และพยายามไม่ใส่ใจคำาพูดแบบที่คุณจะได้ยินเกี่ยวกับความต้องการเพลงที่จะตัดออกมาเป็นซิงเกิล แนวทางการทำางานของผมในอัลบั้มนี้คือเพลงทุกเพลงควรค่ากับฟัง ใช้ใจฟัง สัมผัสถึงความต่อเนื่องและภาพรวม พอเรามีความรู้สึกว่า เราประสบความสำาเร็จในการสร้างสมดุลแบบนั้น ตอนนั้นแหละที่เราจะให้คนนอกโลกของเราได้ฟังงานที่เราทำา โอกาสในการทำางานกับ EMI อีกครั้ง นับว่าเป็นความเหมาะสมตามความรู้สึกของผม แต่ก็ต่างจากหลายๆ ปีก่อนนี้ ที่ผมอยู่ภายใต้สัญญา และต้องทำางานตามแรงบีบภายนอก ซึ่งบ่อยครั้งเลยที่มันไม่เข้ากับงานของเรา แต่สำาหรับการทำางานครั้งนี้ พวกเขามาร่วมงานกับเราในการนำา OCEANIA สู่ตลาดในวงกว้างมากกว่าที่เราจะทำาได้ตามลำาพัง

แล้วคุณคิดว่าอะไรบ้างที่เพื่อนร่วมวงนำามาสู่อัลบั้มนี้?ผมยืนกรานหนักแน่นมาเสมอว่า ในฐานะวงดนตรีแล้ว สิ่งสำาคัญที่สุดคือ เรามารวม

กันเพื่อทำาเพลงใหม่ด้วยกัน ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่จะบอกว่า กับอัลบั้ม OCEANIA แล้ว ผมมีความรู้สึกว่าเราได้ก้าวสู่ทิศทางใหม่ เจฟฟ์, ไมค์ และนิโคล ต่างมีส่วนในการนำาเสนอเนื้อหาสาระทางดนตรีของ OCEANIA ซึ่งเป็นอัลบั้มในแบบที่ผมไม่เคยทำามาก่อนเลย และในเวลาเดียวกันผมก็รู้สึกว่า มันคงไว้ซึ่งคุณค่าทางดนตรีที่ผมได้ทำากับ THE PUMPKINS มาตลอด นั่นก็คือเป็นโปรเกรสซีฟ เปี่ยมด้วยอารมณ์ เป็นเรื่องราว และอยู่ไม่สุข

แล้วคุณคิดมั้ยว่า หนึ่งในข้อได้เปรียบจากอัลบั้มชุดนี้คือ วงได้เล่นเพลงบางเพลงไปแล้วในระหว่างออกทัวร์?

ถ้าหากจะมีอะไรที่เราเรียนรู้จากการเล่นดนตรีด้วยกันตลอด 2 ปีมานี้ มันก็คือเราสร้างสรรค์ซาวนด์ดนตรีและตัวตนของเราเองขึ้นมา มันขึ้นอยู่กับคนฟังว่าจะรู้สึกยังไง ไม่ว่าจะจากอดีตของผมหรือของใครก็ตาม เรารู้ดีแก่ใจเราเองว่า เรามีอะไรมากมายที่จะเอามาแบ่งปันกัน มากกว่าแค่มาร่วมแจมดนตรีกัน การเป็น THE PUMPKINS จะถูกมองเสมอว่า เราจะสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาได้บ้าง จากมือและจากใจของเรา ผมไม่เคยคิดอะไรแบบอื่นนอกเหนือจากนี้

<<< 12 I EQUINOX

เดฟ โกรห์ล นักร้องนำา-มือกีตาร์ของ FOO FIGHTERS จะขอพูดถึงการเข้าชิง 6 รางวัลแกรมมี่ อวอร์ดส์ ที่กำาลังจะประกาศผลในสัปดาห์หน้า, ความคิดถึงที่มีต่อ เคิร์ท โคเบน อดีตเพื่อนร่วมวง NIRVANA และงานใหม่ของเขากับการทำาสารคดีเพลงร็อก

FOO FIGHTERS กำาลังออกทัวร์คอนเสิร์ตห่างไกลจากบ้านเกิดในอเมริกาหลายพันไมล์ ตอนที่รู้ข่าวว่าผลงาน WASTING LIGHT อัลบั้มชุดที่ 7 ของพวกเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดส์ มากถึง 6 สาขา “เรื่องนี้ถือเป็นไฮไลต์ของปีสำาหรับพวกเราเลย” เดฟ โกรห์ล นักร้องนำา-มือกีตาร์ของ FOO FIGHTERS เผยความรู้สึกหลังจากรู้ข่าวระหว่างอยู่ที่ออสเตรเลีย “เชื่อผมเถอะว่าเรารู้สึกตัวลอยกันหมด เมื่อรู้ข่าวดีนี้” แต่พอกลับถึงสหรัฐฯ โกรห์ลไม่มีเวลาจะฉลองความสำาเร็จ โดยเขาต้องตรงเข้ารับหน้าที่ผู้กำากับหนังสารคดีเกี่ยวกับซาวนด์ ซิตี้ สตูดิโอบันทึกเสียงอันเป็นตำานานของเมืองลอสแอนเจลีส “มันน่าตื่นเต้นมาก มีมุมมองการเสนอที่ชัดเจน รอดูแล้วกัน”

ขอแสดงความยินดีกับการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ คุณดีใจขนาดไหน?โกรห์ล : มันบ้ามากจริงๆ ผมหมายถึงว่าสำาหรับอัลบั้มนี้เราอัดเสียงกันในโรงรถที่

บ้านของผมด้วยเทปแบบอนาล็อก โดยไม่มีคอมพิวเตอร์มาเกี่ยวข้องเลย รู้สึกยังไงกับการได้เข้าชิงรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี? มันเหมือนเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ คงเหมือนที่คนทั่วไปเขาเป็นกัน

เดดเม้าส์ ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่ จากการนำาเพลง ROPE ของ FOO FIGHTERS มาทำาในสไตล์ดนตรีเฮ้าส์รีมิกซ์ของเขา คุณเป็นแฟนเพลงของเขาด้วยรึเปล่า?

โกรห์ล : ไอ้หนุ่มคนนี้มันร็อกดี! ผมกับลูกสาวมักจะเปิดคลื่นวิทยุเพลงแดนซ์ และเต้นไปรอบๆ บ้านเหมือนคนบ้ากันเป็นชั่วโมง

ช่วงไหนของการทัวร์ครั้งนี้ที่คุณรู้สึกชอบมากที่สุด?โกรห์ล : การเล่นเพลง BAD REPUTATION กับ โจน เจ็ตต์ ที่เมดิสัน สแควร์ การ์

เด้น มันน่าเหลือเชื่อมาก และจากนั้นก็มี อลิซ คูเปอร์ ที่มิลตัน คีนส์ โบว์ล ในอังกฤษ เขาออกมาในช่วงอังกอร์ และร้องเพลง SCHOOL S OUT กับ I M EIGHTEEN ร่วมกับเราต่อหน้าคนดูกว่า 65,000 คน เขาขโมยโชว์ไปเลย แต่ที่ผมถือว่าเป็นเกียรติมากที่สุดคือการแจมกับ บ็อบ โมลด์ ในงานคอนเสิร์ตทริบิวต์ของเขาที่แอลเอ ผมติดหนี้ชายคนนี้มากมาย

อะไรคือแนวความคิดที่อยู่เบื้องหลังหนังสารคดีที่คุณกำาลังทำาอยู่?โกรห์ล : ตอนที่ซาวนด์ ซิตี้ ต้องปิดกิจการเมื่อปีที่แล้ว มันเป็นวันที่น่าเศร้ามาก สตู

ดิโอแห่งนั้นก็เหมือนโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ มีศิลปินมากมายที่เคยบันทึกเสียงผลงานของพวกเขาที่นั้น รวมถึงพวกร็อก แอน โรลล์ ฮอล ออฟ เฟม อย่าง นีล ยัง, FLEETWOOD MAC, ทอม แพ็ตตี้, CHEAP TRICK, SLAYER, RAGE AGAINST THE MACHINE, WEEZER, METTALICA และ NIRVANA “เราอัดเสียงอัลบั้ม NEVERMIND ที่นั่นในปี 1991 สถานที่เก่าแก่แห่งนั้นมีห้องอัดเสียงกลองที่ดีที่สุดในโลก เสียงรัวกลองในช่วงต้นของ SMELLS LIKE TEEN SPIRIT มาจากซาวนด์ ซิตี้ ผมตัดสินใจจะถ่ายหนังสารคดีเกี่ยวกับความรู้สึกที่คุณได้รับเมื่อนำาผู้ชาย 5 คนมารวมอยู่ในห้องเดียวกันเพื่อทำาเพลงฮิตออกมา มันทำาให้รู้สึกขนลูกซู่ทีเดียว”

การฉลองครบรอบ 20 ปี ของอัลบั้ม NEVERMIND มีความหมายกับคุณอย่างไร?โกรห์ล : การฉลองครบรอบเหมือนเป็นการเดินทาง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดนตรี

เท่าไร มันเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า ชีวิตของผมเหมือนแบ่งเป็น 2 ช่วง ก่อนอัลบั้ม NEV-ERMIND และหลังจากอัลบั้ม NEVERMIND มันเหมือนว่าอยู่คนละโลกกันเลย เวลานึกย้อนกลับไปผมไม่รู้สึกว่ามันผ่านมานานแล้วเลยจริงๆ แต่ผมรู้สึกว่ายังเหลืออะไรอีกเยอะที่ไม่ได้ทำาในตอนนั้น และทำาให้ผมคิดถึง เคิร์ท (โคเบน) อย่างมาก

อะไรคือสิ่งที่อยู่ในความคิดของคุณเหมือนนึกถึงความทรงจำาในช่วงทศวรรษ 90?โกรห์ล : ผมไม่เห็นเรื่องอะไรที่จะทำาให้โหยหาอดีตในยุค 90 เสียงกีตาร์ที่ดังลั่น และ

มือกลองที่ชอบทำาลายอุปกรณ์ของเขาอย่างนั้นเหรอ? ผมชอบวงอย่าง SOUNDGARDEN ที่ยังสามารถทำาดนตรีแบบนั้นได้อยู่ แต่ผมไม่มองว่ามันเป็นบรรยากาศแบบย้อนยุค มันไม่ได้มีมือกีตาร์หรือมือกลองที่ทำาอัลบั้มที่ยอดเยี่ยมเอาไว้แล้วตายจากไปคืนชีพกลับมาเหมือนไดโนเสาร์ใน JURASSIC PARK ยังมีพวกไร้สาระมากมายหลงเหลืออยู่

แต่ทุกวันนี้นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำาบากสำาหรับสถานีวิทยุเพลงร็อก จริงไหมล่ะ?โกรห์ล : ก็อย่างที่เห็นว่าสถานีเพลงร็อกกำาลังเผชิญปัญหากับเรื่องอย่างการกำาหนด

เพลงที่จะเปิดล่วงหน้าที่เป็นเหมือนโรคร้ายมาตลอด 10 ปีหลัง ความรู้สึกแรกตอนที่คุณได้ฟังเพลงอย่าง BOHEMIAN RHAPSODY, ROXANNE หรือ SMELLS LIKE TEEN SPIRIT นั้นคือสิ่งที่สถานีวิทยุควรเป็น ไม่ใช่คอยแต่จะป้อนเพลงสำาเร็จรูป และผมขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าดนตรีร็อก แอน โรลล์ ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ มันยังเป็นตำานานต่อไป

EQUINOX I\13 >>>

GREEN RIVER ORDINANCERATING wwwwwCHECK OUT DANCING SHOES, COME ON, ON YOUR OWN\

MORE INFO GREENRIVERORDINANCE.COM

CGREENRIVERORDINANCE

L@GRO

วงร็อคจาก TEXAS ที่มีกลิ่นอายของความเป็นคันทรี่ผสมอยู่ในเพลงของพวกเขา จึงทำาให้เกิดความน่าสนใจกับความลงตัวที่เกิดขึ้น พวกเขาเริ่ม

เส้นทางดนตรีของตัวเองจากการที่เล่นเปิดให้กับวง FLICKERSTICK ต่อมาในปี 2005 พวกเขาก็ได้ออกทัวร์กับวง COLLECTIVE SOUL และได้เล่น

ร่วมกับวง EISLEY และ MUTEMATH

เริ่มแรกทั้งอัลบั้มเต็มและ EP ที่ออกมาตอนแรกในปี 2005 และ 2007 ตามลำาดับ ได้สังกัดอยู่กับค่ายอินดี้เล็กๆ ที่ชื่อว่า FOR MONA ต่อมา

อัลบั้มเปิดตัว “OUT OF MY HAND” ก็ได้ย้ายมาสังกัดกับ VIRGIN RECORDS ในปี 2009 โดยได้ถูกในไปเปรียบเทียบรวมกับวงเมนสตรีมของยุค 90

อย่าง SISTER HAZEL, THIRD EYE BLIND, MATCHBOX 20, AUGUSTANA และ THE FRAY ซึ่งอัลบั้มนี้ก็สามารถเข้าไปอยู่ในอันดับที่ 10 ของ

BILLBOARD HEATSEEKERS CHART ด้วย โดยมีซิงเกิ้ลเพราะๆ อย่าง “COME ON” และ “ON YOUR OWN” เข้าไปอยู่ใน BILLBOARD ADULT

CHART ตามๆ กัน และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาพวกเขาก็ได้คลอดสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ล่าสุด “UNDER FIRE” ที่ ได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ โดยมีซิ้ง

เกิ้ลที่มีอารมณ์ของเพลงคันทรี่อย่าง “DANICING SHOES” และล่าสุดเพลง “HEART OF ME” ที่มีเอ็มวีออกมาให้ชมแล้วในตอนนี้

<<< 14 I EQUINOX

จุดเริ่มต้นสำาหรับ NEVER SHOUT

NEVER นั้นมาจากการที่ CHRISTOFER

DREW ได้แต่งเพลงขึ้นมาก จากนั้นเขาก็นำามัน

อัพโหลดขึ้นไปในเว็บไซต์ MYSPACE หลังจาก

นั้นไม่นานเพลงของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น

จากเพลง “BIG CITY DREAM” ที่อยู่ใน EP

“THE YIPPEE” ที่ออกมาเมื่อปี 2008 ซึ่งเพลง

นี้ ได้ไต่ขึ้นไปอยู่ในชาร์ต BILLBOARD TOP

100 ด้วย และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเขาก็เริ่มออก

ทัวร์ร่วมกับวง HELLO GOODBYE และ ACE

ENDERS

สำาหรับชื่อ NEVER SHOUT NEVER นั้นเป็นชื่อเรียกเฉพาะที่หนุ่ม CHRISTOFER คิดขึ้นมาก่อนที่เข้าจะออกทัวร์ โดยก่อนหน้านี้เขาใช้ชื่อว่า THE

SHOUT ก่อนจะเปลี่ยนใหม่โดยตัวเขาเองทำาหนาที่ร้องนำา แต่งเพลง และเล่นดนตรีเอง ก่อนที่จะมีแบ็คอัพในตอนหลัง

ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009 เขาก็เริ่มออกทัวร์อีกครั้งกับ THE READY SET, THE HONORARY TITLE และ THE BIGGER LIGHTS และ

ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลดนตรี THE BAMBOOZLE ด้วย จากนั้นในเดือนมิถุนายนเขาก็ปล่อย EP ชุดที่ 2 ออกมา “THE SUMMER” โดยมี

ซิงเกิ้ลอย่าง HAPPY ซึ่งเขาได้นำาไปเล่นในเทศกาลดนตรี VANS WARPED TOUR ที่ออกแสดงไปทั่วประเทศ และในปีต่อมา “WHAT IS LOVE” อัลบั้ม

เปิดตัวชุดแรกก็ถูกปล่อยออกมา ก่อนที่อัลบั้มเต็มชุดที่สอง “HARMONY” จะตามออกมาติดๆ และดูเหมอนหนุ่ม CHRISTOFER จะไม่ชอบที่จะปล่อยให้

แฟนเพลงต้องรอนาน เพราะในเดือนกันยายนปีต่อมา เขาก็มีอัลบั้มชุดที่สามออกมาในชื่อ “TIME TRAVEL” ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ค่อนข้างจะมีความแปลกใหม่

ที่นำาเอาเสียงสังเคราะห์เข้ามาผสมลงไป แต่ก็ยังสามารถคงเอกลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ได้อย่างดี

ล่าสุดในปีนี้ CHRISTOFER ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร ALTERNATIVE PRESS ของเมืองมะกันว่าอัลบั้มชุดที่สี่กำาลังจะออกในมาช่วงฤดูใบไม้

ร่วงปีนี้ โดยเขายังเปิดเผยต่อว่าในอัลบั้มนี้จะมีชื่อว่า “INDIGO” ซึ่งก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าคราวนี้เขาจะมีอะไรใหม่ๆ มาให้แฟนๆ ตื่นเต้นกันอีกหรือไม่

NEVERSHOUTNEVER

RATING wwwwoCHECK OUT CAN’T STAND IT, LOVE SICK, HARMONY\

MORE INFO NEVERSHOUTNEVER.COM

CNEVERSHOUTNEVER

L@NSNOFFICIAL

EQUINOX I\15 >>>

<<< 16 I EQUINOX

PARACHUTERATING wwwwwCHECK OUT KISS ME SLOWLY, YOU AND ME, HALFWAY\

MORE INFO PARACHUTE.COM

CPARACHUTE

L@PARACHUTE

วงร็อคเชื้อสายอเมริกันจาก CHARLOTTESVILLE, VIRGINIA รวมตัวกันตอนที่กำาลังศึกษาอยู่ที่ UNIVERSITY OF VIRGINIA โดยในตอนแรก

พวกเขาใช้ชื่อวงว่า SPARKY’S FLAW และเมื่อจบการศึกษาในปี 2008 พวกเขาจึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น PARACHUTE และเริ่มออกทัวร์กันอย่างหนักใน

ปี 2009 เพื่อโปรโมทอัลบั้มเปิดตัวที่ใช้ชื่อว่า “LOSING SLEEP”

เพลงที่มีจังหวะนุ่มนวลและอ่อนหวานอย่าง “SHE IS LOVE” ทำาให้พวกเขาได้เป็นที่รู้จักและเพลงๆ นี้ก็ถูกเปิดตามคลื่นวิทยุต่างๆ บวกกับตาราง

ทัวร์ที่คิวยาวเหยียดทำาให้พวกเขาได้แนะนำาตัวเองให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก พวกเขาได้ร่วมออกทัวร์ไปกับศิลปินดังๆ มากมาย เช่น O.A.R, SWITCHFOOT,

DUFFY, MATT NATHANSON, JON MCLAUGHLIN, 3 DOORS DOWN, THE SCRIPT, KELLY CLARKSON, SECONDHAND SERENADE,

SAFETYSUIT, JOE BROOKS และ HOT CHELLE RAE

แต่การเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักนี้เป็นเพียงแค่บางสิ่งที่พวกเขาต้องการเท่านั้น “ถ้าไม่มีใครไปดูพวกเราเล่น แล้วเราจะเล่นไปทำาไมล่ะ” WILL ANDER-

SON นักร้องนำาของวงพูด แต่ในความเป็นจริงแล้วตอนที่ NIVEA ทำาแคมเปญเปิดตัวที่ TIME SQUARE พวกเขาก็ได้เล่นโชว์ต่อหน้าผู้คนนับล้านเลยที

เดียว

อัลบั้มที่สอง “THE WAY IT WAS” ได้เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา และได้สร้างความประทับใจให้กับคนฟังกับเพลงฮิตอย่าง “SOME-

THING TO BELIEVE IN”, “WHAT I KNOW”, “AMERICAN SECRET”, “PHILADELPHIA” และ “KISS ME SLOWLY” ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่ WILL

ได้แต่งร่วมกับ CHARLES KELLEY กับ DAVE HAYWOOD แห่งวง LADY ANTEBELLUM

“ความสุขของพวกเราคือการที่ ได้เอาชนะใจคนฟังด้วยเพลงของพวกเรา” WILL พูด “และการที่พวกเขาส่งต่อเพลงของพวกเราให้เพื่อนๆ ของ

พวกเขาได้ฟังต่อๆ กันไป”

สำาหรับวงนี้คงต้องมาทำาความรู้จักกันก่อน สำาหรับใครที่กำาลังจะไปมันส์กับคอนเสิร์ต MA-

ROON 5 LIVE IN BANGKOK ในเดือนตุลาคมที่จะมาถึงนี้ เพราะพวกเขาคือวงที่ร่วมทัวร์มากับ

MAROON 5 โดยสมาชิกของวงในปัจจุบันประกอบไปด้วย ALEXANDER DELEON (VOCALS),

ALEX MARSHALL (GUITAR/PIANO)และ JOEY THUNDER (BASS)นอกจากนีเพวกเขายัง

เป็นวงที่ยอดเยี่ยมอีกวงหนึ่งที่คุณควรจะรู้จัก โดยถูกเลือกให้เป็น “THE BAND YOU NEED TO

KNOW 2008” ของนิตยสาร ALTERNATIVE PRESS และเป็นหนึ่งใน “100 BANDS YOU NEED

TO KNOW 2010” ด้วย

อัลบั้มแรกของ THE CAB ที่ออกมาเมื่อเดือนเมษายน ปี 2008 “WHISPER WAR” ก็มีเพลง

ฮิตอย่าง “I’LL RUN” ที่มีเข้าไปฟังกว่า 300,000 ครั้งในเว็บไซต์ของ MYSPACE และตามมาด้วย

เพลง “BOUNCE” ที่สามารถเข้าไปอยู่ในชาร์ต BILLBOARD POP 100 ก่อนที่จะสามารถขึ้นมาเป็น

อันดับ 1 ของชาร์ต BILLBOARD HEATSEEKERS ซึ่งเป็นชาร์ตสำาหรับศิลปินหน้าใหม่ด้วย

มาถึงอัลบั้มชุดล่าสุดที่ออกมาในปีนี้ “SYMPHONY SOLDIER” ที่มี PETE WENTZ มือเบส

จาก FALL OUT BOY, BRUNO MARS และแน่นอนว่ามี ADAM LEVINE จาก MAROON 5 มา

ร่วมเขียนเพลงให้กับอัลบั้มนี้ด้วย นอกจากนี้เว็บไซต์ ABSOLUTE PUNK ยังได้ทำาการรีวิวและเรียก

อัลบั้มชุดนี้ของพวกเขาว่า “MASTERPIECE” อีกด้วย โดยเพลงที่พวกเขาน่าจะขนมาเล่นให้ฟังกันก็

น่าจะเป็นซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาอย่าง “BAD” นอกจากนี้ยังมี “LA LA LA” และ “ENDLESSLY”

ที่น่าสนใจไม่แพ้กันด้วย สำาหรับใครที่มีบัตรของ MAROON 5 LIVE IN BANGKOK แล้วก็อย่าลืมไป

ฝึกร้องเพลงของพวกเขาล่ะ จะได้สนุกไปด้วยกัน และหวังว่าพวกเขาจะทำาให้คุณประทับใจ

RATING wwwwoCHECK OUT LA LA LA, BAD, ENDLESSLY

MORE INFO THECAB.COM

CTHECAB

L@THECAB

EQUINOX I\17 >>>

<<< 18 I EQUINOX

EQUINOX I\19 >>>

<<< 24 I EQUINOX

สามหนุ่มทรีโอเจ้าของเพลงฮิตอย่าง “WE ARE YOUNG” ที่โด่งดังข้ามน้ำาข้ามทะเลไปทั่วโลกรวมถึงบ้านเราด้วย โดยความสำาเร็จในครั้งนี้ก็ได้สร้างความฮือฮาที่วงอินดี้ป๊อป ธรรมดาๆ อย่างพวกเขาจะสามารถส่งเพลงของตัวเองเข้าไปเดินเล่นอยู่ในชาร์ต BILLBOARD HOT 100 และเป็นอันดับ 1 ของชาร์ตได้ แต่กว่าที่พวกเขาจะสามารถประสบความสำาเร็จขนาดนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๅ เลย EQUINOX ฉบับนี้ จึงขอนำาเสนอเรื่องราวของ FUN. วงอินดี้ป๊อปจากนิวยอร์ค ซึ่งพวกเขาจะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ และความคิดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ซึ่งคงจะทำาให้คุณรู้จักอินดี้ป็อปวงนี้มากขึ้น และเก็บพวกเขาไว้ในลิสต์ศิลปินคนโปรดของคุณ

ช่วงเย็นของวันธรรมดาๆ วันหนึ่งในปี 2011 NATE RUESS ได้เดินทางมาถึงโรงแรม BOWERY ที่ย่าน LOWER EAST SIDE, MANHATTAN เขานั่งลงที่บาร์ กระดกไปสองสามแก้ว ในขณะที่กำาลังรอคอยอย่างกังวลใจ กว่า 10 ปีที่ NATE ได้ใช้เวลาของเขาในการเขียนเพลงและร่วมแสดงกับวงพั้งค์หลายๆ วง รวมถึงเคยทำาหน้าที่ร้องนำาให้กับวงอินดี้ร็อคที่ได้รับความนิยมอย่าง THE FORMAT ก่อนที่จะมาฟอร์มวงของตัวเองร่วมกับเพื่อนๆ อีกสองคน คือ ANDREW DOST กับ JACK ANTONOFF จากวง ANATHALLO และ STEEL TRAIN ตามลำาดับ

สำาหรับอัลบั้มที่สองของ FUN. NATE ได้คิดค้นออกมาให้มีความแตกต่างไปจากอัลบั้มก่อนหน้านี้ไปมากพอสมควร เขาพูดว่า “ผมจำาได้ว่าเคยบอกกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ในวง, ค่ายเพลง แล้วก็ผู้จัดการของพวกเราว่า มันกำาลังจะเป็นเหมือนกับอัลบั้มของ FUN. แต่มันก็จะมีอารมณ์แบบ BREAKBEATS ด้วย” NATE ตั้งใจที่หลอมรวมท่วงทำานองแบบอินดี้ป๊อปร็อคของเขา กับซาวด์แบบฮิพ ฮอพ เข้าด้วยกัน “ผมเริ่มฟังเพลงฮิพ ฮอพ เป็นจำานวนมากโดยการสุ่มเอา ผมคิดว่าเพลงของ DRAKE ถูกเปิดบนคลื่นวิทยุอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นผมกับ ANDREW จึงพากันไปซื้ออัลบั้มของเขามาลองฟังกันเล่นๆ แต่กลายเป็นเรากลับพบว่าตัวเองนั่งฟังเพลงของเขาตลอดเวลา และก็คิดว่ามันน่าทึ่งมากๆ จนกระทั่งอัลบั้ม DARK TWISTED FANTASY ออกมา ผมก็กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเขาไปเลย”

เพื่อที่จะทำามันให้สำาเร็จ เขาจึงต้องการร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ที่ดีที่สุดอย่าง JEFF BHASKER ซึ่งเป็นผู้ที่เขากำาลังนั่งรออยู่ที่บาร์ของโรงแรมแห่งนี้ JEFF เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำาเร็จของศิลปินระดับซุปเปอร์สตาร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น BEYONCE, KANYE WEST และ DRAKE และกับการนับพบกับ NATE เขาก็ได้ทำาการปฏิเสธไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็ตามในครั้งนี้โชคได้เข้าข้างเขา และ JEFF ก็ได้สละเวลาอันมีค่าของเขาเพื่อมาเจอกับ NATE

ด้วยความช่วยเหลือจากการออกฤทธิ์เบาๆ ของแอลกอฮอล์ ทำาให้ NATE ได้พูดคุยกับโปรดิวเซอร์มือทองอย่างออกรสแบบไม่มีเขินเกี่ยวกับคอนเซปอัลบั้มต่อไปของ F UN. เขาได้บอกถึงความต้องการของวงที่ปรารถนาที่จะได้ร่วมงานกับ JEFF และดูเหมือนเจ้าตัวจะ ให้ความสนใจเสียด้วย ซึ่งในวันนั้น JEFF ยังคงต้องทำาการบันทึกเสียงในสตูดิโอกับ

BEYONCE ด้วย แต่เขาก็ได้ชวนให้ NATE ไปที่สตูดิโอเพื่อร้องเพลงให้เขาฟัง และด้วยพลังที่เขาได้รับจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำาให้ NATE ตัดสินใจว่าเป็นอะไรที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะแสดงให้ JEFF เห็นว่าเขาได้ทำาอะไรไว้บ้าง เขาได้ร้องท่อนฮุคของเพลงที่เขาเพิ่งจะแต่งไว้เมื่อวันก่อนและยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่นั่นก็ได้สร้างความประทับใจให้กับโปรดิวเซอร์อย่าง JEFF และในคืนนั้นเองพวกเขาก็ได้ทำาการบันทึกเสียงท่อนฮุคของเพลงที่ได้กลายมาเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวของ FUN. นั่นก็คือเพลง “WE ARE YOUNG”

ซิงเกิ้ล “WE ARE YOUNG” ได้ถูกปล่อยเมื่อเดือนกันยายน ปี 2011 และได้รับความสนใจจากผู้ฟังทั่วทั้งอเมริกาในเวลาอันรวดเร็ว โดยเริ่มแรกซิงเกิ้ลนี้มีจำาหน่ายแบบออนไลน์ ต่อจากนั้นก็ไปปรากฏอยู่ในอเมริกันซีรียส์ยอดนิยมอย่าง GLEE โดยถูกนำาไปร้อง COVER โดยนักแสดงนำาของเรื่อง ก่อนจะถูกนำามาเป็นเพลงประกอบโฆษณาของ CHEVROLET ที่ออกอากาศระหว่างการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลประจำาปี (SUPER BOWL) ที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของปี และซิงเกิ้ลยังได้ไปวนเวียนอยู่ชาร์ต BILLBOARD’S HOT 100 โดยไต่อันดับแบบขึ้นๆ ลงๆ แต่ในที่สุดก็ได้กระโดดไปอยู่อันดับที่ 1 ในช่วงต้นของเดือนมีนาคมปี 2012 จนกระทั่งปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่สองออกมา เพลงของพวกเขาก็ได้ถูกเปิดตามคลื่นวิทยุทั่วประเทศ ในสัปดาห์แรกของของเปิดตัว อัลบั้มของพวกเขา “SOME NIGHTS” ก็ขึ้นไปอยู่ในตำาแหน่งอันดับที่ 3 ของชาร์ต BILLBOARD’S TOP ALBUM ซึ่ง NATE ได้เล่าให้ฟังต่อว่า “เราไม่ได้คาดหวังเลยจริงๆ ว่ามันจะสามารถมาถึงจุดนี้ได้” แม้ว่าอัลบั้มเต็มจะถูกปล่อยออกมาแล้วก็ตาม แต่เพลง “WE ARE YOUNG” ก็ขายไปได้มากกว่า 1.2 ล้านก็อปปี้ “พวกเราต้องขอขอบคุณมากๆ สำาหรับสิ่งนี้ และผมคิดว่าเราอาจจะได้รับเสียงตอบรับเพิ่มขึ้นสำาหรับอัลบั้มนี้” NATE กล่าว “ค่ายเพลงของพวกเราก็ชอบเพลงของพวกเรามากๆ ด้วยเช่นกัน”

EQUINOX I\25 >>>

ช่วยเล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อวงว่าเป็นมาอย่างไร แล้วมันมีความหมายไหมมันเป็นชื่อที่มีความหมาย แต่เราไม่ได้วางแผนมาก่อนจริงๆ ว่าจะใช้ชื่อนี้ ตอนที่เรา

ตัดสินใจจะใช้ชื่อ FUN เราได้ลองค้นใน GOOGLE กันอย่างจริงจังแบบข้ามวันข้ามคืนเลยก็ว่าได้ และปรากฏว่าเราไม่เจออะไรเลย เราคิดว่า “ว้าว” นั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยที่จะมีวงดนตรีที่ใช้ชื่อ FUN ดังนั้นเราเลยตัดสินใจจะใช้ชื่อนี้ แต่พอหลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือนให้หลัง ก็มีวงๆ หนึ่งที่คิดว่าน่าจะมาจากสวีเดน และพวกเขาก็บอกว่าวงของพวกเขาก็ใช้ชื่อ FUN เหมือนกัน ดังนั้นมันเลี่ยงไม่ได้ที่จำาเป็นจะต้องเปลี่ยน แต่พวกเขาบอกว่าถ้าเราทำาให้ชื่อมันมีความพิเศษและให้คนอื่นแยกออกได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร

ทำาไมพวกคุณถึงเลือกที่จะทำางานร่วมกับ JEFF BHASKER หรือนั่นเป็นเพราะพวกคุณชื่นชอบผลงานของเขาที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ KANYE WEST ในอัลบั้ม MY BEAUTIFUL DARK TWISTED FANTASY

พวกเราเป็นแฟนพันธ์แท้ของ JEFF ไม่ว่าจะเป็นงานของเขาที่โปรดิวซ์ให้กับ KANYE WEST, DRAKE, ALICIA KEYS หรือ BEYONCE ก็ตาม และเขาก็ยังเป็นโปรดิวเซอร์ที่พวกเราใฝ่ฝันอยากจะให้เขามาทำางานกับอัลบั้มนี้ ไม่ใช่เพราะความอัจฉริยะของเขาเพียงอย่างเดียว แต่เขายังแสดงให้เห็นถึงทุกสิ่งที่พวกเรารักเกี่ยวกับดนตรี เหมือนกับว่าเขาเป็นคนที่มากไปด้วยประสบการณ์ แต่ก็มีรสนิยมที่ยอดเยี่ยมด้วย ดังนั้นเราจึงใฝ่ฝันที่จะได้ร่วมงานกับเขา และพวกเราก็รู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำาร่วมกัน

แฟนเพลงเก่าๆ ของพวกคุณรู้สึกอย่างไรกับทิศทางดนตรีแบบใหม่ของพวกคุณแน่นอนเลยว่าต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับพวกเราบ้าง และผมก็ไม่พยายามที่จะเช็คเกี่ยว

กับเสียงต่อต้านนี้ในทวิตเตอร์ และไม่ตอบกลับด้วย เพราะว่ามันจะเป็นผลดีกว่าหากผมเลือกที่จะไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หากผมเลือกที่จะสนใจมัน ก็คงจะกลายเป็นว่าสิ่งเหล่านั้นจะย้อนกลับมาทำาร้ายความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็ยังคงมีแฟนเพลงเก่าๆ ที่ยังชอบเพลงของเราอยู่และก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคอยให้กำาลังใจอยู่เสมอ และผมก็คิดว่าพวกเขาค่อนข้างจะตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ ที่พวกเราพยายามทำามันออกมาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนพูดว่าไม่อยากให้เราใช้เสียงสังเคราะห์ มันฟังดูไม่ค่อยเข้าท่าซักเท่าไหร่ พวกเขาอยากจะได้ยินเสียงกลองจริงๆ มากกว่า

มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในโชว์ของพวกคุณหรือไม่หลังจากที่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ทั้งมีและไม่มีนะ ผมว่าแฟนๆ ของเรายังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม และในโชว์ทุกครั้งมัน

เหมือนกับการเฉลิมฉลอง มีเสียงร้องคลอไปพร้อมๆ กับเพลงที่เราเล่นอยู่ตลอด พวกเราชอบที่มันเป็นแบบนี้ และรู้สึกภูมิใจกับมัน ซึ่งทุกอย่างมันไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด ความรู้สึกในโชว์ยังคงเหมือนเดิม บรรยากาศโดยรอบ ที่ทุกคนสามารถร้องเพลงไปตามๆ กัน ผมชอบความรู้สึกเหล่านี้

<<< 26 I EQUINOX

แน่นอนว่าตอนนี้พวกคุณอยู่ในระหว่างช่วงโปรโมทอัลบั้มชุดล่าสุดอยู่ แต่ว่าพวกคุณได้คิดถึงอัลบั้มชุดต่อไปบ้างหรือไม่

ใช่เลย เรื่องนี้อยู่ในหัวผมตลอดเวลา ผมตื่นเต้นจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เสร็จอัลบั้มนี้ เราก็เริ่มเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา และเปิดใจที่จะรับสิ่งต่างๆ เข้ามา เพราะว่าการที่เราทะงานกับ JEFF ทำาให้ต้องคิดอะไรที่มันแตกต่างออกไปเล็กน้อย และสตูดิโอก็กลายเป็นเหมือนกับบ้านอีกหลังของพวกเรา ผมรักการเดินทางเพื่อไปโชว์ตามที่ต่างๆ แต่ผมก็อยากทำาอัลบั้มใหม่ออกมาเร็วๆ เหมือนกัน

พวกคุณคิดยังไงกับการที่หลายคนพูดว่าพวกคุณเปลี่ยนทิศทางดนตรีของตัวเองใหม่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เราจะสามารถทำาได้นะ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแฟนๆ จะ

คิดแบบเดียวกับที่ผมคิดหรือไม่ เพราะว่าส่วนหนึ่งที่ทำาให้พวกเราสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็คือเรื่องของการทำาเพลงเพื่อที่จะให้ขายในตลาดได้ หรือไม่ก็เป็นการที่ทำาให้มีคนอยากมาดูโชว์ของเรา นั่นเป็นสิ่งที่เราจะเป็นจะต้องทำา และเราก็อยากมีแฟนเพลงเยอะๆ ผมคิดว่าหากอยากจะทำาเพลงต่อไป คนอื่นๆ ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าสิ่งที่เราทำานั้นไม่ว่าจะยังไงก็ต้องเกี่ยวข้องกับเงินทั้งนั้น ดังนั้นผมเลยรู้สึกแปลก เหมือนกับว่าบางทีก็ยังมีความคิดที่ว่าวงใต้ดินหรือวงอินดี้เป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำาอะไรตามใจตัวเองได้ แต่จริงๆ แล้วมันก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าเราจะยังซื่อสัตย์กับสิ่งที่เราทำาอยู่ในขณะที่เราก็สามารถเข้าถึงแฟนเพลงแบบกว้างขวางกว่า ดูอย่าง KANYE WEST สิ ผมว่าอัลบั้ม “DARK TWISTED FANTASY” เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดอัลบั้มหนึ่งที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา และเขาก็เป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และผมเห็นว่ามันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นจริงๆ สำาหรับวงการเพลง เพราะว่าตัวศิลปินตระหนักถึงสิ่งๆ นี้ คือ คุณอยากจะทำาอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ และถ้าคุณภูมิใจกับมันแล้ว มันยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว คนอื่นๆ ก็จะฟังมันอย่างแน่นอน ดังนั้นผมคิดว่าเราได้รับบทเรียนจากการทดลองของ KANYE WEST มันทำาให้ผมรู้สึกตื่นเต้น และก็เป็นช่วงเวลาที่ทำาให้แผนๆ รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะพวกเขาได้ฟังในสิ่งที่พวกเขาอยากได้ยิน คุณสามารถดาวน็โหลดเพลง คุณสามารถฟังในสิ่งที่คุณต้องการ หรืออะไรก็แล้วแต่ แฟนๆ บางคนบอกว่าพวกคุณรู้สึกมึนๆ เวลาที่ยินเพลงของเราบนวิทยุหรือจากที่อื่นๆ แต่ผมก็ชอบนะ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกเหมือนกันเวลาที่ผมได้ยิน แม้แต่ตอนที่ได้ยินเพลง “SAY IT AIN’T SO” ของ WEEZER ผมก็ยังรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ยิน เพราะมันเป็นเพลงที่เยี่ยมมากๆ ผมก็แค่มีความสุขกับการฟังเท่านั้นเอง

EQUINOX I\27 >>>

<<< 28 I EQUINOX

VAN MORRISONผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมมากที่สุดและเขาก็มีอิทธิพลกับการเป็นนักร้องของผมด้วย ตอนที่เรากำาลังทำาอัลบั้มชุดที่แล้ว ผมมีแผ่นของอัลบั้ม “VEEDON FLEECE” วางอยู่ตรงไมค์อัดเสียงข้างหน้าผม ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นอะไรที่หลงยุคไปแล้ว แต่ผมกลับคิดว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย มันยังคงเป็นอมตะถึงแม้มันจะเก่าไปหน่อย แต่รู้มัยผมอยากจะบอกให้ทุกคนรู้ว่าเขาเจ๋งสุดๆ เขาทำาให้ผมอยากเป็นนักร้องที่แตกต่างจากคนอื่นๆ และหาเสียงร้องที่เป็นของตัวเอง เขาทำาให้ผมอยากทำาอะไรก็ได้แต่ให้ทำามันให้ดีที่สุด และไม่ต้องไปกังวลกับมันถ้าคุณทำามันอย่างดีที่สุดแล้ว

QUEENผมซื้อแผ่นของ QUEEN อัลบั้ม “A NIGHT AT THE OPERA” และก็เปิดฟังในตอนเช้าของวันนั้นเลย และมันทำาให้ผมคิดว่าผมควรจะต้องทำาอะไรบางอย่าง ผมเลยตัดสินใจยกเลิกงานทุกอย่างของวันนั้นแล้วใช้เวลาทั้งวันเพื่อฟังเพลงของพวกเขา และในที่สุดมันก็ได้กลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อดนตรีของ FUN. “ผมไม่ต้องการที่จะอธิบายให้ใครต่อใครฟังว่าทำาไมพวกเราถึงได้ทำาเพลงออกมาคล้ายกับ QUEEN ล่ะ แต่ผมอยากจะพูดแทนว่า ก็ผมไม่อยากทำาเพลงให้เหมือนกับ FREDDIE MERCURY ยังไงล่ะ” แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมันดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ค่อนข้างจะเสแสร้งกับสิ่งที่เราทำา แต่ผมก็ไม่สามารถทำาอะไรกับมันได้ ผมคิดว่ าส่วนใหญ่แล้วสิ่งเหล่านั้นได้ส่งผลอะไรบางอย่างให้ความจริงในการเขียนเพลงคร่าวๆ ในหัวและถ่ายทอดมันออกมา ผมแทบไม่ได้จับเครื่องดนตรีเลย ดังนั้นผมเลยไม่ค่อยเก่งเรื่องทำานอง และมันก็จบด้วยการออกมาเป็นเรื่องราวที่มากกว่าการเรียงคำาต่อๆ กัน ผมเดาว่านี้แหละที่เรียกว่าน่าจะเป็นอะไรที่เสแสร้งหน่อยๆ และพวกเราก็ชอบหยิบยืมทำานองของ QUEEN มาบ้างบางครั้ง ซึ่งเพลงของพวกเขายังคงยอดเยี่ยมกว่าของใครๆ

PAUL SIMONพ่อของผมไม่ยอมปิดเพลงของเขาเลย มันถูกเปิดในบ้านของผมอยู่ตลอดเวลา ผมเลยได้ฟังเพลงของเขาบ่อยมากๆ และไม่เคยสนใจจะนับเลยว่ามันถูกเปิดไปกี่รอบแล้ว ผมมักจะร้องเพลงเกี่ยวกับตัวเอง แต่ดูเหมือนเพลง PAUL SIMON จะสามารถพูดถึงปัญหาที่แท้จริงได้ และมันไม่ใช่สาเหตุที่ใครจะรู้ได้ แต่พวกเขาสามารถทำามันได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำาไมผมถึงอยากจะเป็นนักดนตรี

SMASHING PUMPKINSตอนที่ผมเรียนไฮสคูลปีแรก อัลบั้ม “MELLON COLLIE AND THE INFINITE SADNESS” ของ SMASH-ING PUMPKINS เพิ่งออกมาได้ประมาณปีสองปี แต่มีเพลงอยู่เพลงหนึ่งที่ผมเปิดฟังตลอดหน้าหนาว ตอนนั้นผมกำาลังตกหลุมรักใครบางคนอยู่ ผมจึงฟังเพลงนี้วนไปวนมาอยู่อย่างนั้น ผมได้แรงบันดาลใจมาจากความรู้สึกนั้น และถ้าความรู้นี้ทำาให้ผมสามารถทำาให้คนอื่นชอบเพลงนี้ และกลายเป็นเพลงแสนเศร้าของฤดูหนาว ผมว่ามันเจ๋งสุดๆ และผมอยากทำามัน

WEEZERตอนเด็กๆ พ่อของผมพาผมไปดูคอนเสิร์ต BRUCE SPRINGTEEN และนั่นเป็นคอนเสิร์ตแรกในชีวิตผม แต่ผมดันหลับกลางงาน ครั้งที่ 2 เป็นคอนเสิร์ตของ WEEZER ตอนที่พวกเขากำาลังทัวร์โปรโมทอัลบั้ม PINKERTON และอัลบั้มนี้เป็นสาเหตุว่าทำาไมผมถึงอยากเป็นนักดนตรี ผมไม่เคยรู้สึกพอใจกับอะไรเลยจนได้ฟังอัลบั้มนี้ มันเป็นอัลบั้มที่เกี่ยวกับความรู้สึกที่คุณไม่เคยเจอมาก่อน ปีแรกในไฮสคูลของผม ผมเข้ามาโรงเรียนและทุกๆ คนก็อยู่ในกลุ่มที่สนิทกัน แต่ผมไม่ได้อยู่ในนั้น วันหนึ่งผมไปดูคอนเสิร์ตของ WEEZER และปรากฏว่าผมเจอคนพวกนั้นในงานด้วย “EL SCORCHO” ยังเป็นเพลงโปรดของผมตลอดกาล มันทำาให้ผมคิดว่า “เอาล่ะ ผมจะต้องมีวงของตัวเอง” เพราะว่าผมได้เจอคนอื่นๆ ที่มีความคิดคล้ายๆ กับสิ่งที่ผมทำา

TUSKหลังจากที่ผมรู้จักอัลบั้ม “PINKERTON” ของ WEEZER ผมก็ได้รู้จักกับ TUSK และเขาก็ทำาให้ผมคิดถึงอัลบั้มของ WEEZER และนี่เป็นสองอัลบั้มโปรดตลอดกาลของผมที่ไม่ใช่ THE BEATLES ตอนที่ผมอายุราวๆ 24 หรือ 25 และอยู่ในวง ระหว่างที่เรากำาลังออกทัวร์กัน ผมขึ้นไปนอนบนเตียงในรถบัสและหยิบเพลงพวกนี้ขึ้นมาฟัง มันเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ทำาให้ผมเกิดไอเดียต่างๆ มากมายวนเวียนอยู่ในหัว และผมไม่เคยสงสัยเลยว่าทำาไมพวกเขาถึงประสบความสำาเร็จ แต่พวกเขากลับปฏิเสธว่าตัวเองเป็นศิลปิน และผมเดาว่านี่แหละที่ทำาให้พวกเขาดึงดูดความสนใจของผมได้ ซึ่งเพลงฮิพฮอพส่วนใหญ่ก็คงจะได้แรงบันดาลใจมาจากอัลบั้มนี้ รวมถึงอัลบั้ม “SOME NIGHT” ของพวกผมด้วย

KANYE WESTเพลงของเขามันน่าทึ่งมากๆ มันเหมือนเสียงเพลงในอนาคต ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้า ELTON JOHN กับ KANYE WEST เป็นนักร้องแนวเดียวกันและประสบความสำาเร็จสูงสุดทั้งคู่ ผมแน่ใจว่าพวกเขาต้องได้รับอิทธิพลจากกันและกัน ทันใดนั้นผมก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาในทันที

อัลบั้มเหล่านี้นับเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับพวกเขา มาดูกันว่ามีอัลบั้มไหนบ้าง บางทีคุณอาจจะอยากฟังเพลงที่พวกเขาชอบก็ได้

EQUINOX I\29 >>>

<<< 30 I EQUINOX

EQUINOX I\31 >>>

<<< 33 I EQUINOX

EQUINOX I\33 >>>

<<< 34 I EQUINOX

EQUINOX I\35 >>>

<<< 38 I EQUINOX

ชายหนุ่มชาวไอริช เล่นเพลงเปิดหมวกข้างถนน เบื้องหลังเขาคือ ซากปรักหักพังของความรักของช่างซ่อมเครื่องดูดฝุ่นที่มีพ่อบังเกิดเกล้าเป็นหัวหน้าช่างใหญ่ และหญิงสาวชาวเชก ที่พลัดบ้านซานมาเพื่ออนาคตที่ดีกว่าในแผ่นดินอื่น มีแม่และลูกสาวติดสอยห้อยตามมาด้วย เสียงเพลงข้างถนนของชายหนุ่ม นำาพาสาวพลัดถิ่นมารู้จักเขา พร้อมหัวใจดวงเดียวกัน และมันเป็น ความรักที่ทั้งสองมีเหมือนกัน นั่นคือ เสียงเพลงเสียงเพลงของคนช่างฝันและชีวิตที่พอกพูนด้วยรอยตะปุ่มตะป่ำาของบาดแผลในใจที่ยังไม่ได้รับการปะชุนสองคน สอดประสานเป็นเนื้อเดียวกัน เพลงแล้วเพลงเล่า นับตั้งแต่วันที่เขาและเธอได้คุ้นกัน บทเพลงเป็นสะพานทอดโยงมิตรภาพที่งดงามให้คนทั้งสอง

ผมรู้สึกว่า Once เป็นหนึ่งในหนังที่ดูแล้วน่าจะทำาให้อายุเรายืนยาว (ก่อนหน้านี้มีหนังเพลงเรื่อง Copying Beethoven, Mr.Holland Opus, The Chorus ที่ดูแล้วหัวใจเบิกบานและพองโต) เพราะหนังบรรจุความฝัน บรรทุกเรื่องราวความเจ็บปวดรวดร้าวของตัวละครที่กำาลังแสวงหาทางออก และแน่นอน บทเพลงที่ถูกถ่ายทอดออกมา คือ ทางออก เป็นพื้นที่ปลดปล่อยพลังขับดันที่ดีที่สุดของตัวละครที่โลดแล่นในโลกของแผ่นฟิล์ม

หากมองในแง่ขององค์ประกอบความเป็นหนัง ต้องยอมรับว่า การคัดเลือกเอาตัวจริงทางดนตรีอย่าง Glen Hansard และ Marketa Irglova มาแสดงนำาและทำาในสิ่งที่เขาและเธอถนัดนั้น มันเป็นความลงตัว ความเป็นธรรมชาติที่โลกการแสดงบนจอเงินเมินหมางไปนานแล้ว

มีหลายฉากที่ติดอยู่ในความทรงจำาผม ทั้งฉากเปิดเรื่องด้วยภาพ Glen เล่นเพลงเปิดหมวกข้างถนน ฉากที่ เขาและเธอชวนกันไปขอเล่นเพลงในร้านขายเครื่องดนตรีในช่วงพักกลางวัน หรือฉากที่หญิงสาวรับแต่งเนื้อร้องให้เพลง If You want me รวมทั้งฉากการบันทึกเสียงในห้องอัด มันได้อารมณ์ ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม เพราะคนที่เกี่ยวข้องกับการทำาหนังเรื่องนี้ ล้วนมีวิญญาณของคนทำาเพลงอย่างเต็มเปี่ยมใช่ไหม

ครั้นหันกลับมามองโลกในชีวิตจริงของเรา เราพบว่า เพลงกว่าพันหมื่นแสนล้านเพลง ล้วนแต่บรรเลง บอกเล่าอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนบนโลกนี้ มันทำาหน้าที่แทนถ้อยคำา แสนจังหวะ แทนเสียงเต้นในใจของเราเพลงแล้วเพลงเล่า ทำาไมบางเพลงทำาให้เราร้องตามอย่างคุ้มคลั่งทั้งปล่อยน้ำาตาให้ไหลพร่างพรูราวกับคนเขียนเพลงได้มานั่งอยู่กลางใจของเราประหนึ่งเป็นเจ้าหัวใจเราเอง อย่างเพลง say it to me now เป็นเพลงแทนใจคนที่เจ็บปวดจากการถูกกระทำาของอีกคนโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีคำาอธิบาย อย่านิ่งงัน เพื่อให้มันผ่านไปวัน ๆ บอกสิ่งที่เธอต้องการบอกฉันมา เท่านั้น

ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินทางไปแสวงโชคทีลอนดอน เขาเอาเพลงที่ทำาเดโมเสร็จแล้วให้พ่อฟัง พ่อนิ่งงันเพื่อรับฟังก่อนจะตบท้ายว่า มันเยี่ยมมากลูก และพ่อเตรียมเงินสำาหรับการเดินทางไว้ให้ลูกแล้ว

ผมดูหนังเรื่องนี้ลำาพัง พลันน้ำาตาไหลพราก บางฉาก บางช่วงของชีวิตจริงมันซ้อนทับกันอย่างแปลกประหลาดจนน่าตกใจ

อัลบั้ม เพลงประกอบภาพยนตร์ Once ออกวางแผงในไอร์แลนด์เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2007 และติดอันดับ 20 ของชาร์ทที่นั่น ส่วนในอเมริกาวางแผงเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2007 และติดอันดับอัลบั้มซาวด์แทร็คยอดนิยมอันดับ 10 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน วันที่ 11 กรกฎาคม 2007 อัลบั้มนี้ขายได้ 54,753 แผ่นในอเมริกา แฮนซาร์ดและเออร์โกลว่าได้เข้าชิง 2 รางวัลของเวที GRAMMY AWARD ได้แก่ รางวัลอัลบั้ม

เพลงประกอบยอดเยี่ยมสำาหรับภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์ หรือสื่อทางภาพอื่นๆ และรางวัลเพลงยอดเยี่ยมที่แต่งขึ้นสำาหรับภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์ หรือสื่อทางภาพอื่นๆ ซึ่งได้แก่เพลง Falling Slowly ที่สำาคัญ เพลงนี้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเพลงดั้งเดิมยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลบทเพลงยอดเยี่ยมจากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ลอสแองเจลลิสด้วย

EQUINOX I\39 >>>

<<< 40 I EQUINOX

EQUINOX I\41 >>>