55
เอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม เพชรบุรี สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร

เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

Embed Size (px)

DESCRIPTION

สถาบันการพลศึกษาสมุทรสาคร จัดทำ “โครงการอนุรักษ์ พัฒนา ทะนุบำรุงและเสริมสร้างเอกลักษณ์กีฬาไทยและ กีฬาพื้นบ้าน” ไว้เป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาสุขภาพกาย สุขภาพจิต รักษาเอกลักษณ์ประจำชาติให้คงอยู่รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างคุณค่าแห่งชีวิตและ สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในชาติตราบนานเท่านาน

Citation preview

Page 1: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม เพชรบุรี

สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร

Page 2: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

ค าน า

ตามพระราชบัญญัติสถาบันการพลศึกษา พ.ศ. 2548 ให๎สถาบันการพลศึกษาเป็นสถาบันอุดมศึกษา มีวัตถุประสงค๑ในการผลิตและการพัฒนาบุคลากร ด๎านพลศึกษา สุขศึกษา กีฬา นันทนาการ วิทยาศาสตร๑การกีฬา วิทยาศาสตร๑สุขภาพ และสาขาอ่ืนที่เกี่ยวข๎อง ศึกษาวิจัยและให๎บริการทางวิชาการกับ ชุมชน สร๎างสังคมแหํงการเรียนรู๎แกํท๎องถิ่น สํงเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษา การทะนุบํารุงศิลปวัฒนธรรมการละเลํนพ้ืนบ๎านและกีฬาไทย สําหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ ทางกีฬา นันทนาการ และบกพรํองทางรํางกาย ด๎วยเล็งเห็นถึงเยาวชนและประชาชนในชาติที่ปัจจุบันตกอยูํในสังคมแหํงเศรษฐกิจที่มุํงเน๎นเทคโนโลยีที่ทันสมัย จนลืมนึกถึงการละเลํนกีฬาพ้ืนบ๎านและกีฬาไทย ซึ่งมีประโยชน๑ตํอสุขภาพทั้งรํางกายและจิตใจ ดังนั้นการละเลํนกีฬาพ้ืนบ๎านและกีฬาไทยจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะชํวยสร๎างเสริมคุณภาพชีวิต ทั้งทางกายและทางจิตใจ ให๎ดีตลอดไป ประโยชน๑อีกประการหนึ่ง เพ่ือเป็นการสืบสานและสืบทอด ศิลปะการละเลํนกีฬาพ้ืนบ๎านและกีฬาไทยให๎กับคนรุํนหลังได๎มีศิลปะการละเลํนกีฬาพ้ืนบ๎านและกีฬาไทยเป็นเอกลักษณ๑ประจําชาติและยังเป็นการเผยแพรํ วัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดเพชรบุรี ทั้งยังเป็นการสร๎างความภาคภูมิใจในเอกลักษณ๑วัฒนธรรมของท๎องถิ่นตัวเอง ดังนั้น สถาบันการพลศึกษาจึงเล็งเห็นความสําคัญในการจัดทํา “โครงการอนุรักษ๑ พัฒนา ทะนุบํารุงและเสริมสร๎างเอกลักษณ๑กีฬาไทยและ กีฬาพ้ืนบ๎าน” ไว๎เป็นสํวนหนึ่ง ในการพัฒนาสุขภาพกาย สุขภาพจิต รักษาเอกลักษณ๑ประจําชาติให๎คงอยูํรวมทั้งเป็นการเสริมสร๎างคุณคําแหํงชีวิตและ สร๎างความภาคภูมิใจให๎กับคนในชาติตราบนานเทํานาน

คณะผู๎จัดทํา

สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร

Page 3: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สารบัญ

เรื่อง หน้า

จังหวัดสมุทรปราการ ...................................................................................................................2 ความเป็นมา ..................................................................................................................2

สัญลักษณ๑ของจังหวัด ………………………………………………………………………………………3 เขตการปกครอง ……………………………………………………………………………………………..4 สถานทีส่ําคัญและสถานที่ทํองเที่ยว …………………………………………………………………..5 เอกลักษณ๑ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปญัญาท๎องถิ่น ……………………………………………………...8 จังหวัดสมุทรสาคร ……………………………………………………………………………………………………..12

คําขวัญประจาํจังหวัด ……………………………………………………………………………………12 ความเป็นมา ................................................................................................................13 สัญลักษณ๑ของจังหวัด …………………………………………………………………………………….14 เขตการปกครอง ……………………………………………………………………………………………15 สถานทีส่ําคัญและสถานที่ทํองเที่ยว ............................................................................16 เอกลักษณ๑ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปญัญาท๎องถิ่น ..............................................................17

จังหวัดสมุทรสงคราม .................................................................................................................25 ความเป็นมา …………………………………………………………………………………………………25 สัญลักษณ๑ของจังหวัด …………………………………………………………………………………….27 เขตการปกครอง ..........................................................................................................28 สถานทีส่ําคัญและสถานที่ทํองเที่ยว …………………………………………………………………28 เอกลักษณ๑ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปญัญาท๎องถิ่น …………………………………………………….29

จังหวัดนครปฐม .........................................................................................................................34 ความเป็นมา ................................................................................................................34 สัญลักษณ๑ของจังหวัด …………………………………………………………………………………….35 เขตการปกครอง ……………………………………………………………………………………………36 สถานทีส่ําคัญและสถานที่ทํองเที่ยว …………………………………………………………………36 เอกลักษณ๑ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปญัญาท๎องถิ่น …………………………………………………….37

จังหวัดเพชรบุรี …………………………………………………..………………………………………………………39 ความเป็นมา ………………………………………………………………………………………………….42 สัญลักษณ๑ของจังหวัด ..................................................................................................44 เขตการปกครอง ..........................................................................................................45 สถานทีส่ําคัญและสถานที่ทํองเที่ยว ............................................................................45 เอกลักษณ๑ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปญัญาท๎องถิ่น ..............................................................47

บรรณานุกรม ..............................................................................................................................50

Page 4: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56
Page 5: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

จังหวัดสมุทรปราการ

สมุทรปราการเป็นจังหวัดปริมณฑลที่มีแหลํงทํองเที่ยวที่หลากหลาย และยังเป็นศูนย๑รวมศิลปวัฒนธรรมของชาติพันธุ๑ ที่ในอดีตกาลได๎อพยพย๎ายถิ่นฐานเข๎ามาอยูํในพ้ืนที่จังหวัดสมุทรปราการนี้ และด๎วยความที่เป็นจังหวัดที่มีแหลํงทํองเที่ยวที่ติดกับกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการจึงเป็นที่นิยมของนักทํองเที่ยวจากกรุงเทพฯที่เดินทางมาเที่ยวในชํวงวันหยุดเสาร๑และอาทิตย๑

ค าขวัญประจ าจังหวัดสมุทรปราการ

“ป้อมยุทธนาวี พระเจดีย์กลางน า ฟาร์มจระเข้ใหญ่ งามวิไลเมืองโบราณ

สงกรานต์พระประแดง ปลาสลิดแห้งรสดี ประเพณีรับบัว ครบถ้วนทั่วอุตสาหกรรม”

ความเป็นมา

จังหวัดสมุทรปราการมีพ้ืนที่ทางทิศตะวันตกติดกับ

จังหวัดสมุทรสาครและกรุงเทพมหานครไปจนถึงบริเวณปากแมํน้ําเจ๎าพระยาท้ังสองฝั่ง

สํวนทางด๎านทิศตะวันออกติดกับจังหวัดฉะเชิงเทรา และทิศใต๎ติดกับทะเลอําวไทย สํวนใหญํพ้ืนที่เป็นที่ราบลุํมมีแมํน้ําเจ๎าพระยาไหลผํานตรงกลาง แยกพ้ืนที่ออกเป็นด๎านตะวันตกและด๎านตะวันออกมีลําคลองมากมาย เมืองปากแมํน้ําเจ๎าพระยาแหํงนี้ได๎รับการสถาปนาขึ้นเมื่อครั้งแผํนดินสมเด็จพระเจ๎าทรงธรรม ปรากฏนามวําเมืองปากน้ําถือเป็นเมืองหน๎าดํานทางทะเลเรือสําเภาที่เข๎าหรือออกจากกรุงศรีอยุธยาต๎องผํานเมืองนี้ และเป็นจุดยุทธศาสตร๑ทางทะเลที่สําคัญตลอดมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อประเทศไทยเข๎าสูํยุคเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สมุทรปราการก็เติบโตทางอุตสาหกรรมคูํกับกรุงเทพมหานครมาโดยตลอด ทั้งด๎านการเกษตร การผลิต การแปรรูป การสํงออก

การประมง และการขนสํง ฯลฯ จนกระทั่งทุกวันนี้ นอกจากนี้จังหวัดสมุทรปราการยังเป็นที่ตั้งของสนามบินสุวรรณภูมิสนามบินนานาชาติ ที่สําคัญที่สุดของประเทศและของอาเซี่ยน

ท่ีตั้งจงัหวดัสมุทรปราการ

2

Page 6: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการ ตราประจ าจังหวัดสมุทรปราการ : รูปพระสมุทรเจดีย๑และพระอุโบสถ พระเจดีย ์หมายถึง พระสมุทรเจดีย๑ที่สร๎างอยูํกลางแมํน้ํา ภายในเจดีย๑บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระไตรปิฎก พระอุโบสถ หมายถึง พระอุโบสถท่ีประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางห๎ามสมุทร

ตราผ้าผูกคอลูกเสือ : รูปพระสมุทรเจดีย๑ที่สร๎างอยูํกลางแมํน้ํา ภายใน

เจดีย๑บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระไตรปิฎก

ดอกไม้ประจ าจังหวดั : ดอกดาวเรือง

หมายถึง : ความเจริญรํุงเรือง

ต้นไม้ประจ าจังหวัด : โพทะเล เป็นต๎นไม๎ที่ขึ้นตาม

ชายฝั่งทะเล (บางต๎นก็ไกลฝั่งมาก ) หมายถึง : ความแข็งแรง ความอุดมสมบูรณ๑ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Thespesia popunea

3

Page 7: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เขตการปกครอง

จังหวัดสมุทรปราการแบ่งการปกครองออกเป็น 6 อ าเภอ

1. อําเภอเมืองสมุทรปราการ 2. อําเภอบางบํอ 3. อําเภอบางพล ี4. อําเภอพระประแดง 5. อําเภอพระสมทุรเจดีย๑ 6. อําเภอบางเสาธง

4

Page 8: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สถานที่ส าคัญและสถานที่ท่องเที่ยว

สมุทรปราการมีสถานที่ทํองเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแหํงด๎วยกัน เชํน ตลาดคลองสวนร๎อยปี สถานตากอากาศบางปู ซึ่งนักทํองเที่ยวจะได๎สัมผัสกับฝูงนกนางนวลอยํางใกล๎ชิดที่สุด เมืองโบราณบางปูที่รวบรวมสถานที่สําคัญๆในประเทศไทยมาจําลองไว๎ให๎ได๎เที่ยวชม ฟาร๑มจระเข๎และสวนสัตว๑สมุทรปราการ แหลํงเพาะเลี้ยงจระเข๎ที่ใหญํที่สุดของประเทศไทย พิพิธภัณฑ๑ช๎างเอราวัณที่นําตื่นตาตื่นใจกับช๎างโลหะขนาดใหญํ และงานเทศกาลที่นักทํองเที่ยวจํานวนมากนิยมไปเที่ยวคือ งานเทศกาลสงกรานต๑ปากลัด หรืองานสงกรานต๑พระประแดง ของชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่ธํารงประเพณีเกําแกํนี้มานับ 100 ปี อีกทั้งงานเทศกาลงานประเพณี นมัสการองค๑พระสมุทรเจดีย๑ ประเพณีรับบัว หรือโยนบัว ที่จัดสืบตํอกันมาจนถึงปัจจุบัน

5

Page 9: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สะพานภูมิพล (Bhumibol Bridge) เป็นสะพานข๎ามแมํน้ําเจ๎าพระยาสําหรับถนนวงแหวน

อุตสาหกรรม เชื่อมระหวํางถนนพระรามที่ 3 ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนปูุเจ๎าสมิงพราย และถนนกาญจนาภิเษก ลักษณะเป็นสะพานขึง ขนาด 7 ชํองการจราจร ทางด๎านเหนือหรือ "สะพานภูมิพล 1" เชื่อมระหวํางแขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร กับตําบลทรงคนอง อําเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการทางด๎านใต๎หรือ "สะพานภูมิพล 2" เชื่อมระหวํางตําบลทรงคนองกับตําบลบางหญ๎าแพรก อําเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มีพิธีเปิดอยํางเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2549 แตํกํอนหน๎านั้นได๎เปิดใช๎ตั้งแตํวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2549

ในวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดําเนินพร๎อมด๎วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทางชลมารค โดยเรือพระที่นั่งอังสนาของกองทัพเรือ ทรงทําพิธีเปิดสะพานภูมิพล และประตูระบายน้ําคลองลัดโพธิ์ ณ กลางแมํน้ําเจ๎าพระยา ในพ้ืนที่จังหวัดสมุทรปราการ

การกํอสร๎างการเชื่อมสะพาน ใช๎วิธีกํอสร๎างทั้งสองฝั่ งมาบรรจบกันตรงกลาง โดยทีมแขวนสะพานกําหนดระยะการเชื่อมสะพานแคํ 6 เดือน โดยการเชื่อมใช๎พ้ืนคอนกรีตหนักอัดแรงหนักชิ้นละ 480 ตัน มาเชื่อมกัน โดยใช๎เครนคูํขนาดยักษ๑ดึงอนกรีตขึ้นจากเรือขนสํงด๎านลําง ซึ่งการยกคอนกรีตมีเวลาแคํ 4 ชั่วโมงตํอวันเทํานั้น เพ่ือเปิดทางให๎การจราจรทางน้ําให๎เป็นปกติ ใช๎ระยะเวลาการกํอสร๎างเพียง 4 เดือนเทํานั้น จากกําหนดเดิม 6

เดือน ซึ่งบันทึกในสถิติโลกวํา เป็นการสร๎างสะพานแขวนคูํที่สร๎างเร็วที่สุดในโลก และใหญํที่สุดในเอเชีย

6

Page 10: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

คลองลัดโพธิ์ เป็นชื่อคลองเดิม บริเวณเ ข ต จั ง ห วั ด ส มุ ท ร ป ร า ก า ร แ ล ะกรุ ง เทพมหานคร (ต.ทรงคะนอง อ .พระประแดง จ.สมุทรปราการ) เดิมที่มีลักษณะตื้นเขิน ตํอมาได๎จัดสร๎างเป็นโครงการตามแนวพระราชดําริ

เป็นการบริหารจัดการน้ําเพื่อแก๎ปัญหาน้ําทํวมกรุ ง เทพมหานคร โดยยึดหลักการ " เบี่ ย งน้ํ า " (Diversion) ภายใต๎การดูแลของหนํวยงานหลัก 3 หนํวยงานคือ กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ (กปร.) มีหลักการคือ จากสภาพของแมํน้ําเจ๎าพระยาเดิมที่มีลักษณะไหลวนคดเคี้ยวบริเวณรอบพ้ืนที่บริเวณบางกระเจ๎านั้นมีความยาวถึง 18 กิโลเมตร นั้นทําให๎การระบายน้ําที่ทํวมพ้ืนที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครเป็นไปได๎ช๎า ไมํทันเวลาน้ําทะเลหนุน พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวฯจึงมีพระราชดําริให๎พัฒนาใช๎คลองลัดโพธิ์ ซึ่งเดิมมีความตื้นเขินมีความยาวราว 600 เมตร ให๎ใช๎ระบายน้ําที่หลากและน้ําที่ทํวมทางสองฝั่งของแมํน้ําเจ๎าพระยาลงสูํทะเลทันทีในชํวงกํอนที่น้ําทะเลหนุน และปิดคลองลัดโพธิ์เมื่อน้ําทะเลหนุน เพ่ือหนํวงน้ําทะเลไมํให๎ขึ้นลัดเลาะไปตามแนวแมํน้ําเจ๎าพระยาที่คดโค๎งถึง 18 กิโลเมตรกํอนซึ่งใช๎เวลามากจนถึงเวลาน้ําลง ทําให๎ไมํสามารถขึ้นไปทํวมตัวเมืองได๎

คลองลัดโพธิ์ เป็นคลองที่พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวฯทรงมีกระแสพระราชดํารัสถึง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2549 วําเป็นสถานที่ตัวอยํางของการบริหารจัดการน้ํา ที่ต๎องการความรู๎เรื่องเกี่ยวกับเวลาน้ําขึ้นน้ําลง หากบริหารจัดการให๎ถูกต๎องจะสามารถแก๎ปัญหาน้ําทํวมได๎ และทรงเสด็จพระราชดําเนินทางชลมารคไปทรงเปิดประตูระบายน้ําคลองลัดโพธิ์

7

Page 11: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรม ภมูิปัญญาท้องถิ่น

ฉัตร

ฉัตร เป็นเครื่องสูงสําหรับแขวน ปัก ตั้ง หรือเชิญเข๎ากระบวนแหํเพื่อเป็นเกียรติยศ ฉัตรมีรูปรํางคล๎ายรํมที่ซ๎อนกันเป็นชั้น ๆ ฉัตรถือเป็นของสูง เปรียบเสมือนสวรรค๑ซึ่งเป็นศูนย๑รวมจักรวาล ฉัตรมีหลายประเภท เชํน ฉัตรแขวนหรือปัก เป็นเครื่องแสดงพระอิสริยยศของผู๎ทรงฉัตร

เศวตฉัตร เป็นฉัตรผ๎าขาว เชํน พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เป็นฉัตร 9 ชั้น สําหรับพระมหากษัตริย๑ที่ทรงรับพระราชพิธีบรมราชภิเษกตามโบราณราชประเพณีแล๎ว ฉัตรแบบนี้เรียกโดยยํอวํา “พระมหาเศวตฉัตร”

สัปตปฎลเศวตฉัตร เป็นฉัตร 7 ชั้น ซึ่งมีลักษณะอ่ืน ๆ เหมือนพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สําหรับพระมหากษัตริย๑ที่ยังมิได๎ทรงรับพระบรมราชาภิเษก พระอัครมเหสี สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระยุพราช และสมเด็จพระบรมราชกุมารี โดยหากใช๎กับสมเด็จพระบรมราชชนนี หรือสมเด็จพระอัครมเหสี จะเรียกชื่อวํา “สัปตปฎลเศวตฉัตร” หรือ “พระเศวตฉัตร 7 ชั้น” แตํถ๎าใช๎กับสมเด็จพระยุพราช จะเรียกวํา “พระบวรเศวตฉัตร” และยังมีฉัตรที่ยังอีกหลายประเภทที่ใช๎วาระและโอกาสตํางๆกันไปตามลําดับชั้นยศของพระบรมวงศ๑ศานุวงศ๑

8

Page 12: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

นอกจากนั้นฉัตรยังมีบทบาทสําคัญในการประกอบพิธีกรรมงานมงคลตํางๆ ของคนในพ้ืนถิ่นจังหวัดสมุทรปราการ และคนไทยภาคกลางในหลายพ้ืนที่ อาทิ จังหวัดเพชรบุรี โดยเฉพาะพิธีการบวชพระ,ทําการมงคล,พิธีครอบครู เรียกวํา “พิธียกฉัตร 9 ชั้น” การทําฉัตร 9 ชั้น ใช๎ประกอบในพิธีการบวชนาคเพ่ือเป็นถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สืบทอดกันมาตั้งแตํสมัยโบราณ

การยกฉัตรเก๎าชั้น ในงานอุปสมบทนั้นจะต๎องมีการเตรียมฉัตรกํอนจัดงานอุปสมบท เจ๎าภาพต๎องหาไม๎ไผํลํายาวประมาณ 3 เมตรขึ้นไป โดยมียอดไผํติดมาด๎วยนําผิวไม๎ไผํมาโค๎งเป็นวงกลมติดรอบเสาฉัตร 9 วง แล๎วเอาผ๎ามาติดรอบวงโค๎งให๎เป็นรํมฉัตร 9 ชั้น การตกแตํงเสาฉัตรและรํมฉัตร นิยมเอากระดาษสีตําง ๆ มาตอก หรือตัดแล๎วแตํภูมิปัญญาของคนแตํละพ้ืนถิ่นที่สืบทอดตํอๆกันมา ให๎เป็นลวดลายตํางๆ อาทิ ดอกไม๎ สัตว๑ในวรรณคดี หรือสัตว๑ประจําปีนักษัตรตามราศีเกิดของผู๎ที่จะทําการอุปสมบทมาหุ๎ม การตัดนั้นก็อาศัยการถํายทอดกันจากรุํนสูํรุํน ซึ่งปัจจุบันจะลดน๎อยถอยลงทุกปี เพราะการตัด หรือการตอกฉัตรนั้นเป็นศิลปะขั้นสูงอีกชนิดหนึ่ง ที่อาศัยความชํานาญ และความอดทนในการฝึกฝนให๎ชํานาญ มิฉะนั้นรูปรํางลวดลายของกระดาษจะไมํเป็นรูปรํางแบบที่ต๎องการ

9

Page 13: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สํวนการทําเสานั้นปัจจุบันไมํนิยมทําเพราะสามารถยืมเสาฉัตรจากวัด หรือหาซื้อจากร๎านได๎ การยกเสาฉัตร เจ๎าภาพต๎องหาฤกษ๑ โดยให๎พระสงฆ๑หรือโหรเป็นผู๎ดูฤกษ๑ยามของผู๎ที่จะบวชนาค ฉัตรที่ยกแล๎วจะถูกตรึงให๎ตั้งอยํางดี มิให๎ล๎ม เพราะถือวําฉัตรงานใดล๎มกํอนที่พิธีจะสิ้นสุดจะเป็นอัปมงคล

สาระที่สําคัญของการยกฉัตร 9 ชั้น นั้น แตํละชั้นมีความหมายดังนี้

ชั้นที่หนึ่ง ถวายพระพุทธ

ชั้นที่สอง ถวายพระธรรม

ชั้นที่สาม ถวายพระสงฆ๑

ชั้นที่สี่ ถวายบิดา

ชั้นที่ห๎า ถวายมารดา

ชั้นที่หก ถวายครูบาอาจารย๑

ชั้นที่เจ็ด ถวายพระเกตุ

ชั้นที่แปด ถวายพระกาฬ

ชั้นที่เก๎า ถวายพระพรหม

ฤดูกาลหรือโอกาสของการยกฉัตร 9 ชั้นนั้นทําในพิธีการบวชพระ ทําการมงคล พิธีครอบครู ที่บ๎านหรือที่วัดตามแตํสะดวก ในระหวํางการทําพิธีจะมีการสวดมนต๑โดยการตั้งนะโม3จบ และวําด๎วยคาถาของการยกฉัตร ทีไ่ดส๎ืบทอดกันมาจากตํารามนต๑พิธีโบราณ

10

Page 14: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56
Page 15: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

จังหวัดสมุทรสาคร

จังหวัดสมุทรสาครเป็นแหลํงรวมศิลปวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาที่เป็นเคารพและสักการะของพุทธศาสนิกชนอยูํมากมาย อาทิ วัดหลักสี่ราษฎร๑สโมสรที่มีพระพุทธรูปที่สําคัญ คือ หลวงพํอโตวัดหลักสี่ วัดนางสาว และวัดทําไม๎ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของเหลําดารานักแสดงที่หลั่งไหลกันมาทําบุญที่วัดแหํงนี้

ค าขวัญประจ าจังหวัดสมุทรสาคร

“เมืองประมง ดงโรงงาน

ลานเกษตร เขตประวัตศิาสตร”์

12

Page 16: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

ความเป็นมา

สมุทรสาครเป็นจังหวัดชายทะเล ตั้งอยูํปากแมํ

น้ําทําจีน จากหลักฐานทางประวัติศาสตร๑กลําวไว๎วํา ในอดีตมีชุมชนใหญํเรียกวํา "บ๎านทําจีน"ตั้งอยูํบริเวณปากอําวไทย ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแหํงกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2099) พระองค๑โปรดเกล๎าโปรดกระหมํอมให๎ยกบ๎านทําจีนขึ้น เป็น เมืองสาครบุรี เพ่ือให๎เป็นหัวเมือง สําหรับเรียกระดมพลเวลาเกิดสงครามและเป็นเมืองหน๎าดํานปูองกันผู๎รุกรานทางทะเล ตํอมาในรัชสมัยกรุงรัตนโกสินทร๑ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล๎าเจ๎าอยูํหัว(รัชกาลที่ 4) โปรดเกล๎าโปรดกระหมํอมให๎เปลี่ยนชื่อเมืองสาครบุรีเป็นเมืองสมุทรสาคร และในปี พ.ศ. 2456 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล๎าเจ๎าอยูํหัว(รัชกาลที่ 6) ได๎โปรดเกล๎าโปรดกระหมํอมให๎ทางราชการเปลี่ยนคําวํา "เมือง" เป็น "จังหวัด" ทั่วทุกแหํงในพระราชอาณาจักร เมืองสมุทรสาครจึงได๎เปลี่ยนเป็นจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแตํนัน้จนถึงทุกวันนี้

ท่ีตั้งจงัหวดัสมุทรสาคร

13

Page 17: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสาคร

ตราประจ าจังหวัดสมุทรสาคร : รูปเรือสําเภาจีนแลํนในทะเล ด๎านหลังเป็นโรงงานและปลํองไฟ หมายถึง : ความรุํงเรืองที่มีมาอดีตถึงปัจจุบัน (ตราประจําจังหวัดสมุทรสาคร เริ่มใช๎เมื่อ พุทธศักราช 2483 ในสมัยที่หลวงวิเศษภักดี (ชื้น วิเศษภักดี) เป็นผู๎วําราชการจังหวัด)

ตราผ้าผูกคอลูกเสือ : รูปเรือสําเภาจีนแลํนในทะเล ด๎านหลังเป็นโรงงานและปลํองไฟ

ต้นไม้ประจ าจังหวัด : ต้นสัตบรรณ เป็นพันธุ๑ไม๎มงคล

พระราชทานประจําจังหวัดสมุทรสาคร รู๎จักกันทั่วไปในนามของต๎นตีนเป็ด เป็นพันธุ๑ไม๎ยืนต๎น เปลือกสีเทาอํอน ใบเรียงกันเป็นวงคล๎ายตีนเป็ด มีดอกสีขาวอมเขียวออกดอกเป็นกลุํมบนชํอตามปลายกิ่ง

ดอกไม๎ประจําจังหวัด : ไมํมีดอกไม๎ประจําจังหวัด

14

Page 18: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เขตการปกครอง

การปกครองแบํงออกเป็น 3 อําเภอ 40 ตําบล และ288 หมูํบ๎าน 1. อ าเภอเมืองสมุทรสาคร 2. อ าเภอกระทุ่มแบน 3. อ าเภอบ้านแพ้ว

15

Page 19: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สถานที่ส าคัญและสถานที่ท่องเที่ยว

ต าหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตําหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยูํที่

ห มูํ 2 ตํ าบลบา งหญ๎ าแพรก อํ า เ ภอ เ มื อ ง จั ง หวั ดสมุทรสาคร บริเวณวัดศรีสุทธาราม หรือวัดกําพร๎า ด๎วยความศรัทธาของ พลเรือโทเจือ เกษเสถียร รํวมกับศิษย๑เกําโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย พํอค๎าประชาชน และชาวประมงในจังหวัดสมุทรสาคร ทําการหลํอรูปเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ความสูง 1.66เมตร และนํามาประดิษฐานไว๎ที่หน๎าพระอุโบสถวัดศรีสุทธาราม เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2529 สํวนตําหนักนั้นเริ่มกํอสร๎างแล๎วเสร็จในปี พ.ศ.2531 โดยมีนายอาทร ญาณสิทธิ์ เป็นประธานกรรมการกํอสร๎างแล๎วเสร็จในปี พ.ศ.2534 หลังจากกํอสร๎างเสร็จได๎อัญเชิญพระรูปจากหน๎าพระอุโบสถเข๎าสูํตําหนัก เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2534

ศาลพันท้ายนรสิงห์

แหลํงทํองเที่ยวเชิงประวัติศาสตร๑ที่เกี่ยวเนื่องกับพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา เรื่อง พันท๎ายนรสิงห๑ ข๎าหลวงที่ได๎รับการยกยํองวําเป็นผู๎มีความซื่อสัตย๑สุจริต จงรักภักดีและรักษาระเบียบวินัยยิ่งชีวิต

เมื่อปี พ.ศ.2247 สมเด็จพระเจ๎าเสือ เสด็จโดยเรือพระที่นั่งเอกชัย จะไปประพาสเพ่ือทรงเบ็ด ณ ปากน้ํา เมืองสาครบุรี เมื่อเรือพระที่นั่งถึงตําบล โคกขามซึ่งเป็นคลองคดเคี้ยวและมีกระแสน้ําเชี่ยวกราก พันท๎ายนรสิงห๑ ซึ่งถือท๎ายเรือพระที่นั่งมิสามารถคัด

แก๎ไขได๎ทัน โขนเรือพระท่ีนั่งกระทบกับกิ่งไม๎หักตกลงไปในน้ํา พันท๎ายนรสิงห๑จึงได๎กระโดดขึ้นฝั่ง แล๎วกราบทูลให๎ทรงลงพระอาญา ตามพระราชกําหนดถึงสามครั้งด๎วยกัน เนื่องจากในสองครั้งแรก สมเด็จพระเจ๎าเสือทรง พระราชทานอภัยโทษ เพราะเห็นวําเป็นอุบัติเหตุ สุดวิสัย แตํท๎ายสุดก็ได๎ตรัสสั่งให๎ ประหารชีวิตพันท๎ายนรสิงห๑ แล๎วทรงโปรดให๎ตั้งศาลสูงประมาณเพียงตา นําศีรษะพันท๎ายนรสิงห๑กับหัวเรือพระที่นั่งเอกไชยซึ่งหักนั้น ขึ้นพลีกรรมไว๎ด๎วยกันบนศาล

16

Page 20: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรม ภมูิปัญญาท้องถิ่น

กล้วยไม้ไทย กล๎วยไม๎เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ในวงศ๑ Orchidaceae

เป็นไม๎ตัดดอกยอดนิยม เนื่องจากมีลักษณะดอกและสีสันลวดลายสวยงาม เป็นไม๎ตัดดอกที่มีอายุการใช๎งานได๎นาน กล๎วยไม๎เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสําคัญของไทย เพราะเป็นไม๎สํงออกขายตํางประเทศทํารายได๎เข๎าประเทศปีละหลายร๎อยล๎านบาท มีการปลูกเลี้ยงอยํางครบวงจร ตั้งแตํการผสมเกสร เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เลี้ยงลูกกล๎ายไม๎ เลี้ยงต๎นกล๎ายไม๎จน กระทั่งให๎ดอก ตัดดอกบรรจุหีบหํอและสํงออกเอง

แหลํงกําเนิดกล๎วยไม๎ปุาที่สําคัญของโลกมี 2 แหลํงใหญํๆ ด๎วยกันคือ ลาตินอเมริกา กับเอเชียแปซิฟิค สําหรับในลาตินอเมริกาเป็น อาณาบริเวณอเมริกากลางติดตํอกับเขตเหนือของอเมริกาใต๎ สํวนแหลํงกําเนิดกล๎วยไม๎ปุาในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค มีประเทศไทยเป็นศูนย๑กลาง จากการค๎นพบประเทศไทยมีพันธุ๑กล๎วยไม๎ปุาเป็นจํานวนมาก แสดงให๎เห็นวําประเทศไทยมีสภาพแวดล๎อม เอ้ืออํานวยตํอการเจริญ

งอกงามของกล๎วยไม๎อยํางมาก และกล๎วยไม๎ปุาที่ในพบในภูมิภาคแถบนี้มีลักษณะเดํนที่เป็นเอกลักษณ๑ของตนเอง แตกตํางจากกล๎วยไม๎ในภูมิภาคลาตินอเมริกา

การปลูกเลี้ยงกล๎วยไม๎ในประเทศไทย พบวําประเทศไทยเป็นประเทศที่มีกล๎วยไม๎อยูํในปุาธรรมขาติ ไมํต่ํากวํา 1,000 ชนิด ทั้งประเภทที่พบอยูํบนต๎นไม๎ บนพ้ืนผิวของภูเขาและบนพ้ืนดิน สภาพแวดล๎อมทางธรรมชาติของประเทศไทยเอ้ืออํานวยแกํการเจริญงอกงามของกล๎วยไม๎เป็นอยํางมาก ในอดีตชาวชนบทของไทย โดยเฉพาะในแหลํงที่เคยมีกล๎วยไม๎ปุาอุดมสมบูรณ๑ ได๎นํากล๎ายไม๎ปุามาปลูกเลี้ยงโดยเลียนแบบธรรมชาติ โดยนํากล๎วยไม๎มาปลูกไว๎กับต๎นไม๎ที่ขึ้นอยูํไกล๎ๆ บ๎านเรือน การเลี้ยงกล๎วยไม๎เริ่มเปลี่ยนมาเป็นการปลูกเลี้ยงอยํางจริงจังโดยชาวตะวันตกผู๎หนึ่ง ที่เข๎ามาทําธุรกิจใน

เอเชียแปซิฟิค

ลาตินอเมริกา

17

Page 21: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

ประเทศไทย เห็นวําสภาพแวดล๎อมของประเทศไทยเหมาะสมสําหรับการปลูกเลี้ยงกล๎วยไม๎ จึงได๎สร๎างเรือนกล๎วยไม๎อยํางงํายๆ และนําเอากล๎วยไม๎ปุาจากเขตร๎อนของอเมริกา ซึ่งเป็นแหลํงกําเนิดกล๎วยไม๎ปุาแหลํงใหญํแหลํงหนึ่งของโลก ซึ่งมีลักษณะแตกตํางจากกล๎วยไม๎ในเอเชียและเอเซียแปซิฟิค โดยนํามาปลูกเลี้ยงเป็นงานอดิเรก ในขณะเดียวกันก็มีเจ๎านายชั้นสูงและบรรดาข๎าราชการที่ใกล๎ชิด ให๎ความสนใจเลี้ยงกล๎วยไม๎เป็นงานอดิเรกเชํนกัน นอกจากนั้นก็ยังมีกลุํมบุคคลสูงอายุซึ่งเลี้ยงกล๎วยไม๎เพ่ือความสุขทางใจ การปลูกเลี้ยงกล๎วยไม๎ อยํางไรก็ตามการปลูกเลี้ยงกล๎วยไม๎ยังคงจํากัดอยูํในวงแคบ คือ ในกลุํมผู๎สูงอายุและกลุํมผู๎มี เงินในยุคนั้น และเป็นการปลูกเลี้ยงที่นิยมกล๎วยไม๎พันธุ๑ตํางประเทศ สํวนกล๎วยไม๎ที่มีถ่ินกําเนิดในปุาของประเทศไทยจะนิยมและยกยํองเฉพาะพันธุ๑ที่หายากและมีราคาแพง

ในปี 2501 ได๎มีการเปิดการสอนวิชากล๎วยไม๎ขึ้นในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร๑เป็นครั้งแรก เพ่ือผลิต

นักวิชาการและพัฒนางานวิจัยกล๎วยไม๎ของประเทศ และเป็นจุดเริ่มต๎นที่ทําให๎การปลูกเลี้ยงกล๎วยไม๎ไมํได๎จํากัดอยูํภายในวงแคบอีกตํอไป จากการสํงเสริมดังกลําว ทําให๎มีการนําเข๎ากล๎วยไม๎ลูกผสมจากตํางประเทศ เชํน จากฮาวายและสิงคโปร๑จํานวนมากยิ่งขึ้น ทําให๎ผู๎ที่มีความรู๎หันมารวบรวมพันธุ๑ผสมและเพาะพันธุ๑จากพํอแมํพันธุ๑ใน ประเทศ ทั้งที่เป็นพํอแมํพันธุ๑จากปุา และลูกผสมที่สั่งเข๎ามาแล๎วในอดีต ปี 2506 วงการกล๎วยไม๎ของไทยได๎เริ่มมีแผนในการขยายขํายงานออกไปประสานกับวงการกล๎วยไม๎สากล เพ่ือยกระดับวงการกล๎วยไม๎ในประเทศให๎ทัดเทียมกับตํางประเทศ ปี 2509 เริ่มการทําสวนกล๎วยไม๎ตัดดอกอยํางจริงจัง เมื่อไทยเริ่มสํงออกกล๎วยไม๎ไปสูํตลาดตํางประเทศในยุโรปตะวันตก เชํน สหพันธ๑สาธารณรัฐเยอรมัน เนเธอร๑แลนด๑ และอิตาลี ตํอมาจึงขยายตลาดไปสูํประเทศญี่ปุุน แคนาดา และบางรัฐของสหรัฐอเมริกา

กล๎วยไม๎ เป็นพืชเศรษฐกิจที่สําคัญชนิดหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีพ้ืนที่ปลูกกล๎วยไม๎ทั้งหมด 4,148 ไรํ แหลํงปลูกที่สําคัญ ได๎แกํ อําเภอเมืองสมุทรสาคร อําเภอบ๎านแพ๎ว และอําเภอกระทุํมแบน แหลํงปลูกสํวนใหญํอยูํในเขตพ้ืนที่ตําบลหนองนกไขํ และตําบลบางยาง อําเภอกระทุํมแบน การปลูกกล๎วยไม๎นอกจากจะเป็นพืชเศรษฐกิจประจําจังหวัดสมุทรสาครแล๎ว ยังเป็นเเหลํงทํองเที่ยวเชิงอนุรักษ๑ - เชิงเกษตร และเชิงนิเวศของจังหวัดสมุทรสาครอีกด๎วย

18

Page 22: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

การเดินทางออกจากถนนพระราม 2 ตรงไปเรื่อยๆ ให๎เลี้ยวซ๎ายที่แยกมหาชัย แล๎ววิ่งตรงไปเจอสามแยกให๎เลี้ยวซ๎ายไปถนนเศรษฐกิจ จนมาถึงวงเวียน แล๎วเลี้ยวซ๎ายเข๎าเทศบาลกระทุํมแบน จากนั้นเลี้ยวขวา เพ่ือเข๎าวัดบางยาง จากนั้นเลี้ยวซ๎ายที่สามแยกแล๎ววิ่งตรงไปเรื่อยๆ ทางไปวัดหนองนกไขํจะพบแหลํงปลูกกล๎วยไม๎ขนาดใหญํของสมุทรสาครเรียงรายอยูํทั้งสองฝั่งถนน

19

Page 23: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

วิธีการขยายพันธุ๑กล๎วยไม๎ในพ้ืนที่นี้นิยมทําการแยกจากกอกล๎วยไม๎ แล๎วปลํอยให๎แตกหนํอ แล๎วแยกหนํอออกไปในกาบมะพร๎าวที่เตรียมไว๎

รดน้ําใสํปุ๋ย หลังจากนั้นเขาจะแตกรากออกมาเอง ตามธรรมชาติ ใช๎เวลาประมาณ 4 เดือน กล๎วยไม๎ก็จะแตกชํอออกมา

ชํอกล๎วยไม๎กํอนที่จะบรรจุลงกลํองจะทําการตัดโคนมาแล๎ว นํามาใสํในหลอดน้ําเลี้ยงเพ่ือให๎ชํอกล๎วยไม๎สามารถดูดน้ําข้ึนมาและคงความสดจนถึงมือลูกค๎า

20

Page 24: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

กลุํมผู๎สํงออกกล๎วยไม๎ในแถบนี้ถือได๎วําเป็นรายใหญํของจังหวัดสมุทรสาคร ตลาดกล๎วยไม๎ไทยเป็นที่ต๎องการของตลาดตํางประเทศ เชํน ญี่ปุุน จีน อินเดียและประเทศในแถบยุโรป ในแตํละปีปริมาณการสํงออกกล๎วยไม๎ไทยปีละหลายแสนตันและสามารถนํารายได๎เข๎าสูํประเทศสูงถึงปีละ 3-4 พันล๎านบาท

ตลาดกล๎วยไม๎เป็นความต๎องการของผู๎บริโภคที่สูงขึ้นทุกปีจึงมีโอกาสขยายตลาดได๎อีกมาก ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู๎สํงออกกล๎วยไม๎เป็นอันดับ 2 ของโลก มีมูลคําปีละ 3,000 ล๎านบาท จังหวัดสมุทรสาครมีศักยภาพสูงที่จะขยายการผลิตและการสํงออกจากปัจจัยภูมิประเทศและอากาศที่เหมาะสมเทคโนโลยีใหมํๆรวมทั้งเกษตรกรมีความรู๎และประสบการณ๑ตํอๆกันมาโดยเน๎นการปรับปรุงแก๎ไขในเรื่องคุณภาพ การปนเปื้อนของศัตรูพืชระบบข๎อมูลการผลิตการตลาดอยํางตํอเนื่องมีการรวมกลุํมสํงเสริมอาชีพในการปลูกเลี้ยงกล๎วยไม๎ทั้งหมดจํานวน 20 กลุํม

ขั้นตอนการผลิตกล๎วยไม๎ สามารถแบํงออกได๎เป็น 2 ขั้นตอน ได๎แกํการปลูกและขยายพันธุ๑ การให๎น้ําและปุ๋ย และการรักษาดูแล 1. การปลูกและขยายพันธุ๑ วิธีการปลูกเป็นปัจจัยสําคัญที่ชํวยบังคับการเจริญเติบโตของกล๎วยไม๎การเลี้ยงกล๎วยไม๎จึงจําเป็นต๎องศึกษาความต๎องการของกล๎วยไม๎แตํละชนิด เลือกภาชนะปลูกและเครื่องปลูก รวมทั้งวิธีการปลูกให๎เหมาะสมกับกล๎วยไม๎ชนิดนั้น ๆ

21

Page 25: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

2. การให๎น้ําและปุ๋ย กล๎วยไม๎ต๎องการน้ําที่สะอาดปราศจากเกลือแรํที่เป็นพิษมีความเป็นกรดเป็นดําง หรือคํา pH ระหวําง 6-7 แตํน้ําที่มีเหมาะสมที่สุดคือน้ําสะอาดบริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดอํอนๆ มีคํา pH ประมาณ 6.5 น้ําที่มี pHต่ํากวํา 5.5หรือสูงกวํา 7 จึงไมํควรนํามาใช๎รดกล๎วยไม๎

วิธีการให๎น้ํากล๎วยไม๎สามารถทําได๎หลายวิธีจะเลือกใช๎วิธีใดขึ้นอยูํกับความเหมาะสมของแตํละพ้ืนที่ อายุของกล๎วยไม๎และความสะดวกของผู๎ปลูกเลี้ยงเอง มีวิธีการให๎น้ํา เชํน จุํมน้ํา ไขน้ําให๎ทํวม ใช๎บัวรดน้ําสายยางติดหัวฉีด และสปริงเกอร๑

3. เวลาที่เหมาะสมจะรดวันละครั้ง เว๎นวันที่ฝนตกหรือเครื่องปลูกยังมีความชุํมชื้นอยูํ การรดน้ํากล๎วยไม๎ควรรด ในเวลาที่แดดไมํร๎อนจัด คือ ตอนเช๎าประมาณ 6.00 – 9.00 น. เป็นเวลาที่กล๎วยไม๎ ต๎องใช๎รากดูดความชื้นและนําอาหารไปเลี้ยงสํวนตํางๆมากที่สุด

4. ปุ๋ย แบํงออกได๎ 2 ประเภทด๎วยกันคือ

1. ปุ๋ยอินทรีย๑ คือปุ๋ยที่ได๎จากมูลสัตว๑และซากพืชเหมาะกับการเพาะปลูกกล๎วยไม๎ที่มีระบบรากแบบกึ่งดินหรือกล๎วยไม๎ดิน เชํนกล๎วยไม๎สกุลรองเท๎านารี สกุลเอื้องพร๎าว สกุลช๎างผสมโขลง เป็นต๎น

2. ปุ๋ยอนินทรีย๑ เป็นปุ๋ยที่ได๎จากการสังเคราะห๑ ประกอบด๎วยธาตุอาหารที่สําคัญ 3 ชนิด คือ ไนโตรเจนฟอสฟอรัส และโปรแตสเซียม การใช๎ปุ๋ยกับลูกกล๎วยไม๎จะต๎องเลือกปุ๋ยสูตรที่มีธาตุไนโตรเจนคํอนข๎างสูง สํวนฟอสฟอรัสและโปรแตสเซียมปานกลางหรือต่ํา ทั่วไปนิยมใช๎ปุ๋ยวิทยาศาสตร๑เพราะละลายน้ําได๎ดี ใช๎สะดวกและ มีธาตุอาหารครบถ๎วน มี 3 ลักษณะ คือ ลักษณะเป็นน้ําเป็นเกล็ดละลายน้ํา และเป็นเม็ดละลายช๎า

22

Page 26: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

วิธีการให๎ปุ๋ยกล๎วยไม๎ สามารถทําได๎หลายวิธีเชํน วิธีรดด๎วยบัวรดน้ําชนิดฝอย วิธีพํนด๎วยเครื่องฉีดชนิดฝอย วิธีจุํม วิธีปลํอยน้ําปุ๋ยเข๎าทํวมกระถางแล๎วระบายออก หรือวิธีใช๎เครื่องผสมปุ๋ยกับน้ํา สําหรับการให๎ปุ๋ยชนิดเม็ดละลายช๎าทําโดยโรยเม็ดปุ๋ยบริเวณเครื่องปลูกที่ใกล๎กับรากของกล๎วยไม๎ตามสัดสํวนที่ระบุไว๎ข๎างภาชนะท่ีบรรจุปุ๋ย

5. การรักษาดูแลสําหรับกล๎วยไม๎ ปัญหาที่ควรระวังมากที่สุด ก็คือ โรคและแมลงรบกวน ซึ่งมีหลายชนิด เชื้อโรคและแมลงศัตรูที่เข๎าทําลายกล๎วยไม๎สํวนใหญํจะมีขนาดเล็กมากและขยายพันธุ๑รวดเร็วตามองไมํเห็น ถ๎าปลํอยทิ้งไว๎จะทําให๎การปูองกันกําจัดได๎ยากและสิ้นเปลืองคําใช๎จํายสูง โรคและแมลงศัตรูของกล๎วยไม๎ที่พบ เชํน โรคเนําดําหรือยอดเนํา โรคดอกสนิมหรือจุดสนิม โรคใบปื้นเหลือง โรคแอนแทรกโนส โรคเนําแห๎ง โรคเนําเละ โรคใบจุด เพลี้ยไฟ และไรแดงหรือแมงมุมแดง เป็นต๎น

กล๎วยไม๎แตํละรุํนนั้นให๎ผลผลิตประมาณ 4 ปี หลังจากนั้นก็จะทําการรื้อออกเพ่ือปลูกรุํนใหมํหมุนเวียนกันไป

23

Page 27: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56
Page 28: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

จังหวัดสมุทรสงคราม

ค าขวัญประจ าจังหวัดสมุทรสงคราม “เมืองหอยหลอด

ยอดลิ้นจี ่มีอุทยาน ร.2

แมํกลองไหลผาํน นมัสการหลวงพอํบ๎านแหลม”

ความเปน็มา

จังหวัดสมุทรสงครามหรือเมืองแมํกลอง ได๎ปรากฏชื่อครั้งแรกในนาม “แมํกลอง” จากเอกสารบันทึกจดหมายเหตุของทูตฝรั่งเศสที่เดินทางเข๎ามาในประเทศไทย สมัยสมเด็จพระนารายณ๑มหาราช แหํงกรุงศรีอยุธยา ดังปรากฎเป็นแผนที่โบราณมากมาย แสดงชื่อ Maeclon (แมํกลอง) ไว๎ในแผนที่ซึ่งจัดอยูํในอาณาบริเวณทะเลปากอําวไทยตรงกับตําแหนํงที่ตั้งของชุมชนแมํกลอง หรือจังหวัดสมุทรสงครามในปัจจุบัน และเข๎าใจกันวําเป็นแขวงหนึ่งของเมืองราชบุรี มีชื่อเรียกวํา สวนนอก ตํอมาในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาตํอเนื่องกับสมัยกรุงธนบุรี จึงแยกออกจากจังหวัดราชบุรีเรียกวํา“เมืองแมํกลอง”สมุทรสงครามมีความสําคัญทางประวัติศาสตร๑ในชํวงที่สมเด็จพระเจ๎าตากสินมหาราชทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี พมําสํงกองทัพผํานเข๎ามาถึงบริเวณตําบลบางกุ๎ง สมเด็จพระเจ๎าตากสินมหาราชทรงรวบรวมผู๎คน สร๎างคํายตํอสู๎ปูองกันทัพพมํา จนข๎าศึกพํายแพ๎ไป ณ บริเวณคํายบางกุ๎ง นับเป็นการปูองกันการรุกรานของพมําที่มีตํอราชอาณาจักรไทยเป็นครั้งสําคัญในชํวงเวลานั้น ชื่อเมืองแมํกลอง เปลี่ยนเป็นสมุทรสงคราม ในปีใดนั้นไมํปรากฏแนํชัด แตํพอสันนิษฐานได๎วําเปลี่ยนในราวปีพ.ศ.2295 ถึงปี พ.ศ.2299 เพราะจากหลักฐานในหนังสือกฎหมายตราสามดวงวําด๎วยพระราชกําหนดเรื่องการเรียกสินไหมพินัยความได๎ปรากฏชื่อเมืองแมํกลอง เมืองสาครบุรีและเมืองสมุทรปราการ

ท่ีตั้งจงัหวดัสมุทรสงคราม

25

Page 29: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

และตํอมาพบข๎อความในพระราชกําหนดซึ่งตราขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวบรมโกศ เมื่อปี พ.ศ.2299 ความระบุวํา โปรดเกล๎าฯให๎พระยารัตนาธิเบศร๑สมุหมณเฑียรบาลเอาตัวขุนวิเศษวานิช (จีนอะปั่นเต็ก) ขุนทิพ และหมื่นรุกอักษร ที่บังอาจกราบบังคมทูลขอตั้งบํอนเบี้ยในแขวงเมืองสมุทรสงคราม เมืองราชบุรี และเมืองสมุทรปราการ ทั้งๆ ที่มีกฎหมายสั่งห๎ามไว๎กํอนแล๎วมาลงโทษ

จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นแผํนดินที่เกิดขึ้นใหมํ จากการทับถมของโคลนตะกอนบริเวณปากแมํน้ํา เกิดเป็นที่ดอน จนกลายมาเป็นที่ราบลุํมแมํน้ําขนาดใหญํ ตามหนังสือ ลําดับราชนิกูลบางช๎างเลําขานกันวํา สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี พระบรมราชชนนีของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล๎านภาลัยและพระญาติวงศ๑มีพระนิเวศน๑สถานดั้งเดิมอยูํที่ อําเภออัมพวา (บางช๎าง) แขวงอําเภอบางช๎าง ซึ่งตํอมาเป็นจังหวัดสมุทรสงครามในปัจจุบัน จังหวัดสมุทรสงครามมีพ้ืนที่416.707 ตารางกิโลเมตร(อันดับที่ 76) มีประชากร 193,647 คน สมุทรสงคราม เป็นจังหวัดในภาคกลาง(หนํวยงานบางแหํงถือเป็นสํวนหนึ่งของภาคตะวันตก) มีขนาดพ้ืนที่เล็กที่สุดของประเทศ คือประมาณ 416.7 ตารางกิโลเมตร ทั้งยังมีจํานวนประชากรน๎อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศด๎วย แตํนับเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ๑ ทางทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล๎อมและมีชายฝั่งทะเลติดอําวไทยยาวประมาณ 23 กิโลเมตร ไมํมีภูเขาหรือเกาะเลย มีลักษณะเป็นพ้ืนที่ราบลุํม โดยพ้ืนที่ฝั่งตะวันตกจะสูงกวําฝั่งตะวันออกเล็กน๎อย ปลายปี พ.ศ. 2550 ผลจากการสํารวจดัชนีความมั่นคงของมนุษย๑พบวํา สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่มีความม่ันคงของมนุษย๑สูงที่สุดในประเทศไทย

26

Page 30: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม

ตราประจ าจังหวัด : รูปกลองลอยน้ํา สองฝั่งแมํน้ําเป็นต๎นมะพร๎าว

ความหมาย : ชื่อเดิมของจังหวัดนี้ คือ เมืองแมํกลองเพราะตั้งอยูํริมลําน้ํา แมํกลองซึ่งเป็นเส๎นทางคมนาคมสําคัญ มาแตํสมัยโบราณ ตราของจังหวัดจึงทําเป็นรูปกลองลอยน้ําสองฟากฝั่งเป็นต๎นมะพร๎าวอันเป็นสัญลักษณ๑อาชีพหลักของจังหวัด

ตราผ้าผูกคอลูกเสือ : รูปกลองลอยน้ํา สองฝั่ง

แมํน้ําเป็นต๎นมะพร๎าว

ดอกไม้ประจ าจังหวัด : ดอกจิกทะเล เป็นไม๎ดอกเป็นชํอ

สั้นๆ อยูํตามปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาว เกสรสีชมพูอยูํตรงกลาง ออกดอกชํวงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม

ตน้ไม้ประจ าจังหวัด : ต๎นจิกทะเล เป็นไม๎ยืนต๎นขนาดกลาง มีลําต๎น

สูงประมาณ 10 เมตร เปลือกต๎นมีสีน้ําตาลหรือสีเทา ใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข๎มสลับกันไปตามข๎อต๎น ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ขอบใบเรียบ ผลมีขนาดใหญํ โคนเป็นสี่เหลี่ยมปูาน ปลายสอบ

27

Page 31: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เขตการปกครอง

การปกครองแบํงออกเป็น 3 อําเภอ 36 ตําบล 284 หมูํบ๎าน 1 เทศบาลเมือง 6 เทศบาลตําบล และ 28 องค๑การบริหารสํวนตําบล

1. อําเภอเมืองสมุทรสงคราม 2. อําเภอบางคนท ี 3. อําเภออัมพวา

สถานที่ส าคัญและสถานที่ท่องเที่ยว

ล่องเรือชมธรรมชาติ ป่าชายเลนคลองโคน

เป็นแหลํงทํองเที่ยวรูปแบบโฮมสเตย๑ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตปุาชายเลนคลองโคลน ตั้งอยูํ ต.คลองโคน อ.เมือง การเดินทางใช๎เส๎นทางพระราม 2 เมื่อข๎ามสะพานแมํน้ําแมํกลองจะเห็นปั๊ม ปตท. ให๎เลี้ยวซ๎ายเข๎าถนนบ๎านคลองโคน แล๎วขับไปตามทางมีปูายบอกทางอยํางชัดเจน สัมผัสการผจญภัยด๎วยการลํองเรือชมระบบนิเวศน๑ของปุาชายเลน ที่ชาวชุมชนรํวมใจกันพัฒนาฟื้นฟูผืนปุาชายเลน ระหวํางนั่งเรือจะได๎ชมวิถีชีวิต

ของชาวบ๎านริมน้ํา และสัตว๑น้ําอยํางปูก๎ามดาบ ปูแสม ปลาอีจัง ปลาตีน พันธุไม๎ปุาชายเลน ได๎แกํโกงกางใบใหญํ โกงกางใบเล็ก แสมพังกาหัวสุม ลําพู ลําแพน จาก ตะบูน โปรงแดงโปรงขาว แสมขาว ตาตุํม โพธิ์ทะเล ปอทะเล และเหงือกปลาหมออีกจุดหนึ่งที่ไมํควรพลาดคือการให๎อาหารลิงแสม สัตว๑ท๎องถิ่นซึ่งมีความนํารักแสนรู๎เป็นอยํางมาก ในฝั่งทะเลอําวไทยจะพบวิถีชีวิตแบบนี้ได๎ที่บ๎านคลองโคลน นั่งเรือออกไปจะได๎สัมผัสกับลมเย็นกลางท๎องทะเลที่ กระเตง (บ๎านพักกลางทะเลที่เฝูาฟาร๑มหอย) รวมถึงการรับประทานอาหารทะเลสด ๆ และที่ตื่นเต๎นและแปลกกวําใครคือ การโชว๑ขับเรือบนเลน ที่จะสร๎างความสนุกสนานตื่นเต๎นให๎กับนักทํองเที่ยวที่ชอบผจญภัยยิ่งนัก

28

Page 32: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรม ภมูิปัญญาท้องถิ่น

หนังใหญ ่

หนังใหญํ เป็นมรสพที่ใหญํและสําคัญ มีมาตั้งแตํ พ.ศ. ๒๐๐๑ ตามหลักฐานที่กลําวไว๎ ในกฎมณเทียรบาลสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและในเรื่องสมุทรโฆษชาดคําฉันท๑ หนังใหญํมีการเลํนตลอดมา จนสุดสิ้นสมัยอยุธยา ในพ.ศ. ๒๓๐๑ จึงยุติการเลํนหนังใหญํไปโดยปริยาย แตํเมื่อกรุงธนบุรีขึ้นมามีศักดิ์ศรีราชธานีใหมํ โดยสมเด็จพระเจ๎าตากสินมหาราช การเลํนหนังใหญํก็ฟ้ืนคืนชีพใหมํอีกครั้ง ซึ่งยังคงยืนยาวตํอมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร๑ ดังนั้น มหรสพใดๆ ก็ไมํอาจเทียบหนังใหญํได๎ เพราะเป็นมหรสพที่คํอนข๎างมโหฬาร คล๎ายภาพยนตร๑จอยักษ๑ในสมัยปัจจุบัน หนังใหญํมีขนาดโตกวําหนังตะลุงเกือบ ๕ เทํา การทําหนังใหญํนั้น ใช๎แผํนหนังวัวหรือหนังควายดิบ ที่ตากแห๎งโดยวิธีขึงลงในกรอบให๎ตึง แล๎วเขียนภาพลงบนแผํนหนัง จากนั้นจึงฉลุด๎วยเครื่องมือ ตอกฉลุให๎เป็นชํองหลุดขาดออกไป จะใช๎เครื่องมืออยํางเดียวกับหนังตะลุงก็ได๎ แตํในปัจจุบันการทําตัวหนังใหญํอาจน๎อยลงหรือเกือบไมํมีใครทํากันแล๎ว

เพราะไมํได๎ทําขาย แตํทําเพ่ือใช๎แสดงเทํานั้น ไมํเหมือนหนังตะลุงที่ทําขายเป็นของที่ระลึก

ลักษณะของหนังใหญํ เมื่อฉลุแล๎วจะเป็นภาพโปรํง อาจเป็นแผํนหนังที่มีภาพตัวเดียว เรียกวํา หนังเดี่ยว หรอืมีภาพกําลังตํอสู๎กัน เรียกวํา หนังจับ มีการฉลุ ๒ แบบ คือ การฉลุเอาหนังออกเหลือแตํเส๎นแสดงวงหน๎า ตา คิ้ว ปาก หรือเส๎นขอบแขน คอ เทํานั้น เรียกวํา "หน๎าแขวะ" อีกแบบหนึ่งต๎องฉลุเอาเส๎นตา คิ้ว วงหน๎า ขอบแขนออก เรียกวํา "หน๎าเต็ม" จึงดูกลับกัน

ตัวหนังใหญํสามารถแบํงได๎เป็น 3 ประเภทใหญํ ๆ ได๎แกํ

1. หนังเดี่ยว

หนังเดี่ยวคือมีตัวละครตัวเดียว ไมํมีภาพอ่ืนเป็นองค๑ประกอบ ได๎แกํ หนังเจ๎า หรือ หนังครู ใช๎สําหรับพิธีไหว๎ครู ไมํใช๎แสดง ปกติมี 3 ตัวคือ หนังฤๅษี หนังพระอิศวร และ หนังพระนารายณ๑ หนังเฝูา หรือ หนังไหว๎ เป็นตัวละคร ทั้งมนุษย๑ ยักษ๑ ลิง ทําทําประนมมือ ใช๎แสดงตอนเข๎าเฝูาหนังคเนจร หรือ หนังเดิน เป็นตัวละครทําทําเดิน หรือ ลิงทําทํายํอง หนังงํา หรือ หนังเหาะ แสดงทําเหาะ หรือ ยกขาข๎างหนึ่ง แยกได๎เป็น หนังโกํงและหนังแผลง คือ ทําทําโกํงหรือแผลงศร ด๎วย

29

Page 33: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

2. หนังเร่ือง

หนังเรื่องคือหนังขนาดใหญํที่มีภาพอ่ืนๆ เป็นองค๑ประกอบ หรือ มีตัวละครมากกวําหนึ่งตัว ได๎แกํ หนังเมือง มีตัวละครตัวเดียว หรือหลายตัว ประกอบด๎วยภาพสถานที่เชํน พลับพลา หรือ ราชวังหนังจับ หรือ หนังรบเป็นภาพตัวละคร 2 หรือ 3 ตัว ทําการรบกัน หรือ จับกนั เชํน พระรามรบกับทศกัณฐ๑เป็นต๎น

3. หนังเบ็ดเตล็ด

หนังเบ็ดเตล็ดคือหนังที่จัดทําทางพิเศษ เชํน หนังรถ ตัวละครนั่งบนราชรถ คนถืออาวุธ ลิงพวกเดียวเพชร พลยักษ๑ ตัวตลก ตัวหนีฉาก ภาพราชรถ ลิงเขน และเครื่องอาวุธ ฉัตร ช๎าง ม๎า ราชสีห๑

ในการแสดงหนังใหญํนั้น มีทั้งหนังสีและหนังดํา ซึ่งจะต๎องระบายสีลงบนภาพหนังซึ่งเป็นหนังชนิดบาง โดยการขูดเยื่อใยตํางๆ ออกจนหมด การเชิดหนังใหญํนั้น ผู๎ที่เชิดจะเต๎นและทําทําทางไปตามจังหวะเพลงด๎วย แตํภาพที่ปรากฏบนจอจะไมํสะดุ๎งตาม สํวนมากจะเป็นผู๎ชาย ไมํวําจะเชิดตัวพระ ตัวนางก็ตาม การฝึกหัดก็เชํนเดียวกับ

การฝึกหัดโขน โดยมีการเต๎นเสา เพราะในการเชิดนั้น จะต๎องยืด ยุบ กระทบเท๎า ลงเหลี่ยม ขยั่นเท๎า กระดกเท๎า มือทั้งสองจะต๎องชูตัวหนังขึ้นสูง สํวนหนังตัวเล็กจะต๎องจับไม๎คาบอันเดียวทั้งสองมือ การเต๎นก็เต๎นตามจังหวะ มีการเก็บเท๎า สะดุดเท๎า ขยั่นเท๎าสลับกัน ตัวหนังพระก็ทําทําอยํางพระ ตัวหนังนางก็ทําทําอยํางนาง ตัวหนังยักษ๑ก็ทําทําอยํางยักษ๑ ตัวหนังลิงก็ทําทําอยํางลิง ซึ่งแตํละประเภทจะมีทําเฉพาะของตัวเอง การพากย๑ก็จะต๎องเข๎าใจกันดีระหวํางผู๎เชิดกับผู๎พากย๑ ตอนใดขึงขัง ตอนใดอํอนโยน หรือตอนใดนอบน๎อมโดยเฉพาะหนังเฝูา ซึ่งตัวหนังนั่ งพนมมือ ก็จะต๎องโน๎มไปข๎างหน๎าเล็กน๎อยเชิงก๎มศีระษะรับคําสั่งหรือราชโองการ ความสัมพันธ๑กันระหวํางผู๎เชิดหนัง กับผู๎พากย๑ก็เชํนเดียวกับการแสดงโขน โดยที่ตัวโขนก็จะต๎องเข๎าใจเรื่องแตํละตอน คนพากย๑ก็จะต๎องเข๎าใจลีลาการรํา และการทําทําทางที่เรียกวํา "ภาษาทํา" ดนตรีที่ใช๎ในการเลํนหนังใหญํ ใช๎วงปี่พาทย๑ แตํจะเป็นวงขนาดใดแล๎วแตํฐานะเจ๎าภาพ วงปี่พาทย๑จะตั้งอยูํหน๎าจอหนัง เว๎นระยะหํางจากจอราว ๔ เมตร เพ่ือให๎คนเชิดหนังเต๎นได๎สะดวก เพราะการเชิดหนังใหญํนั้น เชิดหน๎าจอและหลังจอด๎วย ไมํเหมือนหนังตะลุงที่เชิดหลังจอตลอด

ปัจจุบันเหลือคณะหนังใหญํอยูํทั้งหมด 3 คณะได๎แกํ

1. หนังใหญํวัดขนอน จังหวัดราชบุรี

2. หนังใหญํวัดบ๎านดอน จังหวัดระยอง

3. หนังใหญํวัดสวํางอารมณ๑ จังหวัดสิงห๑บุรี

30

Page 34: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

และหนังใหญํอีกแหํงหนึ่งที่น๎อยคนจะรู๎จักวํายังคงมีอยูํ คือ หนังใหญํวัดบางน๎อย อ.บางคนที จ.

สมุทรสงคราม และผู๎ที่มีใจอนุรักษ๑งานศิลปะและพยายามจะรักษาไว๎ให๎คงอยูํคูํกับชุมชนที่ตนได๎เติบโตขึ้นมา มิให๎เลือนหายไปก็คือ ลุงสงัด ใจพรหม อดีตอาจารย๑วิชาเขียนแบบและศิลปะ โรงเรียนอัมพวันวิทยาลัย ผู๎อนุรักษ๑ศิลปะพ้ืนบ๎านและหนังใหญํที่กําลังจะสูญหายไป จนได๎รับรางวัลคนดีศรีแผํนดิน ประจําจังหวัดสมุทรสงคราม สาขาทัศนศิลป์ ประจําปี 2552 และยังเป็นปราชญ๑ชาวบ๎าน และเป็นผู๎มีผลงานดีเดํนทางวัฒนธรรม รวมถึงเป็นครูภูมิปัญญาท๎องถิ่น ได๎จัดทําศูนย๑ศลิปวัฒนธรรมท๎องถิ่นขึ้น ณ บ๎านยายแฟง ต.ยายแพง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม

31

Page 35: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

แรงบรรดาลใจของลุงสงัด ใจพรหม ในการอนุรักษ๑หนังใหญํ

นั้น เห็นวําหนังใหญํมรดกทางวัฒนธรรมของวัดบางน๎อยกําลังจะสูญหายไป เนื่องจากถูกไฟไหม๎ เกือบหมด และบางสํวนได๎ถูกนําไปขายยังตํางประเทศและผู๎ที่สืบทอดการทําตัวหนังใหญํในปัจจุบันแทบจะไมํเหลือให๎เห็นแล๎ว จึงได๎คิดอนุรักษ๑หนังใหญํ ซึ่งตํอไปจะได๎มีหนังใหญํอยูํไว๎ให๎ลูกหลานดู และรางวัลที่ทําให๎รู๎สึกภูมิใจ คือ รางวัล 76 คนดี นําทาง และรางวัลแทนคุณแผํนดิน ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการถํายทอดเรื่องการอนุรักษ๑หนังใหญํให๎คนรุํนหลัง รวมทั้งสอนนักเรียนถึงแนวทางการอนุรักษ๑ศิลปะไทย เพ่ือเป็นแหลํงเรียนรู๎ทางด๎านศิลปะให๎กับชุมชนถิ่นนี้ตํอไป และนอกจากนั้นครูสงัดยังได๎รํวมกับหนํวยงานภาครัฐดําเนิน โครงการเครือขํายศูนย๑มหรสพและการละเลํนพื้นบ๎าน เพื่อสุขภาวะชุมชน เป็นการถํายทอดภูมิปัญญาในด๎านศิลปกรรม ในเรื่องการเลํนหนังใหญํ ให๎กับเยาวชนและประชาชนทั่วไปในพ้ืนที่เปูาหมายด๎วยการมาเป็นวิทยากรในการถํายทอดภูมิปัญญา เป็นการสร๎างความยั่งยืนให๎กับมหรสพและการละเลํนพ้ืนบ๎านด๎วยการสร๎างกิจกรรมอยํางตํอเนื่องซึ่งโครงการเครือขํายศูนย๑มหรสพและการละเลํนพ้ืนบ๎าน เพ่ือสุขภาวะชุมชน กิจกรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้นอกจากจะต๎องการศิลปวัฒนธรรม (หนังใหญํ) คงอยูํโดยการสืบสานสืบทอด แล๎วยังทําให๎ศิลปินได๎มีการสร๎างการเปลี่ยนแปลง ทางด๎านกาย จิต ปัญญา และสังคม ด๎วยการนําเอาสื่อศิลปวัฒนธรรมเรื่อง “หนังใหญํ” มาเป็นเครื่องมือในการสร๎างสุขภาวะของชุมชน และเป็นการเปิดพ้ืนที่ของชุมชนให๎คนในชุมชนมารํวมกันเรียนรู๎แลกเปลี่ยนในเรื่องของศิลปวัฒนธรรมที่มีอยูํ ในชุมชน และคนภายนอกรู๎จักอีกด๎วย

32

Page 36: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56
Page 37: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

จังหวัดนครปฐม

ค าขวัญประจ าจังหวัดนครปฐม

“ส๎มโอหวาน ข๎าวสารขาว ลูกสาวงาม

ข๎าวหลามหวานมัน สนามจันทร๑งามล๎น

พุทธมณฑลคูํธานี พระปฐมเจดีย๑เสียดฟูา”

ความเป็นมา

นครปฐมนับเป็นอูํอารยธรรมสําคัญที่มีประวัติศาสตร๑ความ

เป็นมายาวนานในแผํนดินสุวรรณภูมิ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร๑ได๎กลําววําเมืองนครปฐมแตํเดิมนั้น ตั้งอยูํริมทะเลเป็นเมืองเกําแกํท่ีมีความเจริญรุํงเรืองมานานนับตั้งแตํสมัยสุวรรณภูมิและเป็นราชธานีที่สําคัญในสมัยทวารวดี ในยุคนั้นนครปฐมเป็นแหลํงเผยแพรํอารยธรรมจากประเทศอินเดียซึ่งรวมทั้งพุทธศาสนา นครปฐมจึงเป็นศูนย๑กลางของความเจริญ ชนชาติตํางๆได๎อพยพเข๎ามาตั้งถ่ินฐานอยูํเป็นจํานวนมาก ตํอมาเกิดความแห๎งแล๎งขึ้นในเมืองนครปฐม เพราะกระแสน้ําที่ไหลผํานตัวเมืองเปลี่ยนเส๎นทางประชาชนจึงอพยพไปตั้งหลักแหลํงอยูํริมน้ําและสร๎างเมืองใหมํขึ้นชื่อวํา“เมืองนครไชยศรี”หรือ“ศรีวิชัย”นครปฐมจึงกลายเป็นเมืองร๎างมาเป็นเวลาหลายร๎อยปี

จนกระท่ังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล๎าเจ๎าอยูํหัว(รัชกาลที่4) ขณะที่ยังทรงผนวชได๎ธุดงค๑ไปพบพระปฐมเจดีย๑และทรงเห็นวําเป็นเจดีย๑องค๑ใหญํที่ไมํมีที่ใดเทียบเทํา ครั้นเมื่อได๎เสด็จขึ้นครองราชย๑จึงได๎โปรดเกล๎าฯให๎กํอเจดีย๑แบบลังกา ครอบเจดีย๑องค๑เดิมไว๎ โดยให๎ชื่อวํา “พระปฐมเจดีย๑” ทรงปฏิสังขรณ๑สิ่งตําง ๆ ในบริเวณองค๑พระปฐมเจดีย๑ให๎มีสภาพดีและโปรดเกล๎าฯให๎ขุดคลองเจดีย๑บูชา เพ่ือให๎การเสด็จมานมัสการสะดวกข้ึน

ท่ีตั้งจงัหวดันครปฐม

34

Page 38: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สัญลักษณ์ของจังหวัดนครปฐม

ตราประจ าจังหวัด :รูปเจดีย๑องค๑ใหญํและมีมงกุฎติดอยูํที่พระปฐมเจดีย๑ เจดีย์องค์ใหญ ํ คือ องค๑พระปฐมเจดีย๑ที่พระโสณะและพระอุตระได๎สร๎างข้ึน มงกุฎ หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล๎าเจ๎าอยูํหัวผู๎ทรงอุปถัมภ๑สร๎างองค๑พระปฐมเจดีย๑ตํอเติมให๎สูงใหญํสงํางาม ตามปรากฎในปัจจุบัน จังหวัดนครปฐม ใช๎อักษรยํอวํา "นฐ"

ตราผ้าผูกคอลูกเสือ รูปพระปฐมเจดีย๑

ดอกไม้และ ต้นไม้ประจ าจังหวัด : ต๎นจันทน๑หอม เป็นไม้ยืนต้น

ผลดัใบ สงู 10–20 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มคอ่นข้างโปร่ง ใบ เป็นใบเด่ียวเรียงสลบั ออกดอกเป็นช่อตามปลายก่ิง และตามง่ามใบ ดอกขนาดเลก็ สีขาว ผล เป็นรูปกระสวย มีปีกรูปทรงสามเหลี่ยม

ผลไม้ประจ าจังหวดั : ส๎มโอ

35

Page 39: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เขตการปกครอง

การปกครองแบํงออกเป็น 7 อําเภอ 106 ตําบล 930 หมูํบ๎าน 1 เทศบาลนคร 3 เทศบาลเมือง 15 เทศบาลตําบลและ 97 องค๑การบริหารสํวนตําบล

1. อําเภอเมืองนครปฐม 2. อําเภอกําแพงแสน 3. อําเภอนครชัยศรี 4. อําเภอดอนตูม 5. อําเภอบางเลน 6. อําเภอสามพราน 7. อําเภอพุทธมณฑล

สถานที่ส าคัญและสถานที่ท่องเที่ยว

สวนนกยูงสามพราน แกะ & กวางดาว สวนนกยูงในสวนแหํงนี้เป็นสวนนกยูงที่

ใหญํที่สุดในประเทศไทย มีนกยูงมากกวําร๎อยตัว นักทํองเที่ยวสามารถเดินเข๎าไปให๎อาหารและถํายรูปในกรงนกยูงไดอ๎ยํางใกล๎ชิด และสวนนกยุงแหํงนี้ยังมีสัตว๑อีกหลายชนิดให๎ชม อาทิ ไกํดําฮํองเต๎ กวางดาว แกะ ไกํฟูา เป็นแหลํงทํองเที่ยวทีเ่หมาะสําหรับนักทํองเที่ยวที่อยากเที่ยวสวนสัตว๑แหํงใหมํใกล๎ๆกรุงเทพฯ การเดินทางจากกรุงเทพฯ ขับรถมาตามถนนเพชรเกษมมุํงหน๎าเข๎าตัวจังหวัดนครปฐม เลี้ยวซ๎ายเข๎าซอยวัดเทียนดัด ประมาณ 3.5 กิโลเมตร อยูํฝั่งซ๎ายมือ คําเข๎าชมคนละ 50 บาท รถประจําทางที่ผําน สาย 84 คลองสาน – อ๎อมใหญํ

36

Page 40: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรม ภมูิปัญญาท้องถิ่น

ตลาดน้ําบางหลวง รศ. 1ตลาดน้ําบางหลวง รศ. 12222 เดิมตลาดบางหลวงเป็นแหลํงค๎าขายทางน้ํา ที่สําคัญแหํงหนึ่งของอําเภอบางเลน เพราะมีทําเรือ สะดวกในการขนถํายสินค๎า มีบริษัทสุพรรณขนสํงให๎บริการเดินเรือจากสุพรรณบุรีไปยังสถานีรถไฟงิ้วราย เพื่อเดินทางระหวํางหมูํบ๎านหรือเข๎ากรุงเทพฯ เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปเทคโนโลยีสมัยใหมํเข๎ามาแทน มี การสร๎างถนน รถยนต๑ก็มาแทนที่เรือ ทําให๎การค๎าขายทางน้ํา เริ่มซบเซาลง แตํการค๎าขายของชาวตลาดบางหลวงก็ยังคงอยูํ และยังคงรักษาเอกลักษณ๑ด๎านตําง ๆไว๎อยํางสมบูรณ๑ ไมํวําจะเป็นร๎านขายยาจีนสมุนไพร ร๎านทําฟันปลอม ร๎านทําทอง ร๎านบัดกรีโลหะ ร๎านทําเส๎นก๐วยเตี๋ยวก็ยังคงอนุรักษ๑ไว๎ เพ่ือเป็นการสํงเสริมการทํองเที่ยวเชิงอนุรักษ๑ของบางหลวงตํอไป

37

Page 41: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

ตลาดบางหลวงเป็นตลาดเกําแกํของชุมชมชาวไทย และชาวจีน โดยเริ่มจากชาวจีนที่อพยพเข๎ามาตั้งถิ่นฐานที่บางหลวง และโดยบ๎านเรือนที่อยูํอาศัยจะเป็นบ๎านไม๎สองชั้นหันหน๎าเข๎าหากัน ปัจจุบันมีอายุเกํ าแกํไมํน๎อยกวํา 100 ปี การกํอตั้งชุมชนบางหลวงเริ่มมาตั้งแตํปี พ.ศ. 2446 อยูํบนริมน้ําแมํน้ําทําจีนด๎านฝั่งตะวันออก (หรือแมํน้ําสุพรรณบุรี)มีด๎วยกันทั้งหมด 68 ห๎อง ปลูกจากหน๎าตลาดจนถึงท๎ายตลาด ปัจจุบันยังคงสภาพที่สวยงามและเกําแกํ ทําให๎ตลาดบางหลวงนี้เป็นแหลํงทํองเที่ยวแหํงใหมํของชาว จ.นครปฐม

โดยเฉพาะบ๎านเรือนไทยหลังเกําที่ปลูกที่อยูํฝั่งตรงข๎ามกับหลังตลาดบางหลวง ซึ่งมีอายุเกําแกํและได๎กําลังพัฒนาเป็นจุดทํองเที่ยวแหํงหนึ่งของของตลาดบางหลวง

38

Page 42: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

ในวันเสาร๑ วันอาทิตย๑ และวันหยุดนักขัตฤกษ๑จะมีอาหารมากมายหลากหลายมาจําหนํายภายในตลาดบางหลวง ได๎แกํ หวาน-คาว กุ๎ง ปลา ผักผลไม๎สดๆ และภายในตลาดบางหลวงบริเวณทําน้ําทําจีนยังมีบริการลํองเรือชมแมํน้ําทําจีน และทําบุญยังวัดตําง ๆ ที่ติดกับตลาดบางหลวง เชํน วัดบางหลวง วัดไผํโรงวัว ฯ จนทําให๎ตลาดบางหลวงพ้ืนที่จากที่เคยมีแคํตลาดบน แตํตอนนี้มีตลาดลํางเพ่ิมขึ้น ปัจจุบันมีละครหลายเรื่องเข๎ามาถํายทําที่ตลาดบางหลวง และที่ทําให๎ตลาดบางหลวงเป็นที่รู๎จักของนักทํองเที่ยวมากยิ่งขึ้นก็มาจากภาพยนตร๑เรื่อง "คมแฝก" เปิดทุกวัน เสาร๑ อาทิตย๑ และวันหยุดนักขัตฤกษ๑

39

Page 43: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56
Page 44: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

จังหวัดเพชรบุรี

เป็นจังหวัดที่มีความสมบูรณ๑ทางธรรมชาติทั้งภูเขา และ ทะเล อีกทั้งอยูํใกล๎กับกรุงเทพมหานคร เหมาะสําหรับคนที่ชอบธรรมชาติ แตํไมํมีเวลาไปไหนไกลๆ สถานที่ทํองเที่ยวแนะนําคือ ชายหาดปึกเตียน หาดชะอํา อุทยานแหํงชาติแกํงกระจาน และSwiss Sheep Farm ฟาร๑มแกะ แบบสวิสเซอร๑แลนด๑

ค าขวัญประจ าจังหวัดเพชรบุร ี“เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองพระ เลิศล าศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม”

41

Page 45: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

ความเป็นมา

เพชรบุรีเป็นเมืองที่เคยรุํงเรืองมาตั้งแตํครั้งในอดีตและเป็นเมืองหน๎าดํานที่สําคัญของไทยในกลุํมหัวเมืองฝุายตะวันตกมีการติดตํอค๎าขายกับ ตําง ประเทศอยํางเป็นล่ําเป็นสัน มีหลักฐาน ชื่อเรียกปรากฏในหนังสือชาวตํางประเทศ เชํน ชาวฮอลันดาเรียกวํา“พิพรีย๑” ชาวฝรั่งเศสเรียก วํา “พิพพีล๑” แล ะ “ฟิฟรี” จึงมีการสันนิษฐานกันวําชื่อ“เมืองพริบพรี”ซึ่งเป็นชื่อเดิมของเมืองเพชรบุรีมีความสอดคล๎องกับชื่อวัดพริบพลีที่เป็นวัดเกําแกํวัดหนึ่งของจังหวัดและท่ีวัดแหํงนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของเสาชิงช๎าอีกด๎วย เพชรบุรีหรือศรีชัยวัชรบุรีเป็นเมืองเกําแกํมาแตํครั้งโบราณเคยเป็นอาณาจักรเล็กๆอาณาจักรหนึ่ง บางสมัยมีเจ๎าผู๎ครองนครหรือกษัตริย๑ปกครองเป็น อิสระบางสมัย ก็ตกเป็นเมืองขึน้ของอาณาจักรที่เข๎มแข็งกวํา เจ๎าผู๎ครองนครได๎สํงเครื่องบรรณาการ ไปยังเมืองจีนเป็นประจํา เพชรบุรีจึงมีชื่อปรากฏเป็นหลักฐานมา

ตั้งแตํสมัยพระเจ๎าชัยวรมัน ที่ ๗ เชํน พระปรางค๑ ๕ ยอด ณ วัดมหาธาตุวรวิหารและ ปราสาทหินศิลาแลง ณ วัดกําแพงแลงเป็นต๎น โดยที่มาของชื่อเมืองนั้นอาจกลําวได๎ ตามตํานานที่เลําสืบกัน มาวําในสมัยโบราณ เคยมีแสงระยิบ ระยับในเวลาค่ําคืนที่เขาแดํนทําให๎ชาวบ๎านเข๎าใจวํามีเพชรพลอยบนเขานั้นจึงพากันไปค๎นหาแตํก็ไมํพบจึงได๎ออกค๎นหาในเวลากลางคืนแล๎วใช๎ปูนที่ใช๎สําหรับกินหมากปูายเป็นตําหนิไว๎เพ่ือมาค๎นหาในเวลากลางวัน แตํก็ไมํพบบ๎างก็วําเรียกตาม ชื่อของแมํน้ําเพชรบุรี เมืองเพชรบุรีมีศิลปะวัตถุมากมายเป็นหลักฐานที่แสดงวําเพชรบุรีเคยเป็นบ๎านเมืองที่มีผู๎คนอาศัยอยูํมาก เป็นชุมชนถาวรมาตั้งแตํสมัยทวารวดี เชํน ศิลปะปูนปั้น เป็นต๎น

เมื่อถึงยุคของอาณาจักรสุโขทัย แม๎อาณาจักรสุโขทัยในรัชสมัยพํอขุนรามคําแหงมหาราชพระองค๑ทรงมีอํานาจครอบคลุมเพชรบุรี แตํเพชรบุรีก็ยังมีอิสระอยูํมากสามารถสํงทูตไปจีนได๎ ต๎นวงศ๑ของกษัตริย๑เพชรบุรีในชํวงสมัยสุโขทัย คือพระพนมทะเลศิริ ผู๎เป็นเชื้อสายของพระเจ๎าพรหมแหํงเวียงไชยปราการ ราชวงศ๑นี้ได๎ครองเมืองเพชรบุรีมาจนถึงสมัยพระเจ๎าอํูทองซึ่งได๎เสด็จไปสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต๎น เพชรบุรี ขึ้นตํอกรุงศรีอยุธยาในแบบศักดินาสวามิภักดิ์ มีขุนนางควบคุมเป็นชั้นๆขึ้นไป แตํหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถอํานาจในสํวนกลางมีมากข้ึน

เพชรบุรียังมีความสัมพันธ๑ใกล๎ชิดกับ กรุงศรีอยุธยา ดังนั้นอํานาจจากสํวนกลางจึงมีสํวนในการปกครองเพชรบุรีมากกวําเดิม ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาใน พ.ศ.2113 พระยาละแวกเจ๎าเมืองเขมรยกกองทัพมาสู๎รบกับกองทัพกรุงศรีอยุธยาแตํสู๎ไมํได๎พํายแพ๎หนีกลับไปเขมร อีก5ปีตํอมาในพ.ศ.2118 พระยาละแวกยกทัพเรือมาที่กรุงศรีอยุธยาอีกและสู๎กรุงศรีอยุธยาไมํได๎อีก จึงยกกองทัพกลับไป พ.ศ.2121 ทางเขมรได๎ให๎พระยาจีนจันตุยกทัพมาตีเมืองเพชรบุรีแตํชาวเมืองเพชรบุรีปูองกันเมืองเอาไว๎ได๎ พ.ศ.2124 กรุงศรีอยุธยาติดพันการรบกับกบฏ พระยาละแวกก็เลยถือโอกาสยกกองทัพเรือมาตีเมืองเพชรบุรีมีกําลังพลประมาณ 7,000 คน เมืองเพชรบุรีจึงตกเป็นของเขมร

ท่ีตั้งจงัหวดัเพชรบุรี

42

Page 46: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

จนถึงรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค๑ทรงตีเขมร ได๎ชัยชนะ เพชรบุรีจึงเป็นอิสระ โดย พ.ศ. 2136 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิจารณานิสัย สันดานของเขมรแล๎ว เจ็บช้ําพระทัยจึงยกกองทัพไปตีเขมรจับครอบครัวพระยาละแวกแล๎วเอามาไว๎ที่กรุงศรีอยุธยา ตัดคอพระยาละแวกล๎างพระบาท เพราะชอบฉกฉวยโอกาสขณะที่กรุงศรีอยุธยาติดทัพที่อ่ืน

แตํพระองค๑ทํานยังมีพระเมตตาให๎โอกาสลูกชายคนโตของพระยาละแวกกลับไปครองเขมรตํอ แล๎วให๎ทําสัญญาวําจะไมํเป็นกบฏตํอกรุงศรีอยุธยา และต๎องเป็นเมืองขึ้นของราชอาณาจักรสยามตํอไป เนื่องจากทรงโปรดปรานเมืองเพชรบุรีเป็นพิเศษ จึงได๎เสด็จมาประทับที่เมืองเพชรบุรีเป็นเวลาถึง 5 ปี กํอนจะทรงยกทัพใหญํไปปราบพมํา และเสด็จสวรรคตที่เมืองห๎างหลวงเจ๎าเมือง

เพชรบุรีและชาวเมืองเพชรบุรีได๎รํวมเป็นกําลังสําคัญในการตํอสู๎กับข๎าศึกศัตรูหลายครั้งนับตั้งแตํสมัยรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเชษฐาธิราช และรัชสมัยสมเด็จพระเจ๎าเอกทัศน๑โดยเฉพาะในรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชานั้น การปราบปรามเจ๎าเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งแข็งเมือง พระยาเพชรบุรีได๎เป็นกําลังสําคัญในการสํงเสบียง ให๎แกํกองทัพฝุายราชสํานักกรุงศรีอยุธยา อยํางไรก็ดีเมืองเพชรบุรีถูกตีแตกอีกครั้งเมื่อพมําโดยมังมหานรธาได๎ยกมาตีไทย จนไทยต๎องเสียกรุงศรีอยุธยาแกํพมําเป็นครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2310 นั่นเอง

เพชรบุรีในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร๑ตั้งแตํรัชสมัยสมเด็จพระเจ๎าตากสินมหาราชจนถึงแผํนดินสมเด็จพระพุทธเลิศหล๎านภาลัย ไทยเรายังคงทําสงครามกับพมํามาโดยตลอด ซึ่งเจ๎าเมืองและชาวเมืองเพชรบุรีก็ยังคงมีสํวนรํวมในการทําสงครามดังกลําว จนเมื่อพมําตกเป็นอาณาจักรของอังกฤษแล๎วบทบาทของเมืองเพชรบุรีที่มีตํอเมืองหลวงและราชสํานักจึงคํอย ๆ เปลี่ยนไป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล๎าเจ๎าอยูํหัวทรงโปรดปรานเมืองเพชรบุรีตั้งแตํครั้งยังทรงผนวชอยูํ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย๑

แล๎วทรงโปรดเกล๎าให๎สร๎างพระราชวัง วัด และพระเจดีย๑ใหญํขึ้นบนเขาเตี้ยๆ ใกล๎กับตัวเมือง และพระราชทานนามวํา “พระนครคีรี” ตํอมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล๎าเจ๎าอยูํหัวทรงโปรดเกล๎าฯให๎สร๎างพระราชวังอีกแหํงหนึ่งในตัวเมืองเพชรบุรี คือ “พระรามราชนิเวศน๑”หรือ ที่เรียกกันตามภาษา ชาวบ๎านวํา “วังบ๎านปืน” และด๎วยความเชื่อที่วําอากาศชายทะเลและน้ําทะเลอาจบรรเทาอาการเจ็ บปุวยได๎ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล๎าเจ๎าอยูํหัวจึงโปรดเกล๎าฯให๎สร๎างพระราชวัง “พระราชนิเวศน๑มฤคทายวัน” ขึ้น ที่ชายหาดชะอํา เพ่ือใช๎เป็นที่ประทับรักษาพระองค๑จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของเมืองเพชรบุรีวํา “เมืองวัง”

43

43

Page 47: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุร ี

ตราประจ าจังหวัด เขาวัง หมายถึง เขาที่ตั้งของพระนครคีรี ซึ่ง ร. 4ทรงสร๎างและ พระเจดีย๑พระธาตุจอมเพชร นับเป็นเจดีย๑คูํบ๎านคูํเมือง ผืนนา หมายถึง เมืองเกษตรกรรมและความอุดมสมบูรณ๑ ต๎นตาลโตนด หมายถึง ต๎นไม๎สัญลักษณ๑ของจังหวัด

ตราผ้าผูกคอลูกเสือ : รูปเขาวัง ผืนนา ต๎นตาลโตนด

ธงประจ าจังหวัดเพชรบุร ี: สีเหลือง-น้ําเงิน มีรูปเขา

วัง ผืนนา ต๎นตาลโตนด อยูํในวงกลมตรงกลาง

ต้นไม้ประจ าจังหวัด : ต๎นหว๎า เป็นไม๎ยืนต๎นสูง 10–25 เมตร

ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข๎าม แผํนใบรูปรีหรือรูปไขํกลับ ปลายใบแหลม โคนใบมน ดอกสีขาว ออกเป็นชํอตามงํามใบ เกสรยาวเป็นพูํ ผลเป็นวงรี

44

Page 48: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เขตการปกครอง

ระดับจังหวัด ประกอบด๎วยสํวนราชการประจําจังหวัด จํานวน 26 สํวนราชการ ระดับอําเภอ ประกอบด๎วย 8 อําเภอ 93 ตําบล 698 หมูํบ๎าน

1. อําเภอเมืองเพชรบุรี 2. อําเภอเขาย๎อย 3. อําเภอหนองหญ๎าปล๎อง 4. อําเภอชะอํา 5. อําเภอทํายาง 6. อําเภอบ๎านลาด 7. อําเภอบ๎านแหลม 8. อําเภอแกํงกระจาน

สถานที่ส าคัญและสถานที่ท่องเที่ยว

อ่าวบางตะบูน

ตั้งอยูํตําบลบางตะบูน จากตัวเมืองเพชรบุรีไปบ๎านแหลมระยะทาง 12 กิโลเมตร แล๎วเดินทางตํอไปปากอําวบางตะบูนระยะทางอีก 8 กิโลเมตร บางตะบูนเป็นหมูํบ๎านชาวประมงเล็ก ๆ ติดริมทะเล นักทํองเที่ยวที่มาเยี่ยมชมที่แหํงนี้จะได๎ชมวิถีชีวิตชาวประมงพ้ืนบ๎านที่ทําฟาร๑มเลี้ยงหอยแครง หอยแมลงภูํ หอยนางรม และประมงชายฝั่ง รวมถึงได๎ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆจากฟาร๑มในร๎านอาหารทะเลชื่อดังในพ้ืนที่ บริเวณปากอําวบางตะบูนยังเป็นจุดชม "ฝูงปลาวาฬบรูด๎า" และ "ฝูงปลาโลมา" อีกทั้งชมนกกาน้ําใหญํ และนกนาๆชนิด และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย๑ตกดิน บริเวณสะพานเฉลิมพระเกียรติที่สวยงามไมํแพ๎ที่ใดอีกด๎วย

45

Page 49: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

ชายหาดปึกเตียน

หาดปึกเตียน เป็นชายหาดที่มีความสวยงามหาดทรายขาวเป็นแนวยาว การเดินทางขับรถไปตามทางถนนเพชรเกษมถึงอําเภอทํายางแล๎วเลี้ยวซ๎ายตรงสี่แยกคลองชลประทานสาย 2 ไปตามถนนนี้ ประมาณ 15 กม. ก็จะถึงหาดปึกเตียน ซึ่งหาดปึกเตียนแหํงนี้เป็นที่นิยมของนักทํองเที่ยวที่ชื่นชอบทะเลยิ่งนัก เพราะนอกจากจะได๎สนุกกับการเลํนน้ํ าทะเลแล๎ว ตามแนวชายหาดยังมีร๎านอาหารทะเลสดๆ อรํอยๆ ให๎คนที่ชอบกินอาหารทะเลเลือกลิ้มลองอีกมากมาย แถมยังมีที่พักที่หรูหราสวยงามและนําสนใจอีกหลายแหํง เชํน คาชัวรินํา บีช รีสอร๑ท เพชรบุรี และรีสอร๑ทเวราโน บีช วิลลํา บริการห๎องพักแบบหรูริมชายหาดปึกเตียน

เอกลักษณ๑ท่ีโดเดํนของชายหาดปึกเตียนอีกอยํางก็คือ รูปปั้นตัวละครในวรรณคดีไทยชื่อดังเรื่อง “พระอภัยมณี” อยําง นางเงือก พระอภัยมณี และนางผีเสื้อสมุทร ที่ตั้งตะหงํานรอวันให๎นักทํองเที่ยวแวะเวียนมาถํายรูปแล๎วนําไปแชร๑ผํานโซเชียลมีเดียให๎เพ่ือนได๎ชม

46

Page 50: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

เอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรม ภมูิปัญญาท้องถิ่น

วัดพระพุทธไสยาสน์ หรือวัดพระนอน เป็นวัดเกําแกํอีกวัดหนึ่งของ จังหวัดเพชรบุรีไมํปรากฏหลักฐานวําสร๎างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานวําเป็นวัดที่มีมาตั้งแตํสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นโบราณสถาน ประกาศให๎ขึ้นทะเบียน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 เป็นพระพุทธรูปนอนขนาดใหญํ องค๑ หนึ่ ง ในจํ านวน 4 องค๑ ที่ มี อยูํ ใน เมื อง ไทย มี ความยาว ถึง 43 เมตร กํออิฐถือปูนลงรักปิดทอง เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่ง

เชื่อกันวําสร๎างด๎วยฝีมือสกุลชํางในสมัยอยุธยา หมอนหนุนของพระพุทธไสยาสน๑ องค๑นี้มีลักษณะเป็นทรงกลม เดิมพระพุทธไสยาสน๑ประดิษฐานอยูํกลางแจ๎ง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล๎าเจ๎าอยูํหัว โปรดฯให๎สร๎างหลังคาคลุมไว๎

47

Page 51: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

ตํอมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล๎าเจ๎าอยูํหัว ได๎มีการซํอมหลังคาใหมํ และสร๎างผนังล๎อมรอบองค๑เป็นวิหารพระพุทธไสยาสน๑ วัดพระพุทธไสยาสน๑ ต้ังอยูํถนนคีรีรัฐยา ตําบลคลองกระแชง อําเภอเมืองฯ จังหวัดเพชรบุรี

วัดนี้ตั้งอยูํบริเวณเชิงเขามไหศวรย๑ (เขาวัง)ทางทิศตะวันออกเฉียงใต๎เป็นวัดเกําแกํสันนิฐานวํามีมาแตํครั้งสมัยอยุธยา มีพระพุทธรูปไสยาสน๑ขนาดใหญํวิหารพระพุทธไสยาสน๑ ตั้งอยูํบนไหลํเขาสูงประมาณ 15 เมตร วางตัวไปตามแนวไหลํเขาเป็นอาคารทรงไทยกํออิฐถือปูน ผนังทางด๎านทิศเหนือใช๎สํวนหนึ่งของภูเขา ผนังทางด๎านทิศตะวันออกเจาะชํองประตู 1 ชํอง ผนังทางด๎านทิศใต๎เจาะหน๎าตําง 2 ชํอง ภายในมีเสาขนาดใหญํ จํานวน 10 ต๎น เป็นเสาแปดเหลี่ยม

บัวหัวเสารูปบัวกลุํมตั้งอยูํบนไหลํเขา ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของวิหารพระนอน เป็นอาคารกํออิฐถือปูนฉาบปูนตลอดทั้งอาคารรวมถึงหลังคาผนังด๎านทิศตะวันออกเจาะประตู 1 ชํอง ผนังอีก 3 ด๎านทึบ ด๎านนอกเจาะเป็นซุ๎มยอดแหลม ภาพเขียนบนผนัง ผนังด๎านในฉาบปูนเรียบผนังมีภาพเขียน ด๎านทิศเหนือตรงกลางเป็นรูปพระพุทธเจ๎าประทับยืนพระหัตถ๑ทรงแสดงปางประทานอภัย มณฑปหลังนี้สร๎างโดย พระครูสุชาติ เมธาจารีย๑(กุน)คงสร๎างขึ้นกํอนปี 2456 เนื่องจากมีสถูปจําลองบรรจุอัฐิของทํานที่เก็บไว๎ภายในมณฑป บริเวณฐานมีจารึกข๎อความ "พระปลัดเทพ"ที่ใสํพระบรมธาตุ พระครูสุชาติ เมธาจารย๑ (กุน) พระพุทธรูปทรงเครื่อง ประดิ ษฐ าน ในวิ ห า ร ขนาด เล็ กอยูํ ใ กล๎ วิ ห า รพระนอนทางทิ ศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพระพุทธทรงเครื่อง ชฎาสูงทรงเทริดมีตุ๎มหู

48

Page 52: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

49

Page 53: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

บรรณานุกรม

ราชบันฑิตยสถาน.[ม.ป.ป.] “คลังความรู๎ ตราประจําจังหวัด.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=3276. (สืบค๎น 25 พฤษภาคม 2556).

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.[ม.ป.ป.] “จังหวัดสมุทรปราการ.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดสมุทรปราการ. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.[ม.ป.ป.] “จังหวัดสมุทรสาคร.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดสมุทรสาคร. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.[ม.ป.ป.] “จังหวัดสมุทรสงคราม.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดสมุทรสงคราม. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.[ม.ป.ป.] “จังหวัดนครปฐม.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดนครปฐม. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสร.ี[ม.ป.ป.] “จังหวัดเพชรบุรี.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดเพชรบุรี. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

กลุํมงานข๎อมูลสารสนเทศ และการสื่อสาร สํานักงานจังหวัดสมุทรปราการ.[ม.ป.ป.] “ข๎อมูลทั่วไปของจังหวัด สมุทรปราการ.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://www.samutprakan.go.th/newweb/index. php?option=com_content&view=category&id=14&Itemid=12. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

กลุํมงานข๎อมูลสารสนเทศ และการสื่อสาร สํานักงานจังหวัดสมุทรสาคร.[ม.ป.ป.] “ข๎อมูลทั่วไปจังหวัด สมุทรสาคร.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://www.samutsakhon.go.th/ modular/ basicinfo.html. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

กัมปนาท ขันตระกูล.(2552). “สมุทรสงคราม/สงัด ใจพรหม คนดีเมืองสมุทรสงคราม 1.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึง ได๎จาก: http://77.nationchannel.com/video/61665/. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

ไทยแพคเกจทัวร๑.[ม.ป.ป.] “ตลาดบางหลวง รศ.122 (บ๎านเกําเหลําเต๏งไม๎) อ.บางเลน นครปฐม.” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://www.thaipackagetour.com/ตลาดบางหลวง –รศ-122 (บ๎านเกําเหลําเต๏งไม๎) –อ-บางเลน ,771.html. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.[ม.ป.ป.] “กล๎วยไม๎” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://th.wikipedia.org/wiki/ กล๎วยไม๎. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.[ม.ป.ป.] “ฉัตร” [ออนไลน๑]. เข๎าถึงได๎จาก: http://th.wikipedia.org/wiki/ฉัตร. (สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

กระปุกดอทคอม.[ม.ป.ป.] “ลํองเรือชมธรรมชาติ ปุาชายเลนคลองโคน.”[ ออนไลน๑].เข๎าถึงได๎จาก: http://travel.kapook.com/view26897.html.(สืบค๎น 30 พฤษภาคม 2556).

50

Page 54: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

คณะผู้จัดท าหนังสือ แผ่นบันทึกข้อมูล CD พร้อม DVD

กรรมการที่ปรึกษา นายกิตต ิทองทาบ รองอธิการบดีสถาบนัการพลศกึษา ประจาํวิทยาเขตสมุทรสาคร นายสมพงค๑ ตั้งพงษ๑ ผู๎ชํวยอธิการบดฝีุายบริหาร นายปฏินันท๑ สืบสันต ิ ผู๎ชํวยอธิการบดฝีุายวชิาการ นายมาโนช เอ่ียมประเสริฐ ผู๎ชํวยอธิการบดฝีุายกิจการนักศึกษา นายสมบูรณ๑ ชิวปรีชา ผู๎ชํวยอธิการบดฝีุายกิจการพิเศษ นายจตุพร ยืนยง ผู๎ชํวยอธิการบดฝีุายวิจัยและประกนัคุณภาพการศึกษา นางสาวยุพาภรณ๑ สิงห๑ลําพอง รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร๑การกีฬาและสุขภาพ พออ.หญิงจินตนา หัตถา รองคณบดีคณะศิลปศาสตร๑ นายชลัช ภิรมย๑ รองคณบดีคณะศึกษาศาสตร๑ ผศ.ตรีวิทย๑ องค๑ปรีชา หัวหน๎าศูนย๑กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ผศ.รัตนา เพ็ญประยูร หัวหน๎าสํานักงานรองอธิการบดีฯ

กรรมการด าเนินงาน นายสมบูรณ๑ ชิวปรีชา นางสาวชุติมาพร ภักด ีนายสมพงค๑ ตั้งพงษ๑ นายจตุพร ยืนยง นางสาวยุพาภรณ๑ สิงห๑ลําพอง นายวิทยา ปัทมะรางกูล นายปฏินันท๑ สืบสันต ิ นายเอกชัย ถนัดเดินขําว ผศ.รัตนา เพ็ญประยูร นายปรัชญา สภาพงค๑ นางเพ็ญพรรณ วิโรจน๑ นายจักรกฤช บุญมาศิริ นายบุญศรี ศิริมา นางวลีพรรณ สวํางอรุณ นายอาคม บํารุงโลก นายไวพจน๑ จันทร๑เสม นางปาริชาต ิเผือกเล็ก

ผู้สนับสนุนงบประมาณ กองกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษ สถาบันการพลศึกษา กรรมการผู้จัดท า

ฝุายกิจการพิเศษ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร คณะศิลปศาสตร๑ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร คณะศึกษาศาสตร๑ สถาบนัการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร คณะวิทยาศาสตร๑การกีฬาและสุขภาพ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร

สํานักงานรองอธกิารบด ีสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร

ผู้จดัพิมพ ์ นายพฒัน๑พงษ๑ โลหะพิบูลย๑ นายพงษ๑เพชร โลหะพิบูลย๑ นายชนทัต มงคลศิลป์ นางสาวชุติมณฑน๑ เปลี่ยนสมยั

Page 55: เอกลักษณ์ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น 56

สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร