การประมวลผลซํ� า ในการเขียนโปรแกรม จะมีการประมวลผลซํ� า

โปรแกรมทาํงานตาม Statement หรือการประมวลผล

เขียน Statement นั�น ซํ� าไปซํ� ามาในโคด้

การทาํงานจะทาํงานตาม Statement

จริง โปรแกรมจะวนกลบัไปทาํงานตาม

โดยใช ้For

- ใหแ้สดงชื�อซํ� า เริ�ม 1 - 10

ผลที�ไดคื้อ

ทาํเป็นกรอบ โดยใชค้าํสั�ง For

การทาํซํ� า For

ในการเขียนโปรแกรม จะมีการประมวลผลซํ� า (Loop หรือ

หรือการประมวลผล ที�กาํหนดไว ้ซํ� ามากกวา่ 1 ครั� ง โดยไม่จาํเป็นที�จะตอ้ง

นั�น ซํ� าไปซํ� ามาในโคด้ Statement ไปจนหมด แลว้ ถา้หาก เงื�อนไขที�กาํหนดไวใ้หท้าํซํ� า ยงัเป็น

จริง โปรแกรมจะวนกลบัไปทาํงานตาม Statement อีกรอบ จนกวา่ เงื�อนไขที�กาํหนดไวจ้ะเป็นเท็จ

10

หรือ Iterate) เพื�อให ้

ครั� ง โดยไม่จาํเป็นที�จะตอ้ง

ไปจนหมด แลว้ ถา้หาก เงื�อนไขที�กาํหนดไวใ้หท้าํซํ� า ยงัเป็น

อีกรอบ จนกวา่ เงื�อนไขที�กาํหนดไวจ้ะเป็นเท็จ

ผลที�ไดคื้อ

การใช ้While คือ มีการตรวจสอบเงื�อนไขก่อน หากเงื�อนไขเป็นจริง โปรแกรมจะเริ�มทาํตาม

Statement ที�กาํหนดไว ้ แลว้กลบัไปเริ�มตน้ใหม่ จนกวา่เงื�อนไขจะเป็นไม่เป็นจริง ถึงจะหยดุการทาํงาน

แลว้ออกไปจาก Loop

ผลที�ไดคื้อ แสดงผลออกมาในรูปแบบแนวนอน

มีการตรวจสอบเงื�อนไขก่อน หากเงื�อนไขเป็นจริง โปรแกรมจะเริ�มทาํตาม

ที�กาํหนดไว ้ แลว้กลบัไปเริ�มตน้ใหม่ จนกวา่เงื�อนไขจะเป็นไม่เป็นจริง ถึงจะหยดุการทาํงาน

แสดงผลออกมาในรูปแบบแนวนอน

มีการตรวจสอบเงื�อนไขก่อน หากเงื�อนไขเป็นจริง โปรแกรมจะเริ�มทาํตาม

ที�กาํหนดไว ้ แลว้กลบัไปเริ�มตน้ใหม่ จนกวา่เงื�อนไขจะเป็นไม่เป็นจริง ถึงจะหยดุการทาํงาน

ปรับใหเ้ป็นแนวตั�ง

ผลที�ไดคื้อ แสดงผลออกมาในรูปแนวตั�ง

ทาํสูตรคูณ โดยใช ้For

ที�ไดคื้อ แสดงผลออกมาในรูปแนวตั�ง

ผลที�ได้คือ

การใช ้Swtich case

การใชง้าน break ในประโยคคาํสั�งทาํซํ� า

คาํสั�งทาํซํ� าทนัที

จะใช ้break เพื�อให้โปรแกรมกระโดดขา้มไปทาํงานในส่วนที�เหลือทนัที

ในประโยคคาํสั�งทาํซํ� า while, do while, for หรือ switch จะทาํใหอ้อกจากประโยค

เพื�อให้โปรแกรมกระโดดขา้มไปทาํงานในส่วนที�เหลือทนัที

จะทาํใหอ้อกจากประโยค

ผลที�ไดคื้อ

การใช ้ Do while จะแตกต่างจาก

ระบุไวเ้ลย โดยไม่มีการเช็ค Condition

จริง จะทาํการทาํซํ� า แต่หากเงื�อนไขเป็นเทจ็จะจบการทาํงานแลว้ออกจาก

จะแตกต่างจาก while Statement โดยที� โปรแกรมจะเริ�มทาํงานตาม

Condition ก่อน จากนั�นเมื�อทาํงานเสร็จแลว้ถึงจะเช็คเงื�อนไข หากเงื�อนไขเป็น

จริง จะทาํการทาํซํ� า แต่หากเงื�อนไขเป็นเทจ็จะจบการทาํงานแลว้ออกจาก Loop

โดยที� โปรแกรมจะเริ�มทาํงานตาม Statement ที�

ก่อน จากนั�นเมื�อทาํงานเสร็จแลว้ถึงจะเช็คเงื�อนไข หากเงื�อนไขเป็น

ผลที�ไดคื้อ