ความหมายข้�อมลและสารสนเทศ

             ข้�อมล (Data) 

                    หมายถึ�ง ข้อเท็�จจริ�งหริ�อเริ��องริาวท็��เกี่��ยวข้องกี่�บบ�คคล  ว�ตถึ�หริ�อสถึานท็�� ซึ่��งข้อม!ลอาจจะได้มาจากี่กี่าริส�งเกี่ต  กี่าริเกี่�บริวบริวม  กี่าริว�ด้   ข้อม!ลเป็&นได้ท็�'ง  ข้อความ ต�วเลข้  ท็��ส(าค�ญจะตองม�ความเป็&นจริ�งและต+อเน��อง  เช่+น คะแนนสอบ ช่��อน�กี่เริ�ยน เพศ เป็&นตน

            สารสนเทศ (Information) 

                    หมายถึ�ง  ผลล�พธ์1ข้องข้อม!ลท็��ผ+านกี่าริป็ริะมวลผลซึ่��งสามาริถึน(าไป็ใช่ป็ริะโยช่น1ได้ต+อไป็  ต�วอย+างเช่+น   กี่าริน(าคะแนนสอบมาต�ด้เกี่ริด้   เกี่ริด้ท็��ได้ค�อสาริสนเท็ศ  ซึ่��งสามาริถึน(าไป็ช่+วยในกี่าริต�ด้ส�นบางอย+างได้ เป็&นตน  สาริสนเท็ศท็��ด้�จะตองเกี่�ด้จากี่ข้อม!ลท็��ด้�เช่+นกี่�น

 

2.ค�ณสมบั�ติ�ท��ดี�ข้องข้�อมลท��ดี�

             ข้อม!ลท็��ด้�จะตองม�ค�ณสมบ�ต�ข้� 'นพ�'นฐาน ด้�งน�'

                   1.ความถูกติ�อง  เพริาะข้อม!ลท็��ได้ตองน(าไป็ใช่ในกี่าริต�ด้ส�นใจ  หากี่ข้อม!ลไม+ม�ความถึ!กี่ตองแลวกี่�จะกี่+อใหเกี่�ด้ผลเส�ยหายตามมา

                   2.ความรวดีเร!วและเป็#นป็$จจ�บั�น กี่าริได้มาข้องข้อม!ลจ(าเป็&นตองใหท็�นต+อความตองกี่าริข้องผ!ใช่  ท็�นสม�ย และท็�นต+อเหต�กี่าริณ1ป็6จจ�บ�น  อ�กี่ท็�'งตองตอบสนองความตองกี่าริข้องผ!ใช่ได้ริวด้เริ�วท็��ส�ด้

                   3.ความสมบัรณ&ชั�ดีเจน   ข้อม!ลท็��ม�ความสมบ!ริณ1ค�อข้อม!ลท็��สามาริถึตอบสนองความตองกี่าริข้องผ!ใช่  ซึ่��งจะข้�'นกี่�บว�ธ์�กี่าริริวบริวมข้อม!ลและว�ธ์�กี่าริป็ริะมวลผล  ด้�งน�'นในกี่าริด้(าเน�นกี่าริริวบริวมข้อม!ลตองส(าริวจและสอบถึามความตองกี่าริในกี่าริใช่ข้อม!ลเพ��อใหได้ข้อม!ลท็��ม�ความสมบ!ริณ1

                   4.ความกระชั�บัและชั�ดีเจน   กี่าริจ�ด้เกี่�บข้อม!ลจ(านวนมากี่จะตองใช่พ�'นท็��มากี่จ�งจ(าเป็&นตองออกี่แบบโคริงสริางข้อม!ลใหกี่ริะช่�บและส��อความหมายได้  อาจม�กี่าริใช่ริห�สแท็นข้อม!ลใหเหมาะสมเพ��อจ�ด้เกี่�บไวอย+างเป็&นริะบบ

                   5.ความสอดีคล�อง   ความตองกี่าริเป็&นเริ��องท็��ส(าค�ญ ด้�งน�'นจ�งตองม�กี่าริส(าริวจเพ��อหาความตองกี่าริข้องหน+วยงานและองค1กี่ริ  ด้!สภาพกี่าริใช่ข้อม!ล  และข้อบเข้ตข้องข้อม!ล  และข้อบเข้ตข้องข้อม!ลท็��สอด้คลองกี่�บความตองกี่าริ

 3.การป็ระมวลผลข้�อมลไป็ส+สารสนเทศ

             สามาริถึท็��จะแบ+งออกี่เป็&นข้�'นตอนได้ด้�งต+อไป็น�'

              3.1 การรวบัรวมข้�อมล        

                ในข้�'นตอนน�'หมายถึ�งกี่าริริวบริวมข้อม!ลต�'งแต+เบ�'องตน  แลวน(าข้อม!ลท็��ได้มาจ�ด้เกี่�บอย+างเป็&นริะบบ  ซึ่��งในข้�'นตอนน�'จะตองม�ความริะม�ด้ริะว�งอย+างมากี่เพ��อใหได้ข้อม!ลตริงกี่�บค�ณสมบ�ต�ข้องข้อม!ลท็��ด้�น�'นเอง   แต+ในป็6จจ�บ�นเท็คโนโลย�ม�ความเจริ�ญกี่าวหนามากี่ท็(าใหกี่าริเกี่�บริวบริวมข้อม!ลม�ความสะด้วกี่ริวด้เริ�วง+ายข้�'น  เช่+น กี่าริริวบริวมข้อม!ลข้องพน�กี่งานในบริ�ษั�ท็  ในป็6จจ�บ�นกี่�จะม�เท็คโนโลย�ในกี่าริสแกี่นลายน�'วม�อ  ริ!ป็ริ+างหนาตา เข้าเกี่�บย�งฐานข้อม!ล  ท็(าใหกี่าริเกี่�บข้อม!ลข้องพน�กี่งานสะด้วกี่ข้�'นมากี่  เพริาะถึาหากี่ใช่พน�กี่งานป็9อนลงคอมพ�วเตอริ1เหม�อนแต+กี่+อนกี่�อาจเกี่�ด้ข้อผ�ด้พลาด้ข้�'นได้  เป็&นตน ในข้�'นน�'กี่าริเกี่�บริวบริวมข้อม!ลจะตองจ�ด้เกี่�บอย+างม�ริะบบโด้ยท็��อาจจะแบ+งกี่ล�+มหริ�อจ�ด้เริ�ยงตามว�ธ์�ท็��เหมาะสมและสะด้วกี่ในกี่าริเริ�ยกี่ใช่

             

3.2 การป็ระมวลผล แบั+งไดี� 3 ป็ระเภท ไดี�แก+

                   3.2.1 กี่าริป็ริะมวลผลด้วยม�อ

                            ว�ธ์�น�'เหมาะกี่�บข้อม!ลจ(านวนไม+มากี่และไม+ซึ่�บซึ่อน  และเป็&นว�ธ์�ท็��ใช่มาแต+อด้�ต อ�ป็กี่ริณ1ในกี่าริค(านวณกี่�เช่+น  เคริ��องค�ด้เลข้  ล!กี่ค�ด้  กี่ริะด้าษั  เม��อค(านวณเริ�ยบริอยแลวกี่�อาจจะม�กี่าริจ�ด้เกี่�บโด้ยเริ�ยงเข้าแฟ้9มเอกี่สาริ

                   3.2.2 กี่าริป็ริะมวลผลด้วยเคริ��องจ�กี่ริ

                             ว�ธ์�น�'เหมาะกี่�บข้อม!ลจ(านวนป็านกี่ลาง  และไม+จ(าเป็&นตองใช่ผลจากี่กี่าริค(านวณในท็�นท็�ท็�นใด้  เพริาะตองใช่เคริ��องจ�กี่ริ และแริงงานคน

                   3.2.3 กี่าริป็ริะมวลผลด้วยคอมพ�วเตอริ1

                             ว�ธ์�น�'เหมาะกี่�บงานท็��ม�จ(านวนมากี่  ไม+สามาริถึใช่แริงงานคนได้และงานม�กี่าริค(านวณท็��ย�+งยากี่ซึ่�บซึ่อน  เพริาะกี่าริค(านวณด้วยเคริ��องคอมพ�วเตอริ1จะใหผลล�พธ์1ท็��ถึ!กี่ตอง  ริวด้เริ�ว ท็��ส(าค�ญเหมาะกี่�บงานท็��ม�ข้� 'นตอนท็��ซึ่('าๆหริ�อเหม�อนเด้�ม

           

3.3 การดีแลร�กษา

                   ในข้�'นตอนน�'อาจป็ริะกี่อบด้วยกี่�จกี่ริริมต+อไป็น�'

(1) การเก!บัร�กษาข้�อมล ข้อม!ล หมายถึ�ง  กี่าริน(าข้อม!ลมาบ�นท็�กี่เกี่�บไวในส��อต+างๆ  เช่+น แผ+นบ�นท็�กี่ข้อม!ล  นอกี่จากี่น�'ย�งริวมถึ�งกี่าริด้!แล  และกี่าริท็(าส(าเนาข้อม!ลเพ��อใหใช่งานต+อไป็ในอนาคตได้

(2) การท.าส.าเนาข้�อมล  กี่าริท็(าส(าเนาเพ��อเกี่�บริ�กี่ษัาข้อม!ล  หริ�อน(าไป็แจกี่จ+าย  จ�งควริค(าน�งถึ�งความจ�และความท็นท็านข้องส��อบ�นท็�กี่ข้อม!ล

(3) การส/�อสารและการเผยแพร+ข้�อมล   ข้อม!ลจะตองกี่ริะจายหริ�อส+งต+อไป็ย�งผ!ใช่ท็��ห+างไกี่ลได้ง+าย  กี่าริส��อสาริข้อม!ลจ�งเป็&นเริ��องส(าค�ญย��งท็��จะท็(า ใหกี่าริส+งข้+าวสาริไป็ย�งผ!ใช่ได้ริวด้เริ�วและท็�นเวลา

(4) การป็ร�บัป็ร�งข้�อมล  ข้อม!ลท็��จ�ด้เกี่�บไวม�จ�ด้ป็ริะสงค1เพ��อใช่งาน   เช่+น  ในกี่าริต�ด้ส�นใจในกี่าริด้(าเน�นกี่าริ   ด้�งน�'นข้อม!ลจ�งตองม�กี่าริป็ริ�บป็ริ�งใหท็�นสม�ยตลอด้เวลา  และจ�ด้เกี่�บอย+างเป็&นริะบบเพ��อคนหาได้อย+างริวด้เริ�ว

 

4.ชัน�ดีข้องข้�อมล

4.1 ข้�อมลท��เป็#นติ�วเลข้  ( Numeric)

                         ได้แกี่+ ต�วเลข้ต+างๆ และสามาริถึน(าไป็ค(านวณได้  ข้อม!ลช่น�ด้น�'อาจเข้�ยนได้หลายริ!ป็แบบ  ซึ่��งอาจเป็&น

                          จ(านวนเต�ม  เช่+น 9,17,22,23 เป็&นตน

                           ท็ศน�ยม      เช่+น 2.94, 3.14, 0.36  เป็&นตน

4.2 ข้�อมลท��เป็#นติ�วอ�กษร (Character)

                           ได้แกี่+ต�วอ�กี่ข้ริะและต�วอ�กี่ษัริต+างๆ ซึ่��งไม+สามาริถึน(าไป็ค(านวณไ ด้   แ ต+ อ า จ น(า ไ ป็ จ� ด้ เ ริ� ย ง ไ ด้   เ ช่+ น TECHNOLOGY, 182/3 (บ า น เ ล ข้ท็��),15110(ริห�สไป็ริษัณ�ย1) เป็&นตน

5.รห�สแทนข้�อมล

                 1. รห�สแอสก� (ASCII)

                      เป็&นริห�สท็��ใช่กี่�นอย+างแพริ+หลาย  ริห�สแอสกี่�เป็&นริห�สมาตริฐานท็��ได้จากี่หน+วยงานกี่(าหนด้มาตริฐานข้องสหริ�ฐอเมริ�กี่า

(ASCII  ย+ อ ม า จ า กี่ American  Standard  Code for  Information

Interchange)  เป็&นริห�ส  8 บ�ต หริ�อ 1 ไบต1 ต+อหน��งอ�กี่ข้ริะและแท็นส�ญล�กี่ษัณ1ต+างๆได้ 256 ต�ว

                       ริห�สแอสกี่�จะกี่(าหนด้ไวเป็&นเลข้ฐานส�บเม��อจะน(าไป็ส!+หน+วยความจ(าคอมพ�วเตอริ1จ�งจะแป็ลงเป็&นเลข้ฐานสอง  ส(าหริ�บผ!ใช่งานสามาริถึท็��จะเข้�ยนในริ!ป็ฐานส�บหกี่ได้ด้วย

                

2.รห�สแอบัซี�ดี�ก (EBCDIC)

                         พ�ฒนาโด้ยบริ�ษั�ท็ไอบ�เอ�ม  ริห�สแท็นข้อม!ลน�'ไม+เป็&นท็��น�ยมใช่แลวในป็6จจ�บ�น กี่าริกี่(าหนด้ริห�สจะใช่ 8 บ�ต ต+อหน��งอ�กี่ข้ริะ  เหม�อนกี่�บริห�สแอสกี่� แต+แบบข้องริห�สท็��กี่(าหนด้จะแตกี่ต+างกี่�น

                  

3.รห�สยน�โค�ดี (Unicode)

            เป็&นริห�สท็��สริางข้�'นมาในริะยะหล�งท็��ม�กี่าริสริางแบบต�วอ�กี่ษัริข้องภาษัาต+างๆ ริห�สย!น�โคด้เป็&นริห�สท็��ต+างจากี่  2 ช่น�ด้ท็��ได้กี่ล+าวมา ค�อใช่เลข้ฐานสอง 16 บ�ตในกี่าริแท็นอ�กี่ษัริ  เน��องจากี่ท็��มาข้องกี่าริค�ด้คนริห�สช่น�ด้น�' ค�อ เม��อม�กี่าริใช่งานคอมพ�วเตอริ1ในหลายป็ริะเท็ศและม�กี่าริใช่แบบต�วอ�กี่ษัริ  ข้องภาษัาต+างๆ ท็��วโลกี่ ในบางภาษัา เช่+น ภาษัาจ�น และภาษัาญ��ป็�=น  เป็&นภาษัาท็��เริ�ยกี่ว+าภาษัาริ!ป็ภาพซึ่��งม�ต�วอ�กี่ษัริเป็&นหม��นต�ว  หากี่ใช่ริห�สเป็&นเลข้ฐานสอง 8 บ�ต เริาสมาริถึแท็นต�วอ�กี่ษัริได้เพ�ยง 256 ริ!ป็แบบเท็+าน�'น ซึ่��งไม+สามาริถึแท็นอ�กี่ษัริได้คริบ จ�งสริางริห�สใหม+ข้�'นมาแท็นต�วอ�กี่ข้ริะได้ถึ�ง 65,536 ต�ว ซึ่�งมากี่พอและสามาริถึแท็นส�ญล�กี่ษัณ1กี่าริฟ้>กี่และส�ญล�กี่ษัณ1ท็างคณ�ตศาสตริ1ได้อ�กี่ด้วย