3
การดูแลสุขภาพขา จากสารพันเชื้อโรคจิ๋วในหนาฝนรศ.พญ.ดาราวรรณ วนะชิวนาวิน ภาควิชาปรสิตวิทยา รศ.ดร.นพ.ภัทรชัย กีรติสิน ภาควิชาจุลชีววิทยา Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล ในชวงหนาฝนมักทําใหพื้นดินเปยกและชื้นแฉะ บางครั้งอาจเกิดน้ําทวมขัง โอกาสที่เทาและขาจะติดเชื้อโรคหรือไดรับปรสิตบางชนิดยอมสูงขึ้นตามไปดวย เรามาดู กันคะวาในพื้นดินและแหลงน้ําที่เหมือนวาจะไมมีอะไรนากลัว แตที่จริงแลวมีวายรายตัว จิ๋วปะปนอยูไปทั่ว แตจะเปนอะไรบางนั้นไปดูกันเลยคะ ปรสิตไมพึงประสงค - พยาธิปากขอ(Hookworm)มักจะพบในดินที่ชื้นแฉะ ระยะตัวออนที่ไชเขาผิวหนังจะเขา กระแสเลือดสูหัวใจ ปอด ผานหลอดลมมายังหลอดอาหาร แลวไปเจริญเติบโตเปนระยะตัวเต็มวัย ที่ลําไสเล็ก ผิวหนังบริเวณที่พยาธิตัวออนไชเขาไปจะเกิดเปนตุมแดงและคัน ระยะตัวเต็มวัยจะใช สวนปากเกาะผนังลําไสและดูดเลือดเปนอาหาร ทําใหเกิดโลหิตจาง ผูที่มีภาวะซีดเรื้อรังอาจทําให เกิดภาวะหัวใจลมเหลวได ในกรณีที ่ระยะตัวออนของพยาธิปากขอของ สุนัขหรือ แมวไชเขา ผิวหนังของคน พยาธิจะเคลื่อนที่ในผิวหนังชั้นหนังกําพราเทานั้น ทําใหเกิดรอยโรคนูนแดงเปนทาง คดเคี้ยว - พยาธิสตรองจีลอยด (Strongyloides stercoralis)มักพบในดินที่ชื้นแฉะ พยาธิระยะตัว ออนที่เขาสูรางกายทางผิวหนัง จะเคลื่อนที่ไปในรางกายทํานองเดียวกับระยะตัวออนพยาธิปากขอ ผิวหนังบริเวณที่พยาธิตัวออนไชเขาไป จะเกิดเปนตุมแดงคัน และเกิดรอยโรคนูนแดงเปนทางคด เคี้ยว พยาธิระยะตัวเต็มวัยที่ลําไสเล็ก จะทําใหเกิดอาการทองเสีย ในผูที่มีภูมิคุมกันบกพรองจะ เกิดโรคอุจจาระรวงเรื้อรังและเกิดภาวะขาดสารอาหาร และซ้ํารายหากพยาธิชนิดนี ้เดินทางไป อวัยวะตางๆ ของรางกาย อาจทําใหติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได - พยาธิใบไมเลือด(Schistosoma)พบในแหลงน้ําที่มีหอยน้ําจืด เมื่อคนเดินหรือแชขาใน แหลงน้ํา พยาธิระยะเซอรคาเรียจากหอยจะไชเขาผิวหนัง ทําใหเกิดตุมแดงและคันที่ผิวหนัง พยาธิ ระยะตัวเต็มวัยจะอาศัยในเสนเลือดดําที่ชองทอง ทําใหมีไข ปวดทอง อุจจาระเปนมูกเลือด ตับ

826_1

Embed Size (px)

DESCRIPTION

jhjkl

Citation preview

Page 1: 826_1

การดูแลสุขภาพขา จากสารพัน”เชื้อโรคจิ๋วในหนาฝน”

รศ.พญ.ดาราวรรณ วนะชิวนาวิน ภาควิชาปรสติวิทยา

รศ.ดร.นพ.ภทัรชัย กีรติสนิ ภาควิชาจุลชวีวิทยา

Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล

ในชวงหนาฝนมักทําใหพืน้ดินเปยกและชื้นแฉะ บางครั้งอาจเกดิน้ําทวมขัง โอกาสที่เทาและขาจะติดเชื้อโรคหรือไดรับปรสิตบางชนิดยอมสูงขึน้ตามไปดวย เรามาดูกันคะวาในพืน้ดินและแหลงน้ําที่เหมือนวาจะไมมีอะไรนากลวั แตที่จริงแลวมวีายรายตวัจิ๋วปะปนอยูไปทั่ว แตจะเปนอะไรบางนั้นไปดูกันเลยคะ

“ปรสิต” ไมพึงประสงค - พยาธิปากขอ(Hookworm)มักจะพบในดนิที่ชืน้แฉะ ระยะตัวออนที่ไชเขาผิวหนงัจะเขา

กระแสเลือดสูหัวใจ ปอด ผานหลอดลมมายังหลอดอาหาร แลวไปเจริญเติบโตเปนระยะตัวเต็มวัย

ที่ลําไสเล็ก ผิวหนงับริเวณทีพ่ยาธิตัวออนไชเขาไปจะเกิดเปนตุมแดงและคัน ระยะตัวเต็มวัยจะใช

สวนปากเกาะผนังลาํไสและดูดเลือดเปนอาหาร ทาํใหเกดิโลหิตจาง ผูที่มีภาวะซีดเรือ้รังอาจทาํให

เกิดภาวะหัวใจลมเหลวได ในกรณีที่ระยะตัวออนของพยาธิปากขอของ “สุนัข” หรือ “แมว” ไชเขา

ผิวหนังของคน พยาธิจะเคลื่อนที่ในผิวหนังชัน้หนงักาํพราเทานั้น ทําใหเกิดรอยโรคนูนแดงเปนทาง

คดเคี้ยว

- พยาธิสตรองจีลอยด(Strongyloides stercoralis)มักพบในดนิที่ชืน้แฉะ พยาธิระยะตัว

ออนที่เขาสูรางกายทางผวิหนัง จะเคลื่อนที่ไปในรางกายทํานองเดียวกับระยะตัวออนพยาธิปากขอ

ผิวหนังบริเวณที่พยาธิตวัออนไชเขาไป จะเกิดเปนตุมแดงคัน และเกิดรอยโรคนูนแดงเปนทางคด

เคี้ยว พยาธิระยะตัวเต็มวัยทีลํ่าไสเล็ก จะทาํใหเกิดอาการทองเสีย ในผูที่มีภูมิคุมกนับกพรองจะ

เกิดโรคอุจจาระรวงเรื้อรังและเกิดภาวะขาดสารอาหาร และซ้ํารายหากพยาธิชนิดนี้เดินทางไป

อวัยวะตางๆ ของรางกาย อาจทาํใหติดเชือ้แบคทีเรียในกระแสเลือดจนเสียชวีิตได

- พยาธิใบไมเลือด(Schistosoma)พบในแหลงน้ําที่มีหอยน้ําจืด เมื่อคนเดินหรือแชขาใน

แหลงน้ํา พยาธิระยะเซอรคาเรียจากหอยจะไชเขาผิวหนงั ทําใหเกิดตุมแดงและคันที่ผิวหนงั พยาธิ

ระยะตัวเต็มวยัจะอาศัยในเสนเลือดดําทีช่องทอง ทําใหมีไข ปวดทอง อุจจาระเปนมกูเลือด ตับ

Page 2: 826_1

มามโต ตับแข็ง ทองมาน และเสียชีวิตได พยาธิใบไมเลือดบางชนิดทาํใหเกิดโรคกระเพาะปสสาวะ

อักเสบและถายปสสาวะเปนเลือด

- พยาธิหอยคัน(Schistosoma spindale)เปนพยาธิใบไมเลือดของสัตวจําพวกโค

กระบือ เมื่อคนเดินในแหลงน้ําที่มหีอยคัน พยาธิระยะเซอรคาเรียจากหอยจะไชเขาผิวหนังที่ชัน้

หนงักาํพรา ทําใหเกิดตุมแดงและคันที่ผิวหนงั แตไมเขาสูกระแสเลือด เนื่องจากคนไมใชโฮสตปกติ

ของพยาธิชนดินี้

- Acanthamoeba เปนโปรโตซัวจําพวกอะมีบาที่อาศัยเปนอิสระตามดิน โคลน เลน และ

แหลงน้ําตาง ๆ เขาสูรางกายทางแผลที่ผิวหนัง ทาํใหเกดิแผลเรื้อรัง ลักษณะแผลนนูขอบแผลไม

เรียบ โรคผิวหนังจาก Acanthamoeba มักจะพบในผูที่มภูีมิคุมกันบกพรอง

การเดินดวยเทาเปลาในดนิที่ชื้นแฉะ การเดินหรือแชเทาในแหลงน้ําโดยเฉพาะแหลงน้ําขัง

หรือแหลงที่มหีอยที่เปนโฮสตกลางของพยาธ ิอาจเกิดโรคหรืออันตรายที่เราคาดไมถงึ การใส

รองเทาที่ปกปดเทาหรือรองเทาบูตจะชวยปองกนัการตดิเชื้อโรคหรือพยาธิได หากไมสามารถ

หลีกเลี่ยงการสัมผัสดินที่ชืน้แฉะหรือแหลงน้ําได ควรใชสบูทําความสะอาดผิวหนังแลวลางดวยน้ํา

สะอาด

“เชื้อโรคราย” ในน้ําขัง ในเขตรอนชื้นอยางบานเรา เชื้อโรคที่กอโรคมักแฝงตัวอยูในน้าํทวมขงั มีอยูมากมาย ทีพ่บ

มาก 2 อันดับแรก คือ

- โรคฉี่หน ูเรียกในทางการแพทยวา “โรคเลปโตสไปโรซิส(Leptospirosis) เกิดจากเชื้อ

แบคทีเรียที่มีรูปรางเปนเสนเกลียว ที่มีชื่อวา”เลปโตสไปรา”(Leptospira)ที่เรียกวาโรคฉี่หนนูั้นเปน

เพราะมหีนูเปนพาหะนาํโรค แตยังมีสัตวอ่ืนอีกหลายชนดิที่สามารถเปนพาหะนาํโรคได เชน โค

กระบือ สุกร และสุนัข

สัตวที่เปนพาหะของแบคทเีรียชนิดนี้อาจไมแสดงอาการเจบ็ปวย แตเชื้อมักรวมกลุมใน

บริเวณทอไต และถูกขับออกมาทางปสสาวะ ดังนั้นในบริเวณที่มนี้ําขัง ซึ่งอาจมกีารปนเปอน

ปสสาวะของสตัว เชน ไรนา แองดินโคลน บอน้ํา แมน้าํ น้ําตก และทอระบายน้ํา รวมถึงแองน้ํา

ตามทองถนนที่เออลนขึน้มาจากทอน้ํา เมื่อเกิดฝนตกหนกัและน้าํทวม ระยะฟกตวัของโรค ตั้งแต

ไมเกิน 1 สัปดาหจนถงึ 4 สัปดาห

ผูติดเชื้อบางสวน อาจไมแสดงอาการ แตบางรายจะมีไขสูง ปวดศีรษะ ปวดกลามเนื้อตาม

ตัว และคลื่นไสอาเจียน รายที่มีอาการรุนแรงอาจเกิดเยื่อหุมสมองอักเสบ รวมกับมีความผิดปกติ

ของตับและไต จนถึงเสยีชีวติได ดังนั้น จึงควรหลีกเลีย่งการสัมผัสแหลงน้าํขัง หากจําเปนควรใส

Page 3: 826_1

อุปกรณปองกนั เชน รองเทาบูท แตหากมปีระวัติสัมผัสน้ําทวมขงั และเริ่มมีอาการไขข้ึน คร่ันเนื้อ

คร่ันตัว ปวดเมื่อย ควรรีบปรึกษาแพทย โดยเฉพาะในชวงฤดูฝน มีรายงานวามกีารติดเชื้อในหลาย

จังหวัดทกุภูมิภาคของประเทศไทย

- แบคทีเรีย “วิบริโอ”(Vibrio)และ “แอโรโมแนส”(Aeromonas)ซึ่งโดยปกติพบอาศัยอยู

ในแหลงน้ําธรรมชาติทั่วไป แตในฤดูฝน น้าํตามแหลงน้าํอาจไหลเขาทวมพืน้ที่ในชมุชน ซึ่งอาจทาํ

ใหประชาชนมโีอกาสสัมผัสเชื้อโรคดังกลาวมากขึ้น เชื้อจะเขาสูรางกายทางรอยแผลที่ผิวหนงั

กอใหเกิดการติดเชื้อมีลักษณะเปนตุมน้ํา รายที่เปนรุนแรง อาจมีไขสูง หนาวสัน่ ผิวหนงับวมแดง

อักเสบเปนบริเวณกวาง ตุมน้ําปนเลอืดขนาดใหญ ปวดกลามเนื้อขามาจนเดินไมไหว และเสียชวีติ

ไดอยางรวดเรว็ ดังนัน้หากเริม่มีอาการผิดปกติหลังจากสัมผัสแหลงน้าํ ควรรีบมาพบแพทยเพื่อ

ตรวจวินิจฉัย

จะเห็นไดวาเชื้อโรคที่ปนเปอนในแหลงน้ําทวมขังนัน้ สามารถกอโรคที่อันตรายไดถึงชีวิต มีเชือ้โรคมากมายปนเปอนและอาศยัอยูในน้ํา รวมถึงแหลงน้าํตามธรรมชาติตางๆ ทั้งแมน้ําลาํคลอง และแหลงทําเกษตรกรรม ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผสัแหลงน้าํโดยตรง โดยเฉพาะหากมีแผลถลอกที่ผิวหนัง หากไมสามารถหลีกเลี่ยงไดควรสวมอุปกรณปองกัน และรีบปรึกษาแพทยหากมีอาการผิดปกติ